e-bookคลองโคน

ป่ าชายเลน “คลองโคน”

ศนู ยอ์ นุรกั ษป์ ่ าชายเลนคลองโคน ทอ่ี ยู่ 1/3 ม.3 ต.คลองโคน อ.เมอื ง จ.สมุทรสงคราม 75000 ผูใ้ หญไ่ พบูลย์ (ชงค)์ รตั นพงศธ์ ระ โทรศพั ท์ 0-3473-1188, 0-3473-1198 คณุ พิรน์ ิธิ (เชษฐ)์ รตั นพงศธ์ ระ โทรศพั ท์ 08-6177-7942 คณุ ศรญั ญา รตั นพงศธ์ ระ โทรศพั ท์ 08-9746-8803 เวบ็ ไซต์ www.klongkhonemangrove.com www.phuyaichonghomestay.9nha.com

ป่ าชายเลน คลองโคน \"แต่กอ่ นป่ าชายเลนแทบไมม่ ี เราอยากใหม้ นั เพิ่ม เราก็ปลกู ปลกู ไปเรื่อยๆ ไมไ่ ดค้ ิดอะไร คิดแคว่ า่ อยากได้ อะไรตอ้ งทาเอง ใหค้ นอ่ืนมาช่วยหายใจแทนเราไมไ่ ด้ ถา้ วนั หนึ่งเขาหยดุ หายใจข้ึนมาเรากต็ าย ตอ้ งทาเองหายใจเอง\"

“ประวตั ิความเป็ นมา” สมยั กอ่ นพ้นื ทปี่ ่ าชายเลนบา้ นคลองโคนถกู บุกรุกทาลาย เพอ่ื นามาทา นากุง้ และทาประโยชนอ์ นื่ ๆ ความอุดมสมบูรณข์ องทรพั ยากรทาง ทะเลใกลช้ ายฝ่ังไดส้ ญู เสียไปจนไมส่ ามารถทาการประมงชายฝ่ังได้ ทา ใหป้ ระชากรในพ้นื ทแี่ ยกยา้ ยไปประกอบอาชพี ทอี่ น่ื ตอ่ มาในปี พ.ศ.2534 ชาวบา้ นในพ้ืนทโี่ ดยการนาของผใู้ หญไ่ พบูลย์ รตั นพงศธ์ ระ (ชงค)์ ไดช้ ว่ ยกนั ฟ้ืนฟูสภาพของป่ าชายเลน เพื่อใหม้ ี ความอดุ มสมบูรณเ์ หมือนแตก่ อ่ น ในชว่ ง 3 ปีแรกไมป่ ระสบ ความสาเร็จ ตอ่ มาหนว่ ยงานรฐั เรม่ิ เห็นความสาคญั โดยเฉพาะเป็ นพระ มหากรุณาธิคณุ จากสมเด็จพระเทพฯ ทท่ี รงเหน็ ความสาคญั ของการ ปลกู ป่ าชายเลนทน่ี ่ี จงึ ไดเ้ สดจ็ มาทรงปลกู ป่ าชายเลนทน่ี ่ีดว้ ยพระองค์ เองในปี พ.ศ. 2540, 2541, 2542, 2545 และ 2547 จนปัจจบุ นั พ้ืนทป่ี ่ าชายเลนของบา้ นคลองโคนกลบั มาอุดมสมบูรณอ์ กี ครง้ั

จงึ ทาใหเ้ กดิ มสี ตั วน์ า้ ชายฝั่งมากมาย สามารถทาการประมง เล้ียงชพี ไดอ้ ยา่ งพอเพียง ชาวบา้ นบางสว่ นไดร้ วมตวั กนั เป็น กลุม่ อาชพี ตามความถนดั เชน่ กลุม่ ชาวเรอื กลุม่ ทาอาหาร กลุม่ กระเตง (กระทอ่ มของชาวประมงทปี่ ลกู กลางทะเลเพ่ือใช้ เฝ้ าฟารม์ หอยแครง) และเกิดเป็นการเทยี่ วเชงิ อนุรกั ษ์ ข้ึนมา “ขอ้ มูลทวั่ ไป” การเทย่ี วป่ าชายเลนเป็นการเทยี่ วเชงิ อนุรกั ษ์ แวดลอ้ มดว้ ย บรรยากาศธรรมชาติ ทปี่ ่ าชายเลนคลองโคลน อ.เมอื ง จ. สมุทรสงคราม นกั ทอ่ งเทยี่ วจะไดช้ มป่ าชายเลน ใหอ้ าหารลงิ แสม ชมวถิ ีชวี ติ การทาประมงพ้ืนบา้ น การเล้ยี งหอยแครง หอยแมงภู่ หอยนางรม ฯลฯ สามารถไปเชา้ เย็นกลบั หรอื จะพกั คา้ งคนื บนโฮมกระเตงเพ่ือใกลช้ ดิ กบั ธรรมชาตกิ ็ได้



“ขอ้ มูลชมุ ชน” คลองโคนตงั้ อยบู่ รเิ วณปากนา้ แมก่ ลอง หลายสบิ ปีกอ่ น พ้ืนท่ี ป่ าชายเลนมีเพียง 800 ไร่ เพราะถกู รุกลา้ พ้ืนทเี่ พื่อทานากุง้ ทาใหก้ ารประมงชายฝ่ังหดหาย ชาวบา้ นจงึ รวมตวั ชว่ ยกนั ปลูกป่ าชายเลนเพื่อชบุ ชวี ติ ป่ าใหก้ ลบั มาอุดมสมบูรณอ์ กี ครง้ั เมื่อเวลาผา่ นไปคลองโคนกลายเป็นชุมชนทมี่ ีผืนป่ าชายเลน มากถึง 5,000 ไร่ เป็นบา้ นของสตั วน์ า้ นอ้ ยใหญร่ วมถึงฝงู ลิง แสมนบั รอ้ ยนบั พนั ตวั การทอ่ งเทย่ี วของชมุ ชนแหง่ น้ีจงึ เป็น การทอ่ งเทย่ี วเชงิ อนุรกั ษเ์ พ่ือใหผ้ นื ป่ าชายเลนยงั่ ยนื ตอ่ ไป และมกี ิจกรรมทนี่ ่าสนใจ เชน่ ชมการเล้ยี งหอยงมหอยดว้ ยสกี บก ซง่ึ เป็ นวถิ ีชาวบา้ น สนุกกบั การนงั่ เรอื หางยาวแลน่ บนเลน ถีบกระดานเลน ไฮไลทข์ องการพกั ผอ่ นเป็นการกนิ อาหาร ทะเลสดๆ ทนี่ ่ีเหมาะกบั การเทยี่ วแบบครอบครวั ชว่ งสนั้ ๆ เพราะใกลก้ รุงเทพฯ เดนิ ทางสะดวก

แนะนา Recommend ทท่ี ่องเทยี่ ว / กจิ กรรมท่องเทย่ี ว





01 ‘ ล่องเรือพกั ผอ่ นชมป่ าชายเลนคลองโคน ’ ในอดตี ป่ าชายเลนทบี่ า้ นคลองโคนเคยมถี ึง 70,000 ไร่ แตถ่ กู บุกรุกเพื่อไปทาเป็นบอ่ เล้ียงกุง้ จนทา ใหส้ ตั วน์ า้ หายไปจนชาวบา้ นไมส่ ามารถทาประมงชายฝั่ง ได้ จงึ มกี ารรวมตวั กนั และไดร้ บั การสนบั สนุนจากหลาย หนว่ ยงาน จงึ ทาใหป้ ่ าชายเลนบรเิ วณน้ีกลบั พลกิ ฟ้ืน ข้ึนมาอกี ครงั้ ปัจจบุ นั มีพ้ืนทปี่ ่ าชายเลนไดม้ ากกวา่ 4,000 ไร่ ทง้ั ตน้ แสม โกงกาง ลาพู ชาวบา้ นมที ที่ ากนิ และเป็นแหลง่ อาหารใหด้ ารงชวี ติ เราจะมโี อกาสไดน้ ง่ั เรอื หางยาวออกไปเพ่ือชมทศั นียภาพป่ าชายเลนจน ออกไปถึงปากอา่ วทมี่ กี ารถีบกระดานเก็บหอยแครงกนั สามารถแวะชมแปลงปลกู ป่ าของสมเดจ็ พระเทพ รตั นราชสุดาฯ ชมป่ าชายเลนทสี่ มเดจ็ พระเทพฯ ทรง ปลูกตงั้ แตช่ ว่ งปี พ.ศ. 2540 – 2547



02 ‘ ให้อาหารฝูงลิงแสม ’ เมื่อล่องเรอื ออกมาสกั ระยะ เรอื มกั จะจอด เพอื่ ใหอ้ าหารฝงู ลงิ ซงึ่ เป็ นฝงู ลงิ แสม ลงิ เหล่าน้จี ะ ทยอยออกมาจากป่ าและตน้ ไมเ้ ต็มไปหมดเมื่อเห็นเรอื จอด เราสามารถใหก้ ลว้ ยและลาไยซงึ่ ตอ้ งบอกทางเรอื ใหเ้ ตรยี มไวใ้ หล้ ่วงหนา้ ขอ้ ควรระวงั ลงิ ที่นจี่ ะไม่ทา รา้ ยคน แต่เม่ือลงิ กระโดดเขา้ มาใกลห้ รอื ข้นึ มาบนเรอื ใหร้ บี ใหอ้ าหารและอย่าแกลง้ ลงิ รวมถงึ เกบ็ ของมีค่า หรอื ของที่ไม่อยากใหเ้ ป้ื อนดนิ โคลน เพราะลงิ จะข้นึ มา พรอ้ มโคลนเต็มตวั มีโอกาสท่ีจะทาใหก้ ระเป๋ าหรอื สง่ิ ของเลอะเทอะได้



03 ‘ ชมชาวบา้ นเก็บหอยแครง และแมลงภู่ ‘ หอยแครงของบา้ นคลองโคนเป็ นท่ีนยิ ม เป็ นอยา่ งมาก ถงึ แมจ้ ะตวั เลก็ แต่เพราะพ้นื ท่ีท่ีเป็ น โคลน ไม่มีทรายปนทาใหห้ อยแครงที่นม่ี ีอร่อย และคณุ ภาพเป็ นอย่างมาก เราสามารถนงั่ เรอื ชม ชาวบา้ นงมเกบ็ หอยแครงตามคลอง หรอื ดู ชาวบา้ นไถกระดานเกบ็ หอยแครงที่ปากอ่าว หรอื สามารถแวะไปชมฟารม์ หอยแครงกไ็ ด้ นอกจากนน้ั หากตอ้ งการชมช่วงกลางคนื กจ็ ะเห็น ไฟจากชาวบา้ นมาขุดหาหอยในช่วงกลางคนื ซง่ึ การชมกจิ กรรมทง้ั หมดท่ีเกย่ี วกบั หอยแครงจะทา ไดเ้ ฉพาะในช่วงเวลานา้ ลด ตรงกนั ขา้ มกบั หอยแมลงภู่ ซง่ึ จะไดเ้ หน็ เฉพาะช่วงนา้ ข้นึ เท่านน้ั นอกจากนนั้ ยงั มีกจิ กรรมการประมงอนื่ ๆใหช้ ม ดว้ ย เช่น ลอ้ มกลา่ ปลาดกุ ฟารม์ หอยนางรม



04 ‘ ร่วมเล่นถีบกระดานเก็บหอยแครง ‘ เราสามารถติดต่อลองเล่นถบี กระดานเกบ็ หอยแครงแบบชาวบา้ นได้ ซงึ่ จะมีการเตรยี ม กระดานไวใ้ ห้ การเตรยี มตวั ควรตอ้ งค่อนขา้ ง ทะมดั ทะแมง เส้อื ผา้ ที่สวมใสพ่ รอ้ มที่จะท้ิงได้ ใหด้ ี ควรเป็ นเส้อื ขายาวกางเกงขายาวเพราะมีโอกาส เสยี่ งต่อการเป็ นแผลเม่ือเดนิ ลงบนโคลน เพราะว่า เราจะตอ้ งลยุ โคลนกนั ลกึ เกอื บถงึ เอว หรอื มากกว่า หากนา้ หนกั ตวั มากข้นึ ใหเ้ ตรยี มถุงเทา้ หนาๆ แทนการใชร้ องเทา้ ไวด้ ว้ ย เพราะรองเทา้ จะใช้ ไม่ไดเ้ วลาลงไปจะถูกดดู จนยกไม่ข้นึ หมวก ครมี กนั แดด เตรยี มใหพ้ รอ้ ม เวลาเล่นจะค่อยๆไถ เกบ็ หอยแครงไปเรอื่ ยๆ ใชม้ ือจบั กระดาน แลว้ ใช้ ขาขางหนง่ึ ไถไปตามเลน เพยี งแค่เอามือจุม่ ลงไป กจ็ ะเจอสตั ว์นานาชนดิ ทง้ั หอย ปู แมงดา แต่ให้ ระวงั ปลาดกุ ไวเ้ พราะจะมีพษิ แต่หาเจอยากมาก เป็ นกจิ กรรมท่ีสนกุ แต่ใชพ้ ลงั งานในการเล่นเป็ น อย่างสงู ควรเตรยี มตวั เรอื่ งสขุ ภาพก่อนมาเล่น



05 ‘ พกั ผอ่ นนอนเล่นบนกระเตง ชมฟาร์มหอย ‘ นกั ท่องเที่ยวสามารถสอบถามเพมิ่ เตมิ ไดว้ ่าอยากแวะที่กระเตง โดยอาจเป็ นแค่แวะ ทานอาหารหรอื นอนคา้ งคนื เรอื สามารถพา แวะชมฟารม์ หอยของชาวประมงเพอ่ื ดวู ิถชี วี ิต ความเป็ นอยู่ของชาวประมง



06 ‘ ร่วมกจิ กรรมปลูกป่าชายเลน ‘ เรามารถสง่ เสรมิ การฟ้ืนฟปู ่ าชาย เลนบรเิ วณน้ีได้ โดยสามารถปลูกทงั้ ตน้ แสม และโกงกาง ทงั้ รอบในและรอบนอก ซง่ึ ตอ้ งนง่ั เรอื ออกไป เหมาะกบั การทา กิจกรรมเป็นหมูค่ ณะ ตดิ ตอ่ ลว่ งหนา้ เพื่อ ทางหน่วยงานจะไดจ้ ดั เตรยี มตน้ กลา้ ไวใ้ ห้

กจิ กรรมสาหรบั นกั ท่องเทย่ี ว

• ชมป่ าชายเลน (โครงการปลกู ป่ าถาวร เฉลิมพระเกียรตสิ มเด็จพระนางเจา้ สริ กิ ิต์ิ พระบรมราชนิ ีนาถ) • ชมและใหอ้ าหารลิงแสม ชมปลาตนี ปู กา้ มดาบ ปูลม • ชมและสมั ผสั การขบั เรอื บนเลน ถบี กระดานเลน • ชมการเพาะเล้ยี งหอยแมลงภู่ หอยนางรม หอยแครงดว้ ยภูมปิ ัญญาชาวบา้ น • ชมการดกั เคยหรอื ชอ้ นเคยตามชายฝ่ัง (เพื่อเอามาทากะปิ ตาดาคลองโคน) • ชมการลอยอวนจบั ปลากระบอก และลอ้ ม กลา่ ปลาดุก (ตอนนา้ แหง้ ) • นงั่ เรอื ชมนกยามคา่ คนื • นง่ั เรอื ชมหง่ิ หอ้ ยยามคา่ คนื