Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore มรกดธรรมเล่ม 6

มรกดธรรมเล่ม 6

Published by koranis9, 2020-11-06 02:18:50

Description: มรกดธรรมเล่ม 6

Search

Read the Text Version

มรดกธรรมศาลาพระราชศรัทธา วัดปทมุ วนารามราชวรวิหาร ป ๒๕๖๒ เลมที่ ๖ พระเทพสีลาภรณ (พระอาจารยสมยั สขุ สมิทโฺ ธ) วัดปาพทุ ธรงั ษี ลเู มยี ร ประเทศออสเตรเลีย แสดงเมื่อวันอาทิตย ท่ี ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๒ ณ ศาลาพระราชศรัทธา วัดปทมุ วนาราม ราชวรวิหาร สพั พะปาปสสะ อะกะระณงั กุสะลัสสปู ะสัมปะทา สะจติ ตะปะรโิ ยทะปะนัง เอตัง พุทธานะ สาสะนังติ ขออนุโมทนากับญาติโยมทุกทานที่อุตสาหมาปฏิบัติธรรม บางคนก็มาแตเ ชา มาใสบาตร และถือโอกาสฟงคําสอนยอ ๆ แลว ก็ รับศีลรับพรจากพระ วันเสารวันอาทิตยก็มีโอกาสไดฟงธรรม บรรยายคําสอน พวกเราทา นทงั้ หลาย ในฐานะทเ่ี ปนชาวพุทธ เปน พุทธศาสนิกชน ใหถือใหซึ้งในใจวา เราเปนลูกเปนหลานขององค ๔๗

มรดกธรรมศาลาพระราชศรทั ธา วดั ปทมุ วนารามราชวรวิหาร ป ๒๕๖๒ เลมที่ ๖ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจา ตองใหมีความภูมิใจอยูลึก ๆ แลวจะ ไมทําผิด การที่เราเปนลูกเปนหลานขององคสมเด็จพระสัมมาสัม พุทธเจา เรียกตามบาลีวา ศากยะบุตร ศากยะธิดา เปนลูกชายลูก สาว ซ่ึงเกิดแตหัวอกขององคสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจา ไมไดเกิด ในทอง แตเกิดจากหัวอก จากจิตใจท่ีบริสุทธ์ิสะอาดขององคสมเด็จ พระสัมมาสัมพุทธเจา เกดิ เพราะความมีเมตตา พระกรุณาธิคุณของ องคส มเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจา พระวิสุทธิคุณขององคสมเด็จพระ สัมมาสัมพุทธเจา และพระปญ ญาธิคุณขององคสมเดจ็ พระสัมมาสัม พุทธเจา เพราะฉะน้ัน อยูที่ไหนไปท่ีไหนอยางไร อยาลืม ใหเปนคน ทม่ี ีนา้ํ ใจมคี วามเมตตาเอ้ือเฟอเผื่อแผอยูกันเสมอ ๆ พวกเราทานทั้งหลายคงจะเคยไดเห็น สมัยโบราณ แมกระทั่งทุกวันนี้ ญาติโยมโดยเฉพาะฝายผูหญิง จะเปนคุณปาคุณ อาคุณยาคุณยาย หรือบางทีก็เปนคุณปูคุณลุง จะตื่นแตเชาเตรียม ตัวใสบาตร มีขาวปลาอาหาร หุงขาวหรือนึ่งขาว เตรียมสําหรับ พระสงฆออกมารับบาตร ทุกอยางท่ีมีอยูจะเอาของดีท่ีสุดใสบาตร ขาวก็เปนขาวอยางดี ถาเปนมะมวงเปนกลวยก็เลือกอยางดีที่สุด เทาท่ีจะหาได นอกจากจะหาไมได มีอะไรก็ใสไปตามศรัทธา บางคร้ัง กระท่ังวาจะตองซอนเอาไวไมใหลูกหลานเห็น ตองไดใส บาตรกอน ที่เหลือคอยทาน เม่ือทําอยูอยางน้ี อุปนิสัยตัวเองก็จะมี ความเลื่อมใสในพุทธศาสนา ย่ิงทําก็ยิ่งไดบุญไดกุศล มีความดีใจ ภูมิใจ เด็กผูหญิงที่เปนลูกเปนหลานเห็นคุณยาคุณยายคุณแม ทําอาหารเตรียมขาวก็ชวย แลวคุณยาคุณยายก็จะจูงไปใสบาตร ดวยกัน การทีจ่ ะเห็นพระ ไดก ราบไหวพระ ไดทําบญุ กุศลตัง้ แตเ ล็ก แตนอย ส่ิงท่ีดีงามอยูในจิตใจก็จะออกมา บุญกุศลที่เด็กเคยทํามา ๔๘

มรดกธรรมศาลาพระราชศรทั ธา วัดปทมุ วนารามราชวรวิหาร ป ๒๕๖๒ เลม ท่ี ๖ ในอดีตชาติก็จะมา แลวก็เกิดศรัทธาความเล่ือมใสในพระพุทธ พระ ธรรม พระสงฆ มีความสุขความสบายใจในการใหและการทําบุญ ทําทาน บางทีอยูบานนอกไมมีอะไร มีแตกลองขาวกระต๊ิบขาว ภาษาบานเรา มีแตแจว มีแตปน ก็เอาไป ถวยเดียวก็ไป ไปถวาย พระเจาพระสงฆตามศรัทธา มักมาหาได หลวงพอเปล่ียนทานพูด อยางน้ัน ทําอยูเปนประจําอยูอยางน้ัน สม่ําเสมอ บุญกุศลก็เพ่ิมขึ้น เร่ือย ๆ เด็กผูหญิงคนนัน้ โตข้ึนจะเปนคนท่ีมีกิริยามารยาท เปนคน ดีมีตระกูล ไดรับการศึกษาอบรม มีครอบครัวจะเปนครอบครัวท่ีมี หลักมีฐาน ไปทํางานที่ไหนก็จะมีอะไรชวย เทวดาเมตตาสงเคราะห ไปท่ีไหนก็ทําบุญทํากุศลอยูเสมอ เพราะเคยทําต้ังแตเปนเด็ก ญาติ โยมฝายผูหญิงทุกคน ถาเคยทําบุญใสบาตรต้ังแตเล็กแตนอย ทํา เปนประจําสม่ําเสมอ จะเปนแมท่ีดี เปนญาติท่ีดี เปนยายท่ีดี แลวก็ ส่งั สอนลูกหลานใหเปน คนดี ทีน้ี ฝา ยผูช ายก็ตามแมช ว ยใสบ าตร มีโอกาสก็ไปรับใชพระ เจาพระสงฆในวัด ทานก็สงสารเมตตา ในสมัยโบราณทานเปนผูสั่ง สอน นะโม ตัสสะ หรือไหวพระ พระเปนผูส่ังผูสอน แมแตจะอาน หนงั สอื พระก็เปนผสู ่งั สอน เด็กทไ่ี ดรับการอบรมจากครูบาอาจารย พระเจาพระสงฆก็เปนเด็กที่ดี เพราะทานหาม มีศีลธรรมเปน กฎเกณฑแนนอน จะฆาสัตวตัดชีวิตไมได จะลักของเขาก็ไมได ศีล ตอไป โตขึน้ จะประพฤติผดิ ในกามก็ไมได ตอนเลก็ ก็หามพูดปดพูด เทจ็ เปนอนั ขาด แลว ตอมาอายุมากข้ึนก็หา มดม่ื สุราเมรัย ศลี ธรรมก็ เริ่มจับมาต้ังแตเล็กแตนอย เวลาโตขึ้นมา เรียนหนังสือก็ดี มี ครอบครวั ทดี่ ี หรือรับราชการท่ีดี น่ีเปนการปลูกฝง แตบางทา นบาง คนท่ีมีบุญวาสนาก็เลยออกบวช บางคนก็บวชอุทิศชีวิตใหแกพระ ๔๙

มรดกธรรมศาลาพระราชศรัทธา วดั ปทมุ วนารามราชวรวิหาร ป ๒๕๖๒ เลม ท่ี ๖ ศาสนาตลอดชวี ติ เกิดจากคุณงามความดีท่ีเรมิ่ ตนตั้งแตเลก็ แตนอย เพราะฉะนั้น การทาํ บญุ ใสบาตรถือวาเปน เร่อื งที่สาํ คัญเปน ประจํา นึกถึงภาพขององคสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจาของเรา บําเพ็ญบุญบารมีมา ๔ อสงไขยและอีกแสนกัป ใหทุกสิ่งทุกอยาง บริจาคทุกส่ิงทุกอยาง แทนท่ีจะอยูในช้ันฟาเมืองสวรรคในพรหม โลก เพราะวาจะอยูในพรหมโลกนานแคไหน ถายังไมบรรลุธรรมก็ ตองกลับมาเกิดอีก มาทุกขซํ้าเติมอีก วิธีที่ดีท่ีสุดก็คือออกบวช ชาติ สุดทาย มีบุญบารมีมาถึง อยูในโลกมานาน คือคนเราทั่วไปเปน กาม ทาส หลวงปูม่ันทานวาไว เราเปนกามทาส จิตใจรับแตรูปเสียงกลิ่น รสสมั ผสั ตลอดเวลา ดึงออกยาก สตั วก ็ติดอยตู รงน้ี คนกต็ ดิ อยตู รงนี้ แตคนที่มีบุญบารมี ไดบําเพ็ญบุญบารมีมา พอถึงกาลเวลา เหมือนกับองคสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจาของเรา อยูในปราสาท ราชวัง ๒๙ ป เปนเจาชายท่ีดีท่ีสุดของบานเมือง ไมเคยมีมากอน เปนผูที่ดูแลบานเมือง ปกครอง ไมมีกษัตริยองคไหนที่จะดีเทากับ องคทาน รูปก็งาม กิริยามารยาทเรียบรอย นํ้าใจไมตรีมีตอทุกผูทุก คน มีครอบครัว มเหสีภรรยาท่ีซื่อสัตย มีความจงรักภักดีไมมีผูใด เสมอเหมือน แตถึงกระนั้นโลกก็ยังเปนโลกอยูดี ขอใหนึกถึงภาพ เรายังมกี เิ ลสอยู ยงั มีราคะโทสะโมหะอยู จะดอี ยา งไรความไมดีมันก็ แสดงออกมาจนได เม่ือมีความรักก็ตองมีความชัง มันก็มีของมันอยูอยางน้ัน เพราะฉะนั้น ชีวิตในหอปราสาทราชวัง จะดีอยางไรก็สูเนกขัมมะ ปฏิบตั ไิ มได ตรงนี้กม็ ีการฝา ฝน กันแบบสุด ๆ ฝายหนึง่ ก็รกั พอ รักแม ใครจะไมร ัก รกั สมบัติ รกั ประชาชนพลเมือง รักมาก แตสง่ิ ที่รอคอย อยู ความสงัดวิเวกในปาในเขา การบรรลุธรรมที่จะไดที่จะถึงคอย ๕๐

มรดกธรรมศาลาพระราชศรัทธา วดั ปทมุ วนารามราชวรวิหาร ป ๒๕๖๒ เลม ที่ ๖ อยู ถึงจะอยใู นปราสาทราชวงั อยางไรก็แคกรุงกบลิ พัสดุ กรุงเทวหะ ถึงจะอยูเย็นเปนสุข สมมติวาไดเปนพระจักรพรรดิราช สามารถ ปกครองอินเดีย ก็เพียงเทานั้น แตความเปนองคสมเด็จพระ สัมมาสัมพุทธเจาที่ไดถึงธรรมแลวบรรลุธรรมแลว สัตถาเทวะ มนุสสานัง เปนศาสดาของเทวดาและมนุษยท้ังหลาย กวางไป ย่ิงใหญไพศาลไมมีอะไรเทา เทวดาทุกหนทุกแหงทุกชั้นฟา ก็กราบ องคสมเดจ็ สัมมาสมั พุทธเจา มนษุ ยท กุ ผูทกุ คนก็กราบเคารพทาน ผู ท่ีมีอัธยาศัยดีก็ต้ังใจประพฤติปฏิบัติดีไดอยูเย็นเปนสุข เพราะองค สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจา เม่ือมีส่ิงท่ีดีงามรออยูอยางนี้ ทานก็ ตองตัดสินใจ ทั้ง ๆ ท่ีมีความรัก ตอพระราหุลก็รักมา ตอนางยโส ธราก็รักมาก ตอบานเมืองก็รักมาก แตจะทําอยางไร สิ่งที่ดีงาม ย่ิงใหญก็รออยู ก็มีนายฉันนะและมากัณฐกะเทาน้ันท่ีเปนเพื่อน ก็ ตองออกกลางคืน ทั้ง ๆ ท่ีตัวเองก็คิดถึง นึกถึงภาพพระราชบิดา พระแมนา และนางยโสธราจะเศราเสียใจขนาดไหนก็ตองฝน นํ้าตา รว งขนาดไหนก็ตองฝน เพ่อื พระธรรมอนั ยิ่งใหญ ทนี ้พี อไปปลงเกศา ก็ต้ังจิตอธิษฐานวา ถาจะไดเปนพระพุทธเจาจริง ๆ ขอเกศาลอยใน อากาศ กอนหนานั้นมีแตคนพูดมีแตคนวา ไมเคยเส่ียงบุญบารมี ดวยตัวของทานเอง ทีนี้ มาเสี่ยงดวยตัวของทานเอง แนชัดแลววา ยังไงกไ็ ดเปน องคส มเด็จพระสัมมาสัมพทุ ธเจา ท่ีเลามาใหฟงเพราะอยากใหเห็นคุณคาของเนกขัมมะ ปฏบิ ตั ิ การออกบวช สาํ หรับญาตโิ ยมที่มาท่ีน่ี หลายทานหลายคนก็ ตองถอื ศลี ๕ บางทา นกถ็ อื ศลี ๘ ใหเหน็ ถา ยงั ถอื ศีล ๕ อยูยงั ไงศีล ๕ ขอนี้อยาผิดเปนอันขาด ถาผิดแลว โอโห กรรมเวรไมมีที่สิ้นสุด โยมลองนึกถึงภาพ สําหรบั คนฆา สตั วต ัดชีวิตได ฆา วนั นี้ ฆาสตั วเล็ก ๕๑

มรดกธรรมศาลาพระราชศรทั ธา วดั ปทมุ วนารามราชวรวิหาร ป ๒๕๖๒ เลม ท่ี ๖ สัตวนอย ฆาตอ ไปเร่ือย ๆ ไมหยุด ฆา สัตวใ หญ ๔ เทา ฆาสัตวตอไป ไปฆาผูฆาคน ก็เปนอันหมดสิทธิ์ที่จะไดเกิดในความเปนมนุษยท่ีดี หรือเกิดในสวรรคช้ันฟา อยูเปนสุขนั้นเปนไปไมได หากเรายังทํา บาปทํากรรม ยังทํารายคนอ่ืนอยู ทําโทษใหแกคนอื่นอยู คนอ่ืนที่ ไหนทจ่ี ะเหน็ อกเห็นใจเมตตาเรา เรากต็ อ งไดร บั กรรม ทานทั้งหลาย ท่ีเห็นทุกสิ่งทุกอยางเกิดข้ึนในโลก ที่ผูที่ไมนับถือพุทธศาสนา เกิด ศึกสงครามก็เกิดจากการผิดศีลทั้งส้ิน โดยเฉพาะศีลขอที่ ๑ เบียดเบียนกัน ฆากัน ทุกสิ่งทุกอยาง อันนี้ เราทานทั้งหลายต้ังใจ ประพฤติปฏิบัติธรรมเม่ือรักษาศีลขอที่ ๑ ไดใหแผเมตตาใหสัตว ท้งั หลายอยเู ยน็ เปนสุข พนทกุ ขทว่ั หนา เมอ่ื ทา นท้ังหลายไปอยูในท่ี ใด เมื่อมีศีล ๕ บริสุทธิ์ จะเปนผูท่ีรักใครและเมตตาจากสรรพสัตว ทั้งหลาย ในปาในเขาก็ไมมีอันตราย ลงไปในน้ําก็ไมมีอันตราย เพราะเรารักษาศีลของเราดี จะเปนคนท่ีบริสุทธ์ิผุดผอง ตกน้ําไม ไหล ตกไฟไมไหม ความเมตตาน้ี ไปท่ัวทั้งนรกทั้งเปรตท้ังผีทั้งสัตว เดรัจฉานมนุษยทุกรูปทุกนาม เทวดาทุกชั้นฟาก็ไดเมตตาจากเรา เพราะเราไมฆ าสัตวต ดั ชวี ิต ทีน้ี พอเรารักคนอื่น คนอื่นก็รักเรา พอเราเมตตาคนอื่น คนอื่นก็เมตตาเรา ไปท่ีไหนมีคนรักคนใคร แลวอายุม่ันขวัญยืนดวย ใสบาตรทกุ วนั เทากับตอ ชวี ิต ถวายชวี ติ ความเปน อยูอนั ดีใหแกพระ เจาพระสงฆ ถวายขาวถวายน้ําก็มีอายยุ ืน ถวายขาวถวายน้ําก็ทําให ผิวพรรณผองใส ถวายท่ีอยอู าศัยเราก็จะมที ่ีอยูอาศยั อยเู ยน็ เปนสุข อยูสุขสบาย ถวายยารักษาโรคเราก็อายุม่ันขวัญยืน เกิดจากทาน ของเราท้ังสนิ้ เกดิ จากทานของเรา เกิดจากศีลของเรา เพราะฉะนั้น ใหตั้งอกตัง้ ใจ อายุ วณั โณ สุขัง พะลงั จะเกิดขึน้ ทุกเมื่อ เมือ่ เราตั้ง ๕๒

มรดกธรรมศาลาพระราชศรทั ธา วดั ปทมุ วนารามราชวรวหิ าร ป ๒๕๖๒ เลม ที่ ๖ อกตั้งใจทําบุญทําทานและรักษาศีลดวย แตทานนั้นจะบริสุทธิ์ สะอาดจรงิ ๆ ตอ งเปนผูรกั ษาศลี ขอที่ ๒ มนั เกย่ี วพันกนั อยาไปเอา ของเขามาเปนของเราเปนอันขาด ถาทําตรงนี้ไมไดก็ไมมีทางจะ เจริญรุงเรืองในธรรม ถาเรายังเอาของเขาอยู ในขณะเดียวกันก็ ทําบุญไปบาง ทําไปทํามาบุญจะไมทาํ จะทําแตบ าปอยางเดียว หรอื วาทําบุญไปสลับทําบาปไป อันน้ันก็ทําไมไดอีก ไป ๆ มา ๆ ก็จะทํา บาป เพราะฉะน้ัน ใหตั้งใจรักษา อันไหนที่ไมใชของเรา เราจะไม เอามาเปนของเราเลยเปน อนั ขาด ศลี อันน้ีเปนศลี ทีล่ กึ อยูในใจ ในเทวดาช้ันฟาบนสวรรค เทพบุตรเทวดาช้ันต่ํา ๆ ตั้งแต ภุมมเทวดาข้ึนไปจนถึงสวรรคชั้นดุสิต ทานมีหิริ มีโอตตัปปะอยูใน จิตใจ คอื มีความละอาย เกรงกลัวตอ บาป หิริ โอตตปั ปะ นถ่ี า ซงึ้ อยู ในใจแลว เกิดที่ไหนภพใดชาติใดแลวจะไมเ อาของเขามาเปน ของเรา เปนอันขาด จะมีความรูสึกอยางน้ัน จะไมฆาสัตวตัดชีวิต จะไมเอา ของเขามาเปนของเรา อยางเราทานทง้ั หลายเคยไดยนิ หนังสอื พิมพ ก็ลงขาว มีอยูรายหนึ่งเจอเงินต้ังลานเขาลืมไว อยูประเทศสิงคโปร แกบอกวาแกเอาไมได ตอ งคนื เขา เพราะไมใ ชข องเขา ถา เอาไปแลว นอนไมหลับ ตองคืนใหเจาของ อันน้ี ทั้ง ๆ ท่ีคนน้ันอาจจะไมรูวา ศลี ๕ คืออะไรดว ยซา้ํ ไป แตวา หิริ โอตตัปปะ ทอี่ ยูในจติ ใจนั้นเปน คุณธรรมที่แนนมาก เวลาปฏิบัติธรรมจะมีความเสียสละ ความ เมตตา ความเอ้ือเฟอเผื่อแผตอทุกผูทุกคน การท่ีไมเอาของเขามา เปน ของเราเปน ศีลในระดับศลี ขัน้ ตํา่ ศลี ขน้ั หยาบ เขาเรยี ก ศีล ๕ ทีนี้ตอไป การปฏิบัติธรรมจะพูดถึงทานก็เทากับสละวัตถุ เพื่อใหเกิดความสุขความเจริญใหแกคนอื่น บุญสวนท่ีเราจะไดก็คือ อายุมัน่ ขวัญยืน ผิวพรรณผอ งใส อยูเย็นเปนสขุ อายยุ ่งิ ยาวนาน ทีนี้ ๕๓

มรดกธรรมศาลาพระราชศรทั ธา วดั ปทุมวนารามราชวรวหิ าร ป ๒๕๖๒ เลมท่ี ๖ พอข้ึนไปในขั้นศีลน่ีเปนการสละความชั่วออกจากกายจากวาจา อัน นี้ไมเกี่ยวของกับวัตถุ แตเกี่ยวของกับศีลที่ฝงลึกอยูในจิตในใจท่ีจะ ออกมาทางกายทางวาจา เราก็เสยี สละออกไปเสยี ไมเ อาในสง่ิ ทีเ่ ปน ทุกขเปนโทษ ไมฆาสัตว ไมลักทรัพย ไมประพฤติผิดในกาม ไมดื่ม สุราเมรัย ไมพูดเท็จ ไมพูดสอเสียด ไมพูดคําหยาบ ไมพูดเพอเจอ อันนเ้ี ปน สัมมาวาจา หรอื วจีสจุ รติ กไ็ ด กต็ อ งต้งั ใจรกั ษา อยาใหกาย เปนบาป อยาใหปากเปนบาป ถากายเปนบาปอยู ปากเปนบาปอยู บาปท้ังหมดที่เกี่ยวของกับคนอื่นมันจะมาหาเรา หรือสิ่งท่ีลึก ๆ อยู ในจติ ในใจทีเ่ ปนความชว่ั มันก็จะออกมา เพราะวา ถา จิตปจ จุบันเปน ของชว่ั สิง่ ทีช่ ัว่ กจ็ ะออกมา ถา จิตปจจบุ นั เปน กุศลเปนฝายดี ความดี เราก็จะออกมา เพราะฉะน้ัน เราตองทําอยางไรใหความชั่วมันหาย ออกไปจากกายจากวาจาของเรา ก็ไมมีอะไรนอกจากการรักษาศีล ตั้งใจรักษาศีล เอาความช่ัว อันนี้เรียกวาจาคะก็วาได ในจาคะ เทากับวาการเสียสละสวนสูง สวนบน สวนลึก วาสวนขางในในจิต ในใจของเรา ทําไปเรื่อย ๆ ก็เสียสละความรักความชังท่ีมีตอรูป เสียง กลน่ิ รส สัมผสั และธรรมารมณ เสียสละออกไป แตต รงนย้ี าก หนอย แตถึงจะยากอยางไรเราก็ทําได เพราะวาถาต้ังใจรักษาศีลดี แลว จิตละเอียดขึ้น มีความสุขความสงบข้ึน ก็จะรูวาจิตสะอาด จิต ผองใสเปนอยางไร จิตสกปรกเปนอยางไร จิตขุนมัวเปนอยางไร จิต ใสจิตสงบเปนอยางไร เราก็จะเห็นจะแยกได ดังนั้น ขอใหทาน ท้งั หลายตั้งอกต้งั ใจรักษา อยากจะย้ําเรอื่ งศีล ๕ อยางศลี ขอ ท่ี ๓ กาเมสุมจิ ฉา ต้ังอก ตั้งใจบอกตัวเองวา ถายังมีครอบครัวอยูก็ขอ ถาชีวิตนี้มีสามีก็ขอมี คนเดียว ถามีภรรยาก็ขอคนเดียวเทานี้ ซ่ือสัตยและจริงใจตอกัน ๕๔

มรดกธรรมศาลาพระราชศรัทธา วดั ปทุมวนารามราชวรวิหาร ป ๒๕๖๒ เลมที่ ๖ เมื่อทําไดอยางน้ี ลูกหลานที่จะเกิดมาจะไดแบบฉบับที่ดี เกิดจาก ครอบครัวที่รมเย็น ลูกจะไดรับการศึกษา หากพอแมตองแยกทาง กัน ลกู จะทุกขท รมานขนาดไหน ถา พอแยกจากแม ลูกกลายเปน ลูก ติด พอจะดูแลลูกอยางไร ก็ตองมีแมใหม เมื่อมีแมใหมแลวความรัก ระหวางลูกตอลูกจะมขี นาดไหน กจ็ ะมคี วามลําเอียงกันอยางนั้น ไม มีที่สิ้นสุด ทุกอยางลําบาก นึกถึงคําสอนขององคสมเด็จพระ สัมมาสัมพุทธเจา คนเรามันจะตางกันอยางไร ผูหญิงที่เปนภรรยา ของเรากับผูหญิงคนอ่ืนมันจะตางกันอยางไร อวัยวะสังขารมันจะ ตา งอยา งไร มีอะไรผดิ บาง อันนีห้ ลวงตาทานบัวทานพูดแรง อาตมา ไมกลาพูดอยางทาน แลวสามีของเรา รางกายสังขารมันจะตางกัน อยางไร มันก็เหมือนกัน จิตท่ีไมมีประมาณลนฝงลนฝาที่มีตัณหา กิเลสลนฝงลนฝาตางหากที่ทําใหรูสึกวาคนนี้สวย คนนี้งาม คนน้ี อยา งนูนอยางน้ี รกั ...เทย่ี วรักทัว่ ไปหมด ในที่สุด คนทแ่ี สวงหาความรักอยางน้นั แทนทีจ่ ะเกบ็ ความ รักไวเต็มบาน แทนที่ความรักจะอยูในจิตใจของผูคนที่เก่ียวของกับ เรา กลับตรงกันขาม ในท่ีสุด จะไมมีใครรักเมตตาเราเลย ในท่ีสุด ตวั เองกเ็ กลียดตวั เอง เพราะตัวเองเปน คนท่ีไมดี เปน คนท่ไี มมีความ สันโดษ ไมมีความจริงจัง ไมมีความเมตตากรุณา ไมมีความซื่อสัตย จะเอาคุณงามความดีจากไหนมาให ลูกก็ไมรัก ภรรยา สามี ก็ไมรัก ญาติพ่ีนองก็ไมรัก ไหนวาแสวงหาความรักจากคนโนนคนน้ี แทนที่ จะอยูเย็นเปนสุข กลับทุกขยากลําบาก อันนี้แหละ ความโง ความ ชั่ว มันทําใหเราเสียคน กิเลส ราคะ ตัณหา ทําใหเราเสียคน ถึงตรง น้ีใหจําไว หากวาเราตั้งใจมีครอบครัว ภาษาอังกฤษเขาเรียกวา commitment คือ ความผูกพัน เมื่อมี commitment แลว ทาน ๕๕

มรดกธรรมศาลาพระราชศรัทธา วัดปทมุ วนารามราชวรวิหาร ป ๒๕๖๒ เลม ที่ ๖ บอกวาจะตองมี duty and responsibility คือตองมีหนาท่ีและ ความรับผิดชอบ แตหากเราไมมี commitment ก็ไมตองไปดูแล รับผิดชอบใคร ตัง้ อกตัง้ ใจปฏบิ ตั ิธรรมใหม นั ได ดังน้ัน เมื่อทานทั้งหลายอยากอยูเย็นเปนสุข มีความสุข ความสบาย เนกขัมมะปฏิบัตินี่เปนของจําเปนและสําคัญที่สุด โดยเฉพาะโลกทุกวันนี้รอนไปหมด เพราะรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ อยูที่ไหนก็เหมือนกบั มีเพลงมีละครอยูติดมือ ตลอดเวลา ดูแลว ดูอกี จติ ใจเราท่ีมีกเิ ลสอยู ไมมีหลกั มีฐานเราจะไป ดูอะไรนอกจากจะไปดูส่ิงที่ไมดีไมงาม หาความสนุกสนาน เพลิดเพลิน แลวมันจะไดอะไร ในพุทธศาสนาทานบอกวา ถาจะดู อะไรใหเปน ทัศนานุตริยะ ดูสิ่งที่เลิศท่ีประเสริฐ ดูพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ ดูสถูป ดูเจดีย ดูพระปฏิมา ดูหนังสือธรรม ต้ัง อกต้ังใจ มองดูครูบาอาจารยดวยสายตาที่เคารพนับถือ ตองดูอยาง น้ัน ไมใชวาไปดูหนังดูละคร ดูของสกปรกลามกอนาจารอยางน้ัน มันไดอะไรข้ึนมา ยิ่งจิตใจเราก็ย่ิงจะสกปรกไปเร่ือย แลวของที่เขา ผลิตออกมา ลึก ๆ ดูสิ ของฟรีเม่ือไร ของตองใชท้ังน้ัน แลวทําให เราเสียมากกวาจะดีดวยซ้ําไป ยอ นกลบั มาถึงองคสมเดจ็ สมั มาสมั พทุ ธเจาของเรา บําเพญ็ บารมี ๔ อสงไขยกับอีกแสนกัป มีความปรารถนาใหใครบางเปนคน ช่ัว มีความปรารถนาอยากใหคนไดดิบไดดีกันท้ังหมด แลวเราจะยัง ไมเคารพทานอีกหรือ แลวเรายังไปแสวงหาส่ิงท่ีไมดีงามอยูอีกหรือ ถามตัวเราเอง เวลาฟงเหมอื นกนั ไปฟง เพลงอะไรสารพดั ทีจ่ ะฟง มี แตก อกวนจะทําใหเกดิ กิเลสตัณหา ไมม ีทส่ี ้ินสุด แลวมันไดอ ะไร ถา หากฟง สนกุ สนานจริง ๆ มปี ระโยชนจ ริง ๆ ก็เอาไปฟง สิเวลาเจ็บไข ๕๖

มรดกธรรมศาลาพระราชศรทั ธา วดั ปทุมวนารามราชวรวิหาร ป ๒๕๖๒ เลมท่ี ๖ ไดปวย ใหเขาเปดเพลงใหฟงสิ เพราะวาตัวเองรัก เวลาตายก็ใหเขา เปดเพลงใหฟงสิ ทําไมตองไปฟงพระสวดดวยเลา สอนตัวเองอยาง นี้ ใหสอนตัวเองอยางน้ี วาโอย ไมเอาอีกแลว พอ ๆ เราจะฟงเทศน สวนานุตตริยะ เราจะต้ังใจฟงแตธรรมอยางเดียว อยางอ่ืนเราไม สนใจแลว อันนีภ้ าคปฏิบตั ธิ รรม เ น ก ขั ม ม ะ ป ฏิ บั ติ เ ป น ข อ ง สํ า คั ญ ที่ ท า น บ อ ก ว า อะพรัหมจะริยา เวระมะณี ศีลขอท่ี ๓ เวนจากทุกสิ่งทุกอยางที่ “อะพรัหมะจะริยะ” ที่ไมประเสริฐ ความมีครอบครัวลูกเตาสามี ภรรยาถา เปรียบเทยี บกับธรรมะชนั้ สูง ทา นบอกวาไมประเสรฐิ เปน ของที่ตาํ่ เปนของที่ไมเปนคุณเปน ประโยชนแกจิตใจเทาที่ควร ทาน ใหเวน เพราะฉะน้ัน ถาเราเวนอยางน้ีได มีจิตใจที่หนักแนนม่ันคง กิเลสราคะมันจะคอยเบาบางไป ทีน้ีการท่ีจะปฏิบัติ ทําอยางไรถึง จะเลนงานมนั ได ทาํ จิตใหสงบ ทาํ สมาธิภาวนา เมื่อจติ ใจสงบดีแลว ดูรา งกาย ภาษาพระทา นบอกวา กายคตาสติ หรอื อสุภะภาวนา ดู รางกายต้ังแตผม ข้ีรังแคบนหัว ทุกส่ิงทุกอยาง ในตาก็มีสารพัดที่ เปนของสกปรก ในหูก็มีของสกปรก ท้ังจมูกก็มีของสกปรก ขี้มูก นํ้าลาย สารพัดของสกปรก จนถึงเลือด ทุกอยางที่อยูในรางกายน้ี สกปรกท้ังสิ้น เน้ือหนังมังสังทุกอยาง ไมมีอะไรที่สวยงามเลย ไมมี อะไรท่ีดีงามเลย เราวาไปเอง ดินนํ้าลมไฟไมเคยพูดอะไรกับเรา แต เราไปวาเอง เราไปรักเขาเอง ดินน้ําลมไฟไมเคยบอกวารักเรา ไม เคยบอกวาชอบเรา แตเราไปหลงเขาเอง ทําอยูอยางนี้ กิเลสท่ีเปน ราคะจะคอยจืดจางหางหายออกจากจิตใจ เหลือแตจิตใจที่บริสุทธิ์ สะอาด ๕๗

มรดกธรรมศาลาพระราชศรัทธา วดั ปทุมวนารามราชวรวหิ าร ป ๒๕๖๒ เลมที่ ๖ เร่ืองที่นั่งที่นอน ก็ใหพยายาม อยางปฏิบัติธรรมอยูที่น่ี นั่ง อยูบนศาลา บนพื้นก็ไมไดออนนุมอะไรนัก ถามีโอกาสก็นั่งบนโขด หนิ ใตต น ไม ที่ไหนกแ็ ลว แตใหต้ังอกตั้งใจ อนั นี้เปน อจุ จาสะยะนะมะหาสะยะนา ทานไมใหนั่งที่นอนที่มีความสุขความ สบาย เวลาเราปฏิบัติธรรมอยูในสถานที่วิเวกเงียบสงัด โดยเฉพาะ อยางยง่ิ ใตตน ไม ในปาเขาหรือที่ไหนก็แลวแต จะมคี วามสุขใจลึก ๆ มันเปนอยางนั้นของมันเอง สงบ ลมที่พัดมา แลวก็คํ่าคืนดูเดือนดู ดาว สวยจริง ๆ จิตใจไปสัมผัสกับธรรมชาติมันเก้ือกูลกันจริง ๆ อยางนี้เอง พระพุทธเจาทานถึงไดอรรถไดธรรมจากภาวะ ทุกส่ิงทุก อยางเงียบสงบไปหมด ที่ไมเงียบก็คือจิตใจของเรา เหมือนกับทุก อยาง อยางตนไม มันก็ทํางานของมัน โตขึ้นตามลําดับแบบเงียบ ๆ เหมือนครูบาอาจารยทางเซน ทานบอกวาดอกไมมันเบงบานบนตน ก็เบงบานอยางเงียบ ๆ ไมพูดใหใครฟง ไมเรียกใหใครมาดู เวลามัน เหี่ยวแหงก็เห่ียวแหงแบบเงียบ ๆ เหมือนกัน มันก็ไมไดบอกใคร ไมไดเสียใจวาตัวเองตองเห่ียวตองแหง ทีน้ีเวลาหลนจากตนมันก็ หลนของมันเอง โดยไมเลือกที่ดวยซ้ําวาจะไปตกอยูท่ีไหนเม่ือใด ก็ เปนไปอยางเงียบ ๆ จิตใจของเราถาเงียบสงบไดอยางน้ัน ดูความ เปนไปของรางกาย แลวจิตเปนอันหนึ่ง รางกายเปนอันหน่ึง มันจะ แยกออกจากกัน โอย อยา งน้ีเอง ท่เี ราเปนทุกขเปนโทษเพราะไปยึด เอาของเขามาเปนของเรา ถาจิตน้ีรู รูสกั แตว า รู แลวกป็ ลอ ยวาง มัน จะมีอะไรเกดิ ขนึ้ มีทุกขมีโทษอยูตรงไหน น่ีแหละศีล ทีนี้ วิกาละโภชนา ที่วาสําคัญ คือไมรับประทานอาหารใน เวลาวิกาล คือถา รบั ประทานอาหารในเวลาวิกาลมันจะมีภาระ ตอง หุงตองหาสารพัดที่จะตองทํา ยุง ทีน้ีพอทานอาหารในเวลาวิกาล ๕๘

มรดกธรรมศาลาพระราชศรทั ธา วดั ปทุมวนารามราชวรวหิ าร ป ๒๕๖๒ เลม ที่ ๖ อาหารตองยอยก็ตองใชเวลา จะหลับนอนตอนนั้นก็ฝนไมดี แลวก็ ไมคอยเกื้อกูลเทาท่ีควร ถาเราไมรับประทานอาหารในเวลาวิกาล ทานกอ นเท่ยี ง ตกตอนบาย อาหารทีเ่ ราบรโิ ภคก็เรมิ่ ยอยสลาย แลว พอตกกลางคืน เราหลับสนิท รางกายก็ไดหลับพักผอนเต็มท่ี พอถึง ตอนเชามา พลังงาน Energy ที่เกิดจากการรับประทานอาหารก็ เปนของละเอียดออน ตอนน้ีแหละจิตใจสงบเงียบ ไมงวงเหงา หาวนอน สมาธิก็จะดี เปนคุณอยางนี้ ถาหากวาเราไปทานอาหาร อยูตลอดเวลา พอรางกายแข็งแรง จิตก็กําเริบ ราคะตัณหา สําหรบั ผูยังหนุมแนน ยังหนุมยังสาวอยูมันก็รบกวน ถาเราทานอาหารนอย ปฏิบัติธรรมมาก กิเลสเหลานี้ก็ไมรบกวน เราก็มีจังหวะที่จะ พิจารณาใหเห็นตามท่ีเปนจริง อยาลืมวาการปฏิบัติธรรมก็มีอยู ๒ สวน สวนหนึ่งคือฝายรัก รักตอรูป เสียง กล่ิน รส สัมผัสอันนี้ อีก สวนหนึ่งก็คือความชัง ที่มีตอคนอื่น หรือที่มีเกิดข้ึนในจิตใจของเรา เรียกวา โทสะ ทีนี้จะทําอยางไรโทสะจะเบาบาง ก็ศีลขอท่ี ๑ ท่ี ๒ ที่ ๓ ที่ ๔ ที่ ๕ ถาเปนศีล ๕ รักษาใหดี ทําสมาธิภาวนาแลวก็แผ เมตตา เมื่อศีล ๕ ดีแลวเวลาแผเมตตาจิตสงบก็แผสะดวก อะหัง สุขิโต โหมิ ขอใหเรามีความสุข สัพเพ สัตตา สทา โหตุ ขอใหสรรพ สัตวทั้งหลายจงมีความสุขทุกทั่วหนา แผเมตตาไปเร่ือย ๆ เอาคน อยูใกลกอน อันน้ีสําคัญ คนท่ีอยูใกลเราจะเปนคนดีก็ดี คนช่ัวก็ดี หรือไมดีไมชั่วก็ตาม เปนคนท่ีจะใหคุณใหโทษแกเรามากที่สุด คน อื่นนั้นถึงจะดีอยางไรก็อยูที่ไกล เราก็ไมมีปญหาอะไร หรือคนช่ัวท่ี อยูไกลกไ็ มมีปญหาอะไร แตวา คนที่อยูใกลชิดจะทาํ อยา งไร อยาลืม สัมผัสจติ ใจของเราดวยความเมตตาของเรา ดว ยการแผเ มตตาใหทุก ๕๙

มรดกธรรมศาลาพระราชศรทั ธา วดั ปทุมวนารามราชวรวิหาร ป ๒๕๖๒ เลม ท่ี ๖ วัน โดยเฉพาะอยางยิ่ง คนท่ีบุญวาสนานอย คนท่ีไมมีคุณธรรม คน ที่โมโหโทโส คนท่ีมีแตความโลภ แผเมตตาใหเขาเร่ือย ๆ ถึงเขาจะ ไมไดเปล่ียนแปลงอะไรไปมากนักเพราะความเมตตาของเรา อยาง นอยจติ ของเราก็ไดรบั ความรมเย็น จะมีอะไรกระทบกระเทอื นจะไม ต่ืนเตน สติจะไมหายจากตัวเรา เราจะมีสติสมบูรณอยูเสมอ ถา ต้ังใจปฏิบัติธรรมแลว มีสติอยูกับเน้ือกับตัวแลว เหมือนกับมีคน คอยดูแลระวังรักษา สิ่งไหนท่ีดีก็อนุญาตใหเขามาได สิ่งไหนไมดีก็ ออกไป สตเิ ปนตวั หลัก เปนตัวยนื ทเี ดยี ว ตัวนเ้ี ปนตวั สําคัญมาก เพราะฉะน้นั กข็ อใหต ง้ั อกตั้งใจแผเมตตาอยูเสมอ ๆ คอื คํา ทรี่ ชั กาลท่ี ๖ ทานนิพนธไ ว “อันความกรณุ าปราณี จะมีใครบังคับ ก็หาไม หลั่งมาเองเหมือนฝนอันช่ืนใจ จากฟากฟาสุราลัยสูแดน ดิน” คือพอมีความเมตตากรุณาแผไปท่ัว ใหสรรพสัตวทั้งหลายมี ความสุขถวนหนา ตอนเชา ๆ ท่ีคนยังไมคอยต่ืนกัน หรือตอน กลางคืนที่ทุกอยางเงียบสงบ แผเมตตาตอนนั้นเปนโอกาสท่ีดีที่สุด หรือวาทุกหนทุกแหงใหมีเมตตาจิตอยูเสมอ เมตตัญจะ สัพพะโลกัสมิง มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณัง เมตตาที่ไมมี ประมาณ ไมมีที่ส้ินท่ีสุด ที่ออกจากจิตใจของเราใหแผไปทั่วทุกหน ทุกแหง ท้ังเบ้ืองบนเบ้ืองลาง เบื้องขวาง ไมมีเวร ไมมีศัตรูตอใคร ทําอยอู ยา งน้ีเปน ประจํา เมื่อไมม ีความโกรธในจิตใจของเราแลว เรา จะไปโกรธกับใครอีก ทุกอยางที่เกิดขึ้น สติดูแลรักษาไดตลอด คน พูดอะไร ทําอะไร มองดู แมแตยังไมพูด สติปญญามีอยูในตัว รูวา อะไรเปนอะไร เราก็เงียบสงบ ใจเย็นสบาย ดังน้ัน ขอใหทาน ทง้ั หลายตงั้ ใจในการปฏบิ ตั ิธรรม รกั ษาศลี ใหด ี ๖๐

มรดกธรรมศาลาพระราชศรัทธา วัดปทุมวนารามราชวรวหิ าร ป ๒๕๖๒ เลม ท่ี ๖ ทีนี้ มาย้ําเรื่องศีลขอที่ ๔ ที่วาไมใหพูดเท็จ คําหยาบ สอเสียด เพอ เจอ พูดเปนภาษาบาลีก็ สจั จังภะเณ - พูดแตส งิ่ ท่ีเปน จริง ปยังภะเณ – พูดดวยวาจาออนหวาน สมานสามัคคี สุภาสิตัง ภะเณ - พูดแตสิ่งท่ีเปนสภุ าษิต ธัมมังภะเณ - พดู แตส่ิงที่ เปนอรรถเปนธรรม ใหทําอยางน้ีเปนประจําอยูเสมอ เทากับวาปาก พวกเรากเ็ ปนศีล ถาเราพดู เทจ็ อะไรจะเกิดข้นึ คนทพี่ ูดเท็จจะไมเจอ ความจริงสิ่งท่ีประเสริฐลํ้าเลิศเปนอันขาด เอางาย ๆ ถาเราเปนคน พูดโกหก ทา นบอกวาเปน คนปลอม ไมใ ชค นแท ผูห ญิงปลอม ผูชาย ปลอม ลองนึกถึง ไมค ณุ ธรรมในตัวเลยแมแตนอย สูงข้ึนไป อบุ าสก ปลอม อบุ าสกิ าปลอม ไมม ีความจรงิ ใจ ไมม คี วามซ่ือสตั ย ไมมคี วาม ตรงไปตรงมา ไมมีความเมตตากรุณา สูงขึ้นไปอีก สามเณรปลอม พระปลอม อูย ไปกันใหญ ที่จะไปเจอกับสัจธรรมของจริงของแทท่ี เรียกวาอริยสัจ ๔ นั้นเปนไปไมไดถาเราไมจริง เราตองเปนคนจริง พดู อยูเ สมอวา ไมม ีความชั่วอันไหนทคี่ นโกหกทําไมได คนโกหกนั้น หมายความวาไมสามารถที่จะเกิดเปนมนุษยที่จะมีความสุขความ สบายได ไมสามารถที่จะเกิดบนสวรรคชั้นฟาได มีแตจะลงต่ําทา เดียว เพราะฉะน้ัน อยากใหเราเปนคนดีมีความสุขความเจริญก็ ขอใหต ัง้ อกตั้งใจรักษาศลี รกั ษาใหดี มาถึงตอนนี้ ในภาคปฏิบัติธรรม ก็ใหนึกถึงคําสั่งสอนของ องคสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจา คือธรรมะสวนสูงนี่ทานเทศนกอน เพื่อน หลังจากที่ไดบรรลธุ รรมที่พุทธคยา คือมาถึงตอนน้ันหลังจาก ที่ทานบําเพ็ญทุกรกิริยาแลวมีความรูอยางลึก ๆ ผุดข้ึนมาวา ถึงแม เราจะมีสติดี แตรางกายสั่นสายส่ันเท้ิมไปท้ังตัว จะลุกก็ไมได จะ อะไรก็ไมได แลวจะบรรลุธรรมไดอยางไร มานึกถึงคราวท่ีเราเปน ๖๑

มรดกธรรมศาลาพระราชศรทั ธา วัดปทมุ วนารามราชวรวิหาร ป ๒๕๖๒ เลม ท่ี ๖ เด็กยังเปนผูท่ีสมบูรณอยู ไมเคยอดขาวอดน้ําอะไร น่ังทําสมาธิ ภาวนา จิตนิ่งสงบ แลวทานก็นึกถึงการสีไฟของคนสมัยโบราณ ถา เอาไมเปนมาสี ยังไงก็ไมเปนไฟได เพราะไมยังมียางอยู ไมน้ันยังสด อยู ตัดไปแลวก็ตองไปตากใหแหง ใหยางมันหมด และก็ตองไปตาก ใหไกลจากนํ้า ไมใหช ุมนาํ้ พอมนั แหง แลวคอยเอามาสีไฟ ถึงจะเปน ไฟได เพราะฉะนั้น การปฏิบัติธรรมจะใหผลดีย่ิง กายตองออกจาก กาม จําไว แลวกแ็ นน อน ศลี ๕ หรือศีล ๘ เมอื่ ไดบรรลุธรรมช้นั ตน เชนโสดาบัน สกิทาคามี แมแตอนาคามี ศีล ๕ ศีล ๘ ข้ึนได แตเม่ือ มาถึงตรงน้ัน จิตนี้จะพรากออกจากกาม จิตน้ีจะเลยข้ันนี้ไป จะไม ตดิ ขอ งในกามเปนอนั ขาด เพราะฉะนั้น ในภาคปฏิบัติของเรา ตองหม่ันมาหาท่ีที่สงบ อยางที่วัดปทุมวนาราม ศาลาพระราชศรัทธา พระองครัชกาลท่ี ๙ ตั้งใจสรางไวให หาท่ีน่ังสมาธิภาวนา จะมีครูบาอาจารยมาเทศน หรือไม เราหาโอกาสมาน่ังทําสมาธิอยูเสมอ ใหจิตใจของเราไดเกิด ความรมเย็น เกิดความสุขความสบายใจ พอเอากายออกจากรูปรส กลิ่นเสยี งแลว จติ ใจก็เริม่ สงบรม เย็น เวลาสงบรมเย็นนนั้ เปนอยางนี้ เหมือนน้ําเราตักมาจากแมนํ้าเจาพระยา แมกลอง แมนํ้าโขง หรือ อะไรก็แลวแต ตกั ไวในถังทน่ี ่ิงไมไหวตงิ นา้ํ ความใสจะขึ้นอยูขางบน ตะกอนจะตกลงไปขางลาง ความใสอยูขางบน ตะกอนอยูขางลาง จิตใจของเราก็เหมือนกัน เวลาสงบตณั หาทีเ่ คยกลุมรุมจติ ใจจะคอย เบาบางลง หายหนา ไป เทากบั อาสวะไปซอ นอยู ไปหลบอยูในจิตใจ ลึก ๆ ของเรา มันไมออกมา เราก็ทําอยางนี้บอย ๆ ก็แยกออกไดวา จิตท่ีมีกิเลสอันหนึ่ง จิตท่ีไมมีกิเลสเปนอันหนึ่ง เมื่อเรารูอยางนี้ ท่ี มันเกิดกิเลสเพราะอะไร กามาสวะ ติดใจในรูปเสียงกล่ินรสสัมผัส ๖๒

มรดกธรรมศาลาพระราชศรทั ธา วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร ป ๒๕๖๒ เลม ท่ี ๖ ต้ังใจทําสมาธิ กายคตาสติ อสุภะ-ภาวนา ทําอยูเรื่อย ๆ กิเลสที่ยดึ ติดในรูปรสกล่ินเสียงก็จืดจางหางหายไป แผเมตตาเร่ือย ๆ ก็เกิด ความรมเยน็ ข้นึ มา อันนี้สาํ คญั การปฏิบัติธรรมตองมาถึงสวนท่ีเรารูวา กายเปนสวนหนึ่ง จิตเปนสวนหน่ึง จิตที่เปนกิเลสเปนสวนหนึ่ง จิตท่ีบริสุทธ์ิสะอาด เปนอันหน่ึง ธาตุรูเปนอันหน่ึง จําไวอยางนี้ก็ได อยางท่ีทานสอน อภิธรรม จิต เจตสิก รูป นิพพาน จิตเหมือนธาตุรู เจตสิกหมายถงึ สิ่งทแี่ ฝงอยขู องธาตุรู มีทั้งฝา ยดี ฝายช่ัว คือฝา ยกิเลสฝายบาป ฝาย บุญ มีทงั้ ดีและช่ัว หรือสง่ิ ทแ่ี ฝงอยูก บั จติ ก็คอื เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ความรูสึกสุขทุกขเปนกลางเฉย ๆ และความจดจํานึกคิด รับรูอะไรตาง ๆ เปนของที่แฝงอยูกับจิต เกิดข้ึนกับจิต ก็ดับกับจิต สวนรูปสังขารรางกายเรานี้ ธาตุ ๔ ดินนํ้าลมไฟ เราเรียกรูป พอเรา เดินมรรค มีศีล สมาธิ ปญญา หรือ สติ สมาธิ ปญญา บําเพ็ญอยู เสมอ ๆ ความรักท่ีมีตอรูปก็จะเบาบางลง ราคะ โทสะ โมหะ ที่ เกี่ยวกับรูปก็จะเบาบางลง สวนหนึ่งท่ีเปนเจตสิกธรรมท่ีแฝงอยู ความสุขก็ดี ความทุกขก็ดี ความเฉย ๆ ก็ดี ธาตุรูก็รูไดแลววา ส่ิงน้นั เปนของเกิดขึ้น ตั้งอยู ดับไป เม่ือเปนอนิจจังเทากับวาทานผูใดก็ ตามไปยึดถือไวเปนเรา เปนของเราก็เปนทุกขัง และทุกอยางก็เปน อนัตตาดวย ไมใชเรา ไมใชของเรา เม่ือรูชัดแบบน้ีก็วางซะ ทาน บอกใหวางรูปวางนาม พอวางรูปวางนามแลวอะไรจะเกิดขึ้น ก็คือ นิพพาน จําไวเ นอ จติ เจตสกิ รปู นพิ พาน จิตคือธาตุรู เจตสกิ ก็คือ ส่ิงทแี่ ฝงอยูกบั ธาตรุ ู มที ้ังฝา ยดีฝา ยชว่ั หรือจะบอกวา เวทนา สัญญา สังขาร เกดิ ขน้ึ ที่จติ พอปลอยวางรปู ความยึดม่ันถอื มัน่ ๖๓

มรดกธรรมศาลาพระราชศรัทธา วดั ปทมุ วนารามราชวรวหิ าร ป ๒๕๖๒ เลมท่ี ๖ รูปปู าทานกั ขันโธ เปนทกุ ขเ พราะยึดในรปู เปนทกุ ขเพราะ ยึดในเวทนา ความสุขความทุกขความเฉย ๆ เปนทุกขเพราะยึดใน สัญญาอารมณ เปนทุกขเพราะความนึกคิดตาง ๆ เปนทุกขเพราะ การรับรูแลวยึดวาเปนเราเปนของเรา เม่ือรับรูและปลอยวาง ธาตุรู ก็เกิดความใสสะอาด ธาตุรูก็เปนนิพพาน ใหจับหลักใหไดอยางน้ี เพราะฉะน้ัน วาไปแลวทุกคนมีส่ิงที่ดีงามอยูในจิตในใจทุกผูทุกคน แลว ขอใหต้ังอกตั้งใจปฏิบัติธรรม ศาสนาทุกศาสนาสอนใหคนเปน คนดี บางศาสนาใกลพระพุทธศาสนาบาง หรือในบางระดับ เรื่อง ทาน หรือแมแ ตเรอ่ื งศีลก็ใกลกับพุทธศาสนามาก แตถ า ศาสนาใดไม มีอริยสัจจ ๔ ก็ยังถือเปนมิจฉาทิฏฐิ ยังมีความเห็นผิดอยู อันนี้ สําคญั ถายังเปน มจิ ฉาทฏิ ฐิอยูจะไมมีทางพนจากทุกขไปได จะเวยี น วายตายเกิดในวัฏฏสงสารไมมีท่ีสิ้นสุด เมื่อเรารูอยางนี้แลวทํา อยางไร ถาไมมีศีลท่ีบริสุทธิ์ ศีล ๕ ไมบริสุทธิ์ ศีล ๘ ไมบริสุทธ์ิ ศีล ๑๐ ศลี ๒๒๗ ไมบ รสิ ุทธ์ิ จิตจะเปน สมาธิไดยาก ยากมาก ดงั นัน้ ตอง พยายาม ตัสมา สีลัง วิโสธะเย จงชําระศีลใหบริสุทธ์ิ คําวาศีลนั้น คืออะไร ก็คือจิตใจ คือธาตุรูอันน้ัน ใหบริสุทธ์ิสะอาด เวนจากทุกข จากโทษ อันน้ีเปนศีล การฆาสัตว ไมเปนศีล ศีลหมายถึงตัวธาตุรูท่ี เวนจากการฆาสัตว ลักทรัพย ประพฤติผิดในกาม พูดเท็จ ดื่มสุรา เมรัย อนั นีเ้ ปนตวั ศีลแท รกั ษาตวั นใ้ี หบริสุทธ์สิ ะอาด เมอื่ รกั ษาตัวนใ้ี หบริสทุ ธส์ิ ะอาดแลวจิตก็จะสงบงาย โยมจะ เห็น สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ อันน้ีเปนตัวศีลใน มรรค ๘ สัมมาวาจา ก็มี ๔, สัมมากัมมันตะ มี ๓, สัมมาอาชีวะ ๑ เรียกวาศีล ๘ ในองคอริยมรรค พยายามรักษาใหดี แตการรักษา ไมมีอะไรอ่ืนนอกจากสํารวมระวังและตั้งใจทําสมาธิ ขอยํ้าตรงน้ีอีก ๖๔

