Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรศิลปะ

หลักสูตรศิลปะ

Published by nongpoo2530.rung, 2021-09-06 06:12:52

Description: หลักสูตรศิลปะ

Search

Read the Text Version

51 สำระที่ 2 ดนตรี มำตรฐำน ศ 2.1 เขา้ ใจและแสดงออกทางดนตรอี ย่างสร้างสรรค์ วเิ คราะห์ วิพากษว์ ิจารณค์ ณุ ค่าดนตรี ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดตอ่ ดนตรอี ย่างอิสระ ช่นื ชม และประยกุ ต์ใช้ ในชีวิตประจาวนั ช้นั ตัวช้วี ัด สำระกำรเรียนรูแ้ กนกลำง ป.5 1. ระบุองคป์ ระกอบดนตรีในเพลงที่ใช้ใน  การสื่ออารมณข์ องบทเพลงด้วยองคป์ ระกอบ การสือ่ อารมณ์ ดนตรี 2. จาแนกลักษณะของเสียงขบั ร้องและ - จังหวะกับอารมณ์ของบทเพลง เครอื่ งดนตรที อี่ ยู่ในวงดนตรีประเภทต่าง ๆ - ทานองกับอารมณข์ องบทเพลง  ลักษณะของเสยี งนกั ร้องกลุม่ ต่าง ๆ  ลักษณะเสียงของวงดนตรปี ระเภทต่าง ๆ 3. อ่าน เขยี นโน้ตดนตรีไทยและสากล  เครอ่ื งหมายและสัญลักษณท์ างดนตรี 5 ระดับเสยี ง - บนั ไดเสียง 5 เสียง Pentatonic scale 4. ใช้เครอ่ื งดนตรบี รรเลงจงั หวะ และ - โน้ตเพลงในบนั ไดเสยี ง 5 เสยี ง ทานอง Pentatonic scale  การบรรเลงเครอื่ งประกอบจงั หวะ  การบรรเลงทานองด้วยเครือ่ งดนตรี 5. รอ้ งเพลงไทยหรอื เพลงสากลหรือเพลง  การร้องเพลงไทยในอัตราจังหวะสองชนั้ ไทยสากลท่ีเหมาะสมกับวัย  การรอ้ งเพลงสากล หรอื ไทยสากล  การร้องเพลงประสานเสียงแบบ Canon Round 6. ดน้ สดงา่ ย ๆ โดยใช้ประโยคเพลง  การสรา้ งสรรคป์ ระโยคเพลงถาม-ตอบ แบบถามตอบ 7. ใชด้ นตรรี ่วมกบั กจิ กรรมในการ  การบรรเลงดนตรีประกอบกจิ กรรม แสดงออกตามจนิ ตนาการ นาฏศลิ ป์  การสร้างสรรคเ์ สียงประกอบการเล่าเรื่อง หลักสูตรกลุ่มสาระศลิ ปะ โรงเรียนวดั พชื นิมติ (คาสวัสดิ์ราษฎรบ์ ารงุ ) พุทธศักราช 2563 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

52 สำระท่ี 2 ดนตรี มำตรฐำน ศ 2.2 เข้าใจความสัมพันธร์ ะหวา่ งดนตรี ประวตั ิศาสตร์ และวฒั นธรรม เห็นคณุ ค่า ของดนตรีท่เี ปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภูมปิ ญั ญาท้องถ่ิน ภมู ปิ ัญญาไทยและสากล ชน้ั ตัวชี้วัด สำระกำรเรียนรแู้ กนกลำง ป.5 1. อธบิ ายความสัมพันธ์ระหว่างดนตรีกับ  ดนตรกี ับงานประเพณี ประเพณใี นวัฒนธรรมต่าง ๆ - บทเพลงในงานประเพณใี นทอ้ งถนิ่ - บทบาทของดนตรีในแตล่ ะประเพณี 2. อธิบายคณุ ค่าของดนตรที ี่มาจาก  คณุ ค่าของดนตรีจากแหลง่ วัฒนธรรม วัฒนธรรมทตี่ า่ งกัน - คุณค่าทางสังคม คุณค่าทางประวัติศาสตร์ หลักสูตรกลุม่ สาระศลิ ปะ โรงเรียนวดั พชื นิมิต (คาสวสั ดร์ิ าษฎร์บารุง) พทุ ธศักราช 2563 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

53 สำระที่ 3 นำฏศิลป์ มำตรฐำน ศ 3.1 เขา้ ใจ และแสดงออกทางนาฏศลิ ป์อยา่ งสรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษ์วจิ ารณ์ คณุ ค่านาฏศลิ ป์ ถ่ายทอดความรู้สกึ ความคดิ อย่างอสิ ระ ชน่ื ชม และประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตประจาวนั ช้นั ตัวช้ีวัด สำระกำรเรียนร้แู กนกลำง ป.5 1. บรรยายองคป์ ระกอบนาฏศิลป์  องค์ประกอบของนาฏศลิ ป์ - จังหวะ ทานอง คาร้อง - ภาษาท่า นาฏยศพั ท์ - อุปกรณ์ 2. แสดงท่าทางประกอบเพลงหรอื เรอื่ งราว  การประดิษฐ์ทา่ ทางประกอบเพลง ตามความคิดของตน หรือท่าทางประกอบเรื่องราว 3. แสดงนาฏศิลป์ โดยเน้นการใช้ภาษาท่า  การแสดงนาฏศิลป์ และนาฏยศัพทใ์ นการสื่อความหมายและ - ระบา การแสดงออก - ฟ้อน ราวงมาตรฐาน 4. มีสว่ นรว่ มในกลุ่มกับการเขียน  องค์ประกอบของละคร เค้าโครงเรอ่ื งหรือบทละครสั้น ๆ - การเลอื กและเขยี นเค้าโครงเรื่อง - บทละครสัน้ ๆ 5. เปรียบเทยี บการแสดงนาฏศิลป์ชุดต่าง ๆ  ทม่ี าของการแสดงนาฏศิลปช์ ดุ ตา่ ง ๆ 6. บอกประโยชน์ทไ่ี ด้รับจากการชม  หลกั การชมการแสดง การแสดง  การถา่ ยทอดความรู้สกึ และคุณค่า ของการแสดง สำระที่ 3 นำฏศลิ ป์ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศลิ ป์ ประวตั ิศาสตรแ์ ละวัฒนธรรม มำตรฐำน ศ 3.2 เหน็ คณุ ค่าของนาฏศลิ ป์ท่ีเปน็ มรดกทางวฒั นธรรม ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ ภูมปิ ัญญาไทยและสากล ชน้ั ตัวชวี้ ัด สำระกำรเรียนรูแ้ กนกลำง ป.5 1. เปรียบเทียบการแสดงประเภทตา่ ง ๆ  การแสดงนาฏศลิ ป์ประเภทต่าง ๆ ของไทย ในแต่ละท้องถ่ิน - การแสดงพืน้ บา้ น 2. ระบหุ รือแสดงนาฏศลิ ป์ นาฏศลิ ป์ พืน้ บา้ นท่ีสะทอ้ นถงึ วฒั นธรรมและ  การแสดงนาฏศิลป์ประเภทต่าง ๆ ประเพณี การแสดงพนื้ บ้าน หลักสูตรกลุม่ สาระศลิ ปะ โรงเรยี นวัดพืชนิมติ (คาสวสั ดริ์ าษฎรบ์ ารงุ ) พทุ ธศักราช 2563 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

54 คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพนื้ ฐำน ศ๑5๑๐๑ ศิลปะ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ศลิ ปะ ชนั้ ประถมศึกษำปีท่ี 5 เวลำ 4๐ ชวั่ โมง ศึกษาเก่ียวกับจังหวะ ตาแหน่งของส่ิงต่างๆ ท่ีปรากฏในส่ิงแวดล้อมและงานทัศนศิลป์ความแตกต่าง ระหว่างงานทัศนศิลป์ท่ีสร้างสรรค์ด้วยวัสดุ อุปกรณ์และวิธีการต่างกัน การวาดภาพโดยใช้เทคนิคแสงเงา น้าหนักและวรรณะสี การสร้างสรรค์งานปั้นเพ่ือถ่ายทอดจินตนาการด้วยการใช้ ดินน้ามันหรือดินเหนียว การจัดภาพในงานพมิ พ์ภาพ การจัดองค์ประกอบศิลป์และการสอ่ื ความหมายในงานทัศนศิลป์ ประโยชน์และ คุณค่าของงานทัศนศิลป์ท่ีมีผลต่อชีวิตของคนในสังคม ลักษณะรูปแบบของงานทัศนศิลป์ งานทัศนศิลป์ที่ สะท้อนวฒั นธรรมและภูมิปัญญาในท้องถิ่น การส่ืออารมณ์ของบทเพลงด้วยองค์ประกอบดนตรี ลักษณะของ เสยี งนักรอ้ งกลมุ่ ต่าง ๆ ลักษณะเสียงของวงดนตรี ประเภทต่าง ๆ เคร่ืองหมายและสัญลกั ษณท์ างดนตรี การ บรรเลงเคร่ืองประกอบจังหวะ การบรรเลงทานองดว้ ยเครื่องดนตรี การรอ้ งเพลงไทยในอัตราสองช้นั การร้อง เพลงสากลหรือไทยสากล การร้องเพลงประสานเสียงแบบ Canon Round การสร้างสรรค์ประโยคเพลงถาม – ตอบ การบรรเลงดนตรีประกอบกิจกรรมนาฏศิลป์ การสร้างสรรค์เสียงประกอบการเล่าเรื่อง บทเพลงและ บทบาทดนตรีในงานประเพณี คณุ คา่ ของดนตรจี ากแหล่งวฒั นธรรม องคป์ ระกอบของนาฏศิลป์ การประดิษฐ์ ท่าทางประกอบเพลงหรอื ท่าทางประกอบเร่ืองราว การแสดงนาฏศิลป์ องคป์ ระกอบของละคร ท่ีมาของการ แสดงนาฏศลิ ป์ชดุ ตา่ ง ๆ หลักการชมการแสดง การถ่ายทอดความรู้สึกและคุณค่าของการแสดง การแสดง นาฏศลิ ปป์ ระเภทต่าง ๆ ของไทยในแตล่ ะท้องถน่ิ โดยการฝึกปฏิบัติ การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล การคิดวิเคราะห์ และการอภิปราย เพ่ือใหเ้ กิดทกั ษะ ความรู้ ความเขา้ ใจ ความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ สามารถส่อื สารสิ่งที่เรยี นรู้ มคี วามสามารถแสดงออกทางศิลปะอย่างสร้างสรรค์ เห็นคุณค่าของศิลปะทเ่ี ป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภูมปิ ัญญาท้องถ่ิน ภูมิปญั ญาไทย มีจินตนาการทาง ศลิ ปะ มสี นุ ทรยี ภาพ มีความซาบซ้งึ ในคุณค่าของศิลปะและมคี วามเช่ือมน่ั ในตนเอง รหสั ตัวชี้วัด ศ ๑.๑ ป.๕/๑,ป.๕/๒,ป.๕/๓,ป.๕/๔,ป.๕/๕,ป.๕/๖,ป.๕/๗ ศ ๑.๒ ป.๕/๑,ป.๕/๒ ศ ๒.๑ ป.๕/๑,ป.๕/๒,ป.๕/๓,ป.๕/๔,ป.๕/๕,ป.๕/๖,ป.๕/๗ ศ ๒.๒ ป.๕/๑,ป.๕/๒ ศ ๓.๑ ป.๕/๑,ป.๕/๒,ป.๕/๓,ป.๕/๔,ป.๕/๕,ป.๕/๖ ศ ๓.๒ ป.๕/๑,ป.๕/๒ รวมท้ังหมด ๒๖ ตัวช้ีวดั หลักสูตรกลมุ่ สาระศลิ ปะ โรงเรยี นวัดพืชนิมิต (คาสวสั ดร์ิ าษฎร์บารงุ ) พุทธศกั ราช 2563 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

55 โครงสรำ้ งรำยวชิ ำ รำยวชิ ำ ศิลปะ รหัสวชิ ำ ศ 15101 ระดบั ชั้นประถมศึกษำปีท่ี 5 เวลำ ๔0 ช่วั โมง / ปี จำนวน 1 ชวั่ โมง / สปั ดำห์ จำนวน 1 หน่วยนำ้ หนกั หนว่ ย ช่อื หน่วยกำรเรียนรู้ ขอบข่ำยสำระกำรเรียนรู้ สำระสำคญั เวลำ นำ้ หนัก ท่ี มำตรฐำน ตัวช้ีวดั ชม. คะแนน สำระทศั นศิลป์ ๒0 ชวั่ โมง 1 ศิลปะกับงาน 1.จังหวะและตาแหน่งของสงิ่ ความเข้าใจในงาน 5 25 สรา้ งสรรค์ ตา่ งๆ ในสิ่งแวดลอ้ มและงาน ทศั นศลิ ป์ในด้าน ศ.1.1 ป. 5/1 ทัศนศิลป์ ความแตกต่าง ทาให้ ศ.1.1 ป.5/2 2.ความแตกต่างระหวา่ งงาน มีทักษะพ้นื ฐานใน ทศั นศลิ ป์ การสรา้ งสรรค์ 3.ความภาคภูมิใจใน ผลงานได้ ส่งิ แวดล้อมและงานทัศนศิลป์ 2 ทศั นศลิ ปก์ บั งาน 1.แสงเงา น้าหนัก วรรณะสี การสรา้ งสรรค์ 5 25 สรา้ งสรรค์ 2.การสร้างสรรคง์ านป้นั เพ่อื ผลงานทศั นศิลป์ได้ดี ศ.1.1 ป.5/3 ถา่ ยทอดจิตนาการดว้ ยการใช้ นั้น จะต้องรแู้ ละ ศ.1.1 ป.5/4 ดินนา้ มนั หรือดินเหนียว เขา้ ใจน้าหนัก แสง ศ.1.1 ป.5/5 3.การจดั ภาพในงานพิมพ์ภาพ เงา วรรณะสี หลักการจดั ภาพ จงึ จะทาใหเ้ กิดผลงานที่ ภาคภมู ิใจยงิ่ ขึ้น 3 ทศั นศลิ ป์กับสงั คม 1.การจัดองค์ประกอบศลิ ป์ 2. การจัดองค์ประกอบ 5 25 ศ.1.1 ป.5/6 การส่อื ความหมายในงาน ศิลป์ท่ถี กู ตอ้ งชว่ ย ศ.1.1 ป.5/7 ทัศนศลิ ป์ สร้างประโยชนแ์ ละ 3.ประโยชนแ์ ละคุณค่าของ คุณค่าในงาน งานทัศนศลิ ป์ ทศั นศิลป์ 4 ทัศนศลิ ปก์ ับ 1.ลักษณะรปู แบบของงาน งานทศั นศลิ ป์ที่ 5 25 วฒั นธรรมในทอ้ งถ่นิ ทศั นศิลป์ สะท้อนวฒั นธรรม ศ.1.2 ป. 5/1 2.งานทศั นศิลป์ที่สะทอ้ น ของทอ้ งถน่ิ ควรคา่ ศ.1.2 ป.5/2 วฒั นธรรมและภูมปิ ญั ญาใน แกก่ ารอนรุ ักษ์ ทอ้ งถิ่น 3.งานทัศนศิลป์ในทอ้ งถน่ิ ท่ี ภาคภูมใิ จ รวม 20 100 หลักสูตรกล่มุ สาระศลิ ปะ โรงเรียนวดั พชื นิมติ (คาสวัสดิ์ราษฎร์บารุง) พทุ ธศกั ราช 2563 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

หน่วย ชอื่ หน่วยกำรเรยี นรู้ ขอบข่ำยสำระกำรเรียนรู้ สำระสำคัญ 56 มำตรฐำน ตวั ชี้วดั เวลำ นำ้ หนกั สำระดนตรี ๑0 ชั่วโมง ชม. คะแนน 5 ประเภทของเสยี ง ศ2.1 ป5/2 ๑ 20  ลกั ษณะของเสยี งนกั รอ้ ง -เสียงวงดนตรไี ทย กลุ่มต่าง ๆ -เสียงวงดนตรีพื้นบา้ น  ลกั ษณะเสียงของวง ดนตรปี ระเภทต่าง ๆ 6 ทฤษฎขี องเสียง ๑ 20 ศ2.1 ป5/1  การสอ่ื อารมณข์ องบทเพลง -องค์ประกอบของดนตรี ศ2.1ป5/3 ด้วยองคป์ ระกอบดนตรี ท่มี ีผลตอ่ อารมณ์ - จงั หวะกบั อารมณ์  การขับร้องเพลง ของบทเพลง - ทานองกบั อารมณ์ ของบทเพลง  เคร่ืองหมายและ -เครื่องหมาย สญั ลักษณ์ทางดนตรี โน้ตในบันใด 5 เสียง - บันไดเสียง 5 เสียง Pentatonic scale - โน้ตเพลงในบนั ได เสียง 5 เสียง Pentatonic scale 7 ปฏิบัติเสยี ง ๓ 20 ศ2.1 ป5/4  การบรรเลงเคร่อื ง -ตีกลองหน้าทบั ลาวสอง ประกอบจังหวะ ชนั้ -เล่นเครื่องดนตรเี พลง  การบรรเลงทานองด้วย ลอ่ งแมป่ ิง เครื่องดนตรี หลกั สตู รกลุ่มสาระศลิ ปะ โรงเรียนวดั พชื นิมติ (คาสวัสดิร์ าษฎรบ์ ารงุ ) พุทธศกั ราช 2563 ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

57 หน่วย ชอื่ หน่วยกำรเรยี นรู้ ขอบขำ่ ยสำระกำรเรียนรู้ สำระสำคัญ เวลำ นำ้ หนกั มำตรฐำน ตวั ช้ีวดั ชม. คะแนน สำระดนตรี (ต่อ) 7 ศ2.1 ป5/5  การรอ้ งเพลงไทยใน -ร้องเพลงลอ่ งแม่ปงิ ๒ อัตราจงั หวะสองชัน้  การรอ้ งเพลงสากล หรอื -ร้องเพลงสากล (Jingle bell) ไทยสากล การรอ้ งเพลงประสานเสยี ง -รอ้ งเพลงประสานเสียง แบบ Canon Round 8 องค์ประกอบเสยี ง 1 20 ศ2.1 ป5/6  การสรา้ งสรรค์ประโยค -แต่งเพลงถามตอบแบบ เพลงถาม-ตอบ งา่ ยๆ 9 บทบำทเสยี ง ๒ 20 ศ2.1 ป5/7  การบรรเลงดนตรี -แสดงทา่ ทาง ศ2.2 ป5/1 ประกอบกจิ กรรมนาฏศิลป์ ประกอบการบรรเลง  การสร้างสรรคเ์ สยี ง เครอื่ งดนตรี ประกอบการเล่าเร่ือง -ใชเ้ สียงท่ีเหมาะสมใน การเลา่ นทิ าน  ดนตรีกับงานประเพณี -ดนตรกี บั งานประเพณี - บทเพลงในงาน งานปอยหลวง ประเพณใี นทอ้ งถิน่ หน้าทีของดนตรีใน - บทบาทของดนตรี งานปอยหลวง ในแตล่ ะประเพณี -คณุ คา่ ของดนตรี ศ2.2 ป5/2  คุณค่าของดนตรีจาก แหลง่ วฒั นธรรม - คณุ ค่าทางสังคม - คณุ ค่าทาง ประวตั ิศาสตร์ รวม ๑0 100 หลักสตู รกลุ่มสาระศลิ ปะ โรงเรียนวัดพืชนิมิต (คาสวัสดิ์ราษฎรบ์ ารุง) พุทธศักราช 2563 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

58 ลำดับ ชอ่ื หน่วยกำร สำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำง สำระสำคญั เวลำ น้ำหนกั ท่ี เรียนรู้ คะแนน (ชว่ั โมง) 10 ลลี าทา่ ทาง 15 ศ 3.1 ป.5/1 สำระนำฏศลิ ป์ ๑0 ชั่วโมง 35 11 สร้างสรรคล์ ีลา องค์ประกอบของนาฏศลิ ป์ ภาษาท่าใช้แทนคาพูด กริ ิยา 2 ศ 3.1 ป.5/2, ศ.3.1ป.5/3, - จังหวะ ทานอง อาการ และแสดงอารมณ์ ศ.3.2 ป.5/2, ศ.3.2 ป.5/3 คาร้อง - ภาษาท่า นาฏ ศพั ท์ - อปุ กรณ์ - การประดิษฐท์ ่าทาง - การประดษิ ฐ์ท่าทาง 4 ประกอบเพลงหรอื ทา่ ทาง ประกอบเพลงหรือทา่ ทาง ประกอบเร่อื งราว ประกอบเรอ่ื งราว - การแสดงนาฏศิลป์ - การแสดงนาฏศิลป์ประเภท ประเภทตา่ ง ต่าง - การแสดงพนื้ เมอื ง - การแสดงพน้ื เมือง - การแสดงนาฏศลิ ป์ - การแสดงนาฏศิลป์ - ระบา ฟ้อน ราวง - ระบา - ฟ้อน มาตรฐาน - ราวงมาตรฐาน 12 วถิ ชี ีวติ กับ - การแสดงนาฏศิลป์ - การแสดงนาฏศิลป์ 4 50 - ระบา นาฏศิลป์ไทย - ระบา - ฟอ้ น - ราวงมาตรฐาน ศ 3.1 ป.5/3, - ฟ้อน - ทม่ี าของการแสดงนาฏศิลป์ ศ.3.1ป.5/5 , - ราวงมาตรฐาน ชุดต่างๆ -การแสดงนาฏศลิ ป์ไทย ศ.3.2ป.5/1 - ทม่ี าของการแสดง ประเภทต่างๆ นาฏศลิ ป์ชุดตา่ งๆ -การแสดงนาฏศิลปไ์ ทย ประเภทตา่ งๆ รวม 10 100 รวมทั้งหมด 40 300 คะแนนรวมท้งั หมด ( ผลบวก 3 สำระหำรด้วย 3 ) 100 หลักสูตรกลมุ่ สาระศลิ ปะ โรงเรยี นวดั พืชนิมิต (คาสวสั ด์ริ าษฎรบ์ ารงุ ) พทุ ธศักราช 2563 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

59 ตัวช้วี ัดและสำระกำรเรียนรแู้ กนกลำง สำระท่ี 1 ทศั นศิลป์ มาตรฐาน ศ 1.1 สรา้ งสรรคง์ านทศั นศลิ ป์ตามจินตนาการ และความคิดสรา้ งสรรค์ วิเคราะห์ วพิ ากษ์วิจารณ์คณุ ค่า งานทศั นศลิ ป์ ถา่ ยทอดความรู้สึก ความคิดต่องานศิลปะอย่างอสิ ระช่นื ชม และประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ชัน้ ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป.6 1.ระบุสคี ตู่ รงข้าม และอภปิ รายเกยี่ วกับ  วงสีธรรมชาติ และสีคู่ตรงข้าม การใชส้ ีคตู่ รงข้ามในการถา่ ยทอด ความคดิ และอารมณ์ 2.อธิบายหลักการจัดขนาดสัดสว่ นความ  หลกั การจดั ขนาด สัดส่วนความสมดลุ สมดลุ ในการสรา้ งงานทศั นศิลป์ ในงานทศั นศลิ ป์ 3.สรา้ งงานทัศนศิลปจ์ ากรูปแบบ  งานทัศนศลิ ปร์ ูปแบบ 2 มิติ และ 3 มติ ิ 2 มติ ิ เปน็ 3 มติ ิ โดยใชห้ ลกั การ ของแสงเงาและน้าหนกั 4.สรา้ งสรรคง์ านปั้นโดยใช้หลักการเพ่ิม  การใช้หลักการเพิม่ และลดในการ และลด สร้างสรรค์งานปน้ั 5.สร้างสรรคง์ านทัศนศิลป์โดยใช้หลักการ  รปู และพืน้ ท่วี า่ งในงานทศั นศลิ ป์ ของรูปและพืน้ ทว่ี ่าง 6.สรา้ งสรรค์งานทศั นศลิ ป์โดยใช้  การสร้างสรรค์งานทศั นศลิ ปโ์ ดยใช้ สีคูต่ รงข้ามหลกั การจัดขนาดสดั สว่ น และ สคี ู่ตรงข้าม หลกั การจัดขนาด สัดส่วนและ ความสมดุล ความสมดุล 7.สรา้ งงานทศั นศลิ ป์เป็นแผนภาพ  การสรา้ งงานทศั นศิลป์เปน็ แผนภาพ แผนผงั และภาพประกอบ เพอ่ื ถา่ ยทอด แผนผงั และภาพประกอบ ความคดิ หรือเรอ่ื งราวเกย่ี วกบั เหตุการณ์ ต่าง ๆ หลักสตู รกลุ่มสาระศลิ ปะ โรงเรียนวัดพืชนมิ ิต (คาสวสั ดิร์ าษฎรบ์ ารงุ ) พุทธศักราช 2563 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

60 สำระท่ี 1 ทัศนศลิ ป์ มาตรฐาน ศ 1.2 เขา้ ใจความสัมพนั ธ์ระหวา่ งทัศนศิลป์ ประวตั ศิ าสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคณุ คา่ งานทศั นศิลป์ท่ีเป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภูมิปญั ญาทอ้ งถ่ิน ภูมิปญั ญาไทย และสากล ชัน้ ตวั ช้ีวดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป.6 1.บรรยายบทบาทของงานทศั นศิลป์ บทบาทของงานทศั นศิลป์ในชีวิต ทสี่ ะทอ้ นชีวติ และสังคม และสังคม 2.อภปิ รายเกีย่ วกบั อทิ ธพิ ลของ อทิ ธิพลของศาสนาท่ีมีตอ่ งานทศั นศิลป์ ความเชื่อความศรทั ธาในศาสนาท่มี ผี ลตอ่ ในทอ้ งถิน่ งานทัศนศิลป์ในทอ้ งถิน่ 3.ระบุ และบรรยายอิทธพิ ลทางวฒั นธรรม อทิ ธพิ ลทางวฒั นธรรมในทอ้ งถน่ิ ทมี่ ผี ล ในท้องถิ่นทม่ี ผี ลตอ่ การสร้างงานทัศนศลิ ป์ ตอ่ การสร้างงานทศั นศิลป์ ของบคุ คล หลักสูตรกลุ่มสาระศลิ ปะ โรงเรียนวัดพชื นมิ ติ (คาสวสั ดิ์ราษฎรบ์ ารุง) พทุ ธศักราช 2563 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

61 สำระท่ี 2 ดนตรี มาตรฐาน ศ 2.1 เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วพิ ากษ์วิจารณ์คุณค่าดนตรี ถา่ ยทอดความรู้สกึ ความคดิ ตอ่ ดนตรีอยา่ งอสิ ระ ช่นื ชม และประยุกตใ์ ช้ ในชวี ิตประจาวนั ชนั้ ตัวชวี้ ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป.6 1.บรรยายเพลงท่ีฟัง โดยอาศยั องคป์ ระกอบดนตรีและศพั ท์สังคตี องค์ประกอบดนตรี และศัพท์สังคีต 2.จาแนกประเภทและบทบาทหนา้ ที่ เครอื่ งดนตรีไทยแตล่ ะภาค เครื่องดนตรีไทยและเคร่ืองดนตรีที่ บทบาทและหน้าทขี่ องเครื่องดนตรี ประเภทของเครื่องดนตรสี ากล มาจากวัฒนธรรมต่าง ๆ 3.อ่าน เขยี นโนต้ ไทย และโนต้ สากลทานอง เครื่องหมายและสัญลกั ษณ์ทางดนตรี งา่ ย ๆ โน้ตบทเพลงไทย อตั ราจังหวะสองชัน้ โนต้ บทเพลงสากลในบนั ไดเสยี ง C Major 4.ใชเ้ ครอื่ งดนตรีบรรเลงประกอบ การรอ้ งเพลงประกอบดนตรี การรอ้ งเพลง ด้นสด ท่มี จี งั หวะและทานอง  การสร้างสรรคร์ ปู แบบจังหวะและทานอง งา่ ย ๆ ดว้ ยเคร่ืองดนตรี 5.บรรยายความรูส้ กึ ที่มีต่อดนตรี การบรรยายความรู้สึกและแสดงความ 6.แสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกบั ทานอง คดิ เห็นทมี่ ตี อ่ บทเพลง จังหวะการประสานเสยี ง และคณุ ภาพเสียง เน้อื หาในบทเพลง ของเพลงท่ีฟงั องค์ประกอบในบทเพลง คุณภาพเสยี งในบทเพลง สำระที่ 2 ดนตรี มาตรฐาน ศ 2.2 เขา้ ใจความสมั พนั ธ์ระหวา่ งดนตรี ประวัตศิ าสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่า ของดนตรที เ่ี ปน็ มรดกทางวฒั นธรรม ภูมิปัญญาทอ้ งถิน่ ภมู ิปัญญาไทยและสากล ช้นั ตวั ช้วี ัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ป.6 1.อธบิ ายเร่ืองราวของดนตรไี ทย ดนตรีไทยในประวตั ิศาสตร์ ในประวตั ศิ าสตร์ ดนตรใี นเหตกุ ารณ์สาคญั ทางประวตั ศิ าสตร์ 2.จาแนกดนตรีทมี่ าจากยุคสมยั ท่ีต่างกนั ดนตรใี นยคุ สมัยต่าง ๆ 3.อภิปรายอทิ ธิพลของวัฒนธรรม อิทธิพลของวฒั นธรรมทมี่ ตี ่อดนตรี ตอ่ ดนตรีในทอ้ งถิ่น หลักสตู รกลุ่มสาระศลิ ปะ โรงเรยี นวัดพชื นมิ ติ (คาสวสั ดร์ิ าษฎรบ์ ารุง) พุทธศักราช 2563 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

62 สำระท่ี 3 นำฏศลิ ป์ มาตรฐาน ศ 3.1 เขา้ ใจ และแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วิพากษ์วจิ ารณ์ คณุ ค่านาฏศลิ ป์ ถา่ ยทอดความรู้สกึ ความคิดอยา่ งอสิ ระ ชื่นชม และประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวัน ช้นั ตัวช้ีวดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป.6 1.สรา้ งสรรคก์ ารเคลอ่ื นไหวและการแสดง การประดิษฐ์ทา่ ทางประกอบเพลงปลุกใจหรือ โดยเน้นการถา่ ยทอดลีลาหรืออารมณ์ เพลงพ้ืนเมอื งหรอื ท้องถิ่นเนน้ ลีลา หรืออารมณ์ 2.ออกแบบเคร่ืองแตง่ กาย หรอื อปุ กรณ์ การออกแบบสร้างสรรค์ ประกอบการแสดงอย่างงา่ ย ๆ เคร่อื งแต่งกาย อปุ กรณ์ ฉากประกอบการแสดง 3.แสดงนาฏศลิ ป์และละครงา่ ย ๆ การแสดงนาฏศิลป์และการแสดงละคร ราวงมาตรฐาน ระบา ฟ้อน ละครสรา้ งสรรค์ 4.บรรยายความร้สู กึ ของตนเองทม่ี ีต่องาน บทบาทและหน้าท่ใี นงานนาฏศลิ ป์และการ นาฏศิลป์และการละครอย่างสร้างสรรค์ ละคร 5.แสดงความคิดเห็นในการชมการแสดง หลักการชมการแสดง การวเิ คราะห์ ความรสู้ ึกชื่นชม 6.อธบิ ายความสัมพันธร์ ะหว่างนาฏศิลป์ องคป์ ระกอบทางนาฏศิลป์และการละคร และการละครกบั สง่ิ ท่ปี ระสบ ในชีวิตประจาวัน สำระท่ี 3 นำฏศิลป์ มาตรฐาน ศ 3.2 เขา้ ใจความสมั พนั ธ์ระหวา่ งนาฏศลิ ป์ ประวตั ศิ าสตร์และวัฒนธรรม เห็นคณุ ค่าของนาฏศิลป์ท่เี ป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภมู ิปญั ญาท้องถ่นิ ภูมิปญั ญาไทยและสากล ช้ัน ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป.6 1.อธบิ ายส่ิงทีม่ คี วามสาคญั ต่อการแสดง ความหมาย ความเป็นมา ความสาคัญ ของ นาฏศลิ ปแ์ ละละคร นาฏศิลปแ์ ละละคร บคุ คลสาคญั คุณค่า 2.ระบุประโยชนท์ ่ไี ดร้ ับจากการแสดงหรือ การแสดงนาฏศิลปแ์ ละละคร การชมการแสดงนาฏศลิ ป์และละคร ในวนั สาคัญของโรงเรียน หลักสตู รกลมุ่ สาระศลิ ปะ โรงเรยี นวัดพชื นิมิต (คาสวัสด์ิราษฎร์บารุง) พุทธศกั ราช 2563 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

63 คำอธิบำยรำยวิชำพน้ื ฐำน ศ๑6๑๐๑ ศลิ ปะ กลุม่ สำระกำรเรยี นรศู้ ลิ ปะ ช้นั ประถมศกึ ษำปีที่ 6 เวลำ 4๐ ช่ัวโมง ศกึ ษาเก่ียวกบั วงสีธรรมชาติและสีคู่ตรงข้าม หลักการจัดขนาด สัดสว่ น ความสมดุลในงานทัศนศิลป์ งานทัศนศิลป์รูปแบบ ๒ มิติ และ ๓ มติ ิ การใช้หลักการเพ่ิมและลดในการสรา้ งสรรค์ งานป้ัน รูปและพื้นที่ ว่างในงานทัศนศิลป์ การสร้างสรรค์งานทัศนศิลป์โดยใช้สีคูต่ รงขา้ ม หลักการจัดขนาดสัดส่วนและความสมดุล การสร้างงานทัศนศิลป์เป็นแผนภาพ แผนผังและภาพประกอบเพ่ือถ่ายทอดความคิดหรือเร่ืองราวเก่ียวกับ เหตกุ ารณ์ต่าง ๆ บทบาทของงานทัศนศลิ ป์ในชีวิตและสังคมอิทธิพลของศาสนาที่มีต่องานทัศนศลิ ป์ในท้องถิ่น อิทธิพลทางวัฒนธรรมในท้องถ่ินที่มีผลต่อการสร้างงานทัศนศิลป์ องค์ประกอบดนตรีและศัพท์สังคีต เครื่อง ดนตรีไทยแต่ละภาค บทบาทหน้าที่ของเครื่องดนตรี ประเภทของเคร่ืองดนตรีสากล เคร่ืองหมายและ สัญลกั ษณ์ทางดนตรี โน้ตบทเพลงไทย อัตราจงั หวะ ๒ ชั้น โนต้ บทเพลงสากลในบันไดเสียง C MaJor การ รอ้ งเพลงประกอบดนตรี การสรา้ งรูปแบบจงั หวะและทานองดว้ ยเครื่องดนตรี การบรรยายความรู้สกึ และแสดง ความคิดเห็นที่มตี ่อบทเพลง ดนตรไี ทยในประวัติศาสตร์ การประดษิ ฐ์ท่าทางประกอบเพลงปลุกใจ หรือเพลง พ้นื เมือง หรือทอ้ งถนิ่ เน้นลลี าหรอื อารมณ์ การออกแบบเครื่องแต่งกายหรืออุปกรณป์ ระกอบการแสดง การ แสดงนาฏศิลป์และการแสดงละคร บทบาทและหน้าท่ีในงานนาฏศิลป์และการละคร หลักการชมการแสดง องค์ประกอบทางนาฏศิลป์และ การละคร ความหมาย ความเป็นมา ความสาคัญของนาฏศิลปแ์ ละละคร การ แสดงนาฏศิลปแ์ ละละครในวันสาคญั ของโรงเรยี น โดยการฝึกปฏิบัติ การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล การคิดวิเคราะห์ และการอภปิ ราย เพื่อใหเ้ กดิ ทกั ษะ ความรู้ ความเข้าใจ ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ สามารถสอ่ื สารสิง่ ท่ีเรียนรู้ มคี วามสามารถแสดงออกทางศลิ ปะอยา่ งสร้างสรรค์ เห็นคุณค่าของศิลปะท่ีเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภมู ิปัญญาท้องถ่ิน ภูมิปัญญาไทย มีจินตนาการทาง ศลิ ปะ มสี นุ ทรยี ภาพ มคี วามซาบซึ้งในคณุ ค่าของศลิ ปะและมีความเชือ่ มนั่ ในตนเอง รหสั ตวั ชวี้ ัด ศ ๑.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓,ป.๖/๔,ป.๖/๕,ป.๖/๖,ป.๖/๗ ศ ๑.๒ ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓ ศ ๒.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓,ป.๖/๔,ป.๖/๕,ป.๖/๖ ศ ๒.๒ ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓ ศ ๓.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓,ป.๖/๔,ป.๖/๕,ป.๖/๖ ศ ๓.๒ ป.๖/๑,ป.๖/๒ รวมทั้งหมด ๒๗ ตวั ช้วี ดั หลักสตู รกลุ่มสาระศลิ ปะ โรงเรียนวดั พชื นิมิต (คาสวสั ดริ์ าษฎรบ์ ารงุ ) พุทธศักราช 2563 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

64 โครงสรำ้ งรำยวิชำ รำยวชิ ำ ศลิ ปะ รหัสวชิ ำ ศ 16101 ระดบั ช้นั ประถมศึกษำปีท่ี 6 เวลำ ๔0 ช่วั โมง / ปี จำนวน 1 ชัว่ โมง / สัปดำห์ จำนวน 1 หน่วยนำ้ หนกั หนว่ ยที่ ชอ่ื หนว่ ยกำรเรียนรู้ ขอบข่ำยสำระกำรเรียนรู้ สำระสำคัญ เวลำ น้ำหนกั มำตรฐำน ตวั ชี้วดั ชม. คะแนน สำระทศั นศิลป์ ๒0 ชว่ั โมง 1 ศลิ ปะกับงาน 1.วงสธี รรมชาตแิ ละสคี ู่ หลกั การจดั ขนาด ๕ 25 สร้างสรรค์ ตรงข้าม สดั ส่วน ความสมดุล ศ.1.1 ป. 6/1 2.หลกั การจัดขนาด เป็นสิง่ ทีค่ วรศึกษา ศ.1.1 ป.6/2 สดั สว่ น ความสมดุลในงาน สร้างงานทศั นศิลป์ 2 ทัศนศลิ ป์กบั งาน 1.งานทศั นศลิ ป์รปู แบบ 2 การสรา้ งสรรค์ผลงาน 5 25 สรา้ งสรรค์ มติ ิ และ 3 มิติ ทศั นศิลปไ์ ดด้ ีนัน้ ศ.1.1 ป.6/3 2.การใช้หลักการเพมิ่ และ จะต้องรู้และเขา้ ใจใน ศ.1.1 ป.6/4 ลดในการสร้างสรรคง์ าน หลักการเพมิ่ และลด ศ.1.1 ป.6/5 ปนั้ 3 ทัศนศลิ ป์กบั 1.รปู และพืน้ ท่ีวา่ งในงาน องคป์ ระกอบศิลป์ เชน่ 5 25 ธรรมชาติ ทศั นศิลป์ ขนาด สดั สว่ น ความ ศ.1.1 ป.6/5 2.การสรา้ งสรรค์งาน สมดลุ ช่วยให้ ศ.1.1 ป.6 /6 ทศั นศลิ ป์โดยใชส้ ีคตู่ รง สรา้ งสรรค์ผลงาน ศ.1.1 ป.6/7 ขา้ ม หลักการจดั ขนาด สัดส่วน ความสมดุล 3.การสร้างงานทศั นศิลป์ เป็นแผนภาพ แผนผงั และ ภาพประกอบ 4 ทศั นศลิ ปก์ ับ 1.บทบาทของงาน งานทัศนศิลป์ท่ีสะทอ้ น 5 25 วัฒนธรรมในท้องถน่ิ ทัศนศิลป์ที่สะท้อนชวี ิต วัฒนธรรมของท้องถน่ิ ศ.1.2 ป. 6/1 และสังคม ควรคา่ แกก่ ารอนรุ กั ษ์ ศ.1.2 ป.6/2 2.อทิ ธิพลของศาสนาทีม่ ี ศ.1.2 ป.6/3 ตอ่ งานทศั นศลิ ป์ในท้องถน่ิ 3.อิทธิพลทางวัฒนธรรม ในท้องถนิ่ ทม่ี ผี ลต่อการ สรา้ งงานทศั นศิลป์ รวม 20 100 หลักสตู รกลุ่มสาระศลิ ปะ โรงเรียนวัดพชื นมิ ิต (คาสวัสดิ์ราษฎร์บารุง) พุทธศักราช 2563 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

หนว่ ยที่ ช่ือหนว่ ยกำรเรยี นรู้ ขอบข่ำยสำระกำรเรยี นรู้ สำระสำคญั 65 5 มำตรฐำน ตวั ชี้วัด เวลำ น้ำหนกั สำระดนตรี ๑0 ช่วั โมง ชม. คะแนน ทีม่ ำของเสียง ศ2.2 ป6/1 ๑ 20 ศ2.2 ป6/2  ดนตรไี ทยใน -ประวตั ิการดนตรี ศ2.2 ป6/3 ทมี่ าดนตรีใน ประวัตศิ าสตร์ สมัยก่อน ดนตรใี นกอ่ นสมัย - ดนตรใี น สโุ ขทัย เหตุการณ์สาคญั การเคลอ่ื นทข่ี อง ทาง วัฒนธรรมดนตรี ประวัตศิ าสตร์ - ดนตรีในยุคสมัย ตา่ ง ๆ - อิทธิพลของ วัฒนธรรมทมี่ ตี อ่ ดนตรี 6 ประเภทของเสยี ง ๓ 20 ศ2.1 ป6/2  เคร่ืองดนตรีไทยแต่ละ -เครื่องดนตรพี นื้ บ้าน ภาค ของไทย ภาคเหนอื ภาคกลาง ภาคอสี าน ภาคใต้  บทบาทและหน้าท่ขี อง -หน้าทีข่ องเครือ่ งดนตรี ในวงป่พี าทยแ์ ละ เครอื่ งดนตรี เครอ่ื งสาย  ประเภทของเคร่ือง -ประเภทของเครือ่ ง ดนตรีสากล ดนตรีสากล ลมไม้ ทองเหลือง เคาะตี ลมิ่ น้วิ หลักสูตรกลมุ่ สาระศลิ ปะ โรงเรยี นวัดพืชนมิ ิต (คาสวัสด์ิราษฎรบ์ ารุง) พุทธศักราช 2563 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

66 หนว่ ย ช่ือหน่วยกำรเรยี นรู้ ขอบข่ำยสำระกำรเรยี นรู้ สำระสำคญั เวลำ น้ำหนกั มำตรฐำน ตวั ชี้วัด ชม. คะแนน สำระดนตรี (ต่อ) 7 ปฏบิ ตั ิเสียง ๒ 20 ศ2.1 ป6/4  การร้องเพลงประกอบ -รอ้ งเพลงประกอบ ดนตรี ดนตรีที่ตนเองชืน่ ชอบ -สร้างทานองและ  การสรา้ งสรรคร์ ปู แบบ จังหวะด้วยเคร่ืองดนตรี จังหวะและทานองดว้ ย เคร่อื งดนตรี 8 ช่ืนชมเสยี ง 1 20 ศ2.1 ป6/5  การบรรยายความรู้สกึ -บรรยายความรสู้ กึ และ ศ2.1 ป6/6 และแสดงความคดิ เห็นท่ีมี แสดงความคิดเห็นต่อ ตอ่ บทเพลง เนื้อหาในบทเพลง - เนื้อหาในบทเพลง -บรรยายความรูส้ กึ และ - องคป์ ระกอบใน แสดงความคิดเห็นต่อ องคป์ ระกอบในบท บทเพลง เพลง - คุณภาพเสียงใน -บรรยายความรู้สึกและ บทเพลง แสดงความคิดเห็นต่อ คณุ ภาพเสียงในบท เพลง 9 ทฤษฎีของเสยี ง 3 20 ศ2.1 ป6/1  องคป์ ระกอบดนตรี -องค์ประกอบของ และศพั ท์สงั คีต ดนตรี ทานอง จังหวะ(สามัญ,ฉิ่ง, หนา้ ทบั ) ศ2.1 ป6/3  เคร่อื งหมายและ -เคร่ืองหมายไปหนา้ , สญั ลักษณ์ทางดนตรี ไปหลงั -โน้ตเพลงลาวเสีย่ ง  โน้ตบทเพลงไทย เทียนสองช้ัน อัตราจังหวะสองชนั้ -โน้ตเพลงสากล เพลง Jinglebell  โน้ตบทเพลงสากลใน บนั ไดเสียง C Major รวม 10 100 หลักสูตรกลุ่มสาระศลิ ปะ โรงเรยี นวัดพืชนมิ ติ (คาสวัสด์ริ าษฎรบ์ ารุง) พทุ ธศักราช 2563 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

67 ลำดบั ที่ ชอ่ื หนว่ ยกำรเรียนรู้ สำระกำรเรยี นรู้แกนกลำง สำระสำคัญ เวลำ น้ำหนกั 10 (ชั่วโมง) คะแนน 11 สรา้ งสรรค์ลลี า สำระนำฏศิลป์ ๑0 ช่วั โมง ศ 3.1 ป.6/1 ๓ 30 12 การประดิษฐท์ ่าทาง สร้างสรรค์การ ๔ 40 รวมงานนาฏศลิ ป์ ศ 3.1 ป.6/2, ประกอบเพลงปลุกใจหรือ เคลือ่ นไหวในรูปแบบ ๓ 30 ศ.3.1ป.6/3, ศ.3.2 ป.6/2 เพลงพน้ื เมืองหรอื ท้องถิ่น ตา่ งๆในสถานการณ์ นาฏศลิ ป์สรา้ งสรรค์ เนน้ ลีลาหรอื อามรณ์ ส้นั ๆ ศ 3.1 ป.6/4 , ศ.3.1ป.6/3, การออกแบบสรา้ งสรรค์ - แสดงท่าทางประกอบ ศ.3.1ป.6/5 - เครอ่ื งแต่งกาย เพลงตามรปู แบบ - อุปกรณ์ ฉาก นาฏศลิ ป์ ประกอบการ - อธบิ ายความสาคญั แสดง ของการแสดงนาฏศลิ ป์ การแสดงนาฏศิลป์และ การแสดงละคร - สงิ่ ทีเ่ ปน็ เอกลกั ษณ์ เดน่ ของการแสดง - ราวงมาตรฐาน นาฏศลิ ป์ - ระบา - ฟ้อน - ละครสร้างสรรค์ - อธบิ ายความสาคัญ การแสดงนาฏศิลป์และ ของการแสดงนาฏศิลป์ ละครในวนั สาคัญของ โรงเรยี น - บทบาทหนา้ ท่ใี นงาน - เปรียบเทยี บบทบาท นาฏศลิ ป์และการละคร หนา้ ที่ของผแู้ สดงและ - การแสดงนาฏศิลปก์ าร ผชู้ มในกิจกรรมการ และการแสดงละคร แสดงทเ่ี หมาะสมกับวยั -หลกั การชมการแสดง - การวเิ คราะห์ - เลา่ การแสดง - ความรู้สกึ ช่นื ชม นาฏศลิ ปท์ ี่เคยพบเห็น ในทอ้ งถนิ่ รวม 10 100 รวมทัง้ หมด 40 300 คะแนนรวมทั้งหมด ( ผลบวก 3 สำระหำรด้วย 3 ) 100 หลกั สตู รกลุ่มสาระศลิ ปะ โรงเรยี นวัดพชื นมิ ิต (คาสวัสด์ริ าษฎร์บารุง) พทุ ธศกั ราช 2563 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

68 อภิธำนศัพท์ ทัศนศิลป์ โครงสร้ำงเคล่อื นไหว (mobile) เปน็ งานประติมากรรมทม่ี ีโครงสร้างบอบบางจัดสมดุลด้วยเส้นลวดแขง็ บาง ๆ ท่ีมีวัตถุรปู ร่าง รปู ทรง ต่าง ๆ ท่ีออกแบบเชอ่ื มติดกับเสน้ ลวด เปน็ เครือ่ งแขวนที่เคล่อื นไหวได้ดว้ ยกระแสลมเพียงเบา ๆ งำนสอ่ื ผสม (mixed media) เปน็ งานออกแบบทางทศั นศลิ ป์ที่ประกอบดว้ ยหลายสือ่ โดยใชว้ ัสดุหลาย ๆ แบบ เชน่ กระดาษ ไม้ โลหะ สร้างความผสมกลมกลนื ดว้ ยการสร้างสรรค์ จังหวะ (rhythm) เป็นความสัมพันธ์ของทัศนธาตุ เช่น เสน้ สี รูปร่าง รูปทรง น้าหนกั ในลักษณะของการซ้ากนั สลับไปมา หรอื ลักษณะลืน่ ไหล เคลื่อนไหวไม่ขาดระยะจังหวะทีม่ ีความสมั พันธ์ต่อเนอ่ื งกันจะช่วยเนน้ ให้เกิดความเด่น หรือ ทางดนตรีก็คือการซ้ากันของเสียงในช่วงเท่ากันหรือแตกต่างกันจังหวะให้ความรู้สึกหรือความพอใจทาง สุนทรียภาพในงานศิลปะ ทัศนธำตุ (visual elements) ส่ิงที่เป็นปัจจัยของการมองเห็นเป็นส่วนต่าง ๆ ท่ีประกอบกันเป็นภาพ ได้แก่ เส้น น้าหนัก ท่ีว่าง รปู ร่าง รปู ทรง สี และลักษณะพ้ืนผิว ทศั นยี ภำพ (perspective) วิธีเขียนภาพของวัตถุให้มองเห็นวา่ มีระยะใกล้ไกล ทศั นศิลป์ (visual art) ศิลปะทีร่ ับรู้ได้ด้วยการเหน็ ได้แก่ จิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ และงานสร้างสรรค์อ่นื ๆ ท่รี ับรู้ด้วย การเห็น ภำพปะติด (collage) เปน็ ภาพที่ทาข้ึนด้วยการใช้วัสดุต่าง ๆ เช่น กระดาษ ผา้ เศษวัสดุธรรมชาติ ฯลฯ ปะติดลงบนแผ่น ภาพด้วยกาวหรอื แป้งเปยี ก วงสธี รรมชำติ (color circle) คือวงกลมซ่ึงจัดระบบสใี นแสงสีรุ้งท่เี รยี งกันอยู่ในธรรมชาติ สีวรรณะอุ่น จะอยู่ในซีกทีม่ ีสีแดงและเหลือง ส่วนสวี รรณะเยน็ อยูใ่ นซกี ท่มี ีสเี ขียว และสีม่วง สีค่ตู รงข้ามกันจะอย่ตู รงกนั ขา้ มในวงสี หลักสตู รกล่มุ สาระศลิ ปะ โรงเรียนวดั พืชนิมิต (คาสวัสดิ์ราษฎรบ์ ารุง) พุทธศกั ราช 2563 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

69 วรรณะสี (tone) ลกั ษณะของสีที่แบ่งตามความร้สู กึ อนุ่ หรอื เยน็ เช่น สแี ดง อยู่ในวรรณะอุ่น (warm tone) สี เขียวอยู่ในวรรณะเยน็ (cool tone) สคี ู่ตรงข้ำม (complementary colors) สที ่ีอยู่ตรงกันขา้ มกันในวงสีธรรมชาติเป็นคู่สีกัน คือ สคี ู่ที่ตัดกันหรือตา่ งจากกันมากท่ีสุด เช่น สีแดง กับสีเขียว สีเหลืองกับสีมว่ ง สีนา้ เงนิ กับสีส้ม องคป์ ระกอบศลิ ป์ (composition of art) วชิ าหรือทฤษฎีที่เกีย่ วกบั การสรา้ งรูปทรงในงานทศั นศิลป์ ดนตรี กำรดำเนินทำนอง (melodic progression) ๑. การก้าวเดนิ ไปข้างหนา้ ของทานอง ๒. กระบวนการดาเนินคอร์ดซ่งึ แนวทานองขยบั ทีละข้ัน ควำมเข้มของเสยี ง (dynamic) เสยี งเบา เสียงดงั เสยี งท่มี ีความเข้มเสยี งมากกย็ ่งิ ดงั มากเหมอื นกบั loudness ด้นสด เป็นการเล่นดนตรีหรือขับร้อง โดยไม่ได้เตรียมซ้อมตามโน้ตเพลงมาก่อน ผูเ้ ล่นมอี ิสระในการกาหนดวิธี ปฏิบัติเคร่ืองดนตรีและขับร้อง บนพื้นฐานของเนื้อหาดนตรีที่เหมาะสม เช่น การบรรเลง ในอัตรา ความเรว็ ที่ยดื หยนุ่ การบรรเลงดว้ ยการเพิม่ หรือตดั โนต้ บางตัว บทเพลงไล่เลยี น (canon) แคนอน มาจากภาษากรีก แปลว่า กฎเกณฑ์ หมายถึงรูปแบบบทเพลงท่ีมีหลายแนวหรือดนตรีหลาย แนว แต่ละแนวมีทานองเหมอื นกัน แต่เริ่มไม่พร้อมกันแต่ละแนว จงึ มีทานองท่ีไล่เลยี นกันไปเป็นระยะเวลายาว กว่าการเลียนทว่ั ไป โดยทว่ั ไปไม่ควรตา่ กว่า ๓ ห้อง ระยะขน้ั คู่ระหวา่ งสองแนว ท่เี ลยี นกันจะห่างกัน เปน็ ระยะเท่าใดกไ็ ด้ เช่น แคนอนคู่สอง หมายถึง แคนอนท่แี นวท้ังสอง เริม่ ทโี่ น้ตหา่ งกนั เป็นระยะคู่ ๕ และรักษาระยะคู่ ๕ ไปโดยตลอดถือเป็นประเภทของลีลาสอดประสานแนวทานองแบบเลียนที่มีกฎเกณฑ์ เขม้ งวดทส่ี ดุ ประโยคเพลง (phrase) กลุม่ ทานอง จังหวะทเี่ รียบเรยี งเชอื่ มโยงกันเป็นหน่วยของเพลงที่มีความคดิ จบสมบูรณ์ในตวั เอง มักลง ท้ายด้วยเคเดนซ์ เปน็ หน่วยสาคญั ของเพลง หลกั สูตรกลมุ่ สาระศลิ ปะ โรงเรียนวดั พืชนมิ ติ (คาสวัสดิร์ าษฎร์บารุง) พทุ ธศกั ราช 2563 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

70 ประโยคเพลงถำม - ตอบ เปน็ ประโยคเพลง ๒ ประโยคทต่ี ่อเนื่องกันลลี าในการตอบรับ – ส่งลอ้ – ล้อเลียนกนั อยา่ ง สอดคล้อง เป็นลักษณะคล้ายกันกับบทเพลงรูปแบบ AB แต่เป็นประโยคเพลงสั้น ๆ ซ่ึงมักจะมีอัตราความเร็ว เท่ากันระหวา่ ง ๒ ประโยค และความยาวเท่ากัน เช่น ประโยคเพลงท่ี ๑ (ถาม) มีความยาว ๒ ห้อง เพลง ประโยคเพลงท่ี ๒ (ตอบ) ก็จะมีความยาว ๒ ห้องเพลง ซึ่งจะมีลีลาต่างกัน แต่สอดรับกันได้ กลมกลืน ผลงำนดนตรี ผลงานท่ีสรา้ งสรรคข์ นึ้ มาโดยมคี วามเก่ยี วข้องกับการนาเสนองานทางดนตรี เชน่ บทเพลง การแสดง ดนตรี เพลงทำนองวน (round) เพลงทปี่ ระกอบดว้ ยทานองอย่างน้อย ๒ แนว ไลเ่ ลียนทานองเดยี วกนั แต่ต่างเวลาหรือจังหวะ สามารถ ไลเ่ ลยี นกันไปได้อย่างต่อเนอ่ื งจนกลบั มาเรมิ่ ตน้ ใหม่ไดอ้ กี ไม่มวี ันจบ รปู ร่ำงทำนอง (melodic contour) รปู ร่างการขึน้ ลงของทานอง ทานองที่สมดุลจะมีทิศทางการขึ้นลงทเ่ี หมาะสม สีสันของเสียง ลกั ษณะเฉพาะของเสียงแต่ละชนิดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะต่างกัน เช่น ลักษณะเฉพาะของสีสันของเสียง ผชู้ ายจะมคี วามทุ้มตา่ แตกตา่ งจากสีสันของเสยี งผู้หญงิ ลกั ษณะเฉพาะของสีสนั ของเสียง ของเดก็ ผู้ชาย คนหนงึ่ จะมคี วามแตกต่างจากเสียงเดก็ ผชู้ ายคนอนื่ ๆ องค์ประกอบดนตรี (elements of music) ส่วนประกอบสาคัญที่ทาให้เกดิ เสียงดนตรี ได้แก่ทานอง จังหวะ เสียงประสาน สีสนั ของเสียง และเน้ือ ดนตรี อัตรำควำมเร็ว (tempo) ความช้า ความเร็วของเพลง เชน่ อัลเลโกร(allegero) เลนโต (lento) ABA สัญลกั ษณ์บอกรูปแบบวรรณกรรมดนตรีแบบตรีบท หรอื เทอร์นารี (ternary) หลกั สตู รกลมุ่ สาระศลิ ปะ โรงเรียนวดั พืชนมิ ิต (คาสวัสดิ์ราษฎรบ์ ารุง) พุทธศักราช 2563 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

71 ternary form สังคตี ลักษณส์ ามตอน โครงสร้างของบทเพลงที่มีสว่ นสาคัญขยบั ทีละขั้นอยู่ ๓ ตอน ตอนแรกและตอนที่ ๓ คือ ตอน A จะเหมือนหรอื คล้ายคลึงกนั ทั้งในแง่ของทานองและกญุ แจเสียง ส่วนตอนที่ ๒ คือ ตอน B เปน็ ตอนทแ่ี ตกต่างออกไป ความสาคัญของสังคีตลกั ษณ์น้ี คือ การกลบั มา ของตอน A ซึ่ง นาทานองของส่วนแรกกลับมาในกุญแจเสียงเดิมเป็นสังคีตลักษณ์ท่ีใช้มากท่ีสุดโดยเฉพาะในเพลงร้อง จึงอาจ เรยี กว่า สงั คีตลกั ษณ์เพลงรอ้ ง (song form) ก็ได้ นำฏศลิ ป์ กำรตีบท การแสดงท่าราตามบทร้อง บทเจรจาหรือบทพากย์ควรคานึงถึงความหมายของบท แบ่งเป็นการตีบท ธรรมชาติ และการตบี ทแบบละคร กำรประดษิ ฐท์ ่ำ การนาภาษาท่า ภาษานาฎศลิ ป์ หรือ นาฏยศพั ท์มาออกแบบ ใหส้ อดคลอ้ งสมั พันธก์ ับจงั หวะทานอง บทเพลง บทร้อง ลีลา ความสวยงาม นำฏยศัพท์ ศัพท์เฉพาะทางนาฎศิลป์ ทใ่ี ช้เกีย่ วกับการเรียกท่ารา กิริยาที่แสดงมีส่วนศีรษะใบหน้าและไหล่ ส่วน แขนและมอื ส่วนของลาตัว สว่ นขาและเทา้ บคุ คลสำคัญในวงกำรนำฎศลิ ป์ เป็นผเู้ ชย่ี วชาญทางนาฎศิลป์ และภูมิปญั ญาท้องถิ่นท่ีสรา้ งผลงาน ภำษำทำ่ การแสดงทา่ ทางแทนคาพูด ใชแ้ สดงกิรยิ าหรอื อิริยาบถ และใช้แสดงถงึ อารมณ์ภายใน สว่ นขำและเทำ้ กริ ยิ าแสดง เชน่ กระทบ ยดื ยบุ ประเทา้ กระดกเทา้ กระทุง้ จรด ขยบั ซอย วางสน้ ยกเทา้ ถดั เทา้ ส่วนแขนและมือ กริ ยิ าท่แี สดง เชน่ จบี ตั้งวง ลอ่ แก้ว มว้ นมือ สะบดั มือ กรายมอื ส่ายมือ สว่ นลำตัว กิริยาที่แสดง เช่น ยกั ตัว โยต้ ัว โยกตัว ส่วนศรี ษะใบหนำ้ และไหล่ กริ ิยาที่แสดง เช่น เอยี งศีรษะ เอยี งไหล่ กดไหล่ กลอ่ มไหล่ กล่อมหน้า หลกั สตู รกลุม่ สาระศลิ ปะ โรงเรียนวดั พืชนมิ ิต (คาสวัสดริ์ าษฎรบ์ ารุง) พทุ ธศักราช 2563 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

72 ส่ิงที่เคำรพ ในสาระนาฎศิลป์มีส่ิงที่เคารพสืบทอดมา คือ พ่อแก่ หรือพระพรตฤษี ซึ่งผู้เรียนจะต้อง แสดงความ เคารพ เมื่อเร่มิ เรียนและกอ่ นแสดง องค์ประกอบนำฎศลิ ป์ จังหวะและทานองการเคล่ือนไหว อารมณแ์ ละความรู้สึก ภาษาทา่ นาฎยศัพท์ รปู แบบของการแสดง การแตง่ กาย องคป์ ระกอบละคร การเลือกและแต่งบท การเลอื กผู้แสดง การกาหนดบคุ ลกิ ของผ้แู สดง การพัฒนารปู แบบของการแสดง การปฏิบัตติ นของผแู้ สดงและผูช้ ม หลักสตู รกลมุ่ สาระศลิ ปะ โรงเรยี นวัดพชื นิมติ (คาสวัสดิร์ าษฎร์บารุง) พุทธศักราช 2563 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

73 หลักสูตรกลุ่มสาระศลิ ปะ โรงเรียนวัดพชื นิมติ (คาสวสั ดิ์ราษฎรบ์ ารงุ ) พทุ ธศกั ราช 2563 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook