SAR 62 อินทุวัทน์

ก คำนำ รายงานการประเมินตนเอง (Self Assessment Report : SAR) เป็นการประเมินการ ปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 และฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2545 รวมทั้งมาตรฐานการศึกษาของโรงเรียน ข้าพเจ้าได้จัดทาขึ้นเพื่อรายงานผลการจัดการเรียน การสอนและการปฏิบัติหน้าที่ของข้าพเจ้าตามฝ่าย/กลุ่มงาน ตลอดจนกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้ส่งเสริมให้ นกั เรียนมีคณุ ลักษณะและคณุ ภาพตามระดับมาตรฐานคุณภาพการศกึ ษา โรงเรียนบ้านปวงคา(ประชาอุทศิ ) สานกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาลาพนู เขต 2 ประจาปีการศึกษา 2562 รายงานน้ี โรงเรียนสามารถนาผลการดาเนินงานไปจดั ทาการประเมินคุณภาพภายในและ สรปุ รายงานให้ผู้บังคบั บญั ชาตามลาดับสายงาน ตลอดจนเผยแพร่ให้กับผูป้ กครอง นักเรียน ชุมชนใน สังคมได้ทราบผลการปฏิบัติงานของบุคลากร โรงเรียนบ้านปวงคา (ประชาอุทิศ) สานักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศกึ ษาลาพูนเขต 2 ข้อมูลท่ีได้จากการประเมินในการประเมินตนเอง (SAR) ในคร้ังน้ี ข้าพเจ้าจะได้นาไปใช้ เป็นแนวทางในการปรบั ปรุงเพ่อื พฒั นาการปฏิบัติงานทไี่ ดร้ ับมอบหมาย เพ่อื สง่ เสรมิ และพฒั นาศักยภาพ ของผู้เรียนให้สูงข้นึ ในทุก ๆ ด้านตอ่ ไป ลงชือ่ (นายอนิ ทวุ ทั น์ ทาปัญญา) ตาแหน่ง ครูโรงเรยี นบา้ นปวงคา (ประชาอุทศิ )

ข สารบญั คานา หนา้ ก สารบัญ 1. ข้อมูลทัว่ ไป ข 1 1.1 ขอ้ มลู สว่ นตัว 1.2 ข้อมูลการปฏิบตั หิ น้าท่ี 1 1.3 ขอ้ มลู การพฒั นาตนเอง 4 5 2. ขอ้ มูลการวางแผนการปฏบิ ตั ิงาน 7 2.1 การประเมินศักยภาพผ้เู รียน 7 2.2 การนาผลศกั ยภาพการประเมินไปใชจ้ ัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 8 2.3 การประเมนิ ตนเองเกีย่ วกับการจัดทาแผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ีเน้นผเู้ รียนเป็นสาคัญ 9 3. ขอ้ มูลผลการปฏิบตั งิ านและการประเมนิ ตนเอง 11 11 3.1 ผลการประเมินการจัดการเรยี นการสอนตาม พ.ร.บ. การศกึ ษา 12 3.2 ผลการประเมินการปฏบิ ัตงิ านในหนา้ ทีอ่ ื่นท่ีไดร้ บั มอบหมาย 13 3.3 ผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนของนกั เรียนทผี่ ้รู ายงานสอน 16 3.4 ผลการประเมินคณุ ลักษณะทพี่ งึ ประสงคแ์ ละผลการอ่าน คิดวิเคราะห์ เขยี น 20 ของนกั เรียนท่ีผรู้ ายงานสอน 21 3.5 ผลการประเมินสมรรถนะสาคญั ตามหลักสูตร ของนกั เรยี นทผี่ ู้รายงานสอน 3.6 ผลการประเมนิ การสอนของครโู ดยนกั เรยี น 4. ข้อมูลการประเมินการปฏิบตั ิหน้าท่ีครทู ป่ี รึกษา และครผู สู้ อนตามมาตรฐานดา้ นคุณภาพผู้เรยี น 23 ของมาตรฐานการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พ.ศ. 2554 มาตรฐานท่ี 1 คณุ ภาพของผู้เรียน 23 มาตรฐานท่ี 3 กระบวนการจดั การเรียนการสอนทเ่ี นน้ ผูเ้ รยี นเปน็ สาคญั 25 5. สรปุ อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ 26 6. ภาคผนวก 28 สาเนาคาสงั่ ภาพกิจกรรมการอบรม / ประชมุ /สัมมนา สาเนาเกียรตบิ ัตร วฒุ บิ ตั ร ประมวลภาพกิจกรรม อื่นๆ ท่ีเก่ียวขอ้ ง

รายงานการประเมินตนเอง (Self Assessment Report : SAR) ตอนท่ี 1 : ขอ้ มูลท่ัวไป 1.1 ขอ้ มูลส่วนตัว ชือ่ นายอินทวุ ทั น์ ทาปญั ญา วุฒิการศกึ ษา ปรญิ ญาตรี ครศุ าสตรบัณฑิต วิชาเอก คอมพวิ เตอร์ศึกษา มหาวิทยาลัยราชภฎั เชยี งใหม่ ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ - อายุ 32 ปี ปฏบิ ตั ริ าชการ 3 ปี เลขทต่ี าแหน่ง 1081 เงนิ เดือน 19,210 บาท (ช่วยราชการ) วัน / เดอื น / ปี เกดิ 8 กนั ยายน 2530 วนั / เดือน / ปี บรรจเุ ข้ารบั ราชการ 25 พฤศจิกายน 2559 ปฏิบัติการสอนวชิ าวิทยาการคานวณช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 1 ,2 ,4 ,5 และชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 1, 2 สอนวิชา วิทยาศาสตร์ ระดับชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 1 – 3 และช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 – 3 กล่มุ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนบ้านปวงคา (ประชาอุทศิ ) ตาบลล้ี อาเภอล้ี จงั หวัดลาพูน สานกั งานเขตพ้นื ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาลาพูนเขต 2 ตารางที่ 1 แสดงจานวนวันลา ประจาปีการศึกษา 2562 (1 เมษายน 2562 – 31 มนี าคม 2563) วัน เดอื น ปี ลาป่วย ลากิจ ลาอุปสมบท ลาคลอด มาสาย ทีล่ า ครั้ง วัน คร้งั วนั ครั้ง วัน คร้งั วนั ครัง้ วนั 11 ------ -- 26 ธ.ค. 62 -- 11 - - - - -- 27 ม.ค. 63 11 ------ -- 20 ก.พ. 63 22 11 - - - - -- รวม จานวน 3 ครั้ง จานวน 3 วนั รวมทัง้ ส้นิ

2 ตารางที่ 2 การได้รับรางวัล / ประกาศเกยี รตคิ ุณ / ผลงานดเี ด่น / เกยี รตปิ ระวัตทิ ่ีปรากฏต่อสาธารณชน / ครู / นักเรียน ท่ี วัน/เดือน/ปี รางวัล/เกยี รติคุณ หน่วยงานทีม่ อบ หลักฐาน ครู 1 8 พ.ย. 62 ไดร้ บั รางวัลระดับเหรียญทอง สพป.ลพ.2 เกยี รติบัตร รองชนะเลศิ อันดับท่ี 1 ครผู ู้สอน การประกวดโครงงานคอมพวิ เตอร์ ประเภทซอฟตแ์ วร์ ระดับชัน้ ม.1-ม.3 2 8 พ.ย. 62 ไดร้ บั รางวลั ระดบั เหรียญทอง สพป.ลพ.2 เกยี รติบัตร ครผู ูส้ อน การแขง่ ขนั จดั สวนถาดแบบช้นื ระดบั ชนั้ ม.1-ม.3 3 3 ต.ค. 62 ได้รบั รางวัลระดบั เหรียญทอง เครือข่ายเวยี งจามรี เกียรตบิ ตั ร ชนะเลิศ ครูผู้สอน การประกวดโครงงานคอมพวิ เตอร์ ประเภทซอฟตแ์ วร์ ระดับชัน้ ม.1-ม.3 4 3 ต.ค. 62 ได้รบั รางวลั ระดับเหรยี ญทอง เครอื ข่ายเวยี งจามรี เกียรตบิ ตั ร ชนะเลศิ ครผู ูส้ อน การแขง่ ขนั จดั สวนถาดแบบชนื้ ระดับช้นั ม.1-ม.3 5 3 ต.ค. 62 ไดร้ ับรางวลั ระดับเหรียญเงิน เครอื ขา่ ยเวยี งจามรี เกยี รตบิ ตั ร ครผู ้สู อน การแข่งขนั การใชโ้ ปรแกรมนาเสนอ (Presentation) ระดบั ช้ัน ป.4-ป.6 นกั เรยี น 1 8 พ.ย. 62 1. เด็กหญิงปาริชาติ อินถาปนั สพป.ลพ.2 เกียรตบิ ตั ร 2. เดก็ หญงิ มณฑิตา คามี 3. เด็กชายเอกพนั ธ์ อินถาปัน ไดร้ บั รางวลั ระดบั เหรยี ญทอง รองชนะเลศิ อันดับท่ี 1 การประกวดโครงงานคอมพวิ เตอร์ ประเภทซอฟต์แวร์ ระดับชั้น ม.1-ม.3

ท่ี วัน/เดือน/ปี รางวลั /เกยี รติคณุ หนว่ ยงานที่มอบ 3 สพป.ลพ.2 หลักฐาน 2 8 พ.ย. 62 1. เดก็ ชายศรชยั จ่อเรือง เกียรติบัตร เครอื ข่ายเวยี งจามรี 2. เดก็ หญิงสภุ คั สิตรา ปันทะวนั เกยี รตบิ ตั ร เครอื ขา่ ยเวียงจามรี 3. เด็กหญงิ อัฐภญิ ญา กา๋ ตบิ๊ เกียรติบตั ร เครอื ขา่ ยเวยี งจามรี ไดร้ บั รางวลั ระดบั เหรยี ญทอง เกียรติบตั ร การแขง่ ขนั จดั สวนถาดแบบชืน้ ระดับช้ัน ม.1-ม.3 3 3 ต.ค. 62 1. เดก็ หญิงปารชิ าติ อนิ ถาปนั 2. เด็กหญงิ มณฑิตา คามี 3. เดก็ ชายเอกพันธ์ อินถาปัน ได้รับรางวลั ระดบั เหรยี ญทอง ชนะเลศิ การประกวดโครงงานคอมพวิ เตอร์ ประเภทซอฟต์แวร์ ระดบั ช้นั ม.1-ม.3 4 3 ต.ค. 62 1. เดก็ ชายศรชยั จอ่ เรอื ง 2. เด็กหญงิ สภุ ัคสติ รา ปันทะวัน 3. เดก็ หญิงอฐั ภิญญา กา๋ ตบิ๊ ไดร้ ับรางวลั ระดบั เหรยี ญทอง ชนะเลศิ การแขง่ ขนั จัดสวนถาดแบบชืน้ ระดบั ชัน้ ม.1-ม.3 5 3 ต.ค. 62 1. เด็กชายณชพล ต๊ะขวา 2. เด็กชายธนัช สวุ รรณ ไดร้ ับรางวัลระดับเหรียญเงนิ การแข่งขนั การใช้โปรแกรมนาเสนอ (Presentation) ระดับช้ัน ป.4-ป.6

4 1.2 ขอ้ มลู การปฏิบัตหิ นา้ ท่ี ปกี ารศกึ ษา 2562 1.2.1 ดา้ นการสอน ปฏบิ ตั กิ ารสอน ภาคเรยี นท่ี 1 จานวน 7 ห้อง 18 ชว่ั โมง กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน 4 ช่วั โมง รวมเวลาในการจดั การเรยี นการสอน 22 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ ภาคเรยี นที่ 2 จานวน 8 ห้อง 19 ชัว่ โมง กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น 4 ชว่ั โมง รวมเวลาในการจัดการเรยี นการสอน 23 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ ตารางท่ี 3 แสดงจานวนรายวิชา/หน่วยการเรียนรู้ หอ้ งเรียน นกั เรียน ชวั่ โมงเรยี นทปี่ ฏิบัติการสอน ในปีการศึกษา 2562 ท่ี รหสั วิชา ช่ือวชิ า หอ้ ง จานวน จานวน นกั เรยี น ชวั่ โมง 1 ว11101 วิทยาศาสตร(์ วิทยาการคานวณ) 1 18 2 2 ว12101 วิทยาศาสตร(์ วทิ ยาการคานวณ) 2 3 ว13101 วทิ ยาศาสตร์ 1 25 2 4 ว14101 วิทยาศาสตร(์ วิทยาการคานวณ) 1 5 ว15101 วิทยาศาสตร์(วิทยาการคานวณ) 1 17 1 6 ว21101 วทิ ยาศาสตร์(วทิ ยาการคานวณ) 4 7 ว22101 วิทยาศาสตร์(วิทยาการคานวณ) 1 16 4 8 ว23101 วิทยาศาสตร์ 3 9 ว21201 คอมพวิ เตอร(์ เพม่ิ เติม) 1 10 2 10 ว22201 คอมพิวเตอร์(เพ่ิมเตมิ ) 2 11 ง23202 คอมพวิ เตอร์(เพม่ิ เติม) 1 11 2 13 ว21102 วิทยาศาสตร์(ออกแบบเทคโนโลยี) 4 13 ว22102 วทิ ยาศาสตร์(ออกแบบเทคโนโลยี) 1 19 4 14 ว23102 วิทยาศาสตร์ 3 1 17 36 รวม 1 11 1 19 1 17 1 11 1 19 1 17 14 227 ตารางท่ี 4 แสดงจานวนกจิ กรรมเสรมิ หลกั สูตรที่ปฏิบตั ใิ นปกี ารศกึ ษา 2562 ท่ี กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น และชุมนมุ ห้อง/กลุ่ม จานวน จานวน นักเรยี น ช่วั โมง 1 กจิ กรรมชมุ นมุ 1 3 กิจกรรมแนะแนว 1 17 1 4 กจิ กรรมลกู เสือ – เนตรนารี สามัญ ป.4-6 1 17 1 5 กจิ กรรมฝึกอบรมจรยิ ธรรมนักเรยี น 1 42 1 176 1

5 1.2.2 หน้าท่ีพเิ ศษอน่ื ๆ ไดแ้ ก่ 1. ครทู ี่ปรกึ ษานักเรียนระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 3 มจี านวนนกั เรยี น 17 คน 2. หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรียนวทิ ยาศาสตร์ 3. งานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศโรงเรียน 4. ครูแนะแนว 5. ปฏิบัติหน้าท่ีครูเวรประจาวนั ศกุ ร์ 6. รับผิดชอบงานโครงการทศั นศกึ ษาแหล่งเรียนรู้ 7. รบั ผดิ ชอบงานธนาคารโรงเรยี น 8. รบั ผดิ ชอบงานประชาสมั พนั ธโ์ รงเรยี น 9. ปฏิบัตงิ านตามคาสงั่ ของโรงเรียน 1.3 ข้อมลู การพัฒนาคนเอง (ปกี ารศกึ ษา 2562) 1.3.1 กิจกรรมการพฒั นาตนเอง  การจัดทาแผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ - การจัดทาแผนการการเรียนรู้ หน่วยการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ - การจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์  ทักษะกระบวนการเรยี นรทู้ ใ่ี ช้จัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ - การอธิบาย - การสบื สวนสอบสวน - การสาธติ / ทดลอง - กลมุ่ สบื คน้ ความรู้ - การใช้เกมประกอบ - กลุ่มสัมพนั ธ์ - สถานการณ์จาลอง - การเรียนรแู้ บบรว่ มมอื - กรณตี วั อย่าง - ความคดิ รวบยอด - อรยิ สัจ 4 - การแก้ไขสถานการณ์ - การศกึ ษาคน้ คว้าดว้ ยตนเอง - โปรแกรมสาเรจ็ รปู - การทัศนะศกึ ษานอกสถานท่ี - การเรียนร้จู ากหอ้ งสมดุ - การพัฒนากระบวนการคิด - คอมพิวเตอรช์ ่วยสอน - การใชภ้ มู ิปญั ญาทอ้ งถิน่ - โครงงาน - การแก้ปัญหา - การถามตอบ  ผลติ ส่ือ / นวตั กรรม ได้แก่ - เอกสารประกอบการเรียนการสอน - การสาธติ และการลงมือปฏิบัติจรงิ - การใชข้ องจริง - การศกึ ษาจากวารสาร, นติ ยสาร, หนังสือพิมพ,์ วีดทิ ัศน์ (VCD), Internet  การทาแฟม้ สะสมงานของครู  ครู  นักเรยี น

6 1.3.2 การเขา้ ร่วมกิจกรรมทางวิชาการเพอ่ื พฒั นาคมเอง มีดงั น้ี  รว่ มอบรม สัมมนา ประชมุ ปฏบิ ัติการ ตารางที่ 5 แสดงการเข้าร่วมกิจกรรมทางวิชาการเพื่อพฒั นาตนเอง ท่ี ว/ด/ป เรอ่ื ง สถานที่ หนว่ ยงานที่จดั หลกั ฐาน ชวั่ โมง 1 19 เม.ย. 62 อบรม เรอื่ ง สถาบนั อบจ.ลาพนู สพป.ลพ.1 เกียรตบิ ตั ร ที่ 6 409/2562 พระมหากษัตรยิ ก์ ับประเทศ ไทย 2 30 เม.ย. 62 อบรมเชิงปฏบิ ัตกิ าร ครผู ู้สอน โมเดิรน์ สมาคมดิจทิ ัล เกียรติบตั ร ที่ 6 Robot ระดบั ประถมศึกษา- Education เวิลด์ 0170/2562 มธั ยมศึกษา เชียงใหม่ 3 1-2 พ.ค. 62 อบรมเชิงปฏิบตั ิการ “การ สพป.ลพ.2 สพป.ลพ.2 วุฒิบตั ร ที่ 12 จดั การเรยี นร้วู ิทยาการ 486/2562 คานวณ” ระดบั ประถมศกึ ษา 4 9-11 พ..ค 62 อบรมครูผสู้ อน โครงการ รร.บา้ นแม่ สสวท. วฒุ บิ ตั ร ที่ 18 93452/2562 6 บรู ณาการสะเต็มศกึ ษา ปี เทย สพฐ. เทศบาลล้ี 12 กระทรวง - การศึกษา 2562 ม.ตน้ 100 ดจิ ทิ ัลฯ วฒุ บิ ัตร 6 5 9 ส.ค. 62 อบรมส่งเสรมิ ศลิ ปวัฒนธรรม วดั พวงคา สพป.ลพ.2 - พ้นื บ้านและภมู ปิ ญั ญาท้องถิน่ 6 10-11 ส.ค. 62 อบรมการส่งเสริมการเรยี นรู้ โรงแรม เพอื่ พัฒนาทักษะดา้ นโคด้ ดิ้ง เมอรเ์ คยี ว สู่สงั คมดิจทิ ลั ในอนาคต เชยี งใหม่ 7 16 ส.ค. 62 อบรมเชิงปฏิบัตกิ าร ใช้สอ่ื การ สพป.ลพ.2 เรียนการสอนผา่ นดาวเทยี ม รปู แบบใหม่ NEW DLTV ฯ 8 31 ส.ค. 62 อบรมหลักสตู ร\"การจัดการ - สสวท. ท่ี วคป 6 เรียนรู้วทิ ยาการคานวณ\"แบบ 1.19146/2562 ออนไลน์ หลกั สูตร 1 รนุ่ 3 9 24 ต.ค. 62 อบรมเชิงปฏบิ ัตกิ าร สรา้ ง สพป.ลพ.2 สพป.ลพ.2 - 6 ความเขา้ ใจการดาเนินงาน นร.ยากจนพิเศษ

7 ท่ี ว/ด/ป เรื่อง สถานที่ หน่วยงานท่จี ัด หลกั ฐาน ชวั้ โมง 6 10 25 พ.ย. 62 อบรมเตรียมความพรอ้ มสกู่ าร ทว่ี ่าการ เครอื ขา่ ย วุฒิบตั ร ท่ี ยกระดบั ผลสัมฤทธ์ิ O-NET อาเภอล้ี เวยี งจามรี 20/2562 84 2562 รวมทง้ั สิ้น (ชวั่ โมงอบรม)  ทศั นศึกษาดงู าน/แหลง่ เรียนรู้ ตารางท่ี 6 แสดงการเข้าร่วมกจิ กรรมทัศนศึกษาดูงาน/แหล่งเรยี นรู้ ท่ี ชอื่ แหล่งเรียนรู้ เร่ือง จานวนคร้งั 1 ศกึ ษาดูงานโรงเรียน ไจพิทยาคาร โรงเรียนปลอดขยะ 1 จงั หวัดจันทบรุ ี 2 ศกึ ษาแหลง่ เรยี นรู้ทางธรรมชาติ ทศั นศึกษาแหลง่ การเรียนรู้ 1 สวนสัตวเ์ ชยี งใหม่  การได้รับเชิญเป็นวทิ ยากร/กรรมการตดั สินภายในและภายนอกสถานศกึ ษา ตารางท่ี 7 แสดงการเปน็ วทิ ยากร / กรรมการตัดสนิ การแข่งขัน ภายในและภายนอกสถานศกึ ษา ท่ี วัน / เดอื น / ปี รายการ / เร่ือง หน่วยงานท่ีเชญิ กรรมการตัดสินการแข่งขนั เครอื ขา่ ยเวียงจามรี 1 3 ต.ค. 62 การใช้โปรแกรมนาเสนอฯ ระดับชัน้ ป.4-ป.6 กรรมการตัดสินการแขง่ ขัน สพป.ลพ.2 2 8 พ.ย. 62 การสรา้ งเกมสรา้ งสรรค์จากคอมพิวเตอร์ ระดับชัน้ ม.1-ม.3 3 7-8 ม.ี ค. 63 อบรมการใชค้ อมพวิ เตอร์เพื่อใช้ใน เทศบาลตาบลล้ี ชีวิตประจาวัน 2. ขอ้ มลู การวางแผนการปฏบิ ัติงาน (การจดั กิจกรรมการเรยี นร)ู้ และการดาเนินการตามแผน 2.1 มีการประเมนิ ศักยภาพผู้เรยี นกอ่ นการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้  ประเมิน  ไมป่ ระเมนิ ตารางที่ 8 แสดงผลการประเมนิ ศกั ยภาพผู้เรียน สามารถจาแนกผ้เู รยี นท่ีรบั ผิดชอบ ดงั น้ี จานวน ผลการประเมนิ (จานวน) ช้ัน ห้องที่ นกั เรยี น กลมุ่ เก่ง กลุม่ กลุม่ ออ่ น กลุ่ม พเิ ศษ ท้งั หมด ปานกลาง 1 มัธยมศึกษาปที ่ี 3 1 17 6 10 -

8 2.2 นำผลกำรประเมนิ ศักยภำพผู้เรยี นไปจดั กิจกรรมกำรเรยี นรใู้ หเ้ หมำะสมในแผนกำรจดั กิจกรรมกำรเรยี นรูห้ รอื ไม่  จดั  ไมไ่ ด้จัด 2.2.1 หากนาผลการประเมินศักยภาพผ้เู รียนไปจดั กจิ กรรมในแผนการจัดกิจกรรม การเรียนรู้ใหร้ ะบวุ ่าดาเนินการอยา่ งไร เด็กกล่มุ เกง่ ดาเนินการโดย จัดกจิ กรรมการเรียนรู้โดยมีการเสริมทักษะการอ่าน การเขียน การ คิดคานวณ จากแบบฝกึ เสรมิ ทกั ษะการเรียนรู้ เด็กกลุ่มปานกลาง ดาเนินการโดย จดั กิจกรรรมทดสอบความรู้พืน้ ฐานของนกั เรยี นโดยเน้นนักเรียนเป็น สาคัญ สอนเนื้อหา มีการวัดและประเมินผลท้ังก่อนเรียนและหลังเรียน มีการแบ่งกลุ่มนักเรียนทา กิจกรรมเพอ่ื สรปุ องค์ความรู้เปน็ กลมุ่ มีการนาเสนอผลงานหนา้ ชั้นเรียน เน้นนักเรียนไดล้ งมอื ปฏิบตั ิจริง และใหน้ กั เรยี นที่เข้าใจในเนื้อหาทค่ี รสู อนชว่ ยสอนเพื่อนที่ไม่เขา้ ใจ (เพอื่ นช่วยเพ่ือน) และนานกั เรียนที่มี ปัญหาด้านการเรียนมาสอนเป็นรายคนตัวต่อตัว โดยครูจัดให้เรียนโดยใช้สื่อการเรียนการสอนเข้ามามี ส่วนร่วมในการจัดการเรียนการสอน โดยครูเป็นผู้คอยช้ีแนะ จัดกจิ กรรมการเรียนร้จู ากง่ายไปหายาก และจัดกิจกรรมโดยใช้สื่อประกอบให้เหมาะสมกับผู้เรียนและสอดคล้องกับเนื้อหาจัดกิจกรรมให้ เหมาะสมกับวัยและสภาพปัญหาความแตกต่างระหว่างผู้เรียนแต่ละคน ทาวิจัยจัดกิจกรรมเสริม ประสบการณ์เพ่ือพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ ประเมินผลการเรียนรู้และนามาปรับปรุงการจัดกิจกรรม การเรียนรู้ใหบ้ รรลุตามวตั ถปุ ระสงค์ เดก็ พิเศษ ดาเนินการโดย ทาการคัดกรองเด็กเบื้องต้นเพื่อหาสาเหตุและแนวทางแก้ไขในระดับ โรงเรยี นแล้วส่งต่อคือโรงพยาบาลลี้ โดยนักจิตเวชและลาดับสุดท้ายคือแพทย์ทโี่ รงพยาบาลลาพนู เพ่ือ รับรองผล จากนั้นทาแผนการเรียนรู้สาหรับเด็กพิเศษโดยเรียนกับพี่เลี้ยงเด็กพิการในสาระภาษาไทย สาระคณติ ศาสตร์และสาระภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ในรายสาระทเี่ หลือเรียนตามปกติ

9 การประเมินตนเองเกี่ยวกบั การจดั ทาแผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ รหสั วิชา ว22101 รายวชิ า วิทยาศาสตร์ ระดบั ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2562 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนบา้ นปวงคา (ประชาอทุ ศิ ) สานกั งานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาลาพนู เขต 2 (เขยี นเครอ่ื งหมาย / ลงในชอ่ งระดับคุณภาพ โดยพิจารณาจากเกณฑ์การประเมินดา้ นขวามอื ) ตารางที่ 9 แสดงผลการการประเมนิ ตนเองเกย่ี วกบั การจัดทาแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ีเนน้ ผู้เรยี นเปน็ สาคัญ ดัชนชี ว้ี ดั ระดบั คุณภาพ เกณฑ์การประเมนิ 4321 1. การวเิ คราะห์ มาตรฐานฯ 1. มกี ารระบุตวั ช้วี ัด/ผลการเรยี นรู้ และ ตวั ช้ีวดั /ผลการเรียนรู้ 2. มีการวิเคราะห์ตัวชว้ี ดั /ผลการเรยี นรู้ (ระดบั 4 มี 5 ข้อ  แยกออกเปน็ 3 ดา้ นคอื ความรู้ เจตคติ ทกั ษะ (KPA) ระดับ 3 มี 4 ข้อ 3. มีความเหมาะสมสอดคล้องกับกจิ กรรมการเรียนรู้ ระดบั 2 มี 3 ขอ้ 4. สอดคล้องกับผลการเรียนรูท้ ค่ี าดหวัง ระดบั 1 มี 1-2 ขอ้ ) 5. ครอบคลมุ มาตรฐานการศกึ ษา 2. การออกแบบกจิ กรรม 1. การออกแบบกจิ กรรมการเรยี นรู้เป็นขนั้ ตอน การเรียนรู้ 2. แผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรมู้ ี (ระดบั 4 มี 5 ข้อ องค์ประกอบครบ 4 ด้าน (แลกเปลยี่ น ระดบั 3 มี 4 ขอ้ ประสบการณ์ การสร้างองคค์ วามรู้ ระดับ 2 มี 3 ขอ้  นาเสนอความรู้ ปฏิบตั ิ / ประยุกต์ใช้) ระดับ 1 มี 1-2 ข้อ) 3. มคี วามเหมาะสมกับจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 4. มีความสอดคล้องกบั จุดประสงค์การเรยี นรู้ ทั้ง 3 ด้าน (ความรู้ เจตคติ ทักษะ) 5. สามารถปฏบิ ตั ไิ ด้จริง 3. การออกแบบปฏิสมั พนั ธ์ 1. มกี ารจัดกิจกรรมการเรยี นรู้โดยใช้กระบวนการกลมุ่ (ระดับ 4 มี 5 ขอ้ 2. มีความหลากหลายในการมสี ว่ นร่วมของผูเ้ รียน ระดับ 3 มี 4 ขอ้  3. มกี ารกาหนดบทบาทและกิจกรรมอยา่ งชดั เจน ระดับ 2 มี 3 ขอ้ 4. ปฏบิ ตั ิจริง ระดบั 1 มี 1-2 ข้อ) 5. ผู้เรียนสนกุ สนาน เกดิ การเรยี นรู้

10 ดชั นชี ว้ี ดั ระดับคณุ ภาพ เกณฑ์การประเมิน 4321 4. การออกแบบประเมนิ ผล 1. มีการประเมินผลการเรียนในแต่ละแผน (ระดบั 4 มี 5 ข้อ  2. มกี ารกาหนดวธิ กี ารประเมินผลหลากหลาย ระดบั 3 มี 4 ขอ้ 3. วธิ ีการประเมินผลสอดคล้องกับจุดประสงค์ ระดับ 2 มี 3 ข้อ  การเรยี นรู้ ระดบั 1 มี 1-2 ขอ้ ) 4. ปฏิบัติจรงิ 5. นาผลการประเมนิ มาพัฒนาการเรียนรู้ 5. การใช้ส่อื อปุ กรณ์ 1. มีการใช้สือ่ อุปกรณห์ รอื แหลง่ เรียนรู้ การเรยี นรู้ 2. มีการกาหนดข้นั ตอนหรือวธิ ีการใชส้ ื่อ (ระดับ 4 มี 5 ขอ้ ระดบั 3 มี 4 ข้อ หรอื แหล่งเรยี นรู้ ระดับ 2 มี 3 ข้อ 3. มีการใช้สอื่ อุปกรณ์หรอื แหล่งการเรยี นรู้ ระดบั 1 มี 1-2 ข้อ) เหมาะสมกบั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 4. มีสอื่ อปุ กรณ์ แหลง่ เรียนรู้ 5. มกี ารพัฒนาสอ่ื อปุ กรณ์ แหลง่ เรียนรู้ สรุป : การจดั ทาแผนการจัดการเรยี นรนู้ ้ี อยใู่ นระดบั คุณภาพ 4 เกณฑ์การตัดสนิ 4 หมายถงึ มีการปฏบิ ัตอิ ยู่ในระดบั ดีมาก หรือพอใจมากทสี่ ุด 3 หมายถึง มกี ารปฏิบตั อิ ยู่ในระดบั ดี หรอื พอใจมาก 2 หมายถงึ มกี ารปฏบิ ตั อิ ยู่ในระดบั ปานกลาง หรือพอใจพอใช้ 1 หมายถงึ มีการปฏบิ ตั ิอยู่ในระดบั ปรบั ปรงุ หรือไมพ่ อใจ

11 3. ข้อมูลผลการปฏบิ ตั งิ าน และการประเมนิ ตนเอง ผลการปฏบิ ตั งิ าน ผลการประเมินการปฏิบตั ิงาน ปีการศึกษา 2562 3.1 การจดั การเรยี นการสอนตามพระราชบัญญตั ิการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 หมวด 4 ตารางท่ี 10 แสดงผลการประเมินระดับการปฏิบัตงิ านตามพระราชบญั ญัติการศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 หมวด 4 (ครูประเมินตนเอง) ระดบั การปฏบิ ตั ิ /คะแนน ไม่ ท่ี รายการปฏิบตั ิ มาก มาก ปาน นอ้ ย ปฏิบตั ิ ทสี่ ุด(4) (3) กลาง (1) (0) (2) 1 ร้เู ป้าหมายของหลักสตู รและการจดั การศกึ ษา  - --- 2 จดั ทาแผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ีเนน้ ผู้เรียนเป็น  - --- สาคัญดว้ ยตนเอง 3 จัดทา/หา สือ่ ประกอบการสอน - - -- 4 ส่งเสริมให้ผูเ้ รยี นสามารถเรยี นรพู้ ัฒนาตนเองได้  - --- ตามธรรมชาตแิ ละเต็มศักยภาพ 5 จัดเน้อื หาสาระ/กิจกรรมตามความสนใจ ความ  - --- ถนัด และความแตกตา่ งกันของผ้เู รียน 6 ฝึกทกั ษะกระบวนการคิด การจัดการ และ -- -- การแก้ปัญหา 7 ใหผ้ ู้เรยี นฝึกปฏิบัตจิ รงิ คิดวิเคราะห์ คิด - - -- สรา้ งสรรค์ 8 สง่ เสริมกิจกรรมการทางานและรับผดิ ชอบต่อ  - --- กลุ่ม 9 กระตุ้นใหผ้ ้เู รยี นรูจ้ ักศกึ ษาหาความรู้ แสวงหา  - --- คาตอบ และสร้างองคค์ วามรดู้ ้วยตนเอง 10 จดั กจิ กรรมการสอนหลากหลายเหมาะสมกบั  - --- ธรรมชาตแิ ละความตอ้ งการของผเู้ รียน 11 สอดแทรกคุณธรรม จรยิ ธรรมในวชิ าท่สี อน - --- 12 ส่งเสริมเรยี นรูจ้ ากแหลง่ เรยี นร้ทู ง้ั ใน/นอก - --- สถานศึกษา 13 ส่งเสรมิ การเรียนรจู้ ากสื่อ นวตั กรรม และ - --- เทคโนโลยี 14 เปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นมีส่วนรว่ มในการเรยี นการ -  - - - สอนและประเมินผล 15 ใชส้ ื่อการเรยี นที่เหมาะสมและหลากหลาย - - -- 16 ประเมนิ พฒั นาการผู้เรียนดว้ ยวิธีการที่ - --- หลากหลายและต่อเนื่อง

12 ที่ รายการปฏบิ ตั ิ ระดบั การปฏิบตั ิ /คะแนน ไม่ ปฏิบตั ิ 17 ใช้กระบวนการวิจยั ในการพัฒนาผเู้ รยี น มาก มาก ปาน น้อย (0) รวม (เฉลยี่ ร้อยละ) ทีส่ ุด(4) (3) กลาง (1) - สรุปคณุ ภาพตามมาตรฐาน (Mode) (2) - - - 64.71 35.29 0.00 0.00 0.00 ดีมาก 3.2 การปฏิบัตงิ านในหน้าทอ่ี นื่ ทีไ่ ด้รบั มอบหมาย 3.2.1 กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น ไดแ้ ก่ กจิ กรรมแนะแนว ,กจิ กรรมลกู เสือ-เนตรนารีสามัญ , และกจิ กรรมอบรม คุณธรรม จรยิ ธรรม ผลการประเมินตนเอง ปรากฏวา่ ระดบั คุณภาพการปฏบิ ตั ิหน้าที่อยใู่ นระดบั  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรงุ เหตุผล เพราะสามารถดาเนินการจัดกิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี นได้สาเรจ็ ตามวัตถปุ ระสงค์ มกี ารจัดกิจกรรมอยา่ งตอ่ เนื่องทกุ สปั ดาห์ กิจกรรมทีจ่ ัดขึน้ ใหน้ กั เรยี นมีความหลากหลายตามความสนใจ และความถนัดของนักเรียน และมีการให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นในการจัดกิจกรรมและมีส่วนร่วม ทกุ ครัง้ 3.2.2 ครูทีป่ รกึ ษา/ประจาชน้ั ผลการประเมนิ ตนเอง ปรากฏวา่ ระดบั คุณภาพการปฏบิ ัตหิ น้าที่อยู่ในระดับ  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรงุ เหตผุ ล เพราะสามารถปฏบิ ัติหนา้ ทคี่ รูประจาชน้ั จัดทาเอกสารชั้นเรียน จัดบรรยากาศ ชั้นเรียนให้น่าอยู่ และดูแลกากับชั้นเรียนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีการพบปะกับนักเรียนอยู่เป็น ประจา และเก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆของนักเรียนให้เปน็ ปัจจุบัน ท้ังด้านวิชาการ, ดา้ นพฤติกรรม, เร่ือง สว่ นตัว รวมทัง้ ดา้ นครอบครวั ของนกั เรยี น เพอื่ นาขอ้ มูลทไ่ี ด้มาสง่ เสรมิ พัฒนา ปรบั ปรงุ และแกไ้ ขปญั หา ที่พบ นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมประชุมผู้ปกครองช้ันเรียน (Classroom Meeting) และการเยี่ยม บา้ นนักเรียนเพื่อพบปะกับผู้ปกครอง เป็นการสานความสัมพันธ์อันดีระหวา่ งครู นักเรยี นและผู้ปกครอง ซ่ึงได้รับความร่วมมือจากผู้ปกครองเป็นอย่างดี มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลเก่ียวกับผู้เรียนเพื่อร่วมมือกัน สง่ เสรมิ และแก้ไขปญั หาตอ่ ไป 3.2.3 ปฏบิ ัติหน้าที่อ่ืน ได้แก่ ครทู ี่ปรกึ ษา / ครปู ระจาช้นั , หัวหน้ากลุ่มสาระการ เรียนรู้วิทยาศาสตร์,งานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศโรงเรียน,ครูแนะแนว,รับผิดชอบงานโครงการ ทัศนศึกษาแหล่งเรียนรู้,รับผิดชอบงานธนาคารโรงเรียน,รับผิดชอบงานประชาสัมพันธ์โรงเรียนและ ปฏบิ ัตงิ านตามคาส่ังของโรงเรยี นบา้ นปวงคา (ประชาอุทศิ ) ผลการประเมนิ ตนเอง ปรากฏว่า ระดบั คุณภาพการปฏบิ ตั ิหน้าทีอ่ ยูใ่ นระดบั  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง เหตุผล เพราะสามารถทางานตามหน้าท่ที ่ีได้รับมอบหมายเสร็จทันเวลาตามกาหนด เป็นไปด้วยความเรยี บร้อยและสามารถปฏิบตั งิ านรว่ มกบั คณะครู ทาให้งานสาเร็จลลุ ่วงไปด้วยดีทกุ ครง้ั

13 3.3 ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนของนักเรยี นท่ีสอน ตารางที่ 11 แสดงผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรยี นที่สอน ท่ี รายวชิ า ห้อง จานวน จานวนนักเรยี น แยกตามระดบั ระดับคุณภาพ หมาย ช้ัน นกั เรยี น 0 1 1.5 2 2.5 3 3.5 4 เหตุ 1 ว11101 วิทยาศาสตร์1 1 18 - - - - - - 6 12 2 ว12101 วิทยาศาสตร์2 1 25 - 2 - - - 2 5 16 3 ว13101 วทิ ยาศาสตร์3 1 17 - - - - 2 1 2 12 4 ว14101 วิทยาศาสตร์4 1 16 - - - 2 2 4 2 6 5 ว15101 วทิ ยาศาสตร์5 1 10 - - - - 3 1 2 4 6 ว21101 วทิ ยาศาสตร์1 1 11 - - - - - - 6 5 7 ว22101 วิทยาศาสตร์3 1 19 - - - - - 19 - - 8 ว23101 วิทยาศาสตร์5 1 17 - 1 - - - 3 1 12 9 ว21201 คอมพวิ เตอร์1 1 11 - - - - - - - 4 10 ว22201 คอมพวิ เตอร์3 1 19 - - - - - 19 - - 11 ง23202 คอมพวิ เตอร์5 1 17 - 1 - - - - - 16 12 ว21102 วทิ ยาศาสตร์2 1 11 - 3 - 1 3 - 1 3 13 ว22102 วทิ ยาศาสตร์4 1 19 - 13 1 3 - - 1 - มส.1 14 ว23102 วทิ ยาศาสตร์6 1 17 - 1 - - - 6 - 10 อภิปรายผล จากตารางที่ 11 สรุปว่า จากข้อมลู ในตารางแสดงให้เห็นว่าผู้เรียนสามารถพฒั นาตนเองจาก การเรียนรขู้ องครผู ้สู อน ดงั น้ี - นักเรยี นในรายวชิ าวิทยาศาสตร์ 1 ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 1 จานวนท้งั หมด 18 คน มีผลการเรียนรู้ ระดบั 4 จานวน 12 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 66.67 ระดับ 3.5 จานวน 6 คน คิดเปน็ ร้อยละ 33.33 - นักเรยี นในรายวชิ าวิทยาศาสตร์ 2 ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 2 จานวนทงั้ หมด 25 คน มีผลการเรียนรู้ ระดบั 4 จานวน 16 คน คิดเปน็ ร้อยละ 64.00 ระดบั 3.5 จานวน 5 คน คดิ เป็นร้อยละ 20.00 ระดับ 3 จานวน 2 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 8.00 ระดบั 1 จานวน 2 คน คดิ เป็นร้อยละ 8.00 - นกั เรียนในรายวิชาวิทยาศาสตร์ 3 ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 จานวนทั้งหมด 17 คน มีผลการเรียนรู้ ระดบั 4 จานวน 12 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 70.59 ระดับ 3.5 จานวน 2 คน คดิ เป็นร้อยละ 11.76 ระดับ 3 จานวน 1 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 5.88 ระดบั 2.5 จานวน 2 คน คิดเปน็ ร้อยละ 11.76

14 - นกั เรยี นในรายวิชาวิทยาศาสตร์ 4 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จานวนทั้งหมด 16 คน มีผลการเรียนรู้ ระดับ 4 จานวน 6 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 37.50 ระดับ 3.5 จานวน 2 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 12.50 ระดับ 3 จานวน 4 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 25.00 ระดับ 2.5 จานวน 2 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 12.50 ระดบั 2 จานวน 2 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 12.50 - นักเรยี นในรายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ 5 ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 5 จานวนทง้ั หมด 10 คน มีผลการเรยี นรู้ ระดับ 4 จานวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 40.00 ระดบั 3.5 จานวน 2 คน คดิ เป็นร้อยละ 20.00 ระดับ 3 จานวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 10.00 ระดับ 2.5 จานวน 3 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 30.00 - นักเรียนในรายวชิ าวิทยาศาสตร์ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จานวนทัง้ หมด 11 คน มีผลการเรยี นรู้ ระดับ 4 จานวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 45.45 ระดบั 3.5 จานวน 6 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 54.55 - นกั เรยี นในรายวชิ าวิทยาศาสตร์ 3 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 จานวนท้งั หมด 19 คน มีผลการเรียนรู้ ระดบั 3 จานวน 19 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 100.00 - นกั เรยี นในรายวชิ าวิทยาศาสตร์ 5 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 จานวนทง้ั หมด 17 คน มีผลการเรียนรู้ ระดบั 4 จานวน 12 คน คดิ เป็นร้อยละ 70.59 ระดับ 3.5 จานวน 1 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 5.88 ระดับ 3 จานวน 3 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 17.65 ระดับ 1 จานวน 1 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 5.88 - นักเรยี นในรายวชิ าคอมพิวเตอร์ 1 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 จานวนทัง้ หมด 11 คน มผี ลการเรยี นรู้ ระดบั 4 จานวน 11 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 100.00 - นกั เรียนในรายวชิ าคอมพิวเตอร์ 3 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 จานวนทั้งหมด 19 คน มผี ลการเรียนรู้ ระดบั 3 จานวน 19 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 100.00 - นักเรยี นในรายวิชาคอมพิวเตอร์ 5 ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 3 จานวนทงั้ หมด 17 คน มีผลการเรยี นรู้ ระดับ 4 จานวน 16 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 94.12 ระดบั 1 จานวน 1 คน คิดเปน็ ร้อยละ 5.88 - นักเรยี นในรายวิชาวิทยาศาสตร์ 2 ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 1 จานวนทง้ั หมด 11 คน มผี ลการเรียนรู้ ระดับ 4 จานวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 27.27 ระดบั 3.5 จานวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 9.09 ระดบั 2.5 จานวน 3 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 27.27 ระดบั 2 จานวน 1 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 9.09 ระดบั 1 จานวน 3 คน คดิ เป็นร้อยละ 27.27

15 - นักเรยี นในรายวชิ าวิทยาศาสตร์ 4 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 จานวนทัง้ หมด 19 คน มผี ลการเรียนรู้ ระดบั 3.5 จานวน 1 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 5.26 ระดับ 2 จานวน 3 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 15.79 ระดับ 1.5 จานวน 1 คน คดิ เป็นร้อยละ 5.26 ระดับ 1 จานวน 13 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 68.42 ระดบั มส. จานวน 1 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 5.26 - นกั เรยี นในรายวชิ าวิทยาศาสตร์ 6 ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 จานวนทง้ั หมด 17 คน มีผลการเรียนรู้ ระดบั 4 จานวน 10 คน คดิ เป็นร้อยละ 58.82 ระดบั 3 จานวน 6 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 35.29 ระดบั 1 จานวน 1 คน คิดเปน็ ร้อยละ 5.88 (แหลง่ ข้อมลู อา้ งองิ : ปพ.5)

16 3.4 ผลกำรประเมนิ คณุ ลักษณะท่ีพงึ ประสงค์และผลกำรอ่ำน คดิ วเิ ครำะห์ เขียน ตารางที่ 12 ผลกำรประเมินคุณลักษณะที่พึงประสงค์และผลกำรอ่ำน คดิ วเิ ครำะห์ เขียน ท่ี รายวิชา จานวน คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ อ่าน คิด วเิ คราะห์ นักเรียน ดเี ยย่ี ม ดี ผา่ น ดเี ย่ยี ม ดี ผา่ น 1 ว11101 วทิ ยาศาสตร์1 18 18 - - 17 1 - 2 ว12101 วทิ ยาศาสตร์2 25 17 8 - 11 12 2 3 ว13101 วทิ ยาศาสตร3์ 17 17 - - - 14 3 4 ว14101 วิทยาศาสตร์4 16 16 - - 16 - - 5 ว15101 วิทยาศาสตร์5 10 10 - - 4 42 6 ว21101 วทิ ยาศาสตร์1 11 11 - - - 11 - 7 ว22101 วิทยาศาสตร3์ 19 19 - - - 18 1 8 ว23101 วทิ ยาศาสตร์5 17 17 - - - 16 1 9 ว21201 คอมพิวเตอร์1 11 11 - - - 11 - 10 ว22201 คอมพวิ เตอร์3 19 19 - - - 18 1 11 ง23202 คอมพิวเตอร5์ 17 17 - - - 16 1 12 ว21102 วทิ ยาศาสตร์2 11 11 - - 3 8- 13 ว22102 วิทยาศาสตร์4 19 19 - - - 18 1 14 ว23102 วทิ ยาศาสตร์6 17 17 - - - 16 1 อภปิ รายผล จากตารางที่ 12 สรปุ ว่าจากขอ้ มูลในตารางแสดงให้เหน็ ว่าผเู้ รียนมีคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดังน้ี - จากการวิเคราะหค์ ุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ของผเู้ รยี น ในรายวิชาวิทยาศาสตร์ 1 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 จานวนทั้งหมด 18 คน มคี ุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดับดเี ยยี่ ม จานวน 18 คน คิดเป็นร้อยละ 100.00 - จากการวิเคราะห์คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ของผเู้ รียน ในรายวิชาวทิ ยาศาสตร์ 2 ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 2 จานวนทั้งหมด 25 คน มีคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดับดเี ยย่ี ม จานวน 17 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 68.00 ระดับดี จานวน 8 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 32.00 - จากการวิเคราะห์คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรยี น ในรายวชิ าวิทยาศาสตร์ 3 ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 3 จานวนทง้ั หมด 17 คน มีคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ระดับดีเยย่ี ม จานวน 17 คน คิดเปน็ ร้อยละ 100.00 - จากการวิเคราะหค์ ณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ของผ้เู รยี น ในรายวชิ าวิทยาศาสตร์ 4 ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 4 จานวนท้งั หมด 16 คน มคี ุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั ดเี ยยี่ ม จานวน 16 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 100.00

17 - จากการวิเคราะห์คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผเู้ รียน ในรายวิชาวทิ ยาศาสตร์ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จานวนทั้งหมด 11 คน มีคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ระดับดีเยี่ยม จานวน 11 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 100.00 - จากการวเิ คราะหค์ ุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ของผเู้ รยี น ในรายวิชาวิทยาศาสตร์ 3 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 จานวนทง้ั หมด 19 คน มีคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดับดเี ยยี่ ม จานวน 19 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 100.00 - จากการวเิ คราะห์คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ของผูเ้ รียน ในรายวิชาวิทยาศาสตร์ 5 ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 จานวนท้งั หมด 17 คน มีคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ระดับดเี ยย่ี ม จานวน 17 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 100.00 - จากการวเิ คราะห์คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ของผู้เรียน ในรายวิชาคอมพวิ เตอร์ 1 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 จานวนท้งั หมด 11 คน มคี ณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับดีเยีย่ ม จานวน 11 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 100.00 - จากการวเิ คราะห์คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ของผเู้ รยี น ในรายวิชาคอมพิวเตอร์ 3 ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 2 จานวนท้ังหมด 19 คน มีคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ระดบั ดเี ยย่ี ม จานวน 19 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 100.00 - จากการวเิ คราะห์คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงคข์ องผูเ้ รียน ในรายวิชาคอมพิวเตอร์ 5 ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 จานวนทั้งหมด 17 คน มคี ณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั ดเี ยี่ยม จานวน 17 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 100.00 - จากการวเิ คราะห์คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงคข์ องผู้เรียน ในรายวชิ าวิทยาศาสตร์ 2 ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 1 จานวนทั้งหมด 11 คน มีคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ระดับดีเย่ยี ม จานวน 11 คน คิดเป็นร้อยละ 100.00 - จากการวิเคราะหค์ ุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ของผู้เรียน ในรายวชิ าวิทยาศาสตร์ 4 ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 2 จานวนทง้ั หมด 19 คน มีคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ระดบั ดเี ยย่ี ม จานวน 19 คน คิดเป็นร้อยละ 100.00 - จากการวิเคราะหค์ ุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ของผู้เรยี น ในรายวิชาวทิ ยาศาสตร์ 6 ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 จานวนทั้งหมด 17 คน มีคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดับดีเยย่ี ม จานวน 17 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 100.00

18 อภปิ รายผล จากตารางที่ 12 สรปุ ว่า จากขอ้ มลู ในตารางแสดงใหเ้ หน็ วา่ ผลการอ่าน คิดวิเคราะห์ เขียน ดงั น้ี - จากการวิเคราะหผ์ ลการอ่าน คิดวิเคราะหแ์ ละเขยี นของผู้เรยี น ในรายวิชาวทิ ยาศาสตร์ 1 ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 1 จานวนทั้งหมด 18 คน มีผลการอา่ น คิดวเิ คราะห์และเขียน ระดับดเี ย่ยี ม จานวน 17 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 94.44 ระดบั ดี จานวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 5.56 - จากการวิเคราะห์ผลการอา่ น คิดวเิ คราะห์และเขียนของผเู้ รยี น ในรายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ 2 ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 2 จานวนท้ังหมด 25 คน มีผลการอา่ น คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขยี น ระดบั ดเี ย่ยี ม จานวน 11 คน คดิ เป็นร้อยละ 44.00 ระดับดี จานวน 12 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 48.00 ระดับผา่ น จานวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 8.00 - จากการวิเคราะหผ์ ลการอ่าน คดิ วิเคราะหแ์ ละเขียนของผ้เู รียน ในรายวิชาวิทยาศาสตร์ 3 ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 จานวนทั้งหมด คน มีผลการอ่าน คดิ วิเคราะห์และเขียน ระดบั ดี จานวน 14 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 82.35 ระดับผ่าน จานวน 3 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 17.65 - จากการวิเคราะหผ์ ลการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขยี นของผเู้ รียน ในรายวิชาวทิ ยาศาสตร์ 4 ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 จานวนทั้งหมด 16 คน มีผลการอา่ น คิดวเิ คราะหแ์ ละเขยี น ระดบั ดเี ยี่ยม จานวน 11 คน คิดเปน็ ร้อยละ 100.00 - จากการวิเคราะห์ผลการอา่ น คิดวเิ คราะห์และเขียนของผเู้ รียน ในรายวิชาวิทยาศาสตร์ 5 ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 5 จานวนทั้งหมด 10 คน มีผลการอา่ น คิดวิเคราะห์และเขียน ระดับดีเยยี่ ม จานวน 4 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 40.00 ระดับดี จานวน 4 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 40.00 ระดับผ่าน จานวน 2 คน คดิ เป็นร้อยละ 20.00 - จากการวเิ คราะห์ผลการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนของผเู้ รียน ในรายวิชาวทิ ยาศาสตร์ 1 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 จานวนทั้งหมด 11 คน มีผลการอ่าน คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขียน ระดบั ดี จานวน 11 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 100.00 - จากการวเิ คราะห์ผลการอ่าน คดิ วิเคราะหแ์ ละเขียนของผเู้ รยี น ในรายวิชาวทิ ยาศาสตร์ 3 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 จานวนทง้ั หมด 19 คน มีผลการอ่าน คิดวิเคราะหแ์ ละเขียน ระดบั ดี จานวน 18 คน คดิ เป็นร้อยละ 94.74 ระดบั ผ่าน จานวน 1 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 5.26 - จากการวิเคราะหผ์ ลการอา่ น คดิ วเิ คราะห์และเขียนของผู้เรียน ในรายวชิ าวิทยาศาสตร์ 5 ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 จานวนทัง้ หมด 17 คน มผี ลการอ่าน คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขยี น ระดบั ดี จานวน 16 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 94.12 ระดบั ผา่ น จานวน 1 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 5.88 - จากการวิเคราะห์ผลการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขยี นของผู้เรียน ในรายวิชาคอมพิวเตอร์ 1 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 จานวนทั้งหมด 11 คน มีผลการอา่ น คิดวิเคราะหแ์ ละเขยี น ระดบั ดี จานวน 11 คน คดิ เป็นร้อยละ 100.00

19 - จากการวิเคราะหผ์ ลการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนของผเู้ รยี น ในรายวชิ าคอมพิวเตอร์ 3 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 จานวนทั้งหมด 19 คน มผี ลการอ่าน คิดวเิ คราะหแ์ ละเขียน ระดบั ดี จานวน 18 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 94.74 ระดบั ผ่าน จานวน 1 คน คดิ เป็นร้อยละ 5.26 - จากการวิเคราะห์ผลการอา่ น คิดวเิ คราะหแ์ ละเขียนของผู้เรยี น ในรายวิชาคอมพวิ เตอร์ 5 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 จานวนท้ังหมด 17 คน มผี ลการอา่ น คิดวิเคราะหแ์ ละเขียน ระดบั ดี จานวน 16 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 94.12 ระดบั ผา่ น จานวน 1 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 5.88 - จากการวเิ คราะห์ผลการอา่ น คดิ วิเคราะห์และเขียนของผเู้ รียน ในรายวิชาวทิ ยาศาสตร์ 2 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 จานวนทั้งหมด 11 คน มีผลการอ่าน คดิ วิเคราะห์และเขียน ระดบั ดเี ยีย่ ม จานวน 3 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 27.27 ระดบั ดี จานวน 8 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 72.73 - จากการวิเคราะหผ์ ลการอ่าน คิดวิเคราะหแ์ ละเขียนของผเู้ รียน ในรายวิชาวิทยาศาสตร์ 4 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 จานวนท้งั หมด 19 คน มีผลการอ่าน คดิ วิเคราะห์และเขยี น ระดับดี จานวน 18 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 94.74 ระดับผ่าน จานวน 1 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 5.26 - จากการวเิ คราะห์ผลการอา่ น คิดวเิ คราะห์และเขยี นของผูเ้ รยี น ในรายวชิ าวิทยาศาสตร์ 6 ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 3 จานวนท้งั หมด 17 คน มผี ลการอา่ น คิดวเิ คราะหแ์ ละเขยี น ระดับดี จานวน 16 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 94.12 ระดบั ผ่าน จานวน 1 คน คดิ เป็นร้อยละ 5.88

20 3.5 ผลการประเมนิ สมรรถนะสาคญั ตามหลักสตู รของนกั เรยี นทสี่ อน ตารางท่ี 13 ผลการประเมนิ สมรรถนะสาคัญตามหลกั สูตรของนกั เรียนท่สี อน สมรรถนะ จานวน ดีเยย่ี ม ผลการประเมิน ไมผ่ า่ น ดี ผ่าน 1 1. ความสามารถในการส่อื สาร 133 88 37 7 1 2. ความสามารถในการคดิ 1 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 133 45 74 13 1 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ 1 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 133 51 67 14 133 83 43 6 133 70 56 6 อภิปรายผล จากตารางท่ี 13 สรปุ วา่ จากขอ้ มลู ในตารางแสดงให้เห็นว่าผู้เรยี นมีผลการประเมินสมรรถนะ สาคญั ตามหลักสูตรของนักเรียน ดังน้ี - จากผลการวิเคราะหค์ วามสามารถในการส่ือสาร ปรากฏว่า ผเู้ รยี นอยใู่ นระดับ ดเี ย่ียม จานวน 88 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 66.17 ดี จานวน 37 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 27.82 ผา่ น จานวน 7 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 5.26 ไม่ผา่ น จานวน 1 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 0.75 - จากผลการวเิ คราะห์ความสามารถในการคดิ ปรากฏวา่ ผ้เู รยี นอยู่ในระดับ ดเี ยี่ยม จานวน 45 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 33.83 ดี จานวน 74 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 55.64 ผา่ น จานวน 13 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 9.77 ไม่ผ่าน จานวน 1 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 0.75 - จากผลการวเิ คราะห์ความสามารถในการแกป้ ญั หา ปรากฏว่า ผู้เรยี นอยใู่ นระดับ ดีเยย่ี ม จานวน 51 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 38.35 ดี จานวน 67 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 50.38 ผา่ น จานวน 14 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 10.53 ไม่ผ่าน จานวน 1 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 0.75 - จากผลการวิเคราะหค์ วามสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต ปรากฏวา่ ผู้เรียนอยู่ในระดบั ดีเยย่ี ม จานวน 83 คน คิดเป็นร้อยละ 62.41 ดี จานวน 43 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 32.33 ผา่ น จานวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 4.51 ไม่ผ่าน จานวน 1 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 0.75 - จากผลการวิเคราะหค์ วามสามารถในการใช้เทคโนโลยี ปรากฏว่า ผ้เู รียนอยใู่ นระดบั ดีเยี่ยม จานวน 70 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 52.63 ดี จานวน 56 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 42.11 ผ่าน จานวน 6 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 4.51 ไม่ผ่าน จานวน 1 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 0.75

21 3.6 ผลการประเมินการสอนของครโู ดยนกั เรยี น ตารางที่ 14 ผลการประเมนิ การสอนของครโู ดยนกั เรยี น กิจกรรม มากทส่ี ุด มาก ปาน นอ้ ย ควร Mode กลาง ปรบั ปรงุ 4.51 มาก 1. ครมู กี ารเตรยี มการในการจดั 7.52 87.97 0.00 0.00 มากที่สดุ กจิ กรรมการเรียนรเู้ ปน็ อยา่ งดี 6.02 มากทส่ี ดุ 2. การจดั สภาพห้องเรยี น / 82.71 11.28 3.01 0.00 0.00 มาก แหลง่ เรียนรู้ มากทส่ี ุด 3.76 มากทส่ี ุด 3. เนอื้ หาท่ีสอนสอดคล้องกบั ชวี ติ และ 87.97 9.02 0.00 0.00 มากท่ีสุด ทันสมัย 3.76 2.26 มาก 4. นักเรยี นทราบสภาพความสาเร็จของ 11.28 84.96 4.51 0.00 0.00 มาก การเรยี นรทู้ ช่ี ดั เจน 1.50 มากทส่ี ุด มากที่สุด 5. กจิ กรรมการเรยี นสอดคลอ้ งกบั ผล 90.98 5.26 1.50 0.00 0.00 มากทีส่ ุด การเรยี นรูท้ ี่คาดหวงั มากที่สุด 0.00 0.00 0.00 มากที่สุด 6. กจิ กรรมการเรยี นรสู้ นกุ และน่าสนใจ 95.49 2.26 0.00 0.00 มาก 1.50 มาก 7. ครใู ห้โอกาสนกั เรยี นซักถามปญั หา 89.47 6.02 0.00 0.00 0.75 8. ครสู ่งเสรมิ ให้นกั เรียนทางานรว่ มกัน 9.77 88.72 เป็นกลุ่ม / ทีม 1.50 9. ครูสง่ เสรมิ ใหน้ กั เรยี นมคี วามคดิ ริเร่มิ 4.51 93.98 2.26 0.00 0.00 และรูจ้ กั วพิ ากษว์ ิจารณ์ 0.00 10. ครูยอมรบั ความคิดของนกั เรยี นท่ี 90.23 9.77 0.00 0.00 ตา่ งไปจากครู 2.26 11. ครใู ห้ความสนใจแก่นกั เรยี นอย่าง 86.47 12.03 0.00 0.00 ท่ัวถงึ ขณะท่สี อน 12. ครูใช้วิธีการสอนหลายวิธี (เช่น 97.74 1.50 0.00 0.00 การทางานกลมุ่ , โครงงาน , จับคู่ ฯลฯ) 13. ครสู ง่ เสรมิ ให้นกั เรียนคน้ ควา้ หา 84.21 14.29 0.00 0.00 ความรูจ้ ากหอ้ งสมุดหรอื แห่งอนื่ ๆ 14. ครูสามารถประยุกตส์ งิ่ ท่สี อนเข้า 92.48 5.26 0.00 0.00 กับสภาพสงั คมและแหล่งอื่น ๆ 15. ครูส่งเสรมิ ให้ทดลอง/ทางานใน 3.76 96.24 0.00 0.00 ห้องปฏบิ ตั ิการหรือนอกช้ันเรียนบอ่ ย ๆ 16. ครูจดั กิจกรรมให้เรยี นรูจ้ ากแหลง่ 13.53 84.21 0.00 0.00 การเรยี นรภู้ ายนอกห้องเรยี น

22 กจิ กรรม มากที่สุด มาก ปาน น้อย ควร Mode กลาง ปรับปรุง 17. นักเรยี นทราบเกณฑก์ าร 6.02 91.73 2.26 มาก ประเมินผลลว่ งหน้า 0.00 0.00 18. นักเรยี นมสี ่วนรว่ มในการ 82.71 15.04 2.26 มากท่ีสดุ ประเมินผลการเรยี น 96.24 3.76 0.00 0.00 0.00 มากทส่ี ดุ 19. ครูประเมนิ ผลอย่างยตุ ิธรรม 94.74 3.76 1.50 0.00 0.00 มากที่สุด 20. ครตู ั้งใจสอน ให้คาแนะนา 0.00 0.00 นักเรียนในการทากจิ กรรม 4.51 95.49 0.00 มาก 21. นกั เรยี นชอบเรียนหนว่ ยการเรียน 0.00 0.00 น้ี 93.23 5.26 1.50 มากทีส่ ุด 22. นกั เรยี นชอบครูทสี่ อนหน่วยการ 0.00 0.00 เรียนรู้น้ี 97.74 1.50 0.75 มากที่สดุ 23. นกั เรียนนาความรจู้ ากหนว่ ยการ 0.00 0.00 เรียนรูน้ ไี้ ปใช้ในชวี ิตประจาวนั ได้ 94.74 3.01 2.26 มากท่ีสดุ 24. ความร้จู ากหน่วยการเรียนรนู้ ้ี 92.48 4.51 3.01 0.00 0.00 มากทส่ี ดุ สามารถนาไปประกอบเป็นอาชีพได้ 64.42 33.47 2.11 มากท่สี ดุ 25. นกั เรียนเรยี นอยา่ งมีความสุข 0.00 0.00 0.00 0.00 รวม จากตารางที่ 14 ผลการประเมนิ การสอนของครูโดยนักเรียนจานวน 133 คน ปรากฏวา่ อยใู่ นระดบั มากท่สี ุด คิดเป็นร้อยละ 64.42 มาก คดิ เปน็ ร้อยละ 33.47 ปานกลาง คิดเปน็ ร้อยละ 2.11

23 4. ข้อมูลผลการประเมินการปฏิบัติหน้าที่ครูที่ปรึกษาและครูผู้สอนตามมาตรฐานด้านคุณภาพ ผู้เรยี น ของมาตรฐานการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พ.ศ. 2554 มาตรฐานที่ 1 คณุ ภาพของผ้เู รียน ตารางท่ี 14 แสดงคุณภาพของผเู้ รยี น ตามมาตรฐานท่ี 1 จาแนกตามระดบั คุณภาพ ระดับคณุ ภาพ ท่ี ตัวบง่ ช้ี จานวน ดเี ย่ียม ดมี าก ดี พอใช้ ควร ฐานนยิ ม นกั เรยี น (5) (4) (3) (2) ปรับปรุง (Mode) (1) 1.1 ผลสมั ฤทธิ์ทางวิชาการของผูเ้ รียน มีความสามารถในการอ่าน การเขียน 17 10 4 2 1 0 ดเี ย่ียม 1) การสอ่ื สารและการคดิ คานวณ มีความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ คิด 17 9 5 3 0 0 ดีเย่ียม 2) อย่างมีวิจารณญาณ อภิปราย แลกเปลยี่ นความคดิ เห็น และ แกป้ ัญหา 3) มคี วามสามารถในการสรา้ งนวตั กรรม 17 7 4 3 2 0 ดีเย่ียม 4) มีความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 17 9 5 3 0 0 ดเี ยี่ยม สารสนเทศ และการส่ือสาร 5) มผี ลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นตามหลกั สตู ร 17 3 9 3 2 0 ดมี าก สถานศกึ ษา 6) มคี วามรู้ทกั ษะพื้นฐาน และเจตคตทิ ี่ดี 17 14 3 0 0 0 ดเี ยี่ยม ตอ่ งานอาชีพ 1.2 คุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงคข์ องผ้เู รียน 1) การมีคุณลักษณะและค่านิยมท่ีดีตามที่ 17 16 1 0 0 0 ดเี ยี่ยม สถานศกึ ษากาหนด 2) ความภมู ิใจในทอ้ งถ่ินและความเป็นไทย 17 16 1 0 0 ดีเยี่ยม 3) การยอมรบั ที่จะอยรู่ ่วมกันบนความ 17 16 1 0 0 0 ดเี ยี่ยม แตกต่างและหลากหลาย 4) สขุ ภาวะทางร่างกายและจติ สังคม 17 8 6 3 0 0 ดเี ย่ียม

24 จากตารางที่ 14 แสดงว่า 1. ด้านผลสัมฤทธท์ิ างวชิ าการของผู้เรยี น ตัวบ่งชี้ท่ี 1 นกั เรยี นมคี วามสามารถในการอ่าน การเขยี น การสือ่ สารและการคิดคานวณ อยู่ในระดับคุณภาพ ดี ตวั บ่งชท้ี ่ี 2 นักเรียนมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ อภิปรายแลกเปล่ียนความ คิดเห็น และแก้ปัญหา อยใู่ นระดับคุณภาพ ดเี ยย่ี ม ตัวบง่ ชท้ี ่ี 3 นักเรยี นมคี วามสามารถในการสรา้ งนวัตกรรม อยู่ในระดบั คณุ ภาพ ดเี ยี่ยม ตวั บง่ ชท้ี ี่ 4 นกั เรยี นมคี วามสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ และการส่อื สาร อย่ใู นระดบั คุณภาพ ดเี ยย่ี ม ตวั บ่งชี้ท่ี 5 นักเรยี นมผี ลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นตามหลกั สูตรสถานศกึ ษา อยใู่ นระดับคณุ ภาพ ดีมาก ตวั บง่ ชท้ี ่ี 6 นักเรียนมคี วามรทู้ ักษะพน้ื ฐาน และเจตคติทดี่ ี อยใู่ นระดับคณุ ภาพ ดีเยีย่ ม 2. ด้านคณุ ลักษณะท่ีพึงประสงค์ของผู้เรยี น ตัวบง่ ช้ีท่ี 1 นกั เรียนมคี ณุ ลักษณะและคา่ นิยมทด่ี ตี ามทส่ี ถานศึกษากาหนด อยใู่ นระดับคุณภาพ ดีเยย่ี ม ตัวบง่ ชที้ ่ี 2 นักเรยี นมีความภมู ิใจในทอ้ งถ่ินและความเป็นไทย อยู่ในระดับคุณภาพ ดีเย่ยี ม ตัวบง่ ชี้ที่ 3 นักเรียนยอมรับที่จะอย่รู ว่ มกนั บนความแตกต่างและหลากหลาย อยู่ในระดับคุณภาพ ดีเย่ียม ตวั บ่งชีท้ ี่ 4 นักเรยี นมีสุขภาวะทางร่างกายและจติ สังคม อยใู่ นระดบั คณุ ภาพ ดีเยย่ี ม

25 มาตรฐานท่ี 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนทเ่ี นน้ ผ้เู รียนเปน็ สาคญั ตารางท่ี 15 แสดงคณุ ภาพของกระบวนการจัดการเรยี นการสอนทีเ่ น้นผเู้ รียนเป็นสาคัญ ตามมาตรฐานที่ 3 จาแนกตามระดบั คุณภาพ ระดับคณุ ภาพ ท่ี ตัวบ่งช้ี ดีเยี่ยม ดมี าก ดี พอใช้ ควร (5) (4) (3) (2) ปรับปรงุ (1) 1) จัดการเรียนรผู้ ่านกระบวนการคดิ และปฏบิ ตั ิจริง และ  สามารถนาไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ติ ได้   2) ใชส้ อื่ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรยี นรูท้ ีเ่ อื้อตอ่  การเรียนรู้ 3) มกี ารบรหิ ารจดั การช้นั เรยี นเชิงบวก  4) ตรวจสอบและประเมนิ ผูเ้ รยี นอยา่ งเป็นระบบ และนาผลมาพฒั นาผ้เู รยี น 5) มีการแลกเปล่ยี นเรยี นรแู้ ละใหข้ ้อมูลสะท้อนกลับ เพ่อื พัฒนาและปรบั ปรุงการจดั การเรยี นรู้ จากตารางที่ 15 แสดงว่า ตวั บง่ ชท้ี ี่ 1 ครูจัดการเรียนรผู้ า่ นกระบวนการคดิ และปฏิบตั จิ ริง และสามารถนา ไปประยกุ ต์ใช้ ในชวี ติ ได้ อยูใ่ นระดบั คุณภาพดมี าก ตัวบง่ ชที้ ี่ 2 ครใู ชส้ ่ือ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหลง่ เรียนรู้ทเี่ ออ้ื ต่อการเรยี นรู้ อย่ใู นระดบั คุณภาพดเี ย่ยี ม ตวั บ่งช้ที ี่ 3 ครมู กี ารบรหิ ารจัดการชน้ั เรียนเชงิ บวก อยูใ่ นระดบั คุณภาพดเี ยยี่ ม ตัวบ่งชท้ี ่ี 4 ครมู ีการตรวจสอบและประเมนิ คณุ ภาพการจัดการเรียนรู้อย่างเปน็ ระบบ ประเมิน ตามสภาพจริง และใหข้ อ้ มลู ย้อนกลบั แกน่ ักเรียนในการนาไปพัฒนาการเรียนรู้ อยู่ในระดับคุณภาพดมี าก ตัวบ่งชี้ที่ 5 ครูมีการแลกเปล่ียนเรียนรู้และให้ข้อมูลสะท้อนกลับ เพ่ือพัฒนาและปรับปรุงการ จดั การเรยี นรู้ อยใู่ นระดบั คุณภาพดีมาก

26 5. สรปุ อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ สรปุ ผลการปฏิบัติงาน ด้านงานสอน ปีการศึกษา 2562 น้ันได้ปฏิบัติหน้าที่การสอนในระดับช้ัน ประถมศึกษาปีท่ี 1 - 5 และระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ จานวน 18 ช่ัวโมง และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จานวน 4 ชั่วโมง ได้แก่ กิจกรรมชุมนุม กิจกรรมลกู เสือ- เนตรนารีสามญั แนะแนวและกิจกรรมอบรมคณุ ธรรม จรยิ ธรรม รวมทงั้ หมด 22 ชว่ั โมง/สัปดาห์ หน้าท่ีพิเศษอืน่ ๆ ไดแ้ ก่ งานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศโรงเรยี น,ครูแนะแนว,รับผดิ ชอบงาน โครงการทศั นศกึ ษาแหล่งเรียนร,ู้ รบั ผิดชอบงานธนาคารโรงเรียน,รบั ผดิ ชอบงานประชาสัมพนั ธโ์ รงเรยี น และปฏิบัตงิ านอ่นื ๆ ตามคาสัง่ ของโรงเรียน อภปิ รายผล ในปีการศึกษา 2562 ท่ีผ่านมาได้นาความรู้ ทักษะในด้านต่างๆ ส่งผลให้มีผลงานท่ีโดดเด่น ดงั นี้ 1. การปฏิบัติหน้าที่ครูท่ีปรึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 ตามท่ีได้รับมอบหมายงานระบบการ ดแู ลช่วยเหลอื นักเรียน จานวน 17 คน แบ่งออกเป็น ชาย 6 คนและหญิง 11 คน ซ่ึงนกั เรียนเป็นเด็ก จัดอยู่ในเกณฑ์กลุ่มดี กลุ่มปานกลาง และเด็กพิเศษ ท้ังด้านการเรียนและด้านพฤติกรรม ทาให้ ข้าพเจ้าต้องทาหน้าท่ี ครูท่ีปรึกษาใหเ้ ต็มท่ีมากท่ีสดุ โดยใช้วิธีการพบปะพูดคุยกับนักเรียนบ่อยๆ เพื่อ สอบถามข้อมูลการใช้ชีวิตประจาวันให้เป็นปัจจุบัน มีการทากิจกรรมร่วมกันบ่อยครั้งเพื่อสร้างความสนิท สนมกับนักเรียน ให้คาแนะนา ตักเตือนและคาปรึกษาแก่นักเรียนอย่างสม่าเสมอ มีการไปเยี่ยมบ้าน พบปะกับผู้ปกครองที่บ้านหรือมีการใช้โทรศัพท์ใน การส่ือสารพูดคุยกันอย่างเป็นกันเอง สร้างความ เชื่อมั่นและความไว้วางใจแก่ผปู้ กครองในการใหก้ ารดูแล บุตรหลานของเขา จัดกิจกรรมการประชุม ช้นั เรียนเพ่ือร่วมกันปรึกษาหารือ วิธีการส่งเสริมด้านการเรียนและป้องกันปัญหาพฤติกรรม โดยได้รับ ความร่วมมอื จากผู้ปกครองทุกคน โดยยึดหลักปฏิบัติว่า “เนน้ ให้นกั เรียนเป็นคนดี มจี ติ สาธารณะ เพื่อ นาไปสู่การเปน็ คนเก่งตามความถนัดและกาลังความสามารถของตนเอง สามารถอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนใน สงั คมได้อยา่ งมีความสขุ ” 2. งานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ข้าพเจ้าได้นาผลจากการดาเนินการที่ได้มาพัฒนา ปรบั ปรุงการดาเนินงานให้เป็นระบบและมปี ระสทิ ธภิ าพ เพอื่ บริการและอานวยความสะดวกแกบ่ คุ คลท่ี เกี่ยวข้อง เช่น ครูท่ีปรึกษา นักเรียนและผู้ปกครอง รวมท้ังมีการจัดกิจกรรมตามที่ กาหนดให้มี ประสิทธิภาพมากท่ีสุด 3. งานกจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน จัดกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี นตามท่ีหลกั สตู รกาหนด เพอื่ นาความรู้ ทไี่ ด้มาใช้ในการจัดกจิ กรรมให้หลากหลาย เหมาะสมกบั ความตอ้ งการของผ้เู รียนและสง่ เสริมทกั ษะดา้ น ต่างๆ ของผู้เรยี นตามศักยภาพ รวมทง้ั เปน็ ไปตามนโยบายเรียนฟรี 15 ปี สรุปผลจากการปฏิบัติหน้าท่ี ท้ังด้านงานสอนและหน้าท่ีพิเศษน้ัน ข้าพเจ้าได้นาความรู้และ ประสบการณ์ท่ีได้รับจากการศึกษาหาความรู้เพ่ิมเติมจากแหล่งต่าง ๆ เช่น การเข้าร่วมการอบรม สัมมนา การประชุมเชิงปฏิบัติการ หนังสือ ตารา ส่ือเทคโนโลยี อินเทอร์เน็ต เป็นต้น มาปรับใช้ใน กระบวนการจัดการเรียนการสอนให้นกั เรยี นเกิดความรู้ ทักษะที่จาเป็นในการนาไปใชใ้ ห้เกิดประโยชน์ ในชีวติ ประจาวัน ส่วนการปฏิบัตหิ น้าทง่ี านพิเศษ ได้ตงั้ ใจและทุ่มเทตามกาลงั ความสามารถของตนเอง ในการดาเนินงาน ทาให้งานสาเร็จลุล่วงตามวัตถปุ ระสงค์เพื่อเกดิ ประโยชน์ต่อนกั เรียนและทางราชการ สูงสดุ

27 ข้อเสนอแนะ 1. ควรมีการนาปราชญ์ชาวบา้ น/วทิ ยากรท้องถน่ิ เข้ามามีสว่ นร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียน การสอน 2. อยากเข้าร่วมการอบรมเชิงปฏิบัติการเก่ียวกับเทคนิคการจัดการเรียนการสอน เพื่อจะได้ นามาใช้ปรบั ปรงุ การสอนให้เกิดประสิทธิภาพแกน่ ักเรียนสูงทส่ี ดุ 3. กิจกรรมพิเศษทไ่ี ดร้ ับจากหนว่ ยงานตน้ สงั กดั และสว่ นราชการอ่ืนๆ มีมากเกนิ ไป ทาใหเ้ บียด บงั เวลาในการเรยี นการสอนของนกั เรียนและครู ควรลดกจิ กรรมทไี่ ม่จาเปน็ ลง ลงชื่อ ผรู้ ายงาน (นายอินทุวัทน์ ทาปญั ญา) ตาแหน่ง ครโู รงเรยี นบา้ นปวงคา (ประชาอุทิศ) ความคดิ เห็นของผอู้ านวยการโรงเรียน .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... ลงชอื่ (นายชนะชยั เหลอื งอ่อน) ตาแหนง่ ผู้อานวยการโรงเรียนบา้ นปวงคา (ประชาอุทิศ)

ภาคผนวก - สำเนำคำสงั่ - ภำพกจิ กรรมกำรอบรม /ประชุม / สมั มนำ - สำเนำเกยี รตบิ ัตร วฒุ บิ ตั ร - ประมวลภำพกิจกรรม - อื่นๆ ที่เก่ียวข้อง

สำเนำคำส่งั

ภาพกจิ กรรม การอบรม / ประชุม /สมั มนา

การเข้ารว่ มการอบรมเรือ่ งสถาบนั พระมหากษัตรยิ ก์ บั ประเทศไทย “เป็นเบ้า เปน็ แมพ่ มิ พ์” วันที่ 19 เมษายน 2562 ณ องคก์ ารบริหารส่วนจงั หวัดลาพูน ******************

การเข้ารว่ มการอบรมเชงิ ปฏบิ ัตกิ าร ครูผู้สอน Robot ระดบั ประถมศึกษา-มธั ยมศกึ ษา วันท่ี 30 เมษายน 2562 ณ โมเดิร์น Education เชยี งใหม่ ******************

การเข้ารว่ มการอบรมเชงิ ปฏบิ ัติการ จัดการเรียนรู้วทิ ยาการคานวณ ระดับประถมศกึ ษา วนั ที่ 1-2 พฤษภาคม 2562 ณ สพป.ลพ.2 ******************

การเข้ารว่ มการอบรมครูผูส้ อน โครงการบรู ณาการสะเต็มศึกษา ปกี ารศกึ ษา 2562 มัธยมศกึ ษาตอนตน้ วนั ท่ี 9-11 พฤษภาคม 2562 ณ โรงเรียนบา้ นแมเ่ ทย สพฐ.100 สพป.ลพ.2 ******************

อบรมพฒั นาครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา (ระดบั ประถมศกึ ษา) เรือ่ งการพฒั นาผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนในบรรลมุ าตรฐานและตวั ช้ีวัด ในกลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ และภาษาอังกฤษ ตามกระบวนการทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาตขิ นั้ พน้ื ฐาน (O-NET) ณ อาคารเมืองนักบญุ ทว่ี า่ การอาเภอล้ี จ.ลาพนู ในวันท่ี 25 พฤศจิกายน พ.ศ.2562

สำเนำ เกียรตบิ ตั ร วฒุ บิ ตั ร