มรดกธรรมศาลาพระราชศรัทธา วัดปทมุ วนารามราชวรวหิ าร ป ๒๕๖๒ เลมท่ี ๖ ครั้ง เรื่องศีลนี่ การรักษากาย หลวงปูฝนทานวา แขน ๒ ขา ๒ ศีรษะ ๑ อันนี้เปนตัวศีล อยาเอาอันน้ีไปทําบาป แตถาวาลึก ๆ ใจ เปนตัวศีล อยาเอาใจไปทําบาป อยาเอาใจไปส่ังกายใหทําบาป อยา เอาใจไปส่งั วาจาใหทําบาป ใหต ้งั อกตัง้ ใจรกั ษาศีลใหดี เมอื่ รักษาศีล ดีแลวเราจะมองเห็นชัดเลย เร่ืองสัมมาวายามะ ตรงน้ีสําคัญ คือ ความเพียรพยายาม เม่ือรักษาศีลดีแลวจะอยูเฉย ๆ ไมได หมั่นไหวพระสวด มนตทกุ วัน ตอนเย็นตอนค่ํา ไหวยอ ๆ กไ็ ด แตวาหมัน่ ทําสมาธิ การ ทําสมาธิเทากับการสํารวมอินทรีย คืออินทรียสังวร ตัวน้ีสําคัญ ถา ไมสํารวมตา ไมสํารวมหู ไมสํารวมจมูก ไมสํารวมล้ิน ไมสํารวมกาย ไมส ํารวมใจ แลวอะไรจะเกิดขึน้ ทา นเปรยี บเทียบวา ลกึ ๆ ในจติ ใจ ตัวอวิชชาเหมือนกับตัวเสือโครง ศีลข้ันอินทรียสังวรทานพูดอยาง น้ัน เสือโครงตัวน้ีจะออกมาหาอาหารทางตา ทางหู ทางจมูก ทาง ล้ิน ทางกาย ทางใจ มันกินอารมณรักอารมณชังที่ตาไปเห็น ท่ีหูได ยิน ทีจ่ มูกไดก ล่นิ ที่ล้ินไดรส ท่กี ายไดสมั ผสั ทจี่ ติ ใจไดร บั รูอะไรตาง ๆ มันก็กินของมันอยูอยางนี้ ดังนั้น ถาไมมีการทําสมาธิ ไมมีการ สํารวมกายวาจาจิตเลย ก็เทากับวา แมเราจะรักษาศีล ๕ ได ก็เปน ศีลขั้นหยาบ ไมใชเปนศีลขั้นละเอียด ศีลข้ันละเอียดจะตองถึงข้ัน อินทรยี สงั วร ตาตอ งสงบ หตู อ งสงบ จมูกตองสงบ ลิน้ ตองสงบ กาย ตองสงบ ใจสงบ เจาคุณอุบาลี ทานพูดวา ถาใจเปนพระ ตาก็เปน พระ หูก็เปนพระ จมูกก็เปนพระ ลิ้นเปนพระ กายเปนพระ แตถา หากไมมีการรักษาแลวเสือโครงท่ีอยูขางในมันจะไปกินอาหาร แลว จะกอทกุ ขกอโทษใหเกิดกบั เรา ความรกั ความชังจะกลุมรุมอยูในจิต ไมม ีวนั จืดจางหา งหาย การปฏิบตั ธิ รรมกไ็ มก าวหนา ๖๕

มรดกธรรมศาลาพระราชศรทั ธา วดั ปทมุ วนารามราชวรวหิ าร ป ๒๕๖๒ เลมท่ี ๖ จิตน้ัน ขณะจิตเดยี วคดิ ไดเร่อื งเดียว โยมตอ งระวังเรื่องน้ีให มาก ๆ จิตตองเปนกุศลอยูเสมอ ๆ ตอเน่ืองกันไป หรือใหมีอยูนาน ท่ีสุดเทา ทจี่ ะนานได ใหอ ยกู บั ตัวเราเปนประจําสม่ําเสมอ ทุกเชา ทุก เย็น ถาเปนไปได ทุกเวลานาที แตก็เปนเร่ืองยาก ถาไมอยางน้ัน เพราะความเผลอสติ จิตก็จะไปรับอารมณรักอารมณชัง หาเร่ืองใส ตัวเกิดความขุนของหมองใจ ตามปกติธรรมดาอยางท่ีโยมเห็น นํ้า ทะเลเราอยูใกล ๆ ฝง เวลามันนิ่ง ความใสอยูขางบน โคลนอยู ขางลาง แลวก็มีดินมีทรายบางอะไรบางก็มองเห็น ลองโยนลูกหิน ออกไป ไปกระทบกระเทือนกับโคลนเลน ก็จะขุนข้ึนมาทันที ความ ใสอยูขางบนก็ลดนอยลงไปเพราะความขุนข้ึนมา จิตใจของเราก็ อยางนัน้ ถา เราไมส ํารวมระมดั ระวงั ไมท ําสมาธภิ าวนาแลว อารมณ รักอารมณชังจะไปกระตุนใจของเราใหขนุ ของหมองมวั อยู ไมมีเวลา ท่สี นิ้ สุด เพราะฉะนั้นใหระมัดระวัง การที่จะสํารวมได ไมมีทางอื่น นอกจากการทาํ สมาธิ จักขนุ า สงั วะโร สาธุ สาธุ โสเตนะ สังวะโร ทานวา การสํารวมตา สํารวมหู สํารวมจมูก สํารวมลิ้น สํารวมกาย สํารวมใจ สาธุแปลวาทําใหเกิดประโยชนสูงสุดทั้งแกตัวเราเองแก คนอ่ืน จักขุนา สังวะโร สาธุ สาธุ โสเตนะ สังวะโร ฆาเนนะ สัง วะโร สาธุ - สํารวมจมูก สาธุ ชิวหายะ สังวโร – สํารวมลิ้น กาเย นะ สังวะโร สาธุ สาธุ วาจายะ สังวะโร – พอมาถึงเร่ืองกายทาน ยอนกลบั ไปใหสํารวมวาจา เพราะเอากายกับวาจาเปน ของคูกนั มะ นะสา สังวะโร สาธุ - ไปสํารวมใจ สาธุ สัพพัตถะ สังวะโร สัพพตั ถะ สังวะโร ภิกขุ สัพพะทกุ ขา ปะมุจจะติ – หากทา นผูใดก็ ตามสํารวมตา สํารวมหู สํารวมจมูก สํารวมล้ิน สํารวมกาย และ ๖๖

มรดกธรรมศาลาพระราชศรทั ธา วัดปทมุ วนารามราชวรวหิ าร ป ๒๕๖๒ เลมที่ ๖ สํารวมใจ สํารวมอยูในท่ีทุกสถาน อยูในกาลทุกเมื่อ ทานผูนั้นไม นานก็จะพนจากทุกขท้ังปวง เพราะฉะน้ัน การท่ีจะหนีจากทุกขได ตองสาํ รวมตา หู จมกู ล้ิน กาย ใจ ทีน้ี ในระดับการปฏิบัติ นอกจากการสํารวมระวังไมให ของใหมเกิดข้ึน ไมใหอารมณใหม ไมใหความรักใหม ความชังใหม เกิดข้ึนมากระทบเรา เราก็ตองเอาอารมณเกาที่ยังคางอยู ท่ีเปนอา สวะอยูในจิตใจเราออกไปใหได ตรงน้ีทานสอนพระวา สิญจะ ภิกขุ อิมัง นาวัง สิตตา เต ละหุเมสสะติ คือทานเปรียบเหมือนเราจะ ขามวัฏฏสงสาร เหมือนการขามมหาสมุทร ตองใชเรือ เรือนั้นอยา ใหรั่วเปนอันขาด เทากับวาอยาใหศีลขาดเปนอันขาด ถาเรือร่ัวแลว ขามน้ําไมได สิญจะ ภิกขุ อิมัง นาวัง - พอรักษาเรือไมใหร่ัวแลว ตองวิดน้ําออกจากเรือ วิดนํ้าในที่นี้ก็เทากับวา ในจิตในใจของเรานี้ มีความรักความชังอยูแลว ทําอยางไรนํ้า คือความรักความชังจะ หมดไป มันก็ตองวิดออก พอวิดออก เรือก็จะวิ่งถึงฝงสมมาด ปรารถนา การปฏิบัติธรรมตองทําอยางนี้ สํารวมกาย สํารวมวาจา และสํารวมใจ ต้ังอกต้ังใจสํารวมใหดี มีสัมมาวายามะ หมายถึง ความเพยี ร เพยี รเชาเพียรเยน็ เพียรคํ่าเพียรกลางวนั ทาํ อยูเ ร่ือยเม่ือ มโี อกาส ทําใหจ ติ สงบอยูเร่อื ย เปนการเดินมรรค เม่ือเพียรอยูอยางนั้น สติก็ต้ัง สติก็อยูกับเน้ือกับตัว เวลา ทําสมาธสิ ตอิ ยูกับตวั ระวงั อยาใหมันลองลอยไปไหน ถา ลอยไปไมดี หรือไปเห็นอะไรก็แลวแต เพราะมักจะเปน บางคนพอเคลิ้มไป หนอยก็จะเห็นอะไร เปนนิมิตดีอะไรดี สารพัดที่จะเปน บางทีก็เปน ของไมดี แตทานไมใหติด ของขางนอกสอนไมใหย ึดตดิ ของขางในก็ ไมใ หยึดติด สกั แตวารู สักแตวา เหน็ สักแตวาทราบ ใหป ลอ ยวางอยู ๖๗

มรดกธรรมศาลาพระราชศรัทธา วัดปทมุ วนารามราชวรวหิ าร ป ๒๕๖๒ เลม ที่ ๖ เสมอ ๆ การทั้งหมดอยูที่การปลอยวาง ปลอยวางความชั่วทั้งหมด ทานบอกวา สัพพะปาปสสะ อะกะระณัง ความช่ัวอยาทําเปนอัน ขาด วางใหได กุสะลัสสูปะสัมปะทา – ทําจิตใหเปนกุศล เทากับวา วางอารมณรักอารมณช งั อยูตลอดกาลตลอดเวลา อยา ใหอารมณรัก อารมณช ังทาํ ใหจ ิตใจขนุ ของหมองมัวได สะจิตตะปะริโยทะปะนัง เอาสติ สมาธิ ปญญา ลางจิตใจ ใหสะอาดอยูเสมอ ๆ บางแหงเขาแปลวา ละบาป บําเพ็ญบุญ ก็ถูก การทาํ จิตใหเ ปน กุศลกค็ อื บําเพญ็ บุญนั้นเอง แตถา เอาตามศพั ทตาม ข้ันปฏิบัติจริง ๆ หมายถึง สมาธิ หมายถึงทําจิตใจใหเปนกุศล เพราะมนั จะตอ ไปถึง สะจิตตะปะรโิ ยทะปะนัง ทําจติ ใหผ องใส มนั เปนอยางนี้ อยางที่วากิเลสคือ ขั้นหยาบที่เราเห็นเชน ฆาสัตว ลัก ทรัพย ประพฤติผิดในกาม พูดเท็จ สอเสียด เพอเจอ เหลวไหล ดื่ม สุราเมรัย อันน้ัน เปนขั้นหยาบ ทีนี้ข้ึนข้ันตอไป มาถึงข้ันสมาธิ เรา จะเห็นความรัก ที่เราเรียกกามฉันทะ พยาปาทะ คือความชัง เกลียดตัวเอง ไมสบายใจ ถีนมิทธะ คือความงวงเหงาหาวนอน อทุ ธจั จกกุ กจุ จะ - ความฟงุ ซา น แลว ก็ วิจกิ จิ ฉา - ความลงั เลสงสัย อันน้ีเปนสิ่งท่ีปกปดจิตใจไมใหเห็นสัจธรรมของจริง ถาทําไดตรงน้ี จิตใจสะอาดบริสุทธ์ิสงบจะเห็นธรรมไดเร็ว ของทุกอยาง ถามีสิ่ง ปกปดแลวจะมองไมเ หน็ อาตมาเพ่ิงไปอินเดียมา ก็เลยมีโอกาสไปถึงลุมพินี ตามปกติท่ีลุมพินี ถากลางวันแลวเราดูทองฟาแจมใสจะเห็นภูเขา หิมาลัย หิมะวันโต จะ ปพพะโต ทุเรสันโต ปะกาเสสิ หิมะวันโต จะ ปพพะโส พระพุทธเจาทานพูดวา คนดีน่ีมองเห็นไดไกล มองเห็นไดชัดเหมือนภูเขาหิมาลัย แตตอนนี้หมอกควันฝุนละออง ๖๘

มรดกธรรมศาลาพระราชศรทั ธา วัดปทุมวนารามราชวรวหิ าร ป ๒๕๖๒ เลมท่ี ๖ บดบังไปหมด แมแตอยูในกรุงกาฐมัณฑุเองซ่ึงไมไกลจากภูเขา หมิ าลยั ก็มองไมเห็น พอเครอ่ื งบนิ ขึน้ ไปหนอย มองดูหิมาลัยสุดลูกหู ลูกตา ยาวเหยียดจากเหนือจรดใต ทุกหนทุกแหง จําไมไดวายอด ไหนเปนเอเวอรเรสต โอโห ใหญโตถึงขนาดน้ัน เพียงเมฆหมอกบด บังก็ยังมองไมเห็น อันน้ีก็ยอนถึงจิตใจพวกเราก็เหมือนกัน ถาเรามี แตค วามรกั ความชงั อยูในจติ ใจ อยา งไรกจ็ ะมองความจริงแทไ มเห็น เพราะฉะน้ัน จําไวใหดี อยูในสวนหนึ่งในจิตใจของเรา ใน รางกายเราก็คือความทุกข ทุกขก็คือความแก ความเจ็บ ความตาย และก็ความวิโยคพลัดพราก ความไมสมปรารถนา อันน้ีเปนความ ทุกขท้ังหมด เปนของจริงของแท เหตุแหงความทุกขก็คือ ความรัก ความชัง หรือวากามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา ราคะ โทสะ โมหะ ที่กลุมรุมอยูในจิตใจของเรานี้ อันน้ีเปนซีกซาย เปนสวนฝาย ชั่วที่อยูในจิตใจของแตละทานแตละคน ทีนี้ท่ีอยูในซีกขวา ซีกดี ความดับทุกขน้ันคอยอยูแลว ทางปฏิบัติใหถึงความดับทุกขก็มีอยู แลวทุกผูทุกคน ต้ังใจรักษาศีลวันน้ี ขณะนี้ก็เปนศีลเด๋ียวน้ีขณะน้ี ต้ังใจรักษาศีล ๘ ก็เปนเดี๋ยวน้ี ตั้งใจใหจิตสงบรมเย็นก็ทําไดเดี๋ยวนี้ ทําสติก็ไดเดี๋ยวนี้ เมื่อมันเปนอยูแลว ความพนทุกขก็คอยเราอยู ส่ิง ท่ีประณีตประเสริฐสุดที่วา ความดับทุกขคอยเราอยูแลว คอยวัน คอยคืนท่จี ะเกิดขึ้น ทจี่ ะปรากฎใหมีอยูแลว แตถ งึ จะไมถึงขนาดนั้น ทานทีเ่ ราทาํ กใ็ หความรม เยน็ เปนสขุ แกเราแบบสดุ ๆ สมปรารถนา ถึงหรือยังดวยอํานาจทานของเรา ศีลทเ่ี รารักษาก็ไดท กุ อยา ง สีเลนะ สุคะติง ยันติ - สุขในโลกนี้ สุขในโลกหนา สีเลนะ โภคะสัมปะทา - สุขดวยมนุษยสมบัติ สวรรคสมบัติ และนิพพาน สมบัตกิ ็ไดด วยอํานาจศีล สีเลนะ นิพพุตงิ ยนั ติ – ในทสี่ ดุ เราจะได ๖๙

มรดกธรรมศาลาพระราชศรัทธา วดั ปทมุ วนารามราชวรวิหาร ป ๒๕๖๒ เลม ท่ี ๖ นิพพานก็เพราะศีล ก็มีอยูแลวทุกผูทุกคน เพราะฉะนั้น ต้ังใจรักษา ถารักตัวจริง ๆ ไมอยากใหเกิดทุกขเกิดโทษ ไมอยากใหเกิดความ ลําบากใจ อยากพนจากทุกขจริง ๆ คําวารักษาศีลไมไดไมนาจะมี เลย รักตัวจริง ๆ ตองทําชั่วไมลง รักตัวจริง ๆ ตองเปนคนใจดีมี เมตตากรุณา สมกับเปนลูกศิษยขององคสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธ- เจา รักตัวจริง ๆ ตองเปนคนมีศีล รักตัวจริง ๆ ตองทําสมาธิภาวนา จะอยูเฉย ๆ ใหคุณงามความดีมาสวมใสรางกายของเรานั้นเปนไป ไมได อยางที่ทานสอนวา ธัมโม หะเว รักขะติ ธัมมะจาริง – ธรรม ยอมรักษาผูปฏิบัติธรรม ธัมโม สุจิณโณ สุขะมาวะหาติ - ธรรมที่ ประพฤติดีแลวนําความสุขมาให พระธรรมจะรักษาเราตอเม่ือเรา รักษาพระธรรม เหมือนกับวา แดดรอน หรือฝนตก เราถือรม ตอง ถือใหมั่น ใหอยูกับตัว จะไดปองกันแดดกันฝนได อยูดี ๆ จะใหรม ลอยมาคุมครองปกปองรักษาเรา อยูดี ๆ จะใหเมฆบนฟามา คุมครองปกปองรักษาเราเวลามีแดดมันเปนไปไมได เราตองทําเอง ประพฤติเองปฏิบัติดีเอง แลวกวาจะไดสมปรารถนาจะตอง ธัมโม สุจิณโณ สุขะมาวะหาติ - ตองปฏิบตั ิธรรมใหดีทีส่ ุดเทานั้นถึงจะได สมปรารถนาทุกสงิ่ ทุกอยาง เพราะฉะน้ัน เมื่อมีส่งิ ที่ดีงาม มอี ริยสัจจ ๔ อยใู นจติ ใจของ ทุกผูทุกคนแลว เราจะทําอยางไร พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ ถือ วาเปนพระรตั นตรัย อยขู า งนอกก็ถึงพระพุทธเจาของเรา พระธรรม ก็คําสอนดีงามที่มาส่ังสอนพวกเรา พระอริยสงฆก็คือพระอริยะ บุคคลผูปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ปฏิบัติตามคําสอนขององคสมเด็จพระ สัมมาสัมพุทธเจาท่ีเปนที่พึ่งของพวกเรา อันนี้เปนความดีที่อยูขาง นอก เรากราบไหวทุกวัน ๆ ตั้งอกตั้งใจ ทานพอลีทานพูดวา พุทธะ ๗๐

มรดกธรรมศาลาพระราชศรทั ธา วดั ปทมุ วนารามราชวรวิหาร ป ๒๕๖๒ เลม ท่ี ๖ ปูชา มะหาเตชะวันโต บูชาพระพุทธเจาอยูสม่ําเสมอ อยูทุกคืนทุก วนั จึงมีเดชมีอาํ นาจมบี ุญวาสนาบญุ ญาธิการคมุ ครองปกปองรักษา ธัมมะปูชา มะหัปปญโญ – บูชาพระธรรม ต้ังอกต้ังใจประพฤติ ปฏบิ ัตธิ รรมตามคาํ ส่ังสอนของพระองคสมเดจ็ สัมมาสมั พุทธเจา เรา จะมีสติปญ ญา เชื่อกรรมเช่ือผลของกรรม เช่อื อริยสจั จ ๔ เช่อื มรรค ๘ สิ่งดีงามก็จะเกิดข้ึน สังฆะปูชา มะหาโภคาวะโห บูชาพระอริย สงฆสาวกจะเกิดทรัพยสมบัติมากมายแกตัวเราเองดวยการทําบุ ญ ทําทานรกั ษาศลี ดวยการปฏิบัตติ ามคาํ สอนของทา น ยอนเขามาลึก ๆ อะไรเปนตัวพุทธะ มองเขามา จิตใจท่ี ปราศจากกิเลส ตัณหา ราคะ โทสะ โมหะ นี่เองเปนตัวพุทธะ ของ เราก็มีคอยเราอยูแลว ไมใชวามีแตของทานของคนอื่นมีแตของครู บาอาจารยเสียเม่ือไร จิตธาตุรู แมแตสัตวเดรัจฉานก็มีธาตุรู แตบุญ วาสนาเขาไมมี บาปกรรมเวรกรรมทําใหเขาไมสามารถจะขึ้นสู ระดับสูงได แตเรามีโอกาสไดทําบุญใสบ าตร รักษาศีล ไหวพระสวด มนต ทําสมาธิภาวนา ไดมาฟงคําสั่งคําสอน จนรูถึงขนาดน้ี สิ่งที่ดีก็ งามก็อยูในจิตในใจของเราแลว อันน้ีก็คือตัวพุทธะ ทีน้ี ทําไมส่ิงท่ีดี งามมันไมใสเทาท่ีควร ก็เพราะไมมีพระธรรม คือศีล สมาธิ ปญญา ไมสามารถจะมาลางใหมันสะอาดได เพราะราคะ โทสะ โมหะ มัน กลุมรุมปดบังอยู เราก็เอาพระธรรมคําสั่งสอนของทาน แลวศีลจะ หาจากท่ีไหน ศีลก็คือจิตใจที่บริสุทธ์ิ ไมเบียดเบียนตน ไม เบียดเบียนคนอื่น น่ันเปนตัวศีล จําไวนะ กายก็เปนศีลสวนหยาบ วาจาก็เปนสวนหยาบ ไมเบียดเบียนตน ไมเบียดเบียนคนอ่ืน แตลึก ๆ จริง ๆ คือจิตใจท่ีสงบ เย็น สะอาด บริสุทธ์ิ ไมเบียดเบียนตน ไม เบยี ดเบียนคนอื่น นัน่ เปนตวั ศีล ๗๑

มรดกธรรมศาลาพระราชศรัทธา วัดปทมุ วนารามราชวรวหิ าร ป ๒๕๖๒ เลมท่ี ๖ สมาธิคือจิตใจท่ีสงบรมเย็น มีความสุขความสบาย มี อุเบกขา จนถึงวิปสสนาญาณ เห็นอริยสัจจ ๔ อันน้ีเปนตัวธรรมท่ี จะชําระตัวธาตุรูใหสะอาดบริสุทธ์ิ ไลโมหะออกไป แลว สังฆะสุปะฏิปนโน คืออะไร ไมมีอะไรอื่น คือสิ่งท่ีดีงาม จิตนั่นเอง เปนผูปฏิบัติธรรม ธาตุรูเปนตัวหลัก เจตสิกธรรมฝายดีจะตองเปน สุปะฏิปนโนอยูเสมอ ๆ ปฏิบัติดีดวยกาย วาจา ใจ มีทาน ศีล ภาวนา อยูตรงนน้ั ถึงเปนสุปะฏปิ นโน ใครละเปน กค็ ือจติ ใจของเรา เราตอ งเอากายของเราเปนสุปะฏิปน โน อยา ใหเ ปน ทุปะฏิปน โน เอา ใจของเราเปนสปุ ะฏิปน โน อยาใหเ ปน ทปุ ะฏปิ นโน เอาใจของเราให ปฏิบัติสูงขึ้นไปตามลําดับจนสมปรารถนา ใหเปนสุปะฏิปนโนใหได ทีนี้ อุชุ - ตรงตอคําสอนของทาน อยาอยูขางฝายรักฝายชัง ให อยูตรงกลาง นึกถึงอันน้ีท่ีจะเขาใจดี และสามารถเห็นไดวาความ เปนกลางของจิตน่ีเปนอยางไร นึกถึงตอนท่ีพระเทวทัตยิงใสเปาใส พระพุทธองคตรงเปาพอดี เปะเลย โอย คนตกอกตกใจ ทําอยางไร พระสิทธัตถะจะทําอยางนั้นได เขาเขาเปาไปแลว พระสิทธัตถะจะ เขาเปาไดอยางไร พอเจาชายสิทธัตถะยิง ผาลูกศรอยูตรงกลาง อัน นี้ เวลาปฏิบตั ิธรรม ลกึ ๆ รักกไ็ มเ อา ชังก็ไมเอา อยูตรงกลาง ใหอยู ตรงกลาง แลว ในชวี ิตของเรา อนั น้พี ูดเพอ่ื เปนคตธิ รรมเตือนใจพวก เราทั้งหลายวาเราจะตองเจอกับโลกธรรม เวลาปฏิบัติธรรมสวด มนต สวดมงคลสตู รทกุ วัน เริ่มตน ดวยวา อะเสวะนา จะ พาลานัง ไมคบคนชวั่ ใหค บแตคนดี แตก ารปฏบิ ตั ิน้ัน ไมเอาโลภะ โทสะ โมหะ ไวเ ปนมติ รเปนสหาย เอาทานเอาศลี ภาวนาเปนมติ รเปน สหาย ภาคปฏิบตั ิเปน อยางน้ัน แลว เราเอาคนดีเปน เพอื่ น พอสงู ข้ึน ๗๒

มรดกธรรมศาลาพระราชศรัทธา วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร ป ๒๕๖๒ เลม ที่ ๖ ไป ขันตขิ องเรา ความอดทนจะกลายเปน ตะโปจะ เมอ่ื กอนตอนเรา ยังไมปฏิบัตธิ รรมนนั้ ราคคั คินา โมหคั คนิ า โทสัคคินา – ราคะเผา เรา โทสะเผาเรา โมหะเผาเรา ทุกขทุกวนั ทุกคืน รอนรุม ราคะเผา ทกุ ข น้าํ ตารวง แทบจะปลดชวี ิตตวั เอง ราคะเผา ทุกขยากลําบาก เพราะฉะนน้ั โยมผหู ญงิ หรอื วาผูช ายก็ตาม กเิ ลสทข่ี ายหนา ขายตา ทีส่ ดุ ที่เปน ทุกขเ ปนโทษทสี่ ุด ขายหนาผคู นแบบสดุ ๆ อยา งหนา ดาน ไมมีอะไรเกินกิเลสราคะ จาํ ไวเนอ อยาวาหลวงพอพูดแรง เพราะครูบาอาจารยท า นสอนอยางนนั้ เพราะฉะนั้น เวลาจับงู อยาไปจับหางมัน ใหจับหัว ถาจับ หางมัน หัวมันพิษมันอยูตรงน้ัน เพราะฉะน้ัน การปฏิบัติธรรม ย้ํา ลง ผูท่ีมีศีล ๘ แลว ราคะตัวนี้เปนตัวหลัก เอากายคตาสติภาวนา ทําทุกวัน ๆ ใหทํากายคตาสติอยูเสมอ ๆ จนเกิดความเบื่อหนายใน สังขารรางกายนี้เปนประจํา ตัวน้ันละ เริ่มละ เร่ิมจะออก หนี จากวัฏฏสงสาร เพราะฉะนั้น ตัวนี้เวลาปฏิบัติธรรมถือเปน หลัก คือ อยาไปจบั หาง ไปลูบ ๆ คลาํ ๆ มนั ไมได เราก็ระวังอกี เหมือนกัน ให เตือนสติไว พุทธานุสสะติ เมตตา จะ อสุภัง มะระณัสสะติ เรา เวลาปฏบิ ตั ิธรรม ใชพ ุทโธ ๆ แลวกแ็ ผเมตตา ตัวพุทโธกับเมตตาเม่ือ จติ ใจสงบรม เยน็ เมตตามาก ๆ มันมที เ่ี ขาเรียกวา side effect คอื มี ผลขา งเคยี งท่ีไมคอยดีนัก ตวั เมตตาถา ไมร ะวังจะกลายเปนความรัก ไปได สงสารเขา อยางนูนอยางน้ี สงสารไมมีใครเปนท่ีพ่ึง หาเร่ือง แลว หาเร่ืองตาย ทนี ี้จะเอาอยา งไร อสุภัง มะระณัสสะติ เอาอสุภะมาดัก พอเอาอสุภะมาดัก โอโห อยูเลย อสุภะ อสภุ ัง เนกขมั มะปฏิบัติ เพราะฉะนนั้ คําวาตรง คือวา เม่ือถึงตรงน้ี เราเผากิเลส ตะโป จะ พรหมะจริยัญจะ ๗๓

มรดกธรรมศาลาพระราชศรทั ธา วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร ป ๒๕๖๒ เลมท่ี ๖ อะริยะสัจจานะ ทัสสะนัง เห็นสัจธรรมแลว เราเผากิเลสไปเรอื่ ย ๆ ก็จะเห็นสัจธรรม ไฟราคะดับไป ไฟโมหะดับไป ไฟโทสะดับไป เห็น ทุกขเปนทุกข วางความยึดม่ันถือมั่นวาเปนเราเปนของเรา ทุกขก็ หาย เหลือแตความบริสุทธ์ิสะอาด ยังมีธรรมอันหน่ึง ผุฏฐัสสะ โลกะธัมเมหิ จิตตัง ยัสสะ นะ กัมปะติ ธรรมอันนี้สําคัญ ทุกคนที่ เกิดมาในโลกน้ีจะตองโดนโลกธรรมทั้งขึ้นทั้งลง ทั้งขาข้ึนขาลง คือ ไดล าภเสอ่ื มลาภ ไดยศเสื่อมยศ สรรเสริญนนิ ทา สุขทกุ ข เราจะทํา อยางไร ก็อยางท่ีบางคนวา ไมเห็นมีอะไร มีเงินมีทอง มีทุกส่ิงทุก อยาง มีทรัพยสมบัติ มีพ้ืนแผนดินมากมายกายกอง แตเม่ือรางกาย ตอ งแกลง ๆ เจ็บไขไ ดป ว ย อนั นั้นเปน การเสอื่ มลาภ เส่อื มแบบท่ีสุด ยศถาบรรดาศักด์ิ ที่เคยไดแตงตัวอยางโกหรูเร่ิมหายไปแลว แหวน เพชรสวย ๆ สรอยคอที่งาม ทกุ อยางทม่ี ีไมม คี วามหมาย จะไปใสก ับ คนแกไดอยางไร นอนอยูในโรงพยาบาล หายใจก็แทบไมเต็มทอง จะเอาความสุขจากทรัพยสมบัติไดอยางไร อันน้ี มองเห็นชัดเลย ความเส่อื มลาภเกดิ ขน้ึ แลว เกิดข้นึ กบั ทุกผทู กุ คน แลวเราจะทําอยางไร พระพุทธเจาทานสอนอยางนี้ ถือวา เปน โลกธรรม มันเปน ธรรมของโลก อะโสกงั วิระชงั เขมัง คอื เวลา มันเส่ือมไป เวลารางกายเส่ือม ความแกเกิดข้ึน ความเจ็บเกิดขึ้น ความตายเกิดข้ึน อยาถือวากายเปนเราเปนของเรา ก็ไมมีความโศก ความเศรา หรอื ทรัพยส มบัติมันจะหายไป บานถกู ยดึ ไป หรือใครจะ หายไป เพื่อนฝูงหลบหนาหายตาไป เขาไมมาหาเราแลว เพราะวา เราแกแลว ไมมีความหมายแลว ก็จะไมมีความเศราโศก เพราะจิต นั้นเปนของสะอาดบริสุทธ์ิ ไมยึดมั่นถือมั่น ไมเศราโศก อะโสกัง เวลากระทบกับส่ิงท่ีไมดีงาม วีระชัง - ถึงแมจะมีใครจะยินดี จะ ๗๔

มรดกธรรมศาลาพระราชศรทั ธา วดั ปทุมวนารามราชวรวิหาร ป ๒๕๖๒ เลมท่ี ๖ สรรเสริญเยินยออยางไร ก็ไมยึดไมติด ถึงรางกายยังดีอยูก็ไมยึดไม ติด เพราะวามันเปนอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา โลกธรรมมันเปนอยาง น้ัน ไดลาภแลวเส่ือมลาภ ไดยศเสื่อมยศ ไดสุขแลวก็มีทุกขคอย เปนอยู ไดสรรเสริญก็มีนินทา เพราะฉะนั้น จิตตัง ยัสสะ นะ กมั ปะติ - จติ ใจอยา หวน่ั ไหว อยางอ นแงน อะโสกัง – อยาเศราโศก วีระชัง - อยายึดอยาติด เขมัง - ใหจิตใจบริสุทธิ์ผองใสอยูเสมอ เม่ือไดอยางน้ีก็ตรงตอธรรม อันน้ีละท่ีเปน อุชุปะฏิปนโน ตรงแบบ นี้ ยิงผาเลย ความรักความชังแยกออกใหได ใหอยูตรงกลาง เขา เรียกวาเปนอเุ บกขา เวลาปฏิบัติธรรมตองมีของแกกัน คือโลกนี้ นันทิราคะ สะหะคะตา ตัตระ ตัตราภินันทินี มีความเพลิดเพลินในรูปในเสียง ในกลิ่นในรสในสัมผัส เพลิดเพลินแลวเพลิดเพลินอีกไมมีความจืด จางหางหาย เอาอยูอยางนั้น ทุกขก็คอยอยูทุกวัน สุขวันน้ี ทุกขก็ คอยอยูวันหนา อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ก็คอยอยู จะแกไดอยางไร ทา นบอกวา วเิ วกะชัมปต ิสุขัง ปะฐะมัง ฌานัง อปุ ะสมั ปช ชะ วหิ ะ ระติ ฯลฯ คือตองใหเกิดสุขที่เกิดจากวิเวก เกิดจากความสงบของ สถานท่ี เกิดจากความสงบของจิตใจของเรา วางจากโรคะ โทสะ โมหะ จิตลงลึก เปนสมาธิ ปติเกิดขึ้น มีความสบายใจ จิตเปนหนึ่ง ถามันวางกิเลสแลวมันอยูกับธรรม ถามันติดธรรมแลวมันไมอยูกับ กิเลส ถามันอยูกับกิเลสแลวมันไมอยูกับธรรม เพราะฉะน้ัน จําตรง น้ีไวใหดี เมื่อมีปติ สุข เอกัคคัตตา อุเบกขา เอกาติโย อนุตติโย จิตใจเปนหน่ึงไมเปนสองกับกิเลส ตรงนี้สบาย พอมาถึงตรงนี้ เรียกวา ญายะปะฏิปนโน ผานความรักความชังไปได ความรูทุกส่ิง ทกุ อยา งเปน ลักษณะท่ญี าณ เขาเรยี กวา ความรูขางในเกดิ ขน้ึ ทําให ๗๕

มรดกธรรมศาลาพระราชศรทั ธา วัดปทมุ วนารามราชวรวหิ าร ป ๒๕๖๒ เลม ที่ ๖ เราละกิเลสได ทําไปเรอ่ื ย ๆ ปฏิบัตไิ ปเร่อื ย ๆ เปนสามีจปิ ะฏปิ นโน – ปฏบิ ัตธิ รรมสมควรแกธ รรม สมควรอยา งไร ทุกขก็ไดกําหนดรูแลว ทุกขวารางกายนี้เกิดข้ึน มีความแก ความเจ็บ ความตายเปน ธรรมดา รา งกายเองกไ็ มร ูจักความทุกขของ ตัว เหมือนกับนํ้าในมหาสมุทรไมรูจักความเค็ม พริกไมรูจักความ เผ็ด จติ ใจของเราท่ีมายึดเอารา งกายวาเปนของเรานีต้ างหากจึงเกิด ทุกขเกิดโทษ ก็วางซะวางตรงนี้ เปนสามีจิปะฏิปนโน วางความรัก ความชงั ทม่ี ีตอรางกายน้ี แลว ก็มีสติมปี ญญาพิจารณาอยเู ร่ือย ๆ ทาํ อยูเร่อื ย ๆ อนั น้ีเปนสามีจปิ ะฏิปน โน ทุกอยา ง พุทธะ ธรรมะ สังฆะ ก็อยูในจิต พุทธะก็คือธรรมชาติท่ีผองใส ที่ยังไมผองใสเพราะราคะ โทสะ มากลุมรุมมัน เราก็หาทางเอาศีล สมาธิ ปญญา ไปลางให สะอาด ก็เทากับวาทุกขมีอยูแตไมมีความยดึ ถือ เทากับวาเราปลอ ย วางความยึดถือก็ละได ปะหีนัง - ละได ทีนี้ทางปฏิบัติใหถึงความ หมดทุกขเราก็ภาวนาใหเกิดใหมี ในท่ีสุดก็สมปรารถนาทุกส่ิงทุก อยาง ก็จิตใจของเราท่ีเปนมนุษยปุถุชนธรรมดาคอยผองใส คอย สะอาดขนึ้ ตามลาํ ดบั พทุ ธะอยใู นจติ ในใจของเรา ธรรมะอยใู นจิตใน ใจของเรา สังฆะอยใู นจติ ในใจของเรา มาถึงตรงน้ี กราบพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ ก็เทากับ กราบคุณงามความดี กราบศีล สมาธิ ปญญาของเรา โอ มีความสุข ความสบาย โอ ชีวิตน้ีมีความหมาย อันน้ีเปนคําสอนของ พระพุทธศาสนา ก็พูดมาเปนเวลานานพอสมควร ขออํานาจคุณ พระศรีรัตนตรัย คุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ จงคุมครอง ปกปองทานทั้งหลาย ขอเทพยดาเจา ท้งั หลายจงอนุโมทนา บุญกุศล ที่ทานทั้งหลายไดทําในวันน้ี ขอใหสรรพสัตวท้ังหลายจงมีความสุข ๗๖

มรดกธรรมศาลาพระราชศรทั ธา วัดปทมุ วนารามราชวรวหิ าร ป ๒๕๖๒ เลมที่ ๖ ทุกท่ัวหนา ขอใหผูท่ีไดตกทุกขจงพนจากทุกข สุขแลวก็ขอใหสุขยิ่ง ๆ ข้ึนไป ขอใหทุกทานทุกคนจงเจริญดวยอายุ วรรณะ สุขะ พละ และหากทานผูใดอยากจะไดพนทุกขก็ขอใหสมความปรารถนาทุก ทานทกุ คนเทอญ ๗๗

มรดกธรรมศาลาพระราชศรทั ธา วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร ป ๒๕๖๒ เลมท่ี ๖ พระอดุลธรรมเมธี (โสฬส วีรญาโณ) วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร กรุงเทพฯ แสดงเมอ่ื วันพฤหสั บดี ท่ี ๕ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ ณ ศาลาพระราชศรัทธา วัดปทมุ วนาราม ราชวรวิหาร ขอความเจริญในธรรมจงมีแดทานทั้งหลาย ทานอาราธนา ธรรม อาตมากต็ ้ังใจมาบรรยายธรรมเฉลมิ พระเกยี รติ ก็ไดเหน็ ความ ต้ังใจญาติโยมท้ังหลายท่ีไดมาปฏิบัติธรรม เนื่องในวันสําคัญ วันน้ี เปนวันคลายวันพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิธ ในหลวงรัชกาลท่ี ๙ อาตมาภาพมัน่ ใจวาทุกคนรจู ักพระองคดี พระมหากษัตริยผูย ังไมถึง ๒ ๐ พ ร ะ ชั น ษ า แ ต ด ว ย บุ ญ พ ร ะ บ า ร มี ที่ ยิ่ ง ใ ห ญ ไ ด เ ป น พระมหากษัตริย ในวันแรกทพี่ ระองคทรงเสดจ็ ข้ึนครองราชย ทรง ๗๘

มรดกธรรมศาลาพระราชศรทั ธา วัดปทุมวนารามราชวรวหิ าร ป ๒๕๖๒ เลมที่ ๖ เปลงพระปฐมบรมราชโองการวา “เราจะครองแผนดินโดยธรรม เพือ่ ประโยชนส ขุ แกมหาชนชาวสยาม” ทานทงั้ หลาย พระดํารสั น้ี พระองคไมใชส ักแตวาเปลงหรือ พูด แตพระองคไดน ํามาปฏิบตั ิตัง้ แตทรงตรัสออกไปแลว จนกระทั่ง พระชนมายุ ๘๙ พรรษา ๗๐ กวาปในการครองราชย หรือตั้งแต เปลงพระดํารัสน้ี พระองคทําไดตามน้ันทุกอยาง ทรงเปนพระราชา ท่ีทรงยวดย่ิงในทศพิธราชธรรม อันไดแก ทาน – การให พระองค ใหเต็มกําลังสติปญญา เต็มจิตเต็มใจในการให ใหทั้งกาย ใหท้ัง ความรู ใหท้ังพระราชทรัพย แมกระทั่งศาลาหลังนี้ที่เราทาน ท้ังหลายไดอาศัยพระบารมี อาศัยนั่ง อาศัยเปนท่ีปฏิบัติธรรมน้ี ก็ เกิดข้ึนดวยพระราชดําริ และดวยพระราชทรัพยสวนพระองค เปน ทุนอันมงคล ๑ ลานบาท ตั้งแตป ๒๕๓๓ หรือ ๒๕๓๔ ถาจําไมผิด เพราะศาลาหลังนี้เสร็จป ๒๕๓๕, ศีล – การประพฤติดีงาม มีจุด ไหนประเด็นใดที่เราจะพดู ถงึ พระองคทานวาพระองคทาํ อนั นไ้ี มดีไม ถูกตอง ไมมีเลยโยม ตั้งแตอ าตมาหัวเทากําปน อายุ ๑๐ ป พระองค เสด็จที่บานธาตุ อําเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร ยังจําได ไมไดเห็น หรอกโยม เห็นแตเฮลิคอปเตอร บินขึ้นบินลง เขาพาสาธุ เขาพายก มือไหวก็ไหวกับเขา ดีใจ คําวาพระเจาแผนดินในสมัยที่อาตมาเปน เด็กยิ่งใหญมาก แมแตอาตมาเปนเณรแลว เวลาเราดูทีวี ดูขาว พระราชสํานัก เราจะเห็นพระองคทานเสด็จไปตรงนูนตรงน้ี ระกํา ลําบาก ยิ่งทําใหเราเกิดความรักในพระเจาอยูหัวพระองคน้ันยิ่ง ๆ ขน้ึ ไป ปริจจาคะ – การเสียสละ โดยเฉพาะอยางย่ิง เสียสละ ความสุขสวนพระองค ญาติโยมทั้งหลายคงไดเห็นแลววา ในหลวง ๗๙

มรดกธรรมศาลาพระราชศรทั ธา วดั ปทมุ วนารามราชวรวิหาร ป ๒๕๖๒ เลม ท่ี ๖ รัชกาลท่ี ๙ แทบไมไดบรรทม แทบไมไดหลับไดนอน ย่ิงภาวะที่ ประเทศไทยมีเรื่องราว เชน น้ําทวม เกิดภัยพิบัติตาง ๆ พระองค ทา นจะทรงงาน หาวธิ ี ศกึ ษา สอบถาม เรียกผรู เู ขามาคุยสนทนาหา ทางออกหาทางแกไข น่ีคือ ปริจจาคะ, อาชชวะ - ความซื่อตรง พระเจาแผนดินพระองคน้ีทรงซื่อตรง, มัททวะ – ความออนโยน แทบไมเคยเห็นในหลวงรัชกาลที่ ๙ ใชพระเดช ทานท้ังหลายวา อยา งน้ันมัย้ มมี ัย้ ในหลวงจบั คนนัน้ คนนี้ ไมมีเลยโยม อาตมาไมเ คย ไดยิน มีแตเขาพลาดก็ไปปลอบเขา ใหอภัย ไมวาจะเปนอะไรก็ แลวแต ใชราชาศัพท (ไมถูกไมเปน) ก็ไมทรงถือเลย ทรงออนนอม จนพูดไดวาพระองคทรงถอมพระองคเหมือนภาพท่ีเราเห็น ยายคน หน่ึงที่จังหวัดสกลนคร เก็บดอกบัวไวต้ังแตเชา จะรับเสด็จพระ เจาอยูหัว รอจนบาย ดอกบัวมันก็เห่ียว พระองคก็ยังนอมพระองค ลงไปรับ ดวยพระพักตรที่ยิ้มแยม น่ีคือความงดงามแหงพระ เจาอยูหัวพระองคน้ี ที่เรียกวา มัททวะ – ความออนโยน, ตปะ - ความเพียร โยมเห็นม้ัย พระเจาอยูหัวพระองคนี้ทําอะไรตองสําเร็จ ไมมีทําแลววาง ตอนเปนนักกีฬาก็เปนจนไดเหรียญ เปนนักดนตรีก็ ทรงทาํ จนเกง ไมจับจด ทาํ จรงิ ๆ มีความเพียร, อกั โกธะ - ความไม โกรธ หรอื การขม ความโกรธ, อวิหิงสา – ความไมเบียดเบียน พระองคทานทั้งไมโกรธ ทั้งรูจักขมความโกรธ ทั้งไมเบียดเบียนใคร, ขันติ - มีความอดทน เปนเลศิ อดทนตอ ความยากลําบาก สังเกตดู พระองคทา นเสดจ็ บาง ที่บางแหง รถยนตพระท่ีนั่งไปตอไมได เชน ถนนขรุขระจนไม สามารถไปได หรือฝนตก บางทา นอาจจะเหน็ ในภาพในส่ือ พระองค เสด็จลงจากรถ เดินเลยโยม ดวยพระบาทเลย จนทหารตองว่ิงกัน ๘๐

มรดกธรรมศาลาพระราชศรัทธา วัดปทุมวนารามราชวรวหิ าร ป ๒๕๖๒ เลม ท่ี ๖ สนั่นหวั่นไหว ขนาดคนธรรมดาหรือขาราชการยังกลัวตัวเองจะหก ลม แตพระเจาแผนดินไมกลัว เห็นมั้ย นี่คือความงดงามของพระ เจาอยูหัว ในหลวงพระองคน้ี ผูทรงธรรมอยางแทจริง, ขอ ๑๐ อวิ โรธนะ ไมป ระพฤตผิ ิด พระองคไมเคยประพฤติผดิ เลย ขอท่ีอาตมาอยากเนนก็คือ อักโกธะ ความไมโกรธ ทาน ทั้งหลาย ในหลวงทรงขมความโกรธได ในหลายเหตุการณของ บานเมืองของเรา ซึ่งเปนส่ิงท่ีพระองคควรจะใชพระเดช พระองคก็ ไมยอมใช ใชพระโอษฐแทน ทรงแคตรัส ไมใชพระเดช นี่คือความ งดงามแหงพระเจาอยูหัว ในหลวงรัชกาลท่ี ๙ ท่ีเราทานท้ังหลาย เคารพรักเทิดทูนบูชาเหมือนพอของเราจริง ๆ ทุกทานทุกคน พระมหากษัตริยพระองคน้ี ทรงเปนพระมหากษัตริยท่ีครองราชย นานท่ีสุด อยางท่ีทานเจาคุณเชิดชัยไดกลาวไปแลว ๗๐ ปแหงการ ครองราชยเปนพระมหากษัตริยที่นานาประเทศใหการยกยอง เทิดทูน วาทําเพื่อพสกนิกรของพระองคทานอยางแทจริง พระมหากษัตริยพระองคนี้เสด็จอุบัติเพื่อประโยชนสุขแกปวง ประชาราษฎร เพื่อพสกนิกร ทรงพลิกฟนแผนดิน ตรงไหนดิน เปร้ียว ดินเค็ม ทรงทําใหเปนดินท่ีอุดมสมบูรณ ตรงไหนแหงแลง ทรงสรางฝายสรางเขื่อนสรางระบบชลประทาน ถาทานผูใดอายุ ๔๐ - ๕๐ ขึ้นไป ลองยอนดูความเปนจริง แตกอนไมมีใครคิดวา เขอ่ื นจะตอ งมี ฝายจะตอ งทําได แคคิดกม็ คี นคานแลว ตอ งผมู ีบารมี จรงิ ๆ เชนพระเจา อยหู ัวพระองคนี้ เม่ือพระองคทานช้ีแจงแสดงเหตุผลแลว คนจึงเห็นชอบ เห็นตาม และเข่ือนหลายแหงไมไดใชเงนิ ภาษีของประเทศชาติ ของ รัฐบาล แตใชราชทรัพยของพระองคทาน ซ้ือท่ีดินชาวบานสราง ๘๑

มรดกธรรมศาลาพระราชศรทั ธา วดั ปทุมวนารามราชวรวหิ าร ป ๒๕๖๒ เลมที่ ๖ เข่ือน นี่คือพระราชาพระองคนี้ ญาติโยมท้ังหลาย อีสานแหงแลง ดินบางท่ีก็ไมดี พระเจาอยูหัวพระองคนี้ทรงพลิกความแหงแลงดว ย การใหขดุ สระ สรางฝาย ปรับดนิ นค่ี ือพระปญ ญา นีค่ อื ความรคู วาม ฉลาดท่ีพระองคไดศึกษาเลาเรียนมา ทรงนํามาทําใหเกิดความสุข แกพสกนกิ รอยา งแทจริง เพราะฉะนั้น ในเมืองไทยของเราจึงมีเข่ือน มาก บางทานบานอาจจะไมไดอยูใกลเขื่อน อาจจะไมไดรับ ผลานิสงสโดยตรง แตหลายแสนหลายลานไดรับผลานิสงสโดยตรง ไรนาเมื่อมีเขื่อน ความอุดมสมบูรณก็มาเพราะมีนํ้า เพราะฉะนั้น ประเทศไทยไมเหมือน ๕๐ ปท่ีแลว ทั้งทุกข ท้ังระกําลําบาก แต กอนเขาบอกวา สุรินทร ศรีสะเกษ กินดิน ไมกินไดไง มันไมมีอะไร จะกิน เดี๋ยวนี้มีมั้ย โห โยม สุรินทรมีขาวหอมมะลิ ศรีสะเกษมี ทุเรยี นหมอนทองภเู ขาไฟ หมอนทองจนั ทบรุ ีราคา ๑๙๐ หมอนทอง ศรสี ะเกษบวกเขา ไปอกี ๕๐ บาทตอกโิ ล เห็นมยั้ ทานทง้ั หลาย สรปุ แลว เพราะพระปญญา เพราะพระองคทานจริง ๆ ทําให ประเทศชาติของเรากลับมาเจริญรุงเรือง พูดไดวาพระองคเสด็จ อุบัติเกิดขึ้นมาเพื่อสรางความสุขใหแกคนไทยอยางแทจริง และยัง ไหลไปสูคําวา “โลก” ดวย จนนานาประเทศยกยองเทิดทูนวา พระองคทานเปนพระมหากษัตริยท่ียอดเย่ียม เปนพระมหากษัตริย ท่เี ปนแบบฉบบั ของโลกได ทา นทั้งหลาย ในหลวงรัชกาลที่ ๙ พระองคน ี้ ทรงงานหนัก ไมมีวันหยุด นี่คือความเปนจริง จึงสมควรอยางยิ่งที่คนไทยจะรัก พระองค เพราะเปนอยางนั้นจริง ๆ ผูที่ดีประเสริฐเลอเลิศแบบนีห้ า ไดยาก คําวาพระองคทานทรงงานหนัก มีพระบรมสาทิสลักษณ ที่ เรียกภาพถายในหลวง เวลาอาตมาเทศนเกี่ยวกับในหลวง อาตมา ๘๒

มรดกธรรมศาลาพระราชศรทั ธา วัดปทุมวนารามราชวรวหิ าร ป ๒๕๖๒ เลม ที่ ๖ หนักใจทุกที เพราะไมเกงราชาศัพท แตก็มีความต้ังใจอยางหนึ่งวา จะพูดดวยความเทิดทูนอยางแทจริง เพราะฉะนั้นจะมีบางคราว ภาษาไมสละสลวย ไมถกู ตอง อันนต้ี องขออภัย ภาพทพี่ ระองคทาน มีแผนที่ประเทศไทย มีกลองคลองไวที่พระศอ (คอ) เพราะอะไร พระองคทานไปท่ีไหนตองเปดแผนที่ ท่ีตรงน้ีแผนท่ีบอกอยางนี้ ที่ ตรงนี้แหงแลง ท่ีตรงนี้อะไรตอมิอะไร ท่ีตรงน้ีควรจะสรา งเข่ือนเพม่ิ พระองคมีกลองฉายภาพ ทรงถายเอง นี่คือความเอาจริงเอาจังของ พระองคท า น เพราะฉะน้ัน ทุกทานทุกคน เม่ือถึงโอกาสวันสําคัญเชนนี้ ซ่ึงถือกันวาเปนวันพอแหงชาติ กอนที่เราจะไดไปพูดถึงธรรมะจริง ใน ๑ ช่ัวโมงน้ี เพ่ือเปนการถวายพระเกียรติพระองคทานอยาง แทจริง ในฐานะที่พระองคทานเปนเสมือนพอแหงเราทานท้ังหลาย พระองคทานเปนผูทรงธรรม พระองคทานชวยพสกนิกรท้ังหลาย – คําวา พสกนิกรในท่ีน้ีมีทั้งฆราวาส มีท้ังพระสงฆสามเณร พระเจา แผนดินพระองคน้ีทรงบริจาคทุนเลาเรียนหลวง ทรงอุปถัมภ อุปฏฐากพระสงฆสามเณรทุกท่ีในราชอาณาจักร ทรงไปกราบครบู า อาจารยสายกรรมฐาน แมจะอยูไกลแคไหนก็ตาม ลําบากแคไหนก็ ตาม ทรงเสด็จไป น่ีคือความเอาจริงเอาจังของพระราชาท่ีพวกเรา ทั้งหลายควรจะเอาเปนเย่ียงอยางอยางยิ่ง ไมเสียใจเลยที่ไดเกิดใน เมืองไทย และไดทันในสมัยพระองคทาน ทานท้ังหลาย พระองค ทรงทศพิธราชธรรม และธรรมะท่ีพระองคทรงประพฤติปฏิบัตินั้น จะออกมาแสดงใหเห็นในพระบรมราโชวาทในโอกาสตา ง ๆ อาตมา ภาพกข็ อยกมา ๔ ขอ ๘๓

มรดกธรรมศาลาพระราชศรทั ธา วดั ปทมุ วนารามราชวรวิหาร ป ๒๕๖๒ เลมท่ี ๖ ขอท่ี ๑ “...การที่จะประกอบกิจใด ๆ ใหเจริญเปนผลดี น้ัน ยอมตองอาศัยความอุตสาหะพากเพียร และความซ่ือสัตย สจุ ริต เปนรากฐานสาํ คัญ ประกอบกบั จะตองเปนผูมีจิตใจเมตตา กรุณาไมเบียดเบียนผูอื่น และพรอมท่ีจะบําเพ็ญประโยชนใหเกิด แกสวนรวมตามโอกาสอีกดวย...” – พระบรมราโชวาทของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธเิ บศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในพิธีพระราชทานปรญิ ญาบัตรแกนสิ ติ จุฬาลงกรณ มหาวิทยาลัย วันพฤหัสบดีที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๔๙๙ นี่คือพระบรม ราโชวาทขอที่ ๑ นะโยม อาตมาไมอธิบาย ที่จริงพระองคทานเนน ใหเรามีความเพียรพยายาม ใหตั้งอยูในความซื่อสัตย ใหเรามีจิตใจ เมตตากรุณา ไมเบียดเบียน ใหเราบําเพ็ญประโยชนใหเกิดแก สว นรวม เห็นมยั้ พระองคทําแลว พระองคย งั มาแสดงใหพวกเราฟง วา เราควรวางตัวอยางไร พระบรมราโชวาทขอที่ ๒ “...ในบานเมืองน้ัน มีท้ังคนดี และคนไมด ี ไมมใี ครจะทาํ ใหคนทกุ คนเปน คนดีไดท ัง้ หมด การ ทําใหบานเมืองมีความปรกติสุขเรียบรอยจึงมิใชการทําใหทุกคน เปนคนดี หากแตอยูท่ีการสงเสริมคนดี ใหคนดีไดปกครอง บานเมือง และควบคุมคนไมดีไมใหมีอํานาจ ไมใหกอความ เดือดรอนวุนวายได...” – พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในพิธีเปดงานประชุมลูกเสือแหงชาติคร้ังท่ี ๖ ณ คายวชิราวุธ อาํ เภอศรรี าชา จังหวัดชลบรุ ี ๑๑ ธันวาคม ๒๕๑๒ พระองคบ อกวา ไมมีใครสามารถทําใหใครเปนคนดีไดทุกคน การจะทําใหบานเมือง เปนปกติสุข จึงไมใชทําใหเปนคนดีไดทุกคน หากแตอยูที่การ ๘๔

มรดกธรรมศาลาพระราชศรทั ธา วัดปทมุ วนารามราชวรวิหาร ป ๒๕๖๒ เลมที่ ๖ สง เสรมิ ใหคนดีไดปกครองบานเมอื ง อนั น้เี ปนพระบรมราโชวาทนะ โยม เราไมสามารถทําใหทุกคนเปนคนดีไดท้ังหมด ตามที่พระองค ทานวา แตเ ราสามารถ ดู พจิ ารณา มองใหเหน็ ใหซ ้งึ เขา ไปไดวา ใคร คือคนดี อยาลําเอียง ตองมองใหเห็นจริง ๆ วาใครคือคนดี ขณะเดียวกัน ระวังนะโยม เพราะถาเรารูไมจริง เห็นไมจริง คนดีที่ เราวาดีน้ัน อาจจะไมดีจริง เทากับวาเราเอามีดไปเพ่ิมใหเขา ก็จะ เปน โทษเปน ภัย พระบรมราโชวาทที่อาตมายกมาขอท่ี ๓ “..ความสามัคคี และความถือตัววาเปนไทยท่ีเปนเหตุชักนําทานทั้งหลายใหมา ประชุมกันไดโดยพรอมเพรียงกันนี้ เปนสมบัติมีคาสูงสุด เพราะ เปนมรดกท่ีเราไดรับสืบตอมาจากบรรพบุรุษ และเปนปจจัย สําคัญท่ีทําใหเรารวมกันอยูได ใหเราดํารงชาติประเทศและเอก ราชสืบมาได ทุกคนจะตองรักษาความเปนไทยและความสามัคคี นี้ไวใหมั่นคงในทุกท่ีทุกแหง...” พระองคทรงเนนใหเรารักกัน ป ไหนท่ีพวกเรากําลังจะฆากัน พระองคจะเสด็จออกมาและตรัสวา ให เรารกั และสามัคคีกัน พระองคจะตรสั ใหหัวหนาที่กําลงั จะฆากันเขา มา พระองคจะอธิบายช้ีแจง และสุดทายก็จะจบลง น่ีคือพระบารมี ธรรมอยางแทจริง เพราะฉะน้ัน เราทานท้ังหลาย ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงทําและสอนใหเ ราสามคั คกี ัน พระบรมราโชวาทขอ ที่ ๔ “ความกตัญูกตเวที คอื สภาพ จิตท่ีรับรูความดี และยินดีท่ีจะกระทําความดีโดยศรัทธามั่นใจ คนมีกตัญูจะไมลบลางทําลายความดี และไมลบหลูผูที่ไดทํา ความดีมากอน หากเพียรพยายามรักษาความดีท้ังปวงไวใหเปน พื้นฐานในความประพฤติปฏิบัติทุกอยางของตนเอง เม่ือเต็มใจ ๘๕

มรดกธรรมศาลาพระราชศรัทธา วัดปทมุ วนารามราชวรวิหาร ป ๒๕๖๒ เลมท่ี ๖ และจงใจกระทําทุกส่ิงทุกอยางดวยความดีดังนี้ ก็ยอมมีแตความ เจริญมั่นคงและรุงเรืองกาวหนายิ่ง ๆ ข้ึน จึงอาจกลาวไดวา ความกตัญูกตเวทีเปนคุณสมบัติอันสําคัญย่ิงสําหรับนักพัฒนา และผูปรารถนาความเจริญกาวหนาทุกคน” พูดงาย ๆ โยมดู พระองคทรงแสดงออกตอสมเด็จยา เราไมไดเห็นภาพที่พระองค แสดงตอสมเด็จพระบรมราชชนกเพราะพระองคทานเสด็จทิวงคต ไปแลว แตสมเด็จยายังอยูกับพระองคทาน เพราะฉะน้ัน ในหลวง พระองคน้ีจะแสดงออกดวยความเคารพเทิดทูนบูชา ดวยความ กตัญู ขณะเดียวกนั พระองคแ สดงมาถงึ เราทานท้งั หลาย เราเกิดบนแผน ดินไทย น่ีคือแผนดินเกิด เม่ือคร้ังที่ในหลวง รัชกาลท่ี ๕ สงพระโอรสในพระองคทานไปเรียนตางประเทศ พระองคใหล ูกหลานแสดงตนเปนพุทธมามกะกอน และทรงยา้ํ วาให ไปเรียนใหรเู ทาทันฝรั่ง ไมไดใ หเอาใจไปเปนฝรัง่ ไมใหเ อาความเปน ฝรง่ั มาคมุ ครองคนไทย เอา จริง ๆ โยม โยมไปดเู ลย ร.๕ ทรงมงุ หวัง อยางน้ัน คนไทยไมท้ิงพอแม ไมขาดความกตัญู ไมขามหัวผูมี พระคุณ น่ีคือสันดานของคนไทย น่ีคือความเปนไทย เพราะฉะนั้น ทานท้ังหลายทุกทานทุกคน ไปเรียนใหรูเทาทันความพัฒนาการ ความเจริญทางวิทยาศาสตร ความสมัยใหมที่เรายังไมเปน แตวา ไมใชเอาใจเปนฝร่ัง พระองคทานไมไดมุงหวังอยา งน้นั เพราะฉะนั้น อาตมาพูดไปน้ี พูดเปนกลาง ไมไดแอบฝายไหน พูดจริง ๆ เคยไป อยูสหรัฐ ๒ ป เห็น ทําไมจะไมเห็น ไมไดตําหนิเขา แตมันก็เปน อยางน้ันจริง ๆ พอพอแมแก เอาพอแมไปท้ิงที่บานเลี้ยงคนแก คน ไทยเราไมทํา พอแมจะดีไมดีแคไหน ตอนเด็ก ๆ มา พอแมไมได เลี้ยงผมเลย แตตอนน้ีผมมีการมีงานทํา คนไทยยังเลี้ยงพอแม น่ีคือ ๘๖

มรดกธรรมศาลาพระราชศรทั ธา วดั ปทุมวนารามราชวรวิหาร ป ๒๕๖๒ เลมท่ี ๖ สังคมไทย เขาสอนมาอยางนี้ ตองกตัญู กตัญูตอพอแม ผูมี พระคุณ กตัญูตอประเทศ เพราะฉะน้ัน ใครไมรูคุณคาของ ประเทศตัวเอง คนนั้นมีแตจะอับปาง ถาเปนเรือก็คือ มันกําลังรั่ว แลว มันราว มันจะรั่ว เพราะใจไรค ุณธรรม ไมร ูอะไรดี ไมด ี พระเจาแผนดินในราชวงศจักรี หรือพระเจาแผนดินของ ไทยทุก ๆ พระองค ไมวาต้ังแตพระองคตนมาจนกระท่ังพระองค ปจจุบัน รักษาชาติไทยของเรา แลกดวยเลือดเน้ือชีวิต จนพวกเรา ไดอยูสุขสบายในปจจุบัน พระองคทานทรงมุงหวังความผาสุกแก พสกนิกรชาวไทยทั้งหลาย เพราะฉะนั้น วันน้ี วันที่ ๕ ธันวาคม เปนวันสําคัญท่ีเก่ียวกับพระมหากษัตริยของไทยพระองคหนึ่งใน ราชวงศจักรี ที่เปนผูเลิศผูยิ่ง นามแหงพระองคทานก็คือ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภมู ิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิธ ซ่ึงเปนพระราชบิดาของพระบาทสมเด็จในหลวง รัชกาลที่ ๑๐ องคปจจุบัน บัดนี้ พระองคทานไดเสด็จสวรรคตไป แลว สูสวรรคาลัย วันน้ี เราทานท้ังหลาย ไดถือโอกาสวันคลายวัน พระราชสมภพแหงพระองคมาทําความดีดวยการประพฤติปฏิบัติ ธรรม โดยตั้งใจมายังวัดปทุมฯ อาศัยสวนปา ศาลาพระราชศรัทธา แหงน้ีในการพากเพยี ร บําเพญ็ ภาวนา พระองคทานบอกวา คนบาน นอกลําบากกาย แตสุขใจ คนในกรุงเทพฯ สุขกายแตทุกขใจ ทรง อยากใหม ศี าลาอันเปนทป่ี ฏบิ ตั ธิ รรม ปฏบิ ตั ิจติ ปฏิบตั กิ รรมฐาน จึง ทรงพระราชทานพระราชทรัพยสวนพระองคเปนเบื้องตนในการ ดําเนินการสรา งศาลาพระราชศรัทธาแหง นี้ เราทานทั้งหลาย พระองคทานเสด็จสูสวรรคาลัย เหลือไว แตความดีงามท้ังหลายท้ังปวง ทรงเปนพระราชาผูท รงธรรม เราทุก ๘๗

มรดกธรรมศาลาพระราชศรัทธา วัดปทมุ วนารามราชวรวิหาร ป ๒๕๖๒ เลม ท่ี ๖ ทานทุกคน ผูเปนพสกนิกร ยงั ระลึกถงึ ในพระมหากรณุ าธิคณุ ดงั นน้ั ในวันน้ี เปนโอกาสดีย่ิงท่ีเราจะไดตั้งใจประพฤติปฏิบัติ ในการ ปฏิบัตินี้ ธรรมะท้ังหลายทั้งปวงในองคสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจา เปนสิ่งท่ีเราทานทั้งหลายควรนอมนําเขามาในจิตในใจ พระองค ทานผูเปนแบบอยาง ๘๙ พรรษา ๘๙ ป ทรงอยูอยางมีคุณคา ทรง ทําประโยชน โดยเฉพาะอยางย่ิง ประโยชนเพ่ือคนอ่ืน ญาติโยม ท้ังหลาย ขอใหเราทุกทานทุกคน ไดนอมพระราโชวาททั้งหลายทั้ง ปวงท่ีพระองคตรัสเอาไว แลวก็นอมนํามาใสอันเดียวกันกับธรรมะ ขององคสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจาท่ีสอนพวกเราท้ังหลาย จงอยู อยางมีคุณคา อยูอยางไรอยูอยางมีคุณคา พระเจาแผนดินของไทย เราแตละพระองคทรงอยูดวยการทําคุณประโยชนแ กพสกนิกร ทรง ให ทรงชวย สวนของเรานี้ แมเราไมสามารถใหหรือชวยเหลือได มากมายเหมือนพระองคทาน สิ่งท่ีเราจะทําไดดีท่ีสุดก็คือเราทําตัว เราเองใหเปนพสกนิกรท่ีดี ไมใหพระองคทานหนักพระทัย ไมเปน คนหนักแผนดิน แผนดินของพระองคทาน เราอาศัยพระองคทาน เพราะฉะนั้น ทุกทานทุกคน ตรวจสอบเราเองวา เราไดทําตวั ใหเปน คนเบามั้ย เบาในทน่ี ี้คอื เบาจากสิง่ ชัว่ ราย ความไมด ที งั้ หลาย เบาจิต เบาใจ อยา งที่ทานทัง้ หลายกาํ ลงั ทาํ อยนู ้ี ผูปฏิบัติธรรมในทางพระพุทธศาสนากับปุถุชนคนหนาดว ย กิเลสยอมแตกตางกัน ดั่งคําท่ีทานกลาววา ย่ิงหนักยิ่งนําเขา ย่ิงเบา ย่ิงนําออก ผูปฏิบัติธรรมตองนําออก นําออกในท่ีนี้ หากมีทรัพย สมบตั ิ ก็นําออกเผอื่ แผ เปนทาน เปน จาคะ เปน การให การเสียสละ หากเปนส่ิงไมดีไมงามก็สละออก นําออก เชน ในการรักษาศีล ๕ จะตองมีการสละออกคือ ขอ ๑ การไมฆา การไมรังแก ตรงกันขาม ๘๘

มรดกธรรมศาลาพระราชศรัทธา วดั ปทมุ วนารามราชวรวหิ าร ป ๒๕๖๒ เลมที่ ๖ ใหมีเมตตา, ขอ ๒ การไมลัก ไมขโมย ตรงกันขาม ใหมีทาน ใหมี จาคะ ใหมีการให การบริจาค การเสียสละ, ขอ ๓ กาเม ไมผิดสามี ภรรยา ลูกเมียคนอ่ืน ตรงกันขาม ใหมีสันโดษ ยินดีในสามี ภรรยา ของตนเองเทานน้ั , ขอ ๔ ไมพ ดู เทจ็ ไมพ ดู คําหยาบ ไมพูดเพอเจอไร สาระ ไมพูดสอเสียด ตรงขามใหเปนผูมีสัจจะ, ขอ ๕ ไมดื่มสุรา เมรัย สิ่งเสพติด ของมึนเมา ตรงขามใหมีสติ เอาเปนวา นอกจาก ขอหามแลว ตองเอาธรรมมาเปนขอ ประกอบดวย อยางที่เราทานทั้งหลาย เราสละบานเรือน มาอยูวัด เปน การยกจิตยกใจของเราออกมาจากสภาวะสถานะท่ีเราคุนเราชอบ หดั ออกมาประพฤตปิ ฏิบตั ิ เมือ่ มาอยางนี้แลว เราจะเกิดความรูดวย ตนเอง เราจะมีประสบการณชีวิตดวยตัวเราเอง หลายทานอาจจะ รูสึกวา เออ โยมมาปฏิบัติหลายครัง้ แลว ไปปฏิบัติกับครูบาอาจารย โยมก็อยากมีจิตเปนสมาธิ โยมก็อยากปฏิบัติ ไดเห็นผลในทาง ปฏิบัติ ทานท้ังหลาย ครูบาอาจารย พระกรรมฐานท่ีทานปฏิบัติ จนถึงฝง จนเปนพระผูถึงฝงคือผูสิ้นกิเลสแลว ทานสอนเราทาน ทั้งหลายวา ใหเราทานท้ังหลายพากเพียร ในความเพียรไมตองไป อยาก แตใหทําใหมาก ชาวนาก็ทํานาน่ันแหละ ทําใหมาก ขยันทํา ทําเสร็จแลว ถึงฤดูกาลใหมก็ทําอีก ฉันใด การประพฤติปฏิบัติ กรรมฐาน หรือการปฏิบัติธรรม ก็อยางน้ันเหมือนกัน นั่งใหมาก เดินใหมาก เพราะการนั่ง การเดิน สิ่งเหลานี้คือการปฏิบัติธรรม แลว ทําไมไมเ ปนสกั ที ครูบาอาจารยทานก็บอกวา ธรรมะแหงพระพุทธเจาจะ บังเกิดข้ึนตอเมื่อถึงเวลา มันตองทําจริง ๆ จัง ๆ เอาใหมันถึง เชน ถาเราไปปฏิบัติธรรมตามวัดปาวัดดง เรากลัว เราก็จะเดินกลับ ๘๙

มรดกธรรมศาลาพระราชศรทั ธา วดั ปทมุ วนารามราชวรวิหาร ป ๒๕๖๒ เลม ท่ี ๖ กุฏิ เพราะฉะน้ัน จิตยังไมเกิดความรูความฉลาดเลย เพราะวามัน กลัว มันก็บอกวามันกลัว แตถาหากวา มันกลัว แตโยมตองทนอยู อยูจนกระท่ังรูวา เหงื่อที่ออกมาเพราะความกลัวน่ี สติที่มันกลัวยิ่ง มันเปนอยางไร สติมันไปไหน มันจะมีอะไรผุดโผลข้ึนมา นั่ง จนกระทั่งมันเจ็บ เจ็บจนตายแลวนะ พระอาจารย แตถามวามัน ตายจริง ๆ ม้ัย โยมทนตอมา เหมือนวาจะเลิกแลวนะ แตพระ อาจารยใ หทนตอ ๆ กดั ฟนทนเอา สุดทาย โยมบอกวา อีก ๑ นาที ๒ นาทีตายแน แตก็ไมเห็นตาย โยมก็น่ังเอาไดตั้งอีก ๑๐ นาที ๒๐ นาที บวกเขามาอีก บางคนก็นั่งไดเปนชั่วโมง ๒ ช่ัวโมง ทําไมมันไม ตาย แตถาไมมีใคร มันบอกวามันจะตายอยางเดียว เพราะจิตดวงน้ี เมื่อไมถึงภาวะคับขัน ไมถึงเวลาจริง ๆ จัง ๆ สติปญญามันไมโผล ขึ้นมาหรอก ครูบาอาจารยบางองค งูกลืนเขาไปทั้งตัวแลว งูมันตัว ใหญมาก กลืนขาเขาไปแลว ทานก็นอนภาวนาเฉย “เอา ถาจะเปน เจากรรมนายเวรกันก็ใหเขากินไปเลย ชางปะไร” พอมันกลืนข้ึนมา มันรอน อาว มันรอนเพราะวาบุญกุศลของครูบาอาจารยองคน้ัน “แตถาไมใชเจากรรมนายเวร ไมเคยทํากรรมเวรตอกันก็ขอจง เปนสุขเปนสุขเถิด อยาไดมีเวรตอกันและกันเลย” แตถาทานเคย กินเขามากอน ทานก็ยินดีใหเขากินเลย เอาเลย สุดทายมันก็ขยอน กลบั คายออกมาเอง เห็นมย้ั มีลูกศิษยของหลวงปูม่ันองคหนึ่ง วันหนึ่งทานก็จับเสน หลวงปมู ่นั หลวงปูท า นก็เทศน ทานพดู เลย วา “ไป ไปถํ้าโนน ไปให เสือกินซะ กลัวเสือนัก ไปใหเสือกิน” ต่ืนเชามาทานก็ตั้งทาเลย เอา หลวงปูทานวาอยางน้ี ใชบ หลวงปูทานจะใหลูกศิษยของทานไปให เสือกินมันเปนไปไมได ทานก็แตงองคทรงเคร่ืองแตงชุดเต็มตัวไป ๙๐

มรดกธรรมศาลาพระราชศรทั ธา วัดปทมุ วนารามราชวรวหิ าร ป ๒๕๖๒ เลม ท่ี ๖ กราบหลวงปมู ัน่ “อา ว จะไปไหนละ” “จะไปใหเ สือกินเหมือนอยาง ท่ีพอแมครูบาอาจารยวา” “หืม ผมไดกลาววาจะใหทานไปเปน อาหารเสืออยางนั้นจริงหรือ” เปนความชาญฉลาดของหลวงปูมั่น ทานรูวาองคไหนจะไดธรรมอยางไร ทานจะหาวิธีการ เหมือนบางที่ บางแหง ครบู าอาจารยบ างรูปบางองคท านรูแมกระทง่ั จริตนสิ ัยของ ลกู ศษิ ยของทาน นี่ ครบู าองคน ี้ ไปภาวนาทีโ่ นน เดอ ทา นบอกที่เลย นะ ไปภาวนาท่ีนูน องคน้ีตองไปท่ีกุฏินั่น ทานรูแมกระทั่งวากุฏิ ไหนถึงจะเปนสัปปายะ จึงจะถูกจริตกับคนที่กําลังภาวนา เพราะฉะน้ัน เราทานท้ังหลายทุกทานทุกคน เรายังไมมีบุญวาสนา ไดเจอครบู าอาจารยด ีอยางนัน้ ตอนนเี้ รากพ็ ยายามพฒั นาความเปน คนดขี องเราดว ยการปฏิบัตภิ าวนา ส่ิงหน่ึงที่ครูบาอาจารยสอนเหมือนกันหมดก็คือ ทําให ยวดยิ่ง อาตมาเอาตามที่เคยไดมีบุญวาสนาไดไปอยูกับครูบา อาจารยองคนั้นองคนี้บาง องคไหนก็สอนแบบน้ีแหละโยม “อยา กลัวตายเดอ ทานมหา อยากลัวตาย” เมื่อวานนี้ ไปกราบหลวง พอถ้ําสหาย ทานก็ยังเมตตา “ฮ่ือ มันบตายดอก มันบตาย มันบ ตายดอก บต องไปยน่ั มนั ” ทา นก็รบั รองวามันไมตายหรอก ไอท ่มี ัน ตาย เขาเขียนไวแลว ท่ีจะตายนะ เขาเขียนไวแลววาจะตายตอน ไหน สวนตอนนี้มันยังไมใชตอนท่ีจะตาย ไมตองไปกลัวมันเลย แต พวกเราเนี่ย พอเค่ียวเขาหนอย โอย ตายแนนอน ตายแน ตาย ตอนน้ีแหละ เขาไมไดเขียนวาโยมจะตายตอนนี้ แลวโยมจะตายได ยงั ไง เห็นมย้ั เอา ลองดสู ิ เห็นม้ัย ครูบาอาจารยท่ีทา นเอาจริงเอาจัง ทําจนสลบนะ ทานก็ฟนเหมือนเดิม เขาก็ไมเอาไปเพราะมันไมใช เขาไมไ ดใ หตายตอนนี้ สว นท่ีเขาบอกวา จะตอ งตายตอนนี้ น่งั อยเู ฉย ๙๑

มรดกธรรมศาลาพระราชศรทั ธา วดั ปทมุ วนารามราชวรวิหาร ป ๒๕๖๒ เลมท่ี ๖ ก็ตาย โยม อาปากเทศนโฮก ๆ อยูน่ีก็ตาย อาปากพูดก็ตายเลย แหละ เพราะเขาเขียนไวแลววา ตอ งตายตอนนี้ เพราะฉะน้ัน ทานท้ังหลาย พอหลวงของเรา ทรงอุบัติมา เพื่อสรางพระบารมี องคทานไมไดสรางบารมีแคเทาที่เราเห็นนะ ทรงปฏิบัติธรรมดวย ทรงธรรมดวย บารมีของพวกเราอาจจะทํา ไมไดแมเพียง ๑ ใน ๑๐๐ ของพระองคทาน แตในการปฏิบัติธรรม เราสามารถทําได เพราะเปนปจจัตตังของแตละผูแตละคน พระพุทธเจา ทรงตรสั วา การบชู าดว ยดอกไมธ ูปเทียน ของหอม ขาว ของ เปนอามิสบูชา มีอานิสงสนอย แตบูชาดวยการปฏิบัติธรรมมี อานิสงสมาก ใครก็ตามท่ีปฏิบัติตนดวยการมาถือศีล มาปฏิบัติ ภาวนา การภาวนาคือนั่ง เอาสติความรูตัวทั้งหมดมาอยูกับลม หายใจ หรือเปนการเดินก็ได แลวเอาความรูตัวทั้งหมดมาอยูกับ ลมหายใจ นี่คือการภาวนาในเบื้องตน เอาความรูตัว รูสึกตัว ทง้ั หมดมาอยกู ับลมหายใจ เมื่อวานไปกราบหลวงพอที่ถ้ําสหาย มีโยมคนหน่ึงเขามา คยุ วา ท่ีเมืองจีนมีการสอนการหายใจ หายใจอยา งไรจงึ จะรักษาโรค เขามีต้ัง ๖๑ วิธี ทานก็น่ังฟง แลวก็ย้ิม โยมก็ไมเลิกพูดสักที สุดทาย หลวงพอก็บอกวา โอย คนเราตายไมตายเขาเขียนไวแลว จะตาย ตอนไหนเขาเขียนไวแลว แลวไอท่ีวาหายไมหายนี่ จริง ๆ ไมมีอะไร เลิศเทาการภาวนาในทางพระพุทธเจาหรอก ภาวนาสิ กําหนดลม หายใจ เอาไปไวท่ีน่ี ตรงน้ี ทานก็จับใหดู เอาความรูสึกไปไวที่นี่ น่ี ปลายจมูกน่ี เวลามันเปนแลวมันองอาจกลาหาญ มันไมกลัวอะไร เดินในปา ทานก็ยกตัวอยางองคทาน ไปเชียงใหมก็ไปองคเดียว ไม กลัวหรอก สมัยกอน เสือ ชาง มีแตสัตวรายท้ังนั้น อยาวาแตผีเลย ๙๒

มรดกธรรมศาลาพระราชศรัทธา วดั ปทมุ วนารามราชวรวหิ าร ป ๒๕๖๒ เลม ท่ี ๖ ไมเคยกลัว ไมสะทกสะทาน นี่ นค่ี อื ภาวนาของพระพุทธเจา จริงอยู อาตมาก็ไมไดประมาทหรอกนะ วามันมีศาสตรน้นั แตมันมีสิ่งที่เลิศ กวาน้ัน ก็คือท่ีครูบาอาจารยสอนใหเราทํา ก็คือการภาวนาในทาง พระพุทธศาสนาน่ี ถาโยมทําได อยาวาแตรักษาโรคนั้นโรคนี้ มัน รักษาแมแตโรคท่ีเหลือวิสัยของเรา โรคกฎแหงกรรม เพราะฉะน้ัน หมอจะเกงแคไหนก็ตามก็รักษาโรคไดตามเนื้อผา ตามทางที่มี แต ภาวนารักษาโรคกฎแหงกรรมได ขอใหทานทั้งหลายทําเถอะ ครูบา อาจารยทานมองเห็นแลววา ผลจากการปฏิบัติธรรมนี้เปนกุศลที่ ยวดยิ่ง เพราะผูประพฤติปฏิบัติธรรมเปนแลวยอมมีท่ีพ่ึงอัน ประเสริฐของตนเอง ทานอยากใหเราทานท้ังหลายไดที่พึ่งอัน ประเสรฐิ หลวงพอวัดถํ้าสหายทานเมตตาสอน อาตมาไปกับโยม ๒ ทาน ทานบอกวา โอย คนฉลาด ทรัพยสินเงินทองที่มี เอามาฝาก พระพุทธเจา เอามาฝง ลงในพระพุทธศาสนา สรา งกุฏิ สรางศาลา ท่ี พักใหพ ระเจา พระสงฆท านไดพัก สรางถวายพระพุทธเจา นีเ่ ปนบุญ ยงิ่ ใหญ ไมเสีย ไมม ีคําวาท้ิง ไมมีคําวา เสีย ทานบอก แตคนไมฉลาด หามาแลวไมไดทําอยางนั้น น่ันคือคนไมฉลาด เขาไมไดเห็นวา อีก สักหนอ ยส่งิ เหลา น้ีก็หมดความหมายกบั เราแลว หมายถงึ วา วนั ไหน ท่ีเราหมดลมหายใจ โยมจะมีมากมีนอยแคไหนก็ตามมันก็หมด คุณคากับโยมทันที แตถาโยมไปฝากพระพุทธเจา ฝงลงไปในพระ รัตนตรัย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ ไมวาจะบริจาคเปนอิฐ หินปูนทรายก็ตาม ไมวาจะสรางนูนสรางนี่ ถวายครูบาอาจารยทาง พุทธศาสนาก็ตาม อันน้ีแหละคือความเลิศอยูตรงน้ี เราไมเห็น โยม แตครูบาอาจารยท่ีมีหูทิพยตาทิพยทานเห็น เพราะฉะน้ัน ทุกทาน ๙๓

มรดกธรรมศาลาพระราชศรัทธา วดั ปทุมวนารามราชวรวิหาร ป ๒๕๖๒ เลมที่ ๖ ทกุ คน เมื่อเรามีโอกาสแลว ไมต องกลวั หรอกโยม กลัวก็ตาย ไมก ลัว ก็ตาย แตคนไมกลัวจะมีโอกาสดีกวาคนท่ีกลัว เพราะความไมกลัว จะทําใหเราไดทําในสิ่งท่ีองอาจ อยางเราจะนั่ง เราก็น่ังไดจริง ๆ จงั ๆ หลวงพอ ทานบอกวา “โอย น่ังเลก็ ๆ นอย ๆ กบ็ อกวา ปวด ขาปวดหลัง แลวก็เปล่ียน แลวมันจะเปนสมาธิตอนไหน นูน เขานั่ง ๓ วัน ๓ คืน” ทา นไมไ ดบ อกวา น่ัง ๓ ชว่ั โมงนะโยม ทา นบอกวาเขา นั่ง ๓ วัน ๓ คืน เห็นมั้ย ทานท้ังหลาย เรามุงหวังวาเม่ือไรจิตเราจะ รวมเปนสมาธิ มันจะรวมไดไง พอเรานั่งหนอยก็ไมไหว ก็เปล่ียนปุบ พอเปลี่ยนอิริยาบถ จิตมันก็ไมเกิดปญญาที่แทจ รงิ ก็เปลี่ยนแลว ตั้ง ตนใหมแลว จิตมันก็สะบ้ัน เห็นมั้ย เห็นจิตมันสะบ้ันม้ัย มันเหมือน ใจจะขาด เหมือนคนจะตายนะ น่ันแหละ อันนี้คือเวทนามันกําลังสู กับใจดวงน้ี ถาไมไหว หลวงปูคําคะนิง อดขาว ๑๐ วัน แลวก็น่ัง สมาธิ ไมไหวก็คือสลบ ก็คือตาย แตตายปลอม เพราะยังไมถึง กําหนด ก็ไดไปเท่ียวนรก ไดไปเห็นนายนิรยบาล พญามัจจุราช สุดทายเขาก็มาสง เพราะฉะน้ัน ย่ิงไดกําลังใจ คนเราไมมีอะไรตาย ท่ีตายก็จิตออกจากรางแลวก็ไปเห็นของแทของจริง ของที่อยูในอีก มิติ ๆ หนึ่ง นั่นละโยม ถึงจะไดกําลังใจ โยมเห็นตนเองแลว ออจิต เปน อยา งนี้นี่เอง เราทานท้ังหลายไมไ ดเหน็ ตนเอง เพราะไมเ คยทาํ จรงิ ๆ จงั ๆ จนเหน็ สิง่ เหลาน้นั อาตมาพูดบอย ๆ เลย สมยั ไดเขาไปเก่ียวของ กับวัดบานตาดบางช่ัวระยะเวลาหนึ่ง หลวงตามหาบัวทานชอบ เทศน เวทนาก็มีหลายระดับ เวทนาธรรมดาก็ ๑ ช่ัวโมง เวทนา ระดับปานกลางก็ ๓ ช่ัวโมง หกช่ัวโมงน่ีทานยังถือเปนเวทนาใหญ ๙๔

มรดกธรรมศาลาพระราชศรทั ธา วัดปทุมวนารามราชวรวหิ าร ป ๒๕๖๒ เลมท่ี ๖ แตย ังไมใชโ คตรเวทนานะ ยงั ตอ งอดทนมากกวา นัน้ อกี ทา นวาอยา ง นั้น ทั้งน้ันท้ังนี้ก็แลวแตคน บางคนอดทนไดแค ๓ ชั่วโมง จิตมันก็ รวม บางคนไมถ ึง ๓ ชว่ั โมงรวม มีม้ยั อาตมาไมเคยไดยนิ แตเคยได ยินคือนั่งติดตอกัน ๓ ช่ัวโมงแลวจิตมันรวม มี บางทานนั่งติดตอกัน ทน ที่วาติดตอกัน ไมใชวาเปนสมาธิตลอดนะ ก็เจ็บนี่แหละ ก็หา วิธีการ เจ็บจะตาย มันจะตายก็ตายเลย มันก็ไมตาย พอไมตายก็ เปลี่ยนไปทีละขั้น ๆ เพมิ่ ไปทลี ะ ๒๐ นาที ๓๐ นาที พอสดุ ทาย มัน พอดี คือความอดทนมันมากกวาเวทนา เวทนามันแพอยางจริง ๆ จัง ๆ จิตมันก็รวมเปนสมาธิ ตัวนี้ตางหาก เพราะฉะนั้น ทาน ท้ังหลาย มรรคมีองค ๘ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ คือเพียรชอบ ความ พยายามชอบ ความพยายามชอบในท่ีน้ีคือตองมีความพยายาม เพียรจริง ๆ จัง ๆ เพราะฉะนั้น ก็อยางวา ครูบาอาจารยก็มีหลาย สาย สายนูนสายนี่ ก็ไมวากันละ แตสําหรับอาตมาแลว อาตมาก็.. สาธุ ขออนุญาต อยาวาแอบอางเลยนะ ก็ยังเชื่อในสายองคหลวงปู เสารหลวงปูมั่น หรืออาจจะเปนคนมีสันดานหยาบ จริตนิสัยไม ละเอยี ด เพราะฉะนนั้ ตอ งประเภทแบบนี้ กอนท่ีจะลากลับหลวงพอทานไดเมตตา “อดเขาแหน จั่ง ภาวนาดี” (ผอนหรืองดอาหารบาง จะทาํ ใหภาวนาไดดี) ทาํ อยางไร รูม้ัย ตอนแรกฉันนอย ๆ แลวก็ไปนั่ง แตนั่งอยูไดไมเทาไร อดขาว เลย ฉนั นอ ยภาวนาดี แตจะใหภ าวนาไดด ีกวา นนั้ ตอ งอดขาวเลย อด ขาวอยาไปกิน แลวภาวนาเลย เห็นม้ัยโยม ยิ่งถาเปนสายหลวงปู เสารหลวงปูมั่นดวยนะ อดขาวอดนอน เลือกเอาเลย แลวแตจริต นิสยั ตองดู พระพทุ ธเจาถึงสอนวิธฝี กมา มีคนฝกมาคนหนึง่ ไปกราบ ๙๕

มรดกธรรมศาลาพระราชศรัทธา วดั ปทุมวนารามราชวรวหิ าร ป ๒๕๖๒ เลมที่ ๖ ทูลพระพุทธเจาวา สอนลูกศิษย ศาสนิกชนของทานอยางไร พระพุทธเจาทรงถามกลับวาแลวเธอฝกมาอยางไร (เขาก็ทูลวา) ตัว ท่ี ๑ มันฝกงาย ก็ใหมันกินน้ํากินหญา ตัวท่ี ๒ ฝกยากหนอยก็ให มันกินนอยลงมา ตัวที่ ๓ ฝกยากมากใหมันอดอาหารเลย ตัวที่ ๔ ฝกไมไดเลย ปทปรมะ อันนี้ฆาท้ิง เอาเน้ือมันไปกิน พระพุทธเจาก็ ตรัสวา เปนเชนน้ันเหมือนกัน บุคคลประเภทท่ี ๑ ที่สอนงาย พระองคกใ็ หรับประทานตามสะดวก เขารตู วั เขาเอง บุคคลประเภท ท่ี ๒ จะสอนวาใหฉันนอย เหมือนครูบาอาจารยที่ชาญฉลาด ทาน จะบอกเลย “ฉันนอย ๆ นะ อยาฉันหลาย แลวต้ังใจไปภาวนา” สวนประเภทท่ี ๓ “อดอาหารเด อดอาหาร” คือทานเกง ทานรูทั้ง ภูมิจิตภูมิธรรม ทานรูทั้งวาคนนี้นะตองอดอาหาร ถายังฉันอยู ภาวนาไมขึ้นหรอก ทานรูทานจะบอก สวนประเภทท่ี ๔ น่ีทานไม คยุ ดวยเลย เสยี เวลาทา นเปลา ๆ ก็คือฆา ทิ้ง เอาเน้อื ไปขาย ไปแจก เขา ดังน้ัน ทกุ ทา นทกุ คน เวลามคี ณุ คา สําหรบั เราทานท้ังหลาย วันนี้ ๕ ธันวา วันพอ เราท้ังหลายมีพอ พอหลวงของเรา ใน ขณะเดียวกันเราก็มีพอจริง ๆ มีพอมีแมจริง ๆ ธาตุ ๔ นะโม นะ - ธาตุนํ้า โม - ธาตุดิน นะ - ธาตุของแม โม - ธาตุของพอ ไดแก ธาตุ ๔ รางกายน้ี เวียนกลับมาเปน มะโน แปลวาใจ อันน้ีเราเอาจริง ๆ เปนผูบัญชาการ โยมใชหน้ีพอแมแลวหรือยัง ใชหนี้เงินเดือนยังไม พอ ใชหนี้แกวแหวนเงนิ ทอง ที่อยเู ส้อื ผาอาภรณย ังไมพอ ตองใชหนี้ ดวยบุญกุศล อยางท่ีทานกําลังทําอยูน่ี เอาบุญกุศลบูชาใชหนี้บุญ คุณทาน บูชาใชหน้ีโรงแรมชั้นหนึ่งวีไอพี กินแทน ถายแทน ทุก อยา ง เพราะฉะนนั้ ขอใหเ ราทุกทานทุกคนตงั้ ใจทาํ ส่งิ น้ีเพราะชีวิตนี้ ๙๖


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook