Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทความ_สมเด็จฯ_พพปญ-57_การเปลี่ยนแปลงทักษะกระบวนการคิดของนักเรียนในโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา

บทความ_สมเด็จฯ_พพปญ-57_การเปลี่ยนแปลงทักษะกระบวนการคิดของนักเรียนในโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา

Published by dnavaroj15, 2020-02-29 21:54:04

Description: บทความ_สมเด็จฯ_พพปญ-57_การเปลี่ยนแปลงทักษะกระบวนการคิดของนักเรียนในโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา

Search

Read the Text Version

การเปล่ียนแปลงทกั ษะกระบวนการคดิ ของนักเรยี นในโครงการเพาะพันธุ์ปญั ญา โรงเรยี นสมเดจ็ พระญาณสังวร ในพระสังฆราชูปถัมภ์ เดชมณี เนาวโรจน์1* ยาใจ เจริญพงษ1์ สาคร ทองเทพ2 และ สมุ าลี เฮงยศมาก3 1ศนู ยพ์ ่ีเลีย้ งโครงการเพาะพนั ธปุ์ ญั ญา มหาวทิ ยาลัยอบุ ลราชธานี อาเภอวารนิ ชาราบ จังหวัดอบุ ลราชธานี 2โรงเรียนสมเด็จพระญาณสังวร ในพระสังฆราชปู ถัมภ์ อาเภอคาเขื่อนแกว้ จงั หวัดยโสธร 3คณะบริหารศาสตร์ มหาวิทยาลัยอบุ ลราชธานี อาเภอวารินชาราบ จงั หวดั อบุ ลราชธานี *E-mail : [email protected] บทคัดย่อ งานวจิ ัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการเปล่ียนแปลงทักษะกระบวนการคิดของนักเรียนในโครงการเพาะพันธ์ุปัญญา โรงเรยี นสมเด็จพระญาณสังวร ในพระสังฆราชูปถัมภ์ โดยศึกษาจากแบบประเมินระดับทักษะกระบวนการคิดของนักเรียน แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน แบบสอบถามของนักเรียน แบบสอบถามของครูท่ีปรึกษา แบบสอบถามของครูท่ีปรึกษา โครงงาน แบบสอบถามของครูหัวหน้าโครงการ บันทึกไดอารีของนักเรียน บันทึกไดอารีของครู การแสดงความคิดเห็นของ นักเรยี นผา่ นเฟสบุ๊คของนักเรยี น เรอื่ งเลา่ ประสบการณส์ ะทอ้ นความคิดของนกั เรยี น และผลผลติ โครงงานของนกั เรียนแต่ละ โครงงาน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4 จานวน 32 คนโดยวิเคราะห์ทักษะกระบวนการคิดนักเรียนแต่ละคน 5 ทักษะ คือ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ การตัดสินใจ ทักษะกระบวนการคิดการแก้ปัญหา ทักษะกระบวนการคิดการวิจัย ทักษะ กระบวนการคิดสร้างสรรค์ พบว่า นักเรียนมีการเปล่ียนแปลงทักษะกระบวนการคิดหลังจากเข้าร่วมโครงการเพาะพันธ์ุ ปญั ญา โดยมที กั ษะกระบวนการคดิ กระบวนการวิจัยเพิ่มข้ึนมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 56.25 รองลงมาคือการคิดสร้างสรรค์ เพม่ิ ข้นึ คดิ เป็นรอ้ ยละ 46.88 ซ่ึงสอดคล้องกบั วตั ถุประสงค์ของโครงการเพาะพันธุ์ปัญญาท่ีเน้นให้นักเรียนได้พัฒนาความคิด เชิงวิเคราะห์และสังเคราะห์ไปจนถึงการคิดอย่างมีวิจารญาณ ด้วยโครงงานบนฐานวิจัยท่ีเน้นการสร้างกระบวนการเรียนรู้ จากการค้นควา้ และตีความ คาสาคัญ : ทกั ษะกระบวนการคดิ โครงการเพาะพันธุป์ ญั ญา การสะทอ้ นความคิด โรงเรียนสมเดจ็ พระญาณสงั วร ใน พระสังฆราชูปถมั ภ์ Thinking Skill Changes of Students Participated in the PPPY Project at the Somdejprayansungworn Nai Prasungkarachupatum School Dechmanee Noawarot1* Yajai jarearnpong1 Sakorn Thongtep2 and Sumalee Hengyodmak3 1PPPY Node, Ubon Ratchathani University, Warinchumrab district, Ubon Ratchathani province 2 Somdejprayansungworn Nai Prasungkarachupatum school, Komkuenkiaw district, Yasotorn province 3Faculty of Science, Ubon Ratchathani University, Warinchumrab district, Ubon Ratchathani province *E-mail : [email protected] Abstract The study aimed to investigate changes in thinking skills of students participated in the PPPY project at Somdejprayansungworn Nai Prasungkarachupatum school. Five thinking skills were focused which include critical thinking, decision-making, problem-solving, research process, and creative thinking. The subject and key informants included 32 students in grade 10, classroom teachers, project supervisors, and project chief. The data was collected from assessment of students’ thinking skill pre- and post-participated in the PPPY project. Moreover, observations of student behavior though questionnaires, diaries, reflections assays on the project, journal on Facebook, and project’s products were analyzed. The results revealed that all thinking skills were improved. The first two most changes in research process skill (56.25 percent improved) and creative process (46.88 percent improved). The study results reflect an achievement of the PPPY project objective, that is, the development of students’ analytical and synthetic thinking as well as critical thinking through the learning process of research and investigation in the research-based project. 1

Keywords : THINKING SKILLS, PPPY PROJECT, REFLECTION, SOMDEJPRAYANSUNGWORN NAI PRASUNGKARACHUPATUM บทนา ในโลกยุคปัจจุบันเป็นยุคโลกาภิวัตน์ที่มีความเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเม่ือต้อง เผชญิ หนา้ กบั ปัญหาท้าทายต่างๆที่รออยูใ่ นอนาคต มนษุ ย์มองเห็นคณุ ค่าอเนกอนนั ตข์ องการศึกษา เพอ่ื นาไปสู่การมีชีวิตที่ดี ขึ้นในศตวรรษใหม่ในวงการศึกษาความก้าวหน้าของเทคโนโลยีดังกล่าว ก่อให้เกิดปัญหาการเผชิญกับข้อมูลหาศาล ซึ่งไม่ สามารถจัดการกบั ข้อมลู เหลา่ นั้นและใชข้ ้อมลู เหล่านนั้ ให้เกิดประโยชน์ได้ การเปลี่ยนแปลงและปัญหาชุดใหม่ท่ีเกิดข้ึนน้ีทา ให้มนษุ ย์จาเป็นต้องปรับตัวเพื่อการดารงอยู่อย่างมีคุณภาพ จึงจาเป็นในการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ใหม่และทักษะชีวิตชุด ใหม่(ทัศนา แขมณี, 2555 อ้างโดย เอกชัย พุทธสอน, 2557) อีกทั้งปัจจุบันมนุษย์อยู่ในโลกาภิวัตน์ที่ไม่มีความแน่นอน ทักษะที่มนุษย์มีและใช้ได้ผลในโลกยุคก่อนๆไม่สามารถใช้ได้ผลในยุคปัจจุบัน และอนาคตมนุษย์ต้องเรียนรู้ทักษะใหม่ เพื่อ ความอย่รู อดในสังคม(Martin, 2510 อ้างโดย เอกชัย พุทธสอน, 2557) เมื่อโลกของเราเข้าสูศ่ ตวรรษที่ 21 กระแสการศกึ ษา ของโลกก็มีการเปลี่ยนแปลง มีหลายกลุ่มคิดและวิเคราะห์ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 แต่ในท่ีสุดแล้วอยู่ในกลุ่ม 7 ประการ สาคัญน้ี ทักษะทางด้านเทคโนโลยี ความสนใจใคร่รู้และมีจินตนาการ การคิดวิจารณญาณและการแก้ปัญหา ความคิด สรา้ งสรรคแ์ ละพฒั นานวัตกรรม ทักษะในการส่ือสารและร่วมมือกัน การคิดในเชิงธุรกิจและทักษะประกอบการ ทักษะการ เรยี นรขู้ ้ามวฒั นธรรมและการสนใจตอ่ โลก นอกจากนี้ ลักษณะของงานในอนาคตของประเทศท่พี ัฒนาแลว้ โดยเฉพาะประเทศทางตะวันตก จะต้องการคนท่ีมี ความคิดริเร่ิมทาการวิจัยค้นคว้าและออกแบบสินค้า(ผลิตภัณฑ์ต่างๆ) เพ่ือท่ีจะสามารถส่งขายได้ท่ัวโลกซ่ึงเราจะเห็นได้ ชัดเจนจากการกาหนดลักษณะขององคป์ ระกอบของงานที่ครอบคลุม การออกแบบการวิจยั ค้นควา้ การพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อ ส่งขายจงึ มมี ากและหลากหลายข้ึน (ไพฑูรย์ สนิ ลารัตน์, 2556) และแขก มูลเดช (2555) รายงานวา่ ความมน่ั คงของชาติไทย ขนึ้ อยู่กบั ความสามารถของคนไทยในการดารงตนอย่างมีวิจารณญาณในทุกโอกาสเมื่อมีภาระงาน ปัญหา อุปสรรคผ่านเข้า มาในชีวิต คนไทยต้องสามารถคิดวิเคราะห์ ประพฤติ สร้าง พัฒนา ประเมิน ตัดสินใจและแก้ปัญหาได้อย่างเป็นระบบ ช่วงเวลาที่ดีทสี่ ดุ ต่อการพัฒนาทักษะต่างๆนี้ก็คือวยั เด็ก เม่ือนักเรียนไดร้ ับการพฒั นาท่ีเออ้ื ต่อการคดิ วเิ คราะห์ ฯลฯ ได้อยา่ ง มปี ระสิทธิภาพแล้ว คณุ ลกั ษณะเหล่านจ้ี ะตดิ ตวั ผเู้ รยี นไปตลอด ดังนนั้ เมอื่ ผูเ้ รยี นเขา้ สตู่ ลาดงานก็จะเปลย่ี นสภาพเป็นคนไทย ท่สี ามารถดารงตนไดอ้ ย่างมวี ิจารณญาณ เสริมความม่ันคงของชาติ แต่ท่ีผ่านมาประเทศไทยยังผลิตคนซึ่งถือเป็นทรัพยากร บุคคลทจี่ ะพัฒนาประเทศยงั ไม่เท่าเทยี มหรอื ศักยภาพเตม็ ท่ีเหมือนประเทศที่พัฒนาแลว้ จะเห็นได้จากกระทรวงศึกษาธิการ ได้มีความพยายามปรับปรุงและพัฒนาการศึกษามาหลายครั้ง ในรอบหลายปีมีการแก้ไขพัฒนาหลักสูตรการศึกษา จาก หลกั สูตรการศึกษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2544 เป็นหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ตามลาดับ และมีความพยายามในการยกระดับมาตรฐานทางการศกึ ษาของเด็กและเยาวชนเพื่อให้ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับ เน่ืองจาก ในการวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของเด็กไทยในแต่ละปีผลท่ีออกมามักอยู่ในเกณฑ์ท่ีต่ากว่ามาตรฐาน (สุมนต์ฑา บุญท้วม, 2558) ความสามารถเกยี่ วกบั ทกั ษะกระบวนการคิดเปน็ การนาความรูท้ เี่ กดิ จากการคิดมาพัฒนาตนเอง พฒั นาสงั คม และ พัฒนาประเทศชาติต่อไป ทาให้มีศักยภาพทัดเทียมสังคมโลก ซ่ึงได้มีผู้ให้ความรู้เก่ียวกับทักษะการคิดไว้หลายท่านด้วยกัน ทกั ษะการคดิ หมายถงึ กระบวนการทางานของสมองโดยใชป้ ระสบการณ์มาสัมพันธ์กับส่ิงเร้า และสภาพแวดล้อมโดยนามา วิเคราะห์ เปรยี บเทยี บ สังเคราะห์ และประเมินอย่างเป็นระบบ มีเหตุผลเพื่อให้ได้แนวทางในการแก้ปัญหาอย่างเหมาะสม หรอื สรา้ งสรรคส์ งิ่ ใหม(่ กองวิจยั การศกึ ษา, 2542 อ้างโดย อังคนา จันทรประเสริฐ, 2553) ทักษะการคิดมีขั้นตอนหลายช้ัน ต้องอาศัยการส่ือความหมายและทักษะการคิดที่เป็นแกนหลายทักษะในแต่ละขั้น เรียกว่ากระบวนการคิด ทักษะการคิด ช้ันสูงประกอบด้วยทักษะย่อยๆที่สาคัญเช่นการสรุปความ การให้คาจากัดความ การวิเคราะห์ การผสมผสานข้อมูล การ จดั ระบบความคิดการสร้างองคค์ วามรู้ใหม่ ทักษะการคดิ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ ทักษะการคิดพื้นฐาน ทักษะการคิดที่ เป็นแกน และทกั ษะการคดิ ข้นั สงู ซง่ึ แต่ละประเภทก็มีการแบ่งย่อยออกไปอีกหลายอย่าง (ทิศนา แขมมณี และคณะ, 2544 อา้ งโดย อังคนา จนั ทรประเสริฐ, 2553) สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐานได้กาหนดกรอบทักษะกระบวนการคิด สู่การพัฒนาผู้เรียน ให้ สอดคล้องตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ไว้ 5 ทกั ษะ (สพฐ : ม.ป.ป.) ไดแ้ ก่ 2

1. การคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ เปน็ กระบวนการคิดเพ่ือใหไ้ ด้ความคดิ ทรี่ อบคอบสาเหตุที่จะเช่ือหรือจะทาโดยผ่าน การพิจารณาปัจจัยรอบดา้ นอยา่ งกวา้ งไกล ลึกซึง้ และผ่านการพิจารณากลน่ั กรองไตรต่ รอง ท้ังทางดา้ นคุณ–โทษ และคณุ ค่า ทแ่ี ท้จริงของส่ิงนั้นมาแล้ว 2. การตดั สินใจ เป็นกระบวนการทีใ่ ชใ้ นการพจิ ารณาเลอื กตัวเลอื กทม่ี ตี ั้งแต่ 2 ตัวเลือกข้ึนไป ทางเลือกน้ันอาจจะ เป็นวตั ถสุ ิง่ ของ หรือแนวปฏบิ ตั ิตา่ งๆทใี่ ชใ้ นการแก้ปญั หา หรอื ดาเนินการเพ่ือใหบ้ รรลตุ ามวตั ถปุ ระสงคท์ ่ีตัง้ ไว้ 3. ทักษะกระบวนการคิดการแกป้ ัญหา เป็นขั้นตอน การเผชญิ ฝา่ ฟนั อุปสรรค และแก้ไขสถานการณ์เพื่อให้ปัญหา นั้นหมดไป 4. ทักษะกระบวนการคิดการวจิ ยั หมายถึง ขัน้ ตอนที่ใช้หาคาตอบของปัญหาเป็นผลให้พบองค์ความรู้ใหม่ขั้นตอน ทใ่ี ชแ้ กป้ ญั หานั้น มคี วามเป็นลาดับข้ันตอนอยา่ งเป็นระบบ 5. ทักษะกระบวนการคิดสร้างสรรค์ เป็นความคิดที่แปลกใหม่ที่จะนาไปสู่ส่ิงต่างๆ ผลผลิตใหม่ๆ ทางเทคโนโลยี และความสามารถในการประดษิ ฐ์คดิ ค้นส่งิ แปลกใหม่ ผลการทดสอบระดับชาติ(O-NET) ของนักเรียนโรงเรียนสมเด็จพระญาณสังวร ในพระสังฆราชูปถัมภ์ พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนต่า เม่ือเทียบกับระดับเขตพื้นที่การศึกษาและระดับประเทศ ท้ังน้ีแสดงให้เห็นว่า นกั เรียนยังขาดทกั ษะกระบวนการคดิ วเิ คราะห์ สังเคราะห์ แต่โรงเรยี นเองไมไ่ ด้นงิ่ นอนใจและไดพ้ ยายามทจี่ ะพฒั นานกั เรยี น มาโดยตลอด หนงึ่ ในแนวทางแก้ปัญหาคือสมัครเข้าร่วมโครงการเพาะพันธุ์ปัญญากับศูนย์พ่ีเล้ียงมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เน่ืองจากเห็นความสาเร็จของโรงเรียนอ่ืน ๆ รุ่นที่ 1 ท่ีประสบผลสาเร็จหลังจากเข้าร่วมโครงการเพาะพันธ์ุปัญญาในปี การศกึ ษาท่ผี ่านมา โครงการเพาะพันธุ์ปัญญาเป็นการทาโครงงานบนฐานวิจัย (Research-Based Learning : RBL) เกิดจากการ คิดค้นของสานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัยท่ีได้พิสูจน์แล้วว่า กระบวนการวิจัยเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่สามารถสร้าง ระบบคิดและทักษะการเรียนรู้ใหม่ พร้อมไปกับการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมของนักวิจัยท่ีดีได้อย่างทรงพลัง โดยเน้นการ สรา้ งโจทยว์ จิ ยั จากการทาโครงงาน ทเ่ี ปดิ โอกาสใหน้ กั เรียนได้ลงมือปฏิบัติการค้นหาคาตอบจริง ระบบการศึกษาไทยได้เร่ิม นาเอา การเรียนรู้จากการทาโครงงาน (Project-Based Learning : PBL) ซึ่งเป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์ปฏิบัติ (learning by boing) เข้ามาใช้ เพ่ือให้นักเรียนเรียนรู้จากนอกห้องเรียน แต่มักเกิดผลเป็นการให้เด็กได้ \"ทาชิ้นงาน\" ซ่ึงให้ ทักษะบางประการ เช่น การทางานเป็นกลุ่ม, การบริหารเวลา เท่านั้น แต่หากได้มีการนากระบวนการวิจัยและหลักการ วิทยาศาสตรม์ ากากับการทาโครงงาน นอกจากจะไดบ้ ูรณาการวชิ าเข้ากับการทาโครงงานแล้ว นักเรียนยังได้พัฒนาความคิด เชิงวเิ คราะห์และสังเคราะห์ไปจนถึง การคิดได้อย่างมีวิจารญาณ อีกด้วยจุดเน้นสาคัญของการทาโครงงานบนฐานวิจัย คือ การสร้างกระบวนการเรียนรู้จากการค้นคว้าและตีความ ท่ีเรียกกว่า \"วิจัย\" โครงการเพาะพันธุ์ปัญญาจึงเน้นที่ กระบวนการวจิ ัยในโครงงาน และเรียกว่า Research-Based Learning (ศนู ย์พเ่ี ลย้ี งมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, ม.ป.ป.) จากเหตผุ ลข้างตน้ ประกอบกับตัวอย่างความสาเร็จ ของโรงเรียนท่ีเข้าร่วมโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา ปีการศึกษา 2556 เช่น การศึกษาทัศนคติท่ีมีต่อกระบวนการเรียนรู้แบบ RBL กับโครงงานเทาน้าของโรงเรียนน้าขุ่นวิทยา จังหวัด อุบลราชธานี (โรงเรียนน้าขุ่นวิทยา : 2557) ได้พบว่า หลังจากท่ีเข้าร่วมโครงการเพาะพันธ์ุปัญญานักเรียนเกิดทัศนคติ 3 ด้าน คือด้านความรู้ ด้านทักษะ และด้านจิตพิสัย และผลการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานฐานวิจัยต่อการเปล่ียนแปลง คุณลักษณะ พึงประสงค์ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 5 นอกจากน้ี ผลจากการศึกษาทักษะและคุณลักษณะของนักเรียน ในโครงการเพาะพันธปุ์ ญั ญาของโรงเรยี นโคกสว่างคุ้มวทิ ยานสุ รณ์ (โคกสว่างคมุ้ วทิ ยานุสรณ์,2557) พบว่า ครูและนักเรียนมี ความเห็นตรงกนั ว่า นักเรยี นมีพฤติกรรมการเปล่ยี นแปลงในทางที่ดีข้ึนอย่างเด่นชัดในเร่ืองความสามัคคีและการทางานเป็น ทีม ความอดทน ความกล้าแสดงออก และความพยายามขยันพากเพียร 2) สิ่งที่นักเรียนคิดว่าได้รับจากการเรียนรู้แบบ โครงงานฐานวจิ ัยมากท่สี ดุ คอื การเรียนรูด้ ้วยการค้นคว้าทเ่ี กิดจากประสบการณน์ อกห้องเรียน ผ่านกระบวนการคิดในหลาย รูปแบบ แล้วจงึ สรุปเป็นองค์ความรขู้ องตนเอง และการเรียนรู้ผ่านการทาโครงงานฐานวิจัยทาให้นักเรียนพัฒนาตนเองครบ ทัง้ สามดา้ น ดังน้นั คณะผู้วจิ ยั จึงสนใจศึกษาการเปลีย่ นแปลงทกั ษะกระบวนการคดิ ของนักเรยี นโดยการทาโครงงานบนฐาน วิจยั ในโครงการเพาะพนั ธุ์ปัญญา โรงเรยี นสมเดจ็ พระญาณสังวร ในพระสงั ฆราชปู ถมั ภ์ 3

วธิ กี ารวิจยั 1) ประชากร ประชากรท่ีใชใ้ นการศึกษาครั้งนี้ คอื นักเรยี นชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 4/1 โรงเรยี นสมเดจ็ พระญาณสงั วร ในพระสังฆรา ชูปถัมภ์ ปีการศกึ ษา 2557 จานวน 32 คน ซึ่งได้มาจากการเลอื กแบบเจาะจง(purposive sampling) 2) แบบแผนการวิจยั การศึกษาน้ีใช้รูปแบบการวิจัยเชิงทดลองชั้นต้น (pre-experiment) ท่ีมีกลุ่มการทดลองกลุ่มเดียววัดผลหลังการ ทดลอง (one-shot case study) 3) เครอื่ งท่ใี ชใ้ นการวิจัย 1. แผนการจัดการเรียนรขู้ องนักเรียนโครงการเพาะพันธ์ุปัญญา ปีการศึกษา 2557 โดยมีกาหนดการสอนดัง ตาราง 1 ตาราง 1 กาหนดการสอนท่เี น้นการทาโครงงานฐานวจิ ยั วัน/เวลา ช่อื กิจกรรมและรายละเอียดโดยย่อ วัตถุประสงคข์ องกจิ กรรม 28 สงิ หาคม 2557 จิตปัญญา เพอ่ื ให้นักเรยี น 1. เขา้ ใจตนเองและผูอ้ น่ื 26 พฤศจิกายน 2557 2.เห็นคณุ ค่าของตนเองและผอู้ ืน่ 22 กนั ยายน 2557 การเขียนผังเหตผุ ล (system เพ่อื ให้นักเรียน 25 กันยายน 2557 thinking) 1. คดิ แกป้ ญั หา โดยใช้หลกั การทางวิทยาศาสตร์ การคดิ หัวขอ้ โครงการหลกั 2. ฝกึ คิดหาเหตุหาผลของแตล่ ะสถานการณไ์ ด้ 1 – 8 สิงหาคม 2557 การคดิ หัวขอ้ โครงงานย่อย 10 เพอ่ื ใหน้ กั เรียน 15 ตลุ าคม – 20 โครงงาน 1. ตระหนักถึงทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่น พฤศจิกายน 2557 อาชพี กิจกรรมชุมชน การเขียนข้อเสนอโครงงาน 2. ได้หวั ขอ้ หลกั เพื่อทาวจิ ยั 15 ธันวาคม 2557 คดิ วิเคราะหส์ ังเคราะห์ เพ่ือใหน้ ักเรยี น มกราคม – กมุ ภาพันธ์ ลงมอื ทาโครงงาน 1. ฝกึ ทักษะกระบวนการคดิ สร้างสรรค์ 2558 2. ฝึกคดิ ต้ังหวั ขอ้ โครงงานโดยใชห้ ลักความเปน็ (แต่ละกลุ่มใช้เวลาในการ การทาเวบ็ ไซต์ / การประชาสัมพันธ์ เหตเุ ปน็ ผล ทาโครงงานตามสะดวก) 3. ไดห้ วั ขอ้ โครงงานทีต่ ้องการศกึ ษา 1 กมุ ภาพนั ธ์ 2558 เพ่อื ใหน้ กั เรียน 1. ฝกึ การเขียนข้อเสนอโครงงาน 2. มีการวางแผนการทาโครงงาน ที่จะนาไป ปฏบิ ัตจิ รงิ เพื่อให้นักเรยี น 1. ฝกึ การวเิ คราะหส์ ังเคราะหโ์ ครงงานท่ี ดาเนินการไปแล้วเป็นระยะ เพอื่ ใหน้ ักเรียน 1. เกดิ ทกั ษะกระบวนการวิจัย 2. เกิดทักษะกระบวนการในการศกึ ษาหา ความรูต้ ามที่ตนเองถนดั และสนใจ 3. เกิดการเรียนรู้จากการลงมอื ปฏิบัติ 4. รู้จักบันทึกข้อมูล การตีความข้อมูลและลง ขอ้ สรปุ จากขอ้ มูล เพื่อให้นกั เรียน 1. เกดิ ทักษะการสอ่ื สารการนาเสนอ 2. เกดทักษะการใช้สื่อ ICT 4

วัน/เวลา ชอื่ กจิ กรรมและรายละเอียดโดยย่อ วตั ถุประสงค์ของกจิ กรรม 6-10 มนี าคม 2558 การเขยี นรายงานโครงงาน เพ่อื ให้นักเรียน 1. ฝึกการเขียนเพื่อส่ือสารในคนอ่ืนเข้าใจใน การทาโครงงานของตน 2. รจู้ ักวเิ คราะหส์ ังเคราะห์ 3. ฝกึ การใชภ้ าษาทางวิชาการ 12 มนี าคม 2558 การนาเสนอการทดลอง / เพอ่ื ให้นกั เรียน ms_powerpoint 1. เกิดทักษะการนาเสนอการรายงาน 2. เกิดทกั ษะการวพิ ากษ์วิจารณ์ 23 มนี าคม 2558 การทาโปสเตอร์ เพือ่ ใหน้ ักเรยี น 1. เกิดทักษะการใช้เครือ่ งมือ ICT 2. รจู้ ักวิเคราะหส์ ังเคราะห์ 3. ฝกึ การเขยี นผงั ตน้ ไม้ 13 มนี าคม 2558 การนาเสนอโครงการฯ ระดับศูนย์พี่ เพอ่ื ให้นกั เรยี น เล้ยี งมหาวิทยาลยั อบุ ลราชธานี 1. เกดิ ทกั ษะการนาเสนอ การสอื่ สาร 2. รู้จักวิเคราะห์สงั เคราะห์ 2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรียน 3. แบบสอบถามของนักเรียน / ครทู ่ปี รกึ ษา / ครูทีป่ รึกษาโครงงาน / ครหู ัวหนา้ โครงการ 4. ไดอารีของนกั เรียนและครู 5. เฟสบ๊คุ ของนักเรยี นและครู 6. เร่ืองเล่าประสบการณส์ ะทอ้ นความคดิ ของนกั เรยี น 7. ผลผลติ โครงงานของนักเรยี น 4) การเก็บรวบรวมข้อมลู และการวิเคราะห์ขอ้ มลู การศกึ ษาครง้ั นมี้ ีการเก็บรวบรวมขอ้ มลู และการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ตามขนั้ ตอน ดงั นี้ 1. นกั เรยี นประเมินตนเอง ทกั ษะกระบวนการคิดกอ่ นดาเนนิ โครงการ 2. ดาเนนิ การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ตามกาหนดการสอนโครงการเพาะพันธ์ุปัญญา และลงมือปฏิบัติโครงงาน จนเสร็จสิ้นกระบวนการในตาราง 1 ใช้เวลารวมท้งั สั้น 1 ปีการศึกษา โดยการทาโครงงานคร้งั นี้ ได้แบ่งนกั เรียน ออกเป็น 10 กลุ่ม กลุ่มละ 3 คน 8 กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน 2 กลุ่ม มีประเด็นหลัก เร่ือง ข่า และแยกโครงงานย่อย 10 โครงงาน ด้าน วิทยาศาสตร์ 7 โครงงาน ดา้ นเศรษฐศาสตร์ 2 โครงงาน ด้านสงั คมศาสตร์ 1 โครงงาน 3. นกั เรียนและครูเขียนไดอารีในระหว่างการทาโครงงาน เขียนเล่าเรื่องราวและกิจกรรมการทาโครงงานผ่าน เครือข่ายสงั คมออนไลน์เฟสบุ๊ค และนักเรียนเขียนเล่าประสบการณส์ ะท้อนความคดิ หลงั เสร็จสิ้นโครงการ 4. นักเรียนประเมินตนเอง (ทักษะกระบวนการคิด) หลังดาเนินโครงการ และให้ครูที่ปรึกษาชั้นเรียน ครูท่ี ปรึกษาโครงงาน ครูหัวหนา้ โครงการ ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการคดิ ของนักเรยี นแต่ละคน 5. นาข้อมูลในข้อ 1 ข้อ 3 และข้อ 4 มาวิเคราะห์จานวนนักเรียนที่มีการเปล่ียนแปลงกระบวนการคิดแต่ละ ทักษะก่อนและหลังเสร็จส้ินโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา โดยแยกศึกษากระบวนการคิด 5 ทักษะ คือ การคิดอย่างมี วจิ ารณญาณ การคดิ แกป้ ญั หา กระบวนการคดิ ตดั สินใจ กระบวนการวิจัย การคิดสร้างสรรค์ 6. วเิ คราะห์หาค่ารอ้ ยละกระบวนการคิดของแต่ละทักษะ โดยใชส้ มการ ค่ารอ้ ยละทกั ษะกระบวนการคดิ = จานวนนักเรยี นทีเ่ กดิ กระบวนการคิด x 100 จานวนนกั เรียนทง้ั หมด 7. นาคา่ ร้อยละของทักษะกระบวนการคดิ แตล่ ะขอ้ จากการวิเคราะห์ข้อมูลในข้อ 6 มาเขียนกราฟแสดงข้อมูล เปรียบเทียบ 5

ผลการวิจัย ผลจากจากศึกษาการเปล่ียนแปลงทักษะกระบวนการคิดของนักเรียนในโครงการเพาะพันธ์ุปัญญา โรงเรียน สมเด็จพระญาณสังวร ในพระสังฆราชูปถัมภ์ ปีการศึกษา 2557 จานวน 32 คน พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงทักษะ กระบวนการคิดเพิ่มข้ึนทุกทักษะ คือ ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ทักษะการคิดแก้ปัญหา กระบวนการคิดตัดสินใจ กระบวนการวิจัย และทักษะการคิดสร้างสรรค์ เม่ือเปรียบเทียบทักษะกระบวนการคิดของนักเรียนก่อนและหลังการทา โครงงาน ดังรูปที่ 1 นกั เรียนมีการเปลย่ี นแปลงทกั ษะการคิดกระบวนการวิจัยมากท่ีสุด คือมีทักษะกระบวนการวิจัยเพิ่มข้ึน คิดเป็น คิดเป็นร้อยละ 56.25 (ก่อนทาโครงงานนักเรียนมีทักษะกระบวนการวิจัย ร้อยละ 31.25 และหลังทาโครงงาน นักเรียนมีทักษะกระบวนการวิจัยร้อยละ 87.50) ทั้งนี้เพราะกิจกรรมการเรียนการสอนโครงการเพาะพันธ์ุปัญญาได้ฝึกให้ นักเรียนทางานเป็นข้ันตอนที่ใช้หาคาตอบของปัญหาเป็นผล ทาให้ค้นพบองค์ความรู้ใหม่ และขั้นตอนที่ใช้แก้ปัญหาน้ัน มีความ เป็นลาดับขนั้ ตอนอย่างเป็นระบบ นอกจากน้ยี งั สนับสนนุ และส่งเสรมิ ให้มีการวางแผนและลงมือปฏิบัติ ทดลองอย่างจริงจังทุก โครงงาน 87.50 78.13 46.88 71.88 75.00 71.88 50.00 21.88 40.62 21.88 50.00 34.38 31.25 31.25 รูปท่ี 1 แผนภูมิเปรยี บเทยี บการเปล่ียนแปลงทกั ษะกระบวนการคิดของนกั เรียน กอ่ นและหลงั การทาโครงงานบนฐานวิจัย ในโครงการเพาะพนั ธุป์ ัญญา ทักษะกระบวนการคิดสร้างสรรค์ นักเรียนมีทักษะด้านนี้เพ่ิมขึ้น คิดเป็นร้อยละ 46.88 การคิดสร้างสรรค์ใน กระบวนการนีเ้ กดิ ในกจิ กรรมการเรยี นการสอนการคดั เลอื กประเด็นหลักและการคิดหาโครงงานย่อย 10 โครงงานจากหนึ่ง ประเด็นหลัก ทาให้นกั เรียนเกดิ การคิดที่หลากหลายและสร้างสรรค์ นักเรียนมีทักษะการคิดแก้ปัญหาเพ่ิมขึ้น คิดเป็นร้อยละ 40.62 ซึ่งการทาโครงงานบนฐานวิจัย เป็นการฝึกให้ นักเรียนรู้จักการทาโครงงานท่ีนากระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาใช้ เร่ิมต้นด้วย 1. กาหนดปัญหา 2. ต้ังสมมุติฐาน 3. วางแผนแก้ปัญหา 4. เก็บรวบรวมข้อมูล 5. วิเคราะห์ข้อมูลและทดสอบสมมุติฐาน 6. สรุปผล จนได้ผลผลิตท่ีเป็น ช้ินงาน 10 โครงงาน ตัวอย่างเช่น กระดาษจากข่า น้าพริกสมุนไพรข่าสร้างรายได้ ข่ากับการไล่แมลงวัน การยับยั้งเช้ือรา ด้วยสารสกัดจากขา่ เปน็ ต้น นักเรยี นมีทักษะการคิดอยา่ งมีวิจารณญานเพมิ่ ข้ึน คดิ เป็นรอ้ ยละ 21.88 ในขนั้ ตอนการทาโครงงานนกั เรยี นได้ รจู้ กั การคดิ ที่มีเหตุผลโดยผ่านการพิจารณาไตร่ตรองอยา่ งรอบคอบ มีหลกั เกณฑ์ มีหลักฐานทเี่ ชื่อถอื ได้ กอ่ นทจี่ ะนาไปสู่ การสรปุ และตัดสนิ ใจที่มีประสทิ ธภิ าพวา่ สิง่ ใดถกู ต้อง สง่ิ ใดควรเชอ่ื สงิ่ ใดควรเลือก หรือสง่ิ ใดควรทา นกั เรียนมีทักษะกระบวนการคดิ ตดั สินใจเพ่ิมขนึ้ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 21.88 การตัดสนิ ใจเปน็ กระบวนการที่ใช้ในการ พิจารณาเลือกตัวเลือกที่มตี งั้ แต่ ๒ ตวั เลอื กขน้ึ ไปที่ใช้ในการแกป้ ัญหา หรอื ดาเนินการเพอื่ ใหบ้ รรลตุ ามวตั ถปุ ระสงค์ที่ตัง้ ไว้ กอ่ นท่จี ะทาโครงงานแตล่ ะโครงงานนกั เรียนได้สืบค้นขอ้ มลู วิธกี ารทดลอง วสั ดุอปุ กรณ์ที่จะใชใ้ นการทาการทดลองซึง่ มี หลากหลายวธิ กี าร และรจู้ ักตัดสินใจเลอื กทีเ่ หมาะสมกับโครงงานของตนเองจนสามารถทาโครงงานสาเรจ็ การเลือกประเดน็ หลกั ก็เป็นกิจกรรมหนึ่งท่ีฝึกให้นกั เรียนคดิ ตัดสนิ ใจ เป็นตน้ 6

ผลจากการสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรยี นดว้ ยแบบสังเกตพฤติกรรม และสงั เกตพฤติกรรมจากบนั ทึกไดอารีของนักเรียน บันทึกไดอารีของครู การนาเสนอผลงานของนักเรียน การตอบคาถาม การแสดงความคิดเห็นของนักเรียนผ่านเฟสบุ๊คของ นักเรียน เรื่องเล่าประสบการณ์สะท้อนความคิดของนักเรียน และผลผลิตโครงงานของนักเรียนแต่ละโครงงาน พบว่า หลงั จากโรงเรยี นเข้าร่วมโครงการและนากระบวนการ RBL มาใช้กบั กลุ่มประชากร ทาใหน้ กั เรยี นเกิดทักษะกระบวนการคิด ทเ่ี ปล่ียนแปลงไปจากก่อนเรม่ิ โครงการเกิดทักษะกระบวนการคิดท้ัง 5 ทักษะ ตัวอย่างการสะทอ้ นความคดิ ผ่านไดอารีของนกั เรียน “วนั พฤหสั บดคี าบเรยี นเพาะพันธุ์ปัญญาเราก็ต่างแยกย้ายทา โครงงาน กล่มุ เรากไ็ ปทส่ี วนขา่ ไปดูวา่ จะเอาข่าจากตรงไหนให้เพ่อื นในกลุม่ ลองขุดดู ขุดยากมาก ๆ เราเลยรวู้ ่าเราจะต้องเอา นารดก่อนขดุ เราก็คุยกัน ตกลงตอนเย็นจะหาสายยางมาต่อไปรดข่า” นส.ศศิวิมล พงษ์เฉลียว (ตีพิมพ์ในหนังสือในโครงการ เพาะพันธ์ุปัญญาลาดับที่ 8 สะท้อนคิดคือเรียน : ความรู้สึกในความงามที่ผลิบาน โครงการเพาะพันธ์ุปัญญา ปี 2) “หนูทา โครงงานเรือ่ งกระดาษข่า ตอนแรกคิดว่ามันง่ายมากๆคงเหมือนกระดาษจากฟาง แต่พอลงมือทาจริง ๆ มันไม่เป็นไปตามท่ี เราคิดไว้ เพราะเส้นใยข่ามันไม่ติดกันเป็นกระดาษ แต่พอพวกเราไปศึกษาสืบค้นข้อมูลจากหลายๆแหล่งจึงพบว่าการทา กระดาษมันตอ้ งทาใหเ้ ส้นใยเชอื่ มตอ่ กนั จนสุดท้ายมาลงท่กี ระดาษ รไี ซเคลิ เพื่อเป็นตัวเช่ือมต่อ หนเู ร่มิ รูส้ ึกวา่ โครงงานของ หนูซบั ซ้อนขึนเพราะมหี ลายขนั ตอน หาอัตราสว่ นของกระดาษ แล้วยังมีการทดสอบกระดาษที่ทาได้อีก”นส.จุฑามาศ ทอง ประสาร สะทอ้ นความคิดไว้ในเร่อื งเล่าประสบการณ์ “โครงการเพาะพนั ธป์ุ ัญญาคดิ ในใจแลว้ ละว่างานยากเข้ามาแล้ว ตอน นนั เราไม่คดิ ถึงความสนุกของมันเลย เราคดิ แตว่ ่ามนั ยากแตเ่ อาเขา้ จรงิ ๆหนูคดิ ว่ามันสนกุ นะได้ทาอะไรทไี่ มเ่ คยทา ได้ไปในที่ ที่ไม่เคยไป เจอปัญหาตา่ งๆเข้ามามากมายตังแต่เริ่มทา ขณะทา แต่หนูก็ผ่านมนั ไปได้ จนสุดท้ายหนูเห็นการเปลี่ยนแปลงใน ตัวหนูหลายอย่าง รู้จักวางแผนการทางานดีขึน อดทน รับฟังความคิดเห็นคนอื่นมากขึน ตอนนีหนูเข้าใจแล้วกับส่ิงที่ เพาะพันธุ์ปัญญาให้หนูมา มันมากกว่าส่ิงท่ีลงทุนไป หนูสัญญาจะนาส่ิงท่ีได้จากโครงการเพาะพันธุ์ปัญญาไปใช้ให้เกิด ประโยชนก์ ับหนู และเพอื่ นๆใหม้ ากที่สดุ ” นส.สิรธิ ร วงเวียน สะท้อนความคิดไวใ้ นเรื่องเลา่ ประสบการณ์ จากตัวอย่างการสะท้อนความคดิ ของนกั เรยี นแสดงให้เห็นกระบวนการคดิ ของนกั เรียนอย่างเป็นระบบเกดิ รปู ธรรม ทาให้นักเรียนเกิดทักษะการคิดท้ังทักษะการคิดพื้นฐาน ทักษะการคิดแกนและทักษะการคิดขั้นสูง (สุธีระ ประเสริฐสรรพ์, 2558) การสะทอ้ นคิด (reflection) เปน็ การ “กลัน่ ” ความคิดความรู้สึก จึงเป็นการคิดที่ลึกซึ้งมาก เพราะทาให้คิดทบทวน สิ่งทเี่ กิดขน้ึ กบั ตนเอง พยายามเข้าใจความคิดของตนเองที่เปลี่ยนไป การสะท้อนคิดที่ควรถือว่าเป็นการเรียนขั้นสูง คือ การ เขียนความคิดความรู้สึก เพราะเขียนคือการใช้สมาธิจดจ่ออยู่กับการเรียบเรียงความคิดที่ตกผลึก การขัดเกลางานเขียนคือ การเจียระไนผลึกความคิดให้ใสกระจา่ งขน้ึ การเขียนสะท้อนความคิดจึงเป็นการเรยี นรขู้ องผเู้ รียน อภปิ รายและสรุปผลการวจิ ัย การศึกษาการเปล่ียนแปลงทักษะกระบวนคิดของนักเรียนผ่านการทาโครงงานบนฐานวิจัยในโครงการเพาะพันธุ์ ปัญญา โดยประเมินระดับทักษะกระบวนการคดิ ของนกั เรียนก่อนและหลังเข้าร่วมโครงการ 5 ทักษะ คือ ทักษะการคิดอย่าง มีจารณญาณ ทักษะการคิดแก้ปัญหา กระบวนการคิดตัดสินใจ กระบวนการวิจัย และทักษะการคิดสร้างสรรค์ และการ สังเกตพฤตกิ รรมนักเรยี น ผา่ นไดอารขี องนกั เรยี นและครู เฟสบ๊คุ ของนักเรยี นและครู เร่ืองเล่าประสบการณส์ ะท้อนความคิด ของนักเรียน และผลผลิตโครงงานของนักเรียนของนักเรียน ผลการศึกษาพบว่า การเปล่ียนแปลงทักษะกระบวนการคิด เพ่ิมข้ึนทุกทักษะ โดยนักเรียนมีการเปลี่ยนแปลงทักษะการคิดกระบวนการวิจัยมากท่ีสุดซึ่งเพิ่มข้ึนคิดเป็นร้อยละ 56.25 รองลงมาคอื ทกั ษะกระบวนการคิดสร้างสรรค์ซึ่งเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 46.88 ทักษะการคิดแก้ปัญหาเพ่ิมข้ึนคิดเป็นร้อยละ 40.62 ทกั ษะการคิดอย่างมจี ารณญาณและกระบวนการคิดตดั สินใจเพ่ิมข้ึนคิดเป็นร้อยละ 21.88 ตามลาดับ และจากการ สะทอ้ นความคดิ ของนกั เรยี น ไดพ้ บว่านักเรยี นได้พฒั นาความคดิ เชิงวเิ คราะห์และสังเคราะห์ไปจนถึง การคิดได้อย่างมีวิจาร ญาณจากการทาโครงงานบนฐานวิจัย ที่มกี ารสร้างกระบวนการเรียนรู้จากการค้นควา้ และตคี วามดว้ ยตนเอง จึงสามารถสรุป ได้ว่า กิจกรรมการเรียนการสอนโครงการเพาะพันธุ์ปัญญาสามารถพัฒนาทักษะกระบวนการคิดของนักเรียนได้ เน่ืองจาก นักเรียนสามารถทางานเป็นขั้นตอนท่ีอย่างเป็นระบบด้วยการเขียนผังเหตุผล ทาให้นักเรียนค้นพบความรู้ด้วยตนเอง นอกจากน้ี ยงั สง่ เสริมใหม้ ีการวางแผน ลงมือปฏิบัติ คิดตดั สนิ ใจ และแก้ปัญหาเองอยา่ งจริงจงั ทกุ โครงงาน 7

กิตติกรรมประกาศ โครงการเพาะพันธ์ุปัญญาของโรงเรียนสมเด็จพระญาณสังวร ในพระสังฆราชูปถัมภ์ สาเร็จลุล่วงได้ต้องขอกราบ ขอบพระคุณผู้สนับสนุนทุนคร้ังนี้ สกว. บมจ.ธนาคารกสิกรไทย ศูนย์พี่เล้ียงมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีที่คัดเลือกโรงเรียน ของเราเป็นสว่ นหน่งึ ของโครงการ ขอบคุณ ดร.สธุ ีระ ประเสรฐิ สรรพ์ ผ้เู ช่ียวชาญของโครงการฯ และ ดร.สุมาลี เฮงยศมาก ที่กรณุ าใหค้ าแนะนาในการทาโครงงาน RBL ขอบคุณนายชาติชาย สิงห์พรหมสาร ผู้อานวยการโรงเรียน นายเชิดชัย สิงห์คิบุตร รองผู้อานวยการโรงเรียนท่ี สนับสนุนให้มีโครงการนี้ในโรงเรียนและที่สาคัญขอขอบคุณครูท่ีปรึกษาโครงงานทุกท่านที่มีส่วนทาให้โครงการเพาะพันธุ์ ปัญญาของโรงเรยี นแห่งนีป้ ระสบผลสาเร็จ ขอบคุณผู้ปกครองนักเรียนและปราชญ์ชุมชนท่ีมีส่วนสนับสนุนช้ีแนะ แนะนา และท่ีสาคัญขอบใจนักเรียนช้ัน มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4/1 ปีการศกึ ษา 2557 ทุกคนทที่ ่มุ เท แรงกายแรงใจทาโครงงานจนสาเร็จตามวัตถปุ ระสงค์ทุกประการ เอกสารอา้ งอิง แขก มลู เดช (2555) การพฒั นาทักษะการวจิ ยั และนวตั กรรมการจดั การเรยี นการสอนของครมู หาวทิ ยาลยั ราชภฏั เพชรบูรณด์ ว้ ยโจทยว์ จิ ยั ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ มะขามหวานเพอ่ื รองรบั สมาคมประชาชาตแิ หง่ เอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ สานกั บรหิ ารโครงการวิจัยในอุดมศึกษาและพฒั นามหาวทิ ยาลยั วิจัยแห่งชาติ สานักคณะกรรมการอดุ มศึกษา) งานประกนั คุณภาพการศกึ ษา. (2556). รายงานประเมินตนเอง(SAR). โรงเรียนสมเดจ็ สมเดจ็ พระญาณสงั วร ในพระสังฆ ราชูปถัมภ์ อาเภอคาเขื่อนแกว้ จังหวดั ยโสธร โรงเรยี นนา้ ขุ่นวิทยา.(2558). การศึกษาทัศนคตทิ ี่มีตอ่ กระบวนการเรียนรแู้ บบ RBL กบั โครงงานเทานาของโรงเรียนนา ขนุ่ วทิ ยา จงั หวัดอบุ ลราชธานี. ประมวลบทความในงานประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ มอบ. วิจยั ครัง้ ที่ 8 ผลงาน นาเสนอบรรยาย มหาวิทยาลยั อบุ ลราชธาน.ี โรงเรยี นโคกสวา่ งคุ้มวิทยานุสรณ.์ (2557). ผลการจดั การเรยี นรูแ้ บบโครงงานฐานวิจยั ต่อการเปลีย่ นแปลงคณุ ลกั ษณะ พึงประสงคข์ องนักเรยี นชนั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 ในโครงการเพาะพันธปุ์ ัญญา. วารสารหนว่ ยวจิ ยั วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิง่ แวดล้อมเพอื่ การเรยี นรู้ ปที ี่ 5 ฉบับที่ 2 (2557). ไพฑูรย์ สินลารัตน์ (2556) ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21: ตอ้ งก้าวให้พ้นกับดกั ของตะวนั ตก การประชุมทางวิชาการของครุ ุสภา ประจาปี 2556 “การวิจยั เพอื่ เพ่มิ คุณภาพการศึกษาและการพัฒนาวชิ าชีพ” กรงุ เทพมหานคร : สานักงานเลขาธกิ ารครุ ุสภา, 2556 ศูนย์พ่เี ลีย้ งมหาวทิ ยาลยั อบุ ลราชธานี.(ม.ป.ป.) เกย่ี วกับโครงการ รู้จกั เพาะพันธุ์ปัญญา. สบื ค้นเมื่อวนั ที่ 22 เมษายน 2558. จากชอ่ื เวบไซต์ : http://www.pohpanpunya-ubu.com/ver2/about.php#. สุมนตฑ์ า บญุ ท้วม. (ม.ป.ป.) บทความเชงิ วชิ าการ เร่อื ง ปญั หาดา้ นการศึกษาในสังคมไทย . สืบค้นเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2558. จากชอ่ื เวบไซต์ : http://sd-group1.blogspot.com/2013/01/53242766.html สธุ ีระ ประเสรฐิ สรรพ.์ (2558). สะทอ้ นคิดคอื เรยี น : ความร้สู กึ ในความงามทผี่ ลิบาน โครงการเพาะพนั ธุป์ ัญญา ปี 2 (ครั้งท่ี 1). สงขลา : บรษิ ทั นาศลิ ป์โฆษณา จากดั . สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน. (ม.ป.ป.). ความหมายของทกั ษะการคดิ ทนี่ ามาใชใ้ นการพัฒนาผู้เรียนตาม หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนึ พืนฐาน พทุ ธศักราช 2551. สบื ค้นวันท่ี 22 เมษายน 2558 จากชื่อเวบไซต์ : http://www.e-learning.mfu.ac.th/mflu/1001/chapter31.htm อังคนา จันทรประเสรฐิ . (2553). ปัจจัยทีม่ สี ง่ ผลตอ่ ทกั ษะการคิดขนั สงู ทางวทิ ยาศาสตร์ของนักเรยี นชนั มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4. สาขาวิจยั และประเมินผลการศึกษา. มหาวทิ ยาลยั นเรศวร. เอกชัย พุทธสอน (2557) แนวโน้มการเสริมสรา้ งทักษะการเรยี นรู้ในศตวรรษที่ 21 สาหรับนักศกึ ษาผใู้ หญ่ ภาควิชา การศึกษาตลอดชีวติ คณะครศุ าสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั 8