Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 25_การดูแลสุขภาพ

25_การดูแลสุขภาพ

Published by Krittithee Tuncharoen, 2022-01-01 17:48:36

Description: การ ดูแล สุขภาพ

Search

Read the Text Version

วิ ธี ก า ร ดู แ ล สุ ข ภ า พ ใ น ยุ ค โ ค วิ ด ค น เ ร า จำ เ ป็ น ต้ อ ง รัก ษ า สุ ข ภ า พ เ พื่ อ ส่ ง เ ส ริม ใ ห้ภู มิ คุ้ ม กั น ข อ ง ร่า ง ก า ย ใ ห้สู ง ขึ้ น เ ส ม อ KRITTITHEE TUNCHAROEN

หลายคนอาจจะคิดว่าความร่ำรวยเงินทองคือ บ่อเกิดของความสุข แต่คุณจะมีความสุขกับเงินที่หามาได้อย่างไร หากสุขภาพไม่เอื้อ อำนวย ต้องเข้าโรงพยาบาลไปพบหมอมากกว่าได้เดินทางไปแหล่ง ท่องเที่ยว สุขภาพจึงเป็นเรื่องที่เราจะต้องให้ความสำคัญทั้งสุขภาพ กายและสุขภาพจิต ซึ่งก็สามารถทำได้ดังต่อไปนี้

1 กินอาหารเช้ามื้อใหญ่ คำพูดที่ว่าคุณควรกินอาหารเช้าอย่างราชา กินอาหารกลางวัน แบบพ่อค้า และกินอาหารเย็นอย่างยาจก เป็นเรื่องจริงอย่าง มาก การเติมเชื้อเพลิงในร่างกายแต่ต้นวันทำให้แน่ใจได้ว่าคุณ จะได้รับพลังงานพอสำหรับกิจกรรมในตอนเช้า ทำให้คุณไม่ ต้องการเติมน้ำตาลให้ร่างกายในตอนสายๆ เพิ่มอีก

2 ดื่มกาแฟสักแก้ว เชื่อหรือไม่ว่าวิทยาศาสตร์เห็นพ้องกันว่า การดื่ม กาแฟแบบปานกลางเป็นเรื่องดีสำหรับคุณ ข้อมูล จาก WebMd.com ระบุว่า มีงานวิจัยเพิ่มขึ้นเป็น จำนวนมากที่ชี้ว่า เมื่อเทียบระหว่างคนที่ดื่มกาแฟ กับคนที่ไม่ดื่มเลย คนที่ดื่มกาแฟแบบปานกลางมี แนวโน้มน้อยกว่าที่จะเป็นเบาหวานประเภท 2 โรค พาร์คินสัน และโรคสมองเสื่อม รวมทั้งมีปัญหาสุข ภาพอื่นๆ เช่น มะเร็ง ปัญหาการเต้นของหัวใจและ สโตรคน้อยกว่า แต่คำเตือนก็คือ น้ำตาลทรายขาว และครีมเทียมทั้งหลายทำให้ผลประโยชน์นี้หายไป

3 กินผลไม้เป็นของว่าง ที่ทำงานมักเต็มไปด้วยของกินที่เต็มไปด้วยไขมัน แต่คุณจะมีแนวโน้มที่จะกินของไขมันสูงพวกนั้น น้อยลง ถ้าคุณกินของว่างเป็นผลไม้ หรือถั่วสักถุง หนึ่ง

4 ดื่มน้ำให้มากขึ้น แม้แต่การขาดน้ำเพียงเล็กน้อย ก็สามารถทำให้ พลังงานเหือดแห้งและทำให้คุณรู้สึกเหนื่อย นี่เป็น ข้อมูลจากเมโยคลินิกซึ่งแนะนำด้วยว่า ในแต่ละวัน ผู้ชายควรดื่มให้ได้ราว 3 ลิตร (ราว 13 ถ้วย) และผู้ หญิง 2.2 ลิตร (ราว 9 ถ้วย) โดยน้ำชาและกาแฟก็ นับรวมอยู่ในจำนวนนี้ด้วย อาหารหลายอย่างก็เป็น แหล่งที่ดีของน้ำ ผลไม้เช่น ส้ม องุ่น แตงโม และ แอปเปิล ซึ่งสามารถช่วยให้คุณสุขภาพดีและไม่ขาด น้ำ ช่วงเวลาบ่ายสามที่คนทำงานมักจะรู้สึกหมดแรงกัน นั้น อาจเกิดจากการขาดน้ำ ฉะนั้น ดื่มน้ำเยอะๆ ด้วยการนำขวดน้ำขนาด 16 ออนซ์มาไว้ที่โต๊ะทำงาน และดื่มให้หมดภายในเวลาอาหารกลางกลางวัน จาก นั้น เติมอีก แล้วดื่มให้หมดภายในบ่ายสาม และห้า โมงเย็นอีกหนึ่งขวด

5 หายใจให้ลึกๆ คนที่อยู่ในความเครียดมักจะหายใจสั้นๆ ถี่ๆ มากกว่าหายใจลึกๆ ยาวๆ และเมื่อเวลาผ่านไป การ หายใจสั้นๆ ถี่ๆ เช่นนี้ จะกลายเป็นนิสัย และเป็นการ บอกร่างกายตลอดเวลาว่าร่างกายของคุณอยู๋ภาย ใต้ความเครียด แม้จะไม่มีปัจจัยความเครียดอะไรใน ขณะนั้นเลยก็ตาม การหายใจลึกๆ ทำให้คุณสงบลง และที่สำคัญไปกว่านั้น มันช่วยให้แน่ใจว่าออกซิเจน จำนวนมากพอเข้าสู่ปอดและกระแสโลหิตของคุณ ซึ่งจะช่วยให้สมองของคุณทำงานอย่างมี ประสิทธิภาพมากขึ้น

6 ยืดกล้ามเนื้อเป็นประจำ ร่างกายของคนเราไม่ได้ออกแบบมาเพื่อที่จะนั่งอยู่ กับที่เป็นเวลานานๆ ตรงกันข้าม ร่างกายของ มนุษย์ถูกสร้างมาเพื่อให้วิ่งตามป่าเขาเพื่อไล่ล่าสัตว์ แต่เนื่องจากคุณไม่ได้รับอนุญาตให้วิ่งไปรอบๆ ที่ ทำงานได้ ก็ให้ร่างกายได้เบรกเป็นครั้งคราว ยืนขึ้น และยืดเหยียดกล้ามเนื้อทุกครึ่งชั่วโมงหรือ ประมาณนั้น

7 เคลื่อนไหวเข้าไว้ ในขณะที่นั่งอยู่กับโต๊ะทำงานนานๆ อาจดูเหมือน เป็นวิธีที่ดีในการทำงานให้ได้เยอะๆ แต่ผู้เชี่ยวชาญ บอกว่ามันไม่ดีต่อสุขภาพเลย คุณควรต้องเบรกทุก หนึ่งหรือสองชั่วโมง ลุกขึ้นและเคลื่อนไหวบ้าง ปัญหาเกี่ยวกับช่วงหลังด้านล่างมักเกินขึ้นอย่าง มากจากการนั่งนานๆ ที่ทำให้กล้ามเนื้อจะอ่อนแอลง นอกจากนี้อีเมลหรือเทคโนโลยีต่างๆ ในที่ทำงานก็ ทำให้ยิ่งสะดวกมากขึ้นในการสื่อสารกัน แทนการลุก ไปหากันแบบเก่าๆ การเดินไปส่งเอกสารด้วยตัวเอง ถึงแม้จะเสียเวลา มากกว่าแต่ก็เป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพมากกว่า ทั้งทำให้ได้เคลื่อนไหว และยังช่วยให้คุณได้พูดคุย กับคนอื่ นมากขึ้นด้วย

8 ยืนแทนนั่ง มันเป็นเรื่องดีที่คุณจะมีเก้าอี้ใหม่ที่เหมาะกับสรีระ แต่ถ้าคุณนั่งบนเก้าอี้ทั้งวัน คุณก็จะลดจำนวนของ เอ็นไซม์ที่ทำให้เกิดการเผาผลาญไขมันที่เรียกว่า lipoprotein lipase ลงไปถึง 94 เปอร์เซ็นต์เลย เพื่อให้เอ็นไซม์ตัวนี้แอคทีฟ และช่วยเผาผลาญไข มัน คุณต้องการเพียงแค่การยืน 30 นาทีต่อวัน ลองยืนอ่านหนังสือ ยืนประชุม หรือคุยกับเพื่อน ร่วมงานดู

9 ขึ้นบันได ในขณะที่การขึ้นบันไดไม่ได้ใช้แคลอรี่มากมายนัก (ราว 300 แคลอรี่ถ้าน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์เฉลี่ย และ ขึ้นลงบันได 5 ชั้น อย่างน้อยวันละ 5 ครั้ง) แต่มัน ช่วยให้หัวใจของคุณทำงานหนักขึ้น จึงทำให้การไหล เวียนโลหิตดี และสุขภาพโดยรวมดีขึ้นด้วย Quick tip : คุณจะเผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่า ถ้า คุณก้าวขึ้นบันไดทีละขั้นแทนการก้าวข้ามที่ละสอง ขั้น

10 ไปเดินเล่นหลัง อาหารกลางวัน การเดินหลังอาหารกลางวันทำให้การย่อยของคุณดี ขึ้น ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและเพิ่ม กิจกรรมทางสมอง นี่เป็นผลจากการศึกษาวิจัย หลายชิ้น มันยังทำให้ร่างกายของคุณได้เบรกจา การนั่งเฉยๆ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ไม่เป็นธรมชาติที่สุด สำหรับมนุษย์ ในงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Psychological Science เมื่อปี 2008 ทีมงานที่มหาวิทยาลัย มิชิแกนได้พบว่า ความจำของคนเราจะดีขึ้นราว 20 เปอร์เซ็นต์ จากการเดินกลางธรรมชาติราว 50 นาที และความทรงจำที่ดีมีผลต่อการทำงานอย่าง มาก เพราะฉะนั้นอย่าลืมหาเวลาออกไปเดินเล่นใน สวนสาธารณะบ้างในตอนกลางวัน

11 นอนสักงีบ การนอนไม่พอเป็นเรื่องหายนะอย่างมากต่อสุขภาพ ของเรา และงานวิจัยจำนวนมากมายที่ชี้ว่า คนเราจะ ทำงานได้มากกว่าหลังจากได้งีบหลับช่วงสั้นๆ ฉะนั้น งีบหลับสักพักหลังอาหารกลางวันในที่ทำงาน ถ้าเจ้านายของคุณไม่ว่าอะไร หรือไม่ก็ขับรถออกไป หาที่จอดรถเงียบๆ แล้วก็งีบหลับสักพักหนึ่งก่อน กลับมาทำงาน

12 มองโลกในแง่ดีให้ มากขึ้น ถึงแม้หลายคนอาจเห็นว่าการมองโลกตามความ เป็นจริง ดีกว่าการมองโลกในแง่ดี แต่ในความเป็น จริงก็คือ มันมีหลักฐานวิทยาศาสตร์มากมายที่ชี้ว่า การมองโลกในแง่ดีทำให้คุณสุขภาพดีกว่า ที่มากไป กวานั้นก็คือ สิ่งที่ตรงข้ามกับการมองโลกแง่ดี ได้แก่การแสดงความโกรธและความหงุดหงิด ยิ่ง ทำให้คุณเครียดและสุขภาพดีน้อยกว่า ฉะนั้น ยิ้ม เอาไว้นะ

13 ท่องอินเตอร์เน็ต ผู้เชี่ยวชาญในตอนนี้เริ่มสนับสนุนให้นายจ้างเข้ม งวดน้อยลง ในเรื่องการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตของคน ทำงาน โดยจากผลการวิจัยชิ้นล่าสุดที่มหาวิทยาลัย แห่งชาติสิงคโปร์ค้นพบว่า การท่องเว็บทำให้ พนักงานที่เหนื่อยอ่อนรู้สึกสดชื่นขึ้น และเพิ่มผล งานของพวกเขาได้ โดยในการทดลองในกลุ่ม นักศึกษา 96 คน ได้แบ่งเป็นกลุ่มที่ให้หยุดพักเฉยๆ และอีกกลุ่มที่ให้เล่นอินเตอร์เน็ต คนที่ได้รับอนุญาต ให้เล่นอินเตอร์เน็ต 10 นาทีในช่วงพัก พบว่าทำงาน ได้ดีขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นักวิทยาศาสตร์ บอกว่าพวกนี้ยังรายงานว่ามีอาการเหนื่อยอ่อนทาง สมองและความเบื่อน้อยลงด้วย ซึ่งนักวิจัย ดร.วิ เวียน เค.จี.ลิม ชี้ว่า คนที่ท่องเว็บนั้น ปกติจะเลือก เว็บที่ตัวเองชอบ มันก็เหมือนการไปกินกาแฟหรือ เบรกกินของว่างนั่นแหละ

14 สื่อสารกับคนอื่น เราไม่ได้หมายถึงการเป็นเพื่อนกับใครสักคนบนเฟ ซบุ๊ค แต่เป็นคนที่มีตัวตนจริงๆ ในที่ทำงาน ใครสัก คนที่คุณจะคุยด้วยได้ งานวิจัยชี้ว่าการมีเพื่อนในที่ ทำงานช่วยลดความเครียดและทำให้มีความสุขมาก ขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีต่อการทำงานแน่นอน

15 ตั้งเป้าหมาย อีกสิ่งหนึ่งที่สามารถทำให้คุณมีพลังวังชาสำหรับวัน ทำงาน ก็คือการตั้งเป้าหมายสำหรับตัวเอง การที่ คุณสามารถขีดฆ่ารายการที่ทำสำเร็จแล้วออกไปได้ ทำให้เกิดความพึงพอใจ ส่งผลให้คุณมีแรงจูงใจที่จะ จัดการกับเป้าหมายต่อๆ ไป

16 เปลี่ยนกิจวัตรเพื่อ ป้องกันความน่าเบื่อ เหมือนกับไอเดียของการฝึกซ้อมครอสเทรนนิ่งสำหรับ นักกีฬา คนทำงานสามารถทำให้ตัวเองทีพลังขึ้นได้ด้วย การผสมผสานกิจวัตรให้หลากหลาย เช่น ถ้าคุณ สามารถทำงานที่ยืดหยุ่นเวลาได้ และเคยทำงาน 9 โมง เช้าถึง 5 โมงเย็น ลองเปลี่ยนเป็น 8 โมงเช้าถึง 4 โมง เย็น หรือถ้าคุณเคยเช็คอีเมลเป็นสิ่งแรกของวัน ลอง เปลี่ยนมาทำอย่างอื่นแทนในชั่วโมงแรกในที่ทำงาน จัด โต๊ะทำงานใหม่ เปลี่ยนมาใช้โทรศัพท์แทนการอีเมล เป็นต้น

17 หยุดการผลัดวัน ประกันพรุ่งสักห้านาที คุณเคยทิ้งงานโปรเจ็คท์ใหญ่ หรืองานที่กำลังจะถึง เดดไลน์เอาไว้ก่อน แล้วก็จมอยู่กับความวิตกกังวลไป ตลอดคืนหรือเปล่า ลองทำแบบนี้นะ บอกตัวเองว่าจะ ทำงานนั้นสักห้านาที เมื่อคุณเริ่มทำ คุณจะเห็นว่าไม่มี อะไรเลวร้ายเลย และถึงมันจะไม่ดีนัก มันก็จะง่ายกว่าที่ คุณจะทำให้สำเร็จ ถ้าคุณใช้เวลากับมันอย่างน้อยก็ห้า นาทีต่อวัน

18 ทำอะไรๆ ให้ช้าลงบ้าง นักวิทยาศาตร์ด้านการออกกำลังรู้ว่า การออก กำลังในระดับที่สบายๆ มีประโยขน์ต่อสุขภาพของ คุณมากกว่าการผลักดันตัวเองให้เร็วขึ้นหรือหนัก ขึ้น คุณสามารถเอาหลักการนี้มาใช้กับกิจวัตรในที่ ทำงานได้เช่นกัน ถ้าคุณช้าลงอย่างตั้งใจ ใช้เวลาคิด อย่างถี่ถ้วน ทำงานให้เสร็จทีละอย่างก่อนไปทำ อย่างอื่นต่อ บางทีการเพิกเฉยต่อโทรศัพท์หรือ อีเมลชั่วคราว คุณจะพบว่าคุณทำงานได้เนื้อได้หนัง มากขึ้นและมีความสุขมากขึ้นด้วย

19 สนใจแต่ปัจจุบัน Add a little bit of body text

20 เพิ่มเติมแต่สิ่งดีๆ Add a little bit of body text


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook