HEALTHY AND HAPPINESS FEATURING WORKS OF Sakunkan Trakanwiradet M. 6/6 No. 1 HEALTHY GUIDEBOOK
HEALTHY GUIDE BOOK ชานมไข่มุก กินอย่างไรให้ ห่างไกลโรค ชานมไข่มุก ของหวานยอดนิยมที่ ชานมไข่มุก คืออะไร? เข้าถึงผู้คนได้ทุกเพศ ทุกวัย ชานมไข่มุก คือ เครื่องดื่มชนิดเย็น รสชาติหวาน มีส่วนประกอบด้วย น้ำ เพราะว่า มีรสชาติหวาน อร่อย ชา นม หรือชาผลไม้ ส่วนไข่มุกทำมาจาก เแป้งมันสัมปะหลัง ผสมโกโก้ ราคาถูก และหาซื้ อได้ง่าย ทั้งตาม และน้ำตาลทรายแดง ปั้ นเป็นเม็ดเล็กๆ มีจุดกำเนิดจาก ประเทศไต้หวัน ท้องตลาด และตามห้างสรรพ ในช่วงทศวรรษที่ 1980 สินค้า แต่ความหวาน และความ ในปัจจุบันมี การแก้ไขปรับปรุงสูตรให้เข้ากับยุคสมัย เช่น การแต่งกลิ่น อร่อย ของชาไข่มุกนั้น มาพร้อม ของรสชาติชานม ไม่ว่าจะเป็น ชานมกล้วย ชานมช็อกโกแลต หรือชานม กับโรคร้าย ที่สามารถเกิดขึ้นได้ ข้าวเหนียวมะม่วง การโรยท็อปปิ้ งหน้าต่างๆ เช่น นมข้นหวาน ผงโกโก้ กับทุกเพศ ทุกวัย ได้เช่นกัน ดัง วิปครีม และเยลลี่รสชาติต่างๆ ส่วนไข่มุกเอง ก็มีการเติมสีผสมอาหาร นั้ น เ ร า จึ ง มี วิ ธี กิ น ช า ไ ข่ มุ ก อ ย่ า ง ไ ร ลงไปให้ดูน่ารับประทานยิ่งขึ้น หรือเปลี่ยนเป็นวุ้นเยลลี่ฟลุ๊ตสลัด ใ ห้ ห่ า ง ไ ก ล จ า ก โ ร ค ร้ า ย จากที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น ชานมไข่มุก 1 แก้ว จะให้พลังงาน 240-360 กิโลแคลอรี หากรับประทานมากเกินไป อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดย เฉพาะในวัยเด็ก ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน และผู้ป่วยโรคเบาหวาน EVERYDAY GRAPHIC | 18
เลือกแก้วขนาดที่เล็กที่สุด รับประทานชานมไข่มุกแค่ พอประมาณ เพราะ ชา ไข่มุกเป็นเครื่ องดื่ มแคลอรี 1สูง ไม่ใช่เป็นอาหารหลัก 2 ลดระดับความหวาน ให้ต่ำที่สุด ชานม ไข่มุกรสชาติหวาน ปกติมักจะมีปริมาณ น้ำตาลเยอะอยู่แล้ว ทำให้การบริโภค น้ำตาลในแต่ล่ะวัน เกินกว่า 6 ช้อนชาได้ ดังนั้นควรลดระดับ น้ำตาลที่ละขั้น จนถึง 3 ขั้นไม่หวานเลย จะยิ่ง ดี ลดอาหาร ในวันที่รับ ประทานชานมไข่มุก ควรลด ปริมาณอาหารประเภทแป้ง น้ำตาล ในวันที่รับประทาน ชานมไข่มุก เพื่อไม่ให้ได้รับ ปริมาณน้ำตาล และไขมัน เลว (LDL) จนมากเกินไป HEALTHY GUIDE BOOK
HEALTHY GUIDE BOOK ชโราคนทมี่เไกขิ่ดมุจกาก ความอร่อยของชาไข่มุก ที่มาพร้อมกับโรคร้าย โดยเฉพาะในวัยเด็ก เพราะนอกจากโรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคหัวใจ และหลอดเลือดแล้ว เด็กที่บริโภคชานมไข่มุก อาจจะเกิดอุบัติเหตุ เช่น ไข่มุกติด คอได้ อีกทั้งน้ำตาลสามารถทำให้ฟันผุได้อีกเช่นกัน ดังนั้นการบริโภคชานมไข่มุกสามารถรับประทาน ได้ให้ถูกวิธี และไม่บ่อยครั้ง โรคเบาหวาน : องค์การอนามัยโลกได้ โรคอ้วน : การบริโภคชานมไข่มุกอย่างต่อ กำหนดการบริโภคน้ำตาลในแต่ละวัน ไม่ควร เนื่อง เป็นพฤติกรรมหนึ่งที่จะก่อให้เกิดโรค เกิน 6 ช้อนชา ชานมไข่มุกมีส่วนผสมหลัก อ้วน คือการมีสภาวะน้ำหนักเกิน การอ้วน คือ น้ำตาล และแป้ง ในหนึ่งแก้วจะมีน้ำตาล ลงพุง แขน และขามีขนาดใหญ่ขึ้น ทั้งนี้โรค และคาร์โบไฮเดตจากไข่มุก ที่เปลี่ยนเป็น อ้วนอาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนได้ เช่น โรค น้ำตาลอีก ทำให้การบริโภคชานมไข่มุกวันล่ะ เบาหวาน โรคหัวใจหลอดเลือด และโรคไขข้อ หนึ่งแก้ว มีสิทธิที่จะได้รับน้ำตาลเกิน 6 ช้อน เสื่อม เป็นต้น ชา และถ้าบริโภคเป็นประจำ จะทำให้ผู้บริโภค นั้นมีสภาวะน้ำหนักเกิน และเป็นโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือด และหัวใจ : ในส่วนประกอบ ได้ ของชานมไข่มุก เต็มไปด้วยน้ำตาล และไข มันชนิดเลว (LDL) ซึ่งจะเพิ่มไตรกลีเซอร์ไรด์ ถ้ารับประทานมากกเกินไป ทำให้ร่างกาย กำจัดไตรกลีเซอร์ไรต์ได้ไม่หมด ส่งผลให้ เป็นโรคหลอดเลือด และหัวใจได้ HEALTHY GUIDE BOOK
HOW TO WORK FROM HOME ให้ปลอดภัยจาก OFFICE SYNDROME W o r k F r o m H o m e เ ป็ น ก า ร ป้ อ ง กั น ต น เ อ ง แ ล ะ ผู้ อื่ น ใ น ส ถ า น ก า ร ณ์ ก า ร ร ะ บ า ด ข อ ง เ ชื้ อ ไ ว รั ส C o v i d - 1 9 แ ต่ ห า ก ทำ อ ย่ า ง ผิ ด วิ ธี อ า จ เ สี่ ย ง O f f i c e S y n d r o m e โ ด ย ไ ม่ รู้ ตั ว เ นื่ อ ง จ า ก ก า ร ทำ ง า น ที่ บ้ า น จ ะ ทำ ใ ห้ เ ร า เ ค ลื่ อ น ไ ห ว ร่ า ง ก า ย ไ ด้ น้ อ ย ล ง แ ล ะ จำ เ ป็ น ต้ อ ง ป ร ะ ชุ ม ผ่ า น ห น้ า จ อ อ ย่ า ง ห ลี ก เ ลี่ ย ง ไ ม่ ไ ด้ จ ะ ยิ่ ง เ พิ่ ม ค ว า ม เ สี่ ย ง ต่ อ O f f i c e S y n d r o m e ม า ก ยิ่ ง ขึ้ น Work From Home เสี่ยง Office Syndrome ได้อย่างไร การทำงานที่ออฟฟิศสามารถเกิด Office Syndrome ได้ จากการนั่งทำงานเป็นเวลานานโดยไม่ได้ขยับตัว หรือเกิด จากความเครียด การพักผ่อนน้อยส่งผลให้เกิดการปวด เมื่อยของกล้ามเนื้อตามจุดต่าง ๆ ของร่างกาย แต่ความ เสี่ยงเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้มากขึ้นหากเราทำงานจาก บ้านหรือที่เราเรียกกันว่า “Work From Home” เนื่องจากอาจต้องนั่งประชุมหรือทำงานผ่านหน้าจอตลอด ทั้งวัน ทำให้มีโอกาสขยับร่างกายได้น้อยลงกว่าการทำงาน ในออฟฟิศ อีกทั้งความลำบากในการติดต่องานอาจทำให้ เกิดความเครียดได้ สาเหตุเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ เกิด Office Syndrome HEALTHY GUIDE BOOK
อาการของ Office Syndrome Work From Home แล้วมีอาการ Office Syndrome เมื่อต้อง Work From Home Office Syndrome ควรทำอย่างไร คืออะไร Sภyาวnะdอrอoฟmฟeิศ) เซปิน็นโดกลรุ่มมอ(Oากffาiรcปeวด ปวดกล้ามเนื้อหลายจุดที่พบ เปลี่ยนท่านั่งขยับร่างกายทุก ๆ 1-2 บริเวณเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อ หรือ Myofascial pain syndrome ที่มี ได้บ่อยคือบริเวณ ไหล่ คอ บ่า ชั่วโมงและพักสายตาจากจอ สาเหตุหลักมาจากการนั่งทำงานที่ ไม่ถูกต้องเป็นเวลานานมักพบใน เข่า และหลัง คอมพิวเตอร์ พนักงานออฟฟิศที่ต้องนั่งทำงาน ผ่านจอคอมพิวเตอร์ตลอดทั้งวัน มีอาการชาที่แขนและมือจาก นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอไม่ต่ำ ด้วยท่าทางที่ไม่ถูกต้อง เช่น นั่งหลัง การกดทับเส้นประสาทเป็น กว่า 7 ชั่วโมงต่อวัน ค่อม ห่อไหล่ รวมไปถึงสภาวะ ความเครียดจากตัวงานหรือทำงาน เวลานาน จัดเตรียมอุปกรณ์ในการทำงานให้ จจนะพไมบ่มใีนเวผูล้ทีา่มพีัอกาผยุ่อรนะหโวด่ายงป1ก6ต-ิ4แ4ล้วปี ตาพร่ามัวจากการมองจอนาน อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมในระดับ และอาจหูอื้ อร่วมด้วยเป็นหนึ่ง สายตา และไม่อยู่ใกล้จอมากเกินไป ในอาการ Office Syndrome ปรับท่าทางการนั่งไม่ควรนั่งแล้วงอ เช่นกัน เข่าและข้อศอกมากเกินกว่า 90 องศา การประชุมงานในช่วง Work From Home ควรมีระยะเวลาที่ แน่นอนไม่มากจนเกินไป พยายามผ่อนคลายไม่เครียดกับ การทำงานตลอดทั้งวัน อาการของ Office Syndrome สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่แม้ไม่ใช่ที่บ้าน หากเราไม่ให้ความสำคัญกับพื้นที่การทำงาน และอิริยาบถของร่างกาย หากพบว่ามีอาการปวดเรื้อรังและรุนแรงมากขึ้นควรเข้าพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยต่อไป healthy Guide book
healthy Guide book อาการนอน ก า ร น อ น ก ร น เ ป็ น อ า ก า ร ที่ สำ คั ญ ข อ ง กรนแก้ได้ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งมีสาเหตุมา อย่างไร จ า ก อ วัย ว ะ ใ น ร ะ บ บ ห า ย ใ จ ส่ ว น ต้ น บ า ง ส่วนแคบลงสามารถตรวจความรุนแรง ได้ผ่านการทำ SLEEP TEST เพื่ อหา ระดับความเสี่ยงที่เป็นอันตราย หากพบ ว่ามีอาการไม่รุนแรงสามารถปรับ พฤติกรรมการนอนเพื่ อช่วยให้อาการดี ขึ้นได้ บ้าง นอนกรนเกิดจากอะไร ใครบ้างที่มีความเสี่ยงภาวะนอนกรน เกิดจากการหย่อนตัวของกล้ามเนื้อบริเวณคอหอย และผนังลำคอขณะหลับ ทำให้เกิดการอุดกั้นระบบ ภาวะนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย อาจกล่าว ทางเดินหายใจในบางจุดจนเกิดการสั่นสะเทือนของ ได้ว่าผู้ที่มีอาการนอนกรนอาจมีความเสี่ยงต่อภาวะ กล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อ เพดานอ่อน ผนังคอหอย โคน หยุดหายใจขณะหลับด้วย ได้แก่ ลิ้น รวมไปถึงลิ้นไก่ เมื่อระบบทางเดินหายใจแคบ ลงการหายใจผ่านบริเวณดังกล่าวจึงทำให้เกิด พบได้ในเพศชายมากกว่าเพศหญิง เสียงกลายเป็นการนอนกรนในที่สุด นอกจากนี้ยัง พบได้ในเพศหญิงส่วนมากในวัยหมดประจำเดือน สามารถรุนแรงต่อการหายใจทำให้ไม่สามารถ ผู้ที่มีรูปหน้าเบี้ยว คางผิดปกติ หรือจมูกคด หายใจได้ชั่วขณะหนึ่งหรือเรียกว่า “ภาวะหยุดหายใจ โครงสร้างของช่องจมูกแคบ ขณะหลับ” มีน้ำหนักเกินมาตรฐานมีผลทำให้ทางเดินหายใจ แคบจนเกิดอาการนอนกรนได้ ผู้ที่มีโรคทางหัวใจ โรคเบาหวาน โรคไต โรคภูมิแพ้ การทานยาที่ส่งผลต่อการหย่อนตัวของกล้ามเนื้อ นอนกรนอย่างไรควรเข้าพบแพทย์ ผู้ที่เป็นภาวะนี้จะมีอาการโดยรวมไม่ใช่เพียงแค่การ นอนกรนเท่านั้น ผู้ป่วยอาจมีอาการสะดุ้งตื่นกลาง ดึกเพื่อหาอากาศหายใจ และส่งผลให้มีอาการ อ่อนเพลีย เวียนศีรษะในตอนเช้า ง่วงระหว่างวัน และ บางรายอาจมีความต้องการทางเพศลดลง หากมี อาการดังกล่าวไม่ควรปล่อยไว้ควรเข้ารับการตรวจ โดยแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการนอนกรนต่อไป
Sassy Teen Magazine ภาวะหยุดหายใจขณะหลับอันตรายสูงสุด การแก้ไขปัญหาการนอนกรนเบื้องต้น จากการนอนกรน หากพบว่าอาการนอนกรนไม่ได้อยู่ในระดับที่ หากเป็นภาวะหยุดหายใจขณะหลับในระดับที่รุนแรง อันตรายสามารถแก้ไขอาการเบื้องต้นได้ ดังนี้ จะส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่เสี่ยงต่อการเสีย ชีวิตได้ผ่านทางปัญหาโรคหลอดเลือดหัวใจ หรือ ปรับเปลี่ยนท่านอนให้ศีรษะอยู่สูงกว่าลำตัว โรคหัวใจวาย เป็นต้น หรือถ้าหากผู้ป่วยเป็นโรค รักษาน้ำหนักให้ได้ตามมาตรฐาน หัวใจอยู่แล้วจะยิ่งเพิ่มโอกาสเสียชีวิตขณะหลับได้ งดการสูบบุหรี่ และการดื่มแอลกอฮอล์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การวินิจฉัยอาการนอนกรน ปรับการนอนให้ได้ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน หลีกเลี่ยงยาที่ทำให้ง่วงนอน แพทย์จะทำการซักถามประวัติอาการ ร่วมกับการ ตรวจวินิจฉัยอวัยวะอื่น ๆ ผ่านการเอกซเรย์ เช่น กะโหลก กระดูกใบหน้า เป็นต้น นอกจากนี้ยัง อาการนอนกรนอาจเป็นปัญหาสุขภาพเพียงเล็ก สามารถวินิจฉัยอาการนอนกรนได้จากการตรวจ น้อย แต่ความจริงแล้วกลับแฝงไปด้วยอันตราย การนอนหลับ (Polysomnography) หรือที่เรา ด้วยเหตุนี้จึงไม่ควรละเลยและควรเข้ารับการ รู้จักกันดีว่า Sleep Test หากพบว่าอาการดังกล่าว วินิจฉัยแต่เนิ่น ๆ ไม่ได้มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับระดับรุนแรงร่วม ด้วย ยังถือว่าไม่น่าเป็นห่วงมากนัก แต่ถ้าหากพบ ว่ามีความเสี่ยงในระดับที่อันตรายต้องหาแนวทาง ในการรักษาโดยเร็วที่สุด
healthy Guide boo ชอบดื่มชาดื่ม กาแฟหรือจริงๆ แล้วคุณติดคาเฟ อีน อยากดื่มอะไรหวาน ๆ อยากดื่มกาแฟทุกเช้า จะได้มีแรงทำงาน ถ้าหากความคิดเหล่านี้ตาม หลอกหลอนเราทุกวันนั่นอาจเป็นสัญญาณ ของ “การติดคาเฟอีน” ทำให้เราไม่สามารถ เลิกดื่มเครื่องดื่มเหล่านั้นได้ เช่น กาแฟ โกโก้ ชา เครื่องดื่มชูกำลัง น้ำอัดลม หรือแม้แต่ ช็อกโกแลต แต่ถ้าเมื่อไหร่เราต้องการเลิกดื่ม เครื่องดื่มเหล่านี้แบบหักดิบจะส่งผลกระทบ ตามมา เช่น อาการปวดหัว ไม่มีสมาธิ และ อ่อนเพลีย สารคาเฟอีนคืออะไรทำไมต้องมีในเครื่อง ดื่มบางประเภท สารคาเฟอีนเป็นส่วนหนึ่งของเมล็ดกาแฟ และยัง พบได้ในใบชา หรือเมล็ดโกโก้ วัตถุดิบเหล่านี้ยัง สามารถนำไปทำเป็นอาหารได้อีกหลายประเภทที่เรา คุ้นชินกันดี นอกจากจะเป็นส่วนผสมของเครื่องดื่มที่ มีรสหวานโดยทั่วไป เช่น กาแฟ น้ำอัดลม ชาต่าง ๆ นมช็อกโกแลต เครื่องดื่มชูกำลังบางยี่ห้อ นอกเหนือจากเครื่องดื่มแล้วขนมที่มีส่วนผสมของ โกโก้เองก็ยากที่เราจะหลีกเลี่ยงได้ เช่น เค้กโกโก้ เค้กช็อกโกแลต หรือแม้แต่นมก็ยังใช้ส่วนผสมที่ว่า ด้วยเช่นกัน ดังนั้นหากจะกล่าวว่าคาเฟอีนคือสิ่งที่เรา ต้องเจอเป็นปกติคงจะไม่ผิดนัก ถ้าหากเราเป็นคนที่จำเป็นต้องดื่มกาแฟ ให้ดื่ม เฉพาะในเวลาที่รู้สึกง่วงนอนเท่านั้น และใน 1 วัน ไม่ควรดื่มมากกว่า 2 แก้ว จึงจะนับว่าไม่เสี่ยงต่อ การติดคาเฟอีน
HEALTHY GUIDE BOOK ดื่ มกาแฟเท่าไหร่ถึง น อ ก จ า ก อ า ก า ร ที่ ก ล่ า ว ไ ป แ ล้ ว ยั ง มี อ า ก า ร อั น ต ร า ย ที่ กำ ลั ง เ ตื อ น ว่า ร่ า ง ก า ย ข อ ง เ ร า รั บ เ สี่ ย ง ติ ด ค า เ ฟ อี น ค า เ ฟ อี น เ กิ น ข น า ด ไ ด้ แ ก่ อ า ก า ร เ ห งื่ อ แ ต ก ใ จ สั่ น ป ว ด ท้ อ ง ค ลื่ น ไ ส้ น อ น ไ ม่ ห ลั บ ก ล้ า ม เ นื้ อ ไ ม่ ค ว ร ดื่ ม เ กิ น 4 0 0 มิ ล ลิ ก รั ม ต่ อ วัน ห รื อ ก ร ะ ตุ ก แ ล ะ ต ร ว จ พ บ ค ว า ม ดั น โ ล หิ ต สู ง อ า ก า ร ป ร ะ ม า ณ ไ ด้ เ ท่ า กั บ แ ก้ ว เ ล็ ก 8 อ อ น ซ์ 3 - 4 แ ก้ ว เ ห ล่ า นี้ คื อ “ ภ า ว ะ พิ ษ จ า ก ค า เ ฟ อี น ” ห า ก ล ด ก า ร น อ ก จ า ก นี้ ห า ก ดื่ ม ต่ อ เ นื่ อ ง ทุ ก วัน จ ะ ยิ่ ง เ พิ่ ม ดื่ ม ค า เ ฟ อี น แ ล้ ว อ า ก า ร ยั ง ไ ม่ ดี ขึ้ น ค ว ร เ ข้ า พ บ ค ว า ม เ สี่ ย ง ต่ อ ก า ร ติ ด ค า เ ฟ อี น ไ ด้ ทำ ใ ห้ มี ค ว า ม แ พ ท ย์ เ นื่ อ ง จ า ก เ สี่ ย ง ต่ อ ก า ร เ สี ย ชีวิต ไ ด้ ต้ อ ง ก า ร ดื่ ม ก า แ ฟ ห รื อ ท า น อ า ห า ร ที่ มี ค า เ ฟ อี น ทุ ก วัน โ ด ย ส า ม า ร ถ สั ง เ ก ต อ า ก า ร เ บื้ อ ง ต้ น ไ ด้ ทำ ไ ม ส า ร ค า เ ฟ อี น ทำ ใ ห้ เ ร า ไ ม่ ง่ ว ง น อ น ดั ง นี้ ก า ร ดื่ ม ก า แ ฟ ทำ ใ ห้ ไ ม่ ง่ ว ง เ ห ม า ะ กั บ ค น วัย เ ริ่ ม ดื่ ม ม า ก ขึ้ น เ รื่ อ ย ๆ เ พ ร า ะ รู้ สึ ก ว่า ก า ร ดื่ ม ทำ ง า น ที่ ไ ม่ อ ย า ก อ ยู่ ใ น อ า ก า ร ห ลั บ ใ ห ล โ ด ย เ ท่ า เ ดิ ม ไ ม่ ไ ด้ ช่ว ย อ ะ ไ ร อ า ก า ร นี้ เ รี ย ก ว่า ค า เ ฟ อี น เ ป็ น ส า ร ที่ ซึม เ ข้ า สู่ ร่ า ง ก า ย ไ ด้ อ ย่ า ง “ ภ า ว ะ ดื้ อ ค า เ ฟ อี น ” ร ว ด เ ร็ ว แ ล ะ จ ะ ไ ป ทำ ป ฏิ กิ ริ ย า กั บ ส า ร ค ว า ม ง่ ว ง ห า ก วัน ไ ห น ไ ม่ ดื่ ม จ ะ ส่ ง ผ ล ใ ห้ ป ว ด ศี ร ษ ะ ใ น ร่ า ง ก า ย ใ ห้ ทำ ง า น ไ ด้ น้ อ ย ล ง ( ส า ร อ ะ ดี โ น ซีน ) ค ลื่ น ไ ส้ อ่ อ น เ พ ลี ย แ ล ะ ต้ อ ง ก า ร ดื่ ม เ ค รื่ อ ง ส่ ง ผ ล ใ ห้ เ กิ ด ก า ร ตื่ น ตั ว โ ด ย ป ก ติ แ ล้ ว ก ร ะ บ ว น ดื่ ม ค า เ ฟ อี น เ รี ย ก ว่า “ ภ า ว ะ ถ อ น ค า เ ฟ อี น ” ก า ร เ ห ล่ า นี้ จ ะ ใ ช้เ ว ล า ป ร ะ ม า ณ 4 0 น า ที ห ลั ง ดื่ ม เ ค รื่ อ ง ดื่ ม ที่ มี ค า เ ฟ อี น
อ ย า ก เ ลิ ก ก า แ ฟ เ ลี่ ย ง ค า เ ฟ อี น ต้ อ ง ทำ อ ย่ า ง ไ ร วิธีที่ปลอดภัยที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงคือการค่อย ๆ ลดปริมาณการดื่ม กาแฟ หรือลดอาหารที่มีคาเฟอีนทีละน้อย อย่าใช้การหักดิบ จนสุดท้ายจะ สามารถเลิกกาแฟไปได้เอง นอกจากนี้ยังสามารถใช้วิธีอื่นร่วมด้วย เช่น ดื่มกาแฟชนิดไม่มีคาเฟอีนทดแทนระหว่างเลิกได้ ดื่มน้ำช่วยเพื่อขับสารพิษที่อยู่ในร่างกาย ออกกำลังกายเพื่อลดอาการอ่อนเพลียระหว่างการเลิกดื่มคาเฟอีน HEALTHY GUIDE BOOK
ไ ล ฟ์ส ไ ต ล์ กั บ โรคที่เกิดจากการทำงาน ค ว า ม เ สี่ ย ง ที่ ค า ด ไ ม่ ถึ ง วัยทำงาน คือวัยที่มีอายุระหว่าง 25-60 ปีเป็นวัยที่ กำลังสร้างตัวจึงละเลยการดูแลสุขภาพเพราะบางคน ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนเราย่อมแตกต่างกันไป อาจมีภาระหน้าที่หลายอย่างที่ต้องรับผิดชอบจึง พฤติกรรมเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ทุกวันที่เราทำจนชินนั้นอาจ หักโหมทำงานหนัก ใช้ชีวิตอย่างรีบเร่ง ไม่ดูแล นำพามาซึ่งปัญหาสุขภาพต่าง ๆ โดยเฉพาะในวัย ตนเอง เกิดความเครียดสั่งสมจากการทำงานจนส่ง ทำงานที่ต้องพบเจอกับสภาพแวดล้อมนอกบ้าน และ ผลต่อสุขภาพ และพฤติกรรมที่ละเลยสุขภาพเป็น ความเครียดจากการทำงานที่อาจส่งผลเสียต่อ เวลานานนี่เองจะยิ่งเพิ่มปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรค สุขภาพโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นเราจึงควรรู้ความเสี่ยงของ ต่าง ๆ มากขึ้น โดยโรคที่เกิดจากการทำงานมีดังนี้ การเกิดโรค หากพบว่าตนเองมีความเสี่ยงจะได้ปรับ เปลี่ยน หรือลด ละ เลิกพฤติกรรมนั้น ๆ ออฟฟิศซินโดรม (Office syndrome) เป็น โรคยอดฮิตในวัยทำงานและมักพบได้บ่อยในคน ทำงานออฟฟิศ เพราะเป็นการทำงานที่ต้องนั่ง หน้าจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ หรืออยู่ในท่าการ ทำงานที่ไม่เหมาะสมต่อเนื่องกันนาน ๆ โดยจะมี อาการปวดกล้ามเนื้อ เช่น บ่า ไหล่ คอ หรืออาจมี อาการชา และรู้สึกเหน็บร่วมด้วย ซึ่งอาการปวด ดังกล่าวอาจลุกลามจนกลายเป็นอาการปวด เรื้อรัง และอาจส่งผลให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมา เช่น โรคนิ้วล็อค โรคเอ็นข้อมืออักเสบ เป็นต้น HEALTHY GUIDE BOOK
โรคที่ เกิดจากการทำงาน ให้รางวัลหลังการทำงานด้ วยการช้อป โรคไมเกรน เพราะการทำงานออฟฟิศจะ ในวัยทำงานเมื่ อมีภาระมากขึ้ นจึงไม่ค่อย ต้ อ ง จ้ อ ง ห น้ า จ อ ค อ ม พิ ว เ ต อ ร์เ ป็ น เ ว ล า น า น มีhเวลาทำกิจกรรมอื่ น ๆ นอกเหนือจากการ หรือการเกิดความเครียด และวิตกกังวล ทำงาน ทางเลือกใหม่ที่คนวัยทำงานเลือกคือ จ า ก ก า ร ทำ ง า น จึ ง ทำ ใ ห้ เ กิ ด ค ว า ม เ สี่ ย ง การชอปปิงออนไลน์ และหากชอปปิงจนติดเป็น มากกว่าวัยอื่ น นิ สั ย อ า จ ส่ ง ผ ล ใ ห้ เ กิ ด ก า ร เ ส พ ติ ด ก า ร ช อ ป ปิ ง ไ ด้ โดยโรคนี้มีชื่ อว่า Shopaholic เป็นโรคทางจิต โรคกรดไหลย้อน การทานอาหารที่เร่งรีบ ที่ เ กิ ด จ า ก ก า ร ช อ ป ปิ ง เ กิ น ตั ว จ น ทำ ใ ห้ เ กิ ด ปั ญ ห า ไม่เป็นเวลา และไม่ได้ใส่ใจอาหารที่รับ ต่าง ๆ ตามมา คนในกลุ่มนี้จะมีพฤติกรรมชอบ ป ร ะ ท า น เ ข้ า ไ ป ว่ า มี ป ร ะ โ ย ช น์ ต่ อ ร่า ง ก า ย ห รือ ชอปปิง อ่อนไหวง่ายกับเรื่ องชอปปิง หมกมุ่น ไม่ รับประทานแต่อาหารประเภททอด มัน อยู่กับการชอปปิง โดยเฉพาะของลดราคา หรือ และรสจัด ย่อมทำให้เกิดโรคกรดไหลย้อนได้ ของที่กำลังจัดโปรโมชั่น ซึ่งการกระทำดังกล่าว ง่ า ย มั ก ส่ ง ผ ล ใ ห้ เ กิ ด ปั ญ ห า ห นี้ สิ น ไ ป จ น ถึ ง ปั ญ ห า ค ร อ บ ค รัว ไ ด้ กระเพาะปัสสาวะอั กเสบ การนั่งทำงาน เพลิน หรือติดพันกับการทำงานจนไม่อยาก ลุกออกไปไหน รวมถึงการเข้าห้องน้ำ การ กลั้นปัสสาวะนาน ๆ จะทำให้เป็นโรค กระเพาะปัสสาวะอั กเสบได้
นักกิน นักบริโภคอาหาร พ ฤ ติ ก ร ร ม ก า ร กิ น แ บ บ สุ ด โ ต่ ง ทั้ ง ก า ร บ ริโ ภ ค ม า ก เกินไป การทานรสจัด รวมไปถึงการกินอาหารที่ ไม่มีประโยชน์ พฤติกรรมเหล่านี้สามารถพบเห็น ได้ทั่วไป และด้วยอาหารการกินเป็นพื้ นฐานของ ทุกคน จึงอาจกล่าวได้ว่าเราอาจมีความเสี่ยงอยู่ ทุ ก วั น ห า ก เ ร า ยั ง ค ง บ ริโ ภ ค อ า ห า ร ต า ม ค ว า ม อ ย า ก ม า ก ก ว่ า คุ ณ ป ร ะ โ ย ช น์ โรคอ้วน การทานอาหารที่มีไขมัน หรือ อาหารปิ้ งย่างแสนอร่อยมักแฝงด้วย ค อ เ ล ส เ ต อ ร อ ล ส่ ง ผ ล ใ ห้ เ กิ ด ไ ข มั น ใ น เ ลื อ ด สู ง น้ำหนักเพิ่มขึ้ น และกลายเป็นโรคอ้ วนในที่สุด โรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ เมื่ อไขมัน ในเลือดสูงจะส่งผลต่อสมอง และหัวใจตาม ไปด้วยเนื่ องจากไขมันจะทำให้การลำเลียง เลือดไปสมองได้ลำบากขึ้ น โรคนี้เป็นโรค อั นตรายหากอาการกำเริบจะมีระยะเวลาใน ก า ร รัก ษ า ไ ม่ น า น ก่ อ น เ สี ย ชี วิ ต โรคเบาหวาน โรคนี้ไม่ใช่แค่คนทานหวาน เท่านั้นที่จะเป็น และไม่ใช่โรคของคนอ้ วน เท่านั้น หากร่างกายไม่สามารถย่อยน้ำตาลได้ จะยิ่งเสี่ยงโรคนี้มากขึ้ น อี กทั้งโรคนี้ยังไม่ ส า ม า ร ถ รัก ษ า ใ ห้ ห า ย ข า ด ไ ด้ จึ ง ค ว ร ร ะ วั ง โรคมะเร็งลำไส้ อาหารจำพวกของทอด ของ ปิ้ งย่างเป็นสาเหตุหนึ่ งของโรคมะเร็ง ซึ่งเป็น โรคที่อั นตราย และจะแสดงอาการในระยะ หลังจากติดเชื้ อไปแล้ว หากไม่รู้ตัวโอกาส รัก ษ า ใ ห้ ห า ย จ ะ น้ อ ย ล ง ต า ม ไ ป ด้ ว ย การทานอาหารรสชาติอร่อยอาจเป็นอั นตราย แ ต่ ถ้ า ห า ก ท า น ใ น ป ริม า ณ ที่ เ ห ม า ะ ส ม ร่ว ม กั บ ก า ร อ อ ก กำ ลั ง ก า ย เ ป็ น ป ร ะ จำ จ ะ ส า ม า ร ถ ช่ ว ย ป้ อ ง กั น โรคเหล่านี้ได้ในระดับหนึ่ ง
HEALTHY GUIDE BOOK สาย Entertainment Binge Watching การเสพติดซีรีส์อย่างหยุดไม่ ดูหนังฟังเพลงติด Social ได้ทำให้ร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ โดย ภาวะนี้จะเกิดขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ และไม่สามารถ การนั่งดูหนัง หรือฟังเพลงที่ชอบเป็นกิจกรรมโปรดของ ควบคุมได้ แก้ไขได้ด้วยการหากิจกรรมอื่นทำ และ หลายคนเมื่อมีเวลาว่าง แต่หากไม่สามารถควบคุม วางตารางการดูซีรีส์ไว้ล่วงหน้า พฤติกรรมของตนเอง การทำกิจกรรมเหล่านี้จะสามารถ ส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ทั้งทางตรง และทางอ้อม ได้แก่ Musical Ear Syndrome อาการฟังเพลงเดิม ซ้ำ ๆ ตลอดทั้งวัน มีโอกาสที่จะทำให้การได้ยินเกิด โรคนอนไม่หลับ การดูหนังหรือซีรีส์เป็นเวลานานมี ความผิดเพี้ยนไป โดยจะได้ยินเสียงเพลงนั้น ๆ แม้ โอกาสที่จะทำให้เรานอนผิดเวลาทำให้หลับได้ยากขึ้น จะไม่ได้ฟังเพลง ทำให้เกิดความสับสนในการใช้ชีวิต หากต้องกลับมานอนในเวลาเดิม บางรายจะตื่นนอน ประจำวันได้ ได้ยากตามไปด้วย เมื่อตื่นนอนจะมีอาการอ่อนเพลีย รู้สึกไม่ค่อยมีแรง เดินทางบ่อยเสี่ยงโรคติดต่อ Computer Vision Syndrome การมองจอ การทำงานที่ต้องออกจากบ้าน หรือการเดินทางด้วย นาน หรือการมองจอในพื้นที่แสงสว่างไม่เพียงพอ ระบบขนส่งต่าง ๆ ย่อมเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค ยิ่งในยุค หากไม่พักสายตาติดต่อกันนานกว่า 2 ชั่วโมง จะทำให้ สมัยที่มีการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 การออก ตาพร่ามัว ปวดตา ไปจนถึงปวดคอ และปวดไหล่ หาก จากบ้านจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ ไม่ว่าจะ ปล่อยไว้ไม่ยอมปรับพฤติกรรมอาจเกิดปัญหาการ เป็นการเดินทางเพื่อติดต่องาน หรือการเดินทางเพื่อไป มองเห็นได้ เช่น สายตาสั้น สายตายาว ทำงานซึ่งอยู่ไกลจากบ้าน รวมถึงการเดินทางไปในพื้นที่ ที่มีอากาศแตกต่างกันอาจทำให้เกิดโรคไข้หวัดได้ ซึ่งเชื้อ โรคเหล่านี้มักเข้าสู่ร่างกายของเราได้ผ่านช่องทางจมูก ตา และปาก หรือการรับมาจากอากาศรอบ ๆ ตัวของเรา นั่นเอง
ป ล อ ด ภั ย ไ ด้ ทุก ไ ล ฟ์ส ไ ต ล์ ไม่ว่าคุณจะมีพฤติกรรมแบบไหนก็สามารถ ปลอดภัยห่างไกลโรคได้เช่นกัน ขอเพียง ดูแลตนเองให้ดีในทุกด้านโอกาสที่จะเสี่ยง โรคจะลดลงเอง ได้แก่ ดูแลสุขอนามัยอยู่ตลอด ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ หมั่นตรวจสุขภาพ และฉีดวัคซีน การดูแลตัวเองเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่ทำได้ยากด้วย วิถีชีวิตในปัจจุบันที่มีความเร่งรีบ รวมถึงสภาพ แวดล้อมที่ไม่ค่อยเอื้ออำนวย แต่ก็ไม่ควรปล่อย ปละละเลยการดูแลตนเองโดยเด็ดขาด healthy Guide book
BURNOUT SYNDROME คืออะไร “ภาวะหมดไฟ” จุดเริ่มต้นจากการทำงานที่ไม่เป็นไปตามที่ คาดหวังไว้ และยังไม่สามารถยอมรับผลงานที่เกิดขึ้นได้ หาก ปล่อยไว้นานจะยิ่งมีความเสี่ยงกลายเป็นโรคซึมเศร้า เมื่อเกิด ภาวะนี้จึงต้องรีบพักผ่อน ปรับตัว และหาทางออกร่วมกันกับ เพื่อนร่วมงานจะสามารถแก้ไขภาวะหมดไฟได้เร็วยิ่งขึ้น เป็นสภาวะด้านจิตใจที่เกิดจากความเหนื่อยล้า หรือเกิดจาก ความเครียดจากการทำงานส่งผลให้มีประสิทธิภาพของงาน ลดลง ไม่มีแรงผลักดันให้อยากทำงานต่อ และเริ่มมีความคิด ในแง่ลบเกี่ยวกับงานที่ทำอยู่ ในบางรายอาจส่งผลให้ไม่ ต้องการพบเจอใคร และมีโอกาสในการพัฒนากลายเป็นโรค ซึมเศร้าในที่สุดหากสิ่งแวดล้อมไม่ดีขึ้น หรืออยู่ในสภาพจิตใจ เช่นนี้บ่อยครั้ง งานหนักไปไหม BURNOUT SYNDROME ภาวะหมดไฟ จากการทำงาน ส า เ ห ตุ ข อ ง อ า ก า ร ห ม ด ไ ฟ สาเหตุหลักมาจากการทำงานที่ไม่ตรงตามที่คาดหวังไว้ เช่น ภาระ งานที่หนักเกินไป ความยากของงานกับช่วงเวลาที่น้อยเกินไป ไม่มี ความชำนาญในสายงานที่ทำอยู่ ไม่สามารถเข้ากับเพื่อนร่วมงานได้ หรือค่าตอบแทนที่น้อยเกินไป นอกจากนี้ยังมีกลุ่มคนที่มีความ เสี่ยงภาวะหมดไฟนอกจากคนวัยทำงานทั่วไป ได้แก่ แม่บ้านที่มีภาระงานหนัก เช่น ดูแลความเรียบร้อยในบ้านร่วม กับเลี้ยงลูกโดยไม่มีคนช่วยเป็นเวลานาน คนที่ติดความสมบูรณ์แบบต้องการให้สิ่งที่ทำออกมาดีที่สุด โดยไม่ยอมยืดหยุ่นผลงานให้เกิดความผ่อนคลายมากขึ้น ผู้ที่อยู่ในครอบครัวที่มีปัญหา เช่น ทะเลาะบ่อยมีปากเสียงกัน เป็นประจำ เป็นต้น HEALTHY GUIDE BOOK
สัญญาณ และอาการของ BURNOUT SYNDROME อาการของสภาวะหมดไฟจะเกิดขึ้นอย่างชัดเจนโดยสามารถสัมผัสได้จากตัวของ เราเองโดยตรง อาการดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้กับทั้งทางกาย และจิตใจ ดังนี้ อาการทางร่างกาย เริ่มอ่อนแรง อ่อนเพลีย มีอาการปวดเมื่อยตาม ร่างกาย อาการปวดอาจเป็นในลักษณะเรื้อรัง ไม่ค่อยมีสมาธิ อาการทางด้านจิตใจ ไร้แรงจูงใจในการทำงาน รู้สึกเบื่อ เริ่มมีความคิดแง่ ลบ ไม่พอใจงานของตนเอง ไม่อยากพูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน และโมโหง่าย เมื่ออยู่ในภาวะดังกล่าวจะส่งผลให้เราเริ่มออกห่างจากสังคมต้องการอยู่คน เดียว ไม่ตั้งใจทำงาน ต้องการขาดงาน ความรับผิดชอบน้อยลง ทั้งหมดนี้จะ กลายเป็นความเครียด และอาจนำพาไปสู่การใช้สารเสพติดได้ ระยะของการเกิดภาวะหมดไฟ 1.ทุ่มเทกับการทำงานอย่างตั้งใจ พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้งานสำเร็จลุล่วง ออกมาดี 2. งานที่ออกมาไม่เป็นไปตามที่ต้องการหรือที่ทุ่มเทไป ทำให้เกิดความผิดหวัง 3. เริ่มมีความเครียด และความเหนื่อยล้าเริ่มมีพฤติกรรมออกจากสังคม และ วิจารณ์องค์กรตนเอง 4. หากปัญหาไม่ได้รับการแก้ไขจะเข้าสู่ช่วงสิ้นหวัง เป็นการหมดไฟอย่าง สมบูรณ์ 5. หลังผ่านไประยะหนึ่งจะสามารถปรับการทำงานให้ดีขึ้นได้ หากได้รับการพัก ผ่อนอย่างเต็มที่ หมดไฟแล้วต้องทำอย่างไร พยายามพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่นั่งคิดเรื่องงานมากจนเกินไป พัฒนาทักษะการทำงานให้ดีขึ้น เปิดใจคุย หรือปรึกษาเกี่ยวกับงานที่ทำอยู่ อาการหมดไฟสามารถเกิดขึ้นได้หากไม่ระวัง ถึงแม้จะไม่มีความรุนแรงถึงขั้นเสีย ชีวิต แต่สามารถส่งผลต่อสิ่งรอบตัวได้ทั้งผู้คน หรือหน้าที่การงาน ดังนั้นเมื่อมี อาการหมดไฟให้พักผ่อนร่างกาย และผ่อนคลายจิตใจถือเป็นการดีที่สุด
โรคนอนไม่หลับ จาก ภาวะความเครียด โรคนอนไม่หลั บ (INSOMNIA) เกิ ดขึ้นได้ จากหลายปัจจัยทั้ งจาก พฤติ กรรมการนอนที่ ไม่เหมาะสม ความเครียด หรือโรคซึมเศร้า เป็นต้ น อาการของโรคแม้จะไม่รุ นแรงถึ งขั้นเสียชีวิต แต่ ยังส่งผลต่ อการใช้ชีวิต ประจำวัน ซึ่งสามารถรักษาได้ ด้ วยการปรับพฤติ กรรมการนอนใหม่ ในบาง รายอาจต้ องใช้การทานยาร่วมด้ วยขึ้นอยู่กั บสาเหตุของการเกิ ดโรค สาเหตุและความเสี่ยงเป็นโรค ปัจจัยด้านจิตใจ สภาวะความเครียดทำให้ นอนไม่หลับ เกิดความกังวล หมดกำลังใจ อาการเหล่านี้ มีผลทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ หรืออาจ โรคนี้เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยทั้งปัจจัยที่ เกิดจากโรคที่มีผลโดยตรงกับความรู้สึก ควบคุมได้ และปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุม เช่น โรคไบโพลาร์ หรือโรคซึมเศร้า เป็นต้น ได้ ดังนี้ ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม จากห้องที่มีความ ปัจจัยด้านร่างกาย มีอาการป่วยที่มี สว่างหรือมีเสียงดังรบกวนเกินไป อาจเกิด ส่วนทำให้เกิดโรค เช่น โรคขาอยู่ไม่สุข จากพื้นที่นอนที่ไม่พอดี และความรู้สึกของ โรคกรดไหลย้อน ภาวะหยุดหายใจขณะ การนอนต่างพื้นที่ทำให้ไม่คุ้นเคย หลับ โรคขากระตุกขณะหลับ นอกจากนี้ ยังเกิดจากสภาวะของร่างกายตามอายุ ปัจจัยด้านอื่น ๆ เช่น ผลข้างเคียงจากใช้ยา เช่น การหมดประจำเดือน รวมไปถึง บางชนิด การออกกำลังกายมากเกินไป การ อาการเหนื่อยล้าจากการทำงาน เป็นต้น ดื่มหรือทานอาหารที่มีส่วนผสมของคาเฟ อีน PAGE 10
HEALTHY GUIDE BOOK ลักษณะอาการของโรคนอนไม่หลับ อาการของโรคนอนไม่หลับ อาการทางด้านร่างกาย นอนไม่หลับหรือหลับไม่สนิท มีอาการอ่อนเพลีย และง่วงนอนใน เวลากลางวัน อาการทางด้านอารมณ์ ไม่ค่อยมีสมาธิ อารมณ์หงุดหงิดง่าย และมีความกังวลเกี่ยวกับ การนอนหลับ ลักษณะอาการของโรคนอนไม่หลับ Initial insomnia หลับยากเมื่อต้องการนอน (ปกติจะใช้เวลาไม่เกิน 20 นาทีในการหลับ) Terminal insomnia ตื่นเร็วเกินกว่าปกติ อาการรูปแบบนี้มักพบเจอในผู้ป่วยที่มีอาการ เป็นโรคซึมเศร้า Maintinance insomnia หลับ ๆ ตื่น ๆ ตลอดคืน อาจตื่นทุก 2-3 ชั่วโมง หรือหลับแล้ว ตื่นขึ้นเองกลางดึก และหลับต่อได้ยาก รวมไปถึงการตื่นมาทำกิจกรรมอื่นด้วย เช่น การเข้า ห้องน้ำแล้วนอนไม่หลับ Chronic insomnia ผู้ป่วยจะมีอาการนอนไม่หลับเรื้อรัง 3 ครั้ง/สัปดาห์ และเกิดขึ้นติดต่อ กันเป็นเวลาหลายเดือน Adjustment insomnia เป็นอาการนอนไม่หลับเฉียบพลันจากความเครียด ความกังวล หรือปัจจัยอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น หากสามารถแก้ปัญหาเหล่านั้นได้จะกลับมา นอนหลับได้ปกติอีกครั้ง หากพบว่าตนเองมีอาการนอนไม่หลับในกลุ่ม Chronic insomnia ควรเข้าพบแพทย์เพื่อรับการ วินิจฉัย และการรักษาเพราะอาการของโรคนี้สามารถส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้
รักษาโรคนอนไม่หลับได้อย่างไรบ้าง HEALTHY GUIDE BOOK การรักษาโรคนี้จะต้องผ่านการวินิจฉัยสาเหตุของโรคจากแพทย์เสียก่อน หากเกิดจาก พฤติกรรมการนอนที่ผิดแพทย์จะให้คำแนะนำ หรือการรักษาด้วยยาหากมีสาเหตุมาจาก โรคอื่น ๆ การรักษาด้วยการปรับพฤติกรรม ต้องนอนให้ตรงเวลาในห้องอุณหภูมิที่พอดี ห้าม เปิดไฟนอน ไม่ดื่มชากาแฟหรือแอลกอฮอล์ก่อนนอน และห้ามทำกิจกรรมที่ทำให้เกิด ความตื่นเต้น เช่น การดูภาพยนตร์ หรือการฟังเพลง แต่ให้ทำกิจกรรมที่ผ่อนคลายแทน เช่น การฟังเพลง อ่านหนังสือ เป็นต้น การรักษาด้วยยา หากตรวจพบว่าสาเหตุของโรคนอนไม่หลับมาจากอาการ หรือได้รับ ผลมาจากโรคทางจิตเวช เช่น โรคซึมเศร้า หรือโรคไบโพลาร์แพทย์จะให้ทานยาร่วมด้วย นอกจากนี้หากมีอาการนอนไม่หลับไม่ควรหยิบนาฬิกาขึ้นมาดูเนื่องจากจะเป็นการสร้างความ กังวลว่าตนเองหลับยาก และรู้สึกเสียเวลาในการนอนพักผ่อน สำหรับผู้ที่รักษาอยู่ให้ทำตาม คำแนะนำของแพทย์ และปรับพฤติกรรมการนอนให้ถูกต้องก็จะสามารถหายจากโรคนี้ได้
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: