Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ประเพณีเหยียบหลังกะเหรี่ยง

ประเพณีเหยียบหลังกะเหรี่ยง

Description: อำเภอวัดเพลง เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดราชบุรีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะด้านวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นเป็นของตนเอง โดยสืบทอดเป็นมรดกทางด้านวัฒนธรรมจากชนรุ่นก่อน จนถึงคนรุ่นปัจจุบัน และมีการอนุรักษ์ให้คงอยู่เพื่อสืบทอดให้กับชนรุ่นหลัง ไม่ว่าจะเป็นด้านวิถีชีวิตความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพ ขนบธรรมเนียมประเพณี ตลอดจนการละเล่นพื้นบ้าน

Search

Read the Text Version

ประวตั ิประเพณีเหยียบหลังกะเหรย่ี ง ณ วดั แจ้งเจรญิ ตำบลจอมประทัด อำเภอวัดเพลง จังหวัดราชบรุ ี

ก คำนำ อำเภอวดั เพลง เป็นอำเภอหนง่ึ ในจงั หวัดราชบุรที ่มี เี อกลักษณ์เฉพาะดา้ นวัฒนธรรมและ ภูมิปัญญาท้องถิ่นเป็นของตนเอง โดยสืบทอดเป็นมรดกทางด้านวัฒนธรรมจากชนรุ่นก่อน จนถึงคนรุ่น ปัจจุบนั และมีการอนรุ ักษ์ใหค้ งอยู่เพื่อสืบทอดให้กับชนรุน่ หลัง ไมว่ า่ จะเป็นด้านวิถชี ีวิตความเป็นอยู่ การ ประกอบอาชพี ขนบธรรมเนียมประเพณี ตลอดจนการละเลน่ พื้นบา้ น คณะกลุ่ม U2T (ตำบลจอมประทัด) พจิ ารณาเห็นความสำคัญของเอกลักษณ์มรดกทางวัฒนธรรม ดงั กล่าวขา้ งต้น จึงได้ทำการสบื คน้ และรวบรวมประวัตปิ ระเพณเี หยยี บหลงั กะเหรยี่ งวดั แจง้ เจรญิ ตำบลจอมประทัด อำเภอวัดเพลง จังหวัดราชบุรี จากคำบอกเล่าจัดทำเป็นเอกสารเพื่อใช้เป็นข้อมูลใน การศึกษา และอนุรักษ์ทางด้านวัฒนธรรมให้คงอยูส่ บื ไป และขอกราบขอบพระคุณพระคุณเจ้าพระครูศรี ธรรมาภรณ์เจ้าอาวาสวดั แจง้ เจริญ ทใี่ หข้ ้อมูลในการศกึ ษา และจดั ทำเอกสารครัง้ นี้ นางสาวดสุ ติ า ขาวชม และคณะกลุ่ม U2T

สารบัญ ข เรื่อง หนา้ ก คำนำ ข สารบัญ ค สารบญั ภาพ ประวตั ิความเป็นมาและอภินิหารพลวงพ่อนวมวดั แจง้ เจริญ 1 ส่ปู ระเพณีเหยียบหลงั กะเหร่ียง 1-6 7-10 กะเหร่ยี ง 11 12-13 ประวตั ิความเป็นมาของหลวงพ่อนวม “เหยยี บหลังกะเหรย่ี ง” ประเพณีเสรมิ สริ มิ งคลแหง่ เดียวในไทย รปู ภาพ

สารบญั ภาพ ค ภาพที่ หน้า ภาพท่ี 1 กะเหรย่ี ง...เดนิ ทางมาวัดแจง้ เจริญ 1 ภาพที่ 2 กะเหรย่ี งมาทำไมท.่ี .. วดั แจ้งเจริญ 3 4 ตำบลจอมประทดั อำเภอวดั เพลง จงั หวดั ราชบรุ ี 7 ภาพที่ 3 องคท์ ่ี 1 หลวงป่นู วม องค์ที่ 2 หลวงปปู่ อ๋ ง องคท์ ี่ 3 หลวงปูม่ ว่ ง 9 ภาพท่ี 4 ชาวกะเหรี่ยงใชน้ ำ้ มันและส้มปอ่ ย สรงน้ำพระศรีธรรมาภรณ์ 11 ภาพท่ี 5 พระศรธี รรมาภรณ์ เจา้ อาวาสวดั แจง้ เจรญิ ได้ประพรมนำ้ มนต์ให้กับชาวบา้ น เพื่อเป็นสิรมิ งคลก่อนแยกยา้ ยกนั กลบั บา้ น ภาพที่ 6 พระศรธี รรมาภรณ์ เจ้าอาวาสวดั แจง้ เจริญองค์ปจั จุบนั ได้เหยยี บหลังผ้ชู ายกะเหร่ยี ง

1 ประวัติความเป็นมาและอภินหิ ารพลวงพอ่ นวมวัดแจง้ เจรญิ สปู่ ระเพณีเหยยี บหลังกะเหร่ยี ง ภาพที่ 1 กะเหรี่ยง...เดนิ ทางมาวัดแจง้ เจรญิ 1.กะเหรี่ยง ก่อนจะทราบรายละเอียดเกี่ยวกับประเพณีเหยียบหลังกะเหรี่ยงวัดแจ้งเจริญตำบลจอมประทัด อำเภอวัดเพลง จังหวัดราชบุรี คงจะต้องกล่าวถึงพ้ืนฐานของกะเหร่ยี งกันก่อน คำวา่ “ กะเหรยี่ ง” เป็นชอื่ ชาวเขาเผ่าหนงึ่ ซ่ึง ในภาษาพดู มักจะใชเ้ ป็นคำสแลง เรียกคนไทยในชน กลมุ่ น้อยตามแนวชายแดนว่า “กะเหร่ยี ง” แต่กะเหร่ยี งท่จี ะกล่าวถงึ นีเ้ ป็นชนชาติหนึ่ง กะเหร่ียงเป็นนาม เรียกกนั ในภาคกลางของไทย พม่าเรียก กะยิ่น คนไทยในรฐั ฉานของพม่า และจงั หวัดในภาคเหนือของไทย เรียกวา่ \"ยาง” ส่วนพวกทีอ่ าศยั ในภาคกลาง เช่นจังหวัดเพชรบรุ ี ประจวบคีรขี นั ธ์ เรียกว่า“ กะหรา่ ง\" จำนวนประชากรชาวกะเหรี่ยงนั้น ปรากฏว่าอยู่กระจัดกระจายหลายจังหวัด คือ จังหวัด กำแพงเพชร จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดตาก จังหวัดแพร่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดลำปาง จังหวัดลำพูน ชาวเขาเผ่ากะเหร่ียงยังแยกย่อยมากมาย จากทำเนยี บชาวเขาท่ีแบ่งอยา่ งเป็นทางการน้ัน แยกออกเป็น 5 เผ่า คือ เผ่าสะกอ เผ่าโปว์ เผา่ ตอง เผ่าพะโอ และเผ่าผะเวหรือคยา ท้งั ๕ เผ่ามกี ารแต่งกายที่แตกต่างกัน ซ่ึงพวกเขาร้จู กั กันเองจากลักษณะสีสนั เส้ือผ้าดา้ นภาษาก็แตกต่างกันด้วย แต่ก็พอจะพดู กันรู้เร่อื ง

2 ปกติกะเหรี่ยงเป็นคนขี้อาย ไม่ไวใ้ จคนตา่ งเผ่าเลยและพยายามรักษาวัฒนธรรมของตนไว้ ภายใน ครอบครัว บิดา มารดา เป็นผู้มีอำนาจสูงสุดจะเป็นผู้ตัดสินใจในเรื่องราวของครอบครัว หัวหน้าหมู่บ้าน เป็นผู้มีอำนาจมากที่สุดในหมู่บ้าน และเป็นผู้ที่ลูกบ้านให้ความเคารพยกย่อง กะเหรี่ยงที่อยู่ร่วมกันใน หมู่บา้ นจะเชื่อมโยงสมั พันธ์กนั ดว้ ยระบบญาติทางการแต่งงาน และเคารพสังการะบูชาวิญญาณบรรพบรุ ุษ ปัจจบุ ันอำนาจของหมอผีในหมูบ่ ้านจะลดน้อยลงไป มคี นน้อยมากที่เช่ือว่าผใู้ ดไมเ่ ชื่อหมอผีก็ต้อง ได้รบั อนั ตราย แตเ่ รอ่ื งการรดนำ้ มนต์ถือเปน็ สริ มิ งคล พระพุทธรปู ก็เปน็ ส่ิงทเี่ คารพกราบไหว้ ถา้ มีคำถามถามว่า ชาวเขาชอบอาบน้ำหรือไม่ มกั ทายกันถกู วา่ คงไม่นยิ มอาบ ทงั้ ๆท่ีมีน้ำประปา ธรรมชาติ ทใี่ ชล้ ำไมไ้ ผ่ตอ่ ระบายจากยอดเขามากลางหมูบ่ ้าน ปรมิ าณน้ำเหลอื เฟอื แตช่ าวบา้ นส่วนมากยัง เชือ่ วา่ ถ้ายงั ไม่ถงึ เวลาแล้วไปอาบน้ำภตู ผีจะทำรา้ ยเอา ชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง มีความเชื่อกันมากเกี่ยวกับเรื่องผี ผีป่าและผีน้ำ ก็เป็นประเภทหนึ่งใน หลายๆ ผีที่ชาวบ้านเกรงกลัว ผีป่า ได้แก่ บรรดาผีซึ่งสิงสถิตอยู่ตามลำห้วย ลำธาร บึงหนองน้ำ เมื่อเวลา พวกกะเหร่ียงละกอไปหาปลา ปู หรือลา่ สัตว์ เดินป่ากลบั มาถึงบ้านของตนเกดิ มีอาการเจ็บป่วยขึ้น จะทำ พิธีปักกระดูกไก่ ไต่ถามดูว่า ไปถูกผีที่ไหนทำรา้ ยเอา เมื่อกระดูกไก่แจ้งตรงกับตำราวา่ ไปถูกผีประเภทนนั้ ประเภทน้ี ก็จะตามไปเลี้ยงตรงนั้น บางคราวอาการป่วยก็ทุเลาไปได้เหมือนกันตามความเช่ือ แต่ไม่จริง เสมอไปถ้าไม่หายจะปักกระดูกไก่ ไต่ถามอีกว่าถูกผีป่าหรือผีน้ำทำร้ายเอา เมื่อกระดูกไก่บอกอย่างไรก็ไป เลี้ยงผีตรงนนั้ อีก และต้องถามอกี วา่ เปน็ ผีกนิ ไก่ หมู เป็ดคหู่ รือเด่ยี ว ผู้ที่ทำพิธีคอื หมอผี ซ่ึงคัดมาจากผู้ท่ีมี ความรู้ทางไสยศาสตรร์ ่ายเวทมนตร์คาถา บางคนคงกระพันชนิดยิงไม่ออกฟันไม่เข้า รจู้ กั วิธเี สี่ยงทายฤกษ์ ยาม หมอผีเป็นหมอรักษาคนป่วยด้วยรากไม้ สมุนไพร เวทมนตร์คาถาอีกด้วย เขาเป็นทั้งตัวแทนของผี และเป็นตัวแทนของชาวเขาเผ่าของตนด้วย ด้วยเหตุที่ชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงมีความเชื่อในเรื่องภูตผี วญิ ญาณอย่างมาก นอกจากผีน้ำดงั กล่าวแล้วยงั มผี ีประเภทอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ผีเรือน ผีประจำไร่ หรือ ผีนา กะเหรี่ยงจึงพยายามหาทางป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นจากผีต่างๆ กะเหรี่ยงเผ่าโปว์ กับกะเหรี่ยง เผ่าสะกอ ที่เป็นเพศหญิง จึงชอบสักหมึกเป็นเครื่องหมายสวัสดิกะที่ข้อมือ ส่วนน่องสักเป็นรูปกระดูกงู โดยเชือ่ กนั วา่ สามารถป้องกันเวทมนตร์คาถา และภูตผีปีศาจชะงัดนัก ลกั ษณะทเี่ ห็นเดน่ ชัดของกะเหร่ียง ทแ่ี ตกต่างไปจากเผ่าอนื่ ๆ คอื ทกุ คนไมว่ า่ หญิง ชาย เด็กหรือผใู้ หญ่มักมีกล่องยาเส้นคาบอยู่ท่ีปากเสมอจน มีผู้ล้อเลียนว่า พวกกะเหรี่ยงถือกล่องยาเส้นมาเกิด กล่องยาเส้นนี้ทำด้วยรากเหง้าไม้ไผ่ บางอันทำด้วย โลหะเงนิ เปน็ รูปโคง้ งอ มีลวดลายสวยงาม เขาสบู ยาเสน้ เปน็ ของโปรดไม่นอ้ ยกวา่ การด่มื สุรา เวลากลางคืนเป็นหน้าที่ของหนุ่มสาวจะมาร้องเพลงรำพันถึงผู้ตาย เพลงนี้เราเรียกว่า “มาทา” หนุม่ สาวจบั มือกนั และรอ้ งเพลงจากขวาไปซา้ ยรอบๆ ศพ โปรยเมด็ พันธผุ์ กั ตา่ งๆ ลงไปเพือ่ ให้ผู้ตายนำไป ปลูกยังเมืองผี กะเหรี่ยงโปว์ชอบการฝังศพไม่ชอบเผา และนำเอาไก่ 1 ตัวของผู้ตายไปฆ่า เช่นดวง วิญญาณผู้ตาย ณ หลุมฝังศพ นั้นแต่เดี๋ยวน้ีวิวัฒนาการขึ้นประเพณีต่างๆ จึงเปลี่ยนไปมีการส่งลูกหลาน ออกมาเรยี นหนังสอื กลายเปน็ กะเหรี่ยงยุคพัฒนาตามสงั คมไปในท่ีสดุ

3 ภาพที่ 2 กะเหรย่ี งมาทำไมท่ี...... วัดแจง้ เจริญ ตำบลจอมประทัด อำเภอวัดเพลง จังหวดั ราชบุรี กะเหรยี่ งท่ีจะกลา่ วตอ่ ไปนี้ คือกะเหร่ยี งจากลมุ่ แม่นำ้ พาชี ทั้งหมดมพี น้ื ท่ีตงั้ แต่ จงั หวัดกาญจนบรุ ี จังหวัดราชบุรี จังหวัดเพชรบุรี จนกระทงั่ ถงึ จังหวัดประจวบครี ีขันธ์ วัดแจ้งเจริญนี้ชาวกะเหรี่ยงเรียกว่า “วัดเจดีย์ขาว” ตั้งอยู่ที่หมู่ ๓ ตำบลจอมประทัด อำเภอวัด เพลง จังหวดั ราชบรุ ี ถ้าเราพูดถงึ วัดแจ้งเจริญ ทุกคนกม็ ักจะมุ่งไปทีน่ ่ี ทกุ ปีจะมพี นี่ อ้ งชาวกะเหร่ียงจากลุ่มแม่นำ้ พาชี เดนิ ทางมานมัสการหลวงพ่อพระประธานในโบสถ์ และรูปหล่อหลวงพ่อนวมเป็นประจำทุกปีมิได้ขาด สำหรับความเป็นมาที่ชาวกะเหรี่ยงเดินทางมาที่วัดน้ี เป็นจุดเดียวกันโดยมิได้นัดหมาย เพราะถ้าใครบอกว่าจะมาแล้วไม่มาจะผิดผีพวกเขาจึงไม่ทำกัน เป็น ประเพณที ่ปี ฏิบัติสืบทอดกันมาหลายชัว่ คน ถึงแมว้ า่ การเดนิ ทางในสมัยก่อน จะแสนยากสำบากอย่างไรก็ ไม่ย่อท้อ ขนาดห้วยแห้ง สองพี่น้อง ยางกลัดเหนือ ยางกลัดใต้ บ้านข่า โป่งกระทิง สวนผึ้ง ยางหัก หนอง หญา้ ปลอ้ ง ฯลฯ วา่ เดนิ ทางมายากลำบากเพยี งใด แตพ่ วกเขาขอให้ได้มา อุ้มลูกจงู หลานเดินทางรอนแรม มาให้ถึงวัด เพื่อนมัสการหลวงพ่อพระประธานในโบสถ์และรูปหล่อหลวงพ่อนวม พร้อมทั้งพิธีกรรม บวช พระ บวชชี ขอลูก อาบ กินน้ำมนต์ อำนาจผลบุญที่ได้ทำนั้นทำให้พวกเขาสบายใจ ขจัดปัดเป่าสิ่งสุมอยู่ ภายใจจิตใจ ฉะนน้ั ประวัตคิ วามเปน็ มาของพวกชาวเขาเผ่ากะเหรยี่ งเหล่าน้ี จึงนบั วา่ เป็นส่งิ ที่น่าศึกษาเป็น อย่างยง่ิ ทง้ั ท่เี ป็นเพียงชาวป่าชาวเขา เขากลับมาซึ้งใจในพระพุทธศาสนาอย่างลกึ ซงึ้

4 ภาพที่ 3 องคท์ ่ี 1 หลวงปูน่ วม องคท์ ่ี 2 หลวงปู่ปอ๋ ง องค์ท่ี 3 หลวงปูม่ ว่ ง สำหรับประวัติวัดแจ้งเจริญ และหลวงพ่อที่เป็นอธิการวัดนี้ ทางวัดไม่ได้บันทึกไว้เป็นหลักฐาน เนอ่ื งจากหลกั ฐานเดิมไฟไหม้วดั สูญหายไปหมด เท่าท่ีไดจ้ ากคำบอกเล่าของเจ้าอาวาส องคป์ จั จุบันปรากฏ วา่ มสี มภารวัดอยู่ 8 รปู คอื ๑. หลวงพอ่ คง ๒. หลวงพอ่ นอมหรือนอง ๓. หลวงพอ่ นวม ๔. พระอธิการมว่ ง ๕. พระอธกิ ารแหวน 6. พระอธิการเถ่ือน ๗. พระครูสุจติ รตั นาธร (หลวงพ่อบุญเหลอื ) 8. พระครศู รธี รรมาภรณ์ (เจา้ อาวาสองค์ปจั จบุ นั ) หลวงพ่อนอม และหลวงพ่อนวมเป็นเจ้าอาวาส ที่มีชื่อเสียงเลื่องลือในด้านไสยศาสตร์ตามที่ได้ สอบถามจากผูส้ งู อายุ ในอำเภอวัดเพลง และชาวเผา่ กระเหรีย่ งท่มี าจากหลายแหง่ พอสรุปความไดว้ า่ หลวงพ่อนวมอดีตเจ้าอาวาสวัดแจ้งเจริญ ท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิปัสสนากรรมฐาน ท่าน ชอบธุดงค์ไปตามป่าลึก แถบจังหวัดเพชรบุรี อำเภอจอมบึง และอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ครั้งหนึ่ง ท่านไปธุดงค์ที่บริเวณป่าใกล้หมู่บ้านกะเหรี่ยง ซึ่งสมัยนั้นยากที่คนธรรมดาจะเข้าไปถึงและเกิดความ ประหลาดใจแกช่ าวกะเหรยี่ งเปน็ อยา่ งมาก

5 หลวงพ่อนวมท่านถือเส้นโดษปฏิบัติกิจ อยู่ในแถบนั้นอยู่เป็นเวลานาน ในขณะเดียวกันมีชาว กะเหรี่ยงคอยสังเกต ดูท่านอยู่ตลอดเวลาแล้วนำไปวิพากษ์วิจารณ์กันในหมู่ชาวกะเหรี่ยงด้วยกัน จนกระทั่งเช้าวันหน่ึงหลังจากท่าน ปฏิบัติกิจวัตรเสร็จได้มีชาวกระเหรีย่ งกลุ่มหนึ่งมานิมนตท์ ่านเข้าไปใน หมู่บ้าน พร้อมทั้งการต้อนรับเป็นอย่างดี นำหนังวัวทั้งแผ่นมาปูเป็นอาสนะให้ท่านนั่ง ทั้งนำอาหารมา ถวายเล่ากันวา่ ขณะทท่ี า่ นได้ฉันหมากพลูอยู่นน้ั หนงั ววั ทช่ี าวกะเหร่ยี งนำมาปูให้นั้น มันค่อยๆ หดเข้าไป มันค่อยๆ เล็กลงๆ ขณะเดียวกันท่านสังเกตเหน็ จึงได้บริกรรมคาถา ตบลงไปที่หนังวัวนั้น ๓ ครั้ง หนังววั นั้น ไม่สามารถจะทำอันตรายท่านได้ จึงทำให้ชาวกะเหรี่ยงเกรงกลัว อภินิหารของหลวงพ่อ หัวหน้า หมู่บ้านจึงไดน้ ำพวกมาขอขมาลาโทษ ท่านก็มิได้มีถือโทษ และได้อบรมสั่งสอนใหเ้ ขาเหลา่ นั้น เข้าถึงพระ รัตนตรัย จนพากันเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา เคารพในตัวท่านและได้พร้อมใจกันปลูกที่พัก ชั่วคราวให้ พกั อาศยั ลองทำพิธีสรงนำ้ โดยต้งั เกา้ อี้ไว้กลางลานบ้านใหน้ ั่ง นำนำ้ ผสมขมน้ิ มารด ขัดถูตัว ส่วนผู้หญิงจะ ขยายผมมวยเอามาถูที่เท้าของหลวงพ่อ ส่วนน้ำที่เหลือจากรดหลวงพ่อนั้น พวกเขาจะพากันยื้อแย่ง เพ่ือ เอามากิน รดหัว ขัดหน้า ขัดตา เพื่อเป็นสิริมงคลให้หายจากโรคภัยใหเ้ จบ็ พอสรงน้ำเสร็จ พวกกะเหรี่ยง ผูช้ าย จะนอนเรยี งกนั บนพื้นดิน เพอ่ื ใหห้ ลวงพอ่ เดนิ บนตัวไปจนขนึ้ ทพ่ี กั ชั่วคราวน้นั หลวงพ่อได้พักอาศัยอย่ทู ี่ดงกะเหร่ยี งตลอดพรรษา เทศนาสัง่ สอน ให้เลอ่ื มใสในพระรตั นตรัย จน ชาวกะเหรี่ยงต้องนำพรรคพวกในตำบลต่างๆมาหา อาบกินน้ำมนต์ ที่ท่านใส่โอ่งไว้และเป็นเรื่องแปลกยงิ่ ว่าเมื่อได้อาบ และกินน้ำมนต์แล้วอำนาจพระพุทธคุณไดช้ ่วยขจัดภัยอันตรายต่างๆ ได้อย่างอัศจรรย์ เช่น น้ำมนต์โอ่งน้อยของหลวงพ่อ จากคำบอกเล่าของชาวกระเหรี่ยงว่าขณะนี้ยังไม่หมด ไม่น่าเชื่อ แต่ก็เป็น ความจริงเพราะพิธีการของเขา ก่อนจะมาตักน้ำมนต์ของหลวงพ่อ เขาจะตักน้ำ ๑ ขัน เทลงไปในโอ่ง นำ้ มนต์ก่อน แล้วจุดธปู เทยี นกราบไหวอ้ ธิษฐาน เสร็จแล้วจงึ ตักน้ำมนตก์ ลบั ขนึ้ มาเพอ่ื นำกลบั บา้ น ตามปกติในระยะต่อมาหลวงพ่อไปธุดงค์ ตามดงกระเหรี่ยง เที่ยวเทศนาสั่งสอนจนชาวกะเหร่ยี ง หันมานับถือพุทธศาสนาจนหมดสิ้น กาลเวลาผ่านไปหลวงพ่อแก่ชราไปไหนไม่ได้ แต่ด้วยความเคารพ เลื่อมใสจึงทำให้พวกชาวกะเหรี่ยงในที่ต่างๆ ตามป่าเขา ฟากตะวันตกเทือกเขาตะนาวศรีได้หอบลูก จูง หลาน เดินรอนแรมมานมัสการหลวงพอ่ จนถึงวดั และเป็นประเพณมี าจนตราบเทา่ ทุกวันน้ี ต่อมาว่ากันว่าหลวงพ่อนวม เจ้าอาวาสวัดแจ้งเจริญนั้น ประวัติความเป็นมาก็ยังหาหลกั ฐานไม่ ปรากฏชัดทราบ แตเ่ พยี งว่าถน่ิ กำเนดิ ทา่ นอยู่ที่ ตำบลโคกพระ อำเภอปากท่อ และเปน็ เจ้าอาวาสวัดแจ้ง เจรญิ ประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๕ ถงึ พ.ศ. ๒๔78 รวม ๓๓ พรรษา การศกึ ษานัน้ ก็ไมท่ ราบวา่ จากสำนกั ได้ แต่ หลวงพ่อที่มีช่ือเสียงสำนักเดยี วกับท่านเทา่ ที่ทราบมาก็คนื หลวงพ่อแย้ม วัดยางงามและหลวงพ่อเทยี นวดั ป่าไก่ ถ้าจะสันนิษฐานที่เข้าใจว่า ท่านคงจะศึกษามาจากหลวงพ่อนอมเจ้าอาวาสก่อนหน้าท่าน โดยแท้ โดยเฉพาะเครื่องรางของขลังของท่าน ก็มีตะกรุดโทนและตะกรุดต่างๆ เป็นที่นิยมของชาวตำบลวัดประดู่ เขตจงั หวดั สมุทรสงคราม เขตตำบลจอมประทดั วดั ยางป่าไก่ และวดั เพลงเป็นอยา่ งมาก ตามทีไ่ ดท้ ราบจากท่านผู้สงู อายุ เลา่ ว่าหลวงพอ่ นวมทา่ นไมน่ ิยมการออกธดุ งค์ แบบหลวงพอ่ นอม ท่านคงจำพรรษาอยู่ที่วัดเป็นประจำ ตอนนน้ั ชาวกะเหรี่ยงได้เดินทางมาทำบุญกันเป็นกจิ วัตรอยู่แล้ว และ ความเช่ยี วชาญทางไสยศาสตร์ของท่านคงทำใหช้ าวกะเหรี่ยงศรัทธาเล่ือมใสนับถือท่านมาก ทุกๆปีเขาจะ

6 มาพร้อมกันประมาณกลางเดือน ๕ แต่งกายชาวกะเหรี่ยงทุกคน พวกเขาร่วมแห่รูปหล่อของท่านแห่กัน อย่างสนุกสนานรอบโบสถ์ 3 รอบ แล้วประดิษฐานไว้ที่โรงพิธีเพื่อปิดทอง เสร็จงานก็ทำพิธีแห่นำไป ประดษิ ฐาน ณ ท่เี ดิมปฏิบัติประจำทกุ ปี ถา้ ไมต่ ดิ ธุระอะไรจะมากันทุกคน เคยถามเขาว่าทำไมตอ้ งมาทกุ ปี เขาบอกว่าเป็นประเพณีท่ี ปู่ ย่า ตา ยาย เคยมาปฏิบัติกต็ ้องทำและนับถือหลวงพ่อ ถ้าไม่ได้มาก็ ไม่สบายใจ เมื่อได้มานมสั การหลวงพอ่ ทำให้สบายใจ โล่งใจ โรคภยั ไข้เจ็บกห็ ายไป สำหรับเหรยี ญของทา่ น ชาวกะเหรี่ยงมักจะมีติดตัวแทบทุกคน เคยมีคนขอแลก แต่ไม่มีใครยอมให้ เขานับถือกันจริงๆ ดังคำพูด ที่ว่า “เราไม่สบายเอาแชน่ ำ้ แล้วกินมนั ก็ช่วยเราได้” ดังนั้นเหรียญหลวงพอ่ นวมจึงเป็นที่หวงแหนของชาว กะเหรยี่ งโดยทัว่ ไป ในปัจจุบันทุกปีในกลางเดือน ๕ ถ้าอยู่จังหวัดราชบุรีจะสังเกตเห็นชาวกระเหรี่ยงพากันหอบลูก จงู หลาน จากแหลง่ ตา่ งๆทยอยกนั มาเปน็ หมๆู่ ดคู ลา้ ยการอพยพต่างมุ่งมาที่จุดเดียวกนั คือ วดั แจง้ เจรญิ แต่ในปัจจุบันการคมนาคมสะดวกขน้ึ เหมารถกันมา สำหรับการปฏิบตั นิ ้นั เขาจะปฏิบัตเิ หมือนกัน คือคนท่ี อยู่บ้านจะต้องถือศีล จะทำผิดศีลหรือก่อเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตไม่ได้ หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ท้งั ผู้อย่บู า้ น และผมู้ าถือศีลผดิ ศลี จะเกดิ ภัยขน้ึ ท้ังสองฝ่าย มีประเพณีทปี่ ฏิบตั ิสืบทอดกันมา คือ ๑. แหร่ ูปหลวงพอ่ นวมและปิดทอง ๒. แกบ้ นดว้ ยการทำบุญสร้างพระองคเ์ ล็กๆ ๓. บวชพระและบวชสามเณรหมู่ 4. บวชชี ๕. กอ่ นกลบั ตอ้ งสรงนำ้ เจา้ อาวาสและนอนให้เจา้ อาวาสเหยยี บหลงั ตามพิธีทีเ่ ขาเคยทำ คือเตรียมน้ำผสมขม้ิน ถูตัว ผู้หญิงถูเท้า คลี่ผมมวยของตนเช็ดเท้าด้วยความ ศรทั ธา สรงน้ำเสร็จแล้วกะเหรีย่ งผู้ชายจะนอนเรยี งกนั บนพ้ืนดิน ให้ทา่ นเจา้ อาวาสเดินบนตวั จากที่สรงน้ำ จนถึงกุฏิที่พักเสร็จ แล้วจะนำสายสิญจน์ ขี้ผึ้ง ขวดน้ำ มาให้เสกเป่า เพื่อนำกลับบ้านแล้วขอประพรมน้ำ พระพทุ ธมนต์ แกะรอยประเพณีเหยียบหลงั กะเหรย่ี ง หลวงพ่อนวม .วัดแจ้งเจริญ. [ออนไลน์]. 2018 แหลง่ ทีม่ า : https://www.youtube.com/watch?v=lkQUYBWdAkA [14 สงิ หาคม 2564]

7 ภาพท่ี 4 ชาวกะเหรยี่ งใช้นำ้ มนั และสม้ ปอ่ ย สรงนำ้ พระศรีธรรมาภรณ์ 2.ประวัตคิ วามเปน็ มาของหลวงพอ่ นวม จากคำบอกเล่าเรื่องราวในอดีตของพ่อหลวงพ่อนวมนั้น ไดร้ ับการบอกเล่าจาก พระครูศรีธรรมา ภรณ์ เจ้าอาวาสวัดแจ้งเจริญองค์ปัจจุบัน ให้ข้อมูลว่า เป็นเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่ากันว่าขณะที่หลวงพ่อ นวม อดีตเจ้าอาวาสวัดแจ้งเจริญได้ออกธุดงค์ไปด้านทิศตะวันตก ปรากฏหลักฐานอยู่คือที่อำเภอหนอง หญา้ ปลอ้ ง จงั หวดั เพชรบรุ ี มีหลักฐานเปน็ ศาลาท่ชี าวบา้ นสร้างถวายเอาไว้อยู่กลางหมู่บ้าน ส่วนเรื่องราว ท่ชี าวกะเหรย่ี งให้ความเคารพนบั ถือนั้น ถึงกบั ปลกู ศาลาไวใ้ ห้ทา่ นเวลาถงึ เทศกาลที่ชาวกะเหรย่ี งจะทำพิธี บชู าก็จะไปรวมกนั ทน่ี ่ัน สมัยนั้นชาวกะเหร่ียงยังไม่ได้นบั ถอื ท่าน ตรงขา้ มกลับเกลียดชงั ดว้ ยซ้ำ ถือวา่ คนท่ี เข้าไปในหมู่บ้านของเขาถ้าหากเป็นคนที่โกนศีรษะหรือตัดผมเกรียนถือเป็นสิ่งอัปมงคล หลวงพ่อนวมจึง ถูกชาวกะเหรี่ยงเกลียดชัง การปกครองสมัยนั้นทีเ่ ล่ากันว่าจะมีการปกครองแบบหัวหน้าเผา่ และเจ้าบ้าน จะหมายถึง ผู้ใหญ่บ้าน นายบ้านหมายถึงกำนัน จะมีหัวหน้าเผ่าที่อยู่สูงสุดตัดสินใจทำอะไรได้ เมื่อมีคน แปลกหน้าเข้ามาในหมู่บา้ น ทางหัวหน้าเผา่ ก็จะมีโอกาสประลองของวิเศษของเขาทุกอย่างท่ีมีอยู่ เพื่อให้ หลวงพ่อนวมมีอนั เป็นไป แตก่ ็ไม่สามารถทำอนั ตรายใดๆ หลวงพ่อได้เลย พอวันสุดทา้ ยที่หลวงพ่อจะจาก ที่นั้นไปสู่อีกที่หนึ่ง รุ่งขึ้นประชาชนชาวกะเหรี่ยงได้นัดหมายมาหาหลวงพ่อ เพราะเกรงว่าหัวหน้าเผ่าจะ ประลองวิชาหรือทำอะไรกับหลวงพ่ออีก ผลที่สุดแล้วช่วงเช้าวันนั้นเองมีชาวกะเหรี่ยงนำลูกหลานเด็ก ๆ มาหาหลวงพ่อกัน เด็กเล็กรู้สกึ หิวนำ้ พ่อแม่จึงได้เอานำ้ ในกระบอกไมไ้ ผ่ ที่เตรียมมาให้เดก็ กิน แต่ปรากฏ ว่าถูกผู้นำกะเหร่ียงประลองวิชาอีก น้ำท่ีเอาใส่กระบอกไม้ไผ่มาด้วยกลับเทไม่ออกจากกระบอก หลวงพ่อ เองกต็ อ้ งการน้ำเหมือนกัน เพราะต้องการออกเดนิ ทางต่อไป แตส่ มัยนัน้ พูดภาษากันไม่รู้เรื่องเนื่องจากใช้ คนละภาษาจงึ ได้ตีใบ้กนั ทา่ นรูว้ า่ ถกู ประลองวชิ า จงึ ชี้มือไปท่ีกระบอกน้ำทช่ี าวกะเหรี่ยงถือไว้ใกล้ที่สุดกับ

8 ตวั ทา่ นและใชม้ ือช้ที ี่ปากท่านหมายถงึ ตอ้ งการน้ำเช่นกนั ชาวกะเหรีย่ งท่อี ยู่ใกล้ท่านกย็ ื่นกระบอกน้ำเทลง ในบาตรพระ เด็กที่ร้องไห้อยากจะกินน้ำเห็นน้ำกระบอกนี้ออกก็ได้มาขอน้ำกินให้เด็กบ้าง หลังจากน้ัน กระบอกน้ำอื่น ๆ ก็มีน้ำไหลออกมาจากกระบอกไม้ไผ่ทุกกระบอก เป็นเร่ืองที่เล่าให้ฟังต่อกันมาถึงความ ศักดส์ิ ิทธข์ิ องหลวงพ่อนวม พระครศู รีธรรมาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดแจง้ เจริญองคป์ ัจจุบนั ให้ข้อมูลวา่ พอเป็น เรื่องแปลกอย่างนี้ทางหัวหน้าเผ่าคิดสนใจว่า คนผู้นี้คงมีอะไรดี หลังจากนั้นหลวงพ่อได้ถอนกรดออก เดินทางต่อ ทางหัวหน้าเผ่า ได้สั่งคนของเขาออกติดตามหลวงพ่อไปตลอดไม่ใหห้ ลวงพ่อรู้ โดยที่จัดคนไป ๕ คน ใน ๕ คน มอี าหารครบจนถงึ วันรงุ่ ข้ึน คดิ ว่าออกเดินแล้วชว่ งเย็นใกล้พลบค่ำและจะหยุดพักปักกลด คนที่ติดตามจึงทราบว่าท่านจะหยุดพักที่นั่น จึงทิ้งคนไว้ ๒ คน อีก ๒ คน กลับไปบ้าน และคนที่จะมา เสริมต่อมีการจัดไวเ้ พื่อเฝ้าใช้คนสับเปลี่ยนกันเพื่อติดตามหลวงพ่อไปว่าจะไปถึงไหน ทำอย่างที่เคยทำมา คือทิ้งคนไว้แล้วที่เหลือกลับหมู่บ้านจนเวลาผ่านไปประมาณเดือนเศษ มีการเล่าว่าใช้คนติดตามหลวงพ่อ ประมาณกว่า ๓๐๐ คน จนมาถึงที่วัดแจ้งเจริญ พอทราบว่าหลวงพ่ออยู่วัดนี้ จึงเดินทางกลับแล้วก็ยังมี ชาวกะเหรย่ี งอยตู่ า่ งถิ่นท่ีทราบเร่ืองกต็ ่างเดินทางมาเพ่อื จะลองวิชากับหลวงพ่ออีก โดยนำชา้ งมา ๓ เชือก จาก อ.สวนผง้ึ ขีช่ า้ งมา ๓ เชือก ๖ คน มาพักทีศ่ าลาในปา่ ช้า เป็นศาลาต้ังศพคนตาย จะฝังหรือเผาก็จะมี พิธีสวดบังสกุ ุลที่ศาลานี้ ซึ่งชาวบา้ นแถวน้ีไม่เคยเห็นช้าง ไม่เคยเห็นชาวกะเหรี่ยงก็แหก่ ันมาดู พอถึงเวลา เย็นชาวกะเหรี่ยงได้แสดงวิชาอาคมที่จะให้คนได้เชื่อว่าเป็นคนมีวิชาอาคม มีการแสดงการถากหน้าแข้ง ของตนเองแล้วให้กลายเป็นสะเก็ดไม้ และนำเอาสะเก็ดไม้นั้นไปติดไฟหุงข้าว พอรุ่งขึ้นอีกวันที่ชาว กะเหรี่ยงจะกลับบ้าน ชาวบ้านก็แห่มาดูชาวกะเหรีย่ งและช้างอีก แต่วันนั้นมีชาวบ้านเหน็ วา่ ที่บริเวณเสา ศาลาตั้งศพถูกถากออกไปเยอะ เลยคิดว่าเสานี้ที่กะเหรี่ยงอ้างว่าถากหน้าแข้งเป็นสะเก็ดไม้ช่วงกลางคืน นั้น น่ามาจากสะเก็ดไม้จากเสาศาลานี้เอง จนเสาศาลาใกล้จะหักโค่นแล้ว ชาวบ้านได้มาบอกหลวงพ่อ และหลวงพอ่ ก็พดู กับคนท่ีมาบอกว่า “เขา้ มาอาศัยและมีความสขุ แลว้ และยงั มาทำลายที่พักที่อาศัย อย่าง นีค้ นน้ันไม่มีความเจรญิ เรยี กวา่ มาทำลายความสขุ ที่ตวั เองไดร้ ับ” แลว้ ส่ังคนทม่ี าบอกไปหากะลามา ๓ ฝา เมือ่ ไดก้ ะลาแลว้ หลวงพอ่ จึงปลุกเสก แล้วให้คนนำไปควำ่ ท่ีหน้าบนั ไดข้ึนกฏุ ิ ทางฝ่ายชาวกะเหร่ียงน้ัน เมื่อ กินข้าวเสรจ็ แลว้ กเ็ อาขา้ วของทีน่ ำมาใส่กระสอบเตรียมเดินทางออก แตม่ องไมเ่ ห็นชา้ งก็สงสัยว่าช้างที่พา มาดว้ ยถูกคนขโมยไป หาอยู่นานในที่สดุ ขึน้ ไปหาหลวงพ่อที่กฎุ ิ แตก่ ็สอ่ื ภาษากันไมร่ ูเ้ รอ่ื งได้แต่ทำภาษามือ ใบ้ว่าให้กะเหรี่ยงทีม่ าและชี้กะลา ๓ ใบที่วางคว่ำอยู่ให้เปิดหงายกะลาขึ้น พอชาวกะเหรี่ยงเปิดกะลาแล้ว มองไปที่ผูกช้างไว้ ก็ปรากฏว่าเห็นช้างทั้งสามตัวยังอยู่ ทำให้ชาวกะเหรี่ยงทั้ง ๖ คน คิดว่าเป็นเรื่องท่ี อัศจรรย์มาก ใครที่คิดจะทำอะไรกับท่านอีกคงจะไม่ทำอีกแล้ว เพราะหลวงพ่อทำอย่างนี้แสดงให้เห็นว่า หลวงพอ่ มีอะไรทเี่ หนอื พวกเขา

9 ภาพท่ี 5 พระศรธี รรมาภรณ์ เจา้ อาวาสวดั แจ้งเจรญิ ได้ประพรมน้ำมนตใ์ หก้ ับ ชาวบ้านเพื่อ เปน็ สิรมิ งคลก่อนแยกย้ายกนั กลบั บา้ น พระครูศรีธรรมาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดแจ้งเจริญ กล่าวอีกว่า อาตมาเองยังไม่ปลงใจเชื่อถือฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง ไม่อยากจะทำให้เป็นตำราขึ้นมา บางคนพูดความอัศจรรย์ของหลวงพ่อนวมอาจจะไม่ตรงกับที่ อื่น เพราะที่อื่นอาจจะมีเหตผุ ลอยู่บ้างว่าที่ อ.หนองหญ้าปล้อง บ้านพุพลู ซึ่งอาจจะมีเหตุผลพอสมควร มี หลกั ฐานอยทู่ ่ไี ด้เคยประลองวิชากับหลวงพ่อมาก่อนในคร้ังน้ัน จะมกี ารล้างเทา้ ให้หลวงพอ่ และผู้หญิงชาว กะเหรี่ยง จะใช้ผมที่ได้เกล้าเอาไว้คลี่ออกมาทำพิธีนำผมไปปัดบนหลังเท้าของหลวงพ่อ หลังจากที่มีการ สรงน้ำแล้ว สำหรับผู้ชายก็สรงน้ำหลวงพ่อแล้ว ก็จะนอนคว่ำให้หลวงพ่อเหยียบหลังทุกคน เป็นประเพณี ทำสืบต่อกันมาและชาวกะเหรี่ยงที่มาจะมาจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แถวหมู่บ้านป่าละอู กุยบุรี เพชรบุรีด้านตะวันตกทั้งหมด ตั้งแต่ อ.หนองหญ้าปล้อง อ.แก่งกระจาน ถึงเขตราชบุรี และกาญจนบุรี เป็นความเชื่อเพราะชาวกะเหรี่ยงจะนับถือผี หลังจากได้รู้ได้เห็นซึ่งถูกถ่ายทอดมาแต่ครั้งบรรพบุรุษตก ทอดสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน อาตมาเป็นคนที่เกิดไม่ทันหลวงพ่อนวม ที่ได้มรณภาพไปแล้วเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๘ หรือประมาณ ๘๐ กว่าปีมาแล้ว เอาอายุอาตมาเป็นเกณฑ์ก็มีอายุ ๘๒ ปีแล้ว ในชีวิตท่านเมื่อเทียบมาถึง ปัจจุบันมีอายุกว่า ๑๐๐ ปี มาถึงตอนนี้ประชาชนชาวกะเหรี่ยงไม่น้อยกว่าสมยั ก่อนนั้นทีไ่ ด้เดินเท้ากนั มา พักค้างคืนท่ีวัด ทงั้ เดินขา้ มลูกเขาลัดเลาะกันมาที่วัดบ่งบอกถึงความเคารพนบั ถือ กอ่ นที่จะมาถึงอาตมาก็ มีเจ้าอาวาสตัง้ แตห่ ลวงพ่อพระอธิการนวม มาถึง ๕ – ๖ เจ้าอาวาส อาตมาเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ ๗ ซึ่งวดั ได้จัดงานประจำปีระหว่างวันข้ึน ๑๔ ค่ำ ถึง ๑๕ คำ่ ของเดอื น ๕ ทุกปี โดยวนั สดุ ทา้ ยเมื่อชาวกะเหรี่ยงได้ กินข้าวกันเสร็จแล้วจะมีพิธีแห่รูปหล่อหลวงพ่อนวมรอบโบสถ์ มีการสรงน้ำกับเจ้าอาวาส โดยผู้ชาย

10 กะเหรี่ยงจะนอนเรียงแถวยาวให้เจ้าอาวาสเหยียบหลัง ส่วนการสรงน้ำจะใช้ผงขมิ้นโรยน้ำ มีใบส้มป่อย นำไปรดนำ้ ตงั้ แต่บริเวณศรี ษะจนถึงท่วั ตวั และผู้หญงิ ผชู้ ายจะนำมือไปแตะทีน่ ้ำในถาดที่มีการรดน้ำ และ ได้สรงน้ำ นำ้ ที่ไหลลงมา ในถาดและท่ีบริเวณเท้า ทกุ คนจะเอามือแตะนำ้ ท่ขี ังอยู่ในถาดเอามาลูบหน้าเสย ผม เสร็จแล้วฝ่ายชายจะนอนคว่ำให้หลวงพ่อเหยียบหลัง ซึ่งก็ไม่ได้หมายถึงเป็นเรื่องการบำบัดโรคแต่ อย่างใด แต่เป็นความเชื่อความศรัทธาของพวกเขา เป็นความเชื่อของชาวกะเหรี่ยงที่ควรจะเคารพนับถอื แก่ผู้ที่ควรจะเคารพนับถือเมื่อสรงน้ำทุกอย่างสะอาดแล้ว ก็ไม่อยากให้หลวงพ่อใช้เท้าเหยียบดิน ชาว กะเหร่ียงจึงใชแ้ ผน่ หลังนเ้ี ป็นผนื ดนิ แทน เปน็ การเคารพนับถือองคห์ ลวงพอ่ นวม ก็เลยกลายเปน็ วา่ หลวงพอ่ เป็นพระมหศั จรรย์ของพวกเขา หากจะเรยี กอย่างอ่นื กย็ ังหาคำพูดทจ่ี ะใชก้ บั การกระทำ เขาไม่ได้ เพราะว่าหลวงพ่อพูดภาษากะเหรี่ยงไม่เป็น ชาวกะเหรี่ยงพูดภาษาของหลวงพ่อไม่ได้ และ สมยั กอ่ นเคยรังเกยี จหลวงพอ่ มาแลว้ แต่ปจั จบุ ันก็ได้กลายมาเป็นความเคารพนับถือแทน ประวัติหลวงพ่อนวมสู่ประเพณีเหยียบหลังกระเหรี่ยง [ลงพื้นที่]. 2564 แหล่งที่มา : บทสัมภาษณ์จาก พระครูศรีธรรมาภรณ.์ [10 สิงหาคม 2564] รายงานพิเศษ อภินิหารพลวงพ่อนวมวัดแจ้งเจริญสู่ประเพณีเหยียบหลังกะเหรี่ยง. [ออนไลน์]. 2561 แหลง่ ทมี่ า : https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_870424 [08 สิงหาคม 2564] พสิ ูจนค์ วามจรงิ กับ บิณฑ์ บรรลอื ฤทธิ์ | วถิ ีชาวพุทธ ศรัทธาหลวงพอ่ นวม. [ออนไลน์]. 2016 แหล่งท่มี า : https://www.youtube.com/watch?v=ucfNp5B_vwE [14 สงิ หาคม 2564]

11 ภาพท่ี 6 พระศรีธรรมาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดแจ้งเจรญิ องคป์ จั จบุ นั ไดเ้ หยยี บหลงั ผู้ชายกะเหรี่ยง 3. “เหยยี บหลงั กะเหร่ยี ง” ประเพณเี สริมสิรมิ งคลแห่งเดยี วในไทย สรุปทั้งนี้ พระครูธรรมาภรณ์เจ้าอาวาสวัดแจ้งเจริญ เปิดเผยว่า เป็นเรื่องสืบทอดกันมาว่า หลวง พ่อนวม อดีตเจ้าอาวาสวัดแจ้งเจริญ ซึ่งมรณภาพไปเมื่อปี 2478 มีความศักดิ์สิทธิ์ เคยประลองวิชาทาง ไสยศาสตรก์ ับผู้นำกะเหร่ียงในสมยั น้ัน จนหลายคนเกิดความเลือ่ มใสศรัทธา..... ส่วนพิธีการในวันสุดท้ายของประเพณี จะมีการแห่รูปหล่อหลวงพ่อนวมรอบโบสถ์ มีการสรงน้ำ กับเจ้าอาวาส จากนั้นผู้ชายกะเหรี่ยงจะนอนเรียงแถวยาวให้เจ้าอาวาสเหยียบหลงั ตามความเชื่อว่า เม่ือ สรงน้ำทุกอย่างสะอาดแล้ว ไม่อยากให้หลวงพ่อใช้เท้าเหยียบดิน ชาวกะเหรี่ยงจึงใช้แผ่นหลังน้ีเป็นผืนดิน แทน รวมถงึ เชื่อว่า เมือ่ ถกู เหยยี บหลงั แล้วจะชว่ ยขจัดโรคภัยไข้เจ็บ สิง่ ช่ัวรา้ ย และเกิดความเป็นมงคลแก่ ตนเองและครอบครวั “เหยยี บหลงั กะเหรยี่ ง” ประเพณเี สริมสริ มิ งคลแหง่ เดียวในไทย. [ออนไลน์]. 2018 แหล่งท่มี า : https://www.youtube.com/watch?v=WE408gIvPNU [08 สิงหาคม 2564]

รูปภาพ 12 พระศรธี รรมาภรณ์ เจ้าอาวาสวดั แจ้งเจริญ องคป์ จั จุบันทเี่ ป็นหลวงพอ่ กะเหรย่ี ง ของชาวกะเหรี่ยงในปัจจบุ ัน ผชู้ ายกะเหรีย่ งโกนหัวบวช “แก้บนเป็นสามเณรทว่ี ัดแจ้งเจรญิ ” ชาวกะเหรีย่ งรว่ มแห่รปู หลวงพอ่ นวม วนรอบโบสถ์

รปู ภาพ 13 พระศรธี รรมภรณ์ เจา้ อาวาสวดั แจ้งเจริญ องคป์ ัจจบุ นั ได้เหยยี บหลงั ผูช้ ายกะเหร่ียงที่ นอนทอดไปบนศาลา ประชาชนใช้นำ้ มันและสม้ ป่อย สรงนำ้ พระศรธี รรมาภรณ์ เจ้าอาวาส วดั แจ้งเจริญองค์ปัจจุบนั หลงั จากสรงน้ำเสร็จ พระศรีธรรมาภรณไ์ ดเ้ ดนิ เหยียบหลงั ผู้ชาย กะเหร่ียงข้ึนบนศาลา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook