กรมเจา้ ทา่ วชิ าการจดั การทนุ มนุษย!์
กรมเจา้ ท่า วสิ ยั ทศั น์ พฒั นาระบบขนสง่ ทางนา้ อยา่ งเชอ่ื มโยง มมี าตรฐาน เพอื่ ใหเ้ กดิ ความ สะดวก ปลอดภยั และเพม่ิ ศกั ยภาพการแขง่ ขนั ของประเทศ พนั ธกจิ กากบั ดแู ล การสง่ เสรมิ การพฒั นาระบบการขนสง่ ทางนา้ และการ พาณิชยนาวใี หม้ กี ารเชอื่ มตอ่ กบั ระบบการขนสง่ อน่ื ๆ ทง้ั การขนสง่ ผูโ้ ดยสารและ สนิ คา้ ทา่ เรอื อเู่ รอื กองเรอื ไทย และกจิ การเกยี่ วเน่ือง เพอ่ื ใหป้ ระชาชนไดร้ บั ความ สะดวก รวดเรว็ ทว่ั ถงึ และปลอดภยั ตลอดจนการสนับสนุนการสง่ ออกใหม้ คี วาม เขม้ แข็ง โดยมอี านาจหนา้ ท่ี ดงั นี้
1. ดาเนินการตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการ 4.ดาเนินการจดั ระเบยี บการขนสง่ ทางน้าและ เดนิ เรอื ในน่านนา้ ไทย กฎหมายวา่ ดว้ ยเรอื ไทย กจิ การพาณิชยนาวี กฎหมายวา่ ดว้ ยการป้ องกนั เรอื โดนกนั กฎหมายวา่ ดว้ ยการส่งเสรมิ การพาณิชยนาวี 5.รว่ มมอื และประสานงานกบั องคก์ ารและ กฎหมายวา่ ดว้ ยการขนส่งตอ่ เนื่องหลาย หน่วยงานทเี่ กยี่ วขอ้ งทงั้ ในประเทศและ รปู แบบ และกฎหมายอนื่ ทเี่ กยี่ วขอ้ ง ตา่ งประเทศในดา้ นการขนสง่ ทางนา้ การ พาณิชยนาวแี ละในส่วนทเี่ กยี่ วกบั อนุสญั ญา 2.ศกึ ษาและวเิ คราะหเ์ พอื่ พฒั นาโครงสรา้ ง และความตกลงระหวา่ งประเทศ พนื้ ฐานการขนส่งทางนา้ 6.ปฏบิ ตั กิ ารอนื่ ใดตามทกี่ ฎหมายกาหนดให้ 3.ส่งเสรมิ และพฒั นาเครอื ขา่ ยระบบการขนส่ง เป็ นอานาจหนา้ ทขี่ องกรมหรอื ตามทรี่ ฐั มนตรี ทางนา้ และการพาณิชยนาวี หรอื คณะรฐั มนตรมี อบหมาย
คา่ นิยมองคก์ ร M Morality คณุ ธรรม A Accountability การตรวจสอบได ้ R Responsibility ความรบั ผดิ ชอบ I Innovation นวตั กรรม N Networking การสรา้ งเครอื ขา่ ย E Effectiveness มงุ่ ผลสมั ฤทธิ ์ 04
วฒั นธรรมองคก์ ร เจา้ ท่ามคี วามมุ่งมน่ั รว่ มแรงรว่ มใจ ใฝ่ เรยี นรู ้ อยูค่ ูค่ ณุ ธรรม —กรมเจา้ ท่า
โครงสรา้ งองคก์ ร
เป้ าหมายของกรมเจา้ ทา่ เป้ าหมาย คอื การรา่ งหนงั สอื ขนึ้ มากอ่ นใหส้ อดคลอ้ งกบั 1.มโี ครงสรา้ งพนื้ ฐานและบรกิ ารดา้ นการ คมนาคมขนสง่ ทางน้าทม่ี คี ณุ ภาพและ แผนงานกรมเจา้ ท่า เป็ นไปตามมาตรฐาน 2.ระบบการขนสง่ ทางน้ามมี าตรฐานและมี การกากบั ดูแลใหม้ คี วามปลอดภยั และ มน่ั คง 3.ระบบขนสง่ ทางน้าและพาณิชยนาวมี ี ประสทิ ธภิ าพ 4.มรี ะบบทสี่ นบั สนุนใหม้ กี ารบรหิ าร นโยบายและยุทธศาสตรไ์ ปสู่การปฏบิ ตั ิ
เป้ าหมายการใหบ้ รกิ ารกรมเจา้ ทา่ 1.พฒั นาและบารุงรกั ษาโครงสรา้ งพนื้ ฐานและบรกิ าร มคี วามสะดวกและ ปลอดภยั 2.กากบั ดูแล และใหบ้ รกิ ารเพอ่ื ใหเ้ กดิ ความสะดวก และปลอดภยั 3.ผลติ และพฒั นาบคุ ลากร เพอื่ รองรบั กจิ การพาณิชยนาวี 4.กากบั ดูแลการขนสง่ ทางน้าเพอ่ื สนบั สนุนการจดั การปัญหาแรงงานตา่ ง ดา้ ว 5.มกี ลไกทส่ี ง่ เสรมิ และสนบั สนุนใหย้ ทุ ธศาสตรข์ บั เคลอ่ื นได้ —กรมเจา้ ทา่
นโยบายกรมเจา้ ทา่ นโยบายการปฏบิ ตั งิ านมุ่งเน้นการพฒั นาระบบการขนส่งทางน้าและการพาณิชย นาวใี หม้ กี ารเชอ่ื มตอ่ กบั ระบบการขนสง่ อน่ื ๆ ทงั้ การขนสง่ ผูโ้ ดยสารและสนิ คา้ ท่าเรอื อูเ่ รอื กองเรอื ไทยและกจิ การเกยี่ วเน่ือง เพอื่ ใหป้ ระชาชนไดร้ บั ความสะดวก รวดเรว็ ทว่ั ถงึ และปลอดภยั ตลอดจนสนบั สนุนภาคการส่งออกใหม้ คี วามเขม้ แขง็ รวมถงึ การ ชว่ ยรกั ษาสภาพทางชลศาสตรท์ ช่ี ว่ ยบรรเทาปัญหาอทุ กภยั และภยั แลง้ ไดอ้ กี ทางหนึ่ง และนโยบายทส่ี าคญั ทต่ี อ้ งดาเนินการผลกั ดนั และขบั เคลอ่ื นใหส้ ามารถสาเรจ็ ไดต้ าม วตั ถุประสงค ์โดยคานึงถงึ ประชาชนหรอื ผูร้ บั บรกิ าร รวมทงั้ ผูม้ สี ว่ นได-้ ส่วนเสยี เป็ น หลกั ทงั้ มติ ดิ า้ นประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธผิ ลขององคก์ ร —กรมเจา้ ท่า
ปัญหาและขอ้ บกพรอ่ งทคี่ วรไดร้ บั การ แกไ้ ขดา้ น Recruitment&selection ที่ องคก์ รประสบปัญหา
ปัญหาและขอ้ บกพรอ่ งในองคก์ รกรมเจา้ ท่าทคี่ วรไดร้ บั การแกไ้ ขที่ องคก์ รประสบปัญหา 1. ปัญหาดา้ นบคุ ลากร 2. ปัญหาบคุ ลากรขาดความรูค้ วามสามารถในการทางานรว่ มกบั เทคโนโลยี 3. ปัญหาการจดั การทรพั ยากรมนุษยใ์ นยุคราชการ 4. ปัญหาในเรอ่ื งขาดแคลนและสูญเสยี บคุ ลากรทม่ี คี ณุ ภาพ 5. ปัญหาระบบการคดั เลอื กขาดประสทิ ธภิ าพ 6. ระบบมปี ัญหาเกยี่ วกบั การจดั เกบ็ ไฟลข์ อ้ มูลประวตั พิ นกั งานทไ่ี มเ่ ป็ นระเบยี บ
1. ปัญหาดา้ นบคุ ลากร เชน่ การลาออก การเกษยี ณอายรุ าชการ การโอนยา้ ย ทาใหข้ าด บคุ ลากรทมี่ ี ความรทู ้ กั ษะประสบการณใ์ นการทางานส่งผลใหเ้ กดิ ความล่าชา้ ในกระบวนการทางาน บางอย่าง และเมอื่ รบั บรรจบุ คุ ลากรใหม่กต็ อ้ งเรยี นรใู ้ หม่ ทาใหเ้ กดิ ขอ้ ผดิ พลาดในการทางาน แนวทางการแกไ้ ขปัญหา คอื อาจจะมกี ารสบั เปลยี่ นหมุนเวยี นงานของบคุ ลากรในหน่วยงาน เพอ่ื เพมิ่ ความสามารถ ทกั ษะ ของบคุ ลากรใหส้ ามารถทางานไดใ้ นกล่มุ อน่ื ๆ นอกเหนือจากกล่มุ ทตี่ วั เองอยู่ และ การ ฝึ กอบรมใหค้ วามรแู ้ กบ่ คุ ลากรดว้ ยการทาการจดั การความรู ้ ใหบ้ คุ ลากรเกดิ ทกั ษะในการทางาน มคี วามเป็ นไป ตามแนวคดิ การพฒั นาทรพั ยากรมนุษย ์ สง่ิ ทน่ี ัก HR ควรทาก็คอื 1. การฝึ กอบรมใหค้ วามรแู ้ กบ่ คุ ลากรภายในองคก์ รเพอื่ ใหบ้ คุ ลากรในหน่วยงานราชการเกดิ ทกั ษะใหม่ใน ดา้ นการทางาน 2. เมอื่ มกี ารรบั บคุ ลากรใหม่เขา้ มานักทรพั ยากรมนุษยค์ วรมกี ารวางแผนโดยอาจจะใหผ้ ูท้ มี่ ปี ระสบการณ์ ไดม้ าสอนงานหรอื แนะนาโดยตรงเพอ่ื ใหเ้ กดิ ขอ้ ผดิ พลาดในการทางานนอ้ ยลง เพอ่ื ทบี่ คุ ลากรทเ่ี ขา้ มา ใหม่จะไดเ้ รยี นรงู ้ านอยา่ งถกู ตอ้ งและทาใหง้ านไม่เกดิ ความล่าชา้
2. ปัญหาบคุ ลากรขาดความรูค้ วามสามารถในการทางานรว่ มกบั เทคโนโลยี ซงึ่ ในการทางาน ยงั ขาดนวตั กรรมใหม่ๆ เทคโนโลยที เี่ ออื้ กบั การทางานตอ้ งมกี ารทางานแบบ Digital Workplace เพอ่ื เป็ น การเชอื่ มโยงขอ้ มลู ทกุ อย่างใหร้ วดเรว็ มากขนึ้ สาหรบั ปัญหาและอปุ สรรคในการดาเนินงาน ไดแ้ ก่ 1. การขาดความรว่ มมอื จากบคุ ลากร เนื่องจากในหน่วยงานราชการคอ่ นขา้ งทจี่ ะมบี คุ ลากรทค่ี อ่ นขา้ งมี อายชุ นิ กบั การทางานในรปู แบบเดมิ ๆ 2. บคุ ลากรขาดความรคู ้ วามเขา้ ใจและไม่เปิ ดรบั ในเรอื่ งเทคโนโลยี 3. ระบบราชการมกั จะเนน้ ระเบยี บของราชการเป็ นหลกั ทย่ี งั คงยดึ ระเบยี บเดมิ และไม่มกี ารแกไ้ ข หรอื ปรบั เปลย่ี นใหม่
แนวทางการแกไ้ ขปัญหา คอื นกั HR จะตอ้ งสง่ เสรมิ ใหบ้ คุ ลากรมกี ารทางานผ่านระบบ Digital เปลยี่ นแปลง Mindset ในเรอื่ งของนวตั กรรมทสี่ าคญั ทใ่ี ชใ้ นยคุ ปัจจบุ นั 1. นักทรพั ยากรมนุษยค์ วรส่งเสรมิ ใหบ้ คุ ลากรตระหนกั ถงึ ความสาคญั ในเรอ่ื งของการใชเ้ ทคโนโลยโี ดยเรมิ่ จากการทางานของฝ่ ายทรพั ยากรบคุ คลจากทป่ี กตมิ กั ใชเ้ อกสารและตอ้ งรอการเซน็ อนุมตั ใิ นรายการต่างๆ กเ็ ปลยี่ นเป็ นการทางานผ่านระบบคอมพวิ เตอรท์ ส่ี ามารถส่งเอกสารใหผ้ ูบ้ รหิ ารหรอื ฝ่ ายต่างๆเซน็ อนุมตั ิ ผ่านทางออนไลน์ ทาใหเ้ ห็นวา่ ระบบเทคโนโลยนี ้ันรวดเรว็ และมปี ระโยชน์ 2. นักทรพั ยากรมนุษยค์ วรส่งเสรมิ ใหบ้ คุ ลากรเขา้ ใจและใหค้ วามสาคญั กบั เทคโนโลยตี ง้ั แต่ขนั้ ตอนการรบั สมคั รเขา้ มาทางานโดยอาจจะเป็ นการฉายผ่านทวี ใี นองคก์ ร การชแี้ จงตง้ั แต่การคดั เลอื กเขา้ มาทางาน ภายในองคก์ รใหบ้ คุ ลากรไดซ้ มึ ซบั และเขา้ ใจจนเกดิ ความคดิ ทเ่ี ปลย่ี นแปลงไปทลี ะเล็กนอ้ ย
3. ปัญหาการจดั การทรพั ยากรมนุษยใ์ นยุคราชการ ปัจบุ นั มปี ัญหาดา้ นการทางานรว่ มกนั อยา่ งเชน่ คนทอี่ าวโุ สกวา่ คอ่ นขา้ งทจ่ี ะมใี นส่วนตาแหน่งหรอื กฎระเบยี บทเ่ี ครง่ ครดั บคุ ลากรรุน่ ใหม่ทม่ี ี อายนุ อ้ ยกว่าไม่กลา้ ทจ่ี ะพดู คยุ หรอื ปรกึ ษาตา่ งทางานในหนา้ ทใี่ ครหนา้ ทม่ี นั โดยไม่มกี ารพูดคยุ หรอื สอน งานกนั แนวทางการแกไ้ ขปัญหา 1. นักทรพั ยากรมนุษยค์ วรมกี ารจดั กจิ กรรมเล็กๆเปิ ดโอกาสและใหค้ วามสาคญั กบั คนรุ่นใหม่อย่างGen Y ซง่ึ เป็ นกลมุ่ คนส่วนใหญใ่ นองคก์ รทมี่ คี วามรคู ้ วามสามารถในการใชง้ านเทคโนโลยใี นการปฏบิ ตั งิ าน 2. องคก์ รควรมกี ารจงู ใจใหบ้ คุ ลากรรนุ่ ใหม่มคี วามรกั ความผกู พนั ในองคก์ ร เพอ่ื ลดปัญหาในการลาออก 3. ควรมแี นวทางสง่ เสรมิ ใหค้ นรนุ่ ใหม่ทางานรว่ มกนั กบั คนทอ่ี าวโุ สกว่าอย่าง Gen X และ Baby Boomers เพอ่ื ทจ่ี ะไดแ้ นวความคดิ ใหม่ๆและการเรยี นรงู ้ านจากผทู้ อี่ าวโุ สกว่าและคนรนุ่ ใหม่สามารถ เสนอความคดิ เห็นทางดา้ นการใชเ้ ทคโนโลยเี พอื่ ใหเ้ หมาะสมกบั การทางานในปัจจบุ นั ใหผ้ ูท้ อี่ าวโุ สกวา่ เกดิ ความตระหนกั และเขา้ ใจมากยง่ิ ขนึ้
4.ปัญหาในเรอ่ื งขาดแคลนและสูญเสยี บุคลากรทม่ี คี ณุ ภาพ เป็ นปัญหาทฝี่ ่ าย ทรพั ยากรบคุ คลจะตอ้ งเจอ กค็ อื องคก์ รแตล่ ะองคก์ รมอี ตั ราการลาออกและยา้ ยงานทสี่ งู มาก โดยเฉพาะกลมุ่ คนรนุ่ ใหม่ทมี่ วี ฒั นธรรมในการใชช้ วี ติ และมที ศั นคตใิ นการทางานที่ เปลยี่ นไปตามยคุ ตามสมยั ทาใหอ้ งคก์ รหน่วยงานราชการสูญเสยี บุคลากรรนุ่ ใหม่ทมี่ ี คณุ ภาพไป
แนวทางการแกไ้ ขปัญหา 1. นักทรพั ยากรมนุษยค์ วรคดั เลอื กคนทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพตงั้ แต่การสรรหาและคดั เลอื กทเ่ี ป็ นด่านแรกและ ส่งเสรมิ ใหบ้ คุ ลากรทม่ี คี วามสามารถและมศี กั ยภาพไดม้ กี ารพฒั นาทกั ษะไปอกี ขนั้ อย่างเชน่ จดั คอร ์ สอบรมตา่ งๆ เกย่ี วกบั การทางานในหน่วยงานราชการ 2. การเปิ ดโอกาสใหค้ นรนุ่ ใหม่ไดแ้ สดงศกั ยภาพเพอื่ ใหค้ นรนุ่ ใหม่เกดิ ความรสู ้ กึ ดที ไ่ี ดอ้ ย่ใู นองคก์ ร เพราะองคก์ รมคี วามเปิ ดกวา้ งและฟังความเห็นทาใหร้ สู ้ กึ อยากอย่ใู นองคก์ รไปนานๆ 3. การดแู ลสวสั ดกิ ารใหด้ ที สี่ ดุ การรกั ษาบคุ ลากรคนหน่ึงคนในหน่วยงานราชการนั้นอาจชว่ ยลด ปัญหาในการลาออกจากงานของคนอกี หลายคนในองคก์ รไดเ้ ชน่ กนั 4. นกั ทรพั ยากรมนุษยค์ วรมกี ารจดั กจิ กรรมเล็กๆทท่ี ารว่ มกนั ทาใหบ้ คุ ลากรรุน่ ใหม่รสู ้ กึ ถงึ บรรยากาศ ในการทางานทเี่ ป็ นกนั เองและทาใหร้ สู ้ กึ อยากทางานรว่ มกบั เพอ่ื นรว่ มงานมากยง่ิ ขนึ้ 5. นักทรพั ยากรมนุษยม์ กี ารจดั Workshop เป็ นการอบรมเล็กๆทมี่ กี ารแลกเปลยี่ นความคดิ เพอ่ื ใหม้ ี ความเห็นไปในทศิ ทางเดยี วกนั ทาใหร้ ว่ มงานกนั แบบไม่มแี บง่ แยกทาใหค้ นรนุ่ ใหม่รสู ้ กึ ไม่อยาก ลาออกเพราะมเี พอ่ื นรว่ มงานทด่ี แี ละผอู้ าวโุ สสามารถเขา้ ถงึ ไดง้ ่าย
5.ปัญหาระบบการคดั เลอื กขาดประสทิ ธภิ าพ เพราะการคดั สรรทไี่ ม่มคี ณุ ภาพนั้นอาจ เรมิ่ ตง้ั แต่การออกแบบใบสมคั รทบี่ กพรอ่ ง,การประกาศรบั สมคั รงานทไี่ ม่ชดั เจน,การระบุ ขอ้ มูลไม่ครบ, คดั เลอื กผสู ้ มคั รเบอื้ งตน้ จากใบสมคั รหรอื เรซเู ม่ไม่เป็ น,ไมม่ เี กณฑก์ าร คดั เลอื กทชี่ ดั เจน,พนักงานสมั ภาษณไ์ ม่มปี ระสทิ ธภิ าพพอจะคดั เลอื กบุคลกร,ตลอดจน หวั หนา้ ฝ่ ายตา่ งๆ ทตี่ อ้ งการพนักงานนั้นคดั เลอื กพนักงานทมี่ ศี กั ยภาพไม่เป็ น
แนวทางการแกไ้ ขปัญหา 1. องคก์ รควรคดั เลอื กโดยฝ่ ายนักทรพั ยากรมนุษยท์ ที่ างานเป็ นในหลายๆดา้ น ไม่ใชค่ ดั เลอื ก ทรพั ยากรมนุษยใ์ นมาตรฐานของการทางานการดแู ลเอกสารหรอื ประสานงานเท่าน้นั เพราะ ฝ่ ายทรพั ยากรมนุษยจ์ รงิ ๆ แลว้ ทางานหลากหลายรปู แบบ โดยเฉพาะกบั เรอื่ งของการสอื่ สาร และดูแลพนักงาน 2. นักทรพั ยากรมนุษยค์ วรมที กั ษะการสอื่ สารทดี่ เี ป็ นสาคญั เพราะฝ่ ายทรพั ยากรมนุษยท์ มี่ ี ประสทิ ธภิ าพยอ่ มคดั เลอื กพนกั งานทมี่ ศี กั ยภาพเขา้ มาทางานกบั บรษิ ทั ได ้ 3. องคก์ รไม่ควรมอี านาจการตดั สนิ ใจกบั ฝ่ ายใดฝ่ ายหนึ่ง ควรมกี ารปรกึ ษากนั ขอ้ ดกี ็คอื การมี ความคดิ เห็นจากหลายๆ ฝ่ าย หลายๆ มุมมอง ทง้ั จากเรอื่ งจติ วทิ ยาบุคคล และเรอื่ งการทางาน จรงิ เพอื่ คดั เลอื กคนทเี่ หมาะสมทสี่ ดุ และเพอื่ ป้ องกนั การคดั เลอื กทที่ ุจรติ องิ เสน้ สาย หรอื แมแ้ ตร่ บั สนิ บน น่ันอาจทาใหอ้ งคก์ รไม่ไดค้ นมคี ณุ ภาพเขา้ มารว่ มทางานไดเ้ หมอื นกนั
6.ระบบมปี ัญหาเกย่ี วกบั การจดั เกบ็ ไฟลข์ อ้ มูลประวตั พิ นกั งานทไี่ มเ่ ป็ นระเบยี บ ระบบมปี ัญหาเกยี่ วกบั การจดั เกบ็ ไฟลข์ อ้ มูลประวตั พิ นักงานทไี่ ม่เป็ นระเบยี บและคนสว่ นมากไม่ เขา้ ใจในเรอื่ งการใชเ้ ทคโนโลยี ปัญหาหลกั ๆไดแ้ ก่ 1. เกดิ ปัญหาไฟฟ้ าขดั ขอ้ ง ไฟดบั เกดิ การบนั ทกึ ไม่ทนั ขอ้ มูลทบี่ นั ทกึ ขอ้ มูลไม่มใี นระบบ 2. บุคลากรปรบั ตวั ไม่ทนั กบั เทคโนโลยดี จิ ทิ ลั ทเี่ กดิ ขนึ้ ในปัจจบุ นั โอกาส 1. ดา้ นเทคโนโลยรี ฐั บาลใหค้ วามสาคญั กบั การนาเทคโนโลยดี จิ ทิ ลั เขา้ มาใชใ้ นปัจจบุ นั เพอื่ รองรบั เศรษฐกจิ ดจิ ทิ ลั อปุ สรรค 1. ระบบฐานขอ้ มูลขาดการบูรณาการ ทงั้ ระบบ ใชต้ ดั สนิ ใจเชงิ นโยบายไม่ได ้ 2. การปรบั ตวั ไม่ทนั กบั เทคโนโลยี
การแกป้ ัญหาดา้ นแผนพฒั นาบคุ ลากร -1อ.บกรามรอ6บเดรอืมนบุคพลฒั ากนราใกหามร่ ปฏบิ ตั งิ านทมี่ สี มรรถนะทงั้ ความรู ้ ทกั ษะ ทศั นคตสิ ามารถปฏบิ ตั หิ นา้ ทไ่ี ดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 2.เรยี นรผู ้ า่ นระบบออนไลน์ online 1. เพอื่ ใหเ้ จา้ หนา้ ทเ่ี พม่ิ ทกั ษะการสอ่ื สารต่อองคก์ รทงั้ ภายในและภายนอก เพอื่ ลดปญั หาการตดิ ตอ่ งานและปฏบิ ตั งิ าน เป็ นไปอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 2ทา.งาเนพขม่ิ อทงกั ผษเู ้ ขะดา้ าร้ บนั กภาารษอาบอรงั มกฯฤใษหใดน้ ยีกงิ่าขรทนึ้ างาน ทงั้ ในดา้ นการเขยี น การอ่าน การสนทนา เพอื่ เพม่ิ ประสทิ ธภิ าพในการ อ3ง.คก์ เพรเอื่พใอื่หใผ้หเู ้อ้ขงา้ครก์บั รกเการดิ อนบวรตั มกฯรมรคี มวอายม่ารงู ต้ คอ่ วเานมื่อเขง า้ปใรจะยรุกวมตเใ์หช็นใ้ คหวเ้ หามมาสะาสคมญั กขบั กองานรปวฏตั กบิ รตั รงิ มาแนละการสรา้ งนวตั กรรมภายใน 4. เพอ่ื เรยี นรแู ้ ละปรบั ตวั ในการบรหิ ารงาน ปฏบิ ตั งิ านใหส้ อดคลอ้ งกบั การเปลย่ี นแปลงขององคก์ รในโลกดจิ ทิ ลั การบรหิ าร เงนิ สาหรบั บุคลากร 5พ.นื้ ฐาMนiขcอrงoคsอoมfพtวิ เตoอfรf์ฮiาcรดe์ แวWรo์ซrอdฟ,ตPแ์ oวwรแe์ ลrะpระoบiบnปtฏ,บิ Eตั xกิ cาeรตl่าแงลๆะสGาoมoารgถlปeฏบิ Tตั oงิ oานlไsดเอพ้ ยอ่ื ่าเงขถา้ กู ใตจรอ้ ะงบบการทางานขน้ั
รายชอื่ สมาชกิ กล่มุ 3 1.น.ส.พรทพิ ย ์ เผชญิ มหาโยธนิ 2.น.ส.กานตร์ วี ทรพั ยเ์ ลศิ สกลุ 3.Mr. yu chen 4.Mr. MINGLIU LIANG 5.น.ส.สโรชา เรยี งสอน
Search
Read the Text Version
- 1 - 22
Pages: