แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 1 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 3 วชิ า วทิ ยาการคํานวณและเทคโนโลยี (รหัสวชิ า ว23103) ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 การใช้เทคโนโลยอี ย่างรู้เทา่ ทัน จาํ นวน 10 ชั่วโมง เรื่อง การประเมินความน่าเชอ่ื ถอื ของข้อมลู เวลา 2 ชัว่ โมง ครูผู้สอน นางสาวจรณิ พร รกั สัตย์ นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ชีว้ ัด ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชงิ คานวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชวี ติ จริงอย่างเป็นข้ันตอนและ เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปัญหาได้ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ รเู้ ทา่ ทนั และมีจรยิ ธรรม ตัวชี้วัด ม.3 ประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล วิเคราะห์ส่ือและผลกระทบจากการให้ ข่าวสารทีผ่ ิด เพ่ือ การใช้งานอย่างรู้เทา่ ทนั 2. สาระสาํ คัญ/ ความคดิ รวบยอด ถ้าข้อมูลที่นามาใช้ในการเรียนรู้และการทางาน มีความถูกต้อง เหมาะสมและน่าเช่ือถือ จะ ทาให้เกิด การเรียนรู้และทางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก่อนการนาข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ มาใช้ต้อง ผ่านกระบวนการ ประเมินความน่าเช่ือถือด้วยการตรวจสอบและยืนยันข้อมูล โดยอาจใช้หลักการ PROMPT ซ่ึงไดแ้ ก่ การนาเนกความสัมพนั ธ์วตั ถปุ ระสงค์วิธกี าร แหล่งทม่ี า และเวลา (Presentation, Relevance, Objectivity, Method, Provenance, Timeliness: PROMPT) 3. สาระการเรยี นรู้ การประเมินความน่าเช่ือถือของข้อมูล เช่น ตรวจสอบและยืนยันข้อมูล โดยเทียบเคียงจาก ข้อมูลหลายแหล่ง แยกแยะข้อมลู ทเ่ี ป็นขอ้ เท็จจริงและข้อคิดเหน็ หรือใช้ PROMPT 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ด้านความรู้ ผู้เรยี นบอกวิธีการประเมนิ ความน่าเชอ่ื ถือของข้อมูลได้ (K) ดา้ นทักษะ ผู้เรียนประเมินความน่าเชอ่ื ถือของข้อมลู จากแหล่งตา่ ง ๆ ได้ (P) ดา้ นคณุ ลักษณะ ผู้เรียนแสดงพฤติกรรมด้านความมวี ินัย ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ มัน่ ในการทางานได้ (A)
5. คณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ ซื่อสัตย์ สุจรติ รกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ ใฝเ่ รียนรู้ มวี นิ ัย ม่งุ ม่นั ในการทางาน อยู่อย่างพอเพยี ง มีจติ สาธารณะ รักความเป็นไทย 6. สมรรถนะสําคัญของผเู้ รียน ความสามารถในการส่อื สาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 7. ทักษะ 8 Cs Critical Thinking and Problem Solving: การคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณ แก้ไขปัญหาได้ Creativity and Innovation: คิดอยา่ งสร้างสรรค์ คิดเชิงนวตั กรรม Cross-cultural Understanding : ความเขา้ ใจความแตกตา่ งทางวฒั นธรรม กระบวนการ คิดข้ามวัฒนธรรม Collaboration teamwork and leadership: ความร่วมมอื การทางานเป็นทีม และภาวะผู้นา Communications information and media literacy: ทักษะในการสอ่ื สาร Computing and ICT literacy: ทักษะการใช้คอมพวิ เตอร์ และการรเู้ ทา่ ทันเทคโนโลยี Career and learning skills: ทกั ษะทางอาชพี และการเรียนรู้ Compassion: มคี ุณธรรม มเี มตตา กรุณา มีระเบยี บวนิ ัย 8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขัน้ นําเข้าสู่บทเรยี น 1.อธิบายกับนักเรียนเพ่ือเชื่อมโยงเข้าสู่บทเรียนว่า “ข้อมูลที่นามาใช้ในการเรียนรู้และการทางาน ตอ้ งมีความถกู ตอ้ ง เหมาะสมและน่าเช่อื ถอื จึงจะทาให้การเรียนรู้และการทางานนน้ั มีประสิทธภิ าพ” 2.ถามคาถามกระตุ้นความคิดของนักเรียนว่า “นักเรียนคิดว่า ข้อมูลท่ีอยู่รอบ ๆ ตัวนักเรียนมีวิธี ตรวจสอบความถูกต้องอย่างไรบ้าง” จากน้ันผู้สอนเปิด วิดีโอ เรื่อง การประเมินความน่าเช่ือถือของ ข้อมลู
ขั้นจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ( Activities ) 1. ผสู้ อนถามผเู้ รยี นว่าข้อมลู ที่นามาจากอินเทอรเ์ น็ตเพ่อื ทารายงานหรือสร้างชน้ิ งานในรายวชิ าตา่ ง ๆ เชื่อถอื ได้ หรอื ไม่ และเราทราบได้อย่างไรวา่ ข้อมลู ที่นามาทารายงานน่าเชือ่ ถอื 2. ผู้เรียนนาใบงานที่ 1 จากผู้สอนท่ีตั้งคาถามในประเด็นสาคัญหรือประเด็นท่ีเก่ียวข้องกับผู้เรียนว่า “จังหวัดที่มีภูเขามากท่ีสุดในประเทศไทยคือจังหวัดอะไร” แล้วให้ผู้เรียนสืบค้นข้อมูลเพื่อหา คาตอบ โดยใชแ้ หล่งข้อมูลที่น่าเชอ่ื ถอื ทส่ี ุด 3. ผูเ้ รยี นแต่ละคนตอบคาถาม พร้อมระบุแหลง่ ข้อมลู ลงในเอกสารออนไลน์ทผี่ ูส้ อนแชร์ไว้ พร้อมบอก เหตุผลว่าเพราะเหตุใด ข้อมูลที่ตนเองค้นหามาจึงมีความน่าเช่ือถือ เปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อ สงสยั และครูใหค้ วามรู้เพ่มิ เติมในส่วนนั้น หรืออาจจะใหน้ กั เรียนศึกษาเพมิ่ เติมจากอินเทอร์เนต็ ขั้นสรุป 1. ประเมนิ ผลนักเรียนจากการสังเกตการตอบคาถาม ความสนใจในการเรียน และการทากจิ กรรม 2. นกั เรยี นและครูรว่ มกันสรุปเก่ียวกับประเภทของข้อมูล ลักษณะของข้อมลู ที่ดี และข้อมลู ท่ีดีจะต้อง ถกู ตอ้ งและเชื่อถือได้ 9. การวดั และประเมนิ ผล จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ วธิ กี าร เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารตัดสนิ ผเู้ รยี นบอกวิธกี ารประเมินความ ใบงานที่ 1 แบบทดสอบ ระดบั คุณภาพ นา่ เชื่อถือของข้อมลู ได้ (K) ใบงานที่ 1 ตง้ั แต่ 70 ขน้ึ ไป ผ่านเกณฑ์ ผู้เรียนประเมินความนา่ เช่ือถือ สังเกตพฤตกิ รรม ของขอ้ มลู จาก แหล่งตา่ ง ๆ ได้ (P) การทางาน แบบประเมินการ ระดับคุณภาพ ปฏบิ ตั งิ าน ตัง้ แต่ 70 ขน้ึ ไป นักเรยี นแสดงพฤติกรรมด้านความ ผ่านเกณฑ์ มีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งม่นั ในการ ทางานได้ (A) แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ ดี คุณลักษณะ อนั พงึ ผ่านเกณฑ์ ประสงค์ 10. สือ่ การเรยี นรู้ / แหล่งเรยี นรู้ 1) วดิ ีโอเรอ่ื ง การประเมนิ ความนา่ เชื่อถือของข้อมลู 2) ใบงานท่ี 1 3) Line
ใบงานท่ี 1 ใหน้ กั เรียนตอบคาํ ถามตามหัวข้อ ด้านล่างพร้อมระบุแหล่งข้อมลู ลงในส่ือที่ครกู ําหนด โจทย์ จังหวดั ทม่ี ผี าสงู ทส่ี ุดในประเทศไทยคอื จังหวัดอะไร คําตอบ URL เหตุผลท่คี ดิ ว่านา่ เชื่อถอื
https://youtu.be/KU-DyzWlfmA
Search
Read the Text Version
- 1 - 5
Pages: