แผนการจัดการเรียนรู้รายภาค_1-2564_ม.ต้น

แผนเรยี นรรู้ ายภาค แผนการจดั การเรยี นรู้ ภาคเรียนที่ 1/2564 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้ หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 คร้งั ท่ี หัวเร่อื ง ตัวชว้ี ดั เน้อื หา การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ จานวนชัว่ โมง การวัดและ ประเมนิ ผล 1 ปฐมนิเทศ 1. รแู้ ละเขา้ ใจหลักสตู ร / - หลักสตู รการศกึ ษานอก ขน้ั ที่ 1 กาหนดสภาพ ปัญหา ความ 5 - แบบสอบถาม วธิ เี รียน /การจัดการเรยี น ระบบระดับการศึกษาขนั้ ต้องการในการเรียนรู้ - แบบทดสอบ การสอน พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ความร้กู ่อนเรียน 2. รูแ้ ละเข้าใจ การทา - วธิ เี รยี น - ผสู้ อนแนะนาตนเอง นาเขา้ สู่บทเรียน - แบบทดสอบ กิจกรรม กพช. - นโยบาย จุดเนน้ ของ - ผ้สู อนอธบิ ายวธิ กี ารเรียนร้แู บบ กศน. ความรูห้ ลงั เรียน 3. อธบิ ายกระบวนการการ สถานศกึ ษา - ผสู้ อนอธิบายใหค้ วามรู้ ความเขา้ ใจ เรียนรู้ ตามหลักสตู ร ดา้ นโครงการ จุดเนน้ นโยบายของ การศกึ ษานอกระบบ ระดับ สถานศึกษาและการจัดการเรียนรแู้ บบ การศกึ ษาข้ันพื้นฐาน บรู ณาการ พทุ ธศกั ราช 2551 ขนั้ ท่ี 2 ขัน้ แสวงหาข้อมลู และจดั การ เรียนรู้ - ผู้เรียนวเิ คราะหส์ ภาพปญั หาที่อาจจะ เกดิ ข้นึ จากการจดั กระบวนการเรียนรู้ - แบง่ ผเู้ รยี นกลุม่ เป็น 5-7 คน เพอื่ วเิ คราะห์ปญั หาดา้ นชมุ ชน สงั คม ท่ี เกีย่ วขอ้ งกับการเรียนร้แู บบ กศน. มา แกป้ ัญหารว่ มกัน และนาความรู้ทไี่ ด้ไป ตรวจสอบความถูกตอ้ ง

แผนเรยี นรรู้ ายภาค แผนการจดั การเรียนรู้ ภาคเรยี นท่ี 1/2564 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ครง้ั ท่ี หวั เรื่อง ตวั ชว้ี ัด เนือ้ หา การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ จานวนชว่ั โมง การวัดและ ประเมนิ ผล 4. มีความรู้ ความเขา้ ใจ - กระบวนการจดั การเรยี น ขนั้ ที่ 3 การปฏิบตั แิ ลละนาไป - บนั ทึกกจิ กรรม โครงการ จดุ เน้น นโยบาย การสอน การเรยี นรูข้ อง ของสถานศกึ ษาได้ - การวัดผลประเมนิ ผล ประยกุ ตใ์ ช้ ผู้เรียน - แหลง่ เรียนรู้ ภมู ปิ ัญญา ท้องถิ่นในชุมชน - ผเู้ รยี นปฏิบตั ติ ามขั้นตอนที่ได้วิเคราะห์ แลว้ โดยสงั เกตปรากฏการณ์ จดบนั ทึก - ผู้เรียนสง่ ตวั แทนในกลุ่ม 2 คน ออกมา อภิปรายสรปุ วธิ ีการจดั การเรียนรู้ โดยยอ่ หน้าชั้นเรยี น - ช่วงท้ายชั่วโมง ผู้สอนให้ผเู้ รยี นเขียน สภาพความตอ้ งการการเรียนรู้ของตนเอง - กจิ กรรมกลุ่มสมั พนั ธ์ ผูเ้ รียนแลกเปลย่ี น เรียนรกู้ บั เพ่ือนในชน้ั เรยี น ขนั้ ท่ี 4 การประเมินผลการเรียนรู้ - ตรวจสอบหาข้อบกพร่อง และรวบรวม ไว้ในแฟ้มสะสมงาน - ผู้เรยี นสรปุ ผล เกบ็ รวบรวมไว้ในแฟม้ สะสมงาน - ผู้สอนอธิบายสรปุ ผลการเรยี นรู้ และนดั หมายในการพบกลุ่มคร้ังต่อไป

แผนเรยี นรรู้ ายภาค วิชาวิทยาศาสตร์ รหสั วิชา พว 21001 จานวน (4 หนว่ ยกติ 160 ชัว่ โมง) ระดับช้นั มธั ยมศกึ ษาตอนต้น ประจาปีการศึกษา 1/2564 ครง้ั ที่ หัวเรอ่ื ง ตัวช้ีวดั เนื้อหา กจิ กรรมการเรยี นรู้ จานวนชัว่ โมง การวัดและ 10 ชั่วโมง 2-3 กระบวนการทาง 1. อธบิ ายธรรมชาตแิ ละ ธรรมชาติของ ขั้นที่ 1 การกาหนดสภาพปญั หา ความ ประเมนิ ผล วทิ ยาศาสตร์ และ ความสาคัญของวทิ ยาศาสตร์ วทิ ยาศาสตรแ์ ละทักษะ ต้องการในการเรยี นรู้ (O : Orientation) 1. ใบงาน เทคโนโลยี และเทคโนโลยไี ด้ 2. แบบบนั ทกึ การ ทางวิทยาศาสตร์ 1. ครูเตรียมวางแผนการจดั กระบวนการ 1.1 กระบวนการทาง 2. อธบิ ายทักษะทาง เรยี นรู้เรอ่ื งธรรมชาตขิ องวิทยาศาสตร์ เรอ่ื ง เรียนรู้ วิทยาศาสตร์ และ วทิ ยาศาสตร์ทั้ง ๑๓ ทักษะได้ 1. กระบวนทาง เทคโนโลยี เรื่อง โครงงานวทิ ยาศาสตร์ 3. แบบฝึกปฏิบตั ิ เทคโนโลยี 3. อธิบายกระบวนการทาง วทิ ยาศาสตร์ 2. ช้ีแจงการเรยี นการสอน กระบวนการวัด 4. แบบประเมิน 1.2 โครงงาน วทิ ยาศาสตรท์ ้ัง ๕ ข้นั ตอนได้ 1.1 ความหมายและ ประและประเมินผลของรายวิชาวทิ ยาศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ 4. นาความรูแ้ ละ ความสาคัญของ ข้นั ท่ี 2 ขั้นแสวงหาขอ้ มลู และจดั การเรยี นรู้ พฤติกรรม กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์และ ไปใช้แก้ปัญหาต่าง ๆ เทคโนโลยี 1. ศึกษาปฏิบตั ิการเรียนรู้ อภปิ รายความรู้ 5. นาความรแู้ ละกระบวนการ 1.2 กระบวนการทาง ทวั่ ไปเกี่ยวกับวทิ ยาศาสตร์ ทางวิทยาศาสตร์ไปใช้ วิทยาศาสตร์ 2. ครูอธิบายเร่ืองเทคโนโลยี ความสัมพันธ์ แก้ปญั หาตา่ ง ๆไดๆ้ 1.2.1 วธิ ีการทาง เทคโนโลยีกบั วทิ ยาศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ ๕ ขน้ั 3. แจกใบความร/ู้ สอื่ แบบเรียนครูให้ผู้เรยี นทา 1.2.2 ทักษะกระบวนการ แบบฝกึ หัดทักษะทางวิทยาศาสตร์ ทางวิทยาศาสตร์ ๑๓ 4 นักศกึ ษาไปศกึ ษาคน้ ควา้ และแบบเสนอ ทกั ษะ เจตคติทาง โครงงานวทิ ยาศาสตรใ์ ห้กลบั มาส่งตามวันเวลา ที่กาหนดรว่ มกัน ครูมอบหมายใบงานให้

แผนเรยี นรรู้ ายภาค วิชาวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา พว 21001 จานวน (4 หนว่ ยกติ 160 ช่ัวโมง) ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาตอนตน้ ประจาปีการศกึ ษา 1/2564 ครั้งท่ี หวั เร่ือง ตวั ชี้วดั เนอื้ หา กิจกรรมการเรยี นรู้ จานวนช่วั โมง การวัดและ ประเมนิ ผล 2. เทคโนโลยี ขั้นท่ี 3 การปฏิบัตแิ ลละนาไปประยกุ ตใ์ ช้ 2.1 ความหมายและความสัมพันธ์ 1. รับฟงั คาอธิบายรายวิชาวิทยาศาสตรแ์ ละเรื่อง ของวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยตี ่อ เทคโนโลยี ความสัมพันธ์เทคโนโลยกี ับวทิ ยาศาสตร์ ชีวติ และสงั คม 2. นักศกึ ษาศึกษาใบความรู้และแบบเรยี น ทา 2.2 ความกา้ วหนา้ ของเทคโนโลยี แบบฝึกหัดทักษะทางวทิ ยาศาสตร์ ปัจจบุ ัน 3. ร่วมครูและเพื่อนนกั ศกึ ษาสรุปเรอื่ งธรรมชาติของ 2.3 เทคโนโลยีกับการ ประกอบอาชีพ และการนา วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยกี ับวทิ ยาศาสตร์ 4. รับใบงานทีไ่ ด้รับมอบหมายกลับไปศึกษาคน้ คว้า เทคโนโลยไี ปใชใ้ นชวี ิต และนามาส่งตามวันและเวลาที่กาหนดรว่ มกนั 3. วสั ดุ และอุปกรณ์ทาง วทิ ยาศาสตร์ 5. ใหน้ ักศกึ ษาเสนอแบบการทาโครงงาน วทิ ยาศาสตร์ 3.1 ประเภทของวสั ดุและอปุ กรณ์ ขัน้ ท่ี 4 การประเมนิ ผลการเรียนรู้ 3.2 วธิ ใี ช้วสั ดุ และอุปกรณ์ - โครงงานวทิ ยาศาสตร์ 1.นักศกึ ษาร่วมกระบวนการพบกลุ่มเรื่องธรรมชาติ ของวิทยาศาสตร์ เร่ือง เทคโนโลยี เรื่องโครงงาน เร่ืองท่ี 1 ประเภทของโครงงาน วิทยาศาสตร์ เรือ่ งท่ี 2 ขัน้ ตอนการทาโครงงาน เร่อื งที่ 3 การนาเสนอโครงงาน

แผนเรียนรรู้ ายภาค วิชาวิทยาศาสตร์ รหสั วิชา พว 21001 จานวน (4 หนว่ ยกติ 160 ช่ัวโมง) ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาตอนตน้ ประจาปกี ารศกึ ษา 1/2564 คร้งั ท่ี หวั เรื่อง ตวั ชี้วัด เนือ้ หา กิจกรรมการเรยี นรู้ จานวนชั่วโมง การวดั และ ประเมินผล 1. อธิบายลักษณะโครงสร้าง 1. ลกั ษณะ รปู ร่างของเซลล์พืช ขนั้ ท่ี 1 การกาหนดสภาพ ปัญหา ความตอ้ งการ - การนาเสนอ ความคิดรวบยอด องคป์ ระกอบและหนา้ ท่ีของ และสตั ว์ ในการเรยี นรู้ (O : Orientation) - การทาแบบฝกึ หัด - แบบสังเกต เซลลไ์ ด้ 1.1 ส่ิงมีชีวติ เซลล์เดยี ว 1. ครูเตรยี มวางแผนการจัดกระบวนการเรียนรู้ พฤติกรรม 2. เปรยี บเทยี บความ 1.2 ส่งิ มีชวี ิตหลายเซลล์ ดว้ ยกระบวนการเรยี นรดู้ ้วยตนเอง เรื่อง เซลล์ แตกตา่ งระหวา่ งเซลลพ์ ืช 2. องค์ประกอบ กระบวนการดารงชวี ติ ระบบการสืบพนั ธ์ การ และเซลล์สัตว์ได้ โครงสร้างและหนา้ ที่ของเซลลพ์ ืช ทางานของระบบต่างๆ 3. อธิบายกระบวนการแพร่ และเซลล์สตั ว์ 2.ให้นกั ศกึ ษาวางแผนการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง เร่อื ง และออสโมซิสได้ 3. กระบวนการท่สี ารผ่านเซลล์ เซลล์ กระบวนการดารงชวี ิต ระบบการสืบ 3.1 อธบิ ายโครงสร้างและ 3.1 การแพร่ พันธ์ การทางานของระบบต่างๆ การทางาน 3.2 การออสโมซสิ ขั้นที่ 2 ขัน้ แสวงหาข้อมลู และจดั การเรยี นรู้ 3.2 อธบิ ายความสาคญั 4 กระบวนการดารงชวี ติ ของพชื และปัจจัยที่จาเปน็ สาหรบั และสตั ว์ 1. ครมู อบใบความรู้ความรู้เกย่ี วกับเซลล์ กระบวนการการสังเคราะห์ 1. กระบวนการแพรแ่ ละการ กระบวนการดารงชีวิต ระบบการสบื พันธ์ การ ด้วยแสงได้ ออสโมซอส ทางานของระบบตา่ งๆ 3.4 อธิบายโครงสร้างและ 2. โครงสรา้ งและการทางานของ 2. ครมู อบใบงาน เรื่องเซลล์ กระบวนการ การทางานของ ระบบลาเลยี งในพืช ดารงชีวิต ระบบการสืบพันธ์ การทางานของ ระบบตา่ ง ๆ ในสตั ว์ได้ ระบบตา่ งๆ 3. ครแู ละผเู้ รียนรว่ มกนั กาหนดการสง่ ใบงานที่ ไดร้ ับมอบหมายตามกาหนดเวลา

แผนเรยี นรรู้ ายภาค วชิ าวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา พว 21001 จานวน (4 หน่วยกติ 160 ช่ัวโมง) ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาตอนต้น ประจาปกี ารศกึ ษา 1/2564 ครง้ั ท่ี หัวเร่ือง ตวั ชี้วดั เนอ้ื หา กจิ กรรมการเรียนรู้ จานวนชั่วโมง การวัดและ ประเมนิ ผล 3. ความสาคัญและปัจจัยท่ี ข้นั ที่ 3 การปฏบิ ตั แิ ลละนาไปประยุกตใ์ ช้ จาเป็นสาหรับกระบวนการ 1.นกั ศึกษารับมอบหมายใบความรแู้ ลใบงานเร่อื ง เซลล์ สงั เคราะหด์ ้วยแสง กระบวนการดารงชวี ติ ระบบการสืบพันธ์ การทางาน 4. โครงสร้างและการ ของระบบตา่ งๆ ทางานของระบบสืบพนั ธ์ใุ น 2.นกั ศึกษาคน้ คว้ามาหวั ขอ้ ใบงานที่ได้รบั มอหมาย พชื ในทอ้ งถนิ่ ตามแหลง่ เรยี นรู้ เชน่ ห้องสมุด อนิ เตอร์เนต็ หนงั ส่ือ 5. การทางานของระบบ แบบเรยี น ตามความเหมาะสม ต่าง ๆ ในสตั ว์ 3. นักศกึ ษานาใบงานที่ได้รบั มอบหมายกลบั มาส่งตาม กาหนดเวลาทีได้กาหนดไว้ร่วมกนั ขนั้ ท่ี 4 การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1.ประเมินจากการส่งงานที่ไดร้ บั มอบหมายตาม กาหนดเวลา และความครบถ้วนของเนื้อหา

แผนเรยี นร้รู ายภาค วิชาวทิ ยาศาสตร์ รหสั วิชา พว 21001 จานวน (4 หน่วยกติ 160 ชั่วโมง) ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ ประจาปีการศกึ ษา 1/2564 คร้ังท่ี หวั เรือ่ ง ตวั ชี้วดั เนอื้ หา กจิ กรรมการเรียนรู้ จานวนชวั่ โมง การวดั และ ประเมินผล 4 สิ่งมีชีวิตและ สง่ิ แวดล้อม 1. อธบิ ายลกั ษณะ เซลล์ ขั้นที่ 1 การกาหนดสภาพ ปัญหา ความต้องการในการ 10 ช่ัวโมง - การนาเสนอ เซลล์ ความคิดรวบยอด โครงสรา้ ง 1. ลักษณะ รูปร่างของ เรยี นรู้ (O : Orientation) - การทาแบบฝึกหัด - แบบสงั เกต องค์ประกอบและ เซลลพ์ ชื และสตั ว์ 1. ครเู ตรียมวางแผนการจัดกระบวนการเรียนรูด้ ว้ ย พฤติกรรม หน้าทข่ี องเซลล์ได้ 1.1 ส่ิงมชี วี ติ เซลล์ 2. เปรยี บเทยี บความ เดยี ว กระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรอื่ ง เซลล์ กระบวนการ แตกตา่ งระหวา่ งเซลล์ 1.2 สิง่ มีชีวิตหลาย พชื และเซลล์สัตวไ์ ด้ เซลล์ ดารงชวี ติ ระบบการสืบพันธ์ การทางานของระบบตา่ งๆ ขน้ั ที่ 2 ข้นั แสวงหาข้อมูลและจดั การเรียนรู้ 3. อธิบายกระบวนการ 2. องค์ประกอบ 1. ครูมอบใบความรคู้ วามรู้เกีย่ วกับเซลล์ กระบวนการ แพร่และออสโมซสิ ได้ โครงสร้างและหน้าท่ี ดารงชีวติ ระบบการสืบพันธ์ การทางานของระบบต่างๆ 3.1 อธบิ ายโครงสร้าง ของเซลล์พชื และเซลล์ 2. ครูมอบใบงาน เรื่องเซลล์ กระบวนการดารงชวี ติ และการทางาน สัตว์ ระบบการสืบพันธ์ การทางานของระบบตา่ งๆ 3.2 อธิบาย 3. ครูและผู้เรยี นรว่ มกนั กาหนดการส่งใบงานทไ่ี ดร้ ับ 3. กระบวนการทส่ี าร มอบหมายตามกาหนดเวลา ความสาคัญและปจั จยั ผา่ นเซลล์ ที่จาเป็นสาหรับ 3.1 การแพร่ กระบวนการการ 3.2 การออสโมซิส สังเคราะห์ด้วยแสงได้

แผนเรยี นรรู้ ายภาค วิชาวทิ ยาศาสตร์ รหัสวิชา พว 21001 จานวน (4 หนว่ ยกติ 160 ชั่วโมง) ระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ ประจาปกี ารศกึ ษา 1/2564 ครงั้ ท่ี หวั เร่อื ง ตวั ชว้ี ดั เนือ้ หา กิจกรรมการเรยี นรู้ จานวนชั่วโมง การวดั และ สิ่งมีชวี ิตและ 3.4 อธบิ าย 4. กระบวนการ ข้นั ที่ 3 การปฏิบตั แิ ลละนาไปประยุกต์ใช้ ประเมินผล สิ่งแวดล้อม 2.1 เซลล์ โครงสร้างและการ ดารงชวี ิตของพืชและ 1.นักศึกษารบั มอบหมายใบความรู้แลใบงานเรือ่ ง เซลล์ - การนาเสนอ ทางานของ สัตว์ ความคิดรวบยอด กระบวนการดารงชีวิต ระบบการสบื พนั ธ์ การทางานของ - การทาแบบฝึกหัด ระบบตา่ ง ๆ ในสัตวไ์ ด้ 1. กระบวนการแพร่ ระบบต่างๆ - แบบสังเกต และการออสโมซีส 2.นักศกึ ษาคน้ คว้ามาหัวข้อใบงานทไี่ ดร้ ับมอหมาย ตาม พฤติกรรม 2. โครงสรา้ งและ แหล่งเรียนรู้ เช่น หอ้ งสมดุ อินเตอรเ์ นต็ หนังส่ือแบบเรยี น การทางานของระบบ ตามความเหมาะสม ลาเลียงในพืช 3. นักศึกษานาใบงานทีไ่ ดร้ บั มอบหมายกลบั มาสง่ ตาม 3. ความสาคญั และ กาหนดเวลาทีได้กาหนดไว้รว่ มกัน ปจั จัยที่จาเป็นสาหรับ ขน้ั ท่ี 4 การประเมนิ ผลการเรียนรู้ กระบวนการสงั เคราะห์ ด้วยแสง 1.ประเมินจากการส่งงานท่ีไดร้ บั มอบหมายตาม 4. โครงสร้างและ กาหนดเวลา และความครบถ้วนของเนื้อหา การทางานของระบบ 2.นักศกึ ษาวางแผนการเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง เรื่อง เซลล์ สบื พนั ธใ์ุ นพืชในท้องถ่นิ กระบวนการดารงชีวติ ระบบการสืบพันธ์ การทางานของ ระบบต่างๆ 5. การทางานของ ระบบต่าง ๆ ในสัตว์

แผนเรยี นรู้รายภาค วชิ าวทิ ยาศาสตร์ รหสั วิชา พว 21001 จานวน (4 หน่วยกติ 160 ชว่ั โมง) ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาตอนตน้ ประจาปกี ารศึกษา 1/2564 ครง้ั ท่ี หัวเรื่อง ตวั ชี้วัด เนอ้ื หา กจิ กรรมการเรยี นรู้ จานวนชวั่ โมง การวัดและ 5 สารเพ่อื ชวี ติ อธิบายเกยี่ วกับสมบัตทิ าง ธาตแุ ละ ข้นั ที่ 1 การกาหนดสภาพปัญหา ความต้องการใน 10 ช่วั โมง ประเมนิ ผล 1. สารและการ กายภาพและทางเคมีของสาร สารประกอบ การเรยี นรู้ (O : Orientation) -การสงั เกต การจาแนก สารกรด เบส ธาตุ -การซกั ถาม จาแนกสาร สารประกอบ สารละลายและ - อธิบายและ 1. ครวู างแผนเตรียมความพร้อมในการจัด -การมีส่วนร่วม 2.ธาตุและ ของผสมและใชส้ ารและ จาแนกธาตุ กระบวนการเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง เรือ่ ง ธาตุและ -แบบฝึก/ใบงาน สารประกอบ ผลติ ภัณฑใ์ นชีวิตประจาวันได้ สารประกอบ โลหะ สารประกอบ เรื่องสารละลาย เรื่อง กรด-เบส เรอ่ื งแรง 3. สารละลาย อย่างถูกต้องและปลอดภยั ตอ่ อโลหะ และโลหะกง่ึ และการใชป้ ระโยชน์ เรื่องงานและพลังงาน เรือ่ งแสง 4. สารและ ชีวติ อโลหะได้ เร่อื งดวงดาวกบั ชีวติ ครูเตรยี มใบความรู้และใบงาน ผลติ ภัณฑใ์ นชวี ิต 1. ระบปุ ระเภทและ 1. สารละลาย ตามเนือ้ หาท่วี างแผนและเตรียมการ ความหมายของแรงประเภท ขน้ั ท่ี 2 ขั้นแสวงหาขอ้ มลู และจดั การเรยี นรู้ ต่าง ๆ ได้ 1.1 สมบัตขิ อง 2. อธบิ ายการกระทาของแรง สารละลาย และ 1.ครมู อบหมายหวั ข้อให้นักศึกษาไปศึกษาคน้ คว้าตาม และโมเมนต์ของแรงได้ องคป์ ระกอบของ หัวขอ้ ดงั นี้ 3. ระบปุ ระโยชน์ของแรงใน สารละลาย ชวี ิตประจาวนั ได้ 2. กรด – เบส เรื่อง ธาตุและสารประกอบ เรือ่ งสารละลาย 4. การหาค่าและผลกระทบ เรอื่ ง กรด-เบส ของแรงและโมเมนต์ได้ 2.1 ความหมายและ เร่ืองแรงและการใชป้ ระโยชน์ เรอ่ื งงานและพลังงาน สมบตั ิของกรด – เบส เรอ่ื งแสง เรื่องดวงดาวกับชีวติ และเกลือได้ 2. ครูมอบหมายใบงานและแนะนาแหลง่ เรยี นรู้ แรงและการใช้ เพมิ่ เติม เช่น อินเตอรเ์ นต็ ห้องสมดุ ประชาชน กศน. ประโยชน์ ตาบล และแหลง่ เรยี นรู้อื่นในชมุ ชน

แผนเรยี นรู้รายภาค วชิ าวิทยาศาสตร์ รหสั วิชา พว 21001 จานวน (4 หน่วยกติ 160 ช่ัวโมง) ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาตอนตน้ ประจาปกี ารศกึ ษา 1/2564 ครั้งที่ หวั เร่ือง ตัวชี้วัด เนือ้ หา กิจกรรมการเรียนรู้ จานวนชั่วโมง การวัดและ สารเพือ่ ชวี ิต 5. ใช้ความรเู้ รื่องโมเมนต์ใน 3. แรง 3. ครนู ดั หมายกาหนดการสง่ ใบงานที่ได้รบั ประเมนิ ผล 1. สารและการ ชีวติ ประจาวนั ได้ 3.1 ความหมายและหน่วย มอบหมาย -การสังเกต -การซกั ถาม จาแนกสาร 1. อธบิ ายความหมายของงานและ ของแรง ข้นั ที่ 3 การปฏบิ ัตแิ ลละนาไปประยกุ ตใ์ ช้ -การมีส่วนรว่ ม -แบบฝกึ /ใบงาน 2.ธาตแุ ละ พลังงานในรปู แบบตา่ ง ๆ ได้ งานและพลังงาน - นักศึกษารบั มอบหมายใบงานตามหวั ข้อที่ สารประกอบ 2. ตอ่ วงจรไฟฟ้าอยา่ งงา่ ยได้ 4. แสง 3. ใชก้ ฎของโอห์มในการคานวณได้ ประโยชน์และโทษของแสง เรียนรูด้ ว้ ยตนเองในแหล่งเรียนร้เู ช่น หอ้ งสมดุ 3. สารละลาย 4. บอกวธิ ีการอนุรักษแ์ ละประหยัด 5.ดวงดาวกบั ชีวติ 4. สารและ พลงั งานได้ อนิ เตอรเ์ น็ต ผู้รู้ตาม ผลิตภณั ฑใ์ นชีวติ 5. อธบิ ายสมบัตขิ องแสง พลังงาน 1.กลมุ่ ดาวจกั ราศี ข้ันท่ี 4 การประเมินผลการเรยี นรู้ 2.การสังเกตตาแหนง่ ของดาว ความร้อนและนาไปใช้ประโยชนใ์ น ฤกษ์ 1. ผเู้ รียนรวบรวมผลการปฏบิ ัติ สรปุ และ ชวี ิตประจาวนั ได้ 3.วธิ ีการหาดาวเหนือ จัดทารายงาน 6. อธิบายพลงั งานทดแทนและเลอื ก 4.แผนที่ดาว 2. ผเู้ รียนนาความรู้ที่ได้รับไปปฏิบตั ใิ ช้ในการ ใชไ้ ด้ 5.การใชป้ ระโยชน์จากกลมุ่ เรยี นในรายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ 1. ระบชุ ื่อของกล่มุ ดาวจักราศีได้ ดาวฤกษ์ - นกั ศกึ ษาส่งใบงานครบและถกู ต้องตาม 2. อธบิ ายวิธีการหาดาวเหนือได้ กาหนดเวลา - นักศกึ ษาเตรียมความพร้อมในการเรียนรู้ 3. อธบิ ายการใชแ้ ผนท่ดี าวได้ ด้วยตนเองตามแหล่งเรยี นรทู้ ่ีมีความเหมาะสม 4. อธิบายประโยชนจ์ ากกลุม่ ดาวฤกษ์ และตรงตามเนื้อหาทไี่ ดร้ ับมอบหมาย ต่อการดารงชีวิตประจาวนั ได้

แผนเรยี นรรู้ ายภาค วชิ าวทิ ยาศาสตร์ รหสั วิชา พว 21001 จานวน (4 หนว่ ยกติ 160 ชวั่ โมง) ระดับชนั้ มัธยมศกึ ษาตอนตน้ ประจาปกี ารศกึ ษา 1/2564 คร้งั ที่ หัวเร่อื ง ตวั ชว้ี ดั เนือ้ หา กิจกรรมการเรียนรู้ จานวนช่วั โมง การวดั และประเมนิ ผล 6 ธาตุและ อธิบายเก่ยี วกบั สมบัตทิ าง ธาตุและ ขัน้ ท่ี 1 การกาหนดสภาพปัญหา ความต้องการในการ 10 ชวั่ โมง -การสงั เกต สารประกอบ กายภาพและทางเคมีของสาร สารประกอบ เรียนรู้ (O : Orientation) -การซกั ถาม การจาแนก สารกรด เบส ธาตุ - อธบิ ายและจาแนก 1. ครูวางแผนเตรียมความพรอ้ มในการจดั กระบวนการ -การมสี ่วนรว่ ม สารประกอบ สารละลายและของ ธาตสุ ารประกอบ เรยี นรู้ด้วยตนเองเรอื่ ง ธาตแุ ละสารประกอบ เร่ืองสารละลาย -แบบฝกึ /ใบงาน ผสมและใชส้ ารและผลติ ภัณฑ์ใน โลหะ อโลหะ และ เร่ือง กรด-เบส เรอ่ื งแรงและการใช้ประโยชน์ เรื่องงานและ ชีวติ ประจาวันได้อยา่ งถูกต้องและ โลหะกง่ึ อโลหะได้ พลังงาน เรอ่ื งแสง เรอ่ื งดวงดาวกับชีวิต ครเู ตรียมใบความรู้ ปลอดภัยตอ่ ชวี ิต 1. สารละลาย และใบงานตามเนื้อหาท่วี างแผนและเตรียมการ 1. ระบปุ ระเภทและความหมาย ข้นั ท่ี 2 ขั้นแสวงหาข้อมลู และจดั การเรยี นรู้ ของแรงประเภทต่าง ๆ ได้ 1.1 สมบตั ิของ 2. อธิบายการกระทาของแรงและ สารละลาย และ 1. ครมู อบหมายหวั ข้อให้นักศึกษาไปศึกษาค้นควา้ ตามหัวขอ้ โมเมนต์ของแรงได้ องคป์ ระกอบของ ดังน้ี 3. ระบปุ ระโยชนข์ องแรงใน สารละลาย เรือ่ ง ธาตุและสารประกอบ เรือ่ งสารละลาย ชีวิตประจาวันได้ 2. กรด – เบส เรื่อง กรด-เบส 4. การหาค่าและผลกระทบของ เรื่องแรงและการใชป้ ระโยชน์ เรอ่ื งงานและพลงั งาน แรงและโมเมนตไ์ ด้ 2.1 ความหมายและ เร่ืองแสง เรอ่ื งดวงดาวกบั ชีวิต 5. ใช้ความรเู้ ร่อื งโมเมนต์ใน สมบัติของกรด – เบส 2. ครูมอบหมายใบงานและแนะนาแหล่งเรียนรู้เพม่ิ เติม เช่น ชีวิตประจาวนั ได้ และเกลือได้ อนิ เตอรเ์ น็ต ห้องสมดุ ประชาชน กศน.ตาบลไทรงาม และ แรงและการใช้ แหล่งเรียนรอู้ ่นื ในชุมชน 3. ครูนัดหมายกาหนดการส่งใบงานที่ไดร้ บั มอบหมาย ประโยชน์

แผนเรียนร้รู ายภาค วชิ าวทิ ยาศาสตร์ รหสั วิชา พว 21001 จานวน (4 หนว่ ยกติ 160 ช่ัวโมง) ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาตอนตน้ ประจาปกี ารศกึ ษา 1/2564 ครั้งที่ หัวเรื่อง ตวั ชีว้ ดั เนื้อหา กิจกรรมการเรยี นรู้ จานวนช่วั โมง การวัดและ ธาตุและ 1. อธิบายความหมายของงาน 3. แรง ขนั้ ที่ 3 การปฏิบตั แิ ลละนาไปประยุกต์ใช้ ประเมินผล สารประกอบ และพลงั งานในรูปแบบต่าง ๆ ได้ 3.1 ความหมายและหน่วย - นักศึกษารับมอบหมายใบงานตามหวั ขอ้ ที่ -การสงั เกต 2. ต่อวงจรไฟฟา้ อย่างง่ายได้ ของแรง -การซกั ถาม เรยี นรู้ดว้ ยตนเองในแหล่งเรยี นร้เู ช่น หอ้ งสมดุ -การมสี ว่ นร่วม 3. ใช้กฎของโอห์มในการคานวณ งานและพลงั งาน -แบบฝกึ /ใบงาน อนิ เตอรเ์ น็ต ผูร้ ้ตู าม ได้ 4. แสง ขัน้ ที่ 4 การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 4. บอกวิธีการอนรุ ักษแ์ ละ ประโยชนแ์ ละโทษของแสง ประหยัดพลังงานได้ 5. ดวงดาวกับชีวิต 1. ผู้เรียนรวบรวมผลการปฏบิ ัติ สรุป และจดั ทา 5. อธบิ ายสมบตั ขิ องแสง 1.กลมุ่ ดาวจกั ราศี รายงาน พลังงานความร้อนและนาไปใช้ 2.การสงั เกตตาแหน่งของดาว 2. ผู้เรียนนาความร้ทู ่ีได้รับไปปฏบิ ตั ิใช้ในการ ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจาวันได้ ฤกษ์ เรยี นในรายวชิ าวิทยาศาสตร์ 6. อธิบายพลังงานทดแทนและ 3.วธิ ีการหาดาวเหนือ - นกั ศึกษาสง่ ใบงานครบและถกู ต้องตาม เลือกใช้ได้ 4.แผนทดี่ าว กาหนดเวลา 1. ระบชุ อ่ื ของกลุม่ ดาวจักราศีได้ 5.การใช้ประโยชน์จากกลุม่ - นกั ศึกษาเตรียมความพร้อมในการเรยี นร้ดู ว้ ย 2. อธบิ ายวธิ ีการหาดาวเหนอื ได้ ดาวฤกษ์ ตนเองตามแหล่งเรยี นรู้ทมี่ ีความเหมาะสมและ 3. อธิบายการใช้แผนทดี่ าวได้ ตรงตามเน้ือหาที่ไดร้ ับมอบหมาย 4. อธิบายประโยชนจ์ ากกล่มุ ดาว ฤกษต์ ่อการดารงชีวิตประจาวันได้

แผนเรยี นรรู้ ายภาค วิชาพัฒนาอาชพี ใหม้ คี วามเขม็ แข็ง รหสั วิชา อช21003 (จานวน 2 หน่วยกติ 80 ช่ัวโมง) ระดับชนั้ มัธยมศกึ ษาตอนตน้ ประจาปกี ารศึกษา 1/2564 ครั้งที่ หวั เรอ่ื ง ตัวชว้ี ัด เน้ือหา กิจกรรมการเรียนรู้ จานวนชั่วโมง การวัดและ ประเมนิ ผล 7 ศกั ยภาพธุรกจิ 1.อธิบายความหมาย 1.ความหมาย ความสาคญั ขนั้ ท่ี 1 กาหนดสภาพปัญหาความตอ้ งการ - ใบงาน ความสาคัญ และความจาเป็นในการ 1.ครอู ธบิ ายแนวทางในการศกึ ษาคน้ คว้าข้อมลู ท่ี และความจาเป็นของการ พฒั นาอาชีพ มอบหมาย พฒั นา 2.ความจาเปน็ ของการ 2.ครสู นทนาแลกเปล่ยี นเรียนรู้กับผู้เรียน อาชพี เพ่ือความเข้มแข็ง วเิ คราะหศ์ ักยภาพธุรกิจ ข้ันท่ี 2 แสวงหาข้อมูลและการจัดการเรยี นรู้ 2.อธิบายความจาเป็น และ 3.การวเิ คราะห์ตาแหน่ง ครมู อบหมายให้ผู้เรยี นไปศึกษาเกี่ยวกบั เร่ืองดงั นี้ คณุ ค่า ธรุ กิจ 1.ความหมาย ความสาคัญและความจาเป็นในการพฒั นา ของการวเิ คราะห์ศักยภาพของ - ระยะเรมิ่ ตน้ อาชพี 2.ความจาเปน็ ของการวเิ คราะห์ศกั ยภาพธรุ กจิ ธุรกจิ - ระยะสรา้ งตวั 3.การวเิ คราะหต์ าแหนง่ ธรุ กจิ - ระยะเร่ิมต้น 3.สามารถวิเคราะห์ตาแหนง่ - ระยะทรงตวั - ระยะสร้างตัว - ระยะทรงตวั ธรุ กจิ ในระยะตา่ ง ๆ - ระยะตกต่าหรือสูงข้ึน - ระยะตกตา่ หรือสงู ข้นึ 4.สามารถวเิ คราะห์ธุรกิจตาม 4.การวเิ คราะห์ธุรกิจตาม ศักยภาพ 5 ด้านได้แก่ ศักยภาพ 5 ด้านได้แก่ ศักยภาพของ ศกั ยภาพของ ทรัพยากรธรรมชาติ ทรัพยากรธรรมชาติในแต่ ในแตล่ ะพนื้ ที่ ละพ้ืนที่ ศกั ยภาพของ

แผนเรยี นรรู้ ายภาค วิชาพัฒนาอาชพี ใหม้ คี วามเขม็ แข็ง รหัสวชิ า อช21003 (จานวน 2 หน่วยกิต 80 ช่วั โมง) ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนต้น ประจาปกี ารศึกษา 1/2564 ครงั้ ท่ี หวั เรือ่ ง ตัวชี้วัด เนอื้ หา กิจกรรมการเรยี นรู้ จานวนชว่ั โมง การวดั และ ศักยภาพธรุ กจิ ประเมนิ ผล 4.สามารถวเิ คราะหธ์ ุรกิจ 4.การวิเคราะหธ์ ุรกจิ 4.การวเิ คราะห์ธุรกิจตามศกั ยภาพ 5 ด้านได้แก่ศักยภาพของ - ใบงาน ตามศักยภาพ 5 ดา้ นได้แก่ ตามศกั ยภาพ 5 ดา้ น ทรพั ยากรธรรมชาติในแตล่ ะพ้ืนท่ี ศักยภาพของพื้นทตี่ ามลกั ษณะ ศักยภาพของ ได้แก่ศักยภาพของ ภมู ิอากาศ ศกั ยภาพของภูมิประเทศและทาเลทีต่ ้ังของแต่ละพนื้ ท่ี ทรัพยากรธรรมชาติ ทรัพยากรธรรมชาติใน ศักยภาพของศลิ ปวัฒนธรรม ประเพณีและวถิ ชี ีวิตของแตล่ ะพน้ื ที่ ในแต่ละพืน้ ท่ี ศกั ยภาพ แตล่ ะพนื้ ที่ ศกั ยภาพ ศักยภาพของทรัพยากรมนุษย์ในแต่ละพน้ื ทบี่ นเสน้ ทางของเวลา ของพืน้ ทตี่ ามลักษณะ ของพ้ืนทต่ี าม ขัน้ ที่ 3 การปฏบิ ัติและนาไปประยกุ ตใ์ ช้ ภูมอิ ากาศศักยภาพของภมู ิ ลกั ษณะภมู ิอากาศ 1.ครูสรปุ ผลจากการนาเสนอและการชักถามของผูเ้ รียนเร่ืองการ ประเทศและทาเลทต่ี ง้ั ของ ศกั ยภาพของภูมิ พัฒนาอาชีพและความสาคญั ของการพฒั นาอาชีพ ครสู ังเกต แตล่ ะพ้ืนท่ศี ักยภาพของ ประเทศและทาเล พฤติกรรมผเู้ รียนโดยใช้แบบบันทกึ การสังเกตพฤติกรรมผู้เรียน ศลิ ปะ วัฒนธรรม ทต่ี งั้ ของแต่ละพื้นที่ และใหผ้ ูเ้ รยี นบันทึกกจิ กรรมลงในสมุดบนั ทึกกจิ กรมในสัปดาห์ท่ี 1 ประเพณีและวิถีชีวติ ของ ศกั ยภาพของศลิ ปะ ใชเ้ วลา 20 นาทคี รตู รวจงาน 10 นาที มอบหมายงานบทเรียน แต่ละพื้นที่ ศักยภาพของ วัฒนธรรม ประเพณี เรอื่ งการจดั ทาแผนการตลาด บทท่ี 2 ในการพบกลมุ่ ครง้ั ต่อไป ทรัพยากรมนษุ ย์ในแตล่ ะ และวิถชี ีวติ ของแต่ละ 2.ครใู ห้ผู้เรยี นไปศึกษาคน้ คว้าในเร่ืองศักยภาพธุรกจิ ทส่ี ามารถ พืน้ ท่ี บนเส้นทาง พนื้ ท่ีศักยภาพของ ทรพั ยากรมนษุ ย์ นาไปประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวัน โดยจัดทาเป็นรปู เลม่ รายงาน ในแตล่ ะพ้นื ที่บน ขน้ั ที่ 4 การประเมินผลการเรยี นรู้ เสน้ ทางของเวลา 1. ใบงาน 2. รายงาน

แผนเรยี นรรู้ ายภาค วชิ าพัฒนาอาชีพให้มคี วามเข็มแขง็ รหสั วิชา อช21003 (จานวน 2 หนว่ ยกติ 80 ชั่วโมง) ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้ ประจาปีการศกึ ษา 1/2564 คร้งั ที่ หัวเรือ่ ง ตัวชี้วดั เนือ้ หา กิจกรรมการเรยี นรู้ จานวนชว่ั โมง การวัดและ ประเมนิ ผล 8 การจัดทา แผนพฒั นา 1.กาหนดทิศทางการ 1.การกาหนดทิศทาง ขัน้ ท่ี 1 กาหนดสภาพปัญหาความตอ้ งการ 15 ชัว่ โมง การตลาด ตลาด การตลาด 1. ครูสอบถามงานทม่ี อบหมายใหไ้ ปศึกษาก่อนมาพบกลุ่ม 2.กาหนดเป้าหมาย 2.การกาหนดเปา้ หมาย เรอ่ื งการจัดทาแผนการตลาด 2. ครูสนทนาวธิ กี ารจดั ทาแผนการตลาดและร่วมกับผูเ้ รียน การตลาด การตลาด 3.กาหนดกลยุทธส์ ู่ แลกเปลย่ี นความร้วู ิธกี ารทาแผนการตลาด วิธกี าหนด เป้าหมาย 3.การกาหนดกลยุทธ์สู่ เป้าหมายของตลาด ใหผ้ ู้เรียนบอกที่มาของทุนและปัจจัย 4.วเิ คราะห์กลยุทธ์ เป้าหมาย การผลติ หรอื การบริการจากประสบการณ์ที่พบเหน็ และ 4.การวเิ คราะห์กลยทุ ธ์ เรียนรู้ 5.กาหนดกจิ กรรมและ 5.กจิ กรรมและแผนการ ขนั้ ท่ี 2 แสวงหาข้อมูลและการจดั การเรียนรู้ แผนการพัฒนาการ พฒั นาการตลาด ตลาด 1. ครูร่วมกับผู้เรียนแลกเปลย่ี นความรู้เรอื่ งการทาแผนการ ตลาด ที่มาของทุนปัจจัยการผลติ หรือการบรกิ ารโดยการ สนทนา ตคี วามหมายและท่ีมา ใชเ้ วลา 30 นาที 2.ให้ผเู้ รียนอ่านใบความรู้เร่ืองวิธีการจัดทาแผนการตลาด ใชเ้ วลา 20 นาที 3. ผู้เรียนใช้วธิ ีการแก้ปญั หาจากการเรยี นโดยการชักถาม ครแู ละเพอื่ นๆและทาใบงาน 30 นาที

แผนเรียนรรู้ ายภาค วิชาพัฒนาอาชีพให้มคี วามเขม็ แข็ง รหสั วิชา อช21003 (จานวน 2 หน่วยกติ 80 ช่วั โมง) ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น ประจาปกี ารศึกษา 1/2564 ครั้งที่ หวั เรื่อง ตวั ชวี้ ัด เนื้อหา กจิ กรรมการเรยี นรู้ จานวนช่วั โมง การวัดและ ประเมนิ ผล การจดั ทา แผนพัฒนา ขนั้ ท่ี 3 การปฏบิ ัตแิ ละนาไปประยุกต์ใช้ การตลาด 1. ครสู รุปผลจากการทาใบงานเร่ือง การจัดทาแผนการ ตลาดโดยครสู ังเกตพฤติกรรมผู้เรยี นในการทาใบงาน ใช้เวลา 30 นาที และให้ผู้เรียนบันทึกกิจกรรมลงในสมุดบันทกึ กิจ กรมในสัปดาหท์ ่ี 2 เวลา 30 นาทีครูตรวจงานที่ผูเ้ รยี นทาใช้เวลา 20 นาที 2. ครูมอบหมายใหผ้ ้เู รยี นไปศกึ ษาเรื่องจัดทาแผนพฒั นา การผลิตและการบรกิ ารมาก่อนพบกลุ่มในสัปดาห์ตอ่ ขน้ั ท่ี 4 การประเมินผลการเรียนรู้ 1.ใบความรู้ 2. ใบงาน

แผนเรยี นร้รู ายภาค วชิ าพัฒนาอาชีพให้มคี วามเข็มแข็ง รหัสวชิ า อช21003 (จานวน 2 หนว่ ยกิต 80 ชว่ั โมง) ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้ ประจาปกี ารศกึ ษา 1/2564 ครงั้ ท่ี หวั เรื่อง ตัวช้ีวัด เนอ้ื หา กจิ กรรมการเรียนรู้ จานวนช่ัวโมง การวัดและ ประเมินผล 9 การจัดทาแผนพัฒนา 1.อธิบายการกาหนดคุณภาพ 1.การกาหนดคุณภาพการผลิต ขน้ั ที่ 1 กาหนดสภาพปัญหาความต้องการ 15 ช่ัวโมง การจดั ทาแผนพฒั นา ผลผลิตหรือการบริการ หรอื การบริการ - ครตู ิดตามงานท่ีมอบหมายในสปั ดาห์ท่ผี า่ นมา การผลิตหรอื การบริการ 2.วิเคราะหท์ ุนปัจจัยการผลติ 2.การวิเคราะห์ทุนปจั จยั การ ใหผ้ ู้เรียนเล่าวิธีการการค้นคว้าขอ้ มูลมานาเสนอใน หรอื การบรกิ าร วนั พบกลุ่ม ใช้เวลาคนละ 10 นาที ใหผ้ ู้เรียนศึกษา ผลติ หรือการบริการ ใบความรเู้ รื่อง การจัดทาแผนพัฒนาการจดั ทา 3.กาหนดเป้าหมายการผลิตหรือ 3.การกาหนดเป้าหมายการ แผนพัฒนาการผลติ หรือการบรกิ าร ใช้เวลา 20 นาที เตรยี มข้อมูลร่วมแลกเปลีย่ นความรู้ทคี่ ้นมา การบรกิ าร ผลิตหรือการบริการ 4.กาหนดแผนกิจกรรมการผลิต 4.การกาหนดแผนกจิ กรรม ขนั้ ท่ี 2 แสวงหาข้อมูลและการจัดการเรยี นรู้ 5.พัฒนาระบบการผลิตหรือการ 5.การพฒั นาระบบการผลติ - ครูร่วมกับผู้เรียนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและ บรกิ าร หรอื การบริการ เรียนรู้การทาแผนพัฒนาการผลติ ใชเ้ วลา 30 นาที - แบ่งผู้เรยี นเปน็ กล่มุ ๆ ละ 5 -7 คน ใหแ้ ตล่ ะ กลุ่มทาการคน้ คว้า เร่ือง การจัดทาแผนพัฒนาการ จดั ทาแผนพฒั นาการผลติ หรือการบริการ จาก หนงั สือเรียนและ ใบความรูท้ ่ีครูแจก ใชเ้ วลา 25 นาที - ตวั แทนผูเ้ รียนนาเสนอวิธีการทาแผนพัฒนาการ ผลติ โดยครรู ว่ มแสดงความคิดเหน็ ใชเ้ วลากล่มุ ละ 15 นาที่

แผนเรยี นรรู้ ายภาค วิชาพฒั นาอาชพี ใหม้ คี วามเข็มแข็ง รหัสวชิ า อช21003 (จานวน 2 หนว่ ยกติ 80 ช่วั โมง) ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น ประจาปกี ารศกึ ษา 1/2564 คร้ังที่ หวั เร่อื ง ตัวชี้วดั เน้อื หา กจิ กรรมการเรียนรู้ จานวนชั่วโมง การวัดและ ประเมนิ ผล การจัดทาแผนพัฒนา การจัดทาแผนพัฒนา ขัน้ ท่ี 3 การปฏิบัติและนาไปประยกุ ต์ใช้ การผลติ หรือการ บริการ - ครสู รุปผลจากการนาเสนอความรทู้ ่คี ้นคว้ามา โดยครสู ังเกตพฤติกรรมผู้เรยี นในการทาใบงาน และการนาเสนอ ใชเ้ วลากลมุ่ ละ 25 นาที - และให้ผู้เรียนบนั ทกึ กจิ กรรมลงในสมุดบันทึก กจิ กรมในสัปดาห์ท่ี 3 ใช้เวลา 30 นาทคี รู ตรวจงานท่ผี เู้ รียนทาใชเ้ วลา 10 นาที - ครมู อบหมายงาน กรต.ให้ผู้เรยี นไปศกึ ษา เร่ืองความจาเป็นและคณุ ค่าของธรุ กจิ เชิงรุก ความตอ้ งการของผู้บริโภค วิธีการสรา้ ง รปู ลักษณค์ ุณภาพสินคา้ ใหมแ่ ละประโยชนจ์ าก การพฒั นาอาชพี ใหม้ คี วามเข็มแขง็ พออยู่ พอ กินมรี ายได้ มีการออม จากอินเตอรเ์ น็ตและ หนังสือเกยี่ วกบั วิชาทเ่ี รยี นในหอ้ งสมดุ เพิม่ เติม เพือ่ รายงานเปน็ กลมุ่ ในสปั ดาห์ต่อไปตามหวั ขอ้ ทีม่ อบหมาย ดงั นี้

แผนเรียนรู้รายภาค วชิ าพัฒนาอาชพี ให้มีความเขม็ แข็ง รหัสวิชา อช21003 (จานวน 2 หนว่ ยกิต 80 ชว่ั โมง) ระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน้ ประจาปกี ารศึกษา 1/2564 คร้งั ที่ หวั เรือ่ ง ตัวชีว้ ัด เนอ้ื หา กิจกรรมการเรยี นรู้ จานวนช่ัวโมง การวัดและ ประเมินผล กลุ่มที่ 1 เรอ่ื งความนยิ มและความต้องการ ของผบู้ รโิ ภค กล่มุ ที่ 2 เร่ือง วธิ กี ารสรา้ งรูปลักษณ์ คุณภาพสินค้าใหม่ กลุ่มท่ี 3 เรื่องประโยชนก์ ารพฒั นาอาชีพให้ มคี วามมั่นคง เขม็ แขง็ พออยู่พอกนิ มีการออม กลุ่มที่ 4 เร่ืองความจาเปน็ และคณุ ค่าของ ธรุ กิจเชงิ รุก ข้ันที่ 4 การประเมินผลการเรียนรู้ -. ใบความรู้เรื่องการจดั ทาแผนพฒั นาการ จดั ทาแผนพัฒนาการผลิตหรือการบริการ - ใบงาน - รายงาน - สมดุ บนั ทกึ กิจกรรม - ห้องสมดุ /ศูนย์การเรียน

แผนเรยี นร้รู ายภาค วชิ าสังคมศกึ ษา รหัสวิชา สค21001 (จานวน 2 หนว่ ยกติ 80 ช่วั โมง) ระดับช้ันมธั ยมศึกษาตอนตน้ ประจาปีการศกึ ษา 1/2564 ครงั้ ท่ี หวั เรื่อง ตัวช้วี ัด เนอื้ หา กจิ กรรมการเรยี นรู้ จานวนช่ัวโมง การวดั และ 20 ชั่วโมง 13-14 ภูมศิ าสตร์ 1. มคี วามรู้ ความเข้าใจ 1. ลกั ษณะทางภมู ศิ าสตร์ ข้ันที่ 1 กาหนดสภาพปัญหาการเรยี นรู้ ประเมินผล กายภาพทวปี เอเชีย ลักษณะภูมิศาสตร์ กายภาพของประเทศตา่ งๆ 1. ครูกล่าวทักทายผู้เรยี นพร้อมทง้ั นาภาพของคนที่เป็น 1. การมีส่วนรว่ มใน กายภาพของประเทศ ในทวปี เอเชยี การทากิจกรรมกลุ่ม ประชากรในทวปี เอเชียใหผ้ ูเ้ รียนดู เพื่อเปรียบเทยี บถึง 2. ผลงาน/ การ ตา่ งๆ ในทวีปเอเชยี - ท่ีต้งั อาณาเขตของ ความเหมอื นและความแตกต่างทสี่ ามารถมองเห็นได้ นาเสนอ ประเทศตา่ งๆ ในทวีป อย่างชดั เจนร่วมกนั วิเคราะห์วา่ เหตุใดคนในแตล่ ะภาพ 3. ใบงาน เอเชยี ถึงมีความแตกต่างกัน 4. สมุดสง่ งาน - ภูมปิ ระเทศของประเทศ 2. ครูตงั้ คาถาม ถามผู้เรียนว่า ผเู้ รียนชอบคนประเทศ ต่างๆ ในทวีปเอเชยี ใดมากที่สดุ เพราะเหตใุ ด แล้วทาการสุม่ เรยี กให้ผูเ้ รียน - ภมู ิอากาศของประเทศ ท่ีมคี วามชอบทีต่ า่ งกันนาเสนอความชอบของตนเอง ตา่ งๆ ในทวปี เอเชยี พรอ้ มยกเหตุผลมาอธบิ ายประกอบ 2. มีความรู้ ความเขา้ ใจ 2.1 หลกั การเปลีย่ นแปลง 3. ครูเปิดโอกาสให้ผูเ้ รยี นซักถามข้อสงสยั ก่อนเขา้ สู่ การเปลย่ี นแปลงสภาพ สภาพภูมิศาสตรก์ ายภาพ บทเรยี นในขัน้ ต่อไป ภูมิศาสตร์กายภาพที่ 2.2 กรณตี ัวอย่างการ ขน้ั ท่ี 2 แสวงหาข้อมลู และจัดการเรียนรู้ ส่งผลกระทบต่อวิถีชวี ิต เปล่ยี นแปลงสภาพ ความเปน็ อยู่ของ ภมู ศิ าสตรก์ ายภาพที่ส่งผล 1. ครแู จกใบความรู้ เรอื่ ง ท่ีตั้ง อาณาเขต ภมู ปิ ระเทศ ประชากรไทย และ กระทบต่อวถิ ชี ีวติ ความ และภมู อิ ากาศของแต่ละประเทศในทวีปเอเชยี การ ประเทศต่างๆ ในทวีป เป็นอย่ขู องประชากรไทย เปลย่ี นแปลงสภาพภมู ศิ าสตร์กายภาพส่งผลกระทบ เอเชีย และทวีปเอเชยี ตอ่ วถิ ีชีวติ ความเป็นอยู่ของประชากรไทย และ ประเทศตา่ งๆในทวปี เอเชยี

แผนเรยี นรู้รายภาค วชิ าสงั คมศกึ ษา รหสั วิชา สค21001 (จานวน 2 หน่วยกติ 80 ช่ัวโมง) ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนตน้ ประจาปกี ารศกึ ษา 1/2564 คร้งั ท่ี หัวเรอื่ ง ตัวชี้วัด เนือ้ หา กจิ กรรมการเรียนรู้ จานวนช่ัวโมง การวดั และ ประเมินผล ภมู ศิ าสตร์ กายภาพทวีป 3. มีทักษะในการใช้ 3. วิธีใชเ้ ครอื่ งมอื ทาง ขน้ั ที่ 2 แสวงหาข้อมลู และจัดการเรียนรู้ เอเชีย เครือ่ งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ ภูมิศาสตร์ แผนที่ ลกู โลก 2. ครูให้ผู้เรยี นทาใบงาน เรอื่ ง สาเหตุหรือปัจจยั เช่น แผนที่ ลกู โลก Website ดาวเทยี ม GIS หลกั ท่กี ่อใหเ้ กิดลักษณะความเหมือนและความตา่ งกันของ Website ดาวเทยี ม GIS GPRS ฯลฯ ประชากรแตล่ ะประเทศในทวีปเอเชียแล้วส่งตัวแทน GPRS ฯลฯ 4. สภาพภมู ิศาสตรก์ ายภาพ นาเสนอผลงาน 4. มคี วามรู้ ความเข้าใจ ของไทยทส่ี ง่ ผลต่อทรัพยากร ขัน้ ที่ 3 การปฏบิ ตั แิ ละการนาไปใช้ เก่ยี วกับความสัมพันธ์ ตา่ งๆ และสิ่งแวดล้อมต่างๆ ของสภาพภมู ิศาสตร์ คอื สภาพป่าไม้ ดิน หนิ แร่ 1. ผูเ้ รียนนาเสนอความรู้ท่ีไดร้ ับจากใบความรู้ กายภาพที่มตี อ่ การเกิด แม่น้า ภูเขา ลาคลอง หนอง หนังสอื เรียน อินเตอร์เนต็ เรื่อง ที่ต้ัง อาณาเขต ภมู ิ ทรพั ยากรธรรมชาติและ บงึ ทะเล ชายฝงั่ สัตว์ป่า ประเทศและภูมิอากาศของแต่ละประเทศในทวีปเอเชยี สง่ิ แวดล้อมในทวีปเอเชีย สัตวท์ ะเล สตั ว์นา้ จืด และจดั ทาใบงาน เร่ือง สาเหตหุ รอื ปจั จยั หลกั ทก่ี ่อให้เกดิ เปลอื กหอย แนวปะการงั ลักษณะความเหมือนและความต่างกนั ของประชากรแตล่ ะ และอน่ื ๆส่งผลต่อทรัพยากร ประเทศในทวีปเอเชยี โดยผเู้ รยี นสง่ ตัวแทนนาเสนอหนา้ และส่ิงแวดลอ้ มต่างๆ คือ ช้ันเรียน สภาพปา่ ไม้ ดนิ หนิ แร่ 2. ครูและผเู้ รียนร่วมกนั สรุปว่าลักษณะความ ภเู ขา แมน่ า้ ลาคลอง หนอง แตกตา่ งของบคุ คลน้ันมผี ลมาจากเชอื้ ชาติ สภาพภูมิ บงึ ทะเล ประเทศและภูมิอากาศเปน็ ปัจจัยหลัก แลว้ ให้ผู้เรยี น บันทึกลงในสมุดของตนเอง

แผนเรยี นร้รู ายภาค วชิ าสังคมศกึ ษา รหสั วิชา สค21001 (จานวน 2 หนว่ ยกติ 80 ชว่ั โมง) ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาตอนตน้ ประจาปีการศกึ ษา 1/2564 คร้งั ที่ หัวเรอื่ ง ตัวชว้ี ดั เนือ้ หา กิจกรรมการเรียนรู้ จานวนชัว่ โมง การวดั และ ประเมินผล ภมู ิศาสตร์ กายภาพทวปี 5. สามารถนาความรู้ ชายฝัง่ สัตว์ปา่ สตั ว์ทะเล ขน้ั ท่ี 4 การประเมินผลการเรียนรู้ เอเชีย เกย่ี วกับ สัตวน์ า้ จดื เปลอื กหอย ทรพั ยากรธรรมชาติของ แนวปะการัง และอนื่ ๆ 1. สงั เกตจากการมสี ่วนร่วมของผเู้ รยี น ประเทศไทยและทวีป 5.1 ความสาคัญในการ 2. ผลงาน/ การนาเสนอ เอเชยี มาปรับใช้ในการ ดารงชีวิต ใหส้ อดคล้องกับ 3. ใบงาน ดารงชีวติ และความมั่นคง สภาพทรพั ยากรในประเทศ 5. สมดุ ส่งงาน ของชาติ ไทย และประเทศต่างๆใน ทวีปเอเชยี 5.2 กรณตี วั อย่างการ ปรับตวั ในการดารงชวี ติ ท่ี สอดคล้องกบั สภาพ ทรัพยากรในประเทศไทย และประเทศต่างๆในทวีป เอเชยี

แผนเรยี นรูร้ ายภาค วิชาสงั คมศึกษา รหัสวชิ า สค21001 (จานวน 2 หน่วยกติ 80 ชว่ั โมง) ระดับช้ันมธั ยมศึกษาตอนต้น ประจาปกี ารศึกษา 1/2564 ครงั้ ที่ หัวเรอื่ ง ตวั ช้วี ดั เนื้อหา กิจกรรมการเรียนรู้ จานวนชั่วโมง การวัดและ 15 ช่ัวโมง 15 ประวตั ิศาสตร์ 1. อธิบายความเป็นมา 1.ประวตั ิศาสตรส์ งั เขปของ ขนั้ ที่ 1 กาหนดสภาพปัญหาการเรยี นรู้ ประเมินผล ทวีปเอเชยี ของประวัติศาสตร์ ประเทศในทวปี เอเชีย 1. ครทู กั ทายกล่าวนาและสรา้ งความคุ้นเคยกับ - ใบงาน ประเทศในทวปี เอเชยี - จนี - แบบบนั ทกึ การ ผู้เรยี นพรอ้ มกบั เปดิ ประเดน็ พูดคุยกับผ้เู รยี นเรื่อง เรยี นรู้ - อินเดยี - แบบฝึกปฏิบัติ 2. สามารถนา - เขมร ความรเู้ บอ้ื งตน้ เกีย่ วกับประวัตศิ าสตร์ของผูเ้ รียนแต่ - แบบประเมิน ละคน และร่วมกนั อภปิ รายความรู้เบอื้ งต้นเกย่ี วกบั พฤติกรรม เหตุการณ์ใน - ลาว - การมสี ่วนรว่ มใน ประวตั ศิ าสตร์เพ่ือนาเข้าสู่บทเรียน การทากิจกรรมกลุ่ม ประวัตศิ าสตร์มา - มาเลเซีย - ผลงาน/ การ 2. ครูเปดิ ภาพยนตร์เร่ืองพระนเรศวรใหผ้ ู้เรยี นดู นาเสนอ วิเคราะห์ใหเ้ ห็นความ - พม่า และสร้างความเข้าใจร่วมกันและวเิ คราะห์การ - สมดุ สง่ งาน เปลยี่ นแปลงท่เี กิด - อินโดนเี ซยี เปลย่ี นแปลงทางประวตั ิศาสตรต์ ง้ั แต่ยุคอดตี ถึงยคุ ขนึ้ กับประเทศไทย - ฟิลปิ ปนิ ส์ ปจั จบุ ัน และประเทศในทวีป - ญี่ปุ่น ฯลฯ 3. ครูและผูเ้ รยี นรว่ มกันอภปิ รายและสร้างความ เอเชยี 2. เหตุการณส์ าคัญทาง เขา้ ใจเกีย่ วกับเหตุการณ์ทางประวตั ิศาสตรโ์ ดย ประวตั ศิ าสตรท์ เี่ กิดขึ้นใน เรียงลาดับเหตกุ ารณ์ก่อน-หลัง ประเทศไทยและประเทศ 4. ครูเปิดโอกาสใหผ้ เู้ รยี นซักถามข้อสงสยั ก่อนเขา้ สู่ ในทวีปเอเชีย บทเรยี นในขนั้ ต่อไป - ยุคลา่ อาณานิคม - ยคุ สงครามเย็น - ฯลฯ

แผนเรยี นรู้รายภาค วชิ าสงั คมศกึ ษา รหัสวิชา สค21001 (จานวน 2 หนว่ ยกติ 80 ช่วั โมง) ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาตอนต้น ประจาปีการศกึ ษา 1/2564 คร้งั ท่ี หวั เร่ือง ตัวช้วี ัด เนื้อหา กิจกรรมการเรยี นรู้ จานวนช่วั โมง การวัดและ ประเมินผล ประวัตศิ าสตร์ ทวปี เอเชีย ขนั้ ที่ 2 แสวงหาขอ้ มูลและจัดการเรียนรู้ - ใบงาน - แบบบนั ทกึ การ 1. ครูและผ้เู รยี นวางแผนวิธกี ารเรียนรเู้ น้ือหาทีก่ าหนด เรียนรู้ 2. ครแู จกใบความรู้ เร่อื ง การแบ่งยคุ สมัยทาง - แบบฝึกปฏิบัติ ประวัตศิ าสตร์ - แบบประเมิน 3. ครแู บง่ กลมุ่ ผู้เรยี น 9 กล่มุ แลว้ ให้แต่ละกลมุ่ คดั เลอื ก พฤติกรรม หัวหน้ากลุ่ม รองหัวหน้ากลุ่ม และเลขานุการ และสมาชิก - การมีสว่ นรว่ มใน จากนั้นให้หัวหน้ากลุ่มออกมาจับฉลากเพ่ือเลือกหัวข้อของ การทากิจกรรมกลุม่ การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์สากลและประวัติศาสตร์ - ผลงาน/ การ ไทย ท้ังหมด 9 เรื่อง และให้ผู้เรียนนาเอาความรู้เกี่ยวกับยุค นาเสนอ ประวัตศิ าสตร์สากลและประวตั ิศาสตร์ไทยท่ีศึกษาแล้วนามา - สมุดส่งงาน ปรับใช้ในการดาเนนิ ชีวิตในสังคมปัจจุบันในด้านใดบ้าง และ นาเสนอเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้หน้าชั้นเรียนประวัติศาสตร์ สากล 1. สมัยโบราณ 2. สมัยกลาง 3. สมัยใหม่ 4. สมัยปจั จุบัน

แผนเรียนรู้รายภาค วชิ าสงั คมศึกษา รหสั วิชา สค21001 (จานวน 2 หน่วยกติ 80 ชัว่ โมง) ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาตอนต้น ประจาปีการศกึ ษา 1/2564 คร้งั ที่ หัวเรื่อง ตัวช้วี ัด เน้ือหา กิจกรรมการเรียนรู้ จานวนชวั่ โมง การวดั และ ประวัติศาสตร์ทวีป ประวัติศาสตร์ไทย ประเมนิ ผล เอเชีย 1. สมยั โบราณ / สมัยกอ่ นสุโขทัย 2. สมัยสโุ ขทัย - ใบงาน 3. สมยั อยธุ ยา - แบบบันทกึ การ 4. สมัยธนบุรี เรียนรู้ 5. สมัยรัตนโกสนิ ทร์ - แบบฝกึ ปฏิบตั ิ - แบบประเมิน ขน้ั ท่ี 3 การปฏบิ ตั แิ ละการนาไปใช้ พฤติกรรม - การมสี ่วนรว่ มใน 1. ผูเ้ รียนสง่ ตัวแทนนาเสนอความรเู้ กีย่ วกับยุค การทากิจกรรมกลุ่ม ประวัตศิ าสตร์สากลและประวัติศาสตร์ไทยที่จับฉลาก - ผลงาน/ การ ไดแ้ ล้วนาความร้นู ั้นมาปรับใช้ในการดาเนนิ ชีวติ ใน นาเสนอ สงั คมปจั จบุ ัน - สมดุ สง่ งาน 2. ผเู้ รียนสรุปสาระสาคญั ที่ได้รบั จากการนาเสนอของ แตล่ ะกลมุ่ ลงในสมดุ แลว้ ส่งครู ขั้นท่ี 4 การประเมินผลการเรยี นรู้ 1. สงั เกตจากการมีส่วนร่วมของผู้เรียน 2. ผลงาน/ การนาเสนอ 3. สมดุ สง่ งาน

แผนเรยี นรรู้ ายภาค วิชาสังคมศึกษา รหสั วิชา สค21001 (จานวน 2 หน่วยกติ 80 ช่วั โมง) ระดับชน้ั มัธยมศึกษาตอนต้น ประจาปีการศึกษา 1/2564 ครั้งท่ี หัวเรอ่ื ง ตัวชวี้ ัด เนื้อหา กจิ กรรมการเรยี นรู้ จานวนชวั่ โมง การวัดและประเมนิ ผล 16 เศรษฐศาสตร์ 1.เข้าใจความหมาย 1.1 ความหมาย ขั้นที่ 1 กาหนดสภาพปญั หาการเรยี นรู้ 1. สงั เกตจากการมี ส่วนร่วมในกระบวนการกลุ่ม ความสาคัญ ของ ความสาคญั ของ 1. ครทู ักทายผเู้ รยี นในเรื่องชวี ติ ประจาวัน และ 2. วธิ ีการนาเสนอ เศรษฐศาสตร์และ เศรษฐศาสตร์มหภาคและ ชีแ้ จงตัวชว้ี ัด อธิบายวธิ กี ารเลอื กซื้อและเลือกใช้ ระบบเศรษฐกิจ เศรษฐศาสตร์ จุลภาค สนิ ค้าทดี่ ีและมีคุณภาพ แนวทางการดูแลสทิ ธิ 2.เข้าใจหลักการ และ 1.2 ความหมาย เบือ้ งตน้ ของตนเองจากการกระทาดงั กล่าว วิธกี ารตดั สนิ ใจเลอื กใช้ ความสาคัญ และหลักการ 2. ครูใหผ้ ู้เรียนสารวจตัวเองวา่ ในแตแ่ ละวนั ได้ ทรพั ยากร เพอื่ การผลิต ของเศรษฐกจิ สรา้ งสรรค์ เลอื กซ้ือสินคา้ อุปโภคและบรโิ ภคประเภทใดบา้ ง สินคา้ และบรกิ าร และทรัพยส์ นิ ทางปัญญา เพอื่ ใชป้ ระโยชน์อยา่ งไร มคี วามเหมาะสมหรอื ไม่ 3.เลอื กวิธกี ารทีม่ ี 1.3 ระบบเศรษฐกิจใน ประสิทธิภาพมาใชใ้ น ประเทศไทย ขัน้ ที่ 2 แสวงหาขอ้ มูลและจัดการเรียนรู้ การผลติ สนิ ค้า และ 2.หลักการ และวิธีการ บรกิ ารได้ เลอื กใชท้ รัพยากรเพื่อการ 1. ใหผ้ ้เู รยี นแบง่ กลมุ่ ๆ ละ 5-7 คน โดยวธิ ีจับ 4.รแู้ ละเข้าใจการใช้ ผลติ ฉลาก และให้แต่ละกลุ่มช่วยกันศึกษาความหมาย ของเศรษฐศาสตร์จากแบบเรียน กฎหมาย ค้มุ ครอง 3.คุณธรรมในการผลติ ผูบ้ รโิ ภค 4.กฎหมาย และข้อมูล การคุ้มครองผู้บริโภค

แผนเรียนรู้รายภาค วิชาสงั คมศึกษา รหสั วชิ า สค21001 (จานวน 2 หนว่ ยกิต 80 ช่ัวโมง) ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนตน้ ประจาปีการศกึ ษา 1/2564 คร้ังท่ี หัวเรื่อง ตวั ชวี้ ัด เน้ือหา กจิ กรรมการเรียนรู้ จานวนชวั่ โมง การวัดและ ประเมนิ ผล เศรษฐศาสตร์ 5.บอกแหล่งขอ้ มลู การ 5.1 หน่วยงานทใี่ ห้ความ 2. ใหผ้ ้เู รียนสืบค้นขอ้ มูล จากแหล่งเรียนรู้ 1. สงั เกตจากการมี ค้มุ ครองผบู้ รโิ ภค และ คมุ้ ครองผู้บริโภค อนิ เตอรเ์ น็ต โดยเขา้ ไปที่ เวบ็ ไซด์ สว่ นร่วมใน กระบวนการกลุ่ม กฎหมายคมุ้ ครอง 5.2 การพทิ ักษส์ ทิ ธิ และ www.google.com ค้นเร่อื งกฎหมายและ 2. วิธีการนาเสนอ ผู้บริโภค ผลประโยชน์ของผ้บู ริโภค ข้อมูลการค้มุ ครองผ้บู รโิ ภค คุณธรรมในการ 6.ตระหนักในบทบาท 6.1 ความสาคญั ของกลุม่ ผลิตและการบรโิ ภคเพื่อสรุปเป็นใบงาน และความสาคญั ของการ ทางเศรษฐกจิ ในทวีปเอเชยี รวมกลุม่ ทางเศรษฐกจิ ใน 6.2 กลุ่มทางเศรษฐกิจ 3. ใหผ้ เู้ รยี นส่งตัวแทน เพือ่ นาเสนอ ต่างๆในทวีปเอเชีย ความหมาย ของเศรษฐศาสตร์ พร้อมใหผ้ เู้ รียน ทวีปเอเชีย 7.วิเคราะหค์ วามสัมพนั ธ์ 7.1 สภาพเศรษฐกจิ ของ ทกุ กลุ่มช่วยกนั สรุปความหมายของ ทางเศรษฐกจิ ของ ประเทศไทยและประเทศ เศรษฐศาสตร์ ประเทศไทยกับประเทศ ตา่ งๆในทวีปเอเชยี ต่างๆในทวปี เอเชีย 7.2 ระบบเศรษฐกจิ ของ 4. ครชู ว่ ยอธิบายเพม่ิ เติมความหมายของ ประเทศตา่ งๆในทวีปเอเชยี เศรษฐศาสตรใ์ ห้มีความสมบรู ณ์มากย่ิงข้ึน 8.ลกั ษณะ ประเภท 5. ครแู ละผเู้ รยี นรว่ มกนั สรุปความหมายของ สนิ ค้าเขา้ และสินคา้ ออก เศรษฐศาสตร์ ข้อมลู การคมุ้ ครองผู้บรโิ ภคแลว้ ของประเทศตา่ งๆในทวีป บนั ทกึ ข้อมูลท่ีได้รับลงในสมุด เอเชีย

แผนเรยี นรูร้ ายภาค วิชาสงั คมศึกษา รหัสวิชา สค21001 (จานวน 2 หนว่ ยกิต 80 ช่วั โมง) ระดับชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนต้น ประจาปีการศกึ ษา 1/2564 ครั้งท่ี หัวเรอ่ื ง ตัวชว้ี ดั เนื้อหา กิจกรรมการเรียนรู้ จานวนชั่วโมง การวดั และ เศรษฐศาสตร์ ประเมนิ ผล ขนั้ ท่ี 3 การปฏิบตั แิ ละการนาไปใช้ 1. สงั เกตจากการมี ส่วนร่วมใน 1. เมื่อครูได้อธิบายเพิ่มเติมเนื้อหาแลว้ ให้ผเู้ รียนภายในกลมุ่ กระบวนการกลมุ่ รว่ มกันวเิ คราะหต์ ามหวั ขอ้ ที่ครูกาหนด ได้แก่ ในการเลือก 2. วิธีการนาเสนอ ซ้อื สินคา้ อปุ โภคและการบริโภคนน้ั ตอ้ งคานึงถึงสิง่ ใด โดยใช้ เวลาประมาณ 10 – 15 นาทีในการวิเคราะห์ 2. เมือ่ ผ้เู รยี นวเิ คราะหง์ านตามหวั ข้อท่กี าหนด เสร็จ เรียบร้อยแล้ว ครูให้ผเู้ รยี นนางานทไี่ ด้รบั มอบหมายในชนั้ เรียนมานาเสนอ กลุ่มละไมน่ ้อยกวา่ 5 นาที 3. ครกู ล่าวชมเชยกลุ่มที่มีการจดั กระบวนการทางานเป็น กลุ่มที่ดเี พ่ือเปน็ ตวั อยา่ งในการทางานครั้งต่อไป ขั้นที่ 4 การประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. การนาเสนอ 2. รูปเลม่ รายงาน แบบทดสอบ

แผนเรียนรูร้ ายภาค วิชา ศลิ ปศึกษา รหัสวชิ า ทช21003 (จานวน 2 หนว่ ยกติ 80 ชั่วโมง) ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาตอนต้น ประจาปกี ารศึกษา 1/2564 ครั้งท่ี หวั เรื่อง ตัวชวี้ ัด เนอื้ หา กิจกรรมการเรียนรู้ จานวนช่ัวโมง การวดั และ 10 ทศั นศลิ ปไ์ ทย ประเมินผล 4. อธิบาย วเิ คราะห์ วพิ ากษ์ 3. ความงามของทัศนศิลป์ไทยที่ ข้ันท่ี 2 แสวงหาข้อมูลและการจัดการ 1. การสงั เกต 2. การอภิปรายหนา้ วจิ ารณ์ วิธกี ารนาความงาม เกิดจากความงามตามธรรมชาติ เรียนรู้ ชั้นเรยี น จากธรรมชาติมาสร้างสรรค์ เช่น ตน้ ไม้ ทะเล แมน่ ้า ลาธาร จินตนาการให้ออกมาเป็น ภูเขา และสตั วป์ ระเภทตา่ ง 1. ให้ผู้เรยี นศกึ ษาใบความร้เู กย่ี วกบั งาน 3. ใบงาน ความงามทางทัศนศิลปไ์ ทย 4. วธิ กี ารนาความงามของ 5. อธบิ ายวเิ คราะห์ วพิ ากษ์ ธรรมชาตมิ าสรา้ งสรรคง์ าน ทัศนศิลป์ วจิ ารณ์ คณุ ค่าของงาน 5. ความคิดสรา้ งสรรค์เหมาะสม 2. แบง่ กลุ่มผู้เรยี น ตามหัวข้อดงั น้ี ทศั นศิลป์ไทย เร่ืองของความ และความพอดขี องการนาวัตถุ งามทเี่ กิดจากความคดิ หรือวสั ดสุ ิ่งของต่าง ๆ มาประดับ 2.1 เทคนคิ วธิ กี ารวาด ป้ัน สรา้ งสรรค์ของมนษุ ย์ ตกแต่งร่างกายและที่อยอู่ าศยั 2.2 วสั ดอุ ุปกรณ์ในการปัน้ 6. อธิบาย วิเคราะห์ วพิ ากษ์ หรือตกแต่งสถานที่ ส่งิ แวดล้อม 2.3 การสือ่ ความหมายในการปน้ั วิจารณ์ คณุ ค่าของความ ท่วั ๆไป ขน้ั ที่ 3 การปฏบิ ัตแิ ละนาไปประยกุ ตใ์ ช้ ซาบซึง้ ความรัก และความ 6. คุณคา่ ของความซาบซึ้ง ความ หวงแหนวฒั นธรรม ประเพณี ดงี ามของวฒั นธรรม ประเพณี 1. ครใู หผ้ ู้เรียนไปศึกษาเพิ่มเตมิ เกย่ี วกบั โบราณวัตถุ และโบราณสถาน และความสวยงามของวัด โบสถ์ เรื่องของทัศนศลิ ป์ เพอ่ื ใหส้ ามารถนาไป ของชาติ วิหารยคุ ตา่ งๆของชาติ ประยกุ ตใ์ ช้ในการดารงชีวิตประจาวัน 2. ให้ผู้เรียนแตล่ ะกลมุ่ นาเสนอ 3. ผู้เรียนซกั ถาม/แสดงความคิดเหน็ ขนั้ ท่ี 4 การประเมินผลการเรียนรู้ 1. ทดสอบย่อย 2. ใบงาน

แผนเรยี นรู้รายภาค วชิ าศิลปศกึ ษา รหสั วชิ า ทช21003 (จานวน 2 หนว่ ยกติ 80 ชั่วโมง) ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาตอนตน้ ประจาปีการศกึ ษา 1/2564 ครั้งที่ หัวเรือ่ ง ตัวช้ีวดั เนื้อหา กจิ กรรมการเรียนรู้ จานวนช่ัวโมง การวัดและ 11 ดนตรีไทย ประเมนิ ผล 1. อธิบายความสาคญั ความ 1. ประวตั คิ วามเปน็ มาและ ข้นั ท่ี 1 กาหนดสภาพปัญหาความต้องการ เป็นมาและวิวัฒนาการของ ววิ ฒั นาการของเครื่องดนตรี ครูใหผ้ ู้เรียนศึกษาความรู้เรื่อง ความสาคัญ เคร่ืองดนตรีไทยชนิดตา่ งๆ ไทย ประวัติความเป็นมาของเคร่ืองดนตรีไทย ประเภท 2. อธิบายประเภทของดนตรี 2. เทคนิควธิ กี ารเล่นของ ของดนตรี และเทคนคิ วธิ ีการเลน่ เครอ่ื งดนตรีไทย และเทคนิควธิ กี ารเลน่ เครื่อง เคร่อื งดนตรีไทยแต่ละ โดยให้ผูเ้ รียนแบ่งเปน็ กลมุ่ กลุ่มละเท่าๆกนั ใหแ้ ต่ ดนตรไี ทย ประเภท ละกล่มุ ศึกษาความรู้เรื่อง ประเภทของเครื่องดนตรี 3. อธิบายวเิ คราะห์ วพิ ากษ์ 3. คณุ คา่ ของความงามและ ไทย ตามหวั ข้อที่กาหนดให้ ดังน้ี วิจารณ์ คณุ ค่าของความงาม ไพเราะของเพลงและเครื่อง สมาชิกกลมุ่ ที่ 1 ศึกษาเร่อื ง เครื่องดีด และความไพเราะของเพลง ดนตรีไทย สมาชิกกลุ่มท่ี 2 ศึกษาเรื่อง เครือ่ งสี และเคร่ืองดนตรีไทย 4. ประวัติของคณุ ค่าความ สมาชิกกลุ่มท่ี 3 ศึกษาเรอื่ ง เคร่ืองตี 4. อธิบายประวัติ ของคณุ ค่า รกั และหวงแหน ของภมู ิ สมาชกิ กลมุ่ ที่ 4 ศึกษาเร่อื ง เคร่อื งเปา่ ความรัก และความหวงแหน ปัญญา ตลอดจน กจิ กรรม ข้ันท่ี 2 แสวงหาขอ้ มลู และการจดั การเรียนรู้ ตลอดจนรว่ มสืบสาน กระบวนการถ่ายทอดของ กระบวนการถา่ ยทอดของ ภมู ปิ ัญญาทางด้านเพลง ผเู้ รยี นค้นควา้ ประวตั คิ วามเป็นมาและวิธีการ ภมู ปิ ัญญา ทางดา้ นเพลง และดนตรีไทย เลน่ เครอื่ งดนตรีไทยต้ังแตส่ มัยกรุงสุโขทยั ถึงสมยั และดนตรีไทย รตั นโกสินทร์ โดยศึกษาค้นควา้ จากแหล่งเรยี นรู้ ตา่ ง ๆ เชน่ Internet วีดที ศั น์ ผู้รู้ ภูมปิ ญั ญา ทอ้ งถ่นิ หนังสือ/เอกสาร

แผนเรยี นรู้รายภาค วิชาศิลปศกึ ษา รหสั วิชา ทช21003 (จานวน 2 หนว่ ยกิต 80 ชั่วโมง) ระดับชัน้ มัธยมศึกษาตอนตน้ ประจาปกี ารศึกษา 1/2564 ครง้ั ที่ หวั เรื่อง ตวั ชี้วดั เน้ือหา กิจกรรมการเรยี นรู้ จานวนชว่ั โมง การวัดและ ดนตรไี ทย ประเมนิ ผล ข้นั ที่ 3 การปฏิบัติและนาไปประยุกตใ์ ช้ ผ้เู รยี นสรุปองคค์ วามรู้ของความหมายความสาคัญ และวธิ กี ารเล่นเครอ่ื งดนตรไี ทย ทีส่ ามารถนามาประยุกต์ใช้ ในการดารงชีวติ ประจาวนั ได้ โดยสรปุ เปน็ รูปเลม่ รายงาน ขน้ั ท่ี 4 การประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. ใบงาน 2. รปู เลม่ รายงาน

แผนเรยี นรรู้ ายภาค วชิ าศลิ ปศึกษา รหสั วชิ า ทช21003 (จานวน 2 หน่วยกิต 80 ชวั่ โมง) ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาตอนต้น ประจาปกี ารศึกษา 1/2564 ครัง้ ที่ หัวเรื่อง ตัวช้วี ัด เน้อื หา กิจกรรมการเรียนรู้ จานวนชั่วโมง การวัดและ ประเมนิ ผล 12 นาฏศลิ ป์ไทย 1. อธิบายประวัติ ความ 1. ประวัติ ความเปน็ มา ขั้นที่ 1 กาหนดสภาพปญั หาความต้องการ 1. การสังเกต เปน็ มา และววิ ัฒนาการใน และววิ ัฒนาการของการ 1. ครแู ละผู้เรยี นร่วมกันสนทนาและแลกเปลยี่ นความคิดเห็นเก่ียวกบั ประว2ัต.ิ กคาวราอมภเปปิ น็ รมายาหน้า การแสดงนาฏศิลป์ไทยใน แสดงนาฏศิลป์ไทย และวิวัฒนาการของการแสดงนาฏศิลป์ไทยประเภทต่าง ๆ รูปแบบ/องชคนั้์ปเรระียกนอบและวิธีการแสดง แต่ละภาคต่าง ๆ ประเภทตา่ ง ๆ นาฏศิลปไ์ ทยในแตล่ ะภาค การแสดงความคิดเห็นและความรู้สึกต่อการแสด3ง.นใบาฏงาศนิลป์ไทย ประโยชน์ 2. บอกรูปแบบ 2. รูปแบบ/องคป์ ระกอบ และวิธีเลือกชมการแสดงนาฏศิลป์ไทย ท่าราและการส่ือความหมายในนาฏศิลป์ไทย การใช้ท่าทาง องคป์ ระกอบ และวิธีการ และวธิ กี ารแสดงนาฏศลิ ป์ ส่อื ความหมาย รวมทั้งโอกาสทใ่ี ชแ้ สดง ประโยชน์และคุณค่าของนาฏศิลป์ไทยและภาษาท่าท่ีเกี่ยวข้อง แสดงนาฏศลิ ป์ไทย ไทยในแต่ละภาคประเภท กับการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม ประวัติ ความเป็นมา วัฒนาการ ความหมายของเน้ือเพลงท่ีใช้และ ประเภทต่าง ๆ ตา่ ง ๆ การแต่งกายประกอบการแสดงราวงมาตรฐาน การนาท่าราวงมาตรฐานไปประยุกต์ใช้ประกอบกับ 3. แสดงความคดิ เหน็ 3. การแสดงความคิดเหน็ เพลงอื่น ๆ เพ่ือนาไปใช้ในชีวิต ประจาวันโดยให้สอดคล้องกับวัฒนธรรม การอนุรักษ์ การละเล่น และความร้สู ึกตอ่ การ และความร้สู ึกตอ่ การ ตามวฒั นธรรมประเพณี ของภมู ิปญั ญาทางนาฏศิลป์ไทยของภาคต่างๆ แสดงประเภทต่าง ๆ แสดงนาฏศิลปไ์ ทย ข้ันที่ 2 แสวงหาข้อมลู และการจดั การเรียนรู้ 4. บอกประโยชนแ์ ละเลือกประเภทตา่ ง ๆ 1. ใหผ้ ู้เรยี นศึกษาใบความรู้เรอ่ื งนาฏศลิ ปไ์ ทย ชมการแสดงนาฏศลิ ป์ไทยท่ี 4. ประโยชน์และวธิ ีเลือก 2. ใหผ้ ูเ้ รียนศึกษาจากสื่อวดี ีทศั น์เรอื่ ง นาฏศลิ ปไ์ ทยเพิม่ เตมิ ตนสนใจ เพื่อสร้างความสขุ ชมการแสดงนาฏศลิ ป์ไทย 3. ผเู้ รียนซกั ถาม/แสดงความคิดเห็น และประโยชน์ตอ่ ตนเอง 5. ทา่ รา และการสื่อ 5. อธิบายทา่ ราและสื่อ ความหมายในนาฏศลิ ป์ไทย ความหมายของนาฏศิลป์ไทย

แผนเรยี นร้รู ายภาค วิชาศลิ ปศกึ ษา รหัสวิชา ทช21003 (จานวน 2 หน่วยกิต 80 ชว่ั โมง) ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาตอนตน้ ประจาปีการศึกษา 1/2564 คร้ังท่ี หัวเร่ือง ตวั ช้ีวัด เน้อื หา กจิ กรรมการเรียนรู้ จานวนชั่วโมง การวัดและ ประเมนิ ผล นาฏศลิ ป์ไทย 6. บอกหลกั และวิธกี ารฝกึ การ6. การใช้ท่าทางสื่อความหมาย รวม ขั้นที่ 3 การปฏบิ ัตแิ ละนาไปประยกุ ต์ใช้ 1. การสังเกต 2. การอภิปรายหนา้ ใช้ท่าทางสือ่ ความหมาย ทัง้ โอกาสที่ใชแ้ สดง 1. ครใู ห้ผู้เรียนไปศกึ ษาเพ่ิมเตมิ เก่ียวกับ ชน้ั เรยี น เร่ืองนาฏศลิ ป์ไทย เพ่ือที่จะนาไปใช้ 3. ใบงาน 7. บอกประโยชนแ์ ละคุณ 7. ประโยชน์และคณุ ค่าของนาฏศิลป์ ในงานศลิ ปวัฒนธรรมต่างๆ ให้เกิดความชานาญ คา่ ของนาฏศลิ ป์และภาษา ไทยและภาษาท่าท่เี กีย่ วข้องกับการ ทา่ เพื่อการอนุรักษด์ ้าน อนรุ ักษ์มรดกทางวัฒนธรรม นาฏศลิ ป์ 8. ประวัติ ความเปน็ มา วัฒนาการ 8. อธิบายความสมั พันธ์ ความหมายของเน้อื เพลงทใ่ี ชแ้ ละการแต่ง ขน้ั ที่ 4 การประเมินผลการเรียนรู้ ของประวตั คิ วามเปน็ มา กายประกอบการแสดงราวงมาตรฐาน วัฒนธรรม ประเพณีท่ี 9. การนาทา่ ราวงมาตรฐานไป 1. ทดสอบย่อย เกี่ยวขอ้ งกับววิ ฒั นาการของ ประยุกต์ใชป้ ระกอบกับเพลงอนื่ ๆ เพอ่ื 2. ใบความรู้ ราวงมาตรฐาน นาไปใช้ในชีวติ ประจาวันโดยให้ 9. อธบิ ายการประยุกต์ท่า สอดคลอ้ งกับวฒั นธรรม ราวงมาตรฐานไปใชก้ ับเพลง 10. การอนรุ ักษ์ การละเล่น ตาม อ่ืนๆ ในโอกาสต่างๆ วฒั นธรรมประเพณี ของภูมิปญั ญาทาง 10. บอกแนวทางอนุรักษ์ นาฏศิลป์ไทยของภาคต่าง ๆ การละเลน่ ตามวัฒนธรรม ประเพณี ภูมิปญั ญาตาม แนวทางนาฏศิลป์ไทยของ ภาคตา่ งๆ

แผนเรียนร้รู ายภาค วชิ าวสั ดศุ าสตร์ รหสั วชิ า พว22003 (จานวน 3 หนว่ ยกติ 120 ชั่วโมง) ระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษาตอนต้น ประจาปีการศกึ ษา 1/2564 ครง้ั ที่ หัวเรอื่ ง ตวั ช้ีวัด เนื้อหา กจิ กรรมการเรียนรู้ จานวนช่วั โมง การวัดและ 30 ชวั่ โมง 17 วสั ดุศาสตร์ 1. บอกความหมายของวัสดุ 1. วสั ดศุ าสตรร์ อบตัว ขัน้ ที่ 1 การกาหนดสภาพปัญหา ความ ประเมนิ ผล รอบตวั ศาสตรไ์ ด้ 1.1 ความหมายของวสั ดุ ต้องการในการเรยี นรู้ (O : Orientation) 1. ใบงาน 2. แบบบนั ทกึ การ 2. จาแนกประเภทของวสั ดุ ศาสตร์ 1. ครูเตรียมวางแผนการจดั กระบวนการ เรยี นรู้ เรียนรเู้ รอื่ งความหมายวสั ดุศาสตร์ เร่ือง วสั ดุ 3. แบบฝกึ ปฏบิ ัติ ศาสตรไ์ ด้ 1.2 ประเภทของวัสดุ ศาสตรร์ อบตัว 4. แบบประเมนิ พฤติกรรม 3. เปรยี บเทยี บสมบตั ิของ 1.3 สมบตั ขิ องวัสดุ 2. ช้ีแจงการเรยี นการสอน กระบวนการวัด ประและประเมนิ ผลของรายวิชาวัสดสุ าสตร์ ขน้ั ท่ี 2 ขนั้ แสวงหาขอ้ มูลและจดั การเรียนรู้ 1. ศกึ ษาปฏบิ ัติการเรียนรู้ อภปิ รายความรู้ ทั่วไปเก่ยี วกบั วสั ดศุ าสตร์ 2. ครูอธิบายเรอื่ งความหมายของวสั ดศุ าสตร์ 3. ครูอธิบายเร่ืองประเภทของวสั ดุศาสตร์ 4. ครูอธิบายเรื่องสมบตั ิของวสั ดสุ าสตร์ 5. แจกใบความร้/ู ส่ือแบบเรียนครใู ห้ผูเ้ รยี นทา แบบฝึกหดั วัสดศุ าสตร์ 6 นกั ศกึ ษาไปศกึ ษาคน้ ควา้ ความหมาย ประเภทและสมบัติของวัสดศุ าสตร์ใหก้ ลบั มา สง่ ตามวนั เวลาทีก่ าหนดรว่ มกัน ครูมอบหมาย ใบงานให้

แผนเรยี นรู้รายภาค วิชาวัสดศุ าสตร์ รหัสวิชา พว22003 (จานวน 3 หนว่ ยกิต 120 ชั่วโมง) ระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาตอนตน้ ประจาปกี ารศกึ ษา 1/2564 ครัง้ ที่ หวั เร่อื ง ตวั ช้ีวดั เน้ือหา กจิ กรรมการเรียนรู้ จานวนชัว่ โมง การวดั และ ประเมนิ ผล ขั้นท่ี 3 การปฏบิ ตั แิ ละนาไปประยกุ ตใ์ ช้ 1.นักศกึ ษาวางการร่วมกระบวนการพบกลุ่มเรือ่ ง ความหมายวสั ดุศาสตร์ เรือ่ ง วสั ดศุ าสตรร์ อบตัว 2. นักศกึ ษาศกึ ษาใบความรู้และแบบเรียน ทา แบบฝึกหัดวัสดุศาสตร์ 3. รว่ มครูและเพื่อนนักศึกษาสรปุ เรอ่ื งวสั ดศุ าสตร์ 4. รบั ใบงานท่ีได้รบั มอบหมายกลับไปศึกษาคน้ คว้า และนามาสง่ ตามวันและเวลาท่ีกาหนดร่วมกัน 5. ให้นกั ศกึ ษานาเสนอ ข้นั ท่ี 4 การประเมินผลการเรียนรู้ 1.สังเกตจากการมีสว่ นรว่ มของผ้เู รยี น 2.ผลงาน/ การนาเสนอ 3.ใบงาน 4.สมุดสง่ งาน

แผนเรียนรู้รายภาค วิชาวสั ดุศาสตร์ รหัสวิชา พว22003 (จานวน 3 หนว่ ยกติ 120 ชว่ั โมง) ระดับช้ันมธั ยมศกึ ษาตอนต้น ประจาปกี ารศึกษา 1/2564 ครง้ั ที่ หวั เร่ือง ตัวช้วี ดั เนื้อหา กจิ กรรมการเรยี นรู้ จานวนชัว่ โมง การวัดและ 15 ช่ัวโมง 18 การจัดการ 1. อธบิ ายหลกั สาคญั ในการ 3. การจัดการเศษซากวสั ดุ ข้นั ท่ี 1 การกาหนดสภาพปัญหา ความ ประเมนิ ผล เศษซากวสั ดุ จัดการเศษซากวัสดุ 3.1 การจัดการเศษซาก ต้องการในการเรยี นรู้ (O : Orientation) 1. ใบงาน 2. แบบบนั ทกึ การ 2. บอกอัตราเร็วในการย่อย วสั ดุ 1. ครูเตรยี มวางแผนการจัดกระบวนการ เรยี นรู้ สลายเศษซากวสั ดุ 3.2 อัตราย่อยสลายของ เรียนรเู้ รือ่ ง การจัดการเศษซากวัสดุ 3. แบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ 3. อธิบายหลัก 3R ในการ เศษซากวสั ดุ 2. ชแี้ จงการเรยี นการสอน กระบวนการวัด 4. แบบประเมนิ จัดการเศษซากวสั ดุ 3.3 หลัก 3R ในการ ประและประเมินผลของรายวัสดุศาสตร์ พฤติกรรม 4. ระบุประเภทของภาชนะ จดั การเศษซากวัสดุ ขนั้ ท่ี 2 ขั้นแสวงหาขอ้ มลู และจดั การเรยี นรู้ รองรบั เศษซากวสั ดุ 3.4 ภาชนะรองรบั เศษ 5. อธิบายเทคโนโลยกี าร ซากวสั ดุ 1. ศกึ ษาปฏิบตั กิ ารเรียนรู้ อภปิ รายความรู้ กาจดั เศษซากวสั ดุ 3.5 เทคโนโลยีการกาจดั ทัว่ ไปเก่ยี วกับการจัดการเศษซากวัสดุศาสตร์ 2. ครูอธบิ ายเรื่องอตั ราย่อยสลายของเศษ เศษซากวสั ดุ 15 ซากวสั ดุ อตั ราย่อยสลายของเศษซากวสั ดุ หลกั 3R ในการจัดการเศษซากวัสดุ ภาชนะรองรบั เศษซากวสั ดุ เทคโนโลยีการกา จัดเศษซากวสั ดุ 15 3. แจกใบความรู้/สือ่ แบบเรียนครใู ห้ผู้เรยี น ทาแบบฝึกหัดวัสดศุ าสตร์ 4 นกั ศกึ ษาไปศึกษาคน้ คว้าและแบบเสนอ เรอื่ งวัสดุศาสตร์ให้กลับมาส่งตามวันเวลาที่ กาหนดรว่ มกนั . ครมู อบหมายใบงานให้

แผนเรียนรู้รายภาค วิชาวัสดศุ าสตร์ รหัสวิชา พว22003 (จานวน 3 หนว่ ยกิต 120 ชัว่ โมง) ระดบั ชัน้ มัธยมศกึ ษาตอนต้น ประจาปีการศึกษา 1/2564 คร้งั ท่ี หัวเร่อื ง ตวั ชว้ี ดั เนือ้ หา กิจกรรมการเรยี นรู้ จานวนช่วั โมง การวัดและ ประเมินผล ข้นั ที่ 3 การปฏิบัติและนาไปประยุกต์ใช้ 1. ใบงาน 2. แบบบนั ทกึ การ 1.นักศึกษาวางการรว่ มกระบวนการพบกลุ่มเรื่อง เรยี นรู้ ธรรมชาตขิ องวทิ ยาศาสตร์ เรื่อง การจัดการ 3. แบบฝกึ ปฏบิ ัติ เศษซากวัสดุ 4. แบบประเมนิ 2. นกั ศกึ ษาศกึ ษาใบความรู้และแบบเรียน ทา พฤติกรรม แบบฝึกหดั วสั ดศุ าสตร์ 3. ร่วมครแู ละเพ่ือนนกั ศึกษาสรุปเรือ่ งการจดั การ เศษซากวัสดุ 4. รบั ใบงานที่ได้รบั มอบหมายกลับไปศึกษาค้นคว้า และนามาสง่ ตามวนั และเวลาทีก่ าหนดร่วมกัน 5. ให้นกั ศึกษานาเสนอ ขน้ั ที่ 4 การประเมินผลการเรยี นรู้ 1.สงั เกตจากการมสี ่วนร่วมของผูเ้ รียน 2.ผลงาน/ การนาเสนอ 3.ใบงาน 4.สมดุ สง่ งาน

แผนเรยี นร้รู ายภาค วิชาวัสดุศาสตร์ รหัสวิชา พว22003 (จานวน 3 หน่วยกิต 120 ชัว่ โมง) ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาตอนตน้ ประจาปีการศกึ ษา 1/2564 ครัง้ ท่ี หวั เร่อื ง ตัวชว้ี ดั เน้อื หา กจิ กรรมการเรียนรู้ จานวนชั่วโมง การวัดและ การจดั การ 1. อธบิ ายหลกั สาคัญในการ 3. การจัดการเศษซากวัสดุ ข้นั ท่ี 1 การกาหนดสภาพปญั หา ความ ประเมินผล เศษซากวสั ดุ จัดการเศษซากวัสดุ 3.1 การจดั การเศษซาก ต้องการในการเรยี นรู้ (O : Orientation) 1. ใบงาน 2. แบบบันทกึ การ 2. บอกอัตราเร็วในการย่อย วัสดุ 1. ครูเตรียมวางแผนการจัดกระบวนการ เรยี นรู้ สลายเศษซากวัสดุ 3.2 อตั ราย่อยสลายของ เรยี นรู้เร่อื ง การจดั การเศษซากวสั ดุ 3. แบบฝกึ ปฏิบัติ 3. อธิบายหลกั 3R ในการ เศษซากวสั ดุ 2. ชแ้ี จงการเรียนการสอน กระบวนการวัด 4. แบบประเมิน จดั การเศษซากวสั ดุ 3.3 หลกั 3R ในการ ประและประเมนิ ผลของรายวัสดศุ าสตร์ พฤติกรรม 4. ระบุประเภทของภาชนะ จัดการเศษซากวสั ดุ ขัน้ ท่ี 2 ขัน้ แสวงหาข้อมลู และจัดการเรียนรู้ รองรบั เศษซากวัสดุ 3.4 ภาชนะรองรบั เศษ 5. อธิบายเทคโนโลยีการ ซากวสั ดุ 1. ศึกษาปฏบิ ตั กิ ารเรยี นรู้ อภิปรายความรู้ กาจัดเศษซากวัสดุ 3.5 เทคโนโลยกี ารกาจัด ท่ัวไปเกยี่ วกบั การจัดการเศษซากวัสดุศาสตร์ 2. ครูอธบิ ายเร่ืองอัตรายอ่ ยสลายของเศษ เศษซากวัสดุ 15 ซากวสั ดุ อัตราย่อยสลายของเศษซากวัสดุ หลัก 3R ในการจัดการเศษซากวัสดุ ภาชนะรองรบั เศษซากวัสดุ เทคโนโลยีการกา จดั เศษซากวสั ดุ 15 3. แจกใบความรู้/ส่อื แบบเรียนครูใหผ้ เู้ รียน ทาแบบฝกึ หัดวัสดศุ าสตร์ 4 นกั ศกึ ษาไปศึกษาค้นควา้ และแบบเสนอ เรื่องวสั ดุศาสตร์ให้กลับมาส่งตามวันเวลาท่ี กาหนดรว่ มกัน. ครมู อบหมายใบงานให้

แผนเรยี นรู้รายภาค วชิ าวสั ดุศาสตร์ รหสั วชิ า พว22003 (จานวน 3 หน่วยกิต 120 ช่วั โมง) ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนต้น ประจาปกี ารศึกษา 1/2564 คร้ังท่ี หวั เร่ือง ตัวช้ีวัด เน้ือหา กจิ กรรมการเรียนรู้ จานวนชว่ั โมง การวัดและ ประเมนิ ผล ขน้ั ท่ี 3 การปฏิบตั ิและนาไปประยุกต์ใช้ 1. ใบงาน 1.นกั ศึกษาวางการรว่ มกระบวนการพบกลุ่มเรอ่ื ง 2. แบบบันทึกการ การจดั การเศษซากวัสดุ เรยี นรู้ 2. นักศกึ ษาศกึ ษาใบความรู้และแบบเรยี น ทา 3. แบบฝึกปฏบิ ตั ิ แบบฝึกหดั วัสดุศาสตร์ 4. แบบประเมิน 3. รว่ มครูและเพ่ือนนกั ศึกษาสรุปเร่ืองการจดั การ พฤติกรรม เศษซากวัสดุ 4. รับใบงานทไี่ ดร้ บั มอบหมายกลบั ไปศึกษาคน้ ควา้ และนามาสง่ ตามวนั และเวลาทก่ี าหนดรว่ มกัน 5. ใหน้ กั ศึกษานาเสนอ ขนั้ ท่ี 4 การประเมินผลการเรยี นรู้ 1.สงั เกตจากการมีส่วนร่วมของผเู้ รยี น 2.ผลงาน/ การนาเสนอ 3.ใบงาน 4.สมดุ ส่งงาน

แผนเรยี นรู้รายภาค วิชาวัสดุศาสตร์ รหัสวชิ า พว22003 (จานวน 3 หนว่ ยกติ 120 ชั่วโมง) ระดับช้นั มธั ยมศึกษาตอนตน้ ประจาปีการศกึ ษา 1/2564 ครงั้ ที่ หัวเร่ือง ตัวชวี้ ัด เนือ้ หา กจิ กรรมการเรียนรู้ จานวนชว่ั โมง การวดั และ ประเมินผล 19 การจดั การ 1. บอกความหมายของวสั ดุ 5.การจัดการวัสดุอนั ตราย ขั้นที่ 1 การกาหนดสภาพปญั หา ความต้องการใน 25 ชัว่ โมง 1. ใบงาน 2. แบบบนั ทกึ การ วัสดุอันตราย อันตรายได้ 5.1 วัสดอุ ันตราย การเรียนรู้ (O : Orientation) เรียนรู้ 3. แบบฝึกปฏบิ ตั ิ 2. จาแนกประเภทของวสั ดุ 5.2 การจดั การขยะอนั ตราย - ครแู ละนกั ศึกษาวางการร่วมกระบวนการพบกล่มุ 4. แบบประเมิน เรอ่ื งการจัดการวสั ดุอนั ตราย พฤติกรรม อันตรายได้ 5.3 การลดปญั หาวสั ดุที่เปน็ พษิ ข้นั ที่ 2 ขน้ั แสวงหาข้อมูลและจัดการเรยี นรู้ 3. อธิบายลักษณะของวสั ดุ ตอ่ สงิ่ แวดลอ้ ม 1. ครอู ธบิ ายรายวชิ าวัสดุศาสตร์วัสดอุ ันตราย การจัดการขยะอนั ตราย การลดปญั หาวสั ดทุ ี่เป็นพษิ อนั ตรายได้ ตอ่ ส่งิ แวดลอ้ ม 2. นักศกึ ษาศกึ ษาใบความรู้และแบบเรียน วสั ดุ 4. อธิบายวธิ ีการจดั การขยะ อันตรายการจดั การขยะอนั ตราย การลดปัญหาวสั ดุ ท่ีเปน็ พษิ อนั ตรายได้ 5. อธบิ ายวิธีการลดปญั หา วสั ดทุ ี่เปน็ พิษต่อสิ่งแวดล้อม ได้ ตอ่ ส่ิงแวดลอ้ ม 3. ร่วมครแู ละเพ่ือนนักศึกษาสรปุ เรื่องการจดั การ วัสดุอนั ตราย 4. รบั ใบงานทไ่ี ด้รับมอบหมายกลบั ไปศึกษาคน้ คว้า และนามาสง่ ตามวนั และเวลาท่กี าหนดรว่ มกัน 5. ใหน้ ักศกึ ษานาเสนอ

แผนเรียนร้รู ายภาค วชิ าวัสดศุ าสตร์ รหัสวิชา พว22003 (จานวน 3 หน่วยกติ 120 ช่ัวโมง) ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาตอนตน้ ประจาปกี ารศึกษา 1/2564 ครั้งที่ หัวเร่อื ง ตัวชีว้ ดั เน้อื หา กจิ กรรมการเรยี นรู้ จานวนชัว่ โมง การวดั และ ประเมินผล ขัน้ ท่ี 3 การปฏิบตั แิ ละนาไปประยุกตใ์ ช้ 1. ใบงาน 2. แบบบนั ทกึ การ 1.นักศกึ ษาวางการร่วมกระบวนการพบกลุ่มเรอื่ ง เรยี นรู้ การจัดการวสั ดุอันตราย 3. แบบฝึกปฏิบตั ิ 2. นักศกึ ษาศกึ ษาใบความรู้และแบบเรยี น ทา 4. แบบประเมนิ แบบฝึกหดั วัสดศุ าสตร์ พฤติกรรม 3. ร่วมครูและเพ่ือนนกั ศึกษาสรปุ เรื่องการจัดการ วสั ดุอันตราย 4. รับใบงานท่ีได้รับมอบหมายกลับไปศึกษาคน้ คว้า และนามาส่งตามวนั และเวลาท่ีกาหนดรว่ มกนั 5. ให้นักศกึ ษานาเสนอ ขนั้ ท่ี 4 การประเมินผลการเรยี นรู้ 1.สงั เกตจากการมสี ่วนรว่ มของผู้เรียน 2.ผลงาน/ การนาเสนอ 3.ใบงาน 4.สมุดสง่ งาน

แผนเรยี นร้รู ายภาค แผนการจดั การเรยี นรู้ ภาคเรียนท่ี 1/2564 ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 คร้งั ท่ี มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ จานวนชัว่ โมง วดั ผล และประเมนิ ผล 20 ปัจฉิมนิเทศ 1. เพื่อเตรยี มความพร้อมในการกา้ วเข้าสู่ 1. เตรียมพรอ้ มกายวาจาใจก่อนไป - ครูช้แี จง้ กาหนดการปฐมนเิ ทศ และ - การตดิ ตาม วชิ าชพี /การศกึ ษาตอ่ ให้กบั นักศึกษาที่กาลงั ปฏิบัตกิ ารประกอบอาชพี พดู คุยซักถามเก่ยี วกับการเตรียมความ นกั ศกึ ษา จะสาเร็จการศึกษา 2. การพัฒนาตนกบั การศกึ ษาต่อในระดบั ท่ี พร้อมในการประกอบอาชพี และศกึ ษา 2. เพ่อื แนะนาทางเลอื กในการก้าวเขา้ สู่ สงู ข้ึน ตอ่ ในระดับทสี่ งู ขึน้ วิชาชพี /การศกึ ษาตอ่ ในระดบั ท่สี ูงข้นึ 1. รับฟังการบรรยายในหัวข้อ “เตรยี มพร้อมกายวาจาใจก่อนไปปฏบิ ัติ วชิ าชีพ” โดยมีวัตถุประสงคเ์ พือ่ ให้ นักศกึ ษาไดเ้ ตรยี มความพร้อมท้ังกาย วาจา และใจ รวมถึงปลกู ฝังคุณธรรม และจรยิ ธรรม ก่อนก้าวไปการทางาน และการศกึ ษาต่อในระดับทส่ี ูงขน้ึ 2.รบั ฟังการบรรยายในหวั ข้อ “การ พัฒนาตนกบั การศึกษาต่อในระดบั ท่ี สงู ขึน้ ”โดยมวี ัตถปุ ระสงค์เพอื่ ให้ นักศกึ ษาเกิดความรู้และเข้าใจสามารถ เลือกประกอบอาชีพและการศึกษาต่อได้ เหมาะสมกับตนเอง