วทิ ยาศาสตร์หน้ารู้
wwwww หนงั สอื วิทยาศาสตร์น่ารู้เลม่ นีเ้ป็นสว่ นหนงึ่ ของวิชาการสร้าง หนงั สือสาหรับการศกึ ษา
คานา หน้า สารบญั 1 อณุ ภมู ิ 2 การแพร่ การนาความร้ อน 3 การพาความร้ อน 14 30 41
เร่ืองอณุ ภมู ิ เราสามารถทจ่ี ะวดั ระดบั ของความรอ้ นของสง่ิ ตา่ ง ๆ ทอี่ ยู่ รอบตวั เราได ้ คา่ ของความรอ้ นทเ่ี ราวดั ไดน้ แ้ี หละทเ่ี รยี กวา่ อณุ หภมู ิ การทเ่ี ราตอ้ งวดั อณุ หภมู ขิ องวตั ถสุ ง่ิ ของตา่ ง ๆ โดย ผา่ นความรอ้ นกเ็ พราะวา่ ความรอ้ นเป็ นตวั กาหนดทที่ าใหเ้ กดิ การ สน่ั สะเทอื นภายในวตั ถนุ ัน้ ๆ เครอื่ งมอื ทใี่ ชใ้ นการวดั อณุ หภมู ิ เรยี กวา่ เทอรม์ อมเิ ตอร์ เทอรม์ อมเิ ตอรม์ ลี กั ษณะเป็ นหลอดแกว้ ภายในมขี องเหลวประเภทปรอทบรรจอุ ยู่ บนหลอดแกว้ นัน้ จะ แบง่ ออกเป็ นชอ่ ง ๆ เพอื่ ทจี่ ะแทนคา่ ของอณุ หภมู หิ ากปรอทใน หลอดแกว้ เพม่ิ ขน้ึ 1 ชอ่ ง นั่นหมายความวา่ อณุ หภมู เิ พม่ิ ขน้ึ 1 องศาแลว้ หน่วยวดั คา่ ของอณุ หภมู ทิ น่ี ยิ มกนั มากมี 2 หน่วยคอื หน่วยทเี่ ป็ นองศาฟาเรนไฮท์ หน่วยนจี้ ะมจี ดุ เยอื ก แขง็ ของน้าทอี่ ณุ หภมู ิ 32 องศา และมจี ดุ เดอื ดทอี่ ณุ หภมู ิ 212 องศา อกี หน่วยหนงึ่ คอื เซนตเิ กรด หรอื เซลเซยี ส หน่วยนมี้ จี ดุ เยอื กแขง็ ทอี่ ณุ หภมู ิ 0 องศา และมจี ดุ เดอื ดทอี่ ณุ หภมู ทิ ี่ 100 องศา โดยปกตแิ ลว้ รา่ งกายของเราหากมคี วามสมบรู ณเ์ ป็ นปกติ จะมอี ณุ หภมู ิ 37 องศาเซลเซยี สหรอื 98 4 องศาฟาเรนไฮท์ หากตา่ หรอื สงู กวา่ นม้ี ากแสดงวา่ รา่ งกายผดิ ปกตแิ ลว้ ขอ้ มลู จาก ปัญหา 108 วทิ ยาศาสตร์
เรื่องการแพร่ การแพรข่ องสาร (Diffusion) หมายถงึ การ เคลือ่ นที่หรือการกระจายของโมเลกลุ ของสาร จากบริเวณท่มี ีความเข้มข้นของสารมาก (มี จานวนโมเลกุลของสารมาก) ไปยังบรเิ วณท่ีมี ความเขม้ ขน้ ของสารนอ้ ย (มจี านวนโมเลกลุ ของสารน้อย) โดยอาจผา่ นเย่ือเลอื กผ่าน หรอื ไม่ผ่านเยอื่ เลือกผา่ นกไ็ ด้
การนาความร้ อน การนาความร้อนเป็ นการถ่ายโอนความร้อนเกิดข้ึนจากโมเลกลุ ของสารในตาแหน่งที่สมั ผสั กบั ความร้อนมีพลงั งานเพม่ิ ข้ึน ทาให้ โมเลกลุ สน่ั และส่งผลกระทบไปยงั โมเลกลุ อื่นท่ีอยขู่ า้ งเคียงเป็น การถ่ายโอนพลงั งานความร้อนจากโมเลกลุ หน่ึงไปยงั อีกโมเลกลุ หน่ึงต่อเนื่องกนั ไป การถ่ายโอนพลงั งานความร้อนแบบน้ีไม่มี การเคลื่อนที่ของโมเลกุล เป็นการถ่ายโอนจากโมเลกลุ หน่ึงไปสู่ โมเลกลุ ต่อ ๆ กนั ไป สารแต่ละชนิดมีความสามารถในการนาความร้อนได้ ต่างกนั เราเรียกวา่ สภาพนาความร้อน สารที่นาความร้อนได้ ดี เรียกวา่ ตวั นาความร้อน เช่น โลหะ ของแขง็ สามารถนาความ ร้อนไดด้ ีกวา่ ของเหลวและของเหลวนาความร้อนไดด้ ีกวา่ แก๊ส ส่วนสุญญากาศไม่สามารถนาความร้อนไดเ้ ลย สารท่ีนา ความร้อนไดไ้ ม่ดีเรียกวา่ ฉนวนความ ร้อน เช่น แกว้ ไม้ พลาสติก ยาง อากาศ เป็นตน้
การพาความร้ อน การพาความร้อน (องั กฤษ: heat convection) เป็นการถ่ายเทความร้อนที่เกิดข้ึนไดใ้ นสสารสองสถานะกค็ ือ ของเหลวและก๊าซ เน่ืองจากเป็นส่ิงที่สามารถเคลื่อนที่ไดโ้ ดย จะมีทิศทางลอยข้ึนเท่าน้นั เม่ือสสารไดร้ ับความร้อนจะมีการ ขยายตวั ทาใหค้ วามหนาแน่นต่าลง และสสารที่มีอุณหภมู ิต่า กวา่ (ความหนาแน่นสูงกวา่ ) กจ็ ะลงมาแทนท่ี ปรากฏการณน้ี มีตวั อยา่ งคือ การเกิดลมบก ลมทะเล, การไหลเวียนของ สภาพอากาศและกระแสน้า และการไหลเวยี นของแมนเทิลใต้ เปลือกโลก เป็นตน้ มีการประยกุ ตก์ ารพาความร้อนเพ่ือใชง้ าน เช่น การพา ความร้อนเรยล์ ีห์–แบนาร์ ซ่ึงเป็นการพาความร้อน.ท่ีเกิดจาก ความแตกต่างของความหนาแน่น, ปรากฏการณ์สแตก็ ซ่ึง เป็นการพาความร้อนที่เกิดจากการไหลเวยี นของอากาศใน ปล่องไฟ และเตาอบอาหารที่ใชพ้ ดั ลมในการกระจายความ ร้อน ความเยน็ เป็นตน้
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: