7.2 แบบ พฐ.01 - แบบ พฐ.25 8. ขอ้ กฎหมำยทเ่ี กย่ี วข้อง 8.1 พระรำชบัญญัตกิ ำรศึกษำแห่งชำติ พ.ศ. 2542 และแก้ไขเพิ่มเติม 8.2 พระรำชบญั ญัตกิ ำรศกึ ษำภำคบังคบั พ.ศ. 2545 8.3 พระรำชบญั ญัติเคร่อื งแบบนกั เรยี น พ.ศ. 2551 8.4 พระรำชบญั ญตั กิ ำรทะเบยี นรำษฎร พ.ศ. 2534 8.5 กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีกำรกระจำยอำนำจกำรบรหิ ำรและกำรจัดกำรศึกษำ 8.6 กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑแ์ ละวิธีกำรนับอำยเุ ด็กเพ่ือเข้ำรับกำรศึกษำภำคบังคบั 8.7 ประกำศกระทรวงศึกษำธกิ ำร เร่ือง กำรส่งเดก็ เข้ำเรยี นในสถำนศกึ ษำ พ.ศ. 2546 8.8 ประกำศกระทรว งศึกษำธิกำร เร่ือง หลกั เกณฑ์และวิธกี ำรปฏบิ ตั ิสำหรับผ้ทู ีม่ ิใชผ่ ปู้ กครองซึง่ มเี ด็กที่มี อำยใุ นเกณฑก์ ำรศึกษำภำคบงั คับไม่ไดเ้ ข้ำเรยี นในสถำนศึกษำอำศัยอยู่ พ.ศ. 2546 8.9 ประกำศกระทรวงศึกษำธกิ ำร เร่อื ง กำรรบั เดก็ เขำ้ เรยี นในสถำนศกึ ษำ พ.ศ. 2546 8.10 ประกำศกระทรวงศึกษำธิกำร เรื่อง หลักกณฑ์และวิธีกำรผ่อนผันให้เด็กเข้ำเรียนก่อนหรือหลังอำยุ ตำมหลกั เกณฑก์ ำรศกึ ษำภำคบงั คบั พ.ศ. 2546 8.11 ระเบียบกระทรวงศึกษำธิกำรว่ำด้วยหลักฐำนในกำรรับนักเรียน นักศึกษำ เข้ำเรียนในสถำนศึกษำ พ.ศ. 2548 8.12 ระเบยี บกระทรวงศกึ ษำธกิ ำรว่ำดว้ ยเคร่ืองแบบนักเรียน พ.ศ. 2551 9. เอกสำรอ้ำงองิ
1. ช่ืองำน (กระบวนงำน) ข้อ 10.3 กำรพฒั นำกำรศึกษำสำหรับเด็กไร้สญั ชำติ และต่ำงชำติพันธ์ุ 2. วัตถปุ ระสงค์ 2.1 เพอ่ื ให้เดก็ ท่ีไมม่ หี ลกั ฐำนทำงทะเบียนรำษฎได้เขำ้ เรียนในสถำนศึกษำทุกระดบั 2.2 เพ่ือจัดทำระบบข้อมูลสำรสนเทศเกี่ยวกับเด็กท่ีไม่มีหลักฐำนทำงทะเบียนรำษฎร์ ได้เข้ำเรียนให้ สอดคล้องกับแนวนโยบำยกำรจดั กำรศกึ ษำตำมแผนกำรศึกษำแหง่ ชำติ 1.3 เพ่อื เปน็ ศนู ย์ประสำนงำนกบั หน่วยงำนทเ่ี กีย่ วขอ้ งกับกำรศึกษำของเดก็ ไร้สญั ชำติ 3. ขอบเขตงำน 3.1 ให้เดก็ ทไี่ ม่มีหลกั ฐำนทำงทะเบยี นรำษฎร์ได้เข้ำเรียนในสถำนศึกษำทุกระดับ 3.2 จัดทำระบบข้อมูลสำรสนเทศเกยี่ วกับเด็กทีไ่ ม่มหี ลักฐำนทำงทะเบียนรำษฎร์ ไดเ้ ข้ำเรียนใหส้ อดคล้อง กับแนวนโยบำยกำรจดั กำรศกึ ษำตำมแผนกำรศึกษำแหง่ ชำติ 3.3 เป็นศนู ยป์ ระสำนงำนกับหนว่ ยงำนท่เี ก่ียวขอ้ งกบั กำรศึกษำของเด็กไร้สัญชำติ 4. คำจำกดั ควำม 4.1 เด็กไร้สัญชำติเด็กต่ำงชำติพันธ์ หมำยถึง เด็กทีไม่มีหลักฐำนทำงทะเบียนรำษฎร์ หรือเด็กที่ไมใช่เช้ือ ชำติสัญชำตไิ ทย แตอ่ ำศยั อยู่ในพน้ื ทปี่ ระเทศไทย 4.2 เด็ก และเยำวชน หมำยถงึ เดก็ ทีอ่ ย่ใู นวัยเรียนกอ่ นระดบั อดุ มศึกษำ 5. ข้นั ตอนกำรปฏบิ ัติงำน 5.1 ศกึ ษำกฎมำย ระเบียบและแนวปฏิบตั ิ 5.2 จัดทำขอ้ มลู เด็กไร้สัญชำติ เดก็ ตำ่ งชำติพนั ธ์เพือ่ กำรพฒั นำอย่ำงต่อเน่ือง 5.3 แตง่ ต้งั คณะทำงำนและประชมุ กำหนดแนวทำงกำรพัฒนำ 5.4 นำเสนอคณะอนุกรรมกำรเกี่ยวกับกำรพัฒนำกำรศึกษำ (อกศจ.) กล่ันกรอง และคณะกรรมกำร ศึกษำธกิ ำรจังหวดั (กศจ.) พจิ ำรณำ 5.5 ประสำนหน่วยงำนทเ่ี กย่ี วข้องจดั กำรศกึ ษำตำมควำมเหมำะสม 5.6 กำกบั ตดิ ตำม ตรวจสอบ สนับสนุนพัฒนำกำรจัดกำรศกึ ษำ 5.7รำยงำนผลกำรดำเนินงำน
7. แบบฟอรม์ ที่ใช้ แบบสำรวจเด็กวัยกำรศกึ ษำภำคบงั คบั (อำยุยำ่ งเข้ำปีท่ี 7 - 16 ป)ี ทยี่ งั ไมไ่ ด้เข้ำเรียนซ่งึ เปน็ เดก็ ไรส้ ัญชำติ ตำ่ งชำตพิ ันธ์ุ 8. ขอ้ กฎหมำยที่เกยี่ วข้อง 8.1 รฐั ธรรมนูญแห่งรำชอำณำจกั รไทย พ.ศ. 2550
8.2 พระรำชบญั ญัตกิ ำรศึกษำแห่งชำติ พ.ศ. 2542 และที่แกไ้ ขเพมิ่ เตมิ 8.3 พระรำชบัญญัตกิ ำรศกึ ษำภำคบังคบั พ.ศ. 2545 8.4 ระเบียบกระทรวงศึกษำธกิ ำรวำ่ ดว้ ยหลักฐำนกำรรับนกั เรยี นเข้ำเรียนในสถำนศกึ ษำ พ.ศ. 2548 8.5พระรำชบัญญัตคิ ุม้ ครองเด็ก พ.ศ. 2546 9. เอกสำรอำ้ งอิง
1. ชอื่ งำน (กระบวนงำน) ข้อ 10.4 กำรสง่ เสรมิ กำรแกป้ ญั หำเด็กตกหล่น เด็กกลุ่มเสีย่ ง และออกกลำงคนั 2. วตั ถปุ ระสงค์ 2.1 เพ่ือให้สถำนศึกษำมีเด็กในวัยเรียนได้เข้ำเรียนกำรศึกษำภำคบังคับทุกคนและเรียนต่อเนื่องจนจบ กำรศึกษำขั้นพ้ืนฐำน 2.2 เพ่ือใหม้ ีกำรพัฒนระบบกำรเฝำ้ ระวังเด็กในวัยเรียนให้ไดร้ ับกำรศึกษำอย่ำงมีคุณภำพ 3. ขอบเขตงำน 3.1 สถำนศึกษำมีเด็กในวัยเรียนได้เข้ำเรียนกำรศึกษำภำคบังคับทุกคนและเรียนต่อเน่ืองจนจบกำรศึกษำ ขัน้ พืน้ ฐำน 3.2 กำรพัฒนำระบบกำรฝ้ำระวงั เด็กในวยั เรยี นใหไ้ ดร้ บั กำรศกึ ษำอยำ่ งมีคณุ ภำพ 4. คำจำกดั ควำม 4.1 กำรศึกษำภำคบังคับ หมำยถึง ชั้นประถมศึกษำปีท่ี 1 ถึงช้ันมัธยมศึกษำปีที่ 3ของกำรศึกษำขั้น พ้นื ฐำนตำมกฎหมำยว่ำด้วยกำรศกึ ษำชำติ 4.2 กำรศกึ ษำข้ันพื้นฐำน หมำยถึง กำรศึกษำก่อนระดับอุดมศึกษำ 4.3 เด็ก และเยำวชน หมำยถึง เดก็ ทีอ่ ยใู่ นวัยเรียนก่อนระดับอดุ มศึกษำ 4.4 เดก็ ตกหล่น หมำยถงึ เด็กในวัยกำรศกึ ษำภำคบงั คับท่ียังไม่ไดเ้ ข้ำเรียนในสถำนศึกษำข้นั พื้นฐำน 4.4 เดก็ กลุ่มเสี่ยง หมำยถึง เดก็ ท่มี แี นวโนม้ ว่ำจะออกจำกสถำนศกึ ษำกอ่ นเรยี นจบกำรศึกษำขน้ั พ้นื ฐำน 4.6 เด็กออกกลำงคัน หมำยถึง เด็กในวัยกำรศึกษำภำคบังคับท่ีเคยเข้ำเรียนในสถำนศึกษำแล้วแต่ออก จำกสถำนศึกษำกอ่ นที่จะจบกำรศึกษำขัน้ พ้ืนฐำน 5. ข้ันตอนกำรปฏบิ ตั ิงำน 5.1 จัดทำระบบขอ้ มลู สำรสนเทศเก่ียวกบั เด็กตกหล่น เดก็ กลุ่มเส่ียง และเด็กออกกลำงคนั ในจงั หวัดแต่ละ ปใี ห้ครอบคลุมและชัดเจน 5.2 จดั ตงั้ ศูนย์สง่ เสริมกำรแกป้ ญั หำเด็กตกหลน่ เด็กกลมุ่ เสีย่ ง และเด็กออกกลำงคันระดับจังหวัด 5.3 แตง่ ตัง้ คณะกรรมกำรสง่ เสริมแก้ไขปัญหำเด็กตกหลน่ เด็กกลุ่มเสี่ยง และเด็กออกกลำงคัน 5.4 นำเสนอคณะอนุกรรมกำรเกี่ยวกับกำรพัฒนำกำรศึกษำกลั่นกรอง และคณะกรรมกำรศึกษำธิกำร จงั หวัดพจิ ำรณำ 5.5 ดำเนินกำรขับเคล่ือนกำรส่งเสริมและพัฒนำกำรแก้ปัญหำเด็กตกหล่น เด็กกลุ่มเสี่ยงและเด็กออก กลำงคนั 5.6 กำกบั ตรวจสอบ ตดิ ตำม เด็กตกหล่นและเด็กออกลำงคันตำมแนวทำงที่กำหนด
5.7 สรุปและรำยงำนผลกำรดำเนนิ งำน 7. แบบฟอรม์ ที่ใช้ แบบสำรวจขอ้ มลู เด็กวยั กำรศกึ ษำภำคบังคับ (อำยุยำ่ งเขำ้ ปีท่ี 7 - 16 ป)ี ทย่ี งั ไมไ่ ด้เข้ำเรยี น หรือเข้ำเรยี นแลว้ แตอ่ อกกลำงคนั หรอื มแี นวโน้มวำ่ จะออกกลำงคัน 8. ข้อกฎหมำยทเ่ี กีย่ วข้อง 8.1 รฐั ธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย พทุ ธศักรำช 2550 8.2 พระรำชบญั ญัติกำรศึกษำแห่งขำติ พ.ศ. 2542 แกไ้ ขเพมิ่ เตมิ
8.3 พระรำชบัญญัติกำรศกึ ษำภำคบังคบั พ.ศ. 2545 9. เอกสำรอ้ำงองิ 1. ชอ่ื งำน (กระบวนงำน) ข้อท่ี 10.5งำนส่งเสรมิ กำรศึกษำนอกระบบ 2. วัตถปุ ระสงค์ 2.1 เพ่ือให้ประชำกรวัยเรียนทุกคนได้รับกำรเตรียมควำมพร้อมในระดับกำรศึกษำปฐมวัยและได้รับ กำรศึกษำภำคบงั คับอย่ำงทั่วถึงและมีคณุ ภำพมโี อกำสได้รับกำรศึกษำข้ันพืน้ ฐำนไม่น้อยกว่ำ 12 ปี 2.2 เพ่ือให้สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัดมีกำรกำหนดหลักเกณฑ์วิธกี ำรและแนวทำงที่จะเชื่อมโยงระหวำ่ ง กำรศึกษำในระบบ กำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัย ในฐำนะเลขำนุกำรคณะกรรมกำรศึกษำธิกำร จงั หวดั 2.3 เพอ่ื สง่ เสรมิ ศกึ ษำวิจยั และเผยแพรร่ ูปแบบทเ่ี หมำะสมในกำรจัดกำรศึกษำ 2.4 เพ่ือเป็นศูนย์ประสำนงำนกำรพัฒนำกำรศึกษำในระบบ กำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำม อัธยำศยั อย่ำงมีประสทิ ธภิ ำพ 3. ขอบเขตงำน 3.1 ประชำกวยั เรียนทุกคนได้รบั กำรเตรียมควำมพร้อมในระดับกำรศึกษำปฐมวยั และไดร้ บั กำรศึกษำภำค บงั คบั อย่ำงทวั่ ถึงและมีคุณภำพมโี อกำสได้รบั กำรศึกษำขั้นพนื้ ฐำนไมน่ ้อยกว่ำ 12 ปี 3.2 กำรกำหนดหลักเกณฑ์วิธีกำรและแนวทำงท่ีจะเชื่อมโยงระหว่ำงกำรศึกษำในระบบกำรศึกษำนอก ระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศัย ในฐำนะเลขำนุกำรคณะกรรมกำรศึกษำธิกำรจังหวัด 3.3 กำรสง่ เสริมศกึ ษำวิจัยและเผยแพร่รูปแบบท่เี หมำะสมในกำรจัดกำรศกึ ษำ 3.4 ศนู ยป์ ระสำนงำนกำรพัฒนำกำรศึกษำในระบบ กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศัยอย่ำง มปี ระสิทธภิ ำพ 4. คำจำกดั ควำม 4.1 กำรศึกษำนอกระบบ หมำยถึง เป็นกำรศึกษำท่ีมีควำมยืดหยุ่นและหลำยหลำยรูปแบบไม่มีข้อจำกัด เร่อื งอำยุและสถำนทีโ่ ดยมุ่งหมำยใหเ้ ป็นกำรศึกษำเพ่ือพฒั นำคณุ ภำพมนุษย์ 4.2 กำรศึกษำนอกระบบ (Non-formal Education) หรือกำรศกึ ษำนอกระบบโรงเรยี นเป็นกำรศึกษำท่ีมีกำร จัดหลักสูตร ระยะเวลำในกำรเรียนและกำรวัดและประเมินผลยึดหยุ่นสอดคล้องกับสภำพและควำมต้องกำรของ ผเู้ รยี น โดยไม่เป็นกำรจำกัด อำยุ รูปแบบกำรเรียนกำรสอนหรอื สถำนที่ 4.3 กำรศึกษำนอกระบบโรงเรียน หมำยถงึ กำรจัดกำรศกึ ษำซึ่งเปดิ โอกำสใหก้ ับผู้ท่ีไม่ได้เขำ้ รับกำรศึกษำ ในระบบโรงเรียนตำมปกติ ได้มีโอกำสศึกษำหำควำมรู้ พัฒนำตนเองให้สำมำรถดำรงตนอยู่ในสังคมได้อย่ำงมี
ควำมสุข เป็นกำรจัดกำรศึกษำในลักษณะอ่อนตัวให้ผู้เรียนมีควำมสะดวกเลือกเรียนได้หลำยวิธีจึงก่อให้เกิด ประโยชน์ต่อตวั ผู้เรียนและสังคมเปน็ อยำ่ งย่ิง 5. ขนั้ ตอนกำรปฏบิ ัติงำน 5.1 กำหนดขอบข่ำยภำรกิจควำมรับผิดชอบกำรพัฒนำกำรจัดกำรศึกษำนอกระบบสถำนศึกษำจำกทุก สังกดั ในจังหวัด และหน่วยงำนทเี่ กี่ยวขอ้ ง 5.2 จัดทำข้อมลู สำรสนเทศประชำกรวยั เรยี นในช่วงกำรศึกษำภำคบังคับท่ีอยู่ในกำรศึกษำนอกระบบ 5.3 วำงแผนและกำหนดแนวทำงในกำรสนับสนุน ส่งเสริมและพัฒนำกำรจัดกำรศึกษำนอก ระบบ กำรศกึ ษำตำมอธั ยำศัย เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนในสถำนศึกษำจำกทกุ สังกัดไดเ้ รยี นรตู้ ลอดชีวติ 5.4 จัดต้ังศูนย์ประสำนงำนกำรพัฒนำกำรศึกษำในระบบ กำรศึกษำนอกระบบ และกำรศึกษำตำม อัธยำศัย ประจำจังหวัดเพ่ือประสำนงำนกับหน่วยงำน หรือผู้เก่ียวข้องเพ่ือสนับสนุนให้ผู้เรียนรับกำรศึกษำขั้น พื้นฐำนอยำ่ งทัว่ ถึง 5.5 นำเสนอคณะอนุกรรมกำรเก่ียวกับกำรพัฒนำกำรศึกษำกลั่นกรอง และคณะกรรมกำรศึกษำธิกำร จงั หวัดพจิ ำรณำ 5.6 ตดิ ตำม และประเมนิ ผลกำรดำเนนิ งำนส่งเสรมิ กำรศกึ ษำนอกระบบ 5.7 ศกึ ษำ วเิ ครำะห์ วิจยั ผลกำรดำเนนิ งำน และเผยแพร่ ประชำสมั พนั ธ์
7. แบบฟอร์มท่ใี ช้ ตำมระเบียบ แนวปฏิบัติทก่ี ำหนด 8. ขอ้ กฎหมำยท่เี ก่ยี วข้อง 8.1 พระรำชบญั ญตั กิ ำรศึกษำแหง่ ขำติ พ.ศ. 2542 แกไ้ ขเพ่มิ เตมิ
8.2 หลักสูตรกำรศกึ ษำขัน้ พ้นื ฐำน พ.ศ. 2544 8.3 หลักสูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำชน้ั พ้ืนฐำน พ.ศ. 2551 9. เอกสำรอ้ำงอิง 1. ชื่องำน (กระบวนงำน) ข้อ 10.6 งำนพัฒนำกำรจัดกำรศึกษำขั้นพื้นฐำนของบุคคล ครอบครัวองค์กร ชุมชน องคก์ รวิซำชีพ สถำบนั ศำสนำ สถำนประกอบกำร และสถำบันสงั คมอื่น 2. วตั ถปุ ระสงค์ 2.1 เพื่อส่งเสริมกำรจัดกำรศึกษำขั้นพ้ืนฐำนของบุคคล ครอบครัว องค์กรชุมชน องค์กรวิชำชีพสถำบัน ศำสนำ สถำนประกอบกำร และสถำบันสังคมอ่นื 2.2 เพ่ือใหก้ ำรสนบั สนนุ และส่งสริมให้บิดำ มำรดำ หรือผู้ปกครอง และสถำนประกอบกำรมีควำมรู้ ควำม เข้ำใจในกำรจัดกำรศกึ ษำ 2.3 เพ่ือเป็นกำรติดตำม ประเมนิ ผลกำรจัดกำรศึกษำของบุคคล ครอบครัว ชุมชน องค์กรวิชำชีพ สถำบัน ทำงศำสนำ สถำนประกอบกำร และสถำบนั สงั คมอืน่ 3. ขอบเขตงำน 3.1 กำรส่งเสริมกำรจัดกำรศึกษำขั้นพื้นฐำนของบุคคล ครอบครัว องค์กรชุมชน องค์กรวิชำชีพสถำบัน ศำสนำ สถำนประกอบกำร และสถำบนั สงั คมอ่นื 3.2 กำรสนับสนุนและส่งสริมให้บิดำ มำรดำ หรือผู้ปกครอง และสถำนประกอบกำรมีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ในกำรจัดกำรศกึ ษำ 3.3 กำรติดตำม ประเมินผลกำรจัดกำรศึกษำของบุคคล ครอบครัว ชุมชน องค์กรวิชำชีพสถำบันทำง ศำสนำ สถำนประกอบกำร และสถำบันสงั คมอน่ื 4. คำจำกดั ควำม 4.1 กำรจัดกำรศึกษำโดยครอบครัว หมำยถึง กำรจัดกำรศึกษำข้ันพื้นฐำนที่บิดำ มำรดำหรือบิดำ หรือ มำรดำ หรือผู้ปกครองเป็นผู้รับผดิ ชอบจดั กำรศึกษำให้กับบุตรหลำนด้วยตนเองโดยเป็นผสู้ อนด้วยตนเอง หรือเป็น ผอู้ ำนวยกำรให้เกิดกระบวนกำรเรยี นรู้ 4.2 กำรจดั กำรศึกษำในสถำนประกอบกำร หมำยถงึ กำรจดั ตง้ั ศูนย์กำรเรียนเพื่อจดั กำรศึกษำข้ันพ้ืนฐำน ตำมมำตรำ 12 แหง่ พระรำชบัญญัตกิ ำรศึกษำแห่งชำติ 5. ขัน้ ตอนกำรปฏิบัตงิ ำน
5.1 ประสำนงำนกับหน่วยงำนทำงกำรศึกษำในกำรประชำสัมพันธ์ สร้ำงควำมเข้ำใจ ในสิทธิและหน้ำที่ ส่งเสริมและพัฒนำควำมสำมำรถในกำรจัดกำรศึกษำของบคุคล ครอบครัว ชุมชน สถำบันทำงศำสนำ และสถำน ประกอบกำร ฯลฯ 5.2 ตรวจสอบเอกสำรหลกั ฐำนคำขออนญุ ำตกำรจดั กำรศึกษำ 5.3 นำเสนอคณะอนุกรรมกำรเกี่ยวกับกำรพัฒนำกำรศึกษำกลั่นกรอง และคณะกรรมกำรศึกษำธิกำร จงั หวัดพจิ ำรณำ 5.4 ติดตำม และประเมินผลกำรดำเนินงำนกำรจัดกำรศึกษำขั้นพื้นฐำนของบุคคล ครอบครัวองค์กร ชุมชน องค์กรวิชำชีพ สถำบนั ศำสนำ สถำนประกอบกำร และสถำบันสงั คมอ่นื 5.5 ศึกษำ วเิ ครำะห์ วจิ ยั ผลกำรดำเนินงำน และเผยแพร่ ประชำสัมพันธ์ 7. แบบฟอรม์ ทใี่ ช้ - 8. ข้อกฎหมำยที่เก่ยี วขอ้ ง
8.1 พระรำชบัญญัตกิ ำรศึกษำแหง่ ขำติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพมิ่ เตมิ 8.2 หลกั สตู รกำรศึกษำขั้นพืน้ ฐำน พ.ศ. 2551 8.3 หลักสตู รแกนกลำงกำรศึกษำช้ันพ้นื ฐำน พ.ศ. 2551 8.4 กฎกระทรวง วำ่ ดว้ ยสิทธิในกำรจัดกำรศึกษำขั้นพ้นื ฐำนโดยครอบครัว พ.ศ. 2547 9. เอกสำรอำ้ งองิ ระเบียบ หลกั เกณฑ์ วิธกี ำรประเมินศกั ยภำพและควำมพรอ้ มในกำรจดั กำรศึกษำ 11. สง่ เสริมและพัฒนำกำรจดั กำรศกึ ษำเฉพำะกจิ เฉพำะกลมุ่ และเฉพำะพ้ืนที่ประกอบด้วย 1 กระบวนงำน ดังนี้ 1. ชอื่ งำน (กระบวนงำน) ขอ้ 11กำรสง่ เสรมิ และพัฒนำกำรจัดกำรศึกษำเฉพำะกจิ เฉพำะกลุ่ม และเฉพำะพื้นท่ี 2. วัตถุประสงค์ 2.1 เพ่ือกำรส่งเสริม ประสำนงำนและพัฒนำกำรจัดกำรศึกษำเฉพำะกิจ เฉพำะกลุ่มและเฉพำะพื้นที่แบบ บรู ณำกำรอย่ำงมีคุณภำพและสำมำรถดำเนินกำรบรรลุผลตำมเป้ำหมำย 2.2 เพื่อขบั เคลื่อนและพฒั นำกำรจัดกำรศึกษำเฉพำะกจิ เฉพำะกลุ่มและเฉพำะพื้นท่ีแบบบูรณำกำรอย่ำง มีคุณภำพ ภำยใตก้ ำรมีสว่ นร่วมของหน่วยงำนทเ่ี กีย่ วข้องทั้งภำครัฐ และเอกชน 3. ขอบเขตงำน 3.1 กำรส่งเสริม ประสำนงำนและพัฒนำกำรจัดกำรศึกษำเฉพำะกิจ เฉพำะกลุ่มและเฉพำะพื้นที่แบบ บูรณำกำรอยำ่ งมีคุณภำพและสำมำรถดำเนินกำรบรรลุผลตำมเป้ำหมำย 3.2 กำรขับเคล่อื นและพฒั นำกำรจัดกำรศึกษำเฉพำะกจิ เฉพำะกลุม่ และเฉพำะพน้ื ท่ีแบบบูรณำกำรอย่ำง มคี ณุ ภำพ ภำยใตก้ ำรมสี ว่ นร่วมของหน่วยงำนที่เก่ียวขอ้ งท้ังภำครัฐ และเอกชน 4. คำจำกัดควำม 4.1 กำรพัฒนำกำรศึกษำจังหวัดชำยแดนภำคใต้ หมำยถึง พ้ืนที่ 5 จังหวัดชำยแดนภำคใต้ มีกำรจัด กำรศึกษำที่เหมำะสม สอดคล้องกับสภำพเศรษฐกิจ สังคม ขนบธรรมเนียม อัลักษณ์ และควำมต้องกำรของพ้ืนที่ โดยผู้เรียนในพ้ืนท่ีจังหวัดชำยแดนภำคใต้เข้ำถึงกำรศึกษำอย่ำงเสมอภำคและมีผลสัมฤทธิ์ ทำงกำรเรียนสูงขึ้น ประชำชนในจังหวัดชำยแดนภำคใต้เข้ำถึงแหล่งเรียนรู้ในรูปแบบที่หลำกหลำยและมีคุณภำพชีวิตที่ดีขึ้น โดยมี แนวทำงและวิธีในกำรดำเนินโครงกำร ได้แก่ พัฒนำหลักสูตรที่หลำกหลำยเป็นไปตำมบริบทและ อัตลักษณ์ของ พื้นที่ ขยำยผลใช้กำรจัดกำรศึกษำทำงไกลผ่ำนดำวเทียม DLTV และส่งเสริมกำรพัฒนำด้ำนกิจกรรมกำรกีฬำเข้ำมำ ช่วยสนับสนุนกำรเรียนกำรสอน ปรับปรุงกำรบริหำรจัดกำรเงินอุดหนุนทำงกำรศึกษำในจังหวดั ชำยแดนภำคใตใ้ ห้ มีให้มีประสิทธิภำพ สร้ำงขวัญกำลังใจและเพ่ิมสวัสดิกำรให้แก่ครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำท่ีกำรปฏิบัติงำนใน พ้นื ที่ รวมทั้งสนับสนุนทนุ กำรศึกษำให้กบั ทำยำทผไู้ ด้รับผลกระทบจำกสถำนกำรณ์ควำมไม่สงบ
4.2 กำรพฒั นำกำรศึกษำพ้ืนที่ \"ระเบยี งเศรษฐกจิ พเิ ศษภำคตะวันออก (Eastern Economic Coridor : EEC)\" หมำยถงึ หน่วยงำนทำงกำรศกึ ษำในพ้ืนท่ีในเขต 3 จังหวัดคือ ชลบุรี ระยองและฉะเชิงเทรำโดยมุ่งหวงั จะทำให้กำร พัฒนำกำรศึกษำท้ัง 2 ส่วน คือ \"ภำคตะวันออก\" ซึ่งประกอบด้วย 8 จังหวัด ได้แก่ฉะเชิงเทรำ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตรำด นครนำยก ปรำจีนบุรี และสระแก้ว และในส่วนของ \"พ้ืนท่ี EEC\"3 จังหวัด (ชลบุรี ฉะเชิงเทรำ ระยอง) จะต้องสอดรับกับยุทธศำสตร์และทิศทำงกำรพัฒนำพื้นที่ระดับภำค ตำมนโยบำยรัฐบำลโดยวำง 4 เป้ำหมำยหลักในกำรจัดกำรศึกษำ คือ 1) ผู้เรียนมีทักษะด้ำนภำษำ กำรใช้เทคโนโลยี มีควำมรู้ด้ำนอุตสำหกรรม ใหม่ สำมำรถสร้ำงนวัตกรรมและมีคุณภำพชีวิตท่ีดี 2) ผู้บริหำร ครู และบุคลำกรทำงกำรศึกษำ มีควำมรู้ด้ำน อุตสำหกรรมใหม่และมีศักยภำพในจัดกำรเรียนรู้ ควบคู่กับกำรปฏิบัติจำกสถำนกำรณ์จริงหรือสถำนกำรณ์จำลอง 3) สถำนศึกษำเป็นแหล่งเรยี นรู้ในกำรพัฒนำกำลังคน 4) เครือข่ำยทุกภำคส่วนท้ังในและต่ำงประเทศมีส่วนร่วมใน กำรจัดกำรศึกษำ 4.3 เขตเศรษฐกิจพิเศษ หมำยถึง 10 พื้นที่ ที่จัดตั้งข้ึนเป็นกำรเฉพำะตำมกฎหมำยเพ่ือประโยชน์ต่อกำร ส่งเสริมสนับสนุนและอำนวยควำมสะวก รวมท่ังให้สิทธิพิเศษบำงประกำรในกำรดำเนินกิจกำรต่ำง ๆ เช่น กำรอุต สำหกรม กำรพำนชิ ยกรรม กำรบริกำรหรือกิจกำรอ่ืนทีเ่ ปน็ ประโยชนแ์ ก่กำรเศรษฐกิจของจังหวดั ประกอบด้วย 10 จังหวัด (22 อำเภอ 91 ตำบล) ได้แก่ ตำก มุกดำหำร สระแก้วตรำด สงขลำหนองคำย นรำธิวำส เชียงรำย นครพนม และกำญจนบรุ ี 4.4 พื้นที่ชำยแดน หมำยถึง พื้นท่ีจังหวัดชำยแดน 27 จังหวัด 108 อำเภอ โดยมีวิสัยทัศน์ในกำรพัฒนำ กำรศึกษำเพื่อนักเรียน นักศึกษำ และประชำชนในพ้ืนท่ีชำยแดนมีคุณภำพชีวิตที่ดี ได้รับกำรศึกษำอย่ำงท่ัวถึงมี คุณภำพ และเสมอภำพ เปน็ สงั คมแหง่ กำรเรยี นรู้ อยรู่ ว่ มกันอยำ่ งมน่ั คงและยั่งยืน 5. ขัน้ ตอนกำรปฏิบัติงำน 5.1 รวบรวม ศกึ ษำวเิ ครำะห์ขอ้ มลู ทีเ่ กีย่ วขอ้ งเพื่อจัดทำเปน็ แผนพฒั นำกำรจดั กำรศึกษำของจังหวัด 5.2 แตง่ ตัง้ คณะกรรมกำรดำเนินกำรจัดประชุมเชิงปฏิบัตกิ ำรเรื่องกำรพัฒนำคณุ ภำพกำรศึกษำ เฉพำะกิจ เฉพำะกลมุ่ และเฉพำะพนื้ ท่ี 5.3 สังเครำะหแ์ ละบูรณำกำรข้อมูลของแต่ละหนว่ ยงำน/สถำนศึกษำ เพือ่ พฒั นำกำรจัดกำรศึกษำ เฉพำะ กจิ เฉพำะกลมุ่ และเฉพำะพ้ืนท่ี 5.4 นำเสนอคณะอนุกรรมกำรเก่ียวกับกรพัฒนำกำรศึกษำกลั่นกรอง และคณะกรรมกำรศึกษำธิกำร จังหวัดพจิ ำรณำ 5.5 ดำเนินกำรจัดประชุมหน่วยงำน/สถำนศึกษำทุกสังกัดและทุกภำคส่วนท่ีเกี่ยวข้องเพื่อสร้ำงควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจและขบั เคลอ่ื นนโยบำยกำรพฒั นำคุณภำพกำรศึกษำเฉพำะกจิ เฉพำะกลุ่ม และเฉพำะพืน้ ท่ีส่กู ำรปฏบิ ตั ิ
5.6 กำกับ ติดตำม และประเมินผลกำรดำเนินงำนส่งเสริมและพัฒนำกำรจัดกำรศึกษำเฉพำะกิจเฉพำะ กล่มุ และเฉพำะพื้นท่ี 5.7 ศึกษำ วเิ ครำะห์ วจิ ัยผลกำรดำเนนิ งำน และเผยแพร่ ประชำสมั พันธ์
7. แบบฟอรม์ ทใ่ี ช้ สำนกั งนศกึ ษำธิกำรจงั หวดั กำหนดตำมควำมเหมำะสม 8. ขอ้ กฎหมำยที่เกีย่ วข้อง 8.1 คำส่ัง คสช. ที่ 2/2560 เรื่อง กำรพัฒนำระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภำคตะวันออกลงวันที่ 17 มกรำคม 2560 8.2 คำสั่ง คสช. ที่ 27/2560 เรื่อง กำรพัฒนำกำรศึกษำของประเทศด้ำนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี ลง วนั ท่ี 26 พฤษภำคม 2560 8.3 คำส่ัง คสช. ที่ 28/2560 เร่ือง มำตรกำรเพ่ิมประสิทธิภำพกำรพัฒนระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภำค ตะวันออก ลงวันท่ี 26 พฤษภำคม 2560 8.4 คำส่ัง คสช. ที่ 29/2560 เร่ืองกำรส่งเสริมกำรจัดกำรศึกษำโดยสถำบันอุดมศึกษำท่ีมีศักยภำพสูงจำก ตำ่ งประเทศ ลงวนั ที่ 26 พฤษภำคม 2560 8.5 คำส่ัง คสช. ที่ 47/2560 เรื่องข้อกำหนดกำรใช้ประโยชน์ในที่ดินในพื้นที่ระเบียงเศษฐกิจพิเศษภำค ตะวันออก ลงวนั ที่ 25 ตุลำคม 2560 9. เอกสำรอ้ำงอิง 9.1 แผนพัฒนำกำรศกึ ษำของกระทรวงศึกษำธกิ ำร ฉบบั ท่ี 12 (พ.ศ. 2560-2564) 9.2 แผนพฒั นำกำรศึกษำพน้ื ท่ชี ำยแดน (พ.ศ. 2560-2564) 9.3 แผนพัฒนำกำรศึกษำในพืน้ ที่เขตพัฒนำพิเศษภำคตะวนั ออก ระยะ 5 ปี 9.4 นโยบำยเขตพัฒนำเขตเศรษฐกิจพิเศษชำยแดน
Search