เทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ รถยนต์อจั ฉรยิ ะ (Intelligent Vehicle) เรยี บเรียงโดย นายเมธี แมลงภู่ สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ วทิ ยาลัยเทคนคิ สุโขทัย
เทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ รถยนตอ์ จั ฉริยะ (IntelligentVehicle) การเดนิ ทางในอนาคตไมไ่ กลนี้ จะเตม็ ไปดว้ ยความปลอดภยั อย่างสูงสดุ ด้วยเทคโนโลยรี ถยนต์อัจฉริยะ ท่ีไม่ต้องการคนขบั โดยรถอัจฉรยิ ะจะมีระบบตรวจวดั หลายประเภทติดทตี่ วั รถ และส่งผา่ นไปเครื่องสือ่ สาร แลว้ นามาประมวลผลคานวณเสน้ ทางและควบคมุ การเคลื่อนท่ีของรถยนตอ์ จั ฉรยิ ะ ซ่ึงได้พัฒนามาจาก Artificial Intelligence หรือ AI มนษุ ยเ์ ราทุกวนั นนี้ ั้นสามารถออกแบบและสร้าง ให้รถยนต์มคี วามสามารถทจี่ ะทาการขับเคลอ่ื นได้ อยา่ งชาญฉลาด ทาการเล้ยี วซ้ายเลย้ี วขวาได้ดงั ใจต้องการ แถมดว้ ยมกี ารติดตัง้ ระบบอจั ฉรยิ ะปอ้ งกันอบุ ตั เิ หตุและป้องกันการสูญเสยี น้นั คงจะไม่ใช่เรือ่ งยากเกินจนิ ตนาการของมนุษย์ในยุคสมัยนี้ อกี ต่อไป แต่ความเป็นจริงแล้วกวา่ จะสร้างฝนั สูค่ วามเป็นจริงกไ็ ม่ง่ายนัก หากแตค่ วามพยายามของ คนไมเ่ คยหยุดน่ิง ดงั น้ันแลว้ จึงเกิดเทคโนโลยแี ละนวัตกรรมใหม่ รถยนต์อัจฉรยิ ะ (Intelligent Vehicle) ขนึ้ มา ซงึ่ มรี ะบบหลักการการทางาน และการควบคุม โดยเรมิ่ ตน้ ตั้งแต่ รับข้อมูลจาก อปุ กรณ์ตรวจวัดประเภทต่างๆ ทต่ี ิดตั้งมาบนรถ (Various Sensors)เชน่ อปุ กรณ์ตรวจวัดตาแหนง่ ปัจจบุ ันของรถ, อปุ กรณ์ตรวจวดั ตาแหน่งของรถคันอ่ืนทีเ่ คลื่อนท่ไี ปใน ทศิ ทางเดยี วกนั หรือสวนทางมา, อปุ กรณต์ รวจวดั สง่ิ กีดขวางบนเสน้ ทางการเคลือ่ นที่ ทั้งที่อยู่กับที่และเคล่ือนท่ี, อุปกรณต์ รวจวัดเส้นแบง่ บนเส้นทาง สญั ลกั ษณ์ หรอื สญั ญาณจราจรอ่ืนๆ, อปุ กรณ์การ สอื่ สารระหว่างรถอัจฉริยะดว้ ยกัน ตอ่ จากนัน้ จะนาข้อมูลจากอปุ กรณ์เหล่าน้ีมาประมวลผล (DataProcessing) เพ่ือกาหนดเส้นทางการเคลื่อนที่ และควบคุมการเคลอ่ื นทข่ี องรถยนต์โดยอัตโนมตั ิ และ มคี วามปลอดภัย นอกจากน้ีแล้ว รถยนตอ์ ัจฉริยะยงั สามารถประยุกตใ์ ช้เป็นยานพาหนะสาหรับผู้พิการทางสายตา ผู้ พิการแขน-ขา ผทู้ พุ พลภาพ และผ้สู ูงอายทุ ี่ไม่สามารถขับยานพาหนะเองไดอ้ ีกด้วย ซึ่งพบว่าใน ปจั จบุ นั นี้ มนุษย์เราต้องการที่จะคิดค้นนวัตกรรมใหม่ให้มคี วามเฉลยี วฉลาดเทียบเทา่ กบั ความคิด ความอ่านของมนุษยเ์ อง ซงึ่ ปฏิเสธไมไ่ ด้ว่าต้องเป็นการเช่ือมโยงกันของเร่อื งเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนกิ สต์ ัวจิว๋ ข้อแตกต่างกันของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ (Digital Computer) และระบบโครงขา่ ยประสาทเทยี ม (Artificial Neural Systems) แสดงในตารางที่ 1
เทคโนโลยีนวัตกรรมรถยนตอ์ ัจฉริยะถ้าจะเทียบเคยี งก็คงปฏเิ สธไม่ได้ว่าเปน็ ศาสตรห์ นง่ึ ที่แตกแขนงมาจาก Artificial Intelligence หรอื AI น่ันเอง อยา่ งไรก็ตามยังคงมีการพฒั นาความสนใจใน Artificial Intelligence ซงึ่ เร่ิมจะให้ผลประโยชน์เกดิ ขึ้นในองค์กรได้ Artificial Intelligence เปน็ ทั้งวิทยาศาสตร์และวศิ วกรรมของการ สรา้ งเคร่อื งจักรกล เพื่อให้มคี วามฉลาด มีสตปิ ัญญา โดยเฉพาะโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ท่ีมีสติปญั ญา ซึง่ มนั จะเกย่ี วพันถงึ งานท่จี ะใชค้ อมพวิ เตอร์เพ่ือทาความเข้าใจถงึ สตปิ ญั ญาของมนษุ ย์ ทางด้าน วทิ ยาศาสตร์น้ัน Artificial Intelligence เปน็ ความพยายามทจี่ ะทาความเขา้ ใจถึงส่งิ ทีจ่ าเป็น และ ความสามารถของเครื่องจักรกล สติปญั ญาในหลายๆ แบบ ทง้ั ในมนษุ ย์ สัตวอ์ นื่ ๆ และการจดั การ ขอ้ มูลของเครื่องจกั รกลและหุ่นยนต์สว่ นทางด้านวศิ วกรรมศาสตร์ Artificial Intelligence เปน็ ความพยายามนาความรู้ในการออกแบบ เครอ่ื งจักรกลชนดิ ใหม่ ซงึ่ จะชว่ ยเราในการทางานให้มีประสิทธภิ าพมากขึ้นดว้ ยความเป็นอจั ฉริยะ ของมัน ปญั หาของ A.I. ที่เกดิ ขน้ึ กค็ ือ ยงั ไมส่ ามารถระบุได้ชัดเจนวา่ เคร่อื งจกั รกลแบบใดทส่ี ามารถ เรยี กไดว้ า่ เปน็ Intelligenceในการวจิ ยั A.I. ได้ค้นพบวธิ สี ร้างคอมพิวเตอร์ท่สี ามารถมีสตปิ ญั ญา แต่ก็ไม่ใช่ Intelligence ทง้ั หมดที่แทจ้ ริง โดยท่ีคอมพวิ เตอร์ในทุกวนั นี้สามารถทางานทเี่ ราต้องการตามกาหนดขนึ้ มาเพ่ือเคร่ืองๆ นน้ัได้เปน็ อย่างดี แต่ไมส่ ามารถทาทุกอย่างได้ ดังน้ันจงึ ถือว่าคอมพิวเตอรม์ ีความฉลาดในบางเร่อื งเท่าน้นั ในบางครง้ั A.I. ได้เลยี นแบบสติปัญญาของมนุษย์ แตก่ ็ไม่เสมอไปที่จะเปน็ เชน่ น้นั ในด้านหน่ึงเราสามารถเรียนรู้ที่จะสร้างเคร่ืองจักรกลเพื่อแกป้ ัญหาโดยสงั เกตจากผคู้ น หรือเพยี งแต่สงั เกตจากวิธีการ แกป้ ัญหาของเราแตใ่ นทางกลบั กัน งานหลายๆ อยา่ งที่ A.I. เข้าไปมสี ่วนรว่ มนนั้ จะทาการศึกษาปญั หาจากความรูท้ ว่ั ไป มากกวา่ ท่ีจะ ศึกษาจากมนุษยห์ รือสตั ว์ การวิจยั A.I. ไดเ้ ปิดกวา้ งทจี่ ะสามารถใชว้ ธิ ีท่ไี ม่จาเปน็ ตอ้ งศึกษาหรือสงั เกตจากมนุษย์ ซึ่งสามารถเข้าไปมีส่วนรว่ มในทางานในสิง่ ทม่ี นุษยส์ ามารถทาได้มากกว่า ในปัจจุบนั โครงการรถยนตอ์ จั ฉรยิ ะ (Intelligent Car) เปน็ หน่งึ ในสามโครงการนาร่องภายใตโ้ ครงการ European Information Society 2010 หรือi2010 ซึ่งมจี ดุ ประสงค์ในการกระตุน้ การเจริญเตบิ โตทางเศรษฐกจิ และการสร้างงานในยุโรปผา่ นการ พฒั นาเทคโนโลยที ี่ทนั สมัยแบบดจิ ิตอล อีกท้ังยังม่งุ พฒั นาคุณภาพชวี ิตและการบรกิ ารอันดแี ก่ประชาชน โครงการรถยนต์อัจฉรยิ ะน้ี เป็นโครงการสาคญั ท่ีนาเอาประโยชน์จากวทิ ยาการใหม่ๆ ด้านไอซีทมี าพัฒนาระบบรถยนตใ์ หม้ ีความปลอดภัยและเปน็ มติ รกับสิง่ แวดลอ้ มมากขนึ้ และกระตุน้ การ วจิ ยั และการพฒั นาให้เปน็ รปู ธรรม โดยม่งุ ใหป้ ระโยชนแ์ ก่ประชาชนและมงุ่ เปิดตลาดการค้าตัวอยา่ งระบบด้านไอซีทีที่นามาใช้กับการขนส่งและรถยนต์ ไดแ้ ก่ ระบบการควบคุมเส้นทางอัตโนมตั ิ (Autonomous Cruise Control หรอื ACC) ซง่ึ อาจชว่ ยลดการเกิดอบุ ัตเิ หตุได้ โดยผู้เชีย่ วชาญ คาดการณ์ว่าหากมีการติดต้ังเทคโนโลยี ACC แก่ 10% ของรถยนตท์ งั้ หมดภายในปี 2010 จะสามารถช่วยรกั ษาชวี ติ ผใู้ ชถ้ นนไดป้ ระมาณ 4,000 คนต่อปี และเทคโนโลยีเตอื นการออกจากชอ่ งทาง
และช่วยในการเปลีย่ นชอ่ งทางวิง่ ของรถยนต์ ถ้ามีการนาเทคโนโลยนี ้ีมาใช้เพียง 0.6% ของรถยนต์ ทง้ั หมดในปี 2010 จะสามารถรักษาชวี ิตได้ 1,500 คนต่อปีนอกจากนี้ยังมโี ครงการ AWEAK ซงึ่ เป็นการพัฒนาระบบช่วยเตือนคนขบั ทีม่ ภี าวะการระวงั ตัวต่า เชน่ งว่ งนอน หรอื หลบั ใน มีการประมาณว่าการใชเ้ ทคโนโลยีนจ้ี ะสามารถลดการเกดิ อบุ ัตเิ หตุรถยนต์ ร้ายแรงได้ 9% และลดการเกิดอุบัติเหตุบนทางมอเตอร์เวยไ์ ด้ถึง 30% การพฒั นาโครงการรถยนต์ อัจฉริยะ (Intelligent Car) ของสหภาพยโุ รปเปน็ ประเดน็ สาคัญหนงึ่ ท่ีไทยอาจต้องจับตาในฐานะที่ ไทยเป็นศนู ย์กลางการผลติ รถยนตใ์ นภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ กล่าวคอื เทคโนโลยใี หมๆ่ ของสหภาพยุโรปดงั กล่าวอาจสง่ ผลใหม้ าตรฐานการผลติ รถยนต์ โดยเฉพาะอย่างย่ิงเทคโนโลยใี หมๆ่ ด้านความปลอดภัย และประเดน็ การผลติ รถยนต์ที่เป็นมติ รกบัส่งิ แวดลอ้ มมีความสาคญั มากข้นึ สาหรับยุโรป อกี ทัง้ ในอนาคตสหภาพยุโรปอาจออกกฎหมายและตงั้ มาตรฐานทีเ่ ก่ียวข้องเพอื่ ส่งเสริมโครงการดงั กลา่ ว ซ่งึ ไทยควรใหค้ วามสนใจและเตรียมตัวรับการ เปลี่ยนแปลงดงั กลา่ วในอุตสาหกรรมรถยนต์ หากไทยต้องการเป็นดทิ รอยแห่งเอเชีย ความคบื หน้า ของโครงการการผลติ รถยนต์อจั ฉรยิ ะ จึงเปน็ โครงการท่นี ่าติดตามความเคล่อื นไหวต่อไป รูปที่ 1 แสดงการทางานของระบบการควบคมุ เส้นทางอตั โนมตั ิ โดยทร่ี ถยนต์ที่วงิ่ อยบู่ นเสน้ ทางนนั้ ระบบบริหารการจราจรจะสามารถตรวจสอบตาแหนง่ ปจั จุบันได้ รปู ที่ 2 แสดงการทางานของระบบเบรกฉกุ เฉนิ ในรถยนต์ เมอ่ื บรเิ วณจุดที่ 1เกิดอุบัตเิ หตุ เพอื่ เปน็ การชว่ ยลดการชนกัน เม่อื จุดบริเวณท่ี 2 เบรก สญั ญาณจะส่งไปทร่ี ถยนต์คนั ทีอ่ ย่จู ุด บริเวณที่ 3 ใหเ้ บรกแบบทง้ิ ระยะหา่ งล่วงหน้าทันที
รปู ที่ 3 แสดงการทางานของระบบหอควบคมุ สญั ญาณ โดยสมมุติว่ารถยนต์จดุ บรเิ วณที่ 3 นนั้ เกิดอบุ ัตเิ หตุหรอื เกดิ การชารดุ เสียหาย สญั ญาณท่รี ถยนต์จะสง่ ต่อไปยังหอควบคุม เพ่ือทห่ี อควบคมุ จะได้ส่งสัญญาณไปขอความช่วยเหลือซ่ึงโครงการในประเทศไทยเองนั้น สมาคมวชิ าการหนุ่ ยนต์ไทยไดร้ ่วมกับศนู ย์เทคโนโลยอี เิ ลก็ ทรอนิกส์ และคอมพวิ เตอรแ์ ห่งชาติ (เนคเทค) ได้จัดสัมมนา เรอ่ื ง “ประเทศไทยจะพัฒนารถยนต์อัจฉริยะไร้คนขบั คนั แรกได้อย่างไร” เพ่ือเผยแพร่ความรู้และกระต้นุ ใหเ้ กิดการพฒั นาทางด้านเทคโนโลยีเชือ่ มตอ่ งานวจิ ยั ให้สามารถขยายผลเขา้ สูเ่ ชิงอตุ สาหกรรมและเชิงพาณิชยไ์ ด้อยา่ งแพรห่ ลาย อีกทัง้ ยงั เพม่ิ ศกั ยภาพการแข่งขนั ให้กบั ประเทศ ท้ังนี้โครงการพัฒนารถยนตอ์ ัจฉริยะไรค้ นขับ โดยได้รับความรว่ มมือในลกั ษณะเครือข่ายการวจิ ยั จาก 12 สถาบันได้แก่ มหาวทิ ยาลัยจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย, สถาบนั เทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.), มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.), มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบรุ ี (มจธ.), มหาวทิ ยาลยักรุงเทพ, สถาบันเทคโนโลยพี ระจอมเกล้าพระนครเหนือ (สจพ.), สถาบนั เทคโนโลยีนานาชาติสริ ินธร(SIIT)} มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ (มก.), มหาวิทยาลยั มหิดล, สถาบันเทคโนโลยีแหง่ เอเชีย (เอไอที), มหาวทิ ยาลัยนเรศวร (มน.), และโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกลา้ (จปร.), ซง่ึ จากความรว่ มมอื ดังกลา่ ว เป็นโครงการเพ่ือพัฒนารถยนตท์ ่มี คี วามเป็นอัจฉรยิ ะ สามารถทจ่ี ะ ขับเคล่ือนจากสถานที่หนงึ่ ไปยังอกี สถานทีห่ นึ่งได้โดยปราศจากคนบงั คบั และอาศัยเพียงการป้อน ขอ้ มลู สถานท่ีเปา้ หมายของผู้โดยสาร และรถยนตจ์ ะสามารถทจี่ ะรบั รู้ขอ้ มูลจากอปุ กรณ์ตรวจวดัประเภทตา่ งๆ ที่ติดต้ังในรถยนต์ เชน่ อปุ กรณต์ รวจวดั ตาแหน่งปัจจุบันของรถยนต์, อปุ กรณ์ตรวจวดัตาแหน่งของรถยนต์คันที่สวนทางมา, อปุ กรณต์ รวจวดั สิง่ กีดขวางทง้ั ท่ีอยูน่ ิ่งและเคลื่อนที่บนเส้นทาง, อุปกรณ์ตรวจวดั สัญญาณจราจรเปน็ ต้นแตล่ ะสถาบันจะรับผิดชอบในโครงการยอ่ ยตามความถนดั โดยมีสถาบันเอไอทบี รหิ ารโครงการโดยรวมท้ัง 12 โครงการ ในส่วนงานวจิ ยั ทางกลไกของรถยนต์อัจฉริยะรบั ผดิ ชอบโดย จฬุ าฯ และ สจล. สว่ นงานด้านอุปกรณ์ตรวจวดั เชน่ การใชส้ ัญญาณภาพตรวจจบั สง่ิ กดี ขวาง เป็นต้น รบั ผดิ ชอบโดย มจธ.ม.กรงุ เทพ และ สจพ. งานส่วนระบบควบคุม เช่น ควบคมุ ทิศทางการเคลื่อนท่ี เป็นตน้ รับผดิ ชอบโดยSIIT มหิดล และ มก. ในสว่ นเชอ่ื มตอ่ การแสดงผลกับผู้ใชแ้ ละควบคุมทางไกล รับผิดชอบโดย เอไอที จากน้ันเม่ือทุกสว่ นทาสาเรจ็ ก็จะนาผลงานมารวมกันเพื่อสร้างเป็น “รถยนต์อจั ฉรยิ ะ” ตน้ แบบ การใชส้ ัญญาณภาพตรวจจับสงิ่ กีดขวางในรถยนต์อจั ฉรยิ ะ
ในส่วนของการใช้สัญญาณภาพเพื่อท่ีจะทาการตรวจจบั สง่ิ กดี ขวางในรถยนต์อจั ฉรยิ ะน้ัน บรษิ ัทเอน็ อีซี ซงึ่ เปน็ บริษทั ยักษใ์ หญท่ ีม่ ีความเชย่ี วชาญในการประกอบธุรกิจการจาหนา่ ยชิปตรวจจบั ภาพสาหรบัรถยนต์นัน้ ได้ระบุว่าชปิ ลอตแรกจะส่งให้กับโตโยตา้ มอเตอร์ อตุ สาหกรรมชิปสาหรบั รถยนตน์ นั้ ต่นื ตวั เพ่อื รบั ความต้องการ “รถยนต์อัจฉริยะที่มีหลากหลายฟังก์ชนั ” ของผู้บรโิ ภค ซ่ึงปัจจุบนั ชิป อิเลก็ ทรอนิกส์น้ัน ไดเ้ ข้ามามีบทบาทต่อการควบคมุ การทางานของรถยนต์อย่างมาก ตั้งแต่การล็อคประตูไปจนถึงการขบั ข่ี จุดนเ้ี องท่ีทาใหเ้ อน็ อีซี (NEC Electronics) คาดหวงั ว่าในปี 2015 เอน็ อีซีจะ สามารถครองสว่ นแบง่ การตลาดในตลาดชิปสาหรับรถยนตไ์ ด้ 40 เปอร์เซน็ ต์ โดยชปิ ประมวลผลภาพสาหรบั รถยนต์น้นั เอ็นอซี ีมองวา่ เป็นตลาดเกดิ ใหม่ท่ีสามารถจะขยายตวัตอ่ เนื่องตอ่ ไปได้ในอนาคต “ถ้าเป็นปี 2015 ส่วนแบ่งทางตลาดของเราอาจจะมีเพียงไม่กี่เปอร์เซน็ ต์แตด่ ้วยจานวนฟงั กช์ ันใหม่ๆ ในรถยนต์ที่ต้องอาศัยการจาแนก และการวิเคราะห์ของชปิ ประมวลผล ภาพทเ่ี พ่ิมขน้ึ ทาใหเ้ ราตัง้ เปา้ ว่า ชอ่ื เอ็นอซี ี นน้ั จะเปน็ มาตรฐานชปิ ประมวลผลภาพให้กับผู้ผลิต รถยนต์ทัว่ โลกได้ในปี 2015” โยชิโรอุ มยิ าจิ (Yoshirou Miyaji) ผจู้ ดั การทัว่ ไปธุรกจิ ระบบภายใน รถยนตข์ องเอน็ อีซีกลา่ วใหส้ ัมภาษณก์ ับผ้สู ่อื ข่าวรอยเตอร์สLexus LS460 รนุ่ ใหมล่ า่ สุดที่เลก็ ซสั จะเตรยี มเปดิ ตวั อย่างย่ิงใหญ่ในฤดูใบไม้รว่ งน้ี จะมาพรอ้ มกับชิป ประมวลผลภาพทีช่ ว่ ยใหก้ ารทางานของรถยนต์เปน็ ไปอย่างอัตโนมัตมิ ากขน้ึ ยกตวั อย่างเช่น ระบบเบรกอัตโนมตั ิทจ่ี ะทางานทนั ทีหากรถยนต์มีความเส่ียงทีจ่ ะชนกบั รถยนต์คนั อนื่ หรือสงิ่ กีดขวาง โดยที่ ระบบเบรกดังกลา่ วจะหยดุ รถยนต์ก่อนการชนจะเกิดข้ึนเพียงไม่กี่วนิ าที เมือ่ ระบบวเิ คราะห์พบว่ารถยนตจ์ ะชนกบั วัตถุอยา่ งแน่นอน ซึ่งสามารถชว่ ยป้องกันไม่ให้เกดิ การชนกัน หรอื บรรเทาผลกระทบ ท่อี าจเกดิ ขึ้นให้มคี วามร้ายแรงนอ้ ยลง นอกจากเล็กซัสแล้ว ฮอนด้ามอเตอร์กป็ ระกาศว่ากาลงั อยู่ ระหว่างการพฒั นารถยนต์ที่มีระบบเตือนให้ผขู้ บั ขห่ี ักเลย้ี วหลบก่อนพุ่งเข้าชนวัตถดุ ว้ ยเอ็นอีซีคาดการณต์ ัวเลขการเติบโตของยอดจาหนา่ ยชปิ ประมวลผลภาพสาหรบั รถยนต์ในปี 2015 ว่า จะสงู ถึง 2 หมนื่ ล้านเยน หรือประมาณ 6.9 พนั ล้านบาท ซ่ึงคดิ เป็นสัดส่วนรายไดร้ าว 3 เปอร์เซ็นต์ เมอื่ เทียบกบั ยอดขายรวมของเอน็ อซี ีในปกี ารเงนิ 2005 เอ็นอซี เี ปิดเผยว่า อตั ราการผลติ ชิปสาหรับรถยนต์จะอย่ทู ี่ 1 หมน่ื ช้ินต่อเดอื นได้ภายในปกี ารเงนิ 2007 โดยในปี 2010 คาดว่าจะมีรถยนตซ์ ่ึงใช้ชปิ ประมวลผลภาพของเอ็นอีซรี าว 4 ลา้ นคัน กอ่ นจะเพ่ิมจานวนขึ้นเปน็ 8.6 ล้านคนั ในปี 2012 และ 18 ล้านคนั ในปี 2015 ความเคลือ่ นไหวของเอน็ อีซใี นครง้ั น้ีจงึ แสดงให้เหน็ ถึงความเช่อื ม่ันใน อุตสาหกรรมรถยนต์วา่ จะมีความตอ้ งการระยะยาวที่มนั่ คง สาหรับเทคโนโลยีวิเคราะห์ภาพน้ันเป็นที่แพรห่ ลายในตลาดรกั ษาความปลอดภยั เชน่ การใชง้ าน ควบคูก่ ับระบบกล้องวงจรปดิ ภายในอาคาร เพ่ือตรวจสอบและปอ้ งกันเหตรุ า้ ยท่อี าจเกิดขึ้น แต่ในตลาดรถยนต์แลว้ เทคโนโลยวี เิ คราะห์ภาพยังคงเปน็ กลุ่มท่ีมีขนาดเลก็ อยใู่ นปัจจุบัน รูปท่ี 4 แสดงให้ เห็นถึงการทางานของระบบเซน็ เซอร์สัญญาณเตือนทีต่ ิดต้ังอยู่ในรถยนตข์ องเจเนอรลั มอเตอร์ ซ่ึง นามาเปิดเผยภายในงานคอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนกิ สโ์ ชว์ ที่ลาสเวกสั สหรัฐอเมริกา โดยรถยนตใ์ นอนาคตจะมีคอมพิวเตอรช์ ปิ เสาอากาศท่เี ชอื่ มต่อกันภายในรถกับเครือข่ายดาวเทยี มและแผนทดี่ จิ ิทลั เรเดาร์จะส่งสัญญาณเตือนหากเปลย่ี นเลนหรือมีรถคนั อน่ื มาใกล้
รปู ที่ 4 แสดงการทางานของระบบเซน็ เซอรส์ ัญญาณเตือนท่ีติดตัง้ อยใู่ นรถยนต์ สรุปรถยนตอ์ ฉั ริยะเป็นสงิ่ ท่ีอานวยความสะดวกสบายของมนษุ ยเ์ รามากข้ึน เพราะมีการพฒั นารถยนตอ์ ฉั ริยะอยู่ตลอดเวลาเพ่ือให้มีความปลอดภัยกบั เรามากทส่ี ุด แตห่ ากมองในอีกทางอาจจะทาให้มนุษย์เกิดความประมาทมากขน้ึ ยงิ่ เทคโนโลยลี ้าหนา้ มากเท่าไร วัฒนธรรม ประเพณี และความดั้งเดมิ ของอดีตกจ็ ะเลอ่ื นหายไปเรื่อยๆจนกระทง่ั ไม่เหลอื อะไรเลย รถยนต์อฉั ริยะใหไ้ ด้ท้ังคุณประโยชน์และสามารถเปน็ อาวธุ ทสี่ ามารถเปลยี่ นชวี ิตเราได้โดยทเ่ี ราไมร่ ตู้ วัปัจจุบนั โลกเรามีการพฒั นาเทคโนโลยมี ากขน้ึ จนก้าวไกลเกินกว่าทเ่ี ราจะไลต่ ามทนั เทคโนโลยีอาจจะทาให้เรามีความสะดวก สบาย ทนั สมยั ทนั เหตกุ ารณ์ แตอ่ าจจะทาใหเ้ รามีความสมั พนั ธ์กับบคุ คลรอบข้างน้อยลง ไมว่ ่าจะเปน็ ครอบครัว เพื่อนร่วมงาน ฯลฯ เป็นต้นข้อดีของการนารถยนตอ์ ัฉริยะมาใชใ้ นชวี ดิ ประจาวัน1. สามารถทาใหเ้ ราเดินทางแบบปลอดภยั2. สามารถทางานไดม้ ีประสิทธภิ าพ3. สามารถลดปัญหาการจราจรท่ีตดิ ขัดได้ เชน่ การสารวจเสน้ ทางการเดินทาง5. สามารถทางานไดอ้ ัตโนมัติ เชน่ ระบบไร้คนขับข้อเสยี ของการนารถยนต์อฉั รยิ ะมาใชใ้ นชีวติ ประจาวัน1. รถยนต์อฉั รยิ ะมรี าคาแพง2. รถยนต์อฉั ริยะยังมีข้อท่ดี ้อยกวา่ มนุษย์อยู่ในบางดา้ น3. รถยนต์อัฉรยิ ะตอ้ งปรับปรุงอกี มากทมี่ า : http://www.thailandindustry.com/guru/view.php?id=9176§ion=9&rcount=Y
Search
Read the Text Version
- 1 - 7
Pages: