ประวตั ศิ าสตร์ ทวปี ยุโรป ธีร์ โสมอนิ ทร์ เลขท0ี 20 ห้องม 3/2
ยุคก่อนประวัตศิ าสตร์
ยุคก่อนประวตั ศิ าสตร์ กระดูกของมนุษย์ยุคแรก ๆ ในยุโรปถูกพบทเีC มือง ประเทศจอร์เจยี ซึCงกระดูกเหล่านKันคาดว่ามอี ายุราว ๆ L ล้านปี ก่อนคริสตกาล หลกั ฐานของมนุษย์ทมCี ี โครงสร้างสรีระคล้ายมนุษย์ปัจจุบนั ทปีC รากฏในยุโรปทเCี ก่าทสCี ุดนKันคือประมาณ QR,TTT ปี ก่อนคริสตกาล แต่หลกั ฐานแสดงการตKงั รกรากถาวรนKันแสดงอยู่ราว ๆ UTTT ปี ก่อน คริสตกาลในประเทศบลั แกเรีย โรมาเนีย และ กรีซ ยุโรปกลางเข้าสู่ยุคหินใหม่ ในช่วงราว ๆ WTTT ปี ก่อนคริสตกาลก่อนหลาย ๆ ทใCี นยุโรปเหนือ ซCึงเข้าสู่ยุคหินใหม่ในช่วงราว ๆ RTTT ถงึ XTTT ปี ก่อนคริสตกาล ราว ๆ LTTT ปี ก่อนคริสตกาลเริCมมอี ารยธรรมทมCี คี วามรู้ทางการอ่าน-เขยี นในยุโรปคืออารย ธรรมของพวกมโิ นน ทเCี กาะ และตามด้วยพวกไมเซเนียน (ทKงั สองอารยธรรมอยู่ราว ๆ บริเวณซCึงเป็ นประเทศกรีซในปัจจุบัน) ราว ๆ XTT ปี ก่อนคริสตกาล วฒั นธรรมลาทเี น่ ซึCงเป็ นวฒั นธรรมในยุคเหลก็ ได้แพร่กระจาย ไปเกือบทวCั ภาคพืนK พวกอที รัสกนั ได้เข้าไปตKงั รกรากในตอนกลางของอติ าลแี ละลอมบาดี ซึCงอยู่ตอนเหนือของอติ าลปี ัจจุบัน
ยุครุ่งเรืองของจกั รวรรดโิ รมัน
ความรุ่งเรืองของกรุงโรม พวกโรมนั มกี ษตั ริย์ปกครองกนั เรื:อยมาหลงั ตาํ นาน โรมูลสุ กษตั ริย์ลูกหมาป่ าทก:ี ่อตAงั กรุงโรม จนมาถงึ รุ่นของกษตั ริย์ทาควนิ เป็ น องค์สุดท้าย ว่ากนั ว่าชาวโรมนั ไม่พอใจทที: าควนิ สร้างสิ:งก่อสร้างต่าง ๆ มากมายจนประชาชนเดือดร้อนทาํ ให้มตี ระกลู ชAันสูงพวกแพทริเซียนทมี: ี อาํ นาจในกรุงโรมนําโดยสกลุ บรูตสั พากนั ขบั ไล่พระองค์ลงจากบลั ลงั ก์ ตAงั แต่นAันมาชาวโรมนั กใ็ ช้การปกครองแบบสาธารณรัฐปกครองโดยสภาซีเนต มาถงึ TUU ปี จวบจนมาถงึ ยุคของจกั รพรรดอิ อกสั ตสั จกั รพรรดพิ ระองค์แรก ของจกั รวรรดโิ รมนั
การล่มสลายของจกั รวรรดโิ รมัน
การล่มสลายของกรุงโรม พวกคนเถื:อนทางตอนเหนือของยุโรปก้าวร้าวบุกรุกอาณาจกั ร โรมนั กนั เป็ นว่าเล่น หนึ:งในนAันมี “แอตตลิ า” ผู้นําของคนเถ:ือนทเ:ี ป็ นตาํ นาน รวบรวม เหล่าคนเถื:อนมาไว้ด้วยกนั นํากาํ ลงั บุกเข้าไปในอาณาจกั ร โรมนั แต่ถงึ กระนAันกไ็ ม่ สามารถทจี: ะบุกเข้าไปถงึ กรุงโรมได้ถูกพวกโรมนั หยุดยAงั ไว้ได้ก่อน แล้วกม็ าด่วนตายไป แต่การกระทาํ ของแอตตลิ ากส็ ่งผลให้พวกคนเถื:อนบุกเข้าไปในจกั รวรรดโิ รมนั จนใน ทสี: ุดกรุงโรมกถ็ ูกตแี ตกโดยพวกเยอรมนั เป็ นการสิAนสุดอทิ ธิพลของพวกโรมนั ในยุโรป ตะวนั ตก คงเหลือแต่พวกโรมนั ทกี: รุงคอนสแตนตโิ นเบลิ เท่านAันทยี: งั คงแผ่อทิ ธิพลออกไป
สงครามครูเสด พระสันตะปาปาเรียกร้องให้ชาวคริสต์ทกุ คนนํากาํ ลังไปช่วยเหลือจกั รวรรดโิ รมันตะวันออกทDกี าํ ลังถกู พวก อาหรับกลืนกนิ กองทพั ของผู้ศรัทธานํากาํ ลังบุกเข้าไปถงึ กรุง เยรูซาเลม ดนิ แดนอันศักดOสิ ทิ ธOิในพระคาํ ภรี ์ ฉบบั เก่าของโมเสสทDถี กู ชาวอาหรับครอบครอง กองทพั ครูเสดยดึ ดนิ แดนได้แถบริมฝDังตะวันออกของทะเลเมดเิ ตอร์เรเนียนแล้วตงัS เป็ นประเทศ อยู่มาจน การมาถงึ ของ ซาลาดนิ สุลต่านอาหรับทDสี ามารถบุกยดึ กรุงเยรูซาเลมจากพวกครูเสดได้ ตงัS แต่นันS มานักรบ ครูเสดทDถี กู ส่งมาอีกหลาย ๆ ครังS กไ็ ม่สามารถทDจี ะยดึ คืนกรุงเยรูซาเลมกลับมาได้อีกเลย
การปฏวิ ัตฝิ ร+ังเศส ขณะนัน& สมัชชาต้องการสถาปนาระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ และในห้วงสองปี ถดั มา ได้ผ่านกฎหมายหลาย ฉบบั รวมทงั& คาํ ประกาศว่าด้วยสทิ ธิมนุษยชนและสทิ ธิพลเมือง การเลิกระบบฟิ วดลั และการเปลRียนแปลงพนื& ฐานใน ความสัมพนั ธ์ระหว่างฝรRังเศสกับกรุงโรม ในตอนแรกพระมหากษัตริย์ทรงยนิ ยอมกับการเปลRียนแปลงเหล่านีแ& ละได้รับ ความนิยมอยู่พอสมควรจากประชาชน แต่เมRือการต่อต้านพระมหากษัตริย์เพRมิ ขนึ& ร่วมกับการบุกครองจากต่างชาตทิ Rี คุกคาม พระมหากษัตริย์ ผู้ทรงถกู ถอดพระราชอาํ นาจ ตดั สนิ พระทยั ลีภ& ยั ไปพร้อมกับพระบรมวงศานุวงศ์ แต่มีคนจาํ พระองค์ได้และทรงถกู นําพระองค์กลับมายังกรุงปารีส วันทRี XY มกราคม ค.ศ. X[\\] พระองค์ถกู ตดั สนิ ประหารชีวติ ด้วย ข้อหากบฏ วันทRี Y_ กันยายน ค.ศ. X[\\Y สภากงวองซยิ งแห่งชาตเิ ลกิ สถาบนั พระมหากษัตริย์และประกาศให้ฝรRังเศส เป็ นสาธารณรัฐ เนRืองจากภาวะสงครามฉุกเฉิน สภากงวองซยิ งแห่งชาตจิ งึ ตงั& คณะกรรมาธิการความปลอดภยั ส่วนรวม ควบคุมโดยมักซีมีเลียง รอแบส็ ปี แยร์แห่งสโมสรฌากอแบง็ ขนึ& ทาํ หน้าทRเี ป็ นฝ่ ายบริหารของประเทศ คณะกรรมาธิการฯ ภายใต้อทิ ธิพลของรอแบส็ ปี แยร์ริเรRิมสมัยแห่งความน่าสะพรึงกลัว ซRงึ ในช่วงนีม& ีประชาชนกว่า d_,___ คนถกู ประหารชีวติ ในกรุงปารีส ส่วนใหญ่เป็ นชนชัน& สูง และผู้ทRถี กู ศาลปฏวิ ัตพิ พิ ากษาลงโทษ โดยมักเป็ น หลักฐานทRไี ม่น่าเชRือถอื สาํ หรับทRอี Rืนในประเทศ การก่อการกบฏต่อต้านการปฏวิ ัตถิ กู ปราบปรามอย่างโหดร้าย ระบอบ ถกู โค่นในรัฐประหารเมRือวันทRี \\ แตร์มดิ อร์ (Y[ กรกฎาคม ค.ศ. X[\\d) และรอแบส็ ปี แยร์ถกู ประหารชีวติ ระบอบต่อมา ยุตคิ วามน่าสะพรึงกลัวและผ่อนคลายนโยบายสุดโต่งกว่าของรอแบส็ ปี แยร์
สงครามโลกครัง4 ท+ี 1 สงครามโลกครัง+ ท.หี น.ึง ยังเป็ นท.รี ู้จกั กันคือ \"สงครามโลกครัง+ แรก\" หรือ \"มหาสงคราม\" เป็ นสงครามท.วั โลกท.กี นิ เวลาจากวันท.ี @A กรกฎาคม ค.ศ. EFEG ถงึ EE พฤศจกิ ายน ค.ศ. EFEA โดยถกู อธิบายอย่างใคร่ครวญว่าเป็ น \"สงครามเพ.อื ยุตสิ งครามทงั+ หมด\" มันนําไปสู่การระดมพลบุคลากรทาง ทหารมากกว่า VW ล้านนาย รวมทงั+ ชาวยุโรป YW ล้านคน ทาํ ให้เป็ นหน.ึงในสงครามขนาดใหญ่ท.สี ุดในประวัตศิ าสตร์นอกจากนีย+ ังเป็ นหน.ึงในความ ขัดแย้งท.อี ันตรายร้ายแรงท.สี ุดในประวัตศิ าสตร์ โดยมีผู้เสียชีวติ ประมาณเก้าล้านคนและพลเรือนเสียชีวติ E^ ล้านคนอันเป็ นผลโดยตรงจาก สงคราม ในขณะท.ไี ด้เกดิ การฆ่าล้างเผ่าพนั ธ์ุและการระบาดครัง+ ใหญ่ของไข้หวัดใหญ่สเปนในปี ค.ศ. EFEA ทาํ ให้มีผู้เสียชีวติ อีก EV - EWW ล้านคนท.วั โลกเม.ือวันท.ี @A มถิ ุนายน ค.ศ. EFEG กัฟรีโล ปรินซีป ชาวเซริ ์บบอร์สเนีย นักชาตนิ ิยมยูโกสลาฟ ได้ลอบปลงพระชนม์ อาร์ชดยุก ฟรันซ์ แฟร์ ดนี ันท์ รัชทายาทแห่งออสเตรีย-ฮังการี ในเมืองซาราเยโว ได้นําไปสู่วกิ ฤตการณ์เดอื นกรกฎาคมในการตอบสนอง ออสเตรีย-ฮังการีได้ย.ืนคาํ ขาดต่อ เซอร์เบยี เม.ือวันท.ี @^ กรกฎาคม คาํ ตอบของเซอร์เบยี ได้ล้มเหลวในการสร้างความพงึ พอใจให้กับชาวออสเตรีย และทงั+ สองฝ่ ายต่างได้เข้าสู่ สงคราม และได้เช.ือมโยงให้ประเทศอ.ืนๆเข้าสงคราม
สงครามโลกครัง+ ท.สี อง หรือ เป็ นสงครามท.วั โลกกนิ เวลาตงั+ แต่ปี <=>= ถงึ <=AB ประเทศส่วนใหญ่ในโลกมีส่วน เก.ียวข้อง รวมทงั+ รัฐมหาอาํ นาจทงั+ หมด แบ่งเป็ นพนั ธมติ รทางทหารคู่สงครามสองฝ่ าย คือ ฝ่ ายสัมพนั ธมติ ร และฝ่ ายอักษะ เป็ นสงครามท.กี ว้างขวางท.สี ุดในประวัตศิ าสตร์ มีทหารกว่า <VV ล้านนายจากกว่า >V ประเทศ เข้าร่วมโดยตรง สงครามนีม+ ีลักษณะเป็ น \"สงครามเบด็ เสร็จ\" คือ ประเทศผู้ร่วมสงครามหลักท่มุ ขีด ความสามารถทางเศรษฐกจิ อุตสาหกรรมและวทิ ยาศาสตร์ทงั+ หมดเพ.อื ความพยายามของสงคราม โดยลบเส้น แบ่งระหว่างทรัพยากรของพลเรือนและทหาร ประเมนิ กันว่าสงครามมีมูลค่าราว < ล้านล้านดอลลาร์ สหรัฐ ประเมนิ กันว่ามีผู้เสียชีวติ ระหว่าง BV ถงึ [B ล้านคน ด้วยประการทงั+ ปวง สงครามโลกครัง+ ท.สี องจงึ นับว่า เป็ นสงครามขนาดใหญ่ท.สี ุด ใช้เงนิ ทนุ มากท.สี ุด และมีผู้เสียชีวติ สูงสุดในประวัตศิ าสตร์มนุษยชาติ ผลรับจากสงครามครัง- นี -โดยฝ5ังสมั พนั ธมิตรเป็นฝ่ายชนะ
สงครามเยน็
สงครามเยน็ ระยะแรกของสงครามเยน็ เร1ิมในสองปีให้หลงั สงครามโลกครัง: ท1ีสองยตุ ใิ น ค.ศ. ABCD สหภาพโซเวียตรวบการควบคมุ เหนือรัฐในกลมุ่ ตะวนั ออก โดยสหภาพโซเวียตได้นํา กองทพั เข้ารัฐประหารประเทศตา่ ง ๆ กลมุ่ ตะวนั ออกและพยายามเข้าแทรกแซงทางการเมืองในกรีซและตรุกี ขณะที1สหรัฐอเมริกาเร1ิมได้เร1ิมลทั ธิทรูแมนคือการจํากดั การ ขยายตวั ของลทั ธิที1ไมพ่ งึ ปรารถนาทว1ั โลกเพ1ือท้าทายโซเวียต โดยแผนมาร์แชลล์ขยายความชว่ ยเหลอื ทางทหารและการเงินแก่ประเทศยโุ รปตะวนั ตก (ตวั อยา่ งเชน่ การ สนบั สนนุ ฝ่ายตอ่ ต้านคอมมิวนิสต์ในสงครามกลางเมืองกรีซ) การตงั: พนั ธมิตรเนโท จากนนั: สหภาพโซเวียตได้ปิดล้อมเบอร์ลนิ ไมใ่ ห้กลมุ่ ตะวนั ตกเข้าชว่ ยเหลอื ชาวเบอร์ลนิ ตะวนั ตก โดยหวงั วา่ จะให้ชาวเบอร์ลนิ ตะวนั ตกจะมาร่วมกบั เบอร์ลนิ ตะวนั ออก แตก่ ลมุ่ ตะวนั ตกได้สง่ ของทางอากาศชว่ ยเหลอื ชาวเบอร์ลนิ ตะวนั ตก โซเวียตเหน็ วา่ ไมไ่ ด้ผลจงึ ยกเลกิ การปิดกนั: ให้กลมุ่ ตะวนั ตกเข้ามา
เศรษฐกิจในทวปี ยโุ รป (ยคุ กลาง)
เร$ิมต(งั แต่การล่มสลายของจกั รวรรดิโรมนั ตะวนั ตกใน ค.ศ.>?@ จนถึงประมาณ ค.ศ.EFFF เป็นสมยั ของการ ก่อรูปของอารยธรรมและสงั คมของยโุ รปใหม่ ซ$ึงเป็นสมยั ท$ีมีความตกต$าํ ทางการเมือง เศรษฐกิจ สงั คม และ วฒั นธรรม ซ$ึงนกั ประวตั ิศาสตร์เรียกช่วงเวลาน(ีวา่ ยคุ มืด เม$ือชนเผ่าเยอรมันเข้ามาตงั1 ถ$นิ ฐานภายในดนิ แดนต่างๆแล้ว ได้เปล$ียนวถิ ชี ีวติ มาเป็ นเกษตรกรรม ใช้ระบบนาโล่ง พชื ท$ปี ลูกส่วนใหญ่ คือข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต และข้าวบาร์เลย์ ส่วนระบบชลประทาน ขนาดใหญ่ถกู ละเลยตงั1 แต่ช่วงเวลาสนิ1 สุดสมัยโรมัน ในสมัยจกั รพรรดชิ าร์เลอมาญได้พยายามทาํ นุ บาํ รุงโครงสร้างพนื1 ฐานทางเศรษฐกจิ ได้แก่ สร้างสะพาน ขุดคลอง จดั ระบบการพาณิชย์ กาํ หนด มาตราช$ัง ตวง วัด ผลติ เงนิ ตรา ในช่วงคริสต์ศตวรรษท$Uี นีไ1 ด้เกดิ ระบบฟิ วดลั ขนึ1 ระบบนีค1 รอบคลุมทงั1 ด้านเศรษฐกจิ สังคม และ ระบบการเมืองการปกครองของยุโรปสมัยกลางในเวลาต่อมา มาจากคาํ ว่า Fiefs หมายถงึ ท$ดี นิ ท$ี เป็ นพนั ธสัญญาระหว่างเจ้านาย ซ$งึ เป็ นเจ้าของท$ดี นิ กับผู้ใช้ประโยชน์ในท$ดี นิ ท$เี รียกว่า ข้า พวก เจ้าของท$ดี นิ จะเป็ นพวกขุนนาง เรียกว่า ลอร์ด ส่วนผู้ท$อี ยู่ใต้อาํ นาจของขุนนางเรียกว่า วัสซัล
ระยะกลางเริ*มต.งั แต่ ค.ศ.5666-5896 ช่วงเวลาน.ีเป็นระยะเวลาแห่งการเปลี*ยนแปลง เนื*องจากสงั คมตะวนั ตกมีประชากรเพิ*มข.ึน คริสตศ์ าสนาและระบบ ฟิ วดลั มีความเจริญรุ่งเรืองสูงสุด และเริ*มมีพฒั นาการในหลายดา้ น ท.งั ดา้ นเศรษฐกิจและสงั คม รวมท.งั ภูมิปัญญา ในระยะแรกการค้าซบเซา เน.ืองจากในระบบฟิ วดลั แต่ละแมเนอร์มีระบบเศรษฐกจิ ท.พี .งึ ตนเองได้ แต่เม.ือเกดิ สงครามครูเสดซ.งึ เป็ นสงคราม ระหว่างคริสต์ศาสนากับศาสนาอสิ ลามในช่วงคริสต์ศตวรรษท.<ี <-<`ผู้คนออกไปสู่โลกภายนอกทาํ ให้เกดิ ความต้องการสนิ ค้า ระบบเศรษฐกจิ เร.ิมมีการขยายตวั อีกครัง+ โดยเฉพาะการค้าและอุตสาหกรรมในหวั เมืองสาํ คัญในอติ าลี เช่น เวนิส เจนัว และเขตเมืองในเนเธอร์แลนด์ พ่อค้าเร.ิมมีการตดิ ต่อการค้าระหว่างประเทศ การค้าทางบกมีความเจริญไม่น้อยไปกว่าการค้าทางทะเล มีการตงั+ ศูนย์การค้าในหวั เมือง ท้องถ.นิ โดยการร่วมลงทนุ ระหว่างพ่อค้ากับคนในท้องถ.นิ การค้าทางทะเลเร.ิมมีความเจริญรุ่งเรืองขนึ+ เร.ือยๆโดยเฉพาะในเขตทะเลเหนือ และทะเลเมดเิ ตอร์เรเนียน สนิ ค้าจากต่างแดนได้แพร่สะพดั เข้ามาในยุโรป ผลจากการขยายตวั ของการค้าทาํ ให้เกดิ ชุมชนการค้าและอุตสาหกรรม ส่งผลให้ชาวชนบทละทงิ+ ท.นี าเข้ามาประกอบอาชีพค้าขายหรือ ประกอบอาชีพผลติ สนิ ค้าหตั ถกรรมในเขตเมือง ทาํ ให้สังคมเมืองมีการขยายตวั เร.ิมเกดิ ระบบเงนิ ตราขนึ+ มาใหม่อีกครัง+ เพ.อื ใช้ในการซือ+ ขายสนิ ค้า และเกดิ สมาคมอาชีพ ซ.งึ แบ่งเป็ นสมาคมพ่อค้าและสมาคมการช่าง ซ.งึ เม.ือพวกนีม+ ีฐานะทางการเงนิ ม.ันคงขนึ+ กไ็ ด้มีส่วนสนับสนุน ระบอบสมบรู ณาญาสทิ ธิราชย์ เพ.อื ให้คุ้มครองกจิ การทางเศรษฐกจิ ของตน เอง
ระยะปลาย สมยั น'ีมีช่วงระยะเวลาระหวา่ งค.ศ.5678-5788 ช่วงเวลาน'ีเป็นช่วงระยะเวลาของการเปล@ียนแปลงไปสู่ความเป็นสมยั ใหม่ ท'งั ดา้ นการเมือง เศรษฐกิจ และสงั คม ศาสนาถูกลดบทบาทลง ความคิดแบบมนุษยนิยมเริ@มเขา้ มามีบทบาทในทศั นคติและความคิดของคนในสงั คม ในช่วงเวลาน'ีเป็นช่วงเวลาท@ีมีความเปล@ียนแปลงทางการเมืองในดินแดนต่างๆของยโุ รปตะวนั ตก ปรากฏการณ์ทางการเมืองท@ีสาํ คญั ไดแ้ ก่ ความเส@ือมของจกั รวรรดิโรมนั อนั ศกั ดXิสิทธXิ และการ เกิดรัฐชาติข'ึนในฝร@ังเศส องั กฤษ และสเปน สงครามร้อยปี ระหว่างอังกฤษกับฝร6ังเศสในช่วงคริสต์ศตวรรษท6@ี A-@Cจงึ ย6งิ ทาํ ให้ขุนนางเส6ือมอาํ นาจอย่างรวดเร็ว เปิ ดโอกาสให้กษัตริย์สามารถรวบรวมอาํ นาจและก่อตงัQ รัฐขนึQ มาได้ใน เวลาต่อมา เกดิ เป็ นรัฐชาตภิ ายใต้การนําของกษัตริย์ เศรษฐกจิ ในช่วงนีสQ ามารถแบ่งได้เป็ นUช่วงเวลาได้แก่ @.ช่วงคริสต์ศตวรรษท6@ี A เป็ นช่วงเวลาของความเส6ือมโทรมทางเศรษฐกจิ ของยุโรปทงัQ ด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และการค้า โดยมีสาเหตุมาจากสภาวะสงครามและเกดิ กาฬโรคระบาดครังQ ใหญ่ในทวีป ยุโรป ซ6งึ ส่งผลกระทบ ทาํ ให้ขาดแคลนอย่างรุนแรง เพราะประชาชนล้มตายเป็ นจาํ นวนมาก U.ช่วงคริสต์ศตวรรษท6@ี C ระบบเศรษฐกจิ ได้กลับมาเจริญรุ่งเรืองอีกครังQ หน6ึง กจิ การอุตสาหกรรมได้รับการพฒั นา ซ6งึ โดยส่วนใหญ่เป็ นกจิ การด้านช่างฝี มือ การทอผ้า และการทาํ เหมืองแร่ ความเจริญก้าวหน้า ทางด้านเศรษฐกจิ ในเขตเมืองทาํ ให้ระบบเศรษฐกจิ แบบฟิ วดลั ต้องเส6ือมลง ช่วงคริสต์ศตวรรษท6@ี C เกดิ กลุ่มนายทนุ ซ6งึ ลงทนุ ในกจิ การด้านต่างๆ ในช่วงปลายศตวรรษท6@ี C ความเจริญก้าวหน้าทางด้านการเดนิ เรือทาํ ให้ชาวยุโรปค้นพบดนิ แดนแห่งใหม่ๆซ6งึ เหมาะแก่การตงัQ ถ6นิ ฐานและเป็ นแหล่งวัตถุดบิ ทาํ ให้ชาวยุโรปอพยพไป ยังดนิ แดนแห่งใหม่พร้อมกับยดึ ครองดนิ แดนแห่งนีเQ ป็ นสถานีการค้า การขยายตวั ทางการค้าและการยดึ ครองดนิ แดนทาํ ให้ชนชันQ นายทนุ ร6ํารวยขนึQ แต่ชนชันQ ขุนนางและชนชันQ แรงงานต้องยากจนลง พวกนายทนุ ได้ให้การสนับสนุนสถาบนั กษัตริย์เพ6อื ปกป้องคุ้มครองกจิ การทางเศรษฐกจิ ของตน ขณะท6พี วกขุนนางต้องยอมอ่อน น้อมต่อกษัตริย์และชนชันQ นายทนุ ขุนนางท6ตี ้องการขายท6ดี นิ ให้แก่ชนชันQ อ6ืนๆ จงึ เร6ิมมีการลงทนุ ในท6ดี นิ ทางด้านเกษตรกรรมเพ6อื หวังผลกาํ ไร ทาํ ให้เศรษฐกจิ แบบฟิ วดลั ต้องยุตลิ งใน คริสต์ศตรวรรษท6@ี `
เศรษฐกิจในทวปี ยโุ รป (ยคุ กลาง)
เศรษฐกิจในทวปี ยโุ รป (ในปัจจุบนั )
ระบบสังคมนิยม • สังคมนิยม เป็ นระบบสังคมและเศรษฐกจิ ซ$งึ มีลักษณะคือ สังคมเป็ นเจ้าของปัจจยั การผลติ และการ จดั การเศรษฐกจิ แบบร่วมมือตลอดจนทฤษฎีและขบวนการทางการเมืองซ$งึ มุ่งสถาปนาระบบ ดงั กล่าว \"สังคมเป็ นเจ้าของ\" อาจหมายถงึ การประกอบการสหกรณ์ การเป็ นเจ้าของร่วม รัฐเป็ นเจ้าของ พลเมืองเป็ นเจ้าของความเสมอภาค พลเมืองเป็ นเจ้าของกรรมสทิ ธ]ิ หรือท$กี ล่าวมารวมกันมีความผัน แปรของสังคมนิยมจาํ นวนมากและไม่มีนิยามใดครอบคลุมทงั1 หมดความผันแปรเหล่านีแ1 ตกต่างกันใน ประเภทของการเป็ นเจ้าของโดยสังคมท$สี ่งเสริม ระดบั ท$พี $งึ พาตลาดหรือการวางแผน วธิ ีการจดั ระเบยี บ การจดั การภายในสถาบนั การผลติ และบทบาทของรัฐในการสร้างสังคมนิยม
ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม ทนุ นิยม เป็ นระบบเศรษฐกจิ ซ$งึ เจ้าของเอกชนเป็ นผู้ควบคุมการค้า อุตสาหกรรมและวถิ กี ารผลติ โดยมี เป้าหมายเพ$อื ทาํ กาํ ไรในเศรษฐกจิ แบบตลาด คุณลักษณะสาํ คัญของทนุ นิยม ได้แก่ การสะสมทนุ ตลาด แข่งขันและค่าจ้างแรงงาน ในเศรษฐกจิ แบบทุนนิยม โดยท$วั ไปภาคีในปฏสิ ัมพนั ธ์กาํ หนดราคาท$มี ีการ แลกเปล$ียนสนิ ทรัพย์ สนิ ค้าและบริการ
การพฒั นาการปกครองยโุ รป (สมยั ก่อน)
เริ$มต(งั แต่การล่มสลายของจกั รวรรดโิ รมนั ตะวนั ตกใน ค.ศ.>?@ จนถงึ ประมาณ ค.ศ.EFFF เป็ นสมยั ของการก่อรูปของอารยธรรมและสังคมของยุโรป ใหม่ ซึ$งเป็ นสมยั ทมี$ คี วามตกตาํ$ ทางการเมือง เศรษฐกจิ สังคม และวฒั นธรรม ซ$ึงนักประวตั ศิ าสตร์เรียกช่วงเวลานีว( ่า ยุคมืด (Dark Ages) • หลงั จากคริสต์ศตวรรษที1 ^ เป็นต้นมา อาณาจกั รของชนเผา่ ตา่ งๆเหลา่ นีก: ็ได้ลม่ สลายลง เหลอื เพียงชนเผา่ แองโกลแซกซนั ในประเทศองั กฤษและชนเผา่ แฟรงก์ในประเทศฝร1ังเศสเทา่ นนั: ท1ียงั คงสามารถรักษาอาณาจกั รไว้ได้ ในชว่ งเวลานีก: ารเมืองในยโุ รปตะวนั ตกมีความปั1นป่วนและเกิดสงครามระหวา่ งชนเผา่ ขนึ : ตลอดเวลา เพราะแตล่ ะชนเผา่ ตา่ งพยายามขยายอาณาเขตของ ตนเองออกไป จนในชว่ งปลายคริสต์ศตวรรษที1^ พวกแฟรงก์ในดนิ แดนฝรั1งเศสพยายามผนวกดนิ แดนตา่ งๆเข้าเป็นสว่ นหนง1ึ ของอาณาจกั รของตน และมีอาณาเขตกว้างขวางที1สดุ ในสมยั ของจกั รพรรดชิ าร์เลอมาญ สามารถรวบรวมยโุ รปตะวนั ตก ยโุ รปกลาง และดนิ แดนของอิตาลเี ข้าเป็นจกั รวรรดเิ ดียวกนั ได้สาํ เร็จเป็นครัง: แรก และได้รับการสวมมงกฎุ จากสนั ตะปาปาแหง่ กรุงโรมให้เป็นจกั รพรรดแิ หง่ จกั รวรรดโิ รมนั ตะวนั ตกเมื1อ ค.ศ.cdd ในยคุ สมยั ของจกั รพรรดชิ าร์เลอมาญ พระองค์ทรงพยายามฟื น: ฟรู ะบอบการปกครองแบบรวมศนู ย์อํานาจโดยรับแนวความคดิ จากคริสต์ศาสนา การปกครอง สว่ นกลางรวมศนู ย์อํานาจท1ีองค์จกั รพรรดแิ ละราชสาํ นกั สว่ นการปกครองสว่ นภมู ิภาคแบง่ เป็นมณฑล โดยพระองค์ได้สง่ ขนุ นางไปปกครอง มีอํานาจสทิ ธfิขาดใน แตล่ ะมณฑล
ระยะกลาง ระยะกลางเร*ิมต.งั แต่ ค.ศ.5666-5896 ช่วงเวลาน.ีเป็นระยะเวลาแห่งการเปลี*ยนแปลง เน*ืองจากสงั คมตะวนั ตกมีประชากรเพิ*มข.ึน คริสต์ ศาสนาและระบบฟิ วดลั มีความเจริญรุ่งเรืองสูงสุด และเริ*มมีพฒั นาการในหลายดา้ น ท.งั ดา้ นเศรษฐกิจและสงั คม รวมท.งั ภูมิปัญญา จกั รวรรดิแฟรงก์ลม่ สลายในชว่ งคริสต์ศตวรรษท;ี< ดนิ แดนของจกั รวรรดไิ ด้แบง่ แยกออกเป็นฝร;ังเศส เยอรมนั และอิตาลี ดนิ แดนเยอรมนั มีจกั รพรรดปิ กครองแตท่ วา่ ไมม่ ีอํานาจมากนกั จนในสมยั ของพระเจ้าออทโทที;K ได้ทรงปกครองเยอรมนั และอิตาลี สนั ตะปาปาจอห์นท;ีKM จงึ ทรงสถาปนาพระเจ้าออทโทท;ีK ขนึ P เป็น จกั รพรรดแิ หง่ จกั รวรรดโิ รมนั อนั ศกั ดสิQ ทิ ธQิ (Holy Roman Empire) ในค.ศ.<UM ทงัP จกั รพรรดแิ ละสนั ตะปาปาตา่ งอ้างอํานาจในการปกครองร่วมกนั ในจกั รวรรดิ ในชว่ งเวลานีศP าสนจกั รยงั ไมม่ ีอํานาจเตม็ ท;ี จนกระทงั; ศาสนจกั รได้มีการปฏิรูปอํานาจของศาสนจกั ร ให้มีอํานาจสงู สดุ ในที;สดุ สนั ตะปาปาก็ทรงประกาศวา่ ศาสนจกั รมีอํานาจเหนือจกั รพรรดิ ทําให้เกิดความขดั แย้งระหวา่ งสนั ตะปาปากบั จกั รพรรดขิ นึ P ประกอบกบั จกั รพรรดเิ ยอรมนั ทรงพยายามขยายอํานาจใน ดนิ แดนอิตาลซี งึ; สนั ตะปาปามีอิทธิพลอยู่ จกั รพรรดเิ ป็นฝ่ายพา่ ยแพ้อํานาจของศริสตจกั รท;ีกรุงโรม การตอ่ ส้ดู งั กลา่ วสง่ ผลให้ขนุ นางแตล่ ะแคว้นมีอํานาจมากขนึ P ทําให้ระบบฟิวดลั มีความแข็งแกร่งเพิ;มขนึ P สาํ หรับองั กฤษและฝรั;งเศส ศาสนจกั รไมค่ อ่ ยแทรกแซงการเมืองภายในมากนกั สถาบนั กษัตริย์พยายามเพิ;มอํานาจของตนเองในการปกครอง ทําให้อํานาจของขนุ นางลดลงไป ในองั กฤษเกิดความขดั แย้งระหวา่ งพระมหากษัตริย์กบั ขนุ นาง ในที;สดุ พระมหากษัตริย์ต้องยอมจํานนตอ่ คณะขนุ นาง และคณะขนุ นาง ได้กลายมาเป็นสมาชิกรัฐสภาขององั กฤษ สว่ นฝรั;งเศส กษัตริย์กลบั มีอํานาจเพ;ิมขนึ P เรื;อยๆ จนมีอํานาจในการปกครองเบด็ เสร็จ และกลายมาเป็นระบอบสมบรู ณาญาสทิ ธิราชย์ในที;สดุ M.ระบบฟิวดลั เจริญรุ่งเรืองสงู สดุ ในระหวา่ งคริสต์ศตวรรษท;ี<-Kc พวกอนารยชนจากสแกนดเิ นเวีย(ปัจจบุ นั คือ นอร์เวย์ สวีเดน และเดนมาร์ก)ท;ีเรียกวา่ พวกไวกิงP ได้เข้ารุกรานจกั รวรรดขิ องพวกแฟรงก์ ปรากฏวา่ จกั รวรรดขิ อง พวกแฟรงก์ไมม่ ีกําลงั เข้มแขง็ พอ การปอ้ งกนั ภยั จากพวกไวกิงP ตกเป็นหน้าท;ีของพวกขนุ นางท้องถิ;นหรือเจ้าของที;ดนิ จดั ตงัP เป็นกองทหารปอ้ งกนั การรุกราน ทําให้ขนุ นางท้องถ;ินสามารถสร้างอิทธิพลของตนเอง เกิดลกั ษณะการเมืองแบบหลายศนู ย์อํานาจขนึ P ขนุ นางเร;ิมมีอํานาจจนสามารถตอ่ รองอํานาจกบั กษัตริย์ ระบบฟิวดลั ได้มีการพฒั นาจนกลายเป็นระบบ การเมือง เศรษฐกิจ และสงั คมท;ีสาํ คญั ของยโุ รปในชว่ งคริสต์ศตวรรษที;KK-Kf แล้วเริ;มเสอื; มลงในชว่ งคริสต์ศตวรรษที;Kg และสลายตวั ลงในชว่ งคริสต์ศตวรรษที; KU
ระยะปลาย สมยั นีม' ชี ่วงระยะเวลาระหว่างค.ศ.5678-5788 ช่วงเวลานีเ' ป็ นช่วงระยะเวลาของการเปลย@ี นแปลงไปสู่ความเป็ นสมยั ใหม่ ท'งั ด้านการเมือง เศรษฐกจิ และสังคม ศาสนาถูกลด บทบาทลง ความคดิ แบบมนุษยนิยมเร@ิมเข้ามามบี ทบาทในทศั นคตแิ ละความคดิ ของคนในสังคมในช่วงเวลานีเ' ป็ นช่วงเวลาทมี@ คี วามเปลยี@ นแปลงทางการเมืองในดนิ แดนต่างๆของยุโรปตะวนั ตก ปรากฏการณ์ทางการเมืองทส@ี ําคญั ได้แก่ ความเสื@อมของจกั รวรรดโิ รมนั อนั ศักดXสิ ิทธXิHoly Roman Empire และการเกดิ รัฐชาตขิ นึ' ในฝรั@งเศส องั กฤษ และสเปน
• จกั รวรรดแิ ฟรงก์ล่มสลายในช่วงคริสต์ศตวรรษท^ี@ ดนิ แดนของจกั รวรรดไิ ด้แบ่งแยกออกเป็ นฝรั@งเศส เยอรมนั และอติ าลี ดนิ แดนเยอรมนั มจี กั รพรรดปิ กครองแต่ทว่าไม่มอี าํ นาจมากนัก จนในสมยั ของพระเจ้าออทโทท5ี@ ได้ทรงปกครองเยอรมนั และอติ าลี สันตะปาปาจอห์นท5ี@ ` จงึ ทรงสถาปนาพระเจ้า ออทโทท5@ี ขนึ' เป็ นจกั รพรรดแิ ห่งจกั รวรรดโิ รมนั อนั ศักดXสิ ิทธXิ (Holy Roman Empire) ในค.ศ.^b` ท'งั จกั รพรรดแิ ละสันตะปาปาต่างอ้างอาํ นาจในการปกครองร่วมกนั ในจกั รวรรดิ ในช่วงเวลานีศ' าสนจกั รยงั ไม่มอี าํ นาจเตม็ ที@ จนกระทงั@ ศาสนจกั รได้มกี ารปฏริ ูป อาํ นาจของศาสนจกั รให้มอี าํ นาจสูงสุด ในทส@ี ุดสันตะปาปากท็ รงประกาศว่าศาสนจกั รมอี าํ นาจเหนือจกั รพรรดิ ทาํ ให้เกดิ ความขดั แย้งระหว่างสันตะปาปากบั จกั รพรรดขิ นึ' ประกอบกบั จกั รพรรดเิ ยอรมนั ทรงพยายามขยาย อาํ นาจในดนิ แดนอติ าลซี @ึงสันตะปาปามอี ทิ ธิพลอยู่ จกั รพรรดเิ ป็ นฝ่ ายพ่ายแพ้อาํ นาจของศริสตจกั รทกี@ รุงโรม การต่อสู้ดงั กล่าวส่งผลให้ขุนนางแต่ละแคว้นมอี าํ นาจมากขนึ' ทาํ ให้ระบบฟิ วดลั มี ความแขง็ แกร่งเพม@ิ ขนึ' สําหรับองั กฤษและฝรั@งเศส ศาสนจกั รไม่ค่อยแทรกแซงการเมืองภายในมากนัก สถาบันกษตั ริย์พยายามเพมิ@ อาํ นาจของตนเองในการปกครอง ทาํ ให้อาํ นาจของขุนนางลดลงไป ในองั กฤษเกดิ ความขดั แย้งระหว่างพระมหากษตั ริย์กบั ขุนนาง ในทส@ี ุดพระมหากษตั ริย์ต้องยอมจาํ นนต่อคณะขุนนาง และคณะขุนนาง ได้กลายมาเป็ นสมาชิกรัฐสภาขององั กฤษ ส่วนฝรั@งเศส กษตั ริย์กลบั มอี าํ นาจเพม@ิ ขนึ' เรื@อยๆ จนมอี าํ นาจในการปกครองเบด็ เสร็จ และกลายมาเป็ นระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในทสี@ ุด `.ระบบฟิ วดลั เจริญรุ่งเรืองสูงสุด ในระหว่างคริสต์ศตวรรษท^@ี -58 พวกอนารยชนจากสแกนดเิ นเวยี (ปัจจุบนั คือ นอร์เวย์ สวเี ดน และเดนมาร์ก)ทเ@ี รียกว่าพวกไวกงิ' ได้เข้ารุกรานจกั รวรรดขิ องพวกแฟรงก์ ปรากฏว่า จกั รวรรดขิ องพวกแฟรงก์ไม่มกี าํ ลงั เข้มแขง็ พอ การป้องกนั ภยั จากพวกไวกงิ' ตกเป็ นหน้าทขี@ องพวกขุนนางท้องถนิ@ หรือเจ้าของทดี@ นิ จดั ต'งั เป็ นกองทหารป้องกนั การรุกราน ทาํ ให้ขุนนางท้องถนิ@ สามารถสร้างอทิ ธิพลของตนเอง เกดิ ลกั ษณะการเมืองแบบหลายศูนย์อาํ นาจขนึ' ขุนนางเริ@มมอี าํ นาจจนสามารถต่อรองอาํ นาจกบั กษตั ริย์ ระบบฟิ วดลั ได้มกี ารพฒั นาจน กลายเป็ นระบบการเมือง เศรษฐกจิ และสังคมทส@ี ําคญั ของยุโรปในช่วงคริสต์ศตวรรษท5@ี 5-56 แล้วเริ@มเสื@อมลงในช่วงคริสต์ศตวรรษท5ี@ h และสลายตวั ลงในช่วงคริสต์ศตวรรษท5@ี b
พฒั นาการทางด้านสังคม วฒั นธรรม ในทวปี ยโุ รป (ยคุ ปัจจุบนั )
สหภาพยุโรป สหภาพยุโรปมีประชากรคดิ เป็ น _.a% ของประชากรโลก ในปี cddU สหภาพยุโรปผลติ ผลิตภณั ฑ์มวลรวมภายใน fg.h__ ล้านล้าน ดอลลาร์สหรัฐ คดิ เป็ น cc.c% ของจดี พี รี าคาตลาดโลก และ fg.U% เม$ือวัดในแง่ความเท่าเทยี มกันของอาํ นาจซือ1 นอกจากนี1 ประเทศ สหภาพยุโรป cg จาก ci ประเทศมีดชั นีการพฒั นามนุษย์สูงมาก ตาม ข้อมูลของโครงการพฒั นาแห่งสหประชาชาติ ในปี cddd สหภาพ ยุโรป ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันตภิ าพ สหภาพยุโรปพฒั นาบทบาท ด้านความสัมพนั ธ์ภายนอกและการกลาโหมผ่านนโยบายต่างประเทศ และความม$ันคงร่วม สหภาพฯ คงคณะผู้แทนทางทตู ถาวรท$วั โลกและ มีผู้แทนในสหประชาชาติ องค์การการค้าโลก กลุ่ม _ และกลุ่ม 20 เน$ืองจากมีอทิ ธิพลท$วั โลก จงึ มีการอธิบายสหภาพยุโรปเป็ น อภมิ หาอาํ นาจปัจจุบนั หรืออภมิ หาอาํ นาจในอนาคต
Search
Read the Text Version
- 1 - 28
Pages: