สาระนา รู วนั พชื มงคล วันพืชมงคล เปนวนั สาํ คัญทก่ี ําหนดขึ้นเพอ่ื ระลึกถึงความสําคญั ของเกษตรกรทีม่ ี ตอเศรษฐกิจไทย มีการจดั พระราชพิธพี ชื มงคลจรดพระนังคลั แรกนาขวัญ ซ่ึงเปนพระราชพธิ ี โบราณ สืบเนอ่ื งมาตงั้ แตส มัยกรุงศรอี ยธุ ยาตอนปลาย ประกอบดว ย 2 พระราชพิธคี ือ พระราชพิธี พืชมงคล และพระราชพธิ ีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ พระราชพิธีนก้ี ระทาํ ท่ที องสนามหลวง ทางราชการกําหนดใหว นั พชื มงคลเปน วันเกษตรกร และกาํ หนดใหว นั นเ้ี ปน วันหยุดราชการ ยกเวนธนาคารและบริษทั เอกชนบางแหง ไมหยดุ ทาํ การ วนั พชื มงคลจะไมตรงกับ วันเดมิ ตามสรุ ิยคติหรือจันทรคติของทกุ ป แตสาํ นกั พระราชวังจะเปน ผูประกาศวนั พืชมงคล ใหเ ปน วันใดวนั หนึ่งในเดือนพฤษภาคม แลว แตใ นแตล ะป พระราชพิธีมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวญั พระราชพิธมี งคลจรดพระนงั คลั แรกนาขวญั เปนพระราชพิธี 2 พธิ ี รวมกัน คือ พระราชพิธีพชื มงคลอันเปน พิธสี งฆอยา งหนงึ่ กับพระราชพิธีจรดพระนังคลั แรกนาขวญั อันเปน พิธี พราหมณอยา งหนง่ึ พระราชพธิ พี ชื มงคลนัน้ จะประกอบพระราชพธิ วี ันแรกในพระอุโบสถวัดพระ ศรีรตั นศาสดาราม สาํ หรบั พระราชพิธจี รดพระนงั คัลแรกนาขวญั จะประกอบพิธีในวนั รุง ข้ึน ณ มณฑลทอ งสนาม หลวง
พระราชพธิ จี รดพระนงั คัลแรกนาขวญั หรอื เรยี กส้ันๆ วา พิธีแรกนา เปน พระราช พธิ ีทมี่ ีมาแตโ บราณต้งั แตครงั้ สุโขทัยเปนราชธานี ซ่ึงในสมัยนน้ั พระมหากษตั ริยไ มไ ดลงมือไถนา เองเปนแตเ พยี งเสด็จไปเปน องคป ระธานในพระราชพิธเี ทา นั้น คร้นั ถงึ สมยั กรงุ ศรอี ยุธยา พระมหา กษตั รยิ ไ มไดเ สด็จไปเปน องคประธานเหมอื นสมยั กรงุ สโุ ขทัย แตจ ะมอบอาญาสทิ ธใิ หโ ดยทรงทาํ เหมือนอยางออกอํานาจจากกษตั ริยแ ละจะทรงจําศลี เงียบ 3 วัน ซึ่งวธิ นี ี้ไดใ ชต ลอดมาถึงปลายสมัย กรุงศรอี ยุธยา สมัยรตั นโกสนิ ทรใ นรชั กาลที่ 1 ไดโ ปรดใหข าราชการช้นั ผใู หญเปน ผูประกอบ พระราชพิธีแรกนาขวญั แทนพระองคค กู นั กับการยนื ชิงชา และมไิ ดถือวา เปนพิธีหนาพระทนี่ งั่ เวน แตเ ม่ือมพี ระราชประสงคจะทอดพระเนตร สถานท่ีประกอบพธิ ีในตอนแรกๆ จึงไมต ายตัว แลว แต จะทรงกาํ หนดให เชน ในรชั กาลที่ 2 พระบาทสมเดจ็ พระเจา อยหู วั กาํ ลงั ทรงปฏสิ งั ขรณว ดั อรุณฯ อยู แตใครจ ะไดทอดพระเนตรพธิ ีแรกนาขวัญ จึงตอ งยายไปทาํ กนั ทใี่ นทงุ หลงั วัดอรุณฯนัน่ เอง พอถึง รัชกาลท่ี 3 ใหถ อื วาผูใดยนื ชงิ ชา ผูน ัน้ เปนผแู รกนาดว ย ในรชั กาลท่ี 4 เคยยา ยไปทํากนั ทก่ี รุงเกา และ ท่เี พชรบรุ ี เปน เพราะในขณะนน้ั พระบาทสมเดจ็ พระเจาอยูหวั ประทบั อยูทนี่ นั่ และทรงโปรดเกลา ฯ ใหจ ดั มพี ธิ สี งฆเพ่ิมขนึ้ ในพระราชพธิ ีตางๆทุกพิธี ดังน้ันพระราชพธิ พี ืชมงคลจึงไดเ ริม่ มีขึ้นแตบดั น้นั มา โดยไดจ ัดรวมกบั พระราชพิธีจรดพระนงั คัลแรกนาขวัญ และมชี ื่อเรยี กรวมกนั วา พระราช พธิ ีพชื มงคลจรดพระนังคลั แรกนาขวัญ ตอมาในคราวหลงั ๆนี้ ไดยา ยไปทํากนั ที่ \"ทุง สม ปอย\" เกือบเปนประจํา ( ทงุ สมปอ ย : บรเิ วณทุงกวา งรมิ ถนนซงั ฮ้ี หรอื ถนนราชวถิ ใี นปจจบุ นั ตั้งอยู ระหวา งพระราชวงั ดุสิตและวังพญาไท พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา เจาอยูหวั ทรงพระกรุณาให ใชเ งนิ พระคลงั ขา งที่ซือ้ ไวเปน เนอ้ื ท่ี 395 ไร แลวโปรดใหจ ดั สรางพระตาํ หนกั ขึ้นหลงั หนง่ึ โดยใช เงนิ พระคลงั ขา งที่ พรอ มทงั้ นําช่ือพระตาํ หนกั เดิมจากวงั ปารสุ กวันมาพระราชทานเปนชื่อพระ ตาํ หนกั ใหมพรอ มเตมิ สรอ ยรโหฐานลงไปรวมเปน \"พระตําหนักจติ รลดารโหฐาน\" ) ในบทพระราชนพิ นธเ รอ่ื ง พระราชพธิ สี บิ สองเดือน ตอนหน่งึ วา \" การแรกนาทต่ี องเปนธุระของผซู ง่ึ เปนใหญใ นแผนดนิ เปน ธรรมเนยี มมมี าแต โบราณ เชน ในเมอื งจีนสพ่ี ันปล ว งมาแลว พระเจาแผนดนิ กท็ รงลงไถนาเองเปน คราวแรก พระ มเหสเี ล้ียงตวั ไหม สวนจดหมายเร่อื งราวอนั ใดในประเทศสยามท่ีมีปรากฏอยู ในการแรกนานก้ี ม็ อี ยู เสมอเปนนจิ ไมมเี วลาวางเวน ดวยการซ่ึงผเู ปน ใหญใ นแผน ดนิ ลงมอื ทาํ เองเชน นี้ ก็เพอ่ื จะใหเ ปน ตัวอยางแกราษฎร ชักนําใหม ใี จมน่ั ในการทจ่ี ะทาํ นาเพราะเปน สิง่ สาํ คัญท่จี ะไดอ าศยั เลี้ยงชีวติ ทวั่ หนา เปน ตน เหตุของความตง้ั มัน่ และความเจรญิ ไพบูลยแ หงพระนครทง้ั ปวง แตก ารซึง่ มพี ิธเี จือ ปนตา งๆไม เปนแตล งมือไถนาเปนตวั อยา งเหมือนอยา งชาวนาทั้งปวงลงมือไถนาของตนตามปกติ
กด็ ว ยความหวาดหวน่ั ตอ อนั ตรายคือ นาํ้ ฝน นา้ํ ทา มากไปนอยไป ดวงเพลี้ย และสตั วต างๆ จะ บังเกดิ เปน อันตรายไมใ หไ ดป ระโยชนเ ตม็ ภาคภูมแิ ละมคี วามปรารถนาท่จี ะใหไ ดป ระโยชนเต็ม ภาคภูมิเปนกาํ ลัง จงึ ตองหาทางท่ีจะแกไ ขและทางที่จะอุดหนนุ และท่จี ะเสี่ยงทายใหรลู วงหนา จะได เปน ทม่ี น่ั อกมัน่ ใจ โดยอาศยั คาํ อธษิ ฐานเอาความสตั ยเปนทต่ี ง้ั บา ง ทําการซึ่งไมมโี ทษนับวาเปน สวสั ดมิ งคลซง่ึ มาในพระพทุ ธศาสนาบา ง บูชาเซน สรวงตามท่ีมาทางไสยศาสตรบ า ง ใหเ ปน การ ชวยแรง และเปน ท่ีม่ันใจตามความปรารถนาของมนษุ ยซ ่ึงคิดไมม ีทีส่ นิ้ สดุ \" ดงั นัน้ จึงพอจะสรุปความมงุ หมายอันเปน มูลเหตใุ หเ กิดพระราชพิธีพชื มงคลฯ น้ี ไดว า พธิ แี รกนามุงหมายที่จะใหเปนตวั อยา งแกร าษฎร เพ่ือชักนําใหม คี วามม่ันใจในการทาํ นา อัน เปนอาชพี หลกั ที่สาํ คญั ของคนไทยที่มมี าแตช า นานสบื มาจนปจจุบนั ยงั คงเปน อยูอ ยางนน้ั เพราะ การเกษตรซง่ึ มีการทํานาเปน หลักนน้ั เปนส่ิงสาํ คญั แกช ีวิตความเปนอยูแ ละการเศรษฐกจิ ของ ประเทศทุกสมัย สว นพธิ ีกรรมนอกเหนือจากการทาํ ใหเปนตวั อยางตามทีท่ รงจําแนกไว 3 อยา ง 2 อยางแรก ทวี่ า \"อาศยั คาํ อธิษฐานเอาความสัตยเ ปนทีต่ งั้ บาง ทําการซ่ึงไมม โี ทษนับวา เปนการสวสั ดมิ งคลตามซ่งึ มาในพระพทุ ธศาสนาบาง\" นน้ั ทรงหมายถึง พธิ ีพชื มงคล อนั เปนพธิ ีสงฆที่กระทํา ณ วัดพระศรรี ตั นศาสดาราม สวนอกี อยา งหน่ึงทวี่ า \"บูชาเซนสรวงตามท่ีมาทางไสยศาสตรบ าง\" นน้ั ทรงหมายถงึ พิธีจรดพระนงั คลั แรกนาขวญั อนั เปน พธิ พี ราหมณ พระราชพธิ พี ชื มงคลจรดพระนงั คัลแรกนาขวัญ เปน พธิ ีการเพือ่ ความเปนสิริ มงคลและบาํ รงุ ขวญั เกษตรกรกาํ หนดจดั ขน้ึ ในเดอื นหกของทุกป ซึ่งระยะนี้เปน ระยะเหมาะสมท่ี จะเร่มิ ตนการทํานาอนั เปนอาชีพหลกั ของประชาชนคนไทย แตไมไ ดกําหนดวนั ทแี่ นน อนไว เหมอื นกับวันในพระราชพิธอี น่ื ๆ สว นจะเปนวนั ใด ในเดอื นหกหรอื เดือนพฤษภาคมท่มี ฤี กษยาม เหมาะสมตอ งตามประเพณีกใ็ หจดั ขน้ึ ในวนั น้ัน พระราชพธิ พี ชื มงคลเปนพิธีทําขวัญพืชพนั ธธุ ัญญาหาร ทพ่ี ระบาทสมเด็จพระ เจาอยูหวั ทรงอธิษฐานเพื่อความอุดมสมบรู ณข องพืชพันธุธัญญาหารแหงราชอาณาจกั รไทย ขา วนนั้
ถอื วาเปนอาหารหลักของประชาชน ในภาษาบาลีเรียกวา ปพุ พณั ณะ หรือ บุพพัณณะ หรอื บุพพณั ณชาติ สวนพชื อืน่ ๆ ทเ่ี ปน อาหารเรยี กวา อปรณั ณ หรอื อปรณั ชาติ หมายถงึ พชื ที่เปน อาหารทกุ ชนดิ บุพพัณณชาติ ทีน่ ําเขาพิธพี ืชมงคลน้นั เปนขาวเปลอื ก มที ง้ั ขา วเจา และขา วเหนยี ว นอกจากนม้ี ีเมล็ดพชื ตางๆ รวม 40 อยา ง แตละอยา งบรรจถุ ุงผาขาวกับเผอื กมนั ตา งๆ พนั ธุพ ชื เหลาน้เี ปน ของปลูกงอกไดท ้ังส้ิน นอกจากนีย้ ังมีขา วเปลอื กท่หี วานในพิธีแรกนาบรรจุกระเชา ทอง คหู นึง่ และเงนิ คหู นง่ี เปนขาวพันธุด ที ี่โปรดฯใหปลูกในสวนจิตรลดา และพระราชทานมาเขา พิธีพืช มงคล พนั ธขุ าวพระราชทานน้จี ะใชห วานในพระราชพิธีแรกนาสวนหนึ่ง อกี สวนหนง่ึ ทเี่ หลือ ทางการจะบรรจซุ องแลวสง ไปแจกจายแกช าวนาและประชาชนในจังหวัดตางๆ ใหเ ปนม่งิ ขวญั และ เปน สิรมิ งคลแกพชื ผลท่จี ะเพาะปลูกในปน ้ี อนง่ึ นับต้ังแตป พ.ศ.2509 เปนตน มา คณะรฐั มนตรีได ประชุมปรกึ ษาลงมตใิ หว นั พระราชพิธพี ชื มงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวญั นเี้ ปนวนั เกษตรกร ประจาํ ปอกี ดว ย ทั้งนเี้ พื่อใหผ ูมีอาชพี ทางการเกษตรพงึ ระลึกถงึ ความสาํ คัญของการเกษตร และ รว มมือกันประกอบพระราชพิธพี ืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญเพอ่ื เปน สริ มิ งคลแกอาชพี ของ ตน ทัง้ ยงั กอ ใหเกดิ ประโยชนแ กเ ศรษฐกจิ ของประเทศชาติ จึงไดม กี ารจดั งานวันเกษตรควบคูไ ปกบั งานพระราชพธิ พี ืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญตลอดมา ทม่ี า: สํานกั งานคณะกรรมการวัฒนธรรมแหง ชาติ (Office of the National Culture Commission)
Search
Read the Text Version
- 1 - 4
Pages: