Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ภูมิปัญญาปลิง

ภูมิปัญญาปลิง

Published by sukanyakrainara19, 2021-02-03 04:18:53

Description: ภูมิปัญญาปลิง

Search

Read the Text Version



ก คานา หนังสือเล่มน้ีเป็นส่วนหน่ึงของการทาวิจัยเรื่อง การนาภูมิปัญญาของ ปลิงทะเลกาหมาดเพ่ือก่อให้เกิดผลิตภัณฑ์ด้านอาหาร สมุนไพรและ เครื่องสาอาง มีระยะเวลาในการทาวิจัยจริงเพียง 8 เดือนเท่าน้ัน ด้วยเวลาท่ี จากัดและการทางานในช่วงโรคระบาดโควิด 19 นั้น เป็นระยะเวลาท่ีสั้นมาก ทีมผู้วิจัยได้ตระหนักในเร่ืองของเวลา เพ่ือให้ได้การทางานที่เป็นไปตาม วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้โดยเริ่มต้น จากการรวบรวมข้อมูลภูมิปัญญาเก่ียวกับ ปลิงทะเลกาหมาด สภาพแวดล้อมที่ปลิงอาศัยอยู่ การจับปลิงในทะเล การ เตรยี มปลิงทะเลกาหมาดเพื่อประกอบเป็นอาหาร และเป็นเคร่ืองสาอาง เป็นต้น ณ เกาะสกุ ร อ.ปะเหลยี น จ.ตรงั หนังสือเล่มน้ีสาเร็จได้ด้วยพลังใจจากหลายท่านในการมีส่วนผลักดันให้ ทีมนักวิจัยเรียบเรียงหนังสือเล่มนี้ ประกอบกับผู้เรียบเรียงได้อาศัยการรวบรวม ค้นคว้าจากหนังสือ ตารา นิตยสาร วารสาร และเอกสารต่าง ๆ จาก ผู้ทรงคณุ วฒุ ิหลายท่าน ดังปรากฏนามอย่ใู นเอกสารอ้างองิ หวังเป็นอย่างย่ิงว่าหนังสือเล่มน้ี จะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้ สาหรับผู้ทสี่ นใจในเร่อื งปลิงทะเลกาหมาด และผู้เรียบเรียงน้อมรับข้อเสนอแนะ หรือข้อมูลอื่นใดท่ีเป็นประโยชน์ เพ่ือการปรับปรุงเนื้อหาให้สมบูรณ์ยิ่งข้ึนใน โอกาสตอ่ ไป ทีมผวู้ จิ ยั 28 มกราคม 2564

สารบญั ข บทที่ หน้า คานา ก สารบัญ ข สารบัญภาพ ค สารบัญตาราง ง บทนา 1 ตรวจเอกสาร 4 การใชป้ ระโยชนด์ ้านอาหารและเครอื่ งสาอาง 14 เอกสารอ้างองิ 31 ประวตั ผิ ูเ้ ขยี น 33

ค สารบัญภาพ ภาพท่ี หน้า 1 ปลงิ ทะเลกาหมาด แบบยงั มีชีวติ และลาไสป้ ลงิ ทะเลกาหมาด 2 2 น้าผงึ้ รวงแท้ 8 3 สารส้มที่ใชใ้ นการทาความสะอาดผวิ ปลิงทะกาหมาด 9 4 น้ามนั มะพร้าว 11 5 การหาปลิงในกลางวนั ช่วงทน่ี า้ ลดจะสามารถหาได้ง่ายและน้า 15 ไมล่ ึกและ ฝนไม่ตก 6 การเตรียมปลิงสาหรับในการแปรรปู 16 7 ยาปลิงทะเลกาหมาด 17 8 แกงค่ัวปลิงทะเลกาหมาด 18 9 น้ามนั ปลงิ ทะเลกาหมาดในรูปแบบของผลิตภณั ฑช์ ุมชน 19 10 กระบวนการในการทาปลิงทะเลกาหมาดดองในน้าผ้งึ รวง 21 11 กรรมวธิ ีในการดองปลิงในเหล้าใช้ลาไส้ และ เนอ้ื ปลิง 23 12 กระบวนการทาปลิงทะเลกาหมาดแห้ง นามาบดใส่แคปซลู 24 เพอ่ื สะดวกในการใช้งาน 13 ลกั ษณะพเิ ศษของปลงิ ทะเลกาหมาด ไดแ้ ก่ หลงั่ สารเมือก 28 เหนยี วสีขาว และสลัดผนังลาตัวออกมาในการลงศตั รู 14 เซรั่มปลงิ ทะเล มี 3 สูตร ได้แก่ น้ามนั มะพรา้ ว น้ามนั เทียนดา 30 และนา้ มันมะพรา้ วสมนุ ไพร 15 บรรจภุ ณั ฑใ์ ส่เซรม่ั ปลิงทะเลกาหมาดผสมนา้ มันเทยี นดา 30

ง สารบญั ตาราง ตารางท่ี หน้า 1 ผลของนา้ มนั ปลิงตามมาตรฐาน มอก.เอส 36-2561 ของการเพอื่ 20 เป็นน้ามนั ใช้สาหรับการนวด 2 ปรมิ าณกรดอะมโิ นในปลิงทะเลกาหมาดแบบแห้ง 25 3 ผลการวิเคราะห์คุณคา่ ทางโภชนาการของปลิงทะเลกาหมาดแบบ 26 แหง้ 4 ผลการวิเคราะห์กรดอะมิโนในเมอื กปลงิ ทะเลกาหมาด 29

1 บทที่ 1 บทนา ปลิงทะเลกาหมาด (gamat) เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง จัดอยู่ใน ไฟลัม Phylum Echinodermata มีช่ือวิทยาศาสตร์ว่า Stichopus horrens ลาตัวลักษณะทรงกระบอกกลมคล้ายไส้กรอก ลาตัวอ่อนนุ่มยืดหดตัวได้ ปลาย ทั้งสองข้างเป็นช่องเปิดปาก และทวาร ผิวหนังส่วนนอกยืดหยุ่นได้ดี ภายใต้ ผิวหนงั มีตุม่ เม็ดหนิ ปูนกระจายอยู่ทว่ั ไป มีหนามลักษณะคล้ายต้นไม้ล้อมรอบทา หน้าท่ีในการหาอาหารใช้หนวดขุดโคลนตมเข้าปาก ผ่านระบบทางเดินอาหาร และกากที่เหลือจะขับถ่ายออกมาอีกด้านหนึ่ง พบท่ีโขดหิน ริมหาดทรายและ แนวปะการัง อุณหภูมิของน้า 26-28 องศาเซลเซียส ความเค็ม 25-33 พีพีที บริเวณชายฝั่งทะเลภาคใต้ เช่น กระบ่ี ตรัง สตูล และภูเก็ต เป็นต้น คุณค่า อาหารของปลิงทะเล มีโปรตีนประมาณ 10-12% ความชื้น 70-80% ไขมัน 0.002-0.04% และเนื้อปลิงทะเลยังมีสารมิวโคโปรตีนของ Chondrotin sulfurie acid ซึ่งสารตัวนี้เป็นองค์ประกอบที่สาคัญทาให้กล้ามเน้ือทางานได้ ปกติ หากสารน้ีลดลงมีผลทาให้การทางานของกล้ามเน้ือลดลง และสารนี้เป็น องค์ประกอบอยู่ในกระดูกอ่อน เอ็นและของเหลวที่หล่อลื่นตามข้อต่าง ๆ (Anderson, 1988) การศึกษาในผู้สูงอายุพบว่า ถ้าปริมาณของคอนดรอยติน ซัลฟุริค แอซิด ลดลง ส่งผลต่อการทางานที่กล้ามเนื้อลดลง ดังน้ันจึงอาจใช้ เร่ืองนี้เป็นเหตุผลอธิบายการที่ชาวจีนนิยมรับประทานปลิงทะเลกันมาต้ังแต่ สมัยโบราณ คอนดรอยติน ซัลฟุริค แอซิด ตามธรรมชาติมักอยู่ในสภาพมิวโค โปรตีน ซึ่งเป็นองค์ประกอบของส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมนุษย์ เช่น กระดูก อ่อน เอ็น และของเหลวที่หล่อลื่นตามข้อต่าง ๆ ดังน้ัน การรับประทาน ปลงิ ทะเลกน็ บั ว่าให้ประโยชน์แกร่ ่างกายได้เช่นกนั

2 ปลิงทะเลกาหมาด ลาไส้ปลิงทะเลกาหมาด ภาพที่ 1 ปลิงทะเลกาหมาด แบบยังมีชีวิต และลาไส้ปลิงทะเลกาหมาด ปลิงกาหมาด มีระบบป้องกันตัวเม่ือเจอศัตรูโดยปล่อยเมือกเหนียวสี ขาว หรือ แบ่งเซลล์อวัยวะภายใน เช่น ลาไส้ และทางเดินอาหารออกมา จากหนึ่งเป็นสองได้ทันที จากนั้นตัวจริงจะหลบหนีแล้วทิ้งซากไว้ ซ่ึง ทางเดินอาหารของปลิงกามาดจะสามารถสร้างข้ึนใหม่ได้อีก และจากการ ค้นคว้าพบว่าสารโฮโลท๊อกซิน (Holotoxin) ออกฤทธ์ิทางชีวภาพ ซึ่งมี คุ ณ ส ม บั ติ ยั บ ย้ั ง เ ชื้ อ ร า แ ล ะ ท า ใ ห้ ก า ร ข ย า ย เ ซ ล ล์ ม ะ เ ร็ ง ข้ า ล ง ซ่ึงปัจจุบันชาวบ้านได้นาปลิงกามาดมาดองในน้าผ้ึง หรือ ดองกับเหล้า สามารถแกโ้ รคลมต่าง ๆ โรคเบาหวาน โรคเหน็บชา บารุงหัวใจ เป็นยาสนาม แผลอย่างดี (สมชยั และ นลนิ ,ี 2543; ไชยรัตน์, 2555) ปลิงทะเลกามาดมีคุณสมบัติที่ดีหลายอย่างในการเป็นยารักษาโรค ภมู ปิ ัญญาชาวบ้าน พบว่า ชาวบ้านนิยมนามาเป็นยาบารุงกาลัง บารุงกระดูก รักษาแผล โดยนามาต้มและดองในน้าผ้ึงป่า แต่ท้ังนี้ยังขาดการสนับสนุนว่า การดองด้วยน้าผ้ึง เหล้าขาว มีสารฤทธ์ิชีวภาพ และมีสรรพคุณทางยาใน การรักษาโรคหรือไม่ แต่ไม่มีเอกสารในการดองที่เหมาะสมในการนาเป็นยา

3 ในการรักษาโรคต่าง ๆ หากได้มีการศึกษากันอย่างจริงจัง และมีการนามา แปรรูปเป็นผลติ ภัณฑ์อ่ืน ๆ ทนี ่าสนใจ เกาะสกุ รมคี วามสมบูรณ์เรื่องทรพั ยากรทางประมงเป็นอย่างมาก มี ชาวบา้ นทีป่ ระกอบอาชีพชาวประมง มกี ารจับปลงิ ทะเลกาหมาด มาขาย แปร รูปเป็นน้ามัน ขายแบบแห้ง ดองน้าผ้ึง และ ดองเหล้า ซึ่งถือได้ว่าเป็น ผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาที่น่าสนใจในกรณีศึกษา จึงมีแนวคิดในการทางานวิจัย เพื่อต่อยอดองค์ความรู้จากภูมิปัญญาท่ีชาวบ้านนาปลิงทะเลกาหมาดมาเป็น ยา และปรุงอาหาร เพ่ือหาสูตรที่เหมาะสมและวิเคราะห์องค์ประกอบทาง โภชนาการของปลงิ ทะเลกาหมาดตอ่ ไป ประโยชน์ทคี าดว่าจะไดร้ ับ 1. ทราบภูมปิ ญั ญาของชาวบ้านท่ีไดน้ าปลงิ ทะเลกาหมาดมาใช้ ประโยชน์ในดา้ นต่าง ๆ เช่น ดา้ นอาหาร ด้านสมุนไพร และเครื่องสาอาง 2. การพัฒนาปลิงทะเลกาหมาดในดา้ นเมนูอาหารที่มีความปลอดภัย ในการบรโิ ภค 3. สามารถพฒั นาปลงิ ทะเลกาหมาดเปน็ เคร่ืองสาอางได้

4 บทที่ 2 ตรวจเอกสาร 2.1. ภมู ิปญั ญา ความเป็นมาของภมู ิปญั ญา ภูมิปญั ญาท้องถ่นิ (Local Wisdom) มีรากศพั ทจ์ ากคาต่าง ๆ ดงั น้ี ภมู ิ ความหมายวา่ พื้นที่ พ้นื เพ ปญั ญา หมายความวา่ ความรู้ ความรอบรู้ ภูมปิ ัญญา หมายถึง ความรู้ท่อี ยู่ ณ พื้นที่น้ัน ภูมิปัญญาท้องถิ่น หมายถึง ความสามารถในการใช้ความรู้เพื่อ พัฒนา และดารงชีวิตคนในท้องถิ่น มีการถ่ายทอดความรู้ไปใช้ในการพัฒนา ทอ้ งถิน่ จนเกิดเปน็ ความรู้ใหมท่ ีม่ กี ารใช้และพฒั นาเป็นวงจรไม่จบสนิ้ ภูมิปัญญา ยังหมายถึง ประสบการณ์ในการประกอบอาชีพใน การศกึ ษาเล่าเรยี น ภูมิปัญญา คือ ความรู้ ความคิด ความเช่ือ ความสามารถ ความ ชัดเจนท่ีกลุ่มชนได้จากประสบการณ์ท่ีส่ังสมไว้ในการปรับตัวและดารงชีพใน ระบบนิเวศนห์ รือสภาพแวดล้อมธรรมชาติและสงั คมวัฒนธรรม ที่มีพัฒนาการ สบื สานกนั มา เป็นความรู้ ความคดิ ความเชอ่ื ความสามารถ ความชัดเจน ทเ่ี ป็นผลของการใช้สตปิ ญั ญาปรบั ตัวกับสภาวะต่าง ๆ ในพ้นท่ีชุมชนน้ันต้ังถิ่น ฐานอยู่ ภูมิปัญญา คือ ความรู้ ความคิด ความเช่ือ ความสามารถของคนท้ัง มวลท่ีเกดิ จากการเรียนรู้ ศึกษา สงั เกต อบรม ส่งั สอนซึ่งคนได้สั่งสมถ่ายทอด และสืบเนื่องกันมาอยา่ งไม่ขาดสาย จากอถีดจนถึงปัจจุบัน นับเป็นเวลายาวนาน ซ่ึงภูมิปัญญาเป็นองค์ความรู้ที่มีคุณค่าท่ีคนได้นามาประยุกต์ใช้ในการดารงชีวิต ทาให้การอยู่ร่วมกันในสังคมมีความผาสุก อุดมสมบูรณ์ เจริญก้าวหน้า และอยู่ รอดปลอดภัยในสงั คมโลกปัจจุบนั

5 ภมู ิปญั ญา เปน็ ส่งิ ทีเ่ กดิ และดารงอย่กู บั สังคมมนุษย์มาช้านาน เป็น การดารงชีวิตที่เกี่ยวพันอยู่กับธรรมชาติของแต่ละท้องถ่ิน โดยมีการปรับสภาพ การดาเนินชีวิตให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อธรรมชาติตามกาลเวลา เนื่องจาก มนุษย์เป็นสัตว์โลกท่ีพิเศษกว่าสัตว์อื่น ๆ กล่าวคือ มีมันสมองท่ีมีความสามารถ ในการคิดค้น เรียนรู้ แก้ปัญหาและมีการสืบทอดเป็นมรดกมาช้านาน แม้ว่าภูมิ ปัญญาเป็นสิ่งท่ีสั่งสมและถ่ายทอดมาช้านาน แต่มีลักษณะ ที่สาคัญ อย่างหน่ึง คือ เป็นองค์ความรู้ท่ีเชื่อมโยงกันไปหมดว่าจะเป็นเร่ืองของอาชีพ เศรษฐกิจ ความเปน็ อยู่ การใชจ้ ่าย การศึกษา วัฒนธรรมจะมีความผสมกลมกลืนกัน 2.1.2 กระบวนการอนุรักษ์ทุนภูมปิ ัญญาทอ้ งถนิ่ ของไทย ภูมิปัญญาท้องถ่ินของไทยถือเป็นทุนทางสังคมและวัฒนธรรมที่ต้อง เก็บรักษาไว้ โดยกระบวนการในการอนรุ ักษ์ทุนภมู ปิ ัญญาท้องถน่ิ ของไทย ดังนี้ 1. การคน้ คว้าวจิ ัย ควรศึกษาและเก็บรวบรวมข้อมูลภูมิปัญญาของไทย ในด้านต่าง ๆ ในระดับท้องถ่ิน จังหวัด ภูมิภาคและประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภูมิปัญญาของท้องถ่ิน ควรมุ่งศึกษาให้รู้ความเป็นมาในอดีตและสภาพการณ์ ปัจจบุ ัน 2. การอนุรักษ์ กระทาโดยการปลูกจิตสานึกให้คนในท้องถ่ินตระหนัก ถึงคุณค่า แก่นสาระและความสาคัญของภูมิปัญญาท้องถ่ินต่าง ๆ ส่งเสริม สนับสนุนการจัดกิจกรรมตามประเพณีและวัฒนธรรมต่าง ๆ สร้างจิตสานึกของ ท้องถิ่น รวมทั้งสนับสนุนให้มีพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นหรือพิพิธภัณฑ์ชุมชนข้ึน เพ่ือ แสดงสภาพวถิ ชี ีวติ และความเป็นมาของชุมชนอันจะสร้างความรู้ และความ ภมู ิใจของทอ้ งถิ่นด้วย 3. การฟ้ืนฟู โดยการเลือกสรรภูมิปัญญาที่กาลังจะสูญหายหรือ ท่ี สูญหายไปแล้วมาทาให้มีคุณค่าและมีความสาคัญต่อการดาเนินชีวิตในท้องถ่ิน โดยเฉพาะพน้ื ฐานทางจริยธรรม คุณธรรมและค่านิยม 4. การพัฒนา ควรริเร่ิมสร้างสรรค์และปรับปรุงภูมิปัญญาให้เหมาะสม กับยุคสมัยและเกิดประโยชน์ในการดาเนินชีวิตประจาวัน โดยใช้ ภูมิปัญญา

6 เป็นพื้นฐานในการรวมกลุ่มในการพัฒนาอาชีพ ควรนาความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีมาต่อยอดในการผลิต การตลาด และการบริการ ตลอดจนการ ป้องกนั และอนุรักษ์ส่งิ แวดล้อม 5. การถ่ายทอด โดยการนาปัญญาท่ีผ่านการเลือกสรรกลั่นกรอง ด้วย เหตุผลอย่างรอบคอมและรอบด้านแล้วไปถ่ายทอดให้แก่คนในสังคมได้รับรู้เกิด ความเข้าใจ ตระหนักในคุณค่า คุณประโยชน์และปฏิบัติได้อย่างเหมาะสมผ่าน สถาบนั ครอบครัว สถาบันการศกึ ษาและการจดั กจิ กรรมทางวฒั นธรรมต่าง ๆ 6. การส่งเสริมกิจกรรม โดยการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดเครือข่าย การสืบสานและพัฒนาภูมิปัญญาของชุมชนต่าง ๆ เพื่อจัดกิจกรรมทาง วฒั นธรรมและภูมปิ ญั ญาท้องถ่ินอย่างต่อเน่ือง การเสริมสร้างความเป็นผู้นา ควรส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนา ศักยภาพของชาวบ้านผู้ดาเนินงานและปราชญ์ท้องถ่ิน ให้มีโอกาสแสดง ศักยภาพด้านภูมิปัญญาและพัฒนาความรู้ความสามารถได้อย่างเต็มที่ จัดให้มี การยกย่องและประการเกียรติคุณในลักษณะต่าง ๆ รวมท้ังส่งเสริมให้มีโอกาส ไดร้ บั การยอ่ ย่องและประกาศเกียรติคุณในระดับทีส่ ูงข้นึ ไป 1. การเผยแพร่แลกเปล่ียน การส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมให้เกิด การเผยแพร่แลกเปล่ียนภูมิปัญญาวัฒนธรรมอย่างกว้างขวาง โดยให้มีการ เผยแพร่และแลกเปลี่ยนระหว่างกลุ่มชนและท้องถ่ินต่าง ๆ อย่างกว้างขวาง รวมทั้งประเทศอ่ืน ๆ ทว่ั โลก 2. การรักษาภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทยเป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้อง ร่วมมือร่วมใจกันดาเนินการ ซึ่งไม่เพียงการรักษาให้คงอยู่เท่าน้ัน หากแต่ต้อง สามารถยกระดับภูมิปัญญาไปสู่การใช้ประโยชน์ในลักษณะต่าง ๆ ด้วยฐานที่ มั่นคงและยั่งยืนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หมายความว่า แนวคิดการขับเคลื่อน เศรษฐกิจบนพ้ืนฐานของการใช้องค์ความรู้ การสร้างสรรค์งานและการใช้ ทรัพย์สินทางปัญญา ที่เชื่อมโยงกับพื้นฐานทางวัฒนธรรมมารส่ังสมความรู้ของ สงั คม เทคโนโลยแี ละนวตั กรรมสมัยใหม่

7 2.1.3 เทคนิคการยกระดับภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่การพัฒนาเชิง สรา้ งสรรค์ ภูมปิ ัญญาท้องถ่นิ เปน็ กระบวนการปรบั ตัว การเรียนรู้และเป็นเร่ือง ของกระบวนการ การเรยี นรู้ท่ีมกี ารกระทาอย่างต่อเนื่องและเป็นการเรยี นรู้ท่ี ขนึ้ อยูก่ ับการปรับเปล่ยี นไปตามสถานการณ์ท่มี ีกระบวนการต่อเน่ืองมีเทคนิค 4 เทคนิคหลักคือ 1. การอนุรักษ์ คือ การรักษาสิ่งท่ีเหลืออยู่เพียงเล็กน้อยให้คงอยู่สืบ ต่อไป เช่นการอนุรักษ์ประเพณีรดน้าดาหัวผู้ใหญ่ การลงแขกเกี่ยวข้าวหรือก การอนุรักษ์ทรัพยากรปา่ ไม้ เปน็ ต้น 2. การฟ้ืนฟู คือ การนาส่ิงท่ีสูญหายไปแล้วให้กลับมาอีก เช่น การ ฟ้ืนฟูการละเล่นไทยโบราณ การฟื้นฟูเกษตรแบบผสมผสาน การฟื้นฟู ประเพณีก่อกองทราย เป็นต้น 3. การประยุกต์ คือ การนาส่ิงเดิมมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับยุคสมัย เช่น ประยุกต์การบวชพระเป็นการบวชพระเป็นการบวชป่าเพ่ือให้เกิด จติ สานกึ ในการอนุรักษ์ทรพั ยากรธรรมชาติ 4. การสร้างใหม่ คือ การคิดค้นส่ิงใหม่จากฐานความรู้ด่ังเดิม เช่น การสร้างชลประทานเหมืองฝา่ ย การผลิตเตาแก๊สแทนเต่าถ่าย เปน็ ตน้ 2.2. นา้ ผ้งึ รวง นา้ ผง้ึ รวง หรือ น้าผง้ึ ปา่ เปน็ ของฝากทีไ่ ดก้ ารยอมรบั จากนักเที่ยวท่ีมี คุณค่าไม่น้อย เพราะน้าผึ้งนั้นจะได้จากผึ้งโดยวิธีการที่ยากและลาบาก พอสมควร น้าผึ้งมีประโยชน์มากมายน้าผ้ึงท่ีดีที่สุดจะอยู่ในช่วงเดือนห้า หรือ เรียกว่า \"น้าผ้ึงเดือนห้า\" ในน้าผ้ึงมีส่วนประกอบของวิตามิน เกลือแร่และ เอนไซม์หลายชนิด การเก็บรักษาน้าผึ้ง ไม่ควรจะเกิน 1 ปี เพราะน้าผ้ึงเม่ือ เก็บไว้นานจะเริ่มมีสีเปล่ียนเป็นสีเข้ม สีของน้าผ้ึงในแต่ละปีค่อนข้างแตกต่าง กนั ตามลกั ษณะอากาศ สาเหตหุ ลกั ๆ คือ ดอกไม้ที่มีในแต่ละปีจะแตกต่างกัน

8 สามารถนามาบารุงร่างกาย ด้านการบารุงรักษา ด้านการส่งเสริมพัฒนาการ ของเด็กอย่างเช่นการใช้น้าผ้ึงรวง 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้าธรรมดา 1 แก้วคนให้ เข้ากัน ด่ืมในตอนเช้าด่ืมก่อนอาหาร สามารถช่วยเพิ่มภูมิต้นทานให้กับ ร่างกายได้ดี ช่วยให้ระบบหัวใจ และไตทางานได้สะดวก หรืออย่างเด็กเล็กท่ี ปัญหาดา้ นการเดนิ ช้า สามารถนาโดยการให้ดื่ม วันละ 2 ช้อนชา จะสามารถ เหน็ พัฒนาการการเดินของเด็กเปล่ียนแปลงไป ส่วนเด็กท่ีมีอายุเกิน 1 ปี เม่ือ มีอาการไอ มักจะใช้น้าน้าผึ้งผสมกับน้ามะนาวจิบเพื่อบรรเทาอาการไอได้ มี อกี มากมายหลายวธิ ีการทจี่ ะนาน้าผึ้งมาใช้ประโยชน์ น้าผ้ึงรวง หรือ น้าผึ้งป่า เป็นสินค้าที่มีราคาแพงมาก ราคาขวดละ 500 บาท (บ้านสวนพอเพียง, 2551) ภาพท่ี 2 น้าผงึ้ รวงแท้ 2.3. สารส้ม สารสม้ เป็นสารเคมีชนดิ หนง่ึ ท่ีคนทัว่ ไปรู้จักในลักษณะเป็นกอ้ น ผลกึ ใส ชื่อภาษาอังกฤษว่า โปแตม อลัม (Potassalum) เพราะมีสารประกอบของ โปตัสเซียมอยู่ด้วย เป็นเกลือซัลเฟตของอะลูมิเนียมท่ีมีผลึกน้าอยู่ด้วย มี 2 ชนิด คือ เกลือโพแทสเซียมอะลูมิเนียมซัลเฟต (K2SO4.Al2(SO4)3.24H2O และ เกลือ แอมโมเนียมอะลูมิเนียมซัลเฟต (NH4)2SO4.Al2(SO4)3.24H2O ในทางการค้า อลัม คือ โปแตสเซียม อลูมิเนตซัลเฟต ซึ่งมีลักษณะเป็นก้อนสีขาว มีรสเปรี้ยว และคอ่ นข้างฝาดเลก็ นอ้ ย ไมม่ ีกลิ่น (ประทีป ,2542)

9 สารสม้ (alum) คอื เกลือเชิงช้อนของสารประกอบท่ีมีธาตุอะลูมิเนียม และซัลเฟตเป็นส่วนประกอบหลักหรือผลึกเกลือ สารส้มเกิดขึ้นเองตาม ธรรมชาติ พบมากในบริเวณที่มีภูเขาไฟมาก่อน การนามาใช้บางแห่งต้องสกัด ออกมาจากดิน บางแหล่งผลิตจากแร่ส้มหิน (alunite alumstone หรือ alumrock) โดยนามาเผาเมอื่ ละลายจึงนาไปตกตะกอน หรือผลิตจากแร่อื่น ๆ ทมี อี ะลูมเิ นยี ม (aluminum) เปน็ องค์ประกอบ ภาพท่ี 3 สารสม้ ที่ใช้ในการทาความสะอาดผิวปลิงทะกาหมาด สารส้มมีประโยชน์และมีความสาคัญต่อชีวิตประจาวันมาก เช่น น้าประปาท่ีใช้กันทุกวันนี้ต้องอาศัยสารส้มทาให้ใส การฟอกสี สารล้มช่วย ทาให้สีย้อมติดเน้ือผ้าแน่นคงทน สารส้มช่วยทาให้กระดาษมีคุณภาพมากขึ้น การทาผงฟู และยา ใชห้ ้ามเลือดช่วยฟอกโลหิต ช่วยทาให้ระบบขับถ่ายเป็น ปกติ และถกู นามากาจดกลิ่นเทา้ และกลิ่นตวั โดยเฉพาะใตว้ งแขน สารส้มช่วย ระงบั กลิน่ ตัวมาแต่โบราณ (อาอีเซาะส์ และคณะ, 2560) สารสม้ ทาให้อาหารกรอบนิยมใช้กับการดองผักเพ่ือให้ผักดองมีความ กรอบ โดยนาน้าท่ีจะใช้ดองนาสารส้มมาแกว่งในน้าปูนใส เอาน้าน้ันไปใช้ใน การดองจะทาให้ผักมีความกรอบ สารส้มขจัดเมือกปลา ให้ถูกสารส้มตามตัว

10 ปลา ช่วยทาให้ผิวปลาสะอาด ไม่มีเมือก แล้วจึงนามาปรุงอาหาร (ประทีป , 2542) 2.4. น้ามนั มะพรา้ ว นา้ มนั มะพรา้ ว เป็นนา้ มันท่ไี ด้รับความสนใจมากในปัจจบุ ัน เน่ืองจาก อุดมไปด้วยวิตามิน สารต้านอนุมูลอิสระ และองค์ประกอบของสารออกฤทธิ์ ทางชีวภาพจานวนมาก (Bawalan and Chapman, 2006) แสดงให้เห็นว่า น้ามันมะพร้าวบริสุทธิ์มีคุณสมบัติในการต้านการติดเช้ือ ต้านเชื้อจุลินทรีย์ และต้านอนุมูลอิสระ มีคุณค่าทางโภชนาการสูงประกอบด้วยอาหารประเภท ไขมัน เส้นใยอาหาร โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และแร่ธาตุต่างๆ จึงนาไปใช้ ประโยชน์ไดท้ ง้ั เปน็ อาหารและยา น้ามันมะพร้าวเป็นน้ามันท่ีสกัดจากเนื้อมะพร้าวของต้นมะพร้าว มีช่ือทางวิทยาศาสตร์ว่า โคคอสนิวซิฟอรา (Cocos nucifera) ปัจจุบันมีอยู่ 2 ชนิด คอื 1. น้ามันมะพร้าว (Refined Bleaching Deodorizing Coconut) สกัดได้จากเน้ือมะพร้าวห้าวหรือเน้ือมะพร้าวแห้ง โดยการบีบหรือสกัดด้วย ตัวทาละลาย แล้วนาไปผ่านกระบวนการทาให้บริสุทธ์ิ (Refining) โดยการ กาจัดกรดอิสระ ฟอกสี (Bleaching) และกาจัด กลิ่น (Deodorization) เพ่ือให้เหมาะสาหรับการบริโภค ซึ่งมีสีเหลือง ไม่มีกล่ินและรส ปราศจาก วิตามินอี เพราะถูกกาจัดออกไปโดยกระบวนการทางเคมีและมีปริมาณกรด ไขมันอสิ ระ (Free Fatty Acid –FFA) ไม่เกนิ 0.1% 2. น้ามันมะพร้าวบริสุทธ์ิหรือน้ามันมะพร้าวสกัดเย็น (Virgin Coconut Oil: VCO) ไดจ้ ากการสกัดโดยวธิ ที างธรรมชาติ หรือ การบบี โดยไม่ ผ่านความร้อนจากเน้ือมะพร้าวห้าว ท่ีไม่มีการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของ นา้ มัน เหมาะสาหรับการบริโภคเพราะเป็นน้ามนั มะพร้าวท่ีบริสุทธิ์ท่ีสุด สีใส เหมือนน้า มีวิตามินอี และไม่ผ่านกระบวนการเติมออกซิเจน มีค่าเบอร์

11 ออกไซด์ และกรดไขมันอิสระต่า มีกล่ินมะพร้าวอย่างอ่อน ๆ ถึงแรง ข้ึนอยู่ กบั กระบวนการผลติ ภาพท่ี 4 นา้ มันมะพร้าว 2.4.1บทบาทน้ามนั มะพร้าวตอ่ ความงาม น้ามันมะพร้าวเป็นน้ามันท่ีได้จากธรรมชาติ ปราศจากสารเคมี สงั เคราะห์ใด ๆ เจอื ปน โดยเฉพาะยากาจดั ศตั รพู ชื ซงึ่ อาจจะพบได้ในน้ามัน พืชอื่น ๆ เนื่องจากกรดไขมันในน้ามันมะพร้าวมีขนาดโมเลกุลที่เล็ก ทาให้ถูก ดูดซึมเข้าไปได้ง่าย เราสามารถใช้น้ามันมะพร้าวในสภาพท่ีสกัดได้ตาม ธรรมชาติทันท่ี โดยไม่ต้องทาให้บริสุทธ์ิ ฟอกสี และกัดกล่ิน ดังเช่นน้ามันพืช อ่ืน ๆ จึงปลอดภัยจากอันตรายจากสารเคมี น้ามันมะพร้าวมีบทบาทต่อความ งามดังตอ่ ไปนี้ 1. รูปร่างที่ได้สัดส่วน ไม่อ้วน แต่เข็งแรง เนื่องจากน้ามันมะพร้าวที่เรา บริโภคเข้าไปสามารถเปล่ียนเป็นพลังงานได้ทันท่ี จึงไม่มีไขมันสะสมในร่างกาย อีกท้ังกระตุ้นให้ต่อมไทยรอยด์ทางานดีขึ้น จึงนาเอาไขมันท่ีร่างกายสะสมไว้ ก่อนหน้า ไปใช้เผาผลาญให้เกิดพลังงาน จึงช่วยลดความอ้วนได้ ดังน้ันผู้ที่ บริโภคน้ามันมะพร้าวประจาจึงไม่อ้วน (เพราะไม่มีไขมันสะสม ร่างกายสัดทัน สมส่วนและแข็งแรง 2. ผิวสวย การนวดหรือชโลมตัวด้วยน้ามันมะพร้าว ช่วยให้ผิวสวยได้ ดงั น้ี

12 2.1 ผิวดูอ่อนวัย น้ามันมะพร้าวท่ีใช้ชโลมตัว ทั้งในรูปน้ามัน มะพร้าวสด ๆ หรอื ในรูปผลติ ภณั ฑน์ า้ มันมะพร้าว เช่น ครีม และโลชัน จะทาให้ ผิวพรรณนุ่มไม่แตกแห้งเป็นกระ หรือ ฝ้า เนื่องจากในน้ามันมะพร้าวมีวิตามินอี ที่มีอานุภาพมากกว่าวิตามินอีในเคร่ืองสาอาง ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระที่เป็น ตวั การทีท่ าให้เกิดการเสื่อมของเซลล์ผิวหนัง ห้องกันการเสื่อมโทรมของเซลล์จา กชบวนการเตมิ ออกซเิ จน ชว่ ยกาจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว และทับถมจนทาให้ ผิวแหง้ 2.2 ผิวน่มุ และเนียน ตามปกติผิวหนังจะสูญเสียความชื้นเฉพาะถูก แดดและลม น้ามันมะพร้าวมีคุณสมบัติเป็นสารรักษาความชุ่มช้ืน จึงช่วยให้ ผวิ หนังนมุ่ และเนยี น 2.3 ช่วยป้องกันและรักษาผ้าและกระ อนุมูลอิสระเป็นตัวอันหน่ึง ของการผลิตผ้าและกระ วิตามินอีในน้ามันมะพร้าวจะทาหน้าที่ทาลายอนุมูล อิสระเหล่านี้ เราสามารถใช้น้ามันมะพร้าวเป็นยากันแดด ได้อีกท้ังยังไม่เหนียว เหนอะหนะเหมือนยากันแดดบางชนิดและราคาถูกกวา่ 2.4 ผมงาม น้ามันมะพร้าวมีคุณสมบัติเป็นตัวเพิ่มความชุ่มช้ืน อีก ทง้ั ยังมีสารปฏิชีวนะ (จากไมโนลอริน) และสารต้านอนุมูลอิสระ จากสารไทโคท รนิ อลในวิตามนิ อี จง่ึ มสี ว่ นทาให้ผมงามจากคุณสมบตั ติ ่อไปนี้ 2.5 ช่วยปรับสภาพของผม น้ามันมะพร้าวเป็นน้ามัน hair conditioner ที่ช่วยทาให้ผมนุ่มดาเป็นงาม เพราะมีวิตามินอีท่ีช่วยเสริมการ เจรญิ ของเส้นผม 2.6 ชว่ ยรักษาสุขภาพของหนงั ศรี ษะ เพราะมีสารปฏิชีวนะ ท่ีคอย ทาลายเชื้อโรค หนังศีรษะจึงไม่มีรังแค และมีวิตามินอีที่ต่อต้านอนุมูลอิสระ หนังศรี ษะจึงไม่เหี่ยวย่นและมสี ขุ ภาพดี 2.7 ช่วยให้เส้นผมมีสุขภาพดี เส้นผมประกอบด้วยส่วนนอก (cuticle) ที่ทาหน้าทีห่ มุ้ สว่ นใน (cortex) หากส่วนนอกอยู่ในสภาพดี ไม่ฉีกขาด เส้นผมก็จะปกติ มีความยืดหยุ่น ทนทานต่อการบิดงอและมีความเหนียว ส่วน

13 ในซึ่งประกอบด้วยโปรตีนที่เรียกว่าเคอราทิน ที่ประกอบด้วยเส้นเล็ก ๆ มัด รวมกนั โปรตีนของเส้นผมจะสูญเสียหรือสลายตัวไปตามอายุขัย แต่อาจเร็วข้ึน จากการไม่รักษาผมให้ดี และการทาร้ายเส้นผม เช่น การดัดผม หรือ การย้อม ผม เป็นต้น

14 บทท่ี 3 การนามาใชป้ ระโยชนด์ ้านอาหารและเคร่ืองสาอาง 3.1. ภมู ิปญั ญาของปลิงกาหมาด 3.1.1 การจับปลิง ครอบครัวน้ีประกอบอาชีพชาวประมงพ้ืนบ้าน หาปลาต่าง ๆ ตามที่มีความต้องการของท้องตลาดนาไปขายในหมู่เกาะ หาปลิงตามความ ต้องการเช่นกัน และแปรรูปอาหารทะเลในรูปแบบต่าง ๆพบว่าส่ิงที่น่าสนใจ ในการหาปลิงทะเลกาหมาด ต้องหาในเวลากลางคืน ช่วงข้างข้ึน หรือ ข้างแรม 15 ค่า ถนัดจากน้ันไปอีก 1-4 วัน ต้องจับในน้าลึก พบอยู่ใน 3-5 เมตร ในระดับน้าปกติ สามารถหาได้สะดวก และ พบปลิงทะเลกาหมาด ตามท่ีตอ้ งการ เนื่องจากปลิงทะเลกาหมาดออกหากินในเวลากลางคืน ในการ จับปลิงพบบริเวณแนวปะการัง สังเกตได้ง่ายตาปลิงจะมีสีแดง คือตาของ ปลงิ ทะเล กาหมาดในตอนกลางคืน ซึ่งชาวประมงสามารถท่ีจะจับได้อย่าง สะดวก หากจบั ในเวลากลางวนั ต้องดทู ิศทางนา้ ชว่ งนา้ ลง สามารถท่ีจะหา ปลงิ ได้ตามที่ต้องการ ซ่ึงขนาดของปลิงที่จับข้ึนมาความยาวประมาณ 15 ซม. และ น้าหนักประมาณ 15 กรัม การจับปลิงกาหมาด ปังไข่ จับปลิงโดยดาลงไปแบบมือเปล่าซึ่งเป็น ความสามารถพิเศษในการดาหาปลิงและใช้ระยะเวลาไม่นาน เนื่องจากได้มี การดาจับปลาและปลิงแบบน้ีเป็นเวลายาวนาน มีความสามารถพิเศษในการ ดาน้า อาจเป็นเพราะสืบเช้ือสายชาวน้า ซึ่งมีการสืบทอดในการดาน้าและ เทคนิคต่าง ๆ ในการจับสัตว์น้า ซึ่งชาวน้าจะทราบได้จากนามสกุล เช่น วารี สมุทร สมุนวารี เป็นต้น ซ่ึงชาวน้านี้เป็นชาติพันธุ์ที่พบได้ในเกาะศรีบอยา จ.กระบี่ มีภูมิปัญญาในการดาน้าทะเลลึก เช่นเดียวกัน ถ้าวันไหนฝนตก ก็ไม่ สามารถหาได้ เพราะว่าเมือ่ ปลิงเจอน้าฝนจะละลายหมด

15 ทีมงานนกั วจิ ยั ทีมงานนักวิจยั การดานาโดยไม่ต้องใชเ้ ครอื่ งดานา้ ปลงิ ทะเลกาหมาดท่ีจบั มาได้ ภาพที่ 5 การหาปลงิ ในกลางวนั ช่วงท่นี ้าลดจะสามารถหาได้ง่าย และน้าไม่ลกึ และ ฝนไมต่ ก 3.1.2 การทาความสะอาดปลงิ เมื่อได้ปลิงมาจากทะเลแล้ว ชาวบ้านจะนามาทาความสะอาดโดย การล้างด้วยน้าเค็ม เพื่อป้องกันการละลายตัวของปลิง เพราะหากใช้น้าจืดปลิง จะทาการลอกคราบและละลายเป็นเมือกในที่สุด และเอาลาไส้ปลิงทะเลออก หลังจากนั้นล้างด้วยน้าทะเลเพ่ือทาความสะอาด ทิ้งให้สะเด็ดน้าหลังจากน้ัน นาสารส้มมาทาความสะอาดโดยการถูกเพ่ือให้ผิวหนังปลิงเรียบและช่วยในเร่ือง กล่ินเฉพาะตัวของปลิงลงลด ตามด้วยการล้างด้วยน้าที่สะอาดด้วยน้าจืดได้ เพ่ือที่จะเตรียมในการแปรรูปอื่น ๆ ต่อไป นาปลิงท่ีต้มได้นามาหั่นท้ิงให้สะเด็ด น้า เพอื่ เตรียมนาไปทาเปน็ อาหาร หรือทาเป็นน้ามันเพ่ือใช้ในการนวด โดยการ ใชน้ า้ ตม้ ปลิง การทาปลิงแห้ง เพ่ือเป็นยาในการรักษาโรคหอบ การนามาดองใน เหลา้ ขาว การนามาดองในน้าผ้ึง เป็นต้น

16 ขนั้ ตอนในการทาความสะอาด ปลงิ ทะเลกาหมาดทจี บั มาจากทะเล ปลงิ ทะเล ในการจะแปรรปู ต้องเอาลาไสอ้ อก ไดร้ บั ความรู้และการอธบิ ายจากปงั ไข่ การนาสารสม้ มาขูดเพื่อใหล้ าตัวเกล้ยี ง นาทไ่ี ด้จากการลา้ งปลงิ นาปลงิ มาตม้ กับน้าทีส่ ะอาด ตม้ จนสุกกอ่ นนามาแปรรูป ปลิงทะเลกาหมาดทนี่ าไปตม้ นา้ ปลิงที่ไดจ้ ากการตม้ ภาพที่ 6 การเตรยี มปลิงสาหรบั ในการแปรรูป

17 3.2. การนาไปใช้ประโยชนด์ า้ นอาหาร และ เครื่องสาอาง 3.2.1 การใช้ประโยชนด์ ้านอาหาร จากการสมั ภาษณจ์ ๊ะอา ทาใหท้ ราบว่าก่อนนาปลิงมา ประกอบอาหารน้ันต้องนามาล้างและทาความสะอาด โดยการต้มและนามา ห่ันเป็นช้ินเล็ก ๆ ท้ิงให้สะเด็ดน้า จากนั้นนามาแปรรูปเป็นอาหาร ซึ่งทาง ชาวบ้านที่นิยมรับประทานได้แก่ ยาปลิงทะเลหาหมาด และ แกงคั่ว ปลิงทะเลกาหมาด ได้สูตรในการทายาปลิงทะเลกาหมาด จากการสัมภาษณ์ และลงชุมชนซ่งึ ได้ชิมทีช่ าวบ้านทามรี สชาตอิ ร่อยดี จ่ึงน่าจะได้นามาพัฒนาต่อ ไดน้ ามาศกึ ษาพฤติกรรมผู้บรโิ ภค 1) ยาปลิงทะเลกาหมาด วัตถุดิบ ได้แก่ ปลิงทะเล หอมแดง มะพร้าวค่ัว พริกสด น้าตาล น้าปลา และ มะนาว อุปกรณ์ ได้แก่ เคร่ืองช่ัง กระทะ เขียง มีด กะละมังและแกส๊ เป็นตน้ วธิ ีการ 1. นาปลงิ ทะเลกาหมาดต้มในนา้ เดอื ด ล้างทาความ สะอาด หั่นเปน็ ช้ินเลก็ ๆ 2. นามาคลกุ เคลา้ กับเคร่ืองยา ไดแ้ กม่ ะพร้าวค่ัว หอมซอย พริกสดซอย ปรงุ รสดว้ ยนา้ ตาลน้าปลาและมะนาว ภาพที่ 7 ยาปลงิ ทะเลกาหมาด

18 2) แกงควั่ ปลิงทะเลกาหมาด วัตถุดิบ ได้แก่ ปลิงกาหมาดท่ีหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เครื่องแกงผัดเผ็ด ไดแ้ ก่ ดปี ลแี หง้ เครื่องรา ประกอบด้วย เครื่องหอม ลูกผักชี ไม้หวาน เป็นต้น กะปิ พรกิ ไทยดา พริกคว่ั ตาให้ละเอียดและ กะทิ วธิ ีการทา โดยการนาปลงิ ท่ที าใหส้ ะอาดแบบยา่ นามาผสมใหเ้ ขา้ กนั สังเกตวา่ เครอ่ื งแกง แตกเปน็ มนั ใส่ปลิงลงไป ปรงุ รส ตามใจชอบ ภาพที่ 8 แกงควั่ ปลงิ ทะเลกาหมาด 3.2.2 การใช้ประโยชน์ดา้ นสมนุ ไพร 1) น้ามันปลงิ กาหมาด นาปลงิ ทะเลกาหมาดนามาต้ม โดยการล้าง เอา ลาไสอ้ อก นามาต้มในนา้ ทส่ี ะอาด ซ่ึงนา้ ท่ีไดจ้ ากการต้มปลงิ กาหมาดนัน้ นามาเป็นสว่ นผสมในการทาน้ามนั วัตถดุ ิบประกอบดว้ ย กระเทียม ว่านหางจระเข้ หัวไพร น้ามนั ปาล์ม มะพร้าวท่ีงอกหน่อ เอาเนื้อมาคั่นกะทิ ตะไคร้ และ มะกรูด สัดส่วนในการทาน้ามัน ทุก ๆ อย่างสัดส่วนเท่ากันหมด ยกเว้นตัว ไพร พิเศษตอ้ งใช้ วตั ถุดบิ นาวตั ถดุ บิ ทงั้ หมดโดยใช้สัดส่วนที่เท่ากนั ทุก ๆอย่างนามาตารวมกัน ยกเว้นหัวไพรใช้สัดส่วน 2 เท่า ของทั้งหมด น้า เคียวตั้งไฟ นามาตม้ กาหมาด เคย้ี วจนแหง้ 4-5 ชวั่ โมง ลดลงเหลือครึ่งจาก 5

19 ลิตรเหลือ 1 ลิตร ทิ้งตกตะกอน 1-2 คืน นามากรองด้วยผ้าขาวบาง นามา ใสข่ วดขาย คณุ ภาพของน้ามนั กาหมาด ข้ึนอยู่กบั 1. การนาน้าปลงิ ที่ได้จากการต้ม จะใชป้ ลงิ ขน้ั ต่า 50 ตวั ถ้าใช้ ปลงิ ทะเลกาหมาดเปน็ จานวนมาก ๆ จะดีสง่ ผลต่อนา้ มันปลิงใน แต่ละครงั้ 2. สมนุ ไพรท่ีใชต้ ้องคดั เลอื ก ความสด ปรมิ าณเท่ากนั ตามสัดสว่ น สง่ิ ทเ่ี ปน็ ภมู ปิ ัญญา 1. ในการทาความสะอาดปลิง จะใช้สารส้มนาการขัดตัวอีกคร้ังก่อน นาไปปรุงอาหาร นาไปทาน้ามัน สะอาด ทาให้ปุ่มต่าง ๆ ของปลิงออกหมด เลย และ ไมม่ ีกลน่ิ คราว 2. น้ากะทิทใี่ ช้ ได้จาก มะพร้าวท่ีงอก พบว่ามคี วามมันและหอม นาตม้ ปลิง ตกตะกอน น้ามนั ปลงิ ทะเลกาหมาด ใสข่ วดขาย ภาพที่ 9 น้ามนั ปลิงทะเลกาหมาดในรปู แบบของผลติ ภัณฑช์ มุ ชน

20 ตารางที่ 1 ผลของนา้ มนั ปลิงตามมาตรฐานมอก เอส 36-2561 ของ การเพ่อื เปน็ นา้ มนั ใช้ สาหรับการนวด รายการทดสอบ ผลการทดสอบ หน่วย พเี อช 5.22 - Total Plate Count 2.0 x 10 CFU/ml Arsenic ตรวจไม่พบ mg/kg Lead ตรวจไมพ่ บ mg/kg Mercury ตรวจไม่พบ mg/kg Candida albicans ตรวจไม่พบ /1ml Clostridium spp. ตรวจไม่พบ /1 ml Staphylococcus aureus ตรวจไมพ่ บ / 1 ml 2) ปลิงทะเลกาหมาดในนา้ ผง้ึ วัตถุดบิ ใช้ปลิงกาหมาดที่ห่ันเป็นชน้ิ เลก็ ๆ และ นา้ ผ้งึ ร่วงแท้ วธิ กี ารดอง การดองใชส้ ดั สว่ นปลิงทะเลกาหมาด ต่อนา้ ผ้งึ ใช้สัดสว่ น 1:1 สรรพคณุ แกโ้ รคความดัน เบาหวาน โรคเอสด์ ได้ โรคขาดอ่อนแรง รับประทาน ตอนเช้า กอ่ นนอน หรือ ก่อนอาหาร

21 กระบวนการทาปลงิ ทะเลกาหมาดดองในน้าผึง้ นาปลิงท่ไี ด้จากการต้ม นามาห่ันเป็นชนิ้ เล็ก ๆ น้าผึ้งรวง ปลิงเมอื่ ห่ันแลว้ นามาดองในน้าผึ้งร่วง นามาทดลองในอัตราส่วน แตกตา่ งกัน ภาพที่ 10 กระบวนการในการทาปลงิ ทะเลกาหมาดดองในนา้ ผ้ึงรวง

22 3) ปลิงดองในเหล้าขาว วัตถุดบิ ใช้ปลิงกาหมาดทหี่ ่นั เป็นชน้ิ เล็ก ๆ และ เหลา้ ขาว หรอื ลาไสป้ ลงิ วิธกี ารดอง การดองใชส้ ดั สว่ นปลงิ ทะเลกาหมาด ตอ่ เหลา้ ขาว ใช้สดั ส่วน ใช้ปลิงทะเลกาหมาด 8-9 ตัว : 1 ขวด เป็นระยะเวลา 1 อาทติ ย์ รสชาติ จะไมม่ ีกลิน่ เหล่าขาว จะมีตวั ยาผสมอยู่ เสมือนเปน็ การ สกดั สารออกมาทางหนึ่ง สรรพคุณ แกโ้ รคความดนั เบาหวาน โรคเอสด์ ได้ โรคขาดอ่อนแรง รับประทาน ตอนเชา้ ก่อนนอน หรอื ก่อนอาหาร ภูมิปัญญาในการดองเหล้า สามารถดองได้สองส่วน ส่วนแรกคอื ส่วนลาไล้ปลิง เนื่องจากนาลาไส้ปลิงมาทาการทดสอบหาการยังยั้ง Staphylococcus aureus และ Propianibacterium acnes ได้ 500 (MBC ; mg/ml) แกอ้ าการอมั พฤต รับประทานวนั ละ 2-3 วันละ คร้ังก่อนนอน หรือ กอ่ นอาหารเข้า ปกติขาย 1200 ถึง 1500 บาท เวลา รับประทาน รับประทานสด ๆ ไดเ้ ลย เมื่อดองเสร็จ หรอื นาเหล้าขาวมาเตมิ น้าผ้ึง ก็จะอร่อยเช่นกนั ชวยในเรอ่ื งระบบเลอื ดลม ระบบอวยั วะสืบพันธ์ุ

23 ลาไสป้ ลิง เหลา้ ขาว 35 ดกี รี เตรียมขวดแกว้ ดอง ดองปลิงทะเลกาหมาดในเหล้าขาว และสมนุ ไพร เนือ้ ปลงิ ทะเลกาหมาด นามาใส่ขวดเพือ่ เตรยี มดอง เทเหลา้ ชาวให้พอท่วมเน้ือปลิง บรรจใุ นขวดแกว้ ท่ีหาไดต้ ามบ้าน ภาพที่ 11 กรรมวธิ ีในการดองปลิงในเหลา้ ใชล้ าไส้ และ เนื้อปลิง

24 4) ปลงิ กาหมาดแหง้ วตั ถุดบิ ได้แก่ ปลงิ ทะเลกาหมาดเอาลาไสอ้ อก ตะแกรง เตาเผา วธิ กี ารทา 1. ในขน้ ตอนการทาปลงิ ทน่ี ามาต้มกับนา้ นัน้ นา นา้ ทไี่ ด้จากการต้มปลิง ไปทาน้ามนั ตอ่ 2. สว่ นตัวปลงิ ทีไ่ ด้จากการต้มน้ันนาไปรมควันและ ตากแดด ทาให้แห้งมากท่ีสุด จะได้ตัวปลิงท่ีแห้ง จะมีขนาดเล็ก ๆ เท่ากัน ไม่ เกิน 6 ถึง 7 วัน ซ่ึงในการทาปลิงแห้ง รักษาได้ยาวนาน น้ัน การรับประทาน นาไปบด และใส่แคลซูป สรรพคุณ แก้อาการ หอบ หืน ระบบทางเดิน หายใจ รบั ประทานกบั นา้ อนุ่ ๆ นามาบดใส่แคปซูล เพอื่ สะดวกในการใชง้ าน ปลิงทะเลกาหมาดท่ีได้จากการต้ม นามาตากแดด และ รมควันใหแ้ หง้ และเอาลาไสอ้ อก มีลักษณะเหมือนก่ิงไม้ บดเป็นผง นามาใสแ่ คปซลู ภาพที่ 12 กระบวนการทาปลงิ ทะเลกาหมาดแห้ง

25 ตารางท่ี 2 ผลการวิเคราะห์คุณค่าทางโภชนาการของปลิงทะเลกาหมาด แบบแห้ง รายการทดสอบ ผลการทดสอบ g/100g Ash 30.06 Calories 246.35 Kcal/100g Calories from fat 19.35 Carbohydrate 54.96 Cholesterol 3.19 mg/100g Dietary fiber 165 Energy 246.35 Kcal/100g Crude Fat 2.15 Moisture 11.04 Protein 7.79 Saturated fat 0.22 Total sugar 0.57 Vitamin A Not detected ugRe/100g Vitamin B2 Not detected ugRe/100g Calcium 1873.720 Iron 9.983 mg/100g Sodium 4390.730 mg/100g จากตารางท่ี 5 พบว่ามีโปรตีน ไขมัน เถ้า ไฟเบอร์ ความช้ืน (กรัมต่อ100กรัม) เท่ากับ 7.79 , 2.15, 30.06, 165, 11.04 ตามลาดับ เป็น ข้อมลู โภชนาการที่น่าสนใจ มีไขมันน้อยมาก มีแคลเซียม 1873.720 กรัมต่อ 100 กรัม และเหล็ก 9.983 กรัมต่อ100 กรัม จากข้อมูลปลิงทั่วไปจะพบว่า

26 คุณค่าทางอาหารของปลิงทะเล มีโปรตีนประมาณ 10-12% ความชื้น 70- 80% ไขมัน 0.002-0.04% (สานกั งานสง่ิ แวดลอ้ มภาคท่ี16, 2551) ตารางที่ 3 ปริมาณกรดอะมิโนในปลิงทะเลกาหมาดแบบแห้ง Amino Acids Mg/100 mg Aspartic acid 5.23 Serine 2.03 Glutamic acid 7.85 Glycine 8.63 Histidine 0.42 Arginine 3.46 Threonine 2.48 Alanine 4.32 Proline 4.48 Tyrosine 1.02 Valine 1.71 Lysine 1.28 Isoleucine 1.27 Leucine 2.04 Phenylalanine 1.13 ตารางที่ 3 พบว่า ปริมาณกรดอะมิโนท่ีจาเป็นต่อการเจริญเติบโตมี ครบทกุ ตวั โดยเฉพาะปลิงทะเลแห้งกาหมาด มีไกลซีน สูงสุด เท่ากับ 8.63 มิลลิกรัมต่อ100 มิลลิกรัม ซึ่งไกลซีน ช่วยรักษาภาวะต่อมใต้สมองทางาน น้อย รกั ษาโรคกลา้ มเนื้อฝ่อลบี รกั ษาภาวะนา้ ตาลต่า กรดกลูตามิก เท่ากับ 7.85 มิลลิกรัมต่อ100 มิลลิกรัม ทาหน้าท่ีหลักในระบบสมองเก่ียวกับการ สื่อสาร หรือสารส่ือสารระบบประสาท (Sapak and Palu, 2011) ปลิงทะเล กาหมาดแบบแหง้ มลี กั ษณะดงั น้ี เมือ่ นามาทาการล้างความสะอาด เอาเครื่อง

27 ในออก ล้างน้าทะเล ทาการต้มกับน้าท่ีสะอาด ต้มให้เดือด เมื่อเดือดแล้ว นามาย่างด้วยไฟ จากถ่านไม้เพื่อต้องการทาให้แห้ง และสามารถเก็บได้นาน ประมาณ 1 ปี (ได้ข้อมูลจากการสอบถามชาวบ้านท่ีทาขายส่งจีน) หลังจาก นั้นนามาตากแดดให้แห้งมีลักษณะลดลงจากเดิมท่ียังมีชีวิตอยู่ลงไปประมาณ 10 เท่าของน้าหนักตัวปลิง ส่วนความยาวลดลงเช่นกัน ซึ่งมีลักษณะดังน้ี ลักษณะแห้ง และเหนยี ว กลน่ิ ปกติมกี ลนิ่ น้าทะเล 5) เมือกปลงิ ทะเลกาหมาด ลกั ษณะพิเศษ ปลิงทะเลกาหมาดมีคุณสมบัติ พิเศษ คือ สามารถหลั่งสารเมือกเหนียวสีขาวเมื่อมีศัตรูมารบกวน โดยจะขับอวัยวะ ภายในออกมาในการลวงศัตรูเพ่ือหลบหลีกเอาตัวรอด หลังจากน้ันจะสร้าง อวยั วะภายในขึน้ ใหม่มาทดแทนไดเ้ หมือนเดิม จากการสอบถามชาวบา้ นวา่ ประโยชนข์ องเมือก ปลิงเอาไปทาใส่แผล ดังเช่น ในการดาน้าหากพบว่าตนเองมีบาดแผล ชาวประมงจะใชเ้ มือกดังกล่าวในการทาบาดแผล และในเวลาต่อมาบาดแผล นน้ั จะทาการสมาน และหายในท่สี ุด

28 ปลงิ ทะเลสด ๆ ท่ีจบั ได้จากทะเล เม่อื จับปลิงแบบเอยี งจะเกิดเมอื ก ใหม่ ๆ ปลิงทะเลกาหมาดจะสลัดผนังลาตัว เมือกปลิงทะเลกาหมาด ออกเปน็ ส่วน ๆ ภาพท่ี 13 ลักษณะพเิ ศษของปลิงทะเลกาหมาด ได้แก่ หล่ังสารเมอื กเหนยี วสีขาว และสลัดผนังลาตัวออกมาในการลงศัตรู

29 ตารางที่ 4 ผลการวเิ คราะหก์ รดอะมิโนในเมือกปลิงทะเลกาหมาด ลาดับ Amino Acid name Amount (nmol/mg) 1 Arp :Arginine 3.62061 2 Thr :Threonine 1.88727 3 Ser :Serine 1.88303 4 Glu: Glutamic acid 4.52545 5 Pro :Proline 1.24727 6 Gly :Glycine 3.37333 7 Ala :Alanine 2.29455 8 Cys :Cysteine 0.13939 9 Val : Valine 1.68424 10 Met : Methionine 0.15939 11 Ile : Isoleucine 1.03758 12 Leu :Leucine 2.07576 13 Tyr :Tyrosine 0.58121 14 Phe: Phenylalanine 1.04485 15 Lys :Lysine 1.41030 16 His : Histidine 0.42788 18 Arg : Arginine 1.09758

30 3.2.3 การใช้ประโยชน์ด้านเครอ่ื งสาอาง การนานา้ มันปลิงทะเลกาหมาดเป็นฐานในการพฒั นาสตู ร เซรมั่ เพื่อผวิ พรรณทดี่ แี ละน่าสนใจในการพัฒนาต่อยอด ดงั น้ี สูตรท่ี1 น้ามนั มะพรา้ ว สตู รท2่ี นา้ มนั เทยี นดา สูตรท่ี3 นา้ มนั มะพรา้ วสมุนไพร ภาพท่ี 14 เซร่ัมปลงิ ทะเล มี 3 สตู ร ไดแ้ ก่ น้ามนั มะพรา้ ว น้ามนั เทยี นดา และนา้ มนั มะพรา้ วสมุนไพร ภาพที่ 15 บรรจภุ ัณฑ์ใสเ่ ซร่มั ปลิงทะเลกาหมาดผสมนา้ มันเทียนดา

31 เอกสารอา้ งองิ ไชยรัตน์ สัมฉนุ . 2555. การวิจัยการแบง่ เซลลข์ องปลงิ กาหมาด. แหลง่ ทม่ี า: ไทยรัฐออนไลน์. (12 ธนั วาคม 2562). บา้ นสวนพอเพยี ง. 2551. นา้ ผง้ึ รวง. [ออนไลน์] เขา้ ถึงได้จาก: http://www.bansuanporpeang.com/node/1373. (12 พฤศจิกายน 2558). ประทีป ชูหมื่นไวย.์ 2542. การใช้สารเคมีกบั วิถีชวิ ตของขาวอีสาน. สุวรี ยิ า สาสน์ จดั พิมพ์ กทม. 95 น. สมชัย บุศราวิช และ นลนิ ี ทองแถม. 2543. การประมงและการคา้ ปลงิ ทะเล ในประเทศไทย. วารสารการประมง. 53(2): 161-168. สานักงานสิ่งแวดลอ้ มภาคที่16 .2551.ปลิงทะเล สัตวเ์ ศรษฐกิจจากท้องทะเล สูก่ ารเพาะเลยี้ งทยี่ ัง่ ยืน. สานกั งาน ปลดั กระทรวง ทรพั ยากรธรรมชาติ และส่งิ แวดลอ้ ม วารสาร รายไตรมาสเม็ดทรายปที ี่ 4 (2) : เมษายน - มถิ ุนายน. 8-9 น. อาอีเซาะส์ เบ็ณหาวนั สุนยี ์ แวมะ ฟาอซี ๊ะ สาและ และ อิสละห์ สาเตาะ. 2560. ฤทธก์ิ ารยบั ยั้งเชอ้ื แบคทีเรยี ทีก่ ่อใหเ้ กิดกล่นิ กายของ สารสม้ ร่วมกับสารสกดั สมุนไพรในท้องถน่ิ . การประชมุ วิชาการ ระดบั ชาติ คร้งั ท่ี 6 “สร้างสรรคง์ านวจิ ัยเพื่อขับเคล่ือนประเทศ สู่ ความม่นั คง มั่งคัง และยง่ั ยืนในยคุ Thailand 4.0 (การนาเสนอ แบบโปสเตอร์) 18 ตุลาคม 2017 ณ อาคารเรยี นรวมเฉลิมพระ เกียรติ มหาวทิ ยาลัยฟาฏอนี. Anderson, E. N. 1988. The food of Chia. New Haven, C. T. Yale university Press.

32 เอกสารอา้ งองิ (ต่อ) Bawalan D.D. and Chapman, K. R. 2006. Virgin Coconnut Oil Production mineral for micro and village-scale procrssing. FAO Reginal Office for Asia and Pacific, Bangkok. 80 p. Sapak, P .2011. Fish bone chemistry and Ultrastructure : implications for taphonomy and stable isotope analysis. Journal of Archaeological Science 38(12) : 3358-3372.

33 ทีมนกั วจิ ยั ทีมนักวิจัย ปงั ไข่ (จับปลิงทะเลกาหมาดขาย) เจะ๊ อา (ขายผลิตภณั ฑ)์ สามารถติดต่อนกั วิจัย รองศาสตราจารย์ ดร.ชตุ นิ ชุ สุจรติ 0955041954 ผ้ชู ่วยศาสตราจารย์ ดร.ลักษมี วิทยา 0896539180 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยกี ารประมง มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลศรวี ิชัย วิทยาเขตตรัง

34

35


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook