Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน้าที่พลเมือง : วัฒนธรรม

หน้าที่พลเมือง : วัฒนธรรม

Published by porprasit1991, 2020-07-24 06:03:10

Description: หนังสือเรียนอิเล็กทรอนิกส์นี้เป็นส่วนหนึ่งของการจัดการเรียนรู้รายวิชา สังคมศึกษา 1 (ส31101) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนโพธิสัมพันธ์พิทยาคาร

Keywords: วัฒนธรรม,ประเพณี,การศึกษา

Search

Read the Text Version

หน้าท่พี ลเมือง ศรสี งา่ วัฒนธรรม E-Book หนงั สืออิเลก็ ทรอนกิ ส์ เรอ่ื ง วฒั นธรรม นายประสทิ ธิ์ จงึ สุขสมสวัสดิ์ โรงเรียนโพธิสมั พนั ธพ์ ิทยาคาร สานักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษามัธยมศึกษาเขต 18 กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

หน้าที่พลเมือง ัวฒนธรรมและการดาเนินชีวิตใน ัสงคม สังคมศึกษา Social Studies วถิ ีชวี ติ (Ways) ศรทั ธา (Faith) ความเชือ่ (Believe)

สงั คมศกึ ษา ก หนา้ ที่พลเมือง วฒั นธรรมและการดาเนนิ ชีวติ ในสงั คม Social Studies คานา วฒั นธรรมเป็นสง่ิ ทแี่ ฝงอยู่ในชวี ติ ประจำวันของคนทกุ คน คนบำง อำจจะมองแต่เพียงวำ่ วฒั นธรรมนน้ั เปน็ เพยี งแตร่ ปู ภำพ ศิลปะ กำรรำ่ ย รำ อำหำรเท่ำนน้ั จึงจะเรียกว่ำวฒั นธรรม แตใ่ นควำมเป็นจรงิ แลว้ วัฒนธรรมคอื ทุกสิ่งท่ลี ว้ นอย่ใู นชวี ติ ประจำวนั ตง้ั แต่กำรแตง่ กำย รวมไป ถงึ พิธีกรรมตำ่ ง ๆ ทเ่ี กีย่ วขอ้ งกบั ควำมเปน็ ไปของชีวติ มนษุ ย์ กำรศกึ ษำวัฒนธรรมจงึ เปน็ สงิ่ จำเปน็ ท่ีทกุ คนตอ้ งเรียนรู้ หำกเรำ เข้ำใจเรอ่ื งของควำมเปน็ สงั คมแลว้ เรำจะพบวำ่ มนษุ ยเ์ รำไดส้ ร้ำงสงิ่ ท่ี เรยี กวำ่ สังคม และสถำบนั ทำงสงั คมข้นึ มำ กเ็ พอื่ ทำใหส้ ังคมเรำอยูร่ อด ตอ่ ไปไดอ้ ย่ำงมเี ปำ้ หมำย โดยมีพ้ืนฐำนมำจำกควำมคิด ควำมเชือ่ จำรตี ประเพณีที่แตกตำ่ งกนั ดงั นั้นหำกจะเข้ำใจวถิ ีในควำมแตกตำ่ งของ มนษุ ย์ จึงตอ้ งเข้ำใจวัฒนธรรมดว้ ย หนงั สอื เรียนอิเล็กทรอนกิ ส์ (E-book) นี้เป็นส่วนหนงึ่ ของรำยวชิ ำ สังคมศกึ ษำ 1 (ส31101) โดยมคี วำมม่งุ หมำยจดั ทำข้ึนเพอื่ ให้นักเรียน เข้ำใจลักษณะของวฒั นธรรม รวมไปถึงสงั คมต่ำง ๆ ที่มีวฒั นธรรมไม่ เหมือนกนั และใชช้ วี ติ อย่รู ่วมกนั ไดบ้ นสังคมพหุวัฒนธรรมอยำ่ งมี ควำมสขุ ประสทิ ธิ์ จงึ สขุ สมสวสั ด์ิ ผู้จัดทำ

ข สงั คมศกึ ษา Social Studies สารบญั เรอื่ ง หน้า คานา ก สารบัญ ข ความหมายและความสาคญั 1 ของวัฒนธรรม ประเภทของวัฒนธรรม 6 ลักษณะของวัฒนธรรมไทย 9 อตั ลกั ษณ์ทางวัฒนธรรม 14 หน้าทพี่ ลเมอื ง : วัฒนธรรม

สงั คมศกึ ษา ค Social Studies สารบญั เร่ือง หน้า สังคมพหุวัฒนธรรม 18 การผสมผสานทาง 21 วฒั นธรรม ความขัดแย้งทางวฒั นธรรม 25 แนวทางการอนรุ กั ษ์ 28 วฒั นธรรม บรรณานุกรม 30 หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง : วัฒนธรรม

1.ความหมายและความสาคญั ของวฒั นธรรม 1.1 ความหมายของวัฒนธรรม วัฒนธรรม เป็นคำที่ประกอบด้วยคำสองคำ คือคำว่ำ “วัฒน” ซ่ึงมี ควำมหมำยวำ่ ควำมเจรญิ งอกงำม และคำว่ำ “ธรรม” หมำยถึง คุณงำม ควำมดี ควำมขอบ ดังนั้นวัฒนธรรม จึงหมำยถึง ธรรมแห่งควำมเจริญ หรืออำจจะหมำยถึง ส่งิ ท่ีไม่ได้เกดิ ข้นึ เองตำมธรรมชำติ แตเ่ ป็นสิ่งที่มนุษย์ สร้ำงขึ้นเพ่ือใช้เป็นเคร่ืองมือทำงสังคมในกำรอยู่ร่วมกัน หรือเป็นสิ่งที่ สร้ำงขึ้นเพือ่ ปรับให้วถิ ีชีวติ เข้ำกนั ไดก้ บั สภำพแวดล้อม ทั้งน้ี กย็ ังมีนักวิชำกำร นกั กำรศึกษำรวมถงึ หน่วยงำนท่ีเกี่ยวข้องกับ วัฒนธรรมได้ออกมำนิยมควำมหมำยของวัฒนธรรมไว้อย่ำงหลำกหลำย ด้วยกัน ยกตวั อย่ำงเชน่ 1 หน้าทพี่ ลเมอื ง : วัฒนธรรมและการดาเนนิ ชีวติ ประจาวนั

Edward B. Tylor ได้ให้คำนิยำมของคำว่ำ Culture ไว้ว่ำ “that complex whole which includes knowledge, belief, art, morals, law, custom, and any other capabilities and habits acquired by man as a member of society.” (ควำมซับซ้อนท้ังหมดซึ่งรวมไปถึงควำมรู้ ควำมเชื่อ ศิลปะ ศีลธรรม กำหมำย กำรแต่งกำย และควำมสำมำรถอืน่ ๆ รวมไปถึงพฤตกิ รรมทไี่ ด้มำเพื่อควำมเป็น สมำชิกของสังคม) พระยำอนมุ ำนรำชธน ได้ใหค้ วำมหมำยของ วัฒนธรรมไว้ว่ำ เป็นส่ิงที่มนุษย์ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงเพื่อควำมเจริญงอกงำม ในวิถี ส่วนรวม ถ่ำยทอดกนั ไว้ รวมถงึ ประเพณีที่ปฏิบัติ สืบต่อกันมำ หรือกำรกระทำใด ๆ ของมนุษย์ท่ี เป็นพิมพเ์ ดยี วกัน สำแดงออกมำในรปู แบบภำษำ ศลิ ปะ ควำมเช่อื ระเบยี บ เปน็ ตน้ พระยำอนมุ ำนรำชธน พระพรหมคุณำภรณ์ (ประยุทธ์ ประยุตฺโต) ไดเ้ คยให้ควำมหมำยว่ำ “วฒั นธรรม” เปน็ ผลรวม ของกำรสั่งสมสร้ำงสรรค์ภูมิธรรม ภูมิปัญญำ ที่ ถ่ำยทอดสืบต่อกันมำของสังคมน้ัน ๆ หรือกล่ำว สั้นๆได้ว่ำ วัฒนธรรมคือประสบกำรณ์ ควำมรู้ ควำมสำมำรถทส่ี งั คมน้นั มอี ยู่ หรอื เน้อื ตวั ทง้ั หมด ของสังคมน่นั เอง พระพรหมคณุ ำภรณ์ (ประยทุ ธ์ ประยตุ โฺ ต)) 2หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง : วัฒนธรรมและการดาเนนิ ชวี ติ ประจาวนั

ศำสตรำจำรย์ประเวศ วะสี กล่ำวว่ำ “วัฒนธรรม” คือ พลังของสังคม ทำงภูมิปัญญำ เพ่ือพัฒนำเศรษฐกิจ จิตใจ กำรเมือง สังคม สิ่งแวดล้อมพรอ้ มกันไป จอมพล ป. พิบูลสงครำม จอมพลป. พิบูลสงครำม กล่ำวว่ำ “วัฒนธรรมของชำติเป็นเคร่ืองแสดงให้เห็น สรุป ค ว ำ ม เ จ ริ ญ ง อ ก ง ำ ม ใ ห ญ่ ห ล ว ง ข อ ง ช ำ ติ วฒั นธรรมเป็นสิ่งสำคญั มำก วัฒนธรรมไม่เป็น แคเ่ ครอ่ื งหมำยภำยนอก ไม่เปน็ แคเ่ พยี งส่ิงซึ่ง อวดโลกว่ำเป็นชนชำตเิ จริญเท่ำน้ัน วัฒนธรรม มีผลลึกซ้ึงเข้ำไปถึงชีวิตจิตใจคน วัฒนธรรม เป็นเคร่ืองผดุงศีลธรรม เป็นปัจจัยแห่งควำม เจริญงอกงำม และควำมแข็งแรงมั่นคงของ ชำติบ้ำนเมือง” Culture มำจำก Cultura แปลวำ่ กำรปลกู วัฒนธรรมเป็นสิ่งท่ีไม่ได้เกิดขึ้นเองตำมธรรมชำติ หำกแต่เกิดจำก กำรปรับตัวของมนุษย์เข้ำกันกับสภำพแวดล้อม และสะท้อนออกมำใน รูปแบบของศิลปกรรม อุปกรณ์ ข้ำวของเคร่ืองใช้ จริยธรรม ศีลธรรม กำรประพฤติปฏิบัติตน เป็นเคร่ืองบ่งบอกถึงควำมเจริญก้ำวหน้ำของ มนุษยท์ ่สี ำมำรถสง่ ทอดได้จำกรุ่นสรู่ ุ่น 3 หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง : วัฒนธรรมและการดาเนนิ ชีวติ ประจาวนั

1.1 ความสาคญั ของวัฒนธรรม จำกควำมหมำยของวฒั นธรรมกอ่ นหน้ำ สำมำรถบ่งบอกควำมสำคัญ ของวฒั นธรรมได้เป็นอย่ำงดเี พรำะเนื่องจำกวฒั นธรรมเปน็ ทกุ สงิ่ ทปี่ ระกอบ อยู่ในวิถีชีวิตของมนุษย์ จึงมีควำมสำคัญอย่ำงมำก หำกปรำศจำก วัฒนธรรม มนุษย์อำจะไม่สำมำรถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมที่มีควำม หลำกหลำยได้ ซึ่งควำมสำคัญของวัฒนธรรมสำมำรถแบง่ ออกได้ ดังน้ี 1. เพื่อกำรดำรงชีวิต กำรดำเนินชีวิตหำกจะไปสู่จุดท่ีดีขึ้นทำงด้ำน จิตใจและร่ำงกำยวัฒนธรรมเป็นสง่ิ จำเปน็ ทส่ี ำมำรถหลอ่ หลอมใหค้ นพัฒนำ ตนเองใหไ้ ปส่จู ุดทีส่ ังคมมุ่งหวังได้ และยังเป็นตัวกำหนดควำมสัมพันธ์ของ คนในสังคมตำมสงิ่ ที่เรยี กวำ่ บรรทดั ฐำน บทบำทและสถำนภำพ รวมถึงข้ำว ของเครือ่ งใชเ้ พอ่ื อำนวยควำมสะดวกในกำรใช้ชีวติ 2. หล่อหลอมบคุ ลภำพให้กับสมำชิกในสงั คม วฒั นธรรมกำรเลี้ยงดูทต่ี ่ำงกนั ในแต่ละ ที่ ล้วนมีผลต่อควำมคิด ควำมเชื่อ ทัศนคติ ของสมำชิกที่อยู่ในสังคมน้ัน ๆ บุคคลย่อมมี สภำพเปล่ียนแปลงไปตำมส่ิงแวดล้อมที่เขำ อยู่ แม้อำจจะมีส่วนน้อยที่แตกต่ำงไปจำก สังคมน้ันกต็ ำม 4หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง : วฒั นธรรมและการดาเนนิ ชีวติ ประจาวนั

3.วัฒนธรรมก่อให้เกิดควำมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน กำรก่อตัวของ วัฒนธรรมนั้นเกิดข้ึนจำกกำรรวมกลุ่มของของมนุษย์และสร้ำงเครื่องมือ ทำงสงั คมเพือ่ ใช้ในกำรรวมกลุ่มคนเข้ำร่วมกัน อย่ำงเช่นประเพณี ซึ่งงำน ประเพณีแต่ละงำน จำเป็นท่ีต้องอำศัยคนจำนวนมำกเข้ำร่วมเพื่อให้ เป้ำหมำยของงำนลุล่วง รวมไปถึงกำรสร้ำงวัฒนธรรมให้มีวิถีปฏิบัติเป็น อันหนงึ่ อันเดียวกัน ย่อมนำมำซึ่งควำมรสู้ กึ เปน็ กลมุ่ นยิ ม หรือทอ้ งถิน่ นยิ ม สอกี ดว้ ย รปุ วัฒนธรรมเป็นนวัตกรรมสังคมที่สำคัญท่ีใช้ในประโยชน์ทั้งกำร ควบคุมสังคม กำรกำหนดสถำนภำพบทบำท เพื่อให้สำมำชิกรู้หน้ำที่ ของตนเอง รวมไปถึงกำรรวมกลุ่มกันสังคมก็ได้ใช้วัฒนธรรมน้ีเพื่อ สร้ำงควำมสัมพันธ์แน่นแฟ้นผ่ำนสิ่งท่ีเรียกว่ำประเพณี ที่มีวิธีปฏิบัติ แตกตำ่ งกนั ไปตำมแตล่ ะท้องที่ทีส่ ังคมนนั้ อยู่ หำกสงั เกตตงั้ แตค่ วำมหมำยของวฒั นธรรมในชว่ งแรก จะพบวำ่ มีเพยี งมนษุ ยเ์ ทำ่ นน้ั ท่สี ำมำรถสรำ้ งสรรค์วฒั นธรรมได้ ดงั นัน้ จงึ มแี ต่ มนษุ ย์เทำ่ น้นั ท่ีสำมำรถคิดค้น และจัดกำรกับสิ่งท่ีเรียกว่ำวัฒนธรรม ในกำรบรหิ ำรจัดกำรสังคมใหเ้ ป็นไปตำมท่สี ังคมต้องกำรเทำ่ น้นั 5 หน้าทพ่ี ลเมอื ง : วฒั นธรรมและการดาเนนิ ชวี ติ ประจาวนั

2. ประเภทของวฒั นธรรม วัฒนธรรมท่ีปรำกฏมำในชีวิตประจำวัน เป็นส่ิงท่ีแยกออกจำกกัน ไมไ่ ดจ้ ำกชวี ิตของมนษุ ย์ ดงั นนั้ กำรจำแนกวัฒนธรรมเพ่ือทำควำมเขำ้ ใจวำ่ มนุษย์เรำได้สร้ำงสรรค์อะไรไว้บ้ำงเพ่ือเป็นเคร่ืองอำนวยควำมสะดวกท้ัง ทำงร่ำงกำยและจิตใจ จึงเป็นเรื่องจำเป็นท่ีสมำชิกสังคมรุ่นหลังจะได้ นำไปใชไ้ ดอ้ ย่ำงมปี ระสิทธภิ ำพและถูกต้องตำมประเภทของวัฒนธรรม 6หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง : วฒั นธรรมและการดาเนนิ ชีวติ ประจาวนั

ประเภทของวฒั นธรรม มองเหน็ หรอื สัมผัสได้ แบ่งตามเนอ้ื หา วตั ถุ อวตั ถุ คติธรรม เนตธิ รรม วตั ถุธรรม สหธรรม มองเหน็ หรอื สมั ผสั ได้ 1) วัตถุ คือ วัฒนธรรมท่ีมองเห็น หรือสัมผัสได้ เช่น หนังสือ ช้อน ปำกกำ หนังสอื ยำงลบ คอมพิวเตอร์ เปน็ ตน้ 2) อวัตถุ (ไม่ใช่วัตถุ) คือ วัฒนธรรมที่เป็นนำมธรรม สัมผัสไม่ได้ เช่น ควำมเชอ่ื สถำบนั ทำงสังคม ปรชั ญำ มำรยำท ศีลธรรม ศำสนำ เปน็ ต้น แบง่ ตามเนอื้ หา 1) คติธรรม คือ วัฒนธรรมทำงศีลธรรม จิตใจ เป็นหลักในกำรดำเนินชีวิต เช่น ควำมกตญั ญู ควำมเมตตำกรุณำ เป็นต้น 2) วัตถุธรรม คือ วัฒนธรรมท่ีเป็นวัตถุ จับต้องได้ หมำยถึง วัตถุทำง ศลิ ปกรรม เช่น เจดีย์ สถูป สถำปัตยกรรม บำ้ นเรอื น เคร่ืองแต่งกำย สถำบันทำงสงั คม ปรชั ญำ มำรยำท ศีลธรรม ศำสนำ เป็นต้น 7 หน้าทพี่ ลเมอื ง : วฒั นธรรมและการดาเนนิ ชวี ติ ประจาวนั

3) เนติธรรม คอื วฒั นธรรมทำงกฎหมำย กฎศีลธรรม จำรตี ประเพณี ที่เสมอดว้ ยกฎหมำย 4) สหธรรม คือ วัฒนธรรมทำงสังคม เป็นวัฒนธรรมในกำรติดต่อ เกี่ยวข้องกับคนอ่ืนในสังคม เช่น มำรยำทในกำรรับประทำนอำหำร สรุปมำรยำทในกำรเขำ้ สงั คม เป็นตน้ จำกเนื้อหำที่กลำ่ วมำในข้ำงต้น พบว่ำ วัฒนธรรมมีเกณฑ์ใน กำรแบ่งประเภทอยู่ด้วยกันหลำกหลำย และแต่ละประเภทมี ลกั ษณะเฉพำะตวั ท่ีแบง่ ประเภทออกมำไดอ้ ย่ำงชัดเจน อย่ำงไรก็ตำมส่ิงท่ีปรำกฏในเนื้อหำของประเภทกฎหมำยเรำจะ พบว่ำ ทุกส่ิงทุกอย่ำงไม่ว่ำจะเป็นรูปธรรม นำมธรรมจับต้องได้ หรอื ไมน่ ัน้ ลว้ นนบั เปน็ วฒั นธรรมทงั้ ส้นิ แต่ท้ังนี้วัฒนธรรม ย่อมมี ควำมหมำยถึงส่ิงท่ีสื่อไปในทำงที่ดี ซึ่งอำจจะต้องมำพิจำรณำ เกณฑ์ควำมดีของวัฒนธรรมตอ่ ไป 8หน้าทพ่ี ลเมอื ง : วฒั นธรรมและการดาเนนิ ชวี ติ ประจาวนั

3. ลกั ษณะของวฒั นธรรมไทย สังคมไทยเป็นสังคมที่มีกำรผสมผสำนทำงวัฒนธรรมหลำกหลำย ไม่ว่ำจะเป็นทำงภำคเหนือ กลำง ตะวันออกเฉียงเหนือ หรือใต้ แม้กระทัง่ ตะวนั ออกเองกม็ คี วำมแตกต่ำงกันไปตำมแตล่ ะภูมิภำค อกี ทง้ั แม้แต่ภำยในภมู ิภำคเดยี วกนั เองก็มีควำมแตกต่ำงกันไปตำมแต่ละกลุ่ม สังคม แต่เรำสำมำรถจำแนกประเภทของวัฒนธรรมไทยได้ โดยดูจำก ลักษณะรว่ มของประเพณีที่ปฏบิ ัติ หรือวิถีชวี ติ ไดด้ งั นี้ 9 หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง : วัฒนธรรมและการดาเนนิ ชีวติ ประจาวนั

พื้นฐำนของวัฒนธรรมไทยเดิมทีมีที่มำจำกอำรยธรรมสองโลก โบรำณท่ีอยขู่ นำบข้ำงประเทศไทยอยำ่ งจีน และอินเดียดังสังเกตได้จำก กำรไหว้เทพเจ้ำจีน และกำรใช้ช่ือท่ีเป็นภำษำบำลี สันสกฤต หรือ แม้กระทั่งศำสนำพุทธก็เป็นอำรยธรรมอินเดียเช่นเดียวกัน แต่ถึงอย่ำง น้ัน วัฒนธรรมไทย ก็ยังมีสิ่งท่ีเป็นของตนเองตำมกลุ่มชำติพันธุ์อีก มำกมำย โดยอำจจะสำมำรถวเิ ครำะห์ลกั ษณะพืน้ ฐำนของวฒั นธรรมไทย ได้ดังนี้ 1. การมีกษตั รยิ เ์ ปน็ ประมขุ ก ำ ร มี พ ร ะ ม ห ำ ก ษั ต ริ ย์ ม ำ อ ย่ ำ ง ย ำ ว น ำ น ข อ ง สั ง ค ม ไ ท ย ต ำ ม ประวัติศำสตร์กระแสหลักตั้งแต่คร้ังสุโขทัยเป็นรำชธำนี ทำให้ใน ควำมสำคัญของสถำบนั พระมหำกษัตริย์น้ันมีควำมสำคัญอย่ำงมำกต่อวิถี ชีวิตประชำชน ดงั นนั้ กำรมพี ระมหำกษตั รยิ เ์ ปน็ ประมขุ จงึ เป็นมสี ่วนในกำร รงั สรรค์วัฒนธรรมไทยเปน็ อยำ่ งย่ิง02 ยกตัวอยำ่ งเชน่ พระรำชพิธีตำ่ ง ๆ ไมว่ ่ำจะเปน็ พระรำชพธิ บี รมรำชำภิเษก พระรำชพธิ ีอำพำธพนิ ำศ พระรำชพธิ เี นื่องในวนั เฉลิมพระชนมพรรษำ เปน็ ต้น 10หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง : วฒั นธรรมและการดาเนนิ ชวี ติ ประจาวนั

2. พระพทุ ธศาสนา พระพุทธศำสนำเข้ำมำมีบทบำท และมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตประจำวัน ของคนไทยเปน็ อยำ่ งมำกนบั ตง้ั แตม่ หี ลกั ฐำนทำงประวตั ศิ ำสตรบ์ ่งบอกถงึ กำรเข้ำมำของพุทธศำสนำในดินแดนไทย ด้วยควำมยำวนำนนี้จึงทำให้ พทุ ธศำสนำเข้ำมำมีสว่ นในกำรสรำ้ งสรรค์วฒั นธรรมอยำ่ งชัดเจน 3. ภาษาไทย เป็นภำษำประจำชำติ ทุกคนพูดคุยสื่อสำรเข้ำใจกันได้ สร้ำงควำม ผูกพัน และควำมเป็นหนึ่งเดียว เข้ำใจวัฒนธรรมหลักระหว่ำงกัน ส่ือสำร ต่อกันระหวำ่ งไดง้ ่ำยขนึ้ 11 หนา้ ทพี่ ลเมอื ง : วฒั นธรรมและการดาเนนิ ชวี ติ ประจาวนั

4. สภาพแวดลอ้ มทางภมู ศิ าสตร์ ด้วยสภำพภูมิศำสตร์ของไทยมีอยู่ด้วยกันหลำกหลำย ไม่ว่ำจะเป็นที่ รำบลมุ่ หรอื แมก้ ระท่งั เทือกเขำสงู จงึ ทำให้ควำมหลำกหลำยของวฒั นธรรม ไทยผันแปร สอดคล้องไปตำมถ่ินทอ่ี ย่นู ั้น ๆ เช่น แขง่ เรอื ลอยประทีป เป็น ตน้ 5. เกษตรกรรม วิถีชีวิตของคนไทยโดยพ้ืนฐำน น้ันอยใู่ นสงั คมภำคกำรเกษตรจึงทำให้ วัฒนธรรมท่ีแสดงออกมีควำมสัมพันธ์ กับกำรเกษตร ไม่ว่ำจะเป็นเคร่ืองมือ เครื่องใช้ รวมไปถึงประเพณีต่ำง ๆ เช่น ลงแขกเกย่ี วข้ำว เป็นตน้ 12หน้าทพ่ี ลเมอื ง : วัฒนธรรมและการดาเนนิ ชวี ติ ประจาวนั

6 วถิ กี ารดาเนนิ ชวี ติ และบคุ ลกิ ภาพ บุคลิกภำพของคนไทยมีควำมอ่อน น้อมถ่อมตน ให้ควำมเคำรพผู้ใหญ่ที่มี คุณวุฒิและวัยวุฒสิ งู กวำ่ ตน เออ้ื เฟอื้ เผ่อื แผ่ มีควำมเมตตำกรุณำ ซ่ึงสิ่งเหล่ำนี้เป็นส่ิงท่ี ถูกหล่อหลอมกล่อมเกลำจำกสถำบันต่ำง ๆ ในสังคม ไม่ว่ำจะเป็น โรงเรียน ครอบครัว 7. อาหารไทย อำหำรไทยเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วโลก ย่ิงเฉพำะต้มยำกุ้ง มัสมั่นซ่ึง เปน็ อำหำรท่ีขึ้นช่ือกำรจัดลำดับอำหำรท่ีมีช่ือเสียงของโลก อำหำรไทย เป็นอำหำรที่มคี วำมผสมผสำนอำรยธรรมตำ่ ง ๆ ที่อยู่บนโลกนเ้ี นอ่ื งจำก ท่ีตง้ั ของไทยอยรู่ ะหว่ำงแหลง่ อำรยธรรมสำคญั ของโลกจึงได้รับอิทธิพล จำกแหล่งเรำนั้นมผี สมผสำนกันอยเู่ สมอ 13 หนา้ ทพี่ ลเมอื ง : วฒั นธรรมและการดาเนนิ ชวี ติ ประจาวนั

4. อัตลักษณท์ างวฒั นธรรม วัฒนธรรมที่ปรำกฏในสังคม มีอยู่ด้วยกันหลำกหลำยรูปแบบ และหลำกหลำยแนวทำงปฏิบัติ ท้ังนี้ข้ึนอยู่กับกำรปลูกฝังจำกรุ่นสู่รุ่น และสังคมบริบทโดยรอบที่มีผลกระทบต่อกำรเปล่ียนแปลงทำง วัฒนธรรม แต่อย่ำงไรก็ตำมแต่ละกลุ่มชน ก็จะมีสิ่งที่เรียกว่ำ “อัตลักษณ์ทำงวัฒนธรรม” ท่ีเป็นส่ิงยืนยันกำรมีตัวตนเฉพำะกลุ่มของ ตนเอง เพื่อให้มพี ้ืนท่ใี นสังคม 14หน้าทพ่ี ลเมอื ง : วฒั นธรรมและการดาเนนิ ชวี ติ ประจาวนั

1. ความหมายของอตั ลกั ษณ์ ❖ อัตลกั ษณ์ หมำยถึงควำมเป็น ปัจเจก ที่เชื่อมตอ่ และสัมพันธ์กบั สังคม โดยสังคมเป็นตัวกำหนด บทบำท หน้ำทีแ่ ละระบบคณุ คำ่ ❖ อัตลักษณ์คือลักษณะเฉพำะท่ี แ ส ด ง ถึ ง ค ว ำ ม เ ป็ น ตั ว ต น ห รื อ แสดงถึงลกั ษณะทำงชำติพันธ์ุของ ก ลุ่ ม ช น อั น เ กิ ด จ ำ ก ก ำ ร มี ปฏสิ มั พนั ธ์ต่อกัน ❖ อัตลักษณ์เป็นสิ่งท่ีเกิดจำกกำร สร้ำงของวัฒนธรรมในช่วงเวลำ ห น่ึ ง แ ล ะ วั ฒ น ธ ร ร ม ก็ เ ป็ น สงิ่ ก่อสรำ้ งทำงสังคม จำกควำมหมำยดังกล่ำว อำจ สรุปได้ว่ำวัฒนธรรมเป็นส่ิงที่แสดง ค ว ำ ม เ ป็ น ลั ก ษ ณ ะ เ ฉ พ ำ ะ ท ำ ง วฒั นธรรม ซ่ึง สังคมจะเป็นตัวกำหนด บทบำทและคุณคำ่ โดยแตล่ ะชว่ งเวลำ อั ต ลั ก ษ ณ์ จ ะ มี ค ว ำ ม แ ต ก ต่ ำ ง กั น ออกไป อยู่ท่ีว่ำสังคมในขณะน้ันให้ คุณค่ำกับอะไร 15 หนา้ ทพี่ ลเมอื ง : วัฒนธรรมและการดาเนนิ ชวี ติ ประจาวนั

2. กระบวนการสรา้ งอตั ลกั ษณ์ ภาษา มนุษย์สร้ำงสัญลักษณ์ข้ึนมำ เพื่อ ถ่ายทอด เรียนรู้ถ่ำยทอดไปจำกรุ่นสู่รุ่น เป็น ลักษณะเฉพำะของตนเอง Identity อัตลกั ษณ์ ในหลำยครั้งท่ีอัตลักษณ์จะเกิดขึ้น ไดก้ ็ด้วยนยิ ำม “ควำมเป็นอ่นื ” มำกกว่ำ เปรียบเทยี บ ประเมนิ คา่ ทจ่ี ะนิยำมตวั ตนขอตนเองได้ 16หน้าทพ่ี ลเมอื ง : วฒั นธรรมและการดาเนนิ ชีวติ ประจาวนั

3. การรักษาและ สรา้ งสรรคอ์ ตั ลกั ษณ์ จำกควำมหมำยของอัตลักษณ์จะ พ บ ว่ ำ อั ต ลั ก ษ ณ์ น้ั น แ ม้ ว่ ำ จ ะ มี ก ำ ร แสดงออกถึงควำมเป็นตัวเองอยู่สูง แ ต่ อั ต ลั ก ษ ณ์ ก็ มี ก ำ ร ล่ื น ไ ห ล เปล่ียนแปลงไปตำมบริบทของสังคมที่ เปล่ียนแปลงไป แต่ถึงอย่ำงน้ันสมำชิก ของสังคมก็จะมีวิธีกำรรักษำอัตลักษณ์ ทำงวัฒนธรรมไว้เพื่อบ่งควำมเป็นกลุ่ม ก้อนของตนเอง อำจจะผ่ำนทำง ประเพณี หรือส่ิงของเครื่องใช้ที่มีกำร บ่งบอกสญั ลักษณ์ของกลมุ่ ตนเอง นอกจำกน้ีในปัจจุบัน กำรนำ อั ต ลั ก ษ ณ์ ม ำ ส ร้ ำ ง เ ป็ น จุ ด ข ำ ย น อุตสำหกรรมกำรท่องเที่ยวยังส่งผลให้ ชวี ติ ของชำวบ้ำน มคี วำมเป็นอยู่ดียิ่งข้ึน ดังน้ันอัตลกั ษณจ์ งึ เป็นต้นทุนทำงสังคม ที่ทำให้เศรษฐกิจชุมชนหมุนเวียน ผ่ำน ส่ิงของ ก ำร แส ดง ปร ะเพณีทำ ง วัฒนธรรมอย่เู รอ่ื ยมำ 17 หน้าทพี่ ลเมอื ง : วฒั นธรรมและการดาเนนิ ชีวติ ประจาวนั

5. สังคมพหวุ ฒั นธรรม แม้ว่ำในสังคมกลุ่มชนเล็ก ๆ จะมีกำรสร้ำงอั ตลักษณ์ทำง วัฒนธรรมเพื่อเป็นส่ิงยืนยันกำรมีตัวตนของกลุ่มตนเอง เพ่ือให้มีพื้นที่ ทำงสังคม แต่ในสงั คมโดยรวมนัน้ ไม่มีใครทสี่ ำมำรถยืนหยดั อยู่ในด้วย ตัวคนเดียว กำรใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันสังคมอื่น ๆ ส่งผลให้เกิดกำรพึ่งพำ อำศัย และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมซ่ึงกันและกัน จนทำให้เกิดสังคมที่ เรียกวำ่ “สังคมพหุวฒั นธรรม” 18หน้าทพ่ี ลเมอื ง : วัฒนธรรมและการดาเนนิ ชีวติ ประจาวนั

ความหมายของสงั คมพหวุ ฒั นธรรม (Multicultural society) หมำยถึง ประชำกร กลุ่มคน หลำกหลำยชำตพิ นั ธมุ์ ำอย่รู วมกนั ใน สังคมหนึ่ง ซ่ึงมีควำมแตกต่ำง ทำงด้ำนขนบธรรมเนียม ประเพณี ภำษำ วัฒนธรรม ศำสนำ และควำม เช่ือ รวมถึงวิถีชีวิตควำมเป็นอยู่ของ ผู้คน วิธีกำรคิด กำรมีปฏิสัมพันธ์ กำรส่ือสำร รวมถึงบุคคลท่ีมำจำก พื้นฐำนหรอื อัตลักษณเ์ ดยี วกัน ดังน้ันสังคมพหุวัฒนธรรมจึง เป็นสังคมเกิดข้ึนจำกกำรอัตลักษณ์ ทำงวัฒนธรรมในสังคมน้ัน ๆ อยู่ รว่ มกนั ซงึ่ อำจทำให้วฒั นธรรมมกี ำร แลกเปลี่ยนผสมผสำนกันได้ และ อำจจะสร้ำงอัตลกั ษณ์ใหม่ในสมำชิก สงั คมรุ่นต่อไปได้อกี ด้วย 19 หน้าทพ่ี ลเมอื ง : วฒั นธรรมและการดาเนนิ ชวี ติ ประจาวนั

การใชช้ วี ติ ในสงั คมพหวุ ฒั นธรรม โ ด ย ป ก ติ ทั่ ว โ ล ก น้ั น ไ ม่ มี ท่ี ใ ด ท่ี สำมำรถอยู่ได้โดยปรำศจำกกำรพ่ึงพำ อำศัยร่วมกัน ซ่ึงกำรพึ่งพำอำศัยร่วมกันนี้ ย่อมนำมำสู่ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงกลุ่มทำง สังคม และด้วยประกำรน้ีเอง ทำให้สังคม จึงประกอบไปด้วยควำมหลำกหลำยทำง วัฒนธรรม กำรใช้ชีวิตในสังคมที่เตม็ ไปดว้ ยควำม หลำกหลำยทำงวัฒนธรรม คือ ต้องอยู่กัน ด้วยควำมเข้ำใจ และเรียนรู้วัฒนธรรม ระหว่ำงกลุ่มซึ่งกันและกัน ไม่ทำตัวเป็นผู้ ผูกขำดทำงวัฒนะรรม ช้ีถูกผิด โดยใช้ วัฒนธรรมของตนเองเป็นบรรทัดฐำนกับ สงั คมอื่น ๆ ต้ อ ง ท ำ ค ว ำ ม เ ข้ ำ ใ จ ว่ ำ ค ว ำ ม หลำกหลำยทำงวัฒนธรรมไม่ใช่ปัญหำ หำกแตเ่ ป็นควำมสวยงำม ท่ที ำให้มนษุ ย์เรำ มีควำมคิดสร้ำงสรรค์ที่สำมำรถทำให้โลก ใบนี้สวยงำมด้วยควำมแตกต่ำง และ วัฒนธรรมเหล่ำนั้น คือวิถีชีวิตของเขำ ที่ ยงั คงบอกควำมเปน็ ตัวของเขำ 20หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง : วฒั นธรรมและการดาเนนิ ชวี ติ ประจาวนั

6. การผสมผสานทางวฒั นธรรม จำกท่ีได้ศึกษำทั้งควำมหมำยของอัตลักษณ์ทำงวัฒนธรรมที่เป็น ตัวบ่งบอกถึงกำรมีตัวตนของกลุ่มทำงสังคม ในสังคมใหญ่ และสังคม พหุวัฒนธรรมท่เี ป็นกำรอยูร่ วมกันของส่วนย่อยของกลมุ่ วัฒนธรรม และ เม่ือใช้ชวี ติ อยู่ร่วมกัน กำรแลกเปลี่ยนทำงวัฒนธรรมจึงเป็นสิ่งท่ีเกิดขึ้น เปน็ ปกติ เกดิ กำรผสมผสำน และสร้ำงอัตลักษณใ์ หมท่ ำงวัฒนธรรม 21 หน้าทพี่ ลเมอื ง : วฒั นธรรมและการดาเนนิ ชวี ติ ประจาวนั

ความหมายการผสมผสานทางวฒั นธรรม กำรผสมผสำนทำงวฒั นธรรม หมำยถงึ วธิ ีกำรท่จี ะรับเอำวฒั นธรรม ของสงั คมอื่นมำประพฤติ ปฏบิ ตั ิ กำรผสมผสำนทำงวัฒนธรรม อ ำ จจะ ม ำ ใ น รูป แ บ บ ขอ ง ผู้ชน ะ สงครำมที่จะมีกำรบีบบังคับให้ผู้แพ้ รับวัฒนธรรมของผู้ชนะไปปฏิบัติได้ เช่น ภำษำ เป็นต้น จำกภำพเป็นทหำรซีปอย (Sipoy) ท่ีเป็นทหำรรับจ้ำงในอินเดีย ซ่ึงเกิดข้ึนหลังจำกที่อังกฤษ เข้ำยึดครองอินเดียเป็นอำณำนิคม และได้ถ่ำยทอดวัฒนธรรมของโลกตะวันตกให้อินเดีย เช่น ภำษำองั กฤษทเี่ ป็นหนึ่งในภำษำรำชกำรของอินเดียในปจั จุบนั 22หนา้ ทพี่ ลเมอื ง : วัฒนธรรมและการดาเนนิ ชวี ติ ประจาวนั

กำรผสมผสำนทำงวัฒนธรรมมักเกิดข้ึนเมื่อสมำชิกของวัฒนธรรม หนึง่ ติดต่อเก่ียวข้องกับสมำชิกของอีกวัฒนธรรมหน่ึงเป็นระยะเวลำนำน เช่น นกั ศึกษำไทยใช้ชวี ติ อย่ทู สี่ หรฐั อเมริกำเป็นเวลนำน อำจทำให้คุ้นชิน กับกำรใช้ภำษำอังกฤษในกำรส่ือสำรมำกกว่ำภำษำไทย หรือกำรย้ำย บำ้ นจำกภำคเหนือไปใชช้ ีวิตอย่ภู ำคใต้เป็นระยะเวลำนำน จึงทำให้คุ้มชิน กับอำหำรใต้มำกกวำ่ อำหำรเหนือ เปน็ ต้น กำรผสมผสำนทำงวัฒนธรรมอำจจะเกิดขึ้นจำกกำรยอมรับ และ ปรับเปล่ียนให้วัฒนธรรมเดิม และวัฒนธรรมใหม่สำมำรถอยู่ร่วมกันได้ โดยเอ้ือประโยชน์ต่อกัน เช่น กำรแต่งกำยด้วยชุสูท แต่ใส่โจงกระเบน หรือกำรแตง่ กำยแขนหมูแฮม นงุ่ โจงกระเบน หรอื กำรผสมผสำนระหวำ่ ง พธิ ีพรำหมณ์ ศำสนำผี และศำสนำพทุ ธ เปน็ ตน้ 23 หน้าทพี่ ลเมอื ง : วฒั นธรรมและการดาเนนิ ชีวติ ประจาวนั

ในปัจจุบันกำรผสมผสำนกันทำงวัฒนธรรม ได้สร้ำงมูลค่ำทำง กำรตลำดในระบบเศรษฐกิจเปน็ อย่ำงมำก วฒั นธรรมท่ีประสบควำมสำเร็จ ในกำรเข้ำไปแทรกซึมในวัฒนธรรมต่ำง ๆ อย่ำง วัฒนธรรม K-pop ของ เกำหลี ทำใหป้ ระเทศเกำหลีใต้ มี GDP ที่เกิดจำกกำรส่งออกวัฒนธรรม K- pop ได้อย่ำงมำกมำยมหำศำล 24หน้าทพ่ี ลเมอื ง : วัฒนธรรมและการดาเนนิ ชีวติ ประจาวนั

7. ความขดั แยง้ ทางวฒั นธรรม แม้ว่ำกำรผสมผสำนกันทำงวัฒนธรรมจะเป็นกำรสร้ำงสรรค์ นวัตกรรมทำงสังคมที่ทำให้เกิดควำมแปลกใหม่ในสังคม และสร้ำง ประโยชนม์ ำกมำยก็ตำม แตก่ ย็ ังมอี ย่ไู มน่ อ้ ยที่วัฒนธรรมเกิดกำรปะทะ กันจนไม่สำมำรถอยู่รว่ มกนั ได้ เกดิ เป็นควำมขดั แยง้ ทำงวัฒนธรรม 25 หนา้ ทพี่ ลเมอื ง : วัฒนธรรมและการดาเนนิ ชีวติ ประจาวนั

ความขดั แยง้ ในทต่ี า่ ง ๆ กรณีควำมขัดแย้งระหวำงนโยบำยของรัฐคอมมิวนิสต์ของจีน กับชนเผ่ำ อยุ กูร์ ในมณฑลซิงเกียงทำงตะวันตกของจีน นำไปสู่ควำมขัดแย้งระหว่ำงตุรกี กับจีน อันเน่ืองมำจำกควำมต้องกำรกลืนวัฒนธรรม โดยกำรออกกฎห้ำมใน เรื่องตำ่ ง ๆ ทง้ั ทำงด้ำนศำสนำและภำษำพูด เป็นต้น ค ว ำ ม ขั ด แ ย้ ง ข อ ง ช ำ ติ พั น ธุ์ ม ล ำ ยู อินเดีย และจีน ท่ีร้ำวลึกมำกขึ้นจำก นโยบำยภูมิบุตรของมำเลเซียนับแต่อังกฤษ ประกำศใหเ้ ปน็ เอกรำช ได้สรำ้ งควำมไม่เท่ำ เทียมกันระหว่ำงกลุ่มชำติพันธุ์ที่ กลุ่มมลำยู ไดส้ ิทธิพิเศษตำ่ ง ๆ มำกกว่ำ กลุม่ อ่นื ๆ 26หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง : วฒั นธรรมและการดาเนนิ ชวี ติ ประจาวนั

ควำมขดั แย้งทำงควำมเชือ่ ในโลกสมยั กลำงกลำง (Medieval Age) เปน็ ควำมขัดแย้งที่เกี่ยวข้องกับศำสนำช่ือว่ำ สงครำมครูเสด (Crusade) ท่ีได้รับ กำรขนำนนำมว่ำเป็นสงครำมที่ยำวนำนที่สุดในประวัติศำสตร์มนุษยชำติ โดยคู่ขัดแย้งคือศำสนำคริสต์และอิสลำม แม้ในเบื้องลึกแล้ว ศำสนำถูก นำมำเปน็ เพยี งขอ้ อ้ำงในกำรรวมคนเพ่ือทำสงครำมเท่ำนน้ั สรปุ จำกกรณีศึกษำท้ัง 3 กรณี เรำจะพบว่ำควำมขัดแย้งในระดับกลุ่ม มักไม่ค่อยได้เกิดข้ึนเท่ำน้ัน กรณีท่ียังขัดแย้งกันอยู่ในปัจจุบันมักจะเป็น ควำมขดั แยง้ ทำงศำสนำ เชน่ พทุ ธกบั อิสลำมในพมำ่ อิสลำมปำเลสไตน์ กับยดู ำห์ในอิสรำเอลเปน็ ต้น อยำ่ งไรก็ตำม ควำมขัดแย้งที่ปรำกฏ มักจะถูกนำเสนอในรูปแบบ ของนโยบำยรัฐท่ีเข้ำไปจัดกำรวัฒนธรรมของคนในกลุ่มน้ัน ๆ เสีย มำกกวำ่ จะเป็นควำมขัดแย้งระหวำ่ งกลุ่มกนั เอง 27 หน้าทพี่ ลเมอื ง : วัฒนธรรมและการดาเนนิ ชวี ติ ประจาวนั

8. แนวทางการอนรุ กั ษว์ ฒั นธรรม ด้วยกำรเปลย่ี นแปลงของโลกในหลำย ๆ ด้ำนทำให้เกิดควำมท้ำทำย ตอ่ กำรดำรงอยู่ของวฒั นธรรมเป็นอย่ำงย่ิง ไม่เพียงเฉพำะวัฒนธรรมไทยที่ ไดร้ บั ผลกระทบจำกทงั้ กำรเปดิ ประเทศตัง้ แตเ่ ร่มิ มีกำรบันทกึ ประวตั ศิ ำสตร์ หรือได้รับผลกระทบจำกแผนพัฒนำเศรษฐกิจที่ทำให้วัฒนธรรมบำงอย่ำง เปลี่ยนแปลงไป ประเทศอ่ืน ๆ ก็เจอปัญหำเช่นเดียวกัน แนวทำงกำร อนุรักษจ์ ะเป็นสิง่ ทีช่ ว่ ยทำให้สังคมยังคงดำรงแก่นหลกั ของวฒั นธรรมไวเ้ พอ่ื ตอบสนองกำรใช้ชวี ติ ได้อยำ่ งลงตัวกับยุคสมยั 28หนา้ ทพี่ ลเมอื ง : วฒั นธรรมและการดาเนนิ ชวี ติ ประจาวนั

แนวทางการอนรุ กั ษว์ ฒั นธรรมไทย 1. ศกึ ษำ วิจยั รวบรวมขอ้ มลู ไวเ้ ปน็ ฐำนข้อมูลเพ่ือใชใ้ นกำรศึกษำ และ เผยแพร่ 2. เลอื กรบั วฒั นธรรมอยำ่ งสรำ้ งสรรค์ ปรับปรุงใหเ้ ขำ้ กับบริบทสงั คม 3. ร่วมมอื กับหนว่ ยงำนตำ่ ง ๆ ในกำรให้ ควำมช่วยเหลอื กำรอนุรกั ษว์ ฒั นธรรม 4. ส่งเสริมกำรแลกเปล่ียนวัฒนธรรม ระหว่ำงกัน 5. สร้ำงควำมเข้ำใจเกี่ยวกบั วฒั นธรรม ถงึ ประโยชน์และควำมจำเป็น 6. จัดทำสำรสนเทศด้ำนวฒั นธรรม 7. ส่งเสรมิ ให้ประชำชนรจู้ ักสิทธหิ นำ้ ทีใ่ น กำรอนุรกั ษ์ ฟื้นฟูประเพณี วฒั นธรรม ประจำถิน่ 29 หนา้ ทพี่ ลเมอื ง : วัฒนธรรมและการดาเนนิ ชีวติ ประจาวนั

แหลง่ อา้ งองิ กระมล ทองธรรมชำติ และคณะ. ม.ป.ป. หน้ำทพ่ี ลเมือง วัฒนธรรม และ กำรดำเนนิ ชีวิตในสงั คม. พิมพค์ ร้งั ท่ี 7. กรุงเทพฯ: อกั ษรเจริญทัศน์ กฟี ละห์ มำโซ. (2555). ผลของกำรจดั กำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ ตำมแนว ทฤษฎสี รรคนยิ มท่ีมีตอ่ ผลสมั ฤทธ์ทิ ำงกำรเรียน ควำมสำมำรถ ใ น กำรคิดวิจำรณญำณ และควำมพึงพอใจ ต่อกำรจัดกำรเรียนรู้ ของ นักเรียนในสังคมพหุวัฒนธรรม .(วิทยำนิพนธ์ปริญญำ มหำบัณฑิต). รำชบุรี. มหำวิทยำลัยรำชภัฎหมู่บ้ำนจอมบึง. สืบค้น จำก https://tdc.thailis.or.th/tdc/ ธัญพัชร ศรีมำรัตน์. (2558). อัตลักษณ์ทำงวัฒนธรรมกับกระบวนกำร กลำยเป็นสินค้ำ : กรณีศึกษำโรงแรมปิงนครำ บูติก โฮเทล แอนด์ สปำ เชียงใหม่.(วิทยำนิพนธ์ปริญญำมหำบัณฑิต). เชียงใหม่. มหำวิทยำลยั เชยี งใหม่. สืบค้นจำก https://tdc.thailis.or.th/tdc/ เอกสำรประกอบกำรเรยี นสัปดำหท์ ่ี 5 รำยวชิ ำ แนวคิดเบื้องตน้ ทำงสังคม วทิ ยำ ภำคเรียนที่ 1 ปีกำรศกึ ษำ 2558 มหำวิทยำลัยบูรพำ 30หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง : วฒั นธรรมและการดาเนนิ ชวี ติ ประจาวนั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook