วัฒนธรรมการกนิ ของทวีปเอเชีย Asia’s eat culture
คำนำ รายงานเลม่ นจี ้ ดั ทาขนึ ้ เพื่อเป็นสว่ นหนงึ่ ของวิชาคอมพิวเตอร์และสงั คมศกึ ษาชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี4เพ่ือให้ได้ศกึ ษาหาความรู้เรื่องวฒั นธรรมการกินของทวีปเอเชียและได้ศกึ ษาอยา่ งเข้าใจเพ่ือเป็นประโยชน์กบั การเรียนและการใช้ชีวิต ผ้จู ดั ทาหวงั ว่า รายงานเลม่ นจี ้ ะเป็นประโยชน์กบั ผ้อู า่ น หรือนกั เรียนนกั ศกึ ษา ทกี่ าลงั หาข้อมลู หากมขี ้อแนะนาหรือข้อผิดพลาดประการใดผ้จู ดั ทาขอน้อมรับไว้และขออภยั มา ณ ทน่ี ดี ้ ้วย ผ้จู ดั ทา
สารบญั หน้าเร่ือง 1-3 4-6วฒั นธรรมการกินประเทศเกาหลี 7-9วฒั นธรรมการกินประเทศญ่ีป่นุ 10-12วฒั นธรรมการกินประเทศลาว 13-15วฒั นธรรมการกินประเทศไทย 16-17วฒั นธรรมการกินประเทศจีน 18แบบฝึกหดั 19สมาชิกบรรณานกุ รม
วฒั นธรรมกำรกินประเทศเกำหลี• แรกเริ่มเดมิ ทีเ่ กาหลีเป็นประเทศเกษตรกรรม และชาว เกาหลีเพาะปลกู ข้าวเป็นอาหารหลกั มาตงั้ แตโ่ บราณกาล มาในสมยั นีอ้ าหารเกาหลีจะเป็นตาหรับซงึ่ ประกอบไปด้วย เนือ้ สตั ว์นานาชนิด ปลา พร้อมด้วยพืชสเี ขียวและผกั ตา่ ง ๆ อาหารหมกั ดองตา่ ง ๆ เชน่ กิมจิ ชอ็ ดกลั (อาหารทะเลหมกั เกลือ) และทอ็ นจงั (ถว่ั เหลืองหมกั เหลว) ขนึ ้ ชือ่ ในรสชาติ โดยเฉพาะและมีคณุ คา่ ทางโภชนาการสงู
วฒั นธรรมกำรกินประเทศเกำหลี• จดุ เดน่ ในการตงั้ โต๊ะอาหารเกาหลคี อื อาหารจานตา่ ง ๆ ถกู นามาจดั วางในคราวเดียวกนั โดยการปฏิบตั สิ บื ทอดกนั มา มีการเสริ ์ฟอาหารประเภทเรียกนา้ ยอ่ ยเร่ิมจากอาหาร 3 ชนิด สาหรับสามญั ชนถงึ 12 ชนิดสาหรับชนชนั้ วงศานวุ งศ์ การจดั โต๊ะอาหารตา่ งกนั ไปขนึ ้ อยกู่ บั วา่ มีการเสริ ์ฟอาหาร จานก๋วยเตย๋ี วหรือ เนือ้ หรือไม่ มีการแสดงการจดั โต๊ะอาหาร ตามกฎระเบียบให้ผ้สู นใจเรื่องอาหารและการรับประทาน อาหารได้เหน็ หากจะเปรียบเทยี บกบั ประเทศเพ่ือนบ้าน อยา่ งจีนและญ่ีป่นุ แล้ว เกาหลนี ิยมใช้ช้อนมากกว่า โดยเฉพาะอยา่ งย่งิ เมื่อมีการเสริ ์ฟนา้ ซปุ
วฒั นธรรมกำรกินประเทศเกำหลี• คนเกาหลีนิยมทานผกั สด จะเหน็ ทกุ ครัง้ บนโต๊ะอาหาร กค็ อื กิมจิ โดยในแตล่ ะมือ้ จะต้องประกอบ 3 สิง่ คอื ข้าว ซปุ และ กิมจิ อดุ มด้วยคณุ คา่ ทางโภชนาการจากซอสถว่ั เหลอื ง ถว่ั หมกั และนา้ มนั งา ซง่ึ ได้แกว่ ิตามินและเกลือแร่
วฒั นธรรมกำรกินประเทศญี่ป่ ุน• การรับประทานอาหารในแตล่ ะท้องถ่ินมกั จะมคี วามแตกตา่ งกนั ไป มากบ้างน้อยบ้าง จากการหลอมรวมประวตั ศิ าสตร์ ความเชื่อ วิถีชีวติ และสตปิ ัญญาของบรรพบรุ ุษของชนชาตนิ นั้ ๆเข้าด้วยกนั การทานอาหารของชาวญ่ีป่นุ ถกู ปลกู ฝังว่า ต้องรับประทาน อาหารให้ครบทงั้ จากภเู ขาและท้องทะเลอาหารจากภเู ขาคอื ผกั ตามฤดกู าล พืชธญั ญาหาร ตลอดจนข้าวเมลด็ ตา่ งๆส่วนอาหาร จากท้องทะเลก็คอื ปลาทะเลตา่ งๆ สาหร่ายทะเล ก้งุ หอย ปู เป็น สาคญั อาหารทะเลถือว่าเป็นอาหารแหง่ ชีวติ ของชาวญี่ป่นุ แตม่ ี ความสาคญั น้อยกว่าอาหารท่ีผลติ จากถว่ั เหลือง
วฒั นธรรมกำรกินประเทศญ่ีป่ ุน• ญ่ีป่นุ ได้รับอิทธิพลเรื่องอาหารการกินจากชนชาตเิ พื่อนบ้าน ทงั้ จากเกาหลีและจีนมาเป็นเวลานานนบั พนั ปี ได้เรียนรู้วิธี ปลกู ข้าวจากเกาหลี และนาเข้าข้าวสาลแี ละข้าวบาร์เลย์ จากจนี ชาวญ่ีป่นุ รู้จกั ทาเส้นอดู ้งเวอร์ชนั แรกเร่ิมและซีอวิ๊ ญ่ีป่นุ ท่ีเรียกว่าโชยุ ตงั้ แต่ 300 ปีก่อนทีจ่ ะรับศาสนาพทุ ธเข้า ประเทศเสียอกี เม่ือมีการตดิ ตอ่ กบั ชาวตะวนั ตก ชาวญ่ีป่นุ ก็ ได้รับวฒั นธรรมเร่ืองอาหารการกินอีกด้วย
วฒั นธรรมกำรกินประเทศญ่ีป่ ุน• อาหารญ่ีป่นุ นอกจากจะให้ความสาคญั กบั รสชาตอิ าหารแล้ว ยงั ให้ความสาคญั ในการสร้างความเพลดิ เพลินทางสายตาด้วย โดยวิธีการทาอาหารญ่ีป่นุ สว่ นใหญ่ ใช้วธิ ีนงึ่ ต้ม ทาให้อาหารคง รสชาตติ ามธรรมชาตมิ ากท่ีสดุ ข้าวจะเป็นอาหารหลกั กบั ข้าวจงึ ปรุงมาจากอาหารทะเล ผกั สดชนดิ ตา่ งๆเครื่องปรุงรส ซอสหรือ ซีอ๊ิว และอปุ กรณ์ท่ีสาคญั คอื ตะเกียบ อาหารญ่ีป่นุ เมอ่ื รับประทานแล้วจะรู้สกึ สะอาดปาก และสบายท้อง เป็นเพราะใช้ ของสดใหมจ่ ากภเู ขาและท้องทะเล แหล่งท่ีมาของอาหารแมค โครไบโอตกิ ส์ซง่ึ บ้านเรารู้จกั ในช่ือของ อาหารชีวจิต
วฒั นธรรมกำรกินประเทศลำว• อาหารลาวโดยทว่ั ไปนนั้ มีลกั ษณะทป่ี รุงแตง่ น้อยท่สี ดุ เน้น ความเรียบงา่ ยแบบธรรมชาติ รสชาติไมค่ อ่ ยจดั จ้าน วิธีการ ทาไมซ่ บั ซ้อน แม้อาหารในวงั จะมีขนั้ ตอนมากกว่าอาหาร ของชาวบ้านกต็ าม ก็ยงั ถือว่าเน้นความเรียบง่ายอยู่
วฒั นธรรมกำรกินประเทศลำว• ทงั้ นี ้วฒั นธรรมการกินอาหารของลาว มีลกั ษณะและรสชาติ ท่ีแตกตา่ งกนั ไปตามแตล่ ะภมู ิภาค อยา่ งเชน่ อาหารหลวง พระบางซงึ่ ถือว่าเป็นอาหารภาคเหนือของลาว มีรสชาตเิ บา ท่ีสดุ ในบรรดาอาหารลาวของทงั้ สามภาค เนื่องจากในอดีต หลวงพระบางเป็นเมืองหลวงของลาวเป็นเวลานาน อาหาร แบบหลวงพระบางจงึ ถกู เปรียบว่าเป็นอาหารของผ้ดู ีหรือ อาหารชาววงั ซงึ่ เน้นการนงึ่ ต้ม เป็นสว่ นใหญ่ วิธีการปรุงไม่ ซบั ซ้อน อาหารประจาเมืองของหลวงพระบางคือ “เอา หลาม”
วฒั นธรรมกำรกินประเทศลำว• ในขณะท่วี ฒั นธรรมการกินของชาวลาวแบบดงั้ เดมิ รุ่นเกา่ นนั้ ถงึ แม้จะมีบรรยากาศสบายๆ แตแ่ ฝงไว้ด้วย ขนบธรรมเนียมทเี่ ป็นแบบแผน โดยมีหลกั สาคญั 2 ประการ ท่ีต้องคานงึ ถงึ เสมอ คือ “เปียบ” แปลวา่ ศกั ดิ์ศรี เกียรตยิ ศ และ “เลีย้ ง” หมายถงึ เลีย้ งดู ปรนเปรอ ซง่ึ หลกั การที่ใช้ใน ชวี ิตของชาวลาวนีไ้ ด้นามาใช้ในวฒั นธรรมของกินด้วย
วฒั นธรรมกำรกินประเทศไทย• ประเทศไทยมีความอดุ มสมบรู ณ์ในด้านทรัพยากรธรรมชาติ เป็นอขู่ ้าวอนู่ า้ อีกทงั้ คนไทยสมยั กอ่ นรู้จกั นาพืชผกั สมนุ ไพร ท่หี าได้งา่ ยมาปรุงแตง่ เป็นเมนอู าหารรับประทานภายใน ครอบครัว สง่ ผลให้วิถีการใช้ชวี ิตของคนไทยสอดคล้อง กบั วิถีความเปล่ยี นแปลงธรรมชาติ ซงึ่ คนในสมยั ก่อนมี สขุ ภาพร่างกายแข็งแรง ไม่เจบ็ ป่วยงา่ ย เพราะรู้จกั นา สมนุ ไพรในท้องถ่ิน ทมี่ ีสรรพคณุ ในการรักษาโรคและใช้ บารุงร่างกายมาปรุงอาหารอีกด้วย
วฒั นธรรมกำรกินประเทศไทย• สมยั โบราณ ครอบครัวไทยนง่ั รับประทานอาหารกบั พืน้ ใช้ ผ้าสะอาดหรือเสื่อปลู าดบนพืน้ บ้าน ผ้ทู จ่ี ะรับประทานนงั่ ล้อมวงกนั ตกั ข้าวจากโถใสจ่ าน อาหารจดั มาเป็นสารับ วาง สารับไว้ตรงกลางวง มีช้อนกลางสาหรับตกั กบั ข้าวใสจ่ าน ของตน และเปิบอาหารด้วยมือ บางบ้านจะมีขนั หรือจอกตกั นา้ และกระโถนเตรียมไว้เพื่อรองนา้ ล้างมือด้วย
วฒั นธรรมกำรกินประเทศไทย• ในสมยั พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกล้าเจ้าอยหู่ วั ประเทศไทย ได้ตดิ ตอ่ กบั ประเทศทางซีกโลกตะวนั ตกมากยง่ิ ขนึ ้ วฒั นธรรมตะวนั ตกได้ แพร่เข้ามา ทาให้วิธีรับประทาน อาหารของคนไทยเปลย่ี นไป โดยดดั แปลงให้เหมาะสมกบั อาหารไทย เชน่ ใช้ช้อนส้อมแทนมีดและส้อมแบบตะวนั ตก เป็นต้น การนง่ั รับประทานอาหารกบั พืน้ ก็เลิกไป เปลี่ยนมา เป็นนง่ั รับประทานอาหารกบั โต๊ะแทน แตย่ งั คงวางอาหารทกุ อยา่ งไว้กลางโต๊ะ มีช้อนกลางสาหรับตกั อาหารและมีถ้วย เลก็ ๆสาหรับผ้รู ่วมวงแตล่ ะคน เพ่ือใสก่ บั ข้าวทีแ่ บง่ จาก กลางวง เม่ือรับประทานอาหารคาวเสร็จแล้ว กจ็ ะถอนของ คาวออกหมด และแจกของหวานสาหรับทกุ คนตอ่ ไป
วฒั นธรรมกำรกินประเทศจีน• ไคว่จึ หรือ ตะเกียบนบั เป็นมรดกทางวฒั นธรรมอนั ลา้ คา่ อยา่ ง หนง่ึ ของจีน ทงั้ ยงั เป็นอปุ กรณ์ในการรับประทานอาหารท่ีมี เอกลกั ษณ์โดดเดน่ ในระดบั โลก ตะเกียบได้รับการขนานนามจาก ชาวตะวนั ตกวา่ เป็น “อารยธรรมของโลกตะวนั ออก” คนจีนเริ่มใช้ ตะเกียบตงั้ แตส่ มยั ราชวงศซ์ างหรือนานกว่า 3,000 ปีมาแล้ว ใน ยคุ ก่อนราชวงศ์ฉิน ตะเกียบมชี ื่อเรียกว่า挟ตอ่ มาในสมยั ราชวงศฉ์ ินและราชวงศ์ฮนั่ เรียกตะเกียบวา่ 箸 แตเ่ นื่องจากคน จีนสมยั โบราณเช่ือถือเรื่องโชคลาง จงึ ถือวา่ คาว่า “จ้”ู ซง่ึ ไปพ้อง เสียงกบั คาวา่ 住 ที่หมายถงึ หยดุ มีความหมายไมเ่ ป็นมงคล ดงั นนั้ จงึ เปล่ียนมาเรียกว่า 筷 ซงึ่ พ้องเสียงกบั คาวา่ “เร็ว” แทน และนี่ก็คือท่ีมาของช่ือเรียกของตะเกียบ
วฒั นธรรมกำรกินประเทศจีน• ชนชาติจนี เป็นหนง่ึ ใน 3 ชนชาตทิ ่ีเป็นเจ้าแหง่ วฒั นธรรมการ กิน อีก 2 ชนชาตนิ นั้ ได้แก่ กรีก และโรมนั อาหารนานาชนิด ท่ีเกิดขนึ ้ ในโลกนี ้ได้รับอทิ ธิพล การกินจากประเทศจนี เป็น สว่ นใหญ่ เชน่ เส้นสปาเกต็ ตีท้ ีเ่ รากินกนั อยนู่ ีก้ ็มีกาเนิดมา จากเส้นก๋วยเต๋ยี วของ จนี นน่ั เอง เม่ือเร่ิมมี การตดิ ตอ่ ซอื ้ ขาย กนั ฝร่ังได้ชมิ รสของ ก๋วยเตยี๋ วเกิด ติดใจจงึ นาสตู รการทาไป เผยแพร่ในประเทศของตน และปรับปรุงดดั แปลงให้เข้ากบั วฒั นธรรม ของตนจนเกิดเป็นอาหารเส้นตา่ งๆมากมาย และแพร่หลายไปทว่ั โลกจนเกิดความเข้าใจผิดว่าเส้นสปา เกต็ ตี ้และเส้นมกั กะโรนี ทงั้ หลายมีต้นตารับ เป็นชนชาติ ยโุ รป
วฒั นธรรมกำรกินประเทศจีน• กฎอีกข้อท่ีเห็นจะลืมกล่าวไปไมไ่ ด้นน่ั คอื เม่อื กินซปุ จะต้องไม่ เตมิ อะไรเลย เว้นแตน่ า้ ซปุ หหู ลามท่ีเขาเอานา้ ส้มจ๊กิ โฉ่มาให้เตมิ ถ้าใครเตมิ ซอสใดๆ ลงไปในซปุ เจ้าของบ้านจะขอโทษ และบอก ว่า “หมดสตปิ ัญญาที่จะปรุงซุปท่ีรสชาตดิ ีกวา่ นีไ้ ว้รับรองทา่ น” นนั้ หมายถึงว่า ซุปถ้วยนนั้ ๆ เป็นซุปที่เจ้าของบ้านบรรจงทาอย่าง สดุ ฝีมือแล้ว หากเราเตมิ ซอสปรุงรสใดๆจงึ เสมือนการดถู กู ฝีมอื ของเจ้าบ้าน• นอกจากนีย้ งั มธี รรมเนียมตา่ งๆ อีกมากมายซง่ึ ในปัจจบุ นั ได้ลด ความเข้มข้นลงบ้างแล้ว แตท่ งั้ หมดนนั้ ล้วนเป็นสิง่ น่าจดจา เพราะเป็นวฒั นธรรม อนั ดีงาม และเรายงั สามารถกล่าวได้เตม็ ปากด้วยวา่ ประเทศจีนเป็นประเทศมหาอานาจทางอาหาร อย่าง แท้จริง
แบบฝึ กหดั1. จดุ เดน่ ในการตงั้ โต๊ะอาหารเกาหลีคอื อะไรตอบ2. ในประเทศเกาหลีในแตล่ ะมอื ้ จะประกอบด้วย 3 สง่ิมีอะไรบ้างตอบ3. ประเทศเกาหลีใช้อะไรในการทานอาหารตอบ4. ที่ประเทศญี่ป่นุ ให้ความสาคญั กบั อาหารมอื ้ ใดมากท่ีสดุตอบ5. ซอี ิ๊วญ่ีป่นุ เรียกว่าอะไรตอบ
แบบฝึ กหดั6. ญี่ป่นุ ได้รับอทิ ธิพลการกินมาจากประเทศใดบ้างตอบ7. จีนเป็นหนงึ่ ใน3ชนชาติท่ีเป็นเจ้าวฒั นธรรมการกิน อีก2ชนชาตคิ ือชาติใดบ้างตอบ8. ผกั ท่ีเป็นเอกลกั ษณ์ของลาวคือผกั อะไรตอบ9. คนไทยในสมยั ก่อนมีสขุ ภาพร่างกายแขง็ แรง ไม่เจ็บป่วยงา่ ย เพราะเหตใุ ดตอบ10. อธิบายลกั ษณะการรับประทานอาหารของคนไทยในสมยั โบราณตอบ
สมาชิก1. น.ส.ธนวรรณ ไวยฉาย ม.4/18 เลขท่1ี 02. น.ส.ขวัญข้าว พลโยธา ม.4/18 เลขท่2ี 03. น.ส.พรนภัส สุริยะฉันทนานนท์ ม.4/18 เลขท่2ี 34. น.ส.ณิชาภา เกษมวงศ์ ม.4/18 เลขท่2ี 7
บรรณำนุกรมhttp://loveculturekorea.blogspot.com/2015/04/5.html?m=1https://sites.google.com/site/wqefpoksdvdxzxcv/wathnthrrm-xahar-kar-kinhttp://www.sac.or.th/databases/southeastasia/subject.php?c_id=4&sj_id=44http://kanchanapisek.or.th/kp6/sub/book/book.php?book=13&chap=8&page=t13-8-infodetail08.htmlhttp://royalkitchengroup.com/317/
Search
Read the Text Version
- 1 - 22
Pages: