หน่วยที่ 6 สารเสพติด กบั บทบาทการป้องกันของประชาสังคมสาระสาคัญ ปัญหายาเสพติดท่ีแพร่ระบาด และเพิ่มความรุนแรงได้ขยายวงกว้างมาสู่เด็กและเยาวชนท่ีเป็นกาลังสาคัญของประเทศชาติอย่างรวดเร็วน้ันแม้ว่ารัฐบาลซึ่งมีหน้าท่ีรับผิดชอบโดยตรงในการรักษาความสงบเรียบร้อยในพ้ืนที่ต่างๆท่ัวทั้งประเทศได้ใช้มาตรการป้องกันและปราบปรามอย่างต่อเน่ืองมาโดยตลอด แต่การปราบปรามก็ยังไม่ได้ผลตามเป้าหมายที่วางไว้เท่าที่ควร การให้ความสาคัญองค์การภาคประชาชน ในลักษณะประชาคมเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังโดยร่วมใจต้านภัยยาเสพติด ท่มี ุ่งเนน้ ให้ประชาชนมีสว่ นร่วมในกระบวนการ ท้ังรว่ มคิด ร่วมทาและร่วมติดตามประเมินผลด้วยการผนึกกาลังอย่างสมานฉันท์ สร้างความเข้าใจ เอ้ืออาทรต่อกันโดยประชาคมมีบทบาทเข้าร่วมจัดการ และ มีส่วนร่วมในการพัฒนาตนเอง พัฒนาท้องถิ่นของตนจะเป็นกระบวนการป้องกนั ไดอ้ ย่างย่งั ยืน คณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เป็นองค์กร กลาง รบั ผิดชอบงานการปอ้ งกัน และปราบปรามยาเสพติดของประเทศ และใหม้ ีสานักงานคณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามยาเสพตดิ (สานกั งาน ป.ป.ส.) มหี น้าท่เี ปน็ หน่วยกลาง ในการประสานการ ดาเนนิ งาน ให้เป็นไปตามมตขิ องคณะกรรมการและปฏิบัติงานธุรการอ่ืน1. สาเหตสุ าคญั ทท่ี าให้ตดิ ยาเสพติด สานักงานคณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามส่ิงเสพติด(2552) กล่าวถงึ คนติดยาเสพติดไว้ว่า ส่วนมากจะเปน็ คนท่ีมบี ุคลกิ ชอบเอาแตพ่ ึ่งพิงผู้อ่ืนคนประเภทน้ีเม่ือได้พบส่ิงใดท่ีทาให้เกิดความพึงพอใจให้ตนสบายใจก็จะยึดเหน่ียวเอาไว้เป็นที่พึ่ง โดยทจ่ี ะเอาตัวเองไปเกาะเกย่ี วกับสิ่งน้นัอยา่ งถาวรไม่คิดจะเปล่ียนแปลงสาเหตขุ องการตดิ ยาเสพติดสามารถสรุปได้ 8 ประการ คือ 1. บุคคลนนั้ มีโอกาสอยใู่ กล้ชดิ กับผู้ตดิ ยาเสพตดิ สามารถหยิบยาเสพติดมาใช้ได้โดยสะดวก 2. การอยใู่ กลช้ ดิ กับผู้เสพยาเสพตดิ 3. การใชย้ าอันตรายเพื่อลดปัญหา 4. ความอยากรู้อยากเหน็ 5. การหลบหนีความจริง 6. ความประมาทของแพทย์ 7. ผปู้ ว่ ยใช้ยาเอง 8. ใชเ้ พ่ือแสดงความเป็นปรปักษต์ ่อสังคม
ในขณะท่ี สานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามส่ิงเสพติด(2552) ได้กล่าวถึงสาเหตุของการติดยาเสพติด ไว้ว่า ประกอบด้วยสาเหตุสาคัญ 3 ประการคือ ตัวบุคคล ตัวยา และสภาพแวดล้อม มรี ายละเอยี ดดังนี้ 1. สาเหตุจากตัวบคุ คล ไดแ้ ก่ 1.1 ดา้ นบุคลิกภาพ พวกตดิ ยาเสพตดิ มักมีพน้ื ฐานเปน็ ผู้มีบุคลกิ ภาพผดิ ปกติ อ่อนแอต้องพง่ึ ยาตลอดเวลา หรือมีบุคลกิ ภาพเบย่ี งเบนก้าวร้าว ต่อต้านสังคม 1.2 ดา้ นจิตใจ เคยเป็นโรคจิต โรคประสาทมากอ่ น หรอื ใช้ยากล่อมประสาทเปน็ประจา 1.3 ดา้ นร่างกาย เคยเปน็ โรคจติ โรคประสาทมาก่อน หรอื ใช้ยากลอ่ มประสาทเปน็ประจา รูปท่ี 6-1 มีบคุ ลิกภาพผิดปกติ อ่อนแอเป็นสาเหตุหน่งึ ของการตดิ ยาเสพตดิ ทม่ี า: http://www.thaigoodview.com/node/65785 2. สาเหตจุ ากตวั ยา ไดแ้ ก่ 2.1 เกดิ จากฤทธิ์ของตวั ยาเสพตดิ ซ่งึ ออกฤทธิร์ ะงับความเจ็บปวด ขณะเดยี วกนั ก็ทาให้จิตใจอารมณส์ ดใส เคลบิ เคลิม้ หลดุ จากโลกแห่งความเปน็ จรงิ ทีเ่ ป็นทุกข์ ออกไปสูโ่ ลกแห่งความฝันซง่ึ เปน็ สุขในระหวา่ งการออกฤทธ์ิของยาเสพติด ผทู้ ี่มีความทุกขใ์ นใจประจาตอ้ งการหนีจากภาวะความเป็นจริง และหาทางออกด้วยการใช้ยาเสพตดิ ทาให้ติดยา 2.2 เกิดจากฤทธข์ิ องยาเสพติดเอง เมอ่ื ใชบ้ อ่ ย ๆ จะเกิดการตดิ ยาทงั้ ทางด้านร่างกายและจติ ใจ เมอื่ หยดุ ยาจะเกดิ อาการขาดยา ทาให้ต้องใชย้ าเสพตดิ อีก 3. สาเหตจุ ากส่งิ แวดล้อมและสังคม ได้แก่ อยใู่ กล้ชิดกับยาเสพติด อยใู่ กลช้ ดิ กับผตู้ ิดยาเสพตดิ อยู่ในสังคมทีม่ ีการขายยาเสพตดิ อย่างแพร่หลาย อยู่ในแหล่งชมุ ชนแออดั ซ่ึงมกี ารแพร่ระบาดของยาเสพตดิ หาซอ้ื ง่าย ทาให้วยั รุน่ ซงึ่ อยู่ในวยั อยากรู้อยากเห็น อยากลองในสงิ่ ที่ตนไม่เคยผา่ นมากอ่ น ถกู แนะนาชกั ชวนให้ลองใช้ บางคร้ังกม็ ีความเชอื่ ผิด ๆ ว่ายามีฤทธ์ิทาให้ขยันสามารถทางานได้มากขนึ้ และเดก็ ท่ีมีปญั หาทางครอบครัว ขาดความรกั ความอบอุ่น ขาดการดแู ลเอาใจใส่ก็เปน็ เหตุใหต้ ดิ ยาเสพตดิ ให้โทษได้เช่นกัน สาเหตุสาคัญท่ีทาใหก้ ลมุ่ วยั รุ่นตดิ ยาเสพตดิ (ศนู ย์การต่อสู้เพ่อื ชนะยาเสพตดิ , 2546) คือ 1. จากการถูกชักชวน การถูกชกั ชวนนี้อาจจะเกดิ จากเพ่อื นสนทิ ที่กาลังตดิ ยาอยู่และอยากจะใหเ้ พอื่ นลองบ้าง ปัญหานี้มักจะเกิดกับเด็กทม่ี ีปัญหาทางครอบครัวขาดความอบอ่นุ ใจแต่เอาเพื่อนเป็นทพ่ี ่ึงนอกจากน้ีผู้ที่อยู่ในแหล่งท่ีมีการซ้ือขายยาเสพติด ก็อาจจะได้รบั การชักจูงคุณภาพของยาเสพติดว่าดีต่าง ๆ นานา เช่น อาจจะบอกว่าเมื่อเสพแล้วจะทาให้ปลอดโปร่ง เหมาะแก่การเรียนการทางาน
การชักจูงดังกล่าวอาจจะเกิดขึ้นในขณะท่ีผู้ถูกชักจูงกาลังมึนเมาสุรา เที่ยวเตร่กันจึงทาให้เกิดการติดยาได้ 2. จากการอยากทดลอง อยากร้อู ย่างเห็น อยากจะรรู้ สชาติ อยากสมั ผัส เนือ่ งจากเห็นคนอ่นืเสพและเห็นมีในโฆษณาตา่ ง ๆ ทาใหอ้ ยากรวู้ า่ ยาเสพติดชนดิ น้ัน ๆ มีรสชาตอิ ยา่ งไร โดยคิดว่าคงจะไม่ติดงา่ ย ๆ แตเ่ ม่ือทดลอง เสพเข้าไปแล้วมักจะติดเพราะยาเสพตดิ ในปัจจบุ ัน เช่น เฮโรอนี จะติดง่ายมาก แมเ้ สพเพียงคร้งั หรือสองครัง้ ก็จะตดิ แลว้ รปู ท่ี 6-2 ความอยากรู้อยากลองเปน็ สาเหตุของการติดยาเสพตดิ ท่ีมา: http://www.thaigoodview.com/node/65785 3. จากการถูกหลอกลวง ยาเสพติดมีรูปแบบต่าง ๆ มากมาย เช่น ในรูปเคร่ืองดื่ม ทอฟฟี่อาหารต่าง ๆ ผู้ถูกหลอกลวงไมท่ ราบว่าสงิ่ ทีต่ นได้กินเขา้ ไปนัน้ เปน็ ยาเสพติดให้โทษรา้ ยแรงคดิ วา่ เป็นยาธรรมดาไมม่ ีพิษร้ายแรง อะไรก็ตามทีผ่ ้หู ลอกลวงแนะนา ผลสดุ ทายกลายเปน็ ผู้ตดิ ยาเสพติดในทีส่ ุด 4. เหตุทางกาย ความเจบ็ ป่วยทางกาย เชน่ ต้องถูกผ่าตดั หรือโรคปวดศรี ษะ เป็นหดื เป็นโรคประสาทได้รับความทรมานทางกายมากผปู้ ว่ ยต้องการบรรเทา พยายามช่วยตัวเองมานานแต่ก็ไม่หายจงึ หนั เข้าหายาเสพติดจนตดิ ยาในทส่ี ุด 5. จากความคึกคะนอง บุคคลประเภทน้ีคดิ ว่าตัวเองเปน็ คนเกง่ อยากลองซ่ึงรู้อยแู่ ก่ใจว่ายาเสพตดิ ใหโ้ ทษเปน็ สงิ่ ไม่ดแี ต่ด้วยแต่ดว้ ยความคึกคะนองเป็นวัยรุน่ ไม่เกรงกลัวอะไร ตอ้ งการแสดงความเดน่ อวดเพื่อนวา่ ข้านี้คือพระเอก ขาดความย้ังคิดจึงเสพและตดิ ยาในทสี่ ุด 6. จากสง่ิ แวดล้อม เชน่ สถานท่อี าศยั แออดั เปน็ แหล่มสลมั หรือเปน็ แหลง่ ที่มกี ารเสพและคา้ ยาเสพตดิ ภาวะทางเศรษฐกิจบีบค้ันจิตใจ เปน็ ต้น ซ่งึ เปน็ สิง่ ที่มีอทิ ธพิ ลเหนือจิตใจผลกั ดันใหผ้ ้ทู ่ีอยใู่ นสภาพแวดล้อมดังกลา่ ว บางคนหนั มาพ่งึ ยาเสพตดิ โดยคิดว่าจะช่วยให้ตนเองหลดุ พ้นจากสภาพต่าง ๆ นนั้ ได้ จากแนวคิดดงั กลา่ วสรุปไดว้ า่ สาเหตุหลกั ๆ ทีท่ าให้คนติดยาเสพติดมี 3 ประการคอื ประการท่ีหน่ึง สาเหตุจากตวั ผู้เสพเอง ซึ่งอาจเกิดจากการที่เคยใชย้ าเพ่ือรักษาโรคมาก่อนหรอื อาจเกิดจากความอยากรู้อยากลอง ประการทสี่ อง สาเหตุจากตัวยาเสพตดิ เนือ่ งจากยาเสพติดมีฤทธิ์ในตวั ของมันเองคอื ชว่ ยให้ผเู้ สพลมื ความเจ็บปวด ลืมความทุกขท์ รมานทเ่ี กิดจากโรคภัยไข้เจ็บหรอื สาเหตุอ่นื และทาใหผ้ เู้ สพมีความสขุ เคลิบเคล้มิ หลุดจากโลกแห่งความเป็นจริงท่เี ป็นทุกข์ ออกไปสโู่ ลกแหง่ ความฝัน ประการสุดท้ายสาเหตจุ ากส่ิงแวดลอ้ ม เชน่ ผูเ้ สพยาอยู่ในสถานทีท่ ่ีมกี ารเสพและค้ายาเสพติด ภาวะทางเศรษฐกิจบีบค้ัน ซ่ึงมีอิทธิพลเหนือจิตใจจึงทาให้ผู้ที่อยู่ในสภาพแวดล้อมดังกลา่ วหันมาพ่ึงยาเสพติดเพราะคดิ วา่ จะชว่ ยใหห้ ลดุ พ้นจากสภาพต่างแวดล้อมดงั กลา่ วได้
การตดิ ทางกาย เปน็ การติดยาเสพติดทีผ่ เู้ สพความต้องการเสพอย่างรุน่ แรง ทั้งทางร่างกายและจติ ใจเมื่อถึงเวลาอยากเสพแล้วไม่ไดเ้ สพจะเกิดอาการผิดปกติอยา่ งมากทัง้ ทางรา่ งกายและจติ ใจ ซง่ึ เรียกว่า“อาการขาดยา” เชน่ การติดฝ่นิ มอรฟ์ นี เฮโรอนี เมอื่ ขาดยา จะมีอาการคล่ืนไส้ อาเจียน หาวมนี ้ามูกน้าตาไหล นอนไม่หลับ เจบ็ ปวดทว่ั ร่างกาย เปน็ ต้น การติดยาทางใจ เป็นการติดยาเสพตดิ เพราะจิตใจเกิดความตอ้ งการ หรือ เกิดการติดนสิ ยั หากไม่ได้เสพรา่ งกายก็จะไม่เกิดอาการผดิ ปกตหิ รือ ทุรนทรุ ายแต่อยา่ งใด จะมีบ้างคร้ังก็เพียงเกดิ อาการหงดุ หงดิหรือกระวนกระวาย2. การป้องกันการติดยาเสพตดิ 1. ปอ้ งกนั ตนเอง ไม่ใชย่ าโดยมไิ ด้รบั คาแนะนาจากแพทย์และจงอย่าทดลองเสพยาเสพตดิ ทุกชนดิ โดยเด็ดขาดเพราะ ตดิ ง่ายหายยาก 2. ป้องกนั ครอบครัว ควรสอดสอ่ งดแู ลเด็กและบุคคลในครอบครัวหรอื ทอี่ ยรู่ วมกนัอยา่ ใหเ้ กี่ยวขอ้ งกบั ยาเสพตดิ ตอ้ งคอยอบรมสัง่ สอนให้รถู้ ึงโทษและภยั ของยาเสพติด หากมีผเู้ สพยาเสพตดิ ในครอบครัวจงจดั การให้เข้ารกั ษาตัวท่โี รงพยาบาล ใหห้ ายเดด็ ขาดการรกั ษาต้ังแต่แรกเร่ิมตดิ ยาเสพติด มโี อกาสหายได้เร็วกวา่ ทีป่ ลอ่ ยไว้นาน ๆ 3. ปอ้ งกันเพอื่ นบ้าน โดยช่วยชี้แจงใหเ้ พ่ือนบา้ นเขา้ ใจถงึ โทษและภยั ของยาเสพตดิโดยมิใหเ้ พื่อนบา้ นรเู้ ทา่ ไม่ถงึ การณ์ตอ้ งถูกหลอกลวงและหากพบวา่ เพื่อนบา้ นติดยาเสพติดจงชว่ ยแนะนาให้ไปรกั ษาตัวท่โี รงพยาบาล 4. ป้องกนั โดยความรว่ มมอื กับทางราชการ เมือ่ ทราบวา่ บ้านใดในตาบลใดมยี าเสพตดิแพรร่ ะบาดขอให้แจ้ง เจ้าหน้าทต่ี ารวจทกุ แหง่ ทกุ ท้องทีท่ ราบ หรอื ศูนย์ปราบรามยาเสพติดใหโ้ ทษกรมต้ารวจ และทส่ี ้านักงานคณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามยาเสพติด สา้ นักนายกรัฐมนตรีวิธีการป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพตดิ มดี ังน้ี 1. ปอ้ งกันตนเอง ทาไดโ้ ดย 1.1 ศึกษาหาความรู้ เพ่ือให้ความร้เู ท่าทันโทษพิษภยั ของยาเสพตดิ 1.2 ไม่ทดลองใชย้ าเสพติดทุกชนดิ และปฏเิ สธเมอื่ ถูกชกั ชวน 1.3 ระมดั ระวังเร่ืองการใชย้ าเพราะยาบางชนดิ อาจทาให้เสพตดิ ได้ 1.4 ใชเ้ วลาวา่ งให้เกดิ ประโยชน์ 1.5 เมือ่ มีปัญหาชวี ิต ควรหาหนทางแก้ไขท่ไี ม่ข้องเก่ยี วกบั ยาเสพติด 2. ป้องกนั ครอบครัว ทาได้โดย 2.1 สร้างความรกั ความอบอุ่นและความสมั พนั ธอ์ ันดรี ะหว่างสมาชิกในครอบครัว 2.2 รแู้ ละปฏบิ ัติตามบทบาทหนา้ ที่ของตนเอง 2.3 ดแู ลสมาชิกในครอบครวั ไมใ่ หข้ ้องเกย่ี วกบั ยาเสพตดิ 2.4 ใหก้ าลงั ใจและหาทางแก้ไข หากพบว่าสมาชิกในครอบครัวตดิ ยาเสพตดิ 3. ปอ้ งกนั ชมุ ชนทาไดโ้ ดย 3.1 ชว่ ยชุมชนในการตอ่ ตา้ นยาเสพติด 3.2 เมอ่ื ทราบแหลง่ เสพ แหล่งค้า หรอื ยาเสพติด ควรแจ้งให้เจ้าหนา้ ท่ีทราบทันที
แผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาติคือบนั ทึกทเี่ ปน็ ลายลกั ษณ์อกั ษรของ รฐั บาลในการทจี่ ะพัฒนาประเทศ โดยกาหนดวตั ถปุ ระสงค์ แบบแผน วิธีดาเนนิ การ และการกาหนดหน่วยปฏบิ ตั ิการอย่างเปน็ ระบบแบบแผน3. ประชาสังคมกับบทบาทในการปอ้ งกนั และแก้ไขปัญหายาเสพติด บทบาทของประชาสังคมในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ 11(พ.ศ. 2555–2559) ได้กล่าวถึงยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศ กาหนดทิศทางและยุทธศาสตร์การพัฒนาท่ีเหมาะสม โดยเร่งสร้างภูมิคุ้มกันเพ่ือป้องกันปัจจัยเส่ียง และเสริมรากฐานของประเทศด้านต่างๆ ให้เข้มแข็งควบคู่ไปกับการพัฒนาคนและสังคมไทยให้มีคุณภาพ มีโอกาสเข้าถึงทรัพยากรและได้รับประโยชน์จากการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างเป็นธรรม รวมทั้งสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจด้วยฐานความรู้ และความคิดสร้างสรรค์บนพ้ืนฐานการผลิตและการบริโภคท่ีเป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อม นาไปสู่การพัฒนาประเทศท่ีมั่นคงและย่ังยืน ยุทธศาสตร์การพัฒนาท่ีสาคัญในระยะแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 11 ในประเด็นยุทธศาสตร์การพัฒนาคนสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างย่ังยืน โดยให้ความสาคัญกับการมีส่วนร่วมอย่างสาคัญในการสร้างสังคมนานาชาติท่ีมีคุณภาพชีวิตป้องกันภัยจากการก่อการร้ายและอาชญากรรม ยาเสพติด ภัยพิบัติ และการแพร่ระบาดของโรคภัยมุ่งพฒั นาศักยภาพและความพรอ้ มในการป้องกันและแก้ปัญหาขา้ มชาติด้านการก่อการรา้ ย ยาเสพติดและการหลบหนีเข้าเมืองทั้งระบบ พัฒนาศักยภาพและความร่วมมือภายในภูมิภาคเพ่ือเตรียมพร้อมรบั ภัยพิบัติทางธรรมชาติและเหตุฉุกเฉนิ และรว่ มมือในการป้องกันการตดิ เชอื้ และการแพรร่ ะบาดของโรคอบุ ัติใหม่และโรคระบาดซ้า รปู ที่ 3-2 แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 ใหค้ วามสาคญั กับการมสี ่วนร่วม ปอ้ งกนั ภยั จากการก่อการร้ายและอาชญากรรม ยาเสพตดิ ที่มา: http://www2.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9540000049014 จะเห็นได้ว่า การป้องกนั ภัยยาเสพติด หรือการปอ้ งกนั สารเสพติด เป็นยุทธศาสตรส์ าคัญในแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี 11 (พ.ศ. 2555–2559) ทงั้ นเ้ี นือ่ งจากสภาพสังคมและเศรษฐกจิ ส่งผลใหก้ ารแพรร่ ะบาดของยาเสพติดทวีความรนุ แรงเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะชมุ ชน
รอบ ๆ สถานศึกษามีการแพร่ระบาดอย่างรนุ แรง และปะปนเข้าไปในสถานศึกษาอยา่ งรวดเรว็ สาเหตุท่ีมาของปญั หาคือ สภาพสังคมรอบข้างสถานศึกษาเปน็ แหลง่ ชุมชนแออดั สังคมใกล้บา้ นนกั เรยี นเป็นแหล่งเส่อื มโทรม มีแหลง่ อบายมุขและสถานบนั เทิงมากมาย สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ และสง่ิ พิมพ์ขาดการควบคมุ ดแู ลอย่างจริงจัง สภาพสังคมฟงุ้ เฟอ้ เลียนแบบสงั คมตะวนั ตก นอกจากนี้ยังมสี ภาพปัญหาการติดต่อคา้ ขายกับตา่ งประเทศ เปน็ เส้นทางหนง่ึ ของยาเสพติดจากตา่ งประเทศไหลเข้ามาแพร่ระบาดในประเทศประชาสังคมมีบทบาทอย่างมากในการป้องกนั และแกไ้ ขปัญหาสารเสพติดยทุ ธศาสตรท์ ี่สาคญั ในการป้องกนั และแก้ไข โดยกาหนดบทบาทประชาสังคมในการลดอุปสงค์และอุปทานของสารเสพติดลง ในลักษณะการผสมผสานระหว่างมาตรการป้องกนั สารเสพติด มาตรการบาบัดรักษาและฟ้นื ฟสู มรรถภาพผู้ติดสารเสพติด มาตรการปราบปรามยาเสพติด การควบคมุ พชืเสพติดตามสภาพปญั หาในพื้นที่ และใหป้ ระชาชนทกุ กลุ่มมีสว่ นร่วมในการดาเนนิ งาน บทบาทประชาสงั คมกับการป้องกนั และแก้ไขปญั หายาเสพติด พอสรปุ ได้ดงั น้ี 1. สร้างแนวคิดและกาหนดทิศทางในการป้องกนั และแกไ้ ขปญั หายาเสพติด 1.1 สง่ เสริมบทบาทของสถาบันสงั คม อาทิ สถาบันทางการศาสนา สถาบนั ทางการศึกษา สถาบนั ครอบครวั และสถาบนั ชมุ ชน ใหต้ ระหนกั ถึงปญั หา และมีส่วนร่วมในการปอ้ งกนัและแก้ไขปัญหายาเสพติด ภายใตพ้ น้ื ฐานของการอยู่รว่ มกนั ในสงั คม ดงั น้ี 1.1.1 ใหค้ วามสาคัญและสนับสนนุ ให้สถาบนั ทางศาสนาทุกศาสนาใหม้ ีบทบาทในการแกไ้ ขปญั หายาเสพตดิ โดยเฉพาะการป้องกนั และบาบดั รกั ษาผูต้ ิดยาเสพติด 1.1.2 เสรมิ สรา้ งศกั ยภาพใหส้ ถาบนั การศกึ ษาทุกแหง่ มีกิจกรรมในการแกไ้ ขปัญหายาเสพติดที่ชัดเจน และตอ่ เน่ือง โดยเฉพาะกจิ กรรมทางการป้องกันยาเสพติด 1.1.3 เน้นบทบาทของบิดา มารดา โดยสรา้ งความรู้ ความเขา้ ใจที่ถูกต้อง และวธิ ีการปอ้ งกนั และแก้ไขปัญหายาเสพติดในครอบครวั 1.1.4 สนับสนนุ ให้เกดิ การรวมกลมุ่ ในชุมชน มีการวางแผนในชมุ ชนร่วมกนั และกาหนดกฎเกณฑ์ของชมุ ชนในการดูแลปญั หายาเสพตดิ ในชุมชน โดยค้านึงถึงภูมิปัญญาและวัฒนธรรมท้องถิ่น 1.1.5 ใช้กระบวนการทางดา้ นประชาสัมพันธใ์ นเชิงกวา้ ง โดยผ่านส่ือตา่ ง ๆ ท่ีสอดคลอ้ งกบั กลุ่มประชากร และท้องถ่ิน เพอ่ื สรา้ งความตระหนักในปัญหายาเสพติด และสร้างแนวร่วมในการดาเนินงานป้องกนั และแกไ้ ขปัญหายาเสพติด 1.2 ประสาน และผนกึ กาลงั ระหวา่ งองคก์ รภาครัฐ องค์กรภาคเอกชน องค์กรพัฒนาภาคเอกชน และองค์กรประชาชนในการป้องกัน และแก้ไขปญั หายาเสพตดิ โดยพัฒนากระบวนการเรยี นรขู้ องสมาชิกในองค์กรต่าง ๆ ให้เกิดการเรยี นรู้ร่วมกนั ถงึ ปญั หาและร่วมกันดาเนินกิจกรรมที่เหมาะสมอย่างต่อเน่ือง และยัง่ ยนื ดงั นี้ 1.2.1 สนบั สนนุ ให้เกดิ กระบวนการประสาน และผนึกกาลงั ระหวา่ งองค์กรภาครฐัองค์กรภาคเอกชน องคก์ รพัฒนาภาคเอกชน และองค์กรประชาชนในการป้องกนั และแก้ไขปัญหายาเสพตดิ อย่างต่อเน่ือง 1.2.2 เสริมสร้างความรู้ ความเขา้ ใจ และความตระหนกั ในปัญหายาเสพตดิตลอดจนเชญิ ชวนใหเ้ จา้ ของสถานประกอบการ เจ้าของธรุ กิจ เขา้ มามีส่วนรว่ มในการดาเนนิ งานป้องกนั และแก้ไขปญั หายาเสพติด โดยเฉพาะในดา้ นการป้องกันยาเสพติด 1.2.3 สนบั สนุน และผลกั ดันให้องค์กรพัฒนาภาคเอกชน องคก์ รประชาชน กล่มุอาสาสมคั ร และผู้นาตามธรรมชาติ ทม่ี บี ทบาทในการปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หายาเสพติด อยา่ งชัดเจนและตอ่ เนื่อง
1.2.4 สนบั สนนุ และส่งเสรมิ ใหเ้ กดิ กระบวนการเรียนรู้ และตระหนกั ในปัญหาที่มีประสทิ ธภิ าพ และตอ่ เน่ืองภายในองค์กร และระหว่างองค์กรตา่ ง ๆ เพื่อใหเ้ กดิ การประสานและผนึกกาลังในการดาเนนิ งานป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยคานงึ ถงึ การใช้จ่ายทรัพยากรอย่างคุ้มค่า 1.2.5 ปรบั ปรงุ กฎ และระเบยี บทเ่ี กีย่ วข้องให้สนบั สนุนการมสี ่วนร่วมขององค์กรภาคเอกชน องค์กรพัฒนาภาคเอกชน และองคก์ รประชาชน 1.2.6 สนับสนุนวชิ าการ และข้อมูลในการป้องกนั และแก้ไขปญั หายาเสพติดให้ถึงระดบั ชมุ ชนอย่างต่อเนื่อง 1.3 คานึงถงึ การผสมผสานระหวา่ งสถานการณ์ สภาพปัญหา และการแก้ไขปญั หาในมิติทางเศรษฐกิจ สงั คม และการเมืองอน่ื ๆ กบั การดาเนนิ งานป้องกัน และแกไ้ ขปัญหายาเสพติดเพ่ือใหก้ ารดาเนนิ งานปอ้ งกนั และแก้ไขปัญหาสอดคลอ้ ง และทันต่อสถานการณท์ างเศรษฐกจิสังคม การเมอื ง ดังนี้ 1.3.1 ปรบั ปรงุ กระบวนการในการจัดทาแผน และการกาหนดกิจกรรมให้มีลกั ษณะเชงิ รุก เพือ่ รองรบั ปญั หายาเสพตดิ ที่คาดวา่ จะเกิดขึ้น โดยคานงึ ถงึ สภาพข้อเทจ็ จรงิ และแนวทางการดาเนนิ งานของมิตทิ างสังคม และเศรษฐกจิ 1.3.2 ปรบั ปรงุ วิธีการ และเทคนิคในการปอ้ งกัน และแก้ไขปญั หายาเสพติดให้มีประสิทธภิ าพตามสภาพข้อเท็จจริง และแนวทางการดาเนินงานของมติ ิทางสังคม และเศรษฐกิจ 1.3.3 ปรบั ปรุงวธิ กี าร และเทคนคิ ในการป้องกนั และแก้ไขปัญหายาเสพตดิ ให้มีประสทิ ธภิ าพตามสภาพข้อเท็จจรงิ และสถานการณ์ทางสังคม และเศรษฐกิจ 1.4 สร้างความเขม้ แข็ง และความต่อเน่ืองในการป้องกัน และแก้ไขปญั หายาเสพติดในสถานศกึ ษา ดว้ ยการใช้รปู แบบท่ผี สมผสานการดาเนินงาน และประสานความร่วมมือของบคุ ลากรท้งั ภายใน และภายนอกสถานศกึ ษา ทั้งนี้ เนน้ ทกี่ ารพฒั นากระบวนการหลักสูตร ผ้สู อนและวิธีการเรยี นการสอน เพ่ือปอ้ งกนั และแก้ไขปัญหายาเสพตดิ ดังนี้ 1.4.1 ใชร้ ูปแบบการป้องกัน และแก้ไขยาเสพตดิ ท่ีผสมผสานการดาเนินงานระหว่างมาตรการปอ้ งกันยาเสพติด มาตรการบาบัดรักษาผตู้ ดิ ยาเสพติด และมาตรการปราบปรามยาเสพติด โดยประสานความร่วมมอื กับองคก์ รภายนอกสถาบันการศกึ ษาในเรื่องของการปราบปรามยาเสพตดิ 1.4.2 พัฒนาใหม้ ีหลกั สูตรเฉพาะในเรื่องยาเสพติด โดยครอบคลุมถึงกจิ กรรมเสริมทักษะชีวิต และการจดั ต้ังกลมุ่ องคก์ รเยาวชนเพ่ือรณรงค์ป้องกันยาเสพติด ทงั้ นี้ หากเป็นไปได้ใหม้ กี ารกาหนดหลกั สตู รภาคบงั คบั 1.4.3 พัฒนารูปแบบการเรยี นการสอนใหเ้ สรมิ สรา้ งกระบวนการเรยี นรู้กระบวนการคิด และกระบวนการตดั สนิ ใจ ตลอดจนสรา้ งเจตคติตอ่ ต้านยาเสพติด สง่ิ เสพตดิ และสิ่งมนึ เมาต่าง ๆ ควบคไู่ ปกับการพัฒนาทางศลี ธรรม และจริยธรรม 1.4.4 พฒั นาสื่อการเรยี นการสอนให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานภาพทางเศรษฐกจิ และสงั คม โดยนา้ เทคนิคการผลติ สื่อทางการตลาดมาประยุกต์ใช้ 1.5 พฒั นาระบบบาบดั และฟน้ื ฟูสมรรถภาพผู้ตดิ ยาเสพติดท้ัง 3 ระบบ ไดแ้ ก่ ระบบสมคั รใจ ระบบต้องโทษ และระบบบังคับบาบดั ท้งั น้ใี หเ้ น้นทค่ี ุณภาพบริการ และการมีส่วนรว่ มของครอบครัว และชุมชนในการปอ้ งกันการติดยาเสพติด 1.5.1 พัฒนาและส่งเสรมิ ใหม้ ีการบาบดั รักษา และฟ้นื ฟสู มรรถภาพครบทุกตวั ยาและครบทุกข้นั ตอน โดยเนน้ ที่คุณภาพบริการ
1.5.2 ส่งเสรมิ และสร้างแรงจูงใจใหผ้ ูต้ ดิ ยาเขา้ รับการบาบดั รักษา และฟืน้ ฟูสมรรถภาพโดยใช้กลยทุ ธเ์ ชิงรุก อาทิ การคน้ หาผ้ตู ดิ ยาเสพติดในชุมชน การใหบ้ รกิ ารเคลื่อนท่ี 1.5.3 ตระหนัก และป้องกนั ปัญหายาเสพติด ซา้ โดยอาศัยความร่วมมือจากสถาบนั ครอบครวั และชมุ ชน 1.5.4 เร่งรัด และสง่ เสรมิ ใหม้ ีการดาเนินการบาบดั รักษา และฟนื้ ฟสู มรรถภาพตามพระราชบญั ญตั ิฟนื้ ฟูสมรรถภาพผูต้ ิดยาเสพติด พ.ศ. 2534 1.5.5 พัฒนาความรู้ และเสริมสรา้ งขวัญกาลงั ใจให้กบั บุคลากรทีเ่ กย่ี วข้องทัง้ ภาครัฐและภาคเอกชน 1.6 เร่งรัด และขยายการดาเนนิ งานปราบปรามยาเสพติดของหนว่ ยปราบปรามให้ครอบคลุมท้งั การปราบปรามผู้ค้ารายใหญ่ และผ้คู ้ารายยอ่ ย โดยให้ความสาคญั กบั การคัดเลือกบคุ คลในการปฏิบตั งิ าน ดงั นี้ 1.6.1 มงุ่ ปราบปรามตวั การผู้ที่ทาใหป้ ญั หายาเสพตดิ ขยายตัว ผูส้ นบั สนุน และผู้มีอิทธิพลที่เกย่ี วข้อง และสนับสนุนการค้ายาเสพตดิ โดยประสานความรว่ มมือกับหน่วยงานภายในและต่างประเทศ 1.6.2 กาหนดใหม้ หี นว่ ยงานด้านปราบปรามในระดบั จังหวดั ทกุ จงั หวดั ทม่ี ีบุคลากร และอปุ กรณ์ท่ีชดั เจน 1.6.3 ประสานงานกบั ตารวจในการร่วมมือกนั ปราบปรามยาเสพติด 1.6.4 ปรบั ปรงุ และพัฒนาเป้าหมาย และระเบยี บต่าง ๆ ให้เอ้ืออานวย และส่งเสรมิการปราบปรามยาเสพตดิ ตลอดจนประสานให้เกิดการดาเนินการตามกระบวนการยุตธิ รรมตามโทษท่ีระบุในกฎหมาย 1.6.5 แสวงหาความร่วมมอื และสนบั สนุนจากประชาชนในการใหข้ ้อมูลขา่ วสารเพือ่ การปราบปรามยาเสพติด โดยคานงึ ถงึ ความปลอดภัยของประชาชนผูใ้ หข้ ้อมลู ข่าวสารเปน็สาคญั 1.6.6 กาหนดมาตรการ และวกี ารป้องกนั และปราบปรามการกระทาผิดของเจา้ หนา้ ท่ที ่เี กีย่ วข้องกบั ยาเสพติด 1.7 ส่งเสรมิ ใหส้ มาชกิ ในสงั คมไดร้ บั รู้ และตระหนักถงึ ความสาคญั ของปญั หายาเสพตดิ ตลอดจนรับรู้ถงึ การดาเนนิ งานป้องกนั และแก้ไขปัญหายาเสพติดผา่ นส่อื ต่าง ๆ ดังน้ี 1.7.1 ปรบั ปรุงกระบวนการ และวิธกี ารในการเผยแพร่ โดยประยุกต์ใชเ้ ทคนิคการผลติ ส่ือทางการตลาด เพื่อใหค้ วามรเู้ กยี่ วกบั ปญั หา และอนั ตรายของยาเสพติด สรา้ งความเข้าใจในกระบวนการป้องกัน และแกไ้ ขปัญหายาเสพติด ท้ังในแง่ของวกี ารทางกฎหมายและระเบยี บต่าง ๆและสร้างกระแสความรตู้ ่อตา้ นยาเสพติด 1.7.2 พัฒนา และสนับสนุนใหม้ ีการผลิต และการเผยแพร่สื่อตา่ ง ๆ ทเ่ี หมาะสมกบัสภาพท้องถิน่ และวฒั นธรรมท้องถิน่ โดยหลีกเลยี่ งการใช้สื่อบคุ คลที่เกยี่ วข้องหรือมีส่วนสนับสนุนใหป้ ญั หายาเสพติดขยายตวั 2. แนวคดิ และทศิ ทางในการบริหารจัดการ 2.1 สง่ เสรมิ ให้เกิดกระบวนการมีส่วนรว่ มในการดาเนินงาน โดยเริม่ จากการกระจายการมสี ่วนร่วมในการวางแผนลงไปในระดบั ภมู ภิ าค ทอ้ งถิ่น และชมุ ชน ท้งั นเี้ พื่อใหม้ ีการวางแผนท่สี อดคล้องกับปัญหา ความต้องการ และศักยภาพของแต่ละพืน้ ที่ชมุ ชน ดงั นี้ 2.1.1 สนับสนนุ ใหเ้ กิดระบบการบริหาร และดาเนินการป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นทโ่ี ดยเร่งรัดให้กระจายอานาจตดั สินใจ การบรหิ าร และการดาเนินการไปส่รู ะดบั
ภูมภิ าค ทอ้ งถิน่ และชมุ ชนมากยง่ิ ขึน้ 2.1.2 สนับสนนุ ใหม้ ีการวางแผนเพือ่ การปอ้ งกนั และแก้ไขปัญหายาเสพตดิ ในระดับภาค จงั หวัด อาเภอ ตาบล เทศบาล สุขาภิบาล และชุมชน โดยคานงึ ถึงสภาพปัญหา ศักยภาพในการปอ้ งกัน และแก้ไขปัญหาของพื้นที่ และความต้องการของชมุ ชน 2.1.3 พัฒนาระบบข้อมูล ขา่ วสาร และสนบั สนนุ ข้อมลู ขา่ วสารใหท้ ่วั ถงึ ทงั้ ในระดบั ภมู ิภาค และท้องถิน่ อย่างต่อเนื่อง และเป็นระบบท่ชี ดั เจน 2.2 พฒั นา และปรับปรุงกลไก และกฎระเบียบต่าง ๆ ใหส้ ง่ เสรมิ และสนับสนุนการดาเนินงานป้องกนั และแก้ไขปัญหายาเสพติดขององค์การพฒั นาเอกชน องค์กรภาคเอกชนและองค์กรประชาชน 2.3 ใหค้ วามสาคัญกับบุคลากรทง้ั ภาครัฐและเอกชนทีเ่ กย่ี วขอ้ งในการป้องกนั และแกไ้ ขปญั หายาเสพติด โดยสนบั สนนุ ในด้านขวัญ กาลังใจในการทางานด้านการพฒั นาที่มุ่งให้เกิดการเรยี นรู้ และการพฒั นาที่มุ่งสร้างความเข้าใจ รว่ มใจและสร้างทศั นคติ ตลอดจนจรยิ ธรรมทด่ี ใี นการทางาน 2.4 พฒั นาระบบการบริหาร และการจัดการท่ีสามารถประสานและสนบั สนนุการดาเนนิ งานในลักษณะแผนงานของฝา่ ยต่าง ๆ ให้สามารถผนกึ กาลงั การดาเนนิ งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้ 2.4.1 กาหนดองค์กรรับผิดชอบในการประสานงานทชี่ ัดเจนในระดับภมู ิภาคท้องถน่ิ และชุมชน โดยให้ความสาคญั กับองค์กรในระดับท่ีมีผลตอ่ การดาเนนิ งานมากท่ีสุด 2.4.2 สร้างเครอื ข่ายการประสานงานระหว่างหนว่ ยงานภาครฐั หนว่ ยงานธุรกจิเอกชน และหนว่ ยงานพฒั นาภาคเอกชน เพอื่ ให้การดาเนนิ งานของหนว่ ยต่าง ๆ ได้มีการรว่ มมอืผนึกกาลัง และประสานงานทรัพยากรในการป้องกนั และแกไ้ ขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ 2.4.3 สนบั สนนุ งบประมาณเพอื่ การปอ้ งกันและแกไ้ ขปญั หายาเสพติดให้มีความชัดเจน และสามารถสนับสนนุ ใหห้ น่วยงานท้งั ภาครฐั ภาคเอกชน และองคก์ รประชาชนดาเนินงานป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติดได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ 2.4.4 พัฒนาระบบติดตาม ประเมินผล และตรวจสอบการดาเนินงานป้องกันและแก้ไขปญั หายาเสพติด เพอื่ นา้ ผลไปใช้ประโยชน์ในการปรับปรงุ และสนับสนุนการดาเนินงานตลอดจนสรา้ งความถูกต้องชอบธรรมในการปฏิบัติงาน 2.4.5 พัฒนาความรว่ มมือระหวา่ งประเทศในการป้องกนั และแก้ไขปัญหายาเสพติดโดยเฉพาะประเทศเพอื่ นบ้านสรปุ ลักษณะโดยท่ัวไปของผ้เู สพยาเสพติดที่เหน็ ได้ชัดคือ เมอ่ื ถงึ เวลาอยากเสพแลว้ไมไ่ ด้เสพจะเกดิ อาการผดิ ปกตอิ ยา่ งมากท้ังทางร่างกายและจติ ใจ เชน่ มอี าการหาวอยา่ งรนุ แรงนอนไมห่ ลบั เจ็บปวดท่ัวร่างกาย ในรายทม่ี กี ารเสพมาเป็นระยะเวลานาน ๆ จะมรี ่างกายทซี่ ูบผอมตาโรย ไมก่ ล้าสู้แสงแดด บางครัง้ อาจมอี าการของโรคประสาทและจติ ไมป่ กติ การปอ้ งกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดมลี กั ษณะผสมผสานระหวา่ งมาตรการป้องกันยาเสพตดิ กบั มาตรการบาบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดสารเสพตดิ มาตรการปราบปรามยาเสพตดิการควบคุมพชื เสพตดิ ตามสภาพปญั หาในพนื้ ที่และให้ประชาชนมีสว่ นร่วมในการดาเนนิ งาน โดยมีแนวคดิ และทิศทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาเสพติด
เอกสารอ้างองิ :คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามส่งิ เสพติด,สานักงาน. ความรู้และแนวทางการป้องกัน และแกไ้ ขปญั หาส่ิงเสพตดิ . กรงุ เทพ : คณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปราม สง่ิ เสพติด,สานักงาน, 2552.___________. เรียนร้พู ฒั นาการวัยรุ่น เพอ่ื การป้องกนั ส่ิงเสพติด. กรุงเทพ : คณะกรรมการ ป้องกนั และปราบปรามสง่ิ เสพติด, สานักงาน, 2549. สาระนา่ รู้ สภาวะแวดล้อมมสี ว่ นกาหนดสภาวะสขุ ภาพอนามยั ของบคุ คล มอี ทิ ธิพลต่อการสรา้ ง ความรูส้ ึก พัฒนาสตปิ ญั ญา จิตใจและอารมณ์ ภาวะแวดลอ้ มทางกายภาพที่ถูกสุขลักษณะ สดชน่ื ปราศจากมลภาวะ มคี วามเป็นธรรมชาติท่เี ออ้ื ต่อชวี ติ และภาวะแวดล้อมเชงิ สงั คมทเ่ี ปน็ มติ ร นา่ อยู่ ปลอดภยั ทาให้มีความสงบสขุ ช่วยผ่อนคลายความเครยี ด การพัฒนาส่งิ แวดลอ้ มให้ เอือ้ อานวยต่อชีวิตจึงเปน็ สิ่งจาเป็น เพราะมนษุ ย์กบั ส่ิงแวดล้อมไม่สามารถแยกออกจากกันได้ สขุ ภาพกายและจติ ที่ดจี ึงต้องอาศยั การอยู่ในส่งิ แวดล้อมเชิงกายภาพและสงั คมท่ดี ี ซ่งึ จะเกดิ ขึน้ ได้ เมือ่ ทกุ คนในชุมชนชว่ ยกนั สรา้ งสรรค์ คาถามชวนคิด : สังคมไทยจะเป็นอย่างไร หากเยาวชนไทยตดิ ยาเสพติดให้ โทษ อาเช่ียนนา่ รู้ อาเซยี นไดป้ ระกาศเจตนารมณ์และเปา้ หมายรว่ มกันในการเป็นเขตปลอดยาเสพติด อาเซยี นภายในปี 2015 ทุกประเทศอาเซียนจึงต้องร่วมกันวางมาตรการเพ่ือสกัดก้นั ยาเสพติด โดยเฉพาะประเทศไทยตอ้ งยอมรับว่ามสี ถานการณ์ความรุนแรงของยาเสพติด มากท่สี ุดใน อาเซียนเพราะเป็นประเทศทางผ่าน จึงเป็นเป้าหมายในการลาเลียงยาเสพติดไปยงั ประเทศ อื่น
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: