Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 เรื่อง การคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 เรื่อง การคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

Published by varaphot18, 2022-05-19 03:41:03

Description: หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 เรื่อง การคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

Search

Read the Text Version

กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ 1. ครตู ิดบตั รสถานการณบ์ นกระดาน“แม่บรจิ าคดินสอสี 13 กลอ่ ง กล่องละ 12แท่ง แม่บรจิ าคดนิ สอ สที ง้ั หมดกแี่ ท่ง” ครูใช้การถาม – ตอบ เพื่อให้นักเรียนวิเคราะหส์ ถานการณ์ ดังน้ี − แมบ่ ริจาคดินสอสีกีก่ ลอ่ ง (แมบ่ ริจาคดนิ สอสี 13 กลอ่ ง) − แต่ละกลอ่ งมดี นิ สอสีกแ่ี ทง่ (แต่ละกลอ่ งมีดนิ สอสี 12 แท่ง) − จากสถานการณน์ ี้ คำถามคืออะไร (แม่บรจิ าคดินสอสีท้งั หมดกแ่ี ท่ง) − เขยี นประโยคสญั ลกั ษณไ์ ด้อย่างไร (13 × 12 = ) − หาคำตอบได้อยา่ งไรครใู หน้ ักเรียนใช้แผ่นตารางสบิ และแผ่นตารางหน่วย นำมา จดั เปน็ กลมุ่ ตามประโยคสญั ลักษณ์การคูณ จะไดแ้ ผ่นตารางสิบและแผน่ ตารางหนว่ ย13 กล่มุ กลมุ่ ละ 12 หน่วย ครูถามนักเรียนว่า 13 กลุ่ม แยกเป็น 10 กลุ่ม กับ 3 กลมุ่ ไดก้ ล่มุ ละกหี่ น่วย นักเรียนตอบวา่ ได้ 10 กลุ่ม กลมุ่ ละ 12 หน่วย กบั 3 กลมุ่ กลุ่มละ 12 หน่วย ตามหนงั สอื เรยี นหน้า 249 ดังรปู 2.นกั เรยี นจัดแผ่นตารางสบิ และแผ่นตารางหนว่ ยแสดง 13 × 12 = จากนน้ั ร่วมกันหาคำตอบ 10 กล่มุ กลมุ่ ละ12 คิดได้จาก 10 × 12 = 120 กบั 3 กลุ่ม กล่มุ ละ 12 คดิ ไดจ้ าก 3 × 12 = 36 ดังน้นั 13 × 12 = 120 + 36= 156 ครูถามนกั เรยี นวา่ จะหาผลคูณโดยการตั้งคูณได้อยา่ งไร ครูอธบิ าย การหาผลคณู โดย การตง้ั คูณ ตามหนงั สือเรยี นหน้า 249 ดงั นี้ จะได้ 13 × 12 = 156 ดังนั้น แม่บรจิ าคดนิ สอสที ง้ั หมด 156 แท่ง 3.ครูอธิบายวา่ การหาผลคูณของจำนวน 2 หลกั กับจำนวน 2หลกั โดยการตง้ั คณู เช่น 13 × 12 = กอ่ นท่ีจะคูณตอ้ งกระจาย 13 เป็น 10 กับ 3แล้วหาผลคูณ ดงั นี้ ขนั้ ท่ี 1 นำ 3 คณู กับ 12 ได้ 36 ขั้นท่ี 2 นำ 10 คูณกบั 12 ได้ 120 ขัน้ ที่ 3 นำผลคณู ที่ไดม้ าบวกกัน จะได้ 36 + 120 = 156

ดังนนั้ 13 × 12 = 156 ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สรุปคำตอบแมบ่ ริจาคดนิ สอสีทง้ั หมด 156 แท่ง 4.ครถู ามนักเรยี นวา่ ถ้าจะหาผลคูณของ 12×13 จะทำไดอ้ ย่างไรครถู ามนักเรยี นวา่ 12 × 13 มี ความหมายว่าอย่างไรนักเรยี นตอบว่า 12 × 13 หมายถงึ 12 กล่มุ กลมุ่ ละ 13 หรอื 10 กลมุ่ กลุม่ ละ 13 กบั 2 กลมุ่ กลมุ่ ละ 13 ครูให้นักเรยี นจัด แผน่ ตารางสิบและแผน่ ตารางหน่วยแสดง 12 × 13 ได้ ดงั นี้ 5.ครูถามนักเรียนวา่ มีแผ่นตารางหน่วยท้ังหมดเทา่ ไร นกั เรยี นตอบว่า 10 กลุ่ม กลุ่มละ 13 คดิ ไดจ้ าก 10× 13 =130 และ 2 กลุ่ม กลมุ่ ละ 13 คดิ ไดจ้ าก 2 × 13 = 26 ดังนนั้ 12 × 13 = 130 + 26 = 156 ครอู ธิบายวา่ การหาผลคณู ของจำนวน 2 หลักกับจำนวน 6.หลักโดยการต้ังคูณ เชน่ 12 × 1 = ก่อนทจ่ี ะคูณ ต้องกระจาย12 เปน็ 10 กับ 2 แล้วหาผล คูณตามหนังสอื เรียนหน้า 250 ดงั น้ี ขน้ั ที่ 1 นำ 2คณู กบั 13 ได้ 26 ขนั้ ท่ี 2 นำ 10 คูณกบั 13 ได้ 130 ข้ันที่ 3 นาผลคูณที่ไดม้ าบวกกนั จะได้ 26 + 130 = 156 ดังนัน้ 12 × 13 = 156 จากนน้ั ครใู ห้นักเรยี นสงั เกตการคูณโดยการตั้งคณู ของ 13 × 12 = 156 และ12 × 13 = 156 ครกู บั นักเรียนรว่ มกนั อภปิ รายวา่ การคณู จำนวน 2 หลักกับจำนวน 2 หลกั หาผลคณู โดยการกระจายจำนวนใดจำนวนหน่งึ ตามคา่ ประจำหลกั แลว้ นำไปคูณกบั อีกจำนวนหนึง่ เช่น 12 × 13 หาผลคณู โดยกระจาย 12 เป็น 10 กบั 2 แลว้ นำไปคูณกับ 13 หรือกระจาย 13 เปน็ 10 กับ 3 แลว้ นำไปคูณกบั 12 ได้ผลคูณเท่าเดมิ 7.ครูและนักเรียนร่วมกนั สรุปเกีย่ วกบั การหาผลคูณ ของจำนวน 2 หลกั กบั จำนวน 2 หลกั โดยการตงั้ คูณ สามารถทำไดโ้ ดยกระจายจำนวนใดจำนวนหน่งึ ตามค่าประจำหลักแล้วนำไปคูณกบั อีกจำนวนหนึ่งโด เร่ิมจากหลักหน่วยและหลักสบิ ตามลำดบั แล้วนำผลคูณที่ได้มาบวกกัน จากนัน้ ใหน้ ักเรียนทำใบงานท่ี

ส่ือการเรียนรู้ 1.หนังสือเรียนคณิตศาสตร์ ป.3 2.ใบงานท่ี 7 เรอื่ ง การหาผลคูณของจำนวนสองหลักกับจำนวนสองหลักโดยการต้งั คณู การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ จุดประสงคก์ าร วิธวี ดั เคร่ืองมือวดั เกณฑ์การประเมิน เรยี นรู้ 1. ด้านความรู้ (K) ตรวจทำใบงาน ใบงาน 60% ข้ึนไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์ การประเมนิ 2. ดา้ นทกั ษะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรียนได้คะแนนระดับ กระบวนการ (P) ทกั ษะกระบวนการ ด้านทกั ษะ คุณภาพดีข้ึนไป กระบวนการ 3. ดา้ นคุณลกั ษณะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรียนได้คะแนนระดบั ที่พงึ ประสงค์ (A) คุณลักษณะที่พึงประสงค์ ดา้ นคณุ ลกั ษณะ คุณภาพดีข้นึ ไป ท่พี ึงประสงค์ เกณฑก์ ารประเมินแบบฝกึ หัด/ใบงาน ประเด็นการประเมนิ ระดับคุณภาพ 1. 1.ความถกู ต้องของ เนือ้ หา 4 3 21 2. รปู แบบ เนื้อหาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ เนือ้ หาสาระของ 3. ความเป็นระเบียบ ผลงานถกู ต้อง ผลงานถูกต้องเปน็ ผลงานถูกต้อง ผลงานไม่ถูกต้อง ครบถว้ น ส่วนใหญ่ บางประเด็น เปน็ สว่ นใหญ่ การนำเสนอ การนำเสนอถกู ต้อง การนำเสนอ การนำเสนอไม่ น่าสนใจและ เปน็ สว่ นใหญ่ ถูกต้องบางส่วน เป็นไปตามเกณฑ์ เหมาะสมกับ สถานการณ์ ผลงานมคี วาม ผลงานส่วนใหญ่มี ผลงานมี ผลงานไม่มีความ เปน็ ระเบียบ ข้อบกพร่อง ขอ้ บกพร่อง เปน็ ระเบียบ เลก็ น้อย บางส่วน

เกณฑ์ประเมนิ คุณภาพ 10 - 12 คะแนน หมายถึง ดีมาก ระดับ 4 4 - 6 คะแนน หมายถงึ พอใช้ ระดบั 2 7 - 9 คะแนน หมายถงึ ดี ระดับ 3 1-3 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง ระดบั 1 เกณฑ์การให้คะแนนด้านทักษะและกระบวนการทำงาน ทกั ษะและกระบวนการ: การให้เหตุผล คะแนน:ระดับคุณภาพ ความสามารถในการให้เหตผุ ลท่ปี รากฏให้เห็น 4 : ดีมาก มกี ารอ้างอิง เสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสินใจอยา่ งมีเหตุผล 3 : ดี มกี ารอ้างอิงทถ่ี ูกต้องบางส่วน และเสนอแนวคิดประกอบการตดั สินใจ 2 : พอใช้ เสนอแนวคิดไม่สมเหตสุ มผลในการประกอบการตัดสนิ ใจ 1 : ควรปรับปรงุ แก้ไข มคี วามพยายามเสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสินใจ ทกั ษะและกระบวนการ : การแก้ปญั หา คะแนน:ระดบั คุณภาพ ความสามารถในการแก้ปัญหาทป่ี รากฏใหเ้ หน็ 4 : ดีมาก ใชก้ ระบวนการแก้ปญั หาไดส้ ำเร็จ อย่างมีประสิทธภิ าพ อธิบายถงึ เหตผุ ล หลกั การและขั้นตอนในการแก้ปญั หาได้เข้าใจชัดเจนนำมาซ่งึ คำตอบที่ถูกต้อง 3 : ดี ใชก้ ระบวนการแก้ปญั หาได้สำเรจ็ แตน่ ่าจะอธิบายถึงเหตุผล หลักการและขั้นตอนในการแก้ปญั หาได้ดกี ว่านี้ 2 : พอใช้ มกี ระบวนการแกป้ ัญหา สำเร็จเพียงบางสว่ น อธิบายถงึ เหตผุ ล หลักการและข้ันตอนในการแก้ปัญหาได้บางสว่ น 1 : ควรปรับปรงุ แก้ไข มีร่องรอยการแกป้ ัญหาบางสว่ น เริ่มคดิ ใชเ้ หตุผล หลักการและขัน้ ตอน ในการแกป้ ญั หา แลว้ หยุด อธิบายต่อไม่ได้ แกป้ ญั หาไม่สำเร็จ ทักษะ และกระบวนการ: การเชอ่ื มโยง สรุปองค์ความรู้ คะแนน:ระดบั ความสามารถในการเชอ่ื มโยงท่ีปรากฏให้เห็น คณุ ภาพ นำความรู้ หลักการ และวิธกี ารทางคณิตศาสตรใ์ นการเช่อื มโยงกบั สาระคณิตศาสตร์ 4 : ดีมาก หรือกจิ กรรมทต่ี ้องใชอ้ งคค์ วามรู้ทีเ่ รียนได้ถกู ต้องทุกกจิ กรรมเพ่ือช่วยในการแกป้ ญั หา หรอื ประยุกต์ใช้ได้อย่างสอดคลอ้ งและเหมาะสม

นำความรู้ หลกั การ และวิธีการทางคณิตศาสตรใ์ นการเชื่อมโยงกับสาระคณิตศาสตร์ 3 : ดี หรอื กิจกรรมที่ต้องใชอ้ งค์ความรทู้ ่ีเรยี นได้เป็นสว่ นใหญ่ เพ่ือชว่ ยในการแก้ปัญหาหรอื ประยุกต์ใช้ได้บางสว่ น 2 : พอใช้ นำความรู้ หลักการ และวิธกี ารทางคณิตศาสตร์ไปเชอ่ื มโยงกบั สาระคณิตศาสตรห์ รอื กิจกรรมที่ตอ้ งใช้องคค์ วามร้ทู ่ีเรียนไดบ้ างสว่ น 1 : ควรปรบั ปรุง นำความรู้ หลกั การ และวิธีการทางคณิตศาสตร์ในการเช่อื มโยงยังไมเ่ หมาะสม สรปุ แกไ้ ข องค์ความรู้ที่ได้ เกณฑ์การใหค้ ะแนนด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ : นักเรยี นใฝ่เรียนรู้ คะแนน : ระดับ คุณลักษณะท่ปี รากฏใหเ้ หน็ คณุ ภาพ 3 : ดีมาก - มคี วามสนใจ / ความตง้ั ใจตลอดระยะเวลาการเรียนรู้ 2 : ดี - มีความสนใจ / ความตั้งใจเปน็ บางครงั้ 1 : พอใช้ - มคี วามสนใจ / ความตงั้ ใจในระยะเวลาสน้ั ๆ ชอบเลน่ ในเวลาเรยี น คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ : นักเรยี นมีความมุง่ ม่นั ในการทำงาน คะแนน : ระดบั คุณลกั ษณะทีป่ รากฏใหเ้ หน็ คุณภาพ 3 : ดีมาก - สง่ งานกอ่ นหรอื ตรงกำหนดเวลานดั หมาย - รบั ผดิ ชอบในงานทีไ่ ดร้ บั มอบหมายและปฏิบัติตนเองจนเปน็ นสิ ยั 2 : ดี - ส่งงานชา้ กว่ากำหนด แต่ได้มีการติดต่อชแี้ จงผสู้ อน มีเหตุผลทีร่ ับฟังได้ - รับผดิ ชอบในงานทไ่ี ด้รบั มอบหมายและปฏบิ ตั ติ นเองจนเปน็ นสิ ัย 1 : พอใช้ - ส่งงานชา้ กวา่ กำหนด - ปฏิบตั ิงานโดยต้องอาศัยการช้แี นะ แนะนำ ตักเตือนหรือใหก้ ำลงั ใจ 1 : พอใช้ - ส่งงานช้ากว่ากำหนด - ปฏบิ ัตงิ านโดยต้องอาศยั การชี้แนะ แนะนำ ตักเตือนหรือให้กำลงั ใจ

ใบงานท่ี 7 เรื่อง การหาผลคูณของจำนวนสองหลกั กับจำนวนสองหลกั โดยการต้ังคณู หาผลคูณ 1. 12 × 15 ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ............................………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. 13 × 14 ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ............................………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. 18 × 15 ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ............................………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. 15 × 16 ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ............................………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. 16 × 56 ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ............................…………………………………………………………………………………………………………………………………

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 9 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ รหัสวชิ า ค 13101 ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 3 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 7 เรื่อง การคณู เรอ่ื ง การหาผลคูณของจำนวนสองหลักกบั จำนวนสองหลักโดยการต้ังคูณ เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง สอนวันท่ี_________เดอื น________________พ.ศ.256_ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของจำนวน ผลที่เกดิ ขนึ้ จากการดำเนินการ สมบัติของการดำเนินการ และนำไปใช้ ตัวช้ีวดั : ค 1.1 ป.3/6 หาคา่ ของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสัญลกั ษณ์ แสดงการคูณของจำนวน 1 หลักกบั จำนวนไม่เกิน 4 หลัก และจำนวน 2 หลักกบั จำนวน 2 หลกั จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้สู่ตวั ช้ีวัด 1.บอกวธิ หี าผลคูณของจำนวน 2 หลักกับจำนวน 2 หลกั โดยการต้ังคูณ (K) 2.หาผลคณู ของจำนวน 2 หลักกับจำนวน 2 หลกั โดยการตั้งคณู (P) 3.นักเรยี นมคี วามมุง่ ในการทำงานและสามารถนำความรู้ที่ไดไ้ ปต่อยอดในการเรยี นเร่ืองต่อไป (A) สาระสำคัญ การหาผลคณู ของจำนวน 2 หลัก กับจำนวน 2 หลักโดยการตง้ั คูณทำไดโ้ ดย กระจายจำนวนใด จำนวนหน่ึงตามค่าประจำหลกั แล้วนำไปคูณกับอีกจำนวนหน่งึ โดยเรมิ่ คณู จากหลกั หนว่ ยและหลกั สบิ ตามลำดับแลว้ นำผลคณู ท่ีไดม้ าบวกกนั สาระการเรยี นรู้ 1.ความรู้ การหาผลคูณของจำนวนสองหลักกับจำนวนสองหลักโดยการตั้งคณู 2.ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ 1.ความสามารถในการสอื่ สารความหมายทางคณิตศาสตร์ 2.การเชอ่ื มโยง 3.คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน ช้ินงานหรือภาระงาน ใบงานท่ี 8 เรอ่ื ง การหาผลคูณของจำนวนสองหลกั กับจำนวนสองหลักโดยการตัง้ คณู

กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ 1. ครูยกตวั อยา่ งการหาผลคูณของ จำนวน 2 หลักกับจำนวน 2 หลัก โดยการ ต้ังคณู ตามหนงั สือ เรียนหน้า 251 เช่น 32 × 14 = ครแู ละนักเรียนร่วมกันเขียน แสดงวธิ ีหาผลคณู วิธที ่ี 1 การกระจาย 14 เป็น 10 กับ 4 ดงั น้ี ] ขั้นท่ี 1 นำ 4 คณู กับ 32 ได้ 128 ข้นั ท่ี 2 นำ 10 คูณกับ 32 ได้ 320 ขัน้ ที่ 3 นำผลคณู ท่ไี ด้มาบวกกนั จะได้ 128 +320 = 448 ดงั น้ัน 32 × 14 = 448 และวิธีท่ี2 กระจาย 32 เป็น 30 กบั 2 ดังน้ี ขน้ั ท่ี 1 นำ 2 คณู กบั 14 ได้ 28 ขน้ั ท่ี 2 นำ 30 คูณกับ 14 ได้ 420 ขั้นท่ี 3 นำผลคณู ทไ่ี ดม้ าบวกกัน จะได้ 28 + 420 = 448 ดงั น้นั 32 × 14 = 448 ครูอธิบายเพ่ิมเติมวา่ ในการเขียนแสดงวธิ หี า ผลคณู ของ32 × 14 =โดยการตง้ั คณู นัน้ นักเรยี นสามารถ เลือกได้วา่ จะกระจาย 32 หรือ กระจาย14 ก็ไดด้ งั น้ัน นักเรยี นสามารถเขียน แสดงวธิ หี าคำตอบได้วิธใี ดวธิ ี หนึง่ จากวธิ ขี ้างตน้ จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนชว่ ยกันเขียนแสดงวิธีหาผลคณู ในกรอบทา้ ยหนังสือเรยี นหนา้ 251 ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้อง 2. ครูยกตัวอย่างการหาผลคูณของจำนวน 2หลกั กับจำนวน 2 หลกั โดยการ ตงั้ คณู ตามหนังสือ เรียนหนา้ 252 เชน่ 47 × 34 = ครูใหน้ ักเรียนชว่ ยกัน เขยี นแสดงวธิ หี าผลคณู โดยการตง้ั คูณ ซ่งึ นักเรยี น บางคนอาจจะกระจาย 47 เปน็ 40กับ 7 เขียนแสดงวธิ ีหาผลคณู ไดด้ ังน้ี

3.นกั เรียนบางคนอาจกระจาย 34 เปน็ 30 กบั 4 เขยี นแสดงวธิ หี าผลคูณได้ดังน้ี 4.จากน้นั ครใู ห้นกั เรยี นช่วยกันเขยี นแสดงวิธีหา ผลคูณในกรอบท้ายหนงั สือเรียนหนา้ 252 ครแู ละ นักเรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้อง 5.สรปุ ว่าการหาผลคูณของจำนวน 2 หลักกบั จำนวน 2 หลกั โดยการตง้ั คูณทำได้โดย กระจายจำนวน ใดจำนวนหน่งึ ตามค่าประจำหลักแลว้ นำไปคูณกับอกี จำนวนหน่ึงโดยเรมิ่ คณู จากหลักหน่วยและหลักสิบ ตามลำดับแลว้ นำ ผลคณู ที่ได้มาบวกกันจากนั้นครูและนกั เรยี น ร่วมกันตรวจสอบความถูกตอ้ งและสรปุ สิ่งท่ีได้ เรียนรู้ ถา้ มีนักเรยี นเขียนแสดงวิธีหาผลคณู โดยการตง้ั คูณไม่ถกู ต้องครูควรใหน้ กั เรยี น จากนน้ั ให้นกั เรยี นทำ ใบงานท่ี 8 ส่ือการเรยี นรู้ 1.หนังสือเรียนคณติ ศาสตร์ ป.3 2. ใบงานที่ 8 เรื่อง การหาผลคูณของจำนวนสองหลักกบั จำนวนสองหลักโดยการต้งั คณู

การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ จดุ ประสงคก์ าร วธิ วี ดั เครอื่ งมือวดั เกณฑก์ ารประเมิน เรียนรู้ ใบงาน 60% ขน้ึ ไป ถือว่าผา่ นเกณฑ์ การประเมิน 1. ด้านความรู้ (K) ตรวจทำใบงาน แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรยี นได้คะแนนระดบั ด้านทักษะ คณุ ภาพดีขึ้นไป 2. ดา้ นทักษะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน กระบวนการ กระบวนการ (P) ทกั ษะกระบวนการ แบบสงั เกตพฤติกรรม นักเรยี นได้คะแนนระดบั ด้านคุณลักษณะ คณุ ภาพดีขนึ้ ไป 3. ดา้ นคุณลกั ษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น ทพ่ี ึงประสงค์ ทพี่ งึ ประสงค์ (A) คณุ ลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ เกณฑก์ ารประเมนิ แบบฝกึ หัด/ใบงาน ประเด็นการประเมนิ ระดับคุณภาพ 1. 1.ความถกู ต้องของ เนอ้ื หา 4 3 21 2. รูปแบบ เนือ้ หาสาระของ เนือ้ หาสาระของ เน้ือหาสาระของ เนื้อหาสาระของ 3. ความเปน็ ระเบยี บ ผลงานถกู ต้อง ผลงานถกู ต้องเป็น ผลงานถกู ต้อง ผลงานไมถ่ ูกตอ้ ง ครบถ้วน ส่วนใหญ่ บางประเด็น เปน็ สว่ นใหญ่ การนำเสนอ การนำเสนอถกู ต้อง การนำเสนอ การนำเสนอไม่ นา่ สนใจและ เป็นสว่ นใหญ่ ถกู ต้องบางส่วน เป็นไปตามเกณฑ์ เหมาะสมกบั สถานการณ์ ผลงานมีความ ผลงานสว่ นใหญม่ ี ผลงานมี ผลงานไม่มีความ เป็นระเบียบ ข้อบกพร่อง ข้อบกพร่อง เป็นระเบยี บ เล็กน้อย บางสว่ น

เกณฑ์ประเมนิ คณุ ภาพ 10 - 12 คะแนน หมายถงึ ดีมาก ระดบั 4 4 - 6 คะแนน หมายถงึ พอใช้ ระดับ 2 7 - 9 คะแนน หมายถงึ ดี ระดับ 3 1-3 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง ระดบั 1 เกณฑ์การใหค้ ะแนนดา้ นทักษะและกระบวนการทำงาน ทกั ษะและกระบวนการ: การให้เหตผุ ล คะแนน:ระดบั คณุ ภาพ ความสามารถในการใหเ้ หตุผลที่ปรากฏใหเ้ หน็ 4 : ดีมาก มีการอ้างอิง เสนอแนวคิดประกอบการตัดสนิ ใจอย่างมเี หตุผล 3 : ดี มกี ารอ้างอิงที่ถูกต้องบางสว่ น และเสนอแนวคดิ ประกอบการตดั สนิ ใจ 2 : พอใช้ เสนอแนวคดิ ไมส่ มเหตสุ มผลในการประกอบการตัดสนิ ใจ 1 : ควรปรบั ปรงุ แกไ้ ข มคี วามพยายามเสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสินใจ ทกั ษะและกระบวนการ : การแก้ปญั หา คะแนน:ระดับคุณภาพ ความสามารถในการแก้ปญั หาท่ปี รากฏใหเ้ หน็ 4 : ดีมาก ใชก้ ระบวนการแก้ปญั หาไดส้ ำเรจ็ อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ อธิบายถึงเหตุผล หลักการและข้ันตอนในการแก้ปญั หาได้เขา้ ใจชดั เจนนำมาซึ่งคำตอบท่ีถูกต้อง 3 : ดี ใช้กระบวนการแกป้ ัญหาไดส้ ำเร็จ แตน่ า่ จะอธบิ ายถึงเหตุผล หลักการและข้นั ตอนในการแก้ปญั หาได้ดีกว่าน้ี 2 : พอใช้ มกี ระบวนการแก้ปัญหา สำเร็จเพยี งบางสว่ น อธิบายถงึ เหตุผล หลักการและขั้นตอนในการแก้ปัญหาได้บางสว่ น 1 : ควรปรับปรุงแก้ไข มีร่องรอยการแก้ปัญหาบางสว่ น เรม่ิ คดิ ใชเ้ หตุผล หลกั การและขั้นตอน ในการแกป้ ญั หา แลว้ หยดุ อธิบายตอ่ ไม่ได้ แกป้ ัญหาไมส่ ำเรจ็

ทักษะ และกระบวนการ: การเช่อื มโยง สรปุ องค์ความรู้ คะแนน:ระดบั ความสามารถในการเชื่อมโยงทีป่ รากฏให้เหน็ คุณภาพ นำความรู้ หลักการ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตรใ์ นการเชอ่ื มโยงกบั สาระคณติ ศาสตร์ 4 : ดมี าก หรอื กจิ กรรมท่ีต้องใช้องคค์ วามร้ทู ีเ่ รียนได้ถกู ต้องทุกกจิ กรรมเพื่อชว่ ยในการแกป้ ัญหา หรอื ประยุกต์ใชไ้ ด้อยา่ งสอดคล้องและเหมาะสม นำความรู้ หลกั การ และวิธกี ารทางคณิตศาสตรใ์ นการเชอ่ื มโยงกบั สาระคณิตศาสตร์ 3 : ดี หรอื กิจกรรมที่ต้องใชอ้ งค์ความรทู้ ีเ่ รียนได้เป็นสว่ นใหญ่ เพื่อช่วยในการแก้ปญั หาหรอื ประยกุ ต์ใช้ได้บางส่วน 2 : พอใช้ นำความรู้ หลักการ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตร์ไปเชื่อมโยงกับสาระคณิตศาสตร์หรือ กิจกรรมท่ีต้องใช้องค์ความรทู้ ่ีเรยี นไดบ้ างสว่ น 1 : ควรปรบั ปรงุ นำความรู้ หลักการ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตรใ์ นการเชื่อมโยงยงั ไม่เหมาะสม สรปุ แกไ้ ข องค์ความรทู้ ่ีได้ เกณฑ์การใหค้ ะแนนด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ : นักเรยี นใฝเ่ รียนรู้ คะแนน : ระดับ คณุ ลกั ษณะท่ปี รากฏให้เห็น คุณภาพ 3 : ดมี าก - มคี วามสนใจ / ความตัง้ ใจตลอดระยะเวลาการเรยี นรู้ 2 : ดี - มีความสนใจ / ความต้งั ใจเป็นบางครั้ง 1 : พอใช้ - มีความสนใจ / ความต้งั ใจในระยะเวลาสั้นๆ ชอบเลน่ ในเวลาเรียน คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ : นักเรยี นมีความมุ่งม่ันในการทำงาน คะแนน : ระดบั คณุ ลักษณะทป่ี รากฏให้เห็น คุณภาพ 3 : ดีมาก - สง่ งานก่อนหรือตรงกำหนดเวลานดั หมาย - รบั ผิดชอบในงานท่ีไดร้ บั มอบหมายและปฏิบัตติ นเองจนเป็นนสิ ยั 2 : ดี - สง่ งานช้ากว่ากำหนด แตไ่ ด้มีการตดิ ต่อชีแ้ จงผสู้ อน มเี หตุผลที่รบั ฟงั ได้ - รบั ผดิ ชอบในงานทไ่ี ด้รับมอบหมายและปฏิบตั ติ นเองจนเปน็ นิสยั 1 : พอใช้ - สง่ งานช้ากวา่ กำหนด - ปฏิบัติงานโดยตอ้ งอาศัยการชีแ้ นะ แนะนำ ตักเตือนหรือให้กำลังใจ

ใบงานท่ี 8 เร่อื ง การหาผลคณู ของจำนวนสองหลักกบั จำนวนสองหลกั โดยการตัง้ คณู หาผลคูณ 1. 56 × 42 ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ............................………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. 23 × 36 ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ............................………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. 85 × 43 ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ............................………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. 42 × 56 ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ............................………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. 23 × 52 ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ............................…………………………………………………………………………………………………………………………………

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 10 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ รหัสวชิ า ค 13101 ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 3 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 7 เรือ่ ง การคูณ เรือ่ ง การพัฒนาความรูส้ ึกเชงิ จำนวนเก่ียวกบั การคณู เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง สอนวันท่ี_________เดอื น________________พ.ศ.256_ มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของจำนวน ผลท่ีเกิดข้ึนจากการดำเนนิ การ สมบตั ิของการดำเนินการ และนำไปใช้ ตัวช้วี ัด : ค 1.1 ป.3/6 หาคา่ ของตัวไม่ทราบคา่ ในประโยคสัญลกั ษณ์ แสดงการคูณของจำนวน 1 หลกั กบั จำนวนไมเ่ กนิ 4 หลกั และจำนวน 2 หลักกับจำนวน 2 หลกั จดุ ประสงค์การเรยี นรสู้ ู่ตัวชี้วดั 1.บอกไดว้ ่าผลคณู ใดมากกว่า น้อยกว่า หรอื เท่ากับ โดยไม่ต้องคำนวณ (K) 2.หาคำตอบผลคูณใดมากกวา่ น้อยกว่า หรือเท่ากบั โดยไม่ตอ้ งคำนวณ (P) 3.นกั เรียนมคี วามมุง่ ในการทำงานและสามารถนำความรู้ท่ไี ด้ไปตอ่ ยอดในการเรยี นเร่ืองต่อไป (A) สาระสำคัญ จำนวนสองจำนวนคูณกนั • ถา้ จำนวนใดจำนวนหน่งึ มากข้นึ ผลคณู ของสองจำนวนน้ันจะมากข้นึ • ถ้าจำนวนใดจำนวนหนึง่ นอ้ ยลงผลคูณของสองจำนวนน้ันจะนอ้ ยลง • ถ้าจำนวนทง้ั สองจำนวนหนึ่งมากข้ึนผลคูณจะมากขึ้น • ถ้าจำนวนทัง้ สองจำนวนหน่ึงน้อยลงผลคูณจะนอ้ ยลง สาระการเรียนรู้ 1.ความรู้ การพฒั นาความรสู้ ึกเชิงจำนวนเก่ียวกับการคูณ 2.ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ 1.ความสามารถในการสื่อสารความหมายทางคณิตศาสตร์ 2.การเชอ่ื มโยง 3.การให้เหตผุ ล 3.คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. ม่งุ มัน่ ในการทำงาน

ชนิ้ งานหรอื ภาระงาน ใบงานท่ี 9 เรอ่ื ง การหาผลคูณของจำนวนสองหลักกับจำนวนสองหลักโดยการตั้งคณู กิจกรรมการจดั การเรียนรู้ 1.ครูทบทวนการการหาผลคูณของ จำนวน 2 หลักกับจำนวน 2 หลกั โดยสุ่ม นกั เรยี นหาผลคูณของ 12× 10 และ 12 ×11 ครตู ิดบตั รการคูณ 12 ×10 = 120 และ 12 ×11 = 132 บนกระดาน ครูถามนักเรียนว่า 12 ×10 กับ 12×11 ผลคูณใดมากกวา่ เพราะเหตใุ ดนักเรียนอาจตอบว่า 12 × 11 มผี ลคูณมากกวา่ 12×10 เพราะ 12× 11 ได้ 132 ซงึ่ มากกวา่ 12 × 10 ได้ 120 ครถู าม นกั เรยี นวา่ ถา้ ไมต่ ้องหาผลคูณ จะรู้ไดห้ รือไม่ว่า ผลคณู ของจำนวนใดมากกวา่ ครใู หน้ กั เรียนสังเกต 12 × 10 กบั 12 × 11 ว่าเป็นการคูณของ 12 กับจำนวนใดจำนวนหน่งึ ในทีน่ ีค้ ือ 10 และ11 ซง่ึ 11 > 10 ดงั น้นั 12× 11 จงึ มผี ลคณู มากกวา่ 12 × 10 2.ครยู กตวั อย่างเพิ่มเติม เช่น 15 × 30 กับ 15 × 28 ผลคณู ของจำนวนใดน้อยกวา่ เพราะเหตใุ ด ครูและนกั เรยี นร่วมกนั อธปิ รายว่า เป็นการคูณของ 15 กบั จำนวนใดจำนวนหนงึ่ ในทีน่ ้ีคือ 30 และ 28 ซง่ึ 28< 30 ดังนนั้ 15 × 28 จงึ มีผลคูณน้อยกวา่ 15 × 30 3.ครูยกตวั อยา่ งเพิ่มเตมิ อีก เช่น 14 × 10 กบั 18 × 20 ผลคูณของจำนวนใดน้อยกว่า ครแู ละ นักเรียน ร่วมกนั อภปิ รายว่า เปน็ การคูณกันของจำนวนท่ีมีคา่ นอ้ ยกว่าผลคูณที่ไดจ้ ึงน้อยกว่า ในทน่ี ี้ 14 < 18 และ 10 < 20 ดังนั้น 14 × 10 จงึ มีผลคูณน้อยกว่า 18 × 20 4.ครูแบง่ นักเรยี นเป็นกลุ่มให้แต่ละกลุ่มชว่ ยกนั เตมิ เครื่องหมาย > < หรือ = พรอ้ มบอกเหตผุ ล ใน กรอบข้อ 1 ตามหนังสอื เรยี นหนา้ 256 โดยครูอาจชแ้ี นะวา่ ในการเตมิ เคร่อื งหมายต่าง ๆนัน้ นกั เรียนอาจไมจ่ ำเปน็ ต้องคำนวณ โดยใหน้ ักเรยี นสังเกตว่าจำนวนสองจำนวนที่นำมาคูณกัน และ เปรียบเทยี บผลคณู กนั น้นั มจี ำนวนใดท่เี หมอื นกันให้พจิ ารณาอีกจำนวนหนึง่ ว่า น้อยกว่าหรือ มากกวา่ กนั เช่น 8× 301 กับ 9 ×301 จำนวนท่เี หมือนกนั คือ 301 จำนวนทีน่ ำมาคูณกับ 301 5.คอื 8 และ 9 ครถู ามนักเรียนว่า 8 กบั 9 จำนวนใดน้อยกว่า (8) จะได้ 8 × 301 มีผลคณู น้อยกวา่ 9 × 301 ดงั นั้น 8 × 301 < 9 × 301 ครใู หน้ กั เรียนสังเกต 78 × 52 กับ 77 × 25 นกั เรียน รว่ มกันอภปิ รายวา่ 78 มากกวา่ 77 และ 52 มากกวา่ 25 ดงั น้ัน 78 × 52 > 77 × 25 เปน็ การคูณ กันของจำนวนทม่ี ีค่ามากกวา่ ผลคูณ ทีไ่ ด้จงึ มากกว่าจากน้ันครูให้นกั เรียนแตล่ ะกลุ่ม ออกมานำเสนอ ครูและ นักเรยี นรว่ มกันตรวจ สอบความถูกต้องแลว้ ให้นกั เรียนแต่ละกลมุ่ เติมตัวเลขแสดงจำนวนในข้อ 2 อาจมี คำตอบ หลายคำตอบ ครูให้นักเรยี นเลือกตอบเพียง คำตอบเดยี ว ซง่ึ คำตอบของนกั เรียนแต่ละคน อาจไม่ เหมอื นกัน ครอู ธิบายเพิม่ เติม เช่น 21 × 20 > 21× จากโจทย์ครใู หน้ ักเรียน สงั เกตว่าจำนวนสองจำนวนที่ คณู กนั และ นำมาเปรียบเทียบกนั มีจำนวนไดเ้ หมือนกนั (มี 21 เหมือนกนั ) ครูถามนักเรยี นวา่ ควรเตมิ จำนวนใดในชอ่ งว่างครูให้นกั เรยี น หาตวั เลขแสดงจำนวนทีเ่ ติมในชอ่ งว่างโดยใชค้ ำถาม เช่น − จำนวนท่เี ติมในชอ่ งว่างควรมากกวา่ หรอื นอ้ ยกวา่ 20 (น้อยกว่า20)

− จำนวนทเี่ ติมในชอ่ งว่างเปน็ จำนวนใด ไดบ้ ้างจากคำถามข้างต้นนักเรยี นสามารถ ตอบได้ ทุกจำนวนทน่ี ้อยกว่า 20 คือตัง้ แต่ 0 ถงึ 19 โดยเลือกตอบเพียงจำนวนเดยี ว จากนนั้ ครู ใหน้ กั เรยี นแต่ละกลมุ่ ออกมานำเสนอแลว้ รว่ มกันตรวจสอบความถูกต้อง 6.ครใู ห้นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มทำกิจกรรมเรยี งลำดบั ผลคูณโดยครแู จกบตั รโจทย์การคณู กลุ่มละ 1 ชุด ให้นกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ ชว่ ยกนั เรยี งลำดบั บตั รโจทย์การคูณที่มีผลคณู จากน้อยไปมาก หรือจากมากไปน้อย ทีละ ชุดจนครบ5 ชุด จากนน้ั ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มนำเสนอพร้อมบอกข้อสังเกต ท่ไี ดจ้ ากการเรยี งลำดับผลคูณครู และนกั เรยี นชว่ ยกันตรวจสอบการถกู ตอ้ งเช่นชุดท่ี 5 เรียงลำดบั ผลคณู จากน้อยไปมากจะได้ นกั เรยี นอาจให้ข้อสังเกตว่าทุกจำนวนคณู กับ 4 พจิ ารณาจำนวนท่นี ำมาคูณกับ 4 แลว้ เรยี ง จำนวนทน่ี ำมาคูณ กับ 4จากนอ้ ยไปมากจะได้ 1,750 4,150 4,1564,200 จึงเรียงผลคูณ ได้เป็น 4 × 1,750 4,150 × 4 4,156 ×4 4,200 ×4 7.ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรปุ ว่า จำนวนสองจำนวนคูณกัน • ถา้ จำนวนใดจำนวนหนึ่งมากขนึ้ ผลคณู ของสองจำนวนน้ันจะมากข้นึ • ถา้ จำนวนใดจำนวนหนงึ่ นอ้ ยลงผลคูณของสองจำนวนนนั้ จะน้อยลง • ถ้าจำนวนทั้งสองจำนวนหนึ่งมากข้นึ ผลคณู จะมากข้ึน • ถ้าจำนวนทั้งสองจำนวนหนึ่งนอ้ ยลงผลคูณจะนอ้ ยลง สือ่ การเรียนรู้ 1.หนงั สอื เรยี นคณติ ศาสตร์ ป.3 2. ใบงานท่ี 9 เรอ่ื ง การหาผลคูณของจำนวนสองหลักกับจำนวนสองหลกั โดยการตง้ั คูณ

การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ จุดประสงค์การ วิธีวดั เครื่องมอื วดั เกณฑก์ ารประเมิน เรยี นรู้ ใบงาน 60% ขนึ้ ไป ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์ การประเมนิ 1. ดา้ นความรู้ (K) ตรวจทำใบงาน แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรยี นได้คะแนนระดบั ดา้ นทกั ษะ คุณภาพดีข้ึนไป 2. ดา้ นทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น กระบวนการ กระบวนการ (P) ทักษะกระบวนการ แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรยี นได้คะแนนระดบั ดา้ นคณุ ลักษณะ คุณภาพดีขนึ้ ไป 3. ด้านคุณลักษณะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน ท่ีพึงประสงค์ ทพ่ี งึ ประสงค์ (A) คุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ เกณฑ์การประเมนิ แบบฝึกหัด/ใบงาน ประเดน็ การประเมนิ ระดับคุณภาพ 1. 1.ความถูกต้องของ เนื้อหา 4 3 21 2. รูปแบบ เน้อื หาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ เนือ้ หาสาระของ เนอื้ หาสาระของ 3. ความเปน็ ระเบยี บ ผลงานถกู ต้อง ผลงานถูกต้องเปน็ ผลงานถกู ต้อง ผลงานไม่ถูกตอ้ ง ครบถ้วน ส่วนใหญ่ บางประเด็น เป็นสว่ นใหญ่ การนำเสนอ การนำเสนอถกู ต้อง การนำเสนอ การนำเสนอไม่ น่าสนใจและ เป็นส่วนใหญ่ ถกู ต้องบางส่วน เปน็ ไปตามเกณฑ์ เหมาะสมกบั สถานการณ์ ผลงานมคี วาม ผลงานส่วนใหญม่ ี ผลงานมี ผลงานไม่มีความ เปน็ ระเบียบ ข้อบกพร่อง ขอ้ บกพร่อง เป็นระเบยี บ เลก็ น้อย บางสว่ น

เกณฑ์ประเมนิ คณุ ภาพ 10 - 12 คะแนน หมายถงึ ดีมาก ระดบั 4 4 - 6 คะแนน หมายถงึ พอใช้ ระดับ 2 7 - 9 คะแนน หมายถงึ ดี ระดับ 3 1-3 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง ระดบั 1 เกณฑ์การใหค้ ะแนนดา้ นทักษะและกระบวนการทำงาน ทกั ษะและกระบวนการ: การให้เหตผุ ล คะแนน:ระดบั คณุ ภาพ ความสามารถในการใหเ้ หตุผลที่ปรากฏใหเ้ หน็ 4 : ดีมาก มีการอ้างอิง เสนอแนวคิดประกอบการตัดสนิ ใจอยา่ งมเี หตุผล 3 : ดี มกี ารอ้างอิงที่ถูกต้องบางสว่ น และเสนอแนวคดิ ประกอบการตดั สนิ ใจ 2 : พอใช้ เสนอแนวคดิ ไมส่ มเหตสุ มผลในการประกอบการตัดสนิ ใจ 1 : ควรปรบั ปรงุ แกไ้ ข มคี วามพยายามเสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสินใจ ทกั ษะและกระบวนการ : การแก้ปญั หา คะแนน:ระดับคุณภาพ ความสามารถในการแก้ปญั หาท่ปี รากฏใหเ้ หน็ 4 : ดีมาก ใชก้ ระบวนการแก้ปญั หาไดส้ ำเรจ็ อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ อธิบายถึงเหตุผล หลักการและข้ันตอนในการแก้ปญั หาได้เขา้ ใจชดั เจนนำมาซึ่งคำตอบทีถ่ ูกต้อง 3 : ดี ใช้กระบวนการแกป้ ัญหาไดส้ ำเร็จ แต่นา่ จะอธบิ ายถงึ เหตุผล หลักการและข้นั ตอนในการแก้ปญั หาได้ดีกวา่ น้ี 2 : พอใช้ มกี ระบวนการแก้ปัญหา สำเร็จเพียงบางสว่ น อธบิ ายถงึ เหตุผล หลักการและขั้นตอนในการแก้ปัญหาได้บางสว่ น 1 : ควรปรับปรุงแก้ไข มีร่องรอยการแก้ปัญหาบางสว่ น เรม่ิ คดิ ใชเ้ หตุผล หลักการและข้ันตอน ในการแกป้ ญั หา แลว้ หยดุ อธิบายตอ่ ไม่ได้ แกป้ ัญหาไมส่ ำเรจ็

ทักษะ และกระบวนการ: การเชอ่ื มโยง สรปุ องค์ความรู้ คะแนน:ระดบั ความสามารถในการเช่ือมโยงทป่ี รากฏใหเ้ หน็ คุณภาพ นำความรู้ หลกั การ และวิธกี ารทางคณิตศาสตรใ์ นการเชอ่ื มโยงกบั สาระคณิตศาสตร์ 4 : ดมี าก หรอื กจิ กรรมทต่ี ้องใช้องค์ความรู้ท่เี รียนได้ถกู ต้องทุกกิจกรรมเพื่อชว่ ยในการแกป้ ญั หา หรอื ประยุกตใ์ ช้ได้อยา่ งสอดคลอ้ งและเหมาะสม นำความรู้ หลกั การ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตรใ์ นการเชือ่ มโยงกบั สาระคณิตศาสตร์ 3 : ดี หรอื กิจกรรมที่ต้องใช้องคค์ วามรูท้ เ่ี รยี นไดเ้ ป็นสว่ นใหญ่ เพื่อช่วยในการแก้ปญั หาหรอื ประยุกตใ์ ช้ได้บางส่วน 2 : พอใช้ นำความรู้ หลักการ และวิธีการทางคณิตศาสตร์ไปเชื่อมโยงกบั สาระคณิตศาสตรห์ รอื กิจกรรมท่ีตอ้ งใชอ้ งคค์ วามรู้ที่เรยี นไดบ้ างส่วน 1 : ควรปรบั ปรงุ นำความรู้ หลักการ และวธิ ีการทางคณิตศาสตรใ์ นการเชือ่ มโยงยังไมเ่ หมาะสม สรปุ แกไ้ ข องค์ความร้ทู ่ีได้ เกณฑ์การใหค้ ะแนนด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ : นกั เรียนใฝเ่ รยี นรู้ คะแนน : ระดับ คณุ ลกั ษณะท่ีปรากฏใหเ้ หน็ คุณภาพ 3 : ดมี าก - มคี วามสนใจ / ความตงั้ ใจตลอดระยะเวลาการเรียนรู้ 2 : ดี - มีความสนใจ / ความตั้งใจเป็นบางครง้ั 1 : พอใช้ - มีความสนใจ / ความต้งั ใจในระยะเวลาสัน้ ๆ ชอบเลน่ ในเวลาเรยี น คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ : นักเรียนมคี วามมงุ่ ม่ันในการทำงาน คะแนน : ระดบั คณุ ลกั ษณะทป่ี รากฏใหเ้ ห็น คุณภาพ 3 : ดีมาก - สง่ งานก่อนหรอื ตรงกำหนดเวลานดั หมาย - รบั ผิดชอบในงานทไี่ ดร้ บั มอบหมายและปฏบิ ัตติ นเองจนเป็นนิสยั 2 : ดี - สง่ งานช้ากวา่ กำหนด แตไ่ ด้มกี ารติดต่อชแ้ี จงผสู้ อน มีเหตุผลทร่ี บั ฟงั ได้ - รบั ผดิ ชอบในงานท่ีไดร้ บั มอบหมายและปฏิบตั ิตนเองจนเป็นนสิ ัย 1 : พอใช้ - สง่ งานช้ากวา่ กำหนด - ปฏิบัตงิ านโดยต้องอาศยั การชแ้ี นะ แนะนำ ตักเตือนหรอื ใหก้ ำลงั ใจ

ใบงานท่ี 9 เรื่อง การหาผลคณู ของจำนวนสองหลักกับจำนวนสองหลกั โดยการตั้งคณู เตมิ เครื่องหมาย > หรอื <

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 11 กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ รหัสวชิ า ค 13101 ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 3 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 7 เร่อื ง การคูณ เรอ่ื ง การหาคา่ ของตัวไม่ทราบคา่ ในประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการคูณ เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง สอนวนั ที่_________เดือน________________พ.ศ.256_ มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของจำนวน ผลที่เกิดขึน้ จากการดำเนนิ การ สมบตั ิของการดำเนินการ และนำไปใช้ ตัวช้ีวัด : ค 1.1 ป.3/6 หาค่าของตวั ไม่ทราบค่า ในประโยคสญั ลกั ษณ์ แสดงการคูณของจำนวน 1 หลกั กับจำนวนไมเ่ กิน 4 หลกั และจำนวน 2 หลกั กับจำนวน 2 หลกั จุดประสงค์การเรยี นรู้สู่ตวั ชี้วดั 1.บอกวธิ ีหาคา่ ของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการคูณ (K) 2.หาค่าของตัวไม่ทราบคา่ ในประโยคสัญลักษณ์แสดงการคูณ(P) 3.นกั เรียนมคี วามมุ่งในการทำงานและสามารถนำความรู้ทไ่ี ด้ไปตอ่ ยอดในการเรยี นเรื่องต่อไป (A) สาระสำคญั การหาคา่ ของตัวไมท่ ราบค่าในประโยค สัญลักษณแ์ สดงการคูณทำได้โดยหาจำนวนมา แทนตัวไม่ ทราบค่าแล้วได้ผลคูณตาม ท่ีกำหนด สาระการเรยี นรู้ 1.ความรู้ การหาค่าของตัวไมท่ ราบคา่ ในประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการคูณ 2.ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด 1.ความสามารถในการสื่อสารความหมายทางคณิตศาสตร์ 2.การเช่อื มโยง 3.การใหเ้ หตุผล 3.คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน ชน้ิ งานหรอื ภาระงาน แบบฝึกคณิตศาสตร์ ท่ี7.7 หนา้ 194 - 196 เร่ือง การหาค่าของตัวไมท่ ราบคา่ ในประโยคสัญลกั ษณ์ แสดงการคูณ ใบงานที่ 10 เรื่อง การหาคา่ ของตัวไม่ทราบคา่ ในประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการคูณ

กจิ กรรมการจัดการเรยี นรู้ 1.ครูสนทนากับนักเรยี นเกี่ยวกบั การหาค่าของ ตวั ไม่ทราบคา่ ในประโยคสัญลักษณแ์ สดงการคูณ เชน่ 3 × = 12 (ครูถามนักเรยี นวา่ 3 คูณจำนวนใด ได้12 ครใู หน้ ักเรียนท่องสตู รคณู แม่ 3 พร้อมกัน นักเรยี นควรตอบไดว้ ่า 3 × 4 = 12 ดงั น้ันจำนวนท่คี ูณกับ 3 ได้ 12 คือ 4) 2จากน้ันครตู ดิ บัตรโจทยก์ ารคณู × 9 = 63 ครถู ามนักเรียนว่า 9 คูณจำนวนใดได้ 63 ครูให้นักเรยี นท่องสูตรคณู แม่ 9 พร้อมกัน นักเรยี นควร ตอบไดว้ ่า 9 × 7 ได้ 63 ดงั น้นั จำนวนที่คณู กับ 9 ได้ 63 คอื 7 . 3. ครใู ห้นกั เรยี นสังเกตว่าการหาคา่ ของ ตัวไม่ทราบค่าอาจหาไดจ้ ากการท่องแม่สตู รคูณใหไ้ ดผ้ ลคณู เทา่ กับท่โี จทย์กำหนด เช่น ถ้าโจทยถ์ ามวา่ จำนวนใดคณู กับ 8 แล้วได5้ 6 นักเรียนท่องสูตรคณู แม่ 8 จะได้ 8คูณ 7 ได้ 56 ดังนนั้ จำนวนที่คณู กับ 8 แลว้ ได้ 56 คือ 7 4.ครูตดิ บัตรโจทย์การคูณ × 18 = 252 ครูถามนักเรยี นว่าจำนวนใด คูณ 18 ได้ 252 นกั เรียนอาจยงั ตอบยงั ไม่ได้ ครถู ามชแี้ นะว่า จำนวนท่ีคูณกับ 18 แล้วได้ 252 ควรมากกว่าหรอื นอ้ ยกว่า 10 นกั เรียนตอบวา่ มากกว่า 10 เพราะ 10 × 18 = 180 ครูถามนักเรียนวา่ 15 × 18 = นักเรยี น ช่วยกนั คิดหาคำตอบจนได้วา่ 15 × 18 = 270 ครถู ามชแี้ นะว่าจำนวนทีน่ ำมาคูณ 18 แลว้ ได้252 ควร มากกวา่ หรือนอ้ ยกวา่ 15 นักเรียนตอบวา่ ควรนอ้ ยกว่า 15ครูให้นักเรียนหาผลคูณ ของ 14 × 18 = นกั เรียนควรตอบได้ว่า 14 ×18 = 252 ดงั นน้ั 14 ×18 = 252 ครูถามนักเรียนวา่ มวี ธิ ีอืน่ ทจ่ี ะหาจำนวนที่มาคณู กับ 18 แลว้ ไดผ้ ลคูณเปน็ 252 หรอื ไม่ นกั เรียน อาจ ตอบไมไ่ ด้ ครูชแ้ี นะวา่ จำนวนท่ีคณู กบั 8 แลว้ ได้ผลคณู ในหลักหนว่ ยเปน็ 2 มจี ำนวนใดบา้ ง นักเรียนตอบวา่ มี 8 × 4 = 32 และ 8 × 9 = 72 ครชู แ้ี นะวา่ จำนวนนั้นอาจเปน็ 14 หรอื 19ครูใหน้ ักเรียน ลองหาผล คูณของ 14 × 18 กับ 19 × 18 จะได้ว่า 14 × 18 = 252 ดังนัน้ 14 × 18 = 252 ครแู ละนักเรยี น รว่ มกนั อภิปราย เก่ียวกับวิธหี าจำนวนทีน่ ำมาคูณกบั 18 แล้วได้ผลคูณ เป็น 252 วา่ สามารถหาจำนวนนัน้ จาก การทดลอง นำจำนวนใดจำนวนหนึง่ มาคูณ ซงึ่ จำนวนท่ีจะนำมาทดลอง คูณนัน้ ควรเปน็ จำนวนท่ไี ด้มาจาก หลกั การคดิ ง่าย ๆ เช่น จำนวนทีม่ ี 0 ต่อท้าย หรอื พิจารณาจากจำนวนที่คูณกนั แลว้ ไดผ้ ลคณู ในหลกั หนว่ ย ตามท่กี ำหนด เชน่ ในทีน่ ้ีผลคูณ ในหลักหน่วยเปน็ 2 จงึ ตอ้ งนำจำนวนที่คูณกับ 18 แล้วได้ ผลคูณในหลกั หนว่ ยเป็น 2 ด้วย ซง่ึ จะทำให้หาค่าของ ตวั ไม่ทราบคา่ ไดง้ ่ายขน้ึ จากนนั้ ครูใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั เติมตวั เลขแสดง จำนวน ขอ้ 1- 6 ในกรอบทา้ ยหนังสอื หนา้ 261 ลงใสส่ มดุ 5.ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรุป วา่ การหาค่าของตวั ไม่ทราบคา่ ในประโยค สัญลักษณ์แสดงการคูณทำ ไดโ้ ดยหาจำนวนมา แทนตวั ไมท่ ราบคา่ แลว้ ได้ผลคูณตาม ที่กำหนด ส่อื การเรียนรู้ 1. หนังสอื เรียนคณิตศาสตร์ ป.3 2. แบบฝกึ คณิตศาสตร์ ท7ี่ .7 หนา้ 194 - 196 3. ใบงานท่ี 10 เรอื่ ง การหาคา่ ของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการคณู

การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ จุดประสงค์การ วิธวี ัด เครอ่ื งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมิน เรียนรู้ ใบงาน 60% ขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์ การประเมิน 1. ดา้ นความรู้ (K) ตรวจทำใบงาน แบบสงั เกตพฤติกรรม นักเรยี นได้คะแนนระดับ ดา้ นทกั ษะ คุณภาพดีขึ้นไป 2. ดา้ นทักษะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น กระบวนการ กระบวนการ (P) ทกั ษะกระบวนการ แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรียนได้คะแนนระดับ ดา้ นคณุ ลกั ษณะ คุณภาพดีข้นึ ไป 3. ดา้ นคุณลกั ษณะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน ท่ีพึงประสงค์ ทพี่ ึงประสงค์ (A) คุณลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ เกณฑ์การประเมนิ แบบฝกึ หัด/ใบงาน ประเดน็ การประเมิน ระดบั คุณภาพ 1. 1.ความถกู ต้องของ เน้อื หา 4 3 21 2. รูปแบบ เนอื้ หาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ เนือ้ หาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ 3. ความเป็นระเบียบ ผลงานถกู ต้อง ผลงานถกู ต้องเป็น ผลงานถูกต้อง ผลงานไม่ถูกตอ้ ง ครบถว้ น ส่วนใหญ่ บางประเดน็ เปน็ ส่วนใหญ่ การนำเสนอ การนำเสนอถกู ต้อง การนำเสนอ การนำเสนอไม่ นา่ สนใจและ เปน็ ส่วนใหญ่ ถูกต้องบางสว่ น เป็นไปตามเกณฑ์ เหมาะสมกับ สถานการณ์ ผลงานมคี วาม ผลงานสว่ นใหญ่มี ผลงานมี ผลงานไมม่ ีความ เปน็ ระเบยี บ ข้อบกพร่อง ข้อบกพร่อง เป็นระเบียบ เล็กนอ้ ย บางส่วน

เกณฑ์ประเมนิ คณุ ภาพ 10 - 12 คะแนน หมายถงึ ดีมาก ระดบั 4 4 - 6 คะแนน หมายถงึ พอใช้ ระดับ 2 7 - 9 คะแนน หมายถงึ ดี ระดับ 3 1-3 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง ระดบั 1 เกณฑ์การใหค้ ะแนนดา้ นทักษะและกระบวนการทำงาน ทกั ษะและกระบวนการ: การให้เหตผุ ล คะแนน:ระดบั คณุ ภาพ ความสามารถในการใหเ้ หตุผลที่ปรากฏใหเ้ หน็ 4 : ดีมาก มีการอ้างอิง เสนอแนวคิดประกอบการตัดสนิ ใจอย่างมเี หตุผล 3 : ดี มกี ารอ้างอิงที่ถูกต้องบางสว่ น และเสนอแนวคดิ ประกอบการตดั สนิ ใจ 2 : พอใช้ เสนอแนวคดิ ไมส่ มเหตสุ มผลในการประกอบการตัดสนิ ใจ 1 : ควรปรบั ปรงุ แกไ้ ข มคี วามพยายามเสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสินใจ ทกั ษะและกระบวนการ : การแก้ปญั หา คะแนน:ระดับคุณภาพ ความสามารถในการแก้ปญั หาท่ปี รากฏใหเ้ หน็ 4 : ดีมาก ใชก้ ระบวนการแก้ปญั หาไดส้ ำเรจ็ อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ อธิบายถึงเหตุผล หลักการและข้ันตอนในการแก้ปญั หาได้เขา้ ใจชดั เจนนำมาซึ่งคำตอบท่ีถูกต้อง 3 : ดี ใช้กระบวนการแกป้ ัญหาไดส้ ำเร็จ แตน่ า่ จะอธบิ ายถึงเหตุผล หลักการและข้นั ตอนในการแก้ปญั หาได้ดีกว่าน้ี 2 : พอใช้ มกี ระบวนการแก้ปัญหา สำเร็จเพยี งบางสว่ น อธบิ ายถงึ เหตุผล หลักการและขั้นตอนในการแก้ปัญหาได้บางสว่ น 1 : ควรปรับปรุงแก้ไข มีร่องรอยการแก้ปัญหาบางสว่ น เรม่ิ คดิ ใชเ้ หตุผล หลกั การและข้ันตอน ในการแกป้ ญั หา แลว้ หยดุ อธิบายตอ่ ไม่ได้ แกป้ ัญหาไมส่ ำเรจ็

ทักษะ และกระบวนการ: การเช่อื มโยง สรปุ องค์ความรู้ คะแนน:ระดบั ความสามารถในการเชื่อมโยงทีป่ รากฏให้เหน็ คุณภาพ นำความรู้ หลักการ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตรใ์ นการเชอ่ื มโยงกบั สาระคณติ ศาสตร์ 4 : ดมี าก หรอื กจิ กรรมท่ีต้องใช้องคค์ วามร้ทู ีเ่ รียนได้ถกู ต้องทุกกจิ กรรมเพื่อชว่ ยในการแกป้ ัญหา หรอื ประยุกต์ใชไ้ ด้อยา่ งสอดคล้องและเหมาะสม นำความรู้ หลกั การ และวิธกี ารทางคณิตศาสตรใ์ นการเชอ่ื มโยงกบั สาระคณิตศาสตร์ 3 : ดี หรอื กิจกรรมที่ต้องใชอ้ งค์ความรทู้ ีเ่ รียนได้เป็นสว่ นใหญ่ เพื่อช่วยในการแก้ปญั หาหรอื ประยกุ ต์ใช้ได้บางส่วน 2 : พอใช้ นำความรู้ หลักการ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตร์ไปเชื่อมโยงกับสาระคณิตศาสตร์หรือ กิจกรรมท่ีต้องใช้องค์ความรทู้ ่ีเรยี นไดบ้ างสว่ น 1 : ควรปรบั ปรงุ นำความรู้ หลักการ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตรใ์ นการเชื่อมโยงยงั ไม่เหมาะสม สรปุ แกไ้ ข องค์ความรทู้ ่ีได้ เกณฑ์การใหค้ ะแนนด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ : นักเรยี นใฝเ่ รียนรู้ คะแนน : ระดับ คณุ ลกั ษณะท่ปี รากฏให้เห็น คุณภาพ 3 : ดมี าก - มคี วามสนใจ / ความตัง้ ใจตลอดระยะเวลาการเรยี นรู้ 2 : ดี - มีความสนใจ / ความต้งั ใจเป็นบางครั้ง 1 : พอใช้ - มีความสนใจ / ความต้งั ใจในระยะเวลาสั้นๆ ชอบเลน่ ในเวลาเรียน คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ : นักเรยี นมีความมุ่งม่ันในการทำงาน คะแนน : ระดบั คณุ ลักษณะทป่ี รากฏให้เห็น คุณภาพ 3 : ดีมาก - สง่ งานก่อนหรือตรงกำหนดเวลานดั หมาย - รบั ผิดชอบในงานท่ีไดร้ บั มอบหมายและปฏิบัตติ นเองจนเป็นนสิ ยั 2 : ดี - สง่ งานช้ากว่ากำหนด แตไ่ ด้มีการตดิ ต่อชีแ้ จงผสู้ อน มเี หตุผลที่รบั ฟงั ได้ - รบั ผดิ ชอบในงานทไ่ี ด้รับมอบหมายและปฏิบตั ติ นเองจนเปน็ นิสยั 1 : พอใช้ - สง่ งานช้ากวา่ กำหนด - ปฏิบัติงานโดยตอ้ งอาศัยการชีแ้ นะ แนะนำ ตักเตือนหรือให้กำลังใจ

ใบงานที่ 10 เรื่อง การหาคา่ ของตัวไมท่ ราบค่าในประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการคณู เตมิ ตัวเลขแสดงจำนวน ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ............................………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………….………………………..…………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………..............................………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………….………………………. . ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ............................………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………….………………………..…………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………..............................………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………….………………………. .

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 12 กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ รหสั วชิ า ค 13101 ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 3 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 7 เรื่อง การคณู เร่อื ง โจทย์ปัญหาการคูณ เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง สอนวันท่ี_________เดือน________________พ.ศ.256_ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของจำนวน ผลทีเ่ กดิ ข้นึ จากการดำเนินการ สมบตั ขิ องการดำเนินการ และนำไปใช้ ตัวช้ีวัด : ค 1.1 ป.3/9 แสดงวิธหี าคำตอบของ โจทยป์ ัญหา 2 ขั้นตอน ของจำนวนนบั ไมเ่ กิน 100,000 และ 0 จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวช้ีวดั 1.บอกวธิ หี าแสดงวิธีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาการคูณ (K) 2.หาแสดงวิธหี าคำตอบของโจทย์ปญั หาการคูณ (P) 3.นกั เรยี นมคี วามมุ่งในการทำงานและสามารถนำความรู้ทไี่ ด้ไปตอ่ ยอดในการเรียนเรื่องต่อไป (A) สาระสำคญั การแกโ้ จทย์ปัญหาทำได้โดยอ่านทำความเข้าใจ ปัญหา วางแผนแก้ปญั หา หาคำตอบ และตรวจสอบ ความสมเหตสุ มผลของคำตอบ สาระการเรียนรู้ 1.ความรู้ โจทยป์ ัญหาการคูณ 2.ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ 1.ความสามารถในการส่ือสารความหมายทางคณิตศาสตร์ 2.การเชอ่ื มโยง 3.การใหเ้ หตผุ ล 3.คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มงุ่ มั่นในการทำงาน ชน้ิ งานหรือภาระงาน ใบงานท่ี 12 เร่ือง โจทย์ปัญหาการคณู

กจิ กรรมการจัดการเรยี นรู้ 1.ครูสนทนากับนักเรยี นเกย่ี วกับ โจทย์ปัญหาการคณู ที่กำหนดตามหนังสือเรยี น หน้า 263 ครตู ดิ แถบโจทย์ปัญหาบนกระดานแลว้ ใหน้ ักเรยี นอ่านโจทย์ปัญหา ครใู ช้การถาม – ตอบ เพ่ือให้นกั เรยี นวเิ คราะหโ์ จทยป์ ัญหา ดงั นี้ − โจทยถ์ ามอะไร(ร้านคา้ มดี ินสอทงั้ หมดก่ีแท่ง) − โจทยบ์ อกอะไร (ร้านค้ามีดินสอ 3 กลอ่ ง แตล่ ะกล่องมดี นิ สอ 144 แท่ง) − หาคำตอบได้อย่างไร นกั เรยี นอาจหาคำตอบไดด้ ้วยการบวกทลี ะ 144 เช่น 144 + 144 + 144 หรือนักเรียนอาจหา คำตอบ ดว้ ยการคูณ ซึ่งพิจารณาจากดินสอ 3 กล่อง แต่ละกล่องมีดนิ สอ 144 แทง่ จะได้ 3 × 144 ครถู าม นักเรยี นตอ่ ไปว่าเขียนประโยคสญั ลักษณ์การคูณได้อย่างไรนักเรียนควรตอบว่า ประโยค สัญลักษณ์ 3 × 144 = ครูถามต่อไปว่าคำตอบคือเท่าไรนักเรยี นตอบว่า 3 × 144 = 432 แทง่ ดังนัน้ ร้านค้ามีดินสอ ทง้ั หมด 432 แท่ง จากนน้ั ครแู ละนกั เรียนช่วยกนั เขียนแสดงวธิ หี าคำตอบ 2.ครสู ุ่มนกั เรียนออกมาหาผลคูณโดยการต้ังคณู 3.ครูและนักเรียนรว่ มกันตรวจสอบความสมเหตุสมผล ของคำตอบว่า ถ้ารา้ นค้ามีดนิ สอกล่องละ 100 แทง่ จะมดี ินสอทง้ั หมด 3 × 100 = 300 แทง่ ดงั นัน้ 3 × 144 ควรมากกว่า 300 คำตอบ 432 จึงเป็น คำตอบทส่ี มเหตสุ มผล 4.ครยู กตัวอยา่ งโจทย์ปัญหาการคูณ โดยตดิ แถบโจทยป์ ัญหาตามหนังสอื เรยี นหนา้ 264 5. ครูให้นกั เรียนอ่านโจทย์ปัญหาพรอ้ มกนั และ ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกันวิเคราะหโ์ จทยป์ ญั หาว่าโจทยถ์ าม อะไรโจทย์บอกอะไรและหาคำตอบไดอ้ ย่างไร นกั เรียนต้องตอบได้ว่า โจทย์ถามคือแม่ซอ้ื น้ำด่ืมทัง้ หมดกีข่ วด

โจทยบ์ อกคือ แม่ซ้ือนำ้ ดื่มแพ็กละ 12 ขวด จำนวน 48 แพ็ก หาคำตอบไดจ้ าก 48 คูณ 12เพราะนำ้ 48 แพก็ แพ็กละ12 ขวด ครูถามต่อไปวา่ เขยี นประโยคสญั ลักษณ์ได้อยา่ งไร นักเรยี นควรตอบได้ว่าเขยี นประโยค สญั ลักษณ์ไดเ้ ปน็ 48 × 12 = ครถู ามว่าคำตอบที่ไดเ้ ปน็ เท่าไร นกั เรียนอาจตอบว่า 48 × 12 = 576 ซึ่งหาผลคูณโดยการต้ังคูณ ดังนี้ นักเรยี นบางคนอาจหาผลคูณได้ดังนี้ 48 × 12 = 40 × 12 กบั 8 × 12 = 480 กับ 96 ดังนน้ั 48 × 12 = 480 + 96 = 576 จากนนั้ ครูใหน้ กั เรียนเขียนแสดงวิธีหาคำตอบ ดังน้ี 6.ครแู นะนำการตรวจสอบความสมเหตสุ มผลว่าถา้ แม่ซอื้ น้ำด่มื 50 แพ็ก แพ็กละ 12 ขวด จะไดน้ ำ้ ด่ืมทัง้ หมด 50 × 12 = 600 ขวด แต่แม่ซ้ือนำ้ ดม่ื 48 แพ็ก จะได้ นำ้ ด่ืมทั้งหมด 48 × 12 = 576 ขวด ซง่ึ น้อย กว่า 600 ขวด ดงั น้นั 576 จึงเป็นคำตอบที่สมเหตสุ มผล 7.ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ วา่ การแกโ้ จทยป์ ัญหาทำได้โดยอ่านทำความเข้าใจ ปญั หา วางแผน แกป้ ญั หาคำตอบ และตรวจสอบ ความสมเหตสุ มผลของคำตอบ ส่ือการเรียนรู้ 1.หนังสอื เรียนคณติ ศาสตร์ ป.3 2.ใบงานท่ี 12 เรื่อง โจทยป์ ญั หาการคูณ

การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ จุดประสงค์การ วธิ ีวดั เครือ่ งมอื วดั เกณฑก์ ารประเมนิ เรยี นรู้ ใบงาน 60% ขน้ึ ไป ถือว่าผา่ นเกณฑ์ การประเมนิ 1. ด้านความรู้ (K) ตรวจทำใบงาน แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรียนได้คะแนนระดบั ดา้ นทักษะ คุณภาพดีข้ึนไป 2. ด้านทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น กระบวนการ กระบวนการ (P) ทักษะกระบวนการ แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรียนได้คะแนนระดบั ด้านคณุ ลักษณะ คณุ ภาพดีขนึ้ ไป 3. ด้านคุณลกั ษณะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน ที่พงึ ประสงค์ ทพี่ งึ ประสงค์ (A) คุณลักษณะทพี่ ึงประสงค์ เกณฑก์ ารประเมินแบบฝึกหัด/ใบงาน ประเดน็ การประเมนิ ระดบั คุณภาพ 1. 1.ความถูกต้องของ เน้อื หา 4 3 21 2. รปู แบบ เน้อื หาสาระของ เนอื้ หาสาระของ เนือ้ หาสาระของ เนื้อหาสาระของ 3. ความเปน็ ระเบยี บ ผลงานถกู ต้อง ผลงานถูกต้องเป็น ผลงานถกู ต้อง ผลงานไมถ่ ูกตอ้ ง ครบถว้ น สว่ นใหญ่ บางประเดน็ เปน็ ส่วนใหญ่ การนำเสนอ การนำเสนอถูกต้อง การนำเสนอ การนำเสนอไม่ น่าสนใจและ เปน็ ส่วนใหญ่ ถกู ต้องบางสว่ น เปน็ ไปตามเกณฑ์ เหมาะสมกับ สถานการณ์ ผลงานมีความ ผลงานสว่ นใหญ่มี ผลงานมี ผลงานไม่มีความ เปน็ ระเบยี บ ข้อบกพร่อง ขอ้ บกพร่อง เป็นระเบยี บ เล็กนอ้ ย บางส่วน

เกณฑ์ประเมนิ คณุ ภาพ 10 - 12 คะแนน หมายถงึ ดีมาก ระดบั 4 4 - 6 คะแนน หมายถงึ พอใช้ ระดับ 2 7 - 9 คะแนน หมายถงึ ดี ระดับ 3 1-3 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง ระดบั 1 เกณฑ์การใหค้ ะแนนดา้ นทักษะและกระบวนการทำงาน ทกั ษะและกระบวนการ: การให้เหตผุ ล คะแนน:ระดบั คณุ ภาพ ความสามารถในการใหเ้ หตุผลที่ปรากฏใหเ้ หน็ 4 : ดีมาก มีการอ้างอิง เสนอแนวคิดประกอบการตัดสนิ ใจอย่างมีเหตุผล 3 : ดี มกี ารอ้างอิงที่ถูกต้องบางสว่ น และเสนอแนวคดิ ประกอบการตดั สนิ ใจ 2 : พอใช้ เสนอแนวคดิ ไมส่ มเหตสุ มผลในการประกอบการตัดสนิ ใจ 1 : ควรปรบั ปรงุ แกไ้ ข มคี วามพยายามเสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสินใจ ทกั ษะและกระบวนการ : การแก้ปญั หา คะแนน:ระดับคุณภาพ ความสามารถในการแก้ปญั หาท่ปี รากฏใหเ้ หน็ 4 : ดีมาก ใชก้ ระบวนการแก้ปญั หาไดส้ ำเรจ็ อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ อธิบายถึงเหตุผล หลักการและข้ันตอนในการแก้ปญั หาได้เขา้ ใจชดั เจนนำมาซึ่งคำตอบท่ีถูกต้อง 3 : ดี ใช้กระบวนการแกป้ ัญหาไดส้ ำเร็จ แตน่ า่ จะอธบิ ายถึงเหตุผล หลักการและข้นั ตอนในการแก้ปญั หาได้ดีกว่าน้ี 2 : พอใช้ มกี ระบวนการแก้ปัญหา สำเร็จเพยี งบางสว่ น อธบิ ายถงึ เหตุผล หลักการและขั้นตอนในการแก้ปัญหาได้บางสว่ น 1 : ควรปรับปรุงแก้ไข มีร่องรอยการแก้ปัญหาบางสว่ น เรม่ิ คดิ ใชเ้ หตุผล หลกั การและขั้นตอน ในการแกป้ ญั หา แลว้ หยดุ อธิบายตอ่ ไม่ได้ แกป้ ัญหาไมส่ ำเรจ็

ทักษะ และกระบวนการ: การเช่อื มโยง สรปุ องค์ความรู้ คะแนน:ระดบั ความสามารถในการเชื่อมโยงทีป่ รากฏให้เหน็ คุณภาพ นำความรู้ หลักการ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตรใ์ นการเชอ่ื มโยงกบั สาระคณติ ศาสตร์ 4 : ดมี าก หรอื กจิ กรรมท่ีต้องใช้องคค์ วามร้ทู ีเ่ รียนได้ถกู ต้องทุกกจิ กรรมเพื่อชว่ ยในการแกป้ ัญหา หรอื ประยุกต์ใชไ้ ด้อยา่ งสอดคล้องและเหมาะสม นำความรู้ หลกั การ และวิธกี ารทางคณิตศาสตรใ์ นการเชอ่ื มโยงกบั สาระคณิตศาสตร์ 3 : ดี หรอื กิจกรรมที่ต้องใชอ้ งค์ความรทู้ ีเ่ รียนได้เป็นสว่ นใหญ่ เพื่อช่วยในการแก้ปญั หาหรอื ประยกุ ต์ใช้ได้บางส่วน 2 : พอใช้ นำความรู้ หลักการ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตร์ไปเชื่อมโยงกับสาระคณิตศาสตร์หรือ กิจกรรมท่ีต้องใช้องค์ความรทู้ ่ีเรยี นไดบ้ างสว่ น 1 : ควรปรบั ปรงุ นำความรู้ หลักการ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตรใ์ นการเชื่อมโยงยงั ไม่เหมาะสม สรปุ แกไ้ ข องค์ความรทู้ ่ีได้ เกณฑ์การใหค้ ะแนนด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ : นักเรยี นใฝเ่ รียนรู้ คะแนน : ระดับ คณุ ลกั ษณะท่ปี รากฏให้เห็น คุณภาพ 3 : ดมี าก - มคี วามสนใจ / ความตัง้ ใจตลอดระยะเวลาการเรยี นรู้ 2 : ดี - มีความสนใจ / ความต้งั ใจเป็นบางครั้ง 1 : พอใช้ - มีความสนใจ / ความต้งั ใจในระยะเวลาสั้นๆ ชอบเลน่ ในเวลาเรียน คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ : นักเรยี นมีความมุ่งม่ันในการทำงาน คะแนน : ระดบั คณุ ลักษณะทป่ี รากฏให้เห็น คุณภาพ 3 : ดีมาก - สง่ งานก่อนหรือตรงกำหนดเวลานดั หมาย - รบั ผิดชอบในงานท่ีไดร้ บั มอบหมายและปฏิบัตติ นเองจนเป็นนสิ ยั 2 : ดี - สง่ งานช้ากว่ากำหนด แตไ่ ด้มีการตดิ ต่อชีแ้ จงผสู้ อน มเี หตุผลที่รบั ฟงั ได้ - รบั ผดิ ชอบในงานทไ่ี ด้รับมอบหมายและปฏิบตั ติ นเองจนเปน็ นิสยั 1 : พอใช้ - สง่ งานช้ากวา่ กำหนด - ปฏิบัติงานโดยตอ้ งอาศัยการชีแ้ นะ แนะนำ ตักเตือนหรือให้กำลังใจ

ใบงานที่ 11 เรื่อง โจทยป์ ญั หาการคูณ จงแสดงวิธที ำ 1.โทรทศั นร์ าคาเครอ่ื งละ 4,980 บาท ร้านคา้ ขายไป 4 เคร่ือง จะไดร้ บั เงิน ทงั้ หมดเท่าไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .....................................................................................…………….………………………......................... ..................... .................................................................................................................……………………………… …………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………….………………………. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .......................…………….………………………....................................................................................... ..................... 2.แม่ค้าจดั กล่องน้ำผลไม้ใส่ตแู้ ชเ่ ยน็ 15 แถว แตล่ ะแถวมนี ำ้ ผลไม้ 24 กล่อง แมค่ ้าจัดน้ำผลไม้ท้งั หมดกี่ กลอ่ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. ................................................................................................................................................................ .............. .....................................................................................…………….………………………................. ............................. .................................................................................................................……………………………… …………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………….………………………. .............................................................................................................................................................................. .................................................................................................................... .......................................................... .......................…………….………………………....................................................................................... ..................... 3.พ่อค้าซ้ือขนมลงั ละ 720 หอ่ จำนวน 6 ลัง พอ่ คา้ ซื้อขนมท้งั หมดกี่หอ่ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. ............ .....................................................................................…………….………………………................... ........................... .................................................................................................................……………………………… …………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………….………………………. ..............................................................................................................................................................................

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 13 กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ รหสั วชิ า ค 13101 ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 3 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 7 เรื่อง การคณู เร่อื ง โจทย์ปัญหาการคูณ เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง สอนวันท่ี_________เดือน________________พ.ศ.256_ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของจำนวน ผลทีเ่ กดิ ข้นึ จากการดำเนินการ สมบตั ขิ องการดำเนินการ และนำไปใช้ ตัวช้ีวัด : ค 1.1 ป.3/9 แสดงวิธหี าคำตอบของ โจทยป์ ัญหา 2 ขั้นตอน ของจำนวนนบั ไมเ่ กิน 100,000 และ 0 จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวช้ีวดั 1.บอกวธิ หี าแสดงวิธีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาการคูณ (K) 2.หาแสดงวิธหี าคำตอบของโจทย์ปญั หาการคูณ (P) 3.นกั เรยี นมคี วามมุ่งในการทำงานและสามารถนำความรู้ทไี่ ด้ไปตอ่ ยอดในการเรียนเรื่องต่อไป (A) สาระสำคญั การแกโ้ จทย์ปัญหาทำได้โดยอ่านทำความเข้าใจ ปัญหา วางแผนแก้ปญั หา หาคำตอบ และตรวจสอบ ความสมเหตสุ มผลของคำตอบ สาระการเรียนรู้ 1.ความรู้ โจทยป์ ัญหาการคูณ 2.ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ 1.ความสามารถในการส่ือสารความหมายทางคณิตศาสตร์ 2.การเชอ่ื มโยง 3.การใหเ้ หตผุ ล 3.คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มงุ่ มั่นในการทำงาน ชน้ิ งานหรือภาระงาน ใบงานท่ี 12 เร่ือง โจทย์ปัญหาการคณู

กิจกรรมการจัดการเรยี นรู้ 1. ครยู กตวั อย่างโจทยป์ ญั หาการคูณเพิ่มเติมโดยติดแถบโจทยป์ ัญหาตามหนังสือเรียน หน้า 266 2. ครูใหน้ กั เรยี นอา่ นโจทย์ปัญหา แล้วรว่ มกนั วิเคราะหโ์ ดยครูใชก้ ารถาม - ตอบดงั นี้ − โจทยถ์ ามอะไร(มนี กั เรียนนง่ั ในหอ้ งประชุม ทั้งหมดก่ีคน) − โจทยบ์ อกอะไร (ครจู ดั นกั เรียนนั่งเปน็ แถว แถวละ 55 คน จัดได้ 25 แถว) − หาคำตอบไดอ้ ย่างไร (มีนักเรยี น25 แถว แถวละ 55 คนหาคำตอบ ได้จาก 25 คูณ55) − เขยี นประโยคสญั ลักษณไ์ ด้อยา่ งไร (25 × 55 = ) 3.ครสู ุม่ นักเรียนออกมาหาผลคณู โดยการตั้งคณู ไดด้ งั น้ี 4.ดังนัน้ มีนกั เรยี นน่งั ในห้องประชุมท้งั หมด 1,375 คน จากนน้ั ครูและนกั เรยี นชว่ ยกันเขยี นแสดงวธิ ี หาคำตอบ ตามหนังสือเรยี นหนา้ 266 ดังนี้ 5.ครูและนักเรียนช่วยกนั ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบ ดงั นี้ 1,375 เป็นคำตอบที่ สมเหตุสมผล เพราะ 25 × 60 = 1,500 ดังนัน้ 25 × 55 ควรนอ้ ยกว่า 1,500 ครใู หแ้ ต่ละคน 6.วเิ คราะหโ์ จทย์ เขียนประโยคสัญลกั ษณ์และแสดงวิธหี าคำตอบคนละ 1 ข้อจากโจทยป์ ัญหา ใน กรอบท้ายหนงั สือเรยี นหนา้ 266 เมื่อ เสร็จแลว้ ครูสุ่มใหน้ ักเรียนออกมานำเสนอ หนา้ ชัน้ เรียน ครูและ นักเรียนร่วมกันตรวจสอบ ความถกู ต้องและตรวจสอบความสมเหตสุ มผล ของคำตอบครูเน้นย้ำทุกครั้งว่าเมื่อ แก้ โจทย์ปญั หาจนได้คำตอบแลว้ ควรตรวจสอบ ความสมเหตสุ มผลของคำตอบด้วย 7.ครูและนักเรียนร่วมกันสรปุ วา่ การแกโ้ จทย์ปัญหาทำได้โดยอา่ นทำความเข้าใจ ปญั หา วางแผน แกป้ ัญหา หาคำตอบ และตรวจสอบ ความสมเหตสุ มผลของคำตอบ ส่อื การเรียนรู้

1.หนังสอื เรยี นคณิตศาสตร์ ป.3 2.ใบงานที่ 12 เร่ือง โจทยป์ ัญหาการคูณ การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ จุดประสงค์การ วธิ วี ดั เครอ่ื งมือวัด เกณฑก์ ารประเมนิ เรียนรู้ ใบงาน 70% ขนึ้ ไป ถือว่าผา่ นเกณฑ์ การประเมิน 1. ด้านความรู้ (K) ตรวจทำใบงาน แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรียนได้คะแนนระดบั ดา้ นทักษะ คุณภาพดีขนึ้ ไป 2. ดา้ นทักษะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น กระบวนการ กระบวนการ (P) ทกั ษะกระบวนการ แบบสงั เกตพฤติกรรม นักเรียนได้คะแนนระดับ ด้านคณุ ลักษณะ คณุ ภาพดีขึ้นไป 3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น ทพี่ งึ ประสงค์ ทีพ่ ึงประสงค์ (A) คุณลักษณะทพี่ ึงประสงค์ เกณฑก์ ารประเมินแบบฝกึ หัด/ใบงาน ประเดน็ การประเมนิ ระดับคุณภาพ 1. 1.ความถูกต้องของ เน้ือหา 4 3 21 2. รูปแบบ เนื้อหาสาระของ เน้อื หาสาระของ เนื้อหาสาระของ เน้อื หาสาระของ 3. ความเป็นระเบยี บ ผลงานถูกต้อง ผลงานถกู ต้องเปน็ ผลงานถูกต้อง ผลงานไมถ่ ูกตอ้ ง ครบถว้ น สว่ นใหญ่ บางประเด็น เปน็ ส่วนใหญ่ การนำเสนอ การนำเสนอถกู ต้อง การนำเสนอ การนำเสนอไม่ น่าสนใจและ เป็นสว่ นใหญ่ ถูกต้องบางส่วน เป็นไปตามเกณฑ์ เหมาะสมกับ สถานการณ์ ผลงานมคี วาม ผลงานส่วนใหญม่ ี ผลงานมี ผลงานไมม่ ีความ เปน็ ระเบยี บ ข้อบกพร่อง ข้อบกพร่อง เปน็ ระเบยี บ เลก็ นอ้ ย บางส่วน

เกณฑ์ประเมนิ คณุ ภาพ 10 - 12 คะแนน หมายถงึ ดีมาก ระดบั 4 4 - 6 คะแนน หมายถงึ พอใช้ ระดับ 2 7 - 9 คะแนน หมายถงึ ดี ระดับ 3 1-3 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง ระดบั 1 เกณฑ์การใหค้ ะแนนดา้ นทักษะและกระบวนการทำงาน ทกั ษะและกระบวนการ: การให้เหตผุ ล คะแนน:ระดบั คณุ ภาพ ความสามารถในการใหเ้ หตุผลที่ปรากฏใหเ้ หน็ 4 : ดีมาก มีการอ้างอิง เสนอแนวคิดประกอบการตัดสนิ ใจอย่างมเี หตุผล 3 : ดี มกี ารอ้างอิงที่ถูกต้องบางสว่ น และเสนอแนวคดิ ประกอบการตดั สนิ ใจ 2 : พอใช้ เสนอแนวคดิ ไมส่ มเหตสุ มผลในการประกอบการตัดสนิ ใจ 1 : ควรปรบั ปรงุ แกไ้ ข มคี วามพยายามเสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสินใจ ทกั ษะและกระบวนการ : การแก้ปญั หา คะแนน:ระดับคุณภาพ ความสามารถในการแก้ปญั หาท่ปี รากฏใหเ้ หน็ 4 : ดีมาก ใชก้ ระบวนการแก้ปญั หาไดส้ ำเรจ็ อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ อธิบายถึงเหตุผล หลักการและข้ันตอนในการแก้ปญั หาได้เขา้ ใจชดั เจนนำมาซึ่งคำตอบท่ีถูกต้อง 3 : ดี ใช้กระบวนการแกป้ ัญหาไดส้ ำเร็จ แตน่ า่ จะอธบิ ายถึงเหตุผล หลักการและข้นั ตอนในการแก้ปญั หาได้ดีกว่าน้ี 2 : พอใช้ มกี ระบวนการแก้ปัญหา สำเร็จเพยี งบางสว่ น อธบิ ายถงึ เหตุผล หลักการและขั้นตอนในการแก้ปัญหาได้บางสว่ น 1 : ควรปรับปรุงแก้ไข มีร่องรอยการแก้ปัญหาบางสว่ น เรม่ิ คดิ ใชเ้ หตุผล หลกั การและขั้นตอน ในการแกป้ ญั หา แลว้ หยดุ อธิบายตอ่ ไม่ได้ แกป้ ัญหาไมส่ ำเรจ็

ทักษะ และกระบวนการ: การเช่อื มโยง สรปุ องค์ความรู้ คะแนน:ระดบั ความสามารถในการเชื่อมโยงทีป่ รากฏให้เหน็ คุณภาพ นำความรู้ หลักการ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตรใ์ นการเชอ่ื มโยงกบั สาระคณติ ศาสตร์ 4 : ดมี าก หรอื กจิ กรรมท่ีต้องใช้องคค์ วามร้ทู ีเ่ รียนได้ถกู ต้องทุกกจิ กรรมเพื่อชว่ ยในการแกป้ ัญหา หรอื ประยุกต์ใชไ้ ด้อยา่ งสอดคล้องและเหมาะสม นำความรู้ หลกั การ และวิธกี ารทางคณิตศาสตรใ์ นการเชอ่ื มโยงกบั สาระคณิตศาสตร์ 3 : ดี หรอื กิจกรรมที่ต้องใชอ้ งค์ความรทู้ ีเ่ รียนได้เป็นสว่ นใหญ่ เพื่อช่วยในการแก้ปญั หาหรอื ประยกุ ต์ใช้ได้บางส่วน 2 : พอใช้ นำความรู้ หลักการ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตร์ไปเชื่อมโยงกับสาระคณิตศาสตร์หรือ กิจกรรมท่ีต้องใช้องค์ความรทู้ ่ีเรยี นไดบ้ างสว่ น 1 : ควรปรบั ปรงุ นำความรู้ หลักการ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตรใ์ นการเชื่อมโยงยงั ไม่เหมาะสม สรปุ แกไ้ ข องค์ความรทู้ ่ีได้ เกณฑ์การใหค้ ะแนนด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ : นักเรยี นใฝเ่ รียนรู้ คะแนน : ระดับ คณุ ลกั ษณะท่ปี รากฏให้เห็น คุณภาพ 3 : ดมี าก - มคี วามสนใจ / ความตัง้ ใจตลอดระยะเวลาการเรยี นรู้ 2 : ดี - มีความสนใจ / ความต้งั ใจเป็นบางครั้ง 1 : พอใช้ - มีความสนใจ / ความต้งั ใจในระยะเวลาสั้นๆ ชอบเลน่ ในเวลาเรียน คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ : นักเรยี นมีความมุ่งม่ันในการทำงาน คะแนน : ระดบั คณุ ลักษณะทป่ี รากฏให้เห็น คุณภาพ 3 : ดีมาก - สง่ งานก่อนหรือตรงกำหนดเวลานดั หมาย - รบั ผิดชอบในงานท่ีไดร้ บั มอบหมายและปฏิบัตติ นเองจนเป็นนสิ ยั 2 : ดี - สง่ งานช้ากว่ากำหนด แตไ่ ด้มีการตดิ ต่อชีแ้ จงผสู้ อน มเี หตุผลที่รบั ฟงั ได้ - รบั ผดิ ชอบในงานทไ่ี ด้รับมอบหมายและปฏิบตั ติ นเองจนเปน็ นิสยั 1 : พอใช้ - สง่ งานช้ากวา่ กำหนด - ปฏิบัติงานโดยตอ้ งอาศัยการชีแ้ นะ แนะนำ ตักเตือนหรือให้กำลังใจ

ใบงานที่ 12 เร่ือง โจทยป์ ญั หาการคณู จงแสดงวิธีทำ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .....................................................................................…………….………………………......................... ..................... .................................................................................................................……………………………… …………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………….………………………. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .......................…………….………………………....................................................................................... ..................... ...................................................…………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………….………………………............................................................... ................................................................................................................................................ .............................. ............................................................................................................................. ..........…………….…………………

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 14 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค 13101 ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 7 เรอ่ื ง การคณู เรื่อง การสร้างโจทย์ปัญหาการคูณ เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง สอนวนั ที่_________เดือน________________พ.ศ.256_ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของจำนวน ผลท่เี กดิ ขึน้ จากการดำเนินการ สมบัตขิ องการดำเนินการ และนำไปใช้ ตวั ช้ีวดั : ค 1.1 ป.3/9 แสดงวิธหี าคำตอบของ โจทย์ปัญหา 2 ข้ันตอน ของจำนวนนับไม่เกนิ 100,000 และ 0 จดุ ประสงค์การเรยี นรสู้ ู่ตวั ช้ีวดั 1.บอกวธิ หี าสรา้ งโจทยป์ ญั หาการคูณ (K) 2. สรา้ งโจทยป์ ญั หาการคูณ (P) 3.นักเรียนมีความมุ่งในการทำงานและสามารถนำความรู้ทีไ่ ดไ้ ปตอ่ ยอดในการเรยี นเรื่องต่อไป (A) สาระสำคัญ การสร้างโจทยป์ ัญหาต้องมที ้ังส่วนทีโ่ จทยบ์ อก และส่วนท่ีโจทยถ์ ามนอกจากนี้โจทยป์ ญั หาทีส่ รา้ ง ต้องมีความเปน็ ไปได้ สาระการเรยี นรู้ 1.ความรู้ การสร้างโจทย์ปญั หาการคณู 2.ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ 1.ความสามารถในการสอื่ สารความหมายทางคณิตศาสตร์ 2.การเชอ่ื มโยง 3.การให้เหตผุ ล 4. การคดิ สร้างสรรค์ 5.การแกป้ ญั หา 3.คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุง่ มนั่ ในการทำงาน ชิ้นงานหรอื ภาระงาน ใบงานท่ี 13 เรื่อง การสรา้ งโจทยป์ ญั หาการคูณ

กจิ กรรมการจัดการเรยี นรู้ 1.ครสู นทนากบั นักเรยี นเก่ยี วกบั ความหมายการคูณจากนั้นครูติดบตั รภาพและบัตรประโยคสญั ลักษณ์ 12 × 72 ตามหนงั สอื เรียนหน้า 269 แลว้ ใช้คำถาม นำเพ่ือให้นกั เรยี นสรา้ งโจทยป์ ัญหาการคูณจาก ประโยคสัญลกั ษณท์ ่ีกำหนด โดยใหน้ ักเรยี นนำข้อมูล จากภาพซึ่งเป็นการจดั เรียงสินคา้ ประเภทตา่ ง ๆ สำหรบั จำหน่ายมาเป็นแนวทางในการสร้าง โจทย์ปัญหาการคูณ เช่น จากประโยคสญั ลกั ษณ์ 12 × 72 = ครูอาจใหน้ ักเรยี นบอกความหมาย ของการคณู 12 × 72 คอื มี12 แถว แตล่ ะแถวมีสมาชิก 72 หรือมี 12 กลมุ่ แตล่ ะกลมุ่ มีสมาชกิ 72แล้วให้นกั เรียนใช้ ข้อมลู จากภาพที่กำหนดต่อไปน้สี ร้างเป็นโจทยป์ ัญหาการคูณ 2.จากประโยคสัญลกั ษณ์ 12 × 72 = นักเรียนอาจสร้างโจทย์ปัญหาได้แตกต่างกัน เช่น − แม่ซอ้ื น้ำผลไม้ 12 แพ็ก ราคาแพ็กละ 72บาทแมต่ ้องจา่ ยเงนิ ซ้ือน้ำผลไม้ทั้งหมด กบ่ี าท − ครูจดั ขนมเปน็ แถว 12 แถว แถวละ72 หอ่ ครูจัดขนมทงั้ หมดกหี่ ่อ − ร้านค้าจัดขนม 12 ถงุ ถุงละ 72 ชนิ้ รา้ นคา้ จดั ขนมทัง้ หมดกช่ี ้นิ 3.จากโจทยป์ ัญหาทีส่ รา้ ง ครูให้นกั เรยี นชว่ ยกนั ระบุส่วนท่โี จทย์บอกและส่วนที่โจทยถ์ ามเชน่ จาก โจทย์ปญั หา “แม่ซือ้ นำ้ าผลไม้ 12 แพก็ ราคาแพก็ ละ 72 บาท แม่ต้องจ่ายเงินซ้ือนำ้ ผลไม้ทั้งหมด ก่บี าท” ส่วนทโี่ จทย์บอก คือแม่ซ้ือน้ำผลไม้ 12 แพ็ก ราคาแพ็กละ 72 บาท สว่ นท่โี จทยถ์ าม คือ แม่ต้องจ่ายเงนิ ซื้อน้ำผลไมท้ งั้ หมดกบี่ าท จากนน้ั ครูสมุ่ ใหน้ ักเรยี นบอกส่วนทโี่ จทย์ถามและส่วนทีโ่ จทย์บอกของโจทยป์ ญั หาอน่ื ๆ เมอื่ ครบ ทุกโจทย์ ปัญหาแลว้ ครูให้นักเรียนช่วยกันพจิ ารณาวา่ โจทย์ปญั หาที่สร้างมคี วามเปน็ ไปได้หรือไม่ โดยใหพ้ จิ ารณาโจทย์ ปัญหาทส่ี ร้างแลว้ เขียนประโยคสญั ลักษณ์และประโยคสัญลักษณ์ทไี่ ดน้ ้นั สอดคล้องกบั ประโยคสญั ลกั ษณ์ 12 × 72 = หรือไม่ จะเห็นว่าโจทยป์ ัญหาท่ียกตวั อย่างมาน้นั สอดคล้องกบั ประโยคสัญลักษณ์ดงั นั้นโจทยป์ ัญหาท่สี รา้ งจงึ มคี วามเป็นไปได้และสอดคลอ้ งกับ ประโยคสัญลกั ษณ์ท่ีกำหนดใหจ้ ากนนั้ ครูยกตวั อย่างโจทย์ปัญหาที่สร้าง “ขนม 1 กล่องมี 12 ช้ิน ขนมราคากล่องละ 72 บาท ขนมทัง้ หมดราคากบี่ าท”

ให้นกั เรียนพจิ ารณาความเป็นไปได้ นักเรียนรว่ มกันอภปิ รายไดข้ ้อสรุปวา่ โจทยป์ ญั หานไ้ี ม่สอดคล้องกับประโยค สญั ลกั ษณ์ 12 × 72 = ครูให้นกั เรยี นช่วยกันแก้ไขเพื่อใหโ้ จทย์ปญั หาน้มี ีความเป็นไปได้และสอดคลอ้ ง กับ ประโยคสญั ลักษณ์นักเรยี นอาจแก้ไขได้ดังนี้ มีขนม 12 กลอ่ ง แตล่ ะกลอ่ งมีขนม 72 ชิ้น มขี นมทง้ั หมดกีช่ น้ิ ครเู น้นย้ำวา่ ในการสรา้ งโจทย์ปญั หานน้ั ตอ้ งมที ัง้ ส่วนท่ีโจทยบ์ อกและ ส่วนที่โจทยถ์ ามและสามารถหาคำตอบ ของโจทย์ปญั หานนั้ ได้นอกจากน้โี จทย์ปญั หาทีส่ ร้าง ต้องมีความเปน็ ไปได้และสอดคลอ้ งกับประโยคสญั ลักษณ์ 4.ครูติดบัตรภาพตามหนงั สือเรียน หน้า 270 ใหน้ ักเรียนพจิ ารณาและชว่ ยกนั สรา้ งโจทย์ปัญหาพร้อม ทัง้ เขียน ประโยคสัญลักษณจ์ ากโจทยป์ ญั หาท่สี ร้าง เช่น − ปลูกมะเขือเทศแปลงละ 30 ตน้ จำนวน 4 แปลงปลกู มะเขือเทศทัง้ หมดก่ตี น้ ประโยคสัญลักษณ์ 4 × 30 = ครถู ามนักเรยี นว่าส่วนทโี่ จทยถ์ ามคืออะไร ส่วนทีโ่ จทย์บอกคืออะไรและโจทย์ปญั หา ท่ีสรา้ งขนเขยี นประโยคสัญลักษณ์ได้ถูกต้องหรือไม่ นกั เรยี นตอบวา่ สว่ นทโ่ี จทยถ์ ามคอื ปลูกมะเขอื เทศท้งั หมดก่ีต้นส่วนทโ่ี จทย์บอก คือ ปลูก มะเขือเทศแปลงละ30 ตน้ จำนวน 4 แปลงเขียนประโยคสญั ลักษณ์ได้ถูกต้อง เพราะปลกู 4 แปลง แปลงละ 30 ต้น เขียนประโยคสัญลกั ษณไ์ ดเ้ ปน็ 4 × 30 = ครอู ธบิ ายวา่ โจทยป์ ญั หาทีส่ รา้ งมีความเป็นไปไดเ้ พราะเขียนประโยคสัญลักษณ์ได้ถกู ต้อง และหาคำตอบได้ คือปลูกมะเขือเทศทงั้ หมด 4 × 30= 120 ต้น ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรุป วา่ การแก้โจทย์ปญั หาทำได้โดยอ่านทำความเขา้ ใจ ปัญหา วางแผน แกป้ ญั หา หาคำตอบ และตรวจสอบ ความสมเหตุสมผลของคำตอบ สือ่ การเรยี นรู้ 1.หนงั สอื เรียนคณติ ศาสตร์ ป.3

การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ จุดประสงคก์ าร วธิ วี ดั เครอ่ื งมือวดั เกณฑ์การประเมิน เรียนรู้ ใบงาน 70% ขน้ึ ไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์ การประเมนิ 1. ดา้ นความรู้ (K) ตรวจทำใบงาน แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรยี นได้คะแนนระดับ ดา้ นทักษะ คณุ ภาพดีขนึ้ ไป 2. ด้านทกั ษะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน กระบวนการ กระบวนการ (P) ทกั ษะกระบวนการ แบบสงั เกตพฤติกรรม นักเรียนได้คะแนนระดบั ดา้ นคณุ ลกั ษณะ คณุ ภาพดีขนึ้ ไป 3. ด้านคณุ ลักษณะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน ท่ีพึงประสงค์ ทพ่ี งึ ประสงค์ (A) คุณลักษณะที่พึงประสงค์ เกณฑ์การประเมินแบบฝึกหัด/ใบงาน ประเดน็ การประเมิน ระดับคุณภาพ 1. 1.ความถกู ต้องของ เนื้อหา 4 3 21 2. รูปแบบ เนอื้ หาสาระของ เน้อื หาสาระของ เน้อื หาสาระของ เน้อื หาสาระของ 3. ความเปน็ ระเบยี บ ผลงานถกู ต้อง ผลงานถกู ต้องเป็น ผลงานถกู ต้อง ผลงานไมถ่ ูกตอ้ ง ครบถว้ น สว่ นใหญ่ บางประเดน็ เปน็ สว่ นใหญ่ การนำเสนอ การนำเสนอถกู ต้อง การนำเสนอ การนำเสนอไม่ น่าสนใจและ เปน็ ส่วนใหญ่ ถกู ต้องบางส่วน เปน็ ไปตามเกณฑ์ เหมาะสมกบั สถานการณ์ ผลงานมคี วาม ผลงานส่วนใหญม่ ี ผลงานมี ผลงานไม่มีความ เป็นระเบยี บ ข้อบกพร่อง ข้อบกพร่อง เป็นระเบยี บ เลก็ นอ้ ย บางสว่ น เกณฑ์ประเมนิ คณุ ภาพ 10 - 12 คะแนน หมายถึง ดีมาก ระดบั 4 4 - 6 คะแนน หมายถึง พอใช้ ระดบั 2 7 - 9 คะแนน หมายถงึ ดี ระดับ 3 1-3 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรุง ระดับ 1

เกณฑก์ ารให้คะแนนด้านทกั ษะและกระบวนการทำงาน ทักษะและกระบวนการ: การให้เหตุผล คะแนน:ระดบั คณุ ภาพ ความสามารถในการใหเ้ หตุผลที่ปรากฏให้เห็น 4 : ดมี าก มกี ารอ้างอิง เสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสินใจอยา่ งมีเหตุผล 3 : ดี มกี ารอ้างอิงทถ่ี ูกต้องบางสว่ น และเสนอแนวคิดประกอบการตดั สนิ ใจ 2 : พอใช้ เสนอแนวคิดไม่สมเหตสุ มผลในการประกอบการตัดสินใจ 1 : ควรปรบั ปรงุ แก้ไข มคี วามพยายามเสนอแนวคิดประกอบการตัดสินใจ ทกั ษะและกระบวนการ : การแก้ปญั หา คะแนน:ระดับคณุ ภาพ ความสามารถในการแก้ปญั หาท่ปี รากฏให้เห็น 4 : ดีมาก ใช้กระบวนการแก้ปัญหาได้สำเรจ็ อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ อธบิ ายถึงเหตผุ ล หลกั การและขนั้ ตอนในการแกป้ ัญหาได้เข้าใจชดั เจนนำมาซึ่งคำตอบท่ถี ูกต้อง 3 : ดี ใชก้ ระบวนการแก้ปัญหาได้สำเร็จ แตน่ ่าจะอธบิ ายถึงเหตุผล หลักการและขั้นตอนในการแก้ปัญหาได้ดกี ว่านี้ 2 : พอใช้ มกี ระบวนการแก้ปัญหา สำเร็จเพียงบางสว่ น อธบิ ายถึงเหตผุ ล หลักการและข้นั ตอนในการแกป้ ญั หาได้บางสว่ น 1 : ควรปรับปรุงแกไ้ ข มรี ่องรอยการแกป้ ญั หาบางส่วน เริม่ คดิ ใช้เหตุผล หลกั การและขน้ั ตอน ในการแกป้ ัญหา แล้วหยุด อธบิ ายตอ่ ไม่ได้ แก้ปญั หาไม่สำเร็จ

ทักษะ และกระบวนการ: การเช่อื มโยง สรปุ องค์ความรู้ คะแนน:ระดบั ความสามารถในการเชื่อมโยงทีป่ รากฏให้เหน็ คุณภาพ นำความรู้ หลักการ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตรใ์ นการเชอ่ื มโยงกบั สาระคณติ ศาสตร์ 4 : ดมี าก หรอื กจิ กรรมท่ีต้องใช้องคค์ วามร้ทู ีเ่ รียนได้ถกู ต้องทุกกจิ กรรมเพื่อชว่ ยในการแกป้ ัญหา หรอื ประยุกต์ใชไ้ ด้อยา่ งสอดคล้องและเหมาะสม นำความรู้ หลกั การ และวิธกี ารทางคณิตศาสตรใ์ นการเชอ่ื มโยงกบั สาระคณิตศาสตร์ 3 : ดี หรอื กิจกรรมที่ต้องใชอ้ งค์ความรทู้ ีเ่ รียนได้เป็นสว่ นใหญ่ เพื่อช่วยในการแก้ปญั หาหรอื ประยกุ ต์ใช้ได้บางส่วน 2 : พอใช้ นำความรู้ หลักการ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตร์ไปเชื่อมโยงกับสาระคณิตศาสตร์หรือ กิจกรรมท่ีต้องใช้องค์ความรทู้ ่ีเรยี นไดบ้ างสว่ น 1 : ควรปรบั ปรงุ นำความรู้ หลักการ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตรใ์ นการเชื่อมโยงยงั ไม่เหมาะสม สรปุ แกไ้ ข องค์ความรทู้ ่ีได้ เกณฑ์การใหค้ ะแนนด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ : นักเรยี นใฝเ่ รียนรู้ คะแนน : ระดับ คณุ ลกั ษณะท่ปี รากฏให้เห็น คุณภาพ 3 : ดมี าก - มคี วามสนใจ / ความตัง้ ใจตลอดระยะเวลาการเรยี นรู้ 2 : ดี - มีความสนใจ / ความต้งั ใจเป็นบางครั้ง 1 : พอใช้ - มีความสนใจ / ความต้งั ใจในระยะเวลาสั้นๆ ชอบเลน่ ในเวลาเรียน คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ : นักเรยี นมีความมุ่งม่ันในการทำงาน คะแนน : ระดบั คณุ ลักษณะทป่ี รากฏให้เห็น คุณภาพ 3 : ดีมาก - สง่ งานก่อนหรือตรงกำหนดเวลานดั หมาย - รบั ผิดชอบในงานท่ีไดร้ บั มอบหมายและปฏิบัตติ นเองจนเป็นนสิ ยั 2 : ดี - สง่ งานช้ากว่ากำหนด แตไ่ ด้มีการตดิ ต่อชีแ้ จงผสู้ อน มเี หตุผลที่รบั ฟงั ได้ - รบั ผดิ ชอบในงานทไ่ี ด้รับมอบหมายและปฏิบตั ติ นเองจนเปน็ นิสยั 1 : พอใช้ - สง่ งานช้ากวา่ กำหนด - ปฏิบัติงานโดยตอ้ งอาศัยการชีแ้ นะ แนะนำ ตักเตือนหรือให้กำลังใจ

ใบงานท่ี 13 เรอื่ ง การสร้างโจทยป์ ญั หาการคูณ สรา้ งโจทยป์ ัญหาจากประโยคสัญลักษณ์ ‘12 × 72 = ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .....................................................................................…………….………………………......................... ..................... .................................................................................................................……………………………… …………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………….………………………. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .......................…………….………………………....................................................................................... ..................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .....................................................................................…………….………………………......................... ..................... .................................................................................................................…………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………….………………………. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 15 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ รหัสวชิ า ค 13101 ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 3 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 6 เร่ือง การคูณ เร่อื ง แบบทดสอบท้ายบท เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง สอนวนั ท่ี_________เดือน________________พ.ศ.256_ มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของจำนวน ผลทีเ่ กดิ ขึน้ จากการดำเนนิ การ สมบัติของการดำเนนิ การ และนำไปใช้ ตัวชีว้ ัด : ค 1.1 ป.3/6 หาค่าของตัวไมท่ ราบค่า ในประโยคสัญลกั ษณ์ แสดงการคูณของจำนวน 1 หลักกับ จำนวนไมเ่ กิน 4 หลัก และจำนวน 2 หลกั กบั จำนวน 2 หลัก ค 1.1 ป.3/9 แสดงวธิ หี าคำตอบของ โจทย์ปัญหา 2 ขน้ั ตอน ของจำนวนนบั ไม่เกิน 100,000 และ 0 จุดประสงค์การเรยี นร้สู ตู่ ัวชี้วัด 1. หาผลคูณในประโยคสัญลักษณ์แสดงการคูณของจำนวน 1หลักกบั จำนวนไมเ่ กนิ 4 หลัก และ จำนวน 2 หลกั กับ จำนวน 2 หลกั 2. หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการคูณของจำนวน1 หลักกบั จำนวน ไมเ่ กิน 4 หลกั และจำนวน 2 หลักกับจำนวน 2 หลัก 3. แสดงวิธีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาการคูณ 4. สร้างโจทยป์ ัญหาการคูณ กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบท้ายบท ส่อื การเรียนรู้ 1.หนังสอื เรยี นคณิตศาสตร์

การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ จุดประสงค์การ วิธีวดั เคร่อื งมือวัด เกณฑ์การประเมนิ เรยี นรู้ ตรวจแบบทดสอบท้ายบท แบบทดสอบท้ายบท 50% ขึน้ ไป ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์ 1. ดา้ นความรู้ (K) การประเมนิ 2. ด้านทักษะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรยี นได้คะแนนระดบั กระบวนการ (P) ทักษะกระบวนการ ดา้ นทกั ษะ คณุ ภาพดีขน้ึ ไป 3. ด้านคุณลักษณะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน ทพี่ ึงประสงค์ (A) คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ กระบวนการ แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรียนได้คะแนนระดบั ด้านคณุ ลกั ษณะ ที่พึง คณุ ภาพดีข้นึ ไป ประสงค์

แบบทดสอบทา้ ยหนว่ ย เรือ่ ง การคณู คะแนนเตม็ 30 คะแนน เวลา 60 นาที .......................................................................................................................................................... มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของจำนวน ผลท่ี เกดิ ขึ้นจากการดำเนินการ สมบตั ขิ องการดำเนินการ และนำไปใช้ ตวั ชี้วดั : ค 1.1 ป.3/6 หาค่าของตัวไม่ทราบคา่ ในประโยคสญั ลักษณ์ แสดงการคูณของจำนวน 1 หลักกับ จำนวนไม่เกนิ 4 หลัก และจำนวน 2 หลกั กบั จำนวน 2 หลัก ค 1.1 ป.3/9 แสดงวิธหี าคำตอบของ โจทย์ปัญหา 2 ขนั้ ตอน ของจำนวนนบั ไมเ่ กิน 100,000 และ 0