บทที2 ทฤษฎีและหลกั การทีเกียวขอ้ ง2.1 ประเภทแม่พมิ พ์ 2.1.1 แม่พมิ พพ์ ลาสติก หมายถึงแม่พิมพท์ ีใชใ้ นการผลิตชิ*นส่วนหรือผลิตภณั ฑ์พลาสติกซึงการทีจะสร้างแม่พมิ พช์ นิดใดจะข*ึนอยกู่ บั รูปร่างลกั ษณะของผลิตภณั ฑ์ ชนิดพลาสติกและความสะดวกรวดเร็วในการผลิต โดยทวั ไปสามารถจาํ แนกประเภทแม่พิมพพ์ ลาสติกไดด้ งั ต่อไปน*ี (1) แม่พิมพฉ์ ีด (Injection moulding) เป็ นกรรมวธิ ีการผลิตผลิตภณั ฑ์พลาสติกทีนิยมใช้กนั มากในปัจจุบนั เพราะสามารถผลิตชิ*นงานทีมีรูปร่างซบั ซ้อนไดด้ ีและมีหลายลกั ษณะงาน เช่นชิ*นส่วนเครืองใช้ไฟฟ้ าและอิเล็กทรอนิกส์ ชิ*นส่วนยานยนต์ เครืองใช้ในครัวเรือน บรรจุภณั ฑ์ของเด็กเล่น เครืองสําอาง เป็ นตน้ การผลิตชิ*นงานน*นั จะใชเ้ มด็ พลาสติกป้ อนเขา้ ทีเครืองฉีด เครืองฉีดจะทาํ หน้าทีหลอมละลายเม็ดพลาสติกและฉีดพลาสติกเหลวเขา้ สู่แม่พิมพ์ คงความดนั และอดัพลาสติกเหลวเขา้ เต็มแม่พิมพแ์ ละชิ*นงานจะถูกหล่อเยน็ ดว้ ยขณะฉีด เพือให้ไดช้ ิ*นงานรูปร่างตามแม่พิมพแ์ ลว้ จึงเปิ ดแม่พิมพเ์ พือทาํ การปลดชิ*นงานออกจากแม่พิมพ์ โดยทวั ไปถา้ มีการบาํ รุงรักษาแม่พิมพเ์ ป็ นอย่างดีจะทาํ ให้อายุการใชง้ าน 500,000-1,000,000 Shots ซึงตวั อย่างรูปแม่พิมพฉ์ ีดพลาสติกและผลิตภณั ฑจ์ ากแม่พิมพฉ์ ีดพลาสติกดงั แสดงในรูปที 2.1 และ 2.2รูปที 2.1 แม่พิมพฉ์ ีดพลาสติก รูปที 2.2 ผลิตภณั ฑจ์ ากแม่พมิ พฉ์ ีดพลาสติก (2) แม่พิมพอ์ ดั และอดั ฉีด (Compression and Transfer moulding) แม่พิมพอ์ ดั เป็ นการผลิตชิ*นงานโดยใชพ้ ลาสติกชนิดเทอร์โมเซตติ*งลงในแม่พิมพแ์ ลว้ ทาํ การปิ ดแม่พิมพโ์ ดยใชค้ วามดนั สูงพร้อมกบั ให้ความร้อนทาํ ให้พลาสติกหลอมละลายเขา้ แทรกยงั โพรงของแม่พิมพ์ จากน*นั หล่อเยน็ใหพ้ ลาสติกแข็งตวั จึงปลดชิ*นงานออก ขอ้ แตกต่างระหวา่ งแม่พิมพอ์ ดั และแม่พิมพฉ์ ีดคือ แม่พิมพ์อดั จะใชล้ ูกสูบอดั พลาสติกเขา้ แม่พิมพ์ ส่วนแม่พิมพฉ์ ีดจะใช้การเติมพลาสติก แม่พิมพอ์ ดั จะถูก
4นาํ มาใชใ้ นงานผลิตชิ*นงานตน้ แบบ ผลิตชิ*นงานเป็ นจาํ นวนนอ้ ย ใชเ้ วลาในการผลิตนาน รูปแม่พิมพ์อดั แสดงดงั ในรูป 2.3 รูปที 2.3 แม่พมิ พแ์ บบอดัส่วนแม่พิมพอ์ ดั ฉีดดงั แสดงในรูป 2.4 เป็นการพฒั นาแม่พิมพอ์ ดั ใหเ้ ป็ นการผลิตแบบอตั โนมตั ิ โดยพลาสติกจะยงั ไม่ถูกใส่ไปในแม่พมิ พโ์ ดยตรง พลาสติกจะถูกทาํ ใหร้ ้อนในกระบอกสูบก่อนทีจะถูกส่งไปยงั แม่พมิ พ์ ขอ้ แตกต่างระหวา่ งแม่พมิ พอ์ ดั ฉีดและแม่พิมพอ์ ดั อยทู่ ีโครงสร้างของแม่พิมพ์ โดยแม่พิมพอ์ ดั ฉีดจะตอ้ งมีหอ้ งอดั ซึงจะทาํ หนา้ ทีเชือมกบั เบา้ (Cavity) แม่พิมพด์ ว้ ยรูฉีด รูปที 2.4 แม่พิมพอ์ ดั ฉีดและกระบวนการอดั ฉีด สําหรับแม่พิมพอ์ ดั และอดั ฉีดจะใช้ในการผลิต เช่น ชิ*นส่วนยานยนต์ ชิ*นส่วนไฟฟ้ าและอิเลก็ ทรอนิกส์ เครืองใชใ้ นครัวเรือน เป็นตน้ ผลิตภณั ฑจ์ ากแม่พิมพอ์ ดั และอดั ฉีดแสดงดงั รูป 2.5
5 รูปที 2.5 ผลิตภณั ฑจ์ ากแม่พมิ พแ์ บบอดั และแบบอดั ฉีด (3) แม่พิมพแ์ บบเป่ า (Blow moulding) เป็ นแม่พิมพท์ ีใชใ้ นการผลิตภาชนะกลวงโดยการทาํ ใหพ้ ลาสติกเป็นสายท่อหรือหลอดแกว้ (Parison) แลว้ ใชล้ มเป่ าใหเ้ กิดรูปร่างตามแม่พิมพ์ แลว้ จึงทาํ การปลดชิ*นงาน ซึงวธิ ีการเป่ าแม่พิมพม์ ีอยู่ 3 วธิ ีหลกั คือ การเป่ าแบบ Extrusion (Extrusion blowmoulding) แสดงดงั รูป 2.6 การเป่ าฉีด (Injection blow moulding) แสดงดงั รูป 2.7 การเป่ าแลว้ ยืด(Stretch blow moulding) แสดงดงั รูป 2.8 ผลิตภณั ฑ์ทีไดจ้ ากการเป่ า เช่น ภาชนะกลวง ขวด ถงัแกลลอน แสดงดงั รูป 2.9 แม่พิมพ์เป่ าเป็ นแม่พิมพพ์ ลาสติกทีมีอตั ราการเติบโตเร็วมาก มีความตอ้ งการในตลาดสูง ประหยดั ค่าใชจ้ ่ายในการผลิต รูปที 2.6 แม่พมิ พเ์ ป่ าแบบการรีด (Extrusion) และกระบวนการเป่ าแบบการรีด (Extrusion)
6รูปที 2.7 แม่พิมพเ์ ป่ าแบบการฉีด (Injection) และกระบวนการเป่ าแบบการฉีด (Injection) รูปที 2.8 แม่พิมพเ์ ป่ าแบบกการยดื (Stretch) และกระบวนการเป่ าแบบการยดื (Stretch) รูปที 2.9 ผลิตภณั ฑจ์ ากแม่พิมพเ์ ป่ า
7 (4) แม่พิมพ์งานรีด (Extrusion) เพือผลิตชิ*นงานรูปพรรณต่างๆท*งั กลวงและตนั ยาวต่อเนืองไม่รู้จบ เช่น ท่อสายยาง กรอบประตู หน้าต่าง เป็ นตน้ ดงั แสดงในรูป 2.11 โดยเครืองExtrusion จะอดั และหลอมละลายพลาสติก จากน*นั จะถูกฉีดไปยงั เครืองมือสร้างรูปทรง (หวั ฉีด)ต่างๆแลว้ แต่ลกั ษณะงาน ในงานรีด (Extrusion) น*นั จะตอ้ งนาํ เครืองมืออืนๆเขา้ มาประกอบดว้ ยเช่น เครืองปรับขนาด เครืองดึง เครืองมว้ น เครืองตดั เป็ นตน้ ระบบงานรีด (Extrusion) แสดงดงั รูป2.10รูปที 2.10 หวั ฉีดทีใชใ้ นงานรีด (Extrusion) รูปที 2.11 ผลิตภณั ฑจ์ ากแม่พมิ พง์ านรีด (2) แม่พิมพง์ านเทอร์โมฟอร์มมิง (Thermoforming) ดงั แสดงในรูป 2.12 ใชใ้ นการผลิตชิ*นงานพลาสติกดว้ ยวิธีนาํ พลาสติกแผ่นบางมาอบให้ความร้อน จากน*นั จะใชส้ ุญญากาศดูดแผน่ พลาสติกใหย้ บุ ลงมาจนมีรูปร่างตามแม่พมิ พ์ ผลิตภณั ฑใ์ นงานเทอร์โมฟอร์มิง เช่น กล่องบรรจุไข่ ถว้ ยไอศกรีม ถว้ ยโยเกิร์ต เป็นตน้ ดงั แสดงในรูป 2.13รูปที 2.12 แม่พิมพท์ ีใชใ้ นงานเทอร์โมฟอร์มมิง รูปที 2.13 ผลิตภณั ฑจ์ ากแม่พิมพง์ านเทอร์โมฟอร์มมิง
82.1.2 ข*นั ตอนการสร้างแบบแม่พมิ พ์ ออกแบบแม่พมิ พ์ ภาพประกอบแม่พมิ พ์ ชิ*นส่วนมาตรฐาน ชินส่วนสร้างเองสังซ*ือจากผจู้ ดั จาํ หน่าย รายละเอียดแบบงาน วสั ดุทีใชท้ าํ แม่พมิ พ์เครืองจกั รกลทีใชใ้ นการสร้างช*ินส่วน เครืองมือตดั • เครืองกลงึ เครืองมือวดั • เครืองกดั ซอร์ฟแวร์ CAD/CAM • เครืองเจาะ • เครืองจกั รทคี วบคุมดว้ ยคอมพวิ เตอร์ ( CNC Machine) • เครืองเจียระไน • ฯลฯ กระบวนการอบชุบ ชิ*นงานสาํ เร็จ ตรวจสอบคุณภาพ ปรับประกอบ แม่พมิ พท์ ีสมบรู ณ์ รูปที 2.14 ข*นั ตอนการสร้างแม่พมิ พ์2.2 วสั ดุทีใชท้ าํ แม่พิมพ์ วตั ถุดิบหลกั ทีใชใ้ นการผลิตแม่พมิ พแ์ ละเครืองมือสาํ หรับงานแม่พิมพค์ ือเหลก็ โดยเหลก็ ทีใชใ้ นการทาํ แม่พิมพจ์ ะอยใู่ นกลุ่มของเหลก็ กลา้ เครืองมือ ซึงเหล็กกลา้ เครืองมือจดั เป็ นเหลก็ กลา้ ทีมีคาร์บอนและธาตุผสมอืนๆในปริมาณสูง เพือใหม้ ีความสามารถในการชุบแขง็ สูงเหมาะสาํ หรับการ
9ปรับปรุงคุณสมบตั ิตา้ นทานการสึกหรอ คุณสมบตั ิทีสาํ คญั ของเหลก็ กลา้ เครืองมือ ไดแ้ ก่ความสามารถในการชุบแขง็ (Harden ability) ความเหนียว (Toughness) ความทนต่อการเสียดสี(Wear resistance) การรักษาความแขง็ ไวไ้ ดท้ ีอุณหภูมิสูง (Red-hardness) ความสามารถในการตดัเฉือน (Machinability) ความตา้ นทานการสูญเสียคาร์บอน (Resistance to decarburization) และการไม่เปลียนรูปร่างหรือขนาด (Non deformation properties) 2.2.1 เหล็กกลา้ เครืองมือชุบแข็งดว้ ยน*าํ เป็ นเหล็กกลา้ คาร์บอน (Plain carbon) ทีผสมคาร์บอน ต*งั แต่ 0.60-1.40% ดงั น*นั คุณสมบตั ิดา้ นการชุบแขง็ หรือความลึกของผิวชุบแข็งจึงตาํ และจาํ เป็นตอ้ งชุบแขง็ ดว้ ยน*าํ ในบางเกรดอาจมีการผสมโครเมียมหรือวานาเดียมลงไปเล็กนอ้ ยเพือเพิมความสามารถในการชุบแข็ง และทนต่อการเสียดสี เหล็กกลา้ กลุ่มน*ีจะมีราคาถูกกวา่ กลุ่มอืน และมีจุดเด่น คือ สามารถกลึงไสเพอื ตกแต่งชิ*นงานไดง้ ่าย สูญเสียคาร์บอนทีผวิ ยาก จุดดอ้ ยของเหล็กกลุ่มน*ี คือ การชุบแข็งด้วยน*าํ อาจมีผลทาํ ให้ชิ*นงานบิดเบ*ียวได้ง่าย และไม่สามารถทนต่อความร้อนได้ จึงไม่สามารถใช้สําหรับงานตัดทีรุนแรงหรือใช้งานซ*ําๆ กันจนเกิดความร้อนได้ ดังน*ันโดยทวั ไปจึงไม่นิยมใชง้ านกนั อาจมีการใชง้ านบา้ งสําหรับทาํ เครืองมือตดั ทีใชค้ วามเร็วตาํ และตดัดว้ ยแรงเบาๆ เช่น ไม้ อะลูมิเนียม แม่พิมพส์ ําหรับทุบข*ึนรูปเยน็ (Cold heading) เป็ นตน้ ตวั อยา่ งการใชง้ านของเหล็กกลุ่มน*ี เช่น W1 W2 และ W5 2.2.2 เหล็กกลา้ เครืองมืองานเยน็ (Cold work tool steels) เป็ นกลุ่มทีใชผ้ ลิตเครืองมือสําหรับนาํ ไปใช้ในงานแปรรูปโลหะทีไม่ได้ให้ความร้อนก่อนการแปรรูป เช่น แม่พิมพต์ ดั แผ่นโลหะเยน็ ใบมีดตดั กระดาษ คดั เตอร์ เป็ นตน้ คุณสมบตั ิสาํ คญั ทีตอ้ งการสาํ หรับเหล็กกลา้ เครืองมือกลุ่มน*ี คือ ความสามารถในการกลึงไสดี เปลียนแปลงขนาดนอ้ ยหลงั การชุบแข็ง (เนืองจากการชุบแขง็ จะทาํ โดยการชุบน*าํ มนั หรือใหเ้ ยน็ ตวั ในอากาศ) ตา้ นทานการสึกหรอสูง และมีความเหนียวทนแรงอดั กระแทกไดด้ ี 2.2.3 เหล็กกลา้ เครืองมือทนต่อแรงกระแทก (Shock resisting tool steels) เป็ นเหล็กกลา้เครืองมือ ทีพฒั นาใหม้ ีความเหนียว ความแขง็ แรง และความตา้ นทานการสึกหรอสูง เพือใชส้ ําหรับงานทีตอ้ งรับแรงกระแทกซ*าํ ๆกนั เช่น สิว (Chisel) หวั กด (Punch) และแม่พิมพโ์ ลหะ (die) เป็ นตน้ โดยความเหนียวสูงเป็ นผลจากปริมาณคาร์บอนในระดบั ปานกลาง และทาํ ให้ภายหลงั การอบความร้อนทีเป็ นโครงสร้างมาร์เทนไซต์ และมีคาร์ไบด์ละเอียดทีกระจดั กระจาย นอกจากน*ีธาตุแมงกานีส โครเมียม โมลิบดินมั จะช่วยเพิมความสามารถในการชุบแขง็ และช่วยให้คงความแขง็ ไว้ไดด้ ีในขณะอบคืนตวั (Tempering) ซิลิกอนจะเพมิ ความแขง็ ใหก้ บั เฟอไรท์ และช่วยใหค้ งความแข็งไวไ้ ดด้ ีในขณะอบคืนตวั ดว้ ย แต่ขอ้ เสียของเหลก็ กลา้ เครืองมือกลุ่มน*ีเป็ นผลจากปริมาณซิลิกอน ซึงจะเร่งใหเ้ กิดการสูญเสียคาร์บอนทีผวิ ไดง้ ่าย ทาํ ใหค้ วามตา้ นทานต่อการสึกหรอ และความตา้ นทาน
10ต่อความลา้ ตาํ ลง ดงั น*นั ในการอบชุบความร้อนจะตอ้ งระวงั เรืองน*ีให้มาก เกรดทีนิยมใชง้ าน เช่นS1 S2 S5 และ S7 โดย S1 เป็ นเกรดทีนิยมใชง้ านมาก เพราะจะมีส่วนผสมของทงั สเตนดว้ ย ซึงจะเพิมคุณสมบตั ิตา้ นทานการสึกหรอ เพิมความเหนียว และเพิมความสามารถในการรักษาความแข็งไวไ้ ดท้ ีอุณหภูมิสูงให้ดีกวา่ เกรด S อืนๆ จึงสามารถใชใ้ นงานทีตอ้ งทนต่อความร้อนได้ การใชง้ านเช่น สิว ใบมีดตดั แม่พิมพข์ *ึนรูป ดอกเจาะหิน เป็นตน้ 2.2.4 เหล็กกลา้ เครืองมืองานร้อน (Hot work tool steels) ในงานบางประเภททีตอ้ งใช้อาศยั อุณหภูมิสูงในการแปรรูป เช่น งานตีข*ึนรูปร้อน (Hot forging) งานฉีดหล่อ (Die casting) งานรีดร้อน (Hot extrusion) งานตดั ร้อน (Hot shear blade) งานอดั ร้อน (Hot press) สิงสําคญั คือเหล็กกลา้ เครืองมือจะตอ้ งรักษาคุณสมบตั ิความแข็งทีอุณหภูมิสูงไดด้ ี (Red hardness) ตา้ นทานต่อการเปลียนแปลงอุณหภมู ิ (Thermal shock) ตา้ นทานต่อการอ่อนตวั ทีอุณหภูมิสูง และมีความเหนียวทีดี ธาตุผสมทีจะทาํ ใหไ้ ดค้ ุณสมบตั ิเหล่าน*ี ไดแ้ ก่ โครเมียม โมลิบดินมั และทงั สเตน ซึงผลรวมของธาตุเหล่าน*ีจะตอ้ งมีปริมาณอยา่ งนอ้ ย 5% 2.2.5 เหล็กกลา้ เครืองมือความเร็วสูง (High speed tool steels) เป็ นเหล็กกลา้ เครืองมือทีมีจุดมุ่งหมายหลกั สําหรับใช้เป็ นวสั ดุในการตดั โลหะดว้ ยความเร็วสูง เช่น ใบเลือย (Saws) ใบตดั(Milling cutters) เป็นตน้ คุณสมบตั ิสําคญั ของเหล็กกลา้ กลุ่มน*ี คือ ความสามารถในการรักษาความแขง็ ของคมตดั ทีอุณหภูมิสูงกวา่ ปกติไวไ้ ด้ (ความแขง็ ของคมตดั ยงั คงสภาพเดิม แมจ้ ะเกิดความร้อนจนร้อนจดั เป็นสีแดง) ซึงเหลก็ กลา้ เครืองมืองานร้อนจะรักษาความแขง็ ไวไ้ ม่ได้ เหล็กกลา้ เครืองมือความเร็วสูงทีมีการใชง้ านสามารถแบ่งออกไดเ้ ป็น 2 กลุ่ม คือ 1. เหลก็ กลา้ เครืองมือความเร็วสูงทีมีทงั สเตนเป็ นส่วนผสมหลกั ปริมาณทงั สเตนทีสูงมาก(12-20%) จะเพิมคุณสมบตั ิความสามารถรักษาความแข็งไวไ้ ดท้ ีอุณหภูมิสูง ปริมาณคาร์บอนกบัธาตุผสมทีสูงมีผลทาํ ใหค้ วามสามารถในการชุบแขง็ สูง และมีปริมาณคาร์ไบดท์ ีมีเสถียรภาพสูง (ไม่สลายตวั ทีอุณหภูมิสูง) ซึงจะมีผลทาํ ให้ตา้ นทานการสึกหรอดีเยียม นอกจากน*ีส่วนผสมของวานาเดียมซึงฟอร์มตวั เป็ นคาร์ไบด์ทีมีเสถียรภาพสูงและกระจายตวั จะช่วยป้ องกนั การขยายตวั ของเกรนไดใ้ นช่วงทีอุณหภูมิสูง และทาํ ให้เกรนมีความละเอียดซึงส่งผลถึงความเหนียวของเหล็กดว้ ยเกรดทีนิยมใชง้ าน คือ T1 v. เหล็กกลา้ เครืองมือความเร็วสูงทีมีโมลิบดินมั เป็ นส่วนผสมหลกั เป็ นกลุ่มทีมีคุณสมบตั ิใกล้เคียงกบั เหล็กกล้าเครืองมือความเร็วสูงทีมีทงั สเตนเป็ นส่วนผสมหลกั เนืองจากโมลิบดินมัส่งผลให้คุณสมบตั ิคลา้ ยคลึงกบั การผสมทงั สเตน โดยพบว่าคุณสมบตั ิทีสําคญั เช่น ความสามารถรักษาความแข็งไวไ้ ดท้ ีอุณหภูมิสูง การทนต่อการเสียดสี หรือความเหนียวจะใกลเ้ คียงกนั โดยโมลิบดินมั 1% จะแทนทงั สเตนประมาณ 1.6-2.0% สาํ หรับขอ้ แตกต่างมีเพียงเล็กนอ้ ย คือ กลุ่มทีผสม
11โมลิบดินัมจะตอ้ งระวงั การสูญเสียคาร์บอนในการอบชุบ เนืองจากทงั สเตนมีราคาสูงกว่าโมลิบดินัมมาก ปัจจุบนั การใช้งานส่วนใหญ่จึงนิยมกลุ่มทีผสมโมลิบดินมั เกรดทีนิยมใช้งาน เช่นM2 M4 และ M42 นอกจากน*ียงั ได้มีการพฒั นาเติมธาตุโคบอลต์มากกว่า 10% เพือให้ได้คุณสมบัติความสามารถรักษาความแขง็ ไวไ้ ดท้ ีอุณหภูมิสูงไดด้ ีกวา่ 2 กลุ่มแรก ทาํ ให้ไดเ้ หล็กกลา้ เครืองมือความเร็วสูงประเภทซุปเปอร์ (Super high speed tool steels) แต่สิงทีตอ้ งระวงั คือ การสูญเสียคาร์บอนในระหวา่ งการอบชุบ และการสนั และกระแทกแรงๆ เนืองจากเป็นเกรดทีเปราะมาก 2.2.6 เหล็กกลา้ เครืองมือสาํ หรับทาํ แม่พิมพพ์ ลาสติก (Plastic mold steels) เหล็กกลา้เครืองมือกลุ่มน*ีส่วนใหญ่จะใช้งานทีช่วงอุณหภูมิ 175-200°C ภายใตค้ วามดนั สูง มีการกดั กร่อนจากสารเคมี และต้องรับแรงเสียดสีกับผงพลาสติกด้วย ดังน*ันคุณสมบัติสําคัญจะต่างไปจากเหล็กกลา้ เครืองมือกลุ่มอืน โดยมีปัจจยั ทีตอ้ งพิจารณาถึงไดแ้ ก่ ความสามารถในการกลึงไส ความตา้ นทานแรงอดั ความแขง็ ทีผิวสูง ความแข็งแรงทีแกนสูง ความแน่นอนของขนาดภายหลงั การชุบแข็ง ความสามารถในการขดั ผิวให้เรียบ ความตา้ นทานการกดั กร่อนทีผิว ซึงจากคุณสมบตั ิขา้ งตน้หากนาํ เหลก็ กลา้ เครืองมือกลุ่มทาํ งานเยน็ หรือทาํ งานร้อนมาใชก้ ็อาจจะไม่ไดผ้ ลดีเท่ากบั การใชง้ านเหล็กกล้าทีใช้งานเฉพาะสําหรับกลุ่มน*ีเท่าน*ัน อย่างไรก็ตาม เหล็กกล้ากลุ่มน*ีสามารถใช้ผลิตแม่พมิ พง์ านหล่อแบบฉีดสาํ หรับโลหะผสมทีมีอุณหภูมิจุดหลอมเหลวตาํ เช่น สังกะสี และตะกวั ได้เช่นกนั เหล็กกลา้ แม่พิมพท์ ีมีการใชง้ านสามารถแบ่งออกไดเ้ ป็น 3 กลุ่ม คือ (1) เหลก็ กลา้ เครืองมือสาํ หรับทาํ แม่พิมพพ์ ลาสติกกลุ่ม Pre-hardened steels เป็ นกลุ่มทีมีคาร์บอนระดบั 0.20-0.30% มีโครเมียม นิเกิล และโมลิบดินมั ผสมในระดบั ปานกลาง เหล็กกลา้กลุ่มน*ีจะมีคุณสมบตั ิการกลึงไสดีมาก โดยในการผลิตแม่พิมพจ์ ะนาํ เหล็กมาชุบแข็งก่อนการเจาะหรือตดั ใหเ้ ป็นช่องวา่ ง และภายหลงั ทาํ เป็นแม่พมิ พแ์ ลว้ ก็ไม่จาํ เป็นตอ้ งชุบแขง็ อีกสามารถใชง้ านได้เลย หรืออาจทาํ การชุบแข็งผิวด้วยวิธีคาร์บูไรซิงเพือเพิมความแข็ง และการตา้ นทานต่อการสึกหรอ เกรดทีมีนิยมนาํ มาใชง้ าน ไดแ้ ก่ P20 ซึงเป็ นเกรดทีมีธาตุผสมตาํ ทาํ ใหก้ ารใชง้ านมีขอ้ จาํ กดัสาํ หรับชิ*นงานขนาดใหญ่ P20 ยงั เหมาะสมสาํ หรับนาํ ไปใชท้ าํ แม่พิมพง์ านฉีดหล่อ (Die casting)โลหะทีมีจุดหลอมเหลวตาํ เช่น สังกะสี ตะกวั และดีบุก อีกเกรดทีนิยม ไดแ้ ก่ P21 ซึงผสมนิเกิลและอะลูมิเนียม ทาํ ใหใ้ นระหวา่ งการอบชุบความร้อนจะเกิดการตกตะกอนของสารประกอบนิเกิล-อะลูมิเนียมทีช่วยเพิมความแขง็ ใหก้ บั โครงสร้างชิ*นงานได้ ดงั น*นั เกรดน*ีจึงมีคุณสมบตั ิทนต่อการสึกหรอ และมีความเหนียวมากกวา่ P20 ทีความแขง็ เดียวกนั สาํ หรับการชุบแข็งผิวเหล็กกลา้ เกรดน*ีจะไม่สามารถทาํ ไดด้ ว้ ยวธิ ีคาร์บไู รซิง แต่จะใชว้ ธิ ีไนตรายดิ*งแทน
12 (2) เหล็กกลา้ เครืองมือสาํ หรับทาํ แม่พิมพพ์ ลาสติกกลุ่ม Case hardening steels เป็ นกลุ่มทีมีคาร์บอนตาํ ระดบั 0.07-0.10% ดงั น*นั จึงมีคุณสมบตั ิทีเหมาะสมต่อการผลิตแม่พิมพด์ ว้ ยการกดัโดยการผลิตจะนาํ เหล็กกลา้ มาทาํ การอบอ่อนก่อนการกดั แลว้ จึงนาํ ไปชุบผิวแข็ง ซึงอาจทาํ ดว้ ยกระบวนการคาร์บูไรซิง หรือไนตรายดิ*ง (เนืองจากเหล็กกลุ่มน*ีไม่สามารถทาํ การชุบแข็งได้)สุดทา้ ยจึงนาํ ไปขดั ผวิ ใหเ้ รียบหรืออาจนาํ ไปเคลือบผิวดว้ ยโครเมียมแข็งเพือเพิมคุณสมบตั ิตา้ นทานการกดั กร่อน เกรดทีนิยมใชไ้ ดแ้ ก่ P4 และ P6 (3) เหล็กกลา้ เครืองมือสําหรับทาํ แม่พิมพ์พลาสติกทีทนการกดั กร่อนสูง ในการใช้งานแม่พิมพท์ ีตอ้ งการคุณสมบตั ิทนต่อการกดั กร่อนสูงสามารถทาํ ไดโ้ ดยการชุบผวิ ดว้ ยโครเมียม แต่ก็จะมีปัญหาทีเกิดจากการแตกร่อนของช*นั เคลือบเมือนาํ ไปใชง้ าน ดงั น*นั จึงมีการใชเ้ หล็กกลา้ ไร้สนิมชนิดมาร์เทนซิติก เช่น เกรด 420 440C เป็ นตน้ โดยจะใชใ้ นสภาวะทีตอ้ งการคุณสมบตั ิตา้ นทานการกดั กร่อนสูง เช่น การฉีดพลาสติกในกลุ่มพีวีซี อะซิเตท (ซึงอาจทาํ ให้เกิด HCl ในระหว่างกระบวนการฉีดพลาสติก) หรือการงานทีมีความช*ืนสูง หรือตอ้ งการผวิ งานทีสวยงาม โดยเหล็กกลา้กลุ่มน*ีจะมีความสามารถในการชุบแข็งสูง ตา้ นทานการกดั กร่อนไดด้ ีเยยี ม ตา้ นทานการเกิดออกซิเดชนั ทีอุณหภูมิสูง และมีคุณสมบตั ิคงรูปจากการอบชุบความร้อนไดด้ ี นอกจากน*ียงั มีการใช้งานสําหรับทาํ แม่พิมพฉ์ ีดแกว้ ดว้ ย เช่น แผ่นกระจกบนทีวี และคอมพิวเตอร์ ซึงในกระบวนการผลิตแกว้ จะตอ้ งการแม่พิมพท์ ีตา้ นทานต่อการสึกหรอสูง ตา้ นทานต่อการเกิดสเกลทีอุณหภูมิสูง ความแขง็ แรงทีอุณหภูมิสูง และความสามารถในการขดั ผวิ ใหเ้ รียบได้2.3 เครืองจกั รกล เครืองมือและซอฟแวร์ทีใชใ้ นการผลิตแม่พมิ พ์ 2.3.1เครืองจกั รกลทีใชใ้ นการผลิตแม่พิมพ์ เครืองจกั รทีใช้ในการตดั เฉือนโลหะในอุตสาหกรรมแม่พิมพแ์ ต่ละประเภทจะมีลกั ษณะคล้ายคลึงกัน โดยเครืองจักรทีมักพบโดยทัวไปในอุตสาหกรรมแม่พิมพ์สามารถจาํ แนกได้ดงั ต่อไปน*ี (1) เครืองกลึง (Lathe) ใชส้ าํ หรับข*ึนรูปชิ*นงานใหม้ ีรูปร่างลกั ษณะเป็ นทรงกระบอกโดยชิ*นงานจะหมุน มีดกลึงจะยดึ อยกู่ บั ทีแลว้ เคลือนทีเขา้ หาชิ*นงาน การกลึงใชผ้ ลิตชิ*นส่วนแม่พิมพท์ ีมีลกั ษณะเป็ นทรงกลมเป็ นส่วนมาก เช่นปลอกนาํ เพลานาํ ปลอกรองรับเพลาดนั ขบั สลกั ดนั กลบัปลอกเพลาดันปลด และยังสามารถผลิตชิ*นส่วนของเบ้าและคอร์ได้ ในกรณีทีเป็ นรูปร่างทรงกระบอก ชิ*นงานทีมีรูปร่างเป็ นเกลียวนอกและเกลียวใน เช่น เกลียวทีปลายของเพลากระทุง้ส่วนเบา้ หรือส่วนคอร์ทีเป็ นเกลียว การกลึงมีหลายวิธีเพือใหไ้ ดช้ ิ*นงานทีมีรูปร่างตามตอ้ งการคือกลึงปาดหนา้ (Facing) เพือลดขนาดความยาวของชิ*นงานพร้อมกนั น*นั ก็ปาดผิวหนา้ ให้เรียบ กลึงปอก (Turning) เพือลดขนาดเส้นผา่ นศูนยก์ ลางของชิ*นงาน กลึงเรียว (Tapering) เพือใหช้ ิ*นงานมี
13รูปทรงเรียวตามตอ้ งการ กลึงโคง้ รัศมี (Curved cutting) เพือให้ชิ*นงานมีรัศมีโคง้ กลึงเซาะร่อง(Grooving) เพือก่อให้เกิดร่องข*ึนบนชิ*นงาน กลึงตดั (Parting off) เพือตดั แยกชิ*นงานให้ขาดออกจากกนั กลึงควา้ นรูใน (Boring) ใชก้ บั งานทาํ รูในขนาดใหญ่ ปกติมกั เริมตน้ ดว้ ยการเจาะรูดว้ ยดอกสวา่ นก่อนทีจะทาํ การควา้ นใหไ้ ดข้ นาดตามตอ้ งการ กลึงเกลียวนอก (External Threading) เพือทาํเกลียวนอก กลึงเกลียวใน (Internal Threading) เพือทาํ เกลียวใน กลึงข*ึนรูป (Forming) ใชข้ *ึนรูปชิ*นงานใหม้ ีรูปร่างและขนาดตามตอ้ งการ โดยการลบั มีดใหไ้ ดก้ บั รูปร่างทีจะใชท้ าํ การกลึง กลึงข*ึนลาย (Knurling) ใช้ข*ึนลายบนเน*ือวสั ดุ ส่วนใหญ่ใช้กบั ชิ*นงานทีเป็ นส่วนมือจบั เพือกันลืน รูปเครืองกลึงแสดงในรูปที 2-15 รูปที 2.15 เครืองกลึงมือ (NC) (2) เครืองกดั (Milling) เป็ นเครืองจกั รกลทีใชผ้ ลิตชิ*นส่วนของแม่พิมพไ์ ดม้ ากมายโดยตดัเฉือนแผ่นแม่พิมพ์ในลกั ษณะของการปาดผิวดว้ ยมีดกดั ทีมีรูปทรงต่างๆกนั ให้เป็ นแอ่งหรือเบา้ ทีตอ้ งการได้ นอกจากน*ีการใชม้ ีดกดั ทีมีรูปฟอร์มหนา้ ตดั แบบต่างๆจะทาํ ใหส้ ามารถกดั ชิ*นงานให้มีรูปร่างตามตอ้ งการได้ แต่หากตอ้ งใชใ้ นงานกดั ทีมีรูปทรงสามมิติจะกระทาํ ไดย้ ากและมกั จะพบอยู่เสมอในการทาํ เบา้ และคอร์ของแม่พิมพ์ ดงั น*นั จึงจาํ เป็ นตอ้ งใชเ้ ครืองจกั รทีมีการลอกแบบ เช่นเครืองกดั ลอกแบบและเครืองกดั CNC เป็ นตน้ กดั ผิวเรียบ (Plain milling) เพือทาํ ใหก้ ารลดขนาดของชิ*นงานและไดผ้ ิวราบเรียบกดั ร่อง (Slot cutting) เพือใหเ้ กิดร่องสีเหลียมข*ึนบนชิ*นงาน กดั ขา้ ง(Side cutting) เพือตบแต่งของขา้ งของชิ*นงานให้เรียบ กดั เบา้ (Pocketing) เพือกดั ชิ*นงานให้เป็ นหลุมลึกลงไป กดั รูปร่าง (Contouring) เพือกดั ใหไ้ ดร้ ูปร่างโคง้ เวา้ ตามทีตอ้ งการ
14 รูปที 2.16 เครืองกดั แนวต*งั (3) เครืองเจาะ (Drilling) เป็ นเครืองทีมีใช้อยทู่ วั ไปเหมาะสาํ หรับงานทีไม่ตอ้ งการความละเอียดมาก เช่น เจาะรูระบบหล่อเยน็ เจาะรูร้อยสกรูสําหรับยึดแม่พิมพ์ เจาะรูทาํ เกลียว เจาะรูสาํ หรับปลดสลกั และสลกั ดนั กลบั สาํ หรับเครืองเจาะทีมีความเทียงตรงสูงสามารถใชเ้ จาะรูใส่ปอกนาํ และเพลานาํ ไดเ้ จาะ (Drill) เพือให้ไดร้ ูตามทีตอ้ งการ การเจาะมีหลายลกั ษณะ คือ การรีมเมอร์(Ream) เพือใหไ้ ดร้ ูทีมีผวิ เรียบและค่าคาดเคลือนตามทีตอ้ งการ การทาํ เกลียวใน (Tap) เพือทาํ เกลียวใน การลบมุมคม (Chamfer) เพอื ลบมุมคมทีปากรูเจาะ การทาํ บ่าฉาก (Counter bore)เพือทาํ บ่าฉากใส่หวั สกรู การทาํ บ่าองศา (Counter sink) เพอื ทาํ บ่าองศาใส่หวั สกรู รูปที 2.17 เครืองเจาะ
15 (4) เครืองเจียระไน (Grinding) ใชผ้ ลิตชิ*นส่วนทีตอ้ งสวมประกอบเขา้ ดว้ ยกนั เช่น ผิวของแผน่ แม่พมิ พ์ ชิ*นส่วนทีตอ้ งการความเทียงตรงสูงและมีผิวสัมผสั ทีเรียบเสมอกนั โดยจะทาํ การเจียรระไนลดขนาดชิ*นส่วนเหล่าน*ีโดยใชห้ ินขดั ไปทาํ การตดั เฉือนชิ*นงาน เครืองเจียระไนมีอยู่ 2 ชนิดคือ เครืองเจียระไนราบ (Surface grinding) ใชส้ ําหรับงานเจียระไนผวิ ราบให้เรียบแบนขนานกบั เจียระไนผา่ ฉากหรือเจียระไนผวิ งานใหเ้ ป็นมุมต่างๆ รูปที 2.18 เครืองเจียระไนราบ เครืองเจียระไนกลม (Cylindrical grinding) ใชส้ าํ หรับผลิตชิ*นส่วนทรงกระบอก สามารถเจียรระไนท*งั ผวิ นอกและผวิ ภายในของชิ*นงานใหม้ ีความเทียงตรง และคุณภาพความละเอียดของผิวตามทีตอ้ งการ ดงั แสดงในรูปที 2-19 รูปที 2.19 เครืองเจียระไนกลม
16 (5) เครือง NC และ CNC (Numerical Control and Computerized Numerical Control) เป็ นเครืองจกั รทีถูกควบคุมการทาํ งานดว้ ยอนุกรมของรหสั ควบคุมเครือง รหสั ประกอบไปดว้ ยตวั เลขตวั อกั ษร และสัญลกั ษณ์อืนๆ รหสั เหล่าน*ีจะถูกแปลงให้เป็ นสัญญาณไฟฟ้ าแลว้ ส่งไปกระตุน้ ให้มอเตอร์และอุปกรณ์ต่างๆของเครืองจกั รทาํ งานในลกั ษณะของการเคลือนทีและการปรับเปลียนอตั ราเร็วในการเคลือนทีรวมถึงการทาํ งานอืนๆ ดว้ ย อนุกรมรหัสป้ อนเขา้ เครืองจกั รเพือควบคุมเครืองจกั รให้ผลิตชิ*นงานตามทีตอ้ งการเรียกว่าโปรแกรมชิ*นงาน (Part Program of Work PieceProgram) ความยาวของโปรแกรมจะมากหรือนอ้ ยข*ึนอยกู่ บั ลกั ษณะของชิ*นงานวา่ มีความซบั ซ้อนของรูปร่างมากนอ้ ยเพียงใด อุปกรณ์ทีเป็ นตวั เชือมระหว่างโปรแกรมชิ*นงานกบั เครืองจกั รเรียกว่าNC Unit ทาํ หนา้ ทีควบคุมการทาํ งานของเครืองจกั รน*นั ๆ และถา้ เครืองจกั ร NC มีคอมพิวเตอร์ประกอบเขา้ ไปเพือเพิมสมรรถนะของเครืองจกั รข*ึนอีก ไม่ว่าจะเป็ นดา้ นการเขียน และตรวจสอบโปรแกรมใหง้ ่ายข*ึนเร็วข*ึน การป้ อนโปรแกรมและการติดต่อกบั เครืองทีสะดวกข*ึน และการควบคุมเครืองโดยผูป้ ฏิบตั ิงานกบั เครืองทีง่ายข*ึนเหล่าน*ี เครืองจกั รน*นั ๆจะเรียกว่าเครืองจกั ร CNC และมีหลกั การทาํ งานดงั รูป 2-20 โดยเครืองกดั CNC จะมีลกั ษณะดงั รูป 2-21 และเครืองกลึง CNC จะมีลกั ษณะดงั รูป 2-22ชดุ ตรวจวดั และสง่ เครือง CNC ชดุ แปลงสญั ญาณไฟฟ้ าสญั ญาณป้ อนกลบั แผงควบคมุ โปรแกรม รูปที 2.20 หลกั การทาํ งานเครืองกดั CNC1. โปรแกรมคอมพวิ เตอร์สาํ หรับเครืองซีเอน็ ซี2. แผงควบคุมเครืองซีเอน็ ซี3. ชุดแปลงสญั ญาณไฟฟ้ า
174. เครืองซีเอ็นซี5. ชุดตรวจวดั และส่งสัญญาณป้ อนกลบั ไปยงั แผงควบคุมซีเอน็ ซีรูปที 2.21 เครืองกดั CNC รูปที 2.22 เครืองกลึง CNC ปัจจุบนั ไดม้ ีการพฒั นา เครืองจกั ร CNC ใหม้ ีสมรรถนะในการทาํ งานทีมีความเร็วในการตดั เฉือนเพือข*ึนรูปชิ*นงาน ทีเรียกวา่ เครืองจกั ร High Speed Machining มาใชใ้ นการสร้างแม่พิมพ์ซึงเป็นเครืองจกั รทีนาํ มาใชก้ บั เหลก็ ทีมีความแข็ง 60-63 HRc ทีตอ้ งอาศยั เครืองมือตดั และชุดจบั ยดึเครืองมือตดั ให้เหมาะสมกบั แต่ละข*นั ตอนการผลิต เพือให้ไดแ้ ม่พิมพท์ ีมีคุณภาพ นอกจากน*ีการเลือกแบบการเดินของเครืองมือตดั (Tool path) ขอ้ มูลการตดั และวธิ ีการตดั ก็เป็ นปัจจยั ทีสําคญั ทีทาํ ให้การผลิตมีประสิทธิภาพมากยิงข*ึน ทาํ ให้เกิดการใช้ เครืองจกั ร High Speed Machining ในงานทาํ แม่พมิ พอ์ ยา่ งแพร่หลาย โดยมีจุดประสงคเ์ พือลดตน้ ทุนการผลิตโดยเฉพาะในงานเก็บผวิ งานละเอียดข*นั สุดทา้ ย ของชิ*นงานทีมีผา่ นขบวนการชุบแข็งมาแลว้ ทาํ ให้ประหยดั แรงงานในงานขดัดว้ ยมือและเวลาประกอบแม่พิมพใ์ หน้ อ้ ยลง (6) เครืองกดั โลหะดว้ ยไฟฟ้ า (Electrical Discharge Machining) ทีปรากฏในรูป 2-37 ใช้ในงานผลิตชิ*นงานทีมีรูปร่างซบั ซอ้ นทีทาํ ดว้ ยวธิ ีการตดั เฉือนทวั ไปไดย้ าก สามารถตดั เฉือนชิ*นงานทีผา่ นการชุบแขง็ มาแลว้ ใชผ้ ลิตส่วนเบา้ ของแม่พมิ พ์ การตดั เฉือนโลหะจะใชก้ ารกดั เซาะทางไฟฟ้ ามีอิเลก็ โทรดเป็นตวั นาํ ไฟฟ้ า ขอ้ เสียคือ ในงานทีตอ้ งการความละเอียดจะตอ้ งใชต้ วั อิเล็กโทรดหลายอนั และงานทีซบั ซอ้ นจะมีค่าใชจ้ ่ายในการผลิตสูง (7) เครืองตดั โลหะดว้ ยไฟฟ้ า (Wire Cutting Machine) ตามในรูปที 2-38 จดั เป็ นเครืองจกั รประเภทเดียวกบั เครือง EDM แต่เปลียนจากการใช้ อิเล็กโทรดเป็ นตวั ตดั เฉือนชิ*นงานมาใช้ลวดทองเหลืองเป็ นตวั ตดั ใหไ้ ดร้ ูปร่างตามตอ้ งการในแนวต*งั เครือง Wire cut เป็ นเครืองทีตดั งานดว้ ยความเทียงตรงขนาดสูงมาก สามารถควบคุมขนาดไดเ้ ล็กกวา่ 5 ไมครอน เนืองจากมีค่าใชจ้ ่ายสูงในการทาํ ชิ*นงานจึงเหมาะกบั งานทีตอ้ งการความเทียงตรงสูง
18 รูปที 2.23 เครืองกดั โลหะดว้ ยไฟฟ้ า2.3.1 เครืองมือวดั ละเอียด ในระหวา่ งการสร้างชิ*นส่วนต่างๆ ทีเป็นส่วนประกอบของแม่พมิ พ์ จาํ เป็ นตอ้ งมีการตรวจสอบขนาดของชิ*นงานตลอดระยะเวลาการทาํ งาน ดงั น*นั เครืองมือวดั ละเอียดจึงมีบทบาทในการควบคุมขนาดของชิ*นงานใหเ้ ป็นไปตามแบบงานทีกาํ หนด สาํ หรับเครืองมือวดั ระเอียดทีใชเ้ ป็นประจาํ มีดงั น*ี 2.3.1.1 ฉาก เป็นเครืองมือวดั ละเอียดทีใชใ้ นการตรวจสอบความไดฉ้ ากของผวิ งานทีผา่ นการข*ึนรูปในงานทีเป็ นรูปทรงเหลียม 2.3.1.2 เวอร์เนียคาลิเปอร์ เป็นเครืองมือวดั พ*ืนฐานทีผอู้ ยใู่ นแวดวงการสร้างชิ*นงานทวั ไปตอ้ งมีความรู้ในการใชง้ าน เพราะเวอร์เนียคาลิเปอร์จะเป็ นเครืองมือวดั ละเอียดทีใชง้ านครอบคลุมรูปทรงทางเรขาคณิตของชิ*นงาน เช่น ทรงกระบอก ทรงกลม รูปเหลียมต่าง เป็ นตน้ โดยค่าความละเอียดของเวอร์เนียคาลิเปอร์น*ี มีค่า 0.01 มิลลิเมตร ซึงมีท*งั การอ่านค่าดว้ ยสเกล และอ่านค่าเป็ นตวั เลข (Digital display) 2.3.1.3ไมโครมิเตอร์ มีการใชง้ านเช่นเดียวกบั เวอร์เนียคาลิเปอร์ แต่ความละเอียดของสามารถอ่านไดถ้ ึง 0.001 มิลลิเมตร 2.3.1.4เกจวดั ขนาด เป็ นเครืองมือวดั ละเอียดทีใชใ้ นการเทียบค่าของเครืองมือวดั ละเอียดตวั อืนๆ หรือนาํ มาใชเ้ พือการตรวจสอบความถูกตอ้ งของขนาดชิ*นงาน สามารถวดั ค่าความละเอียดไดถ้ ึง 0.0001 มิลลิเมตร นอกจากน*ีเครืองมือวดั ละเอียดบางชนิดยงั ถูกนาํ มาใชใ้ นการควบคุม
19คุณภาพของชิ*นงาน เช่น เกจวดั ระยะพิตของเกลียว เกจวดั รัศมีความโคง้ นาฬิกาวดั รวมท*งั เครืองวดั3แนวแกน (Coordinate Measuring Machine) เป็นตน้2.4 ประเภทของเช*ือพลาสติก 2.4.1 Polyamide (PA) คุณสมบตั ิทีสําคญั ของ PAคือเหนียว,แกร่ง,ขยายตวั ได้มาก,ทนต่อสารเคมี,ทนต่อการขีดข่วน,การขัดสี,ทนต่อความร้อนดูดซึมน*ําได้มาก การใช้งานของ PAกวา้ งขวางมาก เช่น ใชท้ าํ แบริง บูซ๊ เฟื อง เกีย วาลว์ ลอ้ จกั รยานยนตเ์ ป็นตน้ 2.4.2 Polycarbonate (PC) มีคุณสมบตั ิทีสาํ คญั คือ โปร่งใส แขง็ ทนต่อความร้อนสูง ทนทานต่อกรดแต่ไม่ทนด่าง ทนแรงกระแทกไดด้ ี ใชท้ าํ ขวดนมเด็ก ถว้ ยชาม ส่วนประกอบรถยนต์ กระจกหนา้ หมวกนกั บิน แวน่ ตานิรภยั เลนส์กลอ้ งถ่ายภาพ หลงั คาโปร่งแสง เครืองป้ องกนั อคั คีภยั เครืองกรองเลือด 2.4.3 Polypropylene (PP) มีสมบตั ิเชิงกลดีมาก เหนียว ทนต่อแรงดึง แรงกระแทกและทรงตวั ดีมีจุดหลอมตวั ที 165 C ไอน*าํ และออกซิเจนซึมผา่ นไดต้ าํ เป็ นฉนวนไฟฟ้ าทีดีมาก มีการนาํ เอา PPไปใชง้ านในลกั ษณะเดียวกบั (PE) เมือตอ้ งการใหม้ ีคุณสมบตั ิทีดีข*ึน (PP) ไดถ้ ูกนาํ ไปใชง้ านอยา่ งกวา้ งขวาง ตวั อย่างเช่นถงั น*าํ มนั ชิ*นส่วนรถยนต์ เครืองใชไ้ ฟฟ้ า เฟอร์นิเจอร์ ภาชนะเครืองใช้ในครัวเรือน เป็นตน้ 2.4.4 Polystyrene คุณสมบตั ิเด่นๆอีกคือ มีความแข็งมาก ไม่ยืดหยุ่น และเปราะ ไม่ดูดความช*ืนและน*าํ ไม่มีรส ไม่มีกลิน เป็ นฉนวนไฟฟ้ า มีอุณหภูมิกลาสทรานซิชนั (Tg) ประมาณ100 C จึงทนความร้อนไดต้ าํ ถ้าสัมผสั กบั แสงแดดทีอุณหภูมิสูงเป็ นเวลานานๆ อาจเปลียนเป็ นสีเหลืองและเกิดรอยแตกไดเ้ ฉือยต่vสารเคมี ทนต่อกรดแก่และเบสแก่ กนั การซึมผา่ นของก๊าซไดด้ ีไดถ้ ูกนาํ ไปใชง้ านอยา่ งกวา้ งขวาง เช่น ใชท้ าํ อุปกรณ์เครืองเขียน เครืองประดบั ส้นรองเทา้ กระดุม
Search
Read the Text Version
- 1 - 17
Pages: