คำนำ คณะรฐั มนตรีไดม ีมติ เมือ่ วนั ท่ี ๑๗ มกราคม ๒๕๖๐ เหน็ ชอบแนวทาง การเผยแพรกฎหมายเพื่อสรางการรับรูใหแกประชาชนและหนวยงานภาครัฐ โดยมีสำนักงานกิจการยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม รับผิดชอบทำหนาที่เปน ศูนยขอมูลการเผยแพรดานกฎหมาย ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาตอยอดการดำเนินงาน ตามมติคณะรัฐมนตรีขางตน สำนักงานกิจการยุติธรรม จึงไดจัดทำหนังสือ ชุดความรกู ฎหมายและกระบวนการยุตธิ รรมเลม น้ขี ึน้ โดยมจี ดุ มุงหมาย เพอื่ ให เปนเครื่องมือในการเผยแพรประชาสัมพันธความรูความเขาใจดานกฎหมายและ กระบวนการยุติธรรมสำหรับประชาชน ใหมีความรูพื้นฐานทางดานกฎหมาย ในเร่ืองทส่ี นใจ และทราบถงึ ชอ งทางการขอรบั บริการดา นกฎหมายจากหนวยงาน ของรัฐ ซงึ่ จากการดำเนนิ งานทีผ่ า นมาพบวา ปญหาขอ พิพาททเี่ กิดข้ึนในชวี ติ ประจำวันและเปนเรื่องที่ประชาชนติดตอขอรับบริการเขามามากที่สุด จนเปนที่มาของการจัดทำหนังสือชุดความรูกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ในครง้ั นี้ ประกอบดว ย ๗ เร่ืองสำคัญ ไดแ ก ๑) การขอความชว ยเหลอื ในกระบวนการยตุ ิธรรมทางอาญา ๒) ที่ดินทำกนิ และทรพั ยากรธรรมชาติ ๓) นติ ิกรรมสญั ญา และการขอระงับขอพพิ าท ๔) หน้สี ิน ๕) การบังคับคดแี ละลมละลาย ๖) ความรบั ผดิ ของเจาหนาท่รี ัฐ ๗) สทิ ธิมนษุ ยชน สทิ ธิในคดีอาญา และการขอรบั การเยียวยาทางกฎหมาย สำนักงานกิจการยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม หวังเปนอยางยิ่งวาหนังสือ ชุดความรูกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม จะเปนเครื่องมือสำคัญทส่ี ง เสรมิ ให ประชาชนมคี วามรคู วามเขา ใจกฎหมายในชีวิตประจำวัน รวมถึงการใหบ ริการ ความชวยเหลือทางดานกฎหมายใหแกประชาชนไดอยางทั่วถึงและตอบสนอง เปาหมายการสรางการรับรดู านกฎหมายใหก ับประชาชนอยา งยง่ั ยืนตอ ไป สำนักงานกจิ การยุติธรรม เมษายน ๒๕๖๑
ÊÒúÑÞ ÊÒÃ- ๑º- ÞÑ ความรเู บ้ืองตนเกยี่ วกับหน้ีสิน ๒ ๓. การชำระหน้ี ๑๙ ๑. การกูย ืมเงิน ๔ ๓.๑ กำหนดเวลาชำระหนี้ ๒๐ ๔ ๓.๒ บคุ คลผูม ีสิทธิชำระหน้ี ๒๐ ๑. แบบของสัญญากยู มื เงนิ ๕ ๓.๓ บุคคลผมู สี ทิ ธิรบั ชำระหน้ี ๒๐ ๒. คา ธรรมเนียมในการทำสญั ญา ๕ ๓.๔ สถานที่ที่จะตองชำระหนี้ ๒๒ ๓. กำหนดเวลาใชเงนิ กู ๗ ๓.๕ หลกั ฐานแหงการชำระหนี้ ๒๒ ๔. หลกั ฐานการกูยมื เงิน ๗ ๓.๖ ผลของการขอชำระหน้ีทชี่ อบดวยกฎหมาย ๒๓ ๕. การชำระเงนิ กทู ่ีถกู ตอง ๘ ๓.๗ กรณีหากเจาหนี้ปฏิเสธไมยอมรบั ชำระหนี้ ๒๓ ๖. การกูยืมเงินแตผูกยู อมรบั สงิ่ ของหรอื ทรพั ยสนิ อยางอ่นื แทนฯ ๙ ๒๕ ๒. กฎหมายค้ำประกัน ๙ ๔. ผลของการไมชำระหนี้ ๒๕ ๑. แบบของสัญญาคำ้ ประกัน ๑๐ ๔.๑ การผดิ นัดของลกู หน้ี ๒๕ ๒. ประเภทของหนี้ที่สามารถทำสัญญาคำ้ ประกันได ๑๐ ๔.๒ การผิดนัดของเจา หนี้ ๒๖ ๑๑ ๔.๓ การไมชำระหน้ีใหต องตามความประสงค ๒๗ ๒.๑ หน้ีอนั สมบรู ณจงึ ทำสญั ญาคำ้ ประกนั ได ๑๓ อันแทจรงิ แหง มูลหนี้ ๒๘ ๒.๒ หนี้ในอนาคต หรือหน้มี ีเง่ือนไข ๑๔ ๔.๔ ลูกหนีม้ อบใหต วั แทนไปชำระหน้ีแทน ๒๙ ๒.๓ หนี้ทไี่ มผกู พนั ลกู หนเี้ พราะทำดวยความสำคญั ผิด ๑๕ ๔.๕ หนี้เงนิ ที่ตองมดี อกเบย้ี นัน้ จะคดิ ดอกเบย้ี ในเวลาที่ ๓๐ ๑๖ เจา หน้ีผดิ นดั ไมไ ด ๓๐ หรือเพราะเปนผไู รความสามารถ ๑๖ ๔.๖ อัตราดอกเบีย้ ผดิ นดั และคา เสยี หายอ่ืนเมอ่ื ผิดนัด ๓๑ ๒.๔ ไมอาจตกลงใหผ คู ้ำประกนั รบั ผดิ อยางลกู หนีร้ วมได ๑๗ ๓๑ ๒.๕ การบอกกลา วใหผคู ำ้ ประกนั ชำระหนเ้ี มื่อลกู หนี้/ผกู ูผ ิดนัด ๑๘ ๕. ดอกเบย้ี ๓๘ ๒.๖ การชำระหนข้ี องผคู ำ้ ประกัน ๑๘ ๕.๑ อัตราดอกเบีย้ ๒.๗ ผลกรณเี จาหนป้ี ฏิเสธไมร ับชำระหน้จี ากผคู ำ้ ประกนั ๕.๒ ดอกเบย้ี ในดอกเบี้ยทค่ี า งชำระ ๒.๘ กรณเี จาหนี้ตกลงกบั ลูกหนี้เพ่ือลดจำนวนหนท้ี ี่มกี ารคำ้ ประกัน ๕.๓ โทษทางอาญาสำหรบั ผคู ิดดอกเบย้ี เกินอัตรา ๒.๙ กรณเี จา หนี้ยอมผอนเวลาใหลกู หน้ีชำระหนี้ ๕.๔ ความผิดฐานอนื่ ทเ่ี กย่ี วของกบั การเรียกดอกเบยี้ เกินอตั รา ๒.๑๐ ผลภายหลังชำระหนี้
ÊÒÃ- ๒º- ÞÑ ๖. การทวงถามหนี้ ๔๑ ๖.๑ บุคคลผูท ี่จะประกอบธรุ กจิ ทวงถามหน้ีได ๔๑ ๖.๒ ขอปฏบิ ตั ิในการทวงถามหนี้ ๔๕ ๑. ผปู ระกอบธรุ กจิ ทวงถามหน้ี ๔๕ ๒. ทวงถามหนีใ้ หถูกบุคคล ๔๙ ๓. ทวงถามหนใ้ี หถ ูกสถานท่ี ๕๒ ๔. ทวงถามหนี้ใหถ กู เวลา ๕๒ ๕. ระยะหางในการทวงถามหนตี้ อ งเหมาะสม ๕๒ ๖. เปนผูรับมอบอำนาจใหทวงหน้ตี องแสดง ๕๒ หลักฐานการมอบอำนาจ ๕๓ ๗. กรณีผูทวงถามหนขี้ อรบั ชำระหน้ี ๕๔ ๘. ขอ หามผูท วงถามหน้ีกระทำการทวงถามหน้ี ๕๙ ในลักษณะตามมาตรา ๑๑ ๙. ขอหามผทู วงถามหนก้ี ระทำการทวงถามหน้ี ๖๑ ในลักษณะท่ีเปนเท็จหรือทำใหเ กดิ ความเขา ใจผิด ๖๓ ตามมาตรา ๑๒ ๖๕ ๑๐.หา มผูทวงถามหนีก้ ระทำการทวงถามหน้ี ๖๖ ในลกั ษณะทีไ่ มเปน ธรรมตามมาตรา ๑๓ ๑๑.หา มเจาหนา ท่ขี องรฐั กระทำการตามมาตรา ๑๔ ๑๒. การรองเรยี นและรบั เรือ่ งรองเรียน เกย่ี วกบั การทวงถามหน้ี ๑๓. สรุปขอหามและขอ ปฏิบตั ใิ นการทวงถามหนี้ ๗. ชอ งทางการตดิ ตอขอรบั บรกิ ารหรอื ความชวยเหลือที่เก่ยี วขอ งในกระบวน ๖๗ การท่ีประชาชนควรรู ๗๒ บรรณานกุ รม
-๒- -๓- หนี้สิน ความรูเบอื้ งตน เกีย่ วกับหน้ีสิน การกอหนส้ี ิน คือ การกอใหเ กิดนติ กิ รรมสองฝา ย ซ่ึงเรยี กวา สัญญา โดยหนส้ี นิ มไี ดหลายประเภท เชน หนี้กูยืมเงิน หนี้บัตรเครดิต หนี้จากการเชาซื้อ เชาแบบลิสซิ่ง และหนี้จากสินเชื่อรูปแบบตางๆ เนื้อหาในเอกสาร ชุดนี้มุงเนนใหทราบเกี่ยวกับสิทธิหนาที่ระหวางเจาหนี้ และลูกหนี้ซึ่งจะเนนในเรื่องสัญญาการกูยืมเงินเพื่อใหคูสัญญา ทราบถงึ หลกั เกณฑท่คี ูสัญญาตองปฏิบัติตอ กนั ตามกฎหมาย โดยในสว นเกย่ี วกบั หนส้ี นิ จะมสี ญั ญาอปุ กรณอ น่ื ทเ่ี กย่ี วขอ งกบั สญั ญาหลกั ดงั กลา วขา งตน เชน สญั ญาคำ้ ประกนั รวมถงึ หลกั ทว่ั ไปตามประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ยเ กย่ี วกบั การชำระหนท้ี ถ่ี กู ตอ ง ผลของการไมช ำระหน้ี ดอกเบย้ี ทช่ี อบ ทจ่ี ะเรยี กไดต ามกฎหมายตามพระราชบญั ญตั หิ ามเรียกดอกเบยี้ เกินอตั รา พ.ศ. ๒๕๖๐ รวมถงึ สิทธิของเจาหน้หี รือผูมสี ทิ ธิ ทวงถามใหชำระหนี้ในการทวงถามใหลูกหนี้หรือผูค้ำประกันชำระหนี้ วาควรจะปฏิบัติอยางไรเพื่อมิใหฝาฝนตอกฎหมาย ซึ่งระบุไวใ นพระราชบญั ญตั กิ ารทวงถามหนี้ พ.ศ. ๒๕๕๘ ทง้ั นเ้ี พอื่ ใหเ กดิ ความเปน ธรรมในระหวางคสู ัญญาทุกฝา ย
-๔- -๕- ๑. การกยู ืมเงิน ๒. คา ธรรมเนยี มในการทำสัญญา กฎหมายกำหนดใหผ กู เู ปน ผตู อ งชำระคา ธรรมเนยี มในการทำสญั ญา คา สง มอบหรอื สง คนื เงนิ ทก่ี ยู มื เงนิ ๑. แบบของสัญญากยู ืมเงนิ กฎหมายกำหนดวา สญั ญากูยมื เงนิ จะสมบูรณตอ เมื่อมีการสง มอบเงินทีใ่ หก ยู มื ใหก ับลูกหน้ี ดังนัน้ ตัวอยางคาธรรมเนียมในการสงมอบเงินกู เชน คาธรรมเนียมของธนาคารในการโอนเงินกูใหกับลูกหนี้ โดยในสว นเกย่ี วกบั เรอ่ื งคา ธรรมเนยี มดงั กลา วนน้ั กฎหมายจะอนญุ าตใหค สู ญั ญาอาจตกลงกนั เปน อยา งอน่ื ได แมม กี ารทำสัญญากูยืมเงนิ ไวเ ปน ลายลกั ษณอ ักษร แตห ากไมม ีการสง มอบเงินกใู หแกล ูกหนก้ี ันจรงิ สญั ญา เนอ่ื งจากกฎหมายมไิ ดห า มไวอยางเดด็ ขาด ท้งั นดี้ งั ปรากฏตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ดงั กลา วกไ็ มอ าจมผี ลใชบ งั คับได เพราะไมส มบูรณต ามกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพง และพาณิชย ๖๕๑ (ป.พ.พ.) มาตรา ๖๕๐ ๓. กำหนดเวลาใชเงินกู ตวั อยางเชน นางสาวกนกวรรณ ไดข อยืมเตารีดไอนำ้ ของนายกนกไปใชโดยตกลงวา จะนำ สำหรับกำหนดเวลาใชเงินกู มีไดทงั้ กรณีท่ีคูส ัญญาประสงคจ ะกำหนดไวใหช ดั เจนและกรณีท่ีคูส ัญญา มาคืนภายในกำหนด ๑ เดอื น ตอมานางสาวกนกวรรณไดน ำเตารดี ไอนำ้ ดงั กลา วไปใหห ลาน ของตนอายุ ๗ ขวบ เลน จนไดรบั ความเสียหายใชงานไมไดอ ีก นางสาวกนกวรรณไดแจง ให ไมไดก ำหนดไว หากจะกำหนดระยะเวลาใชเ งินกูคืนก็ใหต กลงวนั เวลาท่ีชดั เจนในการชำระหน้ีคนื แตห ากผใู ห นายกนกทราบและแจงวาจะชดใชเ งินคาเตารดี จำนวน ๒,๕๐๐ บาท ใหแ กน ายกนก แตข ณะนี้ กูหรือเจาหนี้ไมประสงคจะกำหนดระยะเวลาไวตั้งแตแรกก็สามารถกำหนดภายหลังได โดยผูใหกูหรือเจาหนี้ ยงั ไมม เี งนิ ทง้ั หมด ขอผอ นชำระใหน ายกนกแทน นายกนกเกรงวา นางสาวกนกวรรณจะไมร กั ษาสญั ญา จะตอ งบอกกลาวใหแกล กู หนท้ี ราบลวงหนา วา ประสงคจ ะใหช ำระเงนิ คืนเมอ่ื ใด แตก ารบอกกลาวน้นั ตองทำ ทใ่ี หไ ว จึงไดใหนางสาวกนกวรรณลงลายมอื ช่ือในชอ งผูกใู นสญั ญากยู ืมเงนิ จำนวน ๒,๕๐๐ บาท ภายในระยะเวลาพอสมควรไมเร็วไปไมช า ไป และเพอื่ ปองกนั มใิ หม กี ารถกเถียงกนั วา มกี ารบอกกลา วกนั แลว ไวกับตนแทน โดยนายกนกไมม กี ารสงมอบเงินจำนวน ๒,๕๐๐ บาท ใหนางสาวกนกวรรณ หรอื ไม กค็ วรจะตอ งมกี ารบอกกลา วกนั เปน ลายลกั ษณอ กั ษรและมหี ลกั ฐานการรบั คำบอกกลาวดงั กลาวดวย แตประการใด เมือ่ ถงึ กำหนดตองชำระเงินจำนวน ๒,๕๐๐ บาท ตามสัญญากูยมื เงิน นายกนกจะ เชน อาจสงทางไปรษณียลงทะเบียนตอบรับ โดยบทบัญญัติสวนนี้ดังปรากฏตามประมวลกฎหมายแพง เรียกรอ งใหนางสาวกนกวรรณชำระเงินตามสญั ญากูยืมเงินดังกลาวไดห รอื ไม และพาณชิ ย มาตรา ๖๕๒ เหน็ วา กรณตี ามตวั อยา ง นายกนกไมส ามารถจะบงั คบั ตามสญั ญากยู มื เงนิ ได เนอ่ื งจากแบบของสญั ญา กยู ืมเงินนัน้ ไมส มบูรณ เพราะไมมีการสงมอบเงินทีก่ ยู ืมกนั จรงิ แตนายกนกสามารถเรียกรอ งคา เสียหาย อันเกิดจากการทีน่ างสาวกนกวรรณนำเตารีดไปใหผ อู ืน่ ใชจนเกดิ ความชำรดุ เสยี หายได
-๖- -๗- กหลากั รฐกานยู มื ตวั อยางเชน นายแดงใหนายดำกูยมื เงนิ จำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท โดยไดทำสัญญา ๔. ในสวนหลักฐานการกูยมื เงินนั้น กฎหมายกำหนดวา สญั ญากูยืมเงนิ กนั มากกวา กูยมื เงนิ กัน แตใ นสัญญามิไดกำหนดวาจะตองนำเงินท่กี ูยืมมาชำระคืนเมือ่ ใด เมือ่ กูย ืมไปได ๑ ป ๒,๐๐๐ บาท จะตอ งมีหลกั ฐานเปน หนงั สอื และอยา งนอ ยตองมลี ายมอื ชือ่ ของผูกูย มื เงนิ ใน นายแดงเกิดขัดสนเรอ่ื งเงิน จงึ ประสงคจ ะเรยี กเงินกูค ืนจากนายดำ จึงไดแ จง เปน หนังสือสงทาง หลักฐาน สัญญาดงั กลาวดวย มฉิ ะน้นั จะไมสามารถฟอ งรอ งใหบ ังคบั คดีกนั ได ปรากฏตามท่ีบัญญัติ ไปรษณียใหนายดำทราบวาตนจะขอเงินคืนภายในกำหนด ๑ เดือน นับแตวันที่นายดำรับ การกูย ืมเงิน ไวใน ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ๖๕๓ วรรค ๑ หนงั สือดงั กลาว ตอ มาครบกำหนด ๑ เดอื น นายดำไมน ำเงนิ มาชำระ ดังนีน้ ายแดงจะสามารถ บงั คบั ใหน ายดำชำระหนี้ไดหรอื ไม กรณีตามตัวอยางเปนสัญญากูยืมเงินที่มิไดกำหนดระยะเวลาชำระหนี้ไวใหชัดเจน ต้ังแตแรก ซ่ึงอาจกำหนดเวลาชำระหนไี้ ดภายหลังโดยการบอกกลา วใหลกู หนคี้ อื นายดำทราบได และกรณนี น้ี ายแดงไดบ อกกลา วโดยชอบแลว เม่ือนายดำไมชำระหน้ี นายดำจึงตกเปน ผูผดิ นดั และตองรบั ผดิ ตอเจา หน้ี กลา วคอื นายแดงเจาหน้ีสามารถจะเรียกดอกเบย้ี ผิดนัดและฟอ งรอ ง บงั คับใหน ายดำชำระหน้ไี ด ๕. เม่อื สัญญากูยมื เงนิ นน้ั ไดท ำเปน หนงั สือ กฎหมายกไ็ ดกำหนดไวว าการชำระเงนิ กูคนื กจ็ ำตองมหี ลกั ฐานลงลายมือชือ่ เชนกนั โดยในหลักฐานดงั กลา วตองมีลายมือชอ่ื ของ การชำระ ผูใ หก หู รือเจา หน้ี หรือมฉิ ะนัน้ ตอ งมีการเวนคืนสัญญากยู มื เงนิ ทอ่ี ยูกบั เจาหน้นี ัน้ ใหก บั เงินกทู ่ถี กู ตอง ลูกหน้ีผชู ำระหน้ี หรือมกี ารแทงเพิกถอนหรอื ขีดฆาทำลายสญั ญาดงั กลา วเสยี ตามประมวล กฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ๖๕๓ วรรคสอง
-๘- -๙- การกูยมื เงินแตผูกูยอมรับส่ิงของหรือทรพั ยสินอยางอ่ืนแทน และการกูย ืมเงินกัน ๒. กฎหมายคำ้ ประกนั และผูใ หก ยู นิ ยอมรบั ชำระสง่ิ ของหรือทรพั ยส ินอืน่ แทนเงนิ ท่ีกยู มื สัญญาค้ำประกันเปน สัญญาอปุ กรณซึง่ มกั จะพว งกบั สญั ญาหลกั หรอื หนป้ี ระธาน เชน หนี้กยู ืมเงนิ การยอมรบั สงิ่ ของหรอื ทรัพยสินแทนเงินกูยืม ในทงั้ สองกรณดี งั กลาว มไี ดตาม โดยการค้ำประกันคือการใหหลักประกันแกเจาหนี้วาหากมีเหตุการณใดที่ลูกหนี้ไมอาจชำระหนี้สินได ท่คี ูส ญั ญาตกลงกนั โดยกฎหมายกำหนดหลักเกณฑก ารคำนวณราคาทรพั ยส ินและสง่ิ ของ เจา หนก้ี ส็ ามารถจะเรยี กใหผ คู ำ้ ประกนั ซง่ึ เปน บคุ คลภายนอกชำระหนแ้ี ทนลกู หนไ้ี ด ทง้ั นร้ี ายละเอยี ดสญั ญาคำ้ ประกนั อน่ื แทนจำนวนเงินวา ใหคำนวณเทากบั ราคาตลาดของสิง่ ของหรอื ทรพั ยส ินอนื่ นน้ั ณ เวลา ซงึ่ กฎหมายกำหนดเปนมาตรฐาน ปรากฏตามประมวลกฎหมายแพงและพาณชิ ย บรรพท่ี ๓ เอกเทศสญั ญา และสถานที่สงมอบ ลักษณะ ๑๑ วา ดวยเรือ่ ง คำ้ ประกนั โดยผลของการชำระหน้ดี ว ยสง่ิ ของหรือทรพั ยสนิ อ่ืนดังกลา ว มผี ลคอื ถอื วา มกี าร ตอมาการทำสัญญาค้ำประกันมีการแกไขหลักเกณฑใหมเพื่อใหเกิดความเปนธรรมกับ ผคู ้ำประกนั มากย่ิงขึ้นในหลายมาตรา ตามพระราชบญั ญัติแกไ ขประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ย (ฉบบั ท่ี ๒๐) ๖. ชำระหนีแ้ ลว สงผลตามกฎหมายตอมาคอื หนส้ี นิ ดงั กลา วเปนอนั ระงับไป โดยคูสญั ญา พ.ศ. ๒๕๕๗ โดยสรปุ ภายหลังกฎหมายแกไ ขใหม มปี ระเด็นตา งๆ ดังน้ี จะตกลงแตกตางจากที่กฎหมายกำหนดไวในเรื่องระยะเวลาที่นำมาคำนวณราคาสิ่งของ หรือราคาทรพั ยส ินขางตนไมไ ด เชน ตกลงกนั วา ใหคำนวณเทากับราคาตลาด ณ วนั ที่ ๑. แบบของสัญญาค้ำประกัน ตกลงกัน อยางนไ้ี มอ าจตกลงได กฎหมายใหเปนโมฆะ หรอื ขอตกลงดังกลาวเปน อนั เสยี ไป ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ๖๘๐ เนื่องจากขัดกับหลักที่วางไววาใหคำนวณ เทากับราคาตลาด ณ วันที่มีการสงมอบ สิ่งของหรือทรัพยสินอื่นแทนการคืนเงินกู ทั้งนี้ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย วรรคสอง วางหลักในการทำสัญญาคำ้ ประกนั เพ่ือใหมผี ลผกู พนั มาตรา ๖๕๖ วรรคทา ย ตามกฎหมายและสามารถฟองรองบังคับกันไดวาสัญญาค้ำ ตวั อยางเชน นายแดงใหน ายดำกยู ืมเงนิ จำนวน ๔๐๐,๐๐๐ บาท โดยไดท ำ ประกันนั้นจะตองทำเปนหลักฐานเปนหนังสือลงลายมือชื่อผูค้ำ สญั ญากยู ืมเงินกนั ไว ตอ มากอ นถึงกำหนดชำระหน้ตี ามสญั ญา ๓ เดือน นายดำแจง ประกันเปน สำคญั กลาวคืออยา งนอยในสญั ญาจะตอ งมลี ายมือ นายแดงวาไมมีเงินสดมาชำระ แตป ระสงคจะนำรถยนตมือสองของตน จำนวน ๑ คัน ชื่อของผูค ้ำประกนั ราคาประเมนิ ในขณะนน้ั คอื ๔๐๐,๐๐๐ บาท มาชำระหนแ้ี ทน แลว นายแดงตอบตกลง ตอมาในวนั ครบกำหนดชำระหนเ้ี งนิ กู นายแดงสบื ทราบวา ราคาตามทองตลาดของรถยนต คนั ดังกลา วลดลง โดยมมี ลู คาเพียง ๓๕๐,๐๐๐ บาท นายแดงจงึ ปฏเิ สธไมยอมรับ ชำระหนี้ดวยรถยนต นายดำจะโตแยงไดหรอื ไม กรณตี ามตัวอยาง นายดำไมอ าจโตแยงไดเน่ืองจาก การคำนวณราคาของสง่ิ ของ ที่นำมาชำระหนี้แทนหนี้เงนิ จะตองคำนวณ ณ วนั สงมอบส่ิงของนั้น เมือ่ นายแดงไมย อม
- ๑๐ - - ๑๑ - ๒. ประเภทของหน้ที ีส่ ามารถทำสัญญาค้ำประกันได ๒.๒ หน้ใี นอนาคต หรือหน้ีมีเง่อื นไข ๒.๑ หนอ้ี นั สมบูรณจ ึงทำสัญญาคำ้ ประกนั ได กฎหมายระบวุ า หน้ใี นอนาคต คือ หนปี้ ระธานทยี่ งั ไมอาจทราบไดวาจะเกดิ ข้นึ เมื่อใด แตในอนาคตมแี นวโนม วา หนี้อันสมบูรณเทานั้นจึงจะสามารถทำสัญญาค้ำประกันซึ่งเปนสัญญา จะเกิดขึน้ ได เชน หนีเ้ งนิ กเู บกิ เงินเกนิ บัญชี ในกรณีส่งั จา ยเช็ค หนีอ้ ยา งน้ีสามารถทำสัญญาคำ้ ประกนั ได อุปกรณได กลาวคือ หนี้ประธานหรือหนี้หลักนั้นจะตองสมบูรณตามแบบที่ แมขณะทำสญั ญาคำ้ ประกนั หนี้ประธานยงั ไมเ กิดขน้ึ ก็ตาม กฎหมายกำหนดไวเ สียกอน โดยในกรณีหนก้ี ยู มื เงนิ นนั้ กฎหมายกำหนดวา จะสมบูรณก็ตอเมื่อมีการสงมอบเงินกูใหแกผูกูตามที่กลาวมาแลว ดังนั้น สำหรับหนี้มีเง่ือนไข ยกตัวอยางเชน ในกรณคี ำ้ ประกนั หน้กี ูยืมเงินเพ่อื สงเสรมิ การศึกษาของบุตร ในกรณีไมมีการสงมอบเงินกูกันจริงแตมีการทำสัญญากูเงินเพื่อหลบเลี่ยงหนี้ ผูกู แตในสัญญากูดังกลาว มีเงื่อนไขวาจะกูยืมเงินตอเมื่อบุตรของผูกูศึกษาจบระดับมัธยมตนแลวตอ มา ประเภทอื่นจึงถือวาเปนหนี้กูยืมเงินยังไมสมบูรณ จึงไมสามารถทำสัญญา เมอ่ื บตุ รคนดงั กลา วจบการศึกษาในระดับดังกลา วสญั ญากยู มื มกี ารสง มอบเงนิ กันจงึ เกดิ สญั ญากยู มื เงนิ ทส่ี มบรู ณ ค้ำประกันหนี้ดังกลาวได หากตกลงทำสัญญาคำ้ ประกนั ไปก็ไมอาจฟองรอ ง หากลกู หนไ้ี มช ำระหนี้ เจา หนีก้ ช็ อบท่ีจะบังคับเอากับผูค้ำประกนั ได ตามสัญญาค้ำประกันดังกลาวไดเนื่องจากหนี้ที่ไมสมบูรณจะทำสัญญา ค้ำประกนั ไมไ ด อยา งไรกต็ าม เพอ่ื ปองกันมิใหเ ปนการเอาเปรยี บผคู ำ้ ประกนั ทเี่ ขา คำ้ ประกนั หนใี้ นอนาคตและหนม้ี ี เงอ่ื นไขมากจนเกนิ ไป กฎหมายจงึ ไดก ำหนดวา หนใ้ี นอนาคตและหนม้ี เี งอ่ื นไขทผ่ี คู ำ้ ประกนั ตอ งรบั ผดิ นน้ั จักตอ งระบุ ตัวอยา งเชน นายแดงใหน ายดำยืมรถจกั รยานยนตไปใช ตอ มานายดำ รายละเอยี ดของหนใ้ี หชดั เจน ดังรายละเอยี ดตอ ไปนี้ นำรถจักรยานยนตไปใหน ายขาวใชงานโดยนายแดงไมไดอนญุ าตนายขาวนำรถ คันดังกลาวไปใชแลวเกิดประสบอุบัติเหตุ ทำใหรถเสียหายทั้งคัน นายแดง (๑) วตั ถปุ ระสงคใ นการกอหนร้ี ายท่ีคำ้ ประกัน และลักษณะของมูลหนี้ จงึ ตกลงกบั นายดำทำสญั ญากยู มื เงนิ จำนวน ๕๐,๐๐๐ บาท เพอ่ื เปน การประกนั ทั้งนี้เพื่อใหบุคคลภายนอกซึ่งเขามาค้ำประกันหนี้ดังกลาวทราบจุดมุงหมายและลักษณะของ การชำระคา เสยี หายรถจกั รยานยนต โดยใหน ายขาวลงลายมอื ชอ่ื ในฐานะเปน ผูค้ำประกนั หนด้ี งั กลาว ดังน้ี นายขาวผคู ้ำประกนั จะตอ งผูกพันตามสญั ญา หนอ้ี ยา งชดั เจน โดยในท่ีนล้ี กั ษณะของหนี้ คือการกยู มื เงนิ สว นวตั ถปุ ระสงค ก็เชน กูยมื เงนิ เพือ่ การศึกษา หรอื ไม กูยืมเงนิ เพอื่ ที่อยอู าศยั หรือกยู ืมเงนิ เพ่ือการลงทุน เปนตน กรณีดังกลาวนายขาวไมจำเปนตองผูกพันตามสัญญาค้ำประกัน (๒) จำนวนเงินสูงสุดทีค่ ำ้ ประกัน เน่ืองจาก สัญญากูยืมเงนิ ซ่งึ เปนสญั ญาหลักไมส มบูรณเพราะไมม ีการสง มอบ ในสว นนีส้ ัญญาคำ้ ประกันหน้ีในอนาคตจักตองระบจุ ำนวนเงนิ สูงสดุ ท่ีคำ้ ประกันดวย เพื่อเปน เงนิ กูกนั จริง การปองกันมิใหผูค้ำประกันตองรับผิดอยางไมจำกัดอันเปนการเอาเปรียบผูค้ำประกันซึ่งเปนบุคคลภายนอก เกินสมควร โดยแตเดิมนั้นกฎหมายมิไดบังคับวาจะตองระบุจำนวนเงินที่ตองค้ำประกันหนี้ในอนาคตไว จึงสงผลเสียตอ ผูคำ้ ประกันใหตอ งรบั ผดิ หนไ้ี มจ ำกัดจำนวน
- ๑๒ - - ๑๓ - (๓) ระยะเวลาในการกอ หนท้ี คี่ ำ้ ประกนั ๒.๓ หนที้ ่ีไมผกู พันลูกหนเ้ี พราะทำดว ยความสำคญั ผดิ หรอื เพราะ เปนผูไรความสามารถหนี้กูยืมเงินที่กระทำโดยความสำคัญผิดในความ สำหรับระยะเวลาในการกอหนี้ที่ค้ำประกันก็เปนประเด็นหนึ่งเพื่อคุมครองบคุ คล สามารถของบุคคลผูเปนคูสญั ญาหรอื ทำโดยคสู ญั ญาฝายหนง่ึ เปน บคุ คล ภายนอกที่เขาทำสัญญาค้ำประกันหนี้ในอนาคตใหตองรับผิดตามระยะเวลาที่กำหนดไว ไรค วามสามารถนัน้ ไมก อใหเกดิ ความผกู พันระหวางเจา หนี้และลูกหน้ี ในสัญญาเทานัน้ หากไมมีการกำหนดระยะเวลาไวตามกฎหมายแลว สัญญาคำ้ ประกันนัน้ เนื่องจากสัญญาดังกลาวตกเปนโมฆะ หรือเสยี เปลาเนื่องจากกฎหมาย จะไมส ามารถฟองรอ งบังคับกันได อยางไรกต็ ามกฎหมายมขี อยกเวนไวสำหรบั ในกรณจี ำเปน กำหนดไววา บุคคลที่ศาลสั่งใหเปนคนไรความสามารถนั้น จะกระทำ ที่ตองค้ำประกันกิจการทำตอเนื่องกันไปหลายคราวซึ่งไมจำตองระบุระยะเวลาในการ นิติกรรมเองไมไ ด ตอ งใหผอู นบุ าลของบคุ คลดงั กลาวเทาน้ันกระทำการ ค้ำประกันหนี้ไวในสัญญาก็ไดกรณีนี้ที่พบบอยที่สุดคือกรณีค้ำประกันบุคคลเขาทำงาน แทน ในกิจการงานที่ทำตอเนื่อง อยางไรก็ตามกฎหมายก็ยังใหสิทธิผูค้ำประกันที่จะบอกกลาว ยกเลิกการเขาค้ำประกันหนี้ในอนาคตที่ยังไมเกิดขึ้นได โดยสงคำบอกกลาวใหเจาหนี้ทราบ สำหรับกฎหมายค้ำประกัน บุคคลภายนอกอาจทำสัญญาค้ำประกันหนี้ดังกลาวไดแมวาหนี้ประธาน เสยี กอนได โดยหากมีความรบั ผิดชอบใดๆ ภายหลงั จากคำบอกกลา วไปถงึ เจา หน้แี ลว ทานวา นน้ั จะตกเปนโมฆะเพราะคูสญั ญาฝายหน่ึงบกพรอ งในเร่อื งความสามารถ โดยสัญญาค้ำประกนั จะมผี ลสมบรู ณ ผคู ้ำประกันหลุดพนจากความรบั ผิด ทัง้ น้ี ดงั ปรากฏตามประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ย เมอ่ื บคุ คลภายนอกนน้ั รถู งึ เหตสุ ำคญั ผดิ หรอื ไรค วามสามารถนน้ั ในขณะทบ่ี คุ คลภายนอก ซง่ึ เปน ผคู ำ้ ประกนั นน้ั มาตรา ๖๙๙ เขา ทำสญั ญา กลา วโดยสรปุ คอื วา หากผคู ำ้ ประกนั รถู งึ เหตคุ วามบกพรอ งดงั กลา วในขณะเขา ทำสญั ญาคำ้ ประกนั ผูค้ำประกันยอ มตองรบั ผิดตามสัญญาหากตอ มาลูกหนที้ ่ีไมม ีความสามารถน้ันไมชำระหนี้ อนง่ึ มีขอสงั เกตทสี่ ำคญั วา กฎหมายไมอ นญุ าตใหคสู ัญญาตกลงไวเ ปน อยา งอนื่ แตกตางไปจากที่กฎหมายกำหนดไวขางตนโดยระบุวาหากผิดไปจากที่กฎหมายกำหนด ขอ ตกลงนน้ั ตกเปน โมฆะ ปรากฏตามประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ย มาตรา ๖๘๕/๑ เพื่อปองกันมิใหมีการตกลงยกเวนหลักกฎหมายอันสงผลใหผูค้ำประกันตอง รบั ผดิ มากจนเกนิ จำเปน
- ๑๔ - - ๑๕ - ๒.๔ ไมอาจตกลงใหผคู ้ำประกนั รับผดิ อยา ง ๒.๕ การบอกกลา วใหผูคำ้ ประกันชำระหน้ี เมื่อลกู หน้ผี ูก ผู ดิ นัด มาตรา ๖๘๖ ลูกหนรี้ ว มได ตามมาตรา ๖๘๑/๑ สำหรับการบอกกลา วใหผ ูค ำ้ ประกันชำระหนน้ี น้ั มขี ้นั ตอนตามกฎหมาย ดังน้ี ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ๖๘๑/๑ ๑. เจา หนมี้ ีหนงั สือบอกกลาวไปยงั ผคู ำ้ ประกัน ทแี่ กไ ขเพม่ิ เตมิ ระบุหา มมิให ภายใน ๖๐ วนั นบั แตว นั ท่ลี ูกหนีผ้ ดิ นดั คสู ัญญาตกลงใหผคู ำ้ ประกนั ตอ งรบั ผดิ อยา งลกู หนีร้ วม ๒. เจาหนี้จะเรียกใหผ คู ้ำประกันชำระหนีก้ อ น ซึ่งหากฝา ฝน กฎหมายดงั กลาว ขอ ตกลงน้นั จะตกเปน โมฆะ หนังสือบอกกลาวขางตนจะไปถึงผูค้ำประกันไมได หรอื ไมมผี ลบังคบั ทางกฎหมายได ดงั น้นั เม่อื ลูกหนผี้ ิดนัดไมชำระหน้ี แตไมตัดสิทธิผูค้ำประกันที่จะชำระหนี้เมื่อหนี้ถึงกำหนด ชำระ เจา หน้ีตองเรยี กใหลูกหนช้ี ำระหนีก้ อ น จะเรยี กใหผคู ำ้ ประกันชำระหนี้แทนลูกหนที้ ันทีไมได กหลากั รฐกานูยมื โดยหากเจาหนี้ฝาฝนกฎหมายมิไดมีหนังสือบอกกลาว แกผ คู ำ้ ประกันภายในกำหนดเวลา ๖๐ วัน กฎหมาย อยา งไรกต็ าม ในวรรคสอง กฎหมายยกเวนใหส ามารถตกลงใหผ คู ้ำประกันรบั ผิดอยา งลูกหนี้รวมได กำหนดใหผูค้ำประกันหลุดพนจากความรับผิดใน หากปรากฏวา ผูค้ำประกันน้ันมีสถานะเปน นติ ิบคุ คล เชน บริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด หางหุนสว นจำกัด ดอกเบี้ยและคาสินไหมทดแทนตลอดจนภาระติดพันอัน เปนตน และยินยอมเขาผูกพันรับผิดในหนี้ดังกลาวอยางลูกหนี้รวมหรือในฐานะเปนลูกหนี้รวมเพราะ เปนอุปกรณแหงหนี้รายนั้นที่เกิดขึ้นภายหลังพน นิติบุคคลมคี วามสามารถในการชำระหน้ีสงู กวาบคุ คลธรรมดา กำหนดระยะเวลา ๖๐ วันขางตน ท้ังนี้ เมอื่ นติ บิ ุคคลยินยอมรับผดิ อยางลูกหนีร้ ว มแลว นติ ิบคุ คลดงั กลา วยอ มเสยี สิทธบิ างประการ ตามกฎหมาย ไดแก (๑) สทิ ธทิ จ่ี ะขอใหเ จา หนเ้ี รยี กใหล กู หนช้ี ำระหนก้ี อ น ตามประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ย มาตรา ๖๘๘ (๒) สิทธทิ ่ีจะใหพ ิสูจนใหเจาหนท้ี ราบวา ลูกหน้ีมีทางท่จี ะชำระหนี้ไดแ ละบงั คับใหลูกหน้ีชำระหนไี้ ด นั้นไมย ากเกินไป (๓) สทิ ธทิ ่ีจะเรียกใหเ จา หนบี้ ังคบั เอากับหลักประกนั ที่ลกู หนี้นำมาใหเจาหนีย้ ดึ ถือไวเปน ประกันกอน อนง่ึ เมอ่ื ผคู ำ้ ประกนั ซง่ึ เปน นติ บิ คุ คลเสยี สทิ ธทิ ง้ั สามประการดงั กลา ว ทำใหผ คู ำ้ ประกนั ซง่ึ เปน นติ บิ คุ คล ตองถกู เจาหนบี้ งั คับใหชำระหน้ีไดโ ดยตรง ไมอาจอา งใหเ จาหน้ไี ปเรยี กใหลกู หนช้ี ำระหนี้ หรือบังคับเอากบั ทรพั ยท ีเ่ ปนหลักประกนั ของลกู หนขี้ างตนเสยี กอ นไดน ่ันเอง
- ๑๖ - - ๑๗ - ๒.๖ การชำระหนีข้ องผูคำ้ ประกัน ๒.๘ กรณีเจาหนตี้ กลงกับลกู หนเี้ พ่ือลดจำนวนหน้ีทม่ี ีการค้ำประกนั โดยหลักการแลวผูค้ำประกันไมจำตองชำระหนี้กอนหนี้นั้นถึงกำหนดชำระและเมื่อผูค้ำประกัน กฎหมายไดวางหลักไวตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ๖๙๑ วา ในกรณีที่ลูกหนี้ ถกู เจาหนที้ วงใหชำระหนี้ ผคู ้ำประกนั มสี ทิ ธิทจ่ี ะอางกบั เจาหน้วี า ใหไ ปเรยี กเกบ็ กบั ลกู หนกี้ อ น ยกเวนกรณี และเจาหนี้มีการตกลงลดจำนวนหนี้ที่มีการค้ำประกัน รวมถึงการตกลงลดจำนวนดอกเบี้ย คาสินไหม ทป่ี รากฏวา ลูกหนน้ี ้ันถกู ศาลพิพากษาใหลมละลายหรือลูกหนี้ไมทราบวาอยทู ี่ใดในราชอาณาจักร ตามประมวล ทดแทนหรอื คา ภาระติดพันอันเปนอุปกรณแ หงหนีร้ ายน้นั ไววา เจา หนีต้ องมีหนงั สอื บอกกลาวแจง ใหผคู ำ้ ประกนั กฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ๖๘๗ และ ๖๘๘ และหากเจาหน้มี ีทรพั ยซ ง่ึ ลกู หน้นี ำมาประกันหน้ี ทราบถึงขอ ตกลงดังกลา วภายใน ๖๐ วนั นบั แตว นั ท่ตี กลงกันได ขอตกลงดงั กลา วจึงจะผกู พันผูค ้ำประกัน ผูค้ำประกันมีสิทธิแจงใหเจาหนี้นำเอาทรัพยดังกลาวมาชำระหนี้เสียกอนได และประมวลกฎหมายแพงและ ถาลูกหนี้ชำระหนี้ที่ลดลงครบถวนแลวหรือยังไมครบแตผูค้ำประกันเขาชำระหนี้ที่เหลือหรือผูค้ำประกัน พาณชิ ย มาตรา ๖๙๐ ไดก ำหนดใหเ จา หนจี้ ะตอ งชำระหนเี้ อาจากทรพั ยซ งึ่ เปนประกันนน้ั เสียกอน ชำระหนท้ี ล่ี ดแลว ทง้ั หมดเพราะลกู หน้ีไมชำระทั้งหมด ผลคือผูค้ำประกันหลุดพน จากการคำ้ ประกนั และผลอกี ประการหน่ึงคือ ในการชำระหนีข้ องผูค ้ำประกนั ดงั กลาว กฎหมายระบใุ หผูค ้ำประกันมีสิทธชิ ำระหนไี้ ดแม เมื่อผูค้ำประกันจะชำระหนี้นั้นผูค้ำประกันอาจชำระหนี้ทั้งหมดหรือชำระหนี้ตามเงื่อนไขและวิธีการ ลวงเลยกำหนดเวลาชำระหนต้ี ามท่ีไดล ดแตไ มเ กนิ ๖๐ วัน นับแตวันทค่ี รบกำหนดชำระหนีด้ งั กลาว และใน ในการชำระหนท้ี ่ีลกู หนมี้ ีอยูกบั เจาหนก้ี อ นผิดนัดชำระหนี้ เฉพาะในสวนท่ตี นตองรับผิดก็ได เชน กอ นท่ีลูกหนี้ กรณีที่เจาหนี้มีหนังสือแจงใหผูค้ำประกันทราบถึงขอตกลงดังกลาวเมื่อลวงเวลากำหนดเวลาชำระหนี้ตาม จะผิดนัดไมชำระหนี้ในสวนที่เหลือกับเจาหนี้ ผูค้ำประกันไดรับการบอกกลาวใหชำระหนี้ตามกำหนดแลว ทไี่ ดลดแลว ใหผ คู ำ้ ประกนั มสี ทิ ธชิ ำระหนไ้ี ดภ ายใน ๖๐ วนั นบั แตว นั ทเ่ี จา หนม้ี หี นงั สอื แจง ใหผ คู ำ้ ประกนั ทราบถงึ ผูค้ำประกันจะชำระหนี้ที่เหลือทั้งหมดในครั้งเดียวหรือผอนชำระใหเจาหนี้เปนงวดๆตามเงื่อนไขและ ขอ ตกลงนน้ั ขอ ตกลงกอนผดิ นัดระหวา งเจาหนแ้ี ละลกู หนกี้ ็ได นอกจากนั้น กฎหมายกำหนดวา ขอตกลงท่ที ำขนึ้ ภายหลงั ที่ลกู หนี้ผดิ นดั ชำระหนแ้ี ลว หากในขอ ตกลง ๒.๗ ผลกรณีเจาหน้ปี ฏเิ สธไมรับชำระหน้ีจากผูคำ้ ประกนั นั้นมีผลขยายเวลาชำระหนี้ใหแกลูกหนี้ มิใหถือวาเปนการผอนเวลาใหชำระหนี้ตาม มาตรา ๗๐๐ หากผูค้ำประกนั ไดแ สดงความประสงคจ ะชำระหนตี้ ามขอ ๒.๖ แลวเจาหนไ้ี มย อมรบั ชำระหนีด้ ังกลา ว นั่นหมายความวา ผูค้ำประกันไมหลุดพนจากความรับผดิ กฎหมายใหผูค้ำประกนั หลุดพนจากความรบั ผิดในหนดี้ งั กลาวทันที ในระหวางที่ผูค้ำประกันชำระหนี้ตามเงื่อนไขและวิธีการในการชำระหนี้ของลูกหนี้ขางตน เจาหนี้ ไมอาจเรียกดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเพราะเหตุที่ลูกหนี้ผิดนัดในระหวางนั้นได นอกจากนั้นเมื่อผูค้ำประกันชำระหนี้ ดังกลาวไปแลว ผูคำ้ ประกันก็มีสทิ ธทิ จี่ ะไปไลเบ้ียเรยี กใหล ูกหน้ีชำระหนี้คืนผคู ้ำประกนั ไดต ามจำนวนท่ตี นชำระ ไปจริงรวมถงึ ดอกเบ้ียและคา เสยี หายอ่ืนจากการค้ำประกันหนดี้ ังกลา วดวย
- ๑๘ - - ๑๙ - ๒.๙ กรณีเจา หนย้ี อมผอ นเวลาใหล กู หนี้ชำระหน้ี ๓. การชำระหนี้ มปี ระเด็นวา หากมีการตกลงผอ นเวลาใหลูกหนช้ี ำระหน้ี จะผกู พนั ผูคำ้ ประกนั หรอื ไมซ ่งึ ตามประมวล บทบัญญตั ิเร่อื งการชำระหนีป้ รากฏตาม ประมวลกฎหมายแพง และพาณิชย บรรพ ๒ วา ดว ย กฎหมายแพงและพาณชิ ย มาตรา ๗๐๐ กำหนดหลักเกณฑไววา หากผูค้ำประกันเขาค้ำประกันหนี้ซึ่งมี เรื่อง หน้ี หมวดท่ี ๕ ความระงับแหงหน้ี ซึ่งมสี าระสำคัญทีเ่ ก่ยี วกับหนี้สนิ ดงั นี้ กำหนดระยะเวลาที่แนนอน แตต อ มาเจา หนย้ี อมผอ นระยะเวลาชำระหนห้ี รอื ผอ นผนั ใหล กู หนช้ี ำระหนเ้ี ปน วนั อน่ื หากผคู ำ้ ประกนั มไิ ดท ราบและใหความยินยอมในการผอนผันดงั กลาวผูค้ำประกันไมต องรับผดิ ในหน้นี ั้นอกี ตอไป นอกจากนน้ั เจา หนไ้ี มอ าจทำขอ ตกลงลว งหนา ใหผ คู ำ้ ประกนั ยนิ ยอมใหม กี ารผอ นเวลาไดเ พราะกฎหมาย กำหนดวาหากมีการตกลงลวงหนา ไว ขอ ตกลงนน้ั จะใชบ ังคับไมได แตม ขี อ ยกเวนซอนข้ึนมาอีกวา ยกเวน แตผ คู ำ้ ประกนั ทเ่ี ปน สถาบนั การเงนิ หรอื ผคู ำ้ ประกนั เพอ่ื สนิ จา งเปน ปกตธิ รุ ะ นน่ั หมายความวา กฎหมายมงุ คมุ ครอง ผูค้ำประกันซึ่งเปนบุคคลธรรมดาซึ่งอาจไมทราบขอกฎหมายดังกลาวและอาจถูกเอารัดเอาเปรียบจากการ ไมทราบขอ กฎหมายดงั กลา วเปน สำคญั ๒.๑๐ ผลภายหลงั ชำระหนี้ เม่ือผูค้ำประกนั ชำระหน้ใี หกบั เจาหน้แี ทนลกู หนี้แลว ผคู ้ำประกันมีสทิ ธติ ามกฎหมาย ดังน้ี (๑) มสี ทิ ธไิ ลเ บ้ยี ทง้ั เงนิ ตน ดอกเบย้ี และคาเสยี หายอ่นื จากการค้ำประกันจากลกู หน้ี (๒) มสี ทิ ธิยกขอตอ สูใ ดๆ ทีล่ ูกหนม้ี ีตอ เจา หนข้ี น้ึ ตอ สแู ทนลกู หนีไ้ ด เวนแต ไมท ราบวา มขี อ ตอสูใน เรื่องหนี้อยางไรโดยหากผูค้ำประกันทราบแตไมยกขอตอสูขึ้นตอสูกับเจาหนี้กฎหมายลงโทษผูค้ำประกัน ใหผ คู ำ้ ประกันไมอ าจไลเบย้ี ลกู หน้ไี ดเ ทาท่ไี มยกขอ ตอ สูด ังกลาว (๓) หากผคู ำ้ ประกันชำระหน้แี ทนลูกหนี้โดยไมแจงลกู หนีใ้ หทราบ ตอมาลูกหนี้ไดช ำระหน้ีนนั้ ใหแ ก เจาหนซี้ ้ำอกี กฎหมายไมใหสิทธผิ ูค ำ้ ประกนั ทีจ่ ะไลเบ้ยี ลกู หนไี้ ดอ ีกตอไป แตไ มตดั สทิ ธผิ ูค ำ้ ประกนั ฟองเรยี กเงนิ ที่ชำระไปแทนลกู หนค้ี ืนจากเจาหน้ี (๔) หากเจาหนก้ี ระทำการใดเปนเหตใุ หผ ูคำ้ ประกนั ตองเสยี หายไมอ าจรบั ชวงสิทธิในสทิ ธิใดก็ดจี ำนอง กด็ ี จำนำหรอื บรุ มิ สทิ ธอิ น่ื กด็ ที ล่ี กู หนใ้ี หไ วก บั เจา หน้ี ผคู ำ้ ประกนั ยอ มหลดุ พน จากความรบั ผดิ เพยี งเทา ทต่ี นนน้ั เสียหาย
- ๒๐ - - ๒๑ - ๓.๑ กำหนดเวลาชำระหน้ี หากเปนกรณีอื่นนอกจากที่กลาวมาขางตน การชำระหนี้แกบคุ คล หากคูสัญญาไมไดกำหนดเวลาชำระหนี้ไวรวมถึงไมอาจสันนิษฐานไดวาเวลาชำระหนี้นั้นคือเวลาใด ผูไมมีสิทธิชำระหนี้นั้นจะสมบูรณตอเมื่อเจาหนี้ไดรับชำระเงินคืน เทานน้ั ซ่งึ อาจไมเต็มจำนวนหน้กี ็ไดต ามประมวลกฎหมายแพง และพาณิชย เจา หนี้ยอมเรียกใหล ูกหน้ีชำระหนไี้ ดในทนั ที และลกู หน้กี ็ยอมชำระหนไ้ี ดใ นทันทเี ชนกัน มาตรา ๓๑๗ หากคูสัญญามีการกำหนดเวลาชำระหนี้ไว แตยังเปนที่สงสัยวาเปนเวลาใด กฎหมายใหสันนิษฐาน อยางไรก็ตามมีบางกรณีที่บุคคลภายนอกนั้นถือใบเสร็จมาเรียกให ไวกอนวา เจาหนี้จะเรียกใหชำระหนี้กอนถึงเวลานั้นไมได แตฝายลูกหนี้จะชำระหนี้ไดกอนกำหนดนั้น ลูกหนี้ชำระหนี้แลวลูกหนี้เชื่อโดยสุจริตและมิไดประมาทเลินเลอวาบุคคล ตามมาตรา ๒๐๓ ดังกลาวมีอำนาจรับชำระหนี้ไดจึงไดชำระหนี้ไป กฎหมายคุมครองลูกหนี้ ผนู น้ั โดยใหถ อื วา การชำระหนน้ี น้ั มผี ลสมบรู ณ โดยถอื วา บคุ คลผถู อื ใบเสรจ็ ๓.๒ บุคคลผมู ีสทิ ธิชำระหนี้ มารบั ชำระหนมี้ ีสทิ ธริ ับชำระหนไี้ ดตามกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพง โดยหลกั แลว การชำระหนก้ี ูยืมเงินหรอื หนีอ้ น่ื ใด ผูมหี นา ท่ีชำระหน้ีโดยตรงคือลูกหนี้หรือผกู ู ซง่ึ เปน และพาณิชย มาตรา ๓๑๘ นอกจากนั้น กฎหมายใหสิทธิเจาหนที้ ีจ่ ะปฏเิ สธไมร ับชำระหนบี้ างสว น หรอื ปฏิเสธไมร ับชำระหน้ี คสู ัญญาในสัญญากูยืมเงนิ เทานนั้ แตบ คุ คลภายนอกอาจจะชำระหนแ้ี ทนกไ็ ด บคุ คลภายนอกดงั กลาว เชน เปน อยา งอน่ื ผิดไปจากท่จี ะตองชำระแกเจา หนีต้ ามสัญญาดวย แตหากเจาหน้ยี นิ ยอมรับชำระหนีอ้ ยา งอ่ืน ผคู ้ำประกนั แตก ฎหมายกย็ กเวนไวในกรณหี นท้ี ไี่ มเปด ใหบคุ คลภายนอกชำระได เชน หนวี้ าจางใหลูกหน้ี แทนการชำระหนี้ที่แทจริงตามที่ตกลงไว กฎหมายใหหนี้นั้นเปนอันระงับเพราะถือวามีการชำระหนี้ ทำการงานซ่งึ ตองอาศยั ความสามารถและความเชยี่ วชาญเฉพาะของลกู หนี้น้ัน เชน จางใหล ูกหน้ีวาดรปู หรือ ที่สมบูรณแลว และกรณีที่ลูกหนี้เลือกชองทางยอมรับภาระเปนหนี้อยางใดอยางหนึ่งขึ้นใหมตอเจาหนี้เปน กรณีบคุ คลภายนอกไมอ าจชำระแทนไดเพราะเปน การขดั กับเจตนาที่แทจรงิ ของคสู ญั ญา เชน คสู ญั ญาอาจจะ การตอบแทนการชำระหนี้นั้น หากขอตกลงดังกลาวไมชัดเจนยังเปนที่สงสัยกฎหมายมิใหสันนิษฐานวา ตกลงกันไวล ว งหนา หา มบุคคลภายนอกมาชำระหน้ี เปนตน ลูกหนี้ไดกอหนี้ขึ้นแทนการชำระหนี้ดังกลาว ทั้งนี้ปรากฏตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ๓๒๐ และ ๓๒๑ อยา งไรกต็ าม แมไ มม ีขอ ตกลงหามมใิ หบ ุคคลนอกผไู มมสี วนไดเ สียในหนี้สนิ ดังกลา วไปชำระหน้กี ต็ าม ในกรณีชำระหนี้ดวยตั๋วเงิน เชน เช็คนั้นจะถือวาหนี้ระงับได ตอเมื่อตั๋วเงินนั้นไดใชเงินหรือ แตผไู มม สี ว นไดเสียในหนี้ดงั กลาวจะชำระหนโี้ ดยไมไ ดร บั ความยินยอมจากลกู หน้หี รอื ผูกไู มไ ด ตามประมวล ขึ้นเงินแลว แตหากเจาหนี้ยินยอมรับชำระหนี้เปนทรัพยสินอื่นหรือสิทธิอื่นๆจากลูกหนี้แทนจำนวนเงิน กฎหมายแพงและพาณชิ ย มาตรา ๓๑๔ ท่กี ยู ืมไป และไมมกี ารโตแยง จากบุคคลภายนอกหรอื ทรพั ยสนิ นน้ั ชำรุดบกพรอ ง ลกู หน้ีจะตอ งรับผิดชอบ ๓.๓ บคุ คลผูม ีสิทธริ บั ชำระหน้ี บคุ คลผมู ีสิทธริ ับชำระหนี้ คือ คสู ัญญาเทานัน้ ในกรณีหน้ีสนิ คอื ผใู หกูย มื เงนิ ซ่ึงเปนเจา หนีต้ ามสัญญา เวนแตเจาหนี้ไดมอบอำนาจไวใหบุคคลอื่นรับชำระหนี้แทน อยางไรก็ตามหากเจาหนี้ยังไมไดมอบอำนาจให บุคคลใดรับชำระหนี้เมื่อบุคคลนั้นไปรับชำระหนี้แลวตอมาเจาหนี้ไดใหสัตยาบันหรือรับรองการกระทำ ดังกลา ว ก็ถอื วา การชำระหนีน้ นั้ สมบรู ณเ ชนกัน การรบั รองหรือใหส ตั ยาบนั ดังกลา ว กฎหมายไมไ ดระบุวา ตองทำเปนลายลักษณอักษรมีลายมือชื่อของเจาหนี้จึงนาจะนำพยานบุคคลหรือพยานเอกสารที่พอจะมีมา พสิ ูจนใหศาลทราบได ท้งั นี้ ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยมาตรา ๓๑๕
- ๒๒ - - ๒๓ - ๓.๔ ในกรณที ค่ี ูสญั ญามิไดตกลงกันไวเ กีย่ วกับสถานทีท่ ีจ่ ะตองชำระหนี้ โดยปกตกิ าร ๓.๖ เมอ่ื ลกู หนข้ี อปฏบิ ตั กิ ารชำระหนโ้ี ดยชอบแลว เชน ชำระหนต้ี รงตามวตั ถปุ ระสงค ชำระหนี้เงินกูจะตองชำระหนี้ที่สถานที่เปนภูมิลำเนาของเจาหนี้และหากมีคาใชจายอื่น ตามทีต่ กลงไว และตามกำหนดเวลา สถานท่ที ก่ี ำหนดไว แตเจาหน้ปี ฏิเสธไมร ับชำระหน้ี สถานทีท่ ี่จะ เกิดขึ้นเนื่องจากการชำระหนี้ถามิไดตกลงกันไวเปนอยางอื่นก็ใหตกเปนภาระของลูกหนี้ตอง ผลของการ โดยไมม เี หตทุ จ่ี ะอา งไดต ามกฎหมาย ผลคอื ลกู หนย้ี อ มหมดความรบั ผดิ ชอบในความรบั ผดิ ใดๆ ตองชำระหนี้ เปนผอู อกคา ใชจ า ยดงั กลา วเวน แตก รณที เ่ี จา หนย้ี า ยภมู ลิ ำเนาหรอื เพราะการอน่ื ใดทเ่ี จา หนไ้ี ด ขอชำระหนี้ อนั เกดิ จากการไมช ำระหนน้ี บั ตง้ั แตเ วลาทข่ี อปฏบิ ตั กิ ารชำระหนโ้ี ดยชอบนน้ั เชน ความรบั ผดิ กระทำเปนเหตุใหมีคาใชจายเพิ่มกฎหมายกำหนดใหคาใชจายดังกลาวเจาหนี้ตองเปนผูออก ทีช่ อบดว ย ในเรื่องดอกเบี้ยผิดนัด เปนตน เพราะถือวาลูกหนี้ไมผิดนัดอีกตอไป แตฝายที่ผิดนัด ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณชิ ย มาตรา ๓๒๔ และ ๓๒๕ กฎหมาย กลบั กลายเปนเจาหน้ีเสยี เอง ตามมาตรา ๓๓๐ หลังจากไดชำระหนี้แลวทั้งหมดจนหนี้ดังกลาวระงับไปกฎหมายกำหนด กรณอี าจเกดิ ขน้ึ ไดห ากเจา หนน้ี น้ั ไมส จุ รติ ประสงคจ ะไดด อกเบย้ี เพม่ิ เตมิ จากลกู หน้ี ๓.๗ วาลูกหนี้มีสิทธิที่จะไดรับใบเสร็จรับเงินเปนหลักฐานจากเจาหนี้นั้น นอกจากนั้นลูกหนี้ หรือเจาหนี้อาจจะหลงลืมวันครบกำหนดชำระหนี้ เชน ในวันครบกำหนดชำระหนี้ มีสิทธิที่จะเรยี กใหเจาหนี้เวนคนื เอกสารอนั เปนหลักฐานแหง การกูยืมเงิน หรือขดี ฆา สญั ญา เจาหนี้นั้นอาจไมอยูที่ภูมิลำเนาของตน เปนเหตุใหลูกหนี้ไมทราบวาจะชำระหนี้กับผูใด กรณีหาก กูย ืมเงินหรอื หลกั ฐานการกูย มื เงนิ เสยี ซึ่งกรณีนี้ลูกหนี้สามารถนำเงินไปชำระหนี้ไดโดยไปวางเงินที่จะตองชำระคืนใหเจาหนี้ไว เจา หนี้ปฏิเสธ ทสี่ ำนกั งานวางทรพั ย ของกรมบังคับคดี หรือบงั คบั คดีประจำจงั หวดั น้นั ๆ แทนโดยการ ไมย อมรับ หากเอกสารดังกลาวสูญหายลูกหนี้หรือบุคคลผูชำระหนี้ก็มีสิทธิที่จะจดขอความ วางเงินท่จี ะตองชำระจนครบถวนแลว ผลกท็ ำใหล กู หนี้นน้ั หลดุ พนหนส้ี นิ ดังกลาวเชนเดยี ว การระงับหนลี้ งไวใ นใบเสร็จหรือเอกสารอ่ืนอกี ฉบบั หนึง่ ตา งหาก กับชำระหนใี้ หก บั เจา หน้ีโดยตรง ชำระหน้ี การชำระหนแี้ ตบางสวน กฎหมายกำหนดใหล ูกหน้มี ีสทิ ธไิ ดรบั ใบเสร็จเชนกนั และ ๓.๕ มีสิทธิจดแจงการชำระหนี้แตบางสวนดังกลาวลงไวในเอกสาร ตามประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ย มาตรา ๓๒๖ หลกั ฐานแหง การชำระหนี้ กรณีการชำระหนีเ้ งินกูเปน งวดๆ หรอื การชำระดอกเบี้ย กฎหมายใหสันนษิ ฐานวา หากเจาหนอ้ี อกใบเสรจ็ ใหเ พอ่ื งวดใดแลว ถือวาเจาหนี้ไดรับชำระหนใี้ นหน้งี วดกอ นๆ แลว และหากเจาหนี้ออกใบเสร็จวาไดรับเงินตนแลวยอมถือวาไดเจาหนี้ไดรับชำระดอกเบี้ย จนครบถว นแลว และมขี อ สนั นษิ ฐานตามกฎหมายอกี วา หากเจา หนไ้ี ดเ วนคนื ตน ฉบบั หลกั ฐาน การกูยืมเงินใหลูกหนี้แลวถือวาหนี้นั้นเปนอันระงับไปตามประมวลกฎหมายแพงและ พาณิชย มาตรา ๓๒๗ หากการชำระเงนิ กูในครง้ั หนึง่ ไมสามารถครอบคลมุ ท้งั เงนิ ตน ดอกเบี้ยและคาฤชา ธรรมเนียมตามที่ตกลงกันใหชำระได ก็ใหหักเงินดังกลาวเปนการชำระคาฤชาธรรมเนียม เสียกอ นแลวจงึ ชำระดอกเบยี้ และในท่ีสุดก็ใชช ำระเงนิ ตน ตามมาตรา ๓๒๙
- ๒๔ - - ๒๕ - ในกรณีขางตน กฎหมายกำหนดใหเปนภาระของผูชำระเงินหรือวางเงินนั้นจักตองบอกกลาว ๔. ผลของการไมชำระหน้ี ใหเจาหนี้ทราบถึงการวางทรัพยนั้นในทันทีนอกจากนั้นกฎหมายยังใหสิทธิแกลูกหนี้ที่จะถอนทรัพยที่ ผลของการไมช ำระหนไี้ ดบญั ญัตไิ วใ นตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย บรรพ ๒ มาตรา วางนั้นได เมื่อถอนทรัพยที่วางไวก็ใหถือวามิไดวางทรัพยนั้นไวเลย แตสิทธิดังกลาวจะหมดไปหากเกิดกรณี ดงั นี้ ๒๐๓ ถึง มาตรา ๒๒๕ โดยมีประเด็นสำคัญเกี่ยวกับหนี้สินและผลของการไมชำระหนี้ของหนี้สิน ดงั กลา วทค่ี วรทราบ ดงั ตอ ไปน้ี (๑) ลกู หน้สี ละสิทธิ (๒) เมื่อเจาหน้ี (๓) เมอื่ การวาง การถอนทรัพย เขาแสดงเจตนาวาจะรับ ทรัพยน น้ั เปนการวางตาม ๔.๑ การผิดนดั ของลูกหนี้ ท่ีวางไวลว งหนา คำสั่งศาลและไดบอกกลา ว เมื่อหนีถ้ งึ กำหนดชำระแลวและเจาหน้ไี ดใหค ำเตือนลกู หน้ีใหชำระหนีแ้ ลว ไมวา คำเตือน ตอ สำนกั งานวางทรพั ย เอาทรพั ยนั้นแลว คำสัง่ ศาลดงั กลา วให เปนลายลกั ษณอักษรหรือคำเตอื นดวยวาจา ลกู หนกี้ ย็ ังไมช ำระจะถือวา ลูกหนต้ี กเปนผูผิดนัดทันที สำนักงานวางทรัพย เพราะเจาหนี้นั้นไดเตือนแลวและโดยปกติลูกหนี้จะตองรับผิดในดอกเบี้ยอันเกิดจากการผิดนัดนั้น ดว ย ทราบแลว ถา หนไ้ี ดก ำหนดเวลาชำระหนไ้ี วต ามวนั แหง ปฏทิ นิ เชน ใหช ำระในวนั ท่ี ๑ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๖๐ สำหรับคาธรรมเนียมในการวางทรัพยนั้นกฎหมายใหตกเปนภาระของเจาหนี้เวนแตในกรณี และลูกหนี้มิไดชำระหนี้ตามกำหนดนั้น ลูกหนี้ผิดนัดทันทีโดยเจาหนี้ไมตองเตือนใหชำระหนี้เลย ถอนการวางทรัพยซึ่งลูกหนี้ตองรับผิดในคาใชจายหากตอมาเจาหนี้ไมไปรับเงินกูหรือทรัพยที่วางไวเพื่อ โดยการผิดนัดทันทีนี้นำไปใชในกรณีที่เจาหนี้ไดบอกกลาวลวงหนากอนการชำระหนี้ โดยกำหนด การชำระหน้ีตามท่ีตกลงกนั ภายในเวลา ๑๐ ป นบั แตไดรับการบอกกลา วจากลูกหน้ีแลว สทิ ธดิ ังกลาว เวลาตามวนั ปฏิทินชดั เจนดวย ตามมาตรา ๒๐๔ ยอ มระงับ นั่นคือเจาหน้จี ะไปรบั ทรัพยทว่ี างเกนิ ๑๐ ปดงั กลา วไมได แตไ มต ัดสทิ ธิลกู หนที้ ี่จะไปรบั ทรัพย ท่วี างไวคนื แมล กู หนนี้ ัน้ จะไดสละสทิ ธิการถอนทรัพยนนั้ กต็ าม ๔.๒ การผดิ นัดของเจา หน้ี หากลกู หนข้ี อชำระหนแ้ี ลว เจา หนีป้ ฏิเสธไมรบั ชำระหน้ี โดยปราศจากเหตตุ ามกฎหมาย โดยหลักเกณฑก ารวางทรพั ยข างตน นี้ สามารถนำไปปรับใชก ับกรณที บ่ี คุ คลผูชำระหนี้เงินกูไมทราบ ถึงสทิ ธหิ รอื ไมรูตวั เจาหน้ีไดแ นนอนโดยมใิ ชความผิดของตนดว ย ซ่งึ อาจเกิดขึ้นไดกรณที ี่เจา หนี้เสียชวี ติ แลว เจาหนจี้ ะตกเปนผูผดิ นดั ทนั ที เมอ่ื เจา หน้ีผดิ นัดโดยปกติเจาหนีจ้ ะไมอาจคดิ ดอกเบย้ี ผดิ นัดเอากบั ไมท ราบวาทายาทของเจาหน้คี อื ผูใ ด ลกู หนผ้ี ูกยู มื เงินได ตามมาตรา ๒๐๗
จัดวรรค -๒๖- - ๒๗ - ๔.๓ การไมชำระหนี้ใหตอ งตามความประสงคอันแทจริงแหงมูลหนี้ ๔.๔ ลกู หน้ีมอบใหต วั แทนไปชำระหน้ีแทน คือการไมชำระใหตรงตามทสี่ ัญญาระบุไวห รอื ชำระหนโ้ี ดยไมส จุ รติ ในประเดน็ นม้ี าตรา ๒๒๐ แหง ประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ย ไดก ำหนดหลกั เกณฑไ วว า หากลกู หนไ้ี ดม อบอำนาจใหต วั แทนไปชำระหน้ี เชน ไมชำระหน้เี งนิ กูใหเจาหน้ใี นสถานท่ที ีไ่ ดต กลงกันไว กฎหมายระบุวา หาก แทนหรอื ใชใ หบ คุ คลใดไปชำระหนแ้ี ทนลกู หนจ้ี ะตอ งรบั ผดิ ชอบในความผดิ เจาหนี้เสียหายเพราะการไมชำระหนี้ใหถูกตองตามความประสงคของเจาหนี้ ของตวั แทนหรอื คนทต่ี นใชใ หไ ปชำระหนน้ี น้ั เสมอื นกบั วา เปน ความผดิ ของ สามารถเรียกคาสนิ ไหมทดแทนจากลูกหนี้ได เชน คาใชจายจากการเดินทาง ตนเองเชน กรณี นาย ก. ลกู หนไ้ี ดไ ปกยู มื เงนิ จาก นาย ข. เจา หนี้ มารับชำระเงินจากลูกหน้ี นอกสถานทีท่ ไี่ ดตกลงไว เปน ตน จำนวน ๕๐,๐๐๐ บาท ตอมาเมื่อถึงกำหนดชำระเงิน นาย ก. ไดมอบหมายใหนาย ค. ไปชำระหนีใ้ หแ กนาย ข. โดยไดมอบเงนิ จำนวน ดังกลาวใหแกนาย ค. แตปรากฏวา นาย ค. มิไดไปชำระหนี้แทน แตนำเงินจำนวน ๕๐,๐๐๐ บาท ไปใชเสียเอง นาย ก. ลกู หนจ้ี ะตกเปน ผผู ดิ นดั ไมช ำระหนต้ี ามกำหนดระยะเวลาทต่ี กลงไวท นั ที โดยนาย ข. เจาหนี้ไมตองเตือนใหชำระหนี้ เนื่องจากเปนกรณีหน้ที ่ีมีกำหนดเวลา ชำระหนไี้ วแนนอนแลว นาย ก. ลูกหนี้ไมอาจยกขอตอสูเรื่องนาย ค. มาปฏิเสธการชำระหนี้พรอมดอกเบย้ี แกเจาหนไ้ี ด
- ๒๘ - - ๒๙ - ๔.๕ หนีเ้ งินทต่ี อ งมดี อกเบย้ี นน้ั จะคดิ ดอกเบีย้ ๔.๖ อตั ราดอกเบี้ยผิดนัดและคาเสยี หายอน่ื เม่อื ผดิ นดั ในเวลาทเี่ จา หนผ้ี ดิ นัดไมได โดยหลักแลวดอกเบี้ยมี ๒ ประเภท คือ ดอกเบี้ยจากเงินตนที่ตองจายตามปกติที่คูสัญญา โดยปกตขิ องหน้ีเงนิ ที่ตอ งคิดดอกเบี้ยกัน ตกลงกนั ซึ่งจะไดก ลาวไวในหัวขอถัดไป และดอกเบี้ยผดิ นัดเมอ่ื คูส ญั ญาฝา ยใดผิดนัด สำหรบั ในหนี้เงิน นั้น เมื่อลูกหนี้ผิดนัดลูกหนี้มีหนา ทีจ่ ะตองชำระ เชน เมื่อลูกหนี้ผิดนัด ลูกหนี้ยอมตองรับผิดในดอกเบี้ยผิดนัดดวย แตหากเจาหนี้ผิดนัด เจาหนีย้ อม ดอกเบ้ียผดิ นดั ใหแ ก เจา หนแี้ ละเจาหนีม้ สี ิทธิท่ีจะ ไมมสี ทิ ธิเรียกดอกเบ้ียจากลูกหนไ้ี ดด ังไดก ลาวไวกอ นหนาน้ีแลว โดยมีประเดน็ ทส่ี ำคญั เก่ียวกับดอกเบยี้ เรียกใหลกู หน้ชี ำระดอกเบย้ี ผิดนัดได ผิดนดั ไดแก (๑) อตั ราดอกเบย้ี ผิดนัดตามกฎหมาย แตป ระมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ๒๒๑ ไดก ำหนดวางหลักไววาหากเปน ตามประมวลกฎหมายแพง และพาณิชย มาตรา ๒๒๔ กรณีทเี่ จาหนผี้ ิดนดั เชน เจา หนไ้ี มยอมรับ ไดก ำหนดไวว า ในหนเ้ี งินนนั้ ใหคิดดอกเบี้ยในระหวางผิดนัดไดรอยละ ชำระหนี้ตามกำหนดเวลาที่ตกลงไวทำให เจ็ดกึ่ง หรือ ๗.๕ ตอป เวน แตเ จาหนี้มีสิทธิเรยี กดอกเบ้ยี ไดสงู กวา ลูกหนี้ไดรับความเสียหายทั้งที่ลูกหนี้ขอชำระ น้นั โดยอาศัยเหตุอื่นอนั ชอบดว ยกฎหมาย เชน หน้ีเงนิ กขู องสถาบัน หนี้โดยชอบและตรงตามวัตถุประสงคของ การเงินหรือธนาคารตางๆซึ่งมีกฎหมายกำหนดอัตราดอกเบี้ยไว สญั ญาทกุ ประการ โดยเฉพาะแลวหรอื มีสญั ญากำหนดอัตราดอกเบยี้ ไว อยางกรณีนี้เจาหนี้จะตกเปนผูผิดนัด (๒) ดอกเบ้ียซอนดอกเบ้ียผดิ นัด ทนั ที ผลของการทเี่ จาหนี้ผดิ นน้ั คอื เจา หนีน้ นั้ ตามประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ย มาตรา ๒๒๔ วรรคสอง ไมอาจคิดดอกเบี้ยเอาจากลูกหนี้ในชวงระยะ เวลาทเ่ี จา หนผ้ี ดิ นดั ได เนอ่ื งจากจะไมเ ปน ธรรม กำหนดหา มมิใหเ รียกดอกเบย้ี ซอนดอกเบ้ยี ได เชน เม่ือลูกหนีผ้ ดิ นดั กบั ลูกหนี้ กฎหมายจึงระบุไวช ดั เจนเพอ่ื ไมใ ห เกิดดอกเบีย้ ผิดนัดขน้ึ มา เจาหนี้จะเรียกดอกเบ้ียจากดอกเบย้ี ที่ผดิ นดั เจาหนี้เอาเปรียบลกู หน้ีนนั่ เอง ดงั กลา วอกี ไมไ ด (๓) คา เสียหายอื่นนอกจากดอกเบีย้ ผิดนัด กฎหมายเปดโอกาสใหเรยี กรอ งคา เสยี หายอ่นื นอกจากดอกเบ้ยี ตามปกติที่ตองชำระได แตต อ งพสิ จู นใ หศ าลทราบถงึ ความเสยี หายดงั กลา วดว ย โดยปกตจิ ำตอ งพสิ จู นถ งึ ความเสยี หายวา มอี ยจู รงิ และฝา ยลกู หนซ้ี ง่ึ ผดิ นดั จะตอ งสามารถคาดเหน็ ความเสยี หายนน้ั ดว ย ตวั อยา งเชน นางสมศรี ใหน างสาวสมทรงกูย ืมเงินจำนวน ๒๐,๐๐๐ บาท โดยนางสมศรีแจง วา เงนิ จำนวนดงั กลาวน้นั ตนกูนายสมศักด์มิ าอกี ทหี นงึ่ โดยนางสมศรีไดกำชบั ใหนางสาวสมทรงนำเงนิ กมู าชำระคืนภายใน วันที่ ๓๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ เนื่องจากจักตองนำเงินไปคืนนายสมศักดิ์ในวันดังกลาว นางสาวสมทรงตกลง และรบั เงนิ จากนางสมศรแี ลว ตอ มาเมอ่ื ถงึ กำหนดเวลาชำระหนน้ี างสาวสมทรง ผิดนัดไมมาชำระหนี้เปนเหตุใหนางสมศรีสามารถเรียกดอกเบี้ยผิดนัดจากนางสาวสมทรง ไดและนอกจากนั้นนางสาวสมทรงจะตองรับผิดในความเสียหายคือดอกเบี้ยที่ นางสมศรีจะตองชำระใหกับนายสมศักดิ์ดวย โดยกรณีดังกลาวถือเปนคาเสียหายอื่นตามที่ กฎหมายกำหนดไว
- ๓๐ - - ๓๑ - ๕. ดอกเบีย้ ๕.๒ ดอกเบี้ยในดอกเบี้ยที่คางชำระ สำหรับประเดน็ เรือ่ งดอกเบย้ี ในหวั ขอน้ี กฎหมายไดก ำหนดไวในประมวลกฎหมายแพง และพาณิชย ประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ย มาตรา ๖๕๕ กำหนดวา หา มเรยี กดอกเบี้ย มาตรา ๖๕๔ และมาตรา ๖๕๕ สว นโทษทางอาญาในกรณีฝา ฝนเรยี กเกบ็ ดอกเบยี้ เกนิ อัตรา มีกำหนดไว จากดอกเบ้ยี ทคี่ างชำระ แตกฎหมายกย็ ังเปดชอ งวา หากดอกเบ้ียนั้นคางชำระไมน อ ยกวา ตามพระราชบัญญตั ิหามเรยี กดอกเบี้ยเกินอตั รา พ.ศ. ๒๕๖๐ ดงั ปรากฏรายละเอยี ด ดังน้ี หนึ่งป คูสัญญากูยืมเงินสามารถตกลงกันใหเอาดอกเบี้ยนั้น ทบเขากับตนเงินไดหรือเรียกวา ดอกเบ้ียทบตน โดยเมอ่ื นำดอกเบ้ยี ดังกลาวทบกบั ตนเงินแลว เจา หนี้กม็ สี ทิ ธิคิดดอกเบย้ี ๕.๑ อัตราดอกเบย้ี ในจำนวนเงินที่ทบเขากันนั้นได โดยการคิดดอกเบี้ยทบตนดังกลาว จะตองมีการตกลงไวเปน ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยบ ญั ญตั ิเรื่องอตั ราดอกเบย้ี ไวใน มาตรา ๖๕๔ วาไมให หนังสือเทานั้นและหลักเกณฑคิดดอกเบี้ยทบตนดังกลาวไมอาจนำไปใชกับกรณีเปดบัญชีจาย เช็คหรือเรียกวาบัญชีเดินสะพัดไดเนื่องจากมีประเพณีการคาขายที่ตกลงกันไวตางหาก คดิ ดอกเบี้ยเกนิ รอ ยละสิบหาตอป โดยถา ในสญั ญาตกลงกำหนดดอกเบ้ียเกนิ กวานั้นกใ็ หลดลง มาเปนรอ ยละสิบหาตอ ป ๕.๓ โทษทางอาญาสำหรับผคู ิดดอกเบี้ยเกินอัตรา เมอ่ื เจาหนี้รายใดเรียกเก็บดอกเบ้ยี เกนิ กวา อัตรารอยละ ๑๕ ตอ ป อันเปนการ ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยดังกลาวเปนอัตราดอกเบี้ยสำหรับที่เจาหนี้ ซึ่งเปนบุคคลธรรมดาหรือ นติ บิ ุคคลซงึ่ มใิ ชส ถาบนั การเงนิ จะเรียกเก็บไดเ ทานนั้ เน่อื งจากเจาหน้ีซงึ่ เปนสถาบันการเงนิ จะได ฝา ฝน ตามประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ย มาตรา ๖๕๔ เจา หนี้ดงั กลาวจะมีความผิด รบั อนุญาตใหเรียกดอกเบ้ียสงู กวานัน้ ได หมายความวา หากทานกยู ืมเงินกบั สถาบันการเงินทขี่ ้ึน ทางอาญา ฐานเรยี กดอกเบย้ี เกนิ อตั ราทก่ี ฎหมายกำหนดไว ตามมาตรา ๔ แหง พระราชบญั ญตั ิ ทะเบียนเจาหนซ้ี ึง่ เปน สถาบันการเงนิ เชน ธนาคารตา งๆยอ มมสี ทิ ธเิ รยี กอตั ราดอกเบย้ี ไดส งู กวา หา มเรยี กดอกเบ้ียเกินอัตรา พ.ศ. ๒๕๖๐ ซง่ึ ตองระวางโทษจำคุกไมเกิน ๒ ป หรือปรับไมเกิน รอ ยละสบิ หา ตอ ปต ามทปี่ ระมวลกฎหมายแพง และพาณิชย กำหนดโดยกระทรวงการคลงั จะเปน ๒๐๐,๐๐๐ บาท หรอื ทัง้ จำทัง้ ปรับ นอกจากน้ันในกฎหมายฉบบั ดงั กลาวยงั ระบถุ ึงพฤติการณ ผูควบคุมอัตราดอกเบี้ยของสถาบันการเงินตา งๆใหเ ปน ไปในแนวทางเดยี วกัน อนื่ ที่มคี วามผิดฐานเรยี กดอกเบ้ียเกนิ อัตราท่ีกฎหมายกำหนดไวดว ย ซึง่ ไดแก ในกรณที ค่ี สู ญั ญามไิ ดร ะบอุ ตั ราดอกเบย้ี ไวใ นสญั ญากยู มื เงนิ ทง้ั ทค่ี สู ญั ญาตกลงกนั ดว ยวาจา วาจะตองเสยี ดอกเบ้ยี กฎหมายใหใชอ ตั ราดอกเบยี้ รอ ยละ เจด็ ครง่ึ ตอ ป ดังปรากฏตามประมวล กฎหมายแพงและพาณชิ ย มาตรา ๗ อาทิเชน นางสาวกนกวรรณ ไดขอกูยืมเงินจำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท จากนายกนกโดย นางสาวกนกวรรณ เสนอจะเสียดอกเบี้ยใหแกนายกนก นายกนก ตกลงจะใหก ูยมื เงนิ แตขอ เลอ่ื นนำเงินกูจำนวนดงั กลาวมามอบใหกับนางสาวกนกวรรณในสปั ดาหห นา ตอมาเม่อื ถึงกำหนด นัดบคุ คลท้ังสองไดจ ัดทำหนงั สือสัญญากยู มื เงินกันแตลืมระบุอัตราดอกเบี้ยตามที่ตกลงไวโดย นายกนกไดสงมอบเงินที่กูยืมใหนางสาวกนกวรรณเรยี บรอ ยแลว เมอ่ื ถึงกำหนดชำระเงินตน พรอมดอกเบี้ยคืนนายกนกไดทวงถามใหนางสาวกนกวรรณชำระหนี้เงินกูพรอมดอกเบี้ย รอยละ ๑๕ ตอป นางสาวกนกวรรณจะตอ งชำระหนพี้ รอมดอกเบี้ยในอตั ราดังกลาวหรอื ไม กรณตี ามตวั อยางนายกนกไมอ าจจะเรยี กรองอตั ราดอกเบีย้ ตามทต่ี กลงได เนื่องจากมิได ระบุไวในสัญญาใหชัดเจน แตยังคงเรียกดอกเบี้ยไดในอัตรารอยละ ๗.๕ ตอป
- ๓๒ - - ๓๓ - การกระทำใดๆ ท่ีมีลักษณะอำพรางการกูยืมเงินโดยมีลกั ษณะการเรยี กดอกเบย้ี เกนิ อตั รา ๑. ท่กี ฎหมายกำหนด ในกรณนี ีเ้ จาหนี้พยายามจะหลบเลยี่ งกฎหมาย โดยพยายามทำสัญญาประเภทอื่น แทนสญั ญากูยืมเงนิ เพื่อใหต นมีสิทธเิ รียกดอกเบย้ี เกินอตั ราท่ีกฎหมายกำหนด เชน ทำสญั ญา จำนำรถยนต เพื่อหลบเลี่ยงสัญญากูยืมเงินที่เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด เปนตน กฎหมายถือวาเปนความผดิ ฐานเรียกดอกเบ้ยี เกินอตั ราท่กี ฎหมายกำหนด ซ่ึงตอง รับโทษขา งตน เชน กัน เน่อื งจากเปนการกระทำท่มี ีลกั ษณะอำพรางการกูย ืมเงิน โดยมลี กั ษณะ การเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดและอาจผิดฐานประกอบกิจการ โรงรับจำนำโดยไมไ ดรบั อนุญาต ตามพระราชบญั ญัตโิ รงรับจำนำ พ.ศ. ๒๕๐๕ มาตรา ๘ อีกกระทงหนง่ึ ดวย การอำพรางการกยู ืมเงินโดยเรียกดอกเบ้ียเกินอัตราทก่ี ฎหมายกำหนด ๒. โดยระบุถอยคำเท็จเกี่ยวกับจำนวนเงินที่กูหรือเรื่องอื่นๆที่เปนเท็จในสัญญากูยืมเงิน เพอ่ื ปกปด การเรียกดอกเบีย้ เกนิ อตั รา กรณีนี้ก็มีความผิดตองรับโทษตามกฎหมายเชนกัน เปนตนวา ในสัญญากูยืมเงิน เจาหนี้ไดระบุในชองจำนวนเงินที่ขอกูเปนจำนวนเงินที่รวมเอาตนเงินกูและดอกเบี้ยเกิน อัตราทก่ี ฎหมายกำหนด รวมดวยกันเพื่อปกปดการเรียกดอกเบี้ยเกินอตั ราที่กฎหมายกำหนด ดังนั้นเมื่อบุคคลภายนอกที่อานสัญญากูยืมเงินดังกลาวก็จะหลงเชื่อวาตัวเลขจำนวนเงินที่ ขอกยู ืมตามสัญญา เปนจำนวนเงนิ ทม่ี กี ารกูยมื เงินกนั จรงิ ทัง้ ท่คี วามจริงแลวมกี ารกูยมื เงิน นอยกวา จำนวนเงินท่ีระบไุ ว รับเอาประโยชนอ ยา งอ่นื แทนดอกเบ้ีย ๓. ประโยชนท วี่ า อาจเปนสง่ิ ของหรอื เงนิ กไ็ ด กฎหมายกำหนดวาหากประโยชนด งั กลาว นน้ั สงู เกนิ สว นตามสมควรตามเงอ่ื นไขแหง การกยู มื เงนิ แลว เจา หนก้ี ม็ คี วามผดิ ตอ งรบั โทษตาม มาตราขางตนเชนกัน ทั้งนี้ หากตอมามีการโอนสิทธิเรียกรองของเจาหนี้ในการที่จะทวงให ลกู หนีช้ ำระหน้ดี งั กลาว ไปใหแกบ คุ คลภายนอกหรอื ทายาทหากบคุ คลภายนอกหรือทายาท ทราบดกี วา มกี ารเรยี กดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดหรอื มกี ารหลบเล่ียงการเรยี กดอกเบี้ย ในกรณีทั้งสามกรณีขางตนแลวและบุคคลภายนอกหรือทายาทนั้นไดใชสิทธิคือลงมือกระทำ การเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดและไดรับดอกเบี้ยดังกลาวแลวหรืออยูในขั้น พยายามที่จะใชสิทธิ เชน ทวงถามใหลูกหนี้ชำระดอกเบี้ยเกินอัตรากฎหมายกำหนด บุคคลภายนอกหรือทายาทซึ่งรับโอนสิทธิดังกลาวมาจากเจาหนี้ยอมตองรับผิดเชนเดียวกับ เจาหนี้ตามอตั ราโทษขา งตนดวย
- ๓๔ - - ๓๕ -
- ๓๖ - - ๓๗ - ตวั อยางเชน นางสมศรใี หนางนำ้ หนึ่งกยู ืมเงนิ จำนวน ๔๐๐,๐๐๐ บาท โดยทำสัญญากูยืมเงินและสงมอบเงินใหกับนางสมทรงลูกหนี้แลว โดยนางน้ำหนึ่งตกลงในสัญญาวาจะชำระหนี้เงินกูดังกลาวเปนรถยนตหนึ่งคัน ราคา ๖๐๐,๐๐๐ บาท ใหกับนางสมศรีเพื่อเลี่ยงดอกเบี้ยเกินอัตราที่ กฎหมายกำหนดตอมานางสมศรีถึงแกความตายกอนที่จะมีการชำระหนี้เปน รถยนตด งั กลา ว นางสาวสมอนงคบ ตุ รสาวของนางสมศรซี ง่ึ เปน ทายาทโดยธรรม ของนางสาวสมศรี จงึ ไดร บั โอนสิทธเิ รยี กรองในหน้สี นิ ดังกลาวมา โดยทราบ ขอตกลงดังกลาวระหวางนางน้ำหนึ่งกับนางสมศรีดี และทราบวามีการ หลบเลี่ยงการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด โดยตกลงรับเปน ทรัพยสินแทนเม่ือหน้ีถงึ กำหนดชำระนางสาวสมอนงคไดทวงถามใหน างน้ำหนง่ึ ชำระหน้ีดวยรถยนต นางสาวนำ้ หนง่ึ จงึ ยนิ ยอมชำระหนเ้ี ปน รถยนตจ ำนวน ๑ คนั ใหกบั นางสาวสมอนงคทายาทของเจา หนีไ้ ป ในกรณีตามตัวอยางถือวานางสาวสมอนงคนั้นไดกระทำความผิดฐาน เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดแลว เนื่องจากทราบวาเจาหนี้มี การหลบเลี่ยงดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด โดยยอมรับรถยนตแทน การชำระหนี้เงินกูดวยเงินตนพรอมดอกเบี้ย และกรณีนี้ทรัพยสินรถยนต มีราคาสูงเกินสวนกวาจำนวนเงินที่กูยืมไปจริงมากแมนางสาวสมอนงคจะ มิใชเ จา หน้ที ่ตี กลงกบั ลูกหนแี้ ตเ ปนผูรบั โอนสทิ ธเิ รียกรองดงั กลา วมา ท้งั ท่รี วู ามี การหลบเลี่ยงกฎหมายดังกลาวและนางสาวสมอนงคไดทวงถามลูกหนี้และ รับชำระหน้ีเปน รถยนตแลว นางสาวสมอนงคจึงตองรบั ผดิ ตามกฎหมาย นอกจากนั้น ตามพระราชบัญญัติหามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา ยังกำหนดใหศาลสามารถนำ วธิ กี ารเพื่อความปลอดภัย มาใชใ นกรณที ศ่ี าลจะพิพากษาใหร อการกำหนดโทษหรือรอการลงโทษจำคุก แกจำเลยซึ่งเปนเจาหนี้ไดดวย โดยวิธีการเพื่อความปลอดภัยดังกลาวไดแก การกักกัน การหามเขา เขตกำหนด การเรยี กประกนั ทณั ฑบ น การคมุ ตวั จำเลยไวใ นสถานพยาบาลและการหา มการประกอบอาชพี บางอยา ง อยา งใดอยา งหนง่ึ หรอื หลายอยา งกไ็ ด ซง่ึ แลว แตว า โจทกจ ะขอใหศ าลสง่ั อยา งไรแตใ นทางปฏบิ ตั ิ มักจะขอศาลใหเ รียกประกนั ทัณฑบ นหรือวางเงินไวตอ ศาลเปนหลักประกนั วา จะไมกระทำความผิดซ้ำอีก ภายในระยะเวลาไมเกินสองป โดยจำนวนเงินที่ใหจำเลยวางประกันไวไมเกินหา หมนื่ บาท
- ๓๘ - - ๓๙ - ๕.๔ ความผดิ ฐานอ่นื ท่เี ก่ียวของกบั การเรียกดอกเบีย้ เกินอัตรา เนื่องจากประกาศกระทรวงการคลังดังกลาว ขอ ๒ กำหนดใหการประกอบธุรกิจสินเชื่อสวน ในกรณีท่ีเจา หนใี้ หกูย มื เงนิ โดยเรียกดอกเบ้ยี เกนิ กวาอัตราทกี่ ฎหมาย บคุ คลภายใตการกำกบั เปนกิจการท่ีตองขออนุญาต โดยอยางไรถือวาเปนการประกอบธรุ กจิ สนิ เชือ่ สว นบคุ คลภายใตก ารกำกบั ประกาศกระทรวงการคลงั ฯ ขอ ๑ นยิ ามคำวา สนิ เชอ่ื สว นบคุ คล หมายความ กำหนดนั้น นอกจากเจาหนี้จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติหามเรียก วา การใหกูยืมเงิน การรับซื้อ ซื้อลด หรือรับชวงซื้อลดตั๋วเงิน หรือตราสารเปลี่ยนมืออื่นใด ดอกเบีย้ เกนิ อตั ราท่กี ฎหมายกำหนดดังกลาวแลว น้ัน เจา หนอี้ าจมีความผิด แกบุคคลธรรมดาโดยมิไดระบุวัตถุประสงคหรือมีวัตถุประสงค เพื่อใหไดมาซึ่งสินคาหรือบริการและ ฐานประกอบกิจการใหสินเชื่อโดยไมไดรับอนุญาตตามประกาศของคณะ ไมมีวตั ถปุ ระสงคเพ่ือนำไปใชใ นการประกอบธรุ กจิ ของตนเอง ปฏิวัติ ฉบับท่ี ๕๘ ลงวันที่ ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๕ ขอ ๕ ขอ ๗ ขอ ๘ ขอ ๑๔ และขอ ๑๖ และประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กจิ การท่ีตอ งขอ ประกาศฉบับดงั กลา วไดนยิ ามคำวา “สินเชอื่ สวนบุคคลภายใตก ารกำกบั ” หมายความวา อนุญาตตามขอ ๕ แหง ประกาศของคณะปฏวิ ัติ ฉบบั ท่ี ๕๘ (เรอ่ื ง สนิ เช่ือสว นบุคคลเฉพาะท่ไี มม ที รัพยห รอื ทรพั ยส นิ เปน หลักประกัน และเพือ่ ประโยชนแ หงประกาศ สนิ เช่ือสว นบคุ คลภายใตก ารกำกบั ) ฉบับลงวันท่ี ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๘ ฉบับนี้ใหรวมถึงสินเชื่อที่เกิดจากการใหเชาซื้อและการใหเชาแบบลีสซิ่งในสินคาที่ผูประกอบธุรกิจมิได ขอ ๑ ขอ ๒ และขอ ๓ อีกดว ย จำหนายเปน ทางการคา ปกติ ยกเวน ในสนิ คา ประเภทรถยนตและรถจกั รยานยนต แตไ มรวมถึงสินเชือ่ เพือ่ การศกึ ษาสนิ เชอ่ื เพื่อการเดินทางไปทำงานในตางประเทศ สินเชื่อเพื่อรักษาพยาบาล สินเชื่อเพื่อ สวัสดิการพนักงานที่หนวยงานตนสังกัดไดมีการทำสัญญากับผูประกอบธุรกิจและสินเชื่อตามที่ ธนาคารแหง ประเทศไทยประกาศกำหนด มขี อ สงั เกตท่ีสำคญั คือวา มสี นิ เช่อื จำนวน ๕ ประเภทซง่ึ ไมอ ยภู ายใตประกาศกระทรวง การคลังอนั จำตองขออนญุ าตเพอื่ ประกอบธุรกจิ ใหส นิ เชอื่ ดงั กลา ว ซึง่ ไดแ ก ๑) สนิ เชอ่ื เพอื่ การศึกษา ๒) สนิ เชือ่ เพอื่ การเดินทางไปทำงานในตา งประเทศ ๓) สนิ เชอื่ เพ่อื รกั ษาพยาบาล ๔) สินเชือ่ เพอ่ื สวสั ดกิ ารพนักงานที่หนวยงานตนสังกัดไดมีการทำสัญญากับผูประกอบธุรกิจ ๕) สินเชื่อตามที่ธนาคารแหงประเทศไทยประกาศกำหนด ขอสังเกตประการถัดมาคือวาสินเชื่อสวนบุคคลภายใตการกำกับอันจะตองขออนุญาตการ ประกอบกิจการตามประกาศกระทรวงการคลังนั้นจะตองเปนสินเชื่อสวนบุคคลเฉพาะที่ไมมีทรัพย หรือทรัพยสินเปน หลักประกันเทานัน้ ดงั นน้ั หากเปนการปลอยเงินกเู รียกดอกเบี้ยเกินอตั ราที่กฎหมาย กำหนดและเรียกทรัพยเปนหลักประกันเงินกู เชน รถยนตกรณีนี้จะไมผิดฐานประกอบกิจการให สินเชื่อโดยไมไดรับอนุญาตตามกฎหมายนี้คงผิดเพียงฐานเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด เทา นนั้
- ๔๐ - - ๔๑ - นอกจากนน้ั การประกอบธรุ กิจสินเชอื่ สว นบคุ คลภายใตก ารกำกับ จำนวน ๒ ประเภท ตอไปน้ี ๖. การทวงถามหน้ี ไมต องขออนุญาตประกอบกิจการตามประกาศกระทรวงการคลังฉบับนี้ ไดแ ก สำหรับเจตนารมณที่ประกาศใชพระราชบัญญัติฉบับนี้นั้นเกิดขึ้นเนื่องจากมุงประสงคจะ (๑) สถาบันการเงิน ปองกันและแกไขการทวงหนี้ที่ไมเหมาะสมตอลูกหนี้ เชน การใชถอยคําที่เปนการละเมิดสิทธิ (๒) ผูประกอบการที่ใหสินเชื่อสวนบุคคลแกผูบริโภคเพื่อชำระคาสินคา คาบริการ หรือคาอื่น สวนบุคคลอยางรุนแรง การคุกคาม ขูเข็ญ ใชกําลังประทุษราย หรือการทําใหเสียชื่อเสียง ใดอนั เปนธรุ กจิ ของตนเอง รวมถึงการใหขอมูลเท็จและการสรางความเดือดรอนรําคาญใหแกบุคคลอื่น โดยสาระสำคัญของ ท้งั นี้ ตามท่ีกำหนดไวในประกาศกระทรวงการคลงั เรอ่ื ง กจิ การทตี่ องขออนุญาตฯ ขอ ๒ วรรคสอง กฎหมายสรปุ เปน ขอ ปฏบิ ัตใิ นการทวงถามหน้ีได ดงั นี้ โดยสาเหตุท่ยี กเวน (๑) สถาบนั การเงิน เชน ธนาคารตางๆ เนื่องจากสถาบันการเงินจะตองอยูภ ายใต ๖.๑ บุคคลผูทจี่ ะประกอบธุรกิจทวงถามหน้ไี ด กฎระเบียบของธนาคารแหงประเทศไทยโดยเฉพาะอยูแลว สวนสาเหตุที่ยกเวน (๒) ผูประกอบการ ทใ่ี หส นิ เชอ่ื สวนบุคคลแกผ บู รโิ ภคเพ่ือชำระคา สินคา คาบรกิ ารหรอื คาอ่นื ใดอนั เปน ธุรกิจตนเองน้นั เห็นวา “ธรุ กจิ ทวงถามหนี้” ตามกฎหมายฉบับนี้ หมายถึง กรณีดังกลาวเปนธุรกิจขนาดเล็กดำเนินการดวยตนเองมิไดทำเปนนิติบุคคลในรูปแบบบริษัทจำกัด การรับจางทวงถามหนี้ ไมว า โดยตรงหรอื โดยออ มเปนปกติ หรือบริษัทมหาชนจำกัด อันตองยื่นขออนุญาตตามประกาศกระทรวงการคลังฯ ขอ ๓ ธุรกิจดังกลาว ธรุ ะแตไมรวมถึงการทวงถามหนขี้ องทนายความ ซงึ่ กระทำ จึงไดรับยกเวนไมจำตองขออนุญาต ยกตัวอยาง ธุรกิจประเภทนี้ ไดแก รานโชหวยที่ใหสินเชื่อหรือ แทนลกู ความของตน ซง่ึ ไมถ อื วา เปน ธรุ กจิ ทวงถามหน้ี แตเ ปน การ เครดิตแกล ูกคา ท่มี าซือ้ สนิ คา ภายในราน โดยใหลกู คาสามารถรับสนิ คาไปกอ น แลวคอ ยนำเงินมาชำระ ทำหนาทีใ่ นฐานะทนายความน้นั การทำเปน ปกตธิ ุระจะตอง คา สินคาใหแ กเจาของรานคา ภายหลัง อยางไรก็ตามจะปรากฏวาผิดฐานประกอบกิจการใหสินเช่อื โดยไมไ ด พิจารณาจากพฤติการณในการเขาไปทวงถามหนี้เปนรายๆ รับอนุญาตจะตองมีพฤติการณเพิ่มเติมวาเจาหนี้นั้นกระทำการใหสินเชื่อโดยทำเปนธุรกิจมีลูกหนี้ที่ ไปโดยสวนใหญหากเปนธุรกิจจะตองมีการติดตาม มาขอสินเชื่อจำนวนมากพอสมควรมีพฤติการณการทำบัญชีลูกหนี้หรือพฤติการณอื่นทำนองเดียวที่แสดง ทวงถามหนี้กับลูกหนี้จำนวนหลายรายและวิธีการในการติด ใหเหน็ วา มีเจตนาประกอบธรุ กจิ ใหสินเช่ืออีกดวย จึงจะผิดตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบบั ที่ ๕๘ และ ตามทวงถามหนี้จะตองมีระบบมีเอกสารจดบันทึก ประกาศกระทรวงการคลังขา งตน รายละเอียดการติดตามทวงถามหนี้แตละรายชัดเจน สว นคำวา “ลกู หน้”ี ตามบทนิยามของกฎหมาย ฉบับนี้หมายถึงลูกหนี้ซึ่งเปนบุคคลธรรมดาและหมายความ รวมถึง ผูคำ้ ประกนั ซ่งึ เปน บุคคลธรรมดาดว ย เนือ่ งจาก กฎหมายมงุ คมุ ครองความปลอดภยั ท้งั ดาน ชีวติ รา งกาย อนามยั เสรีภาพ ทรัพยส ินและช่อื เสียงของลูกหนซ้ี ่งึ เปน บุคคลธรรมดา
- ๔๒ - - ๔๓ - “หนี”้ ซ่ึงจะตองทวงถามตามกฎหมายฉบับนี้ หมายถึง หนซ้ี ึง่ เกิดจากการใหสินเช่อื อันหลากหลาย ๑. เจา หน้ี ของเจาหนี้ มิไดม ุง เฉพาะ การใหก ยู ืมเงนิ เทาน้ัน ดงั น้ัน สนิ เชื่อที่กอ ใหเ กิดหนีด้ งั กลาว อาจเกิดจากสินเช่อื เจาหน้มี ีไดท้ังบุคคลธรรมดาและนติ ิบคุ คล โดยเปนเจา หนซ้ี งึ่ เปน ผูใหสนิ เชือ่ แกลูกหน้ี โดยเจาหนี้ บัตรเครดติ การใชเ ชาซือ้ การใหเชาแบบลสิ ซงิ่ และสินเชือ่ รปู แบบอนื่ ท่มี ลี กั ษณะทำนองเดยี วกัน ทัง้ นี้ตาม บทนยิ ามคำวา “สนิ เชอ่ื ” ตามกฎหมาย โดยบคุ คลทไ่ี ดร บั ความคมุ ครองตามกฎหมายนค้ี อื ลกู หนห้ี รอื ผคู ำ้ ประกนั ผูใหสินเชื่อนั้น หมายถึง บุคคลซึ่งใหสินเชื่อเปนทางการคาปกติหรือบุคคลซึ่งรับซื้อหรือรับโอนสินเชื่อ ซงึ่ เปน บุคคลธรรมดาผรู บั บริการสินเชอ่ื ดังกลา วเทาน้ัน ตอไปทุกทอด โดยตามกฎหมาย ไดนิยามคำวา “ผูใหสินเชื่อ” ดังกลาวไวเพื่อใหเห็นความ แตกตา งระหวา ง การใหก ยู มื เงนิ เพอ่ื ชว ยเหลอื กนั เปน ครง้ั คราวในระหวา งญาตมิ ติ ร เพอ่ื นฝงู โดยมไิ ดเ ปน การ อยา งไรกต็ ามสำหรบั บคุ คลทท่ี วงถามหนี้และจะตอ งอยูภายใตบ งั คบั ของกฎหมายฉบบั นี้ มไี ดจ ำนวน กระทำในทางการคา ปกติ กบั การใหกูยมื เงินท่ีทำเปน ธุรกิจ ๘ ประเภท ไดแก ๒. ผปู ระกอบธรุ กจิ ตามกฎหมายวา ดว ยการคมุ ครองผบู รโิ ภค ผปู ระกอบธรุ กจิ ตามกฎหมายวา ดว ยการคมุ ครองผบู รโิ ภค ยกตวั อยา งเชน ผปู ระกอบธรุ กจิ ธรุ กจิ ขายตรงและตลาดแบบตรง ๓. ผจู ดั ใหมกี ารเลนการพนนั เปนปกตธิ ุระตามกฎหมายวาดวยการพนนั ผูจัดใหมีการเลนการพนันดังกลาว เชน เจาของบอนไก หรือเจาของ สนามมวย เปนตน ๔. เจา หนีอ้ นื่ ซึ่งมีสิทธิรับชำระหนี้อันเกิดจาการกระทำที่เปนทางการคาปกติหรือเปน ปกติธุระของเจาหนี้ เจา หน้อี น่ื ดงั กลา ว เชน เจาของรา นขายของชำ เจา ของหอพัก เจา ของโรงแรม เจา ของรา นอาหาร เปน ตน ท้ังน้ี มขี อ สังเกตวาไมวา หนตี้ ามขอ ๑ ขอ ๔ จะชอบดว ยกฎหมายหรอื ไมก็ตาม ก็ตอ งอยภู ายใตบงั คับของกฎหมายฉบับนี้ ๕. ผรู บั มอบอำนาจจากเจาหน้ี กรณีนี้เพื่อปองกันมิใหเกิดความสงสัยวาเปนผูรับมอบอำนาจจริงหรือไมจึงจำ ตอ งมีหนงั สอื มอบอำนาจเปนลายลักษณอกั ษรแสดงไว แตท ั้งนี้กฎหมายมไิ ดกำหนดไว ชดั เจนมากนัก
- ๔๔ - - ๔๕ - ๖. ผรู บั มอบอำนาจชวงในการทวงถามหน้ี ๖.๒ ขอ ปฏบิ ัติในการทวงถามหนี้ ผูรับมอบอำนาจชวง คือ ผูซึ่งไดรับมอบอำนาจมาจากผูรับมอบอำนาจ กฎหมายฉบับนมี้ ขี อปฏบิ ัตหิ ลายประการ ไดแ ก ๑. ผูป ระกอบธรุ กจิ ทวงถามหนี้ หรือรบั จา งทวงถามหนไี้ มว า โดยตรงหรือโดยออมเปนปกติ มาอกี ตอ หนึง่ โดยกรณีนจี้ ะมผี รู บั มอบอำนาจชวงไดน น้ั เจาหนี้ผมู อี ำนาจที่แทจ ริงใน การติดตามทวงถามหนี้จะตองอนุญาตใหผูรับมอบอำนาจของตนสามารถมอบ ธรุ ะจะตองจดทะเบยี นการประกอบธุรกจิ ทวงถามหน้ีตอนายทะเบียน (มาตรา ๕ และมาตรา ๖) อำนาจชวงในการติดตามทวงถามหนี้สินดังกลาวดวยผูรับมอบอำนาจชวงจึงจะมี สำหรบั บุคคลใดประสงคจะประกอบธรุ กิจทวงถามหน้ี การจะประกอบธรุ กจิ ดังกลาวนน้ั อำนาจสมบูรณต ามกฎหมาย กฎหมายกำหนดใหตองจดทะเบียนการประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ตอนายทะเบียนตามหลักเกณฑ ๗. ผูประกอบธรุ กิจทวงถามหนี้ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง และเมอ่ื จดทะเบยี นแลว จะตอ งประกอบธรุ กจิ ทวงถามหน้ี ผปู ระกอบธรุ กจิ ทวงถามหนใ้ี นขอ หน้ี คอื เปน ผปู ระกอบธรุ กจิ เฉพาะทางในการรบั จา ง ตามหลักเกณฑทคี่ ณะกรรมการกำกบั การทวงถามหนป้ี ระกาศกำหนด ทวงถามหน้ี ซ่ึงสว นมากหากจะใหเกดิ ความนาเชือ่ ถอื มักจะจัดตง้ั ในรปู ของนิตบิ คุ คล หากผปู ระกอบธรุ กจิ ทวงถามหนเ้ี ปน ทนายความหรอื สาํ นกั งานทนายความใหค ณะกรรมการ ๘. ผรู บั มอบอำนาจจากผูประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ สภาทนายความทําหนาที่นายทะเบียนรับจดทะเบียนหากฝาฝนกฎหมายไมไปจดทะเบียน ใหถูกตอง จะตองรับโทษจำคุกไมเกินหนึ่งป หรือปรับไมเกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อนึง่ มีขอ สงั เกตเพ่มิ เตมิ วา ตาม มาตรา ๓๙ (๑) ผทู วงถามหนท้ี ง้ั ๘ ประเภทน้ี เทา นน้ั ทจ่ี ะอยภู ายใตบ งั คบั ของพระราชบญั ญตั ิ การทวงถามหนี้ พ.ศ. ๒๕๕๘ (๒) ไมวาหนี้ที่ทวงถามตามขอ ๑ ถึง ขอ ๔ ขางตน จะเปนหนี้ที่ชอบดว ยกฎหมาย หรือไมก ต็ าม ก็ตองทวงถามใหถกู ตอ งตามกฎหมายนี้
- ๔๖ - - ๔๗ - สำทหั้งรนับีเ้ผกูณขอฑอก ารยปัดรจะกะอตบอธงรุ มกจิีหทลวักงถฐาามนหแนส้ี ดงซวึ่งมาีสตานรเะปสนำคผัญูมโดีสยวไดนก ไำดหเนสดียเกในี่ยวทกี่ดบั ินทนี่ขยิ อามอคาำยวัดา (๓) แจงขอมูลหรือเผยแพรเอกสารใดๆ ที่จําเปนเกี่ยวกับ “ผอูปันรอะากจอจบะธฟุรกอิจงทบวังถคาับมใหหนมี้”ีกาวราหจมดาทยะคเวบาีมยถนึงหผรูรืับอจเปางลที่ยวนงถแาปมลหงนที้ทาี่ไดงทจดะทเบะเียบนียนจกึงาจระปสรั่ะงกรอับบอธาุรยกัิดจ หนา ทข่ี องผทู วงถามหนต้ี อ ลกู หนห้ี รอื บคุ คล ซง่ึ ลกู หนไ้ี ดร ะบไุ วเ พอ่ื การ ทวงถามหน้แี ลวตามกฎหมายวาดวยการทวงถามหน้ี ทวงถามหนี้ รวมทั้งแจงสิทธิในการรองเรียนคาธรรมเนียมหรือคาใช จายใดๆ ในการทวงถามหนี้ เบี้ยปรับกรณีผิดนัดชําระหนี้แกล กู หนี้ (๔) การตรวจสอบภาระผูกพนั ทีต่ นรบั จา งทวงถามหนอ้ี ยา งเทาเทยี มกนั หมายถึง การผกู พันของทีด่ นิ กบั สทิ ธขิ องบคุ คลหรือทรัพยสนิ อืน่ ๆ โดยที่ดินอาจมีภาระผกู พันไดใ น หลายลักนษอณกะจาเปกนนต้นั นปวราะกาศดังกลา วไดกำหนดไวใ นขอ ๔ วา เมอ่ื ไดจ ดทะเบยี นการประกอบธุรกิจทวงถาม (๔) ใหคาํ แนะนาํ โดยไมบ ิดเบอื นขอเท็จจรงิ หรอื ปกปด ขอมลู หนี้แลว ใหผูประกอบธุรกิจทวงถามหนี้จัดใหมีปายชื่อติดไวที่หนาสถานทปี่ ระกอบธรุ กิจทวงถามหนี้ โดย อนั เปนสาระสําคัญซ่งึ อาจกอใหเ กิดความเขาใจผดิ ได เปดเผยและมองเห๔็น.๑ไ.ดกงาารยจปำนายอชงื่อที่ใชในกหามรปายรถะงึกอบธุรกิจกทาวรงตถราวมจหสนอบี้ใหถงึเขภียารนะขผอูกคพวนั าดมวเยปกนาอรักษรไทย แตจะมีอจักำษนรอตงาทง่ีดปินรแะปเลทงศนกนั้ ํากับโดไวยทปกายตหิผูร บัือจใตำนชอื่องอมักกั ษเปรนไทสยถาดบวนัยกา็ไรดเโงดนิ ยทปีใ่ หาเยจชา ื่ขออตงอทงด่ีมินีคกํายู วืมาเ“งสินํานักงาน (๕) จัดทาํ บญั ชรี ายช่อื พรอมตาํ แหนงของพนกั งานของผูประกอบธุรกจิ ทวงถามหนี้ ประกอบธเชุรกน จิ ทวกงาถราตมรหวจนส”้ี อปบรถะงึกปอรบะกเภับทชอ่ืขทองไี่ ดกจารดจทำะนเบองียน ลำดับของการจำนอง เปนตน เพราะ ใหเปนปจจุบันและจัดใหมีระบบงานที่แสดงใหเห็นไดวามีการแบงหนาที่และความรับผิดชอบ (ก๑า)รไจมำพ นอองงหทรือี่ดมินุงมหีผมลายวใาหเคมลื่อา ผยูนกบัำทพรี่ดะินปไรปมจาำภนิไธอยงหไรมอื ยพอรมะชนำารมะขหองนพี้ใรหะผรูารชับินจีหำรนอื อองงทคีร่ดชั ินทายาท ของแตละคนภายในสํานักงานและสงใหนายทะเบยี นภายในสิบหา วนั นบั แตวันจดทะเบยี นกรณี (แ๒ป)ลไงมดซ งั ำ้ กหลราอื วพอ งกผบั ูรชบั อ่ืจสำาํนนอกั งงมาสี นิทอธน่ื ิบทังไ่ี คดบัจ ดจทำนะอเบงยีดนว ไยวกแ าลรว นเวำนทแดี่ ตินจ แะปไดลรงบันคัน้ วไาปมขยานิยยทออมดจตาลกาผดปู ระกอบ มีการเปลี่ยนแปลงใหสงรายการที่มีการเปลี่ยนแปลงใหนายทะเบียนภายในเจ็ดวัน ธุรกจิ ทวงนถำาเมงหนิ นท้นีไ่ ด้ันมาหกั ชำระหนข้ี องตนเองกอน นับแตวนั ทม่ี ีการเปล่ียนแปลง (๓) ไมม ีคําหรือความหมายหยาบคาย (๖) จัดทําบัตรประจําตัวพนักงานทวงถามหนี้โดยตองระบุชื่อ ชื่อสกุล หมายเลข ๔.๒.ภาระจำยอม หมายถึง ภาระของอสงั หาริมทรพั ยท ี่เจา ของอสังหาริมทรัพย ประจาํ ตวั ประชาชน รปู ถา ย ลายมอื ชอ่ื สาํ นกั งานทส่ี งั กดั และใหม ตี ดิ ตวั อยใู นขณะกระทาํ การ จำตองยอมรับเพื่อประโยชนแกการใชทรัพยของเจาของทรัพยอื่นซึ่งอาจจะเปนการใช ทวงถามหนี้ เพ่อื ใชแ สดงตอพนักงานเจา หนาท่ี ลูกหน้หี รือบคุ คลซงึ่ ลกู หนไี้ ดระบไุ ว เพื่อการ สงั หารมิ ทรพั ย หรอื อสังหาริมทรพั ยกไ็ ด เชน การยอมเปดทางรถผา น หรอื การเปด ทาง ทวงถามหนี้ หรือบคุ คลตามมาตรา ๘ วรรคสอง (๒) แหง พระราชบัญญตั ิการทวงถามหน้ี แเลดะนิ ทเพสี่ ื่อำเคขญั า สในทู ปรัพระยกน า้นั ศขอ ๕ กำหนดไววา ผูประกอบธุรกจิ ทวงถามหนี้ ตอ งปฏบิ ัตติ ามหลักเกณฑ พ.ศ. ๒๕๕๘ ดงั ตอไปนี้ หเแนเผอรพลูปสาียรื่อะสรังกือปตะหนวทรกัง้าาใะอจอำร“โย((ภบิมใย๑๒ภบูคหธาทช))านรุือรนรเรหปกคะจัพขยนรจิวจหอทายะทาี้ทำนงรขกนมวยี่ผอัพี้ทออซงั้นอูสปยถบี่่อืจงตงัมร”าธสะอหะอจมรุตัทใากสงึหกงนยรวอรัเิจงนมิขงปับบสทห้ไีถณทมนจุธภวาาระุรรองทามพัรทกติถารโริยมิจจาี่ทะดัแพอมทรบที่ดยลืน่ับยหวินาผระทงนสงทูมปัพถอวิีภ้ที่ไคีรางยดยาธะวมหยปาิาตชกหในใงรมนอนตนอซ้ใีะรกนบขิดีึ้โไ่งงอรยหปอธกหงบณชกุรนทดรนคนกําีนท้ีะวเอึ่หงิจจงที้วทีย่ บทถนาทงัด่ีบนรกาีด่ไตวินะกมกมภขงัดทมรถนาถาอรดัะม่ีงึรั้รานงอกเรยีภกมใจทะำนทาชฎหะืวหอรรกหตนสังะนนพั าภมอี้ผิไดทตยรดาางกูชใอธยเยจเชพปำรกใวิบักรนัอตยีนาาะตากหยำดหรไองนวอวลใดนชาองยมักาี้ทเสกใจยก“ปี่ถหิทาาขสานึงรเรธาอปกงทหจมิเงเนําหรวนยกกหปยิงนี้ททรีถนธ่รยือรีร่ถาระดวัพมทมรึงโชกยมยกหสรําช”แัำัพนิบทรนหละีอ้ยธทแะ(นแยิส๓์ทรกกลดา ิน๑ำาัทงพวแรขใเ)รลคยหปจอพั รวดัรเสงยงเจะกตทิคอนเาานดรนื่ารขนดันน็นนทอั้ั้ันทน้ั้นนีด่ งีี่ (๓๑) การจดทะเบยี นภาระจำยอม. http://www.dol.go.th/lo/smt/handbook/december/news6.html สบื คน เม่อื ๑๒ ตลุ าคม ๒๕๖๐.
- ๔๘ - - ๔๙ - (๗) ในการกาํ หนดคา ธรรมเนียมหรอื คาใชจ า ยใดๆ ในการทวงถามหน้ี ใหผูประกอบธรุ กิจทวงถามหนี้ ๒. ทวงถามหนใี้ หถกู บุคคล กําหนดใหสอดคลองและไมเกินอัตราที่คณะกรรมการกํากับการทวงถามหนี้ประกาศกําหนด ในการทวงหนี้กับลูกหนี้นั้น กฎหมายกำหนดให และใหปด ประกาศไวโ ดยเปดเผย ณ สํานกั งานของผูประกอบธุรกิจทวงถามหน้ี ทวงถามไปยังบุคคลที่ถูกตองดวย บุคคลที่จะถูกทวงถามคือ (๘) อบรมและกํากบั ดูแลใหพ นักงานทวงถามหนปี้ ฏิบตั ติ ามกฎหมาย วาดวยการทวงถามหนแี้ ละหลัก ลกู หนห้ี รอื ผคู ำ้ ประกนั เหตทุ ก่ี ฎหมายตอ งกำหนดดงั กลา วสบื เนอ่ื ง เกณฑท อ่ี อกตามกฎหมายดังกลาว มาจากกอ นหนา นีม้ ีหลายกรณีท่ไี ปทวงถามกับบุคคลอ่ืน เชน ญาติหรือมิตรสหายของลูกหนี้ เปนตน เปนเหตุใหลูกหนี้ (๙) ดําเนินการอื่นใดตามทค่ี ณะกรรมการกาํ กบั การทวงถามหนีป้ ระกาศกาํ หนด เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูถูกเกลียดชังจากบุคคลภายนอกเปน นอกจากนป้ี ระกาศฯขอ ๖ ระบใุ ห ผปู ระกอบธุรกิจทวงถามหน้ีตอ งเกบ็ รกั ษาความลับของลูกหนี้ อันมาก กฎหมายจึงกำหนดไวในมาตรา ๘ วรรคแรกวา และไมแจงหรือเปดเผยขอมูลเกี่ยวกับความเปนหนี้ของลูกหนี้ใหแกบุคคลอื่นที่ไมเกี่ยวของกับการทวงถามหนี้ หามมิใหผูทวงถามหนี้ติดตอกับบคุ คลอืน่ ซงึ่ มใิ ชลกู หน้ีหรอื และในขอ ๗ ระบุใหผูประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ตองเก็บสําเนาหลักฐานการรับเงินจากลูกหนี้หรือบุคคล บุคคลที่ลูกหนี้ระบุไวเพื่อการทวงถามหนี้ หากฝาฝนจะตอง ซึ่งลกู หนไ้ี ดร ะบไุ วเพอ่ื การทวงถามหนี้ไว เพื่อใหพ นกั งานเจา หนาที่สามารถตรวจสอบได และในขอ ๘ รับโทษจำคกุ ไมเ กนิ หนงึ่ ป หรอื ปรบั ไมเกินหนง่ึ แสนบาท หรอื ผูประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ตองจัดระบบชองทางการรับเรื่องรองเรียนใหลูกหนี้หรือบุคคลซึ่งลูกหนี้ไดระบุไว ท้งั จำทง้ั ปรบั ตามมาตรา ๓๙ เพอื่ การทวงถามหน้อี ยา งนอ ยสองชองทาง
- ๕๐ - - ๕๑ - การติดตอกับบุคคลอื่นนอกจากบุคคลตามมาตรา ๘ วรรคแรกนั้น ใหผูทวงถามหนี้ติดตอได (๓) หา มใชข อความ เครื่องหมาย สญั ลกั ษณ หรอื ชอื่ ทางธรุ กจิ ของผูทวงถามหน้บี นซองจดหมาย แตการติดตอตองเปนไป เพื่อจุดประสงคในการสอบถามหรือยืนยันขอมูลเกี่ยวกับสถานที่ติดตอลูกหนี้หรือ ในหนงั สอื หรือในส่อื อ่ืนใด ทใี่ ชในการติดตอสอบถาม ซงึ่ ทำใหเ ขาใจไดว า เปนการตดิ ตอเพือ่ ทวงถามหนี้ บุคคลซึ่งลูกหนี้ระบุไว เพื่อการทวงถามหนี้เทานั้น เชน ขอมูลเกี่ยวกับสถานที่ติดตอลูกหนี้ ตามนิยามใน ของลกู หนี้ มาตรา ๓ ไดแ ก ทอ่ี ยูอาศยั สถานท่ีทำงาน หมายเลขโทรศัพท หมายเลขโทรสาร อเี มล สื่ออเิ ล็กทรอนกิ ส สอื่ เทคโนโลยสี ารสนเทศประเภทอนื่ ท่สี ามารถตดิ ตอกบั ลกู หน้ไี ด ทั้งน้ีก็เพือ่ ปกปองชือ่ เสยี งของลกู หนนี้ ัน่ เอง โดยหากผทู วงถามหน้ฝี า ฝน จะตอ งรับโทษทางอาญา ตามมาตรา ๓๙ ซงึ่ เมื่อประกาศใชก ฎหมายฉบบั นี้ ผูท วงถามหนบี้ างรายอาจตอ งเปล่ยี นถอ ยคำเครอื่ งหมาย นอกจากนนั้ ในการตดิ ตอ กับบคุ คลอน่ื ขางตน มีขอ ปฏิบตั ใิ นการติดตอ ๔ ประการ คอื สัญลักษณ หรือชื่อทางธุรกิจของตน เพื่อมิใหสื่อในทางที่วิญูชนทั่วไปทราบวาทำธุรกิจติดตามทวงถามหนี้ (๑) แจงใหท ราบชอ่ื ตัว ช่ือสกลุ เพอ่ื ใหถ อ ยคำ เครอ่ื งหมาย สญั ลกั ษณห รอื ชอ่ื ทางธรุ กจิ ดงั กลา วสามารถใชบ นซองจดหมายตดิ ตามทวงถามหน้ี ไดน น่ั เอง แตท ง้ั นก้ี ารเปลย่ี นแปลงชอ่ื ใหมจ ำตอ งเสยี คา ธรรมเนยี มอยา งไรกต็ าม การตคี วามวา อยา งไรคอื ถอ ยคำ กรณีนี้ผูทวงถามหนี้จะแจงเฉพาะชื่อตัวหรือชื่อเลนไมได และตองแสดงเจตนาดวยวาตองการ เครื่องหมาย สัญลักษณ หรือชื่อทางธุรกิจของผูทวงถามหนี้ ซึ่งทำใหเขาใจไดวาเปนการติดตอ สอบถามขอ มลู เกีย่ วกบั สถานท่ีติดตอ ลูกหน้ีดังกลาว โดยหากฝา ฝน ไมแ จง มโี ทษปรบั ทางปกครอง ไมเกิน เพื่อทวงถามหนนี้ นั้ จะตองใชเกณฑข องวิญูชนทั่วไปวา มีความเห็นอยา งไร หนึง่ แสนบาท ตามมาตรา ๓๔ (๒) หา มแจง ถงึ ความเปน หนข้ี องลกู หนใ้ี นการตดิ ตอ (๔) หา มตดิ ตอ หรอื แสดงตนทท่ี ำใหเ ขา ใจผดิ กบั บคุ คลอน่ื เพอ่ื ปอ งกนั มใิ หม กี ารลอ ลวงใหบ คุ คลอน่ื นน้ั ใหข อ มลู เกย่ี วกบั สถานทต่ี ดิ ตอ ลกู หนห้ี รอื บุคคล เวน แตค นอน่ื นน้ั เปน สามี ภรยิ า บพุ การี หรอื ผสู บื สนั ดาน ซึ่งลูกหนี้ระบุไวเพื่อการทวงถามหนี้โดยไมสมัครใจ โดยหากฝาฝนจะมีโทษปรับทางปกครอง ของลกู หน้ี ซง่ึ กรณนี ไ้ี มร วมสามี ภรยิ า บพุ การี หรอื ผสู บื สนั ดาน ปรบั ไมเ กนิ หนง่ึ แสน ตามมาตรา ๓๔ ของบคุ คลซง่ึ ลกู หนร้ี ะบไุ วเ พอ่ื การทวงถามหน้ี นอกจากนน้ั จะตอ งปรากฏวา บคุ คลอน่ื ดงั กลา ว ไดส อบถาม ถึงสาเหตุของการติดตอจากผูทวงถามหนี้ดวย ผูทวงถามหนี้จึง สามารถแจงขอมูลเกี่ยวกับหนี้ไดและแจงไดเทาที่จำเปนและ ตามความเหมาะสม โดยหากมกี ารฝา ฝน กฎหมายในสว นนม้ี โี ทษทาง อาญาตามมาตรา ๓๙ เชน กนั
- ๕๒ - - ๕๓ - ๓. สำหรบั การทวงหน้ใี หถูกสถานท่ีนน้ั ไดกำหนดไว ในมาตรา ๙ (๑) โดยกฎหมาย กำหนดใหผูทวงถามหนี้ตองติดตอตามที่อยูของลูกหนี้หรือที่อยูของบุคคลที่ลูกหนี้ ทวงถาม ระบไุ วเ พอ่ื การทวงถามหน้ี ซง่ึ ลกู หนไ้ี ดแ จง ไวแ ลว เทา นน้ั โดยอาจเดนิ ทางไปยงั สถานทด่ี งั กลา ว หนใ้ี หถ ูก ดว ยตนเอง หรอื ตดิ ตอ ทางไปรษณยี ก ไ็ ด ทง้ั นห้ี ากฝา ฝน ตอ งระวางโทษปรบั ทางปกครองไมเ กนิ สถานท่ี หน่งึ แสน ตามมาตรา ๓๔ เวลาที่กฎหมายกำหนดใหทวงหนี้ไดน ัน้ ปรากฏตาม มาตรา ๙ (๒) โดยกฎหมาย ๔. กรณีหากผูทวงถามหนี้จะขอรับชำระหนี้นั้น จะตองแสดงหลักฐานการรับมอบ ๗. กำหนดวาหากติดตอโดยบุคคล โทรศัพท สื่ออิเล็กทรอนิกส หรือสื่อเทคโนโลยี อำนาจใหรับชำระหนี้จากเจาหนี้ตอลูกหนี้หรือบุคคลซึ่งลูกหนี้ไดระบุไวเพื่อการทวงถามหนี้ สารสนเทศประเภทอน่ื สามารถทวงหนไี้ ดตั้งแตจนั ทร - ศกุ ร ในเวลา ๐๘.๐๐ - ๒๐.๐๐ น. ทวงถาม ดวย และเมือ่ ลกู หนีไ้ ดช ำระหนี้แกผ ูทวงถามหน้แี ลว ใหผทู วงถามหน้อี อกหลกั ฐานการชำระ กรณผี ูทวง สำหรับวันหยดุ ราชการสามารถติดตามหนีไ้ ดต ้งั แตเ วลา ๐๘.๐๐-๑๘.๐๐ น. หากไมส ามารถ หน้ีใหถูก หนแ้ี กล กู หนด้ี ว ย หากลกู หนไ้ี ดช ำระหนแ้ี กผ ทู วงถามหนโ้ี ดยสจุ รติ ใหถ อื วา เปน การชำระหน้ี ถามหนี้ขอ ติดตอตามเวลาดังกลาวไดหรือชวงเวลาดังกลาวไมเหมาะสมใหติดตอไดในชวงเวลาอื่น แกเ จา หนโ้ี ดยชอบทง้ั น้ี ไมว า ผทู วงถามหนจ้ี ะไดร บั มอบอำนาจใหร บั ชำระหนจ้ี ากเจา หนห้ี รอื ไมก ต็ าม รบั ชำระหน้ี ตามหลักเกณฑ วิธกี าร และเงื่อนไข ทีค่ ณะกรรมการประกาศกำหนด โดยหากฝา ฝน เวลา มโี ทษปรบั ทางปกครองไมเกินหนึง่ แสน ตามมาตรา ๓๔ ๕. การติดตามทวงหน้ีสนิ นนั้ ในชวงเวลาตามขอ ๔ .น้ันจะตองทวงไมถ ห่ี รือบอ ยจนเกิน ตวั อยางเชน นายสมศักดอิ์ า งกับนางสาวสมศรี ลูกหน้ี วาตนเองไดร ับมอบอำนาจจาก นางสมหญิง ไปดว ย โดยกฎหมายกำหนดเพยี งวา ใหท วงโดยมีจำนวนคร้ังทเ่ี หมาะสม ซ่งึ กฎหมายให เจาหน้ี ใหไปทวงหนเ้ี งนิ กูจำนวน ๒๐,๐๐๐ บาท จากนางสาวสมศรี โดยนายสมศักด์ิ ไดแสดงหลกั ฐาน ระยะหา ง อำนาจคณะกรรมการกำกับการทวงถามหนี้ตามกฎหมายฉบับนี้ สามารถออกประกาศ การรบั มอบอำนาจปลอมใหน างสาวสมศรดี ู นางสาวสมศรเี ชอ่ื โดยสจุ รติ วา นายสมศกั ดม์ิ อี ำนาจทวงหนแ้ี ละรบั ในการทวง กำหนดจำนวนคร้ังทเ่ี หมาะสมดงั กลาวเพือ่ ใหถอื ปฏบิ ัติได ตามมาตรา ๘(๓) หากปรากฏวามี ชำระหนจ้ี รงิ จงึ ไดช ำระหนใ้ี หไ ปโดยนายสมศกั ดอ์ิ อกใบเสรจ็ รบั เงนิ ให โดยนายสมศกั ดไ์ิ มไ ดน ำเงนิ ไปใหเ จา หน้ี ถามหน้ีตอง การฝาฝน มาตราดงั กลาว มโี ทษปรบั ทางปกครองไมเกนิ หน่ึงแสนบาท ตามมาตรา ๓๔ แตอ ยา งใดโดยนำไปใชส ว นตวั ตอ มาปรากฏวา นางสมหญงิ เจา หนท้ี ราบเรอ่ื ง จงึ ไดแ จง ใหน างสาวสมศรชี ำระหนี้ เหมาะสม ใหต นใหม ในกรณที ่เี ปน ผูรบั มอบอำนาจจากเจา หน้ี ผรู ับมอบอำนาจชว งในการทวงถามหนี้ ๖. กรณีนี้นางสาวสมศรียอมตอสูเจาหนี้ไดวาตนไดชำระหนี้โดยสุจริตแลว การชำระหนี้นั้นชอบหนี้ ผปู ระกอบธรุ กจิ ทวงถามหน้ี หรือผรู ับมอบอำนาจจากผูประกอบธุรกจิ ทวงถามหน้ี กฎหมาย จงึ ระงบั ไป กำหนดไวในมาตรา ๙ (๔) วา ใหผูทวงถามหนแี้ จงใหทราบถงึ ชือ่ ตวั และช่อื สกุล หรอื ชือ่ เปน ผูรบั มอบ หนวยงานของตนและของเจาหนี้ และจำนวนหนี้ และถาผูรับมอบอำนาจดังกลาว อำนาจให ทัง้ นต้ี ามทกี่ ฎหมายบญั ญัตไิ วใ น มาตรา ๑๐ ซง่ึ หากฝาฝนจะตอ งระวางโทษปรบั ทางปกครองไมเกิน ทวงถามหนี้ตอหนา ใหแสดงหลกั ฐานการมอบอำนาจใหทวงถามหน้ดี วย หากฝา ฝนมีโทษ ทวงหน้ีตอง หน่ึงแสนบาท ตามมาตรา ๓๔ ปรบั ทางปกครองไมเ กินหนง่ึ แสนบาท ตามมาตรา ๓๔ แสดงหลักฐาน การมอบ อำนาจ
- ๕๔ - - ๕๕ - ๘. ขอ หามผทู วงถามหนี้กระทำการทวงถามหน้ีในลกั ษณะ ตามมาตรา ๑๑ (๒) การใชว าจาหรอื ภาษาที่เปนการดหู มิ่นลกู หนห้ี รือผอู ืน่ ขอหา มผูท วงถามหนมี้ ดี งั ตอไปนี้ โดยปกติการกลาววาจาหรือภาษาที่เปนการดูหมิ่นผูใด ประมวลกฎหมายอาญามีความผิดฐาน ดูหมิ่นผูอื่นซึ่งหนาหรือดวยการโฆษณาอยูแลว ตามมาตรา ๓๙๓ แตอัตราโทษไมสูงมากเทาความผิด (๑) ขม ขู การใชค วามรุนแรง หรอื การกระทำอนื่ ใด ท่ีทำใหเ กดิ ความเสียหายแกรางกาย ตามมาตราน้ี ซึ่งเปนกรณกี ารใชว าจาหรอื ภาษาท่ีเปน การดหู มน่ิ ลูกหนห้ี รือผูอ ื่น คำกลา วที่วาเปน การดหู มน่ิ ช่ือเสียง หรือทรัพยสนิ ของลูกหนี้หรือผูอ น่ื เชน คำดาดว ยถอ ยคำหยาบคายตางๆ เปน ท่นี าสังเกตวาการดูหมน่ิ ผอู ่ืนตามมาตราน้ี คำวาผูอน่ื หมายถึง ผใู ด ซึ่งกฎหมายมไิ ดกำหนดไวช ดั เจน จึงตองตีความวาบคุ คลทวั่ ไป โดยบุคคลดงั กลา วอาจจะมีเก่ียวพนั หากฝา ฝน กรณมี าตรานีม้ ีโทษจำคุกไมเกนิ หา ป ปรับไมเกินหาแสนบาท หรอื ทั้งจำทั้งปรบั กับลกู หนหี้ รอื ไมกไ็ ด ท้งั นหี้ ากฝาฝน บทมาตรานี้ มีความผดิ ตอ งระวางโทษจำคกุ ไมเ กินหนึง่ ปหรือปรับ ตามมาตรา ๔๑ มีขอสังเกตวา การกระทำความผิดตามมาตรานี้ เปนกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ไมเกนิ หนึง่ แสนหรือทั้งจำท้งั ปรับ ตามมาตรา ๓๙ โดยกฎหมายบทอน่ื ทต่ี อ งรบั โทษ เชน ประมวลกฎหมายอาญา ในหมวดความผิดเกย่ี วกบั ชวี ติ รา งกาย อนามยั เสรภี าพชื่อเสยี งและทรพั ย เปนตน ตวั อยางเชน นางสมศรีเจา หน้ีไมพ อใจทนี่ างสาวสมทรงลกู หน้ีไมชำระหนี้ท่กี ยู มื ตนมา ทง้ั ท่ี ทวงถามไปหลายรอบแลว จงึ ตดั สนิ ใจสง ขอ ความทางเฟสบคุ ประกาศใหสังคมส่อื ออนไลนท ราบวา นางสาว สมทรงนนั้ ติดหนีต้ นแลว ไมย อมคนื พรอมกบั ประกาศวา หากนางสาวสมทรงยังไมค นื เงนิ ตนภายในวนั ทก่ี ำหนด จะเดนิ ทางไปตบนางสาวสมทรงถงึ ท่บี า นใหฟนรว ง ดังนั้นกรณีตามตัวอยาง นางสมศรีจึงมีความผิดตามมาตรานี้และผิดฐานขมขืนใจผูอื่นให กระทำการใด หรือจำยอมตอสิ่งใด โดยทำใหกลัววาจะเกิดอันตรายตอรางกายของผูถูกขมขืนใจนั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๐๙ และมคี วามผดิ ตามมาตรา ๓๙๒ ในความผิดฐานทำใหผ อู น่ื เกดิ ความกลัวหรือความตกใจ โดยการขูเขญ็ และหากพสิ ูจนไดว าเจา หน้จี งใจใหลูกหนีเ้ สอ่ื มเสยี ช่อื เสียง โดยมใิ ช เพอ่ื ปอ งกนั สวนไดเสยี ของตนโดยชอบเจาหนี้จะผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา เพราะเปนการใสความ ลูกหนี้ตอบุคคลที่สามดวยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒๖ และมาตรา ๓๒๘ อีกดวย
- ๕๖ - - ๕๗ - (๓) การแจง หรือเปดเผยเกย่ี วกับความเปนหนีข้ องลกู หน้ใี หแกผ ูอื่นทไี่ มเกีย่ วขอ งกับ (๔) การติดตอ ลกู หนี้โดยไปรษณยี บัตร เอกสารเปดผนึก โทรสาร หรอื ส่งิ อ่นื ใดที่สอื่ ใหท ราบวาเปน การ การทวงถามหน้ี ทวงถามหน้อี ยา งชดั เจน กฎหมายไดหามมิใหผูทวงถามหนี้แจงหรือเปดเผยเรื่องหนี้ของลูกหนี้ใหผูอื่นที่ กฎหมายหามมิใหผูทวงถามหนี้นั้นทำการติดตอลูกหนี้ โดยไปรษณียบัตร ไมเกี่ยวของทราบ ทั้งนี้ เพื่อปกปองชื่อเสียงของลูกหนี้ อยางไรก็ตามมีขอยกเวน เอกสารเปด ผนกึ โทรสาร หรือสง่ิ อ่นื ใดทส่ี ือ่ ใหท ราบวาเปนการทวงถามหนอ้ี ยา งชัดเจน ตามกฎหมายที่ผูทวงถามหนี้นั้นสามารถแจงหรือเปดเผยเกี่ยวกับหนี้ของลูกหนี้ใหทราบ ยกตวั อยา งสง่ิ ทีอ่ าจสอ่ื ใหท ราบวา เปน การทวงถามหน้ีอยา งชดั เจน เชน การทวงถาม ได คอื บคุ คลตามที่กำหนดไวใ นมาตรา ๘ วรรคสอง ซงึ่ ไดแก สามี ภรยิ า บุพการี หน้ที างเฟสบคุ ดงั กลา วมาขางตน หรอื ผูส บื สนั ดานของลกู หนี้ ถา บคุ คลดังกลาวไดส อบถามถึงสาเหตุของการติดตอ กรณีดงั กลาวมขี อ ยกเวน คือ ในกรณกี ารบอกกลาวบังคับจำนองดว ยวิธีการ โดยหากฝาฝน มาตราน้ี กฎหมายกำหนดโทษไวตามมาตรา ๓๙ เชน เดียวกับบท ประกาศหนงั สอื พมิ พซ ง่ึ เจา หนไ้ี มส ามารถตดิ ตอ ลกู หนโ้ี ดยวธิ กี ารอน่ื หรอื กรณอี น่ื ใดตามท่ี ท่ีกลา วมากอ นหนา ดงั น้ัน หากปรับใชก บั กรณีตามตัวอยาง ตามขอ (๑) นางสมศรี คณะกรรมการประกาศกำหนด อยา งนเ้ี หน็ ไดช ดั วา กรณกี ารปด ประกาศบงั คบั จำนองดงั กลา ว เจา หนไ้ี มพ อใจทน่ี างสาวสมทรงลกู หนไ้ี มช ำระหนท้ี ก่ี ยู มื ตนมา ทง้ั ทท่ี วงถามไปหลายรอบ เปน การสอ่ื ใหบ คุ คลทว่ั ไปทราบวา เปน การทวงถามหนอ้ี ยา งชดั เจน แตก ฎหมายยกเวน แลว จงึ ตดั สนิ ใจสง ขอ ความทางเฟสบคุ ประกาศใหส งั คมสอ่ื ออนไลนท ราบวา นางสาวสมทรง ไมเ ปนความผิดไว นน้ั ตดิ หนต้ี นแลว ไมย อมคนื พรอ มกบั ประกาศวา หากนางสาวสมทรงยงั ไมค นื เงนิ ตนภายใน (๕) การใชข อ ความ เคร่ืองหมาย สัญลกั ษณ หรือช่อื ทางธรุ กิจบนซองจดหมายในการตดิ ตอลกู หน้ี วันทีก่ ำหนดจะเดนิ ทางไปตบนางสาวสมทรงถึงท่บี านใหฟนรวงนัน้ นางสมศรีจะตอง ที่ทำใหเขา ใจไดว า เปน การติดตอเพอื่ การทวงถามหนี้ รบั ผดิ ตามมาตรานี้ดวย เนื่องจากเปน กรณีทีเ่ จา หนแี้ จงหรอื เปด เผยเกี่ยวกับความเปน หน้ีของลูกหน้ใี หแกผ อู นื่ ท่ไี มเ ก่ยี วของและไดร ับยกเวนตามขอ กฎหมาย ทราบถงึ หนน้ี ้ัน ในอนมุ าตรานก้ี เ็ ชน เดยี วกนั กบั อนมุ าตราอน่ื ทก่ี ำหนดไว เพอ่ื ประสงคจ ะปอ งกนั ทำใหล ูกหนี้ไดรับความเสยี หาย ชื่อเสียงของลูกหนี้ แตกรณีนี้มีขอยกเวน คือ ถาชื่อทางธุรกิจของผูทวงถามหนี้นั้น ไมไดสื่อใหทราบไดวาเปนผูประกอบธุรกิจทวงถามหนี้แมจะใชชื่อดังกลาวพิมพ บนซองจดหมาย กไ็ มเ ปนความผดิ ตามกฎหมาย ยกตัวอยา งเชน บรษิ ทั ทวงถามหนี้แหงหนึง่ ใชช ื่อทางธุรกจิ วา บรษิ ัทหรรษา พาเจริญ จำกดั พมิ พลงในซองจดหมายสงถงึ ลูกหนีเ้ พอ่ื ทวงถามหน้ี อยา งนไี้ มเ ปน ความผิดเนื่องจากชื่อไมไดสื่อใหทราบวาจดหมายดังกลาวมาจากบริษัททวงถามหนี้แต อยางใดทั้งนี้อัตราโทษหากฝาฝนอนุมาตรานี้เชนเดียวกับอนุมาตราอื่นดังกลาวมาขางตน
- ๕๘ - - ๕๙ - นอกจากนน้ั ยงั มขี อ ยกเวน ไมเ ปน ความผดิ ๙. ขอหา มผูทวงถามหนก้ี ระทำการทวงถามหนีใ้ นลกั ษณะที่เปนเทจ็ หรือ ตามอนุมาตรานี้อีกกรณีหนึ่ง คือ หากเปนการ ทำใหเ กดิ ความเขาใจผดิ ตามมาตรา ๑๒ ทวงถามหน้เี ปน หนงั สอื เพอ่ื จะใชสทิ ธิฟองคดตี อ ศาลแลว แมชื่อทางธุรกิจของผูทวงถามหนี้ที่ (๑) การแสดงหรอื การใชขอความ เครื่องหมาย สัญลกั ษณ หรือเครื่องแบบที่ทำให ปรากฎบนซองจดหมายสงถงึ ลูกหนี้ จะสอ่ื ไปใน เขาใจวาเปนการกระทำของศาล เจาหนาที่ของรัฐ หรือหนวยงานของรัฐ กรณีนี้อาจ ทางที่ทำใหผูอื่นเขาใจวาเปนการติดตามทวงถาม ยกตัวอยา งได เชน การที่บรษิ ทั ทวงถามหนแี้ หงหนึ่ง นำตราสัญลักษณของสำนักงาน หนี้ก็ไมเปนความผิดตามอนุมาตรานี้เนื่องจาก ศาลยุตธิ รรมมาพมิ พใ นหนงั สือทวงถามหน้ี สง ถงึ ลูกหนี้ จนทำใหล ูกหนี้เขาใจผดิ วา ศาลเปน กฎหมายยกเวนไวโดยเฉพาะ ดังปรากฏตาม ผูท ำจดหมายทวงถามหนด้ี ังกลาวขึ้น ดงั นบ้ี รษิ ทั ดังกลาวมคี วามผิดตอ งรับโทษจำคกุ ไมเกนิ มาตรา ๑๑ (๖) หาปห รอื ปรบั ไมเกินหาแสนบาท หรือทัง้ จำท้ังปรบั ตามมาตรา ๔๑ (๖) การทวงถามหนี้ที่ไมเ หมาะสมในลักษณะอื่นตามท่ี (๒) การแสดงหรือมีขอความที่ทำใหเชื่อวาการทวงถามหนี้เปนการกระทำโดย คณะกรรมการประกาศกำหนด ทนายความสำนักงานทนายความ หรอื สำนกั งานกฎหมาย กรณีนีก้ ฎหมายกำหนดเปดกวางใหอำนาจคณะกรรมการ สำหรบั ความผดิ ตามอนมุ าตราน้ี มอี ตั ราโทษจำคกุ ไมเ กนิ สามปห รอื ปรบั ไมเ กนิ กำกับการทวงถามหนี้ กำหนดกรณีอื่นทไี่ มเหมาะสมในการทวง สามแสนบาท หรอื ท้ังจำทงั้ ปรบั ตามมาตรา ๔๐ ถามหนี้ โดยใหประกาศกำหนดใหทราบทั่วกันโดยหากตอมามี การประกาศกรณอี ่นื ดงั อนุมาตรานี้แลว มีผูใดฝาฝนก็จะตอง ยกตวั อยางเชน นาง ส. เจาหน้ีได มีหนงั สอื ทวงถามหนีจ้ าก นาง ก. ลูกหนี้ รับโทษปรับทางปกครองไมเ กนิ หน่ึงแสนบาท ตามมาตรา ๓๔ โดยในหนังสือดังกลาวมีการพิมพตราสัญลักษณตราชั่งแบบสำนักงานกฎหมาย และเนื้อหาการทวงถามหนี้ ก็มีการแจงใหลูกหนี้ทราบวา เปนการทวงถามหนี้ อยา งไรก็ตามการทวงถามหนี้ท่ไี มเหมาะสมตามประกาศ โดยสำนกั งานกฎหมาย หากไมช ำระหนภ้ี ายในกำหนด ทางสำนกั งานกฎหมายจะดำเนนิ คดี นี้ ไมอาจใชบังคับกับการทวงถามหนี้เปนหนังสือเพื่อจะใชสิทธิ ขน้ั เดด็ ขาดทง้ั ทไ่ี มเ ปน ความจรงิ แตป ระการใด เปน เหตใุ หล กู หนเ้ี กดิ ความกลวั และทกุ ขใ จ ฟองคดีตอศาล เนื่องจากไดรับยกเวน ไมเ ปน ความผดิ เปน อยา งมาก กรณดี งั กลา วถือวา ผูทวงถามหนีด้ งั กลาวมีความผดิ ตามอนมุ าตรานแ้ี ลว
- ๖๐ - - ๖๑ - (๓) การแสดงหรือมีขอความที่ทำใหเชื่อวาจะถูกดำเนินคดี หรือจะถูกยึดหรืออายัดทรัพย ๑๐ . หา มผูทวงถามหนีก้ ระทำการทวงถามหนี้ในลักษณะทีไ่ มเปน ธรรม หรือเงินเดือน ตามมาตรา ๑๓ ดงั ตอไปน้ี สำหรับความผิดในอนุมาตรานี้มีอัตราโทษทางอาญา คือ จำคุกไมเกิน สามป หรือปรับ ๑. การเรียกเก็บคาธรรมเนียมหรือคาใชจายใดๆเกินกวาอัตราที่คณะกรรมการ ไมเ กินสามแสนบาท หรอื ทง้ั จำทงั้ ปรบั ดังปรากฏตามมาตรา ๔๐ ประกาศกำหนด ยกตัวอยางเชน บริษัท ส. จำกัด ซึ่งเปนบริษัทรับมอบอำนาจชวงมาทวงถามหนี้ ในปจจบุ นั นี้ มเี พียงประกาศคณะกรรมการฯเรื่องกาํ หนดหลกั เกณฑการประกอบ ไดมีหนังสือทวงถามหนี้จากนาง ก. ลูกหนี้ โดยไดสงหนังสือทวงถามหนี้ดวยซองที่ไม ธรุ กิจทวงถามหน้ี ฉบบั ลงวันที่ ๑๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๙ ขอ ๕ (๗) ไดก ำหนดไววา ปรากฏวามาจากบริษทั ทวงถามหน้ี แตเน้อื หาในหนังสอื ดังกลา ว มกี ารอา งวา หาก นาง ก. ในการกําหนดคาธรรมเนียมหรือคาใชจายใดๆ ในการทวงถามหนี้ใหผูประกอบธุรกิจ ลูกหนี้ไมชำระหนี้ บริษัทจะดำเนินคดีทางศาลอยางเด็ดขาด และแจงวากรณีนี้บริษัทมีสิทธิ ทวงถามหนี้กําหนดใหสอดคลองและไมเกินอัตราที่คณะกรรมการกํากับการทวงถามหนี้ จะยดึ ทรพั ยสินและยดึ เงนิ เดือนของ นาง ก. ลกู หนีไ้ ด และจะดำเนินการทันทีภายใน ๑๐ ประกาศกําหนด และใหป ด ประกาศไวเ ปดเผย ณ สาํ นักงานของผปู ระกอบธุรกจิ ทวงถามหนี้ วันหากลูกหนี้ไมชำระหนี้ตามกำหนด ทั้งที่ความจริงแลว บริษัท ส. จำกัด ไมอาจดำเนินการ แตคณะกรรมการกำกับการทวงถามหนี้ยังมิไดประกาศกำหนดอัตราคาธรรมเนียมหรือคา ดังกลาวได เพียงแตตองการขมขูลูกหนี้ใหกลัวเทานั้น ปรากฏวาหลังจากไดอา นหนงั สือฉบบั ใชจายกลางตามมาตรานี้ดังนั้นดูเหมือนจะผลักภาระใหลูกหนี้ที่จะตองตรวจสอบเรื่อง ดังกลาว นาง ก. ลกู หน้ีเกดิ ความกลัวและทกุ ขใจเปนอยางมากจนฆา ตัวตาย ประเดน็ คา ธรรมเนยี มหรือคาใชจ ายใดๆ เกีย่ วกบั การทวงถามหนี้เองแตเ น่อื งจากในประกาศ ของคณะกรรมการฯฉบับดังกลาว ขอที่ ๔ (๓) กำหนดใหผูประกอบกิจการทวงถามหนี้ ดงั น้ี บรษิ ทั ส.มคี วามผดิ ตามอนมุ าตรานแ้ี ลว แมล กู หนจ้ี ะไมเ ชอ่ื หรอื เกดิ ความกลวั กต็ าม จะตองแจงขอมูลหรือเผยแพรเอกสารใดๆ ที่จําเปนเกี่ยวกับหนาที่ของผูทวงถามหนี้ ตอ ลูกหนี้ หรอื บคุ คลซ่งึ ลูกหนีไ้ ดร ะบไุ วเพอ่ื การทวงถามหนี้ รวมทัง้ แจง สทิ ธใิ นการรองเรียน (๔) การติดตอหรือการแสดงตนใหเชื่อวาผูทวงถามหนี้ดำเนินการใหแกบริษัทขอมูลเครดิต คาธรรมเนียม หรือคาใชจายใดๆ ในการทวงถามหนี้ เบี้ยปรับกรณีผิดนัดชําระหนี้แก หรือรับจางบริษัทขอมูลเครดิต ลูกหนท้ี ่ีตนรบั จางทวงถามหนีอ้ ยา งเทา เทยี มกัน และใน (๔) กำหนดใหผ ปู ระกอบธรุ กจิ ทวงถามหนี้จะตองใหคําแนะนําโดยไมบิดเบือนขอเท็จจริงหรือปกปดขอมูลอันเปนสาระ กรณีนี้กฎหมายกำหนดอัตราโทษตามกฎหมายคือจำคุกไมเกินสามป หรือปรับไมเกิน สําคัญซงึ่ อาจกอ ใหเกดิ ความเขา ใจผิดแกล กู หนีห้ รือผคู ำ้ ประกนั ดว ย สามแสนบาท หรือทงั้ จำทงั้ ปรบั ทงั้ นี้ตาม มาตรา ๔๐ หากฝาฝนผูทวงถามหนี้จะมีความผิดตองรับโทษปรับทางปกครองไมเกินหนึ่ง ตัวอยางเชน บริษัท ส. จำกัด ซึ่งเปนบริษัทรับจางทวงถามหนี้ ไดมอบใหพนักงาน แสนบาท ตามมาตรา ๓๔ ของบริษัททวงถามหนี้ กับ นาง ก. ลูกหนี้ ผานทางโทรศัพท โดยในระหวางพูดคุย ทวงถามเรื่องหนี้นั้น พนักงานคนดังกลาวไดแอบอางวาบริษัท ส. จำกัด ดำเนินการทวงถาม หน้ีใหก ับบรษิ ทั ขอมลู เครดติ หากลกู หน้ีไมชำระหน้ี ลกู หน้ีจะถูกข้ึนบญั ชีดำไวในบรษิ ัทขอ มูล เครดติ เปน เหตใุ หลกู หนเ้ี สยี เครดิต ไมอาจไปกูเงินหรอื ทำธรุ กรรมดา นการเงินกบั ที่อืน่ ไดอ ีก ดงั นี้ แมลูกหนจ้ี ะไมเ ชื่อถอ ยคำดงั กลา วก็เปน ความผิดตามมาตรานแ้ี ลว
- ๖๒ - - ๖๓ - ๒. การเสนอหรือจูงใจใหลูกหนี้ออกเช็คทั้งที่รูอยูวาลูกหนี้อยูในฐานะที่ไมสามารถ ๑๑. หามเจา หนา ที่ของรฐั กระทำการตามมาตรา ๑๔ ไดแก ชำระหน้ไี ด (๑) ประกอบธรุ กิจทวงถามหน้ี สำหรบั ประเดน็ ในขอนี้จะเห็นวา หากฝาฝน จะเปน การเอาเปรยี บลกู หนเ้ี ปน อยาง ยิ่งเนื่องจาก หากลูกหนี้ยอมออกเช็คโดยรูอยูวาไมมีเงินจะชำระหนี้สินนั้น ลูกหนี้จะมี เจา หนาทขี่ องรฐั ตามกฎหมาย หมายความถึง ขา ราชการ พนกั งาน ลูกจาง หรือผูป ฏบิ ัตงิ านอืน่ ความผดิ ทางอาญาตามพระราชบญั ญตั วิ าดว ยความผิดอันเกิดจากการใชเ ช็ค พ.ศ. ๒๕๓๔ ในกระทรวง ทบวง กรม สว นราชการที่เรยี กชือ่ อยางอื่นและมีฐานะเปนกรม ราชการสว นภมู ิภาค ราชการ มาตรา ๔ โดยกฎหมายไมป ระสงคจะใหน ำคดีอาญามาบีบบงั คบั ใหล กู หนช้ี ำระหนแ้ี กเ จา หนี้ สว นทอ งถิ่น หรอื หนว ยงานอนื่ ของรฐั นน่ั เอง โดยหากผใู ดฝา ฝน มาตรานจ้ี กั ตอ งไดร บั โทษจำคกุ ไมเ กนิ หนง่ึ ปห รอื ปรบั ไมเ กนิ หนง่ึ แสน หรือท้ังจำทง้ั ปรบั ท้งั นีต้ ามมาตรา ๓๙ หากเจา หนี้ทข่ี องรัฐกระทำการประกอบธุรกิจทวงถามหนีใ้ หก บั บุคคลใด เจา หนีท้ ่ขี องรฐั คนดงั กลาว ตัวอยาง นางสมศรีเจาหน้ี ไดต ิดตามทวงถามหนี้กูยืมเงนิ จาก นาง สมทรง ลูกหน้ี มคี วามผิดตองรับโทษจำคุกไมเ กนิ หาป หรือปรับไมเ กนิ หา แสนบาท หรอื ทง้ั จำท้งั ปรับ ตามมาตรา ๔๒ ท้ังน้ี เปน เวลานานมากแลว แตน างสมทรงกไ็ มม ที ที า วา จะยนิ ยอมชำระหนท้ี ค่ี า งชำระแตป ระการใด เพื่อเปนการปองปรามมิใหเจาหนาที่ของรัฐใชตำแหนงหนาที่ของตนในการแสวงหาผลประโยชนทำธุรกิจ อีกทั้งทราบวานางสมทรงมีเจาหนี้หลายราย จึงเกรงวาตนจะไมไดรับชำระหนี้ดังกลาว รับจางทวงถามหนี้ใหกับเจาหนี้ และกรณีดังกลาวหากปลอยใหเจาหนาที่ของรัฐกระทำไดยอมไมเปนธรรม เมื่อนางสมศรีทราบวานางสมทรงนั้นไดเปดบัญชีเดินสะพัด เพื่อใชเช็คไวกับธนาคาร ก. และสรางความหวาดกลัวใหก ับลูกหน้ีเปน อยา งมาก นางสมศรีจึงไดวางแผนใหนางสมทรงยอมออกเช็คประกันหนี้ใหกับตน จึงไดพูดโนมนาว นางสมทรงลกู หน้ีวา หากนางสมทรงยอมออกเชค็ ดังกลาวมาชำระหนีใ้ หต นไดนัน้ ตนจะลด ดอกเบีย้ ผิดนัดใหแ กน างสมทรง นางสมทรงเหน็ วาเจาหนจี้ ะลดดอกเบี้ยผดิ นดั ใหจำนวนมาก จงึ ยอมออกเชค็ สง่ั จา ยใหน างสมศรเี จาหน้ไี ป โดยความผิดสำเรจ็ ตั้งแตผทู วงถามหนีพ้ ูดเสนอหรอื จูงใจขางตน แลว ไมจ ำตองรอให ลูกหนี้ออกเช็คเสียกอนเนื่องจากกฎหมายมิไดบังคับใหตองมีองคประกอบเกี่ยวกับผลลัพธ ของการกระทำของผูทวงถามหนี้
- ๖๔ - - ๖๕ - (๒) ทวงถามหน้หี รือสนบั สนุนการทวงถามหนี้ซง่ึ มิใชของตน เวนแตใ นกรณที ่เี ปน หน้ีของสามี ๑๒. การรองเรียนและรับเร่ืองรองเรียนเกย่ี วกับการทวงถามหนี้ ภรยิ า บพุ การี หรือผสู บื สันดานของตน หรือในกรณที เ่ี จาหนาทีข่ องรัฐนนั้ ซึ่งสาระสำคัญในประกาศฉบับนี้มีการกำหนดวา ผูที่จะรองเรียนเกี่ยวกับการทวงถามหนี้ไดนั้น มีอำนาจกระทำไดตามกฎหมาย ไดแ ก ลกู หนห้ี รอื บคุ คลอน่ื ทไ่ี ดร บั การปฏบิ ตั จิ ากผทู วงถามหนท้ี เ่ี ปน การขดั ตอ กฎหมายวา ดว ยการทวงถามหน้ี ที่ไดยื่นเรื่องรองเรียนตามประกาศนี้ และ ในขอ ๓ ของประกาศฉบับนี้กำหนดไววา ในกรณีที่มี กรณนี ก้ี ฎหมายมเี จตนารมณท จ่ี ะปอ งปรามมใิ หเ จา หนา ทข่ี องรฐั เขา ไปเกย่ี วขอ งกบั การทวงถามหน้ี ปญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามประกาศนี้ ใหคณะกรรมการกํากับการทวงถามหนี้ เปนผูมีอํานาจใน ในลกั ษณะท่ีไมถ งึ ขนาดทำเปนธุรกจิ รวมถึงหา มสนบั สนุนการทวงถามหนี้ ไมว ากรณีใดๆอีกดว ย การวินิจฉัยชขี้ าด โดยผรู อ งเรยี น สามารถยืน่ เรอื่ งรองเรียน ตอคณะกรรมการกาํ กับการทวงถามหนป้ี ระจาํ จังหวดั ยกตวั อยางเชน นางสาวกรกนก เจาหน้ี ใหน างสาว น้ำหนึ่ง กูยมื เงินจำนวน ๓๐,๐๐๐ บาท โดย หรอื คณะกรรมการ กาํ กบั การทวงถามหนป้ี ระจาํ กรงุ เทพมหานคร แลว แตก รณโี ดยอาจยน่ื คำรอ ง ณ สถานท่ี ใหนางสาวน้ำหน่ึงผอนชำระเงินตน พรอมดอกเบี้ย จำนวน ๑๐ งวด เม่อื หนถี้ งึ กำหนดชำระในงวดที่ ๑๐ ดังตอไปนไี้ ด (๑) ท่ที ําการปกครองจังหวัด (๒) ที่วา การอาํ เภอ (๓) สํานักการสอบสวนและนิติการ นางสาวน้ำหน่งึ ผดิ นดั ไมชำระหน้ี นางสาวกรกนก เจาหนีพ้ ยายามทวงถามหลายคร้งั แต นางสาวน้ำหนึง่ ยก กรมการปกครอง (๔) กองบญั ชาการตาํ รวจนครบาล (๕) สถานตี าํ รวจ (๖) สํานกั นโยบายพัฒนา ขออางสารพดั เพ่ือจะขอผัดผอ นการชำระหนี้ แตนางสาวกรกนกไมยินยอม นางสาวกรกนกจึงไดข อรอง ระบบการเงนิ ภาคประชาชน สาํ นักงานเศรษฐกจิ การคลงั สำหรบั วธิ ีการยนื่ เรื่องรอ งเรยี น มี ๒ กรณี ให ร.ต.อ. ณัฐวุฒิ รอยกรอง ซึ่งเปนคนที่มาจีบตน ชวยแตงกายใสเครื่องแบบตำรวจ ขับรถยนต ๑. ยื่นรองเรยี นเปน หนงั สอื พานางสาวกรกนก ไปสงที่บานของนางสาวน้ำหนึ่งเพื่อทวงถามหนี้ โดย ร.ต.อ.ณัฐวุฒิฯ ทราบดีวาจะไป สำหรบั การรองเรียนเปนหนงั สอื ในประกาศขอ ๗ กำหนดวา การรอ งเรียนเปน หนังสอื ทวงถามหนี้ที่บานนางสาวน้ำหนึ่ง เมื่อไปถึงบานนางสาวน้ำหนึ่ง ร.ต.อ. ณัฐวุฒิฯ มไิ ดล งจากรถ ใหลงลายมือช่อื ผรู องเรยี นและมีสาระสําคญั ดงั ตอ ไปน้ี (๑) วัน เดอื น ป ท่ยี น่ื เรือ่ งรองเรยี น (๒) แตลดกระจกใหน างสาวนำ้ หน่งึ เห็นวาตนเปนเจา หนา ที่ตำรวจมาพรอ มกับนางสาวกรกนก นางสาวน้ำหนึ่ง ชื่อและที่อยูของผูรองเรียน (๓) ชื่อและที่อยูของผูถูกรองเรียน (๔) รายละเอียดขอเท็จจริง เกดิ ความเกรงกลวั จงึ ยอมชำระหนง้ี วดสดุ ทา ยใหก บั นางสาวกรกนก เจา หนไ้ี ป แลว ร.ต.อ. ณฐั วฒุ ฯิ ของเรอ่ื งรอ งเรยี น พรอ มเอกสารหลกั ฐานทเ่ี กย่ี วขอ ง (๕) ความประสงคห รอื เหตผุ ลในการรอ งเรยี น กข็ บั รถพานางสาวกรกนก ไปสง ทีบ่ าน ๒. ยื่นรอ งเรยี นดว ยวาจา หากจะยน่ื รอ งเรยี นดว ยวาจาในขอ ๘ ไดก ำหนด กรณดี ังตัวอยา ง การที่ ร.ต.อ. ณฐั วฒุ ิ ซึง่ เปนเจาหนา ทีข่ องรัฐ ไดใ หบ รกิ ารรับสง นางสาวกรกนก ไววา กรณีรองเรียนดวยวาจา ใหเจาหนาที่ผูรับเรื่อง เจาหนี้ โดยรูอยูวาเจาหนี้นั้นจะไปทวงถามหนี้จากลูกหนี้ ถือเปนการกระทำการสนับสนนุ การ รองเรียนจัดทําหนังสือรองเรียนโดยมีรายละเอียด ทวงถามหนีซ้ ง่ึ มใิ ชของตน อนั เปน ความผิดตามกฎหมายแลว แม ร.ต.อ. ณฐั วุฒฯิ มิไดเ ปน ผทู ่ีไปทวงถาม ตามทีก่ ําหนดใน ขอ ๗ แลวอานใหผ ูร องเรียนฟง และให หน้ีดว ยตนเองก็ตาม และหนีด้ งั กลาวมใิ ชห น้ขี อง ร.ต.อ. ณฐั วฒุ ฯิ หรือหน้ขี องภรยิ า บพุ การี หรอื ผูสบื ผูรอ งเรยี นลงลายมือชอื่ ในหนังสือดังกลาว สนั ดานของ ร.ต.อ. ณฐั วฒุ หิ รือหนท้ี ี่ ร.ต.อ. ณัฐวฒุ ิ นัน้ มีอำนาจกระทำไดตามกฎหมาย ร.ต.อ.ณัฐวุฒฯ มีความผิดจะตองรับโทษตามมาตรานี้ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไมเกิน หาป หรือปรับไมเกินหาแสนบาท หรอื ทง้ั จำทงั้ ปรบั ตามมาตรา ๔๒
- ๖๖ - - ๖๗ - ๗. ชอ งทางการตดิ ตอ ขอรบั บรกิ าร หรอื ความชว ยเหลอื ทเ่ี กย่ี วขอ งในกระบวนการ ทป่ี ระชาชนควรรู ๑๓. สรุปขอหา มและขอ ปฏิบัตใิ นการทวงถามหนี้ ๑. ทวงใหถูกคน ๘. ไมประจานลกู หน้ี ๒. ทวงใหถูกท่ี ๙. ไมใชว จีดูหม่ิน ๓. ทวงทุกทใี หถกู เวลา ๑๐. รบั ชำระหนส้ี ินออกใบเสรจ็ ๔. ไมท วงมาบอ ยๆ ๑๑. แสดงเทจ็ ไมกระทำ ๕. ไมพลอยบอกคนอนื่ ๑๒. เรียกคา ทวงถามไมเ กินกำหนด ๖. ไมฝ า ฝน ขอ หา ม ๑๓. ตอ งไปจดถา รับจาง ๗. ตอ งทำตามวธิ กี าร ๑๔. ปด ทางเจาหนา ทีร่ ฐั
- ๖๘ - - ๖๙ - ๑. ศนู ยช ว ยเหลอื ลกู หนแ้ี ละประชาชนทไ่ี มไ ดร บั ความเปน ธรรม กรมสอบสวนคดพี เิ ศษ ๕. ศนู ยดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย และศนู ยดำรงธรรมจังหวัดท่ัวประเทศ กระทรวงยตุ ธิ รรม ใหค ำปรกึ ษาความเดอื ดรอนและประสานหนว ยงานที่เกย่ี วขอ ง สายดวน ๑๕๖๗ ซึง่ ชว ยเหลอื ลูกหนนี้ อกระบบดานกฎหมาย การทำสญั ญากูยืมและทนายความโดย ๖. ศูนยค มุ ครองผูใชบ ริการทางการเงนิ ธนาคารแหง ประเทศไทย สามารถตดิ ตอไดท ่ีเบอร โทร ๐-๒๕๗๕-๓๓๔๔ รบั แจงเหตุและประสานหนว ยงานท่ีเก่ยี วของเพื่อแกปญหาหนีน้ อกระบบ สายดว น ๑๒๑๓ ๒. สำนักงานกองทุนยุติธรรม กระทรวงยุตธิ รรม และสำนกั งานยตุ ิธรรมจังหวดั ทั่ว ๗. สำนักอยั การพิเศษคุมครองผูบ ริโภค ประเทศ ใหคำปรึกษาทางกฎหมายและดำเนินคดีละเมดิ สทิ ธผิ บู รโิ ภค และไกลเกลี่ยหน้ี โทร. ๐-๒๕๑๕-๔๑๑๒ ซ่งึ ใหคำปรกึ ษาปญ หากฎหมายและชว ยเหลือคาใชจายในการดำเนินคดีรวมถงึ คา ประกนั ตัว คาทนายความ และคา เสียหาย โทร ๐-๒๕๐๒-๖๒๔๖ ๘. สำนักงานอัยการคุมครองสทิ ธแิ ละชวยเหลือทางกฎหมายแกป ระชาชน และ สำนักงานอัยการคมุ ครองสทิ ธแิ ละชว ยเหลอื ทางกฎหมายและการบังคับคดีจงั หวัด ทุก ๓. ศนู ยบริการรวมกระทรวงยตุ ิธรรม จงั หวดั ทัว่ ประเทศ ซง่ึ ใหค ำปรกึ ษาปญหากฎหมายและการดำเนนิ คดี โทร. ๐-๒๑๔๑-๕๑๐๐ โดยใหบ ริการใหคำปรกึ ษาปญ หาทางกฎหมาย ไกลเ กลย่ี ประนอมขอ พิพาท จดั หาทนายความ ๔. ศูนยอ ำนวยการปฏบิ ัติการแกไ ขหนี้สินภาคประชาชน ใหผไู ดร บั ความเดอื ดรอนและยากจนในการตอ สคู ดี เปน ตน โดยสามารถตดิ ตอ ไดท ส่ี ำนักงานคุมครองสทิ ธิ ประสานหนว ยงานทีเ่ กยี่ วของเพื่อแกปญหาเจรจาประนอมหนี้สิน สายดว น ๑๓๕๙ และชวยเหลือทางกฎหมายแกป ระชาชน (สว นกลาง) สำนกั งานอัยการสูงสุด อาคารถนนรัชดาภิเษก ชน้ั ท่ี ๓ แขวงจอมพล เขตจตุจกั ร กรุงเทพฯ ๑๐๙๐๐ โทร. ๐-๒๑๔๒-๒๐๓๔ ๙. ศูนยปราบปรามการปลอ ยเงนิ กูแ ละทวงหนน้ี อกระบบ กองบังคบั การตำรวจ สอบสวนกลาง โดยสามารถแจง เบาะแสเงนิ กูนอกระบบผิดกฎหมายได สายดว น ๑๑๓๕ ๑๐. ศนู ยป ระสานงานลกู หนี้แหงชาติ ใหคำปรึกษาและใหความรกู ฎหมายในการดำเนินคดี โทร. ๐-๒๓๑๙-๑๑๖๑-๔ ๑๑. กลุมกำกบั การทวงถามหน้ี กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เปน ชอ งทางรอ งเรยี นกรณหี ากลกู หนถ้ี กู ทวงถามหนโ้ี ดยไมถ กู ตอ งตามกฎหมายวา ดว ยการทวงถามหน้ี โดยสามารถรองเรียนตอคณะกรรมการกำกับการทวงถามหนี้ประจำจังหวัดหรือคณะกรรมการกำกับ การทวงถามหนี้ประจำกรุงเทพมหานคร เพ่ือเอาผดิ ไดโดยติดตอ ไปยังกลุม กำกบั การทวงถามหน้ี ไดท ี่ https://multi.dopa.go.th/ilab/debt/main/web_index หรือ สำนกั การสอบสวนและนติ กิ ารกรม การปกครอง (วงั ไชยา) ถนนนครสวรรค แขวงส่แี ยกมหานาค เขตดุสติ กรงุ เทพมหานคร ๑๐๓๐๐ โทร. ๐-๒๓๕๖-๙๖๖๐ อเี มล : [email protected] โทร. ๐-๒๓๕๖-๙๖๖๐
- ๗๒ - - ๗๓ - ºÃóҹءÃÁ ºÃóҹءÃÁ พิชัย นิลทองคำ.(๒๕๔๘).ประมวลกฎหมายแพงและพาณชิ ย บรรพ ๑ – ๖ ประมวลกฎหมายอาญา. เจาหนี-้ ลกู หน้ี ควรรไู ว ทวงหนีอ้ ยางไรไมผ ิดกฎหมาย พ.ร.บ.ทวงหน้ี ๒๕๕๘. กรงุ เทพฯ: อฑตยา มเิ ล็นเนียม. สืบคนเมือ่ วันท่ี ๕, พฤศจกิ ายน, ๒๕๖๐, จาก https://money.kapook.com/view128453.html ตารางเปรยี บเทียบหลกั การเดมิ และหลักการใหมเ ก่ยี วกบั การแกไขประมวลกฎหมายแพงและ สาระสำคญั ของรางพระราชบญั ญัตกิ ารติดตามทวงถามหนี้อยางเปน ธรรม พ.ศ. .... พาณชิ ย เร่อื งการค้ำประกนั ในป ๒๕๕๗ และป ๒๕๕๘ เกรด็ ความรูก ฎหมายคำ้ ประกันใหมทมี่ ีผลใช .สบื คน เมอ่ื วนั ที่ ๒๑, ธันวาคม, ๒๕๖๐, บังคบั แลว .สบื คนเมอ่ื วนั ที่ ๑, พฤศจกิ ายน, ๒๕๖๐, จากhttp://www.fpo.go.th/FPO/admin/scripts/getpdf.php?id=6714 จากhttp://www.fap.or.th/index.php?lay=show&ac=article&Id=539933854&Ntype=2 ลกู หนน้ี อกระบบไมต อ งกังวลอกี ตอ ไป...หากตกเปน เหยอ่ื เงินกนู อกระบบทา นจะปรึกษาปญ หา พระราชบญั ญัตแิ กไ ขเพ่มิ เติมประมวลกฎหมายแพง และพาณิชย (ฉบบั ท่ี ๒๑) พ.ศ. ๒๕๕๘. ไดท่ไี หนไดบาง?? กระทรวงยตุ ิธรรมมที างออก!! .สบื คน เมื่อ ๒๑ ,ธันวาคม, ๒๕๖๐, สืบคน เมอื่ วนั ที่ ๑, พฤศจิกายน, ๒๕๖๐, จากhttp://www.tnews.co.th/contents/362824 จากhttp://library2.parliament.go.th/giventake/content_nla2557/law63-140758-30.pdf ประวตั กิ รมการปกครองและสำนกั /กอง.สืบคน เมอ่ื วนั ที่ ๒๑, ธันวาคม, ๒๕๖๐, พระราชบญั ญตั กิ ารทวงถามหนี้ พ.ศ. ๒๕๕๘.ราชกจิ จานเุ บกษา. จาก https://multi.dopa.go.th/ilab/debt/info_organ/about1 สืบคนเม่อื วันท่ี ๕, พฤศจิกายน, ๒๕๖๐, จากhttps://www.studentloan.or.th/public/upload/law%20and%20order/ 2559-10-26-4.pdf
Search
Read the Text Version
- 1 - 41
Pages: