ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง นายยก ชูบัว
ก จัดทำโดย กลุ่มชีเปลือย ม.5/2 1.นายชนกภัทร์ จุลนวล เลขที่ 2 2.นายปรีดิ์ณัฐ พวงศรีพงศ์ เลขที่ 6 3.นายสุวิจักขณ์ หนูเกลี้ยง เลขที่ 10 4.นางสาวชนาทิพย์ พรหมแสง เลขที่ 14 5.นางสาวธนภรณ์ จันทร์ทิพย์ เลขที่ 19 6.นางสาวพิช์ญาสินี วิเชียรสว่าง เลขที่ 23 7.นางสาวสาริศา กมลอเนกคุณ เลขที่ 27 เสนอ คุณครูตรีชฎา รักษ์บางแหลม รายวิชา ศ32102 นาฏศิลป์ 4 ภาคเรียนที่ 2/2564 โรงเรียนเบญจมราชูทิศ เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราชเขต 12
ข คำนำ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา ศ32102 นาฏศิลป์ 4 จัดทำขึ้นเพื่อศึกษาประวัติและรวบรวมผลงานต่างๆของนาย ยก ชูบัว ซึ่งเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ผู้จัดทำได้เลือกศิลปินท่านนี้ เนื่องจากท่านเป็นศิลปินผู้มีความโดดเด่น ด้านมโนราห์ ซึ่่งถือเป็นศิลปะการแสดงที่โดดเด่นอย่างหนึ่งของภาคใต้ ทั้งนี้ผู้จัดทำหวังว่าหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้จะให้ความรู้ และเป็น ประโยชน์แก่ผู้อ่านทุก ๆ ท่าน หากมีข้อผิดพลาดประการใด ผู้จัดทำขออภัย มา ณ ที่นี้ คณะผู้จัดทำ
สารบัญ ค เรื่อง หน้า รายชื่อผู้จัดทำ ก คำนำ ข สารบัญ ค ชีวประวัติ 1 การทำงาน 5 บุคลิกนิสัย 7 แรงบันดาลใจในการแสดงโนรา 8 ผลงาน 9
1 นายยก ชูบัว (โนรายก) ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (โนรา) ประจำปีพ.ศ. 2530
2
3 ชีวประวัติ โนรายก ชูบัว เกิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2465 ตรงกับวันเสาร์ แรม 2 ค่ำ เดือนสิบเอ็ด ปีจอ ที่บ้านทะเลน้อย ตำบลพนางตุง อำเภอ ควนขนุน จังหวัดพัทลุง มีอาชีพทำนา มารดาชื่อเอี่ยม เป็นชาวบ้านนาพรุ ตำบลเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง และบิดามารดาประกอบอาชีพทำนา โนรายก เป็นบุตรคนเดียวของบิดามารดา เมื่อโนรายก ชูบัว มีอายุได้ 3 ปี บิดา มารดาได้แยกทางกัน สาเหตุที่โนรายก ชูบัว ได้ชื่อว่า \"\"ยก\"\" เนื่องจากเมื่อตอนที่ท่านเกิดนั้น ท่านเป็นเด็กที่มีสุขภาพไม่ค่อยจะดี บิดามารดาและญาติพี่น้องต่างก็คิดว่า ท่านคงจะไม่รอดชีวิต จึงได้นำท่านห่อด้วยผ้าขาวเพื่อจัดเตรียมจะนำไปฝัง แล้ว เมื่อข่าวคราวนี้ได้ล่วงรู้ไปถึงตา ชื่อ \"\"อ้น\"\" หรือที่ชาวบ้านรู้จักกัน ทั่วไปในนามของ \"\"โนราถั่วเขียว\"\" ซึ่งเป็นโนราที่มีชื่อเสียงมากคนหนึ่งใน จังหวัดพัทลุงสมัยนั้น โนราถั่วเขียวจึงได้บนบานกับครูหมอตายายโนรา (เชื่อกันว่าเป็นวิญญาณของบรรพบุรุษซึ่งเป็นที่นับถือของโนรา) เพื่อขอให้ โนรายก ชูบัว ซึ่งเป็นหลานชายรอดชีวิต โดยได้บนบานไว้ว่า \"\"ถ้ารอดชีวิต แล้วจะให้ออกพรานสักคน\"\" (คือจะให้แสดงโนราสืบทอดต่อไป) เพราะ ตนเองก็แก่มากแล้วคงจะรำโนราไปได้อีกไม่นาน ดังนั้น เมื่อโนรายกรอด ชีวิต โนราถั่วเขียวจึงเชื่อว่าเป็นเพราะอำนาจของครูหมอตายายโนราได้ ช่วยชีวิตไว้ ด้วยเหตุนี้เองโนราถั่วเขียว จึงให้ชื่อหลานชายว่า \"ยก” ซึ่ง หมายถึงการยกให้เป็นลูกของครูหมอตายายโนรา ด้านการศึกษานั้น ปู่ของโนรายก ได้สอนหนังสือให้โนรายกอ่านออก เขียนได้ก่อนที่จะเข้าโรงเรียน และเมื่ออ่านออกเขียนได้ท่านจะต้องอ่าน หนังสือวรรณคดีให้ปู่ฟังแทบทุกวัน ทำให้โนรายกอ่านหนังสือได้ดีขึ้นตาม ลำดับจนกระทั่งโนรายก มีอายุได้ 8 ปี เมื่อปีพ.ศ.2473 ปู่จึงได้พาโนรายก ไปเข้าเรียนหนังสือ ที่โรงเรียนวัดควนพนางตุง ตำบลพนางตุง อำเภอ ควนขนุน จังหวัดพัทลุง ทางโรงเรียนเห็นว่าท่านสามารถอ่านออกเขียนได้ เป็นอย่างดีมาแล้ว จึงให้เริ่มเรียนในชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โนรายกเรียน หนังสือที่โรงเรียนนี้จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งถือเป็นชั้นสูงสุดของ โรงเรียน
4 ชีวประวัติ โนรายก ชูบัว ได้เล่าถึงความสนใจในระหว่างที่ท่านกำลังเรียนหนังสือ อยู่ที่โรงเรียนนี้ ซึ่งสรุปได้ว่า ในระหว่างที่ท่านกำลังเรียนหนังสืออยู่ในชั้น ประถมศึกษานั้นท่านมีความสนใจในการเล่นลิเกป่า (เนื่องจากบิดาเคยเล่น ลิเกป่ามาก่อน) อีกทั้งชอบว่าบทกลอนและอ่านหนังสือ วรรณคดีต่าง ๆ จากการที่ท่านเป็นคนเจ้าบทเจ้ากลอนและมีความสามารถในการเล่นลิเกป่า ดังนั้น เมื่อทางโรงเรียนจัดให้มีงานต่าง ๆ ท่านมักจะได้รับการคัดเลือกให้ แสดงลิเกและท่านมักจะแสดงเป็นตัวนางเงือกในเรื่องที่ลิเกใช้แสดง ซึ่ง แสดงให้เห็นได้ชัดว่า โนรายกเป็นผู้ที่มีใจรักทางการรำและการแสดงมา ตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นเด็ก พ.ศ.2488 ซึ่งขณะนั้นโนรายกยังคงรับราชการตำรวจอยู่นั้น ท่านได้ สมรสกับนางสาวกล่ำ พงศ์ชนะ (เป็นหลานสาว)ของโนราเลื่อน พงศ์ชนะ หลังจากแต่งงานแล้วท่านได้ย้ายกลับมาอยู่ร่วมกับภรรยาที่บ้านโคกคราม ตำบลบ้านใหม่ อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา มาจนถึงปัจจุบัน แต่ท่านกับ ภรรยาก็ไม่มีบุตรด้วยกัน ทั้งสองจึงได้ขอเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมาเลี้ยงเป็น บุตรบุญธรรมและตั้งชื่อให้ว่า \"\"โนรี\"\" ซึ่งเป็นชื่อที่หมายถึง\"\"โนราผู้หญิง\"\" เดือนมิถุนายน พ.ศ.2549 โนรายก ชูบัว ได้ล้มป่วยและได้เข้ารับการ รักษาที่โรงพยาบาลระโนด เมื่อมีอาการดีขึ้นจึงได้เดินทางกลับบ้าน จนเมื่อ วันที่ 8 สิงหาคม 2549 โนรายกได้ถึงแก่กรรมด้วยโรคชรา ณ บ้านเลขที่ 383 หมู่ที่ 4 อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา รวมอายุได้ 83 ปี 10 เดือน และงานพระราชทานเพลิงศพนั้นจัดขึ้นเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ.2549 ณ วัดราษฏร์บำรุง อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา
5 การทำงาน พ.ศ.2478 ครูทิม พุฒชู ซึ่งเป็นครูใหญ่โรงเรียนวัดทะเลน้อย อำเภอ ควนขนุน จังหวัดพัทลุง ได้มาติดต่อขอให้โนรายกไปเป็นครูที่โรงเรียน วัดทะเลน้อย เนื่องจากขณะนั้นทางโรงเรียนขาดอัตรากำลังครู โดยได้ ตกลงว่าจะให้เงินเดือนท่านเดือนละ 8 บาท แต่โนรายกก็ตอบปฏิเสธ เนื่องจากขณะนั้นท่านได้ตัดสินใจที่จะไปรำโนราอยู่กับคณะโนราเลื่อน พงศ์ชนะ ญาติผู้ใหญ่ทางฝ่ายภรรยา เมื่อโนรายกรำโนราเสร็จแล้ว ท่านจะกลับไปพักอยู่ที่บ้านของท่านเอง โดยท่านจะมีรายได้จากการรำ โนราคืนละ 1 บาท (เฉพาะคืนที่รำโนรา) ซึ่งเมื่อรวมรายได้แล้วท่านจะ มีรายได้จากการรำโนราเฉลี่ยเดือนละ 20 บาท อีกทั้งท่านเห็นว่าการ รำโนราอยู่กับคณะโนราเลื่อนเป็นการฝึกความชำนาญและเป็นการ เพิ่มประสบการณ์ในการรำโนราให้กับตนเองได้เป็นอย่างดีและเท่ากับ เป็นการเปิดโอกาสให้ท่านมีชื่อเสียงในการรำโนรามากยิ่งขึ้น พ.ศ.2481 โนรายก ชูบัว มีอายุได้ 16 ปี ท่านจึงได้ขอแยกตัวจาก คณะโนราเลื่อน พงศ์ชนะ มาตั้งคณะโนราของตนเองขึ้น โดยใช้ชื่อ คณะโนราของตนเองว่า \"\"โนรายก ทะเลน้อย\"\" ซึ่งเป็นการนำเอาชื่อ ของตนเองและชื่อบ้านเกิดของท่านมารวมกันเป็นชื่อของคณะโนรา โดยโนรายกได้รับงานแสดงโนราทั่วเกือบทุกจังหวัดในภาคใต้ และใน ทางภาคกลางด้วย โดยท่านจะรับงานแสดงโนรามากเป็นพิเศษในเขต จังหวัดภูเก็ต พังงา และพัทลุง ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ที่ท่านเคยไปแสดง โนราเป็นประจำเมื่อครั้งอยู่กับคณะของโนราเลื่อน ประกอบกับท่านยัง มีความสนิทสนมกับผู้ชมหลายคน โดยเฉพาะมีความสนิทสนมกับ \"\"แม่ยก\"\"เป็นอย่างดีและท่านเองมักจะแสดงโนราสลับเขตพื้นที่คนละ ช่วงฤดูกันระหว่างในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและพังงาเขตหนึ่งกับใน เขตพื้นที่จังหวัดพัทลุงอีกเขตหนึ่ง เป็นเวลานานถึง 4 ปี หลังจากนั้น โนรายกจึงได้เข้าพิธีครอบเทริด (หรือพิธีผูกผ้าใหญ่) โดยมีโนราวัน (เฒ่า) โนราที่มีชื่อเสียงมากคนหนึ่งในสมัยนั้น ซึ่งอยู่ที่บ้านหลวงครู ตำบลอินคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นผู้ทำพิธีครอบเทริดให้ ซึ่ง พิธีครอบเทริดถือว่าเป็นพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์และมีความสำคัญมากต่อผู้ที่มี อาชีพเป็นโนรา
6 การทำงาน พ.ศ.2486 โนรายกมีอายุได้ 21 ปี โดยท่านได้เข้าอุปสมบทตาม ประเพณี ณ วัดควนพันแต อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง โดยมีพ่อ ท่านแก้ว วัดควนพันแต,พ่อท่านคล้าย วัดลนทรา และพ่อท่านนวล วัด ประดู่หอม(บน) ตำบลทะเลน้อย อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง เป็น พระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า \"\"ธมมทินโน\"\" และได้ไปจำพรรษาอยู่ที่ วัดทะเลน้อย อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง เป็นเวลา 1 พรรษา จึงได้ ลาสิกขา และหลังจากนั้นท่านได้รับการคัดเลือกด้วยวิธีการจับฉลาก เข้ารับราชการเป็นพลตำรวจ ณ สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองพัทลุง ตำบลคูหาสวรรค์ อำเภอเมืองพัทลุง โดยได้รับเงินเดือน ๆ ละ 11 บาท 2 สลึง ในระหว่างที่รับราชการตำรวจอยู่นั้น โนรายกก็ยังคงแสดง โนราควบคู่ไปด้วย พ.ศ.2489 อายุได้ 24 ปี โนรายกได้ลาออกจากการรับราชการตำรวจ กลับมาอยู่ร่วมกับภรรยาที่บ้านโคกคราม ตำบลบ้านใหม่ อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา พ.ศ.2490 โนรายกได้นำคณะโนราเข้าร่วมประชันโนรา ผลปรากฏว่า คณะของโนรายกได้รับชัยชนะอีก และสามารถชนะในการประชันโนรา ติดต่อกันถึง 13 ปี ซึ่งแสดงให้เห็นว่าโนรายกนั้นเป็นผู้ที่มีความ สามารถในการรำโนราเป็นอย่างดีจนมีชื่อเสียงและได้รับความนิยม จากผู้ชมทั่วไปเป็นอย่างมาก
7 บุคลิกนิสัย โนรายก ชูบัว เป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับจากคนทั่วไปว่าเป็นผู้มีอุปนิสัย เยือกเย็น มีจิตใจหนักแน่น พูดจาสุภาพเรียบร้อย และมักจะสอดแทรก คติธรรมให้แก่ผู้ร่วมสนทนาด้วยเสมอ โนรายกไม่เป็นคนเจ้าชู้ ทั้งยังมี ความรับผิดชอบต่อหน้าที่การงานสูง เป็นคนตรงต่อเวลา และมักจะไม่ แสดงตนในลักษณะอวดรู้ มีความคิดสร้างสรรค์ มีเทคนิคในการถ่ายทอด หรือการสื่อสารโดยทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายต่อการเข้าใจ นอกจากนั้นโนรายกยังเป็นผู้ชอบช่วยเหลือเพื่อนบ้าน และสังคมอยู่ สม่ำเสมอ ไม่ถือตัว และบุคลิกภาพที่โดดเด่นอีกอย่างหนึ่งของโนรายกคือ จะไม่เคยแสดงอาการโกรธหรือดุด่าว่ากล่าวให้ร้ายต่อผู้อื่น
8 แรงบันดาลใจในการแสดงโนรา 1.ความเชื่อถือศรัทธาต่อครูหมอโนราว่าได้ช่วยชีวิตของตนตั้งแต่สมัยที่ยัง เป็นเด็ก การที่โนรายกได้มีชีวิตรอดมาได้เมื่อคราวที่ยังเป็นเด็กนั้น เป็น เพราะเชื่อกันว่าตาอ้นหรือโนราถั่วเขียวได้บนบานไว้ต่อครูหมอโนรานั้น จึง ทำให้ท่านมีความเชื่อและศรัทธาครูหมอโนราเป็นอย่างมาก 2.โนรายก ชูบัว เกิดที่จังหวัดพัทลุง เป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงในด้านการ แสดงพื้นบ้านจังหวัดหนึ่งของภาคใต้ โดยเฉพาะในสมัยนั้นการแสดงโนรา และหนังตะลุงเป็นที่นิยมกันแพร่หลายมากในจังหวัดพัทลุงและบริเวณใกล้ เคียง ทำให้โนรายก ได้มีโอกาสเห็นการแสดงโนราอยู่เป็นประจำ ได้เห็น การร่ายรำด้วยท่ารำที่สวยงาม มีจังหวะรุกเร้าใจ จึงทำให้รู้สึกชื่นชอบการ แสดงโนรา 3.โนรายก ชูบัว มีญาติผู้ใหญ่เป็นโนราที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้น ซึ่งคนทั่วไป เรียกกันว่า \"\"โนราถั่วเขียว\"\" ได้ฝึกหัดการรำโนราให้แก่โนรายกมาตั้งแต่ เยาว์วัย 4.การได้รับความชื่นชมจากโรงเรียนในขณะที่โนรายก ชูบัว เป็นนักเรียน โดยโนรายกนั้นสามารถรำได้ดีจนเป็นที่ชื่นชมของคณะครู เพื่อนนักเรียน ตลอดจนผู้ชมทั่วไป ส่งผลให้โนรายกเกิดความรักความสนใจในการรำและ การแสดง 5.การได้รับความนิยมจากผู้ชมเป็นอย่างมาก ทำให้โนรายกรู้สึกภาคภูมิใจ ในการแสดงโนรา และเป็นกำลังใจสำคัญที่ทำให้อยากแสดงโนราต่อไป จน
9
10 ผลงาน โนรายก ชูบัว เป็นผู้ที่มีผลงานด้านการแสดงโนราที่มีชื่อเสียงเป็นที่ รู้จักกันทั่วไป โดยโนรายกได้แสดงโนรามาเกือบตลอดชีวิต จนถือได้ว่า ท่านเป็นโนราชั้นครูคนหนึ่ง ต่อมาเมื่อมีอายุมากขึ้นได้รับเชิญเป็นวิทยากร สอนศิษย์ตามสถานศึกษาต่าง ๆ แต่ก็ยังคงรักการรำโนราอยู่เป็นชีวิต จิตใจ แม้จะไม่รำโนราแสดงเป็นเรื่อง แต่ท่านก็เต็มใจอย่างยิ่งที่จะรำโนรา สาธิตให้คนทั่วไปได้เห็นการรำโนราที่ถูกต้องตามแบบดั้งเดิมของชาวภาค ใต้ การถ่ายทอดศิลปะการรำโนรา นับได้ว่าเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์อย่าง หนึ่งที่ผู้ถ่ายทอดนั้นจะต้องมีความเชี่ยวชาญในศาสตร์แขนงนั้นๆ เป็น อย่างดียิ่ง โนรายกก็เป็นผู้หนึ่งที่มีความรู้ความสามารถในด้านโนรารวมทั้ง การถ่ายทอดศิลปะการรำโนราให้ผู้อื่นได้เป็นอย่างดี ดังจะเห็นได้จากการที่ ท่านได้ถ่ายทอดศิลปะการรำโนราให้กับศิษย์ทั้งในและนอก สถานศึกษาต่าง ๆ มากมายเป็นเวลากว่า 50 ปีมาแล้ว ผลงานด้านวรรณกรรมโนรา โนรายก ชูบัว ได้มีการประพันธ์บทโนรา หรือการสร้างวรรณกรรมโนรา โดยมีทั้งที่เป็นบทที่ท่านใช้แสดงเองและ ประพันธ์ให้ผู้อื่นแสดง วรรณกรรมโนราของโนรายก ชูบัว ส่วนใหญ่จะมี เนื้อหาเกี่ยวกับคติคำสอนต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ชมได้แง่คิดและนำไปประพฤติ ปฏิบัติในชีวิตประจำวัน ซึ่งสำหรับรูปแบบคำประพันธ์ส่วนใหญ่ของโนรา ยกนั้นมักจะใช้กลอนสุภาพหรือกลอนแปด และกลอนสี่
11 ผลงาน พ.ศ.2489 ได้ผ้าม่านโนราสีสวยสดจากพ.ต.อ.ขุนพันธรักษ์ ราชเดช พ.ศ.2493 ได้รับขันเงิน จากพระบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าอนุสรณ์ มงคลการ ในการฉลองพระไตรปิฏกวัดหาดใหญ่ใน จังหวัดสงขลา พ.ศ.2503 รำต้อนรับทูตวัฒนธรรม 25 ประเทศ ที่กรุงเทพ ฯ พ.ศ.2518 - รำถวายสมเด็จพระบรมราชชนนี ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่เกาะอาดัง ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล ซึ่งการรำ ถวายในครั้งนี้ โนรายก ชูบัว ได้รับพระราชทานเข็มที่ระลึกจากสมเด็จ พระบรมราชชนนี - เผยแพร่ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ช่อง 5 โดยมีหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งจัดขึ้นเป็นพิเศษ โดยโนรายกได้รับเชิญ จากกรมศิลปากร ให้ไปรำโนรา ณ โรงละครแห่งชาติ พร้อมกับขุนอุปถัมภ์ นรากร (โนราพุ่ม เทวา) ในการรำครั้งนั้นพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์ เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพร ได้ประทานเทริดให้ 1 ยอด - ได้รับเกียรติบัตรจากกรมศิลปากร ในฐานะที่เป็นผู้ให้ความ ร่วมมือสนับสนุนให้การปฏิบัติหน้าที่ราชการในด้านศิลปวัฒนธรรมเป็น อย่างดียิ่ง พ.ศ.2519 ได้รับโล่เกียรติยศจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ใน ฐานะที่เป็นผู้อุทิศตนบำเพ็ญประโยชน์อย่างยิ่งต่อมหาวิทยาลัยมา ตั้งแต่ปี พ.ศ.2519 จนถึงปี พ.ศ.2530 โดยการริเริ่มวางพื้นฐานและ ฝึกสอนโนราให้แก่ข้าราชการ และนักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลา นครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
12 ผลงาน พ.ศ.2520 รำเผยแพร่ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ช่อง 10 หาดใหญ่ พ.ศ.2522 รำในงานประชุมต้อนรับอธิการบดีมหาวิทยาลัยทั่วโลก ซึ่ง จัดขึ้น ณ โรงแรมเอเซียพัทยา จังหวัดชลบุรี พ.ศ.2523 รำเผยแพร่ ณ ศูนย์สังคีตศิลป์ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (ผ่านฟ้า 2) จำนวน 2 ครั้ง พ.ศ.2526 ได้รับเชิญจากสถาบันทักษิณคดีศึกษา มหาวิทยาลัย ศรีนครินทรวิโรฒ พร้อมด้วยโนราอีก 7 คณะ ไปรำงาน\"\"มหกรรม โนรา\"\" ที่โรงละครแห่งชาติ กรุงเทพฯ พ.ศ.2528 ได้รับการยกย่องจากสำนักงานวัฒนธรรมแห่งชาติให้เป็น \"\"ศิลปินพื้นบ้านดีเด่น สาขามโนราห์\"\" พ.ศ.2529 ได้รับโล่ศิลปินพื้นบ้านดีเด่น สาขามโนราห์ ที่คณะ กรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) เป็นผู้ประกาศ โดยได้รับ พระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พ.ศ.2530 ได้รับการยกย่องจากสำนักงานวัฒนธรรมแห่งชาติ ให้ เป็น \"ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง\"(โนรา) พ.ศ.2531 รำถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย กรุงเทพฯ พ.ศ.2539 รำในงานกาญจนาภิเษก ณ ท้องสนามหลวง และที่ถนน ราชดำเนิน กรุงเทพฯ
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: