สารบญั สารบัญ ๑. สิทธมิ นุษยชน ๑ ๓. การขอรบั การเยียวยาทางกฎหมาย ๕๖ ๕ ๕๘ ๑.๑ การคมุ้ ครองสทิ ธิมนุษยชนในไทย ๗ ๓.๑ กองทนุ ยุตธิ รรม ๕๙ ๑.๑.๑ สทิ ธิและเสรภี าพของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ ๑๗ ๓.๑.๑ หลกั เกณฑก์ ารพจิ ารณาให้เงินสนับสนนุ ๖๐ ๑.๑.๒ การละเมดิ สทิ ธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ๒๕ ๓.๑.๒ กรณีท่ีจะไดร้ บั เงินสนบั สนุนหรือคา่ ใชจ้ ่าย ๖๓ ๒๘ ๓.๑.๓ ขน้ั ตอนการขอรบั การเยียวยาจากกองทุนยตุ ิธรรม ๖๕ ๒. สทิ ธิในคดอี าญา ๒๙ ๓.๑.๔ เอกสาร ๖๕ ๓๑ ๓.๑.๕ ระยะเวลา ๖๖ ๒.๑ การประกนั ตัว ๓๕ ๓.๑.๖ ช่องทางติดตอ่ การขอรบั บรกิ าร ๗๗ ๒.๑.๑ หลกั เกณฑ์การประกันตวั (ปล่อยชวั่ คราว) ๓๘ ๓.๒ พระราชบญั ญัตคิ ่าตอบแทนผู้เสยี หายและคา่ ทดแทน ๗๗ ๒.๑.๒ ประเภทของการปลอ่ ยช่ัวคราว ๔๐ และค่าใชจ้ ่ายแก่จ�ำ เลยในคดีอาญา พ.ศ.๒๕๔๔ ๘๐ ๒.๑.๓ ระยะเวลา ๔๓ ๓.๒.๑ สิทธขิ องผู้เสียหายในคดอี าญาในการทีจ่ ะ ๘๓ ๒.๑.๔ กรณอี น่ื ๆ เก่ียวกบั สญั ญาประกนั และหลกั ประกนั ๕๑ ไดร้ บั ค่าทดแทนและค่าใชจ้ า่ ยจากรฐั ๘๔ ๒.๒ สทิ ธิในการเยี่ยมและตดิ ตอ่ ผูต้ อ้ งขัง ๕๔ ๓.๒.๒ สทิ ธิของจำ�เลยในคดอี าญาในการทจ่ี ะได้รบั ๘๖ ๒.๒.๑ บุคคลภายนอกเขา้ เยี่ยมหรอื ติดตอ่ กับผ้ตู ้องกักขัง ค่าทดแทนและค่าใช้จา่ ยจากรัฐ ๘๖ ๒.๒.๒ ทนายความเขา้ พบผตู้ อ้ งกกั ขงั ๓.๒.๓ ข้นั ตอนและวิธกี ารในการขอรบั คา่ ตอบแทน ๘๘ ๒.๓ สทิ ธิในการมีทนายความในชั้นสอบสวน ค่าทดแทนและคา่ ใชจ้ า่ ย ๘๙ ๓.๒.๔ เอกสาร ๙๑ ๓.๒.๕ ชอ่ งทางการติดต่อขอรับบริการ ๙๓ ๓.๓ พระราชบัญญตั ิคมุ้ ครองพยานในคดอี าญา พ.ศ. ๒๕๔๖ ๓.๓.๑ มาตรการท่วั ไปในการคมุ้ ครองพยาน ๓.๓.๒ มาตรการพเิ ศษในการคุม้ ครองพยาน ๓.๓.๓ ชอ่ งทางการตดิ ต่อขอรับความช่วยเหลอื บรรณานกุ รม
-๒- -๓- สิทธิมนษุ ยชน สิทธิในคดีอาญา และการขอรับการเยียวยาทางกฎหมาย สทิ ธมิ นษุ ยชน หมายถงึ กฎหมายทเ่ี ก่ยี วข้องกบั การคุ้มครองสทิ ธิของประชาชนในกระบวนการ หมายถึง สทิ ธิขน้ั พื้นฐานท่ีเกดิ มาพร้อมกบั ความความเปน็ มนุษยห์ รอื สิทธิตามกฎหมาย มีความ ยตุ ธิ รรมทางอาญาและค้มุ ครองสิทธมิ นุษยชนตามกฎหมายรฐั ธรรมนญู รวมไปถึงช่องทางในการ เทา่ เทียมกนั ในแง่ศกั ดิ์ศรคี วามเป็นมนุษย์ โดยไม่ค�ำ นงึ ถึงความแตกตา่ งในเร่อื งเชอื้ ชาติ สผี ิว เพศ ขอรับการเยียวยาจากความเสียหายท่ีเกิดข้ึนจากการเข้าสู่ขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมเพื่อ อายุ ภาษา ศาสนา สุขภาพ รวมทง้ั ความเชอ่ื ทางการเมือง หรอื ความเชอ่ื อ่นื ๆ ทขี่ ึน้ กบั พ้ืนฐานทาง ใหป้ ระชาชนทราบถึงสทิ ธทิ ่คี วรจะไดร้ ับ เชน่ ประมวลกฎหมายวิธีพจิ ารณาความอาญา ระเบียบ สังคม สทิ ธิมนุษยชนเปน็ ส่งิ ที่ไมส่ ามารถถา่ ยทอดหรือโอนให้แก่ผูอ้ นื่ ได๑้ และรัฐหรอื บคุ คลไม่อาจ กรมราชทัณฑ์ว่าดว้ ยการปฏบิ ัตติ ่อผตู้ ้องกกั ขงั พ.ศ. ๒๕๔๙ กฎหมายรฐั ธรรมนญู พระราชบญั ญัติ พรากไปจากมนุษย์ได้๒ และเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่แสดงให้เห็นว่ามนุษย์มีอิสรเสรีในการกำ�หนด กองทนุ ยุตธิ รรม พ.ศ. ๒๕๕๘ พระราชบัญญัติคา่ ตอบแทนผเู้ สียหายและคา่ ทดแทนและคา่ ใช้จ่าย ตนเองได้ เปน็ คณุ ค่าทีม่ ลี ักษณะเฉพาะอนั สืบเน่ืองมาจากความเป็นมนษุ ย์และเป็นคุณคา่ ที่ไมอ่ าจ แกจ่ ำ�เลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔ พระราชบัญญตั ิคุ้มครองพยานในคดอี าญา พ.ศ. ๒๕๔๖ จะได้ ลว่ งละเมดิ หรอื พรากไปจากมนุษยไ์ ด๓้ อธิบายในลำ�ดบั ถดั ไปโดยแบง่ ประเดน็ เป็นเรอื่ ง ๆ ดังนี้ ความคิดเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนมรี ากฐานมาจากสำ�นักกฎหมายธรรมชาติ ซงึ่ เชือ่ วา่ มนุษยท์ ุกคน มคี วามเทา่ เทียมกนั โดยธรรมชาติ เป็นส่ิงสากลไม่อาจแบง่ แยกหรือจำ�หนา่ ยจา่ ยโอนใหแ้ กก่ นั ได้ การปรากฏตัวของสิทธิมนุษยชนอาจตีความได้ว่าเป็นการแสดงออกซึ่งความบันดาลใจของมนุษย์ ที่มุ่งม่ันจะค้นหาหลักการอันสูงส่งสำ�หรับกฎหมายท่ีบัญญัติขึ้นเพ่ือรับรองศักด์ิศรีความเป็น มนุษย๔์ ลกั ษณะของสทิ ธิมนษุ ยชนทสี่ �ำ คัญประกอบดว้ ย สิทธิ ประการตา่ งๆ ดังต่อไปนี้ ๑นพนธิ ิ สุรยิ ะ, สทิ ธมิ นุษยชน : แนวคิดและการค้มุ ครอง, (กรุงเทพฯ : สำ�นักพิมพ์วิญญูชน, ๒๕๕๙) หน้า ๔๐. ๒วรเจตน์ ภาคีรตั น,์ คำ�สอนวา่ ด้วยรัฐและหลกั กฎหมายมหาชน, (พมิ พ์ครงั้ ที่ ๒ แก้ไขเพ่มิ เติม, กรงุ เทพฯ : โครงการต�ำ ราและเอกสารประกอบการ สอนคณะนติ ิศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร,์ ๒๕๕๗ ). หน้า ๒๒๔. ๓พิเศษ สะอาดเยน็ และ ธงทอง จันทรางศุ, ปรัชญากฎหมาย : ความรฉู้ บบั พกพา, (กรงุ เทพฯ : โอเพ่นเวลิ ดส์ พับลิชชิง่ เฮาส์, ๒๕๕๘) หน้า ๒๒. ๔สุนีย์ สกาวรัตน์ และ ฐิติรัตน์ ทพิ ยส์ มั ฤทธกิ์ ลุ , สทิ ธิมนษุ ยชน : ความรู้ฉบบั พกพา, (กรงุ เทพฯ : โอเพน่ เวลิ ด์ส พบั ลิชช่ิง เฮาส์, ๒๕๕๙) หนา้ ๑๔-๒๐.
-๔- -๕- ๑.) สิทธิขั้นพื้นฐาน กล่าวคือ เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานสำ�หรับการดำ�รงชีวิตของมนุษย์ ๑.๑ การคุ้มครองสทิ ธิมนุษยชนในไทย ได้แก่ สิทธิในการได้บริโภคอาหารที่มีประโยชน์สำ�หรับบำ�รุงร่างกาย สิทธิในการมีที่อยู่อาศยั และเสรีภาพในการเลือกถิ่นที่อยู่อาศัย สิทธิในการได้รับการศึกษาที่เท่าเทียม สิทธิที่จะได้รับการ สทิ ธิมนษุ ยชนเป็นเรอื่ งทีม่ กี ารพดู ถงึ อย่างกว้างขวางมาเปน็ ระยะเวลายาวนานและ รกั ษาพยาบาล ฯลฯ เป็นประเด็นที่ประชาคมโลกให้ความสำ�คัญและให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่งด้วยอิทธิพลดังกล่าว ๒.) สิทธิในความเป็นส่วนตัว หมายถึง สิทธิของบุคคลที่ประกอบไปด้วยสิทธิของบุคคล ส่งผลให้ประเทศไทยขานรับกับกระแสการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ในครอบครวั เกียรติยศ ช่ือเสยี ง หรอื ความเป็นอยู่ส่วนตวั โดยไม่ถูกละเมิด โดยการทป่ี ระเทศไทยไดเ้ ขา้ เปน็ ภาคสี นธสิ ญั ญาระหวา่ งประเทศดา้ นสทิ ธมิ นษุ ยชนหลายฉบบั เชน่ ๓.) สิทธิพลเมอื ง หมายถงึ ความสามารถในการเรียกร้องความตอ้ งการขนั้ พ้นื ฐานจาก รฐั ในฐานะทีเ่ ปน็ พลเมอื งแห่งรัฐ ซงึ่ รฐั มีหนา้ ที่ใหก้ ารสนองตอบในรปู ของบรกิ ารสาธารณะ ๑.) อนสุ ญั ญาวา่ ดว้ ยการตอ่ ตา้ นการเลอื กปฏบิ ตั ติ อ่ สตรใี นทกุ รปู แบบ ๔.) สิทธิในความเสมอภาค กล่าวคือ เป็นสิทธิเสรีภาพเกี่ยวกับการได้รับการปฏิบัติที่ เขา้ เปน็ ภาคี เมอ่ื วนั ท่ี ๙ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๒๘ และพธิ สี ารเลอื กรบั เมอ่ื วนั ท่ี ๑๔ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕๔๓ เท่าเทียมกันจากรัฐ โดยไม่ถูกเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมเพราะเหตุแห่งความแตกต่างใดๆ ๒.) อนุสญั ญาว่าดว้ ยสิทธิเด็ก เม่อื วันที่ ๒๗ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๓๕ เว้นแต่การเลือกปฏิบัตินั้นเป็นการเลือกปฏิบัติที่เป็นธรรม กล่าวคือเป็นการเลือกปฏิบัติเพื่อ ๓.) กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ชว่ ยเหลือใหผ้ ู้เสยี เปรยี บหรือผ้ดู ้อยโอกาสให้ไดร้ บั สิทธิโอกาสอนั เทา่ เทยี มกบั คนอืน่ ๆ ได้ เมื่อวนั ท่ี ๒๙ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๓๙ และมผี ลใช้บงั คับเมอื่ วันท่ี ๒๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๐ ๕.) สทิ ธิทางวฒั นธรรม ได้แก่ สิทธิในการอนรุ ักษ์หรือฟน้ื ฟูจารีตประเพณี ภมู ิปัญญา ๔.) กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธทิ างเศรษฐกจิ สังคม และวัฒนธรรม ท้องถนิ่ วัฒนธรรมท้องถนิ่ ๕ ซึ่งแบบแผนวัฒนธรรมดังกล่าวกอ่ ให้เกิดสำ�นกึ แหง่ ความมวี ฒั นธรรม เมื่อวันที่ ๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๒ และมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๒ ร่วมกนั ของชมุ ชนทอ้ งถิน่ ๕ กิตตศิ กั ด์ิ ปรกติ,สิทธชิ ุมชน,(กรงุ เทพฯ:ส�ำ นกั พิมพ์วญิ ญชู น,๒๕๕๐)หน้า ๑๓๑-๑๖๐.
-๖- -๗- ผลจากการท่ีประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคีสนธิสัญญาระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนดังกล่าว ๑.๑.๑ สทิ ธแิ ละเสรีภาพของประชาชนตามรฐั ธรรมนญู ผูกพันให้ประเทศไทยต้องปฏิบัติตามความตกลงน้ันและยังได้นำ�หลักการเก่ียวกับการคุ้มครอง รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ บัญญตั ิรับรองคุม้ ครองสิทธแิ ละ สทิ ธมิ นษุ ยชนมาบญั ญัติไวใ้ นรัฐธรรมนญู ซง่ึ เป็นกฎหมายสงู สุดด้วย เสรีภาพของประชาชนไว้โดยกล่าวว่า “บุคคลย่อมเสมอกนั ในกฎหมาย มสี ิทธิและเสรีภาพ และไดร้ ับความคมุ้ ครองตามกฎหมายอยา่ งเทา่ เทยี มกัน ชายและหญงิ มีสทิ ธเิ ทา่ เทยี มกนั การเลือกปฏบิ ัติโดยไมเ่ ปน็ ธรรมต่อบุคคล ไมว่ ่าด้วยเหตุความแตกต่างในเรอ่ื งถิน่ ท่ีกำ�เนดิ เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ ความพิการ สภาพทางกายหรือสขุ ภาพ สถานะของบุคคล ฐานะ ทางเศรษฐกิจหรอื สงั คม ความเชอื่ ทางศาสนา การศกึ ษาอบรม หรือความคดิ เห็นทาง การเมอื งอันไม่ขัดต่อบทบญั ญตั ิแหง่ รัฐธรรมนญู หรือเหตอุ ื่นใด จะกระทำ�มไิ ด้ มาตรการท่ี รัฐกำ�หนดขึ้นเพื่อขจดั อุปสรรคหรือสง่ เสรมิ ใหบ้ ุคคลสามารถใชส้ ิทธหิ รือเสรภี าพ ได้เช่นเดยี ว กบั บุคคลอ่ืน หรอื เพอ่ื คมุ้ ครองหรอื อำ�นวยความสะดวกใหแ้ ก่เด็ก สตรี ผูส้ งู อายุ คนพิการ หรือผดู้ ้อยโอกาส ย่อมไม่ถอื วา่ เป็นการเลอื กปฏิบตั โิ ดยไม่เปน็ ธรรม”๖ นอกจากนั้นยังบัญญตั ิรบั รองคุม้ ครองสิทธแิ ละเสรีภาพของประชาชนและชมุ ชนไวด้ ังตอ่ ไปนี้ ๖ รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย พุทธศกั ราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๗.
-๘- -๙- ๑. สิทธิและเสรภี าพในชีวิตและร่างกาย๗ ๒. สทิ ธแิ ละเสรีภาพในการดำ�เนนิ กระบวนการ ยุติธรรมทางอาญา๙ ๑.) บุคคลย่อมมีสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย การจับและการคุมขังบุคคลจะกระทำ�มิได้ เว้นแต่มคี �ำ สั่งหรอื หมายของศาลหรอื มเี หตอุ ย่างอื่นตามทก่ี ฎหมายบญั ญตั ิ ๑.) บคุ คลไม่ตอ้ งรบั โทษอาญา เว้นแตไ่ ด้กระทำ�การอันกฎหมายทีใ่ ชอ้ ยู่ในเวลาที่กระทำ� ๒.) การคน้ ตวั บคุ คลหรอื การกระท�ำ ใดอนั กระทบกระเทอื นตอ่ สทิ ธหิ รอื เสรภี าพในชวี ติ หรอื รา่ งกาย นั้นบัญญัติเป็นความผิดและกำ�หนดโทษไว้ และโทษที่จะลงแก่บุคคลนั้นจะหนักกว่าโทษที่บัญญัติ จะกระท�ำ มไิ ด้ เวน้ แต่มีเหตตุ ามท่ีกฎหมายบญั ญตั ิ ไว้ในกฎหมายท่ใี ชอ้ ยู่ในเวลาท่กี ระทำ�ความผิดมิได้ ๓.) การทรมาน ทารุณกรรม หรือ การลงโทษด้วยวิธีการโหดร้ายหรือไร้มนุษยธรรมจะกระทำ�มิได้ ๒.)ในคดีอาญา ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำ�เลยไม่มีความผิด และก่อนมี ๔.) การเกณฑแ์ รงงานจะกระท�ำ มไิ ด้ เวน้ แตโ่ ดยอาศยั อ�ำ นาจตามบทบญั ญตั แิ หง่ กฎหมาย ทต่ี ราขน้ึ คำ�พิพากษาอันถึงที่สุดแสดงว่าบุคคลใดได้กระทำ�ความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็น เพื่อป้องกันภัยพิบัติสาธารณะ หรือ ในขณะที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหรือประกาศใช้ ผ้กู ระท�ำ ความผดิ มไิ ด้ กฎอัยการศึก หรอื ในระหวา่ งเวลาทปี่ ระเทศอยใู่ นภาวะสงครามหรือการรบ๘ ๓.) การควบคุมหรือคุมขังผู้ต้องหาหรือจำ�เลยให้กระทำ�ได้เพียงเท่าที่จำ�เป็น เพอ่ื ปอ้ งกนั มใิ หม้ กี ารหลบหนใี นคดอี าญา และจะบงั คบั ใหบ้ คุ คลใหก้ ารเปน็ ปฏปิ กั ษต์ อ่ ตนเองมไิ ด้ ๔.) คำ�ขอประกันผู้ต้องหาหรือจำ�เลยในคดีอาญาต้องได้รับการพิจารณาและจะเรียก หลกั ประกันจนเกนิ ควรแก่กรณีมิได้ การไม่ใหป้ ระกนั ตอ้ งเป็นไปตามที่กฎหมายบัญญตั ิ ๗ รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย พุทธศกั ราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๘. ๙ รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๙. ๘ รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศกั ราช ๒๕๖๐ มาตรา ๓๐.
- ๑๐ - - ๑๑ - ๓. สิทธิและเสรภี าพสว่ นบคุ คล ๔. เสรีภาพในการแสดงความคดิ เหน็ ของบคุ คลและส่อื มวลชน๑๕ ๑.) บุคคลย่อมมีเสรีภาพบริบูรณ์ในการถือศาสนาและย่อมมีเสรีภาพในการปฏิบัติหรือ ประกอบพิธีกรรมตามหลักศาสนาของตน แต่ต้องไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อหน้าที่ของปวงชนชาวไทย ๑.) บคุ คลยอ่ มมเี สรีภาพในการแสดงความคดิ เหน็ การพดู การเขยี น การพิมพ์ ไม่เป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของรัฐ และไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของ การโฆษณา และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่น การจำ�กัดเสรีภาพดังกล่าวจะกระทำ�มิได้ ประชาชน๑๐ เว้นแต่โดยอาศัยอำ�นาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ตราขึ้นเฉพาะเพ่ือรักษาความม่ันคง ๒.) บุคคลย่อมมีสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัว เกียรติยศ ชื่อเสียง และ ครอบครัว ของรัฐ เพื่อคุ้มครองสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ การกระทำ�อันเป็นการละเมิดหรือกระทบต่อสิทธิของบุคคลดังกล่าวหรือการนำ�ข้อมูลส่วน ศีลธรรมอันดขี องประชาชน หรือเพ่ือป้องกันสขุ ภาพของประชาชน บุคคลไปใช้ประโยชนไ์ มว่ ่าในทางใดๆ จะกระทำ�มไิ ด้ เวน้ แตโ่ ดยอาศัยอ�ำ นาจตามบทบญั ญัติแหง่ กฎหมายทีต่ ราขน้ึ เพียงเท่าทจี่ ำ�เป็นเพือ่ ประโยชน์สาธารณะ๑๑ ๒.) เสรีภาพทางวิชาการย่อมได้รับความคุ้มครอง แต่การใช้เสรีภาพนั้นต้องไม่ขัด ๓.) บคุ คลย่อมมีเสรภี าพในเคหสถาน การเข้าไปในเคหสถานโดยปราศจากความยินยอม ต่อหน้าที่ของปวงชนชาวไทยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน และต้องเคารพและไม่ปิดกั้น ของผ้คู รอบครอง หรอื การค้นเคหสถานหรือที่รโหฐานจะกระทำ�มิได้ เวน้ แต่มีคำ�ส่งั หรือหมายของ ความเหน็ ต่างของบุคคลอื่น ศาลหรอื มเี หตอุ ยา่ งอ่ืนตามทก่ี ฎหมายบัญญตั ๑ิ ๒ ๓.) บุคคลซึ่งประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนย่อมมีเสรีภาพในการเสนอข่าวสาร หรือ ๔.) บคุ คลยอ่ มมีเสรภี าพในการติดต่อสอ่ื สารถึงกันไม่ว่าในทางใดๆ๑๓ การแสดงความคิดเหน็ ตามจริยธรรมแห่งวิชาชพี ๕.) การตรวจ การกัก หรือ การเปิดเผยข้อมูลที่บุคคลสื่อสารถึงกัน รวมทั้งการกระทำ� ๔.) การสั่งปิดกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนอื่นเพื่อลิดรอนเสรีภาพจะ ด้วยประการใดๆ เพื่อให้ล่วงรู้หรือได้มาซึ่งข้อมูลที่บุคคลสื่อสารถึงกันจะกระทำ�มิได้ เว้นแต่มี กระทำ�มไิ ด้ คำ�สง่ั หรือหมายของศาลหรือมเี หตอุ ยา่ งอน่ื ตามที่กฎหมายบัญญัต๑ิ ๔ ๕.) การให้นำ�ข่าวสารหรือข้อความใดๆ ที่ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนจัดทำ�ขึ้น ไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจก่อนนำ�ไปโฆษณาในหนังสือพิมพ์หรือสื่อใดๆ จะกระทำ�มิได้ เว้นแต่ ๑๐ รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย พทุ ธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๓๑. จะกระทำ�ในระหวา่ งเวลาที่ประเทศอยู่ในภาวะสงคราม ๑๑ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย พุทธศกั ราช ๒๕๖๐ มาตรา ๓๑. ๖.) เจา้ ของกจิ การหนงั สอื พิมพ์หรือส่อื มวลชนอน่ื ต้องเปน็ บุคคลสญั ชาติไทย ๑๒ รฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย พทุ ธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๓๓. ๗.) การให้เงินหรือทรัพย์สินอื่นเพื่ออุดหนุนกิจการหนังสือพิมพ์ หรือ สื่อมวลชน ๑๓ รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พุทธศกั ราช ๒๕๖๐ มาตรา ๓๖. อื่นของเอกชนรัฐจะกระทำ�มิได้ หน่วยงานของรัฐที่ใช้จ่ายเงินหรือทรัพย์สินให้สื่อมวลชน ๑๔ รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๓๑. ไม่ว่าเพื่อประโยชน์ในการโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์ หรือเพื่อการอื่นใดในทำ�นองเดียวกัน ต้องเปิดเผยรายละเอียดให้คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินทราบตามระยะเวลาที่กำ�หนด และประกาศให้ประชาชนทราบด้วย ๘.) เจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งปฏิบัติหน้าที่สื่อมวลชนย่อมมีเสรีภาพ ในการแสดงความ คดิ เหน็ แต่ใหค้ �ำ นงึ ถงึ วัตถุประสงคแ์ ละภารกิจของหน่วยงานท่ีตนสังกดั อยู่ด้วย ๑๕ รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ มาตรา ๓๕.
- ๑๒ - - ๑๓ - ๕. สทิ ธใิ นทรพั ยส์ นิ ๑๖ ๖. สทิ ธิและเสรีภาพในการเลอื กถน่ิ ทีอ่ ยู่อาศัย ๑.) บุคคลย่อมมีสิทธิในทรัพย์สินและการสืบมรดก ขอบเขตแห่งสิทธิและการจำ�กัด ๑.) บุคคลยอ่ มมีเสรีภาพในการเดนิ ทางและการเลือกถนิ่ ท่อี ย๑ู่ ๗ สทิ ธเิ ชน่ วา่ นี้ ให้เป็นไปตามทีก่ ฎหมายบัญญัติ ๒.) การเนรเทศบุคคลสัญชาตไิ ทยออกนอกราชอาณาจกั รหรือหา้ มมิให้ผ้มู สี ญั ชาติไทย ๒.) การเวนคนื อสงั หาริมทรัพย์จะกระท�ำ มไิ ด้ เว้นแต่โดยอาศยั อ�ำ นาจตามบทบญั ญัติ เข้ามาในราชอาณาจกั ร จะกระทำ�มไิ ด๑้ ๘ แห่งกฎหมายทีต่ ราข้นึ เพือ่ การอนั เปน็ สาธารณูปโภค การป้องกนั ประเทศ หรือการไดม้ าซง่ึ ๓.) การถอนสัญชาตขิ องบคุ คลซง่ึ มีสญั ชาติไทยโดยการเกิดจะกระทำ�มิได๑้ ๙ ทรัพยากรธรรมชาติหรือเพ่ือประโยชนส์ าธารณะอยา่ งอน่ื และตอ้ งชดใชค้ า่ ทดแทนทเ่ี ป็นธรรม ภายในเวลาอันควรแก่เจ้าของตลอดจนผู้ทรงสิทธิบรรดาที่ได้รับความเสียหายจากการเวนคืน ๗. สิทธแิ ละเสรภี าพในการประกอบอาชีพ โดยคำ�นึงถึงประโยชน์สาธารณะผลกระทบต่อผู้ถูกเวนคืนรวมทั้งประโยชน์ท่ีผู้ถูกเวนคืน อาจไดร้ ับจากการเวนคืนน้นั ๑.) บคุ คลยอ่ มมเี สรภี าพในการประกอบอาชพี ๒๐ ๑๖ รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย พุทธศกั ราช ๒๕๖๐ มาตรา ๓๗. ๑๗ รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๓๘. ๑๘ รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๓๙. ๑๙ รฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย พุทธศกั ราช ๒๕๖๐ มาตรา ๓๗. ๒๐ รฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย พทุ ธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๔๐.
- ๑๔ - - ๑๕ - ๘. สิทธชิ มุ ชน๒๑ ๑๑. สทิ ธขิ องผบู้ รโิ ภค๒๖ ๑.) ชมุ ชนมสี ิทธิอนุรักษ์ ฟ้ืนฟู หรือสง่ เสรมิ ภูมปิ ัญญา ศิลปะ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ๑.) สิทธิของผู้บริโภคย่อมได้รับความคุ้มครองโดยกฎหมาย เช่น ผู้ผลิตสินค้าจะผลิต และจารตี ประเพณอี ันดงี ามท้ังของท้องถนิ่ และของชาติ สินค้าที่ไม่ได้คุณภาพเพื่อจำ�หน่ายแก่ผู้บริโภคไม่ได้ เมื่อผู้บริโภคได้รับอันตรายจากการใช้สินค้า ๒) ชมุ ชนมสี ทิ ธจิ ดั การ บ�ำ รงุ รกั ษา และใชป้ ระโยชนจ์ ากทรพั ยากรธรรมชาติ สง่ิ แวดลอ้ ม นั้น ผู้บรโิ ภคสามารถกล่าวอ้างสิทธิของผบู้ รโิ ภคเพอื่ ใหผ้ ผู้ ลิตสนิ ค้าน้นั ชดใชเ้ ยยี วยาคา่ เสียหาย และความหลากหลายทางชีวภาพอย่างสมดุลและยง่ั ยืนตามวธิ กี ารที่กฎหมายบัญญัติ จากการใช้สินคา้ น้นั ได้ ๓.) ชุมชนมีสิทธิเข้าชื่อกันเพื่อเสนอแนะต่อหน่วยงานของรัฐให้ดำ�เนินการใดอันจะเป็น ๒) บคุ คลยอ่ มมีสทิ ธิรวมกนั จดั ตงั้ องค์กรของผ้บู รโิ ภคเพอ่ื คมุ้ ครองและพทิ ักษ์สทิ ธขิ อง ประโยชน์ต่อประชาชนหรือชุมชน หรืองดเว้นการดำ�เนินการใดอันจะกระทบต่อความเป็นอยู่อย่าง ผบู้ รโิ ภค สงบสุขของประชาชนหรือชุมชนและได้รับแจ้งผลการพิจารณาโดยรวดเร็ว ทั้งนี้ หน่วยงานของรัฐ ตอ้ งพจิ ารณาขอ้ เสนอแนะนน้ั โดยใหป้ ระชาชนทเ่ี กย่ี วขอ้ งมสี ว่ นรว่ มในการพจิ ารณาดว้ ยตามวธิ กี าร ๑๒. สทิ ธิในการไดร้ บั บริการสาธารณสุขและสวัสดกิ ารจากรัฐ๒๗ ที่กฎหมายบัญญัติ ๔.) ชมุ ชนมสี ทิ ธจิ ัดใหม้ รี ะบบสวัสดกิ ารของชมุ ชน ๑.) บุคคลยอ่ มมสี ิทธิได้รับบรกิ ารสาธารณสขุ ของรฐั เชน่ การรบั บรกิ ารในโรพยาบาล ๒.) บุคคลผู้ยากไร้ย่อมมีสิทธิได้รับบริการสาธารณสุขของรัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตามที่ ๙. สทิ ธใิ นขอ้ มูลข่าวสารและการรอ้ งเรียน๒๒ กฎหมายบัญญตั ิ ๓.) บคุ คลยอ่ มมสี ทิ ธไิ ดร้ บั การปอ้ งกนั และขจดั โรคตดิ ตอ่ อนั ตรายจากรฐั โดยไมเ่ สยี คา่ ใชจ้ า่ ย ๑.) ได้รับทราบและเข้าถึงข้อมูลหรือข่าวสารสาธารณะในครอบครองของหน่วยงานของ รัฐตามทีก่ ฎหมายบัญญตั ิ ๒๖ รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย พทุ ธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๔๖. ๒.) เสนอเรื่องราวร้องทุกข์ต่อหน่วยงานของรัฐและได้รับแจ้งผลการพิจารณาโดยรวดเร็ว ๒๗ รฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๔๗. ๓.) ฟ้องหน่วยงานของรัฐให้รับผิดเนื่องจากการกระทำ�หรือการละเว้นการกระทำ�ของ ขา้ ราชการพนักงาน หรือลูกจา้ งของหนว่ ยงานของรัฐ ๑๐. เสรภี าพในการชุมนมุ และการสมาคม ๑.) บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการรวมกันเป็นสมาคม สหกรณ์ สหภาพ องค์กร ชุมชนหรือ หมู่คณะ๒๓ ๒.) บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการชมุ นมุ โดยสงบและปราศจากอาวุธ๒๔ ๓.) บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการรวมกันจัดตั้งพรรคการเมืองตามวิถีทางการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริยท์ รงเป็นประมขุ ตามทก่ี ฎหมายบัญญตั ๒ิ ๕ ๒๑ รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ มาตรา ๔๓. ๒๒ รัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย พทุ ธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๔๑. ๒๓ รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๔๒. ๒๔ รัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย พทุ ธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๔๔. ๒๕ รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ มาตรา ๔๕.
- ๑๖ - - ๑๗ - ๑๓. สิทธิของมารดาและผสู้ ูงอาย๒ุ ๘ ๑.๑.๒ การละเมดิ สทิ ธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ๑.) สิทธิของมารดาในช่วงระหว่างก่อนและหลังการคลอดบุตรย่อมได้รับความคุ้มครอง การละเมิดสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญคือการกระทำ�การหรืองดเว้นการกระทำ�การ และช่วยเหลือตามที่กฎหมายบัญญัติ๒๙ เช่น มีสิทธิในการลาคลอดโดยได้รับเงินเดือนหรือไม่ถูก ท่ีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติท่ีกฎหมายบัญญัติรับรองคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพนั้นไว้อันเป็นการกระทำ�ท่ี ปลดออกจากตำ�แหน่งงานระหวา่ งลาคลอด ไมช่ อบดว้ ยรัฐธรรมนญู การกระทำ�ดังกลา่ วอาจเป็นการกระท�ำ ของรฐั หรอื เอกชน ทงั้ น้ีรฐั ธรรมนูญ ๒.) บคุ คลซงึ่ มอี ายุเกนิ หกสิบปีและไมม่ รี ายไดเ้ พียงพอแกก่ ารยงั ชพี และบุคคลผูย้ ากไร้ อาจกำ�หนดให้สามารถจำ�กัดสิทธิและเสรีภาพได้ในบางประการเท่าท่ีจำ�เป็นโดยไม่กระทบต่อสาระ ยอ่ มมสี ิทธิได้รับความชว่ ยเหลือทเ่ี หมาะสมจากรัฐตามท่กี ฎหมายบัญญตั ิ ส�ำ คญั แห่งสิทธนิ ั้น รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๖ บัญญัติเกี่ยวกับ ๑๔. สทิ ธิพิทักษ์รฐั ธรรมนูญ๓๐ การจ�ำ กดั สทิ ธแิ ละเสรภี าพไวว้ า่ “การตรากฎหมายทม่ี ผี ลเปน็ การจ�ำ กดั สทิ ธหิ รอื เสรภี าพของบคุ คล ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ในกรณีที่รัฐธรรมนูญมิได้บัญญัติเงื่อนไขไว้ ๑.) บุคคลจะใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมี กฎหมายดังกล่าวต้องไม่ขัดต่อหลักนิติธรรม ไม่เพิ่ มภาระหรือจำ�กัดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคล พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมิได้ผู้ใดทราบว่ามีการกระทำ�ดังกล่าวย่อมมีสิทธิร้องต่อ เกนิ สมควรแก่เหตุ และจะกระทบต่อศักด์ิศรคี วามเป็นมนษุ ยข์ องบุคคลมไิ ด้ รวมทง้ั ต้องระบเุ หตผุ ล อัยการสูงสุดเพ่ือร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยส่ังการให้เลิกการกระทำ�ดังกล่าวได้ ความจำ�เป็นในการจำ�กัดสิทธิและเสรีภาพไว้ด้วยกฎหมายตามวรรคหนึ่ง ต้องมีผลใช้บังคับ ในกรณีที่อัยการสูงสุดมีคำ�สั่งไม่รับดำ�เนินการตามที่ร้องขอ หรือไม่ดำ�เนินการภายในสิบห้าวัน เปน็ การทว่ั ไป ไมม่ งุ่ หมายใหใ้ ชบ้ งั คบั แกก่ รณใี ดกรณหี นง่ึ หรอื แกบ่ คุ คลใดบคุ คลหนง่ึ เปน็ การเจาะจง” นบั แตว่ ันท่ีไดร้ ับคำ�ร้องขอ ผู้ร้องขอจะยน่ื ค�ำ ร้องโดยตรงตอ่ ศาลรัฐธรรมนญู กไ็ ด้ ในการพิจารณาว่าการกระทำ�ใดเป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ นัน้ สามารถพิจารณาไดจ้ ากขอบเขตของการจ�ำ กัดสิทธิและเสรภี าพทีร่ ฐั ธรรมนญู รับรองไว้ กล่าวคือ ๒๘ รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศกั ราช ๒๕๖๐ มาตรา ๔๗. หากการกระทำ�ใดที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขในการอนุญาตในมีการจำ�กัดสิทธิถือได้ว่าการกระทำ�นั้น ๒๙ เชน่ พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ มาตรา ๓๙. เปน็ การละเมิดสิทธแิ ละเสรีภาพตามรฐั ธรรมนญู ๓๑ ห้ามมใิ หน้ ายจ้างใหล้ ูกจ้างซง่ึ เปน็ หญงิ มีครรภ์ทำ�งานอย่างหนงึ่ อยา่ งใด ดังตอ่ ไปน้ี (๑) งานเกี่ยวกับเครื่องจักรหรอื เครอ่ื งยนต์ทีม่ คี วามสนั่ สะเทอื น ๓๑ สำ�นักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย, การปฏิรูปการเมืองไทย : ฐานคิดและข้อเสนอว่าด้วยการออกแบบรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (๒) งานขบั เคลอื่ นหรอื ตดิ ไปกบั ยานพาหนะ ปี ๒๕๔๐ (กรุงเทพฯ : ภาพพมิ พ์, ๒๕๖๐) หน้า ๑๐๓ - ๑๐๔. (๓) งานยก แบก หาม หาบ ทนู ลาก หรอื เข็นของหนกั เกินสบิ หา้ กโิ ลกรัม (๔) งานที่ท�ำ ในเรือ (๕) งานอนื่ ตามที่กำ�หนดในกฎกระทรวง มาตรา ๓๙/๑ ห้ามมใิ หน้ ายจา้ งให้ลกู จ้างซึง่ เป็นหญิงมคี รรภท์ �ำ งาน ในระหว่างเวลา ๒๒.๐๐ นาฬิกา ถึงเวลา ๐๖.๐๐ นาฬิกา ท�ำ งานลว่ งเวลา หรือท�ำ งานในวันหยุด ในกรณีทีล่ ูกจา้ งซึ่งเป็นหญงิ มคี รรภ์ท�ำ งานในตำ�แหน่งผู้บรหิ าร งานวิชาการ งานธุรการ หรืองานเกย่ี วกบั การเงินหรอื บญั ชี นายจ้าง อาจให้ลูกจ้างนั้นทำ�งานล่วงเวลาในวันทำ�งานได้เท่าที่ไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพของลูกจ้างซ่ึงเป็นหญิงมีครรภ์โดยได้รับความยินยอมจาก ลูกจา้ งก่อนเปน็ คราวๆ ไป มาตรา ๔๑ ใหล้ ูกจา้ งซง่ึ เปน็ หญงิ มีครรภม์ สี ิทธลิ าเพื่อคลอดบุตรครรภ์หนึ่งไมเ่ กนิ เก้าสิบวัน วันลาตามวรรคหน่งึ ให้นับรวมวันหยุดท่ีมใี นระหวา่ งวนั ลาด้วย มาตรา ๔๒ ในกรณีที่ลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงมีครรภ์มีใบรับรองของแพทย์แผนปัจจุบันชั้นหนึ่งมาแสดงว่าไม่อาจทำ�งานในหน้าที่เดิม ต่อไปได้ ให้ลกู จา้ งนน้ั มสี ิทธขิ อใหน้ ายจ้างเปลีย่ นงานในหนา้ ทเ่ี ดิมเป็นการชว่ั คราวก่อนหรือหลังคลอดได้ และใหน้ ายจา้ งพิจารณาเปลยี่ น งานท่เี หมาะสมให้แกล่ ูกจา้ งน้ัน มาตรา ๔๓ ห้ามมใิ ห้นายจา้ งเลกิ จ้างลูกจา้ งซึ่งเป็นหญงิ เพราะเหตมุ ีครรภ์. ๓๐รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ มาตรา ๔๙.
- ๑๘ - - ๑๙ - ข้อพิจารณาเก่ียวกับการจำ�กดั สทิ ธแิ ละเสรภี าพ๓๒ ข้ันตอนแรก จะตอ้ งตรวจสอบว่าการกระท�ำ ของบุคคล หรอื สง่ิ ท่กี ฎหมายค้มุ ครองน้นั อยู่ภายใต้ องค์ประกอบที่รัฐธรรมนูญได้ให้ความคุ้มครองต่อสิทธิ และ เสรีภาพ หรือไม่การตรวจสอบใน การตรวจสอบการกระทำ�ของรฐั ท่กี ระทบต่อสิทธิและเสรภี าพ ข้ันตอนแรกเพื่อต้องการทำ�ให้องค์ประกอบของสิทธิและเสรีภาพแต่ละเร่ืองมีความชัดเจนตาม จะต้องด�ำ เนนิ การตรวจสอบข้นั ตอนต่างๆ ตอ่ ไปนี้ หลักการตีความรัฐธรรมนูญก่อนและหลังจากนั้นจึงตรวจสอบว่าการกระทำ�ที่เกี่ยวข้องหรือ กฎหมายมุง่ คมุ้ ครองน้ันอย่ภู ายใตน้ ยิ ามดังกล่าวหรอื ไม่ ๓๒ บรรเจดิ สงิ คะเนต,ิ หลกั พ้นื ฐานของสิทธิเสรีภาพและศกั ด์ิศรคี วามเป็นมนุษย์ (พมิ พค์ รงั้ ท่ี ๔, กรุงเทพฯ : สำ�นกั พมิ พว์ ญิ ญชู น, ๒๕๕๗) ขั้นตอนทส่ี อง จะตอ้ งตรวจสอบวา่ ผู้ทผี่ กู พนั ตอ่ สทิ ธแิ ละเสรภี าพได้ทำ�การแทรกแซงองคป์ ระกอบ หน้า ๑๙๗-๑๙๘. ของสิทธิและเสรีภาพหรือไม่ท้ังน้ีเฉพาะกรณีของการแทรกแซงต่อขอบเขตของสิทธิและเสรีภาพ เท่าน้ันที่สิทธิและเสรีภาพน้ันแสดงให้เห็นถึงภารกิจในการป้องกันได้เม่ือเข้าเง่ือนไขดังกล่าวแล้ว จึงตรวจสอบตามเงอื่ นไขอื่นๆ ต่อไป ขั้นตอนที่สาม การแทรกแซงในสิทธิและเสรีภาพนั้นได้กระทำ�ตามเงื่อนไขในทางกฎหมายตาม ที่กำ�หนดไวห้ รือไม่ กลา่ วคอื จะต้องพิจารณาวา่ รัฐธรรมนญู ไดก้ ำ�หนดเงื่อนไขในการจำ�กัดสิทธิและ เสรีภาพอย่างไร โดยจะต้องตรวจสอบว่าการจำ�กัดสิทธิและเสรีภาพดังกล่าวเป็นไปตามเงื่อนไข ทก่ี ำ�หนดไว้ในรฐั ธรรมนญู หรือไม่ ข้ันตอนทีส่ ี่ กฎหมายทจี่ ำ�กดั สิทธิและเสรภี าพจะตอ้ งอยู่ภายใตห้ ลกั การต่างๆ ตามทก่ี �ำ หนดไว้ ในรัฐธรรมนญู ดว้ ย เชน่ หลกั การจำ�กดั สิทธิและเสรภี าพตอ้ งมผี ลเปน็ การทั่วไป หลกั การระบุ บทบัญญตั ิแห่งรับธรรมนญู ท่ใี หอ้ �ำ นาจในการตรากฎหมายเพอื่ จ�ำ กดั สิทธิ และหลกั การจ�ำ กดั สิทธิ และเสรภี าพจะกระทบกระเทือนสาระสำ�คัญแห่งสทิ ธิมไิ ด้ ขัน้ ตอนทีห่ ้า การแทรกแซงในสิทธแิ ละเสรีภาพน้นั จะตอ้ งอยูภ่ ายใตเ้ งือ่ นไขที่ก�ำ หนดไวใ้ นสทิ ธิ และเสรภี าพแต่ละเร่อื ง ซ่งึ อาจมีการก�ำ หนดไวเ้ ป็นการเฉพาะสำ�หรบั สทิ ธใิ ดสิทธหิ นึ่ง ข้นั ตอนทห่ี ก การแทรกแซงในสทิ ธแิ ละเสรภี าพน้นั เป็นไปตามหลกั ความได้สดั ส่วนหรอื ไม่
- ๒๐ - - ๒๑ เพ่ือให้การคุ้มครองสิทธิมนุษยชนสามารถปฏิบัติหรือเรียกร้องให้ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติ ศาลรัฐธรรมนูญจะคุ้มครองสทิ ธิมนุษยชนใหแ้ ก่ประชาชน ได้จริงจึงจำ�เป็นท่ีจะต้องสร้างกระบวนการหรือกลไกให้สามารถขับเคลื่อนเร่ืองนี้ไปได้ เพ่ือการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนน้ัน สามารถท�ำ ได้ ๒ วธิ ี คอื รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ไดก้ �ำ หนดกลไกในการค้มุ ครอง ๑.) ใชส้ ทิ ธิทางศาล กลา่ วคอื บุคคลผูท้ ่ีถกู ละเมิดสทิ ธิ หรือเสรีภาพท่ีทางรฐั ธรรมนญู สิทธิมนุษยชนผ่านกลไกสถาบันเพ่ือมีหน้าที่รับเรื่องร้องทุกข์พิจารณาวินิจฉัยหรือมีคำ�ส่ังให้ คุม้ ครองไวม้ ีสทิ ธยิ น่ื ค�ำ ร้องต่อศาลรฐั ธรรมนญู เพื่อมีค�ำ วินจิ ฉัยวา่ การกระท�ำ นั้นขดั หรือแยง้ ตอ่ ดำ�เนินการใดๆ อันเป็นการคุ้มครอง ป้องกัน หรอื ให้ชดใชเ้ ยียวยา ได้แก่ ศาลรฐั ธรรมนูญ รัฐธรรมนูญ๓๔ ตวั อยา่ งเช่น ชาวบ้านทอ่ี าศยั อยู่ในปา่ มากอ่ นการประกาศเขตป่าสงวนแห่งชาติ ศาลปกครอง คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหง่ ชาติ และภายหลังได้ถูกให้อพยพออกจากที่อยู่ที่ทำ�กิน โดยถูกฟ้องต่อศาลว่า ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติ ป่าสงวนแห่งชาติบทบัญญัติในมาตราตามที่ถูกฟ้องนั้น อาจขัดหรือแย้งต่อสิทธิชุมชนตาม ศาลรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนญู มาตรา ๔๓ ขอใหศ้ าลรัฐธรรมนูญเพอื่ ตคี วามวินิจฉยั ๒.) ใช้สทิ ธิผา่ นกระบวนการของผูต้ รวจการแผน่ ดิน๓๕เชน่ บุคคลทีม่ ีความรคู้ วามสามารถ ศาลรฐั ธรรมนูญมีหนา้ ทแี่ ละอ�ำ นาจ สอบเขา้ ทำ�งานในสว่ นราชการได้ แตถ่ กู ปฏิเสธการเข้าทำ�งาน จากส่วนราชการ โดยอา้ งระเบียบ ดงั ต่อไปน๓ี้ ๓ ปฏบิ ตั บิ างประการ ซงึ่ ถือเป็นการเลือกปฏบิ ัติ เพราะเหตุแหง่ เพศภาวะ สภาพทางรา่ งกาย อันขดั ตอ่ รฐั ธรรมนูญ มาตรา ๒๗ วรรค ๓ บุคคลน้นั อาจส่งเรอ่ื งร้องเรียนมายังผู้ตรวจการแผ่นดิน เพ่ือให้ ๑.) พิจารณาวินจิ ฉัยความชอบดว้ ยรัฐธรรมนูญของกฎหมายหรอื รา่ งกฎหมาย ส่งเรื่องรอ้ งเรียนน้ัน ให้ศาลรฐั ธรรมนญู พจิ ารณา๓๖ ๒.) พจิ ารณาวนิ จิ ฉยั ปญั หาเกย่ี วกบั หนา้ ทแ่ี ละอ�ำ นาจของสภาผแู้ ทนราษฎร วฒุ สิ ภา ๓๔ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย พุทธศกั ราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๕. รฐั สภา คณะรฐั มนตรี หรอื องค์กรอิสระ ๓๕ รัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๓๐. ๓.) หน้าที่และอำ�นาจอน่ื ตามทีบ่ ญั ญตั ไิ ว้ในรัฐธรรมนูญ ๓๖ รฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย พทุ ธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๓๑(๑). ๓๓ รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พทุ ธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๑๐.
- ๒๒ - - ๒๓ - ศาลปกครอง เรอ่ื งดงั ต่อไปนี้ไมอ่ ยู่ในอำ�นาจศาลปกครอง๓๘ ๑.) การดำ�เนนิ การเกี่ยวกบั วนิ ัยทหาร เป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นเพื่อทำ�หน้าที่ในการตรวจสอบการใช้อำ�นาจของทางราชการ เพ่ือปกปอ้ งสิทธิของประชาชน และคุ้มครองประโยชน์ของสว่ นรวมใหไ้ ด้ดุลยภาพกนั และเพ่ือ ๒.) การด�ำ เนนิ การของคณะกรรมการตุลาการ สร้างบรรทัดฐานที่ถูกต้องในการปฏิบัติราชการ ศาลปกครองมีอำ�นาจพิจารณาพิพากษาหรือ ตามกฎหมายว่าด้วยระเบยี บขา้ ราชการฝา่ ยตลุ าการ มีคำ�สงั่ ในเร่ืองดังต่อไปน๓ี้ ๗ ๓.) คดีที่อยู่ในอ�ำ นาจของศาลเยาวชนและครอบครัว ศาลแรงงาน ศาลภาษอี ากร ศาลทรพั ยส์ นิ ทางปญั ญา ๑.) คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำ�การ โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่ว่าจะเป็นการออกกฎ คำ�สั่ง หรือการกระทำ�อื่นใดเนื่องจากกระทำ� และการค้าระหวา่ งประเทศ ศาลลม้ ละลาย โดยไม่มีอำ�นาจหรือนอกเหนืออำ�นาจหน้าที่หรือไม่ถูกต้องตามกฎหมายหรือโดยไม่ถูกต้องตาม หรือศาลช�ำ นญั พิเศษอน่ื รูปแบบขั้นตอน หรือวิธีการอันเป็นสาระสำ�คัญที่กำ�หนดไว้สำ�หรับการกระทำ�นั้น หรือโดยไม่ สุจริตหรือมีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม หรือมีลักษณะเป็นการสร้างขั้นตอน ๓๘ รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศกั ราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๕. โดยไม่จ�ำ เป็นหรอื สร้างภาระให้เกิดกับประชาชนเกินสมควร หรือเปน็ การใชด้ ุลพินิจโดยมชิ อบ ๒.) คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครอง หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยต่อ หนา้ ทีต่ ามท่กี ฎหมายกำ�หนดให้ตอ้ งปฏิบัติ หรอื ปฏิบัตหิ นา้ ทดี่ ังกลา่ วลา่ ช้าเกนิ สมควร ๓.) คดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำ�ละเมิด หรือความรับผิดอย่างอื่นของหน่วยงาน ทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเกิดจากการใช้อำ�นาจตามกฎหมาย หรือ จากกฎ คำ�สั่ง ปกครอง หรือคำ�สั่งอื่น หรือจากการละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำ�หนดให้ต้องปฏิบัติหรือ ปฏิบตั ิหนา้ ทดี่ ังกล่าวลา่ ช้าเกินสมควร ๔.) คดีพิพาทเกี่ยวกบั สญั ญาทางปกครอง ๕.) คดที ม่ี กี ฎหมายก�ำ หนดใหห้ นว่ ยงานทางปกครองหรอื เจา้ หนา้ ทข่ี องรฐั ฟอ้ งคดตี อ่ ศาล เพือ่ บงั คบั ให้บคุ คลต้องกระทำ� หรือละเว้นกระท�ำ อย่างหนง่ึ อย่างใด ๖.) คดีพิพาทเกยี่ วกับเร่ืองทีม่ ีกฎหมายกำ�หนดให้อยใู่ นเขตอำ�นาจศาลปกครอง ๓๗ พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพจิ ารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๙.
- ๒๔ - ศาลปกครองจะคุ้มครองสทิ ธมิ นุษยชนให้แก่ประชาชน เพื่อการคุ้มครองสิทธิมนษุ ยชนน้ัน ประชาชนสามารถใช้สิทธิทางศาลตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณา ศาลปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๔๒ บัญญตั ิไว้วา่ “ผใู้ ดไดร้ ับความเดือดร้อนหรือเสียหาย หรือ อาจจะเดอื ดร้อน หรอื เสยี หายโดยมอิ าจหลกี เลยี่ งได้อนั เนื่องจากการกระทำ� หรอื การงดเว้นการ กระทำ�ของหน่วยงานทางปกครอง หรือเจา้ หน้าทขี่ องรัฐ หรือมขี อ้ โต้แยง้ เกยี่ วกบั สญั ญาทาง ปกครอง หรอื กรณอี ่นื ใดทีอ่ ย่ใู นเขตอ�ำ นาจศาลปกครองตามมาตรา ๙ และการแกไ้ ข หรือบรรเทา ความเดือดร้อน หรือความเสียหาย หรือยุติข้อโต้แย้งนั้น ต้องมีคำ�บังคับตามที่กำ�หนดใน มาตรา ๗๒ ผ้นู นั้ มีสทิ ธิฟอ้ งคดตี อ่ ศาลปกครอง” เชน่ บ้านของนายแดงถูกเวนคนื ทดี่ นิ เพื่อสร้าง ถนนสาธารณะแตไ่ ดร้ บั คา่ ชดเชยที่ไม่เปน็ ธรรม นายแดงใชส้ ิทธทิ างศาลฟอ้ งคดตี ่อศาลปกครอง
- ๒๖ - - ๒๗ - กระบวนการคุม้ ครองสิทธิในคดีอาญา หมายถึง การให้ความรู้และการดำ�เนินกระบวนการยุติธรรมทางอาญาเพื่อคุ้มครอง อน่งึ เพอื่ ประโยชน์ในการคุ้มครองสทิ ธิของประชาชนในกระบวนการยุตธิ รรมทาง สิทธิและเสรีภาพของประชาชนผ้มู คี ดคี วาม ผตู้ ้องหา จำ�เลย ผเู้ สยี หาย พยานตลอดจนผมู้ าติดต่อ อาญาภายหลงั ทบ่ี คุ คลถกู กลา่ วหาวา่ กระท�ำ ผดิ ตามทก่ี ฎหมายบญั ญตั ิ มขี อ้ พจิ ารณาประการส�ำ คญั ที่ประชาชนควรรู้ ๒ ประการ ได้แก่ สิทธิในการประกันตัวหรือสิทธิการขอปล่อยชั่วคราว ราชการศาลตามหน้าที่ทกี่ ฎหมายก�ำ หนดไว้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และสิทธิในการเยี่ยมและติดต่อผู้ต้องกักขังตาม การคมุ้ ครองสทิ ธิมีจุดมุ่งหมายเพอ่ื กอ่ ใหเ้ กดิ ความเปน็ ธรรมในสังคม ระเบยี บกรมราชทัณฑว์ ่าดว้ ยการปฏบิ ตั ิต่อผู้ต้องกกั ขัง พ.ศ. ๒๕๔๙ กฎหมายดังกล่าวมงุ่ คุ้มครอง และเพ่อื เป็นช่องทางใหป้ ระชาชนได้ทราบถงึ การมีอยขู่ องสิทธิและขน้ั ตอนในการใช้สิทธิตามท่ี และประกันสิทธิของประชาชนใหไ้ ด้รบั การปฏิบัติอยา่ งยตุ ิธรรม โดยเคารพและตระหนักในคุณคา่ กฎหมายรับรองและคมุ้ ครองไว้ ทวา่ ในกระบวนการยุตธิ รรมทางอาญามปี ัญหาบางประการท่ี ของศกั ด์ศิ รคี วามเปน็ มนษุ ย์และเพ่ือธ�ำ รงไวซ้ ่ึงความสงบสุขในสังคม มีสาระส�ำ คัญดงั ตอ่ ไปนี้ ขัดขวางไมใ่ หค้ คู่ วามหรือประชาชนมโี อกาสเขา้ ถึงกระบวนการยตุ ธิ รรม
- ๒๘ - - ๒๙ - ๒.๑ การประกันตวั ๒.๑.๑ หลักเกณฑ์การประกนั ตวั (ปลอ่ ยช่วั คราว) หมายถงึ การขออนุญาตให้ผู้ต้องหาหรือจำ�เลยพ้นจากการควบคุมของเจ้าพนักงาน การปล่อยชั่วคราว หรือการอนุญาตให้ผู้ต้องหา หรือจำ�เลยได้รับการประกันตัว หรือศาลตามระยะเวลาที่กำ�หนด โดยมีประกันหรือไม่มีหลักประกันก็ได้ หรือเรียกว่า เป็นดุลยพินิจของเจ้าพนักงานผู้มีอำ�นาจ หรือศาลแล้วแต่กรณีประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา การขอปล่อยชั่วคราวการประกันตัวมีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้ต้องหาหรือจำ�เลยให้ ความอาญา มาตรา ๑๐๘ บัญญัติว่า “ในการวินิจฉัยคำ�ร้องขอให้ปล่อยชั่วคราว ต้องพิจารณา ผู้ต้องหา หรือจำ�เลยได้รับความเท่าเทียมในการแสวงหาพยานหลักฐานมาต่อสู้คดีพิสูจน์ ขอ้ เหล่านี้ประกอบ” ซ่ึงได้แก่ ความบริสุทธิ์ของตน ซึ่งในคดีอาญามีหลักการสำ�คัญคือ “หลักไม่มีความผิดโดยไม่มีกฎหมาย ไม่มีโทษโดยไม่มีกฎหมาย๓๙” และ “ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำ�เลยไม่มีความผิดก่อน (๑) ความหนกั เบาแหง่ ขอ้ หา (๒) พยานหลักฐานทปี่ รากฏแลว้ มเี พียงใด มคี �ำ พพิ ากษาถงึ ท่ีสดุ ” หลกั การดังกลา่ วได้รบั รองไวใ้ นรัฐธรรมนูญ๔๐” กล่าวคือ จะปฏิบัติตอ่ บุคคล (๓) พฤติการณต์ ่างๆ แห่งคดเี ปน็ อยา่ งไร นน้ั เสมือนเปน็ ผ้กู ระท�ำ ความผดิ โดยการควบคุม หรือคมุ ขังผู้ตอ้ งหาหรือจำ�เลยไวเ้ ป็นระยะเวลานาน (๕) ผู้ต้องหา หรอื จ�ำ เลยนา่ จะหลบหนีหรอื ไม่ (๔) เชื่อถอื ผู้รอ้ งขอประกนั ไม่ได้ เพราะการควบคุม หรือคุมขังผู้ต้องหา หรือจำ�เลยไว้เป็นระยะเวลานานเป็นเสมือนการได้ หรือหลกั ประกันไดเ้ พียงใด พิพากษาไปแล้วว่าบุคคลนั้นมีความผิดกฎหมายจึงบัญญัติคุ้มครองสิทธิการขอปล่อยชั่วคราว (๖) ภยั อันตราย หรอื ความเสยี หาย ไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ทจี่ ะเกดิ จากการปลอ่ ยช่ัวคราวมเี พียงใด หรือไม่ ผ้มู สี ิทธิยืน่ คำ�ร้องขอปลอ่ ยชวั่ คราว๔๑ ได้แก่ (๗) ในกรณีทีผ่ ตู้ อ้ งหา หรือจ�ำ เลยตอ้ งขงั ตามหมายศาล ถ้ามคี �ำ คดั ค้านของพนักงานสอบสวน พนักงานอยั การ โจทก์ หรอื ผูเ้ สยี หาย แลว้ แต่กรณี ศาลพึงรับประกอบการวินจิ ฉัยได้ (๑) ผูต้ ้องหาหรอื จ�ำ เลย “ผู้ต้องหา” หมายถึง บุคคลผู้ถูกหาว่าได้กระทำ�ความผิดตามที่กฎหมายบัญญัติแต่ยังมิได้ ถูกฟ้องต่อศาล กลา่ วคอื ยังอยู่ในชน้ั ของพนกั งานสอบสวนและพนกั งานอัยการ “จำ�เลย” หมายถึง บุคลซึ่งถูกฟ้องต่อศาลแล้ว โดยข้อหาว่ากระทำ�ความผิดตามที่กฎหมาย บัญญัติ กล่าวคือ ศาลรบั ฟ้องของโจทก์อยูใ่ นชน้ั พิจารณาของศาลแล้ว (๒) ผมู้ ีประโยชน์เกีย่ วข้องกบั ผู้ต้องหาหรือจำ�เลย อันได้แก่ บุพการี ผู้สืบสันดาน สามีภริยา ญาติพี่น้อง ผู้ปกครอง ผู้บังคับบัญชา นายจ้าง ทนายความ บุคคลที่เกี่ยวพันโดยทางสมรส บุคคลที่เจ้าพนักงาน หรือศาลเห็นว่ามีความสัมพันธ์ ใกล้ชิดเสมือนเป็นญาติ พนี่ ้อง หรือมีความสัมพันธ์ในทางอ่นื ทีเ่ จ้าพนกั งานหรือศาลเหน็ สมควร ๓๙ สมยศ เชอ้ื ไทย, นิติปรชั ญาเบื้องต้น, (พมิ พ์ครง้ั ท่ี ๑๑, กรุงเทพฯ : ส�ำ นกั พิมพ์วญิ ญชู น, ๒๕๕๐) หนา้ ๙๗. ๔๐ รัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศักราช ๒๕๖๐ มาครา ๒๙. ๔๑ ประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๐๖.
- ๓๐ - - ๓๑ - ในการอนญุ าตให้ประกนั ตัวเจ้าพนักงานซ่ึงมีอำ�นาจ (พนกั งานสอบสวน พนกั งานอยั การ) ๒.๑.๒ ประเภทของการปลอ่ ยช่วั คราว สั่งให้ปล่อยชั่วคราว หรือศาลจะกำ�หนดเงื่อนไขเกี่ยวกับที่อยู่หรือเงื่อนไขอื่นใดให้ผู้ถูกปล่อย ชั่วคราวปฏิบัติ เช่น ห้ามมิให้เดินทางออกนอกประเทศ หรือกำ�หนดให้มารายงานตัวตามระยะ การปล่อยชั่วคราวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ให้อำ�นาจ เวลาที่กำ�หนด หรือในกรณีที่ผู้นั้นยินยอมจะสั่งให้ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรืออุปกรณ์อื่นใด เจ้าพนักงาน หรือศาลตามแต่กรณี พิจารณาอนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหา หรือจำ�เลยชั่วคราว ทสี่ ามารถใชต้ รวจสอบ หรอื จำ�กดั การเดนิ ทางของผู้ถกู ปลอ่ ยชั่วคราวก็ได้ เพอ่ื ปอ้ งกันการหลบหนี ได้แบง่ ออกเป็น ๓ ประเภท ดงั น้ี หรือภัยอันตราย หรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น แต่ถ้าผู้ถูกปล่อยชั่วคราวมีอายุไม่ถึง ๑. การปลอ่ ยช่ัวคราวโดยไมม่ ีประกนั ๔๓ คอื การปลอ่ ยชว่ั คราวผ้ตู อ้ งหา หรอื จ�ำ เลย สิบแปดปีบริบูรณ์ แม้ผู้นั้นยินยอม จะสั่งให้ใช้อุปกรณ์ดังกล่าวได้ต่อเมื่อผู้นั้นมีพฤติการณ์ที่อาจ โดยไม่ต้องทำ�สัญญาประกันและไม่ตอ้ งมีหลกั ประกันแตอ่ ย่างใด เพยี งแต่ให้ผตู้ ้องหา หรอื จ�ำ เลย เป็นภัยต่อบุคคลอืน่ อย่างรา้ ยแรงหรอื มเี หตุสมควรประการอ่ืน สาบาน หรือปฏิญาณตนวา่ จะมาตามนดั หรอื หมายเรยี กของเจา้ พนกั งานหรือศาลเทา่ นัน้ ทง้ั นศ้ี าลอาจใชด้ ลุ พนิ จิ ไมอ่ นญุ าตใหป้ ลอ่ ยชว่ั คราวไดต้ อ่ เมอ่ื มเี หตอุ นั ควรเชอ่ื ๔๒เหตใุ ดเหตหุ นง่ึ ๒. การปล่อยชั่วคราวโดยมีประกัน๔๔ คือ การปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา หรือจำ�เลย ดงั ตอ่ ไปนี้ โดยผู้ร้องขอประกัน หรือผู้ประกันต้องทำ�สัญญาประกันต่อเจ้าพนักงาน หรือศาลว่าจะปฏิบัติตาม (๑) ผู้ต้องหา หรอื จ�ำ เลยจะหลบหนี นดั หรอื ตามหมายเรยี กตอ่ เจา้ พนกั งานหรอื ศาล ถา้ ผตู้ อ้ งหา หรอื จ�ำ เลยไมม่ าตามนดั หรอื หมายเรยี ก (๒) ผตู้ ้องหา หรือจ�ำ เลยจะไปยุง่ เหยิงกบั พยานหลักฐาน ผ้ปู ระกนั จะถกู ปรับตามจ�ำ นวนเงินทีก่ ำ�หนดไว้ในสัญญาประกัน (๓) ผ้ตู อ้ งหา หรือจ�ำ เลยจะไปก่อเหตอุ ันตรายประการอื่น ๓. การปลอ่ ยช่ัวคราวโดยมีประกนั และหลกั ประกัน๔๕ คือ การปล่อยชว่ั คราวผตู้ ้องหา (๔) ผู้รอ้ งขอประกนั หรือหลกั ประกันไม่นา่ เชอื่ ถือ หรอื จำ�เลยโดยผปู้ ระกนั หรือผู้เป็นหลักประกนั ต้องทำ�สญั ญาประกันตอ่ เจา้ พนักงาน หรอื ศาล (๕) การอนญุ าตให้ปลอ่ ยชัว่ คราวจะเป็นอปุ สรรค หรือกอ่ ให้เกดิ ความเสยี หายตอ่ การ วา่ จะปฏบิ ตั ิตามนัดหรอื หมายเรียกของเจ้าพนกั งาน หรือศาลและผู้ประกนั หรอื ผเู้ ปน็ หลักประกนั สอบสวนของเจา้ พนกั งาน หรอื การด�ำ เนนิ คดีในศาล ต้องวางหลักประกันไว้เพื่อที่จะสามารถบังคับเอากับหลักประกันตามจำ�นวนเงินท่ีระบุไว้ได้เม่ือ มกี ารผดิ สญั ญาประกนั ๔๒ ประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณาความอาญา มาตรา ๑๑๘/๑. เมื่อจะปล่อยชั่วคราวโดยใหม้ ีประกนั และหลักประกันดว้ ย ก่อนปลอ่ ยตัวไป ให้ผ้รู อ้ งขอประกนั จัดหาหลักประกันมาดังเจ้าพนักงาน หรือศาลต้องการ หลักประกันที่ใช้ในการขอปล่อยชั่วคราว มี ๓ ชนิด๔๖ ได้แก่ ๑.) มเี งนิ สดมาวาง๔๗ ๒.) มีหลกั ทรัพย์อืน่ มาวาง ๓.) มบี คุ คลมาเป็นหลกั ประกนั โดยแสดงหลกั ทรพั ย์ ๔๓ ประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณาความอาญา มาตรา ๑๑๑. ๔๔ ได้แก่คดที ่ีมีอตั ราโทษจ�ำ คกุ อย่างสูงเกินห้าปีขึ้นไป. ๔๕ ประมวลกฎหมายวิธพี จิ ารณาความอาญา มาตรา ๑๑๐. ๔๖ ประมวลกฎหมายวธิ พี จิ ารณาความอาญา มาตรา ๑๑๔. ๔๗ โปรดดู ข้อบงั คับของประธานศาลฎกี าว่าดว้ ยหลักเกณฑ์ วิธีการและเง่ือนไขเก่ียวกบั การเรยี กประกนั หรือหลกั ประกนั ในการปลอ่ ย ช่วั คราวผตู้ ้องหาหรอื จำ�เลยในคดอี าญา พ.ศ. ๒๕๔๘ ขอ้ ๕.
- ๓๒ - - ๓๓ - การปล่อยช่ัวคราวโดยมหี ลกั ทรัพยเ์ ปน็ ประกนั อาจใชห้ ลักทรัพยด์ ังตอ่ ไปนี้๔๘ กรณีผู้ตอ้ งหา หรือจำ�เลยทำ�สัญญาประกนั ตนเอง หากผ้ตู อ้ งหา หรอื จ�ำ เลยเปน็ พนกั งาน (๑) ที่ดนิ มโี ฉนด ที่ดนิ มหี นังสอื รับรองการทำ�ประโยชน์ หรอื ห้องชดุ โดยมโี ฉนดท่ดี นิ หรือ ผู้ประกอบวชิ าชพี เชน่ แพทย์ เภสชั กร พยาบาล วิศวกร สถาปนกิ ทนายความ ผู้สอบบัญชี หนงั สือรับรองการท�ำ ประโยชน์ หรอื หนังสอื กรรมสทิ ธิ์ห้องชุด และหนังสอื รับรองราคาประเมิน ครู ผ้ปู ระกอบวชิ าชพี ดา้ นสื่อมวลชน หรอื ผปู้ ระกอบวชิ าชพี อนื่ ทีศ่ าลเห็นสมควรใหป้ ระกนั ได้ ของส�ำ นักงานที่ดนิ นำ�มาแสดง หากจะน�ำ สง่ิ ปลกู สร้างบนที่ดนิ มาเปน็ ประกันดว้ ยก็จะตอ้ งแสดง และการกระท�ำ ทีถ่ กู กล่าวหาว่าเป็นความผิดเกดิ จากการปฏิบตั หิ นา้ ที่ หรอื การปฏิบตั งิ านในการ สำ�เนาทะเบยี นบา้ น และหนังสอื ประเมนิ ราคาส่ิงปลกู สรา้ งทน่ี ่าเช่ือถอื ประกอบด้วย ประกอบวชิ าชพี นัน้ ใหผ้ ูต้ ้องหาหรอื จำ�เลยท�ำ สัญญาประกนั ตนเองไดใ้ นวงเงนิ ไมเ่ กิน ๑๕ เท่าของ (๒) หลักทรพั ยม์ ีคา่ อย่างอ่นื ทีก่ �ำ หนดราคามูลคา่ ทแี่ นน่ อนได้ เชน่ พนั ธบัตรรัฐบาล อัตราเงนิ เดอื น หรอื รายได้เฉลย่ี ตอ่ เดอื น๕๐ สลากออมสนิ บัตร หรอื สลากออมทรพั ย์ทวีสนิ ของธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ทัง้ นี้ นิตบิ คุ คลอาจเปน็ ผู้ขอประกนั ได้ กล่าวคือในกรณีท่กี รรมการ ผ้แู ทน ตวั แทน ใบรับเงินฝากประจำ�ธนาคาร ตั๋วแลกเงินที่ธนาคารเป็นผ้จู า่ ย และธนาคารผ้จู ่ายไดร้ ับรองตลอดไป หุ้นสว่ น พนักงาน หรอื ลูกจ้างของนติ บิ ุคคลนน้ั ตกเป็นผู้ต้องหา หรือจำ�เลย ใหท้ �ำ สญั ญาประกัน แล้วตว๋ั สัญญาใชเ้ งนิ ทีธ่ นาคารเป็นผูอ้ อกตว๋ั เชค็ ท่ธี นาคารเป็นผู้สัง่ จา่ ยหรือรับรองซ่ึงสามารถเรยี ก ได้ในวงเงนิ ตามที่ศาลเหน็ สมควรเป็นกรณีๆ ไป และศาลอาจกำ�หนดใหผ้ ู้ขอประกนั วางเงนิ หรือ เกบ็ เงินไดใ้ นวันทท่ี ำ�สญั ญาประกนั และหนังสอื รับรองของธนาคารหรือบริษัทประกันภยั เพอ่ื ชำ�ระ หลักทรัพย์อื่นตามจำ�นวนที่เห็นสมควรเพิ่มเติมด้วยก็ได้ โดยจะต้องแสดงหนังสือรับรอง เบย้ี ปรับแทนในกรณีผิดสญั ญาประกัน เป็นตน้ การจดทะเบียนและหลักฐานแสดงฐานะการเงินและผู้มีอำ�นาจทำ�การแทน ในกรณีฉุกเฉิน (๓.) มบี คุ คลมาเปน็ หลกั ประกนั โดยแสดงหลักทรพั ย์ ไม่สามารถนำ�ต้นฉบับเอกสารมาแสดงได้ทัน ให้ผ่อนผันโดยแสดงสำ�เนาเอกสารดังกล่าวและ กรณีบคุ คลเป็นประกนั หรือหลักประกัน บุคคลผขู้ อประกันจะต้องเปน็ ผ้มู ีตำ�แหน่งหนา้ ทก่ี ารงาน ใหน้ �ำ ตน้ ฉบบั เอกสารมาแสดงภายหลงั ๕๑ หรือมีรายได้แน่นอน เช่น เป็นข้าราชการ ข้าราชการบำ�นาญ สมาชิกรัฐสภา ผู้บริหารราชการ สว่ นทอ้ งถิ่น สมาชกิ สภาท้องถ่นิ พนักงานองค์การบรหิ ารสว่ นท้องถิน่ พนักงานรฐั วสิ าหกิจ พนักงานของรฐั ประเภทอนื่ ๆ ลูกจ้างของทางราชการ หรือรัฐวิสาหกจิ ผบู้ รหิ ารพรรคการเมือง หรือทนายความ และเป็นผู้มีความสมั พนั ธ์กับผตู้ ้องหา หรอื จำ�เลย เช่น เปน็ บพุ การี ผูส้ บื สันดาน สามี ภรยิ า ญาตพิ นี่ อ้ ง ผบู้ งั คบั บัญชา นายจ้างบคุ คลท่เี กีย่ วพนั โดยทางสมรส หรอื บคุ คลที่ศาล เหน็ วา่ มคี วามสัมพันธใ์ กล้ชิดเสมอื นเป็นญาติพีน่ อ้ งหรอื มคี วามสมั พนั ธใ์ นทางอ่ืนท่ีศาลเห็นสมควร ใหป้ ระกนั ได้ ท�ำ สญั ญาประกนั ไดใ้ นวงเงนิ ไมเ่ กนิ ๑๐ เทา่ ของอตั ราเงนิ เดอื นหรอื รายไดเ้ ฉลย่ี ตอ่ เดอื น๔๙ ๔๘ ขอ้ บังคบั ของประธานศาลฎกี าว่าดว้ ยหลกั เกณฑ์ วธิ กี ารและเงื่อนไขเก่ยี วกบั การเรียกประกันหรือหลกั ประกนั ในการปลอ่ ยชัว่ คราวผู้ ๕๐ อ้างแล้วเชิงอรรถที่ ๔๗. ต้องหาหรอื จำ�เลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๘ ขอ้ ๑๐. ๕๑ อา้ งแล้วเชิงอรรถที่ ๔๗. ๔๙ ข้อบงั คบั ของประธานศาลฎีกาว่าด้วยหลกั เกณฑ์ วิธกี ารและเงอ่ื นไขเก่ียวกับการเรียกประกันหรือหลักประกันในการปลอ่ ยชว่ั คราวผู้ ต้องหาหรอื จำ�เลยในคดอี าญา พ.ศ. ๒๕๔๘ ข้อ ๑๑.
- ๓๔ - - ๓๕ - คดขี องการปล่อยชว่ั คราว ๒.๑.๓ ระยะเวลา คดีของการปลอ่ ยชัว่ คราวแบง่ ได้ ๒ ลกั ษณะ๕๒ ๑. ระยะเวลาในการยืน่ คำ�ร้องขอปล่อยชว่ั คราว ลักษณะที่ ๑ คดีท่ีมีอตั ราโทษจำ�คุกอย่างสูงเกินห้าปีขึน้ ไป คดีประเภทน้ตี ามประมวลกฎหมาย การยน่ื คำ�รอ้ งขอปล่อยผู้ตอ้ งหา หรอื จำ�เลยชั่วคราว โดยไมต่ ้องมีประกัน หรือมปี ระกัน วิธีพิจารณาความอาญา กำ�หนดว่าผู้ท่ีถูกปล่อยช่วั คราวจะต้องมีประกันและจะมีหลักประกันดว้ ย และหลักประกนั ไมว่ ่าผูน้ น้ั ต้องควบคมุ หรือขงั ตามหมายศาล ยอ่ มย่นื ไดโ้ ดยผู้ตอ้ งหา จ�ำ เลย หรือไมก่ ไ็ ด้ เช่น ความผดิ ฐานชิงทรัพย์ ซ่งึ มรี ะวางโทษจำ�คุกตัง้ แตห่ า้ ปถี ึงสบิ ปี และปรับต้งั แต่ หนึง่ หมนื่ บาทถึงสองหมนื่ บาท การปลอ่ ยชัว่ คราวจะตอ้ งมีประกัน กลา่ วคือต้องมีการทำ�สญั ญา หรอื ผูม้ ปี ระโยชน์เกย่ี วขอ้ ง ตามลำ�ดับ ดังน้ี ประกนั นนั่ เอง แต่ถา้ จะต้องมีหลักประกนั ดว้ ยก็จะตอ้ งจัดหามาดว้ ย ลกั ษณะท่ี ๒ คดีอยา่ งอืน่ ค�ำ วา่ คดอี ยา่ งอน่ื ตามประมวลกฎหมายวธิ พี จิ ารณาความอาญา หมายถงึ คดีอะไรก็ตามหากมิใช่คดีที่มีอัตราโทษจำ�คุกอย่างสูงเกินห้าปีขึ้นไป การปล่อยชั่วคราวนั้น จะกระท�ำ โดยไมม่ ปี ระกนั เลย หรอื มปี ระกนั และหลกั ประกนั ดว้ ยกไ็ ด้ เชน่ ความผดิ ฐานวง่ิ ราวทรพั ย์ ซึ่งมีระวางโทษจำ�คุกไม่เกินห้าปีและปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท จะเห็นว่าการปล่อยชั่วคราวนั้น จะไม่มีประกัน กล่าวคือ ไม่ต้องมีการทำ�สัญญาประกันด้วยก็ได้ แต่ถ้าหากการปล่อยชั่วคราวดัง กลา่ วตอ้ งมหี ลกั ประกนั ดว้ ยกต็ อ้ งมกี ารท�ำ สญั ญาประกนั และหากจะตอ้ งมหี ลกั ประกนั ประกอบดว้ ย ก็จะต้องปฏิบัติตาม คือ ต้องจัดหาหลักประกัน เช่น เงินสด หรือหลักทรัพย์อื่นมาวาง เป็นหลักประกันด้วยนน่ั เอง ๕๒ ประมวลกฎหมายวิธีพจิ ารณาความอาญา มาตรา ๑๑๑.
- ๓๖ - - ๓๗ - ๑.) การยื่นคำ�ร้องขอปล่อยชั่วคราวชั้นก่อนฝากขัง เมื่อผู้ต้องหาถูกควบคุมอยู่และยังมิได้ ๔.) เมื่อศาลอ่านคำ�พิพากษาศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์แล้ว แม้ยังไม่มีการยื่นอุทธรณ์ ถูกฟ้องต่อศาล ให้ยื่นต่อพนักงานสอบสวน หรือพนักงานอัยการแล้วแต่กรณี๕๓ กล่าวคือ เมื่อผู้ต้องหา หรือฎีกา หรือมีการยื่นอุทธรณ์ หรือฎีกาแล้วแต่ยังไม่ได้ส่งสำ�นวนไปยังศาลอุทธรณ์ หรือศาลฎีกา ถูกควบคุมอยู่ระหว่างสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือถูกควบคุมอยู่ระหว่างการพิจารณาสั่งฟ้อง ให้ยื่นต่อศาลชั้นต้นที่ชำ�ระคดีนั้น ในกรณีที่ศาลชั้นต้นเห็นสมควรให้ปล่อยชั่วคราว ให้ศาลชั้ต้น ของพนักงานอัยการ โดยยังมิได้มีการนำ�ตัวผู้ต้องหามาขออนุญาตศาลฝากขังระหว่างสอบสวน ในชั้นนี้ สง่ั อนญุ าต มฉิ ะนน้ั ใหร้ บี สง่ ค�ำ รอ้ งพรอ้ มส�ำ นวนไปใหศ้ าลอทุ ธรณ์ หรอื ศาลฎกี าเพอ่ื สง่ั แลว้ แตก่ รณ๕ี ๘ ผู้ขอประกันตัวสามารถยื่นคำ�ร้องขอปล่อยชั่วคราวได้ ที่พนักงานสอบสวน หรือพนักงานอัยการ ๕.) เมื่อศาลส่งสำ�นวนไปยังศาลอุทธรณ์ หรือศาลฎีกาแล้ว จะยื่นต่อศาลชั้นต้นที่ชำ�ระ ซึ่งก็แล้วแตว่ ่าการด�ำ เนินคดีอยู่ชน้ั ใด คดีนั้น หรือจะยื่นต่อศาลอุทธรณ์ หรือศาลฎีกา แล้วแต่กรณีก็ได้ ในกรณีที่ยื่นต่อศาลชั้นต้น ๒.) การยื่นคำ�ร้องขอปล่อยชั่วคราวชั้นระหว่างฝากขัง เมื่อผู้ต้องหา ต้องขังตามหมายศาล ใหศ้ าลชัน้ ตน้ รบี สง่ ค�ำ ร้องไปยงั ศาลอุทธรณ์ หรอื ศาลฎีกาเพือ่ สั่งแลว้ แตก่ รณ๕ี ๙ และยังมไิ ดถ้ กู ฟอ้ งต่อศาลใหย้ ่นื ต่อศาลนั้น๕๔ กลา่ วคือ เมอื่ ผูต้ อ้ งหาถกู พนักงานสอบสวน หรือพนกั งาน ๖.) การยื่นคำ�ร้องขอปล่อยชั่วคราวบุคคลที่ถูกกักขังหรือจำ�คุกกรณีอื่น เช่น ศาล อยั การ นำ�ตัวมาขออนุญาตศาลฝากขัง ระหว่างท่ียงั สอบสวนไมเ่ สร็จส้ิน ผตู้ อ้ งหามสี ิทธยิ นื่ คำ�ร้องขอให้ ออกหมายจับพยานที่จงใจไม่มาศาล หรือกรณีละเมิดอำ�นาจศาล หรือลูกหนี้ตามคำ�พิพากษาที่ถูก ปลอ่ ยชัว่ คราว ตอ่ ศาลชั้นต้นท่ีมีอ�ำ นาจพิจารณาคดีนั้นๆ จบั กมุ โดยเหตุ จงใจขดั ขนื ค�ำ บงั คบั ตามประมวลกฎหมายวธิ พี จิ ารณาความแพง่ มาตรา ๓๐๐ ฯลฯ ๓.) การยื่นคำ�ร้องขอปล่อยชั่วคราวชั้นระหว่างพิจารณาคดีของศาลชั้นต้น เมื่อผู้ต้องหา บุคคล เช่นวา่ นน้ั มีสทิ ธิยน่ื คำ�รอ้ งขอปล่อยชัว่ คราวได้ ในชัน้ ที่ตนถูกพจิ ารณาส่ังขงั หรือจ�ำ คกุ นนั้ ๖๐ ถกู ฟอ้ งแล้ว ให้ย่นื ตอ่ ศาลชน้ั ต้นท่ีช�ำ ระคดนี ้นั ๕๕ กลา่ วคอื เมอื่ ผู้ต้องหาถูกพนกั งานอัยการยน่ื ฟอ้ งคดตี อ่ ศาลแล้ว ก็จะเปลี่ยนฐานะจากผู้ต้องหามาเป็นจำ�เลย ตามกฎหมายจำ�เลยมีสิทธิยื่นคำ�ร้องขอปล่อยตัว ๒. ระยะเวลาขอปลอ่ ยช่ัวคราวชน้ั กอ่ นฟ้อง ชั่วคราวต่อศาลได้ ในคดีที่ราษฎรเป็นโจทก์ เมื่อศาลมีคำ�สั่งประทับรับฟ้องและหมายเรียกจำ�เลยให้มา แกค้ ดี จ�ำ เลยมสี ทิ ธยิ น่ื ค�ำ รอ้ งขอใหป้ ลอ่ ยชว่ั คราวตอ่ ศาล ทง้ั น้ี จะยน่ื ค�ำ รอ้ งขอใหป้ ลอ่ ยตวั ชว่ั คราวกอ่ น เมอ่ื พนกั งานสอบสวน หรอื พนกั งานอยั การสง่ั ปลอ่ ยชว่ั คราวไมว่ า่ จะมปี ระกนั หรอื มปี ระกนั วนั นัด หรือในวันนัดตามที่ระบไุ วใ้ นหมายเรยี กกไ็ ด้ และหลักประกัน หรือไม่การปล่อยชั่วคราวนั้นให้ใช้ได้ระหว่างการสอบสวน หรือจนกว่าผู้ต้องหา กรณีศาลชั้นต้นมีคำ�สั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยผู้ต้องหา หรือจำ�เลยชั่วคราวผู้ขอประกันมีสิทธิ ถูกศาลสั่งขังระหว่างสอบสวน หรือจนถึงศาลประทับฟ้อง แต่มิให้เกินสามเดือนนับแต่วันแรกที่มี อทุ ธรณ์คำ�ส่ังน้ันได๕้ ๖ ค�ำ สัง่ ของศาลช้นั ตน้ ให้อุทธรณ์ไปยังศาลอทุ ธรณค์ �ำ สั่งของศาลอทุ ธรณ์ใหอ้ ุทธรณ์ การปล่อยชั่วคราว ไม่ว่าเป็นการปล่อยชั่วคราวโดยพนักงานสอบสวน หรือพนักงานอัยการ ในกรณี ไปยังศาลฎีกา การอุทธรณ์กรณีศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว กฎหมายมิได้กำ�หนดระยะเวลา ที่มีเหตุจำ�เป็นทำ�ให้ไม่อาจทำ�การสอบสวนได้เสร็จภายในกำ�หนดสามเดือนจะยืดเวลาการปล่อย ไวผ้ ตู้ อ้ งหา หรอื จ�ำ เลยมสี ทิ ธยิ น่ื อทุ ธรณไ์ ดแ้ มล้ ว่ งพน้ เดอื นหนง่ึ นบั แตว่ นั ทศ่ี าลมคี �ำ สง่ั ๕๗ กรณศี าลอทุ ธรณ์ ชว่ั คราวใหเ้ กินสามเดือนก็ได้ แต่มใิ ห้เกินหกเดอื น ไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว คำ�สั่งของศาลอุทธรณ์ที่ไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวยืนตามศาลชั้นต้น เมอ่ื การปลอ่ ยชว่ั คราวสน้ิ สดุ ลงตามวรรคหนง่ึ แลว้ ถา้ ยงั มคี วามจ�ำ เปน็ ทจ่ี ะตอ้ งควบคมุ ผตู้ อ้ งหา เป็นที่สดุ ท้ังน้ีไมต่ ดั สิทธทิ ่ีจะยน่ื คำ�รอ้ งขอประกนั ตวั ใหม่ ไว้ต่อไปให้สง่ ผูต้ อ้ งหามาศาล และใหน้ ำ�บทบญั ญตั มิ าตรา ๘๗ วรรคส่ี ถงึ วรรคเก้า มาใช้บังคบั ๖๑ ๕๓ ประมวลกฎหมายวธิ พี จิ ารณาความอาญา มาตรา ๑๐๖ (๑). ๕๘ ประมวลกฎหมายวธิ พี ิจารณาความอาญา มาตรา ๑๐๖ (๔). ๕๔ ประมวลกฎหมายวิธีพจิ ารณาความอาญา มาตรา ๑๐๖ (๒). ๕๙ ประมวลกฎหมายวธิ ีพจิ ารณาความอาญา มาตรา ๑๐๖ (๕). ๕๕ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๐๖ (๓). ๖๐ อา้ งแล้วเชิงอรรถที่ ๔๐. ๕๖ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๑๙ ทวิ. ๖๑ ประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๑๓. ๕๗ เทยี บเคียงค�ำ สงั่ คำ�ร้องศาลฎกี าท่ี ๖๑๗/๒๕๒๘.
- ๓๘ - - ๓๙ - ๒.๑.๔ กรณีอนื่ ๆเกยี่ วกบั สัญญาประกนั และหลักประกนั ๓. การคืนหลักประกนั ๑. หนา้ ท่ขี องนายประกัน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๑๘ บัญญัติว่า “เมื่อคดีถึงที่สุด หรือความผิดตามสัญญาประกันหมดไปตามมาตรา ๑๑๖ หรือโดยเหตุอื่น ให้คืนหลักประกันแก่ นายประกนั มหี น้าที่ดงั ต่อไปน้ี ผู้ควรรับไป”การคืนหลักประกันนั้นนอกจากจะกระทำ�ได้เมื่อคดีถึงที่สุดหรือเมื่อผู้ทำ�สัญญา ๑.) ให้ชื่อและที่อยู่ตามจริงต่อศาล ซึ่งต้องเป็นที่อยู่ปัจจุบันและสามารถติดต่อได้ ประกันมอบตัวผู้ต้องหา หรือจำ�เลยคืนต่อพนักงาน หรือศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ทันที หากมีการย้ายท่อี ยตู่ อ้ งแจง้ ใหศ้ าลทราบโดยเร็ว ความอาญา มาตรา ๑๑๖ แล้วยังรวมเหตุอื่นๆ อีกด้วย เช่น จำ�เลยถึงแก่ความตาย สิทธินำ� ๒.) เมื่อศาลอนุญาตให้ประกัน ต้องเซ็นสัญญาประกันไว้เป็นหลักฐาน และต้อง คดอี าญามาฟ้องย่อมระงับสนิ้ ไป เซ็นทราบก�ำ หนดวันเวลา สง่ ตัวผู้ต้องหา หรอื จ�ำ เลยมายงั ศาลด้วย เช่นนี้จะเห็นว่าความรับผิดของผู้ประกันท่ีเกี่ยวกับจำ�เลยตามสัญญาประกันย่อมหมดไป ๓.) สง่ ตวั ผู้ต้องหา หรอื จ�ำ เลยต่อศาลในช้นั ฝากขงั นายประกันตอ้ งน�ำ ตัวผู้ตอ้ งหา ดว้ ยศาลต้องคนื หลักประกนั ๖๕ หรือเมอ่ื พน้ ก�ำ หนดเวลาปลอ่ ยช่วั คราวตามกฎหมาย๖๖ หรือจำ�เลยที่ตนประกันให้มาศาลในวันที่ครบกำ�หนดการฝากขังแต่ละครั้งในช้ันพิจารณา ของศาล เมอื่ ศาลนดั ใหจ้ ำ�เลยไปศาลในวนั ใดไม่ว่าจะเปน็ การนัดสบื พยานนดั ฟงั ค�ำ พพิ ากษา ๔. กรณผี ดิ สัญญาประกัน นัดไปสอบถาม หรือนดั เพ่ือการอื่นใด นายประกันตอ้ งนำ�จำ�เลยไปสง่ ศาลทกุ ครงั้ แตห่ าก นายประกนั ผิดนดั ไมส่ ามารถนำ�ตัวผ้ตู ้องหา หรือจำ�เลยมาศาลได้ ศาลอาจถอนประกันและ ในกรณผี ดิ สญั ญาหลกั ประกนั ตอ่ ศาล ศาลยอ่ มมอี �ำ นาจสง่ั งดการบงั คบั ตามสญั ญาประกนั ปรบั นายประกนั ตามสญั ญาทันที ดงั นัน้ นายประกนั จึงตอ้ งคอยตดิ ตามอยู่เสมอวา่ ผู้ตอ้ งหา หรือตามท่ีศาลเห็นสมควรโดยมติ อ้ งฟ้องเป็นคดี ท้ังน้ศี าลอาจสงั่ งดการบังคบั ตามสญั ญาประกนั หรือจำ�เลยอยูท่ ี่ใดในระหวา่ งการประกันตัว หรอื ลดจ�ำ นวนเงนิ ทต่ี อ้ งใชต้ ามสญั ญาประกนั กไ็ ด้ เปน็ ดลุ ยพนิ จิ ของศาลโดยค�ำ นงึ ถงึ ความพยายาม ของผู้ประกัน ในการติดตามตัวผู้ต้องหาหรือจำ�เลยที่หลบหนี รวมทั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นว่า ๒. การขอถอนสญั ญาประกนั หรือขอถอนหลักประกัน มากน้อยเพียงใด เม่อื ศาลส่งั ประการใดแลว้ ฝ่ายผู้ถูกบงั คบั ตามสญั ญาประกัน หรือพนกั งาน อยั การมอี ำ�นาจอทุ ธรณไ์ ดแ้ ละคำ�วินจิ ฉยั ของศาลอทุ ธรณ์ย่อมเป็นทสี่ ุด๖๗ การขอถอนสัญญาประกนั หรอื ขอถอนหลกั ประกนั น้นั ตามประมวลกฎหมายวิธี พิจารณาความอาญา ก�ำ หนดเง่ือนไขสำ�คัญไวว้ า่ ยอ่ มท�ำ ได้ เมอ่ื ผู้ท�ำ สญั ญามอบตวั ผตู้ อ้ งหา ๕. กรณศี าลส่งั ปรับนายประกนั หรือจ�ำ เลย คนื ต่อเจ้าพนักงาน หรอื ศาล เช่น ในความผิดต่อส่วนตัวหากมกี ารท�ำ สัญญา ประกนั แมผ้ เู้ สยี หายถอนค�ำ รอ้ งทกุ ขแ์ ลว้ ผปู้ ระกนั กย็ งั มหี นา้ ทต่ี อ้ งสง่ ตวั ผตู้ อ้ งหา หรอื จ�ำ เลยคนื ๖๓ ในกรณีท่ศี าลสงั่ ปรบั นายประกนั ตามสญั ญาประกัน นายประกนั จะตอ้ งน�ำ เงินค่าปรบั หรอื แม้จำ�เลย จะถูกจบั อยู่ในคดอี นื่ ก็ตาม หากผู้ประกันมิไดย้ ่ืนคำ�รอ้ งขอมอบตัวจ�ำ เลยคืน มาช�ำ ระต่อศาลภายในระยะเวลาท่ีศาลกำ�หนด มฉิ ะนนั้ ศาลจะส่ังยึดหลกั ประกนั ขายทอดตลาด ต่อศาลยังถือไม่ได้ว่าผู้ประกันได้ส่งมอบ หรือคืนตัวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา เพื่อนำ�เงินมาชำ�ระค่าปรับต่อไปและถ้าได้เงินมาไม่พอชำ�ระค่าปรับศาลอาจจะยึดทรัพย์สินอื่นๆ ความอาญา มาตรา ๑๑๖ ในคดที มี่ กี ารปล่อยชว่ั คราว๖๔ เปน็ ตน้ ของนายประกันมาขายทอดตลาดเพ่ือชำ�ระคา่ ปรับจนครบ นายประกันทศี่ าลสั่งปรับตามสญั ญา ประกนั มีสิทธอิ ุทธรณค์ ำ�ส่ังศาลหรืออาจน�ำ ตัวจ�ำ เลยมาส่งศาลและขอลดค่าปรับต่อศาล๖๘ ๖๓ ค�ำ พพิ ากษาฎีกาท่ี ๗๐๓/๒๕๓๗. ๖๔ คำ�พิพากษาฎกี าท่ี ๒๖๙๙/๒๕๕๓. ๖๕ ค�ำ ส่งั คำ�ร้องศาลฎีกาท่ี ๑๓๐/๒๕๔๙. ๖๖ ค�ำ พิพากษาฎีกาท่ี ๙๒๐๘-๙๒๐๙/๒๕๔๗. ๖๗ ประมวลกฎหมายวิธีพจิ ารณาความอาญา มาตรา ๑๑๙. ๖๘ อ้างแล้วเชงิ อรรถท่ี ๖๕.
- ๔๐ - - ๔๑ - กรมคุ้มครองสิทธแิ ละเสรีภาพ มภี ารกิจเกีย่ วกบั สทิ ธแิ ละเสรภี าพที่ประชาชนพึงไดร้ บั ๒.๒ สทิ ธใิ นการเยยี่ มและตดิ ตอ่ ผ้ตู ้องขงั ตามกฎหมายโดยการจัดวางระบบและส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้เกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิและ เสรีภาพ ตลอดจนการด�ำ เนนิ การให้พยาน ผู้เสียหาย และจ�ำ เลยในคดีอาญา ไดร้ ับการค้มุ ครอง กระบวนการยุติธรรมทางอาญาของประเทศไทยในปัจจุบันได้คำ�นึงถึงหลักสิทธิ ช่วยเหลอื เยียวยาในเบอื้ งต้น เพ่ือให้ประชาชนได้รับการคุม้ ครองและดูแลจากรัฐอยา่ งทวั่ ถึงและ มนุษยชนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เป็นสำ�คัญ ข้อพิสูจน์ที่ยืนยันในประการดังกล่าวคือการที่ เท่าเทยี มกัน๗๒ รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศกั ราช ๒๕๖๐ ได้บญั ญัติให้ “ศกั ดศ์ิ รคี วามเปน็ มนษุ ย์ คณะกรรมการสทิ ธิมนุษยชนแห่งชาติ มีอำ�นาจหน้าที่ตรวจสอบและรายงานข้อเท็จจริง สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของบคุ คลย่อมไดร้ ับความคมุ้ ครอง ปวงชนชาวไทยย่อมไดร้ บั ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนทุกกรณีโดยไม่ล่าช้า และเสนอแนะมาตรการ ความคมุ้ ครองตามรัฐธรรมนูญเสมอกัน”๖๙ และ “บคุ คลไมต่ ้องรับโทษอาญา เว้นแตไ่ ดก้ ระทำ�การ หรือแนวทางที่เหมาะสมในการป้องกัน หรือแก้ไขการละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการเยียวยา อนั กฎหมายทใ่ี ช้อยู่ในเวลาทก่ี ระทำ�นั้นบญั ญตั เิ ปน็ ความผดิ และกำ�หนดโทษไว้ และโทษทีจ่ ะลงแก่ ผไู้ ดร้ บั ความเสยี หายจากการละเมดิ สทิ ธมิ นษุ ยชนตอ่ หนว่ ยงานของรฐั หรอื เอกชนทเ่ี กย่ี วขอ้ ง๗๓ บุคคลน้ันจะหนักกว่าโทษที่บัญญัติไว้ในกฎหมายท่ีใช้อยู่ในเวลาท่ีกระทำ�ความผิดมิได้ในคดีอาญา ใหส้ นั นษิ ฐานไวก้ อ่ นว่าผตู้ ้องหาหรือจ�ำ เลยไมม่ คี วามผดิ และก่อนท่จี ะมคี �ำ พพิ ากษาอนั ถึงทส่ี ดุ นนั้ เมื่อเกิดคดีความในทางอาญาขึ้นในเบ้ืองต้นก่อนจะมีการฟ้องคดีต่อศาลคดีความ แสดงว่า บุคคลใดไดก้ ระทำ�ความผิดจะต้องปฏิบตั ิต่อบคุ คลนัน้ เสมือนเปน็ ผ้กู ระท�ำ ความผิดมไิ ด้ ดังกลา่ วจะอยู่ในชนั้ การพจิ ารณาของ “พนักงานสอบสวน”๗๔ และ“พนกั งานอัยการ”๗๕ตามลำ�ดับ การควบคุม หรือคุมขังผู้ต้องหาหรือจำ�เลยให้กระทำ�ได้เพียงเท่าที่จำ�เป็นเท่านั้น เพื่อป้องกัน เรยี กฝา่ ยหน่งึ ว่า “ผูเ้ สียหาย”๗๖ และเรยี กอกี ฝา่ ยหนึง่ ว่า “ผตู้ ้องหา”๗๗ ในชัน้ นีฝ้ า่ ยผู้เสยี หาย มใิ หม้ กี ารหลบหนใี นคดอี าญา จะบงั คบั ใหบ้ คุ คลใหก้ ารเปน็ ปฏปิ กั ษต์ อ่ ตนเองมไิ ด้ คำ�ขอประกัน ได้ร้องทุกข์กล่าวหาผู้ต้องหาว่ากระทำ�ความผิดตามที่กฎหมายกำ�หนด๗๘ หรืออาจถูกกล่าวโทษว่า ผตู้ อ้ งหา หรอื จ�ำ เลยในคดอี าญาตอ้ งไดร้ บั การพจิ ารณาและจะเรยี กหลกั ประกนั จนเกนิ ควรแกก่ รณี ได้กระทำ�ความผิดตามที่กฎหมายบัญญัติ๗๙ ต่อพนักงานสอบสวน เมื่อพนักงานสอบสวนพิจารณา มิได้ การไมใ่ หป้ ระกนั ต้องเปน็ ไปตามที่กฎหมายบญั ญัต๗ิ ๐ แล้วมีความเห็นว่ามีเค้ามูลความจริงและมีความจำ�เป็นที่จะต้องควบคุม หรือคุมขังผู้ต้องหาไว้ นอกจากนั้นยังสร้างกลไกในการปกป้องและคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน เพื่อการสอบสวน๘๐ ผู้ต้องหาจึงถูกควบคุม หรือคุมขังได้ การควบคุม หรือคุมขังดังกล่าวเป็น ผ่านการจัดต้ังหนว่ ยงาน สถาบนั องค์กรอสิ ระ ขึน้ มาเพอื่ ให้ความช่วยเหลือในการดำ�เนนิ การทาง การจำ�กัดสิทธิและเสรีภาพในชีวิตร่างกายของประชาชน ซึ่งรัฐธรรมนูญบัญญัติให้ “การควบคุม คดี การเผยแพร่ความรู้ การรบั เรอ่ื งร้องเรียนและการพทิ ักษ์สิทธิประชาชน เชน่ กองทุนยุติธรรม หรอื คมุ ขงั ผตู้ อ้ งหา หรอื จ�ำ เลยใหก้ ระท�ำ ได้เพียงเท่าทจี่ �ำ เป็น เพอื่ ป้องกันมใิ หม้ กี ารหลบหน”ี ๘๑ มฐี านะเปน็ นติ ิบุคคล มีวัตถุประสงคเ์ พอ่ื เป็นแหลง่ เงินทุนสำ�หรับการใชจ้ ่ายเก่ยี วกบั การชว่ ยเหลือ ๗๒ กฎกระทรวง แบง่ ส่วนราชการกรมค้มุ ครองสิทธแิ ละเสรภี าพ กระทรวงยตุ ธิ รรม พ.ศ. ๒๕๔๕ ขอ้ ๑. ประชาชนในการดำ�เนนิ คดี การขอปล่อยชว่ั คราวผ้ตู อ้ งหาหรอื จำ�เลย การถูกละเมิดสิทธมิ นษุ ยชน และการให้ความรทู้ างกฎหมายแกป่ ระชาชน๗๑ ๗๓ รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย พุทธศกั ราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๔๗. ๗๔ ประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณาความอาญา มาตรา ๒ (๖). ๖๙ รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย พทุ ธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๔. ๗๕ ประมวลกฎหมายวธิ พี จิ ารณาความอาญา มาตรา ๒ (๕). ๗๐ อ้างแลว้ เชิงอรรถท่ี ๓๙. ๗๖ ประมวลกฎหมายวิธีพจิ ารณาความอาญา มาตรา ๒ (๔). ๗๑ พระราชบัญญตั กิ องทนุ ยุตธิ รรม พ.ศ. ๒๕๕๘ มาตรา ๕. ๗๗ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒ (๒). ๗๘ ประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒ (๗). ๗๙ ประมวลกฎหมายวธิ ีพจิ ารณาความอาญา มาตรา ๒ (๘). ๘๐ ประมวลกฎหมายวธิ พี จิ ารณาความอาญา มาตรา ๗๑. ๘๑ อา้ งแล้วเชิงอรรถท่ี ๓๙.
- ๔๒ - - ๔๓ - ในล�ำ ดับถดั ไป เม่ือพนักงานอัยการหรือผู้เสยี หายได้ฟอ้ งคดตี อ่ ศาล๘๒ และศาลรบั คำ�ฟ้อง ๒.๒.๑ บคุ คลภายนอกเข้าเยี่ยมหรือติดตอ่ กับผู้ตอ้ งกักขงั น้นั ไว้พิจารณาแลว้ จึงเรยี กฝ่ายผู้ฟ้องว่าฝ่าย “โจทก”์ ๘๓ และเรยี กฝา่ ยผถู้ ูกฟ้องวา่ “จ�ำ เลย”๘๔ จำ�เลยอาจถูกควบคุม หรือคุมขังไว้ได้อีก๘๕ โดยห้ามมิให้ควบคุมผู้ถูกจับไว้เกินกว่าจำ�เป็นตาม บุคคลภายนอกเข้าเยย่ี ม หรือตดิ ต่อกบั ผูต้ ้องกักขงั จะต้องไดร้ ับอนุญาตจากผู้บัญชาการ พฤตกิ ารณ์แหง่ คด๘ี ๖ กรณดี งั กลา่ วทง้ั สองกรณีน้ันไมต่ ดั สทิ ธใิ นการทผ่ี ู้ตอ้ งหา หรือจำ�เลยจะใช้สิทธิ เรือนจำ�หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้บัญชาการเรือนจำ�อนุญาต๙๒ จึงจะเข้าเยี่ยม หรือติดต่อกับ ประกันตวั หรือขอปล่อยชั่วคราว๘๗ ดังท่ไี ดก้ ลา่ วไปแล้วข้างตน้ ๘๘ ทง้ั น้หี ากมไิ ดร้ ับการประกันตัว ผ้ตู อ้ งขงั ได้บคุ คลภายนอกท่ีจะเข้าเยย่ี ม หรอื ติดต่อกับผตู้ อ้ งขังตอ้ งปฏิบตั ิดงั ตอ่ ไปน้ี หรอื ปลอ่ ยชั่วคราว๘๙ หรือถูกพิพากษาจำ�คกุ ๙๐ กฎหมายกไ็ ดค้ มุ้ ครองสิทธิและให้สทิ ธใิ นการเยย่ี ม ๑.) ในการเข้าเยี่ยม หรือติดต่อผู้ต้องกักขัง บุคคลภายนอกต้องเตรียมนำ�บัตรประจำ� ผู้ต้องกักขัง๙๑ มีรายละเอียดตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการปฏิบัติต่อผู้ต้องกักขัง ตัวประชาชน หรือบัตรที่ออกโดยทางราชการที่ปรากฏภาพถ่ายไปแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๔๙ ดังต่อไปน้ี และให้พนักงานเจา้ หน้าที่จดบันทกึ ขอ้ มูลบุคคลผู้เข้าเยีย่ มไว้เปน็ หลกั ฐาน๙๓ ๒.) บุคคลภายนอกจะเยี่ยม หรือติดต่อกับผู้ต้องกักขังได้ ในวนั เวลาทท่ี างสถานทก่ี กั ขงั ๘๒ ประมวลกฎหมายวธิ ีพจิ ารณาความอาญา มาตรา ๒๘. ก�ำ หนดไว๙้ ๔ ๘๓ ประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณาความอาญา มาตรา ๒ (๑๔). ๓.) บุคคลภายนอกที่ได้รับอนุญาตให้เยี่ยม หรือติดต่อกับผู้ต้องกักขัง จะต้องอยู่ในเขต ๘๔ ประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒ (๓). ทีท่ างสถานทก่ี กั ขังกำ�หนดใหเ้ ป็นที่เยีย่ ม หรือติดต่อกบั ผู้ตอ้ งกักขัง๙๕ ๘๕ อา้ งแลว้ เชิงอรรถท่ี ๗๘. ๔.) ผู้ได้รับอนุญาตให้เยี่ยม หรือติดต่อกับผู้ต้องกักขังต้องพูดภาษาไทยและออกเสียง ๘๖ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๘๗. ให้ดังพอที่พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมอยู่ ณ ที่นั้นได้ยินจะพูดภาษาอื่นได้ต่อเมื่อได้รับอนุญาต ๘๗ อา้ งแลว้ เชงิ อรรถที่ ๔๐. จากพนักงานเจ้าหนา้ ท๙่ี ๖ ๘๘ โปรดดหู ัวขอ้ การประกนั ตวั หน้า ๒๙. ๕.) ในกรณีสถานที่กักขังจัดให้เยี่ยม หรือติดต่อกับผู้ต้องกักขัง โดยการพูดคุยผ่าน ๘๙ อา้ งแลว้ เชงิ อรรถที่ ๕๗. การใช้เครื่องมือสื่อสาร ผู้ได้รับอนุญาตให้เยี่ยม หรือติดต่อจะต้องยินยอมให้พนักงานเจ้าหน้าที่ ๙๐ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๘ (๒). ฟงั การสนทนา บนั ทกึ เสยี ง และตดั การสอ่ื สาร หากเหน็ วา่ ขอ้ ความทส่ี นทนาเปน็ ไปโดยไมเ่ หมาะสม๙๗ ๙๑ โปรดดู ระเบียบกรมราชทัณฑว์ ่าดว้ ยการปฏิบัติต่อผตู้ อ้ งกักขงั พ.ศ. ๒๕๔๙. ๙๒ ระเบียบกรมราชทัณฑว์ า่ ด้วยการปฏิบัติตอ่ ผู้ต้องกกั ขงั พ.ศ. ๒๕๔๙ ข้อ ๔๐. ๙๓ อา้ งแลว้ เชงิ อรรถที่ ๖๙. ๙๔ ระเบียบกรมราชทัณฑว์ ่าดว้ ยการปฏิบตั ติ ่อผู้ตอ้ งกกั ขงั พ.ศ. ๒๕๔๙ ข้อ ๔๑. ๙๕ ระเบียบกรมราชทัณฑ์วา่ ด้วยการปฏบิ ัติต่อผู้ต้องกักขัง พ.ศ. ๒๕๔๙ ขอ้ ๔๔. ๙๖ ระเบียบกรมราชทัณฑว์ า่ ด้วยการปฏบิ ัติตอ่ ผู้ต้องกักขัง พ.ศ. ๒๕๔๙ ข้อ ๔๖. ๙๗ อา้ งแลว้ เชงิ อรรถที่ ๗๓.
- ๔๔ - ๖.) ห้ามมิให้ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เยี่ยม หรือติดต่อกับผู้ต้องกักขัง แนะนำ� ชักชวน แสดงกิริยา หรือให้อาณัติสัญญาณอย่างใดๆ แก่ผู้ต้องกักขังเพื่อกระทำ�ผิดกฎหมาย หรือวินัย ผ้ตู ้องกกั ขงั ๙๘ ๗.) ห้ามมิให้บุคคลภายนอกที่ได้รับอนุญาตให้เยี่ยม หรือติดต่อกับผู้ต้องกักขังนำ� สิ่งของใดๆ เข้ามา หรือนำ�ออกจากสถานที่กักขัง ส่งมอบให้ หรือรับจากผู้ต้องกักขังโดยมิได้ รับอนุญาตจากพนักงานเจา้ หน้าท๙ี่ ๙ ๘.) กรณีที่บุคคลภายนอกประสงค์จะมอบเงินตราให้กับผู้ต้องกักขัง ให้นำ�เงินฝากไว้กับ พนกั งานเจา้ หนา้ ท่ีทท่ี างสถานที่กกั ขังจัดไว้ให้เพอื่ การน้นั ๑๐๐ ๙.) ในกรณีทมี่ ีข้อสงสยั วา่ บคุ คลภายนอกทีม่ าขออนญุ าต หรือได้รับอนุญาตใหเ้ ย่ยี ม หรือตดิ ตอ่ แลว้ มีสิ่งของท่ยี ังไมไ่ ดร้ ับอนญุ าต หรือเงนิ ตรา หรือส่งิ ของตอ้ งหา้ ม พนักงานเจา้ หน้าท่ี มอี �ำ นาจขอดู หรือขอตรวจคน้ ได้ หากบคุ คลภายนอกน้นั เปน็ ชาย ใหพ้ นกั งานเจา้ หน้าทชี่ ายเป็น ผทู้ �ำ การตรวจคน้ หากเปน็ หญิง ใหพ้ นักงานเจ้าหนา้ ทีห่ ญิงเป็นผูท้ ำ�การตรวจคน้ หรือใหผ้ ู้นัน้ แสดงเอง หรือจัดให้ชายหรือหญิงอ่ืนท่ีควรเช่อื ถือทำ�การตรวจค้นแทนก็ได๑้ ๐๑ ๙๘ ระเบยี บกรมราชทณั ฑว์ ่าด้วยการปฏบิ ตั ิตอ่ ผ้ตู อ้ งกกั ขัง พ.ศ. ๒๕๔๙ ข้อ ๔๕. ๙๙ ระเบียบกรมราชทัณฑว์ ่าด้วยการปฏิบัตติ ่อผู้ตอ้ งกกั ขัง พ.ศ. ๒๕๔๙ ขอ้ ๔๒. ๑๐๐ อา้ งแลว้ เชิงอรรถที่ ๗๖. ๑๐๑ ระเบียบกรมราชทณั ฑ์ว่าด้วยการปฏิบตั ติ ่อผูต้ ้องกักขัง พ.ศ. ๒๕๔๙ ขอ้ ๔๓.
- ๔๙ - สิ่งของต่อไปนี้ เป็นสงิ่ ของตอ้ งหา้ มนำ�เขา้ มาในสถานที่กักขงั และห้ามส่งมอบให้กับผตู้ ้องกักขงั ๑๐๒ ๑. ๒. ๓. ยาเสพตดิ ให้โทษ สรุ าหรอื อปุ กรณส์ �ำ หรับเลน่ การพนนั วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิต ของเมาอยา่ งอ่ืน และประสาท และสารระเหย ๔. ๕. ๖. เครือ่ งมอื อันเปน็ อปุ กรณ์ เครอ่ื งมอื อาวธุ เครือ่ งกระสนุ ปืน สำ�หรับสักร่างกาย วัตถรุ ะเบิด ดอกไม้เพลิง ในการหลบหนี และสง่ิ เทียมอาวุธปืน ๗. ๘. ๙. น�ำ้ มันเชื้อเพลงิ สตั วม์ ชี ีวิต ของเน่าเสยี หรอื ของมีพษิ ตอ่ รา่ งกาย ๑๐. ๑๑. ๑๒. เครอื่ งคอมพิวเตอร์ โทรศพั ท์ วัตถุ หรอื สง่ิ พมิ พ์ เงนิ ตรา หรือเครอ่ื งมอื ส่อื สารอ่ืน ซงึ่ อาจกอ่ ใหเ้ กดิ รวมทั้งอุปกรณส์ �ำ หรับ ความไม่สงบเรียบรอ้ ยหรอื สิ่งของดงั กลา่ ว เสอื่ มเสียตอ่ ศลี ธรรม ๑๐๒ อา้ งแลว้ เชงิ อรรถท่ี ๗๖.
- ๕๐ - - ๕๑ - ผู้ท่มี าขอเย่ียมหรอื ติดตอ่ กบั ผูต้ ้องกกั ขงั หากมเี หตอุ ย่างหนึง่ อย่างใดต่อไปนี้ จะไมไ่ ดร้ ับอนญุ าตให้ ๒.๒.๒ ทนายความเข้าพบผตู้ ้องกักขัง เข้าเย่ยี มหรือตดิ ต่อผู้ต้องกักขงั ๑๐๓ ๑.) มีอาการมึนเมา หรือเมาสุราน่าจะกอ่ ความเดอื ดรอ้ นรำ�คาญ หรอื ความไมเ่ รียบรอ้ ย ประมวลกฎหมายวธิ พี จิ ารณาความอาญาบญั ญตั คิ มุ้ ครองสทิ ธใิ ห้ “ผถู้ กู จบั หรอื ผตู้ อ้ งหา ๒.) มีเหตุอันควรเชื่อว่า ถา้ อนุญาตให้เยีย่ ม หรือตดิ ต่อกับผู้ตอ้ งกักขังได้จะกอ่ การร้าย ซึ่งถูกควบคุม หรือขังมีสิทธิแจ้งหรือขอให้เจ้าพนักงานแจ้งให้ญาติ หรือผู้ซึ่งผู้ถูกจับหรือผู้ต้องหา หรอื กระท�ำ ผิดกฎหมายข้นึ ไวว้ างใจทราบถงึ การถูกจบั กุมและสถานท่ที ่ถี กู ควบคุมในโอกาสแรก และให้ผถู้ กู จับหรอื ผู้ตอ้ งหา ๓.) แต่งกายผิดปกตนิ ิยมในท้องถน่ิ หรือไม่สภุ าพ หรอื สกปรกอยา่ งร้ายแรง มสี ทิ ธพิ บและปรกึ ษาผซู้ ง่ึ จะเปน็ ทนายความเปน็ การเฉพาะ และใหท้ นายความหรอื ผซู้ ง่ึ ตนวางไวใ้ จ เขา้ ฟงั การสอบปากค�ำ ตนได้ในช้นั สอบสวน”๑๐๕ และ บญั ญัตวิ า่ “ในคดีทม่ี อี ตั ราโทษประหารชวี ิต ๔.) ไม่มีกจิ เกยี่ วข้อง หรอื รจู้ ักเป็นญาติมิตรกับผ้ตู อ้ งกกั ขัง หรือในคดีที่ผู้ต้องหามีอายุไม่เกินสิบแปดปีในวันที่พนักงานสอบสวน แจ้งข้อหานั้น ก่อนจะ เริ่มถามคำ�ให้การให้พนักงานสอบสวนถามผู้ต้องหาว่ามีทนายความหรือไม่ ถ้าไม่มีให้รัฐจัดหา ๕.) มกี ิรยิ าวาจาไม่สุภาพ ทนายความให้ในคดที ี่มอี ัตราโทษจ�ำ คกุ ก่อนเร่มิ ถามคำ�ใหก้ ารให้พนกั งานสอบสวนถามผูต้ อ้ งหาวา่ มีทนายความหรอื ไม่ ถ้าไมม่ แี ละผู้ต้องหาต้องการทนายความ ให้รัฐจดั หาทนายความให.้ .......”๑๐๖ ๖.) เปน็ โรคตดิ ต่อรา้ ยแรง การบัญญัติรับรองสิทธิผู้ถูกจับ หรือผู้ต้องหาให้มีทนายความไว้ปรึกษาคดีและกำ�หนด ผู้ไม่ได้รับอนุญาตให้เยี่ยม หรือติดต่อกับผู้ต้องกักขังหรือผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เยี่ยม ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐจัดหาทนายความให้แก่ผู้ต้องหาในการสอบสวนคดีอาญาดังกล่าวเป็นสิทธิ หรือติดต่อกับผู้ต้องกักขัง แต่กระทำ�ผิดระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการปฏิบัติต่อผู้ต้องกักขัง ขน้ั พ้ืนฐาน และแสดงถึงการค�ำ นงึ ถึงศักดิ์ศรีความเปน็ มนษุ ย์ของผูถ้ กู จบั กมุ หรือผู้ตอ้ งหาทัง้ นี้ พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำ�นาจเชิญให้ออกไปจากบริเวณสถานที่กักขังได้หากขัดขืนพนักงาน ในระหว่างการด�ำ เนนิ การทางคดซี ง่ึ ผู้ต้องหาอาจถูกควบคมุ ตวั หรือกักขังระหว่างการสอบสวน เจ้าหนา้ ทมี่ ีอ�ำ นาจใชก้ �ำ ลังพอสมควรท่ีจะใหอ้ อกไปพ้นจากสถานที่กกั ขังได๑้ ๐๔ การที่ทนายความจะเข้าพบผู้ต้องกักขังจึงต้องปฏิบัติตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการปฏิบัติ ต่อผ้ตู ้องกักขัง พ.ศ. ๒๕๔๙ และทนายความท่จี ะขอเข้าพบผู้ตอ้ งกักขังเก่ียวกบั คดจี ะตอ้ งเป็น ๑๐๓ ระเบยี บกรมราชทณั ฑว์ า่ ดว้ ยการปฏบิ ัติต่อผตู้ อ้ งกักขงั พ.ศ. ๒๕๔๙ ขอ้ ๔๗. ทนายความทีไ่ ด้รบั ใบอนญุ าตใหเ้ ปน็ ทนายความตามกฎหมายว่าด้วยทนายความ๑๐๗ ๑๐๔ ระเบยี บกรมราชทัณฑ์วา่ ด้วยการปฏบิ ัติต่อผูต้ ้องกักขัง พ.ศ. ๒๕๔๙ ขอ้ ๔๘. ๑๐๕ ประมวลกฎหมายวิธีพจิ ารณาความอาญา มาตรา ๗/๑. ๑๐๖ ประมวลกฎหมายวธิ ีพจิ ารณาความอาญา มาตรา ๑๓๔/๑. ๑๐๗ ระเบียบกรมราชทัณฑ์วา่ ด้วยการปฏบิ ัตติ อ่ ผ้ตู อ้ งกกั ขัง พ.ศ. ๒๕๔๙ ข้อ ๔๙.
- ๕๒ - - ๕๓ - ทนายความท่จี ะเขา้ พบผู้ตอ้ งกักขงั จะตอ้ งปฏิบัตดิ ังต่อไปน้ี ทนายความทีม่ าขอเยยี่ มหรือตดิ ตอ่ กบั ผูต้ อ้ งกกั ขงั หากมเี หตอุ ย่างหนึ่งอย่างใดต่อไปนี้ ๑.) ทนายความจะเยี่ยม หรือติดต่อกับผู้ต้องกักขังเกี่ยวกับคดี ต้องยื่นคำ�ร้องขอพบ ผู้ต้องกักขังตามแบบที่กรมราชทัณฑ้กำ�หนดให้ใช้สำ�หรับผู้ต้องขังโดยอนุโลม และจะเข้าเยี่ยม จะไมไ่ ดร้ ับอนุญาตให้เขา้ เยีย่ มหรือติดตอ่ ผตู้ อ้ งกกั ขงั ๑๑๔ หรือตดิ ต่อกับผู้ตอ้ งกกั ขงั ได้เฉพาะรายท่ผี ู้ตอ้ งกักขังนนั้ ตอ้ งการพบทนายความเท่านน้ั ๑๐๘ ๑.) มอี าการมนึ เมา หรอื เมาสรุ าน่าจะก่อความเดือดร้อนร�ำ คาญ หรอื ความไมเ่ รียบร้อย ๒.) ทนายความสามารถเข้าเยี่ยมและติดต่อกับผู้ต้องกักขังได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา ๒.) มีเหตุอนั ควรเช่อื ว่า ถ้าอนญุ าตให้เยย่ี ม หรอื ตดิ ต่อกบั ผู้ต้องกักขังไดจ้ ะกอ่ การรา้ ย ๐๘.๓๐ น. ถึง ๑๖.๐๐ น. เว้นวนั หยดุ ราชการ หากมีเหตุผลพิเศษจำ�เปน็ ตอ้ งพบผู้ต้องกกั ขงั นอกวนั เวลาดังกล่าว ใหข้ ออนุญาตตอ่ ผ้อู �ำ นวยการสถานท่ีกกั ขงั แตต่ ้องไมใ่ ช่ระหวา่ งเวลาท่ี หรอื กระทำ�ผิดกฎหมายขนึ้ สถานทกี่ ักขังได้น�ำ ผู้ตอ้ งกกั ขังเขา้ ห้องขังแลว้ และยงั มไิ ด้นำ�ออกจากห้องขงั ๑๐๙ ๓.) แตง่ กายผดิ ปกตนิ ิยมในท้องถ่นิ หรอื ไม่สภุ าพ หรอื สกปรกอย่างรา้ ยแรง ๓.) ทนายความที่ได้รับอนุญาตให้พบผู้ต้องกักขัง หากต้องการจะสงวนข้อความ ท่ีพูดกับผู้ต้องกักขังเป็นความลับให้แจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่ทราบและให้พนักงานเจ้าหน้าที่ ๔.) ไม่มีกจิ เก่ียวขอ้ ง หรือรูจ้ กั เป็นญาตมิ ิตรกบั ผู้ตอ้ งกกั ขงั ผู้ควบคมุ อย่ใู นระยะทไี่ ม่สามารถไดย้ ินขอ้ ความการสนทนา๑๑๐ ๔.) ทนายความท่ไี ดร้ บั อนุญาตใหเ้ ยย่ี ม หรอื ติดต่อกับผตู้ อ้ งกกั ขงั จะตอ้ งอยู่ในเขต ๕.) มีกริ ยิ าวาจาไม่สุภาพ ทที่ างสถานท่กี กั ขงั กำ�หนดให้เป็นที่เยย่ี ม หรือตดิ ต่อกับผ้ตู ้องกกั ขงั ๑๑๑ ๕.) ห้ามมิให้ทนายความที่ได้รับอนุญาตให้เยี่ยม หรือติดต่อกับผู้ต้องกักขัง แนะนำ� ๖.) เปน็ โรคตดิ ต่อรา้ ยแรง ชักชวนแสดงกิริยา หรือให้อาณัติสัญญาณอย่างใดๆ แก่ผู้ต้องกักขัง เพื่อกระทำ�ผิดกฎหมาย ทนายความผู้ไม่ได้รับอนุญาตให้เยี่ยม หรือติดต่อกับผู้ต้องกักขัง หรือทนายความ หรอื วนิ ยั ผู้ตอ้ งกักขงั ๑๑๒ ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เยี่ยม หรือติดต่อกับผู้ต้องกักขัง แต่กระทำ�ผิดระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วย ๖.) ในกรณีท่มี ขี ้อสงสัยว่า ทนายความทีม่ าขออนุญาต หรอื ได้รับอนญุ าตให้เยีย่ ม การปฏบิ ัตติ ่อผ้ตู อ้ งกกั ขัง พนักงานเจ้าหน้าทม่ี อี ำ�นาจเชิญใหอ้ อกไปจากบริเวณสถานทีก่ ักขงั ได้ หรอื ติดตอ่ แล้วมสี ง่ิ ของท่ียังไมไ่ ด้รบั อนุญาต หรอื ส่งิ ของต้องหา้ ม พนกั งานเจา้ หนา้ ทีม่ อี ำ�นาจ หากขัดขนื พนักงานเจ้าหน้าท่มี อี ำ�นาจใช้กำ�ลงั พอสมควรท่จี ะให้ออกไปพน้ จากสถานทก่ี ักขังได๑้ ๑๕ ขอดู หรอื ขอตรวจค้นได้ หากทนายความน้ันเปน็ ชาย ใหพ้ นักงานเจา้ หน้าท่ีชายเปน็ ผ้ทู ำ�การ ตรวจค้น หากเปน็ หญงิ ใหพ้ นกั งานเจ้าหน้าทีห่ ญิงเป็นผ้ทู ำ�การตรวจคน้ หรือใหท้ นายความ ๑๑๔ อ้างแลว้ เชงิ อรรถที่ ๘๖. ผูน้ น้ั แสดงเองหรอื จดั ให้ชายหรอื หญงิ อ่นื ทคี่ วรเช่ือถอื ท�ำ การตรวจคน้ แทนกไ็ ด๑้ ๑๓ ๑๑๕ อา้ งแลว้ เชิงอรรถท่ี ๘๖. ๑๐๘ ระเบียบกรมราชทณั ฑว์ า่ ดว้ ยการปฏิบตั ิต่อผตู้ อ้ งกักขงั พ.ศ. ๒๕๔๙ ข้อ ๕๐. ๑๐๙ ระเบียบกรมราชทณั ฑ์วา่ ด้วยการปฏบิ ตั ิตอ่ ผู้ต้องกักขัง พ.ศ. ๒๕๔๙ ข้อ ๕๑. ๑๑๐ ระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการปฏิบัตติ ่อผตู้ ้องกักขัง พ.ศ. ๒๕๔๙ ขอ้ ๕๒. ๑๑๑ ระเบียบกรมราชทณั ฑว์ า่ ดว้ ยการปฏบิ ตั ิตอ่ ผู้ตอ้ งกกั ขัง พ.ศ. ๒๕๔๙ ข้อ ๕๓. ๑๑๒ อ้างแล้วเชงิ อรรถท่ี ๘๖. ๑๑๓ อา้ งแล้วเชงิ อรรถที่ ๘๖.
- ๕๔ - - ๕๕ - ๒.๓ สทิ ธิในการมที นายความในช้ันสอบสวน ทั้งน้ีผู้ต้องหามีสิทธิท่ีจะปฏิเสธไม่รับทนายความท่ีพนักงานสอบสวนจัดหาให้ก็ได้ถ้ามี เหตุอันสมควรโดยเห็นว่าทนายความท่ีจัดหาให้อาจไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ทนายความได้อย่าง สิทธิในการมีทนายความในชั้นสอบสวนได้รับการบัญญัติรับรองไว้ในกฎหมาย เต็มความสามารถ เหตุอนั สมควรในการปฏิเสธไม่รบั ทนายความไดแ้ ก่ เพื่อเป็นการประกันว่าผู้ต้องหาจะได้มีที่ปรึกษาสำ�หรับการดำ�เนินการต่างๆ ทางคดี และยังเป็น ๑. ทนายความมผี ลประโยชน์ไดเ้ สียเกยี่ วข้องอยใู่ นคดี การรับรองว่าผู้ต้องหาจะไม่ถกู ดำ�เนินคดโี ดยไม่อาจโตแ้ ยง้ ได้เพราะความไม่รู้กฎหมาย ๒. ทนายความเปน็ ญาตเิ กยี่ วข้องกบั คคู่ วามอีกฝ่ายหนึง่ เมอ่ื มีเหตุอนั สมควรในการปฏเิ สธไม่รบั ทนายความ ผู้ต้องหาอาจร้องขอใหบ้ ุคคลอื่นเปน็ ประมวลกฎหมายวธิ พี จิ ารณาความอาญา มาตรา ๗/๑ บญั ญตั ไิ วว้ า่ “ผู้ถกู จบั หรือผู้ต้องหา ผจู้ ดั หาทนายความแทนพนกั งานสอบสวน โดยรอ้ งขอตอ่ ผ้แู ทนกระทรวงยตุ ธิ รรม หรือร้องขอ ซึ่งถูกควบคุม หรือขังมีสิทธแิ จ้ง หรอื ขอให้เจา้ พนกั งานแจ้งใหญ้ าติ หรอื ผซู้ ึง่ ผู้ถูกจับ หรอื ผ้ตู ้องหา ตอ่ ผแู้ ทนสภาทนายความและผตู้ อ้ งหาไมต่ อ้ งจา่ ยเงนิ คา่ ตอบแทน หรอื คา่ ใชจ้ า่ ยใหแ้ กท่ นายความ ไว้วางใจทราบถึงการถูกจับกุมและสถานที่ที่ถูกควบคุมในโอกาสแรก และให้ผู้ถูกจับ หรือผู้ต้องหา เน่ืองจากทนายความมีสิทธิได้รับเงินรางวัลและค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติหน้าท่ีจากกระทรวง มสี ิทธิ พบและปรกึ ษาผซู้ ึ่งจะเปน็ ทนายความเปน็ การเฉพาะตวั ใหท้ นายความ หรือผู้ซ่ึงตนไวว้ างใจ ยุตธิ รรม ตามระเบยี บกระทรวงยุติธรรมวา่ ดว้ ยการเบิกจา่ ยเงินรางวัลและคา่ ใช้จ่ายแกท่ นายความ เข้าฟงั การสอบปากค�ำ ตนได้ในชน้ั สอบสวน...” ทร่ี ัฐจดั หาให้แก่ผู้ตอ้ งหาในคดอี าญา พ.ศ. ๒๕๕๐ น่นั เอง หมายความว่า เมือ่ มกี ารจบั กมุ หรือต้องควบคุมตัวผู้ตอ้ งหา เช่น การจบั กุมผ้ตู ้องหาตาม หมายจับ หรือการจับกุมผู้ต้องหาซ่งึ กระทำ�ความผดิ ตอ่ หนา้ เจ้าหนา้ ท่ีตำ�รวจ เมือ่ มกี ารจบั กุมเกดิ ขน้ึ หรือเม่ือมีการควบคุมตัวผู้ต้องหารายน้ันเขามีสิทธิท่ีจะร้องขอให้มีทนายความเข้ามาเป็นที่ปรึกษา ในคดีโดยทนายความนนั้ อาจจะเป็นทนายความแกเ่ ขาเพื่อตอ่ สู้คดีต่อไป นอกจากนัน้ แล้วเมือ่ บุคคล ถกู จบั กุม หรือควบคมุ ตัวตามกฎหมาย และกฎหมายยังรบั รองสิทธิให้เขาสามารถให้ทนายความ หรือคนที่เขาไว้ใจเข้าฟังการสอบปากคำ�ในชั้นสอบสวนซึ่งเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชนผู้ต้องหา มสี ทิ ธไิ ด้รบั การจดั หาทนายความใหใ้ นกรณีดงั ต่อไปนี้ ๑. คดีทผ่ี ู้ตอ้ งหามีอตั ราโทษประหารชีวิตและไม่มที นายความ ๒. คดที ่ผี ตู้ อ้ งหาที่มอี ายุไม่เกนิ สิบแปดปีในวนั ทพี่ นักงานสอบสวนแจง้ ขอ้ หาและไม่มที นายความ ๓. คดที ี่ผ้ตู อ้ งหามอี ตั ราโทษจำ�คุก ไม่มที นายความและต้องการให้รฐั จัดหาทนายความให้
- ๕๗ - รฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศักราช ๒๕๖๐ บัญญัติเกี่ยวกบั การขอรับ การเยียวยาเพ่ือคุ้มครองสิทธิของประชาชนจากความเสียหายท่ีเกิดขึ้นจากการเข้าสู่ขั้นตอน ของกระบวนการยุตธิ รรมไว้วา่ “บุคคลซ่งึ ได้รบั ความเสียหายจากการถกู ละเมิดสทิ ธิ หรอื เสรีภาพ หรอื จากการกระท�ำ ความผิดอาญาของบุคคลอน่ื ย่อมมีสทิ ธิทีจ่ ะไดร้ บั การเยยี วยา หรือชว่ ยเหลือ จากรัฐตามที่กฎหมายบัญญัติ”๑๑๖ ทั้งน้ีในระบบกฎหมายไทยได้บัญญัติเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือเยียวยาประชาชน ท่ีได้รับความเสียหายอันเกิดขึ้นจากการเข้าสู่ขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมโดยตราเป็น พระราชบญั ญัติ ๓ ฉบับ ได้แก่ พระราชบญั ญตั กิ องทนุ ยุตธิ รรม พ.ศ. ๒๕๕๘ พระราชบญั ญัติ ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนผู้เสียหายและค่าใช้จ่ายแก่จำ�เลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔ พระราชบญั ญตั ิคมุ้ ครองพยานในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๖ ๑๑๖ อ้างแลว้ เชงิ อรรถที่ ๕๙.
- ๕๘ - - ๕๙ - การขอรับการเยียวยาตามกฎหมายดังกล่าวมีหลักเกณฑ์การพิจารณาให้การสนับสนุนแตกต่างกัน ๓.๑.๑ หลักเกณฑก์ ารพิจารณาใหเ้ งนิ สนับสนุน ตามแตก่ รณี โดยมสี าระส�ำ คญั ดงั ตอ่ ไปน้ี หลกั เกณฑก์ ารพจิ ารณาให้เงนิ สนบั สนุน มีรายละเอียดดงั ตอ่ ไปนี้๑๑๗ ๓.๑ กองทุนยตุ ิธรรม ๑.) ความสามารถในการให้ความชว่ ยเหลือของกองทุน ๒.) พฤติกรรมและข้อเท็จจริงของผู้ขอรับการสนับสนุน ต้องเป็นเรื่องการคุ้มครองสิทธิ สำ�นักงานกองทนุ ยุติธรรม มภี ารกจิ หลักในการรบั ค�ำ ขอรับความชว่ ยเหลอื จากประชาชน และเสรีภาพ หรอื ปกป้องรักษาประโยชน์สว่ นรวมของประชาชน ผยู้ ากไร้ เดือดรอ้ น เพ่ือพจิ ารณาสนับสนนุ ค่าใช้จา่ ยในด้านตา่ งๆ ดังนี้ ๓.) ลักษณะของการกระทำ�ผิด หรือการกระทำ�ละเมิดที่มีผลกระทบต่อประชาชนได้รับ ๑.) การช่วยเหลือประชาชนในการด�ำ เนนิ คดี เชน่ ค่าจา้ งทนายความ ค่าธรรมเนียมศาล ความเสยี หายหรือเกดิ ภัยพบิ ตั ติ ่อสว่ นรวมหรอื ความม่นั คงของประเทศ คา่ ใช้จา่ ยอ่นื ๆ ประกอบดว้ ย คา่ ท่ีพัก ค่าเดินทาง เป็นตน้ ๔.) ลักษณะของการกระทำ�ผิด หรือการกระทำ�ละเมิด ที่มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่น ๒.) การขอปลอ่ ยช่วั คราวผตู้ ้องหา หรือจ�ำ เลย โดยสำ�นักงานกองทุนจะเป็นนายประกัน ของประชาชน หรือกระบวนการยุติธรรมของประเทศ ดำ�เนนิ การประกนั ตัวผ้ตู ้องหา หรอื จำ�เลย ๕.) เรื่องที่มีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนและความ ๓.) การช่วยเหลือผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน หรือผู้ได้รับผลกระทบจากการถูกละเมิด มน่ั คงของประเทศ หรือความสมั พนั ธ์ระหว่างประเทศ สิทธิมนษุ ยชน เช่น การถกู ขงั เกิน ศาลยกฟอ้ งเน่ืองจากไม่ได้เป็นผู้กระทำ�ความผดิ เป็นต้น ๖.) พฤติกรรมข้อเท็จจริงและเงื่อนไขอื่นๆ ตามสถานการณ์ สภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้น เช่น ๔.) การใหค้ วามรู้ทางกฎหมายแก่ประชาชน โดยสนบั สนนุ คา่ ใช้จ่ายในการจดั โครงการ การชว่ ยใหพ้ น้ จากการกระท�ำ ของผมู้ อี ทิ ธพิ ล หรอื การปฏบิ ตั หิ นา้ ทโ่ี ดยมชิ อบของเจา้ หนา้ ทข่ี องรฐั เปน็ ตน้ ให้ความรู้ทางกฎหมายแก่ประชาชน ๗.) ความสามารถทางเศรษฐกจิ ของผู้ขอรบั การสนบั สนุน ๘.) การสนับสนุนของกองทุนนี้ ให้คำ�นึงถึงโอกาสที่ผู้ขอรับการสนับสนุนจะได้รับการ ช่วยเหลือ หรือบรรเทาความเสยี หายตามกฎหมายอ่ืนด้วย ๙.) การสนับสนุนเงิน หรือค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือกับประชาชน เพื่อให้ เปน็ ไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุนยตุ ธิ รรมแทจ้ ริง ซึง่ อาจจะมีการกำ�หนดเงอื่ นไขเป็นการเฉพาะ เร่ืองตามท่ีคณะกรรมการกำ�หนดได้ ๑๐.) ในกรณที ีป่ ระชาชนยื่นค�ำ ร้อง ขอรับการสนบั สนนุ เงิน หรอื ค่าใชจ้ ่ายกองทุนยตุ ธิ รรม ในพ้ืนทข่ี องจังหวดั ต่าง ๆ ใหค้ ณะกองทนุ ยตุ ิธรรมประจำ�จงั หวดั มอี �ำ นาจพิจารณาอนมุ ัติ ไมอ่ นมุ ัติ หรือยุติค�ำ ขอรบั การสนับสนนุ เงิน หรอื ค่าใช้จา่ ยกองทุนยุติธรรม ภายในวงเงนิ ไม่เกิน ๕๐๐,๐๐ บาท ต่อรายในทุกกรณี รวมทั้งตรวจสอบและแสวงหาข้อเท็จจริง แต่ถ้าเป็นเรื่องทั่วไป หรือเรื่องเร่งด่วน ทไ่ี มส่ ามารถน�ำ เขา้ ทป่ี ระชมุ คณะอนกุ รรมการฯ เพอ่ื พจิ ารณาได้ เนอ่ื งจากอาจท�ำ ใหไ้ มท่ นั ตอ่ เหตุการณ์ และหากปล่อยไว้จะเกิดความล่าช้า ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่มาขอรับการสนับสนุนเงิน หรือ ค่าใช้จ่ายกองทุนยุติธรรมให้ได้รับความเสียหาย ให้ยุติธรรมจังหวัดมีอำ�นาจพิจารณาอนุมัติ ไม่อนุมัติ หรอื ยตุ คิ �ำ ขอรับการสนบั สนุนเงนิ หรอื คา่ ใช้จ่ายกองทุนยตุ ิธรรมแทนได้ ท้งั นี้ เป็นไปตาม คำ�สงั่ คณะกรรมการบริหารกองทุนยตุ ิธรรมท่ี ๗/๒๕๕๘ ๑๑๗ โปรดดู ระเบยี บคณะกรรมการกองทนุ ยุตธิ รรม วา่ ด้วยหลักเกณฑ์ วิธกี าร และเง่อื นไขในการช่วยเหลือประชาชนในการดำ�เนนิ คดี พ.ศ. ๒๕๕๙.
- ๖๐ - - ๖๑ - ๓.๑.๒ กรณีทจี่ ะได้รบั เงนิ สนับสนุนหรือค่าใชจ้ ่าย ตวั อย่างคดีดังท่ีได้รบั การช่วยเหลอื จากกองทนุ ยุติธรรม๑๒๐ พระราชบัญญัตกิ องทุนยตุ ิธรรม พ.ศ. ๒๕๕๘ มาตรา ๘ บัญญตั ใิ หก้ องทนุ มีรายไดจ้ ากเงิน คดคี นเก็บขยะตง้ั แผงขายซดี ี นายสรุ ตั น์ มณนี พรัตน์สุดา พนกั งานประจ�ำ รถขยะของ ดงั ตอ่ ไปน้ี กรุงเทพมหานคร จ�ำ เลยในคดมี แี ผน่ ซดี เี พือ่ จำ�หน่ายโดยไม่ไดร้ บั อนุญาต อันเปน็ ความผดิ ตาม ๑.) เงินที่ศาลสั่งบังคับกรณีผิดสัญญาประกันต่อศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา พระราชบญั ญัติภาพยนตร์และวดี ิทศั น์ พ.ศ. ๒๕๕๑ โดยกองทุนยตุ ิธรรมอนมุ ตั ิหลักประกันในการ ความอาญา ปลอ่ ยตัวช่ัวคราวเปน็ เงนิ ๒๔๐,๐๐๐ บาท ทัง้ ในศาลชนั้ ต้นและศาลอุทธรณ์ ๒.) คา่ ธรรมเนยี มศาลตามประมวลกฎหมายวิธพี จิ ารณาความแพง่ คดีสมาชิกสวัสดิการกองทุนหมู่บ้านบางปลา กรณีชาวบ้านชุมชนบางปลา หมู่ ๔ ๓.) ค่าปรับตามคำ�พิพากษาในคดีอาญา ทั้งนี้ ในอัตราไม่เกินร้อยละห้าของจำ�นวนเงิน ตำ�บลบ้านเกาะ อำ�เภอเมืองสมุทรสาคร ได้นำ�เงินสมทบกับกองทุนสวัสดิการสมาคม เฉพาะสว่ นท่ีน�ำ ส่งคลังโดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง เครือข่ายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งประเทศไทย ต่อมาได้รับแจ้งว่ากองทุนหมู่บ้านฯ เงินกองทนุ ใหใ้ ช้จ่ายเพือ่ กิจการ ดังตอ่ ไปน้ี๑๑๘ สาขานครปฐม ขาดสภาพคลอ่ งทางการเงนิ มานานหลายปี แต่ไม่ไดแ้ จ้งให้สมาชิกรบั ทราบและ ๑.) การชว่ ยเหลือประชาชนในการด�ำ เนนิ คดี ยังคงเกบ็ เงนิ กบั สมาชกิ ทกุ เดือนเหมอื นมีเจตนาปกปดิ สถานภาพทางการเงนิ คดนี ี้กองทุนยตุ ธิ รรม ๒.) การขอปลอ่ ยชวั่ คราวผู้ต้องหาหรอื จำ�เลย ได้ช่วยเหลือในเร่อื งของการด�ำ เนนิ การเกย่ี วกบั กฎหมายทางแพ่ง เพอ่ื เรียกรอ้ งความเป็นธรรม ๓.) การช่วยเหลือผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือผู้ได้รับผลกระทบจากการถูกละเมิด ใหก้ ับผเู้ สยี หายทม่ี รี ายได้น้อย สทิ ธมิ นษุ ยชน ๔.) การให้ความรู้ทางกฎหมายแกป่ ระชาชน ๑๒๐ https://www.tcijthai.com/news/2017/1/scoop/6689. ๕.) การดำ�เนินงานกองทุนหรือการบริหารกองทุน และกิจการอื่นที่เกี่ยวกับ หรือ เก่ียวเนอ่ื งกับการจดั กิจการของกองทนุ ผู้ขอรับความช่วยเหลือในการดำ�เนินคดีจากกองทุน อาจขอรับความช่วยเหลือได้ในกรณี ดงั ต่อไปนี้ ๑๑๙ ๑.) คา่ จา้ งทนายความ ๒.) คา่ ทป่ี รกึ ษา หรอื ผชู้ ว่ ยเหลอื ทางกฎหมายในการด�ำ เนนิ คดี หรอื ผเู้ ชย่ี วชาญเฉพาะดา้ น ๓.) คา่ ฤชาธรรมเนยี ม ๔.) ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการดำ�เนินคดี เช่น ค่าตรวจพิสูจน์ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับ ค่าวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือที่ใช้ในการแสวงหาข้อเท็จจริงและหลักฐาน ค่าใช้จ่าย ในการจัดเตรียม เอกสาร คา่ ใช้จา่ ยในการสอบแนวเขตรังวัดทีด่ นิ คา่ ใชจ้ ่ายเกี่ยวกับแผนที่ ภาพถา่ ยทางอากาศ หรือ ทางดาวเทียม การอ่าน แปล ตีความ หรือวิเคราะห์ ภาพถา่ ย ๕.) คา่ ใช้จ่ายอืน่ ๆ ท่เี กีย่ วขอ้ งในการด�ำ เนินคดี ตามท่คี ณะกรรมการเห็นสมควร ๑๑๘ พระราชบญั ญตั ิกองทุนยุตธิ รรม พ.ศ. ๒๕๕๘ มาตรา ๙. ๑๑๙ ระเบยี บคณะกรรมการกองทนุ ยตุ ธิ รรม วา่ ดว้ ยหลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และเงอ่ื นไขในการชว่ ยเหลอื ประชาชนในการด�ำ เนนิ คดี พ.ศ. ๒๕๕๙ ขอ้ ๙.
- ๖๒ - - ๖๓ - กรณีกลุ่มชาวนา จังหวัดลพบุรี จำ�นวน ๓๕ ราย ขายข้าวเปลือกให้โรงสีข้าวแล้ว ๓.๑.๓ ขั้นตอนการขอรบั การเยียวยาทางกฎหมายจากกองทุนยตุ ธิ รรม๑๒๑ ไม่ได้เงิน โดยกองทุนยุติธรรมได้อนุมัติค่าทนายความและค่าธรรมเนียมศาลในการต่อสู้คดี เป็น เงิน ๒๑๐,๐๐๐ บาท ๑. ยื่นคำ�ขอ ผู้ขอรับความช่วยเหลืออาจยื่นคำ�ขอด้วยตนเอง หรือผู้แทนโดยชอบธรรม กรณชี าวเล หาดราไวย์ กองทนุ ยุติธรรมไดอ้ นุมตั ิให้ความช่วยเหลอื คา่ ทนายความ ผอู้ นบุ าล ผพู้ ทิ กั ษ์ สามี หรอื ภรยิ าทจ่ี ดทะเบยี นสมรสเปน็ ผยู้ น่ื ค�ำ ขอแทน หรอื ผขู้ อรบั ความชว่ ยเหลอื ค่าธรรมเนียมศาลค่าตรวจพิสูจน์พันธุกรรมและค่าประกันตัวช่วยต่อสู้คดีท่ีถูกฟ้องขับไล่ช่วยเหลือ อาจมอบอำ�นาจให้บุคคลใดเป็นผู้ยื่นคำ�ขอ ณ สำ�นักงานกองทุนยุติธรรม หรือสำ�นักงานยุติธรรม ท้งั ศาล ชั้นอทุ ธรณแ์ ละศาลฎีกา จำ�นวน ๓๖ ราย เปน็ เงิน ๓๒๓,๔๔๐ บาท และช่วยเหลอื จงั หวดั ๗๖ จงั หวดั แทนกไ็ ด้ หรอื โดยวธิ กี ารสง่ ค�ำ ขอทางไปรษณยี ์ จดหมายอเิ ลก็ ทรอนกิ ส (์ E-mail) เงนิ ประกันตวั จำ�นวน ๙ ราย เปน็ เงิน ๔๕,๐๐๐ บาท กรณีผู้ยื่นคำ�ขอเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ ต้องได้รับ คดี ๒ ผูเ้ ฒ่าตัดไม้พะยงู ในทด่ี นิ ตวั เอง กองทุนยุติธรรมได้อนุมัติให้ความช่วยเหลือ ความยนิ ยอมจากผูแ้ ทนโดยชอบธรรม ผูอ้ นุบาล หรอื ผู้พิทักษ์ แล้วแตก่ รณี นายทองสขุ พนั ชมภู อายุ ๘๐ ปี และนายเดนิ จนั ทกล อายุ ๗๐ ปี ทถี่ กู ด�ำ เนินคดีข้อหาตัดไม้ หากผู้ยื่นคำ�ขอเป็นสามี หรือภริยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส บุพการี ผู้สืบสันดาน ญาติ พะยูงในทนี่ าของตัวเอง จังหวัดมหาสารคาม โดยกองทนุ ยุติธรรมจะรับผิดชอบคา่ ใชจ้ า่ ยเก่ยี วกับ ใกล้ชิด ผู้บังคับบัญชา หรือนายจ้างของบุคคลดังกล่าว ให้เจ้าหน้าที่จัดทำ�เอกสารมอบอำ�นาจจาก การดำ�เนนิ คดตี ง้ั แต่คา่ ปล่อยตัวชัว่ คราว และคา่ จา้ งทนายความในการดำ�เนินคดี ผู้มสี ทิ ธิขอรับความช่วยเหลอื ตอ่ ไป ๒. แจ้งปัญหาหรือข้อเท็จจริง แก่เจ้าหน้าผู้มีอำ�นาจหน้าที่รับคำ�ขอ โดยมอบหลักฐาน เอกสาร ให้เจ้าหน้าที่เพื่อประโยชน์ในการให้ความช่วยเหลือ เมื่อเจ้าหน้าที่รับคำ�ขอแล้ว เห็นว่า เอกสารหลกั ฐานทจ่ี �ำ เปน็ ตอ้ งประกอบการพจิ ารณายงั ไมค่ รบถว้ น เจา้ หนา้ ทจ่ี ะแจง้ ใหผ้ ยู้ น่ื ค�ำ ขอทราบ เพอ่ื ดำ�เนินการสง่ เอกสารหลกั ฐานใหค้ รบถว้ นตอ่ ไป ๓. เจ้าหน้าที่ให้คำ�ปรึกษา เกี่ยวกับปัญหาข้อพิพาท กฎหมาย การดำ�เนินคดีและสิทธิ หนา้ ทีต่ ามกฎหมาย ๔. เจ้าหน้าที่กลั่นกรองคำ�ขอรับความช่วยเหลือ ส่งต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง มอบหมายเจ้าหน้าที่กองทุนยุติธรรมดำ�เนินการตามข้อ ๕ กรณีที่ผู้ขอรับความช่วยเหลือยื่นคำ�ขอ ผ่านส่วนราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรม หรือส่วนราชการอื่น เมื่อส่วนราชการนั้นได้ดำ�เนินการ ตามอ�ำ นาจหนา้ ทท่ี ไ่ี ดร้ บั มอบหมายแลว้ ใหน้ �ำ สง่ ส�ำ นกั งานเพอ่ื ด�ำ เนนิ การตามอ�ำ นาจหนา้ ทต่ี อ่ ไป๑๒๒ ๕. เจ้าหน้าที่เสาะหาข้อเท็จจริง เอกสารหลักฐานเพิ่มเติม เช่น สอบปากคำ�บุคคล ผมู้ ีส่วนเกย่ี วข้อง ลงพน้ื ท่ีจริงเพื่อเก็บข้อมูล ตรวจสอบความประพฤติของผู้ขอรับความช่วยเหลอื ๖. คณะกรรมการหรือประธานพิจารณาคำ�ขอและแจ้งผล ผู้ขอรับความช่วยเหลือ จะทราบภายใน ๗ วนั หลังจากวนั พิจารณา ๑๒๑ โปรดดู ระเบียบคณะกรรมการกองทุนยตุ ธิ รรม. ๑๒๒ สำ�นกั งานกองทุนยุติธรรม หรือหนว่ ยงานในจงั หวดั ทีส่ งั กัดกระทรวงยุตธิ รรมทป่ี ลัดกระทรวงยตุ ิธรรมมอบหมาย.
- ๖๔ - - ๖๕ - ข้นั ตอนการขอรับการเยียวยาทางกฎหมายจากกองทนุ ยตุ ิธรรม ๓.๑.๔ เอกสาร ๑. ยื่นคำ�ขอ ในการขอรบั ความชว่ ยเหลอื จากกองทนุ ยตุ ิธรรมผขู้ อรับความช่วยเหลอื จะต้องแนบเอกสาร ๒. แจ้งปญั หาหรือขอ้ เท็จจริง หลกั ฐานดงั ต่อไปนี้มาพร้อมกบั ค�ำ ขอเพื่อประกอบการพจิ ารณาน้ันดว้ ย ๓. เจา้ หนา้ ท่ใี หค้ ำ�ปรกึ ษา ๔. เจ้าหน้าที่เสาะหาข้อเทจ็ จรงิ ๑.) ส�ำ เนาบัตรประจ�ำ ตัวประชาชน/บตั รประจ�ำ ตัวเจ้าหนา้ ทีข่ องรัฐ ๕. เจ้าหนา้ ทกี่ ลน่ั กรองค�ำ ขอรับความชว่ ยเหลือ ๖. คณะกรรมการหรอื ประธาน พิจารณาคำ�ขอและแจง้ ผล ๒.) ส�ำ เนาทะเบียนบา้ น ๖.) สำ�เนาบันทกึ คำ�ให้การ ๓.) ส�ำ เนาใบเปลย่ี นช่อื สกลุ (ถา้ มี) ๗.) ส�ำ เนาค�ำ ร้องขอฝากขัง ๔.) หนังสือมอบอำ�นาจ (ถ้ามี) ๘.) สำ�เนาคำ�ฟอ้ งศาลชน้ั ต้น อุทธรณ์ ฎีกา ๕.) ส�ำ เนาบนั ทกึ การจับกมุ ๙.) สำ�เนาค�ำ พิพากษาศาลช้ันต้น อทุ ธรณ์ ฎกี า ๓.๑.๕ ระยะเวลา ในกรณีผู้ขอรับความช่วยเหลือย่ืนคำ�ขอซึ่งเป็นการเรียกร้องอันเกิดจากกรณีถูกละเมิด สทิ ธมิ นุษยชน หรอื กรณีได้รับผลกระทบจากการถูกละเมดิ สทิ ธิมนุษยชน ให้ยน่ื ค�ำ ขอภายในสองปี นับแต่วันทผ่ี ้ขู อรับความชว่ ยเหลือร้ถู งึ การละเมดิ สิทธิมนษุ ยชนนัน้ ๑๒๓ ๑๒๓ ระเบียบคณะกรรมการกองทุนยตุ ธิ รรมวา่ ด้วยหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเง่อื นไขในการชว่ ยเหลอื ผถู้ ูกละเมิดสทิ ธมิ นษุ ยชนหรอื ผู้ไดร้ บั ผลกระทบจากการถกู ละเมดิ สิทธิมนุษยชน พ.ศ. ๒๕๕๙ ข้อ ๖.
- ๖๖ - - ๖๗ - ส�ำ นกั งานยุติธรรมจงั หวดั พะเยา ๓.๑.๖ ช่องทางติดตอ่ การขอรบั การเยยี วยาจากกองทุนยุตธิ รรม อาคารศาลากลางจังหวดั (หลังเกา่ )ชน้ั ๒ ต�ำ บลบา้ นต๋อม อำ�เภอเมือง จงั หวัดพะเยา ๕๖๐๐๐ ประชาชนสามารถขอรบั บริการ (ย่นื คำ�ขอรับความชว่ ยเหลอื ) ทางช่องทางดงั นี้ โทร. ๐๕๔-๔๔๙-๗๐๖ ส�ำ นักงานยตุ ธิ รรมจงั หวัดแพร่ ๑.ติดตอ่ ขอรับบรกิ ารด้วยตวั เอง ณ สำ�นักงานีก้ องทนุ ยตุ ิธรรม กลุม่ งานชว่ ยเหลอื ประชาชน อาคารฝกึ วิชาชีพ เรือนจำ�จงั หวัด โทร. ๐-๒๕๐๒-๖๓๑๘,๐-๒๕๐๒-๖๒๔๖,๐-๒๕๐๒-๖๗๕๒ โทรสาร ๐-๒๕๐๒-๖๙๐๕ เลขท่ี ๒๐ ถนนไชยบูรณ์ ตำ�บลในเวียง อ�ำ เภอเมือง จังหวัดแพร่ ๕๔๐๐๐ e-mail: [email protected] หรือ สำ�นกั งานยุตธิ รรมจังหวัด ๗๖ จงั หวัด ภาคเหนือ ๙ จังหวัด โทร. ๐๕๔-๕๒๒-๕๒๘ ส�ำ นักงานยุติธรรมจังหวดั เชยี งใหม่ ส�ำ นกั งานยตุ ิธรรมจงั หวัดอตุ รดติ ถ์ บริเวณศนู ยร์ าชการจงั หวัดเชยี งใหม่ อาคารบรู ณาการกระทรวงยุตธิ รรม อตุ รดิตถ์ ถนนโชตนา ต�ำ บลชา้ งเผอื ก อ�ำ เภอเมือง จงั หวดั เชียงใหม่ ๕๐๓๐๐ เลขท่ี ๘ ถนนศรอัสนยี ์ ต�ำ บลท่าอฐิ อ�ำ เภอเมือง จังหวดั อุตรดติ ถ์ ๕๓๐๐๐ โทร. ๐๕๓-๑๑๒-๓๑๔-๕ สำ�นกั งานยตุ ธิ รรมจงั หวดั เชียงราย โทร. ๐๕๕-๘๓๐-๘๓๒-๓ อาคารศาลากลางจงั หวดั (หลงั ใหม)่ ชน้ั ๑ ถนนแมฟ่ า้ หลวง ต�ำ บลรมิ กก อ�ำ เภอเมอื ง จงั หวดั เชยี งราย ๕๗๑๐๐ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๒๐ จงั หวัด โทร. ๐๕๓-๑๕๐-๑๙๐ ส�ำ นกั งานยุตธิ รรมจังหวดั อำ�นาจเจรญิ ส�ำ นักงานยตุ ิธรรมจงั หวัดลำ�ปาง อาคารศนู ยร์ าชการ เลขท่ี ๕๐๒-๕๐๖ ถนนไมตรปี ระชา ตำ�บลสบตุ๋ย อำ�เภอเมอื ง จังหวดั ล�ำ ปาง ๕๒๑๐๐ ชัน้ ๓ ถนนชยางภูร ต�ำ บลโนนหนามแทง่ อ�ำ เภอเมือง จังหวัดอ�ำ นาจเจรญิ ๓๔๐๐๐ โทร. ๐๕๔-๒๒๗-๗๖๘ โทร. ๐๔๕-๕๒๓-๑๗๑-๒ ส�ำ นกั งานยุตธิ รรมจังหวัดล�ำ พูน สำ�นกั งานยุติธรรมจังหวดั บงึ กาฬ เลขท่ี ๑๕๙/๗ หมู่ ๑๐ ตรงขา้ มสถานขี นสง่ จงั หวดั ต�ำ บลบา้ นกลาง อ�ำ เภอเมอื ง จงั หวดั ล�ำ พนู ๕๑๐๐๐ ศาลากลางจังหวดั บงึ กาฬ ช้นั ๔ ตำ�บลวิศิษฐ์ อำ�เภอเมอื งบึงกาฬ จงั หวดั บึงกาฬ ๓๘๐๐๐ โทร. ๐๕๓-๕๒๕-๕๑๐ โทร. ๐๔๒-๔๙๒-๕๑๔ สำ�นกั งานยตุ ิธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน สำ�นักงานยุติธรรมจงั หวดั บรุ ีรัมย์ เลขท่ี ๙/๔ โครงการแม่ฮ่องสอนพลาซา่ ซอย ๕ ถนนขนุ ลมประพาส อาคารจ�ำ หน่ายผลติ ภณั ฑ์ (ตรงข้ามไปรษณีย์บรุ รี มั ย์) ตำ�บลจองคำ� อ�ำ เภอเมือง จงั หวัดแมฮ่ ่องสอน ๕๘๐๐๐ ถนนอสี าร อำ�เภอเมอื ง จังหวัดบรุ ีรมั ย์ ๓๑๐๐๐ โทร. ๐๕๓-๖๑๒-๐๗๗ โทร. ๐๔๔-๖๐๒-๓๐๙ สำ�นกั งานยุติธรรมจงั หวัดนา่ น สำ�นักงานยตุ ิธรรมจงั หวัดชยั ภมู ิ เลขท่ี ๗/๗๐ ถนนเจ้าฟ้า ต�ำ บลในเวยี ง อำ�เภอเมือง จงั หวัดน่าน ๕๕๐๐๐ เลขท่ี ๙/๙-๑๐ หมู่ ๖ ถนนชยั ภูมิ ต�ำ บลในเมือง อ�ำ เภอเมือง จังหวัดชยั ภมู ิ ๓๖๐๐๐ โทร. ๐๕๔-๗๗๕-๘๒๐ โทร. ๐๔๔-๘๑๓-๔๕๒
- ๖๘ - - ๖๙ - สำ�นักงานยตุ ิธรรมจงั หวดั กาฬสนิ ธุ์ สำ�นกั งานยุตธิ รรมจังหวัดหนองคาย ศาลากลางจงั หวดั กาฬสนิ ธ(์ุ หลงั เกา่ ) ชน้ั ๑ ต�ำ บลกาฬสนิ ธ์ุ อ�ำ เภอเมอื ง จงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ ๔๖๐๐๐ ศาลากลางจังหวดั ชั้น โทร. ๐๔๓-๘๑๖-๔๐๓ ๓ ถนนมติ รภาพ ตำ�บลหนองกอมเกาะ อำ�เภอเมือง จงั หวัดหนองคาย ๔๓๐๐๐ ส�ำ นกั งานยตุ ิธรรมจงั หวดั ขอนแกน่ โทร. ๐๔๒-๔๑๓-๗๗๔ ศาลากลางจงั หวัดขอนแก่น สำ�นักงานยุตธิ รรมจงั หวัดร้อยเอด็ ชั้น ๕ ถนนศนู ยร์ าชการ ตำ�บลในเมอื ง อ�ำ เภอเมือง จงั หวัดขอนแก่น ๔๐๐๐๐ ศาลากลางจงั หวดั (หลงั เกา่ ) โทร. ๐๔๓-๒๔๓-๗๐๗ ชน้ั ๒ ถนนเทวาภบิ าล ต�ำ บลในเมือง อำ�เภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด ๔๕๐๐๐ สำ�นักงานยตุ ิธรรมจงั หวดั เลย ทว่ี า่ การอ�ำ เภอเมอื งเลย ชน้ั ๑ หมู่ ๑ ถนนจรญั ศรี ต�ำ บลกดุ ปอ่ ง อ�ำ เภอเมอื ง จงั หวดั เลย ๔๒๐๐๐ โทร. ๐๔๓-๕๑๓-๒๓๓ ส�ำ นักงานยุติธรรมจังหวดั สกลนคร โทร. ๐๔๒-๘๑๔-๗๓๗ เลขที่ ๑๙๐๓ ถนนศูนย์ราชการ ตำ�บลธาตุเชงิ ชุม อ�ำ เภอเมือง จงั หวัดสกลนคร ๔๗๐๐๐ ส�ำ นกั งานยตุ ิธรรมจังหวดั มหาสารคาม ถนนศรสี วัสดิ์ดำ�เนิน ตำ�บลตลาด อ�ำ เภอเมอื ง จังหวัดมหาสารคาม ๔๔๐๐๐ โทร. ๐๔๒-๗๑๓-๔๐๐ ส�ำ นักงานยตุ ธิ รรมจงั หวดั ศรีษะเกษ โทร. ๐๔๓-๗๒๒-๐๗๗ ท่ีว่าการอำ�เภอเมอื งศรีษะเกษช้ัน ๓ ตำ�บลเมืองเหนือ อำ�เภอเมือง จังหวดั ศรีษะเกษ ๓๓๐๐๐ ส�ำ นักงานยุตธิ รรมจังหวัดมุกดาหาร ซอยค่ายลกู เสือ ถนนพิพนมเขต ต�ำ บลมกุ ดาหาร อ�ำ เภอเมือง จงั หวัดมุกดาหาร ๔๙๐๐๐ โทร. ๐๔๕-๖๔๓-๖๕๗-๘ สำ�นักงานยตุ ิธรรมจงั หวดั สรุ นิ ทร์ โทร. ๐๔๒-๖๑๔-๔๐๑ อาคารบรู ณาการกระทรวงยตุ ธิ รรม ชัน้ ๑ เลขท่ี ๗๙๙ หมู่ ๒๐ ส�ำ นักงานยุตธิ รรมจงั หวัดนครพนม ถนนเล่ียงเมือง ตำ�บลนอกเมือง อ�ำ เภอเมอื ง จังหวัดสุรินทร์ ๓๒๐๐๐ เลขที่ ๓๙๔ ถนนอภบิ าลบัญชา ตำ�บลในเมอื ง อำ�เภอเมือง จงั หวดั นครพนม ๔๘๐๐๐ โทร. ๐๔๔-๐๔๐-๙๑๔-๕ โทร. ๐๔๒-๕๑๑-๘๒๓ สำ�นักงานยตุ ธิ รรมจังหวัดอุบลราชธานี ส�ำ นักงานยุติธรรมจงั หวดั นครราชสมี า ศาลากลางจังหวัดอบุ ลราชธานี ชัน้ ๔ เลขท่ี ๑๘๔๙/๗-๘ ถนนรว่ มเรงิ ไชย ตำ�บลในเมอื ง อำ�เภอเมือง จังหวัดนครราชสมี า ๓๐๐๐๐ ถนนแจง้ สนทิ ตำ�บลจระแม อ�ำ เภอเมอื ง จังหวัดอบุ ลราชธานี ๓๔๐๐๐ โทร. ๐๔๔-๓๕๓-๙๕๕ โทร. ๐๔๕-๓๔๔-๕๘๕ ส�ำ นักงานยตุ ิธรรมจงั หวดั หนองบวั ลำ�ภู สำ�นกั งานยุติธรรมจงั หวัดอุดรธานี อาคารบูรณาการกระทรวงยตุ ธิ รรมจังหวดั หนองบัวล�ำ ภู อาคารบูรณาการกระทรวงยตุ ธิ รรม เลขท่ี ๖๕/๑๕ หม่๒ู ตำ�บลลำ�ภู อ�ำ เภอเมอื งหนองบวั ลำ�ภู จังหวดั หนองบัวลำ�ภู ๓๙๐๐๐ เลขที่ ๗๕ ตำ�บลหมากแข้ง อ�ำ เภอเมือง จงั หวัดอดุ รธานี ๔๑๐๐๐ โทร. ๐๔๒-๓๗๘-๔๐๕ โทร. ๐๔๒-๒๔๙-๓๔๕
- ๗๐ - - ๗๑ - ส�ำ นักงานยุตธิ รรมจงั หวัดยโสธร ส�ำ นักงานยตุ ิธรรมจงั หวัดนนทบรุ ี อาคารหนา้ ศาลากลาง หลงั ใหม่ ถนนแจง้ สนทิ ต�ำ บลในเมอื ง อ�ำ เภอเมอื งยโสธร จงั หวดั ยโสธร ๓๕๐๐๐ องค์การบริหารส่วนจังหวดั นนทบุรี ชั้น ๒ ถนนรตั นาธิเบศร์ ต�ำ บลบางกระสอ อำ�เภอเมอื ง จงั หวัดนนทบรุ ี โทร. ๐๔๕-๗๑๑-๒๑๔ โทร. ๐-๒๕๘๙-๐๔๘๑ ต่อ ๑๔๑ ภาคกลาง ๒๑ จงั หวดั ส�ำ นักงานยตุ ธิ รรมจังหวดั ปทมุ ธานี สำ�นกั งานยุติธรรมจงั หวัดอา่ งทอง ศาลากลางจังหวัด ช้นั ๒ (หลังเก่า) เลขที่ ๓๗/๒๕ หมู่ ๒ ตำ�บลศาลาแดง อำ�เภอเมอื ง จงั หวัดอา่ งทอง ๑๔๐๐๐ ถนนปทมุ ธาน-ี สามโคก ตำ�บลบางปรอก อ�ำ เภอเมือง จงั หวัดปทุมธานี ๑๒๐๐๐ โทร. ๐๓๕-๖๑๕-๗๘๗-๘ สำ�นกั งานยุติธรรมจงั หวัดชัยนาท โทร. ๐-๒๕๘๑-๓๙๙๐ อาคารศาลาประชาคม ชน้ั ๒ ถนนพรหมประเสรฐิ ต�ำ บลในเมอื ง อ�ำ เภอเมอื ง จงั หวดั ชยั นาท ๑๗๐๐๐ สำ�นกั งานยตุ ิธรรมจังหวัดเพชรบรู ณ์ โทร. ๐๕๖-๔๑๑-๙๒๘ เลขที่ ๓๒๙/๑๘ ถนนสามัคคชยั ต�ำ บลในเมอื ง อ�ำ เภอเมอื ง จงั หวัดเพชรบรู ณ์ ๖๗๐๐๐ ส�ำ นกั งานยุติธรรมจังหวดั กำ�แพงเพชร ทว่ี า่ การอ�ำ เภอก�ำ แพงเพชร ชน้ั ๒ ถนนปน่ิ ด�ำ รหิ ์ ต�ำ บลในเมอื ง อ�ำ เภอเมอื ง จงั หวดั ก�ำ แพงเพชร ๖๒๐๐๐ โทร. ๐๕๖-๗๒๐-๖๘๘ โทร. ๐๕๕-๗๑๓-๙๔๐-๑ ส�ำ นกั งานยุติธรรมจงั หวดั พิจติ ร ส�ำ นกั งานยุติธรรมจังหวัดลพบรุ ี บริเวณทางเขา้ ท่ีวา่ การอ�ำ เภอเมอื งพจิ ติ ร อาคารบรู ณาการกระทรวงยุติธรรมจงั หวัดลพบรุ ี ถนนศรีมาลา ต�ำ บลในเมือง อ�ำ เภอเมือง จงั หวดั พจิ ิตร ๖๖๐๐๐ ช้ัน ๒ เลขที่ ๑๑๘ ถนนสดี า ต�ำ บลทะเลชบุ ศร อำ�เภอเมอื ง จงั หวัดลพบรุ ี ๑๕๐๐๐ โทร. ๐๓๖-๗๘๒-๒๐๖-๗ โทร. ๐๕๖-๖๑๕-๗๔๓ ส�ำ นักงานยุติธรรมจงั หวดั นครนายก ส�ำ นักงานยตุ ธิ รรมจงั หวัดพษิ ณโุ ลก ๑๖๑/๓ ซ.ชลประสทิ ธิ์ ๑๓ ตำ�บลทา่ ช้าง อำ�เภอเมือง จงั หวดั นครนายก ๒๖๐๐๐ เลขท่ี ๘๙/๑-๒ หม๑ู่ ๒ ถนนบรมไตรโลกนารถ ต�ำ บลหวั รอ อ�ำ เภอเมอื ง จงั หวดั พษิ ณโุ ลก ๖๕๐๐๐ โทร. ๐๓๗-๓๑๕-๐๐๒ ส�ำ นกั งานยตุ ธิ รรมจงั หวดั นครปฐม โทร. ๐๕๕-๒๕๓-๔๒๐ เลขที่ ๘๙๘/๑๐ ถนนเพชรเกษม ตำ�บลห้วยจระเข้ อ�ำ เภอเมอื ง จังหวดั นครปฐม ๗๓๐๐๐ ส�ำ นักงานยุตธิ รรมจังหวดั พระนครศรอี ยุธยา โทร. ๐๓๔-๒๑๓-๑๖๙ เลขท่ี ๙/๒๕ หมู่ ๓ ตำ�บลคลองสวนพลู อ�ำ เภอพระนครศรอี ยธุ ยา ส�ำ นกั งานยตุ ิธรรมจังหวดั นครสวรรค์ เลขท่ี ๔/๓๔ หมู่ที่ ๕ ต�ำ บลนครสวรรค์ตก อ�ำ เภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ๖๐๐๐๐ จังหวดั พระนครศรีอยธุ ยา ๑๓๐๐๐ โทร. ๐๕๖-๘๘๒-๐๓๗ โทร. ๐๓๕-๗๐๘-๓๘๗-๘ สำ�นักงานยุตธิ รรมจงั หวดั สมุทรปราการ อาคารสำ�นกั งานคุมประพฤตจิ ังหวัดสมุทรปราการ เลขท่ี ๕๙๖ ช้นั ๒ หมู่ ๕ ตำ�บลบางปใู หม่ อ�ำ เภอเมอื ง จงั หวัดสมทุ รปราการ ๑๐๒๘๐ โทร. ๐๒๗-๐๗๗-๘๑๑-๑๒ ต่อ ๑๕
- ๗๒ - - ๗๓ - สำ�นักงานยุตธิ รรมจังหวัดสมุทรสาคร ภาคตะวนั ออก ๗ จังหวัด เลขที่ ๙๒๓/๕๘๘ ชนั้ ๓ ถนนทา่ ปรง ตำ�บลมหาชัย อำ�เภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ๗๔๐๐๐ สำ�นักงานยตุ ธิ รรมจังหวัดฉะเชงิ เทรา เลขที่ ๖๖/๑ ถนนยุทธด�ำ เนิน ต�ำ บลหน้าเมือง อำ�เภอเมือง จังหวดั ฉะเชิงเทรา ๒๔๐๐๐๐ โทร. ๐๓๔-๔๒๕-๒๓๖ โทร. ๐๓๘-๕๑๔-๓๗๕ สำ�นักงานยตุ ิธรรมจังหวดั สมุทรสงคราม สำ�นักงานยุติธรรมจังหวดั จนั ทบรุ ี อาคารบรู ณาการกระทรวงยตุ ิธรรม เลขท่ี ๑๓/๑ ถนนทางหลวง ต�ำ บลวัดใหม่ อำ�เภอเมอื ง จงั หวดั จันทบุรี ๒๒๐๐๐ ชั้น ๑ เลขท่ี ๒๑๒ หมู่ ๓ ตำ�บลลาดใหญ่ อ�ำ เภอเมือง จังหวดั สมทุ รสงคราม ๗๕๐๐๐ โทร. ๐๓๙-๓๐๒-๔๘๐ โทร. ๐๓๔-๗๑๘-๔๒๐-๑ ส�ำ นักงานยุตธิ รรมจังหวดั ชลบุรี เลขท่ี ๐๗๘/๑๘๘ หมู่ ๓ ถนนพระยาสัจจา ตำ�บลเสม็ด อำ�เภอเมือง จงั หวัดชลบรุ ี ๒๐๐๐๐ ส�ำ นักงานยุติธรรมจงั หวดั สระบุรี เลขที่ ๒ ซอย ๑๗ ถนนพหลโยธนิ ตำ�บลปากเพรยี ว อำ�เภอเมอื ง จงั หวดั สระบรุ ี ๑๘๒๔๐ โทร. ๐๓๘-๔๖๗-๗๙๓-๔ ส�ำ นักงานยุติธรรมจังหวดั ปราจีนบรุ ี โทร. ๐๓๖-๒๑๓-๑๕๘-๙ เลขที่ ๗๐๒ ถนนปราจนี อนุสรณ์ ตำ�บลหนา้ เมือง อำ�เภอเมอื ง จังหวัดปราจีนบรุ ี ๒๕๐๐๐ ส�ำ นกั งานยตุ ธิ รรมจังหวดั สิงห์บรุ ี โทร. ๐๓๗-๓๒๑-๒๐๘ อาคารศรปี ระมงค์ ส�ำ นักงานยตุ ิธรรมจังหวดั ระยอง เลขท่ี ๒๕๙/๖ หมู่ ๗ ถนนสงิ หบ์ รุ -ี บางระจนั ต�ำ บลบางมญั อ�ำ เภอเมอื ง จงั หวดั สงิ หบ์ รุ ี ๑๖๐๐๐ ศนู ยร์ าชการจังหวดั ระยอง โทร. ๐๓๖-๕๒๓-๗๕๕-๖ ถนนสขุ มุ วทิ เนนิ พระ ตำ�บลเนินพระ อำ�เภอเมอื ง จงั หวัดระยอง ๒๑๑๕๐ สำ�นักงานยุติธรรมจงั หวดั สโุ ขทยั โทร. ๐๓๘-๖๙๔-๔๖๒ และ ๐๓๘-๖๙๔-๖๑๖ ศาลากลางจงั หวดั สโุ ขทัย อาคาร ๑ ชน้ั ๑ ตำ�บลธานี อำ�เภอเมอื ง จังหวัดสุโขทยั ๖๔๐๐๐ ส�ำ นักงานยตุ ิธรรมจังหวดั สระแก้ว โทร. ๐๕๕-๖๑๓-๔๘๓ อาคารหอประชมุ ปางสดี า ชน้ั ๒ ศนู ยร์ าชการ ต�ำ บลทา่ เกษม อ�ำ เภอเมอื ง จงั หวดั สระแกว้ ๒๗๐๐๐ สำ�นกั งานยุติธรรมจังหวดั สพุ รรณบรุ ี โทร. ๐๓๗-๔๒๕-๓๒๐ เลขที่ ๑๔๔/๒๓-๒๕ ถนนมาลยั แมน ต�ำ บลร้ัวใหญ่ อเภอเมือง จังหวดั สพุ รรณบุรี ๗๒๐๐๑ ส�ำ นักงานยตุ ิธรรมจังหวดั ตราด โทร. ๐๓๕-๕๒๔-๑๒๖ เลขท่ี ๑๑๓๓ หมู่ ๑ ตำ�บลวังกระแจะ อ�ำ เภอเมอื ง จงั หวัดตราด ๒๓๐๐๐ สำ�นักงานยตุ ธิ รรมจงั หวัดอุทัยธานี โทร. ๐๓๙-๕๒๔-๐๓๑ เลขท่ี ๒๓ ถนนศรีอทุ ัย ต�ำ บลอุทัยใหม่ อำ�เภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ๖๑๐๐๐ โทร. ๐๕๖-๕๗๑-๓๓๖
- ๗๔ - - ๗๕ - ภาคตะวันตก ๕ จังหวัด ส�ำ นักงานยตุ ิธรรมจังหวัดนครศรธี รรมราช สำ�นักงานยตุ ธิ รรมจังหวัดกาญจนบรุ ี เลขท่ี ๒๕๙ ถนนเทวบรุ ี ต�ำ บลโพธิ์เสด็จ อ�ำ เภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ๘๐๐๐๐ ศาลากลางจงั หวดั กาญจนบรุ ี โทร. ๐๗๕-๓๔๔-๖๓๓ ชั้น ๒ (หลังเก่า) ตำ�บลปากแพรก อำ�เภอเมือง จงั หวดั กาญจนบรุ ี ๗๑๐๐๐ สำ�นักงานยตุ ิธรรมจังหวดั นราธิวาส เลขท่ี ๑๕๖ ถนนสรุ ิยะประดิษฐ์ ตำ�บลบางนาค อ�ำ เภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ๙๖๐๐๐ โทร. ๐๓๔-๕๑๐-๓๔๒ โทร. ๐๗๓-๕๓๑-๒๓๔ สำ�นกั งานยตุ ธิ รรมจังหวัดเพชรบุรี สำ�นกั งานยตุ ิธรรมจังหวดั ปตั ตานี เลขท่ี ๖๘๐/๕๓-๕๔ หมู่ที่ ๖ ต�ำ บลบา้ นหม้อ อำ�เภอเมืองเพชรบรุ ี จังหวัดเพชรบรุ ี ๗๖๐๐๐ เลขที่ ๔๙/๗ ถนนกะลาพอ ต�ำ บลจะบังติกอ อำ�เภอเมือง จงั หวดั ปตั ตานี ๙๔๐๐๐ โทร. ๐๓๒-๔๐๒-๕๙๐ โทร. ๐๗๓-๓๓๔-๐๓๑-๒ สำ�นักงานยตุ ธิ รรมจังหวัดพงั งา ส�ำ นักงานยุตธิ รรมจังหวัดประจวบครี ีขันธ์ เลขที่ ๔/๒ ถนนเจริญราษฎร์ ตำ�บลทา้ ยชา้ ง อำ�เภอเมือง จงั หวดั พังงา ๘๒๐๐๐ ศาลากลางจงั หวัด(หลังเกา่ ) โทร. ๐๗๖-๔๘๑-๘๒๐ ช้นั ๒ ถนนสละชพี ตำ�บลประจวบคีรขี ันธ์ อ�ำ เภอเมือง จงั หวัดประจวบคีรขี นั ธ์ ๗๗๐๐๐ สำ�นักงานยุตธิ รรมจังหวดั พัทลุง โทร. ๐๓๒-๖๐๑-๓๒๖ เลขที่ ๒๕ ถนนช่วยทุขราษฎร์ ต�ำ บลคูหาสวรรค์ อำ�เภอเมอื ง จังหวดั พัทลุง ๙๓๐๐๐ สำ�นกั งานยตุ ธิ รรมจังหวัดราชบุรี โทร. ๐๗๔-๖๑๖-๒๔๑ เลขท่ี ๒๐๖/๑ ถนนรถไฟ ตำ�บลหนา้ เมือง อำ�เภอเมอื ง จังหวัดราชบรุ ี ๗๐๐๐๐ สำ�นกั งานยตุ ธิ รรมจังหวดั ภเู กต็ เลขที่ ๒๒/๒๙-๓๐ ถนนหลวงพอ่ วัดฉลอง ต�ำ บลตลาดใหญ่ อ�ำ เภอเมือง จงั หวดั ภเู กต็ ๘๓๐๐๐ โทร. ๐๓๒-๓๒๒-๖๔๗ โทร. ๐๗๖-๒๑๕-๘๕๐ และ ๐๗๖-๒๑๕-๙๕๗ ส�ำ นักงานยตุ ธิ รรมจังหวดั ระนอง สำ�นกั งานยุติธรรมจงั หวัดตาก เลขที่ ๓๔๙ ถนนเรอื นราษฎร์ ต�ำ บลเขานเิ วศน์ อำ�เภอเมือง จังหวดั ระนอง ๘๕๐๐๐ อาคารศาลากลางจังหวดั (หลังเกา่ ) ช้ัน ๒ ต�ำ บลนำ�้ รึม อำ�เภอเมือง จังหวัดตาก ๖๓๐๐๐ โทร. ๐๕๕-๕๑๖-๙๙๖ โทร. ๐๗๗-๘๒๕-๔๔๕-๖ ภาคใต้ ๑๔ จงั หวดั สำ�นักงานยุติธรรมจังหวดั ชมุ พร ศาลากลางจงั หวดั ชมุ พร ชน้ั ๔ ถนนไตรรตั น์ ต�ำ บลนาชะองั อ�ำ เภอเมอื ง จงั หวดั ชมุ พร ๘๖๐๐๐ โทร. ๐๗๗-๕๑๒-๑๖๔ ส�ำ นักงานยตุ ธิ รรมจังหวัดกระบ่ี อาคารศาลากลางหลงั เกา่ ชน้ั ๒ เลขท่ี ๕ ถนนอตุ รกิจ ตำ�บลปากน�ำ้ อ�ำ เภอเมอื ง จังหวดั กระบี่ ๘๑๐๐๐ โทร. ๐๗๕-๖๒๔-๕๕๑–๒
- ๗๖ - - ๗๗ - ส�ำ นกั งานยตุ ิธรรมจงั หวดั สตูล ศาลากลางจังหวัดสตลู (หลังใหม)่ ชน้ั ๑ ๓.๒ พระราชบญั ญัตคิ ่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทน ถนนสตูลธานี ตำ�บลพมิ าน อำ�เภอเมือง จงั หวดั สตูล ๙๑๐๐๐ และคา่ ใชจ้ ่ายแกจ่ �ำ เลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔ โทร. ๐๗๔-๗๒๓-๐๓๒ ๓.๒.๑ สทิ ธขิ องผู้เสยี หายในคดีอาญาในการทจ่ี ะได้รับคา่ ทดแทนและคา่ ใช้จา่ ยจากรฐั ส�ำ นกั งานยตุ ธิ รรมจังหวดั สงขลา ผู้มีสิทธิได้รับค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายจากรัฐจะต้องเป็นผู้เสียหายตามพระราชบัญญัติค่า ศาลากลางจงั หวัดสงขลา (หลงั เกา่ ) ชน้ั ๑ ถนนราชดำ�เนิน ต�ำ บลบอ่ ยาง อำ�เภอเมอื ง จังหวดั สงขลา ๙๐๐๐๐ ตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำ�เลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔ กล่าวคือ “บุคคลซงึ่ ได้รับความเสยี หายถึงแกช่ ีวิต หรือรา่ งกาย หรือจติ ใจเนื่องจากการกระท�ำ ความผดิ โทร. ๐๗๔-๓๐๗-๒๔๐ อาญาของผอู้ ื่น โดยตนมิไดม้ สี ว่ นเกี่ยวข้องกบั การกระท�ำ ความผิดน้นั ”๑๒๔ และ “การเรียกรอ้ ง หรอื สำ�นกั งานยตุ ิธรรมจังหวัดสุราษฏรธ์ านี การได้มาซ่ึงสทิ ธิ หรือประโยชนต์ ามพระราชบัญญตั ิน้ไี มเ่ ป็นการตดั สทิ ธิ หรือประโยชนท์ ผ่ี เู้ สยี หาย อาคารส�ำ นักงานยุตธิ รรมจังหวดั สุราษฏร์ธานี หรือจำ�เลยพึงได้ตามกฎหมายอื่น”๑๒๕ หมายความว่า ผู้เสียหายดังกล่าวยังอาจมีสิทธิได้รับ ชนั้ ๒ ถนนดอนนก ต�ำ บลมะขามเต้ีย อ�ำ เภอเมอื ง จังหวดั สรุ าษฏรธ์ านี ๘๔๐๐๐ ประโยชน์จากกฎหมายอนื่ ไดอ้ ีก ส�ำ หรับฐานความผดิ ท่ีกระทำ�ตอ่ ผเู้ สยี หายอนั จะทำ�ให้ผู้เสียหาย มสี ิทธิทีจ่ ะไดร้ ับค่าตอบแทนได้ต้องเปน็ ความผิดตามรายการทรี่ ะบุไวท้ า้ ยพระราชบัญญัตนิ ๑้ี ๒๖ โทร. ๐๗๗-๒๘๕-๑๗๓-๔ ค่าตอบแทนท่ีผู้เสียหายจะขอรบั ได้นัน้ มี ๔ ประเภท๑๒๗ ไดแ้ ก่ สำ�นักงานยตุ ธิ รรมจงั หวัดตรัง ๑.) ค่าใช้จ่ายทจี่ �ำ เปน็ ในการรกั ษาพยาบาล รวมท้ังคา่ ฟ้ืนฟูสมรรถภาพทางร่างกายและจติ ใจ อาคารพุทธคุณพาหงุ ศาลากลางจงั หวดั ตรัง ๒.) คา่ ตอบแทนในกรณผี เู้ สียหายถงึ แก่ความตาย ถนนพระราม ๖ ตำ�บลทับเทยี่ ง อ�ำ เภอเมือง จงั หวดั ตรัง ๙๒๐๐๐ ๓.) คา่ ขาดประโยชนท์ ำ�มาหาได้ในระหวา่ งท่ีไม่สามารถประกอบการงานได้ตามปกติ ๔.) ค่าตอบแทนความเสยี หายอื่นตามทค่ี ณะกรรมการเห็นสมควร โทร. ๐๗๕-๒๑๔-๕๖๒ ส�ำ นกั งานยุติธรรมจังหวดั ยะลา ๑๒๔ พระราชบญั ญัตคิ ่าตอบแทนผูเ้ สยี หายและค่าทดแทนและคา่ ใชจ้ า่ ยแก่จ�ำ เลยในคดอี าญา พ.ศ. ๒๕๔๔ มาตรา ๓. อาคารศาลากลางจังหวัด(หลังเก่า) ชั้น ๑ ต�ำ บลสะเตง อ�ำ เภอเมือง จังหวดั ยะลา ๙๕๐๐๐ ๑๒๕ พระราชบัญญตั คิ า่ ตอบแทนผเู้ สียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแกจ่ �ำ เลยในคดอี าญา พ.ศ. ๒๕๔๔ มาตรา ๕. ๑๒๖ โปรดดู รายการทา้ ยพระราชบญั ญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและคา่ ใช้จา่ ยแกจ่ ำ�เลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔. โทร. ๐๗๓-๒๒๒-๖๒๔ ๑๒๗ ดู กฎกระทรวง กำ�หนดหลกั เกณฑ์ วิธีการ และอัตราในการจา่ ยคา่ ตอบแทนผ้เู สียหาย และค่าทดแทนและคา่ ใชจ้ ่ายแกจ่ ำ�เลย ในคดอี าญา (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๙ ขอ้ ๒. ๒. ยนื่ ค�ำ ขอออนไลน์ผา่ นเวบ็ ไซตก์ องทนุ ยตุ ธิ รรม ท่ี http://www.jfo.moj.go.th ๓. ทางไปรษณีย์ โดยส่งคำ�ขอมาตามที่อยู่ สำ�นักงานกองทุนยุติธรรม กรุงเทพมหานคร ๙๙/๔๒ หมู่ ๔ ชน้ั ๒๒ อาคารซอฟตแ์ วรป์ ารค์ ถนนแจง้ วฒั นะ ต�ำ บลคลองเกลอื อ�ำ เภอปากเกรด็ จังหวดั นนทบุรี ๑๑๑๒๐
- ๗๘ - - ๗๙ - ท้ังนี้ค่าตอบแทนท่ีผู้เสียหายจะได้รับมากน้อยเพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับพฤติการณ์และ ในกรณที ผ่ี เู้ สียหายถึงแกค่ วามตายจะไดร้ ับค่าตอบแทน ดงั นี้ ความร้ายแรงของการกระทำ�ความผิดและสภาพความเสียหายที่ผู้เสียหายพึงได้รับรวมทั้งโอกาส ๑.) คา่ ตอบแทนสามหม่ืนบาท แตไ่ ม่เกินหนึ่งแสนบาท ที่ผู้เสียหายจะได้รับการบรรเทาความเสียหายโดยทางอ่ืนด้วยจำ�นวนค่าตอบแทนที่ผู้เสียหาย ๒.) คา่ จดั การศพสองหมน่ื บาท ในคดอี าญามสี ิทธจิ ะไดร้ ับจากรฐั ๑๒๘ มดี งั นี้ ๓.) ค่าขาดอปุ การะเล้ียงดูไม่เกินสหี่ ม่ืนบาท๑๒๙ ๑.) ค่าใช้จ่ายท่จี �ำ เป็นในการรกั ษาพยาบาล ใหจ้ า่ ยเทา่ ท่จี า่ ยจรงิ แต่ไม่เกนิ สีห่ ม่ืนบาท ๔.) คา่ เสยี หายอน่ื นอกจาก ๑.) – ๓.) ใหจ้ า่ ยตามทค่ี ณะกรรมการเหน็ สมควร แตไ่ มเ่ กนิ สห่ี มน่ื บาท๑๓๐ ๒.) ค่าฟ้ืนฟสู มรรถภาพทางรา่ งกายและจิตใจ ให้จ่ายเท่าท่ีจา่ ยจริง แตไ่ ม่เกนิ สองหมืน่ บาท ค่าตอบแทนตามที่กล่าวมานี้ หากปรากฏในภายหลังว่า เหตุตามที่อ้างมาขอรับนั้น ๓.) คา่ ขาดประโยชน์ทำ�มาหาไดใ้ นระหวา่ งทไ่ี ม่สามารถประกอบการงานได้ตามปกติ ใหจ้ า่ ย ไมเ่ ป็นความผดิ อาญาหรือไม่ไดม้ ีการกระทำ�ตามท่กี ลา่ วอา้ ง ผ้เู สียหายจะต้องคนื ค่าตอบแทนทีร่ บั ในอัตราคา่ จ้างขน้ั ต่�ำ ในทอ้ งท่จี ังหวดั ทป่ี ระกอบการงาน ณ วันที่ไมส่ ามารถประกอบการงาน ไปแก่กระทรวงยุตธิ รรม ไดเ้ ป็นระยะเวลาไมเ่ กนิ หนง่ึ ปีนบั แตว่ นั ทีไ่ มส่ ามารถประกอบการงานได้ตามปกติ ๔.) ค่าตอบแทนความเสียหายอน่ื นอกจาก ๑.) ๒.) และ ๓.) ให้จา่ ยเปน็ เงนิ ตามจำ�นวนที่ ตัวอย่าง คณะกรรมการเห็นสมควร แตไ่ ม่เกนิ ห้าหมน่ื บาท คา่ ตอบแทนตาม ๑.) และ ๒) ใหร้ วมถึง นาย ก ถกู นาย ข ใชป้ นื ยงิ จนเสียชีวติ นาย ก เปน็ ผู้เสยี หายและถงึ แก่ความตาย ทายาท นาย ก ค่าใชจ้ ่ายเก่ยี วกบั คา่ ห้องและค่าอาหารในอตั ราวนั ละไม่เกินหนึง่ พนั บาท มีสิทธขิ อรับคา่ ตอบแทนผู้เสียหายในคดอี าญา ได้แก่ ค่าตอบแทนตง้ั แตส่ ามหมนื่ บาทแตไ่ มเ่ กิน หนง่ึ แสนบาท คา่ จัดการศพสองหมน่ื บาทและคา่ ขาดอุปการะเลย้ี งดไู ม่เกนิ สหี่ มน่ื บาท เปน็ ตน้ ๑๒๘ อา้ งแล้วเชิงอรรถที่ ๑๑๘. ๑๒๙ กฎกระทรวง กำ�หนดหลกั เกณฑ์ วิธีการ และอตั ราในการจ่ายค่าตอบแทนผ้เู สยี หาย และคา่ ทดแทนและคา่ ใชจ้ า่ ยแก่จ�ำ เลย ในคดีอาญา (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๙ ขอ้ ๓. ๑๓๐ อ้างแล้วเชงิ อรรถที่ ๑๒๐.
- ๘๐ - - ๘๑ - ๓.๒.๒ สทิ ธขิ องจ�ำ เลยในคดีอาญาในการท่ีจะได้รับคา่ ทดแทนและค่าใชจ้ ่ายจากรัฐ ท้งั น้ี กฎหมายไดก้ �ำ หนดอัตราการจา่ ยค่าทดแทนและคา่ ใชจ้ ่ายแก่จ�ำ เลย๑๓๒ ดังน้ี จำ�เลย คอื บุคคลทีถ่ ูกฟอ้ งคดีตอ่ ศาลวา่ ไดเ้ ป็นผกู้ ระท�ำ ความผดิ ซ่งึ จ�ำ เลยทจี่ ะมสี ิทธิ ๑.) ค่าใช้จ่ายที่จำ�เป็นในการจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้จ่ายเท่าที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินสี่หมื่นบาท ได้รับค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายจากรัฐจะต้องเป็นผู้ที่ถูกดำ�เนินการฟ้องคดีต่อศาลว่าได้เป็น หากความเจ็บป่วยของจำ�เลยเปน็ ผลโดยตรงจากการถกู ด�ำ เนนิ คดี ผู้กระทำ�ความผิดอาญาโดยพนักงานอัยการและถูกคุมขังอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีของศาล และศาลได้มีคำ�พิพากษาถึงที่สุดว่าจำ�เลยมิได้เป็นผู้กระทำ�ความผิด หรือการกระทำ�ของจำ�เลย ๒.) ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจให้จ่ายเท่าที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินห้าหมื่นบาท ไม่เปน็ ความผดิ จำ�เลยจงึ มีสทิ ธจิ ะได้รบั คา่ ทดแทนและคา่ ใชจ้ า่ ยจากรัฐ และการทีจ่ ำ�เลยไดร้ ับ หากความเจ็บปว่ ยของจ�ำ เลยเปน็ ผลโดยตรงจากการถกู ดำ�เนนิ คดี ค่าทดแทน หรอื คา่ ใช้จ่ายจากรัฐไปแลว้ ก็ไม่เปน็ การตดั สทิ ธหิ รือประโยชนท์ ่จี �ำ เลยจะพึงได้ตาม ๓.) ค่าขาดประโยชน์ทำ�มาหาได้ในระหว่างถูกดำ�เนินคดีให้จ่ายในอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ�ในท้องที่ กฎหมายอื่น ซ่งึ สิทธนิ ้มี ไี ดเ้ ฉพาะในกรณที จี่ �ำ เลยถูกด�ำ เนินคดีโดยพนักงานอัยการเทา่ นัน้ จังหวัดที่ประกอบการงาน ณ วันที่ไม่สามารถประกอบการงานได้นับแต่วันที่ไม่สามารถ ประกอบการงานได้ตามปกติ สำ�หรบั คา่ ทดแทนและคา่ ใช้จา่ ยท่ีจ�ำ เลยจะขอรบั ไดน้ นั้ มี ๖ ประเภท๑๓๑ ดงั น้ี ๑.) คา่ ทดแทนการถกู คมุ ขงั โดยค�ำ นวณจากจ�ำ นวนวนั ทถ่ี กู คมุ ขงั ในอตั ราวนั ละหา้ รอ้ ยบาท ๔.) ค่าใช้จ่ายทจ่ี �ำ เปน็ ในการด�ำ เนินคด๑ี ๓๓ ๒.) ค่าใช้จ่ายที่จำ�เป็นในการรักษาพยาบาลรวมทั้งค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกาย ค่าทนายความ ให้จ่ายเท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินอัตราที่กำ�หนดในตารางท้าย และจติ ใจหากว่าความเจบ็ ป่วยของจ�ำ เลยเปน็ ผลโดยตรงจากการถูกดำ�เนินคดี กฎกระทรวงนี้๑๓๔ ๓.) ค่าทดแทนในกรณีที่จำ�เลยถึงแก่ความตาย และความตายนั้นเป็นผลโดยตรงจาก ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในการดำ�เนินคดี ให้จ่ายเท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินสามหมื่นบาท การถูกดำ�เนนิ คดี ค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายตาม ๑.) และ ๒.) ให้รวมถึงค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าห้อง ๔.) ค่าขาดประโยชนท์ �ำ มาหาไดใ้ นระหว่างถูกดำ�เนนิ คดี และค่าอาหารในอตั ราวนั ละไม่เกนิ หนงึ่ พันบาท ๕.) ค่าใชจ้ ่ายท่ีจำ�เป็นในการดำ�เนนิ คดี ๖.) คา่ ทดแทนกรณขี อให้ศาลคนื สทิ ธทิ เ่ี สยี ไปอนั เปน็ ผลโดยตรงจากคำ�พพิ ากษาแต่ ไม่สามารถคนื สิทธนิ น้ั ได้ ๑๒๒ อา้ งแลว้ เชิงอรรถท่ี ๑๑๘. ๑๓๓ อ้างแล้วเชิงอรรถที่ ๑๒๒. ๑๓๑ กฎกระทรวง กำ�หนดหลักเกณฑ์ วิธกี าร และอตั ราในการจ่ายค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและคา่ ใช้จา่ ยแกจ่ ำ�เลย ๑๓๔ คดปี ระเภทท่ี ๑ คดที ่มี ีอตั ราโทษประหารชวี ิต อตั ราข้นั ตำ�่ เร่ืองละ ๘,๐๐๐ บาท อตั ราข้ันสูงเร่อื งละ ๑๐๐,๐๐๐ บาท ในคดีอาญา (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๙ ขอ้ ๔. หลาคยดกีประระทเงภทซึ่งทแี่ ๒ต่ลคะดกีทรี่มะทีอัตงมราีอโัตทรษาจโทำ�คษุกจอำ�ยค่าุกงอสยูง่าตงั้งสแูงตไ่สมิบ่เกปินีขสึ้นิบไปปแีแตต่ไ่เมม่ถื่อึงรปวรมะโหทาษรทชุกีวิตกรแะลทะงใแหล้ร้ววมเกถึงินคกดวีอ่าาสญิบาปทีขี่มึ้นีคไวปาดม้วผยิดอหัตลราายขกั้นรตร่ำ�ม เรื่องละ ๖,๐๐๐ บาท อตั ราขน้ั สูงเร่ืองละ ๗๕,๐๐๐ บาท คดปี ระเภทท่ี ๓ คดอี น่ื นอกจากคดใี นประเภทท่ี ๑ หรอื ประเภทท่ี ๒ อตั ราขน้ั ต�่ำ เรอ่ื งละ ๔,๐๐๐ บาท อตั ราขน้ั สงู เรอ่ื งละ ๕๐,๐๐๐ บาท.
- ๘๒ - - ๘๓ - ในกรณีท่ีจ�ำ เลยถึงแก่ความตายใหจ้ า่ ยคา่ ทดแทนแก่จำ�เลย ดงั นี้ ๑.) คา่ ทดแทนจา่ ยเปน็ เงินจ�ำ นวนหน่งึ แสนบาท ๓.๒.๓ ขนั้ ตอนและวธิ ีการในการขอรับคา่ ตอบแทน คา่ ทดแทน และค่าใชจ้ ่าย ๒.) ค่าจดั การศพจา่ ยสองหมืน่ บาท ๑. ให้ผู้เสียหาย จำ�เลย หรือทายาทซึ่งได้รับความเสียหายที่มีสิทธิขอรับค่าตอบแทน ๓.) คา่ ขาดอุปการะเลยี้ งดูใหจ้ ่ายไมเ่ กินสหี่ ม่ืนบาท ๔.) ค่าเสียหายอื่นนอกจาก ๑.) ๒.) และ ๓.) ให้จ่ายตามที่คณะกรรมการเห็นสมควรแต่ไม่เกิน ค่าทดแทน หรือค่าใช้จ่ายตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่าย สี่หมื่นบาท๑๓๕ แกจ่ �ำ เลยในคดอี าญา พ.ศ. ๒๕๔๔ ยน่ื ค�ำ ขอตอ่ คณะกรรมการ ณ ส�ำ นกั งานชว่ ยเหลอื ทางการเงนิ แก่ผู้เสียหายและจำ�เลยในคดีอาญา กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ตามแบบที่ ตวั อยา่ ง สำ�นักงานกำ�หนด ภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่ผู้เสียหายได้รู้ถึงการกระทำ�ความผิด หรือวันที่ศาล เม่ือถูกพนักงานอัยการฟ้องเป็นจำ�เลยในคดีอาญาและถูกคุมขังในระหว่างที่ศาล ได้มีคำ�สั่งอนุญาตให้ถอนฟ้อง เพราะปรากฏหลักฐานชัดเจนว่าจำ�เลยมิได้เป็นผู้กระทำ�ความผิด พจิ ารณาคดตี อ่ มาปรากฏขอ้ เทจ็ จรงิ ว่าจ�ำ เลยไม่ได้ กระทำ�ผดิ มีการถอนฟอ้ งระหว่างการพจิ ารณา หรือวันที่มีคำ�พิพากษาอันถึงที่สุดในคดีนั้นว่าเป็นข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่าจำ�เลยมิได้เป็นผู้กระทำ� คดีหรือศาลพิจารณาแล้วว่าข้อเท็จจริงที่ปรากฏ จำ�เลยไม่ได้กระทำ�ผิดและมีคำ�พิพากษาอันถึง ความผดิ หรอื การกระท�ำ ของจ�ำ เลยไม่เปน็ ความผิด แลว้ แตก่ รณ๑ี ๓๖ ทส่ี ดุ ใหย้ กฟ้องจ�ำ เลยใหป้ ฏิบัตดิ ังนี้ ๒. ในกรณที ่ีผเู้ สียหาย จ�ำ เลย หรือทายาทซ่งึ ไดร้ บั ความเสยี หายเป็นผูไ้ ร้ความสามารถ ๑. ติดต่อเจ้าพนักงานที่อ่านคำ�พิพากษาเพื่อขอคัดสำ�เนาเอกสาร โดยให้เจ้าหน้าที่รับรองสำ�เนา หรือไม่สามารถยน่ื ค�ำ ขอดว้ ยตนเองไดผ้ แู้ ทนโดยชอบธรรม หรอื ผู้อนุบาล ผ้บู ุพการี ผ้สู ืบสนั ดาน ถกู ตอ้ ง ดงั น้ี สามี หรอื ภริยา หรอื บคุ คลหนึ่งบคุ คลใดซ่ึงไดร้ ับการแตง่ ต้งั เปน็ หนังสือจากผู้เสียหาย จำ�เลย หรือ - ส�ำ เนาค�ำ พิพากษาของศาลทกุ ศาลท่ีมคี �ำ พพิ ากษา ทายาท ซ่งึ ไดร้ บั ความเสียหายแล้วแตก่ รณีอาจยื่นค�ำ ขอรบั ค่าตอบแทน คา่ ทดแทน หรอื คา่ ใช้จา่ ย - ส�ำ เนาหมายขัง หมายจำ�คกุ และหมายปล่อย แทนได้ ทง้ั นีต้ ามระเบยี บท่ีคณะกรรมการก�ำ หนด๑๓๗ - ส�ำ เนาใบแต่งทนายความ - หนังสอื รับรองคดีถงึ ทสี่ ุด ๑๓๖ พระราชบญั ญัตคิ า่ ตอบแทนผเู้ สยี หายและคา่ ทดแทนและคา่ ใช้จา่ ยแก่จ�ำ เลยในคดอี าญา พ.ศ. ๒๕๔๔ มาตรา ๒๒. ๒. สำ�เนาหนงั สอื วา่ จา้ งความกรณที ่ไี ม่ใชท่ นายขอแรง ๑๓๗ พระราชบัญญตั คิ า่ ตอบแทนผ้เู สยี หายและคา่ ทดแทนและค่าใชจ้ า่ ยแก่จ�ำ เลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔ มาตรา ๒๓. ๓. รวบรวมเอกสารหลักฐานท่เี กีย่ วข้อง ๔. ยื่นคำ�ขอรับเงินค่าทดแทนภายใน ๑ ปี นับจากวันที่ศาลอนุญาตให้ถอนฟ้องหรือศาลมี คำ�พิพากษาคดถี ึงท่ีสุด ๑๓๕ อ้างแลว้ เชงิ อรรถท่ี ๑๒๒.
- ๘๔ - - ๘๕ - ๓.๒.๔ เอกสาร กรณีจำ�เลย จำ�เลยต้องยน่ื เอกสารดงั ต่อไปนตี้ ่อเจ้าหน้าทใ่ี นกรณีขอรับค่าทดแทน กรณผี เู้ สยี หาย ผเู้ สยี หายตอ้ งยน่ื เอกสารดงั ตอ่ ไปนต้ี อ่ เจา้ หนา้ ทใ่ี นกรณขี อรบั คา่ ตอบแทน และค่าใช้จา่ ย ๑.) สำ�เนาบัตรประจำ�ตัวประชาชน บัตรประจำ�ตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ ของผู้เสียหายและ ๑.) สำ�เนาบัตรประจำ�ตัวประชาชน บัตรประจำ�ตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐของผู้เสียหายและ ผู้ยื่นคำ�ขอ ผยู้ ่นื คำ�ขอ ๒.) สำ�เนาทะเบยี นบ้านของผ้เู สียหายและผ้ยู นื่ คำ�ขอ ๒.) สำ�เนาทะเบียนบา้ นของผู้เสียหายและผ้ยู ่ืนคำ�ขอ ๓.) ส�ำ เนาทะเบยี นสมรส ๓.) สำ�เนาทะเบยี นสมรส ๔.) สำ�เนาสตู บิ ัตร ๔.) สำ�เนาสูตบิ ตั ร ๕.) ส�ำ เนาใบเปลย่ี นชือ่ สกลุ (ถ้าม)ี ๕.) ส�ำ เนาใบเปลย่ี นช่ือสกุล (ถ้ามี) ๖.) หนงั สอื มอบอำ�นาจ (ถ้าม)ี ๖.) หนังสือมอบอ�ำ นาจ (ถา้ ม)ี ๗.) หนังสือให้ความยินยอมของทายาทอื่นในการยื่นคำ�ขอรับค่าทดแทนและค่าใช้จ่าย ๗.) หนังสือให้ความยินยอมของทายาทอื่นในการยื่นคำ�ขอรับค่าตอบแทนผู้เสียหายกรณี ให้แก่จำ�เลยในคดีอาญากรณีมีทายาทผ้มู สี ทิ ธยิ นื่ คำ�ขอในกรณเี ดียวกนั หลายคน ๘.) ใบเสร็จคา่ รกั ษาพยาบาลและอื่นๆ ถา้ มี มีทายาทผู้มีสทิ ธิย่ืนค�ำ ขอในกรณเี ดยี วกนั หลายคน ๙.) ส�ำ เนาใบรบั รองแพทย์ ๘.) ใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล ๙.) ส�ำ เนาใบรบั รองแพทย์ ๑๐.) คำ�พิพากษาอันถึงที่สุดว่าข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่า จำ�เลยมิได้เป็นผู้กระทำ�ผิดหรือ ๑๐.) รายงานการสอบสวนของสถานีตำ�รวจและบนั ทกึ ประจ�ำ วนั การแจง้ ความ การกระทำ�ของจ�ำ เลยไม่เป็นความผิด หรอื ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่าจำ�เลยมไิ ด้เป็นผกู้ ระท�ำ ความ ๑๑.) ส�ำ เนาใบมรณะบัตร กรณผี ูเ้ สยี หายถงึ แกค่ วามตาย ผดิ นั้นและมกี ารถอนฟอ้ งในระหว่างด�ำ เนนิ คดี ๑๒.) สำ�เนาใบชนั สตู รแพทย์ หรือใบชนั สตู รพลกิ ศพ ๑๓.) หลักฐานการมรี ายไดใ้ นกรณปี ระกอบอาชีพ ๑๑.) หมายขงั และหมายปล่อย ๑๔.) หลักฐานการได้รับชดใช้คา่ เสยี หายจากหน่วยงานอน่ื ๑๒.) หนงั สือรับรองค�ำ พพิ ากษาถึงท่ีสดุ ๑๓.) สัญญาจ้างวา่ ความหรือหนังสือรบั รองวา่ จ้างวา่ ความ ๑๔.) สำ�เนาใบแตง่ ทนาย (รบั รองโดยเจา้ หนา้ ท่ศี าล) ๑๕.) สำ�เนาใบมรณะบัตร (กรณีจำ�เลยถึงแกค่ วามตาย) ๑๖.) ส�ำ เนาใบชนั สูตรแพทย์ ๑๗.) หลกั ฐานการมีรายได้ ๑๘.) หลักฐานการได้รบั ชดใช้ค่าเสยี หายจากทางอน่ื
- ๘๖ - - ๘๗ - ๓.๒.๕ ชอ่ งทางการตดิ ตอ่ ขอรับการบริการ ในกระบวนการยุติธรรมคดีอาญาเป็นคดีที่ต้องค้นหาความจริงด้วยการพิสูจน์ ผู้เสียหาย หรือจำ�เลยสามารถติดต่อเพอ่ื ขอรับค่าตอบแทน ค่าทดแทน และคา่ ใช้จา่ ย ประจักษ์พยานหลักฐานต่างๆ๑๓๘ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คำ�ให้การของพยานบุคคล ได้ที่สำ�นักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำ�เลยในคดีอาญากรมคุ้มครอง แต่เนื่องจากในบางกรณีผู้กระทำ�ผิด เป็นผู้มีอิทธิพล ทำ�ให้ไม่มีใครกล้ามาเป็นพยาน สิทธิและเสรภี าพ เลขที่ ๑๒๐ หมู่ ๓ ชนั้ ๒ ศนู ยร์ าชการเฉลิมพระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ เพราะเกรงจะเกิดภยันตรายกับตนเองและบุคคลใกล้ชิดกระบวนการยุติธรรมจึงไม่ อาคารราชบรุ ีดเิ รกฤทธ์ิ ถนนแจง้ วัฒนะ แขวงทุง่ สองหอ้ ง เขตหลักสี่ กรุงเทพหมานคร ๑๐๒๑๐ สามารถนำ�ตัวผู้ที่กระทำ�ผิดมาลงโทษได้ ฉะนั้นรัฐธรรมนูญจึงได้กำ�หนดให้รัฐมีหน้าที่ โทรศัพท์ ๐-๒๑๔๑-๒๘๓๘-๙๙ โทรสาร ๐-๒๑๔๓-๙๖๖๕-๘ สว่ นภมู ิภาคตดิ ตอ่ ท่คี ลินกิ ยุตธิ รรม คุ้มครองพยานในคดีอาญาให้ได้รับความปลอดภัย ตลอดจนผู้ที่มีความใกล้ชิดกับพยาน ตง้ั อยู่ ณ ส�ำ นกั งานยตุ ิธรรมจังหวัดทกุ จังหวัดทว่ั ประเทศ เช่น พ่อแม่ สามี ภรรยา หรือบุตรของพยานให้ได้รับความปลอดภัยด้วย และกำ�หนด ให้มีค่าตอบแทนตามสมควร เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน และ ๓.๓ พระราชบญั ญัติค้มุ ครองพยานในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๖ พัฒนากระบวนการยุตธิ รรมของไทย สิทธิของพยานในคดีอาญา ตามตามพระราชบัญญัติคุ้มครองพยานใน พระราชบัญญตั คิ มุ้ ครองพยานในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๖ ได้นยิ ามความหมายของ คดอี าญา พ.ศ. ๒๕๔๖ มดี งั น้ี “พยาน” ไว้ว่า ผูก้ ล่าวหา ผู้เสียหาย ผทู้ �ำ คำ�ร้อง ผูร้ ้องทุกขก์ ลา่ วโทษ ผู้ให้ถ้อยค�ำ หรือผูท้ ่ีแจ้ง ๑.) สิทธิที่จะได้รับการคุ้มครองความปลอดภัยเมื่อถูกคุกคามในฐานพยาน เบาะแส ซง่ึ จะมาใหห้ รือได้ใหข้ อ้ เทจ็ จริง เบาะแส หรอื ข้อมลู ใดเกี่ยวกบั การทุจริตในภาครฐั หรือ ในคดีอาญา รวมถงึ ผใู้ กล้ชดิ ของพยานในคดีอาญา ข้อมูลอื่นอันเป็นประโยชน์ในการดำ�เนินการตามกฎหมายว่าด้วยมาตรการของฝ่ายบริหารใน ๒.) สิทธิท่ีจะไดร้ ับการปฏบิ ตั ิที่เหมาะสม การป้องกนั และปราบปรามการทุจริต และใหห้ มายความรวมถึงบคุ คลหรอื ผถู้ ูก กล่าวหาซึ่งได้รับ ๓.) สิทธิที่จะได้รับเงินค่าตอบแทนจากการมาให้ข้อเท็จจริงต่อพนักงาน การกันไว้เปน็ พยานดว้ ย สอบสวน หรือเบกิ ความต่อศาล ๔.) สิทธิที่จะได้รับค่าตอบแทนความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ชื่อเสียง ทรพั ยส์ นิ อนั เนอ่ื งมาจากการเปน็ พยานในคดอี าญา ๕.) สิทธทิ ่ีจะไดร้ บั เงินค่าใช้จ่ายในการคุ้มครองพยานในคดอี าญา ๑๓๘ ธานี สิงหนาท, ค�ำ อธบิ ายพยานหลักฐานคดแี พง่ และคดอี าญา,(พิมพค์ ร้ังที่ ๑๓, กรุงเทพฯ : กรุงสยามพับลิชชง่ิ , ๒๕๕๘) หนา้ ๓๕๕-๓๖๒.
- ๘๘ - - ๘๙ - ๓.๓.๒ มาตรการพิเศษในการค้มุ ครองพยาน ๓.๓.๑ มาตรการทัว่ ไปในการคมุ้ ครองพยาน มาตรการพิเศษในการคุ้มครองพยานเป็นมาตรการคุ้มครองที่ยกระดับความสำ�คัญ การยน่ื ค�ำ ร้อง กรณพี ยานในคดอี าญาไดร้ ับการขม่ ขูค่ ุกคามพยานสามารถทีจ่ ะรอ้ งขอใช้ ของการคุ้มครองความปลอดภัยให้กับพยาน โดยคดีที่จะร้องขอรับเกี่ยวกับการคุ้มครอง มาตรการทั่วไปในการคุ้มครองพยานตามกฎหมายคุ้มครองพยานในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๖ จะต้องเป็นคดีตามที่กฎหมายคุ้มครองพยานกำ�หนดไว้และต้องพิจารณาถึงความร้ายแรง ได้ที่ สำ�นักงานคุ้มครองพยาน กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม หรือ แห่งคดีและการกระทำ�ผิด ที่มีลักษณะเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายอาชญากรรม กระทบต่อความสงบ สำ�นกั งานยตุ ิธรรมจังหวัดทั่วประเทศ การส่งั ใชม้ าตรการทัว่ ไป มี ๒ กรณี และความมั่นคงแห่งรัฐ ๑.) กรณีประสานการส่งต่อให้ส�ำ นักงานตำ�รวจแหง่ ชาติ หรือหน่วยงานอ่ืน การด�ำ เนินการใดๆ ให้เปน็ ไปตามระเบียบของหนว่ ยงานนัน้ ๆ โดยส�ำ นักงานคุม้ ครองพยาน จะสนับสนนุ งบประมาณ ขน้ั ตอนการด�ำ เนนิ การย่ืนคำ�รอ้ ง และประสานการปฏบิ ตั ิงานอย่างใกลช้ ิด ๒.) กรณีสำ�นักงานคุ้มครองพยานดำ�เนินการเอง อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพมีอำ�นาจ กรณีปรากฏแน่ชัดหรือมเี หตสุ งสยั วา่ พยานในคดีอาญาจะไม่ได้รบั ความปลอดภัย บุคคล ส่ังใชห้ รือไมใ่ ชม้ าตรการทว่ั ไปในการคุ้มครองพยาน ดังต่อไปน้ี สามารถยน่ื ค�ำ รอ้ งขอใชม้ าตรการพเิ ศษในการคุม้ ครองพยาน การดำ�เนนิ การคุ้มครองพยาน กรณอี ธิบดีกรมคมุ้ ครองสิทธแิ ละเสรีภาพสง่ั ใชม้ าตรการ ๑.) พยานหรือผู้รับมอบอ�ำ นาจจากพยาน ท่วั ไป ส�ำ นกั งานคุ้มครองพยานจะก�ำ หนดมาตรการการคุ้มครองใหก้ ับพยานตามความเหมาะสม ๒.) บคุ คลซึ่งมปี ระโยชนเ์ กีย่ วข้องกับพยาน แกส่ ถานะภาพของพยาน ลกั ษณะความรา้ ยแรงของคดี โดยมาตรการการคมุ้ ครองพยานทด่ี �ำ เนนิ การ ๓.) พนักงานผู้มีอำ�นาจสืบสวน สอบสวน คดีอาญา ในปัจจบุ นั อาทิ การจัดเจ้าหนา้ ที่คุ้มครอง การนำ�พยานไปอยู่ทปี่ ลอดภัย การย้ายที่อยู่ เปน็ ต้น ๔.) พนกั งานผู้มีอ�ำ นาจฟ้องคดอี าญา การอุทธรณ์ กรณีอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพมีคำ�สั่งไม่รับคำ�ร้อง ถ้าหาก การสั่งใช้มาตรการพิเศษ เมื่อคำ�ร้องขอรับการคุ้มครองพยานตามมาตรการพิเศษ ผไู้ ดร้ บั ค�ำ สง่ั ไมพ่ อใจ กม็ สี ทิ ธอิ ทุ ธรณค์ �ำ สง่ั นน้ั โดยยน่ื อทุ ธรณไ์ ดท้ ศ่ี าลยตุ ธิ รรมชน้ั ตน้ ภายใน ๓๐ วนั ไดผ้ า่ นการตรวจสอบความถูกตอ้ งแลว้ รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงยตุ ิธรรม หรอื ผ้ทู ีไ่ ด้รับมอบหมาย นบั แต่วนั ท่ีไดร้ บั แจ้งค�ำ สงั่ ใหม้ อี ำ�นาจสงั่ การให้ใชห้ รือไมใ่ หใ้ ชม้ าตรการเศษในการคุม้ ครองพยาน ด�ำ เนินการคุม้ ครองพยาน สำ�นักงานคมุ้ ครองพยานหรอื หน่วยงานท่ีรอ้ งขอจะก�ำ หนด มาตรการคมุ้ ครองพยานภายใต้ความเหมาะสมแก่สถานสภาพพยาน ลกั ษณะและความรา้ ยแรง ของคดี โดยก�ำ หนดมาตรการคมุ้ ครองและชว่ ยเหลอื เชน่ การจดั เจา้ หนา้ ทค่ี มุ้ ครอง การยา้ ย ท่ีอยู่ การจ่ายคา่ เลีย้ งชพี เป็นต้น
- ๙๐ - - ๙๑ - การอทุ ธรณ์กรณีรฐั มนตรวี ่าการกระทรวงยตุ ธิ รรม หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายมีคำ�สั่ง ๓.๓.๓ ช่องทางการตดิ ตอ่ ขอรบั ความชว่ ยเหลือ ไมร่ บั ค�ำ รอ้ ง หากผไู้ ดร้ บั ค�ำ สง่ั ไมพ่ อใจค�ำ สง่ั กม็ สี ทิ ธอิ ทุ ธรณค์ �ำ สง่ั นน้ั โดยยน่ื ไดท้ ศ่ี าลยตุ ธิ รรมชน้ั ตน้ เมื่อผู้เสียหายเป็นบุคคลซึ่งอยู่ในฐานะพยานในคดีอาญาที่จะมาให้ข้อเท็จ หรอื ศาลทหารช้นั ต้นที่มีเขตอ�ำ นาจเหนือคดี หรือที่บคุ คลน้ันมที ีอ่ ยู่ ภายใน ๓๐ วนั นบั แต่วนั ที่ได้ จรงิ ตอ่ พนักงานสืบสวน พนกั งานสอบสวน พนักงานผมู้ อี �ำ นาจฟ้องคดีอาญาและ รบั แจง้ ค�ำ สั่ง ศาล หากเห็นวา่ อาจจะไมไ่ ด้รับความปลอดภัยในชีวติ รา่ งกาย อนามัย เสรภี าพ คดอี าญาทพี่ ยานสามารถรอ้ งขอรบั การคุ้มครองตามมาตรการพิเศษ๑๓๙ ชื่อเสยี ง ทรัพยส์ ิน และสทิ ธอิ ยา่ งหน่งึ อยา่ งใดระหว่าง กอ่ น ขณะ และหลังการมาเปน็ ๑.) คดีความผดิ ตามกฎหมายเก่ียวกับยาเสพตดิ พยาน สามารถร้องขอรับการช่วยเหลือไดท้ ่ีสำ�นักงานคมุ้ ครองพยาน กรมคุ้มครองสทิ ธิ ๒.) คดตี ามกฎหมายวา่ ดว้ ยการปราบปรามการฟอกเงิน และเสรีภาพ เลขที่ ๑๒๐ หมู่ ๓ ชั้น ๖ ศนู ย์ราชการเฉลมิ พระเกียรติ ๘๐ พรรษา ฯ ๓.) คดีตามกฎหมายว่าด้วยการปอ้ งกนั และปราบปรามการทุจรติ อาคารราชบรุ ดี เิ รกฤทธิ์ ถนนแจง้ วัฒนะ แขวงท่งุ สองห้อง เขตหลกั สี่ กรุงเทพ ๑๐๒๑๐ ๔.) คดีตามกฎหมายว่าด้วยศลุ กากร โทรศัพท์ ๐-๒๑๔๑-๒๙๔๑-๖๕ โทรสาร ๐-๒๑๔๓-๙๖๗๒-๓ ๕.) คดีเกี่ยวกับความม่นั คงแห่งราชอาณาจกั ร ๖.) คดคี วามผดิ เกย่ี วกบั เพศ ๗.) คคดดคีคี ววาามมผผดิดิ ทเกม่ี ่ยีอี วตั กรบัาโอทงษคอก์ ยรา่องาตช่�ำ ญใหาจ้ก�ำรครกุมตง้ั แตส่ บิ ปขี น้ึ ไปหรอื โทษสถานทห่ี นกั กวา่ นน้ั ๘.) ๙.) คดที ี่ส�ำ นักงานคุ้มครองพยานเหน็ สมควรให้ความคมุ้ ครอง ๑๓๙ พระราชบัญญตั ิค้มุ ครองพยานในคดอี าญา พ.ศ. ๒๕๔๖ มาตรา ๘.
Search