วิชาศิลปะ ม.ต้น

ระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น ศิลปศกึ ษา (ทช21003) 1. “ศิลปะ” หมายถึงอะไร 6. เรานาความงามจากธรรมชาติมาสรา้ งสรรค์ ก. การแสดงออกของความงาม จินตนาการใหอ้ อกมาเป็นความงามทางทศั นศิลป์ ข. การรับรูด้ ้วยประสาทสมั ผัส ได้อย่างไร ค. งานจิตรกรรมและประตมิ ากรรม ง. การแสดงความสามารถแต่ละบคุ คล ก. ประตมิ ากรรมโคมไฟดินเผา ข. การสานปลาตะเพียนใบลาน 2 .งานทศั นศิลปใ์ นดา้ นประติมากรรมสะท้อน ค. การวาดภาพทวิ ทัศน์ ภเู ขา น้าตก อะไรในอดีต ง. การป้ันเคร่ืองปั้นดนิ เผาสมัยทวารวดี ก. ความเป็นอยูใ่ นอดตี 7.สิ่งสุดท้ายในการตกแต่งภายนอกและภายในคอื ข. วถิ ชี ีวติ ของชาวบ้าน ข้อใด ค. ความเจรญิ รุ่งเรอื งในอดีต ง. วัฒนธรรมอันดีงามแต่ละยุคสมยั ก. ลงเส้น ข. รา่ งภาพ 3.เราทาหน้าท่ีสืบสานความเปน็ มาของศลิ ปะไทย ค. ลงน้าหนกั สี เพ่ืออะไร ง. ตกแตง่ รายละเอยี ด ก. เพือ่ ความต้องการของบรรพบรุ ษุ 8.พระพุทธรปู นงั่ ห้อยพระบาทและยกพระหตั ถ์ขึน้ ข. เพื่อสบื ทอดความเป็นเอกลกั ษณ์ไทย สลักดว้ ยหนิ ปูนเปน็ ประตมิ ากรรมแบบใด ค. เพื่อไม่ให้เราลืมมองอดตี และพืน้ หลัง ง. เพอื่ ให้เห็นความสาคัญของผูส้ ร้างศิลปะ ก. แบบลพบุรี ข. แบบอยธุ ยา ไทย ค. แบบศรวี ิชยั ง. แบบทราวดี 4. การเรียนด้วยตนเองมีแนวคิดพืน้ ฐานมาจาก แนวคิดใด 9. งานทัศนศิลป์ควรใหค้ วามสาคัญกบั คุณค่า ดา้ นใดมากท่ีสุด ก. ทฤษฏกี ล่มุ เทวนิยม ข. ทฤษฏีกลมุ่ มนษุ ย์นยิ ม ก. คณุ ค่าทางดา้ นสังคม ค. ทฤษฏกี ลมุ่ อมนุษย์นยิ ม ข. คณุ ค่าทางด้านบุคคล ง. ทฤษฏกี ลุ่มแนวคดิ นิยมมนษุ ย์ ค. คณุ ค่าทางดา้ นเนือ้ หา ง. คณุ ค่าทางดา้ นรปู แบบ 5. ข้ันตอนแรกในการถา่ ยทอดงานเขยี นภาพจาก จรงิ คอื อะไร 10. เครือ่ งดนตรีไทยมตี น้ กาเนดิ มาจากท่ีใด ก. จีน ก. ลงเส้น ข. เขมร ข. รา่ งภาพ ค. พม่า ค. ลงแสง –เงา ง. อนิ เดีย ง. เก็บรายละเอียด

ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้ ศิลปศกึ ษา (ทช21003) 11.เครอื่ งดนตรชี นิดใดท่ีไดร้ ับอทิ ธพิ ลมาจาก 16. วงป่ีพาทยใ์ นปจั จุบันพัฒนาการมาจากเครอื่ ง ประเทศพม่า ดนตรีประเภทใด ก. ตะโพน ก. เครอ่ื งสี เคร่ืองตี ข. เปงิ มาง ข. เครือ่ งดีด เครอื่ งสี ค. กลองยาว ค. เครื่องตี เครอื่ งเปา่ ง. กลองแขก ง. เครือ่ งดีด เครอ่ื งเป่า 12. จะเข้เปน็ เครื่องดนตรปี ระเภทใด 17. วงปพี่ าทย์นางหงส์ ใช้บรรเลงในงานใด ก. เคร่ืองตี ก. งานศพ ข. เครอ่ื งสี ข. งานบวช ค. เครื่องดดี ค. งานทาบุญ ง. เครื่องเป่า ง. งานแตง่ งาน 13. ข้อใด ไม่ใช่ เคร่ืองดนตรีที่ใชป้ ระกอบป่ี 18.ข้อใด ไมใ่ ช่ วธิ สี ืบทอดผลงานทางดนตรที ี่เปน็ พาทยไ์ ม้แขง็ เครื่องห้า ภูมิปญั ญาทางทอ้ งถ่ิน ก. ตะโพน ก. จดั การแสดงทางดนตรี ข. กลองทัด ข. จดั ปา้ ยนิเทศเพอ่ื ให้ความรู้ ค. ระนาดทุ้ม ค. การศึกษาคน้ ควา้ ทาความเขา้ ใจ ง. ฆ้องวงใหญ่ ง. ใหผ้ ลงานทางดนตรีพฒั นาไปตามกระแส 14. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ เคร่ืองดนตรพี ้นื บ้านของ และความเปล่ยี นแปลง ภาคเหนือ 19.วัฒนธรรมทางดนตรีพน้ื บา้ นภาคกลาง ก. ซึง ประกอบดว้ ยเครอ่ื งดนตรีประเภทสแี ละเป่า ซ่ึง ข. แคน ถือเป็นเครอื่ งประโคมด้งั เดิมที่เกา่ แก่ทส่ี ดุ และได้ ค. สะล้อ พฒั นามาเปน็ วงดนตรใี ดในปัจจบุ ัน ง. พิณเพยี ะ ก. วงมโหรี 15. โปงลาง เปน็ วัฒนธรรมพนื้ บ้านแถบใด ข. เคร่อื งสาย ก. ภาคใต้ ค. วงป่พี าทย์ ข. ภาคเหนอื ง. เปิงมางคอก ค. ภาคกลาง ง. ภาคอสี าน 20.ขอ้ ใดคอื ความหมายของคาวา่ “นาฏศิลป”์ ก. ศลิ ปะละครเวที ข. ศลิ ปะการแสดง ค. ศลิ ปะการฟอ้ นรา ง. ศิลปะการรอ้ งเพลง

ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้ ศิลปศกึ ษา (ทช21003) 21.ขอ้ ใดเปน็ กริ ิยาของ “จบี ปรกหนา้ ” 26. ขอ้ ใดเป็นการแสดงพนื้ เมืองของภาคอีสาน ก. จบี มือแลว้ ยกขึน้ ระดับหัวไหลแ่ ละหัก ก. รองเงง็ ขอ้ มอื ข. เซ้ิงกระตบ๊ิ ข. จบี มอื แล้วยกขนึ้ ระดับหน้าผากและหัก ค. ฟอ้ นเทียน ขอ้ มือ ง. รากลองยาว ค. จบี มอื แล้วยกมอื ดา้ นข้างระดบั วงบนและ หักขอ้ มอื 27.ข้อใดเป็นลักษณะของเพลงพนื้ บ้าน ง. จบี มือแล้วยกข้ึนระดบั เอวแล้วหกั ขอ้ มอื ก. มคี วามไพเราะ ไปดา้ นหลัง ข. เรียบง่าย ตลกขบขัน ค. มคี วามงามทางนาฏศิลป์ 22.ทา่ ราไทย มีลกั ษณะเด่นอยา่ งไร ง. มคี ารอ้ งที่ชัดเจนแนน่ อน ก. ออ่ นชอ้ ย ข. สนกุ สนาน 28.นาฏศิลปไ์ ทยประเภทใดท่ีควรอนุรักษ์แบบให้ ค. แข็งกระด้าง คงรูปด่ังเดมิ ไว้ ง. กระฉับกระเฉง ก. ละครรา 23.เพลงงามแสงเดือน ใช้ท่าราใด ข. ราและระบา ก. ราสา่ ย ค. เพลงพน้ื บ้าน ข. แขกเต้าเขา้ รัง ง. โขนกลางแปลง ค. ชักแปง้ ผดั หนา้ ง. สอดสร้อยมาลา 29.วรรณคดีเรือ่ งใดทใ่ี ช้ประกอบการแสดงโขน ก. อเิ หนา 24. ท่าสอดสร้อยมาลาแปลง เปน็ ทา่ ราประกอบ ข. สามกก๊ เพลงใด ค. สงั ขท์ อง ง. รามเกยี รติ์ ก. มาซมิ ารา ข. งามแสงเดือน 30. สมยั ก่อนผู้ที่เก่ียวขอ้ งกบั การแสดงละครมักถกู ค. คนื เดอื นหงาย เรียกวา่ อยา่ งไร ง. ดวงจันทรว์ นั เพ็ญ ก. พวกนางใน 25.การละเล่นราเถดิ เทิง หรือการรากลองยาว ข. พวกโขนหลวง นยิ มเล่นกันมากในภาคใดของประเทศไทย ค. พวงเตน้ กนิ รากิน ง. พวกนางขา้ หลวง ก. ภาคใต้ ข. ภาคกลาง ค. ภาคเหนอื ง. ภาคตะวนั ออก

ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น ศลิ ปศกึ ษา (ทช21003)