Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การตีมีดเหล็กลาย

การตีมีดเหล็กลาย

Published by pisut.pro, 2019-02-22 01:23:53

Description: ภูมิปัญญาโลหกรรมท้องถิ่น หมายถึงความรู้ความสามารถในงานโลหะของชาวบ้านในชุมชนท้องถิ่น โลหกรรมเกิดภูมิปัญญาที่ได้สั่งสม บ่มเพาะ สืบทอดมาตั้งแต่อดีต รวมถึงความชำนาญพิเศษที่เกิดจากพากเพียรวิริยะอุตสาหะในโรงตีเหล็กที่มีอยู่ในท้องถิ่น ซึ่งนับได้ว่าโรงตีเหล็กนั้นเป็นสถานที่หรือเป็นแหล่งสืบทอดมรดกภูมิปัญญาโลหกรรมที่หลอมหลวมอยู่ในชีวิตประจำวันของคนในชุมชนท้องถิ่นนั้น ทั้งในงานอาชีพ คติความเชื่อ ขนบธรรมเนียมประเพณี โดยกระบวนการของภูมิปัญญาโลหกรรมในสมัยโบราณนั้นมีกรรมวิธีที่ซับซ้อนละเอียดลออ สามารถสรุปโดยสังเขปได้ดังนี้
๑. ภูมิปัญญาการสรรหาเหล็กเนื้อดี
๒. ภูมิปัญญาการเสาะแสวงหาช่างที่มีฝีมือเชี่ยวชาญ
๓. ภูมิปัญญาและความเชี่ยวชาญในงานโลหะ
๔. ภูมิปัญญาในการจัดองค์ประกอบอื่น ๆ ของงานโลหะ
๕. ภูมิปัญญาด้านโลหกรรมศัตราวุธ

Keywords: การตีมีดเหล็กลาย,มีดเหล็กลาย ช่างซุ่ย บ้านปากบึง

Search

Read the Text Version

มรดกภมู ปิ ัญญาทางวัฒนธรรมจังหวดั ราชบุรี สว่ นที่ ๑ ลกั ษณะของมรดกภมู ิปญั ญาทางวัฒนธรรม ๑. ชื่อรายการ : การตีมีดเหล็กลาย ชอื่ เรยี กในทอ้ งถ่ิน : มีดเหล็กลาย ช่างซุ่ย บ้านปากบึง ๒. ลักษณะของมรดกภูมปิ ัญญาทางวัฒนธรรม : งานชา่ งฝีมอื ดัง้ เดิม ๓. พืน้ ที่ปฏิบตั ิ เลขที่ ๘๕ หมู่ ๑๓ ตาบลจอมบึง อาเภอจอมบงึ จงั หวดั ราชบุรี ๔. สาระสาคญั ของมรดกภมู ิปัญญาทางวฒั นธรรมโดยสงั เขป ภมู ิปญั ญาโลหกรรมท้องถิน่ หมายถงึ ความรคู้ วามสามารถในงานโลหะของชาวบ้านในชมุ ชน ท้องถิน่ โลหกรรมเกดิ ภูมิปัญญาทไี่ ด้สง่ั สม บ่มเพาะ สบื ทอดมาตั้งแต่อดีต รวมถึงความชานาญพเิ ศษที่เกิดจาก พากเพยี รวริ ยิ ะอตุ สาหะในโรงตีเหล็กทม่ี ีอยูใ่ นท้องถ่นิ ซ่ึงนับได้วา่ โรงตีเหล็กนนั้ เป็นสถานทห่ี รือเปน็ แหลง่ สบื ทอดมรดกภมู ิปญั ญาโลหกรรมทีห่ ลอมหลวมอยู่ในชีวิตประจาวันของคนในชุมชนทอ้ งถิ่นนัน้ ทงั้ ในงานอาชพี คตคิ วามเช่อื ขนบธรรมเนียมประเพณี โดยกระบวนการของภมู ิปัญญาโลหกรรมในสมัยโบราณน้ันมีกรรมวธิ ีท่ี ซบั ซอ้ นละเอยี ดลออ สามารถสรปุ โดยสังเขปได้ดังนี้ ๑. ภูมปิ ญั ญาการสรรหาเหล็กเนื้อดี ๒. ภูมปิ ัญญาการเสาะแสวงหาชา่ งทีม่ ฝี มี อื เช่ียวชาญ ๓. ภมู ิปัญญาและความเชย่ี วชาญในงานโลหะ ๔. ภูมิปญั ญาในการจดั องค์ประกอบอน่ื ๆ ของงานโลหะ ๕. ภมู ิปญั ญาดา้ นโลหกรรมศตั ราวธุ องค์ประกอบพน้ื ฐานของงานโลหกรรมพ้นื บา้ นเฉพาะสว่ นงานเหลก็ หรือโรงตีเหลก็ พน้ื บา้ นส่วน ใหญ่ ประกอบด้วย ๑. โรงเรอื น หรือ โรงตีเหล็กทค่ี วรแยกออกไปจากทอ่ี ยู่อาศัย ๒. เตาเผา สาหรับเตาเผาทีน่ ิยมมาแต่อดตี คือ เตาโครงไม้ขัดตะพอกดนิ เหนยี ว บางแหง่ ใชว้ ิธี กอ่ อิฐพอกดนิ เหนียว ส่วนประกอบจะตอ้ งมี ตะแกรงชอ่ งลม ทอ่ ส่งลม และรูระบายข้ีเถา้ ๓. กระบอกสบู กระบอกสูบท่ีนยิ มในท้องถนิ่ เป็นกระบอกสูบทีว่ างแนวนอน ทาจากไมท้ ั้งตน้ หรอื นาแผน่ ไม้มาเรยี งประกอบกัน คนั ชกั ทาได้ไมห้ ลาวหรอื เหลก็ เส้น นอกจากนอี้ งคค์ วามรู้ท่เี ก่ียวขอ้ งกับการใชโ้ รงเรือนตเี หลก็ และการหลอมตเี หล็ก จะต้อง ประกอบไปดว้ ย ๑. ถ่าน ๒. นา้ ประสาน ๓. นา้ กรด ๔. การโยกคันชัก ๕. การสงั เกตสีของเหลก็ ๖. การย่าคอ้ น

๕. ประวัตคิ วามเปน็ มา ช่างซยุ่ หรือนายพชร พงศกรรงั ศิลป์ อายุ ๖๗ ปี อาชพี ช่างทามดี ซง่ึ มีประสบการณก์ ารทามีด มานานกว่า ๕๐ ปี ไดร้ ับการสืบทอดภูมิปญั ญาการทามีดจากคณุ ปนู่ ายหยองกมึ้ เซีย่ งกว้าน และบดิ า นายจัน้ กว้าน แซก่ วา้ นท่ีอพยพยา้ ยถิ่นฐานมาจากเมืองเหมยเจยี ง ประเทศจีน เมือ่ ประมาณ ๑๐๐ ปีมาแลว้ โดย เรม่ิ แรกเข้ามาตงั้ รกรากอยู่ท่ีอาเภอบา้ นโปง่ จงั หวดั ราชบรุ ี สาหรับช่างซุย่ นับเป็นทายาทรุ่นท่ี ๔ ทส่ี บื ทอดการ ตเี หล็กจากบรรพบรุ ุษโดยในสมยั คณุ ปแู่ ละเรม่ิ บ่มเพาะเรียนรู้วชิ าการตมี ดี ตงั้ แต่อายุไดเ้ พียง ๑๕ ปี และเรม่ิ ตน้ จากการเปน็ ลกู มือคุณปู่และบิดาอยู่หนา้ เตาหลอมเหล็ก ในยุคแรกของการตมี ดี ของครอบครัวเปน็ การตมี ดี สาหรบั ใช้ในการเกษตร เช่น มีดตดั อ้อย มดี ตัดไม้ มีดโต้ ขวาน และ มดี ต่างๆ จนไปถึงมีดทม่ี ีขนาดใหญม่ าก คอื มีดหั่นใบยาสบู และจะต้องใช้การตเี ชอื่ มประสานของเหล็กหลายชิน้ เขา้ ด้วยกัน ในปพี .ศ. ๒๕๔๙ ทน่ี บั วา่ เปน็ ชว่ งปลายของอาชพี ชา่ งตมี ดี ของชา่ งซยุ่ ทกี่ าลังจะวางมือจากการตี มีดเน่ืองจากบุตรชายเรียนจบปริญญากันหมดทุกคนแล้ว แต่แล้วก็เกิดเหตุบังเอิญที่ช่างชุ่ยได้พบกับหนังสือ เรื่อง ภูมิปัญญาโลหกรรมพ้ืนบ้าน”ซ่ึงเป็นผลงานวิจัยเชิงปฏิบัติการท่ีได้รับสนับสนุนทุนจากสานักงานกองทุน สนบั สนนุ การวิจัย (สกว.) โดยมีอาจารย์พิชัย แก้วขาว อาจารย์จากวิทยาลัยเทคนิคปัตตานีเป็นหนึ่งในนักวิจัย ที่ค้นพบเคล็ดวิชาเหล็กลายและได้บันทึกขั้นตอนการทาไว้อย่างละเอียด จึงเป็นแรงบันดาลใจให้ช่างซุ่ย ทาการศึกษาเทคนิควิธีการตีมีดเหล็กลายจากงานวิจัยช้ินนี้อย่างจริงจังพร้อมกับการผสมผสาน ภูมิปัญญาตีมีด แบบโบราณท่ีได้รับการสืบทอดมาจากบรรพบุรุษที่มีอยู่เดิมจนประสบผลสาเร็จโดยสามารถคิดค้นกลวิธีในการ เลือกใช้เหล็กและการเชื่อมประสานเน้ือเหล็กหลาย ๆ ช้ินเข้าด้วยกันโดยไม่ให้มีช่องระหว่างช้ันของเหล็ก ซึ่ง จะต้องใช้ประสบการณ์ ทักษะ ความความรู้ ความชานาญ และความอดทนอย่างสูง จึงสามารถค้นพบเคล็ด ลับในการทามีดเหลก็ ลายท่ีเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตนเองไดส้ าเรจ็ มดี เหล็กลาย บ้านปากบึงในยุคเรมิ่ แรกน้ันมีรปู ทรงมีด ลวดลาย และเนอ้ื ของเหล็กทีท่ ามดี เปน็ เหล็กลายเพียงอย่างเดียวแม้จะเป็นลวดลายท่ีไม่ซ้าแบบกันมีดแต่ละเล่มจึงมีช้ินเดียวในโลกนับเป็นงาน หัตถศิลป์ร่วมสมัยที่ผสมผสานระหว่างภูมิปัญญาโบราณกับเทคนิควิธีการท่ีได้จากการเรียนรู้ การทดลองของ ตนเอง แต่มีดเหล็กลายในช่วงแรกยังใช้งานได้ไม่ดีนัก เพราะส่วนของคมของมีดมีส่วนของเหล็กอ่อนจึงทาให้ ความคมของมีดไม่คมและไม่ทนทานตอ่ การใช้งาน ดังน้ันช่างซุ่ยจึงได้พัฒนาต่อยอดโดยใช้เหล็กกล้าสอดไส้เป็น แกนกลางและตีเชอื่ มประสาน เรียกวา่ Clad Damascus เพือ่ เวลาใช้งานมดี จะมคี วามคมทน แข็ง และ พัฒนา รูปแบบ รูปทรงให้มีหลากหลายความสวยงามมากขึ้น และพัฒนาการออกแบบมีด ด้ามมีดและซองให้มีความ ประณีตสวยงามมากข้ึน มีดเหล็กลาย ช่างซุ่ยแห่งบ้านปากบึง จึงเป็นท่ีต้องการอย่างมากในหมู่นักสะสม ศาสตราวุธทัง้ ในประเทศและตา่ งประเทศ ๖. ลกั ษณะเฉพาะทีแ่ สดงถงึ อัตลกั ษณ์ของมรดกภมู ิปญั ญาทางวัฒนธรรม ขน้ั ตอนการทามีดเหล็กลาย “ช่างซยุ่ ” แห่งบา้ นปากบงึ พอสรุปสังเขปได้ดงั น้ี ๑. นาเหล็กกล้าและเหล็กอ่อนมาเรียงสลับกันโดยใช้เหล็กกล้า ๕ ช้ัน เหล็กอ่อน ๖ ช้ัน รวม ทั้งหมด ๑๑ ชัน้ และนาเหลก็ มาเช่อื มตดิ กัน ๒. นาเหล็กท่ีไดไ้ ปชบุ โคลนเพราะจะทาใหเ้ วลาท่เี ผาเหลก็ ในอุณหภมู ทิ ีส่ งู มากๆเนื้อของเหล็กจะมี ความละเอียดและผสานกันดยี ง่ิ ขนึ้ ๓. เรมิ่ กอ่ ไฟในเตาเผาโดยใชถ้ า่ นไมร้ วก เพราะไม้ชนดิ นจี้ ะให้ไฟท่แี รงและความร้อนเร็ว ๔. นาเหล็กทีไ่ ด้ในตอนแรกใส่ไปในเตาเผาท่มี อี ุณหภูมิกว่า ๑๐๐๐ องศา ระหวา่ งน้นั กต็ ้องคอย พลกิ เหล็กดูจนกวา่ เหลก็ จะมสี ขี าวนวล ๕. นาเหล็กท่เี ผาได้ออกมาตไี ปทกุ ๆด้านจนเหล็กค่อยๆบางลง และเม่อื เหล็กเย็นลงก็นากลับเข้า ไปเผาแลว้ นาออกมาตใี หมท่ าชา้ ๆจนกวา่ จะได้ความบางของเหล็กที่ต้องการ ๖. เม่อื ได้ความบางของเหล็กทตี่ ้องการกจ็ ะใชเ้ หลก็ มาสกัดตรงก่ึงกลางของแผ่นเหล็กและพับเข้า หากันจากเหล็ก ๑๑ ช้ัน ก็จะกลายเป็น ๒๒ ชั้น โดยต้องทาซ้าไปเรื่อยๆจนได้จานวนช้ัน ๘๘ ช้ัน และต้องนา เหล็กอกี ๑ แผ่น มาสอดตรงกลางระหวา่ งช้ันที่ ๔๔ และ ๔๕ และตีต่อไปให้เหลก็ เปน็ ทรงกระบอก

๗. นาเหล็กทรงกระบอกท่ไี ด้มาบิด ข้นั ตอนน้เี ป็นข้นั ตอนสาคัญเพราะจะทาให้มีลวดลายเกิดขน้ึ ในเนื้อเหลก็ ๘. นาเหลก็ ท่บี ิดแล้วมาพบั ตามแนวยาวและสอดเหล็กกล้าไว้ตรงกลางเพ่ือไว้ใช้เปน็ คมของมีดตี ไปเรอื่ ยๆจนเหล็กกลายเปน็ เนอื้ เดยี วกัน ๙. ใชค้ ้อนเลก็ ตีจนเหล็กกลายเปน็ รูปทรงท่ีตอ้ งการ ใช้เครื่องเจียรตกแตง่ และปรบั สภาพผิว ๑๐. นาใบมดี ท่ีไดไ้ ปจมุ่ ลงในกรดไฮโดรคลอริกเพื่อดูลายของใบมีดแล้วนากลับไปเจียรคม ชุบแขง็ ส่วนของคมมดี เพือ่ ให้คมยง่ิ ข้ึน ๑๑. นามดี ทไี่ ด้ไปแชง่ ในกรดไฮโดรคลอริกท้ิงไวป้ ระมาณ ๔๐ นาที เพื่อขบั ลายให้ชัดเจนยง่ิ ขนึ้ ๑๒. นาขน้ึ จากกรดไฮโดรคลอริกแลว้ ลา้ งนา้ สะอาด จะไดม้ ีดเหลก็ ลายทม่ี คี วามสวยงาม ส่วนท่ี ๒ คณุ ค่าและบทบาทของวิถีชุมชนท่ีมตี ่อมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ๑. คุณค่าของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่สาคญั คุณคา่ ของมดี เหลก็ ลาย “ชา่ งซยุ่ ” แหง่ บ้านปากบึงท่ีมตี ่อมรดกภมู ิปัญญาทางวัฒนธรรม จาก ศกึ ษา วเิ คราะห์และการประเมินคณุ ค่าพบว่า คุณคา่ ของภูมปิ ัญญาโลหกรรมมีดเหลก็ ลาย สามารถสรปุ ได้ใน รายประเด็น ดังต่อไปนี้ ๑. คุณค่าดา้ นความหายาก มีดเหลก็ ลาย “ช่างซยุ่ ” แห่งบา้ นปากบงึ นนั้ มีเอกลกั ษณเ์ ฉพาะใน ด้านลวดลายที่เป็นลวดลายอิสระท่ีนับได้ว่าเป็นงานศิลปะที่ส่งผลให้มีดแต่ละด้ามมีลวดลายที่มีช้ินเดียวในโลก ด้วยกรรมวิธีการตีมีดเหล็กลายที่เป็นเคล็ดลับวิชาที่ช่างซุ่ยได้ค้นพบข้ึนจากการต่อยอดงานวิจัยภูมิปัญญาโล หกรรมพน้ื บ้าน จนเกดิ เปน็ เทคนคิ วิธเี ฉพาะโรงตีเหลก็ ของช่างซุ่ยเท่าน้ันตั้งแต่การเลือกเหล็กการพับเหล็ก การ บิดเหลก็ การเผาเหลก็ การดแู ละการจาแนกสีของเหล็ก การชุบโคลน การแทรกเหล็กกล้าในก่ึงกลางของเหล็ก ออ่ น หรอื ที่เรยี กว่า Clad การใช้กรดกดั เหลก็ ใหเ้ กดิ ลวดลาย เปน็ ต้น ๒. คณุ คา่ ด้านสุนทรยี ะ เกดิ จากความสวยงามแปลกตาของลวดลายท่ีอยใู่ นเน้ือเหล็กซึ่งขึ้นอยู่กับ จนิ ตนาการ มมุ มองที่เกี่ยวขอ้ งกับความงามและศิลปะของผู้ซ้ือหรอื นักสะสมงานหัตถศลิ ป์ร่วมสมัยมีดเหล็กลาย นอกจากน้ีรูปแบบของมีดเหล็กลายช่างซุ่ยได้ออกแบบรูปทรงของมีดไปในรูปแบบต่าง ๆ ตามความนิยมและ ความตอ้ งการของผู้ซ้ือหรือนกั สะสม ๓. คุณค่าดา้ นเศรษฐกจิ จากคณุ ค่าด้านความหายากและคุณคา่ ดา้ นสนุ ทรยี ะของมีดเหลก็ ลาย “ช่างซุ่ย” ส่งผลต่อคุณค่าด้านเศรษฐกิจโดยสามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัวและพ่อค้าคนกลางที่มาติดต่อ ซื้อเพื่อรับไปขายให้กับนักท่องเที่ยว และนักสะสมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยมีสนนราคาที่สูงตั้งแต่หลัก พันจนถึงหลักหมื่นบาท โดยมีดเหล็กลาย “ช่างซุ่ย” ได้ถูกนาไปวางขายในย่านเศรษฐกิจการค้า เช่น สวน จตุจักร ตลาดน้าอัมพวา และการขายผ่านเว็บไซต์ของทางร้านและเว็บไซต์ตัวแทนจาหน่าย นอกจากนี้ยัง ชา่ งฝีมือด้านช่างทักเชือก ชา่ งทาฝกั ชา่ งไม้ ช่างแกะสลักยังได้รับอานิสงค์มีรายได้จากการทาส่วนประกอบของ ฝักมีดเหล็กลายอกี ดว้ ย ๔. คณุ ค่าทางวชิ าการ การตีมีดเหล็กลายของช่างซุ่ยจนเกดิ เปน็ ลวดลายทีแ่ ปลกใหม่และไมม่ ีท่ี ไหนมีในประเทศไทยส่งผลให้ผู้ที่สนใจศึกษาเรียนรู้เทคนิควิธีการ กรรมวิธีการทามีดเหล็กลายของช่างซุ่ยมาก ย่ิงข้ึนทั้งกลุ่มช่างตีเหล็ก นักศึกษา นักวิชาการ นักสะสมที่สนใจในการตีมีดเหล็กลาย ตลอดจนเทคนิคหรือ เคล็ดลับวิชาที่ช่างซุ่ยได้ค้นพบจากการต่อยอดภูมิปัญญาโบราณยังเป็นเทคนิคที่ยังไม่สามารถมีใคร ทา ลอกเลียนแบบได้ เพราะการตมี ีดเหล็กลายด้วยฝมี ือและแรงงานของช่างตีเหล็กอันสามารถทาให้เกิดลวดลายที่ สวยงามจนเกิดศลิ ปะบนเหล็กกลา้ ยงั นบั ว่าหาได้ยากยงิ่

๒.บทบาทของชุมชนที่มีต่อมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม จากการศกึ ษาพบว่าบทบาทของชุมชนทม่ี ีตอ่ ภูมปิ ญั ญาโลหกรรม มีดเหลก็ ลาย “ช่างซุย่ ” บ้าน ปากบึง ชุมชนยงั ไมส่ ามารถเขา้ มามสี ่วนร่วมได้ เนอื่ งจากเปน็ กจิ การของครอบครัว และเป็นเคล็ดลับวิชาในการ ตีมีดเหล็กลาย ซ่ึงช่างซุ่ยมีเจตนารมย์จะมอบให้เป็นมรดกตกทอดสู่บุตรหลานในครอบครัวมากกว่าการ ถ่ายทอดให้กับผู้สนใจ เมื่อกล่าวถึงการรับรู้ของคนในชุมชนบ้านปากบึงโดยส่วนใหญ่รู้จักกับช่างซุ่ย แต่ยังไม่ เข้าใจและไม่มีองค์ความรู้เก่ียวกับการตีมีดเหล็กลายเลย โดยส่วนใหญ่ช่างซุ่ยจะเปิดโอกาสให้กับ นักเรียน นักศึกษาท่ีสนใจได้เข้ามาเยี่ยมชมการทามีดเหล็กลายมากกว่า ตลอดจนการถ่ายทอดความรู้และให้ข้อมูลใน เบื้องตน้ เกี่ยวกับการทามดี เหล็กลายบางสว่ นเท่านัน้ ๓. รายชื่อผสู้ ืบทอดหลกั รายชื่อบุคคล/หวั หนา้ คณะ/ อาย/ุ อาชีพ องค์ความรู้ด้านท่ีได้รบั สถานที่ตดิ ต่อ/โทรศัพท์ กล่มุ /สมาคม/ชมุ ชน การสืบทอด/จานวนปีท่ี ช่างตมี ดี เหลก็ เลขที่ ๘๕ หมู่ ๑๓ ตาบลจอม คณุ อัตถสทิ ธ์ิ พงศกรรงั ศิลป์ ลาย สืบทอดปฏิบัติ บึง อาเภอจอมบึง จังหวัด ราชบุรี การเรยี นรจู้ ากบดิ า (ชา่ ง โทร ๐๙๑ ๔๗๘ ๙๙๖๑ ซ่ยุ ) ระยะเวลากว่า ๑๐ ปี เอกสารอ้างอิง วิจติ ร ศรสี ุวิทธานนท์ พชิ ยั แก้วขาว ตพี ะลี อะตะบู. ๒๕๔๗. ภมู ปิ ญั ญาโลหกรรมพน้ื บา้ น. อมรนิ ทรพ์ ร้นิ ติง้ แอนด์พับลชิ ซิง่ จากัด (มหาชน). กรุงเทพฯ. www.shuiknives.com สืบคน้ เมื่อวนั ที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๐

ข้ันตอนการทามดี เหล็กลาย (Clad Damascus) ของช่างซุ่ย ขัน้ ตอนในการทามดี เปน็ วิธแี บบโบราณ ใชถ้ ่านไม้รวก( Tribal primitive knives) เปน็ เชอ้ื เพลิง ในการเผาเหลก็ และโดยใชแ้ รงงานคน ตีขึ้นรูปดว้ ยคอ้ น (Hand Forged)ทาแบบเหล็ก๒ชนดิ ทบั ซ้อนลวดลาย ธรรมชาติ กาหนดไม่ได้ เรยี กว่า Random Damascus ทาแบบฝังเหล็กกลา้ เป็นแกนกลาง เรียกวา่ Clad Damascus ๑. นาเหลก็ SK๕ เรียงซอ้ น สลับ เหลก็ ออ่ น จานวน ๔๐ ชั้น

๒. นาเข้าเตาเผาเพื่อเชือ่ มผสานเนอ้ื เหล็ก ทั้งสองชนิด ที่อูณหถมู สิ งู โดยใชถ้ า่ นไมร้ วก ๓. ตเี หล็กให้ช้ันระหว่างเนื้อเหลก็ ทัง้ สองชนดิ เชือ่ มติดกัน

๔. นาเข้าเตาเผาอีกครั้งเพ่ือ ตเี หลก็ ด้วยคอ้ นให้เนื้อเหล็กยึด ยาวออก ๕. เม่อื ไดค้ วามยาวที่ต้องการแลว้ นามาตดั แลว้ พบั เขา้ หากนั

๖. นาเหลก็ ไปชบุ นา้ ประสาน เปน็ สูตรลบั เฉพาะ เพ่ือให้เปน็ ตวั ช่วยประสานเน้อื เหลก็

๗. นาเขา้ เตาเผาอกี ครง้ั และตีเหล็กด้วยค้อน เพ่ือผสานเนื้อเหลก็ ในขนั้ ตอนนี้เราจะไดช้ ้ันของเหลก็ เปน็ ๘๐ชนั้ ๘. เพื่อใหไ้ ดจ้ านวนช้ันของลายมากข้ึนทาตามขน้ั ตอน ๔,๕,๖,๗ ตามลาดบั อกี ครั้งทาให้ขัน้ ตอนน้เี ราจะได้ จานวนชน้ั ของเหล็ก เปน็ ๑๖๐ ช้ัน

๙. Clad Damascus นาดามสั กัสท่ไี ดต้ ัดออกแบ่งเปน็ สว่ นตามขนาดมดี ที่ออกแบบไว้ แลว้ นาเหล็ก S๔๕C หรือเรยี กทัว่ ไปคือ เหลก็ หวั แดงเป็นเหล็กกล้าที่ใชส้ าหรบั ทามดี โดยเฉพาะ เป็นแกนกลางแลว้ หมุ้ ดว้ ย เหลก็ ดามสั กสั ที่เตรียมไว้ ๑๐. นาเหลก็ ไปชบุ นา้ ประสาน เพือ่ เป็นตัวช่วยประสานเนื้อเหลก็

๑๑. นาเข้าเตาเผา แล้วตีเช่ือมประสาน ปั้นขนึ้ ทรงมีดตามแบบ ๑๒. ใช้เครื่องเจียร ตะไบ แต่งให้ไดม้ ีดตามแบบ และขัดผิวดว้ ยกระดาษทราย

๑๓. นามดี ไป ชุบ อบ ตามสตู รเฉพาะ ซึ่งจะต้องใช้ความชานาญ และประสบการณ์ ๑๔. นามดี ไปกดั กรดดว้ ยกรดซัลฟูรกิ เจือจาง ๓๓.๕% (กรดแบตเตอร่ี)ประมาณ ๑ ชม.เพ่ือให้กรดกัดเหล็กสว่ น ทีเ่ ปน็ เหล็กอ่อนออก ทาให้เกิดลายบนใบมดี ๑๕. นามดี ข้ึนจากกรดและ ล้างคราบใหส้ ะอาดเช็ดใหแ้ ห้ง และนาไปขดั ดว้ ยผ้า จดั ทา : สานักงานวัฒนธรรมจงั หวัดราชบรุ ี จดั เกบ็ /เรียบเรยี ง : นายนิติพัฒน์ แก้วประสทิ ธ์ิ มหาวิทยาลัยราชภัฏหมบู่ า้ นจอมบึง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook