Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ประเพณีเหยียบหลังกะเหรี่ยงวัดแจ้งเจริญ

ประเพณีเหยียบหลังกะเหรี่ยงวัดแจ้งเจริญ

Published by pisut.pro, 2019-02-22 01:34:19

Description: ประเพณีเหยียบหลังกะเหรี่ยง วัดแจ้งเจริญ หมู่ที่ ๓ ตำบลจอมประทัด อำเภอวัดเพลง จังหวัดราชบุรี ในอดีตนั้นหลวงพ่อนวม อดีตเจ้าอาวาสวัดแจ้งเจริญรุ่นที่ ๓ ที่ท่านได้เดินธุดงค์เจริญกรรมฐานไปตามป่าแถบตะนาวศรี เขตชุมชนไทยกะเหรี่ยง ท่านได้ให้การอบรมสั่งสอนชาวกะเหรี่ยงให้นับถือพระรัตนตรัย เปลี่ยนจากนับถือผีมานับถือพุทธศาสนา ด้วยความผูกพันของชาวกะเหรี่ยงที่มีต่อหลวงพ่อ คือ ๑) เป็นผู้นำคำสอนของพระพุทธเจ้ามาสอนแก่ญาติโยม ๒) เป็นหมอผู้รักษาโรค ยื้อชีวิตจากการเจ็บป่วย ด้วยการใช้ยาสมุนไพรและน้ำมนต์ที่ปลุกเสกด้วยอำนาจจิตของการปฏิบัติกรรมฐาน ครั้นเมื่อกลับมาจำวัดที่วัดแจ้งเจริญชาวกะเหรี่ยงในพื้นที่จังหวัดราชบุรี เพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ ที่นับถือศรัทธาท่านได้มาร่วมงานสักการะที่วัดแจ้งเจริญเสมอ จนกลายเป็นงานประจำปีของไทยกะเหรี่ยงได้รับการสืบทอดมากว่า ๑๐๐ ปี จัดขึ้นทุกปีในเดือน ๕ ขึ้น ๑๔ - ๑๕ ค่ำและแรม ๑ ค่ำของทุก ๆ ปี เป็นเวลา ๓ วัน ในงานประเพณีนี้จะมีชาวกะเหรี่ยงชายและหญิงมาร่วมงานที่วัดเป็นจำนวนมาก กิจกรรมที่สำคัญ คือ พิธีแห่หลวงพ่อนวม พิธีบูชาหลวงพ่อใหญ่ด้วยขันธ์ ๕ พิธีบวชสามเณรและชีพราหมณ์ พิธีปลุกเส

Keywords: ประเพณีเหยียบหลังกะเหรี่ยงวัดแจ้งเจริญ,วัดแจ้งเจริญ

Search

Read the Text Version

มรดกภูมปิ ญั ญาทางวัฒนธรรมจังหวดั ราชบุรี สว่ นที่ ๑ ลักษณะของมรดกภมู ิปญั ญาทางวัฒนธรรม ๑. ชือ่ รายการ : ประเพณเี หยยี บหลงั กะเหรีย่ งวดั แจ๎งเจริญ ชอื่ เรียกในท้องถิ่น : ๑. ประเพณปี ีใหมกํ ะเหรีย่ งวัดแจง๎ เจรญิ ๒. ประเพณชี มุ นมุ วนั ขึ้นปีใหมํ ๑๕ คา่ เดอื น ๕ ๓. ประเพณีเหยยี บหลังกะเหร่ยี งวัดแจง๎ เจรญิ ๔. ประเพณหี ยางโพลํงซาํ งคํู ๒. ลกั ษณะของมรดกภมู ิปัญญาทางวัฒนธรรม : แนวปฏิบัตทิ างสงั คม พธิ กี รรม ประเพณี และงานเทศกาล ๓. พ้ืนทีป่ ฏบิ ตั ิ หมูํที่ ๓ ต่าบลจอมประทัด อ่าเภอวดั เพลง จงั หวดั ราชบุรี และพืน้ ทช่ี มุ ชนกะเหรีย่ ง ตา่ บลบา๎ นคา อ่าเภอบ๎านคา ต่าบลสวนผ้ึง อ่าเภอสวนผ้ึง ต่าบลวดั ยางงาม อา่ เภอปากทํอ จังหวดั ราชบรุ ี และตา่ บลยาง น่า้ กลัดใต๎ อา่ เภอหนองหญ๎าปล๎อง จงั หวัดเพชรบุรี ๔. สาระสาคัญของมรดกภูมิปญั ญาทางวฒั นธรรมโดยสังเขป ประเพณีเหยียบหลังกะเหรี่ยง วัดแจ๎งเจริญ หมูํท่ี ๓ ต่าบลจอมประทัด อ่าเภอวัดเพลง จังหวัด ราชบุรี ในอดีตนั้นหลวงพํอนวม อดีตเจ๎าอาวาสวัดแจ๎งเจริญรุํนท่ี ๓ ที่ทํานได๎เดินธุดงค์เจริญกรรมฐานไปตาม ป่าแถบตะนาวศรี เขตชุมชนไทยกะเหร่ียง ทํานได๎ให๎การอบรมส่ังสอนชาวกะเหรี่ยงให๎นับถือพระรัตนตรัย เปลย่ี นจากนับถือผีมานับถือพุทธศาสนา ด๎วยความผูกพันของชาวกะเหร่ียงท่ีมีตํอหลวงพํอ คือ ๑) เป็นผู๎น่าค่า สอนของพระพุทธเจ๎ามาสอนแกํญาติโยม ๒) เป็นหมอผ๎ูรักษาโรค ยื้อชีวิตจากการเจ็บป่วย ด๎วยการใช๎ยา สมนุ ไพรและน้า่ มนต์ที่ปลกุ เสกดว๎ ยอ่านาจจติ ของการปฏิบัติกรรมฐาน คร้ันเม่ือกลับมาจ่าวัดท่ีวัดแจ๎งเจริญชาว กะเหร่ียงในพื้นที่จังหวัดราชบุรี เพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ ที่นับถือศรัทธาทํานได๎มารํวมงานสักการะท่ีวัด แจ๎งเจริญเสมอ จนกลายเป็นงานประจ่าปีของไทยกะเหรี่ยงได๎รับการสืบทอดมากวํา ๑๐๐ ปี จัดข้ึนทุกปีใน เดือน ๕ ขึ้น ๑๔ - ๑๕ ค่าและแรม ๑ ค่าของทุก ๆ ปี เป็นเวลา ๓ วัน ในงานประเพณีน้ีจะมีชาวกะเหร่ียงชาย และหญิงมารํวมงานท่ีวัดเป็นจ่านวนมาก กิจกรรมท่ีส่าคัญ คือ พิธีแหํหลวงพํอนวม พิธีบูชาหลวงพํอใหญํด๎วย ขันธ์ ๕ พิธีบวชสามเณรและชีพราหมณ์ พิธีปลุกเสกวัตถุมงคล และพิธีสรงน่้าเจ๎าอาวาสหรือพิธีเหยียบหลัง กะเหร่ียง ชาวไทยกะเหร่ียงจะล๎มตัวลงนอนคว่าทอดเป็นสะพานให๎หลวงพํอนวมได๎เหยียบหลัง ซ่ึงเป็นความ ศรัทธาในพลังอ่านาจจิตของหลวงพํอที่จะชํวยบ่าบัดโรคภัยได๎ และเมื่อหลวงพํอมรณภาพและประเพณีการ เหยียบหลังกระเหรีย่ งยังได๎รบั การสบื ทอดใหก๎ ับเจา๎ อาวาสองค์ปัจจบุ ัน เพราะชาวกะเหรย่ี งมคี วามเช่ือวําจิต วิญาณของหลวงพํอนวมอยํูกับวัดและเม่ือพระรูปใดเป็นเจ๎าอาวาสก็นับถือเป็นผู๎ที่สืบทอดเป็นหลวงพํอ กะเหรยี่ งเฉกเชํนเดียวกับหลวงพอํ นวม ๕. ประวตั ิความเป็นมา ประเพณีเหยียบหลงั กะเหรย่ี ง จัดขึ้นเป็นประจ่าปใี นวนั ขนึ้ ๑๕ ค่าเดอื น ๕ ณ วัดแจง๎ เจรญิ หรอื ภาษากะเหรี่ยงเรยี กวัดเจดยี ข์ าว ตง้ั อยูํหมทูํ ่ี ๓ ตา่ บลจอมประทดั อา่ เภอวัดเพลง จังหวัดราชบุรีเป็นประเพณีที่ เกี่ยวขอ๎ งกับหลวงพอํ นวมอดีตเจา๎ อาวาสวัดแจ๎งเจริญองคท์ ี่ ๓ เป็นพระผู๎เช่ียวชาญ ทางด๎านวิปัสสนากรรมฐาน ได๎เดินธุดงค์เข๎าไปตามป่าลึกแถวจงั หวัดเพชรบรุ ีและจงั หวัดราชบุรี คร้ังหนง่ึ ทํานได๎เดินธุดงค์ไปท่ีบริเวณป่าใกล๎ หมบูํ า๎ นกะเหร่ียง ซ่ึงสมัยนั้นยากท่ีคนธรรมดาจะเดินไปถึงท่าให๎ชาวกะเหร่ียงประหลาดใจเป็นอยํางมาก ทําน ได๎ถือสันโดษปฏิบัติธรรมอยํูบริเวณแถบนี้เป็นเวลานาน ในขณะเดียวกันชาวกะเหร่ียงได๎คอยสังเกตดูทํานอยูํ

ตลอดเวลา จึงเป็นท่ีวิจารณ์ในหมํูชาวกะเหร่ียงด๎วยกัน จึงได๎แจ๎งกับหัวหน๎าเผํากะเหร่ียงวํามีคนแปลกหน๎าเข๎า มา หวั หนา๎ เผาํ จึงไดค๎ ดิ ลองของกบั หลวงพํอ เชนํ ธนูไฟ เสกหนังเข๎าทอ๎ ง และเสกของ เป็นต๎น ตํอมาเช๎าวันหน่ึง ทาํ นไดป๎ ฏิบัตกิ ิจวัตรเสรจ็ ไดม๎ ีชาวกะเหรยี่ งกลํมุ หน่ึงมานิมนต์ทํานเข๎าไปในหมูํบ๎าน พร๎อมท้ังต๎อนรับเป็นอยําง ดี โดยนา่ หนังวัว (คือหนังลูกวัวที่ตายแล๎วในท๎องแมํวัว หรือแมํวัวที่ใกล๎ตกลูกก็ฆําแมํวัว เพ่ือลูกวัวจะได๎ตายไป ดว๎ ย) ทั้งแผํนมาปเู ป็นอาสนะให๎ทาํ นน่ัง ท้ังนา่ อาหารมากมาย ขณะน้ันทํานก็ฉันหมากพลูแล๎วก็อาเจียนออกมา หนังววั ท่ีชาวกะเหรี่ยงนา่ มาปรุงใหน๎ านกค็ อํ ย ๆ หด คํอย ๆ เลก็ ลง ทํานจึงบรกิ รรมคาถาไปท่ีหนังวัวน้ัน ๓ ครั้ง หนงั ววั น้นั ไมํสามารถท่าอันตรายทํานได๎ ขณะเดียวกันน้ันได๎มีเด็กร๎องไห๎เพราะหิวน้่า ซ่ึงชาวบ๎านไมํมีใครเทน้่า ออกจากกระบอกไม๎ไผํได๎เลย หลวงพํอจึงขอบิณฑบาตน้่าจากชาวบ๎าน พอเทน้่าออกจากกระบอกไม๎ไผํปรากฏ วํา น้่าก็ไหลออกจากกระบอกไม๎ไผํ หลวงพํอจึงน่าน่้าให๎เด็กดื่ม จึงท่าให๎ชาวกะเหรี่ยงเกรงกลัวอภินิหารของ หลวงพํอ หัวหน๎ากะเหรี่ยงจึงได๎น่าพวกมาขอขมาลาโทษทํานจึงได๎อบรมสั่งสอนให๎กะเหรี่ยงได๎เข๎าถึงพระ รตั นตรัย จนพากันเลื่อมใส ศรทั ธาในตัวทาํ น และไดพ๎ รอ๎ มใจปลูกที่พักชั่วคราวให๎พักอาศัย ท่าพิธีสรงน่้าโดยให๎ นั่งเก๎าอ้ีไว๎กลางลานบ๎านให๎น่าน่้าขมิ้นมารดถูตัว สํวนผ๎ูหญิงจะขยายมวยเอามวยผมมาถูท่ีเท๎าของหลวงพํอ สํวนน่้าที่เหลือจากรดหลวงพํอก็พากันแยํงย้ือเพื่อเอามากิน รดหัว ขัดหน๎าขัดตา เพ่ือเป็นสิริมงคล หายจาก โรคภัยไข๎เจ็บ พอสรงน้่าเสร็จผู๎ชายกะเหร่ียง จะนอนเรียงกันบนพื้นดินให๎หลวงพํอเดินบนตัวไปจนข้ึนท่ีพัก ช่วั คราว ขณะนั้นหลวงพอํ นวมไดพ๎ ักอาศยั อยทํู ่ีหมูบํ า๎ นกะเหรีย่ งตลอดพรรษา เทศนาค่าสอนให๎ชาวกะเหรี่ยงได๎ เล่ือมใสในพระพุทธศาสนา ชื่อเสียงของหลวงพํอนวมได๎กระจายไปในหมํูชาวกะเหร่ียง ได๎รับสมญานามวํา “หลวงพํอกะเหรี่ยง” กาลเวลาผํานไปหลวงพํอนวมชรา และไมํสามารถเดินทางไปธุดงค์ได๎ จึงท่าให๎ชาว กะเหรย่ี งตามเทอื กเขาตะนาวศรไี ดห๎ อบลูกหลานมานมัสการหลวงพํอท่ีวัดแจ๎งเจริญเป็นประจ่าทุกปี เมื่อหลวง พํอนวมไดม๎ รณภาพลง ชาวกะเหร่ียงกย็ งั คงมากราบรูปหลอํ หลวงพอํ โดยจะแตํงกายสวมชุดกะเหรี่ยง และรํวม แหํรูปหลํอหลวงพํอนวมรอบโบสถ์ ๓ รอบ แล๎วน่าไปประดิษฐานไว๎ส่าหรับท่าพิธีปิดทอง เสร็จงานก็ท่าพิธีแหํ น่าไปประดิษฐานไว๎ที่เดิม จนกลายเป็นประเพณีท่ีสืบทอดกันมาชาวกะเหร่ียงมีวัตถุประสงค์ของการมารํวม ประเพณี คือ ๑) แหํรูปหลํอหลวงพํอนวมและปิดทอง ๒) แก๎บนด๎วยการบวชชีพราหมณ์ สามเณร สร๎าง พระองค์เล็กๆ จุดประทัดแก๎บน ๓) สรงน่้าเจ๎าอาวาสองค์ปัจจุบัน ซึ่งเป็นตัวแทนของหลวงพํอกะเหรี่ยง และ นอนใหเ๎ จ๎าอาวาสเหยียบหลัง ตามพิธีกรรมที่เคยท่ากันมา คือ เตรียมน่้าขม้ิน ถูตัว ผ๎ูหญิงถูเท๎า คลีมวยผมของ ตนเชด็ เทา๎ ด๎วยความศรทั ธา สรงน้า่ เสรจ็ กะเหรยี่ งผ๎ูชายจะนอนเรียงกับพื้นดินให๎เจ๎าอาวาสเดินบนตัวจากท่ีสรง น่า้ เสร็จจนถึงกุฏิพัก แล๎วน่าสายสิญจน์ ข้ีผ้ึง สรงน่้า มาเสกเป่า เพื่อน่ากลับบ๎าน ขอประพรมน่้าพระพุทธมนต์ และกราบลา ดว๎ ยความสา่ คัญของงานประเพณดี ังกลาํ วท่ีมีความหมายตํอจติ ใจของชาวกะเหรย่ี ง จึงมีกะเหรย่ี ง ประมาณ ๔,๐๐๐-๕,๐๐๐ คน ไดม๎ าทา่ พธิ ีสรงนา้่ ปดิ ทอง และเหยยี บหลังกะเหรย่ี งทุก ๆปี แม๎วาํ หลงั จากหลวง พํอนวมจะมรณภาพไปแล๎ว ชาวกะเหร่ยี งก็ยังไปสักการบชู ารูปหลอํ เหมอื นจริงของทําน และยงั ใหค๎ วามเคารพ นบั ถอื และเทดิ ทนู เจา๎ อาวาสวัดแจง๎ เจรญิ รูปตอํ ๆ มา และเรียกขานวาํ “หลวงพํอกะเหรยี่ ง” เชํนกัน ๖. ลกั ษณะเฉพาะท่ีแสดงถึงอัตลักษณข์ องมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ๑. ลกั ษณะ ประเพณีเหยียบหลังกะเหรี่ยง เป็นประเพณีท่ีเกี่ยวข๎องกับความเช่ือความศรัทธาของชาว กะเหร่ียงที่มีตํอหลวงพํอนวม วัดแจ๎งเจริญ มีวัตถุประสงค์ของการจัดงานเพ่ือ ๑. แหํรูปหลํอหลวงพํอนวม หลวงพํอมํวงและหลวงพอํ ปอ๋ ง รอบพระอุโบสถ ๓ รอบ แล๎วรวํ มกันสรงน่้าปิดทอง ๒. บวชชีพราหมณ์และบวช สามเณร เพ่ือแก๎บนกับหลวงพํอนวม และ ๓. เหยียบหลังกะเหรี่ยงและสรงน่้าเจ๎าอาวาสองค์ปัจจุบัน โดยชาย ชาวกะเหรี่ยงจะนอนเรียงเป็นแถวยาวใหห๎ ลวงพอํ องค์ปัจจบุ ันไดเ๎ หยียบหลงั แล๎วสรงน่้าท่ีตัวและท่ีเท๎า เพ่ือเป็น สริ มิ งคลตํอตนเองและครอบครัวทัง้ นี้หลวงพํอนวมได๎รับสมญานามวํา เป็นหลวงพํอกะเหร่ียงของชาวกะเหรี่ยง ท่เี ปน็ ผู๎ทีม่ เี มตตาทา่ ใหช๎ าวกะเหรีย่ งได๎เลื่อมใสศรัทธาเปล่ียนจากการนับถือวิถีผีมาเป็นวิถีชาวพุทธศาสนา และ ยึดม่ันรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีทางพุทธศาสนามาจนถึงปัจจุบัน นอกจากน้ีชาวกะเหร่ียงยังได๎นับถือ

ศรัทธา เจ๎าอาวาสองค์ปัจจุบันของวัดแจ๎งเจริญที่เสมือนเป็นตัวแทนของหลวงพํอนวมหรือ “หลวงพํอ กะเหรย่ี ง” และจึงได๎สืบสานการเหยียบหลังกะเหร่ียงเพื่อเป็นสิริมงคลตํอตนเองและครอบครัว มีการถํายทอด ความรู๎ไปสูํลูกหลาน ให๎ชํวยกันอนุรักษ์ ประเพณีคติความเช่ือที่มีตํอหลวงพํอนวมให๎คงอยูํในชุมชนของตนเอง ในขณะเดียวกันก็ยังรักษาวัฒนธรรมการแหํรูปหลํอหลวงพํอนวมที่วัดแจ๎งเจริญอยูํเสมอ ถึงแม๎วําการเรียกชื่อ ประเพณีจะแตกตํางกันไปบ๎างแตํสํวนใหญํชาวกะเหร่ียงและชุมชนต่าบลจอมประทัดยังคงรักษาแกํนของ ประเพณีไวอ๎ ยํางมนั่ คง ๒. ความเชือ่ ๒.๑ ความเช่อื เรื่องการเหยียบหลังกะเหร่ยี ง ชาวกะเหร่ียงมีแนวคิดความเช่ือตามต่านานท่ีวําเม่ือพระพุทธเจ๎าอุบัติข้ึนในโลก มีความ ประสงค์ให๎เข๎าเฝ้าทูลถาม เพื่อให๎พระพุทธองค์ทรงเทศนาธรรมโปรดสัตว์ และสอนให๎ชาวกะเหร่ียงยึดมั่นใน ศาสนา ต๎องเป็นคนมีศีลธรรม แตํหนทางท่ีพระพุทธองค์เดินทางไปกลับล่าบาก บางแหํงขรุขระเป็นโคลนตม ดว๎ ยความเคารพชาวกะเหร่ียงจงึ พร๎อมใจนอนราบเป็นทางเสด็จ เพื่อไมํต๎องการให๎ฝ่าพระบาทต๎องเปรอะเป้ือน สง่ิ สกปรก และตํางดใี จในการกระทา่ ถอื วาํ เป็นบุญกุศลแกํตนเอง เพื่อสะท๎อนใหเ๎ หน็ ถงึ เอกลักษณ์ของชาติพันธ์ุ ดังน้ันความเป็นพุทธในวิถีทางความเช่ือของชาวกะเหรี่ยงจึงน่ามาใช๎ปฏิบัติกับพระผู๎ใหญํ ซ่ึงถือเสมือนเป็น ตัวแทนของพระพุทธองค์ ในขณะเดียวกันในประเพณีเหยียบหลังกะเหร่ียงท่ีวัดแจ๎งเจริญ ชาวกะเหรี่ยงเช่ือวํา หลวงพํอนวมหรอื หลวงพํอกะเหรี่ยงท่ีเป็นเจ๎าอาวาสองค์ปัจจุบัน เหยียบหลังจะชํวยรักษาอาการเจ็บป่วย เป็น สิริมงคลแกํตนและครอบครัว และการที่เดินไปกลับบนหลังผู๎ชายกะเหรี่ยงเพื่อไมํให๎เท๎าของหลวงพํอเปรอะ เปอื้ นสิ่งสกปรก ๒.๒ ความเช่อื เรอ่ื งพระน้่ามนั ชาวกะเหร่ยี งเชอ่ื กันวํา พระนา้่ มัน คอื ตวั แทนหลวงพํอนวม เน่ืองจากในอดีตน้ันหลวงพํอนวม ได๎จ่าพรรษาในแถบชายแดนใกล๎หมํูบ๎านกะเหรี่ยง ชาวกะเหร่ียงได๎สร๎างศาลาไว๎หวังไว๎วําจะให๎หลวงพํอนวม ได๎จ่า พรรษา แตํหลวงพํอไมํมีโอกาสได๎ท่าตามท่ีชาวกะเหร่ียงต้ังใจไว๎ จึงได๎บอกกับชาวกะเหร่ียงวําจะท่าตัวแทนไว๎ จงึ ได๎ปลุกเสก “น่้ามันงา” ไว๎ให๎ชาวกะเหรี่ยงไว๎ใช๎ยามเจ็บไข๎ ตํอมาหลวงพํอนวมได๎มรณภาพชาวกะเหรี่ยงจึง เลกิ ใชแ๎ ละเก็บไว๎บนห้งิ บูชา ถือเป็นตัวแทนของหลวงพํอนวม และถือวําเป็นวัตถุมงคลจึงเรียกวํา “พระน้่ามัน” หรือ “พระน้่ามันงา” ดังน้ันชาวกะเหร่ียงท่ีนับถือ “พระน่้ามัน” ท่ีปลุกเสกจากหลวงพํอนวม จะใช๎น่้ามันงา ห๎ามใช๎น้่ามันสัตว์ ผ๎ูที่นับถือพระน่้ามันจะต๎องปฏิบัติอยํางเครํงครัดในพิธีกรรม หลังจากได๎รับน้่ามันกลับบ๎าน แล๎วต๎องน่าน้่ามันใสํขวดวางไว๎บนหิ้งและกราบไหว๎ทุกวันพระ วันโกน ในวันดังกลําวจะต๎องละบาปทุกอยําง เชํน ฆําสัตว์ ดื่มสุราบนบ๎าน เป็นต๎น หากปฏิบัติบูชาถูกต๎องก็จะเกิดความศักดิ์สิทธ์ิและน่าน่้ามันมารักษาโรค ตําง ๆ ได๎ หากปฏิบัติผิดระเบียบต๎องขอขมา พระน้่ามันที่ตนนับถือ โดยเตรียมเคร่ืองบูชา ประกอบด๎วย ขา๎ วตอก ๗ กระทง เทยี น ๗ เลมํ ดอกไม๎ ๗ ดอก หนํอกล๎วย ๑ ต๎น จาน ๑ ใบ เสร็จแล๎วน่าต๎นกล๎วยมาวางไว๎ บนจาน ปกั เทียน ดอกไม๎ท่ลี า่ ต๎นกล๎วย เอาข๎าวตอกโปรยรอบตน๎ กล๎วย นา่ เคร่ืองบูชาวางตอํ หน๎าพระน่า้ มัน ๒.๓ ความเช่ือตํอการบนบานถงึ หลวงพอํ นวม ชาวกะเหรยี่ งมีความศรัทธาและความเชอ่ื ตอํ หลวงพํอนวมวาํ เป็นผู๎มีอิทธฤิ ทธิป์ าฎหิ าริยท์ ี่ เหนือกวําผู๎น่ากะเหร่ียงของตน จึงยอมรับนับถือและได๎เปลี่ยนจากนับถือผีมานับถือพุทธศาสนา เม่ือได๎รับ ความเดือดร๎อนหรอื เจบ็ ไขไ๎ ดป๎ ่วยกจ็ ะบนบานถงึ หลวงพํอนวมหรอื พระน่้ามันแทนการบนบานผี เม่ือหายป่วยก็ จะท่าบุญหรือบวชแก๎บน ผู๎หญิงจะบวชชีพราหมณ์ สํวนผ๎ูชายจะบวชสามเณรในวันข้ึน ๑๕ ค่า เดือน ๕ หรือ ๑๔-๑๕ คา่ และวนั แรม ๑ ค่า เป็นประจ่าทุกปี ๓. กระบวนการ/ข้นั ตอน/วธิ ีการ กระบวนการหรือข้ันตอนการจดั ประเพณเี หยยี บหลงั กะเหรี่ยง ได๎จัดขึ้นเป็นประจา่ ทุกปีในวันขน้ึ ๑๔ ค่า ๑๕ ค่า และวนั แรม ๑ คา่ ในเดอื น ๕ ทุกปี เปน็ เวลา ๓ วัน โดยมีรายละเอียดดังน้ี ๓.๑ กา่ หนดการจดั งานประเพณี

วันที่ ๑ ตรงกับวนั ขน้ึ ๑๔ คา่ เดอื น ๕ กรรมการวดั จดั เตรยี มอุปกรณ์ สถานทีส่ ่าหรับ กิจกรรมและพธิ ีกรรม ตัง้ โรงครวั ทา่ อาหารเลี้ยงต๎อนรบั ชาวกะเหรย่ี งเดนิ ทางมาพักในวัดหรอื ในท่เี คยพัก เชํน โรงเรยี น ศาลาทาํ นา้่ กฏุ ิ หอฉนั การพักผํอนรํวมกันฉนั เครือญาติ โกนหัวเตรยี มบวช (คร้ังที่ ๑) เวลา ๑๐.๐๐ น. เจรญิ พระพทุ ธมนต์ ท่าน้า่ มนต์ เวลา ๑๒.๐๐ น. ฉันเพล เวลา ๑๔.๐๐ น. พิธเี ปิดประเพณปี ิดทองไหว๎หลวงพอํ นวมและเหยียบหลังกะเหรี่ยง เวลา ๑๖.๐๐ น. อัญเชิญรูปหลอํ รปู เหมือนหลวงพํอนวม หลวงพํอป๋อง และหลวงพํอมํวง เวียนรอบอุโบสถ ประดิษฐานรอบปะรา่ พธิ ีหน๎าพระอโุ บสถสรงน้่า ปิดทอง เวลา ๑๘.๐๐ น. พิธีบวชสามเณรและชพี ราหมณ์ เวลา ๒๐.๐๐ น. ชมงานมหรสพของชนเผํากะเหรยี่ ง เชํน วิถชี ีวิตกะเหร่ียง ภาพยนตร์ ลิเก หนงั ตะลงุ วันที่ ๒ ตรงกับวนั ข้นึ ๑๕ ค่า เดือน ๕ เวลา ๐๗.๐๐ น. ชาวกะเหร่ยี งทบี่ วชแก๎บนลาสกิ ขาบท การพักผํอนรวํ มกันฉันเครือญาติ แล๎วโกนหัวเตรียมบวช (ชดุ ท่ี ๒) เวลา ๑๔.๓๐ น. การทอดผ๎าป่าสามคั คีของแตํละหมบํู า๎ น การเทศนม์ หาชาตทิ รงเคร่ือง เวลา ๑๘.๐๐ น. พธิ บี วชสามเณรและชีพราหมณ์ (คร้ังที่ ๒) เวลา ๑๙.๓๐ น. เสวนาอตั ลักษณ์วัฒนธรรมกะเหรีย่ ง เวลา ๒๐.๐๐ น. ชมงานมหรสพในวดั เจา๎ อาวาสปลุกเสกวตั ถุมงคลให๎ชาวกะเหรยี่ ง วันที่ ๓ ตรงกับวนั แรม ๑ คา่ เดือน ๕ เวลา ๐๗.๐๐ น. ชาวกะเหรย่ี งท่ีบวชแก๎บน ลาสิกขาบท เวลา ๐๙.๐๐ น. อญั เชญิ รปู หลํอเหมอื นของหลวงพํอทง้ั สามองคป์ ระดิษฐานท่ีเดิม เวลา ๐๙.๓๐ น. พิธีสรงน้า่ เจ๎าอาวาสองค์ปัจจุบัน และเหยียบหลงั กะเหร่ยี ง ชาวกะเหรย่ี งแยกยา๎ ยกลับบ๎าน ๓.๒ ขั้นตอนของกิจกรรมในงานประเพณีเหยียบหลงั กะเหรี่ยงและพธิ สี รงนา่้ เจ๎าอาวาสองค์ ปจั จุบนั มี ๑๓ ขั้นตอนดงั นี้ ๑) การเตรียมอปุ กรณ์สถานท่ีส่าหรับกิจกรรมและพิธกี รรม จะจัดกํอนวันงาน ๑ วนั เพ่ือ เตรียมสถานท่จี ดั กิจกรรมพิธีกรรม สถานทีบ่ ันเทิงและสถานท่ใี ห๎แกํผู๎ที่เดนิ ทางมาไกลได๎พักค๎าง โดย คณะกรรมการวดั จดั ประชมุ เตรยี มงานก่าหนดโรงพธิ ี ปะร่า รา๎ นค๎าและบริเวณบันเทิง ๒) การตั้งโรงครวั จะจดั ขึน้ ในวันที่ ๑ ถงึ วันท่ี ๓ วนั ละ ๓ เวลา เพือ่ จดั เตรียมอาหารเลยี้ ง รับรองชาวกะเหร่ียงและผ๎ูที่มารวํ มงาน โดยคณะกรรมการวดั ตดิ ตอํ ประสานงานขอรับบรจิ าคอาหารสด-แห๎ง แลว๎ ชาวบ๎านชํวยกันท่างานครัว ๓) การพักค๎างของชาวกะเหร่ียง จัดกํอนวนั ที่ ๑ - ๓ บริเวณกฏุ หิ อฉัน ศาลาริมน่า้ โรงเรียน โดยชาวกะเหรย่ี งมานอนพักคา๎ งเพื่อเตรยี มสักการะหลวงพอํ นวม สรงนา่้ เจ๎าอาวาส บวชสามเณรและ ชีพราหมณเ์ พ่ือแกบ๎ นตลอดจนพบปะญาติพ่นี ๎อง ๔) การโกนหวั เตรียมบวช จะเตรยี มในชวํ งบํายวันที่ ๑ และวนั ท่ี ๒ โดยชาวกะเหร่ียงทีม่ ี ความประสงค์จะบวชกจ็ ะแจ๎งลงทะเบียนแล๎วเตรยี มโกนหวั บวช ๕) พธิ ีบูชาหลวงพอํ ใหญํด๎วยขนั ธ์ ๕ จะทา่ ในวันท่ี ๑ และวันท่ี ๒ เวลา ๑๒.๐๐ -๑๘.๐๐ น. เพ่อื บอกกลาํ วหลวงพํอใหญํ (พระประธานในพระอโุ บสถ) ให๎รับทราบวํามาวัดแจ๎งเจริญแล๎วพร๎อมที่จะบวช แก๎บน โดยพํอแมหํ รือญาตผิ ใ๎ู หญํเปน็ ผ๎นู า่ ผทู๎ บี่ นไว๎มาบอกกลาํ วหลวงพํอหนา๎ พระอุโบสถแลว๎ ถวายขันธ์ ๕ จดุ ธูปเทยี น

๖) พิธีแหํรูปหลํอหลวงพํอนวม หลวงพํอป๋อง และหลวงพํอมํวง จะจัดในวันแรกหรือวันท่ี ๑ ข้ึน ๑๔ คา่ เดือน ๕ เวลา ๑๖.๐๐ น เพ่ือให๎ชาวกะเหรี่ยงได๎สักการบูชาปิดทองสรงน่้า โดยผู๎ชายกะเหรี่ยง จะประคองรปู หลอํ หลวงพอํ นวมลงจากกฎุ ิ หลวงพํอปอ๋ งและหลวงพํอมํวงจากหน๎าพระอุโบสถจากนั้นต้ังขบวน แหํ นา่ ดว๎ ยแตรวงเวียนขวารอบพระอุโบสถ ๓ รอบ มีนางร่าแตํงชุดกะเหร่ียงน่าหน๎าขบวนแล๎วอัญเชิญรูปหลํอ หลวงพอํ ทงั้ สามองคไ์ ว๎ในปะรา่ พิธีหนา๎ พระอุโบสถ ชาวกะเหร่ียงรวํ มกันปิดทอง สรงน่า้ ดื่มน้า่ มนต์ แล๎วอัญเชิญ รูปหลํอหลวงพอํ ทง้ั สามองค์ประดษิ ฐานไว๎ทเ่ี ดิม นา่ ด๎วยแคน ชดุ ร่ากะเหรยี่ ง ๗) พิธบี วชสามเณร บวชชีพราหมณ์ จะจดั ในวนั ท่ี ๑ และวันที่ ๒ เวลา ๑๘.๐๐ น เพอื่ บวช แก๎บนอนั เน่อื งจากการบนบานให๎หายเจบ็ ไข๎ได๎ปว่ ยระหวาํ งปีและบวชแทนคณุ พํอแมหํ รือญาตพิ ่นี ๎อง โดยผู๎ชายกะเหรยี่ งท่ีโกนผมจะน่ังบนพนื้ ยกสงู สวํ นผูห๎ ญงิ ท่ีบวชชพี ราหมณจ์ ะนง่ั บนเสื่อ เจา๎ อาวาสจะทา่ พิธีกรรมบวชสามเณรและชพี ราหมณ์ เปล่ียนเส้อื ผา๎ ครองสบงจีวร ชีพราหมณ์จะนํุงชุดขาว และลาสกิ ขา ใน วันรุํงขึ้น ๘) การเทศน์ปุจนวิสชั นาธรรมมาสน์ หรือเทศนม์ หาชาติทรงเครอื่ งจัดในวันที่ ๒ เวลา ๑๔.๐๐ น. เพอื่ สร๎างศรทั ธาให๎กับชาวกะเหรย่ี ง และชาวไทยผ๎มู ารวํ มงาน โดยเจา๎ อาวาสจะเปน็ ประธาน พระ นักเทศน์ น่งั ธรรมมาสน์เทศนป์ ุจฉา ๒ ธรรมมาสน์ ๙) การรวํ มทอดผา๎ ปา่ สามัคคี จัดในวนั ที่ ๒ เวลา ๑๓.๐๐ น เพื่อท่าบุญเปน็ ทุนให๎กบั วัดได๎ สร๎างเสนาสนะ โดยชาวกะเหรีย่ งจะรํวมกนั บริจาคเงนิ ติดพุํมผา๎ ปา่ ตั้งหน๎ากฏุ แิ ละหอฉนั จากนั้นกถ็ วายพํุม ผ๎าป่าตามศาสนพิธี ๑๐) พิธีเหยียบหลังกะเหร่ียงและสรงน่้าเจ๎าอาวาส จัดขึ้นในวันที่ ๓ เวลา ๙.๐๐ น เพ่ือ แสดงความเคารพนับถือเจ๎าอาวาส และร่าลึกถึงหลวงพํอนวมศูนย์รวมของจิตวิญญาณของชาวกะเหรี่ยง โดย กรรมการวดั จะเตรยี มสถานที่ นิมนต์เชญิ เจา๎ อาวาสใหเ๎ ริ่มพธิ กี รรม ผูช๎ ายกะเหร่ียงจะนอนคว่าเรียงเป็นทางเดิน ให๎หลวงพํอเหยียบหลังลงจากกุฏิ มีคนประคองแขนให๎น่ังในพ้ืนที่จัดไว๎ให๎สรงน้่า ชาวกะเหรี่ยงรดน้่าด๎วยน่้า ขม้ิน ส๎มป่อย เมื่อสรงน้่าเสร็จผู๎ชายจะนอนเรียงเหมือนตอนแรกจนถึงหน๎าห๎องหลวงพํอโดยมีคนประคองท้ัง สองข๎าง ๑๑) พธิ ปี ลกุ เสกวตั ถมุ งคล จัดทา่ ในวนั ท่ี ๑ และวันที่ ๒ เพอ่ื สรา๎ งขวญั กา่ ลงั ใจและความ ศรทั ธา โดยเจา๎ อาวาสรวบรวมดา๎ ยสายสิญจน์ และน้า่ มนั งาแลว๎ เมตตาปลุกเสกเป็นวัตถุมงคลให๎ชาวกะเหรี่ยง นา่ ไปบชู า ด๎ายสายสิญจนน์ ่าไปผูกข๎อมอื คนท่ีอยํูทางบ๎าน สวํ นนา้่ มันงากลับไปไว๎บนห้งิ บูชาหรอื เตมิ ของเดิม “พระน้่ามนั ” ของหลวงพํอกะเหรยี่ ง ๑๒) การเท่ยี วชมงานมหรสพ จัดขนึ้ ในวันที่ ๑ และวนั ที่ ๒ เพื่อใหช๎ าวกะเหร่ยี งได๎เทยี่ วชม ดนตรีและการแสดง ๑๓) การแยกย๎ายกลบั บา๎ นในวนั ท่ี ๓ วนั สุดท๎ายของงาน ชาวกะเหรี่ยงจะชํวยกันเก็บ กวาดทพี่ ักให๎เรียบร๎อยกํอนเดินทางกลับและกราบไหว๎หลวงพอํ เจ๎าอาวาสและพระรปู อน่ื ๆ กลับถน่ิ ของตน ตํอไป ๓.๓ พิธกี รรมทีส่ า่ คัญในงานประเพณีเหยียบหลังกะเหรี่ยง จากขัน้ ตอนที่กลาํ วข๎างต๎นมกี จิ กรรมหรือพิธีกรรมที่ส่าคญั ดงั นี้ ๑) พธิ แี หรํ ปู เหมอื นหลวงพอํ นวม พิธีแหํรูปเหมือนหลวงพํอนวม มีวัตถุประสงค์ของการแหํรูปหลํอรูปเหมือนของหลวงพํอ นวมศูนยร์ วมของจิตวิญญาณใหช๎ าวกะเหรี่ยงมากราบไหว๎ และได๎สรงน่้าปิดทองด๎วยความเคารพ จัดข้ึนวันที่ ๑ ตรงกับวันข้ึน ๑๔ ค่า เดือน ๔ เป็นวันแรกของชาวกะเหร่ียงที่เดินทางมาถึงวัดแจ๎งเจริญ เริ่มเวลา ๑๖.๐๐ น ต้ังขบวนแหํแตรวงบรรเลง น่าพร๎อมนักร่ารํวมขบวน ชายฉกรรจ์ก็ชํวยกันประคองรูปหลวงพํอนวมลงจากกุฏิ หอฉัน หลวงพํอป๋องและหลวงพํอมํวงบริเวณหน๎าพระอุโบสถ ผู๎รํวมขบวนแหํจะเป็นชาวกะเหรี่ยง ผ๎ูหญิง กะเหร่ียงนํุงชุดประจ่าเผํา ขบวนแหํจะน่าเวียนขวารอบอุโบสถสามรอบมีความหมายถึงการให๎ความส่าคัญกับ องค์ประกอบหลักส่าคัญของพระพุทธศาสนา คือ พระพุทธ พระธรรมและพระสงฆ์ เมื่อครบ ๓ รอบ แล๎ว

อัญเชิญรูปหลํอหลวงพํอท้ังสาม ต้ังบนต่ังที่จัดไว๎ในปะร่าพิธีหน๎าพระอุโบสถ ปิดทอง สรงน้่าด๎วยขม้ินและ ส๎มป่อย เพ่ือน่าความสิริมงคลบุญกุศลแกํตนเองและครอบครัว และตักน่้ามนต์ที่เจ๎าอาวาสปลุกเสกไว๎ดื่มกิน พร๎อมลูบหน๎าลูบตา สํวนวันท่ี ๓ ตรงกับวันแรม ๑ ค่า เดือน ๕ เป็น วันสุดท๎ายของการมาชุมนุม เวลา ประมาณ ๙.๐๐ น. ชาวกะเหร่ียงก็พร๎อมกันอัญเชิญรูปเหมือนหลวงพํอทั้งสามไว๎ที่เดิม หลวงพํอไว๎กุฏิ หอฉัน หลวงพอํ ป๋องและหลวงพอํ มํวงไวห๎ น๎าพระอุโบสถ วัสดุและอุปกรณท์ ี่ใชใ๎ นพธิ ีแหํรูปหลวงพอํ นวม มดี งั นี้ ๑. รูปหลํอหลวงพํอนวม ๒. เครือ่ งดนตรี (แตรวง) ๓. ดอกไม๎ ธปู เทยี น ทองค่าเปลว ๔. นา้่ ขม้ิน สม๎ ปอ่ ย ๕. โต๏ะหมูบํ ูชา ๖. โองํ น่า้ มนต์ ๓ ใบ ๗. แคน ๒) พธิ ีบูชาหลวงพํอใหญํ (องคพ์ ระประธานในอโุ บสถ) ด๎วยขันธ์ ๕ พธิ ีบชู าหลวงพอํ ใหญํ มีวตั ถปุ ระสงค์ผูจ๎ ะบวชเปน็ สามเณรและชีพราหมณ์ จะต๎องทา่ พิธี บูชาหลวงพํอใหญหํ รือองค์พระประธานในอโุ บสถเสยี กํอน แล๎วบนบานแจง๎ ให๎หลวงพํอทราบและพร๎อมท่จี ะ บวชตามท่ไี ดบ๎ นบานกบั (พระน่้ามนั บนหงิ้ ท่บี ๎าน) พํอและแมํเป็นผู๎กลาํ วน่า เครื่องประกอบพธิ ีกรรมหรอื เคร่ือง สักการะ เป็นเคร่อื งขันธ์ ๕ มธี ปู ๕ ดอก เทียนขผ้ี ึง้ ๕ แทงํ ใชข๎ ีผ้ ง้ึ แทจ๎ ะติดขอบจานได๎ดี หมายถงึ แสงสวาํ ง สตปิ ญั ญา ข๎าวตอกเตม็ จานใชค๎ กํู ับเทียนขผ้ี ึ้ง ดอกล่ันทมหรือดอกจ่าปา พระเงินและพระทองอีก ๕ องค์หํอ ดว๎ ยผ๎าเหลืองเป็นจีวร วสั ดแุ ละอุปกรณท์ ่ีใช๎ในพธิ ีบูชาหลวงพอํ ใหญํ ดังน้ี ๑. เทยี น ๕ เลํม ๒. ธปู ๕ ดอก ๓. ดอกล่ันทม ๕ ดอก ๔. ข๎าวตอก แจกันท่าเอง ๕. พระเงิน พระทอง พระธรรม ๖. นา่้ ขมิ้น ส๎มป่อย ๓) พธิ ีบวชสามเณรและชีพราหมณ์ พธิ ีบวชสามเณรและชพี ราหมณ์ มวี ัตถปุ ระสงค์ของการบวช เพอื่ แก๎บนตํอการบนบานตํอ หลวงพํอ และตํอส่ิงที่ตนเองประสงค์ เมื่อไดส๎ มปรารถนาจึงมาบวชแกบ๎ นจะบวชในวนั ท่ี ๑ และวนั ที่ ๒ ใน เวลา ๑๘.๐๐ น. ผชู๎ ายและผู๎หญงิ ท่มี ีความประสงคจ์ ะบวชสามเณรและชีพราหมณ์ จะโกนหัวและอาบน้า่ ช่าระ กาย ชนี ุงํ นํุงชดุ ขาว บรรพชาเปน็ สามเณรจะสวมสบงจีวร ผ๎ูบวชเปน็ ชีพราหมณ์จะรบั ศีล ๘ และผู๎บวชเป็น สามเณรจะรับศีล ๑๐ สวดมนตเ์ ยน็ สํวนชดุ ที่ ๒ บรรพชาในวันที่ ๒ ในวันท่ี ๒ ตอนเย็น ก็จะลาสกิ ขาในเชา๎ วันที่ ๓ วสั ดแุ ละอุปกรณ์ทใี่ ชใ๎ นพิธีบวชสามเณรและชีพราหมณ์ ดังน้ี ๑. ใบมดี โกน ๒. แป้งหอม ๓. ขมิน้ ผง ๔. สบํู ๕. ของใชส๎ ่าหรับบวช สามเณร ชพี ราหมณ์ ๖. ดอกไม๎ ธูป เทยี น

๔) พิธีเหยียบหลังกะเหรี่ยงและสรงน้่าเจ๎าอาวาสองค์ปัจจุบัน มีวัตถุประสงค์เพื่อสรงน่้า หลวงพํอเจา๎ อาวาสองคป์ จั จุบัน คือ พระครูศรธี รรมาภรณ์ โดยมคี วามเชื่อวํา การที่หลวงพํอเหยียบหลังกํอนจะ เดินทางกลับภูมิล่าเนาของตนเอง อ่านาจผลบุญท่ีได๎ท่าน้ันจะสํงผลให๎บุคคลและครอบครัวมีความสุขความ เจริญรุํงเรือง ขจัดปัดเป่าสิ่งที่อยํูภายในใจ และถือวําเป็นสิริมงคลในการด่าเนินชีวิตตํอไป วิธีเหยียบหลัง กะเหรี่ยงนี้ ชาวกะเหรี่ยงจะนอนคว่าหน๎าเป็นแถวเรียงยาวต้ังแตํระเบียงภายในกุฏิ ยาวไปตามพ้ืนของฉันลง บันไดไปจึงถึงพื้นซีเมนต์ท่ีสรงน้่า พระครูศรีธรรมาภรณ์ หรือหลวงพํอกะเหร่ียงองค์ปัจจุบันจะเดินเหยียบหลัง โดยมีคนประคองแขนทํานท้ังสองข๎างให๎เหยียบหลังต้ังแตํผู๎ชายกะเหร่ียงคนแรกไปจนถึงคนสุดท๎ายแล๎วน่านั่ง บนเก๎าอ้ีทเ่ี ตรยี มไว๎ เพ่ือให๎คนอ่ืนๆ และผ๎ูหญิง ชาวกะเหรี่ยงได๎สรงน่้า ใช๎น้่าผสมขม้ิน ส๎มป่อย ปะพรมน้่ามนต์ ใชม๎ ือลูบทขี่ าและเทา๎ ในอดตี ผูช๎ ายกะเหรีย่ งจะไว๎ผมยาวไมํยอมตัดผมสรงน้่าหลวงพํอนวมเสร็จจะสยายผมเช็ด ขา และเท๎าหลวงพํอจนแห๎ง จากนั้นชายกะเหรี่ยงจะนอนคว่าหน๎าให๎หลวงพํอได๎เหยียบบนหลัง เพ่ือขึ้นกุฏิอีก ครัง้ ทง้ั นเี้ พ่อื ไมใํ ห๎เทา๎ ของหลวงพอํ สกปรก จากนัน้ หลวงพํอจะแจกวัตถุมงคล ปะพรมน่้าพุทธมนต์ให๎กับผู๎คนท่ี มารํวมกนั แล๎วจงึ แยกย๎ายกลับบ๎านเป็นอนั เสร็จพิธี วัสดุและอุปกรณ์ท่ใี ช๎ในพิธสี รงนา่้ เจ๎าอาวาสดังน้ี ๑. เกา๎ อ้ี ๒. โอํงน้า่ ๓. ขันนา่้ ๔. น้า่ ผสมผงขมิ้นส๎มปอ่ ย ๕) พธิ ีปลุกเสกวตั ถุมงคลของเจา๎ อาวาส หลวงพํอนวมเป็นสัญลักษณ์และศูนย์รวมของจิตวิญาณ ส่ิงท่ีเป็นเอกลักษณ์ของตัวแทน หลวงพํอนวมคือ “พระน่้ามนต์”และ“พระน้่ามัน” โดยเจ๎าอาวาสองค์ปัจจุบันจะท่าพิธีปลุกเสกให๎แล๎วน่า สัญลักษณ์ สิ่งแทนหลวงพํอกะเหรี่ยงกลับไปบูชาไว๎บนหิ้งที่บ๎าน เป็นการปฏิบัติตามที่ได๎รับการสืบทอดมาจาก บรรพบรุ ุษ ดงั นน้ั เมื่อบนบานศาลกลําวถึงหลวงพํอนวมเพ่ือจะให๎ทํานชํวยเร่ืองใดก็น่าดอกไม๎ ธูปเทียนบนบาน ศาลกลาํ วกับพระน้่ามัน ปัจจุบันชาวกะเหรี่ยงได๎ให๎หลวงพํอปลุกเสกน่้ามันงาและด๎ายสายสิญจน์ เพื่อน่าไปผูก แขนกับคนท่ีอยูํที่บ๎าน เป็นสิริมงคลกับตนเองและครอบครัว สํวนท่ีมาของการปลุกเสกวัตถุมงคล คือเมื่อครั้ง หลวงพํอนวมยังมีชีวิตอยูํชาวกะเหรี่ยงบ๎านพุพูล ต่าบลยางน่้ากลัดใต๎ อ่าเภอหนองหญ๎าปล๎อง จังหวัดเพชรบุรี ต๎องการให๎หลวงพํอจ่าพรรษาที่นั้น จึงได๎สร๎างศาลาไว๎ แตํหลวงพํอไมํมีโอกาสได๎กระท่าตามท่ีชาวกะเหรี่ยงได๎ ตงั้ ใจไว๎ หลวงพํอจึงบอกวาํ จะท่าตวั แทนไว๎ให๎ จึงได๎ท่าพิธีปลุกเสกน้่ามัน ให๎ทุกครัวเรือนไว๎ใช๎ยามเจ็บไข๎ ตํอมา หลวงพอํ นวมได๎มรณภาพ ชาวกะเหรย่ี งจึงเลิกใช๎และเก็บไว๎บนห้ิงบูชา ถือเป็นตัวแทนของหลวงพํอนวมและถือ เปน็ วัตถมุ งคล จงึ เรียกวํา “พระนา่้ มัน” หรอื “พระนา้่ มันงา” วสั ดแุ ละอุปกรณ์ท่ใี ชใ๎ นพิธีปลุกเสกวตั ถมุ งคลของเจ๎าอาวาส ดงั น้ี ๑. ดา๎ ยสายสิญจน์ ๒. นา่้ มนั งา ส่วนท่ี ๒ คุณค่าและบทบาทของวถิ ีชุมชนท่ีมีต่อมรดกภูมิปญั ญาทางวฒั นธรรม ๑. คณุ คา่ ของมรดกภมู ิปัญญาทางวัฒนธรรมท่สี าคัญ คุณคาํ ของมรดกภูมิปัญญาทางวฒั นธรรมคุณคาํ ของมรดกภูมปิ ัญญาทางวัฒนธรรมท่มี ตี ํอวิถี ชมุ ชนมีหลายประการดงั นี้ ๑.๑ ประเพณเี หยยี บหลงั กะเหรี่ยงเป็นประเพณที ่เี ช่ือมโยงสายสมั พันธข์ องคนในชมุ ชนไทยเชือ้ สายกะเหรี่ยงในอ่าเภอสวนผึ้ง อา่ เภอบ๎านคา อ่าเภอปากทอํ จงั หวดั ราชบรุ ี อ่าเภอหนองหญ๎าปล๎อง จังหวดั เพชรบรุ ี คนไทยในพื้นถิน่ อา่ เภอวดั เพลง และพื้นท่ชี มุ ชนใกล๎เคยี ง ให๎รวํ มมือกันในการจัดกิจกรรมประเพณที ่ีมี เอกลักษณ์ของท๎องถ่นิ เพยี งวัดเดียวในจังหวดั ราชบุรี ท่ชี าวไทยเช้ือสายกะเหรีย่ งยดึ มนั่ ศรทั ธาในหลวงพํอนวม

และรกั ษาประเพณีเหยยี บหลังกะเหรยี่ ง ถึงแมว๎ ําหลวงพํอนวมจะมรณภาพไปนานกวํา ๘๐ ปี แตํชาวไทย กะเหรยี่ งยงั คงศรัทธาในพุทธศาสนามาท่าบุญไหว๎พระปดิ ทอง สรงน่า้ และเหยียบหลงั ตามความเช่อื และความ ศรัทธาท่มี ตี ํอหลวงพํอนวมมาจนถึงปจั จุบนั ๑.๒ ด๎วยความศรัทธาในหลวงพอํ นวมและพุทธศาสนาอยาํ งแรงกล๎า ทา่ ใหช๎ าวกะเหร่ียงในบาง พ้นื ทีร่ ับเอาประเพณีความเชือ่ เรือ่ งพระกะเหรย่ี งและการเหยียบหลงั ไปปฏิบตั ิในพ้ืนที่ของตน เชํน บา๎ นโป่ง กระทิงบน เป็นหมูบํ า๎ นชาวกะเหรี่ยงทม่ี ปี ระชากรสวํ นใหญํเปน็ กะเหร่ยี ง ไดน๎ ่าเอาธรรมเนียมปฏิบตั ิไปปฏบิ ัติที่ วดั ในพ้นื ที่ โดยจัดพิธีสรงน้า่ และเหยียบหลงั กะเหรี่ยงเชนํ เดียวกบั ประเพณีเหยียบหลงั ที่วัดแจ๎งเจรญิ จะเห็นได๎ วาํ ชาวกะเหรี่ยงยึดมั่นศรัทธาในหลวงพํอนวม แม๎วาํ พระรูปอืน่ ๆ ไมํใชหํ ลวงพํอนวมแตศํ รัทธาเสมือนพระ กะเหรย่ี งที่ตนนับถือ ๑.๓ ประเพณเี หยียบหลังกะเหรี่ยง ยังคงมีการสืบทอดความเชื่ออยูํใน ๒ พ้ืนที่ กลําวคือ ในพ้ืนที่ ต่าบลจอมประทัดท่ีเป็นพ้ืนท่ีจัดประเพณี ดังมีการสืบสานและถํายทอดวิธีการจัดกิจกรรมประเพณีให๎กับ เยาวชนคนรุํนใหมํในท๎องถิ่น ให๎มามีสํวนรํวมในการจัดกิจกรรม สํวนในพื้นท่ีของชุมชนชาวไทยเช้ือสาย กะเหร่ยี ง มกี ารถาํ ยทอดความเชอื่ ความศรทั ธาท่มี ีตอํ หลวงพํอนวมใหล๎ ูกหลานไดย๎ ดึ ถือปฏิบัติ และเป็นแนวทาง ปฏิบตั ิตนทางพระพทุ ธศาสนาทีต่ อ๎ งมาท่ีวัดแจ๎งเจริญเพราะเช่ือเร่ืองการสรงน่้าปิดทอง และเหยียบหลังจะเป็น สิรมิ งคลกับตนเองและครอบครวั ๑.๔ ประเพณีปดิ ทองหลวงพํอนวมและเหยียบหลงั กะเหรยี่ ง เปน็ เอกลักษณ์ของชาวไทยเช้ือ สายกะเหรย่ี งที่มีแสดงให๎เห็นถงึ การเปล่ยี นจากการนับถอื ภูติ ผี ปศี าจ หรอื ไสยศาสตร์ เปน็ จดุ เปล่ียนมานบั ถือ พุทธศาสนา และเป็นประเพณที ี่มีการจัดเพยี งครง้ั เดยี วในรอบ ๑ ปี ท่ีชาวไทยเช้ือสายกะเหรีย่ งพร๎อมใจ และ รวํ มใจกันมาเคารพหลวงพํอนวม แสดงใหเ๎ ห็นถึงอตั ลักษณ์วิถชี วี ิต และความเข๎มแข็งทางวัฒนธรรมทีส่ ืบทอด มารวํ ม ๑๐๐ ปี ๑.๕ ดว๎ ยความโดดเดนํ ของประเพณที ี่มเี อกลักษณ์ของชาติพนั ธ์ุ แสดงใหเ๎ หน็ ความสามัคคีรํวม แรงรวํ มใจคนในท๎องถ่ินต่าบลจอมประทดั ทร่ี ํวมกนั จัดประเพณีกนั ตอํ เนื่องกนั มาเป็นระยะเวลานานจนเป็นท่ี รจู๎ กั ชมุ ชนและหนวํ ยงานที่เกยี่ วข๎องได๎เลง็ เห็นความสา่ คัญตอํ การยกระดบั ประเพณีน้ีเป็นกิจกรรมประเพณี ทางวัฒนธรรมเพ่อื การทํองเท่ียวเชิงวัฒนธรรม เพ่อื เผยแพรปํ ระชาสมั พันธ์ ประเพณีให๎เปน็ ท่ีรจ๎ู กั และสรา๎ ง รายได๎ใหก๎ ับคนในชมุ ชน ๑.๖ ประเพณีเหยยี บหลังกะเหร่ยี ง หลวงพอํ นวมเป็นศนู ยร์ วมใจของคนไทยชาวกะเหร่ยี ง และ คนไทยพน้ื ถ่ินทีเ่ กิดการถาํ ยทอดขนบธรรมเนยี ม ประเพณีของแตํละชุมชนสลูํ ูกหลานเกดิ ความยึดมัน่ ในศาสนา ท่าให๎เกิดพลังชุมชนอยาํ งเข๎มแขง็ และยง่ั ยืน ๒. บทบาทของชุมชนทมี่ ตี ่อมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ชุมชนมบี ทบาทส่าคัญเปน็ อยํางยิ่งตอํ การรกั ษามรดกทางวัฒนธรรม ดังนี้ ๒.๑ ชมุ ชนในพืน้ ทต่ี ่าบลจอมประทดั และชุมชนกะเหรยี่ งในพน้ื ท่ีอ่าเภอสวนผง้ึ อ่าเภอบ๎านคา อา่ เภอปากทํอและอ่าเภอหนองหญา๎ ปล๎องควรจัดเก็บข๎อมูลผน๎ู ่ากะเหรยี่ ง ควรท่าการจัดเก็บรวบรวมข๎อมลู ประเพณีเหยียบหลังกะเหรี่ยง ยดึ ถือแนวประเพณีปฏิบัตไิ ว๎เพอ่ื การอนรุ ักษ์และสืบทอดให๎กบั คนรํุนหลัง ได๎ ศกึ ษาหาความรแ๎ู ละรูห๎ ลักการปฏบิ ตั ใิ ห๎ถกู ต๎องและเป็นประโยชน์ตํอการปฏบิ ตั ิ ๒.๒ ชมุ ชนตอ๎ งมกี ารสํงเสรมิ ด๎วยการเผยแพรํประเพณีผาํ นส่ือตําง ๆ ควรนา่ เสนอขอ๎ มูลแตํละ พธิ กี รรมและการปฏิบัตใิ ห๎ชดั เจน แลว๎ จัดพมิ พเ์ ผยแพรํให๎กว๎างขวางออกไป เปน็ ประโยชน์ตํอท๎องถน่ิ ให๎เยาวชน คนรนุํ ใหมไํ ด๎เห็นคุณคาํ หนั มาสนใจมากข้ึน ๒.๓ ชุมชนต่าบลจอมประทัด และชมุ ชนในพืน้ ท่ชี าวกะเหร่ียง ตอ๎ งสงํ เสรมิ ให๎เยาวชนในทอ๎ งถ่นิ ต่าบลจอมประทัด และในพื้นทีข่ องชุมชนกะเหร่ยี งใหเ๎ หน็ ความส่าคัญของประเพณเี หยยี บหลังกะเหรีย่ งวดั แจง๎ เจรญิ การท่ีเยาวชนจะเหน็ ความส่าคัญจะสบื ทอดได๎จะตอ๎ งได๎รบั การอบรมส่ังสอนและปลกู ฝงั มาจากท่ีบา๎ น ใน ขณะเดียวกนั เยาวชนกต็ ๎องเรียนรูเ๎ ร่ืองราวของประเพณีทอ๎ งถน่ิ ผาํ นหลกั สูตรท๎องถิ่น หรือการเขา๎ รํวมกจิ กรรม

ประเพณี ดังน้นั กระบวนการเรยี นรป๎ู ระเพณผี ํานการเรยี นร๎ูการสอนในโรงเรยี นกจ็ ะท่าให๎เยาวชนได๎สัมผสั ประสบการณ์จริง เหน็ ความส่าคญั และรํวมมือกับท๎องถน่ิ ของตนเองในการสบื สานประเพณใี ห๎คงอยูํตํอไป ๒.๔ ชมุ ชนตอ๎ งยกระดบั ประเพณีไปสกูํ ารทํองเท่ียวเชงิ วฒั นธรรมให๎ นกั ทํองเทีย่ วได๎มาสัมผัส ประสบการณ์ความเชอ่ื ในท๎องถ่ิน ดังนั้นต๎องน่าเรอ่ื งราวและประเพณีมาเปน็ กจิ กรรมเพื่อการทํองเทย่ี ว เพอ่ื ให๎ องค์กรภาครัฐและเอกชนไดม๎ ีสวํ นรํวมในการจดั งาน ๒.๕ ชุมชนต๎องปกปอ้ งสงวนรักษามรดกภูมิปญั ญาทางวัฒนธรรมโดยขอจดทะเบยี นประเพณี เหยียบหลังกะเหรย่ี ง วดั แจง๎ เจรญิ เปน็ มรดกภมู ิปัญญาของชาติ เพราะเป็นประเพณที ี่มีรากฐานมา จากการนบั ถอื พทุ ธศาสนาของชาวกะเหรี่ยง เป็นประเพณที ่ีเป็นศนู ย์รวมของจิตวญิ ญาณความศรทั ธาของกะเหร่ยี งในเขต วฒั นธรรมราชบุรแี ละคนไทยกลุํมชาติพนั ธุ์ตาํ ง ๆ ท่าใหเ๎ ห็นความสา่ คัญ ความน้่าหน่ึงใจเดียวกันในการท่านุ บา่ รุงศลิ ปวฒั นธรรมและพุทธศาสนา ดงั นั้นทุกภาคสํวนในชมุ ชนจงึ ควรรวํ มมอื กันสงวนรักษาภูมปิ ญั ญา วัฒนธรรม ใหท๎ ุกคนได๎มีสวํ นรํวมเรยี นร๎ูรํวมกนั เป็นมรดกทางวฒั นธรรมของชาติ ๓. รายชือ่ ผ้สู บื ทอด รายชื่อบคุ คล/หัวหน้าคณะ/กล่มุ / อาย/ุ องคค์ วามรดู้ า้ นท่ไี ด้รับ สถานท่ีติดตอ่ /โทรศัพท์ การสืบทอด/จานวนปที ่ี สมาคม/ชุมชน อาชีพ สืบทอดปฏิบัติ พระครศู รีธรรมภรณ์ ๘๒ ปี พิธี บว ช ชี พร าห มณ์ แ ล ะ วัดแจ๎งเจริญต่าบลจอม สามเณร พิธีแหํหลวงพํอนวม ประทัด อ่าเภอ วัดเพลง พิธีเหยียบหลังกะเหรี่ยง พิธี จงั หวัดราชบรุ ี ปลุกเสกพระน้่ามัน โทร ๐๓๒ ๓๙๙๒๒๑ คณะกรรมการวัดแจ๎งเจรญิ การด่าเนินการจัดประเพณี วัดแจ๎งเจริญ ต่าบลจอม ประกอบด๎วย เหยียบหลังกะเหรี่ยง ไดแ๎ กํ ประทัด อ่าเภอ วัดเพลง - กา่ นนั ตา่ บลจอมประทัด - ฝา่ ยโรงครัว จงั หวดั ราชบุรี - ผใู๎ หญบํ ๎าน ๘ หมบํู า๎ น - ฝ่ายบญั ชี โทร ๐๓๒ ๓๙๙๒๒๑ - สมาชิกองค์การบริหารสํวนต่าบล - ฝ่ายการเงนิ จอมประทัด - ฝา่ ยต๎อนรับ - ผอ๎ู ่านวยการโรงเรยี นวัดแจ๎งเจริญ - ฝ่ายอ่านวยความสะดวก - อาจารยบ์ ญุ ชัย นุชอนงค์ - ฝา่ ยรา๎ นค๎า - อาจารย์ประเทอื ง บวั บาง - ฝ่ายแสง สี เสยี ง - พันโทนวิ ัติ นรนิ ทร์ - ฝ่ายวตั ถุมงคล - นายทองพรรณ ศรีนิเวศน์ - ฝา่ ยขายทอง (ปิดทอง) - นายบุญสงํ ตนั ตปิ ระสพศาลา - ฝ่ายสถานที่ - นายโสภณ เอกงั - นายบุญสม ขนุ ทอง - นายระเบียบ ดึกภุมรินทร์ ผใ๎ู หญชํ ูศลิ ป์ ชชี ํวง ความรู๎ต่านานเหยียบหลัง บ๎านโป่งกระทิงบน ต่าบล กะเหรย่ี ง บ๎านบึง อ่าเภอบ๎านคา จงั หวัดราชบรุ ี

เอกสารอ้างองิ ราชบุรีศกึ ษา. “หลวงพอ่ นวมวัดแจ้งเจริญ หลวงพ่อกะเหรยี่ ง” http://vb-buddha.blohspot.com/๒๐๑๖/๐๖/blog-post.html. ข๎อมลู ท๎องถ่ิน ๘ ชาตพิ นั ธ์ุราชบุร.ี วัดแจง้ เจริญกบั ชุมชนกะเหร่ียง” http://sasika๐๙๑.blogspot.com./๒๐๑๐/๑๐/blog-post_๒๖.html. ประเพณเี หยียบหลังกะเหร่ยี งวัดแจ๎งเจริญ.เทีย่ วราชบุรี. http://www.xn-b๓czk๔afcy๓gxah๕a๑g๔e.com. สุรนิ ทร์ เหลอื ละมยั .(๒๕๓๘). ความเชือ่ ทางศาสนาของชาวกะเหร่ยี ง : กรณศี ึกษาวันปีใหม่ กะเหรีย่ งทว่ี ัดแจ้งเจรญิ อาเภอวดั เพลง จังหวดั ราชบุร.ี ส่านกั งานคณะกรรมการวฒั นธรรม แหํงชาติ. สรุ ินทร์ เหลือละมัย.(๒๕๔๖). ไทยกะเหรยี่ งใน ๘ ชาตพิ นั ธ์ุในราชบรุ ี. ราชบรุ ี : ธรรมรกั ษ์การพิมพ์. วเิ ศษ เพชรประดบั . (๒๕๓๔). กะเหรยี่ ง. กรุงเทพฯ : อมรินทรพ์ ริ้นตงิ้ . กลมํุ สงํ เสริมศาสนาศิลปะและวัฒนธรรม ส่านักงานวัฒนธรรมจงั หวดั ราชบรุ .ี (ม.ป.ท.) ขอ้ มลู เกย่ี วกบั ประเพณีทีส่ าคญั ของจังหวัดราชบรุ .ี (เอกสารอัดส่าเนา). วีระพงษ์ มีสถาน.(๒๕๕๐). ฅนราชบุรี. ราชบุรี ธรรมรกั ษ์การพมิ พ์ อาภรณ์ สนุ ทรวาท.(๒๕๔๗). ศลิ ปวัฒนธรรมจังหวัดราชบรุ .ี ราชบุรี : สา่ นกั ศลิ ปวัฒนธรรม. (เอกสาร อัด สา่ เนา) อาภรณ์ สุนทรวาท.(๒๕๕๑). ไทยกะเหรยี่ งราชบรุ .ี ในบทความกะเหร่ียงราชบุร.ี นครปฐม : เพชรเกษม. กรมศิลปากร.(๒๕๔๔). พิพธิ ภณั ฑ์สถานแห่งชาติและจงั หวดั ราชบุร.ี กรุงเทพฯ : อมรินทร์ พริ้นติ้ง. คณะอนุกรรมการวฒั นธรรม.(๒๕๓๘). กว่า ๘ ทศวรรษแห่งพลงั ศรทั ธาหลวงพอ่ กะเหรี่ยง.ราชบุรี : ธรรมรกั ษ์การพมิ พ.์ บคุ คลอ้างอิง เกษมศรี รนื่ ปาน. (๒๐, กันยายน ๖๐). กรรมการวัดแจ๎งเจรญิ . สัมภาษณ์ ฉตั รเกษม รน่ื ปาน. (๒๐, กนั ยายน ๖๐). กรรมการวัดแจง๎ เจริญ. สัมภาษณ์ บญุ ชยั นชุ อนงค์. (๒๐, กันยายน ๖๐). กรรมการวดั แจ๎งเจรญิ . สัมภาษณ์ ปรญิ ญา โองํ ดงั . (๒๐, กันยายน ๖๐). ชาวบ๎านต่าบลบ๎านยางน่้ากลดั เหนือ. เป้า เลา๎ ศศิวฒั นพงศ์. (๒๐, กนั ยายน ๖๐). ประธานสภาวัฒนธรรมอ่าเภอวัดเพลง. สัมภาษณ์ พระเถิก เสนหํ ์ติบงั . (๒๐, กันยายน ๖๐). พระวัดแจง๎ เจริญ. สมั ภาษณ์ พระสุวิทย์ อัตถทโี พ. (๒๐, กันยายน ๖๐). พระเลขาวดั แจ๎งเจริญ. สัมภาษณ์ ระเบียบ ดึกภุมรินทร์. (๒๐, กันยายน ๖๐). กรรมการวดั แจ๎งเจริญ. สัมภาษณ์ รงั สันต์ ฉตั รทอง. (๒๐, กันยายน ๖๐). รองนายกองค์การบริหารสํวนตา่ บลจอมประทัด. สัมภาษณ์ สมหมาย ภิญโญ. (๒๐, กนั ยายน ๖๐). นายกองค์การบริหารสํวนตา่ บลจอมประทัด. สมั ภาษณ์ อรรณพ นาคสมบัติ. (๒๐, กนั ยายน ๖๐). ก่านนั ตา่ บลจอมประทัด. สัมภาษณ์

รปู ภาพ พระศรธี รรมาภรณ์ เจา๎ อาวาสวดั แจ๎งเจริญ องค์ปัจจุบนั ทเี่ ป็นหลวง พํอกะเหร่ยี งของชาว กะเหรี่ยงในปัจจุบัน ชาวกะเหรย่ี งรวํ มกนั แหํ รูปหลวงพอํ มวํ งรอบพระ อโุ บสถ ๓ รอบเพ่ือให๎ ชาวกะเหร่ยี งและ ชาวบ๎านได๎สรงน้า่ ปดิ ทอง ชาวกะเหรี่ยงรํวมกันแหํ รูปหลวงพอํ นวม และ หลวงพํอปอ๋ งวนรอบ โบสถ์ ผู๎ชายกะเหร่ยี งโกนหัว บวชแก๎บนเป็นสามเณรท่ี วดั แจ๎งเจริญ ผ๎หู ญงิ กะเหร่ียงบวชแก๎ บนดว๎ ยการบวชชี พราหมณ์

ปดิ ทองรูปหลํอหลวง พอํ นวม พระศรีธรรมภรณ์เจา๎ อาวาสวดั แจ๎งเจริญองค์ ปจั จบุ ันได๎เหยียบหลัง ผช๎ู ายกะเหรี่ยงท่นี อน ทอดไปบนศาลาวดั ประชาชนใชน๎ ่า้ มันและ สม๎ ป่อยสรงนา่้ พระ ศรธี รรมาภรณ์ หลงั จากสงํ นา่้ เสร็จ พระ ศรธี รรมาภรณไ์ ด๎เดนิ เหยียบหลงั ผช๎ู าย กะเหรยี่ งขนึ้ บนศาลา พระศรธี รรมาภรณ์ เจ๎าอาวาสวัดแจง๎ เจริญได๎ ปะพรมน้า่ มนตใ์ ห๎กบั ชาวบ๎านเพอ่ื เปน็ สิรมิ งคล กํอนแยกยา๎ ยกันกลับ บ๎าน จดั ทา : สานกั งานวฒั นธรรมจังหวดั ราชบุรี จัดเกบ็ /เรยี บเรียงข้อมูล : ผศ. ปรียาพร ทองผุด คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั หมู่บา้ นจอมบงึ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook