การตคี วามและการ ประเมนิ คณุ คา่ สาร
GEN 101 วิชาภาษาไทยเพ่อื การสอ่ื สาร การตีความและการประเมนิ คุณสาร เสนอ อาจารย์ปรภัสร์ มาสะอาด
คานา รายงานฉบบั นี้เปน็ สว่ นหน่ึงของวิชาGEN101 ภาษาไทยเพ่ือการส่อื สาร ที่รวบรวม หนงั สอื ทไ่ี ด้รับรางวัลซีไรต์ประเภทนวนยิ ายจานวน 11 เรื่องได้แกเ่ รอ่ื ง ลบั แลแกง่ คอย,ช่าง สาราญ,คาพิพากษา,เวลา,ตลง่ิ สงู ซงุ หนัก,อมตะ,ปูนปดิ ทอง,ลกู อีสาน,ความสขุ ของกระทิ, พุทธศกั ราชอัสดงกบั ทรงจาของทรงจาของแมวกหุ ลาบดา,ประชาธปิ ไตยบนเส้นขนาน มาทา การตคี วามและประเมนิ คณุ สาร เพื่อสรุปและนามาทาเป็น E-BOOK เลม่ น้ี ทางคณะผ้จู ดั ทาหวังเปน็ อยา่ งย่งิ ว่ารายงานฉบับนจี้ ะเปน็ ประโยชน์ให้กบั ผูท้ ี่สนใจนวนยิ ายเรอื่ ง ตา่ งๆข้างตน้ และหากมขี ้อผดิ พลาดประการใดทางคณะผจู้ ดั ทาต้องขออภัยมา ณ ท่ีแหง่ นีด้ ว้ ย สารบัญ
สารบญั 05-07 ลับแล แกง่ คอย 08-10 ช่างสาราญ 11-13 คาพิพากษา 14-16 เวลา 17-19 20-22 ตลง่ิ สงู ซุงหนัก 23-25 อมตะ 26-28 29-31 ปนู ปดิ ทอง ลกู อีสาน 32-34 ความสุขของกะทิ 35-37 พุทธศักราชอัสดงกับทรงจาของทรงจาของแมวกุหลาบดา 39 ประชาธปิ ไตยบนเสน้ ขนาน บรรณานุกรม
ลบั แล แกง่ คอย อุเทศ เหมะมูล ปีท่ตี พี มิ พ์ : พ.ศ. ๒๕๕๒ สานกั พิมพ์ : แพรวสานัก
ตีความตามเน้อื หา : ผูเ้ ขยี นไดน้ าประสบการณ์ชวี ิตในวัยเดก็ ของตนมาผสมผสานกบั เหตกุ ารณ์สมมติ โดยพ้ืนเพและ ภูมลิ าเนาเดิมเขาเกดิ ที่อาเภอแกง่ คอย แต่ไมม่ คี วามเก่ยี วข้องกบั อาเภอลบั แลแตอ่ ย่างใด ตคี วามตามน้าเสยี ง : อเุ ทศ เหมะมูล เลา่ ด้วยนา้ เสยี งทล่ี ึกซึ้งทาให้เห็นภาพหรือจินตนาการตาม ตวั บท : เร่ิมจากตวั ละครเอกของเร่ืองคือ ลบั แล เป็นผูเ้ ลา่ เรอื่ งราวทง้ั หมดตั้งแตร่ ุน่ ปู่ยา่ พอ่ แม่ จนถงึ ชีวิต ของตนเอง โดย เล่าเร่ิมจาก ปใี หม่ พ่อของลับแล เป็นลูกชายคนโต ซ่ึงปู่กับย่าอพยพมาจากจนี และได้ มาทางานเปน็ คนสวน ตอ่ มาเมื่อปู่ เสียชวี ิตไป พ่อกต็ ้องกลายเป็นหวั หนา้ ครอบครวั คอยเลี้ยงดูผู้เป็นแมแ่ ละนอ้ งๆ พอ่ ได้ไปทางานในโรงงานปนู ซีเมนต์ที่ อาเภอแก่งคอย ด้วยความพยายามและความอดทนทาใหพ้ ่อ มีฐานะที่ดีขน้ึ จนวนั หนึ่งพอ่ ได้พบกับลออ ท้งั สองมลี กู ชาย หนึ่งคนชื่อ แก่งคอย หลงั จากคลอดไม่นาน ลออกเ็ สยี ชีวติ ทาให้พอ่ โศกเศร้าเสยี ใจมาก จนมีทิพย์เขา้ มาดแู ลแกง่ คอยแทน ความใกล้ชดิ ระหวา่ งพ่อกับทิพยท์ าใหท้ ง้ั สองได้เป็นสามีภรรยากนั โดยมีลกู ชายอีกคนชอ่ื ลับแล ทั้งสองชอบไปเล่นในป่า ด้วยกนั แกง่ คอยพี่ชายของลับแลเป็นคนทช่ี อบงานศลิ ปะมาก แต่พ่อไมส่ นับสนุนให้เขาเรียน เขาเลยหนีออกจากบ้านไป แอบเรียนดว้ ยตนเองและเมื่อกลบั มาก็สรา้ งแตป่ ัญหาตา่ งๆที่ทาให้ครอบครัวเดอื ดรอ้ นจนลบั แลทนไม่ไหวเลยฆ่าแกง่ คอย ต่อมาเมื่อพอ่ เสยี ชวี ติ เหลือแต่แม่กับลับแลสองคน จนวนั หน่งึ แมก่ ม็ ีสามใี หมแ่ ละพาลับแลไปอยู่ท่ีวดั กบั หลวงพ่อด้วยเหตุ ทว่ี า่ ลบั แลดเู ปล่ียนไปชอบทาอะไรแปลกๆคลา้ ยถูกผเี ขา้ ซึง่ เรื่องทั้งหมดน้ลี ับแลก็ไดเ้ ล่าใหห้ ลวงพ่อฟัง แต่สดุ ท้ายเม่อื ถึง วนั ทแ่ี มม่ าหาลับแลและแมก่ ็ได้รเู้ ร่ืองราวท้ังหมดทีล่ ับแลเล่าไป แมจ่ ึงบอกว่าเรอ่ื งทล่ี บั แลเลา่ นน้ั เปน็ เร่อื งโกหก โดยแม่ก็ เล่าความจรงิ วา่ แก่งคอย นั้นเสียชวี ิตไปต้ังแตอ่ ายุ ๕ ขวบแลว้ ด้วยโรคบาดทะยัก สว่ นลับแลน้ันเม่อื ก่อนเปน็ เด็กดี เชือ่ ฟัง พ่อแม่ ชอบงานศลิ ปะ แต่พอ่ ไมใ่ ห้เรียนจนหนอี อกจากบา้ น หลังจากพอ่ เสียชวี ติ กก็ ลับมาด้วยพฤตกิ รรมทเ่ี ปลย่ี นไป ชอบ สรา้ งปัญหา ทาอะไรแปลกๆคล้ายถกู ผเี ขา้ เลยเอามาให้หลวงพ่อชว่ ยทาพธิ ไี ล่ผอี อกจากร่างของลบั แล หลังจากท่ีหลวงพ่อ ทาพธิ ีกไ็ ดร้ วู้ ่าสิ่งทีอ่ ยู่ในร่างของลับแลกค็ ือ แกง่ คอยพ่ีชายของเขานน่ั เอง
บริบท : ประสบการณ์ชวี ิตสามช่ัวอายุคน แสดงถงึ ความเปลย่ี นแปลงทางด้านสังคมจากอดีตสูป่ ัจจุบนั รวมท้งั วัฒนธรรม ความเชอ่ื และการกระทาทงั้ ดา้ นดแี ละไมด่ ี ทั้งดา้ นท่ีเปน็ ความจรงิ และด้านที่เปน็ ความ ลวง เร่อื งราวระหวา่ งความจริงกบั ความลวงทเี่ ราสามารถเลอื กได้เพยี งอยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ เท่านัน้ โดยในเรือ่ ง นัน้ ไดซ้ ่อนความลวงเอาไว้อย่างแยบยล จนไม่สามารถแยกออกจากเรื่องจรงิ ได้ น่ันคือถกู กลวิธใี นการเล่น ลวงให้ผู้อ่านเขา้ ใจวา่ แกง่ คอยมตี วั ตนจริง การสอ่ื สาร : วเิ คราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์ วเิ คราะห์ : เลา่ เรอื่ งชีวิตเด็กชายวยั รุน่ คนหนงึ่ ที่ในชีวิตจริงเขาถูกอานาจแห่ง \"ความถกู ตอ้ ง\" ควบคมุ เอาไว้ โดยไม่รู้ตวั ความคิด และการดาเนินชวี ติ ท่ถี ูกกาหนดไวน้ ั้นมพี ลงั อานาจเกนิ กว่าจะขัดขืน ทางออกของเขา ท่ดี เู หมือนว่ามอี ย่เู พียงทางเดยี วนั้นกค็ ือ การสร้างตัวตนลวงอีกคนหนงึ่ ข้ึนมา จนเกือบจะนาไปสู่การแตก สลายของตัวตน ซ่งึ เป็นท่ีมาที่ไปของเร่ืองนี้ วพิ ากษ์ : เป็นการเลา่ ถึงปัจจบุ นั กอ่ นแลว้ จึงเท้าความกลบั หาอดตี โดยดาเนนิ เรื่องจากการถามของเจา้ อาวาสที่นาไปสเู่ รื่องเลา่ แบบยอ้ นกลบั หาอดีต ซ่ึงดูนา่ สนใจมาก วจิ ารณ์ : จากเรื่องผูแ้ ตง่ แตง่ เรอ่ื งไดด้ แี ละสามารถลวงให้ผู้อา่ นคล้อยตามไดจ้ ริง ซึ่งถอื ว่าเปน็ ผทู้ มี่ ี ความสามารถดีมาก ในส่วนของผูส้ รุปเองกม็ กี ารสรปุ และเลา่ ไดช้ ดั เจน ท้งั ในเร่อื งของเรอื่ งยอ่ การดาเนิน เร่ือง แกน่ เรื่อง มกี ารพดู ถงึ รายละเอียดของตัวละคร ทท่ี าใหผ้ อู้ า่ นเขา้ ใจมากข้ึน รวมถึงกลา่ วถงึ คุณคา่ ด้าน ต่างๆของเรอื่ งได้อยา่ งสร้างสรรค์ คุณคา่ ดา้ นแนวคดิ : สามารถนาแนวคิดไปใช้ในชีวิตประจาวันได้ ในเร่อื งของการดาเนินชวี ิตดว้ ยหลักธรรม ต่างๆ เพราะหลักธรรม เปรียบเสมอื นคาสอนหรือเครื่องเตือนใจ เตอื นสตใิ นการแกไ้ ขปญั หาตา่ งๆได้
ชา่ งสาราญ เดือนวาด พมิ วนา ปีทต่ี ีพมิ พ์ : พ.ศ. ๒๕๔๖ สานักพมิ พ์ : สามัญชน
ตีความตามเนอ้ื หา : เร่อื งราวในหนงั สอื ช่างสาราญ นถี้ ูกนาเสนอผา่ นตวั ละครทชี่ อื่ วา่ เด็กชายกาพล ช่างสาราญ ทอ่ี ายุ เพิง่ ๕ ขวบเอง เด็กชายผูท้ ต่ี อ้ งประสบกบั ปัญหาครอบครัวตงั้ แต่ยงั เลก็ โดยที่ตวั เขาไม่ได้เป็นผสู้ รา้ งปัญหาดงั กล่าวขึ้น เขา เองก็ไม่รเู้ ลยว่าทาไมพอ่ แมข่ องเขาถงึ ตอ้ งทะเลาะกนั แมข่ องเดก็ ชายกาพล ช่างสาราญ ท้งิ เขาไปมสี ามีใหม่ ในขณะท่คี ุณ พอ่ ของเขาก็ไมม่ ีปญั ญาทจ่ี ะเช่าห้องพักต่อ คุณพอ่ ของเขาจงึ จาเป็นต้องบอกเลกิ หอ้ งเช่าเนอ่ื งดว้ ยปญั หาความยากจน ความที่ไมม่ ีเงิน โดยทค่ี ุณพอ่ ของเดก็ ชายกาพล ช่างสาราญจาใจต้องทงิ้ ลูกชายของเขาไว้กับเพื่อนบ้านในละแวกห้องเช่า น้ันเอง เดก็ ชายกาพล ชา่ งสาราญ จงึ จาเปน็ ต้องใช้ชวี ติ ในชว่ งวยั กาลังเติบโตโดยเป็นผขู้ ออาศยั อยู่ตามบ้านของเพอื่ นบ้านตา่ ง ๆ อยา่ งน่าสงสารมาก ๆ ตีความตามนา้ เสยี ง : เล่าด้วยภาษาเขียนท่ีลึกซึ้งทาใหผ้ อู้ า่ นเกดิ จนิ ตนาการ ตวั บท : เด็กชายกาพล ชา่ งสาราญ เด็กชายที่ถกู ทอดทง้ิ เพราะแมม่ ชี ู้และพอ่ กม็ ภี รรยาใหม่เขาถูกทิ้งให้อยู่ภายใตก้ าร อุปการะของเพ่ือนบ้านในชุมชนหอ้ งแถวของแมท่ องจนั ทรเ์ ด็กชายรอคอยการกลบั มาของพ่อและแมอ่ ย่างไม่มที ีส้ินสดุ ใน ระหวา่ งนนั้ เขาตอ้ งพบกบั ความรสู้ ึกทถี่ ูกละเลย หลงลมื ความน้อยเนอ้ื ต่าใจในชะตากรรมของนอ้ ง แม้การทเ่ี ขาไม่มีพอ่ และ แมค่ อยดแู ลจะทาให้เขามเี สรภี าพไปไหนมาไหนได้ไม่มีใครสนใจ แต่อีกดา้ นหนง่ึ เขากร็ ู้สึกโดดเดย่ี วเหลือเกนิ เด็กชายกาพล ต้องเรยี นรู้ท่จี ะอยู่ร่วมกบั ผ้อู ื่น เรียนรปู้ ระสบการณก์ ารเล่นในกลมุ่ เพอื่ น รู้จกั กับความขดั แย้งและเรยี นรูก้ บั ความซับซ้อน ในโลกของผ้ใู หญ่ ในเรือ่ งน้ันเปน็ การเลา่ เรือ่ งราวจากความไร้เดียงสาของเด็ก บนั ทกึ ชวี ิตความเปน็ อย่ขู องผ้คู นทม่ี ฐี านะ ยากจน มีบรรยากาศของงานศพ งานแต่ง งานบุญ และมหรสพตา่ ง ๆ บริบท : ผูเ้ ขยี นกลับเลอื กเสนอให้เหน็ ระบบความสมั พนั ธ์ อันสะทอ้ นถงึ เย่อื ใยไมตรที ีน่ บั เปน็ พลงั เชิงบวกมากกว่า ราวกบั จะสอื่ วา่ .. แทแ้ ลว้ การดารงอย่ขู องผู้คน ถึงแม้จะมีอุปสรรคขวางกั้น แต่มันกจ็ ะสามารถดาเนนิ ไปไดเ้ สมอหากมนุษยเ์ ราไม่ อตั คัดนา้ จิตน้าใจแกเ่ พอ่ื นรว่ มสายพนั ธ์ เรือ่ งราวใน \"ชา่ งสาราญ\" พร้อมจะประทบั แนน่ อยูใ่ นซอกหลืบแห่งความทรงจา ของผอู้ า่ นไม่รสู้ ิน้ โดยเฉพาะในยามถวลิ หา \"แง่งามความดี\" ทมี่ นษุ ยเ์ ราพึงมตี ่อกนั
การสื่อสาร :วเิ คราะห์ วพิ ากษ์ วิจารณ์ วิเคราะห์ : หนงั สอื ชา่ งสาราญเปน็ วรรณกรรมท่ีเป็นการเขียนในลักษณะของเรอื่ งสั้นเป็นตอน ๆ ทนี่ าเสนออยา่ งตอ่ เนอื่ ง เร่ืองราวในหนงั สือช่างสาราญน้ี เป็นการนาเสนอผ่านตวั ละครเด็กทีช่ ื่อ กาพล เด็กน้อยผทู้ ีต่ ้องประสบพบเจอกบั ปัญหาต่างๆ มากมายอาทิเชน่ สภาพครอบครัวความเป็นอยู่ ความรนุ แรง การพนนั การเอารดั เอาเปรยี บ ปญั หาดา้ นการศึกษาและความ ยากจนทเี่ ดก็ อย่างเขาต้องเจอ ซ่ึงเหตกุ ารณ์เหล่านี้สะท้อนปัญหาสงั คมทเ่ี รมิ่ จากจดุ เลก็ ๆ ในสังคมคือสถาบนั ครอบครัวเมื่อ ครอบครัวแตกแยกพอ่ แมท่ ิ้งลกู ใหก้ ลายเป็นเดก็ กาพร้าและเด็กกลายเป็นความรบั ผิดชอบของคนในสงั คมในชีวิตของเด็กและ ความไร้เดยี งสากย็ งั มคี วามหวังและยังคงเฝา้ รอคอยพอ่ แม่ให้กลบั มาหาเดก็ ชายกาพลใชช้ วี ิตอย่างไม่มใี ครมาบงการหรอื ถกู บังคบั แต่เดก็ ชายกาพลกไ็ ม่มคี วามสุขเท่ากบั ครัง้ ท่ีอยดู่ ว้ ยกนั พร้อมหน้าพอ่ แมล่ ูกเขามีความรู้สกึ น้อยเน้อื ตา่ ใจจากการถกู ทอดทงิ้ และ ถกู ละเลยนอกจากนี้ยังแสดงให้เหน็ ถงึ ปญั หาสงั คมของเดก็ ทข่ี าดครอบครวั ดูแลในสมัยนไ้ี ดด้ ีอกี ด้วย วิพากษ์ : ลกั ษณะเด่นของเรอ่ื งชา่ งสาราญคือสามารถอ่านแยกเปน็ ตอน ๆ ไดโ้ ดยไม่จาเปน็ ตอ้ งอ่านตอ่ กนั จนจบ เพราะแตล่ ะ ตอนรวบรัดจบสมบรู ณเ์ ป็นเอกเทศในแต่ละตอนแลว้ “ ชา่ งสาราญจงึ เปน็ เหมอื นกับการรวมเรอื่ งสน้ั มากกวา่ ทจ่ี ะเป็นนวนิยาย เพราะในความเปน็ นวนยิ าย“ ชา่ งสาราญ” ไม่มโี ครงเรอ่ื งทเ่ี ด่นชดั มี แตโ่ ครงเรือ่ งรองท่รี อ้ ยเรยี งเข้าด้วยกนั ขาดการเรยี งลาดบั ของเน้อื เร่ืองเหตกุ ารณท์ ้งั หมดจึงไม่มจี ดุ หมายอื่นใดร่วมกันนอกจากการรอคอยอย่างไมส่ ้ินสุดของกาพลตอนจบของ“ ชา่ ง สาราญ” เหมือนไม่จบคนอ่านจะร้สู ึกเหมอื นถกู ทิ้งเชน่ เดยี วกบั ชีวติ ของเด็กชายกาพลท่ีหมดความหวังไปเร่ือย ๆ ในส่ิงทร่ี อ วิจารณ์ : การใช้ลกั ษณะของความเปน็ tragicomedy มาเล่าเรอื่ งราวของกาพลนั้น ทาใหจ้ ดุ มงุ่ หมายของผู้เขียนในความ ตอ้ งการท่จี ะนาเสนอชวี ิตของเด็กท่ถี ูกพอ่ แมท่ อดทิง้ ทอี่ าจเรียกไดว้ ่าเป็น “ปัญหาสังคม” อยา่ งหนึ่ง นนั้ ถูกนาเสนอออกมาใน บรรยากาศทีไ่ ม่เคร่งเครียดและบบี ค้นั จนเกนิ ไปได้เป็นผลสาเร็จ วธิ กี ารนาเสนอเรอื่ งแบบนป้ี ระสบความสาเร็จในแง่ทที่ าให้นว นยิ ายเรือ่ งน้ีมคี วามแตกต่างไปจากงานเขียนอ่ืนทีม่ กั จะบอกเลา่ เรอื่ งราวของปญั หาแบบ “กาพล” นี้ดว้ ยนา้ เสียงทส่ี มจริงและ จริงจัง ซ่งึ อาจทาให้เนือ้ หาของงานวรรณกรรมมีลักษณะของความเปน็ ข่าวและบทความทางหนังสอื พิมพ์และดว้ ยความเปน็ จรงิ ที่ว่าปัญหาแบบน้มี อี ยมู่ ากมายไมเ่ พียงแตใ่ นสังคมไทยเทา่ นั้น คุณค่าทางวรรณศลิ ป์ : การเล่าเรอ่ื งราวจากความไร้เดยี งสาของเด็ก บนั ทึกชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนทม่ี ฐี านะยากจน มี บรรยากาศของงานศพ งานแต่ง งานบญุ และมหรสพต่าง ๆ คณุ ค่าทางแนวคดิ : เน้ือเรื่องสะท้อนสังคมไดด้ ี ทาให้คนอา่ นไดเ้ ห็นสภาพสงั คมได้อย่างเหน็ ไดช้ ัด
ชาติ กอบจติ ติ คาพพิ ากษา ชาติ กอบจติ ติ ปที ี่ตพี ิมพ์ : พ.ศ. ๒๕๒๕ สานกั พิมพ์ : ต้นหมาก
ตีความตามเนื้อหา : เพราะสังคมทาให้เขาเปน็ คนเลว โดยทเ่ี ขายงั ไมไ่ ดก้ ระทาผดิ อะไรเลย เปน็ เเค่เรื่องเข้าใจผดิ ท่ีสงั คมไม่ คิดจะหาความถกู ต้อง ตีความตามน้าเสยี ง : ชาติ กอบกติ ติ เลา่ โดยใช้คาบรรยายท่ีแสดงถงึ ความโกรธและเสยี ใจเเละถอ้ ยคาทไี่ มซ่ บั ซ้อนทาให้ ผ้อู ่านเขา้ ใจไดง้ า่ ย ตัวบท : เป็นเรือ่ งราวของภารโรงที่ชื่อวา่ ”ฟกั ” ท่โี รงเรียนเลก็ ๆ ภายในตาบลหนึง่ ฟักเปน็ คนดี เเละฟักมักช่วยเหลือ คน อื่นเสมอ เเต่จดุ เรมิ่ ตน้ ทที่ าให้ฟักไดพ้ บเจอกบั คาว่า “พพิ ากษา” เร่มิ จาก พ่อของฟกั ไดเ้ สยี ชวี ติ ลง เเลว้ ฟักกไ็ ด้สบื ทอด หน้าท่ีภารโรงต่อจากพ่อของเขา เเล้วฟกั จะตอ้ งอยกู่ บั ภรรยาของพอ่ ของเขา เหตุการณ์เลวรา้ ยลงเม่ือนางสมทรงเมียท่จี ิต ไมป่ กติของพ่ออย่ๆู ก็ไปประกาศตอ่ หน้าคนมากมายวา่ ฟักคือผวั ตน เเละชาวบ้านกเ็ ลอื กทจี่ ะเชอื่ วา่ ฟกั เปน็ ทาจรงิ ๆ ไมว่ ่า ฟกั จะเเกต้ ัวยังไง ก็ไมม่ ีใครเช่อื เเละนางสมทรงมักหาเรอ่ื งมาให้ฟกั อย่เู รื่อยๆ ชีวติ เขาจงึ มแี ตป่ ัญหาแวะเวียนมาตลอดจน ไม่มใี ครอยากจ้างเขาทางาน ดว้ ยความโศกเศรา้ น้อยใจ ฟกั จงึ เผลอกนิ เหลา้ ทสี่ ปั เหรอ่ ให้เข้าไปเป็นจานวนมาก จนเมาไม่รู้ เรือ่ ง ทาใหส้ ัปเหรอ่ ต้องเดนิ ไปส่งถงึ บา้ น ฟกั รูส้ กึ ตดิ ใจอาการมึนเมาของเหล้าจงึ อยากทาอะไรก็ทา เหลา้ มอบความกลา้ ใหแ้ กเ่ ขาทุกวนั ชายหนุ่มจงึ อยูแ่ ต่กบั เหลา้ ทกุ คนมองฟกั ในเเงล่ บมากขน้ื เเละฟกั ได้ไปเอาเงินทเ่ี ขาฝากกบั ครใู หญใ่ ว้ เเต่ ครใู หญ่ปฏเิ สธทจ่ี ะให้ท้งั ๆทีเ่ ปน็ เงนิ ของฟกั เอง ฟักจงึ โมโหเเละประกาศให้ทกุ คนรวู้ ่าครใู หญโ่ กงเขา เเตก่ ลบั ไม่มใี ครเชือ่ เขา เเลว้ ยังโดนจบั เข้าคกุ อีก เเละครูใหญอ่ ยากจะเอาหนา้ โดยการนาฟกั ออกมาจากคกุ เเลกดว้ ยกบั การก้มกราบ เเละฟักก็ได้ ออกมา เเตฟ่ กั กต็ รอมใจตายดว้ ยพิษเหลา้ ในท่สี ดุ บรบิ ท : เนือ้ เรอ่ื งหลกั : คอื สังคมท่ีตัดสนิ คน โดยไม่คดิ จะรับฟงั โครงเร่ือง: เตม็ ไปด้วยเเนวคดิ เเละเน้นถงึ ความสาคัญของเหตุการณ์ การพลิกผนั ของชวี ติ โดยใหต้ วั ละครเอกเปน็ ผถู้ กู กระทาเเละตอ้ งเผชิญกับปญั หาต่างๆ ตวั ละคร: ฟัก(เปน็ ตวั เอกของเรอ่ื ง) นางสมทรง(เมยี ของพ่อฟัก) ทท่ี าให้ฟักต้องเจอกับปัญหาตา่ งๆ
การสอ่ื สาร :วิเคราะห์ วิพากษ์ วจิ ารณ์ วิเคราะห์ : เน่ืองจากชวี ิตของภารโรงผนู้ ไี้ ดถ้ กู ทารา้ ยโดยสาเหตุจากการกระทาความดขี องเขาเอง นวนยิ ายเร่อื งคาพิพากษา จึงเปน็ การเสนอเร่ืองราวแนวคดิ ของคนทอ่ี ยูต่ ัวคนเดยี ว ท่มี กั ตกเป็นเหยอ่ื ของ ความเช่ือ และคาตดั สนิ ของสังคมไมว่ า่ เร่ืองนนั้ จะเปน็ ความจรงิ หรอื ไมก่ ็ตาม สง่ ผลให้คนๆนนั้ ต้องอา้ งวา้ ง โดดเดย่ี วทุกขท์ รมาน ทั้งร่างกายและจิตใจ ผู้เขยี นได้สร้างเร่ืองราวโดยใช้สังคมชนบทของไทยเป็นฉากมตี ัว ละครชอื่ “ฟัก” เปน็ ตัวเอกของเรอื่ ง ปญั หารมุ เร้าฟกั มากมายจนด้ินไมห่ ลุด เมอื่ ไมม่ ีทางออกจึงหนจี าก โลกของความเปน็ จริง สรา้ งโลกใหม่ทเ่ี ขาหลงคิดว่าเป็นหนทางออกไปสอู่ สิ รภาพ ท้ายทส่ี ุดเขาได้รับ อสิ รภาพทแี่ ท้จริงนนั่ คอื ความตาย วจิ ารณ์ : เปน็ เรือ่ งราวที่อาจจะเกดิ ข้นึ ไดจ้ รงิ ในหลายๆ สังคม คนดีบางครั้งกใ็ ช่วา่ จะไดร้ บั แต่ส่ิงดีๆ หาก ฟักไมย่ ดึ ติดในความดจี นเกนิ ไป ก็อาจจะไมต่ กอยูใ่ นสภาพนี้ หรือไม่ก็หนไี ปเร่มิ ต้นใหมท่ ีอ่ ่นื แต่เพราะ ความยึดตดิ ความยดึ มั่นถือของตวั ฟักเอง ประกอบกับรกั ในบ้านเกดิ จงึ มีจุดจบท่ีไม่ดสี กั เทา่ ใหร่ วิพากษ์ : นวนิยายเรือ่ งนี้ ยังสอนใหเ้ ราไมไ่ ปเผลอตดั สินคนอ่ืนจากสงิ่ ทไี่ ดเ้ หน็ หรอื ได้ยิน เพราะเพยี งเรา มองเขาผดิ ไป นัน่ อาจกระทบต่อชวี ิตของเขาไม่ทางใดกท็ างหนงึ่ แต่ตอ้ งมองหาขอ้ เทจ็ จรงิ อย่าเช่อื อะไร งา่ ยๆ เพราะการเผลอไปตัดสินใครคนหน่ึงเพยี งผวิ เผนิ ไม่ใช่สิ่งทดี่ ี คณุ ค่าทางวรรณศลิ ป์ :เป็นนวนยิ ายปลกุ เรา้ และกระต้นุ เตอื นสานึกทางสังคมของผู้อ่านในระดบั ลึก สง่ ผล ใหค้ าพิพากษาได้รับเสียงตอบรบั อย่างยาวนาน ปลุกกระแสการวิจารณว์ รรณกรรมอยา่ งต่อเน่อื งทง้ั ยงั เคย ไดร้ บั การสร้างเป็นละครโทรทศั นแ์ ละภาพยนตร์ คณุ คา่ ดา้ นแนวคิด : นวนยิ ายเรือ่ งคาพพิ ากษา คงให้แงค่ ดิ ทดี่ ีว่า เราควรตอ้ งกลั่นกรองและใช้วจิ ารณา ญาณถึงทุกเรอื่ งราวในสงั คมทม่ี นั เปลย่ี นไป ใหด้ ีที่สดุ อยา่ ใหอ้ ารมณ์อยเู่ หนอื เหตผุ ลของการใชค้ วามคิด ท่ี มันอาจทาให้เราได้ไปหลงตดั สนิ ใครอย่างเยอื กเยน็ ด้วยอคตทิ ี่เรามี โดยแทบจะไมร่ ถู้ งึ ความจรงิ ท้ังหมด การเหน็ อาจเป็นเพยี งแคแ่ งม่ มุ เดียวทไี่ ด้รับรู้ แลว้ มนั จะกอ่ ใหเ้ กดิ “อคติ” ทีจ่ ะมาบดบัง ปดิ กั้น ถึงมโน ธรรมของศกั ดคิ์ วามเป็นมนุษย์ออกจากกัน
เวลา ชาติ กอบจติ ติ ปที ่ตี พี มิ พ์ : พ.ศ. ๒๕๓๖ สานกั พมิ พ์ : หอน
ตีความตามเน้อื หา : เร่ืองเวลาเปน็ การดาเนนิ เรือ่ งตามลาดบั เวลา โดยตัวละครในเรอื่ งที่เปน็ คนดเู ป็นผู้เลา่ เรอื่ ง ตัวละครทเ่ี ป็น ผเู้ ลา่ เรอ่ื งน้นั เปน็ ผู้กากบั การแสดง เขาไปนัง่ ดูละครเวทเี รอื่ งหนง่ึ ทไี่ ดช้ ่อื ว่าเปน็ ละครทน่ี ่าเบอ่ื ในรอบปี ซง่ึ เร่อื งน้ีเปิดเรอื่ งด้วย ฉากและบรรยากาศบนเวทขี องละครเวทที เี่ ขามาดวู ่าบนเวทมี แี ต่ความมืด ไม่มีเสียงเคลอื่ นไหว แล้วกม็ ีแสงพ่งุ มาจับท่นี าฬกิ า ทรงโบราณ มเี สียงนาฬกิ า ลูกตุ่มนาฬิกาแกวง่ ไปมา นาฬิกาบอกเวลาตสี ี่สี่สบิ ห้านาที และเห็นร่างคนนอนอยู่ มเี สยี งตะโกน แหง้ ๆในความมืดวา่ “ไม่มีอะไร ไม่มีอะไรจรงิ ๆ” ซึ่งเสียงนีจ้ ะดงั เป็นระยะๆตลอดเรอ่ื ง แลว้ กเ็ กิดความเงยี บข้นึ แล้วเวลากผ็ ่าน ไปอยา่ งเช่อื งช้าเรอ่ื งราวก็ยงั ไม่เกิดอะไรข้นึ ซ่ึงเสยี งทีด่ งั เปน็ ระยะและความเงยี บน้ีเปน็ การสรา้ งความสงสัยใหก้ ับผ่อู ่านว่าบน เวทีจะเกดิ อะไร ซึง่ ผูเ้ ขยี นต้องการปมปัญหาให้กบั ผู้อ่าน โดยจากเนือ้ เร่อื งตัวละครผเู้ ลา่ เรือ่ งนน้ั ก็บรรยายถงึ ลักษณะและ ความรูส้ กึ ต่างๆในการแสดงไปเร่ือยๆจนการแสดงบนเวลาไดป้ รากฏข้นึ เป็นเรื่องราวของสถานสงเคราะหค์ นชราในโรงพกั ฟื้น ซึ่งเปน็ การดาเนนิ เรอื่ งราวของชีวติ คนชราทีอ่ าศยั อย่ทู ีน่ น่ั โดยมเี ร่อื งราวต่างๆเกดิ ขนึ้ มปี ญั หาเกดิ ข้นึ ไมว่ ่าจะเปน็ ปญั หาเงิน หาย มีการตอ่ ปากต่อคากบั ของตวั ละคร มเี สียง “ไม่มีอะไร ไมม่ ีอะไรจริง” จากห้องปรศิ นามาเปน็ ระยะและยังเป็นปมปรศิ นา ให้กบั ผ้อู า่ นเปน็ ระยะวา่ ห้องน้นั มีอะไร จนวนั หนง่ึ ที่มีคนมาเล้ียงข้าวคณุ ยายท่โี รงพักฟ้ืนจงึ ทาให้ร้วู ่าในหอ้ งนัน้ มอี ะไร ในเร่ืองนี้ ตัวละครท่เี ล่าเรื่องกจ็ ะนาเหตุการณท์ เ่ี กิดขน้ึ บนเวทีมาสะท้อนกบั ชวี ิตตวั เอง วา่ ถ้าชวี ติ ตวั เองเป็นแบบนี้จะทาอย่างไร ถา้ เปน็ ละครทต่ี วั เองกากับฉากน้ีจะทาอยา่ งไรใหน้ ่าสนใจ เรื่องราวกด็ าเนนิ ชีวิตของคนชราต่อไปเร่อื ยๆ จนมตี วั ละครท่เี ปน็ คนชราคน หนง่ึ ตายซงึ่ กค็ อื ตวั ละครทช่ี ือ่ ว่ายายอยูซ่ งึ่ แกตายอยา่ งสงบซง่ึ การตายของตัวละครนี้ก็เป็นทาให้เร่อื งราวเดินทางมาถงึ จดุ จบ เปน็ การเฉลยหอ้ งปริศนานัน้ ให้กับผชู้ มที่ดลู ะครเวทีและผอู้ า่ นไดร้ ู้ว่าในน้นั มีอะไร แต่เมอ่ื เปิดห้องนัน้ ดูก็กบั ไมพ่ บอะไรเลยกลบั เปน็ หอ้ งว่างป่าว ไม่มีเคร่อื งใชข้ องใชท้ ย่ี นื ยนั วา่ เคยมีคนเคยอยูเ่ ลย การจบเรื่องของเร่ืองนีจ้ บแบบใหผ้ ูอ้ ่านได้คิดเองวา่ หอ้ งว่าง เปลา่ นน้ั คืออะไร ตคี วามตามนา้ เสยี ง : นกั เขียนได้เขยี นถงึ เร่ืองราวท่เี ต็มไปดว้ ยปมปรศิ นาต่างๆชวนใหส้ งสัยและทาใหผ้ อู้ า่ นเกิดการคดิ ตามอยู่ ตลอด
ตวั บท : เวลา ใช้วธิ ีการเลา่ เร่ืองโดยสมมติใหผ้ ูอ้ า่ นเป็นผกู้ ากับภาพยนตร์คนนีท้ กี่ าลังดลู ะครเวทเี กยี่ วกบั ชีวิต คนแกอ่ ยู่ ในบางชว่ งให้ตวั ผ้กู ากบั ฯนส้ี นทนากับผ้อู า่ นและตดั สลบั กบั มุมกลอ้ ง โดยดาเนนิ เรอ่ื งผา่ นช่วงเวลาใน แตล่ ะชวั่ โมงต้ังแต่เช้าจนเย็น ตอนจบเป็นการหกั มมุ โดยเฉลยว่าในหอ้ งกรงที่ดเู หมือนวา่ กักขงั คนแกค่ นหน่ึงที่ คอยตะโกนซ้า ๆ ซาก ๆ วา่ \"ไมม่ ีอะไร ไม่มีจรงิ ๆ\" กไ็ มม่ ีอะไรเลยจรงิ ๆ ในหอ้ งนัน้ บริบท : ชายเขยี นบทเปน็ คนทขี่ ยันทางาน ไมม่ เี วลาใหค้ รอบครัว ทางานทมุ่ เทกบั งานจนลมื ดแู ลตวั เองและคน ในครอบครัวสดุ ทา้ ยไมเ่ หลือใคร อาจจะกล่าวไดว้ า่ ชายเขยี นบทเป็นผดู้ าเนนิ เร่ืองหรือเล่าเรื่องนี้ทงั้ หมดกว็ ่าได้ การส่อื สาร = วิเคราะห์ – วจิ ารณ์ – วพิ ากษ์ วิเคราะห์ : ฉากและบรรยากาศมุ่งเนน้ การอธบิ ายให้ผ้อู า่ นเข้าใจและมกี ารใชน้ ขลขิ ติ เพอื่ อธิบายฉากและ บรรยากาศและกจิ กรรมของตวั ละคร เปน็ งานเขียนซึ่งบรรยายฉากและบรรยากาศไดด้ ี เม่ือได้อ่านจะทาใหเ้ กิด ความร้สู ึกดลู ะครซอ้ นละคร การดาเนินเรอื่ งตอนตน้ หรือตอนเปิดเรือ่ งใชก้ ารบรรยายใหเ้ หน็ ถงึ ฉากและ บรรยากาศโดยรอบ พรอ้ มกบั การแสดงความรูส้ กึ ของผู้ชมละครเวทแี ละความคิดในการสรา้ งภาพยนตรข์ องตัว ละครที่ผู้เขียนสรา้ งขน้ึ ทาให้เกดิ งานเขยี นที่แสดงถงึ การถ่ายทาภาพยนตร์สลบั กนั ไปมากับบทละครเวทีและ เนอื้ เรอื่ งนวนยิ าย เชน่ การตัดไปตดั มาของภาพนาฬกิ า วิจารณ์ : เปน็ นยิ ายเร่ืองทน่ี ่าสนใจ เพราะว่า เวลา คนแตล่ ่ะคนมีเทา่ กนั และกใ็ ช้เวลาท่มี ีอยใู่ หค้ ุม้ ค่าเพราะ เราไม่รูว้ ่าวันขา้ งหน้าเราจะมีชวี ิตอย่ถู ึงเมอื่ ไหร่ วพิ ากษ์ : เปน็ การนาเอาเร่ืองของคนสูงอายุซ่ึงเปน็ เรอ่ื งท่ี “น่าเบ่อื ” หรอื เปน็ เร่อื งสามญั ธรรมดาท่คี นท่ัวไป มองขา้ ม นามาเล่าได้อย่างมชี ีวติ ชวี า สะเทอื นอารมณ์ และใหแ้ งค่ ิดทางดา้ นสจั ธรรมแห่งชวี ติ ด้วยนวัตกรรม การเลา่ เรื่องทซี่ ับซอ้ นแตม่ เี อกภาพและมคี วามกลมกลนื กบั เน้ือเรื่อง คณุ คา่ ทางวรรณศลิ ป์ : ใช้คาที่สละสลวย กินใจ อกี ทง้ั ยังมีการใชโ้ วหารตา่ งๆ เชน่ การบรรยาย การพรรณนา คณุ ค่าด้านแนวคิด : สามารถนาแนวคดิ ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ได้ ในเรือ่ งของการดาเนนิ ชวี ิตด้วยหลกั ธรรม ต่างๆ เพราะหลกั ธรรม เปรยี บเสมือนคาสอนหรือเครื่องเตอื นใจ เตอื นสติในการแกไ้ ขปญั หาต่างๆได้
ตลง่ิ สงู ซงุ หนกั นคิ ม รายยวา ปีที่ตีพมิ พ์ : พ.ศ. ๒๕๒๗ สานกั พิมพ์ : นาอักษรการพิมพ์
ตคี วามตามเนอ้ื หา : เป็นเร่อื งราวการใช้ชีวิต การดารงอยู่ การอาศยั พ่งึ พิงกับสงิ่ ธรรมชาติการดารงอยขู่ องคนชนบทที่มี หลากหลายอาชพี เชน่ ควาญชา้ ง ช้างแกะสลักไม้ หรอื อนื่ ๆ นวนิยายเลม่ น้ี สอื่ ให้เห็นถึงภมู ปิ ญั ญาชาวบา้ นและการเป็น ควาญชา้ งการเล้ียงชา้ งและการถนอมช้างการเข้าใจความรูส้ กึ ของชา้ งเหมือนท่เี ข้าใจความรู้สึกของคน การให้ความสาคญั กับชา้ งหรือการใหค้ วามสาคัญกับสตั ว์ปา่ การชว่ ยกันตดั ไม้แบกซงุ ในการทาสะพานและเป็นการใหช้ า้ งมาชว่ ยแบกซงุ ใน เนอื้ หาจะเป็นเรื่องราวชีวิตของคางายและได้มีลกู เมยี และได้รถู้ งึ การเสยี ลกู จากอบุ ตั เิ หตุทางนา้ และตวั เองกเ็ สยี ชีวิตจาก อบุ ัติเหตุทางซุงและได้สูญเสยี ชา้ งท่ีตวั เองเลย้ี งมาต้งั แตเ่ ด็กๆเพราะวา่ พ่อของเขาไดข้ ายช้างให้กบั คนอื่นและคางายก็ไดไ้ ป เรยี นแกะสลกั ไมก้ บั เพอื่ นเขา ท่ชี ือ่ บุญฮามและได้แกะสลกั ไมเ้ ป็นอาชีพตอ่ มาหลงั จากนนั้ เขาก็ได้แกะสลกั ช้างตวั ใหญ่ เพื่อที่จะรกั ษาคาพูดกับพอ่ ของเขาวา่ ถา้ เขาแกะสลกั ไมช้ ้างตวั ใหญ่ได้ พ่อของเขาจะซ้ือชา้ งคนื มาให้เขาจนเกดิ เปน็ เร่อื งราวท่ี สะท้อนชวี ิตของหลายๆคนและให้เห็นถงึ มมุ ทไี่ ม่มใี ครไดเ้ คยเหน็ ตคี วามตามเนอ้ื เสยี ง : เป็นการเรียบเรยี งโดยใชค้ าพูดของคนและบทสนทนาในนน้ั เหมือนกับการพูดจริงๆ และใชน้ า้ เสยี งท่ี กระชับเหมือนคนสมยั กอ่ น เป็นภาษาทีอ่ ่านงา่ ยและเขา้ ใจถงึ แม้จะมคี าทสี่ นั้ แตก่ เ็ ป็นภาษาทส่ี นกุ อ่านแล้วไม่เครียด พอได้ อา่ นแล้วอยากอ่านตอ่ จนจบ เทคนิคการใชภ้ าษาและการเขียนของหนงั สือเลม่ น้ี เป็นภาษาทคี่ ่อนข้างค้นุ หคู ้นุ ตาน้าเสยี งท่ใี ช้ ในการพมิ พ์ใช้ง่าย คนอา่ นจะมีอารมณท์ ่เี ขา้ ใจบททอ่ี ่านและเวลาอ่าน กจ็ ะรู้สกึ ว่าเป็นคาพูดจริงๆไมใ่ ช่การเขยี นเฉยๆ เทคนคิ การพิมพท์ ี่ใช้ในการเลียนเสยี งชวี ติ จริงจะไมใ่ ช่ใครกไ็ ดท้ ่ีนามาเขยี นแตต่ อ้ งเขา้ ใจถงึ ตัวละครบทบาททจ่ี ะเขยี นและ สมมตุ ิเหตกุ ารณ์ข้ึนมาและเขยี นลงไปเพือ่ ท่ีจะให้คนอ่านเข้าใจและเขา้ ถงึ มากข้นึ ตัวบท : เร่ืองราวของขวญั ชา้ งทีช่ ื่อคางายเปน็ ชาวบา้ นชนบททชี่ อบการเลยี้ งช้างและมชี ้างเป็นของตนเองและเป็นเรือ่ งราว ของชีวติ ตัวเองตั้งแตย่ งั วัยเด็กจนถงึ สิน้ ชีวติ ชวี ิตของช้างหน่ึงตวั มผี ลตอ่ ชวี ติ ของคางายชีวติ ของเขา ขึ้นอยู่กับช้าง ท่ีช่ือว่า พลายสุด คางายเปน็ คนเกง่ และเรยี นร้งู า่ ย และในวนั ท่ีช้างของเขาถูกฆา่ ไปโดยพ่อของเขา เขาก็ด้ินรนทจี่ ะหาเงนิ โดยการไป เรยี นแกะสลักกับเพอ่ื นของเขา ที่ชอื่ บุญห้าม หลงั จากนนั้ เขาก็ไดแ้ ตง่ งานกับหญิงท่ชี อ่ื มะจัน และมลี กู และไดเ้ สียลูกของ เขาไปดว้ ยอบุ ตั เิ หตุท้งั น้นั ตัววเขาก็เสียชีวติ ดว้ ยกับอบุ ตั ิเหตุ ในการลากซุง
บริบท : เนอ้ื เรอื่ ง เป็นเร่อื งเกี่ยวกบั ภมู ิปัญญาชาวบา้ น และภมู ิปญั ญาของควาญช้าง ทแ่ี สดงให้ เห็นถึงความใสใ่ จในการเลย้ี งสัตวป์ ่า การใชช้ ีวติ การเอาตวั รอดการดิน้ รน เพื่อส่ิงที่อยากได้และ สงิ่ ที่เคยมีด้ังเดมิ การส่ือสาร = วิเคราะห์ – วิจารณ์ – วพิ ากษ์ วเิ คราะห์ : ซงุ หนัก หมายถึง การใชช้ ีวิตอยา่ งยากลาบาก และการเจออปุ สรรค และนายนิคม ก็ ไดถ้ ่ายทอด ผา่ นนวนยิ าย ให้เห็นถึง การใชช้ ีวติ และถา่ ยทอด วัฏจกั ร วัฒนธรรม การดารงชีวิต ภมู ิปัญญาชาวบ้าน ใหค้ นอา่ นได้เขา้ ใจ วิจารณ์ : ผู้วจิ ารใช้ทฤษฎีการตีความ ในการเขา้ มาวิจารณ์ โดยการตีความของตวั ละครเอก รวมถึงลกั ษณะต่างๆทม่ี ีผลตอ่ ตัวละครที่นาไปสู่แกน่ เรอ่ื งได้ วิพากษ์ : องค์ประกอบ ภาษาในการใชส้ อ่ื ออกมาเปน็ ที่เตะตาในการอ่าน ดว้ ยการเขียนที่กะทกั รัดและเขา้ ใจง่าย การสอ่ื เน้ือเรื่องออกมาทาให้ได้ขอ้ คดิ หลายขอ้ คุณคา่ ทางวรรณศลิ ป์ : ตล่ิงสงู ซงู หนัก แสดงให้เห็นคุณค่าของชวี ติ ในชีวติ ของมนษุ ย์เราน้ัน เกดิ คร้งั เดยี วและตายครั้งเดยี ว แตส่ ่ิงทอ่ี ยตู่ รงกลางนัน้ เราจะต้องสร้างขน้ึ เอง อยู่ทวี่ า่ เราจะใช้ เวลาส่วนนนั้ ไปทาอะไร ในบางทเี ราอาจจะสตฟั ฟ์สงิ่ ทไ่ี ม่ชีวิตโดยไมร่ ตู้ วั จนลมื รักษาส่งิ ท่มี ชี ีวติ สิ่งทม่ี จี ิตใจ ตวั อย่างเชน่ ในบางครัง้ นัน้ เรามวั สนใจแต่วัตถุ หลงอยูใ่ นวัตถนุ ิยม สนใจแตใ่ นโลก โซเชียล จนหลงลืมทจี่ ะดแู ล เอาใจใสค่ นทอ่ี ยู่รอบตวั เรา เชน่ คุณพ่อ คุณแม่ เป็นตน้ คณุ ค่าดา้ นแนวคิด : เป็นนวนยิ ายทม่ี ีคณุ คา่ ทั้งในด่านเนือ้ หาและกลวธิ กี ารเลา่ เร่ือง โดยเมื่อ พิจารณาจากชือ่ เร่ืองแลว้ จะเห็นว่ามีความน่าสนใจ และสอดคล้องกบั เนือ้ เร่ือง โดยตลิ่งสงู เปรยี บได้กับ อุปสรรค ปญั หาต่าง ๆ ท่เี ราตอ้ งเจอในชวี ิต และซงุ หนัก เปรียบไดก้ บั ภาระหน้าท่ี ท่ีไดร้ ับมอบหมาย ตัวละครเอกในเรอ่ื งตลิ่งสงู ซงุ หนกั
อมตะ วิมล ไทรนิ่มนวล ปีทตี่ พี ิมพ์ : พ.ศ. ๒๕๔๓ สานกั พิมพ์ : สยามประเทศสานกั พมิ พ์
ตีความตามเนื้อหา : เป็นนวนิยายทน่ี าเสนอประเด็นวิวาทะระหวา่ งศาสนากบั วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีศลี ธรรมกบั สญั ชาตญาณเถอ่ื นเปน็ แก่นหรอื แกนหลกั นอกจากนีย้ งั มีประเด็นรองหลายประเด็น เชน่ ความรักกบั ความแคน้ ธุรกิจการค้ากบั ความเป็นมนษุ ย์ การตอ่ ส้กู บั การยอมจานน อิสรภาพกับการจองจา ในระดับกายภาพและจิตวญิ ญาณและอีกหลายประเดน็ ลว้ น แต่ทา้ ทายการตรวจสอบอย่างยิ่ง ตีความตามน้าเสียง : ผปู้ ระพันธ์แสดงเนือ้ หาทจี่ รงิ จังหนกั แน่น แต่ด้วยสไตลก์ ารนาเสนอทที่ นั สมยั และเปน็ สากล ไมซ่ ับซอ้ นแต ซอ่ นเงือ่ นเพอื่ ความบนั เทิงสมดลุ และลนื่ ไหลด้วยภาษาและท่วงทานองแห่งกวีสวยงามดว้ ยจินตนาการอนั ละมนุ ละไมจึงทาให้นว นยิ ายเรือ่ งนี้อ่านสนกุ พร้อมกนั น้ีผอู้ ่านก็จะได้รบั สารสัจจะไปด้วย ตวั บท : พรหมินทร์เป็นเจา้ ของธุรกจิ ครบวงจรยักษใ์ หญข่ องประเทศรวมไปถงึ ฟารม์ สัตว์ โรงพยาบาล และสถาบันวจิ ัยเกยี่ วกบั การโคลนสิง่ มีชวี ติ เขาพยายามผลักดันใหร้ ฐั บาลออกกฎหมายท่ีเอ้ือตอ่ ธุรกิจหลายๆ อยา่ งของเขา หนง่ึ ในร่างกฎหมายทีเ่ ขา พยายามผลกั ดันมาตั้งแต่ ๒๒ ปกี ่อนคอื รา่ งกฎหมายเกยี่ วกับการโคลนน่ิงมนุษย์ เพือ่ ใชใ้ นทางการแพทย์และการพาณชิ ย์ในวาร ต่อไป เบือ้ งต้นเพือ่ ใช้ตวั โคลนเป็นอะไหลเ่ ปลยี่ นถ่ายอวยั วะเม่อื ทรดุ โทรมระหว่างทีก่ ฎหมายยงั ไมผ่ ่านเขาอาศัยชอ่ งโหว่ของ กฎหมายทาการโคลนมนษุ ย์และหน่ึงในนน้ั คอื โคลนของเขาเอง ซึง่ เขาเลยี้ งดมู าในฐานะลกู ชายคนหนงึ่ ชวี นั เม่ือถึงเวลาทีเ่ ขา ตอ้ งการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะภรรยาของเขาซ่ึงไมเ่ ห็นด้วยได้บอกเร่ืองน้กี บั ชวี นั ซงึ่ ไมเ่ คยร้มู ากอ่ น หลังจากสับสนและหนีหายไปพกั หนง่ึ ชวี นั ก็กลับมาด้วยยอมจานนให้พรหมินทรใ์ ชเ้ ปน็ อะไหลด่ ้วยหัวใจทีห่ ่อเห่ยี วทง้ั ภรรยาของพรหมนิ ทรแ์ ละชวี นั ต้องได้รับการ ฟืน้ ฟทู างจิตโดยไดพ้ บกบั อรชนุ ผเู้ ช่ยี วชาญด้านการบาบดั จติ กอ่ นจะรู้ภายหลงั ว่าอรชนุ คือ โคลนของพรหมนิ ทร์ทห่ี นไี ปและต้งั ใ กลับมาเพ่อื แกแ้ ค้นและช่วยเหลอื บริบท : ผเู้ ขียนนาเอาประเด็นความเจรญิ กา้ วหนา้ ทางวิทยาศาสตร์มาผูกเรือ่ งและสรา้ งตัวละครทเ่ี ปน็ ภาพแทนของ พระพทุ ธศาสนาและวิทยาศาสตร์ กลา่ วคอื การนาเอาความรู้ทางพระพทุ ธศาสนามาสอดแทรกในเน้อื หาและการเปรยี บทยี บ ความเจรญิ ก้าวหนา้ ทางวิทยาศาสตร์ในอนาคตการทาโคลนนิง่ มนษุ ย์และเปล่ยี นถ่ายอวัยวะเป็นตวั แสดงใหเ้ ห็นถึงความรักตวั กล ตายและสญั ชาตญาณแหง่ การเอาตัวรอดอันเป็นธรรมชาตภิ ายในที่ผลักดนั ใหแ้ สวงหาวิธกี ารเอาตวั รอดหาความเป็นอมตะในแบ รูปธรรม
การสอ่ื สาร :วเิ คราะห์ วพิ ากษ์ วิจารณ์ วเิ คราะห์ : พรหมมนิ ทร์อยากเปน็ อมตะโดยใช้วธิ ีโคลนน่งิ เพือ่ จะเปลีย่ นถ่ายอวัยวะกบั ตัวโคลทเ่ี ขาสร้างขน้ึ มา ชวี ัน เปน็ หน่งึ ในคนโคลนทีไ่ ต้รบั การเลย้ี งดูจากพรหมมนิ ทร์ เม่ือเขารคู้ วามจรงิ เร่ืองการเปลยี่ นถ่ายอวยั วะเขาจงึ เสยี ใจมาก แต่ในอีกดา้ น หนง่ึ อรซุนโคลนอีกคนของพรหมมินทร์เขามอี าชพี เป็นนักจิตบาบัด เขาถูกจ้างมาเพอื่ บาบัดศศิประภาภรรยาของพรหมมินทร์ และบาบดั จิตใจของชวี นั เขาเปน็ คนทยี่ ดึ มนั่ ในหลักพุทธศาสนา เขารบั หนา้ ทีบ่ าบัดศตปิ ระภาและชวี นั อยา่ งเตม็ ใจเพราะ จรงิ ๆแล้วเขาต้องการท่จี ะแกแ้ คน้ พรหมมนิ ทรท์ ี่ไม่รูจ้ ักคุณคา่ ของชีวิต เมือ่ ถงึ วันที่ชีวนั ต้องเปลี่ยนถา่ ยอวยั วะกบั พรหมมินทร์ อวยั วะบางสว่ นของชีวนั จะต้องถกู ย้ายไปทรี่ ่างกายของพรหมมนิ ทร์ อรชุนทราบข่าวจึงขอแลกตัวกับชวี ัน พรหมมนิ ทร์ ต้องการสมองของอรชุน การผ่าตัดผา่ นไปไดด้ ว้ ยดี พรหมมินทร์สามารถเปล่ียนถา่ ยสมองไดส้ าเรจ็ โดยเขาอยใู่ นร่างของ อรชนุ วิจารณ์ : เปน็ นักเขยี นทต่ี ้ังใจสรา้ งสรรคง์ านอย่างมีคุณคา่ มแี นวการเขยี นหลายแนว ประกอบกับความคิดทหี่ ลากหลาย สามารถแสดงทศั นะในดา้ นตา่ ง ๆ ของสังคมปจั จุบันได้อย่างถงึ แก่น วพิ ากษ์ : แมม้ ี ‘เปา้ หมาย’ ทางอุดมคติที่ดี คอื ตอ้ งการช่วยเหลือคนโคลน แต่ ‘”วธิ กี าร’ ทเี่ ขาเลือกใช้กลบั มแี นวโนม้ ไปสู่ ปญั หาท่ีรนุ แรงมากขึ้น ซง่ึ ขัดกบั หลกั การทางศาสนาที่เขาพร่าสอนอยูต่ ลอดท้งั เร่ือง คณุ ดา้ นวรรณศิลป์ : เมื่อพจิ ารณางานทางวรรณกรรมอนั เปรียบเสมอื นภาพสะทอ้ นความรู้สกึ นึกคิดของ มนุษยใ์ นห้วงเวลา หนึ่ง วรรณกรรมเปน็ การแสดงความคิดเหน็ ผ่านภาพแทนคอื ตวั ละคร ทง้ั น้ีท่ามกลางความเจรญิ กา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยีที่ เป็นไปอย่างต่อเนอื่ งและก้าวกระโดดวรรณกรรมได้ทาหนา้ ทีเ่ ป็นภาพสะทอ้ นความเจรญิ กา้ วหนา้ ทางวทิ ยาศาสตรผ์ สมผสาน กับหลักคดิ ทางพระพทุ ธศาสนาโดยนาเสนอเนอื้ หาในรปู แบบคู่ตรงข้าม (Binary Opposition) ระหว่างวิทยาศาสตร์อนั เปน็ รูปธรรมและศาสนาที่เป็นนามธรรมไตอ้ ยา่ งนา่ ฉกุ คดิ และนา่ สนใจ คุณค่าด้านแนวคดิ : ความเปน็ อมตะในมมุ มองทางพระพุทธศาสนาและทางวิทยาศาสตร์ มีความสัมพันธก์ ันคอื ไตรลักษณ์ ในด้านอนิจจตาในพระพทุ ธศาสนาและการโคลนนิ่งในดา้ นวทิ ยาศาสตรม์ อง ความเส่ือมของสังขารดา้ นรา่ งกาย ไตรลกั ษณ์ ดา้ นทกุ ขตาในพระพุทธศาสนาและการโคลนนิ่งในดา้ นวิทยาศาสตร์ให้ความสาคัญกบั การเปลยี่ นแปลงของสงั ขารมนุษยว์ า่ ทา ใหเ้ กิดความทุกข์และไตรลกั ษณ์ดา้ นอนตั ตาในพระพทุ ธศาสนาและการโคลนนงิ่ ในด้านวทิ ยาศาสตรม์ ุง่ หาวิธกี ารให้หลดุ พ้น จากความทกุ ข์ โดยตัวบทเนน้ ในด้านรา่ งกาย
ปนู ปดิ ทอง กฤษณา อโศกสิน ปที ี่ตีพิมพ์ : พ.ศ. ๒๕๒๘ สานกั พิมพ์ : สานักพิมพ์ประพันธ์สาสน์ จากดั
ความตามเนอ้ื หา : สองเมอื งและบาลี ผลพวงจากครอบครัวแตกแยกเขาและเธอมีแผลลึกแม้บดั นคี้ วามเจ็บปวดจะ หายไปแตก่ ย็ ังทง้ิ รอยใหเ้ ห็นอย่างยากจะปกปิด ตีความตามน้าเสียง : กฤษณา อโศกสนิ เลา่ ดว้ ยเนื้อหาทล่ี ึกซึ้งเสยี ใจและมีความหนักแน่น ตวั บท : สองเมือง ชายหนมุ่ วัยสามสิบตน้ ๆ ผู้เป็นลกู ชายคนโตของนายทวีกบั นางสายทอง ทีเ่ ลิกรา้ งกนั และตา่ ง ฝ่ายต่างมคี นใหม่ นายทวีมเี มียอกี สองคนและมีลกู ใหม่อีกสองคู่ในขณะทผ่ี เู้ ป็นแมล่ งเอยด้วยการเปน็ เมยี นอ้ ยของ ข้าราชการช้นั ผู้ใหญส่ ร้างบาดแผลอนั เจบ็ ปวดใหก้ บั สองเมืองในวัยท่ยี ังเปน็ เด็กชายแต่โชคดีท่ีเขามอี าสาวที่คอย เลี้ยงดฟู ูมฟักแมไ้ มอ่ าจเตมิ เตม็ ช่องโหวใ่ นหวั ใจ แต่อากส็ ามารถทาใหเ้ ขาไม่ถงึ กับออกนอกล่นู อกทางกบั ครอบครวั ของเพ่อื นสนทิ ทเ่ี ขา้ ใจและเห็นใจ จนรับเขาเขา้ เป็นหน่งึ ในสมาชิกของครอบครัวใหเ้ ขาไดม้ ีแหลง่ พกั พงิ ยามอ้างว้างกลอ่ มเกลาใหเ้ ขาเป็นชายหน่มุ ท่ี สามารถสรา้ งเน้อื สรา้ งตัวจนมีฐานะทางสงั คมท่ีมน่ั คงทว่าฉาบฉวยในเร่อื งของความสัมพนั ธเ์ ขาคบหากับผู้หญงิ แบบ รกั ๆเลกิ ๆ มาหลายต่อหลายคนจนกระท่ังมาพบกับบาลี นอ้ งสาวของเพ่อื นสนทิ ทีเ่ คยผกู พนั กันมาแต่เล็กแตน่ อ้ ย ความที่รสู้ กึ ว่าพวกเขาเปน็ คนหัวอกเดียวกันทาใหเ้ ขาร้สู ึกอยากจะหยุดท่เี ธอ ฝา่ ยนางเอก บาลี เธอก็เป็นผลผลติ ของครอบครัวแตกแยกเช่นเดยี วกันกับสองเมอื งแม่ของเธอไม่ใชภ่ รรยาคนแรกของพอ่ เธอมีพช่ี ายต่างแมผ่ ูท้ นพษิ บาดแผล(ทางใจ)ไมไ่ หวฝงั ความเกลียดชงั บพุ การีไว้จนตัวตายพ่อกบั แม่ของเธอใช้ชีวติ คเู่ พียงระยะเวลาอนั สั้นแมท่ ง้ิ เธอไปแตง่ งานใหมก่ บั ฝรั่งและไปใชช้ วี ติ อย่เู มอื งนอกพ่อแต่งงานใหมก่ ับผหู้ ญงิ ทอี่ ายมุ ากกว่าเธอไม่กี่ปี มลี ูกสาวอกี สองคนตัวอยา่ งความสมั พนั ธอ์ นั แตกแยกของพ่อกับแมท่ าให้เธอไมม่ ศี รัทธาต่อการใชช้ วี ิตค่ทู ง้ั ๆ ที่เธอหิวความรัก แตเ่ ธอกไ็ ม่เช่ือในความรกั เธอคบหาและเลกิ รากับชายหนมุ่ หลายคนจนกระทัง่ มาพบกบั สองเมืองผทู้ เี่ ธอเคยผกู พัน สนิทสนมฉนั พช่ี าย เธอตัดสินใจทีจ่ ะลองใชช้ ีวิตคูก่ บั เขา ภายใต้เงอ่ื นไขท่ีว่าเธอจะยงั ไม่มีอะไรกับเขาจนกวา่ ตา่ งฝา่ ยตา่ งจะมนั่ ใจว่าอกี ฝา่ ยคือคนที่”ใช”่ สาหรบั ตนเพอ่ื เป็นการปอ้ งกันไม่ให้เกิดปัญหากับลูกท่ีอาจจะเกดิ มา
บริบท : สะท้อนความเข้าใจในการดาเนินชีวิต ให้เห็นคณุ คา่ ความเปน็ มนษุ ยใ์ นฐานะพ่อแม่ ที่ตอ้ ง รับผิดชอบตอ่ ครอบครวั โดยผา่ นตวั ละครเปรยี บเทียบความงดงามและความเลวร้ายของการใช้ชีวิต ให้ เกิดความรูส้ ึกนกึ คดิ ร่วมกนั และเป็นสว่ นชว่ ยกระตนุ้ ให้ตระหนักถึงการใช้ชวี ิตครอบครัว การสื่อสาร-การวิเคราะห-์ วิจารณ-์ วิพากษ์ การวิเคราะห์ : ผู้อา่ นตอ้ งใช้วิจารณญานในการอ่าน คิด วิเคราะห์ตาม แล้วต้องรู้จกั แยกแยะทจี่ ะเลือก ปฏบิ ตั ติ ามตวั อย่างที่ดจี ากตวั ละครในเรอ่ื งเพ่อื เปน็ แบบอยา่ งในการใช้ชีวิต วจิ ารณ์ : ผวู้ ิจารณ์ใช้ทฤษฏีการตีความ ในการเข้ามาวจิ ารณโ์ ดยตคี วามในตัวพระเอกนางเอง รวมทงั้ ลักษณต่างของตวั ละครนัน้ ๆ วิพากษ์ : เป็นการเปรยี บเทยี บระหว่างปนู ปิดทองกบั สงั คมไทยยุคปัจจุบนั ไวไ้ ดอ้ ย่างนา่ สนใจว่างานชิน้ น้ี มีทั้งสว่ นท่เี หมอื นและสว่ นทีต่ ่างก็คอื ลักษณะรว่ ม ทงั้ 2 ประเด็นนั้นสาคัญเทา่ ๆกนั สง่ิ ท่นี า่ สนใจกค็ ือเรอ่ื ง ของสงั คม โดยเฉพาะเรอื่ งของโลกาภวิ ัฒน์ทที่ กุ สิง่ ทกุ อยา่ งเปลย่ี นแปลงไปอย่างรวดเรว็ คณุ คา่ ทางวรรณศลิ ป์:ใชภ้ าษาน่าอา่ น เล่าเร่อื งน่าอา่ นและคาพูดสวยงาม คณุ คา่ ด้านแนวคิด : เป็นนวนยิ ายชวี ติ ที่หนกั หนว่ งแตก่ ร็ สู้ ึกอ่ิมเต็ม คมุ้ คา่ คุม้ เวลาทไี่ ดอ้ ่านค่ะมีแงค่ ดิ ใน การดาเนนิ ชวี ิตหลายบทหลายตอนทอ่ี ่านแลว้ ร้สู กึ กระทบใจ
ลกู อสี าน คาพูน บญุ ทวี ปีท่ีตพี มิ พ์ : พ.ศ. ๒๕๕๒ สานักพิมพ์ : สานกั พิมพบ์ รรณกจิ
ตีความตามเนอื้ หา : เกร็ดชวี ิตเมื่อสี่สิบกว่าปกี อ่ นออกมาเขียน เล่าชีวติ ชว่ งเดก็ ในแผ่นดินทรี่ าบสงู สะท้อนออกมา เปน็ เรอ่ื งราวชีวิตชนบทแสดงใหเ้ หน็ ถงึ ความเป็นอยู่สภาวะธรรมชาติ ตคี วามตามน้าเสยี ง: คาพนู บญุ ทวี เลา่ เร่อื งถ้อยคาทล่ี ึกซ้งึ และเขา้ ใจไดง้ า่ ย ตัวบท : เดก็ ชายคนู ซึง่ ใชช้ ีวิตอยู่ในถน่ิ ชนบทของอีสาน แถบที่จดั ได้ว่าเป็นถ่นิ ท่ีแห้งแลง้ แหง่ หน่งึ ของไทยชีวติ ความเปน็ อยูข่ อง ครอบครวั เด็กชายคูน ประกอบด้วยพอ่ แม่ และลกู ๓ คน และเพอื่ นบา้ นในละแวกนนั้ ไมม่ ีความ แตกตา่ งกนั นัก นัน่ ก็คอื ความจนขน้ แค้นตอ้ งหาอาหารตามธรรมชาตทิ ุกอยา่ งท่ีกนิ ได้ เมือ่ ความแห้งแลง้ อยา่ งรุนแรง มาเยอื น ครอบครวั เพือ่ นบ้านก็เร่ิมอพยพออกไป แตค่ รอบครวั ของเดก็ ชายคนู และกลมุ่ ที่สนิทชิดเชอื้ กันยงั คงอยู่ เพราะเขามีพ่อและแมท่ ี่เอาใจใส่ ขยนั ขนั แขง็ ไมย่ ่อทอ้ ภยั และอปุ สรรคต่างๆ ตลอดจนมองเห็นความสาคัญของ การศกึ ษา แม้จะยากจนอยา่ งไร เด็กชายคนู ก็ไดเ้ ข้าเรียนในระดับการศกึ ษาประชาบาล บริบท : แก่นของเร่อื ง เน้นให้การดารงชีวติ เม่ือส่ีสิบปีก่อน โครงเรอ่ื ง แบบดั้งเดิมท่ีเนน้ ถงึ ความสาคญั ของเหตกุ ารณ์ โดยให้ตัวละครเอกเปน็ ผ้เู ผชญิ หน้ากบั เหตุการณ์และ สถานการณ์ตา่ งๆ ซึ่งเปน็ ปมปญั หาของเร่ือง ตัวละครเดก็ ชายคนู ตวั เอกของเรื่อง และพอ่ แม่พนี่ ้องอีก ๒ คนของเขา บทสนทนา ผู้แต่งใช้ภาษาแบบชาวบ้านสนทนา ฉาก ธรรมชาติความแหง้ แล้ง บรรยากาศ สะทอ้ นความเปน็ อยขู่ องชาวอสี าน
การสือ่ สาร = วเิ คราะห์ – วจิ ารณ์ – วพิ ากษ์ วิเคราะห์ : ผู้เขียนได้เลา่ ถงึ ขนบธรรมเนียม ประเพณี ตลอดจนความเชือ่ ของชาวอสี าน โดยผา่ นเด็กชายคูน รวมไปถึงการบรรยายถงึ สภาพความเป็นไปตามธรรมชาตขิ องผูค้ นและสภาพแวดล้อม เช่น การเกย้ี วพาราสี กันของทดิ จ่นุ และพ่คี ากอง จนทา้ ยทสี่ ุดก็ไดแ้ ต่งงานกัน การออกไปจับจงิ้ หรีดของคนู การเดนิ ทางไปหาปลา ทล่ี านา้ ชเี พอ่ื นาปลามาทาอาหาร และเกบ็ ถนอมเอาไว้กินนานๆ ด้วยการทาปลาร้า เปน็ ตน้ เรือ่ งราวท้ังหมด น้ันเนน้ วถิ ชี วี ติ ความเปน็ อยู่ แสดงวธิ กี ารของการดารงชวี ิตตามธรรมชาตใิ นถิน่ อีสานเปน็ สิ่งสาคญั วจิ ารณ์ : วรรณกรรมลกู อีสานทผ่ี เู้ ขยี นได้เขียนขนึ้ จากประสบการณ์จริงที่ผเู้ ขียนไดพ้ บเหน็ มาทผี่ ู้เขยี น ม่งุ เนน้ ใหผ้ ูอ้ า่ นได้รบั รูถ้ งึ วถิ ีชวี ิตของคนอสี านและเล่าถึงชวี ติ ช่วงเด็กของผู้เขยี นสะทอ้ นออกมาเปน็ เรอื่ งราว ชวี ิตชนบทแสดงใหเ้ ห็นถึงความเป็นอยู่สภาวะธรรมชาติ ความสขุ ความทกุ ข์ และการต่อสอู้ ยา่ งทรหด อดทนกับความแปรปรวนของธรรมชาติ วพิ ากษ์ : จะสอดแทรกเน้อื หาทตี่ ลกขบขันและยงั แฝงเน้ือหาหลกั ธรรมคาสอนไวต้ า่ งๆมากมายไม่วา่ จะสอน ใหร้ จู้ กั ความกตญั ญตู อ่ พอ่ แม่ ความเสยี สละ ความมีน้าใจ ช่วยเหลอื ซึง่ กันและกนั ขยนั ทามาหากิน ไม่ย่อท้อ ตอ่ ความยากลาบากตัวอย่างคาสอนของพ่อทส่ี อนคนู “เร่อื งนา้ ใจ พอ่ ของคูนเคยสอนคูนเหมือนกันวา่ คนมี ช่อื นั้นคอื คน รจู้ กั สงสารคนและชว่ ยเหลอื คนตกทกุ ข์ ถา้ ไมม่ สี ่ิงของชว่ ย กเ็ อาแรงกายช่วย และไม่เลือกวา่ คนๆ นนั้ จะอยู่บา้ นใด อาเภอใด” คุณคา่ ทางวรรณศลิ ป์ : นิยายเรอื่ ง “ลกู อสี าน” ไดร้ ับการยกย่องวา่ เป็นงานวรรณกรรมแนวสจั นยิ ม ท่ี่เสนอ ภาพให้ความรู้สกึ เหมอื นจริง คุณคา่ ของวรรณกรรมแนวนยี้ ังถอื เปน็ การบันทึกหลกั ฐานด้านวิถีชีวติ สงั คม และวฒั นธรรมของผคู้ นท่เี กิดข้ึนในฉากหลังของเร่อื งราวนน้ั และลูกอีสานกไ็ ดบ้ นั ทกึ ชีวติ คนอสี านยคุ กอ่ นไว้ ได้อย่างชัดเจน คณุ คา่ ดา้ นแนวคดิ : นวนยิ ายเร่อื งนี้นาเสนอคุณสมบัตคิ วามอดทน เด็ดเดยี่ ว รักถน่ิ และมีวัฒนธรรมของ คนอสี านไดอ้ ยา่ งงดงาม ข้อสรปุ ลงท้ายท่ผี วู้ จิ ารณ์กล่าววา่ “ความเปน็ อีสานอยไู่ ด้ดว้ ยตนเอง ไม่ต้องให้ใคร อ่ืนมาสงสาร เพราะความสงสารมักควบคไู่ ปกบั การดูถกู แบบลกึ ๆ นั่นเอง”
ความสขุ ของกะทิ งามพรรณ เวชชาชีวะ ปีท่ตี ีพมิ พ์ : พ.ศ. ๒๕๔๖ สานกั พมิ พ์ : แพรวสานักพิมพ์
ตคี วามตามเน้ือหา : การเล่าเรื่องของเดก็ ผหู้ ญิงวยั อายุ ๙ ขวบที่อาศัยอยู่กับตายายการทเ่ี ดก็ ผูห้ ญิงคนหนึ่งต้องเจอท้งั ความ ทุกขแ์ ละความสุขและการทเ่ี ธอต้องสญู เสียผเู้ ปน็ แม่ต้งั แต่ยังเดก็ ตคี วามตามนา้ เสยี ง : ภาษาทีใ่ ช้มคี วามลกึ ซ้งึ ทาใหส้ ัมผสั ไดถ้ ึงร้สู กึ ถงึ ตัวละคร ตวั บท : ความสขุ ของกะทิ เล่าเรื่องราวของนอ้ งกะทิ เดก็ หญิงวัย ๙ ขวบทก่ี าลงั จะต้องสูญเสยี แม่ ซง่ึ ป่วยเป็นโรคกลา้ มเน้ือ อ่อนแรง แมร่ ูต้ ัวดวี า่ ไมส่ ามารถเลีย้ งดกู ะทิได้ จึงฝากกะทิให้ตากับยายเลี้ยง กะทิเติบโตมาด้วยความรกั ของตาและยาย มี ชวี ิตอยา่ งสขุ สบายในบา้ นหลังนอ้ ยรมิ คลองอันอบอนุ่ กะทิมีครอบครวั ท่เี อาใจใส่ ดแู ลกะทิดว้ ยความรัก และความห่วงใย จากใจจรงิ เธอมคี ุณตาทีเ่ คยเป็นทนาย ซึง่ สามารถเรยี กเสยี งหัวเราะจากกะทแิ ละครอบครัวได้อยเู่ สมอๆ คณุ ยายของกะทิ เปน็ คนทเ่ี ครง่ ครดั และหัวโบราณ แต่ถงึ กระนน้ั ก็สอนกะทเิ รือ่ งต่างๆนานา อาทิ เช่น การทาอาหาร การอยู่ในสังคม เป็นต้น พีท่ องเปน็ คนทีเ่ ข้าอกเข้าใจกะทเิ ปน็ อย่างดี และเป็นคนทม่ี บี ุญคณุ ต่อกะทิ เพราะวา่ พีท่ องเคยช่วยชวี ิตกะทิไวต้ อนกะทเิ ป็น เด็กเล็ก น้าฎาและนา้ กนั ต์ซ่ึงเปน็ คนทหี่ ว่ งใยกะทิ และคอยหาสงิ่ ดๆี ให้กะทอิ ยู่เสมอและเป็นคนทพ่ี ูดปลอบใจกะทิในยามที่ กะทิเศรา้ โศกเสยี ใจ และท่ีขาดไม่ได้กค็ ือ แมข่ องกะทิ ที่ถงึ แมจ้ ะจากไปก่อนวยั อันควรแตก่ ็จัดสงิ่ ต่างๆไว้ให้กะทิอยา่ งดิบดี ดว้ ยความรัก และเอาใจใสจ่ ากใจ บริบท : งามพรรณมคี วามรู้สกึ อยากเขียน ประจวบเหมาะกับเวลาวา่ งพอดี จากนักแปลเร่ิมสร้างตวั ตนขึน้ ดว้ ยการเริ่มเขียน โดยหาประเด็นทีจ่ ะเขยี น ซึ่งงามพรรณเล่าว่าเกดิ จากความนอ้ ยใจ ผู้เขียนกล่าวว่า“เราน้อยใจท่คี นอนื่ กลับบ้านเกิด เราเป็น คนกรุงเทพฯ คนอืน่ กลับบ้านกนั หมด อยา่ งมากเรากแ็ ค่ไปเทย่ี ว แต่เราเปน็ คนกรงุ เทพฯ คนภาคกลาง เราเป็นเดก็ ธรรมศาสตรด์ ว้ ยคะ่ นัง่ รมิ แมน่ ้าบอ่ ย กค็ ดิ ในใจวา่ อยากจะเลา่ อะไรท่เี กย่ี วกบั แม่น้า เกีย่ วกับคลอง แล้วมันค่อยๆ เปน็ ภาพ ขน้ึ มาเอง ว่าถา้ เราจะให้มใี ครสกั คนมีบา้ นแบบนน้ั ใช้ชีวิตงา่ ยๆ ความสขุ ทเ่ี กดิ ขึ้นจากง่ายๆ ก็เลยกลายเปน็ เรื่องราวของ เด็กผหู้ ญงิ คนหนงึ่ ข้ึนมา”
การสื่อสาร-การวเิ คราะห-์ วจิ ารณ-์ วพิ ากษ์ วิเคราะห์ : นวนิยายชดุ ความสุขของกะทิทาให้รู้ว่าความสขุ ของคนในครอบครวั เปน็ ความรักทย่ี ่ิงใหญ่การมีสายเลอื ด เดยี วกนั เป็นความผูกพนั ทเี่ เนบเเนน่ และทาใหม้ ีความเขา้ ใจกัน เช่น กะทิถงึ แมเ้ กดิ มาไม่เคยเจอหนา้ พ่อแตก่ ็ไมเ่ คยโทษพ่อ และแสดงออกว่ารักพอ่ วจิ ารณ์ : ความสขุ ของกะทิเปน็ การถ่ายทอดเร่อื งราวจากแนวคดิ ของผเู้ ขยี นโดยการผ่านสอื่ สารดว้ ยภาษาทีเ่ รยี บง่าย เข้าใจง่ายและแสดงใหเ้ หน็ ถงึ วธิ ชี วี ิต และเป็นหนังสือนวนยิ ายทค่ี วรทาต่อไปเรอ่ื ยๆ วิพากษ์ : ความสุขของกะทิ ตวั ละครมคี วามลงตัวของตวั ตากบั ยายทม่ี กั ขัดแยง้ กันน่นั เปน็ เหตุให้กะทิไดใ้ กล้ชิดกบั ตาและ ลว่ งลบั ความร้บู างอยา่ งตอนตาคยุ โทรศพั ทย์ ายชอบทากับขา้ วโดยมีพี่ทองมาชว่ ยขดู มะพรา้ วทัง้ ทพ่ี ีท่ องไมใ่ ช่ญาตแิ ต่กม็ ี ความสนิทสนมกับกะทลิ งุ ต้องไม่คอ่ ยถูกกนั กบั ยายเพราะต่างก็รกั กะทกิ นั ทง้ั คนู่ ้าฎากับนา้ กนั ต์ พอี่ ้อย ตา่ งก็ให้ ความสาคัญกับแมท่ ง้ั ทก่ี ไ็ ม่ใช่ญาติเหลา่ นี้แสดงใหเ้ ห็นถึงท้ังความขัดแย้ง และสอดคล้องกนั ของแตล่ ะตัวละคร คณุ ค่าด้านวรรณศิลป์ : วรรณศิลปค์ อื ศลิ ปะการประพนั ธ์ มีความสุนทรียภาพอนั เกิดจากความงามด้านการประพันทม่ี ี ความประสานกลมกลืนกนั ในองคป์ ระกอบแต่ละด้าน ทง้ั ด้วยลลี าภาษาอันประณีตงดงาม มเี นอ้ื หาสละสลวยเเละแนวคดิ ทแ่ี ฝงอยู่ในเรื่อง ทาใหผ้ ้อู า่ นเกดิ ความรสู้ กึ คลอ้ ยตาม คณุ คา่ ด้านแนวคิด : ความสขุ ของกะทใิ หเ้ เนวคดิ ว่าชีวิตคนเรามที ง้ั สขุ เเละทุกข์ ซ่งึ เปน็ นวนยิ ายที่เหมาะสาหรบั ทกุ เพศ ทุกวัย เพราะสามารถสอนให้เรามีความคดิ มีสติ เผชิญหน้ากบั ปญั หาท่กี าลงั จะเกดิ ขึ้น และต่อสูก้ บั มนั จนผ่านไปได้
พทุ ธศกั ราชอัสดงกับ ทรงจาของทรงจาของ แมวกหุ ลาบดา วีรพร นิตปิ ระภา ปที ี่ตพี มิ พ์ : พ.ศ. ๒๕๖๑ สานักพิมพ์ : สานกั พิมพ์มตชิ น
ตีความตามเน้ือหา : เปน็ เรื่องราวของครอบครัวจีนอพยพครอบครวั หน่ึงซึ่งถกู เล่าค่ขู นานไปกับเหตกุ ารณ์ทาง ประวตั ิศาสตร์ของไทยและประวัติศาสตร์โลก ผา่ นสายตาของยายศรีและหลานดาว รวมถงึ เจ้าแมวกหุ ลาบดา เล่ายอ้ น ปะติดปะต่อความทรงจาแหวง่ ว่นิ เขา้ เปน็ เน้อื เดยี ว ปมปญั หาสาคญั ของเร่ืองคือ การพยายามกลบั ไปหาราก (origin) หรือ บางสงิ่ บางอยา่ งท่ีเป็นเครือ่ งยึดเหน่ยี ว ความฝันของทวดตงในการกลับไปสจู่ ีนแผ่นดนิ ใหญ่ โดยสานกึ ตลอดเวลาในความ เปน็ จีนของตนเอง และใชร้ ากนัน้ เปน็ ‘ที่พานกั แหง่ จิตวิญญาณ’ เช่นเดียวกับตัวละครอกี หลายๆ ตวั ในเรอื่ ง ซ่งึ ลว้ นแตม่ ที ี่ ยึดเหนีย่ วแตกตา่ งกันไป ตีความตามน้าเสยี ง : นาเสนอเร่อื งที่เข้าใจง่ายมภี าษาทสี่ ละสลวยเน้ือเรอื่ งค่อยเปน็ ค่อยไปทาให้ผ้อู า่ นเข้าถงึ อารมณข์ อง ตัวละคร ตวั บท : ความทรงจาของคนความทรงจาของแมวความทรงจาท่คี ลมุ เครอื วนุ่ ว่ินจนแทบไมอ่ าจจาแนกรู้ได้วา่ เราอยู่ในโลก จริงหรือสมมติ ประวัติศาสตร์และการเปลย่ี นแปลงทางการเมืองชดั พาให้ชีวติ ความรักตอ้ งระหกระเหินเกนิ บรรยาย ครอบครวั จนี อพยพทพี่ ยายามตามหา “ข้าน” ท้งั ในความหมายของสถานที่และบา้ นภายในจิตใจซึ่งตัวละครตา่ งรู้สึก ในทางเดยี วกนั ว่า ไมอ่ าจหยัดยืนอย่างเตม็ ตวั ในพน้ื ทใ่ี ดๆ ได้ จะเดินต่อก็แปลกแยก จะหวนกลับก็ไม่อาจยอ้ นคืนทจี่ รงิ แลว้ วีรพร คดิ พลอ็ ตเรื่องนไี้ ว้ก่อนนวนยิ าย ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต ครบรสด้วยสานวนภาษาแบบวรี พรนิติประภา รวมถึงบทเพลง อาหาร และรสนยิ มวิไล คละเคล้าตลาดทั้งเรือ่ ง บรบิ ท : โศกนาฎกรรมของผู้คนบนประเทศไรท้ รงจา “วรี พร นติ ปิ ระภา” เหน็ ถงึ ความเว้าแหวง่ ในทรงจาของผ้คู น จึง หยบิ ฉากตอนของเหตุการณส์ าคัญตา่ ง ๆ ในประเทศท่แี ทบจะไมม่ ีความทรงจานม้ี าเขยา่ ขย้อนเล่น แล้วจบั เร่อื งราว ทง้ั หมดเข้าไปอย่ใู นความทรงจาของแมวตวั หน่งึ ซงึ่ มันกน็ ึกออกและบอกเลา่ ออกมากระทอ่ นกระแทน่ ตามประสาแมว ทง้ั ส่ิงทเ่ี ห็นและไดย้ ินเองจากคนในบา้ นทอ่ี าศยั อยแู่ ละเรื่องเล่าทผ่ี คู้ นเลา่ สกู่ นั ฟังทมี่ ันเองก็ไม่รตู้ ้นสายปลายเหตเุ พอื่ สะทอ้ น ใหเ้ หน็ ถึงระบบจาของคนเราที่มักนกึ ออกเป็นห้วง ๆ และมกั เป็นทรงจาที่เขา้ ขา้ งตัวเองเสมอดว้ ยการสือ่ สาร ให้เขา้ ใจถงึ การตอ่ สูด้ น้ิ รนของชวี ิต
การสื่อสาร-การวิเคราะห-์ วิจารณ-์ วิพากษ์ วเิ คราะห์ : เปน็ หนงั สอื ที่สอนอะไรหลายอย่างสะทอ้ งถึงสงั คมในอดีตจนถงึ ปัจจุบันทแ่ี ทบจะไม่มีความแตกต่าง วจิ ารณ์ : แม้ว่าจะมีวรรณศิลป์ไพเราะเฉกเช่น ไส้เดือนตาบอดฯ และมตี ัวละครที่พงั วิน่ ไม่ต่างกัน แตข่ อ้ แตกตา่ งที่ชดั เจน คือตวั ละครใน พุทธศกั ราชอสั ดงฯ แสดงเจตจานง (will) ของตนเองออกมาอย่างชัดเจน วิพากย์ : ความพยายามในการกลบั ไปหารากเปรยี บเสมอื นการถอยกลบั อยา่ งไม่มีที่ส้ินสดุ เวน้ แตเ่ ราจะกาหนด จดุ เรมิ่ ตน้ ให้ตวั เองไวใ้ นแห่งหนใดสักแหง่ และส่งิ ทน่ี ่ากลวั ทส่ี ดุ ของการกลบั ไปสู่รากเหง้าอาจเป็นการกลบั ไปเพอ่ื พบวา่ ไม่ มีอะไรจริงแทใ้ หเ้ ราจับฉวย สง่ิ ท่ีทวดตงสูญเสยี คือแสงแห่งความหวังไว้ส่องนาชวี ิต เพราะเขามองย้อนกลบั ไปข้างหลงั หากแต่ความหวงั นนั้ อยขู่ า้ งหนา้ อย่ทู กี่ ารกาหนดมัน่ และมุ่งไปยงั จุดหมายบางอยา่ งแมว้ ่าความหวงั จะรบิ หรเ่ี หมือน แสงอาทิตยอ์ ัสดงและไมอ่ าจคาดเดาได้ว่าจะไปถึงเป้าหมายเมื่อไหร่แต่แค่เพยี งแสงจางบางๆ น้นั ก็พอแลว้ ทจี่ ะทาให้สงิ่ ใหม่ ๆ งอกงามขึ้นมา คณุ ค่าทางวรรณศลิ ป์ : รอ้ ยเรื่องราวที่มคี วามละเอยี ดซบั ซ้อนและประเด็นทห่ี ลากหลายเข้าด้วยกนั อย่างแยบคายและ กลมกล่อม ทั้งยังเปน็ เรอื่ งเลา่ ผา่ นภาษาสละสลวย ดว้ ยส่งิ ทนี่ าเสนอน้ันแขง็ แรงและคมชดั มากขึ้น อีกท้ังงานของเธอ มักจะทาให้รสู้ ึกสน่ั สะเทอื นเสมอ เนื่องจากเล่นอยูก่ บั ประเดน็ ความถูกผดิ ทางศีลธรรม และวีรพรมักจะหอบพาเร่ืองราว ไปสุดทางชนิดทเ่ี ราคาดไมถ่ งึ แถมยงั เกบ็ แมก้ ระท่งั รายละเอียดทเ่ี ลก็ นอ้ ยที่สุดในเร่อื งมาใช้ครบทกุ เม็ด คุณคา่ ด้านแนวคดิ : การใชค้ วามทรงจาและประวัตศิ าสตรค์ วามรู้สึกส่วนบคุ คล ซง่ึ กลายเป็นความทรงจารว่ มของสังคม มีท้งั เรื่องทีเ่ ลอื กจะเลา่ และเรอ่ื งที่จะเลอื กจะลืม แหวง่ วิ่นและคลุมเครือ
ประชาธปิ ไตย บนเสน้ ขนาน วนิ ทร์ เลยี ววารณิ ปีทต่ี ีพมิ พ์ : พ.ศ. ๒๕๓๗ สานกั พิมพ์ : สานกั พมิ พด์ อกหญา้
ตคี วามตามเน้ือหา : เป็นการจาลองภาพในเหตกุ ารณท์ างการเมอื งท่มี ีความสาคญั ในยุคตา่ งๆ นับตัง้ แต่มกี ารปกครองแบบประชาธิปไตย แม้จะไมใ่ ชป่ ระชาธิปไตยแบบเตม็ ใบ จนถีงในชว่ งหกสบิ ปีตอ่ มาทมี่ ีการพฒั นาระบอบประชาธิปไตยแตล่ ะขน้ั มกี ารถ่ายเทอานาจจาก บคุ คลหนงึ่ ไปหาอีกกลุ่มบคุ คลหน่งึ โดยถา่ ยทอดผ่านการดาเนนิ ชวี ติ ของบุคคลสองคน ที่แตกตา่ งกันในดา้ นการใชช้ ีวิตและดา้ น อุดมการณ์ แต่ทัง้ สองมจี ุดมงุ่ หมายปลายทางเพื่อความสงบสขุ ของบ้านเมอื ง สทิ ธเิ สรีภาพทเี่ ท่าเทยี มกนั และไดม้ าชง่ึ การมีประชาธิปไตย ทเี่ ตม็ ใบ เปรียบเสมอื นทางเดนิ เพ่อื ไปหาประชาธปิ ไตย แต่เดนิ เป็นแนวท่ีขนานไม่สามารถจะใช้วิธีรว่ มกนั ได้ ตคี วามตามน้าเสียง : นกั เขยี นได้เขยี นออกมาด้วยถอ้ ยคาท่เี ข้าใจไดง้ ่ายและคาพูดท่ไี ม่ซับซ้อนรวมไปถึงทาให้เนอื้ เรื่องชวนหน้าติดตามม คาพดู ท่ีเขา้ ถงึ อารมณตวั ละคร ตัวบท : เสอื ยอ้ ยมีถ่ินอาศัยอยู่แถบเมอื งเพชรบรุ ี ราชบุรี สุพรรณบุรี ผ้ทู ีเ่ ป็นโจรแต่มีแววตาท่ีฉลาด ดมู ีการศกึ ษาท่สี งู ท่ไี ม่เหมอื นกับโจร ทว่ั ไป ที่เป็นเชน่ นเ้ี พราะชายผ้นู ้ีมชี ่อื เรียกอีกชื่อว่า หลวงกฤษดาวินจิ บคุ คลทม่ี กี ารศึกษาสงู และเปน็ ทหารทีม่ คี วามจงรกั ภคั ดีต่อสถาบัน พระมหากษัตรยิ ์ผทู้ ่ีต่อตา้ นการปฏิวตั ทิ ีต่ อ้ งการอานาจของบคุ คลเพียงบางกลมุ่ จนถกู บีบบังคับให้มาเปน็ โจร อกี คนหนึง่ คอื นายตารวจที่ม ชอ่ื ว่า ร.ต.ต ตุ้ย พนั เขม็ นายตารวจท่มี อี ดุ มการณส์ งู รกั ประเทศยงิ่ ชีวิต ผูม้ ีบทบาทต้งั แตน่ ายตารวจธรรมดาทป่ี ราบโจรทม่ี ชี อ่ื ตา่ งๆ จน เปน็ ทเี่ ลืองลือจนไดร้ ับฉายาวา่ “จ่าตุย้ ปืนผี” จนถึงนายตารวจท่ีมีบทบาทอยา่ งสูงทางการเมอื งในยุค 60 ปีของการไดม้ าซึง่ รฐั ธรรมนูญ นายตารวจทเ่ี ป็นคนสนทิ ของผู้นาประเทศท่ีมอี านาจมหาศาลที่สุดในยุคหน่ึงของประเทศทง้ั สองเปน็ ทง้ั เพอ่ื นและศตั รกู ันทางดา้ นแนวคิด บริบท : ผูเ้ ขียนไดน้ าเอาความจรงิ ในประวตั ศิ าสตร์การเมอื งรวมไปถึงการนาเอาบคุ คลในประวตั ศิ าสตรม์ าอ้างอิงผสมผสานไปกับเนอ้ื เร่อื งทาใหม้ ีเนอ้ื เร่อื งความเข้มขน้ ชวนใหน้ า่ ตดิ ตามโดยผ่านตวั ละครสมมุติชายสองคนคอื ตุ้ยกับบย้อยโดยชวี ิตทตี่ ่างกันสุดขั้ว การสอ่ื สาร-การวเิ คราะห-์ วจิ ารณ-์ วิพากษ์ วเิ คราะห์ : ผแู้ ตง่ กล่าวถงึ ความคดิ เรื่อง เสน้ ขนาน ครงั้ แรกในเรือ่ งผา่ นคาพูดของเสอื ยอ้ ย หรือหลวงกฤษดาวนิ จิ กับร.ต.ต ตุ้ย ว่า “เราทง้ั สองกาลังยนื อยู่คนละฝา่ ย คนละอดุ มการณ์ ยืนอยู่บนเสน้ ขนาน ไมม่ อี ะไรผิด ไมม่ ีอะไรถกู ไม่มสี ีขาว ไมม่ สี ดี า” หากตคี วามจากบริบทแล้ว ยอ้ ย และ ตยุ้ ต่างเป็นตัวแทนของสองฝัง่ การเมอื ง คือฝา่ ยตอ่ ตา้ นกับฝ่ายรัฐบาล ตามลาดับ ซึ่ง เปรยี บเสมือนเส้นตรงสองเสน้ ทีต่ ่างกม็ งุ่ ตรงไปส่เู ป้าหมายเดียวกันคอื ประชาธิปไตยอนั สมบูรณ์ เพยี งแต่ต่างอดุ มการณ์เทา่ น้นั และสงิ่ ท่ีทาจะถูก หรอื ผิดกข็ นึ้ อยู่กบั ฝ่ายใครเปน็ ผูม้ ีอานาจ และกาหนดกฎเกณฑ์ใหเ้ ขา้ ข้างพรรคพวกของตนเองกเ็ ท่าน้ัน
วิจารณ์ : ความคิดเรอื่ ง เสน้ ขนาน นีน้ ับเปน็ ข้อคิดทดี่ สี าหรบั เยาวชนทเี ดยี ว เพราะน่ีคือสจั ธรรมของโลกทอ่ี าจไม่มสี อนในตาราทวั่ ไป เรื่อง ความถกู ผดิ สง่ิ ท่ีควรทาหรือไม่ควรทาเป็นสงิ่ ทสี่ าคัญทเี่ ยาวชนควรจะตระหนกั ถงึ และสามารถใชค้ วามคดิ วเิ คราะห์ได้ว่าอะไรควรทา หรอื ไม่ ควรทาไดด้ ว้ ยตนเอง ไม่ใช่ปฏบิ ัติตามทผี่ มู้ ีอานาจสงั่ เพยี งอย่างเดยี วโดยปราศจากการไตรต่ รองใด ๆ เพราะเมอ่ื ใดทส่ี ังคมเปน็ เช่นน้นั เหตุการณท์ ี่น่ากลวั ท่ีสดุ จะสามารถบงั เกดิ ข้ึนได้ตลอดเวลา อย่างทห่ี นงั สือเลม่ นไี้ ดน้ าเสนอในตอน ๒๕๐๘ว่ามกี ารกวาดลา้ งคอมมิวนสิ ตจ์ น เกดิ วนั เสียงปนื แตก ท่ีชาวบา้ นตอบโตก้ ลบั เจา้ หนา้ ท่รี ฐั บาล หรอื เหตุการณ์สลายการชุมนุมในเดือนตลุ าคม และวันพฤษภาทมฬิ ในปี ๒๕๑๖ ๒๕๑๙ และ ๒๕๓๕ ตามลาดบั ล้วนเป็นเหตุการณ์โศกนาฏกรรมนองเลอื ดที่มีแตผ่ ้บู ริสทุ ธิ์ต้องมาเข่นฆา่ กันเพยี งเพราะอีกฝา่ ย คิดเหน็ ไม่ตรงกบั ตนเอง หรือผมู้ ีอานาจสงั่ การมาเท่านั้น ซง่ึ ไม่เคย และไม่มวี นั เป็นทางออกของปัญหาที่ยัง้ ยืนได้เลย วิพากษ์ : บทเรยี นอนั สาคัญทที่ กุ คนควรศึกษา อย่างน้อยทสี่ ดุ ก็เพอื่ เรียนรจู้ ากประสบการณ์ในอดตี เพอ่ื หลกี เล่ยี งเหตุการณเ์ ลวรา้ ยท่ีเคย เกดิ ขึน้ ไมใ่ ห้เกิดขึ้นซ้าอีกเป็นหน่ึงในบทเรียนทเ่ี ยาวชน นักเรยี น หรือผู้ท่สี นใจไดม้ าศึกษาประวตั ปิ ระชาธปิ ไตยไทยวา่ ล้มลกุ คลกุ คลานมา อยา่ งไรบา้ งในแง่มมุ ทีม่ ีอารมณ์ ความร้สู กึ รว่ มดว้ ย เพื่อตอกย้าความขมขน่ื ของเหตุการณท์ ผ่ี า่ นมา แลว้ ร่วมกนั ปอ้ งกนั ไมใ่ หเ้ กดิ ซ้าขึ้นอีก คุณด้านวรรณศลิ ป์ : กลวธิ ีทางวรรณศิลปข์ องเรอ่ื ง ซึง่ อาจเรยี กไดอ้ ย่างง่ายวา่ ความคิดสร้างสรรค์ในการพรรณนาของผู้แต่ง กลวธิ ีเหลา่ นี้ เองทเ่ี ปน็ ปัจจัยสาคญั ช่วยขับเนน้ ให้เรือ่ งมีอารมณ์ท่เี ขม้ ข้น สนุก หรือกระทบจติ ใจผอู้ า่ นเช่นในฉากแรกของบทเกร่ินนา ผ้แู ต่งเปิดเรื่องด้วย การพรรณนาสภาพอากาศทรี่ ุนแรงและแปรปรวนของพายฝุ นที่ “กระพือปีกพิโรธกวาดลา้ งต้นไมใ้ หญน่ ้อยหักโค่นลงดิน” ประโยคนใี้ ช้กริยา กระพอื ปกี และ พิโรธ กบั ประธานทไ่ี ม่มชี วี ติ ช่วยแสดงถงึ ภาพความรนุ แรงของพายุราวกบั สง่ิ มีชีวติ ทฉี่ ุนเฉยี วรุนแรงพร้อมจะทาลายลา้ งทกุ ส่ิงทข่ี วางทางมัน นอกจากจะเป็นการสอ่ื ภาพทม่ี ชี ีวิต และเคลื่อนไหวในภาพความคดิ ของผอู้ ่านได้แลว้ ฉากเปิดเรอ่ื งดังกลา่ วยังสามารถเป็น สญั ลกั ษณช์ ้นี าบรรยากาศความว่นุ วายโดยรวมของเรือ่ งว่าประวตั ศิ าสตร์ประชาธปิ ไตยของไทยไดผ้ า่ นมรสุมสดุ เกรี้ยวกราดมาแลว้ เทา่ ใด กระนน้ั ก็ยังคงตั้งตระหงา่ นอยู่มาถึงทกุ วันนีเ้ ฉกเช่นต้นไทรทไี่ ดอ้ ้างถงึ ในตอนแรก คณุ คา่ ดา้ นแนวคิด : ผ้แู ต่งสะทอ้ นใหเ้ ห็นแนวคิดเกยี่ วกบั การดารงชีวติ ของบุคคลทีม่ อี ดุ มการณ์ขัดแย้งกับฝา่ ยรัฐบาลจงึ ทาใหม้ ีชวี ติ อยูน่ สงั คมอย่างลาบาก ต้องพลัดพรากจากครอบครัวและบา้ นเมอื งท่ีตนอาศยั อยแู่ ละยังถกู กลา่ วหาวา่ เปน็ กบฏ นักการเมืองบางกลมุ่ มีเลห่ ์ เหล่ยี มมาก มักหาผลประโยชนใ์ ส่ตนเอง ทั้งน้ียงั มแี นวคดิ เก่ียวกบั สภาพสงั คมแนวคดิ ทางดา้ นาการเมอื งอกี มากมาย
บรรณานุกรม อุเทศ เหมะมลู .(๒๕๕๒).ลับแล แกง่ คอย. : แพรวสานกั พมิ พ์ รปู ภาพปกหนังสือนวนยิ ายแต่ละเลม่ เดอื นวาด พมิ วนา. (๒๕๔๖).ชา่ งสาราญ. : สานักพิมพส์ ามญั ชน ลบั แลแกง่ คอย/ https://www.goodreads.com/book/show/8536101 ชาติ กอบจิตต.ิ (๒๕๒๕).คาพพิ ากษา. : สานกั พมิ พต์ ้นหมาก ชา่ งสาราญ/https://www.su-usedbook.com/products_detail/view/4983018 ชาติ กอบจติ ต.ิ (๒๕๓๖).เวลา. : สานกั พมิ พ์หอน คาพากษา/ https://images.app.goo.gl/jPc38gdy9moQjkgY8 นคิ ม รายยวา.(๒๕๒๗).ตลิ่งสงู ซุงหนัก. : สานกั พิมพน์ าอักษรการพิมพ์ เวลา/ https://images.app.goo.gl/gv2LezmonjV5PJDN8 วมิ ล ไทรนิ่มนวล.(๒๕๔๓).อมตะ. : สยามประเทศสานักพิมพ์ ตล่งิ สงู ซุงหนัก/ https://images.app.goo.gl/aojSuxt4r2E8fYPZA กฤษณา อโศกสนิ .(๒๕๒๘).ปนู ปิดทอง. : สานกั พิมพป์ ระพนั ธ์สาสน์ จากดั อมตะ/ https://images.app.goo.gl/kvpuDsVgge3mtCG56 ปูนปิดทอง/ https://images.app.goo.gl/F6LhHC8x8PgHHLJ47 คาพูน บุญทวี.(๒๕๕๒).ลกู อีสาน. : สานักพมิ พ์บรรณกจิ ลูกอสี าน/ https://images.app.goo.gl/L5SnpySqQReKuzUu6 งามพรรณ เวชชาชวี ะ.(๒๕๔๖).ความสุขของกะทิ. : แพรวสานักพิมพ์ ความสขุ ของกะทิ/ https://images.app.goo.gl/ntpHVxSA6apBzve49 วรี พร นิตปิ ระภา.(๒๕๖๑).พทุ ธศักราชอัสดงกับทรงจาของทรงจาของแมวกหุ ลาบดา. พทุ ธศกั ราชอสั ดงกับทรงจาของทรงจาของแมวกหุ ลาบดา/ https://images.app.goo.gl/cAWsEyDcWCWaRNoA9 :สานักพมิ พ์มติชน ประชาธปิ ไตยบนเส้นขนาน/ https://images.app.goo.gl/1X69a83sFG9gVGPf7 วินทร์ เลยี ววาริณ.(๒๕๓๗).ประชาธปิ ไตยบนเส้นขนาน. : สานักพิมพ์ดอกหญา้
รายชื่อผู้จดั ทา กล่มุ ที่1 นายกนกพล เลยี วตระกลู นายกฤตพงศ์ จงเพง็ กลาง นายซาราส อรุณพูลทรัพย์ นายธนบดนิ ทร์ ชัยสงคราม นางสาว ธญั นชิ ชา มฮู าหมดั กาเซ็ม นางสาวปลายประดับ อปุ ญั ญ์ เลขท่ี๕๘ เลขท่ี๖๒ เลขท่ี๗๘ เลขที่๕๒ เลขท่ี๒๕ เลขท่ี๕๔ นางสาวพรนัชชา ไชยธงรัตน์ นางสาวพมิ พม์ าดา ทรงประโคน นางสาวภณดิ า บตุ รศรี นายภมู ิไผท รอดหมนื้ นางสาวอัยยม์ ่ี ฉมิ หริ ญั เลขท่ี๗๙ เลขท่ี๔๘ เลขที่๒๙ เลขท่ี๗๑ เลขท่ี๕๑
Search
Read the Text Version
- 1 - 39
Pages: