กลุ่มชา

Tea = ชา

ต้นกาเนิด ชามีต้นกาเนดิ มาจากประเทศจีนกว่า 4,000 ปีมีแลว้ กล่าวคือเม่ือ 2,737 ปกี ่อนคริสตศ์ ักราช ชาเขียวได้ถูกคน้ พบโดยจักรพรรดนิ ามว่า เสินหนง ซึ่งเปน็ บัณฑติ และนักสมนุ ไพร ผู้รักความสะอาดเป็นอย่าง มาก ด่ืมเฉพาะนา้ ต้มสุกเท่าน้นั วันหนึ่งขณะที่เสนิ หนงกาลังพักผ่อนอยู่ ใต้ต้นชาในปา่ และกาลังตม้ นา้ อยู่นั้น ปรากฏว่าลมไดโ้ บกก่ิงไม้ เปน็ เหตใุ ห้ใบชาร่วงหล่นลงในน้าซ่ึงใกล้เดือดพอดี เม่ือเขาลองด่ืมก็เกดิ ความร้สู กึ กระปรี้กระเปร่าข้ึนมาก และน่คี ือต้นกาเนิดของชานนั่ เอง

ต้นกาเนิดชาในไทย “ การพัฒนาอตุ สาหกรรมชาของประเทศไทย เร่ิมขึ้น “ ประเทศไทยไมป่ รากฏหลักฐานว่านาชาเข้ามาได้อยา่ งไร แต่จาก อยา่ งจรงิ จังในปี พ.ศ. 2480 โดย นายประสทิ ธ์ิ จดหมายของท่านลาลูแบร์ ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ มหาราช ได้กล่าวไวว้ ่า คนไทยไดร้ ู้จักการด่ืมชาแล้ว โดยนยิ มชงชาเพ่ือ และนายประธาน พุ่มชูศรี สองพี่น้องได้ตั้งบริษัท ใบ รับแขก การดื่มชาของคนไทยสมัยนัน้ ด่ืมแบบชาจีนไม่ใส่นา้ ตาล สาหรับ ชาตราภูเขา จากัด และสร้างโรงงานชาขนาดเล็กขน้ึ ที่ การปลูกชาในประเทศไทยนั้น แหล่งกาเนิดเดิมอยู่ทางภาคเหนอื อาเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ โดยรับซ้ือใบชาสด จากชาวบ้านที่ทาเมี่ยงอยู่แล้ว แต่ปรากฏว่าพบปัญหา อปุ สรรคหลายประการ เช่น ใบชาสดมีคณุ ภาพตา่ ปริมาณไม่เพียงพอ สองพี่น้องตระกูลพุ่มชูศรี ได้ แก้ปัญหาการขาดแคลนวัตถดุ บิ โดยเร่ิมปลูกสวนชา เป็นของตนเอง และมกี ารพัฒนาข้นึ เร่ือยๆ

จนต่อมา เอกชนเร่ิมให้ความสนใจอตุ สาหกรรมการผลิตชามากข้ึนโดยในปี พ.ศ. 2530 เริ่มส่งเสรมิ ให้เกษตรกรท่ปี ลูกไร่ชาในบรเิ วณใกล้เคยี ง ปลูกสวนชาแบบใหม่ และทาการ รับซ้ือใบชาสดจากเกษตรกรนามาผลิตชาฝรั่งจนกระท่งั ปัจจบุ ัน

ประเภทของชา : หากจาแนกชนดิ ของชาตามกระบวน การผลิตชา จะแบ่งได้เปน็ 6 ชนิด 1 ชาขาว (White Tea) 2 ชาเขียว (Green Tea) เปน็ ยอดชาตูมและอ่อนมาก มีขนสีขาวบางๆ ปกคลุม เปน็ ยอดชาอ่อนสีเขยี ว หลังจากเกบ็ เกยี่ วจะรีบนามาอบด้วยไอนา้ เพ่ือ จนดูเหมอื นใบชาเป็นสีขาว หลังจากเก็บเกี่ยวจะรีบ คงความสดใหม่ของใบชาเอาไว้ ชาเชียวเป็นชาทคี่ นญปี่ ุ่นนยิ มดมื่ มาก นามาตากแดดหรือลมให้แห้งอย่างรวดเร็ว ซ่ึงเป็นวธิ ี ที่สุดชาเชียวที่นิยมดมื่ มี 2 ประเภท คือ ชาเขียวญปี่ ุ่นและชาเขยี วจนี แบบดัง้ เดมิ โดยไม่ผา่ นการหมกั บ่ม

ประเภทของชา : หากจาแนกชนิดของชาตามกระบวน การผลิตชา จะแบ่งได้เปน็ 6 ชนดิ 3 ชาอูหลง (Oolong Tea) 4 ชาดา (Black Tea) ชาอูหลง หรอื “ชามังกรดา” เป็นชาชื่อดังของประเทศจีน ชาดา หรือ “ชาฝรั่ง” เปน็ ชาที่ขืน้ ขอ่ื ว่ามรี สชาติเข้มขน้ และกลิ่น ผลติ จากยอดชาเช่นเดยี วกับชาเขยี ว แต่นามาหมักบ่มอีก หอมมากที่สุด ผลิตจากใบชาแห้งดว้ ยวิธีการรีดน้าออกจนหมด แล้วนาไปหมกั บ่มจนแหง้ สนิท ชงแล้วจะมีสีส้มหรือสีน้าตาลแดง ครัง้ น้าชาอูหลงมสี ีเหลืองอมเขยี ว

ประเภทของชา : หากจาแนกชนิดของชาตามกระบวน การผลติ ชา จะแบ่งได้เปน็ 6 ชนิด 5 ชาแต่งกล่นิ 6 ชาสมนุ ไพร (Herbal Tea) (Flavored Tea) เป็นชาที่ทาจากสมนุ ไพรแท้โดยไมม่ ใี บชาแมแ้ ตน่ ้อย เป็นชาสูตรใหม่ที่นาชาดามาแต่งกล่ินด้วยผลไม้หรอื ดอกไม้ โดยนา สมุนไพรที่นิยมใช้ ได้แก่ เก๊กฮวย ตะไคร้ มะตูม ผลไม้ที่หนั่ เปน็ ช้นิ เลก็ และกลีบดอกไม้ ชนดิ ที่ต้องการ มาอบแห้ง ด้วยเตาอบลมร้อนหรอื สกัดน้าออก บางยี่ห้ออาจมกี ารแตง่ กล่ิน ดอกกระเจี๊ยบ ขงิ เป็นต้น หรอื เพิ่มน้าตาลลงไปเลก็ น้อย เพื่อใหร้ สชาติถูกปากมากขน้ึ

สายพันธุ์ที่นยิ มปลูกในไทย กลุ่มชาพันธอุ์ ัสสัม (Assam Tea) ชาอัสสัมเปน็ พันธ์ชุ าที่ใบใหญก่ ว่าชาพันธจ์ุ ีน เป็นพันธท์ุ ี่เจรญิ เตบิ โต ได้ดใี นปา่ เขตร้อนชื้นทมี่ ีรม่ ไมแ้ ละแสงแดดพอประมาณ ชาพันธุ์ อัสสัมพบมากบนเขตพ้ืนทสี่ ูงแถบภาคเหนือของไทยในจงั หวัด เชียงใหม่ เชียงราย น่าน ลาปาง และแพร่ กลุ่มชาพันธจ์ุ ีน (Chinese Tea) เป็นสายพันธทุ์ นี่ ิยมปลกู เนอื่ งจากให้ผลผลิตสูงและเป็นทตี่ ้องการของ ตลาด ปลูกมากในพืน้ ทภี่ าคเหนือตอนบน เช่น จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ซ่ึงการปลูกจะปลูกเป็นแถวแบบขนั้ บนั ได

“ กระบวนการเกบ็ ชา “ ยอดชาต้องแห้งไม่มีน้าคา้ ง หรอื นา้ ฝนเกาะ 2 3 เกบ็ ยอดชาลงในตะกร้าไม้ไผ่ โดยห้ามอัดให้แน่น เนอื่ งจากจะทาให้ยอดชาหักชา้ ได้ เก็บชาที่ไม่อ่อนหรือแก่เกินไป ให้เกบ็ ยอด 1 4 หลังจากยอดเตม็ ตะกร้าแล้ว ต้องนาไป 1 ยอด พร้อมกับใบอ่อน 3-4 ใบ ไว้ในทรี่ ่ม ห้ามนาไปตากแดด

““ กระบวนการเกบ็ ชา 5 ยอดชาท่เี กบ็ แล้วต้องส่งให้ถึงโรงงานแปรรูปใน 2 ชั่วโมง 6 หลังเวลา 15.00 น. ห้ามเกบ็ ยอดชา เนอื่ งจากจะผ่ึงแดดไม่ทัน 7 กรณีฝนตก ยอดชาเปยี ก ห้ามเก็บชา

กระบวนการผลิตชา 7 1 การคัดบรรจุ (Sorting and การเก็บใบชา (Tea plucking) packing) 2 4 6 การผ่ึงชา การนวดชา การอบแหง้ (Withering) (Rolling) (Drying) 3 5 การคั่วชา การหมักชา (Pan firing) (Fermentation)

ชาประเทศญ่ปี ุน่ ชาชนิดหนงึ่ ที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น คือ ชาเขียวมัจฉะ ทาจากใบชาสีเขยี วจัด โดยการใช้เส่ือไม้ไผม่ ุงโรงชา เพื่อลดปริมาณแสง ทาให้ต้นชาผลิตคลอโรฟิลล์ มากข้ึนเปน็ พเิ ศษ จากนัน้ นาใบชามาบดละเอียดด้วยโม่หิน

ชาประเทศไต้หวัน ชานมไข่มุก เมนูยอดฮติ ที่ใครหลายๆคนโปรดปราน Bubble Tea หรือ Pearl Milk Tea โดยแต่เดมิ ไข่มกุ จะเปน็ สีขาว (ทามาจากเมด็ สาค)ู แต่ภายหลังได้มี การเปลี่ยนไข่มกุ เปน็ สีดา เพอื ให้เตะตาผบู้ รโิ ภคมากขนึ้

ชาประเทศอังกฤษ ประเทศองั กฤษไม่ได้เป็นประเทศที่ผลิตชา และไม่ไดม้ ีวฒั นธรรมพืน้ ฐานที่เกี่ยวข้องกับ ชามาก่อน แต่การล่าอาณานิคมไดท้ าให้อังกฤษเปิดตัวเองเพื่อรับวัฒนธรรมโบราณ ของประเทศอาณานคิ ม จนกลายมาเปน็ วัฒนธรรมชายามบ่าย (Afternoon Tea)

ผู้จัดทา 63-6004 เองิ 63-6047 การ์ตูน 63-6057 อเลกซ์

ผู้จัดทา 63-6129 ต้นกล้า 63-6151 อีฟ 63-6208 อัญอัญ

Thank you

Tea = ชา