Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 中国文化与中国节日

中国文化与中国节日

Published by 111.pangpjl, 2019-09-17 03:31:41

Description: 解释中国文化与中国节日。

Keywords: 文化,节日

Search

Read the Text Version

วชิ า ประเพณแี ละเทศกาลจนี 《中国文化与中国节日》 ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4

วิชา ประเพณแี ละเทศกาลจีน 《中国文化与中国节日》 ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 ชอ่ื -นามสกลุ ...................................................... ชัน้ ............................. เลขท่ี ............................ PJL SCHOOL จดั ทาโดย นางสาวจตุ ิพร หลกั คาพนั ธ์ (ครภู าษาจีน)

คานา เอกสารประกอบการสอนวิชา ประเพณีและเทศกาลจีน《中国文化与 中国节日》จัดทาขึ้นสาหรับนักเรียนในระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยมี จุดประสงค์เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับประเพณีและเทศกาลจีน ใน เอกสารจะมีเนื้อหาเกีย่ วกบั ประเพณี พิธี และเทศกาลตา่ ง ๆ ของประเทศจีน นางสาวจตุ ิพร หลกั คาพันธ์ (ครูภาษาจีน)

สารบญั เร่ือง หนา้ คานา ก สารบัญ ข สารบญั ภาพ ค บทท่ี 1 ประเพณีจีน 1 4 พิธแี ต่งงาน 7 พิธีไหวเ้ จ้า กิจกรรมบทท่ี 1 8 บทที่ 2 เทศกาลจีน (ชว่ งที่ 1) 10 11 เทศกาลตรุษจนี 12 เทศกาลหยวนเซียว หรือเทศกาลโคมไฟ 13 เทศกาลเชง็ เมง้ เทศกาลบะจา่ ง 14 กิจกรรมบทท่ี 2 15 บทท่ี 3 เทศกาลจนี (ช่วงที่ 2) 17 18 เทศกาลสารทจีน เทศกาลวนั ไหว้พระจันทร์ เทศกาลกนิ เจ กจิ กรรมบทที่ 3

สารบญั ภาพ หนา้ 2 ภาพท่ี 3 1 สิ่งที่เจ้าบ่าว-เจ้าสาวต้องเตรียมในพิธีแต่งงาน 4 2 พิธียกน้าชา 4 3 พิธีแต่งงาน 6 4 ส่ิงของไหว้เจ้า 8 5 พิธีไหว้เจ้า 9 6 แถบอวยพรปีใหม่ 10 7 เทศกาลตรุษจีน 11 8 ขนมบัวลอย 12 9 เทศกาลเช็งเม้ง 13 10 บะจ่าง 14 11 ชวีหยวน 16 12 ของไหว้เทศกาลสารทจีน 16 13 ขนมเปี๊ยะ 17 14 การจัดโต๊ะเซ่นไหว้พระจันทร์ 15 เทศกาลกินเจ

บทท่ี 1 ประเพณีจีน จุดประสงค์ : เพ่ือให้นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับประเพณีของจีน เช่น พิธีแต่งงาน และพธิ ีไหวเ้ จา้ ประเพณีจนี เป็นเทศกาลที่ถอื ปฏิบัตกิ ันมาต้ังแต่สมัยอดีตมาจนถึงปัจจุบนั อันเปน็ จุดกาเนิดของชาว จีน ร่วมค้นหาประวัติความเป็นมาและความหมายท่ีซ่อนเร้นไว้ในประเพณีต่าง ๆ ตานาน ขนบธรรมเนียม ประเพณี ความเชอ่ื ประวัตศิ าสตร์อารยธรรมเก่าแก่อนั ล้าค่าของจีนยคุ โบราณ บอกกล่าวผา่ นงานศลิ ปะแขนง ต่าง ๆ ให้โลกได้รับรู้ พิธแี ตง่ งาน เร่ิมด้วยทางฝ่ายพ่อและแม่ของคู่บ่าวสาวนาดวงของท้ังคู่ไปให้ซินแซ ดูฤกษ์หาวันท่ีดีท่ีสุดให้ เม่ือ ได้ฤกษ์และตกลงกันได้เรียบร้อยแล้ว ก็ต้องมาเตรียมงานพิธีที่จะเกิดขึ้น ซ่ึงจะอธิบาย ดังน้ี 1. ส่ิงท่ีทางฝ่ายเจ้าบ่าวต้องจัดเตรียม ก่อนถึงกาหนดฤกษ์แต่งงานทางฝ่ายชายต้องจัดเตรียมเครื่องขันหมาก ซึ่งมีสินสอดทองหมั้น ตลอดจนผลไม้ ขนม เครื่องเซ่นไหว้ แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ ส้มเซ้งผลสีเขียว ติดตัวอักษรจีน “ซังฮี่” แปลว่า “ความสุขยกกาลังสอง” ไว้ทุกผล จัดเป็นเลขคู่ ส่วนขนมหม้ัน ได้แก่ จันอับ ขนมเหนียวเคลือบ เงา ขนมเป๊ียะโรยงา ถ่ัวตัด ข้าวพองทึบ ขนมโก๋อ่อน เสริมด้วยซาลาเปา พกท้อ 2. ส่ิงที่เจ้าสาวต้องจัดเตรียม สาหรับเจ้าสาวในการเตรียมของเพื่อออกเรือนจะมีข้าวของเครื่องใช้มากมาย เริ่มจากเอี๊ยม แต่งงานซึ่งเป็นเอี๊ยมสีแดง ตรงอกเส้ือเอื้อมมีช่องกระเป๋าปักตัวอักษร “แป๊ะน้ีไห่เล่า” แปลว่า “อยู่กิน กันจนแก่เฒ่า” ในกระเป๋าเอ๊ียมบรรจุห่อเมล็ดพืช 5 ชนิด มีความหมายว่า เจริญงอกงาม พร้อมต้นชุงเฉ้า หรือต้นเมียหลวง 2 ต้น และปิ่นทองท่ีทาเป็นตัวลายภาษาจีนว่า “ยู่อี่” แปลว่า “สมปรารถนา” เสียบไว้ ให้ปลายโผล่พ้นขอบกระเป๋าขึ้นมา นอกจากนี้ยังมีเชือกแดงสาหรับผูกเอี๊ยมมีตัวหนังสือ “ซังฮี้” มีแผ่นหัวใจสีแดงสาหรับติด เครื่องประดับทอง เครื่องประดับเพชร ซึ่งจะมีมากแค่ไหนขึ้นอยู่กับฐานะของเจ้าสาว ไม่เพียงเท่านั้น เจ้าสาวยังต้องเตรียมกะละมังสีแดง 2 ใบ ถังน้าสีแดง 2 ใบ กระป๋องน้าสีแดง 2 ใบ กระโถน 1 ใบ พร้อม กระจก กรรไกร ด้าย เข็ม ถาดสีแดง และของที่ต้องจัดเป็นจานวนคู่อย่างตะเกียบ ชุดน้าชา พัดแดง สาหรับเจ้าสาวถือตอนส่งตัว อีกทั้งยังมีผ้าปูท่ีนอน ผ้าห่ม 1 ผืน หมอน 1 ชุด ซึ่งจะมี 4 ใบ หรือ 5 ใบก็ได้ ประกอบไปด้วยหมอนข้าง 1 คู่ หมอนหนุนใบยาว 1 ใบ ซึ่งหมอนใบยาวนี้จะมีหรือไม่ก็ได้ ถ้าเจ้าสาว

ฐานะดีพ่อแม่อาจจะจัดเคร่ืองอานวยความสะดวกอ่ืน ๆ ให้ด้วย แล้วสุดท้ายยังมีหวีอีก 4 เล่ม ท่ีเป็นเคล็ด มงคลตามภาษาจีนเขียนว่า “ซ้ีซ้ีอู่หอซิว” หมายถึง “ทุก ๆ เวลาจะได้มีทรัพย์” ภาพท่ี 1 สิ่งท่ีเจ้าบ่าว-เจ้าสาวต้องเตรียมในพิธีแต่งงาน อ้างอิงจาก : https://www.manitawedding.com/2019/01/18/%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B9%88 %E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B9%88%E0%B 8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%84%E0%B8%A7 %E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2/

3. ลาดับพิธีแต่งงาน  เมื่อถึงฤกษ์หมั้น ฝ่ายชายยกขบวนมามอบสินสอด ทองหมั้นสวมแหวนและเครื่องประดับให้ เจ้าสาว เสร็จพิธีคู่บ่าวสาวและแขกรับประทานขนมอี้ จากนั้นแบ่งขนมหมั้นให้กับญาติทั้งสอง ฝ่าย  เช้าวันแต่งงาน เจ้าสาวสวมชุดใหม่สวยงาม เสียบป่ินยู่อี่ และประดับใบทับทิมท่ีผม เม่ือใกล้ถึง ฤกษ์ เจ้าสาวจะทานอาหารกับครอบครัว  เมื่อถึงเวลาเจ้าบ่าวมารับตัว บางบ้านอาจมีการกั้นประตูในช่วงนี้ จากนั้นทั้งคู่ไหว้ฟ้าดิน ไหว้ เจ้าที่ ไหว้เทพเจ้าเตาไฟ และไหว้บรรพบุรุษของเจ้าสาว (หากอาม่า อากงยังมีชีวิตอยู่ก็ไหว้ท่าน ก่อนยกนา้ ชาให้พ่อแม่เจ้าสาว) ภาพท่ี 2 พิธียกนา้ ชา อ้างอิงจาก : https://www.useheadcreation.com/16793942/%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%98 %E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B 8%8A%E0%B8%B2-ba  ก่อนออกจากบ้าน คู่บ่าวสาวต้องทานขนมอ้ี จากน้ันพ่อส่งเจ้าสาวไปกับเจ้าบ่าว โดยมีญาติผ้ชู าย ของเจ้าสาวถือตะเกียงเซฟ และกระเป๋าซึ่งบรรจุสมบัติส่วนตัวไปด้วย  เมื่อถึงบ้านเจ้าบ่าว ทั้งคู่ต้องไหว้ฟ้าดิน ไหว้เจ้าที่ รวมท้ังไหว้เทพเจ้าเตาไฟ และไหว้บรรพบุรุษ ของเจ้าบ่าว จากน้ันยกน้าชาให้พ่อแม่เจ้าบ่าวและญาติผู้ใหญ่ เสร็จ แล้วคู่บ่าวสาวกินขนมอี้  ฤกษ์เข้าหอ การปูเตียงต้องมีฤกษ์ เม่ือผู้ใหญ่ปูเสร็จต้องวางส้มไว้ท่ีมุมเตียง และอีก 4 ผลวางใส่ จานท่ีมีตัวซังฮ้ีและใบทับทิมนาไปวางกลางเตียง  เช้าวันรุ่งขึ้น เจ้าสาวต้องยกน้าล้างหน้าให้พ่อแม่สามีเป็นเวลา 3 วัน จากน้ันน้องชายเจ้าสาวมา รับทั้งคู่กลับไปกินข้าวท่ีบ้านฝ่ายหญิง ถือเป็นอันเสร็จพิธีแต่งงาน

ภาพท่ี 3 พิธีแต่งงาน อ้างอิงจาก : https://www.thesorentowedding.com/wp- content/uploads/2015/07/%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0% B9%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99 %E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99-02.jpg พธิ ไี หว้เจา้ ภาพท่ี 4 ส่ิงของไหว้เจ้า อ้างอิงจาก : https://www.khaosod.co.th/lifestyle/news_2156209 ชาวจีนมีความเชื่อสืบตอ่ ๆ กันมาว่าในปีหนึ่ง ๆ มักจะมีเรื่องอัปมงคลเร่ืองไม่ดีงาม สิ่งเลวรา้ ยตา่ ง ๆ มากมายมารบกวน และมีผลต่อการดาเนินชีวิต อาจทาให้เกิดอุปสรรคต่าง ๆ เช่น การเจ็บไข้ได้ป่วย การงาน ติดขัดไม่ราบรื่น เงินทองไม่ล่ืนไหล ทาอะไรก็พบแต่ความยุ่งยาก ทามาค้าขายก็ลาบาก บุตรบริวารก่อเร่ือง วุน่ วาย นามาแต่เรื่องยุ่งยากลาบากใจ หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ผิดปกติ ทาให้รู้ไดว้ ่า “ดวงชะตาชีวิต” ไม่ดีนัก จงึ จะต้องมีการขวนขวายหาท่ีพ่ึงทางใจ เหตุผลน้ีเองจึงกอ่ ใหเ้ กิดประเพณี การไหว้เจา้ ไหว้ส่ิงศักดิ์สิทธ์ิ และ

ไหว้บรรพบุรษุ ซึง่ ประเพณีการไหว้เจา้ นี้ ชาวจีนได้ปฏบิ ตั ิสืบต่อกันมากว่า 3000 ปีแลว้ คอื ต้ังแต่สมัยราชวงศ์ โจวนนั่ เอง ในปีหนึ่งจะมกี ารไหว้เจ้า 8 ครัง้ ซ่งึ มคี าจีนเฉพาะเรียกวา่ “โป๊ยโจย่ ” โปย๊ คอื 8 โจย่ แปลวา่ เทศกาล โปย๊ โจ่ย จงึ หมายความว่า การไหวเ้ จ้า 8 เทศกาล คอื  ไหวค้ รง้ั แรกของปี ไหวเ้ ดือน 1 วนั ที่ 1 คอื ตรุษจนี เรียกวา่ “ง่วงตัง้ โจ่ย”  ไหวค้ ร้ังท่ี 2 ไหว้เดือน 1 วันที่ 15 เรยี กวา่ “งว่ งเซียวโจ่ย”  ไหว้คร้ังท่ี 3 ไหว้เดือน 3 วนั ท่ี 4 เรียกว่า “ไหว้เช็งเม้ง” เป็นประเพณีท่ีลูกหลานไปไหว้บรรพบรุ ุษท่ี ฮวงซ้ยุ  ไหว้ครัง้ ท่ี 4 ไหวเ้ ดอื น 5 วนั ที่ 5 เรียกว่า “โหงวเหวย่ โจย่ ” เป็นเทศกาลไหว้ขนมจ้าง  ไหวค้ รั้งท่ี 5 ไหวเ้ ดอื น 7 วันท่ี 15 คอื ไหวส้ ารทจีนเรยี กว่า “ตงงว้ งโจ่ย”  ไหว้คร้งั ที่ 6 ไหว้เดือน 8 วนั ที่ 15 เรียกวา่ “ตงชิวโจ่ย” ทค่ี นท่ัวไปรู้จกั กันดวี ่า ไหว้พระจนั ทร์  ไหว้คร้งั ที่ 7 ไหว้เดือน 11 ไม่กาหนดวนั แน่นอน เรยี กว่า “ไหว้ตังโจ่ย”  ไหวค้ รงั้ ท่ี 8 ไหว้เดอื น 12 วนั ส้ินปี เรยี กว่า ไหว้สนิ้ ปี หรอื “ก๊วยน้ีโจ่ย” 1. การจดั ของไหวเ้ จา้ ถ้าจัดใหญ่ นิยมเป็นตัวเลข 5 คือ มีของคาว 5 อย่าง เรียกว่า “โหงวแซ” ประกอบด้วย หมู ไก่ ตับ ปลา และกุ้งมังกร แต่เน่ืองจากกุ้งมังกรนั้นแพงและหาไมง่ า่ ย จงึ นิยมไหวเ้ ป็ดหรือปลาหมึกแห้งแทน ของหวาน 5 อย่าง เรียกว่า “โหงวเป้ีย” อาจเป็นซาลาเปาไส้หวาน ขนมไข่ ขนมถ้วยฟู ขนมกุยช่าย และขนมจันอับ ผลไม้ 5 อย่าง เรียกว่า “โหงวก้วย” ถา้ จัดเลก็ ก็เปน็ ชดุ ละ 3 อยา่ ง มขี องคาว 3 อยา่ งเรยี กว่า “ซาแซ” ของหวาน 3 อยา่ ง เรียกว่า “ซาเปี้ย” ผลไม้ 3 อย่าง เรียกว่า “ซาก้วย” หรือจะมีแค่อย่างเดียวก็ได้ ผลไม้ท่ีใช้ไหว้จะนิยมเลือกชนิดท่ีมี อะไรทีเ่ ป็นมงคลอยูใ่ นตวั  สม้ เรยี กว่า “ไต้กิก” แปลว่า โชคดี  องนุ่ เรยี กว่า “พูท่ ้อ” แปลวา่ งอกงาม  สับปะรด เรยี กว่า “อง้ั ไล้” แปลว่า มีโชคมาหา  กล้วย มคี วามหมายถงึ การมีลูกหลานสืบสกลุ ที่ในกระถางธูปท่ีใช้ไหว้เจ้าบางคนนิยมใส่ “โหงวจ้ี” สาหรับปักธูป ประกอบด้วย เมล็ด 5 อย่าง คือ ข้าวสาร ข้าวเหนียว ถั่วเขียว ถ่ัวดา และเช้ือแป้ง (ยีสต์) โดยถือว่าเมล็ดทั้งห้า คือบ่อเกิดของการ เจริญเติบโตอปุ มาอปุ ไมยให้การไหว้เจ้านี้นามาซงึ่ ความเจรญิ รุ่งเรือง แตก่ ารใช้โหงวจี้ปักธูป มีข้อจากัดว่า ใช้ได้แต่ในบ้าน ถ้าเป็นการไหว้นอกบ้าน ต้องใช้ข้าวสารหรือทราย มิฉะนั้นเชื้อแป้งเมื่อถูกความช้ืน เช่น

ฝนหรอื น้าคา้ ง จะทาให้แขง็ ตวั แล้วปกั ธูปไม่ลง เม่ือไหว้เจ้าเสร็จกเ็ ผากระดาษเงินกระดาษทองเป็นการปิด ท้ายรายการ ภาพท่ี 5 พิธีไหว้เจ้า อ้างอิงจาก : https://s.isanook.com/gu/0/rp/r/w620/ya0xa0m1w0/aHR0cHM6Ly9zLmlzYW5vb2suY2 9tL2d1LzAvdWkvMC8yMjQ3LzQ0X18xMDAxMjAwNzA2NTcxMS5qcGc=.jpg

กิจกรรม 1. ในพิธีแต่งงานจะติดตัวอักษรจีน “ซังฮ่ี” มีความหมายว่าอย่างไร ............................................................................................................................. .................. ................................................................................................................. .............................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ขนมท่ีใช้สาหรับในพิธีหม้ันมีอะไรบ้าง ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. เหตุผลใดที่ทาให้เกิดพิธีไหว้เจ้าข้ึน ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................. ............................................................................................................................................... 4. ของคาว 5 อย่าง ท่ีเรียกว่า “โหงวแซ” ประกอบด้วยอะไรบ้าง ......................................................................................... ...................................................... ............................................................................................................................. .................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. ยกตัวอย่างผลไมม้ งคลท่ใี ช้ในการไหว้เจา้ มา 3 อย่าง พร้อมอธิบายความหมาย ............................................................................................................................. .................. ................................................................................................................. .............................. ............................................................................................................................. .................. ...............................................................................................................................................

บทที่ 2 เทศกาลจนี (ช่วงท่ี 1) จุดประสงค์ : เพ่ือให้นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับเทศกาลของจีน เช่น เทศกาล ตรษุ จีน เทศกาลหยวนเซียว เทศกาลเช็งเม้ง และเทศกาลบะจ่าง เทศกาลตรุษจีน ตามจันทรคติจีนในวนั ขน้ึ 1 ค่า เดือนอ้าย เปน็ วนั ขน้ึ ปีใหม่ โดยชาวจีนเรียกว่า “ชนุ เจยี๋ ” (春节) และยงั มีการเรียกอีกหลายช่ือ แตไ่ ทยเรียกวา่ “ตรษุ จนี ” การฉลองประเพณีอนั เกา่ แก่ของเทศกาลตรษุ จีนนนั้ เร่ิมดว้ ยก่อนถึงวนั เทศกาลตรุษจีนไม่กีว่ นั ทุกบ้าน จะต้องจัดการทาความสะอาดบ้านเปน็ การใหญ่ เพ่ือแสดงถงึ การกาจัดของเกา่ ทีไ่ มด่ ีออกไป ตอ้ นรับของใหม่ที่ จะเข้ามา ในเมืองไทยก็ทาเช่นกัน เมื่อถึงวันท่ี 24 เดอื น 12 ตามปฏิทินจันทรคติจีนก็จะตอ้ งส่งเจ้าข้ึนสวรรค์ เจ้าองค์น้ีเป็นเทพเจ้าเตาไฟที่ประจาบ้านช่องดูแลทุกข์สุขและปกป้องคนในครอบครัวใหอ้ ยู่เย็นเป็นสุขเม่ือถึง ส้ินปกี ต็ อ้ งไปรายงานตวั พรอ้ มนาเรื่องราวต่าง ๆ ทีเ่ กดิ ขึน้ ของชาวบา้ นทูลถวายแด่องคเ์ งก็ เซยี นฮ่องเต้ หลังจาก วันที่ 24 ผ่านพน้ ไปแล้วชาวบา้ นก็วุ่นวายกับการจัดหาของขวัญปใี หม่และส่งบัตรอวยพร ชาวจนี ชอบตัด “ชุน เหลียน” (春联) คนไทยเราเรียกว่า “แถบอวยพรปีใหม่” ติดไว้หน้าบ้านและทุกท่ีมีบรรยากาศที่ร่ืนเริง เตรยี มการฉลองวันขน้ึ ปีใหม่ (ตรุษจีน) ภาพท่ี 6 แถบอวยพรปีใหม่ อ้างอิงจาก : https://www.shopback.co.th/blog/%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%AD%E0%B8%A 7%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0% B8%A9%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99/

วันสุดท้ายของปีซ่ึงเป็นวันสุกดิบต้ังแต่เช้าทุกบ้านจะเตรียมของไหว้เจ้า ไหว้ฟ้าดิน ไหว้บรรพบุรุษที่ ล่วงลับไปแล้ว และไหว้วิญญาณทีไ่ รญ้ าติ ของท่ีไหว้นั้นมีของคาว 3 อยา่ ง อาหาร 5 อย่าง ผลไม้ 5 อย่าง เหล้า ของหวาน ธูปเทียน กระดาษเงนิ กระดาษทอง เปน็ ตน้ เม่อื ไหว้บชู าเรียบรอ้ ยแล้วตอนเยน็ ทกุ คนในบา้ นจะมา รับประทานอาหารม้อื เยน็ ร่วมกนั ด่มื กินเฉลมิ ฉลองตอ้ นรบั ตรุษจีน หลังเสร็จส้ินรับประทานอาหารผูใ้ หญ่จะให้ องั เปาเด็กเป็นนัยอวยพรให้เดก็ เจรญิ เติบโตอย่างปลอดภัย ขณะเดยี วกันก็ใหอ้ ังเปาพ่อแม่ ญาตพิ ี่นอ้ ง เพ่ืออวย พรให้ท่านสุขภาพแข็งแรง อายุมั่นขวัญยืน ช่วงค่านี้บางครอบครัวอาจฉลองอยู่จนดึกดื่นข้ามคืนเข้าสู่วันใหม่ โดยในบางท้องที่มกี ารจดุ ประทดั เพอื่ ขบั ไลส่ ิง่ ไม่ดใี นปีเกา่ แลว้ ตอ้ นรบั สิง่ ดี ๆ ในปีใหม่ที่จะเขา้ มาในชีวิต ตามปกติคนจีนในเมืองไทยจะเรยี กวันแรกของปีใหมว่ ่า “วันถือ” คอื วันน้ีในบา้ นคนจีนจะไมท่ าอะไร เชน่ งานบ้านหรอื กจิ วัตรประจาวนั แตจ่ ะเดินทางไปเยีย่ มญาติ โดยเฉพาะผนู้ ้อยจะไปเยีย่ มผู้หลกั ผู้ใหญ่พร้อม ผลไม้ส้ม ซ่ึงมคี วามหมายว่า “สิรมิ งคล” พร้อมกล่าวคาอวยพรปใี หม่ ซึ่งผู้รับจะรบั ส้มเพยี ง 2 ผล พรอ้ มนาผล ส้มของตนเอง 2 ผลใส่คืนมา เพื่อแสดงการอวยพรและให้สิ่งดี ๆ คืนมา ซ่ึงเป็นมารยาทและขนบธรรมเนียม ประเพณีอันดีงาม ซงึ่ คนรนุ่ ใหม่เริม่ ลืมเลือนกันไปแลว้ ประเพณีวันตรุษจนี จะสืบเนอ่ื งถึงเม่อื ย่างเข้าสวู่ ันท่ี 4 ของเดอื นแรกตามปฏทิ ินจันทรคติจนี คนจนี จะ ไหว้เจ้าอีกคร้ังเพื่อเชญิ เจ้ากลบั คืนสู่โลกมนุษย์ ประเพณีตรุษจีนจะสนิ้ สุดลงจริง ๆ ในวันข้นึ 15 ค่าของเดือน แรกตามประเพณีจีน ในอดีตจะเรียกเทศกาลโคมไฟ ตามสถานทต่ี ่าง ๆ จะประดับโคมไฟ ทายบทกวี ต่อโคลง กลอน เป็นประเพณีท่ีคึกคักเฉลิมฉลองกนั อยา่ งยิ่งใหญ่ ภาพท่ี 7 เทศกาลตรุษจีน อ้างอิงจาก : https://www.edtguide.com/review/5955/%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0 %B8%A9%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A2%E0%B8% B2%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A-2554

เทศกาลหยวนเซียว หรอื เทศกาลโคมไฟ เทศกาลหยวนเซียว หรือคนจีนเรยี กกันวา่ เทศกาลโคมไฟ ตามตานานเล่าขานกนั วา่ เร่มิ จากราชวงศ์ ฮั้น พระเจา้ ฮั้นเหวินต(้ี 汉文帝)ได้กาหนดวันขึน้ 15 คา่ เดือนอา้ ยของทกุ ปีเปน็ หยวนเซยี ว เพราะคาวา่ “เซียว”(宵) แปลว่าค่าคืน ในเทศกาลหยวนเซยี วไดม้ กี ารฉลองกนั อยา่ งครึกครน้ื ตัง้ แต่ราชวงศ์ฮั้นเปน็ ตน้ มา ทุกบ้านเรือนจะใช้ ขนมอี๋(汤圆) คนไทยเรยี กวา่ “ขนมบวั ลอย” เซ่นไหวเ้ ทวดาฟ้าดนิ และบรรพบรุ ุษ ตอนกลางคนื ก็ตกแตง่ โคมไฟอย่างสวยงาม และร้องราทาเพลง ตงั้ แตห่ วั คา่ จนถงึ วนั รงุ่ ข้ึน ที่ประเทศจีนมกี ารประกวดโคมไฟ หลากหลายรูปแบบสวยงามวิจติ รตระการตาทว่ั ประเทศอกี ดว้ ย ภาพท่ี 8 ขนมบัวลอย อ้างอิงจาก : https://picpost.mthai.com/view/119986 กาเนิดโคมไฟในเทศกาลหยวนเซียว มตี านานเลา่ ไว้มากมาย แตท่ ี่นา่ เชือ่ ถอื คอื มาจากประเพณี “ส่องตัวไหม” (照田蚕) ของชาวนา คือ ชาวนาจะใช้โคมไฟแขวนไว้บนยอดไม้ไผ่ แล้วปักไว้กลางทุ่งนา เฝ้าดูว่าโคมไฟที่แขวนอยู่จะเปล่งสีอะไร เพ่ือพยากรณถ์ ึงการเพาะปลูกของปี ถ้าไฟกระเดียดไปทางสีขาวจะ เกิดอุทกภัย สีแดงเกิดการแห้งแล้ง ซึ่งเป็นวิธีพยากรณ์อันเก่าแก่ของชาวนาเมื่อครั้งโบราณกาล ต่อมามีการ ประกวดแข่งขันกันจึงต่างประดิษฐ์โคมไฟ “ส่องตัวไหม” ให้แปลกประหลาด เลอเลิศสะดุดตาย่ิงข้ึน ความหมายด้ังเดมิ กเ็ ปลีย่ นไปกลายเปน็ ความสนุกสนานร่ืนเรงิ ไป ชาวจีนโพ้นทะเลและคนจีนที่พานักอยู่ในประเทศไทย ในวันเทศกาลหยวนเซียวก็มีการไหว้เทวดาฟ้า ดินและเซ่นไหว้บรรพบุรุษ พอถึงเวลากลางคืนโคมไฟตามศาลเจ้าต่าง ๆ สว่างไสวเต็มไปด้วยชายหญิงที่มีจิต ศรัทธาต่างพากันมาไหว้ขอพรหรือแก้บน เคร่ืองเซ่นไหว้ต่าง ๆ ตามหน้าศาลเจ้า เช่น น้าตาลรูปสิงโต ส้ม

กระดาษเงิน กระดาษทอง ธูป เทียน และอ่ืน ๆ ขายดิบขายดี เน่ืองจากผู้มจี ิตศรัทธามาซ้ือเคร่อื งเซ่นไหวเ้ พ่ือ ขอพรหรือผมู้ าแก้บนกบั เทพเจ้านั้นจะตอ้ งซ้ือเคร่ืองเซน่ ไหวเ้ พ่ิมเปน็ เทา่ ตวั ของปีท่ีผ่านมา ปจั จุบันคาว่า “หยวนเซยี ว 元宵 ” มีความหมายสองอย่างคือ เปน็ ท้ังช่อื เรียกของเทศกาล อีกทั้ง เป็นช่ือเรยี กของขนมหวาน “บวั ลอย” อีกดว้ ย เทศกาลเช็งเมง้ เทศกาลเช็งเม้งตามปฏิทนิ สากลจะตรงกบั วันที่ 4 หรอื 5 ของเดือนเมษายนของทกุ ปี เน่ืองจาก เทศกาลเชง็ เม้ง เป็นช่วงเวลาท่ที ้องฟา้ ปลอดโปร่ง แจม่ ใส อากาศอบอนุ่ (ซ่งึ เปน็ ทีม่ าของช่อื เทศกาล) ชาวจนี จึงใช้โอกาสนท้ี ากิจกรรมนอกบ้าน และแสดงความกตญั ญูต่อบรรพชนด้วยการมาทาความสะอาดสุสานและ เซ่นไหวข้ อพร การปฏิบตั ินี้ไดส้ ืบทอดมาอยา่ งยาวนานจนเปน็ ประเพณี ภาพท่ี 9 เทศกาลเช็งเม้ง อ้างอิงจาก : https://sites.google.com/site/chineseonenatvee/the-skalcheng- meng?overridemobile=true&tmpl=%2Fsystem%2Fapp%2Ftemplates%2Fprint%2F&sh owPrintDialog=1 สาหรับลูกหลานชาวจีนในประเทศไทย เมื่อถงึ เทศกาลนีข้ องทกุ ปกี ็ยังคงรักษาประเพณปี ฏิบตั สิ ืบทอด ตอ่ กันมา แต่เนื่องจากสุสานบรรพชนมักจะอยู่ต่างเมืองจากที่อยู่อาศัย กิจกรรมดังกล่าวจึงไม่ได้กระทาในวัน ตรงเสียทเี ดียว เพราะฉะน้ันหลังจากเข้าสู่เดอื น 3 ของปฏิทินจันทรคติของจีนลูกหลานแต่ละครอบครัวจะนัด วันที่ทุกคนสะดวกไปทากิจกรรมร่วมกัน ซ่ึงมักไม่เกินวันที่ 4 หรือ 5 เมษายน กิจกรรมต่าง ๆ ยังคงรักษา วัฒนธรรมดั้งเดิมไว้ โดยมีการทาความสะอาดสุสานและเซ่นไหว้บรรพชน ส่ิงของท่ีเซ่นไหว้มีทั้งของคาว 3 อยา่ ง ผลไม้ 5 อยา่ ง ยงั มีขนม ของหวานสื่อความหมายใหล้ กู หลานเจรญิ รงุ่ เรืองและฉลาดปราดเปรอ่ื ง และยัง

มีกระดาษเงิน กระดาษทอง ปะทัด ธูปเทียน เปน็ ต้น เมอ่ื เซน่ ไหวเ้ สร็จแล้วลูกหลานมักจะทานอาหารร่วมกันที่ หน้าสสุ าน กิจกรรมนี้ถือเป็นทั้งสญั ญาลักษณ์ของความกตัญญูที่มีต่อบรรพบุรษุ ขณะเดียวกันก็เป็นการแสดง ถึงความรัก ความสามคั คขี องพี่น้อง ลูกหลาน จึงมักมีคนกล่าวถึงวันนวี้ ่าเป็นวนั รวมญาติ เทศกาลบะจา่ ง ตามจันทรคติจีนวนั ข้ึน 5 ค่า เดือน 5 เปน็ เทศกาลตวนอู๋เจ่ยี (端午节) หรือเทศกาลบะจา่ ง คาว่า “บะจา่ ง” หมายถึง อาหารชนดิ หนงึ่ ซ่งึ ประกอบด้วยขา้ วเหนียวใส่หมูกบั ถั่วหรอื เม็ดบวั ผดั แลว้ หอ่ ดว้ ยใบไผม่ ัด เปน็ เหลีย่ ม ภาพท่ี 10 บะจ่าง อ้างอิงจาก : https://hilight.kapook.com/view/87168 ตามตานานเล่าขานกนั ว่า ตวนอูเ๋ จีย่ เป็นการระลึกและอาลยั ถงึ ชวีหยวน (屈原) ซงึ่ ท่านเป็นกวีเอก ผู้รักชาติและมีอุดมการณ์อันแรงกล้าทาเพื่อชาติและประชาชน ซึ่งเกิดข้ึนในสมัยโบราณนานกว่าสองพันปี มาแล้ว สมัยน้นั เกดิ สงครามทุกแห่งในประเทศจีน และท่านได้รบั ใช้เจ้าเมืองลู่โดยพยายามทุกวิถที างท่จี ะทาให้ เมืองลู่มีความมั่งค่ัง แต่เพราะว่าไปขัดผลประโยชน์ของขุนนางกังฉินทรยศชายชาติบางคน ทาให้ขุนนาง เหล่าน้นั แค้นเคืองมาก จงึ เพด็ ทูลใส่ร้ายชวีหยวนตอ่ หนา้ เจ้าเมือง ฉะน้ันชวหี ยวนจงึ ถูกเนรเทศออกจากเมอื งถึง 2 คร้ัง จนกระทัง่ มาถึงสมัยฉู่เซียงอ๋อง ชวีหยวนก็แก่ชราแล้ว อายุราว 60 ปีเศษ ท่านเห็นความอ่อนแอของฉู่ เซยี งออ๋ ง ขุนนางผูใ้ หญ่ก็ทรยศกต่อประเทศชาติ ประชาชนมีความลาบากยากเข็ญมาก ประเทศกาลงั ล่มสลาย ท่านก็รู้สึกโศกเศร้าเสียใจมาก สุดท้ายท่านได้กระโดดลงมี่หลัวเจียง (汨罗江) ฆ่าตัวตาย ประชาชน เสียใจมากในการสญู เสียกวผี ู้รักชาติ จึงได้ห่อบะจา่ งไปท่ีแมน่ ้ามี่หลัวเจียงเซ่นไหวช้ วีหยวน และได้พายเรือไป คน้ หาศพของท่าน แต่ก็ไม่พบ ต้ังแตน่ ้ันมา เมื่อถึงวันข้ึน 5 ค่า เดือน 5 ของทุกปี ประชาชนจะทาบะจ่างไปท่ี

รมิ แมน่ ้า เซ่นไหว้กวเี อกชวีหยวน เพือ่ ระลกึ ถงึ คุณงามความดีของทา่ น และไดพ้ ายเรอื ในแม่น้าด้วย นาน ๆ เข้า ก็กลายเป็นประเพณีการแข่งเรือมังกร ประชาชนก็ยังมีการไหว้พระไหว้เจ้า เซ่นไหว้บรรพบุรุษ และก็ได้ กลายเปน็ วนั สาคญั ของเทศกาลชาวจนี เทศกาลหนง่ึ ภาพท่ี 11 ชวีหยวน อ้างอิงจาก : http://www.acu.ac.th/html_edu/cgi- bin/acu/main_php/print_informed.php?id_count_inform=11382 กิจกรรม ใหน้ กั เรียนแบ่งกล่มุ 4 กลุ่ม ใหศ้ ึกษาเนื้อหาเทศกาลทงั้ 4 เทศกาล แล้วสรุปเปน็ แผนผังความรู้ พรอ้ ม กบั นาเสนอหนา้ ชนั้

บทที่ 3 เทศกาลจีน (ช่วงท่ี 2) จุดประสงค์ : เพื่อให้นักเรียนมคี วามรู้ ความเข้าใจเก่ียวกบั เทศกาลของจนี เช่น เทศกาลสารท จีน เทศกาลวนั ไหวพ้ ระจนั ทร์ และเทศกาลกนิ เจ เทศกาลสารทจีน ภาพท่ี 12 ของไหว้เทศกาลสารทจีน อ้างอิงจาก : https://www.ev9thailand.com/content/12959/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99 %E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0% B8%99- 2560-%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A7 %E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%88%E0% B8%B5%E0%B8%99-2560 เร่ืองราวของสารทจีน ตามตานานเล่าขานกันว่ามาจากศาสนาพุทธมีเร่ืองของมู่เหลียนช่วย มารดา (目连救母) มู่เหลียนเปน็ ลกู กตญั ญูของเศรษฐีคนหนง่ึ ในเมอื งหม้อเจย๋ี ของประเทศอินเดยี บดิ า เป็นนกั บญุ ช่วยเหลือและใหท้ านชาวบ้าน ส่วนมารดาเปน็ คนประเภทตระหน่ีเห็นเงนิ ทองยิง่ กว่าชีวิตไม่ยอมให้ ทานชว่ ยเหลอื คนอน่ื เหน็ พระและชเี หมอื นกบั ศัตรู ต่อมาบิดามารดาของมู่เหลียนก็เสยี ชวี ิตตามกันไป มเู่ หลียน

รสู้ กึ เสียใจมาก ละทิ้งความม่งั มศี รสี ุขของบ้านตนเอง สมัครเป็นลกู ศษิ ย์ของพระพุทธเจ้า จนกระท่ังสาเรจ็ เป็น พระอรหนั ตต์ รัสรู้มรรคผล เขาก็ได้เปน็ ลูกศิษย์หนง่ึ ในจานวนสิบองค์ของพระพทุ ธเจ้า มู่เหลียนหลังจากตรัสรู้ พระธรรมคาส่ังสอนของพระพุทธเจา้ แล้วขึน้ ไปบนสวรรค์ เขากไ็ ดเ้ ห็นบิดาของเขาอยบู่ นสวรรค์อยา่ งมีความสุข แต่ไม่เห็นมารดา เขารู้ทนั ทีว่ามารดาของเขาตอนที่อยใู่ นโลกมนุษย์ไม่เคยทาความดที าบุญทาทานแก่ผู้ยากไร้ เมอื่ เสียชีวติ ตกนรกอด ๆ อยาก ๆ ซ้าร้ายยังถกู แทงด้วยมดี และไฟลวกอย่างทารณุ มู่เหลียนไปท่ีนรกพบมารดาก็เอาข้าวปลาอาหารในบาตรป้อนมารดาของเขา แต่ยังไม่ทันเข้าปาก มารดา ข้าวปลาอาหารเหล่าน้ันก็กลายเป็นเถ้าถ่าน มู่เหลียนรู้สึกเสียใจมาก จึงได้อธิฐานอ้อนวอนให้ พระพุทธเจ้าช่วยช้ีแนะวิธีทาให้มารดาของเขาพน้ ทุกข์ พระพุทธเจ้าก็เทศนาสั่งสอนมู่เหลยี นกาหนดให้ทุกปใี น วันขึ้น 15 ค่า เดือน 7 จัดพิธีทิ้งกระจาด โดยให้นาอาหารแห้งใส่ในกระจาดแล้วให้พระสงฆ์สวดมนต์เทศนา พระธรรม เซ่นไหว้ผีสางเทวดาท่ีไรญ้ าตทิ ้ังหลาย ทาให้พวกผีสางวิญญาณไร้ญาติกนิ จนอิม่ หนาแล้วมารดาของ เขาก็จะได้ของท่ีตกั บาตรไปให้ มู่เหลยี นทาตามที่พระพุทธเจา้ สอนไว้ จากน้ันมารดาก็ได้รับส่วนบุญส่วนกุศลที่ เขาทาให้ และมารดาของเขากไ็ ดอ้ อกจากเมืองนรกไม่ต้องทนทกุ ขท์ รมานอกี เลย “มู่เหลียนช่วยมารดา” เป็นเรื่องที่สอนให้คนเราต้องทาแต่ความดีทาบุญทาทาน กตัญญูต่อบิดา มารดา จึงจะเกิดผลอันดีงามดังน้ันจึงมีการเล่าขานกันว่าเดือน 7 เป็นเดือนท่ีเมืองนรกเปิดประตูปลดปล่อยผี สางและเปรตต่าง ๆ ออกมาหากินชาวบา้ นทุกทจ่ี ัดให้มีการท้ิงกระจาดเรียกวา่ “หวีหลานเผิงหุย้ ” (于兰 盆会) หรือเรียกอกี ช่ือวา่ “ซ่ือกู” ถงึ วันท่ี 15 ค่า เดือน 7 ทกุ บ้านต่างก็เซ่นไหว้เทวดาฟ้าดินพระสงฆ์องค์ เจ้าบรรพบุรุษ และเซ่นไหว้ผีสางวิญญาณไร้ญาติต่างหวังจะให้ผีสางและเปรตต่าง ๆ ได้กินอ่ิม แลว้ ไปสถิตท่ี ตนเอง มนษุ ยเ์ ราก็อยู่อยา่ งสขุ สาราญต่อไป เทศกาลวนั ไหว้พระจันทร์ เทศกาลวันไหว้พระจันทร์ ตรงกับวันข้ึน 15 ค่า เดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติจีน เพราะอยู่กลางฤดู ใบไมร้ ่วง จึงเรียกว่า “中秋节” หรือเทศกาลกลางเดือนสารทไทย เราเรียกวันน้วี ่า “วันไหว้พระจนั ทร์” ด้วยลักษณะทางภูมิศาสตรข์ องจีน เมือ่ เขา้ สู่เดือนสารทคอื เดือน 7-9 ตามปฏิทินจนั ทรคติจนี ท้องฟ้าแจม่ ใสไร้ เมฆฝน อากาศปลอดโปร่ง ดวงจันทร์แจ่มกระจ่าง ประกอบกับเป็นฤดูกาลแห่งการเก็บเก่ียว เทศกาลนี้แต่ โบราณจึงมีลกั ษณะของการเฉลมิ ฉลองการเกบ็ เก่ยี วดว้ ย ชาวจีนจงึ ถอื เอาวนั นเ้ี ปน็ วันครอบครัว พอถงึ เวลากลางคืนสมาชิกทุกคนในครอบครัวจะอยู่พรอ้ มหน้าและร่วมรับประทานขนมเปยี๊ ะกับผลไม้ ด่ืมน้าชาพลางชมดวงจันทร์และสนทนาเร่ืองทุกข์สุขไปด้วย ส่วนคนที่อยู่ต่างถ่ินไม่สามารถกลับมาอยู่กับ ครอบครวั ในคนื น้กี ไ็ ด้แตแ่ หงนหน้ามองจันทรค์ ิดถึง พ่อ แม่ ญาตพิ ี่น้องทบ่ี ้านเกดิ เมืองนอน นทิ านท่เี ล่าขานเก่ยี วกับวันไหวพ้ ระจันทร์น้ันมมี ากมาย แต่เรื่องราวทชี่ าวบ้านราลกึ อย่เู สมอคือ สมัย ราชวงศ์หยวน พวกมองโกลเข้ายึดครองประเทศจีนใช้อานาจทมิฬรีดนาทาเร้นประชาราษฎร์ ประชาชนทน

ความกดข่ีข่มเหงไมไ่ หวจงึ ลุกข้ึนทาการปฏิวตั ิ โดยเขียนข้อความใสใ่ นกระดาษท่ีรองขนมเปีย๊ ะ มีความว่า “วัน ขึ้น 15 ค่า เดือน 8 เม่ือกินขนมเปี๊ยะแลว้ ให้ก่อการลุกขนึ้ สู้พร้อมกัน” เม่ือถึงวนั นนั้ ต่างก็พร้อมใจถือมีดผ่า ฟืนลุกฮือข้ึนโค่นล้มราชวงศ์หยวนไดส้ าเร็จ ตงั้ แต่น้ันเปน็ ต้นมาการไหวพ้ ระจันทรก์ ินขนมเป๊ียะจึงเป็นประเพณี ทสี่ ืบทอดต่อกันมา เพ่ือเป็นการราลึกถึงวีรกรรมของประชาชนทท่ี าการปฏิวัติได้สาเร็จ และพวกเราได้อยเู่ ย็น เปน็ สุขตั้งแต่นน้ั มา ภาพท่ี 13 ขนมเป๊ียะ อ้างอิงจาก : https://lifestyle.campus- star.com/knowledge/134728.html ส่วนชาวจนี ที่อยใู่ นประเทศไทย ก็ไดน้ าขนบธรรมเนยี มวันไหวพ้ ระจันทร์ของบรรพบุรุษมาปฏบิ ตั ิ และ ได้เผยแพร่ไปในชุมชนของตน ดังน้ันในเทศกาลวันไหว้พระจันทร์บรรดาชาวไทยเช้ือสายจีนจึงมีการเซ่นไหว้ พระจนั ทรเ์ ช่นเดียวกบั ชาวจนี ท่ปี ระเทศจีนเช่นกัน ภาพท่ี 14 การจัดโต๊ะเซ่นไหว้พระจันทร์ อ้างอิงจาก : https://www.thailandtourismdirectory.go.th/th/info/activity/detail/itemid/21382

เทศกาลกินเจ ตามปฏิทินจนั ทรคติของจีน ของวนั ที่ 1-9 เดอื น 9 เปน็ วันเทศกาลกินเจในประเทศไทย เทศกาลกนิ เจ เป็นประเพณีที่สืบทอดมาแต่ดั้งเดิม โดยในช่วงเทศกาลจะจัดให้มีการสวดมนต์ ไหว้พระ งดทานของคาวทุก ชนดิ หนั มาทานอาหารมังสวิรตั ิ ใสเ่ สอื้ ผ้าขาวสะอาดเกลยี้ งเกลา ร่วมสร้างกุศลกรรม บริจาคทานต่อเนอื่ งกัน 9 วัน เพ่ือเสริมสร้างความม่ันคงในโชคลาภ หลีกเล่ียงภัยพิบัติ ขจัดสิ่งท่ีเป็นเสนียดจัญไร ชะล้างส่ิงสกปรกใน กระเพาะลาไส้ งดการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ภายใต้ธงสีเหลืองซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการกินเจที่ปลิวไสวตามศาลเจ้า โรงเจ แม้กระท่ังร้านอาหารเจ ผู้ทานเจจะไม่แตะตอ้ งอาหารประเภทเน้ือสัตว์และอาหารทะเล ทานแต่พืชผัก ผลไม้และธญั พืชต่าง ๆ การทานเจทาให้จิตใจแจ่มใสเบิกบาน หน้าตาผอ่ งใสอ่ิมเอิบ และเปน็ การสร้างกุศลแก่ สตั ว์โลกอกี ดว้ ย ตานานที่เก่ียวกับเทศกาลกินเจมีอยู่ว่า สมัยก่อนมีครอบครัวยากจนครอบครัวหน่ึงมีลูกชายคนหนึ่ง แมอ้ ายุยังนอ้ ยแต่รจู้ ักกตัญญูต่อบิดามารดา ในบา้ นไม่มีขา้ วปลาอาหารทาน เขาจึงพาบิดามารดาออกจากบ้าน ไปเที่ยวขออาหารให้บิดามารดาทาน ระหว่างทางเกิดฝนตกก็ยังเดินเที่ยวขออาหารไม่หยุดยั้ง ซ่ึงเป็นเวลา เดียวกันกับทจี่ ักรพรรดิ ซงึ่ ปลอมพระองค์ออกนอกวังเสด็จประพาสเดินท่องเท่ียวอยู่ ได้พบเด็กชายโดยบงั เอิญ เด็กชายไม่รู้ว่าเป็นองค์จักรพรรดิก็เดินผ่านไม่ได้ทาความเคารพ จักรพรรดิกร้ิวมากเข้าใจผิดคิดว่าเด็กชายไร้ มารยาท ไม่ให้ความเคารพนับถือพระองค์ จึงบันดาลโทสะจัดการสังหารเสีย หลังจากนั้นไม่นานเทพเจ้าก็มา เข้าฝนั องคจ์ ักรพรรดิ ตาหนิพระองค์ไมค่ วรสังหารลูกกตัญญู จกั รพรรดจิ ึงรูว้ า่ พระองคเ์ ขา้ ใจผดิ สงั หารคนผิดไป รู้สึกเศร้าโศกพระทัยเป็นอย่างมาก เพื่อชดเชยบาปท่ีพระองค์ไม่ได้ตั้งใจทาจึงตัดสินใจให้ดวงวิญญาณของ เดก็ ชายเป็นจกั รพรรดิ 9 วนั จึงเป็นทีม่ าของช่ือ “九皇胜会 งานเฉลิมฉลองงานเก้าจกั รพรรดิ” ภาพท่ี 15 เทศกาลกินเจ อ้างอิงจาก : https://www.thaihealth.or.th/Content/45026-%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99% E0%B9%80%E0%B8%88%202018%20%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B8 %81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%96%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%A8% E0%B8%B5%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8 %B1%E0%B8%81%209%20%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%209%20%E0%B8 %84%E0%B8%B7%E0%B8%99.html

กิจกรรม 1. จากตานานเทศกาลสารทจีน “มูเ่ หลยี นชว่ ยมารดา” สอนอะไรบ้าง ............................................................................................................................. .................. ................................................................................................................. .............................. ............................................................................................................................. .................. 2. วันไหว้พระจันทร์อยู่ในช่วงฤดูกาลใดของจีน ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. นิทานที่เล่าขานในวันไหว้พระจันทร์มีเหตุการณ์อะไรเกิดข้ึน ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................. ............................................................................................................................................... 4. เทศกาลกินเจมีการจดั กิจกรรมอะไรบ้าง ............................................................................................................................. .................. ............................................................................................................................. .................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. ท่มี าของชื่อ “九皇胜会 งานเฉลิมฉลองงานเกา้ จักรพรรดิ” ได้มาจากอะไร ............................................................................................................................. .................. ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................. ...............................................................................................................................................

บรรณานกุ รม ทีมงาน The Sorento. ประเพณีแต่งงานแบบจีน, 23 กรกฎาคม 2562. https://www.thesorentowedding.com/%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8 %B5%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E 0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8% 99/ สถาบนั ภาษา มหาวทิ ยาลัยหวั เฉยี วเฉลิมพระเกยี รต.ิ เทศกาลกนิ เจ, 23 กรกฎาคม 2562. http://www.hculi.hcu.ac.th/index.php/16-knowledge/36-20180825-nine-emperor- gods-festival สถาบันภาษา มหาวทิ ยาลยั หัวเฉียวเฉลิมพระเกยี รติ. เทศกาลเช็งเม้ง, 23 กรกฎาคม 2562. http://www.hculi.hcu.ac.th/index.php/16-knowledge/34-20180720-chengmeng-day สถาบันภาษา มหาวทิ ยาลยั หัวเฉียวเฉลิมพระเกยี รต.ิ เทศกาลตรุษจีน, 23 กรกฎาคม 2562. http://www.hculi.hcu.ac.th/index.php/16-knowledge/35-20180720-chinese-new-year สถาบันภาษา มหาวทิ ยาลยั หัวเฉยี วเฉลมิ พระเกียรต.ิ เทศกาลบะจา่ ง, 23 กรกฎาคม 2562. http://www.hculi.hcu.ac.th/index.php/16-knowledge/25-20180504-ba-jang สถาบนั ภาษา มหาวทิ ยาลยั หวั เฉยี วเฉลิมพระเกยี รต.ิ เทศกาลวนั ไหวพ้ ระจันทร์, 23 กรกฎาคม 2562. http://www.hculi.hcu.ac.th/index.php/16-knowledge/40-20180821-moonlight สถาบันภาษา มหาวิทยาลยั หัวเฉยี วเฉลมิ พระเกยี รต.ิ เทศกาลสารทจีน, 23 กรกฎาคม 2562. http://www.hculi.hcu.ac.th/index.php/16-knowledge/31-20180510-sart-jeen สถาบนั ภาษา มหาวทิ ยาลยั หวั เฉยี วเฉลิมพระเกยี รติ. เทศกาลหยวนเซยี ว, 23 กรกฎาคม 2562. http://www.hculi.hcu.ac.th/index.php/16-knowledge/37-20180825-chinese-lamp Sanook. ประเพณีการไหว้เจ้า, 23 กรกฎาคม 2562. https://guru.sanook.com/2247/


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook