Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ภูมิปัญญาท้องถิ่นชุมชนเกาะสุกร

ภูมิปัญญาท้องถิ่นชุมชนเกาะสุกร

Published by sukanyakrainara19, 2021-02-23 05:11:34

Description: ภูมิปัญญาท้องถิ่นชุมชนเกาะสุกร

Search

Read the Text Version



ก ภมู ิปัญญาทอ้ งถ่ินของชุมชน ตาบลเกาะสกุ ร อาเภอปะเหลียน จงั หวดั ตรัง Local Wisdom of the Community Koh Sukorn, Palian District, Trang Province เรียบเรียงโดย สุดคนงึ ณ ระนอง ประภาศรี ศรชี ยั วิกิจ ผนิ รับ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรวี ชิ ัย ได้รบั ทนุ สนบั สนนุ วจิ ัยจากสานกั งานคณะกรรมการส่งเสริมวทิ ยาศาสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรม ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563

ข คานา เอกสารเผยแพร่ฉบับน้ี เป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัยเรื่อง “การศึกษา วิถีชุมชนและภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อการอนุรักษ์ของตาบลเกาะสุกร อาเภอ ปะเหลียน จังหวัดตรัง” ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากสานักงาน คณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิถีชุมชนและรวบรวมองค์ความรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่นของตาบลเกาะสุกร ซึ่งเป็นพื้นท่ีท่ีมีความโดดเด่นในเร่ือง ภูมปิ ัญญาทอ้ งถ่นิ รวมถึงมีความเข้มแข็งทางด้านอาชีพและการมสี ่วนรว่ มของ คนในชุมชน คณะผู้วิจัยได้รวบรวมข้อมูลท้ังจากแหล่งข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary Data) จากเอกสารต่าง ๆ โดยการศึกษาบริบทชุมชนตาบล เกาะสุกร ประวัติความเป็นมา ท่ีต้ังอาณาเขต สภาพทางสังคมและเศรษฐกิจ แ ล ะ ศั ก ย ภ า พ ข อ ง ชุ ม ช น ร ว ม ถึ ง ก า ร เ ก็ บ ข้ อ มู ล จ า ก แ ห ล่ ง ข้ อ มู ล ป ฐ ม ภู มิ (Primary Data) โดยการสัมภาษณ์ผู้นาชุมชน ตัวแทนชุมชน ตัวแทนกลุ่ม อาชีพ และประชาชนในพื้นท่ี เกี่ยวกับภูมิปัญญาท้องถ่ินท่ีโดดเด่นของชุมชน ได้แก่ ด้านเกษตรกรรม ด้านอาหาร ด้านการทาขนมพ้ืนบ้าน ด้านการแปรรปู ผลิตภัณฑ์ประมง และด้านศลิ ปหตั ถกรรม เปน็ ตน้ คณะผู้วิจัยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการ เรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นของชุมชนตาบลเกาะสุกร เพ่ือการอนุรักษ์ฟ้ืนฟู และ สืบสานภมู ปิ ัญญาท้องถ่ินของชุมชนให้เกิดความยั่งยืนต่อไป คณะผู้วจิ ัย

ค สารบัญ หนา้ คานา ............................................................................................................ข สารบญั .........................................................................................................ค สารบญั ภาพ.................................................................................................. ง บทที่ 1 บทนา...............................................................................................1 บทท่ี 2 ข้อมูลบรบิ ทชมุ ชน............................................................................5 บทที่ 3 ภมู ิปญั ญาท้องถิน่ ของชุมชนตาบลเกาะสุกร....................................10 เอกสารอา้ งองิ .............................................................................................26 ผู้ให้ข้อมูลหลัก ............................................................................................28 คณะผวู้ จิ ยั ...................................................................................................29 ภาพประทับใจจากการลงพน้ื ทีช่ ุมชนตาบลเกาะสุกร...................................30

ง สารบัญภาพ หนา้ ภาพท่ี 1 ความสมั พนั ธ์ของภมู ิปัญญาท้องถ่ิน ................................................2 ภาพที่ 2 กรอบแนวความคดิ .........................................................................4 ภาพท่ี 3 เกาะสุกร ........................................................................................6 ภาพที่ 4 วถิ ชี ีวิตชมุ ชนตาบลเกาะสุกร...........................................................8 ภาพที่ 5 แตงโมเกาะสุกร............................................................................11 ภาพท่ี 6 การทานาปลกู ขา้ วในพื้นท่ีเกาะสุกร..............................................12 ภาพที่ 7 ซเี ซะ มะพร้าวขูดคัว่ จนแห้งนามาตาจนแตกมัน............................13 ภาพที่ 8 วัตถดุ ิบและส่วนผสมของแกงไก่ตายาย.........................................14 ภาพที่ 9 การเค่ียวสว่ นผสมของแกงไก่ตายาย .............................................15 ภาพท่ี 10 แกงไกต่ ายายท่โี ดดเดน่ ดา้ นรสชาติและความหอมของ เครือ่ งเทศ .................................................................................15 ภาพที่ 11 วัตถุดิบหลักของเครือ่ งแกงตามือ................................................16 ภาพที่ 12 เคร่ืองแกงตามือเกาะสกุ ร...........................................................17 ภาพท่ี 13 วัตถดุ ิบและส่วนผสมของขนมตาหยาบ.......................................18 ภาพท่ี 14 ส่วนผสมของแป้งขนมตาหยาบ ..................................................19 ภาพท่ี 15 ขนั้ ตอนการทาขนมตาหยาบ.......................................................20 ภาพที่ 16 ปลาจอ้ งม้อง...............................................................................21 ภาพท่ี 17 ข้ันตอนการทาปลาวงหรอื ปลาดอกไม้ ........................................22 ภาพที่ 18 จอ๊ ปูเกาะสกุ ร.............................................................................23 ภาพที่ 19 อุปกรณ์ทีใ่ ชท้ าผา้ บาตกิ ..............................................................24 ภาพท่ี 20 ข้นั ตอนการทาผา้ บาติก ..............................................................25

1 บทที่ 1 บทนา สังคมไทยเป็นสังคมเก่าแก่ท่ีมีภูมิปัญญาสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ภูมิปัญญาเป็นความคิดทางสังคมท่ีสาคัญอย่างหนึ่งซึ่งแสดงถึงความเป็น เอกลักษณ์ไทย และเป็นเคร่ืองชี้วัดความเจริญและวิถีชีวิตของคนแต่ละสังคม รวมถึงการส่ังสมภูมิปัญญาเฉพาะตน หรือการสร้างภูมิปัญญาเฉพาะในแต่ละ พ้ืนท่ีจนเกิดขึ้นเป็น “ภมู ิปญั ญาท้องถิน่ ” (Local Wisdom) หรอื ภมู ิปญั ญา ชาวบ้านเป็นการจัดการความสัมพันธ์ระหว่างคนกับคน คนกับธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อม โดยผ่านกระบวนการทางจารีตประเพณี วิถีชีวิต การทามาหากิน และพิธีกรรมต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างความสัมพันธ์ต่าง ๆ เหล่าน้ัน ภูมิปัญญาท้องถิ่นเป็นความสัมพันธ์ระหว่างการจัดการ (Manage) การใช้ความรู้ (Knowledge) ทักษะ (Skills) ความเชื่อ (Belief) และ พฤติกรรม (Behavior) ของกิจกรรมต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้องกับวิถีชีวิตในชุมชน และสังคมซึ่งเป็นปัจจัยที่สาคัญต่อการพัฒนาชีวิต การอยู่รอดของบุคคล ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและทางด้านสังคม เน่ืองจากภูมิปัญญาท้องถ่ินหรือ ภูมิปัญญาชาวบ้านเกิดข้ึนจากความรู้ ประสบการณ์ และแนวคิดที่ชุมชน ได้มีการถ่ายทอดสืบสานต่อกันมา อาจเป็นการประดิษฐ์คิดค้นสร้างสรรค์ เพื่อให้ใช้ประโยชน์จากส่ิงแวดล้อม และการแก้ปัญหาที่เกิดข้ึนในท้องถ่ิน เพ่ือคุณภาพชีวิตท่ดี ีข้ึน

2 Manage Behavior Local Knowledge Wisdom Belief Skills ภาพท่ี 1 ความสัมพันธข์ องภูมิปัญญาท้องถน่ิ ภาพที่ 1 ความสัมพันธข์ องภูมิปัญญาท้องถน่ิ ภูมิปัญญาท้องถ่ิน เป็นความรู้ความสามารถและความชานาญซึ่งเกิด จากความรอบรู้หรือประสบการณ์การเรียนรู้ และนามาใช้ให้เกิดประโยชน์ ในการสร้างเครื่องมือเคร่ืองใช้ในการประกอบอาชีพ หรือการดารงชีวิต ในชุมชนของตน และมีการถ่ายทอดองค์ความรู้เหล่านั้นสืบต่อกันมาจาก บรรพบรุ ุษ ภูมปิ ัญญาจงึ จัดเป็นทุนทางวฒั นธรรมทม่ี คี วามสาคัญยิง่ ของมนุษย์ ที่สะสมงอกงามขึ้นตามความรู้ ประสบการณ์ ซึ่งสอดคล้องและเหมาะสมกับ บรบิ ทตา่ ง ๆ ของชุมชน ท้องถนิ่ และสังคมในแตล่ ะพน้ื ที่

3 ดังนน้ั ภูมปิ ญั ญาจงึ มีคุณค่าไมเ่ พียงแต่ท้องถิ่นและผู้คนเทา่ นั้น แตย่ งั เอ้ือประโยชน์อย่างใหญ่หลวงต่อการวางแผนพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนและ มั่นคง ภูมิปัญญาท้องถิ่น ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมดั้งเดิม จึงเป็นตัวกาหนดคุณลักษณะของแต่ละสังคม อีกทั้งยังเป็นส่ิงท่ีเหมาะสม ทรงคุณค่าและมีความสาคัญเพ่ือใช้เป็นแนวทางในการดาเนินชีวิตอยู่ร่วมกัน อย่างมีความสุขอีกทั้งยังช่วยสร้างความสมดุลระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อม ทางธรรมชาติ และอานวยประโยชน์ในการทางานเพ่ือพัฒนาชนบทของกลุ่ม บุคคล ท้ังจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน โดยใช้เป็นแนวทางในการทางาน ให้สอดคล้องและผสมกลมกลืนกับวิถีชีวิตของชาวบ้านมากย่ิงขึ้น และ การอนุรักษ์ ฟื้นฟู สืบสาน ภูมิปัญญาท้องถิ่น ควรเกิดจากการมีส่วนร่วมของ ทุกคนในชมุ ชน การจัดการภูมิปัญญาท้องถ่ินต้องบูรณาการให้สอดคล้องกับวิถีชีวิต และสภาพของชุมชนโดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมในการถ่ายทอดแลกเปล่ียน และเรียนรู้ร่วมกันของชุมชนท้องถ่ินที่เช่ือมโยงองค์ความรู้และความต้องการ ของชุมชน อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้ชุมชนท้องถ่ินตระหนักถึงความสาคัญ ของกระบวนการถา่ ยทอดและแลกเปล่ยี นเรียนรูร้ ่วมกันโดยอยู่บนพื้นฐานของ การผสมผสานร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่นเพ่ือนาไปสู่ชุมชนแห่งการเรียนรู้ (Learning Community) และการพฒั นาท้องถนิ่ ท่ยี ั่งยืนตอ่ ไป

4  กรอบแนวความคิด การศึกษาภูมิปัญญาท้องถิ่นตาบลเกาะสุกร อาเภอปะเหลียน จงั หวดั ตรงั เป็นรวบรวมองคค์ วามรู้ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถนิ่ โดยกาหนดรูปแบบและ วธิ กี ารศึกษาจากแนวคิดเก่ียวกับภูมิปญั ญาท้องถนิ่ และการสืบสานวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถ่ินของชุมชนตาบลเกาะสุกร ตามกรอบแนวความคิด (Conceptual Framework) ดงั น้ี บริบทชุมชน ขอ้ มูลปฐมภูมิ ตาบลเกาะสุกร ภูมิปญั ญาท้องถ่ิน องค์ความรู้  ประวตั คิ วามเปน็ มา ของชมุ ชน ภมู ปิ ัญญาท้องถิ่น  ทตี่ ้งั อาณาเขต ของชุมชนตาบล  สภาพทางสังคม  ดา้ นเกษตรกรรม และเศรษฐกจิ  ดา้ นอาหาร เกาะสุกร  ศักยภาพของชมุ ชน  ดา้ นขนมพนื้ บ้าน  ด้านการแปรรูป ขอ้ มูลทตุ ิยภูมิ ผลิตภณั ฑ์ประมง  ดา้ นศิลปหตั ถกรรม การถ่ายทอดความรู้ ภูมิปญั ญาท้องถ่ิน ของชมุ ชนตาบลเกาะ ภาพท่ี 2 กรอบแนวความคิด

4 บทที่ 2 ขอ้ มลู บรบิ ทชุมชน  ประวัตคิ วามเปน็ มา ข้อมูลที่เก่ียวข้องกับประวัติความเป็นมาของชุมชนตาบลเกาะสุกร อาเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง มีการเก็บรวบรวมข้อมูลไว้จากแหล่งข้อมูล ต่าง ๆ ได้แก่ 1) แผนพัฒนาท้องถิ่น (พ.ศ. 2561 – 2565) เพ่ิมเติม คร้ังที่ 1 พ.ศ. 2564 ขององค์การบริหารส่วนตาบลเกาะสุกร อาเภอปะเหลียน จงั หวดั ตรัง และ 2) แผนยทุ ธศาสตร์การพฒั นาเกาะสุกร สรปุ ได้ดงั น้ี “...เกาะสุกรเม่ือคร้ังอดีตไม่ได้อยู่ในเขตการปกครองของ เมืองตรัง แต่อยู่ในเขตการปกครองของเมืองปะลันด้า หรืออาเภอ ปะเหลียนในปัจจุบัน เมืองปะลันด้านขึ้นอยู่กับเมืองพัทลุง และเมือง ปะลันด้า มีพระยาปกครองจนถึงสมัยพระยารัษฎานุประดิษฐ์ มหิสรภักดี คอซิมบี้ ณ ระนอง เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด (ข้าหลวง ในอดีต) ได้แยกเมืองปะลันด้านออกจากพัทลุงให้เหมาะสมกับ ภมู ปิ ระเทศ คือ อยู่ฝ่งั เดียวกบั ตรงั ตอ้ งข้นึ ตรงกับตรงั จึงเหมาะสมกว่า และได้ต้ังปะลันด้าเป็นเมืองหน้าด่านข้ึน มีท่าเทียบเรือสาเภา ณ บ้านหยงสตาร์ในบริเวณดา่ นศลุ กากรในปจั จบุ ัน...” “....ในอดีตพระเจ้าตากสินมหาราชเคยมาตรงั ตั้งค่ายทาศึก รบกับแขกท่ตี าบลลิพังใกล้ ๆ กับหัวเขาโต๊ะรว่ งในปัจจุบัน ดงั น้นั คน บนเกาะสุกรน้ีจึงมีพื้นเพมาจากหลายจังหวดั คือ คนเมืองตรัง กระบ่ี พัทลุง สงขลา สตลู รวมทัง้ มาเลเซีย อินโดนเี ซยี คนกลมุ่ แรกทเี่ ข้ามา อยูอ่ ย่างถาวร คือ ชนเร่รอ่ น เพอ่ื หาผลจากธรรมชาติ เช่น นา้ มนั ยาง สัตว์ทะเล สัตว์บก เช่น กวาง หมูป่า และแวะจอดเรือเพ่ือมาหาน้า ดื่ม ซึง่ บนเกาะมีน้าจืดอุดมสมบรู ณ์...”

5 นอกจากนี้ ยังมีเร่ืองเล่าตานานการเข้ามาต้ังถิ่นฐานในชุมชนตาบล เกาะสกุ รไวด้ ังนี้ “...ตามตานานเล่าว่า จังหวัดตรังสมัยก่อนมีอาเภอกันตัง เป็นท่าเทียบเรือเพ่ือค้าขายกับชาวต่างชาติ จะต้องรอให้น้าข้ึนเต็มท่ี ก่อนถึงจะนาเรือเข้าไปได้ วันหนึ่งเรือสาเภาของลูกชายเศรษฐีชาว อินโดนีเซีย ซึ่งนับถือศาสนาอิสลามได้นาเรือมาจอดรอน้าขึ้นที่ บริเวณหน้าหาดทรายยาว บังเอิญได้พบเจอกับลูกสาวของตายายท่ี อาศยั อยบู่ ริเวณนน้ั กเ็ กิดชอบและหลงรักอย่างมาก แม้จะรวู้ า่ ลกู สาว ตากบั ยายเปน็ ผ้นู บั ถือศาสนาพุทธก็ตาม...” “...ต่อมา จึงได้ไปสู่ขอลูกสาวตายายและได้พากลับไป แต่งงานท่ีประเทศอินโดนีเซีย ต่อมาลูกสาวได้เดินทางกลับมาเย่ียม ตากับยาย โดยนาเรือสาเภามาจอดท่ีหน้าหาดทรายยาว ตากับยายดี ใจมากจึงรีบมาหาลูกสาวพร้อมกับซ้ือของท่ีลูกสาวชอบคือ หมูปิ้ง เสยี บไมม้ าฝาก เพราะความเป็นห่วงลูกสาวและไม่ได้เห็นหน้าลูกสาว มานาน แต่แล้วลูกสาวเมอ่ื เหน็ หน้าตายายพร้อมหิว้ หมูปิง้ มาหา กลับ จาตากับยายไม่ได้ ตากับยายจึงโกรธและเสียใจมากจึงได้ขว้างหมูป้ิง ท้งิ ลงทะเล และไดส้ าปแช่งลูกสาวตนเอง ให้ประสบพบภัยพบิ ตั ิ...” “...และแล้วต่อมา เรอื สาเภาไดป้ ระสบกบั พายุทาให้เรือแตก ส่ิงของต่าง ๆ ที่อยู่ในเรือได้ลอยไปและกลายเป็นเกาะต่าง ๆ ขึ้นมา เช่น ปลีกล้วยกลายเป็น “เกาะจาปี” สะบันท่ีโพกหัวกลายเป็น “เกาะสะบัน” เฉลียงสองอันกลายเป็น “เกาะหลาวเหลียงพี่” “หลาวเหลียงน้อง” เรือสาเภากลายเป็น “เกาะเภตรา” ตากับยาย กลายเป็นต้นมะม่วงสองต้น เรียกว่า “ม่วงเงินม่วงทอง” ปัจจุบันคือ “เกาะพระม่วง” ไม้เสียบหมูปิ้งกลายเป็น “เกาะใหญ่” ปัจจุบัน เรียกว่า “เกาะสกุ ร”...”

6 ภาพท่ี 3 เกาะสกุ ร  ทตี่ ั้งอาณาเขต “เกาะสุกร” เป็นตาบลหน่ึงของอาเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง เป็นพื้นที่ที่ตั้งอยู่กลางทะเล โดยยังไม่มีสะพานเชือ่ มต่อระหว่างเกาะกับตาบล รอบนอก ต้องใช้เรือยนต์เป็นพาหนะในการเดินทาง มีเน้ือท่ีทั้งหมดประมาณ 8,750 ไร่ หรอื ประมาณ 14 ตารางกโิ ลเมตร พื้นที่ส่วนใหญ่เปน็ ทีร่ าบสลบั เนิน เขา ตัง้ อยสู่ ูงจากระดบั น้าทะเลปานกลาง (Mean Sea Level) 75 เมตร อาณาเขต ติดต่อกับ ตาบลตะเสะ อาเภอหาดสาราญ ทศิ เหนือ จงั หวัดตรัง ทิศใต้ ตดิ ตอ่ กับ ทะเลอันดามัน มหาสมุทรอินเดยี ทศิ ตะวนั ออก ติดตอ่ กับ อาเภอท่งุ หว้า จงั หวัดสตลู ทิศตะวนั ตก ตดิ ตอ่ กับ ตาบลเกาะลิบง อาเภ อกันตัง จงั หวดั ตรัง

7 ลักษณะภมู ปิ ระเทศ สภาพพื้นท่ีตาบลเกาะสุกรโดยท่ัวไปเป็นพ้ืนที่รูปเรียวยาว จากทิศ ตะวนั ออกไปยังทิศตะวันตก พ้นื ท่ที างทิศตะวนั ออกเปน็ ที่ราบ ตอนกลางเกาะ เป็นภูเขาค่อนข้างสูง ราบสลับเนินเขามีชาดหาดเป็นแนวยาวเลียบบริเวณ ชายฝ่ัง การต้ังถ่ินฐานของราษฎรตั้งบ้านเรือนอยู่กระจัดกระจายไปตาม แนวทางคมนาคมและแนวชายฝ่ังทะเลเปน็ ส่วนใหญ่ ลกั ษณะภูมิอากาศ อยู่ภายใต้อิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ช่วงกลางเดือน พฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคม และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วง กลางเดือนตลุ าคมถงึ กลางเดอื นพฤษภาคม  สภาพทางสงั คมและเศรษฐกิจ ตาบลเกาะสุกร มีประชากรทั้งสิ้น 2,576 คน เป็นชาย 1,308 คน หญงิ 1,268 คน และมีจานวนครวั เรือน 942 ครวั เรือน* แบง่ เขตการปกครอง ออกเปน็ 4 หม่บู า้ น ได้แก่ 1) หมทู่ ี่ 1 บา้ นเสียมไหม 2) หมทู่ ่ี 2 บ้านแหลม 3) หมู่ท่ี 3 บา้ นทุ่ง 4) หมูท่ ี่ 4 บ้านหาดทรายทอง ประชาชนในเกาะสุกรส่วนใหญ่ร้อยละ 96.98 นับถือศาสนาอิสลาม และประกอบอาชีพทางด้านการเกษตร ทาสวนยางพารา ทานา ปลูกแตงโม ปลูกพืชทั่วไป และประกอบอาชีพการทาประมง นอกจากน้ี หมู่ที่ 2 และ หมูท่ ่ี 3 สว่ นใหญจ่ ะเล้ียงควาย ส่วนหมทู่ ่ี 1 และหมู่ท่ี 4 ส่วนใหญจ่ ะประกอบ อาชีพเลย้ี งววั แพะ และไก่ เป็นตน้ __________________________________ * ขอ้ มลู จากงานทะเบียนราษฎร์ ทที่ าการปกครองอาเภอปะเหลียน จงั หวดั ตรงั ณ เดอื นมนี าคม 2563

8 ภาพที่ 4 วิถีชีวติ ชุมชนตาบลเกาะสกุ ร

9  ศักยภาพของชุมชน พื้นที่ตาบลเกาะสุกร มีลักษณะภูมิประเทศท่ีโดดเด่น เน่ืองจากเป็น พื้นที่ที่เป็นเกาะมีทะเลล้อมรอบ มีทัศนียภาพที่สวยงาม มีความงดงามของ ทอ้ งทะเล ภเู ขา และท่งุ นา รวมถึงวิถชี วี ิตทเ่ี รียบงา่ ยของคนในชมุ ชน การรวมกลุ่มของประชาชนในชุมชนตาบลเกาะสุกร ประกอบด้วย กลมุ่ อาชีพ จานวน 17 กลุ่ม รายละเอียดดงั นี้ กลุม่ อาชีพ 1. กลมุ่ เครอื่ งแกง 2. กลุ่มทาขนม 3. กลุ่มเลย้ี งควาย 4. กลมุ่ แปรรปู ผลติ ภัณฑ์สัตวน์ ้า 5. กลุ่มประมงชายฝงั่ บา้ นทงุ่ 6. กลุ่มอนรุ กั ษพ์ นั ธุไ์ ก่พน้ื เมืองเพ่อื การกีฬา 7. กลุ่มนาขา้ วแปลงใหญ่ 8. กลุ่มบาตกิ 9. กล่มุ ปุ๋ย 10. กลมุ่ แตงโม 11. กลุ่มจกั สาน 12. กลมุ่ วสิ าหกจิ ชมุ ชนท่องเทย่ี วเกาะสุกร 13. กล่มุ ชมรมสามล้อพว่ งเกาะสกุ ร 14. กล่มุ ออมทรพั ยบ์ ้านเสียมไหม 15. กลมุ่ ของทรี่ ะลึกตาบลเกาะสกุ ร 16. กลุ่มรบั ซ้ือยางแผ่นตาบลเกาะสุกร 17. กลมุ่ ธนาคารปุ๋ยชมุ ชนตาบลเกาะสกุ ร

10 บทท่ี 3 ภูมปิ ญั ญาท้องถน่ิ ของชมุ ชนตาบลเกาะสกุ ร  ภมู ิปัญญาทอ้ งถิน่ ดา้ นเกษตรกรรม การปลูกแตงโม “แตงโมเกาะสุกร” เป็นแตงโมที่มีชื่อเสียงและมีรสชาติท่ีดีที่สุด ของจังหวัดตรัง เน่ืองจากสภาพพื้นที่ อุณหภูมิ สภาพอากาศ และลักษณะดิน ท่ีเป็นดินทรายซ่ึงเหมาะสาหรับการเจริญเติบโตของแตงโม ทาให้มีรสชาติ หวาน กรอบ และเป็นเอกลักษณ์ท่ีแตกต่างจากแตงโมในพื้นท่ีอ่ืน การปลูก แตงโมในพืน้ ที่เกาะสุกร ประกอบดว้ ย 3 ช่วง คอื 1) แตงโมคันนา ช่วงเดอื นสงิ หาคม – ตุลาคม จะปลูกแตงโมบริเวณ บนโคกและคนั นา 2) แตงโมชายหาด ช่วงเดือนตุลาคม – ธันวาคม จะปลูกแตงโม บริเวณชายหาด 3) แตงโมในนา ช่วงเดือนมกราคม – มีนาคม จะปลูกแตงโม ในพน้ื ท่ีนาภายหลงั จากการเกบ็ เก่ียวข้าวแล้ว พ้ืนท่ีท่ีเหมาะต่อการปลูกแตงโมมากท่ีสุด คือ บริเวณหาดแตงโม ในพื้นที่หมู่ 2 บ้านแหลม จังหวัดตรัง ซ่ึงมีเน้ือท่ีประมาณ 700 ไร่ เนื่องจาก มีลักษณะเป็นดินร่วนปนทรายตามแนวชายหาดและมีฝนฟ้าตกตลอดช่วง ฤดูกาล จึงไม่จาเป็นต้องหาน้าจืดมารด ทาให้ต้นแตงโมงอกงามได้ดี และสามารถปลูกได้ถึงปีละ 3 รุ่น โดยเฉพาะรุ่นที่ปลูกริมชายหาด จะเป็นท่ี ตอ้ งการของตลาดมากที่สดุ และมีการสง่ ไปขายไกลในหลายจังหวัด

11 การปลูกแตงโมเกาะสุกร เกษตรกรส่วนใหญ่จะใช้ปุ๋ยจากธรรมชาติ เช่น มูลข้ีควาย และมีภูมิปัญญาท้องถิ่นในการกาจัดศัตรูพืช กาจัดหนอน เพล้ียจักจ่นั ด้วยพืชสมุนไพรโดยไมใ่ ช้สารเคมี เชน่ ข่าแก่ ใบสะเดา บอระเพ็ด ขี้เหลก็ หอมแดง ยาเสน้ นา้ ด่างขเี้ ถ้า นา้ สม้ สายชู ต้มรวมกนั แล้วฉดี เพื่อกาจัด แมลงที่รบกวนการเจริญเติบโตของแตงโม และใช้ระยะเวลาประมาณ 60 วนั กส็ ามารถเกบ็ เกย่ี วผลผลิตเพ่อื ออกจาหน่ายได้ ปัจจุบันมีการคิดค้นการปลกู แตงโมเกาะสุกรไร้เมล็ด โดยนายธวัชชัย ไข่มุสิก ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลูกแตงโมเกาะสุกรปลอดสารพิษ ได้ คิดค้นการปลูกแตงโมไร้เมล็ดพันธแ์ุ ฮปปแ้ี ฟลิมี่ ซึ่งเป็นแตงโมไรเ้ มล็ด ลูกใหญ่ และมีน้าหนักลูกละประมาณ 7 – 12 กิโลกรัม แตงโมมีรสชาติหวานกรอบ เปลือกบาง สีแดงเข้ม สาหรับข้อดีของแตงโมไร้เมล็ดคือ ติดผลถึง 3 รุ่น ในขณะที่แตงโมทั่วไปจะให้ผลผลิตเพียงรุ่นเดียว แถมยังใช้ปุ๋ยน้อย น้าน้อย ตน้ ทุนต่า และสร้างรายได้ใหก้ ับเกษตรกรเพ่ิมมากขึ้น ภาพท่ี 5 แตงโมเกาะสุกร

12 การทานา “การทานาปลูกข้าว” เป็นอาชีพเกษตรกรรมหลักอย่างหนึ่งในพ้ืนที่ ชุมชนตาบลเกาะสุกร การทานาปลูกข้าวส่วนใหญ่จะเก็บเก่ียวผลผลิตไว้เพ่ือ การบริโภคตลอดทั้งปี ส่วนที่เหลือก็จะนามาแจกจ่ายแบง่ ปันภายในเกาะและ จาหนา่ ยในพื้นทีร่ อบนอก พนั ธ์ขุ า้ วทีน่ ยิ มปลกู คือ หอมมะลิ และหอมมะลิแดง ผลผลิตข้าวในพ้ืนท่ีเกาะสุกรเป็นการทานาแบบอินทรีย์โดยไม่ใช้สารเคมี ใช้ ปุ๋ยจากธรรมชาติ เช่น มูลสัตว์ ปุ๋ยหมัก และกาจัดศัตรูพืชต่าง ๆ ด้วยวิธีการ ทางธรรมชาติ โดยใชส้ มุนไพรขับไลแ่ มลง ฤดูกาลทานาปลูกข้าวจะเริ่มประมาณช่วงเดือนกันยายน - ตุลาคม มีการไถนาเตรียมพื้นท่ีเพาะปลูก หว่านกล้า เตรียมต้นกล้าสาหรับปลูกข้าว และเก็บเกี่ยวผลผลิตหลังจากท่ีข้าวออกดอกหรือออกรวงแล้วระยะเวลา ประมาณ 20 – 30 วนั ภาพท่ี 6 การทานาปลกู ข้าวในพ้นื ทเ่ี กาะสกุ ร

13  ภมู ิปัญญาทอ้ งถ่นิ ด้านอาหาร แกงไกต่ ายาย “แกงไก่ตายาย” เป็นอาหารพื้นถิ่นท่ีขึ้นชื่อและมีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น ของชุมชนตาบลเกาะสุกร ในอดีตจะทาแกงไก่ตายายเพ่ือเป็นการราลึกถึง บรรพบุรุษท่ีล่วงลับไปแล้ว แต่ในปัจจุบันชาวบ้านจะทาแกงไก่ตายายในงานบุญ งานเทศกาลสาคัญต่าง ๆ แกงไก่ตายายจะมีรสชาติอร่อยและมีกล่ินหอมของ เคร่อื งแกงและเครื่องเทศซึง่ เป็นสูตรเฉพาะของท้องถ่ิน สว่ นผสมของแกงไกต่ ายาย ประกอบด้วยวตั ถุดิบทส่ี าคัญ ๆ ดงั นี้ 1. ไกบ่ ้านท้ังตัว จะเลอื กใช้ไกบ่ ้าน เนื่องจากมีรสชาติเหนียวนุ่ม อร่อย โดยจะใชไ้ ก่ท้ังตัว เมอื่ ลา้ งทาความสะอาดไก่แลว้ จะสบั หัวไก่ท้ิง สว่ นเครอื่ งในไก่ จะใสไ่ วใ้ นตัวไก่น้ัน ๆ ไก่บ้านควรเลือกขนาดที่ไม่เล็กหรือใหญจ่ นเกินไป นา้ หนัก ประมาณ 1.5 กโิ ลกรมั 2. เคร่ืองแกง ประกอบด้วย หอมแดงซอย ขม้ิน กระเทียม ตะไคร้ โขลกหรอื ผสมรวมกนั แล้วใส่กะปิลงไปผสม 3. เครื่องเทศ ประกอบด้วย พริกไทยดา เมล็ดผักชี พริกแห้ง มะพร้าว วัตถุดิบท้ังหมดเหล่าน้ีให้คั่ววัตถุดิบแต่ละชนิดจนกระท่ังมีกล่ินหอม แล้วจึงตา ให้ละเอียดเปน็ ผง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมะพร้าวคว่ั หรือที่ชาวบ้านเรยี กว่า “ซีเซะ” เปน็ มะพรา้ วขูดค่วั จนแห้งเป็นสนี ้าตาล นามาตาจนแตกมนั ภาพที่ 7 “ซเี ซะ” มะพร้าวขูดคั่วจนแห้งนามาตาจนแตกมัน

14 4. กะทิ จะใช้ท้ังหัวกะทิ และหางกะทิ ควรใช้กะทิท่ีค้ันสดจะมี รสชาติอร่อยกวา่ กะทิกลอ่ งทีจ่ าหนา่ ยในทอ้ งตลาดปัจจุบนั ภาพที่ 8 วตั ถดุ ิบและส่วนผสมของแกงไก่ตายาย ขัน้ ตอนและวิธีการทาแกงไกต่ ายาย เร่ิมจากตั้งกระทะแล้วใส่หัวกะทิเคี่ยวจนกระท่ังกะทิแตกมัน จากนั้น ผสมเครื่องแกงและเคร่ืองเทศลงในถ้วยคนผสมให้เข้ากันโดยอาจใส่หางกะทิ ลงไปในถ้วยส่วนผสมนั้นด้วย เมื่อกะทิเริ่มแตกมันให้ใส่ส่วนผสมต่าง ๆ ลงใน กระทะและเคี่ยวส่วนผสมน้ันจนกระท่ังมีกล่ินหอม จากนั้นจึงใส่ไก่และเค่ียว ต่อไปเร่ือย ๆ หากส่วนผสมในกระทะเร่ิมแห้งสามารถเติมหางกะทิลงไปได้ โดยจะต้องหมั่นคอยคนในกระทะตลอดเวลาเพื่อไม่ให้เคร่ืองแกงไหม้ แกงไก่ตายายจะใช้ระยะเวลาในการเค่ียวค่อนข้างนานประมาณ 2 ช่ัวโมง แต่จะให้มีรสชาติที่อร่อยอย่างแท้จริงเม่ือเคี่ยวจนไก่นุ่มแล้วให้แช่ไก่ไว้ใน เคร่ืองแกงน้ันค้างคืนไว้ 1 คืน เคร่ืองแกงจะซึมซับเข้าไปในเน้ือไก่ จะทาให้ รสชาตขิ องแกงไก่ตายายอร่อยยงิ่ ข้นึ

15 ภาพท่ี 9 การเค่ยี วส่วนผสมของแกงไก่ตายาย ภาพท่ี 10 แกงไก่ตายายทโ่ี ดดเดน่ ดา้ นรสชาติและความหอมของเครอื่ งเทศ

16 เคร่อื งแกงตามอื “เคร่ืองแกงตามือ” เป็นสินค้าชุมชนท่ีสร้างรายได้ให้กับชุมชนตาบล เกาะสุกร เนื่องจากมีเอกลักษณ์เฉพาะตนที่โดดเด่นแตกต่างจากเครื่องแกง ในพื้นที่อื่น ๆ เพราะมีรสชาติเข้มข้นของเคร่ืองเทศหลากหลายชนิดตามแบบ ฉบับของทางภาคใต้ ภูมิปัญญาเคร่ืองแกงตามือจะมีวัตถุดิบหลัก ได้แก่ ขมิ้น พรกิ แหง้ ตะไคร้ พรกิ ไทยดา กระเทยี ม กะปิ และเกลอื ปน่ เปน็ ตน้ นามาผลติ เครื่องแกงต่าง ๆ คือ แกงกะทิ แกงส้ม แกงค่ัว และผัดเผ็ด โดยมีคุณสมบัติ เดน่ คอื ไมใ่ ส่สารกนั บูด และสามารถเก็บไว้ได้นานถงึ 3 เดอื น ภาพท่ี 11 วตั ถุดบิ หลักของเครื่องแกงตามือ

17 ขัน้ ตอนการทาเครื่องแกงตามือ เตรียมวัตถุดิบและส่วนผสมทั้งหมดให้พร้อม โดยเด็ดข้ัวพริก ปอก เปลือกกระเทียม ห่ันขมิ้น และซอยตะไคร้เป็นชิ้นหยาบ ๆ จากนั้น ล้างทา ความสะอาดวัตถุดิบต่าง ๆ จากน้ันใส่ส่วนผสมท้ังหมดตามปริมาณที่ต้องการ ลงในครกและตาจนละเอียดจะไดเ้ ครอื่ งแกงสสี นั จัดจ้าน รสชาติอร่อย ภาพท่ี 12 เคร่ืองแกงตามือเกาะสกุ ร

18  ภมู ิปญั ญาทอ้ งถ่นิ ด้านขนมพื้นบ้าน ขนมตาหยาบ “ขนมตาหยาบ” เป็นขนมพ้ืนบ้านท่ีขึ้นช่ือและเป็นเอกลักษณ์ของ ชุมชนตาบลเกาะสุกร ในสมัยก่อนนิยมทาขนมเพื่อต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง หรือเทศกาลสาคัญต่าง ๆ แต่ในปัจจุบันชาวบ้านจะทาขายท่ัวไปในช่วงเช้าของ ทุกวัน ส่วนผสมและวัตถุดิบในการทาขนมตาหยาบ ประกอบด้วย ส่วนผสม หลกั 2 ส่วน ได้แก่ส่วนผสมของแป้งและส่วนผสมของไส้ขนมตาหยาบ ดังน้ี 1. ส่วนผสมของแป้ง ได้แก่ แป้งสาลีผสมกับแป้งข้าวเหนียว ในอัตราส่วน 2 ต่อ 1 นา้ ใบเตยคน้ั สด ไขไ่ ก่ และเกลอื เล็กนอ้ ย 2. ส่วนผสมของไส้ขนมตาหยาบ ได้แก่ มะพร้าวขูด ควรใช้มะพร้าว กึ่งอ่อนกึ่งแก่หรือที่เรียกว่า มะพร้าวทึนทึก เน่ืองจากเนื้อมะพร้าวจะมีรสชาติ อร่อยเหมาะกับการนามาทาขนม น้าตาลอ้อยหรือน้าตาลทราย แต่หากใช้ น้าตาลอ้อยจะทาให้มีความหอมและรสชาติอร่อยมากกว่าใช้น้าตาลทรายเพียง อยา่ งเดยี ว ภาพที่ 13 วัตถดุ ิบและส่วนผสมของขนมตาหยาบ

19 ข้ันตอนและวิธีการทาขนมตาหยาบ เร่ิมจากการผัดไส้ขนม โดยนา ส่วนผสมต่าง ๆ ได้แก่ มะพร้าวขูด น้าตาลอ้อย เกลือเล็กน้อย ลงไปผัดใน กระทะ จนกระทงั่ สว่ นผสมของไส้ขนมเข้ากนั ได้อย่างดี จากน้ัน ผสมส่วนผสม ของแป้งขนมตาหยาบ ไดแ้ ก่ แปง้ สาลีผสมกับแป้งข้าวเหนยี ว น้าใบเตยคั้นสด ไขไ่ ก่ และเกลือเล็กนอ้ ยคนผสมใหเ้ ขา้ กัน ภาพท่ี 14 ส่วนผสมของแป้งขนมตาหยาบ เมื่อเตรียมส่วนผสมในส่วนของแป้งและไส้ขนมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้ตั้งกระทะโดยใช้ไฟปานกลางแล้วทาน้ามันพืชบาง ๆ ให้ท่ัวกระทะรอจน กระทะเร่ิมร้อน จากน้ันให้ใส่แป้งลงในกระทะ โดยจะต้องวนกระทะให้แป้ง เป็นวงกลมรอจนกระท่ังแปง้ สกุ โดยสังเกตจากขอบ ๆ แผ่นแป้งจะเริม่ รอ่ นขึ้น เม่ือแผ่นแป้งสุกแล้วให้นามาวางลงบนใบตอง ตักไส้ขนมตาหยาบท่ีผัดไว้แล้ว ลงบนแป้งแลว้ พบั แผน่ แปง้ ม้วนให้สวยงาม ขนมตาหยาบจะมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นคือ เป็นขนมท่ีมีสีเขียว ธรรมชาตจิ ากใบเตย รสชาติจะหวานหอมจากมะพร้าวและนา้ ตาลอ้อย ซึ่งเมือ่ รับประทานพรอ้ มกับเครือ่ งดืม่ ประเภทชา กาแฟ จะทาใหก้ ลมกลอ่ มยง่ิ ขึ้น

20 ภาพที่ 15 ขน้ั ตอนการทาขนมตาหยาบ

21  ภมู ิปญั ญาท้องถิ่นดา้ นการแปรรูปผลิตภณั ฑป์ ระมง ปลาวง/ปลาดอกไม้ “ปลาวง” หรือ “ปลาดอกไม้” ทามาจากปลาที่ชาวบ้านเรียกว่า “ปลาจ้องม้อง” เป็นปลาทะเลชนิดหน่ึงท่ีมีลักษณะคล้ายปลากระเบน แตม่ ขี นาดเลก็ กวา่ และไมม่ ลี ายจดุ บนลาตัว ภาพที่ 16 ปลาจ้องม้อง การแปรรูปปลาวงหรือปลาดอกไม้ จะใช้ปลาจ้องม้องขนาดความยาว ลาตัวประมาณ 15 – 20 เซนติเมตร นามาตัดหาง ตัดเงี่ยงด้านข้างลาตัวออก จากน้ัน แล่ปีกทั้งสองข้างของปลาจ้องม้อง จะใช้เฉพาะส่วนปีกเท่านั้น นามา กรีดสลับไปมาให้มีขนาดเท่า ๆ กัน แต่ไม่ให้ขาดออกจากกัน ซ่ึงจะต้องใช้ฝีมือ และความประณีตเป็นอย่างมาก เม่อื แล่ปลาแล้วนามาแชน่ ้าเกลือ จากน้ันนามา จัดวางเรียงต่อกันเป็นแพวงกลมให้สวยงาม แล้วตากแดดจัดประมาณ 1 – 2 วัน จนปลาแหง้ สนทิ จะไดป้ ลาวงหรอื ปลาดอกไม้พร้อมทอดรับประทาน

22 ภาพท่ี 17 ขนั้ ตอนการทาปลาวงหรอื ปลาดอกไม้

23 จอ๊ ปู “จ๊อปู” เป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปจากปูม้า ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์สินค้าใหม่ ของชุมชนเกาะสุกร จ๊อปูเกาะสุกร มีความโดดเด่นที่คุณภาพของวัตถุดิบ เน่ืองจากใช้วัตถุดิบหลักคือ เนื้อปูม้าสด ๆ จากพื้นท่ีเกาะสุกรนามาแปรรูป เป็นผลิตภัณฑ์ของฝากสาหรับจาหน่ายให้แก่นักท่องเท่ียว ซ่ึงสามารถสร้าง มูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ประมงชุมชนและสร้างรายได้เพ่ิมข้ึนจากการจัด จาหนา่ ย ขน้ั ตอนการทาจอ๊ ปู ป่นั หรือโขลกพรกิ ไทยขาว ใส่กระเทยี มสด ก้านและรากผักชลี งไปปั่น หรือโขลกให้เข้ากันจนละเอียด ผสมเนื้อไก่บดแล้วนวดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วย น้ามันหอย เกลือ และน้าตาล ใส่ไข่ไก่แล้วนวดส่วนผสมต่าง ๆ ให้เข้ากัน ใส่เน้ือปลู งไปแล้วคลุกเคล้าจนส่วนผสมทุกอยา่ งเข้ากันดี จากน้ัน นาแผน่ ฟอง เต้าหู้ไปแช่น้าจนน่ิม แล้วนามาวางเรียงเป็นแผ่น ตักส่วนผสมที่นวดเข้ากันดี แล้ววางลงบนฟองเต้าหู้แล้วค่อย ๆ ม้วนห่อให้เป็นโรล ใช้เชือกมัดให้เป็น ปล้องเท่า ๆ กนั แต่ไม่ควรผูกเชือกให้แน่นจนเกนิ ไปเพราะอาจทาใหส้ ่วนผสม แตกได้ จากนั้นนาไปน่ึงในน้าเดือดจนสุกดี แล้วนามาตัดเป็นท่อน ๆ ตาม ปล้องที่มัดไว้ นาจ๊อปูที่ตัดออกเป็นท่อนลงไปทอดในน้ามันจนสีเหลืองกรอบ ตักขึ้นมาสะเด็ดน้ามัน จะได้จ๊อปูพร้อมรับประทาน ปัจจุบันจ๊อปูเกาะสุกรมี จาหน่ายในหลายรูปแบบ ได้แก่ จ๊อปูม้า จ๊อปูผสมกรรเชียง จ๊อปูไข่แดงเค็ม และจ๊อโครตปู อัดแน่นด้วยสว่ นผสมของเครือ่ งเทศและเน้อื ปแู นน่ ๆ เต็มคา ภาพท่ี 18 จอ๊ ปูเกาะสุกร

24  ภมู ปิ ัญญาท้องถ่ินด้านศลิ ปหัตถกรรม บาติกและปาเต๊ะเพ้นท์ “บาติกและปาเต๊ะเพ้นท์” เป็นผ้าที่เขียนลวดลายด้วยเทียนเขียนผ้า เพื่อปิดส่วนท่ีไม่ต้องการให้ติดสี และใช้วิธีการแต้มหรือระบายลวดลายท่ี ต้องการใหต้ ดิ สี วสั ดุอปุ กรณ์ที่ใชท้ าผ้าบาติก 1. ผ้าใยธรรมชาติ เชน่ ผ้าคอตต้อน หรอื ผ้าฝา้ ยมัสลนิ 2. เทียนเขียนผ้าบาตกิ 3. สีระบายผา้ บาตกิ 4. ปากกาสาหรับเขียนเทียน 5. กรอบไม้ หรือเฟรมโครงสเี่ หลย่ี มสาหรับขงึ ผา้ ใหต้ ึง 6. ดินสอ 2B 7. จานสี และพูก่ ันขนาดต่าง ๆ 8. น้ายาเคลือบกนั สตี ก โซเดยี มซลิ เิ กต 9. เตาแกส๊ เตาไฟฟ้า และภาชนะสาหรับอ่นุ น้าเทยี น ภาพท่ี 19 อุปกรณ์ทใี่ ช้ทาผา้ บาตกิ

25 วิธกี ารทาผ้าบาติก นาผ้าคอตต้อนหรือผ้ามัสลินที่วาดลวดลายสวยงามด้วยดินสอ 2B มาขึงบนเฟรมไม้ให้ตึง จากนั้น นาเทียนเขียนผ้าใส่ภาชนะต้ังไฟให้ร้อนต้มจน เทียนละลายแล้ว ใช้ป าก ก าสา หรับ เ ขียน เ ทียน จุ่ม น้า เที ยน แล้ว เ ขีย น เ ส้ น ลวดลายบนผ้าตามแบบที่วาดไว้ ผสมสีบาติกเป็นสีต่าง ๆ ตามที่ต้องการ แลว้ ใชพ้ กู่ ันจุ่มนา้ เปลา่ ทาระบายลงบนผา้ ทง้ิ ไว้พอหมาด ๆ แลว้ จงึ ใชพ้ ูก่ นั จุม่ สี บาติกระบายตามแบบที่วาดไว้ ในการเปล่ียนสีควรล้างพู่กันในน้าเปล่าให้ สะอาดและเช็ดพู่กันให้แห้งสนิทก่อนทุกคร้ัง เม่ือลงสีเสร็จแล้วนาผ้ามาจุ่มลง ในโซเดียมซิลิเกตเพ่ือเคลือบกันสีตก ทิ้งไว้ประมาณ 6 ชั่วโมง แล้วจึงล้าง น้ายาออกดว้ ยน้าเปล่าประมาณ 3 ครง้ั หรือจนกระทงั่ นา้ สีออกหมด แล้วตาก ให้แห้งหรอื นาผา้ มาต้มในน้าเดือดผสมผงซักฟอกเพ่ือให้เทยี นออกหมดจากผ้า แลว้ ตากผ้าให้แหง้ สนทิ จะไดผ้ ้าบาตกิ ที่มลี วดลายสวยงาม ภาพที่ 20 ข้ันตอนการทาผา้ บาตกิ

26 เอกสารอ้างอิง กนกพร ฉิมพลี. (2555). รูปแบบการจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้าน หัตถกรรมเครื่องจักสาน: กรณีศึกษาวิสาหกิจชุมชน จังหวัด นครราชสีมา. ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิตสาขาพัฒนาสังคมและ การจดั การสิง่ แวดล้อม, สถาบันบัณฑติ พฒั นบรหิ ารศาสตร.์ กรมส่งเสริมการเกษตร. (2551). ความรู้เบ้ืองต้นเก่ียวกับภูมิปัญญาท้องถนิ่ . กลุ่มงานภูมิปัญญาท้องถ่ิน สานักพัฒนาเกษตรกร กรมส่งเสริม การเกษตร. ชวน เพชรแก้ว. (2547). การยกระดับและการปรับใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นใน สถานการณป์ จั จบุ ัน. สารภาษาไทย 3(3): 14-23. วิจารณ์ พานิช. (2557). การจดั การความรู้ ฉบบั นักปฏบิ ัติ. กรุงเทพมหานคร: สถาบนั สง่ เสรมิ การจดั การความรเู้ พ่ือสังคม. สานักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ. (2545). แนวทางการส่งเสริม ภูมิปัญญาไทยในการจัดการศึกษา. กรุงเทพฯ: สานักงานการศึกษา แห่งชาติ องค์การบริหารส่วนตาบลเกาะสุกร. ( 2563). แผนพัฒนาท้องถิ่น (พ.ศ. 2561 – 2565) เพ่ิมเติม คร้ังท่ี 1 พ.ศ. 2563. องค์การ บรหิ ารส่วนตาบลเกาะสุกร อาเภอปะเหลยี น จงั หวัดตรงั . องค์การบริหารส่วนตาบลเกาะสุกร. (2558). สภาพและข้อมูลพ้ืนฐาน ตาบล เ ก า ะ สุ ก ร อ า เ ภ อ ป ะ เ ห ลี ย น จั ง ห วั ด ต รั ง . แ ห ล่ ง ที่ ม า : http://www.kohsukorn.go.th/general3.php, 10 กรกฎาคม 2563. องค์การบริหารส่วนตาบลเกาะสุกร. (2560). แผนยุทธศาสตร์การพัฒนา (พ.ศ. 2560 – 2562). องค์การบริหารส่วนตาบลเกาะสุกร อาเภอ ปะเหลียน จังหวดั ตรัง. แหลง่ ท่ีมา: http://www.kohsukorn.go.th detail.php?id=121, 10 กรกฎาคม 2563.

27 องค์การบริหารส่วนตาบลเกาะสุกร. (2563). วารสารปี 2563 รายงานผล การดาเนินงาน อบต.เกาะสุกร. องค์การบริหารส่วนตาบลเกาะสุกร อาเภอปะเหลยี น จงั หวดั ตรงั . อภิชาต ใจอารีย์. (2557). รูปแบบการจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถ่ินการ แปรรูปหน่อไม้ของชุมชนบ้านพุเตย จังหวัดกาญจนบุรี. วารสาร การเมืองการปกครอง 4(2): 241 – 258. เอกชัย พุมดวง. (2551). การจัดการภูมิปัญญาท้องถ่ินผ่านกระบวนการ ส่ิงแวดล้อมศึกษาเพ่ือการเรียนรู้ในชุมชน. วารสารสังคมสงเคราะห์ ศาสตร์ 16(2): 94 – 104. Dalkir, K. (2005). Knowledge Management in Theory and Practice. Burlington, MA: Elsevier Butterworth-Heinemann. Tiwana, A. ( 2003) . The Knowledge Management Toolkit: Practical Techniques for Building a Knowledge Management System. Atlanta: Prentice-Hall.

28 ขอขอบคณุ ผู้ให้ข้อมูล  คุณราตรี จติ รหลัง นายกองคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบลเกาะสกุ ร  คณุ ธวชั ชัย ไข่มุสิก ผใู้ หข้ อ้ มลู การปลูกแตงโมเกาะสกุ ร  คุณเจียม ศรีสวุ รรณ ผใู้ ห้ข้อมลู แกงไกต่ ายาย  คุณบหุ ลาด เสียมไหม ผู้ใหข้ ้อมูลเครอ่ื งแกงตามอื  คณุ นงเยาว์ เจะสา ผใู้ ห้ข้อมูลขนมตาหยาบ  คุณจุรี สัณห์พานชิ กจิ ผ้ใู ห้ข้อมลู ขนมตาหยาบ  คณุ อุษา หลงั ปุเตะ๊ ผู้ให้ขอ้ มลู ปลาวง/ปลาดอกไม้  คณุ เยาวลกั ษณ์ ไชยมล ผู้ใหข้ ้อมลู จอ๊ ปเู กาะสกุ ร  คุณสุภาพร เด็นหลี ผู้ให้ข้อมูลผา้ บาติกเกาะสกุ ร

29 คณะผ้วู ิจยั ดร.สดุ คนงึ ณ ระนอง สาขาศึกษาท่วั ไป คณะวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยกี ารประมง ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ประภาศรี ศรีชยั สาขาศกึ ษาทว่ั ไป คณะวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีการประมง ดร.วกิ จิ ผนิ รบั สาขาเพาะเล้ยี งสตั วน์ ้าและผลติ ภณั ฑป์ ระมง คณะวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีการประมง

30 ภาพประทบั ใจจากการลงพนื้ ที่ชุมชนตาบลเกาะสกุ ร

31


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook