1 ช่ือผลงานนวตั กรรม คนดี ศรีทงุ่ อุดม ด้วยกระบวนการ TUWS ชอื่ เจ้าของผลงานนวัตกรรม นางธีรดา แกว้ บุญปัน โรงเรยี น สงั กดั สพม. โรงเรียนทุ่งอุดมวทิ ยา สังกัดสานักงานเขตพน้ื ท่กี ารศกึ ษามธั ยมศึกษา ลาปาง ลาพูน โทรศัพท์ โทรสาร - โทรศพั ทม์ อื ถอื E-mail 099-2979824 ประเภทผลงาน ด้านการบริหาร สอดคล้องกับคุณลักษณะโรงเรยี นคณุ ธรรม สพฐ. ความพอเพียง ความรับผดิ ชอบ คุณธรรมอตั ลักษณ์ของโรงเรยี น ซ่อื สัตย์ มคี วามรับผิดชอบ ความพอเพยี ง รายละเอยี ดเอกสารการนาเสนอผลงานนวั ตกรรม ๑.ความสาคญั ของผลงานนวตั กรรมทน่ี าเสนอ การเปล่ียนแปลงในยุคศตวรรษท่ี 21 ส่งผลต่อวิถีชีวีติของคนในสังคม ระบบการศึกษาจึงจาเป็นต้อง พัฒนา ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงท่ีเกิดข้ึนนี้ด้วย เดิมการศึกษามุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีทักษะเพียงอ่านออก เขยี นได้เท่าน้ัน แต่สาหรบั ในศตวรรษท่ี 21 ต้องมุ่งเน้นให้ผเู้ รียนเกิดการปฏิบัติ และการสร้างแรงบันดาลใจไป พร้อมกัน กล่าวคือ จะไม่เป็นเพียงผู้รับ (Passive Learning) อีกต่อไป แต่ผู้เรียนต้องฝึกการเรียนรู้จากการลง มือปฏิบัติและการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง (Active Learning) โดยมีครูเป็น “โค้ช” ท่ีคอยออกแบบการ เรียนรู้เพ่ือช่วยผู้เรยี นให้บรรลุผลไดประการสาคญั คือ ครูในศตวรรษที่ 21 จะต้องไม่ตง้ั ตนเป็น “ผรู้ ู้” แต่ต้อง แสวงหาความรูไปพร้อมๆ กันกับผู้เรียนในขณะเดียวกัน ดังน้ันการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ต้องก้าวข้าม “สาระวิชา” ไปสู่การเรียนรู้ “ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21” (21st Century Skills) ซ่ึงครูจะเป็นผู้สอนไม่ได้แต่ ต้องให้นักเรียนเป็นผู้เรียนรู้ด้วยตนเอง โดยครูจะออกแบบการเรียนรู้ฝึกฝนให้ตนเองเป็นโค้ช (Coach) และ อานวยความสะดวก (Facilitator) ในการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Based Learning : PBL) ของนักเรียนส่ิงท่ีเป็นตัวช่วยของครูในการจัดการเรียนรู้คือชุมชนการเรียนรู้ครูเพ่ือศิษย์ (Professional Learning Communities : PLC) ซ่ึงเกิดจากการรวมตัวกันของครูเพ่ือแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทาหน้าท่ี ของครแู ตล่ ะคนนนั่ เอง ( สานกั พัฒนาครูและบุคลากรการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน , ๒๕๖๐) ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community) เป็นกระบวนการสร้างการ เปล่ียนแปลงโดยเรียนรจู้ ากการปฏิบตั ิงานของกลุม่ บคุ คลท่ีมารวมตวั กนั เพื่อทางานร่วมกันและสนบั สนุนซึ่งกัน และกัน โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน ร่วมกันวางเป้าหมายการเรียนรู้ของผู้เรียน และ ตรวจสอบ สะท้อนผลการปฏิบัติงานทั้งในส่วนบุคคลและผลท่ีเกิดขึ้นโดยรวมผ่านกระบวนการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ การวิพากษ์วิจารณ์ การทางานร่วมกัน การร่วมมือรวมพลัง โดยมุ่งเน้นและส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ อยา่ งเป็นองค์รวม โดยมีการดาเนินการอยา่ งน้อย 5 ประการ ดังนี้ 1) มีเป้าหมายร่วมกันในการจดั การเรียนรู้/ การพัฒนาผู้เรยี นให้พฒั นาอย่างเต็มศักยภาพ 2) มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากหน้างาน/สถานการณ์จริงของช้ัน เรียน 3) ทุกฝ่ายเก่ียวข้องร่วมเรียนรู้และรวมพลัง/หนุนเสริมให้เกิดการสร้างความเปล่ียนแปลงตามเป้าหมาย 4)มีการวพิ ากย์ สะท้อนผลการทางานพฒั นาผู้เรียน และ 5) มีการสรา้ ง HOPE ให้ทีมงานอันประกอบดว้ ย (1) honesty & humanity เป็นการยึดข้อมูลจริงท่ีเกิดขึ้นและให้การเคารพกันอย่างจริงใจ (2) option & openness เป็นการเลือกสรรส่ิงที่ดีท่ีสุดให้ผู้เรียนและพร้อมเปิดเผย/เปิดใจเรียนรู้จากผู้อื่น (3) patience & persistence เป็นการพัฒนาความอดทนและความมุ่งม่ันทุ่มเทพยายยามจนเกิดผลชัดเจน (4) efficacy & enthusiasm เป็นการสร้างความเช่ือม่ันในผลของวิธีการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียนว่าจะทาให้ผู้เรียน เรียนรู้ และกระตอื รือรน้ ทจ่ี ะพัฒนาตนเองอยา่ งเต็มที่ (เรวดี ชยั เชาวรตั น์, 2558) คนดีศรีทุ่งอดุ ม ด้วยกระบวนการ TUWS โรงเรยี นท่งุ อุดมวทิ ยา
2 โรงเรียนทุ่งอุดมวิทยา สังกัดสานกั งานเขตพื้นที่การศึกษามธั ยมศึกษาลาปาง ลาพนู เปดิ ทาการเรยี น การสอนในระดับชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี ๑ – ๖ มนี ักเรียนจานวน ๑๕๘ คน ข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการ ศึกษา จานวน ๑๙ คน สภาพบรบิ ทของโรงเรียนตงั้ อยู่ในพ้ืนที่ตาบลบา้ นขอ อาเภอเมืองปาน มีจานวนหมู่บา้ น ๑๓ หม่บู ้าน มีบทบาทหน้าท่ใี นการพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรมนกั เรยี น ได้เข้ารว่ มเป็นโรงเรยี นคณุ ธรรม สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน(สพฐ.) ตั้งแต่ปี ๒๕๕๙ ได้จัดทาหลกั สูตรสถานศึกษาที่ สอดแทรกคุณะรรมจริยธรรมในรายวิชาทุกกลมุ่ สาระการเรียนรูแ้ ละกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น และจัดทาโครงการ ตามแผนปฏิบัตกิ ารประจาปขี องโรงเรยี น ในการพฒั นาคุณธรรมของนักเรยี น นอกจากน้ัน รายงานการ ประเมนิ คุณภาพภายนอกรอบส่ี (รายงานการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ ( พ.ศ.๒๕๕๙ – ๒๕๖๓) ระดบั ขนั้ พน้ื ฐาน โรงเรยี นทุ่งอดุ มวิทยา,๒๕๖๒:๑๑) ข้อเสนอแนะเพ่ือการพฒั นาสนู่ วตั กรรมหรือแบบอยา่ งท่ดี ี ได้ กลา่ วว่า มาตรฐานคุณภาพผู้เรยี น ผู้เรยี นมีความรู้ ความสามารถ และมพี นื้ ฐานในการประดิษฐง์ านไม้ไผ่ มี ความสามารถในการสร้างนวัตกรรม ระดับคณุ ภาพ ดมี าก ควรไดร้ ับการส่งเสรมิ ให้เกิดคุณค่าของสง่ิ ประดิษฐ์ และให้เกิดการยอมรบั ของชุมชน นาไปใช้ประโยชน์ในชวี ิตประจาวัน และเปน็ ทร่ี จู้ ักแพรห่ ลาย เช่น โครงการ โรงเรยี นปลอดขยะ ควรให้ผเู้ รียนได้รบั การสง่ เสรมิ มาตรฐานกระบวนการบรหิ ารจัดการ สถานศกึ ษามีการ สง่ เสรมิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ให้เกดิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ๘ ประการโดยเฉพาะ โครงการคุณธรรม ขยะมี ค่า รู้รักษาส่ิงแวดล้อม มวี ตั ถุประสงค์เพื่อปลูกฝังให้นักเรยี นมคี วามรับผิดชอบ มวี นิ ัย ใฝ่รู้ มคี วามสามัคคี มี ความอตุ สาหะ ความอดทน มุ่งมั่นในการทางาน มคี วามพอเพียง มนี ้าใจ จิตสาธารณะ และรจู้ ักการนาแนวคิด ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาใช้ในการดาเนินชวี ติ อีกทั้งยังเป็นการสง่ เสรมิ ให้ชมุ ชนได้มีส่วนรว่ มในการ รักษาสิง่ แวดลอ้ ม ทาให้สถานศกึ ษาและชุมชนมีภมู ทิ ัศนท์ ่สี ะอาด สวยงามและควรพัฒนาต่อยอดในวัตกรรม หรือแบบอย่างทีด่ ี สาหรบั โรงเรยี นอ่นื ๆ โดยการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ใหส้ ถานศกึ ษาระดบั มธั ยมศกึ ษาใน จงั หวดั ลาปางและจังหวัดใกล้เคยี งมาศึกษาดูงานนาไปเปน็ แบบอย่างและเผยแพรไ่ ปสู่ชมุ ชนอ่ืนอยา่ งต่อเน่ือง มาตรฐานกระบวนการจดั การเรยี นการสอนท่ีเน้นผู้เรยี นเป็นสาคัญ ครูมกี ารดาเนินงานดา้ นการใช้ กระบวนการ PLC มาใชใ้ นการพฒั นาตน พฒั นางานแลกเปลีย่ นเรียนรู้ มแี ผนการจัดการเรียนรทู้ มี่ เี ปา้ หมาย คณุ ภาพผเู้ รยี น ท้ังด้านความรู้ทกั ษะกระบวนการ สมรรถนะ และคุณลักษณะที่พงึ ประสงค์ นาแนวปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพียง และภูมปิ ัญญาท้องถ่ินมาบรู ณาการ ในการจัดการเรียนรใู้ นแตล่ ะวิชา มีการวดั ประเมนิ ผล จากสภาพความเป็นจริงโดยมุ่งเนน้ ใหผ้ เู้ รยี นได้ปฏบิ ตั ิจริง ด้วยวธิ กี ารหลากหลาย สง่ ผลให้การจดั การเรยี นการ สอนของครคู รอบคลุมทักษะกระบวนการเรียนรอู้ ย่างมปี ระสิทธิภาพควรมีการต่อยอด เพื่อพฒั นาไปสู่ระดบั คุณภาพดีเย่ยี มต่อไป จากรายงานการประเมนิ คุณภาพภายนอกรอบส่ี โรงเรยี นไดน้ าขอ้ มูลทงั้ ๓ ด้าน ระดมความคดิ ใน การต้งั ค่าเปา้ หมายในการเรียนรู้ให้เกิดประสิทธิภาพและสอดคล้องกับบรบิ ทของโรงเรียน กับผ้ทู ่ีเก่ียวข้อง ภาคีเครือขา่ ยในการพฒั นาคุณภาพการศกึ ษาของโรงเรยี น ประกอบดว้ ย คณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน คณะกรรมการเครือขา่ ย คณะกรรมการทป่ี รึกษาของโรงเรยี น ผู้ปกครอง คณะครูและบุคลากรทางการศกึ ษา และสภานักเรียนของโรงเรยี น ดว้ ยการสรา้ งชุมชนแห่งการเรียนร้(ู PLC) วิเคราะหส์ ภาพบรบิ ทของโรงเรียนท่ี ต้งั อยู่ในพื้นที่ของกรมปา่ ไม้ และชุมชน พฤติกรรมของนกั เรยี น เพ่ือพฒั นานักเรยี นให้มีความประพฤติดา้ น คุณธรรม จรยิ ธรรม จิตสงั คม ภูมใิ จในท้องถิ่น เห็นคุณค่าของภูมิปัญญาไทย โรงเรยี นจึงไดก้ าหนดเป็นแนว ทางการพัฒนาคนดี ศรีทุง่ อดุ ม คอื การจดั การเรยี นการสอนทสี่ อดคล้องกับคุณธรรม อัตลกั ษณ์ของโรงเรียน เป็นคนดี มีความสุข รกั ษ์สิ่งแวดลอ้ ม และได้พัฒนา ระบบการบริหารจัดการสร้างสรรค์ คนดีตามคณุ ธรรม คนดีศรีทุง่ อุดม ด้วยกระบวนการ TUWS โรงเรียนทุ่งอดุ มวิทยา
3 ซ่อื สตั ย์ ความรับผดิ ชอบและพอเพยี ง ซึ่งเปน็ นวตั กรรมบริหารจัดการดา้ นคุณธรรมของโรงเรียน ภายใตบ้ รบิ ท และวฒั นธรรมองค์กร โดยการใช้กระบวนการ TUWS Model ประกอบด้วย การทางานเป็นทีม(Team) สอดคลอ้ งกับแนวคิดของ สรุ ีพร พงึ พทุ ธคุณ (2550 : 1๓๘-1๓๙) ได้กล่าวไว้ว่า การทางานเป็นทีมจะช่วยให้ สมาชกิ มองเป้าหมายของงานชดั เจน รบั รู้บทบาทหนา้ ท่ี มีส่วนรว่ มในการรับผดิ ชอบต่อผลงานของทีมรว่ มกัน สง่ ผลให้เกิดความคิดสรา้ งสรรคงื านอย่างเต็มศักยภาพ มลั ลกิ า วิชชุกรองิ ครตั (2553 : 11) กลา่ ววา่ การทางานเป็นทมี มีความสาคัญมากต่อความสาเรจ็ ขององค์การ ทตี่ ้องอาศยั ความทุ่มเท ความร้คู วามสามารถ อยา่ งเตม็ ทขี่ องผู้ปฏิบัติงานและมีบทบาทสาคัญในการปฏิบตั ิภารกจิ ทีมีประสิทธภิ าพในช่วงเวลาของ การเปล่ียนแปลงองค์การจะต้องปรบั ปรุงอยา่ งรวดเร็วเพือการแขง่ ขัน เพอื่ ส่งผลให้องค์การเจริญกา้ วหน้า และ ปริญญา ตันสกุล (2550 :12) การทางานเป็ นทมี จะเกิดขึ้นได้ก็ตอ่ เมอื สมาชิกในการสรา้ งหลกั การทางาน ขึน้ มา เพอ่ื เปน็ แนวทางในการดาเนินงานอยา่ งถกู ตอ้ งและเป็นแบบแผน หลักการทางานเปน็ ทีมทสี าคัญมี หลายประการ ไดแ้ ก่ 1. ตอ้ งมีวัตถปุ ระสงค์เดยี วกันในการอยู่ร่วมกนั 2. ตอ้ งทางานนันโดยมเี ป้าหมายเดียวกัน 3. ตอ้ งมองเหน็ ประโยชน์ของการทางานรว่ มกัน 4. ต้องถือกตกิ าและกรอบการทางานเดียวกัน 5. ตอ้ งกาหนดหน้าทีของแต่ละคนไว้อย่างชัดเจน 6. ต้องมีผู้นากลมุ่ และหวั หนา้ ทีคนเดียว 7. ตอ้ งรับผิดชอบ ในความสาเร็จหรือความลม้ เหลวร่วมกนั ความรู้ความเข้าใจ (Understanding) สอดคลอ้ งกบั แนวคิดของ อจั ฉราพร ปะทิ (๒๕๕๙ : ๑๕) ไดก้ ล่าวว่า กระบวนการนาความรู้ ความเขา้ ใจและนาไปใช้ อย่างมขี น้ั ตอนเพ่อื วางแผนระบบการทางานอยา่ ง มีประสิทธิภาพ สงวน พรชยั สริ อิ รุณ(๒๕๔๓ :๑๑) ไดก้ ลา่ วถงึ ความเข้าใจ วา่ ความเข้าใจเปน็ พฤติกรรมใน ขน้ั ท่ีต่อจากความรู้ เปน้ ขนั้ ตอนทีต่ ้องใช้ความสามารถทางสมองและทักษะที่สงู ข้ึนจนถึงระดับของ การส่ือ ความหมาย อาจทาได้ทั้งการใชป้ ากเปล่าขอ้ เขยี น ภาษาหรือการใช้สัญลักษณ์มกั เกิดขึ้นหลังจากท่บี ุคคลได้รบั ทราบข่าวสารตา่ งๆแล้วโดยการ ฟงั เห็น อา่ นหรือเขยี นก็ได้ เอกสทิ ธ์ิ แกว้ ประดิษฐ(์ ๒๕๔๕ : ๑๔๗) กลา่ ววา่ ความเข้าใจเปน็ ความสามารถของบุคคลในการแปลความหรอื อธบิ ายส่ิงท่เี ปน็ ความรู้ จนเกดิ เป็นความเขา้ ใจ ซงึ่ สังเกตไดจ้ ากพฤติกรรมที่แสดงออกในรปู ของการแปลความ ตคี วามและการคาดคะเน การทางาน(Working)ดว้ ยหลกั ธรรมสัปปุรสิ ธรรม ๗ สอดคลอ้ งกบั แนวคิดของ พจนานุกรมพุทธ ศาสน์ ฉบบั ประมวลศพั ท์ของพระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยตุ โฺ ต) (๒๕๓๘ : ๒๗๖)ได้ให้ความหมายว่า สปั ปรุ ิสธรรม หมายถงึ ธรรมของสตั บุรษุ ธรรมของคนดีธรรมที่ท าให้เป็น สัตบุรุษ มี ๗ ประการ คือ (๑) ธมั มญั ญตุ า รู้หลัก หรือรจู้ ักเหตุ (๒) อัตถัญญตุ า รคู้ วามม่งุ หมาย หรอื รเู้ หตผุ ล (๓) อตั ตัญญตุ า รจู้ กั ตน (๔) มตั ตัญญตุ า รู้จกั ประมาณ (๕) กาลญั ญุตา รู้จกั กาลเวลา (๖) ปรสิ ญั ญตุ า รู้จกั ชุมชน สังคม และ(๗) ปคุ คสัญญุญา รู้จักบคุ คล คณุ ธรรม ๗ ประการอันเปน็ คุณสมบัตภิ ายในตัวผ้นู า ซ่ึงมีคุณสมบัติท้งั ๗ ประการน้ีเปน็ องค์ประกอบและ ปัจจัยที่เกี่ยวขอ้ งกันอย่างสมบรู ณ์ ทีจ่ ะทาใหผ้ ู้นาสามารถจัดการ สามารถปฏิบัติการในภาระ งานทุกอย่างให้ บรรลผุ ลสาเร็จไดต้ ามเป้าหมาย จ.เปรยี ญ(๒๕๔๘ : ๓๓ – ๓๔) กลา่ วว่า หลักสัปปุริสธรรม๗ หมายถึง ธรรม ของสัตบุรุษ ธรรมของคนดี บคุ คลที่มีคณุ ธรรมประจ าใจ โดยยึดเอาหลักสปั ปุริสธรรมเป็นหลักในการด าเนนิ ชวี ติ บคุ คลท่ียึด เอาหลกั สปั ปุริสธรรม เปน็ ธรรมประจ าใจยงั ไดช้ อ่ื วา่ เปน็ ผู้ดี เพราะเปน็ ผู้มีเหตผุ ลมีผลในการ ปฏบิ ัตติ น เม่อื บคุ คลรจู้ กั เหตุผลแลว้ การปฏบิ ัตติ นกเ็ พียบพร้อมด้วยความดี คือ รู้จกั เหตุ รู้จกั ผล รู้จกั ตน รู้จกั ประมาณ รู้จักกาล รู้จกั ชุมชน รู้จักบุคคล แลว้ บคุ คลนั้นเป็นคนดี คอื สัตบุรุษในทางพระพุทธศาสนาถือว่าเป็น คนดี เพราะเป็นผรู้ ักสงลบ รกั ความเทยี่ งธรรม รจู้ กั หน้าท่ขี องตน ร้จู กั กาลเทศะ มีเหตุมีผลในการท างาน โดยเฉพาะผู้ทที่ าหน้าที่ปกครองคน อนื่ จะสามารถบริหารงานได้อย่าง พระยทุ ธศลิ ป์ ยุทธสปิ โป(๒๕๕๔ : ๙๗) กลา่ ววา่ หลักสัปปุรสิ ธรรม เป็นหลกั ธรรมที่ผูบ้ รหิ ารงานสามารถน าไปเป็นแนวทางใน การปฏิบตั ิงานเพ่ือทา ให้การทางานร่วมกบั ผู้อืน่ ประสบความผลสาเร็จอยา่ งมีประสิทธภิ าพ ชว่ ยใหเ้ ปน็ คนตระหนกั ในเหตผุ ลรจู้ กั การ คนดีศรีทงุ่ อุดม ด้วยกระบวนการ TUWS โรงเรยี นทงุ่ อุดมวทิ ยา
4 วางตวั พอเหมาะพอดีท้ังทางการพัฒนาองค์การ ร้เู ท่า ทนั การเปลีย่ นแปลงของสงั คมและมคี วามเป็นตัวของ ตัวเอง จึงมคี วามสาคญั มากต่อการ บรหิ ารงาน โดยมีการประยกุ ตใ์ ช้ทางบวกกับการปฏิบตั งิ านตาม กระบวนการบริหารงานทกุ ด้าน โดยการประยกุ ต์ใชห้ ลกั สปั ปุรสิ ธรรม ๗ กับดา้ นการวางแผน ด้านการจัด บคุ ลากรด้านการ ประสานงาน ดา้ นการรายงาน และด้านการงบประมาณ ทาให้เกดิ ประสทิ ธิภาพและ ประสทิ ธิผล ในการปฏบิ ัตงิ านของโรงเรยี น และการสง่ เสริมสนบั สนุน(Support) การสนับสนนุ งบประมาณ บคุ คล และการสรา้ งขวัญและ กาลังใจ และแรงบันดาลใจในการทางาน สอดคลอ้ งกับ แนวคดิ ของ ภูเบศร์ สมทุ รจักร (2552) ทอ่ี ธิบาย ท่ีมาของคาวา “แรงบนั ดาลใจ” (inspiration) วามาจากภาษาละตนิ วา สปราเร (Spirarae) หมายถงึ ลมหายใจ ซึ่งเปนรากศพั ทของคาวา Spirit ทีแ่ ปลวา จติ วญิ ญาณ คาวา Inspire จึง แปลวา การผานลมหายใจ หรือการผานจิตใจของคนหน่งึ เขาไปในอีกคนหนง่ึ ลมหายใจหรือจิตใจทผ่ี าน เขาไปน้จี งึ เปนส่ิงที่ทาใหผูรบั นน้ั ดาเนินชวี ิตได นอกจากนัน้ ยงั ระบวุ า แรงบนั ดาลใจนาจะจัดเปนแรงจงู ใจ (Motivation) ดังน้ัน โรงเรยี นทงุ่ อุดมวทิ ยาจงึ สรา้ ง คนดี ศรีทุง่ อุดม ดว้ ยกระบวนการ TUWS ขบั เคลือ่ นโรงเรียน คุณธรรม เพื่อให้บรรลผุ ลลพั ธ์คุณธรรม ความซ่ือสตั ย์ ความรับผิดชอบ และพอเพียง และสร้างคนดีใหส้ งั คม ต่อไป ๒.จุดประสงค์และเป้าหมาย จดุ ประสงค์ ๑.เพ่ือสร้างและพฒนานวัตกรรมการบรหิ ารโรงเรียนคณุ ธรรม ๒.เพ่ือพัฒนาผู้เรียนใหม้ ีคณุ ธรรมตามคณุ ธรรมอัตลกั ษณ์โรงเรยี นท่งุ อดุ มวิทยา เป้าหมาย เปา้ หมายเชิงปริมาณ ๑.นักเรียนรอ้ ยละ ๑๐๐ ไดร้ ับการปลูกฝงั คณุ ธรรมอัตลกั ษณ์ ๒.ครรู ้อยละ ๑๐๐ สามารถจัดกจิ กรรมการเรยี นรทู้ ี่ส่งเสริมคณุ ธรรมนกั เรียน เป้าหมายเชงิ คณุ ภาพ ผบู้ รหิ าร ครู นกั เรียน ตระหนกั รู้ เข้าใจ และมีกระบวนการคดิ อย่างมีเหตผุ ล สร้างความรสู้ กึ ผดิ ชอบ ชวั่ ดีและภมิ ใจในการทาความดี ๓.กระบวนการผลิตนวตั กรรม ๓.๑ การออกแบบผลงาน/นวตั กรรม ๓.๒ การดาเนนิ งานตามกจิ กรรม การพัฒนานวตั กรรมระบบการบรหิ ารจดั การสร้างคนดี ศรที งุ่ อุดม โรงเรียนท่งุ อุดมวทิ ยา พฒั นา กิจกรรมสง่ เสริมคณุ ธรรมความรับผดิ ชอบ และความพอเพียง มีกระบวนการ ดังน้ี ขน้ั ท่ี 1 การศึกษาข้อมลู พน้ื ฐานและแนวทางในการพัฒนาระบบการบรหิ ารจดั การโรงเรยี นทุ่งอดุ ม วทิ ยา ศกึ ษาเอกสารและงานวจิ ยั ทีเ่ กี่ยวข้องกับการพัฒนาระบบการบริหารจัดการสร้างสรรคค์ นดี โดยมี กรอบแนวคิดดังน้ี คนดีศรีทงุ่ อุดม ด้วยกระบวนการ TUWS โรงเรยี นทงุ่ อุดมวทิ ยา
5 ๑.๑ สำรวจสภำพปัจจุบนั และสภำพบรบิ ทของโรงเรยี นร่วมกนั คอื คณะกรรมกำรสถำนศึกษำ ขนั้ พื้นฐำน ผูบ้ รหิ ำร คณะครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำของโรงเรียน ครูและนักเรียนเพ่ือกำหนดปญั หำ ร่วมกัน และหำสำเหตขุ องปัญหำ ซึง่ ไดแ้ นวทำงจำกขอ้ เสนอแนะของกำรประเมินคุณภำพภำยนอกรอบส่ี เพอ่ื กำหนดกรอบแนวคิดต่อไป 1.๒. ศึกษาเอกสารและงานวจิ ยั เก่ียวกบั การพฒั นารปู แบบระบบการบริหารจัดการกาหนดกรอบ แนวคิด ศึกษาความเปน็ วัฒนธรรมการดาเนินงานของโรงเรียน เชน่ วงจรคุณภาพเดมมงิ การทางาน เปน็ ทมี ความรคู้ วามเขา้ ใจ การทางานดว้ ยหลกั ธรรม สัปปุริสธรรม ๗ การสง่ เสรมิ สนบั สนุน ด้วยทฤษฎีการ สร้างแรงบนั ดาลใจใน การสร้างชมุ ชนแหง่ การเรยี นรทู้ างวชิ าชีพ เปน็ ต้น ข้ันท่ี 2 การสรา้ งรปู แบบระบบการบรหิ ารจดั การสรา้ งสรรคค์ นดีโรงเรยี นเทงุ่ อดุ มวิทยาในการสร้าง รปู แบบการพฒั นาคณุ ธรรม จริยธรรม แบ่งเปน็ 2 ขัน้ ตอน ดงั นี้ 2.1 การยกร่างรูปแบบระบบการบริหารจัดการสร้างสรรคค์ นดี โรงเรียนทุ่งอุดมวทิ ยา จาก การศกึ ษาจากเอกสาร งานวิจยั ที่เกี่ยวข้อง และแนวทางการส่งเสริมคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและ คุณลักษณะท่ีพึง ประสงค์ ในข้นั ตอนที่ 1 มากาหนดอตั ลักษณแ์ ละเปา้ หมาย คณุ ธรรมของโรงเรียน จากน้ันประชุมวางแผน กาหนดตวั ช้ีวัดและเปา้ หมายความสาเร็จ กาหนดแนวทาง/วธิ กี าร พฒั นาคุณธรรมในรูปของโครงการ/ กจิ กรรม/วถิ ปี ระจาวนั ทีส่ ง่ เสริมคณุ ธรรม และการจดั กิจกรรมการเรยี นการ สอนท่สี อดแทรกคุณธรรมในชนั้ เรยี น มกี ารนิเทศ กากับตดิ ตาม และประเมนิ ผลการดาเนนิ งานตามวงจรคุณภาพของเดมมงิ ปกี ารศึกษาละ 2 ครง้ั เพื่อศกึ ษาผลการดาเนินงานตามเปา้ หมาย มีการจดั การความรู้ดว้ ยกระบวนการ แลกเปลี่ยนเรยี นรู้ดว้ ย การสรา้ งชุมชนแห่งการเรยี นรู้ และจดั ทาเป็นเป็นขอ้ มลู สารสนเทศ สาหรบั การบริหารจัดการ โดยยกย่อง ผบู้ ริหาร ครู นักเรียน และหน่วยงานที่เก่ียวข้อง มอบเกียรติบัตร เพ่อื เปน็ ขวญั และกาลงั ใจใน การเป็น แบบอย่างท่ีดี ๒.๒. วเิ ครำะห์ สงั เครำะห์ ข้อมลู พื้นฐำนของโรงเรียน รำยงำนกำรประเมินคุณภำพภำยนอกรอบสี่ และศึกษำเอกสำร งำนวจิ ยั ทเี่ กี่ยวข้องกับชุมชนแหง่ กำรเรยี นรู้ทำงวชิ ำชพี (PLC) กำรจัดกำรเรียนกำรสอน โครงงำน กำรพฒั นำทักษะในศตวรรษที่ ๒๑ ทฤษฎีกำรบริหำรจดั กำรและเอกสำรอนื่ ทเี่ กี่ยวขอ้ ง และรว่ มกนั ใช้กระบวนกำรพฒั นำคุณธรรมของนักเรียนด้วยกระบวนกำร TUWS ซง่ึ ประกอบด้วย วงจรคณุ ภำพเดมม่ิง (PDCA) เป็นตัวขบั เคลือ่ นกำรดำเนนิ งำน กำรทำงำนเปน็ ทีม(Team) ควำมรคู วำมเขำ้ ใจ(Understanding) กำรทำงำนโดยใช้หลกั สปั ปุริสธรรม ๗ (Working by Moral) กำรสนับสนุน(Support) กำรสร้ำงชุมชนแห่งกำร เรียนรทู้ ำงวิชำชีพ(PLC) เกณฑ์โรงเรียนคณุ ธรรม สพฐ. เปน็ กระบวนกำรขับเคลื่อนภำพรวมของโรงเรยี น รวมทั้งโครงกำรตำมแผนปฏบิ ัติกำรประจำปีของโรงเรยี นด้วย 2.๓ การตรวจสอบรูปแบบระบบการบริหารจดั การ คนดี ศรีทุ่งอุดม ด้วยกระบวนการ TUWS โรงเรียนทงุ่ อดุ มวทิ ยา โดยศึกษาความเหมาะสมของรปู แบบระบบการบริหารจัดการสรา้ งสรรคค์ นดี โรงเรียน ท่งุ อดุ มวิทยา โดยผู้เชยี่ วชาญ ผ้บู รหิ าร ตัวแทนครู และตวั แทนองค์กรหลกั ของโรงเรียน ข้ันท่ี 3 การทดลองใช้รูปแบบระบบการบรหิ ารจดั การ คนดี ศรที ุ่งอุดม โรงเรยี นทงุ่ อดุ มวิทยา การ ทดลองใชร้ ะบบการบริหารจัดการ “คนดี ศรีทุ่งอุดม” โรงเรียนทงุ่ อุดมวทิ ยา โดยงานส่งเสรมิ คณุ ธรรม จริยธรรมของ โรงเรยี นนารปู แบบระบบการบริหารจัดการไปทดลองใชจ้ านวน 1 ปีการศึกษา จากนน้ั ประเมิน การใชร้ ปู แบบระบบการบริหารจัดการ “คนดี ศรีทงุ่ อุดม”ด้วยกระบวนการ TUWS โดยศึกษาจากความ พงึ พอใจต่อการใช้รูปแบบ และ ประสทิ ธิผลเชงิ ประจกั ษ์ คนดีศรที ุ่งอุดม ด้วยกระบวนการ TUWS โรงเรียนทุง่ อดุ มวทิ ยา
6 ขั้นท่ี 4 รบั รอง ขยายผล และจัดทาข้อเสนอแนะรูปแบบระบบการบริหารจัดการ คนดี ศรที ่งุ อุดม โรงเรียนทงุ่ อุดมวทิ ยา การรบั รองรปู แบบระบบการบรหิ ารจดั การ และแนวทางการเผยแพรร่ ูปแบบส่กู ารนาไป ปฏิบัติ 4.1 การรับรองรูปแบบ โดยการประชมุ ระบบการบริหารจดั การ คนดี ศรีทุง่ อุดม ดว้ ย กระบวนการ TUWS โรงเรียนทุง่ อดุ มวิทยา โดยผู้เขา้ รว่ มประชุม ประกอบด้วยคณะกรรมการสถานศึกษา ขัน้ พ้นื ฐาน ผ้บู รหิ าร และครู โดยมีสาระสาคัญ ได้แก่ 4.1.1 องคป์ ระกอบของรปู แบบระบบการบรหิ ารจดั การสรา้ งสรรค์คนดี โรงเรียนทุ่งอุดม วิทยา (หลกั การ วัตถปุ ระสงค์ กระบวนการของรปู แบบ การวดั และประเมนิ ผล ปัจจัย สนบั สนนุ และเงอ่ื นไข การนาไปใช้) 4.1.2 ความเป็นไปไดใ้ นการขยายผลการนารปู แบบไปใช้ 4.1.3 ประโยชน์ที่ได้รบั จากการนารูปแบบระบบการบริหารจัดการสรา้ งสรรค์ คนดี โรงเรียนทงุ่ อดุ มวทิ ยา ไปใช้ 4.1.4 ปัจจัยสนับสนนุ ไปส่คู วามสาเร็จของการนารูปแบบไปปฏิบัติ 4.2 การขยายผลรูปแบบระบบการบริหารจัดการ คนดี ศรที ุ่งอดุ ม โรงเรยี นทงุ่ อดุ มวทิ ยา โรงเรยี นมีการนาเสนอและเผยแพร่ ในรูปแบบต่างๆ เชน่ รายงานผลการพัฒนา เว็บไซต์โรงเรยี น การศึกษา ดงู าน เปน็ ต้น รูปแบบการสร้าง คนดี ศรที ุ่งอดุ ม ดว้ ยกระบวนการ TUWS มีกระบวนขบั เคลื่อนไปสูผ่ ลลพั ธค์ วามสาเร็จ ดังนี้ คนดศี รที ุ่งอดุ ม ด้วยกระบวนการ TUWS โรงเรียนทุ่งอดุ มวทิ ยา
7 มรี ายละเอยี ดดงั น้ี ขั้นตอนการวางแผน(Plan) ๑.วิเคราะห์สภาพปัญหา โดยใชก้ ระบวนการ SWOT Analysis สภาพบริบทของโรงเรียน ขอ้ มูลการ ประเมนิ คุณภาพภายนอกรอบส่ี แผนพัฒนาโรงเรียนทงุ่ อดุ มวิทยา รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา (SAR) จากผู้ท่ีมีส่วนเกย่ี วข้องในการจัดการศึกษาของโรงเรียน สอดคล้องกบั นโยบายการดาเนนิ งานเกณฑ์ โรงเรยี นคณุ ธรรมของสพฐ. แผนพัฒนาการศึกษาแหง่ ชาติ ๒. กาหนดค่าเปา้ หมายในการสร้างสรรค์คนดี ของโรงเรยี น ดว้ ยกระบวนการ TUWS ให้สอดคล้องกับ คณุ ธรรมอตั ลักษณ์ มาตรฐานตามการประกนั คณุ ภาพการศึกษาของโรงเรียน การประเมินคุณลักษณะท่ีพึง ประสงค์ สมรรถนะของผเู้ รียน ขั้นตอนการลงมือปฏบิ ัติ(Do) การลงมือปฏบิ ตั ิได้บูรณาการการดาเนนิ งานระบบประกนั คุณภาพภายใน วงจรคณุ ภาพเดมมงิ การ สร้างชมุ ชนแหง่ การเรียนรู้ทางวชิ าชีพ(PLC) และใช้กระบวนการ ดงั นี้ การสรา้ งทมี งาน(Teamwork) คือ การทางานโดยการมสี ว่ นรว่ มของผทู้ ี่เกยี่ วข้องในการพฒั นา คุณภาพการศึกษา มีเป้าหมายการพัฒนารว่ มกนั สามคั คี ร่วมกนั แนะนา นิเทศ ช่วยเหลอื การเรยี นรู้ของ นักเรยี น ความรู้ความเข้าใจ(Understanding) เป็นการสรา้ งความรคู้ วามเขา้ ใจ บริบท บทบาทในการ ดาเนินงาน เข้าใจขั้นตอนการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ เข้าใจความตอ้ งการของนักเรยี น เขา้ ใจกระบวนการจัดการเรยี นรู้ กระบวนการพัฒนา เข้าใจความรสู้ ึกผู้ปกครอง เพ่อื นครู ผ้บู ริหาร นกั เรยี น และชุมชน การทางานโดยใชห้ ลักธรรม(Working by moral) การลงมือทางานโดยใชห้ ลักธรรม สปั ปุรสิ ธรรม ๗ ประกอบดว้ ย รจู้ กั เหตุ รจู้ กั ผล รู้จกั ตน รู้จักประมาณ รู้จักกาล รจู้ ักชมุ ชน และรู้จกั บุคคล ในการ ปฏบิ ัตงิ านทรี่ ับผดิ ชอบอยา่ งเตม็ ความสามารถ ยอมรบั และเป็นแบบอย่างทด่ี ตี ่อทุกคนในสังคมแห่งการเรียน รา้ งวชิ าชีพมีทัศนคติที่ดีต่อบุคลากรในองคก์ รท่ีดี คุณธรรมและความคดิ เชงิ บวกในการพัฒนานกั เรียน พัฒนา ตนเอง พฒั นาองคก์ ร ท้ังทางสตปิ ัญญาและจติ ใจดีงาม การสนับสนนุ (Support) การสนบั สนนุ สง่ เสริมการดาเนินงาน งบประมาณ บุคคล สง่ เสรมิ ให้เกิด พลังในการปฏิบตั หิ น้าที่ด้วยความจรงิ ใจ สง่ เสริมความรู้สึกทดี่ ี สร้างขวัญและกาลงั ใจในการดาเนนิ งาน ยกย่อง เชดิ ชูเกยี รติ ซ่ึงกระบวนการดาเนนิ งานได้บรู ณาการกับ การพัฒนาหลักสูตรการจัดการเรียนการสอนของโรงเรยี น ประกอบดว้ ย การวิเคราะห์ผ้เู รยี นเป็นรายบุคคล การวิเคราะห์มาตรฐาน ตัวชว้ี ดั ผลการเรยี นรู้ ทกุ กลมุ่ สาระ การเรียนรู้ รวมทงั้ กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รยี น จัดทาหน่วยการเรียนรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่สอดแทรก คุณธรรมอตั ลักษณ์ของโรงเรียน เช่ือมโยงกบั ชวี ติ ประจาวนั ภูมปิ ญั ญาท้องถิน่ กจิ กรรมการจัดการเรยี นการ สอนในชนั้ เรยี นโดยเน้นนกั เรียนเปน้ สาคญั วดั และประเมินผลด้วยวิธกี ารท่ีหลากหลาย นอกจากนัน้ จดั กจิ กรรมสง่ เสริมคณุ ธรรม จริยธรรมใหน้ ักเรียนโดยมคี รทู ่ีปรกึ ษาเปน็ ผูร้ ับผดิ ชอบ ในชั่วโมงคุณธรรมจริยธรรม สวนพฤกษศาสตร์ โรงเรยี นสุจรติ และกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน คนดีศรที ่งุ อุดม ด้วยกระบวนการ TUWS โรงเรยี นทงุ่ อุดมวทิ ยา
8 นอกจากนน้ั ไดน้ าไปสกู่ ารปฏิบัติในโครงการตามแผนปฏิบัตกิ ารประจาของโรงเรียน โครงการพเิ ศษ รว่ มกบั หน่วยงานภายนอก ซ่ึงเปน็ โครงการเสริมหลักสตู รเพื่อพฒั นาและส่งเสรมิ คุณธรรมอัตลกั ษณข์ อง โรงเรียน ดงั น้ี โครงการพฒั นากลุ่มสาระการเรยี นรู้และกจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รยี น กจิ กรรมบรู ณาการในการจดั กิจกรรมการเรียนการสอน ๘ กล่มุ สาระการเรียนรู้และกจิ กรรมพัฒนา ผู้เรยี น เปน็ การส่งเสริมความรับผดิ ชอบ ความพอเพยี ง โดยการพฒั นาหลกั สูตรของโรงเรียน สอดคลอ้ งกับการ พัฒนาการจัดการเรียนรู้ในห้องเรยี น โดยครปู ระจารายวชิ าสอดแทรกคุณธรรมในการจดั การเรียนรู้ บรู ณาการ กิจกรรมพัฒนาผ้เู รียน ครทู ่ีปรึกษาเป็นครผู ู้สอนปลูกฝังในกิจกรรมแนะแนว สรา้ งวินยั ความรบั ผิดชอบ ในการ จดั การเรยี นรู้กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี นกั ศึกษาวิชาทหาร กิจกรรมสาธารณประโยชน์ นอกจากนนั้ ช่วั โมง คณุ ธรรมจริยธรรมมีครูพระวิทยากรบม่ เพาะความพอเพียง ส่งเสรมิ นกั เรียนใหเ้ ปน็ ผทู้ มี่ ีความซื่อสัตยส์ จุ ริต โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนตามแนวทางโรงเรียนสุจริต สง่ เสรมิ นกั เรยี นใหด้ าเนินชีวิตตามหลัก ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงในชว่ั โมงสวนพฤกษศาสตร์และกจิ กรรมชมุ นุมซ่ึงบรู ณาการโดยการสอน โครงงานฐานวิจยั กจิ กรรมลกู เสือ เนตรนารี กจิ กรรมอบรมนักเรียนแกนนาใหค้ วามปรึกษา คนดศี รที ่งุ อดุ ม ด้วยกระบวนการ TUWS โรงเรยี นทงุ่ อดุ มวทิ ยา
9 โครงการพัฒนาประสิทธภิ าพบคุ ลากร กิจกรรมศึกษาดูงานเรอ่ื งการจัดขยะของชุมชนบ้านป่าเส้า ตาบลอโุ มงค์ อ.เมือง จ.ลาพนู และการ ทาปยุ๋ หมักชีวภาพแบบไม่พลิกกองของมหาวทิ ยาลัยแมโ่ จ้ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เป็นกิจกรรมฝึกให้นักเรยี น ดาเนนิ ชวี ิตโดยใชห้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง รว่ มเรียนร้ดู ว้ ยการใชค้ วามรู้ คุณธรรม ดว้ ยกระบวนการ ความมเี หตุผล พอประมาณ มีภูมคิ มุ้ กนั ๔ มิต(ิ เศรษฐกิจ สังคม วฒั นธรรม สิง่ แวดล้อม) เพื่อสรา้ งสมดลุ พร้อม รับการเปลย่ี นแปลง โดยมกี จิ กรรมท่เี ป็นแบบอย่างในการเรียนรู้การจดั การขยะจากผู้ทปี่ ระสบความสาเร็จใน การจดั การขยะในชุมชน และหนว่ ยงานการศกึ ษาทสี่ ามารถเป็นแบบอย่างและนามาประยกุ ต์ใช้ได้ ร่วมระดม ความคิดในการพัฒนางานร่วมกบั ชมุ ชนบา้ นทงุ่ แล้ง ต.บ้านขอ อ.เมืองปาน จ.ลาปาง ร่วมกับองค์การบริหาร ส่วนตาบลบ้านขอ และสง่ิ แวดล้อมจงั หวดั ลาปาง จัดทาประชาคมโครงการพัฒนาต่อยอดการศึกษาดงู าน โดย องค์การบรหิ ารสว่ นตาบลบ้านขอ ได้คัดเลือกใหโ้ รงเรียนทุ่งอดุ มวทิ ยาเป็นแหล่งศึกษาดูงานการดาเนินงานการ ทาปุ๋ยหมักแบบไมพ่ ลกิ กอง กับหนว่ ยงานที่สนใจ ศกึ ษาดงู านชุมชนบา้ นปา่ เสา้ ตาบลอุโมงค์ อ.เมือง จ.ลาพูน และการทาปุ๋ยหมกั ชีวภาพแบบไม่พลกิ กอง ของมหาวทิ ยาลยั แมโ่ จ้ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โครงการคณุ ธรรม สพฐ. กิจกรรมจติ อาสาพัฒนาชุมชน เป็นกจิ กรรมฝกึ นกั เรยี นให้มคี วามรบั ผดิ ชอบและพอเพียง โดยการฝึกนกั เรยี นแกนนา สภานักเรียน วางแผนการดาเนนิ งาน แบ่งหน้าทค่ี วามรับผิดชอบ สารวจความต้องการส่งิ ของท่ีจาเป็นภายในบ้านของชุมชน ทเ่ี ขตพ้ืนที่บรกิ าร นักเรียนแกนนาโครงการประสานผู้ใหญบ่ ้านทัง้ ๑๓ หมบู่ า้ น รว่ มคดั เลือกรายชอ่ื ผู้ท่ีขาด แคลนและมีความต้องการสิ่งของเครื่องใชภ้ ายในบ้าน จานวน หมบู่ า้ นละ ๑๐ ชุด ระดมสิง่ ของเครื่องใช้ท่ี จาเปน็ จากคณะครแู ละบุคลากรทางการศึกษา และผูท้ ่ีสนใจร่วมบรจิ าค ดาเนินการแบ่งหนา้ ท่ี นกั เรยี นแกนนา พร้อมครทู รี่ บั ผดิ ชอบโครงการ แจกของใชท้ จ่ี าเปน็ มีการนิเทศกากับตดิ ตาม สรปุ ผลการดาเนินงานอย่าง ต่อเน่อื ง นอกจากนัน้ ได้สง่ เสรมิ ให้นกั เรียนไดร้ ่วมรับผดิ ชอบตอ่ หน้าที่ โดยการเป็นจิตอาสา พฒั นาครอบครวั พัฒนาโรงเรยี น และพัฒนาชมุ ชน คนดศี รีท่งุ อุดม ด้วยกระบวนการ TUWS โรงเรียนทุง่ อดุ มวิทยา
10 มอบสงิ่ ของเครอื่ งใชใ้ ห้ชุมชน กจิ กรรมให้ความร้เู รือ่ งขยะ เปน็ กจิ กรรมส่งเสรมิ ความรับผิดชอบ และความพอเพยี ง โรงเรยี นได้รับความร่วมมอื จากองค์การ บรหิ ารสว่ นตาบลบ้านขอ อนุเคราะหว์ ิทยากรในการพัฒนานักเรยี นแกนนาและผูเ้ กย่ี วข้องในโรงเรียนใหค้ วามรู้ เรื่องขยะ สภานักเรียนขยายผลการดาเนินงานให้กบั นกั เรียนทง้ั โรงเรียน เพอื่ สรา้ งความเขา้ ใจ ความ รับผดิ ชอบตอ่ ตนเองเรื่องขยะ ท้งั ในหอ้ งเรียน ครอบครวั และชมุ ชน กจิ กรรมคัดแยกขยะ เปน็ กจิ กรรมท่ีฝกึ ให้นกั เรยี นคัดแยกขยะ นาขยะมาใชใ้ หเ้ กิดประโยชนไ์ ม่เกิดผลกระทบกบั สิ่งแวดลอ้ ม ผูบ้ รหิ าร ครู นกั เรียน ร่วมกันวางแผนการดาเนนิ งานการแยกขยะ โดยสภานกั เรยี นเป็นแกนนาในการ ดาเนนิ งานประสานกบั หวั หน้าห้องทุกระดบั ชัน้ ซ่ึงการแยกขยะเรมิ่ จากในหอ้ งเรยี นมีการจัดถงั ขยะท่ี ประยกุ ต์ใชส้ ิ่งของทเี่ หลือใช้ในโรงเรยี นเชน่ โครงโตะ๊ เกา่ มาจัดทาเปน็ ถงั แยะขยะในช้ันเรียนซึ่งเป็นขยะตน้ ทาง ในหอ้ งเรียน นักเรยี นจะถูกปลูกฝังการมวี นิ ยั ในตนเอง ไม่ท้ิงขยะเรีย่ ราด และมีกระบวนการแยกประเภทของ ขยะ และทุกวนั ศุกร์ช่วั โมงคุณธรรม จรยิ ธรรม นักเรียนแตล่ ะหอ้ งจะนาขยะมารวมกันแต่ละประเภท ใน ภาพรวมของโรงเรียน สภานกั เรยี นดาเนนิ การแยกขยะ และนาไปใช้ใหเ้ กิดประโยชนต์ อ่ ไป ผ้บู ริหาร ครู กากับนิเทศตดิ ตามการดาเนนิ งาน และมีการสรุปผลการดาเนนิ งานอย่างต่อเนื่อง กจิ กรรมแยกขยะ กิจกรรมให้ความรู้เรื่องขยะกับโรงเรียนเครอื ขา่ ย คนดศี รีทุ่งอดุ ม ด้วยกระบวนการ TUWS โรงเรยี นทุง่ อุดมวทิ ยา
11 กจิ กรรมทาสิ่งประดิษฐจ์ ากวัสดเุ หลอื ใช้ เปน็ กจิ กรรมส่งเสรมิ ความพอเพยี งให้กบั นักเรียน ผู้บริหาร ครู และนกั เรยี น รว่ มทากิจกรรมทา สิ่งประดิษฐจ์ ากวัสดเุ หลือใช้ เชือ่ มโยงจากกระบวนการแยกขยะ ซึ่งได้รับความรว่ มมอื จากวิทยากรทีเ่ ป็น ปราชญช์ าวบ้าน ครูทร่ี ับผดิ ชอบโครงการได้นานักเรียนทาส่ิงประดษิ ฐ์โดยใช้การจัดการเรียนรโู้ ครงงานฐาน วิจัย เช่น การประดษิ ฐ์ตะกรา้ ใสข่ องจากกล่องนม การทาไม้กวาดจากขวดพลาสติก การประดิษฐ์เครื่องป่ันเศษ ใบไม้ การประดิษฐ์เคร่อื งเกบ็ ใบไม้ ฯลฯ ซึ่งสิง่ ประดษิ ฐ์ทไี่ ด้จดั ทาขึ้นสามารถนาไปใช้รว่ มกบั กจิ กรรมจติ อาสา ด้วยสองมอื หนึ่งพลังสรา้ งสรรคค์ วามดี คือการใชต้ ะกรา้ บรรจไุ ข่ไก่ มอบให้ชุมชน และได้มโี อกาสนาเสนอ ผลงานส่ิงประดิษฐใ์ ห้กบั ชุมชนเนื่องในโอกาสประเมนิ การถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสรมิ สขุ ภาพประจาตาบล รว่ มกับองค์การบริหารสว่ นตาบลบ้านขอ และนาเสนอต่อนายอาเภอเมอื งปาน ซ่ึงไดร้ บั ความสนใจและ ขอ้ เสนอในการพฒั นาชิน้ งานต่อไป การนาเสนอโครงงานส่ิงประดิษฐ์ ส่งิ ประดิษฐ์โดยใชก้ ารจัดการเรยี นรู้โครงงานฐานวิจยั เช่น การประดิษฐ์ตะกรา้ ใสข่ องจากกลอ่ งนม คนดศี รที ุ่งอุดม ด้วยกระบวนการ TUWS โรงเรียนทุ่งอดุ มวทิ ยา
12 กิจกรรมการทาป๋ยุ หมักชีวภาพจากเศษใบไมแ้ หง้ แบบไมพ่ ลิกกอง ร่วมกับองค์การบริหารสว่ น ตาบลบ้านขอ เปน็ กจิ กรรมสง่ เสรมิ ซอื่ สตั ย์ ความรับผิดชอบและพอเพียง ผ้บู รหิ าร ครู นักเรียนรว่ มกันดาเนินกจิ กรรม การทาปยุ๋ หมัก โดยการเชอ่ื มโยงกจิ กรรมการศึกษาดูงานร่วมกับองค์การบริหารสว่ นตาบลบ้านขอ ณ มหาวิ ทายลัย แมโ่ จ้การทาป๋ยุ หมกั แบบไม่พลิกกอง สอดคล้องกบั บรบิ ทของโรงเรยี นท่มี ีสภาพแวดลอ้ มเป็นต้นไมแ้ ละ มกี ารผลัดใบในช่วงฤดูร้อนจงึ ทาใหโ้ รงเรยี นประสบปญั หาในการกาจัดใบไม้ไม่ทัน การร่วมระดมความคดิ และ ทาประชาวิจารณก์ ารดาเนินโครงการรว่ มกับหมูบ่ า้ นทุ่งแลง้ ซึง่ เปน็ หมบู่ า้ นท่ีเป็นท่ตี ง้ั ของโรงเรียนร่วมกบั องค์การบรหิ ารส่วนตาบลบา้ นขอ ต่อยอดพฒั นาการทาปยุ๋ หมัก โรงเรียนจึงเชิญเจ้าหน้าทีท่ รี่ บั ผดิ ชอบโครงการ ซึ่งเป็นเจ้าหนา้ ทข่ี ององคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลบา้ นขอมาใหค้ วามรู้เรื่องการทาป๋ยุ หมกั แบบไม่พลกิ กองกบั นกั เรียน และได้รบั ความรว่ มมือจากผู้นาชมุ ชน กานนั ผู้ใหญบ่ ้านและชาวบา้ นมาร่วมทากจิ กรรมทาเสวียน ภายในโรงเรียน รวมทงั้ บูรณาการกับกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น กจิ กรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์ จดั ทา เสวียน จานวน ๖ จดุ เพ่ือให้นักเรยี นทรี่ ับผดิ ชอบบริเวณ ๕ ส ไดช้ ว่ ยกนั ดแู ล เนอื่ งจากปยุ๋ หมกั แบบไม่พลิก กองต้องมกี ารรดน้าอย่างต่อเนืง่ ดงั น้นั นักเรยี นจะทาความสะอาดกวาดใบไม้และจะนาไปใสใ่ นเสวยี น แบง่ หนา้ ทร่ี ับผดิ ชอบดแู ลเสวียนปุ๋ยหมกั ของห้องตนเอง นอกจากน้นั โรงเรยี นได้ปรับห้องเพื่อเป็นแหล่งเรียนร้เู ร่ืองการแยกขยะ การทาปุ๋ยหมักแบบไมพ่ ลิกกองให้ นกั เรียนและผูส้ นใจรว่ มแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เปน็ แหลง่ เรยี นรูก้ ารศึกษาดูงานการทาป๋ยุ ให้กับนกั เรยี นโรงเรยี น ประถมศกึ ษาในเขตพืน้ ที่ตาบลบา้ นขอ องค์การบรหิ ารสว่ นตาบลบ้านขอประสานโรงเรยี นใหเ้ ป็นแหลง่ ศกึ ษาดู งานแลกเปลย่ี นเรียนรเู้ รื่องขยะและป๋ยุ อกี ดว้ ย กจิ กรรมการทาป๋ยุ หมักแบบไมพ่ ลิกกอง คนดีศรที งุ่ อดุ ม ด้วยกระบวนการ TUWS โรงเรยี นทงุ่ อุดมวิทยา
13 กจิ กรรมสืบสานภูมปิ ญั ญาท้องถิ่นตาบลบา้ นขอ ร่วมกับ มหาวิทยาลยั ราชภัฎลาปาง เป็นกจิ กรรมส่งเสรมิ ความซ่อื สตั ย์ ความรบั ผดิ ชอบและพอเพียง โดยความร่วมมือกับมหาวทิ ยาลัย ราชภฎั ลาปาง โครงการ ๑ ตาบล ๑ มหาวทิ ยาลัย ซึ่งตาบลบา้ นขอเป็นกิจกรรมสง่ เสรมิ การท่องเท่ยี ว โดยการ สืบสานภมู ิปัญญาทอ้ งถิน่ เป็นการเรียนรู้วิถีการดาเนินชวี ิตของชมุ ชน เช่น การดารงชีพโดยใช้วสั ดตุ าม ธรรมชาติ เช่น ใชก้ ระบอกไม้ไผ่แทนแกว้ ใช้สาหรบั ประกอบอาหาร หงุ ขา้ ว เปน็ ตน้ รวมทงั้ นกั เรยี นแกนนาได้ เรยี นร้เู ส้นทางธรรมชาติอ่างเก็บนา้ แม่บอม ซ่ึงเปน็ เส้นทางน้าที่สาคญั มีความอดุ มสนบูรณท์ างธรรมชาติท่ี สามารถเป็นแหล่งเรียนรขู้ องตาบลบ้านขอได้ นกั เรียนไดร้ ่วมทากจิ กรรมการหาปลาโดยใช้ภูมิปัญญาชาวบ้าน การประกอบอาหาร ฯลฯ ซงึ่ สะทอ้ นการดารงชวี ติ พอเพยี งตามวิถีของชมุ ชนและรว่ มมรับผิดชอบในการรักษา ดูแลปา่ ตน้ นา้ ของชมุ ชนใหม้ ีการใชต้ ่อไปในรนุ่ หลงั ต่อไป มหาวิทยาลยั ราชภฎั ลาปางได้จัดอบรมการประกอบอาชพี ในชุมชน ดว้ ยการเชิญวิทยากรซ่งึ เปน็ ตน้ แบบการทาโคกหนองนาโมเดล และการดารงชีวิตตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ได้แก่ อาแซะ และครอบครวั มาสาธิตการเพาะต้นอ่อนทานตะวัน การเพาะถั่วงอก และรว่ มปลูกต้นทานตะวันเพื่อเป็นแหลง่ เรยี นรใู้ ห้กับนกั เรียนในโรงเรียนและชุมชน ซงึ่ ตน้ ทานตะวันได้รบั การดูแล ใส่ปยุ๋ ถอนหญา้ จากเยาวชนแกน นาที่รบั ผดิ ชอบโครงการ ร่วมกบั ผบู้ รหิ าร ครูและนักเรียนโรงเรยี นทงุ่ อดุ มวทิ ยาเป็นอยา่ งดี นอกจากนั้นมหาวทิ ยาลัยราชภัฎลาปางใหค้ วามรว่ มมอื โครงการการใช้ภูมปิ ัญญาท้องถิ่นบรู ณาการตาม หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งเพ่อื ใหน้ ักเรยี นได้วเิ คราะห์ตนเอง ครอบครัว ชุมชน สงั คม ในอาเภอเมือง ปานเช่ือมโยงกบั การใช้พชื ท้องถิ่นในการดารงชีวติ เพือ่ เปน็ การอนรุ ักษ์ เรียนรูว้ ิถชี ุมชน อนุรกั ษ์การทอ่ งธรรมชาติ อบรมเกษตรนวตั วิถี โคกหนองนาโมเดล เศรษฐกิจพอเพียง ปลูกต้นดอกทานตะวนั สร้างอาชพี คนดศี รีท่งุ อดุ ม ด้วยกระบวนการ TUWS โรงเรยี นทุ่งอุดมวิทยา
14 โครงการสง่ เสรมิ ศกั ยภาพการใชภ้ ูมปิ ัญญาทอ้ งถ่นิ ในการเรยี นรขู้ องเยาวชน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง โครงการพฒั นาบริหารทัว่ ไป กิจกรรมเขตพ้ืนท่รี ับผิดชอบสะอาด ปราศจากโรคภยั เปน็ กจิ กรรมสง่ เสริมความรบั ผดิ ชอบ ผบู้ รหิ าร ครู นกั เรียน รว่ มกันระดมความคิดเห็นการชว่ ยกนั ดแู ลรบั ผิดชอบบรเิ วณโรงเรียนซ่งึ มเี น้ือที่จานวน ๕๐ ไร่ อย่างทวั่ ถึง สะอาด ปลอดภัย พร้อมสาหรับการเรยี นรู้ ดังน้นั จึงจัดทากิจกรรมเขตพ้ืนท่รี บั ผิดชอบสะอาด ปราศจากโรคภยั เพือ่ ใหน้ ักเรยี นทุกระดับหอ้ งเรียน ได้ รบั ผิดชอบพืน้ ท่ี วางแผน แบง่ บทบาทหน้าท่ีในการทาความสะอาด การดแู ลปุ๋ยหมักแบบไมพ่ ลิกกอง มีการ ประเมินผลการดาเนินงานโดยสภานกั เรยี นของโรงเรยี น มีชว่ั โมงพัฒนาเขตพน้ื ท่ีรับผิดชอบ สะท้อนการ ดาเนนิ งานหน้าเสาธงทุกวนั เพอ่ื สรา้ งความตระหนกั และแลกเปลี่ยนขอ้ คน้ พบทีเ่ กดิ ขน้ึ นักเรียนร่วมกันหารือ กับครทู ปี่ รึกษา วางแผน ดาเนนิ งาน รับการตรวจ สะท้อนผลการดาเนนิ งาน พนั าเขตพื้นทรี่ ับผดิ ชอบอยา่ ง ตอ่ เน่อื ง โรงเรยี นมีการประกาสและยกย่องหอ้ งเรียนที่มผี ลการดาเนินงานอยู่ในระดบั ตา่ งๆ อยา่ งต่อเน่ืองทุกปี การศกึ ษา กิจกรรมเขตพื้นที่รับผดิ ชอบสะอาด ปราศจากโรคภัย คนดีศรีท่งุ อดุ ม ด้วยกระบวนการ TUWS โรงเรียนทุ่งอุดมวทิ ยา
15 กิจกรรมสภานักเรียน เป็นกจิ กรรมทีส่ ง่ เสริมความรบั ผดิ ชอบในหน้าท่ีของนกั เรยี นทุกคนและนกั เรยี นสภานกั เรียนโดยการ ประสานการดาเนินงานร่วมกับผบู้ ริหาร ครู และนกั เรียนทุกคนในโรงเรียน เริม่ ด้วยกจิ กรรมการเลือกตงั้ สภา นกั เรียนใหเ้ ป็นตัวแทนนักเรียนทกุ คนในโรงเรยี น ผา่ นกระบวนการรวมทมี สมคั ร การเลือกตัง้ ในระบอบ ประชาธปิ ไตย การดาเนินงานใหส้ อดคล้องกบั แนวทางเปา้ หมายการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรยี น กิจกรรมหน้าเสาธง ซึ่งเป็นกิจกรรมทีผ่ บู้ ริหาร คณะครูและบคุ ลากรทางการศึกษาของโรงเรียน นกั เรยี นรว่ ม รับผิดชอบการทากิจกรรมรว่ มกันทุกวัน ดาเนนิ การโดยสภานักเรียน ร่วมกบั คณะครู ในการทากิจกรรมเคารพ ธงชาติ สวดมนต์ กจิ กรรมสง่ เสริมของแตล่ ะกลมุ่ สาระการเรียนรู้ งานหอ้ งสมุด โรงเรียนตา้ นทุจริต และทุกวนั จะมีกจิ กรรมน่ังสมาธิก่อนเข้าห้องเรียน เพื่อปรบั และสรา้ งความสมดลุ ในการเรียนรู้แตล่ ะวนั ของนักเรียน ตรวจสอบความเรียบร้อยของการแต่งกาย ตรวจสุขภาพเบื้องตน้ การออกกาลังกาย ฯลฯ นอกจากนัน้ สภานกั เรยี นเป็นแกนนาในการทากิจกรรมวนั สาคัญตา่ งๆของโรงเรยี น เชน่ กิจกรรมวนั สาคัญของชาติ กจิ กรรมวันสาคญั ทางศาสนา กิจกรรมวนั สาคัญของพระมหากษัตริย์ กจิ กรรมครูพระสอนใน โรงเรียน และกิจกรรมทกุ กิจกรรมที่ทางโรงเรยี นจัดดว้ ยความพร้อมเพรยี งกนั กจิ กรรมการเลือกต้งั สภานกั เรยี น สภานักเรียนเปน็ ผู้นาการทากจิ กรรมวนั สาคัญ คนดีศรีทงุ่ อดุ ม ด้วยกระบวนการ TUWS โรงเรยี นทุ่งอุดมวิทยา
16 สภานักเรยี นนาทากิจกรรมหนา้ เสาธง ขั้นตอนการตรวจสอบ(Check) การนเิ ทศ กากับ ติดตามและประเมนิ ผลการดาเนินงาน โดยใชแ้ บบรายงานโครงการ การวัดและ ประเมนิ ผลคณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ สมรรถนะ รายงานการเยยี่ มบ้านนกั เรยี น รายงานค่าเป้าหมายตาม มาตรฐานการประกนั คุณภาพภายใน แบบรายงานโครงการ รายงานคา่ เป้าหมายการประกันคุณภาพภายใน คนดศี รีทงุ่ อุดม ด้วยกระบวนการ TUWS โรงเรยี นทงุ่ อดุ มวิทยา
17 ขัน้ ตอนการปรบั ปรงุ แก้ไขและพัฒนาต่อยอด(Act) ปรบั ปรงุ แนวทางการดาเนินงานและพฒั นาต่อยอด ผลการดาเนนิ งานเปน็ ไปตามวตั ถปุ ระสงคจ์ ะ สร้างนักเรียนทค่ี ุณลักษณะตามคณุ ธรรมอตั ลกั ษณ์ของโรงเรยี น คือ ความรบั ผิดชอบ และพอเพียง ถา้ ผลการ ดาเนินงานไม่เปน้ ไปตามวถั ตุประสงคใ์ ห้กลบั ไปวิเคราะหโ์ ดยการSWOT Analysis และดาเนินการตามขั้นตอน อีกคร้ัง ๓.๓ ประสทิ ธภิ าพของการดาเนนิ งาน การจดั กิจกรรมอย่างมปี ระสทิ ธิภาพด้วยการปฏบิ ตั จิ ริง มีวธิ กี าร นวตั กรรม องค์ความรแู้ ละการสรา้ ง การมสี ่วนร่วมจากเครือขา่ ยผู้ปกครอง เครอื ขา่ ยโรงเรยี น หนว่ ยงานตา่ งๆ เข้ามามสี ่วนรว่ มในการพฒั นาคนดี ศรที ุ่งอุดม เพ่ือเป็นการหล่อหลอมคุณธรรมใหน้ กั เรียนสามารถนาไปประยุกต์ใช้ในการดารงชีวติ ต่อไป ๓.๔ การใชท้ รัพยากร การใชท้ รัพยากรอย่างประหยดั และคมุ้ คา่ โดยการบูรณากรทรัพยากรทม่ี ใี นโรงเรียนและจากการ สนับสนนุ จากชมุ ชน หนว่ ยงานต่างๆ ซ่ึงโรงเรยี นไดด้ าเนินการอย่างต่อเนอ่ื งเปน็ ปกติ เช่น บรู ณาการในการ จดั การเรียนรู้ทุกกล่มุ สาระการเรียนรู้ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น ด้วยการจดั ทาโครงการตามแผนปฏบิ ตั กิ าร ประจาปที ี่สอดคลอ้ งกับรายวิชาและโครงการพเิ ศษ ดาเนินการโดยให้นกั เรียนไดล้ งมือปฏบิ ตั จิ รงิ เพอ่ื ใหเ้ กดิ คณุ ธรรมเป้าหมายในตัวตนของนักเรยี นใหเ้ ป็นตามธรรมชาติ เช่น กิจกรรมเขา้ คา่ ยคุณธรรม กิจกรรม การสร้างอาชีพด้วยการปลูกผัก เพาะเหด็ เลีย้ งปลา เลี้ยงกบ ปลูกตน้ ดอกทานตะวนั กจิ กรรม TO BE NUMBER ONE ฯลฯ ปลกู ดอกทานตะวนั เกษตรนวตั วิถี กิจกรรม TO BE NUMBER ONE คนดีศรที ุ่งอดุ ม ด้วยกระบวนการ TUWS โรงเรยี นทุง่ อดุ มวิทยา
18 ๔.ผลการดาเนินงาน/ผลสัมฤทธ์/ิ ประโยชน์ทไ่ี ดร้ ับ ผลการดาเนินงาน ๔.๑.ผลทเ่ี กดิ ตามวัตถปุ ระสงค์ ๑.มีนวัตกรรมการบริหารโรงเรียนคุณธรรม สพฐ. ๒.นักเรยี นมีคณุ ธรรมตามคุณธรรมเปา้ หมายของโรงเรยี น ๔.๒ ผลสัมฤทธิ์ของงาน ๑.ผลทเ่ี กดิ ขึ้นกับนักเรยี น นกั เรยี นมีการพัฒนาตนเองตามคณุ ธรรมอตั ลักษณ์ของโรงเรียนและมีความรูใ้ นการลงมือปฏบิ ตั ิ สง่ ผลให้นกั เรยี น มีความรับผิดชอบ มีความต้ังใจและกระตือรอื ร้นเขา้ รว่ มกจิ กรรมทโ่ี รงเรยี นและหนว่ ยงาน ภายนอกจดั ขึ้น มีความรบั ผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย ทางานเสรจ็ และสง่ งานตามเวลา ชว่ ยเหลือเพ่ือน ทาเวรตามกิจกรรมประชาธปิ ไตยในโรงเรยี นและเวรห้องเรียน เขตพน้ื ที่รับผิดชอบ ทิง้ ขยะลงถงั ขยะ เกบ็ ขยะ แยกขยะ มคี วามเสียสละ มจี ิตอาสา ชว่ ยเหลอื ครเู ม่อื มโี อกาส ร้จู กั การใชจ้ ่ายอยา่ งประหยดั ใชข้ องท่ีมีอยู่อย่าง คมุ้ คา่ ตลอดจนช่วยลดคา่ ใชจ้ า่ ยในครัวเรอื น นอกจากน้ียังมีคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ มีพฤติกรรมบ่งชเี้ ชิง บวกเพมิ่ ขึ้น มที ักษะการคดิ วเิ คราะห์ การแก้ปญั หา มผี ลสัมฤทธิท์ างการเรยี นสูงขนึ้ และไดร้ ับรางวัล การแขง่ ขันวชิ าการต่างๆ ไดเ้ รียนรูก้ ารอยู่ร่วมกับผูอ้ ่ืนในชุมชน การเป็นผู้นาทางการเรยี นร้ใู นการขยายผลการ ทางานผา่ นระบบเทคโนโลยี สามารถตอบโตแ้ ลกเปล่ยี นกับผอู้ ่นื ได้ นกั เรยี นเรยี นรทู้ ้งั เนื้อหา ทักษะ และวธิ ีการ เรยี นรู้ พร้อมพฒั นานสิ ัย ใฝ่เรียนและการเรียนรู้ตลอดชีวิต มีแรงจูงใจในการเรยี นมองเห็นความเกยี่ วพนั ระหว่างสงิ่ ทเี่ รียน และชีวิต อนาคตทม่ี ุ่งหวัง ๒.ผลท่ีเกิดกับครู การพฒั นาตนเองตามคุณธรรมอตั ลักษณข์ องโรงเรียนและมีส่วนร่วมในการพัฒนางาน ส่งผลใหค้ รูเข้า สอนตรงเวลา เอาใจใส่นักเรียน เตรียมสอ่ื วัสดุ อุปกรณ์ ประกอบการสอน ไมล่ ะทิง้ ห้องเรียน ทาหน้าที่ที่ได้รบั มอบหมายอยา่ งเตม็ ความสามารถ แตง่ กายถูกต้องตามระเบียบและข้อตกลงของโรงเรียน มาโรงเรียนก่อนเวลา ทก่ี าหนด มีนา้ ใจตอ่ เพื่อนครูด้วยกัน แบง่ ปันเทคนิควิธกี ารสอน สอื่ การสอน ใชส้ ือ่ การสอนรว่ มกนั อยา่ งคมุ้ ค่า ปฏิบัติงานให้บรรลพุ ันธกิจอย่างแข็งขันจนเกิดความรู้สึกว่าต้องการร่วมกันเรียนรู้และรบั ผิดชอบตอ่ พัฒนาการ การรวมของนักเรียน ถอื เปน็ “พลังการเรียนรู้” ซึ่งส่งผลให้การปฏบิ ัตกิ ารสอนในชัน้ เรยี นให้มีผลดยี ิ่งข้ึน คือ มี การค้นพบความรู้และความเชื่อที่เก่ียวกับวิธีการสอน และตัวนักเรียนซ่ึงที่เกิดจากการคอยสังเกต อย่างสนใจ รวมถึงความเข้าใจในด้านเนื้อหาสาระที่ต้องจัดการเรียนรู้ได้แตกฉานย่ิงข้ึนจนตระหนักถึงบทบาท และ พฤติกรรมการสอนที่จะช่วยให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดีที่สุด อีกท้ังการรับทราบข้อมูลสารสนเทศต่างๆ ที่ จาเปน็ ต่อวชิ าชีพได้อย่างกว้างขวางและรวดเรว็ ขนึ้ ส่งผลดีต่อการปรับปรุงพัฒนางานวิชาชีพได้ตลอดเวลา เป็น ผลให้เกิดแรงบันดาลใจที่จะพัฒนาและอุทิศตนทางวิชาชีพเพื่อศิษย์ซึ่งเป็นท้ังคุณค่าและขวัญกาลังใจต่อการ ปฏิบัติงานให้ดียิ่งข้ึน นอกจากนั้นยังทาให้ครูร่วมมือกัน ทางานอย่างนักวิชาชีพ ทางานเป็นทีม เรียนรูจ้ ากกัน และกัน รว่ มมือ สรา้ งองคค์ วามร้วู ีิธิการสอน และส่อื ใหม่ๆ มาใช้ในโรงเรยี น ใชย้ ทุ ธวีิธกิ ารสอนทห่ี ลากหลายใช้ ีภูมิปัญญาท้องถ่ิน เน้นการสอนท่ีผู้เรียน สาคัญที่สุด ให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนการสอน ครูสอนทั้ง วชิ าการ ทักษะและคา่ นิยม ที่พึงประสงค์ รวมถึงมีการสร้างเครือข่ายร่วมกันภายในโรงเรียน ระหว่างโรงเรียน และหน่วยงานอื่น ส่งผลให้ครูได้รับความไว้วางใจจากผู้ปกครอง ชุมชน และได้รับรางวัลยกย่องเชิดชูเกียรติ จากหน่วยงานต่างๆ คนดศี รีท่งุ อุดม ด้วยกระบวนการ TUWS โรงเรียนท่งุ อุดมวิทยา
19 ๓.ผลทีเ่ กดิ กับผบู้ ริหาร ผู้บรหิ ารให้ความสาคัญต่อการพฒั นาโรงเรยี นตามคณุ ธรรมอตั ลักษณข์ องโรงเรียน เปน็ ผนู้ า ในการ ขบั เคลื่อนพัฒนาโรงเรียนภายใต้การบรหิ ารงานแบบมีส่วนรว่ ม มคี วามรับผดิ ชอบ ปฏิบัติหนา้ ที่ ตรงเวลาและ เตม็ เวลา มีภาวะผนู้ า แตง่ กายตามระเบยี บและข้อตกลงของโรงเรียน บริหารทรัพยากรที่มอี ยู่อย่างคมุ้ ค่าเกิด ประโยชนส์ งู สดุ ปฏบิ ตั ิตนเป็นแบบอย่างทด่ี แี ก่ผู้ใต้บังคับบัญชา มสี มรรถนะในการบรหิ ารจดั การอย่างเปน็ ระบบจนเปน็ ทป่ี ระจกั ษ์ชดั และเป็นยอมรบั จากสงั คม ๔.ผลทเ่ี กิดกับโรงเรยี น จากการที่โรงเรียนมีเป้าหมายในการพฒั นาโรงเรยี นตามคณุ ธรรมอตั ลกั ษณ์ของโรงเรียน มีทิศทางในการ ดาเนินงานชัดเจน โดยมกี ารจัดกิจกรรมโครงการคุณธรรมต่างๆอย่างเปน็ รูปธรรมและนักเรียนได้มสี ่วนร่วมใน การปฏบิ ตั กิ ิจกรรม ทาให้ผลการดาเนินงานเป็นท่ียอมรบั จากคณะกรรมการสถานศกึ ษาขั้นพื้นฐาน ผปู้ กครอง ชมุ ชน และหนว่ ยงานภายนอก โดยเหน็ ได้จากการไดร้ ับความรว่ มมอื จากชุมชนท้ังกาลงั กายและกาลงั ทรัพย์ เชน่ เตรยี มสถานท่ปี ลูกผกั สวนครัว สร้างอุโมงค์ผกั ช่วยกนั ทาธนาคารน้าใต้ดินระบบปดิ ปลกู ตน้ ไม้ และให้ การสนับสนุนรางวลั ทนุ แก่นักเรียนทม่ี ีความประพฤติดี ตลอดจนใหข้ วัญกาลงั ใจดว้ ยการยกยอ่ งชมเชยทั้งกับ ครแู ละนักเรยี น ๕.ผลทเ่ี กิดกับครอบครัวและชุมชน จากการทนี่ ักเรียนมีการพฒั นาตนเองตามคณุ ธรรมอตั ลักษณข์ องโรงเรียน สง่ ผลให้โรงเรยี นไดร้ ับเสียง สะทอ้ นจากผูป้ กครองว่า บตุ รหลานมกี ารเปล่ยี นแปลงพฤติกรรมไปในทางที่ดีข้นึ มีความรับผดิ ชอบ ทา การบา้ น ทางานทไี่ ด้รบั มอบหมายโดยท่ีผู้ปกครองไมต่ ้องคอยเตือน ช่วยทางานบ้าน จดั เตรียมอุปกรณเ์ ครื่อง เขียนมาโรงเรยี นด้วยตนเอง และรจู้ ักการใชข้ องอย่างรู้คณุ ค่ามากขึน้ โรงเรยี นมีเป้าหมายในการพัฒนา โรงเรียนคุณธรรมอัตลักษณ์ของโรงเรียน มีทศิ ทางในการดาเนนิ งานชัดเจน ส่งผลใหช้ ุมชนและหน่วยงาน ภายนอกยอมรบั ในผลการดาเนนิ งานของโรงเรียน ใหก้ ารช่วยเหลือสนบั สนุนทง้ั ดา้ นกาลังใจ กาลังทรัพย์ และ กาลังกายทกุ กิจกรรมที่มีโอกาส รวมไปถึงให้การสนบั สนนุ วิทยากร ในการอบรมคณุ ธรรมด้านตา่ งๆ สนบั สนนุ แหลง่ เรยี นรู้ เพอื่ เพิ่มพนู ความร้แู ก่ครูและนักเรียนอย่างสม่าเสมอ แหล่งเรยี นร้แู ละสภาพบรบิ ทของโรงเรียน คนดีศรที ุง่ อุดม ด้วยกระบวนการ TUWS โรงเรียนทงุ่ อุดมวิทยา
20 ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนรู้ ปการศกึ ษา 2563 ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๑ – ๖ โรงเรียนทุง่ อุดมวิทยา ท่ี กลมุ่ สาระการเรียนรู้ เกรดเฉล่ยี ภาค เกรดเฉลีย่ เกรดเฉล่ยี เรยี นที่ 1 ภาคเรยี นที่ 2 วิชาพน้ื ฐาน 1 ภาษาไทย 2.40 2.96 2.68 2 คณติ ศาสตร์ 2.94 3.07 3.01 3 วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี 2.69 2.84 2.77 4 สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 3.02 2.91 2.97 5 สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา 3.97 3.97 3.97 6 ศิลปะ 3.67 3.85 3.76 7 การงานอาชีพ 3.46 3.28 3.37 8 ภาษาต่างประเทศ 2.41 2.17 2.29 รวม 3.07 3.13 3.10 วิชาเพ่มิ เติม 1 ภาษาไทย 2.59 2.58 2.59 2 คณติ ศาสตร์ 3.10 3.31 3.21 3 วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี 3.19 3.44 3.32 4 สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม 3.40 3.39 3.40 5 สขุ ศึกษาและพลศึกษา 3.99 3.99 3.99 6 ศลิ ปะ 3.03 4.00 3.52 7 การงานอาชพี 3.27 3.30 3.29 8 ภาษาตา่ งประเทศ 2.62 2.43 2.53 รวม 3.15 3.31 3.23 เฉล่ยี รวม ๓.๑๗ ท่ีมา : รายงานผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นรู้ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ โรงเรยี นทงุ่ อดุ มวทิ ยา จากตารางแสดงผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนรู้ ๘ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ รายวิชาพืน้ ฐาน และรายวชิ า เพม่ิ เติม ภาพรวมทง้ั โรงเรียน ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ภาพรวมเฉลี่ย ๓.๑๗ โดยแยกเปน็ ค่าเฉลย่ี วิชาพน้ื ฐาน เทา่ กับ ๓.๑๐ คา่ เฉลี่ยวชิ าเพิ่มเติม เทา่ กับ ๓.๒๓ ซง่ึ เป็นผลจากการสง่ เสรมิ สนับสนนุ คุณธรรมเปา้ หมายของ โรงเรียน ความรบั ผิดชอบต่อการเรยี นร้ขู องนักเรียน คนดศี รที ่งุ อุดม ด้วยกระบวนการ TUWS โรงเรยี นทุ่งอดุ มวิทยา
21 ผลกำรประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรยี น ปีกำรศึกษำ ๒๕๖๓ โรงเรียนทงุ่ อุดมวิทยำ สงั กัด สำนักงำนเขตพื้นท่ีกำรศึกษำมัธยมศึกษำลำปำง ลำพนู ระดบั ชัน้ จำนวน จำนวน/ร้อยละของนกั เรยี นตำมระดับคุณภำพ นักเรียน (คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค)์ ท้ังหมด ดเี ยย่ี ม ดี ผ่ำน ไม่ผ่ำน จำนวน รอ้ ยละ จำนวน รอ้ ยละ จำนวน ร้อยละ จำนวน รอ้ ยละ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 ๒๘ ๒๕ ๘๙.๒๙ ๓ ๑๐.๗๑ ๐ ๐ ๐ ๐ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 ๑๔ ๑๒ ๘๕.๗๑ ๒ ๑๔.๒๙ ๐ ๐ ๐ ๐ มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 ๓๕ ๓๐ ๘๕.๗๑ ๒ ๕.๗๑ ๐ ๐ ๐ ๐ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 ๓๒ ๓๐ ๙๓.๗๕ ๒ ๖.๒๕ ๐ ๐ ๐ ๐ มัธยมศึกษาปที ี่ 5 ๒๙ ๒๕ ๘๖.๒๑ ๔ ๑๓.๗๙ ๐ ๐ ๐ ๐ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 ๒๓ ๒๓ ๑๐๐.๐ ๐ ๐.๐๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ รวมเฉลี่ยร้อยละ ๑๖๑ ๑๕๕ ๙๐.๐๖ ๑๓ ๘.๐๗ ๐ ๐ ๐ ๐ โรงเรียนจดั โครงการ/กจิ กรรมเสริมสร้างพฒั นาพฤตกิ รรมของผเู้ รยี นดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ และคา่ นยิ มทส่ี ถานศึกษากาหนด โดยสอดแทรกการเรยี นการสอนทุกรายวชิ าของ ทุกกลุ่มสาระการเรยี นรู้และกิจกรรมพัฒนานักเรยี น มคี วามภูมใิ จในท้องถิ่น เห็นคุณค่าของความเป็นไทย มี ส่วนร่วมในการอนรุ ักษว์ ัฒนธรรมและประเพณีไทย ผลการประเมนิ สมรรถนะทางการเรียนรู้ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ ๑-๖ แยกเป็นกลุ่มสาระการเรียนรู้ ปกี ารศึกษา 25๖๓ ท่ี วิชา การ การคิด การ การใช้ การใช้ ร้อยละ สอื่ สาร แก้ปญั หา ทักษะ เทคโนโลยี ชีวติ 1 ภาษาไทย 99.73 98.40 99.73 99.73 99.47 99.41 2 คณติ ศาสตร์ 99.55 95.02 100.00 100.00 100.00 98.91 3 วทิ ยาศาสตร์ 99.32 95.56 100.00 100.00 100.00 98.98 4 สงั คมศึกษา 100.00 100.00 100.00 100.00 100.00 100.00 5 สุขศึกษาฯ 100.00 100.00 100.00 100.00 100.00 100.00 6 ศลิ ปศึกษา 100.00 100.00 100.00 100.00 100.00 100.00 7 การงานอาชพี ฯ 100.00 100.00 100.00 100.00 100.00 100.00 8 ภาษาอังกฤษ 91.82 93.49 100.00 100.00 100.00 97.06 รอ้ ยละ 98.80 97.81 99.97 99.97 99.93 99.30 จากตาราง แสดงผลการประเมินสมรรถนะของนักเรยี นภาพรวมปีการศึกษา ๒๕๖๓ พบว่า สมรรถนะ ทางการเรยี นรู้ของนักเรียนท่ีได้ตงั้ แต่ระดบั ๒ ขนึ้ ไป รอ้ ยละ ๙๙.๓๐ คนดีศรที ่งุ อุดม ด้วยกระบวนการ TUWS โรงเรยี นทงุ่ อดุ มวิทยา
22 ๔.๓ ประโยชน์ทไี่ ดร้ บั ๑.โรงเรยี นทุง่ อดุ มวิทยามหี ลักการบริหารจดั การ คนดี ศรที ุง่ อุดม ด้วยกระบวนการ TUWS ซึ่งเปน็ นวัตกรรมสร้างสรรคค์ นดีมาใช้ในการบรหิ ารจัดการศกึ ษาเพ่อื ให้นักเรียนมีคณุ ธรรมตามคณุ ธรรมเป้าหมายของ โรงเรยี น ๒.การใชห้ ลักการบรหิ ารจดั การ คนศี รีท่งุ อุดม ดว้ ยกระบวนการ TUWS ทาให้การทางานมีขน้ั ตอนเป็น ระบบเกดิ การมสี ว่ นรว่ ม เขา้ ใจบทบาทหน้าที่ ความรับผดิ ชอบต่อตนเอง โรงเรียน และชุมชน ๕.ปจั จัยไปส่คู วามสาเร็จ ๕.๑ สิง่ ท่ชี ่วยให้งานประสบความสาเรจ็ การพฒั นาคณุ ธรรมของนักเรยี นโดยใชห้ ลกั การบริหารจัดการ TUWS ซึง่ เกดิ จากการมสี ว่ นร่มของ ทุกสว่ นที่เก่ยี วข้องในการพฒั นา ซ่งึ ประกอบด้วย คณะกรรมการสถานศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน คณะกรรมการเครอื ข่ายผปู้ กครอง ชุมชน เปน็ ผ้กู ารสง่ เสรมิ สนบั สนุน เหน็ ชอบหลักสูตรโรงเรยี นทุ่งอดุ มวิทยาท่บี ูรณาการคุณธรรมในกล่มุ สาระการเรียนรแู้ ละกจิ กรรม พฒั นาผ้เู รียน แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา แผนปฏิบตั ิการประจาปี เพ่ือให้เป็นหลักในการพฒั นานักเรยี น ครผู ้สู อน ไดว้ เิ คราะห์หลกั สูตร วิเคราะห์ผเู้ รียนเปน็ รายบคุ คล ระบบดูแลชว่ ยเหลอื นกั เรียน วาง แผนการจัดการเรยี นรู้ท่สี อดคลอ้ งกบั มาตรฐานตวั ชวี้ ัดรายวิชา ความรูค้ วามสามารถของนักเรียน สอดแทรก คณุ ธรรมในรายวชิ าทส่ี อน ครูท่ปี รกึ ษาใช้ระบบคุณธรรมในการดูแลอบรมบ่มเพาะคุณธรรมใหก้ ับนักเรยี น นกั เรยี น ไดล้ งมอื ปฎิบัติกิจกรรมส่งเสรมิ คุณธรรม ห้องเรยี น โรงเรียนและภายนอกโรงเรยี น เพ่ือให้เกิด การเปล่ียนแปลงพฤตกิ รรมที่ไม่พึงประสงค์ โดยการนาหลักธรรมทส่ี อดคล้องเหมาะสมมาใช้แก้ปัญหา ผ้บู ริหาร นิเทศ กากับ ติดตามการดาเนินงานกจิ กรรม ชุมชน เป็นเครือขา่ ยทางานรว่ มกันกับโรงเรียนเพื่อพฒั นาคณุ ธรรม คณะกรรมการสถานศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐานเห็นชอบหลักสูตรโรงเรียนทุ่งอุดมวิทยา คนดีศรที ุ่งอุดม ด้วยกระบวนการ TUWS โรงเรยี นทุง่ อุดมวทิ ยา
23 ๖.บทเรยี นทไี่ ด้รบั (Lesson Learn) ส่ิงที่ได้เรียนรู้คน้ พบอะไรทีเ่ กดิ จากการพัฒนาผลงานนวตั กรรมอาจจะเป็นการคน้ พบวิธีการขั้นตอน รูปแบบที่เกดิ ข้ึนใหม่ การพัฒนาคุณธรรม จรยิ ธรรมนกั เรียน โดยใช้โครงงานคณุ ธรรมบนพน้ื ฐานหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงสู่คุณภาพผูเ้ รยี น เพื่อบรรลคุ ณุ ธรรมอตั ลักษณ์ของโรงเรียน ความซื่อสตั ย์ มีความรบั ผดิ ชอบ ความ พอเพียง โดยมีเป้าหมายคือ ผบู้ ริหาร ครบู คุ ลากรทางการศึกษาและนกั เรียนทกุ คน มีความตระหนกั รูเ้ ขา้ ใจ และมีเหตุผล เหน็ คณุ คา่ คุณธรรมความดอี ย่างเปน็ ธรรมชาติ เกิดการเปล่ียนแปลง ดังนี้ นักเรียน มกี ารพฒั นาตนเองตามคณุ ธรรมอตั ลักษณ์ของโรงเรียนและการลงมปื ฏบิ ตั ิโครงงานทางาน เป็นทีมโดยใชก้ ระบวนการกลุ่ม รจู้ กั การเปน็ ผนู้ าผูต้ ามทดี่ ี มคี วามซื่อสัตย์ มที ักษะการวเิ คราะห์ การแกป้ ญั หา รักษาความสะอาด ชว่ ยเหลอื งานโรงเรียนดว้ ยความเตม็ ใจ ดารงชีวติ บนพน้ื ฐานความพอเพยี ง ผูบ้ รหิ ารและครู เปดิ ใจยอมรับการเปลย่ี นแปลง ประพฤตติ นเปน็ แบบอยา่ งท่ีดี มีการพฒั นาปรบั ปรุง ตนเองและวิธีการทางานให้มีประสิทธิภาพ การมสี ว่ นร่วม การใชห้ ลักธรรมในการดาเนินงานทุกกจิ กรรม โรงเรยี น มบี รรยากาศ รม่ รนื่ สะอาด เอ้ตื ่อการเรียนรู้ ปลอดภยั หอ้ งเรียนสะอาดเป้นระเบียบเรยี บร้อย ชุมชน รบั รู้ และมคี วามตระหนกั เกีย่ วกบั การแบ่งปัน ช่วยเหลอื อนุเคราะห์พระวิทยากร มี ความสัมพันธ์อนั ดี ระหวา่ งบ้าน วัด โรงเรยี นและชุมชน ในการพฒั นาคณุ ะรรม จริยธรรมนักเรยี นเพ่ือชว่ ยกัน สรา้ งคนดีใหก้ บั บ้านเมือง นอกจากนั้นไดร้ ับองค์ความรทู้ ีเ่ ปน็ ผลมาจากการปฏิบตั ิงานรว่ มกนั อย่างมงุ่ มั่นตง้ั ใจ มาสรุปเปน็ หลกั การ และแนวทางที่สามารถนาไปใชพ้ ัฒนาเพมิ่ เติมใหป้ ระสบผลสาเร็จอย่างยั่งยืนต่อไป ผู้บริหาร ครแู ละนกั เรียนพฒั นาตนเองและเป้นแบบอยา่ งให้สังคม คนดีศรที ุ่งอุดม ด้วยกระบวนการ TUWS โรงเรยี นทงุ่ อุดมวทิ ยา
24 โรงเรียนเช่อื มโยงการเรียนร้รู ว่ มกับชมุ ชน โรงเรียนร่วมกจิ กรรมกับชุมชน กจิ กรรมดูแลนกั เรยี นตอนเช้า ๗.การเผยแพร/่ การไดร้ ับการยอมรับ โรงเรยี นมกี ารประชาสัมพันธก์ ารปฏบิ ตั ิงานพัฒนาโรงเรียนคุณธรรมให้ผ้ปู กครอง ชุมชน องค์กรที่ เกีย่ วข้องได้ทราบเพื่อให้เกดิ ความรว่ มมอื พัฒนาคุณธรรม จรยิ ธรรมให้กับนักเรยี น ครูและบคุ ลากรทางการ ศึกษา สถานศึกษา ดงั นี้ 1. จัดประชาสัมพนั ธแ์ ละเผยแพรผ่ ลงานทง้ั จัดกิจกรรมหน้าเสาธง ประชาสมั พันธเ์ สยี งตามสาย ใน โรงเรยี น Facebook ของโรงเรยี น Line กลมุ่ ห้องเรียน 2. บรู ณาการโดยนาคณุ ธรรมอตั ลกั ษณ์สอดแทรกไว้ในกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียน 3. นาเสนอผลการพัฒนาโดยการจัดนทิ รรศการทัง้ ภายในและภายนอกโรงเรยี น มกี ารประชาสมั พนั ธ์ โครงการ กจิ กรรมส่งเสรมิ คุณธรรมหน้าเสาธง การประชมุ ครูทกุ เดือน การประชุมนักเรยี นแกนนา คณะกรรมการสภานกั เรียนทุกเดือน และการประชุมผูป้ กครอง คนดศี รที งุ่ อดุ ม ด้วยกระบวนการ TUWS โรงเรียนทุ่งอดุ มวิทยา
25 การเผยแพร่ขอ้ มูลสารสนเทศของโรงเรยี น ผา่ นwebsite www.thuws.ac.th ของโรงเรียน การเผยแพรข่ ้อมลู สารสนเทศของโรงเรยี น ผา่ น facebook : ประชาสัมพนั ธ์โรงเรยี นทงุ่ อดุ มวิทยา ๔. ผลการดาเนนิ งานด้านคณุ ธรรมท่ีได้รับยกย่อง ผลงานโรงเรยี น เกียรติบตั ร OBEC AWARD ระดับเขตพนื้ ที่การศึกษา เกยี รติบตั รการใชค้ ุณธรรมขบั เคลอ่ื นระบบดูแล คนดศี รที ่งุ อุดม ด้วยกระบวนการ TUWS โรงเรียนท่งุ อุดมวทิ ยา
26 โล่เกยี รตคิ ุณ รางวัลชนะเลิศ ดา้ นการจดั การเรียนรู้ เกียรตบิ ตั รเขา้ ร่วม ด้านบรู ณาการ เกียรตบิ ัตรส่วนร่วมการประเมินพฤตกิ รรมฯ เกียรตบิ ัตรระดบั ยอดเย่ียมระบบและกลไก ผลงานผบู้ ริหาร การบรหิ ารจดั การคุณภาพและมาตรฐานฯ เกียรติบตั รครูท่ีปรกึ ษาโครงงานคณุ ธรรม เกียรตบิ ตั รรางวัลระดับทอง ระบบดแู ลช่วยเหลอื นักเรยี น คนดีศรีทุ่งอุดม ด้วยกระบวนการ TUWS โรงเรียนทงุ่ อุดมวิทยา
27 ผลงานครู คนดีศรที ุ่งอุดม ด้วยกระบวนการ TUWS โรงเรียนท่งุ อดุ มวิทยา
28 ผลงานนักเรียน ๘.เงอ่ื นไขความสาเรจ็ กำรจดั กิจกรรมดังกลำ่ วควรมีกำรพฒั นำปรับปรุงเพื่อให้สอดคล้องกบั สถำนกำรณป์ จั จุบัน ดงั นี้ 1. ควรพฒั นานวัตกรรมอยา่ งต่อเนื่องเพอื่ เกิดความคล่องตัวในการจดั การศึกษา และเกิด ประโยชนส์ งู สดุ ต่อนกั เรยี น ครู และบคุ ลากรทางการศึกษา 2. ควรเปิดโอกาสให้ผ้ปู กครอง ชุมชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมมากกวา่ นี้ 3. ควรสรา้ งเครอื ข่ายในการแลกเปลี่ยนเรียนรผู้ ลการดาเนนิ งานระหวา่ งโรงเรียนกับโรงเรยี น คนดศี รที ุ่งอดุ ม ด้วยกระบวนการ TUWS โรงเรยี นท่งุ อดุ มวทิ ยา
29 เอกสำรอ้ำงองิ จ.เปรียญ.(๒๕๔๘).ภาวะผนู้ าตามหลักสัปปรุ ิสธรรม. ปรญิ ญา นิพนธ์ศาสนศาสตรมหาบัณฑติ , สาขาวิชา พุทธศาสน์ศึกษา.บณั ฑิตวทิ ยาลัย : มหาวทิ ยาลัยมหามกฏุ ราชวิทยาลัย ปรญิ ญา ตันสกุล .(2550).ศาสตร์แหง่ การเปน็ ผู้นา.กรงุ เทพมหานคร:สานักงานพิมพ์จิตจกั รวาล. พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยตุ โฺ ต). (๒๕๓๘).พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ของพระธรรมปฎิ ก (ป.อ.ปยุตโฺ ต .กรงุ เทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย. พระยุทธศลิ ป์ ยุทธสปิ โป(๒๕๕๔).การบรหิ ารงานโดยการประยกุ ต์ใช้หลักสัปปุริสธรรม ๗ ขององค์การบรหิ าร สว่ นตาบลบา้ นคอ้ อาเภอโพนสวรรค์ จงั หวัดนครพนม ภเู บศร์ สมทุ รจกั ร (2552).Inspiration…พลังแหง่ ลมหายใจ ไฟแห่งการทางาน Productivity World23 March-April 2009.กรงุ เทพฯ:สานักพมิ พม์ หาวทิ ยาลยั ธรุ กจิ บณั ฑิย์ มัลลกิ า วิชชุกรองิ ครัต.(2553).การศึกษาการทางานเปน็ ทีมของพนักงานครูเทศบาล สงั กดั เทศบาลเมือง ชลบุรี.วิทยานิพนธ์ การศึกษามหาบัณฑติ มหาวทิ ยาลยั บรู พา ชลบรุ ี. รายงานผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนร้โู รงเรยี นท่งุ อุดมวิทยา ปีการศกึ ษา ๒๕๖๑ – ๒๕๖๒ รายงานการประเมนิ คุณภาพภายนอกรอบส่ี(พ.ศ.๒๕๕๙ – ๒๕๖๓) ระดบั การศึกษาข้นั พื้นฐาน โรงเรียนทุ่งอุดมวิทยา สานกั งานรบั รองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศกึ ษา(องค์การมหาชน) เรวดี ชยั เชาวรตั น.์ (2558). วถิ ีสรา้ งครสู ู่ศษิ ย์ : ชุมชนการเรียนรทู้ างวชิ าชพี : เอกสาร ประมวลแนวคดิ และแนวทางพัฒนาวิชาชพี ครูสาหรับคณะทางานโครงการ พัฒนาระบบกลไกและแนวทางการ หนนุ เสริมชุมชนการเรยี นร้ทู างวิชาชีพ เพ่อื พฒั นาผู้เรียน. กรงุ เทพฯ : สานกั งานสง่ เสริมสังคมแหง่ การเรียนรู้และ คณุ ภาพเยาวชน. สงวน พรชยั สริ ิอรณุ .(๒๕๔๓).ความร้คู วามเข้าใจของประชาชนของประชาชนเก่ยี วกบั การปกครอง ทอ้ งถิน่ ในรปู แบบองคก์ ารบริหารส่วนจังหวดั ตาบล: ศกึ ษาเฉพาะกรณีองค์การบรหิ ารส่วน ตาบลบางไทร อาเภอเมือง จงั หวัดสมทุ รสาคร.วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขารัฐศาสตร์ บณั ฑติ วิทยาลยั มหาวิทยาลัยรามคาแหง สุรพี ร พงึ พุทธคุณ .(25๔๙).การบรหิ ารจดั การทีมงาน.กรุงเทพฯ:พิมพ์คร้งั ที่ ๒.ธรรกมลการพิมพ์. สานักพฒั นาครูและบุคลากรการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน .(๒๕๖๐).คมู่ อื ประกอบการอบรมการขับเคล่อื น กระบวนการ PLC(Professional Learning Community) ชุมชนการเรยี นรู้ทางวิชาชีพ สู่ สถานศึกษา.สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ. เอกวทิ ย์ แกว้ ประดษิ ฐ์.(๒๕๔๕).เทคโนโลยีการศึกษา:หลักการและแนวคดิ สูป่ ฏบิ ัติ สงขลา. คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยทักษิณ. อัจฉราพร ปะทิ .(๒๕๕๙).ความรู้ ความเข้าใจ และคดิ เห็นของประชาชนในชมุ ชนต่อการคุ้มครองคน ไรท้ ่ีพ่ึง:กรณีศึกษาประชาชนในตาบลผาสงิ ห์ อาเภอเมอื ง จงั หวัดน่าน.สารนิพนธ์การศกึ ษาตาม หลักสูตร สงั คมสงเคราะหศ์ าสตรมหาบัณฑิต สาขาการบรหิ ารและนโยบายสวสั ดิการสังคม ภาควชิ า สังคมสงแคราะห์ คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. คนดีศรที งุ่ อดุ ม ด้วยกระบวนการ TUWS โรงเรยี นทงุ่ อดุ มวทิ ยา
Search
Read the Text Version
- 1 - 29
Pages: