วดั แสงแก้วโพธิญาณ ทต่ี ้ัง ต้งั อยบู่ นดอย “ม่อนแสงแกว้ ” ต้งั อยทู่ ่ีเลขท่ี 191 ม.11 บา้ นป่ าตึง ตาบลเจดียห์ ลวง อาเภอ แม่สรวย จงั หวดั เชียงราย ขนาดพ้ืนท่ีประมาณ 29 ไร่เศษต้งั อยบู่ นเนินดอยห่างจากหมู่บา้ น ประมาณ 1.5 กิโลเมตร มีทศั นียภาพที่สวยงามมองลงมาเห็นท้งั ตวั อาเภอแม่สรวย และหลาย ตาบลของอาเภอแม่สรวย มีถนนลาดยางถึง ทม่ี า แสงแกว้ โพธิญาณ แปลวา่ ดอกบวั ท่ีผดุ โผล่ข้ึนพน้ น้า แลว้ มีแสงสวา่ งเรืองรองเหมือนแสงแกว้ โดยพระครูบาอริยชาติ ท่านเกิดนิมิตวา่ ฝนตกหนกั มาก มองอะไรกไ็ ม่เห็น ครูบากเ็ ดินหลงไป หลงมาอยบู่ นภูเขาสักพกั กไ็ ดเ้ ห็นป่ าท้งั ป่ าบนภเู ขา มีดอกบวั บานเตม็ ไปหมด มีแสงสวา่ งไสว สวยงาม ครูบาจึงคิดช่ือไดจ้ ากเหตุนิมัิต ที่เห็นแสงเรืองรองเหมือนแสงแกว้ กลายเป็นดอกบวั อีก นยั หน่ึงคือ โพธิญาณ หมายถึง หยงั่ รู้ เหมือนบวั ที่ผดุ โผล่ข้ึนมาพน้ น้า แลว้ เปล่งแสง คลา้ ยแสง แกว้ จึงไดต้ ้งั เช่ือวา่ \"วดั แสงแก้วโพธญิ าณ\"
พทุ ธศิลป์ และงานสถาปัตยกรรมวดั แสงแก้วโพธญิ าณ พุทธศลิ ป์ และศิลปะต่างๆ ท่ีอยภู่ ายในวดั แสงแกว้ โพธิญาณน้นั ออกแบบสถาปัตยกรรม โดย พระครูบาอริยชาติ อริยจิตโต วดั แสงแกว้ โพธิญาณซ่ึงผสมผสานระหวา่ ง โลกธรรม แสดงออกถึงความเชื่อและวฒั นธรรมของชาวพุทธในดินแดนลา้ นนาอยา่ งชดั เจน แลว้ ยงั มีการ ผสานงานศลิ ป์ 3 รูปแบบไวด้ ว้ ยกนั อยา่ งกลมกลืนคือ ศลิ ปะลา้ นนา ศิลปะไต (ไทยใหญ่) และ ศิลปะพม่า ซ่ึงลว้ นมีนยั ท่ีส่ือความหมายในเชิงธรรมะและแฝงหลกั \"พุทธธรรม\" อนั ลึกซ้ึงเอาไว้ แทบทุกองคป์ ระกอบของวดั ซ่ึงการออกแบบวดั น้ีพระครูบาอริยชาติ อริยจิตโต ท่านออกแบบเป็นช้นั ๆ ช้นั แรกเม่ือ เขา้ มาจะเห็นรูปเหมือนแทนพระพุทธเจา้ 4 พระองค์ คือ พระกกสุ ันธพทุ ธเจา้ พระโกนาคมน พทุ ธเจา้ พระกสั สปพทุ ธเจา้ พระโคตมพทุ ธเจา้ มีสิงหค์ ู่ตวั ใหญ่ ซ่ึงครูบาเปรียบเทียบเป็นปริศนา ธรรม เหมือนพ่อกบั แม่ของพระศรีอริยเมตไตรยมานงั่ รอพระศรีอริยเมตไตรยมาตรัสรู้แลว้ มา โปรดโลกในภายหนา้ เหมือนคนเราท้งั หลาย นงั่ รอผมู้ ีบุญ ผมู้ ีบารมี ผทู้ ่ีจะเป็นโพธิสตั ว์ ผทู้ ี่จะมา โปรดคนใหพ้ น้ จากทุกขใ์ นวฏั สงสาร ระหวา่ งเดินข้ึนไป ช้นั สองตรงบนั ไดจะมีนาค 3 หวั และ จะมีตวั กินนาคอีก 3 ตวั ซ่ึงเป็นปริศนาธรรม หมายถึง กาลเวลายอ่ มกลืนกินสรรพสตั วท์ ้งั หลาย แลว้ ยงั หมายถึงวา่ เหนือฟ้ ายงั มีฟ้ า ความตามครอบงาคนเราท้งั หมดส่วนนาค 3 หวั กห็ มายถึง
อนิจจงั ทุกขงั อนตั ตา และตวั กินนาค 3 ตวั หมายถงึ ชรา พยาธิ มรณะ คือ เทวทตู 3 เพราะไม่ สมถนะ ถา้ หากมีสมณะดว้ ยจะเป็น เทวทูต 4 แต่นี่ไม่รวมสมณะ ดงั น้นั ท่ีพระพทุ ธเจา้ เห็นจึงมี ชรา พยาธิ และมรณะ เดินข้ึนมาถึงช้นั ที่ 2 เป็นพุทธาวาสเป็นเขตของพระพุทธเจา้ เป็นที่ทาสงั ฆพิธีต่างๆ มี อุโบสถ วหิ าร หอไตร มีปราสาท 16 หลงั แทนพรหม 16 ช้นั มีศาลา 16 หอ้ ง แทน 16 ช้นั ฟ้ า ข้ึนมาถึงช้นั ที่ 3 เป็นช้นั ท่ีต้งั กฏุ ิ ของพระครูบาอริยชาติ และเป็นที่ต้งั ขอพรจากท่านเทพ ทนั ใจ แม่นางกวกั แม่กระซิบ อีกท้งั ยงั เป็นที่ใหเ้ ช่าบชู า วตั ถุมงคลต่างๆ ของทางวดั มีศาลา เอนกประสงคไ์ วส้ าหรับพกั ผอ่ น กบั บรรยากาศที่ร่มร่ืน หอฉนั หอ้ งน้า กอ็ ยใู่ นช้นั น้ีดว้ ย ข้ึนต่อไปช้นั ที่ 4 เป็นการจาลองเร่ืองโลกและจกั รวาลดา้ นหนา้ ของทางเ้้ขา้ มี เทพนพ เคราะห์ 9 องค์ แทนดว้ ยวนั ท้งั 9 มี อาทิตย,์ จนั ทร์, องั คาร, พธุ , พฤหสั บดี, ศกุ ร์, เสาร์, ราหู, เกตุ, พระตรีมูรติแทนดว้ ย โลกท้งั สาม ก่อนเขา้ วงเวยี นเจอ ยกั ษห์ ลบั และยกั ษต์ ่ืน แทนกลางคืนและ กลางวนั อนั น้ีคือความหมายทางโลก แต่ถา้ เป็นความหมายทางธรรม จะหมายถึง พุธโธ คนเรา ทาอะไรใหม้ ีสติ เช่น เวลาเราเจริญสติ จะมีพทุ โธ ถา้ มีพุทอยู่ โธกห็ าย ถา้ พุทหาย โธกอ็ ยู่ คือให้ เรามีสติอยตู่ ลอดเวลา ตรงกลางแทนดว้ ยเขาสุเมรุ ขา้ งบนสุดบนเขาพระสุเมรุ ประดิษฐานพระ ศรีอริยเมตไตรย หมายถึง ผทู้ ่ีมีบารมีเตม็ เปี่ ยม จะตรัสรู้เป็นพระพทุ ธเจา้ เหนือส่ิงอื่นใดในโลก มนุษย์ โลกสวรรค์ และโลกช้นั พรหมถดั จากพระศรีอริยเมตไตรยลงมา มีมหาเทพต่างๆ คือ พระ พรหม พระนารายณ์ พระศิวะ พระอินทร์ ทา้ ยจตุโลกบาลท้งั 4 เทพประจาทิศ ทิพยาธรกินนร ยกั ษา ยกั ษี ฤาษี และสัตวป์ ่ าหิมพานต์ รอบๆ เขา้ พระสุเมรุเป็นเทพ 12 ราศี แทนดว้ ย 12 นกั ษตั ร รอบนอกเป็นสระน้าพแุ ทนดว้ ย วฏั สงสาร หมายถึง การเวยี นวา่ ยตาย เกิด คนเราการจะขา้ มพน้ วฏั สงสารได้ ตอ้ งขา้ มฝ่ังมหาสมุทรกค็ ือ หว้ งวฏั สงสาร ถา้ พน้ กจ็ ะถึง ฝ่ังคือ พระนิพพาน เขาพระสุเมรุมีน้า 3 สาย แทนหว้ งน้าพทุ ธมนตแ์ ห่งพระรัตนตรัยผา่ นโลก และจกั รวาล ผา่ นบารมี 3 ครูบา สองขา้ งขนาบเขาพระสุเมรุ มีพระพิฆเนศเป็นตวั แทนเทวดาท้งั 6 ช้นั ฟ้ า พระพรหมแทน ดว้ ยสวรรคช์ ้นั พรหม 16 ช้นั ฟ้ า และพรหมวหิ ารท้งั 4 พระอวโลกิเตศวรกวนอิมปางพนั มือ แทน พระโพธิสตั วเ์ จา้ ท้งั หลาย และพระสีวลีแทนพระอรหนั ตท์ ้งั หลาย เม่ือพน้ จากเขาพระสุเมรุ ดา้ นหลงั ข้ึนบนั ไดไป เป็นรูปเหมือน ครูบาศรีวชิ ยั , ครูบาอภิชยั ขาวปี , ครูบาชยั วงศาพฒั นา สามองคน์ ้ีส่ือแทนพระรัตนตรียแต่ส่ือออกมาเป็น พระอริยสงฆ์ เพราะวา่ วดั น้ีใชช้ ่ือวา่ วดั แสงแกว้ โพธิญาณ หมายถึง ผสู้ ร้างบารมี เปรียบพระครูบาศรีวชิ ยั
เหมือนพระโพธิสัตวท์ ี่เกิดมาสร้างบารมี แลว้ พระครูบา 3 ท่านน้ี กเ็ ปรียบเหมือนตน้ แบบของ นกั บุญลา้ นนาที่นงั่ อยใู่ นใจคนลา้ นนามายาวนาน บนอาคารครูบาศรีวชิ ัย ประกอบดว้ ยศาลา 2 หลงั คือ 1. ศาลาดา้ นเหนือ ศาลาบรู พาอาจารย์ หมายถึง คนเราจะมีศลิ ปะวิยาความรู้ ตอ้ งมีครูบาอาจารย์ และตอ้ งรู้คุณคนแห่งครูบาอาจารย์ 2. ศาลาดา้ นใต้ ศาลาบูรพามหากษตั ริย์ หมายถึง กวา่ เราจะมีแผน่ ดินอยอู่ าศยั ทุกวนั น้ี เพราะ พระปรีชาสามารถแห่งบูรพามหากษตั ริยท์ ้งั หลาย ควรสานึกในพระมหากรุณาธิคุณ ดา้ นใตฐ้ านมีพระองคใ์ หญ่ 3 องค์ คือ สมเดจ็ พระพุฒาจารยโ์ ต แทนครูบาอาจารยภ์ าคกลาง หลวงป่ ูทวด แทนครูบาอาจารยภ์ าคใต้ หลวงป่ มู นั่ แทนครูบาอาจารยภ์ าคอีสาน ดา้ นหลงั พระครู บาศรีวชิ ยั มีพระพทุ ธรูปทรงเครื่องขนาดใหญ่ หนา้ ตกั กวา้ ง 25 เมตร สูง 32 เมตร แทนดว้ ย พระนิพพานคือจุดหมายอนั สูงสุดของพระพุทธศาสนา ก่อนข้ึนอาคาร ท้งั ซา้ ยและขวา มีมณฆป อยกู่ ลางสระน้า ซ่ึงเป็นมณฆป เศรษฐีนวโกฏิ หมายถึง คนท่ีจะเป็นเศรษฐีตอ้ งเป็นผเู้ สียสละ ตอ้ งรู้จกั ใหแ้ ละอีกมณฆปคือ มณฆปพระอุปคุตข่ีเต่า เปรียบเหมือนผรู้ ักษาศาสสถานใหเ้ กิด ความร่มเยน็
ข้อมูลตดิ ต่อ ติดต่อหลวงพ่อี ้มั พระเลขาครูบาอริยชาติ โทร.089-262-4973 ติดต่อกบั ทางวดั ,บชู าวตั ถุมงคล โทร. 085-614-3764 , 081-034-4309 แฟ็กซ์ 053-163-302
Search
Read the Text Version
- 1 - 5
Pages: