Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนวิชาวิทยาการคำนวณชั้นปนะถมศึกษาปีที่ 5

แผนการสอนวิชาวิทยาการคำนวณชั้นปนะถมศึกษาปีที่ 5

Published by พิจิตรา คําพรมราช, 2021-10-02 06:05:57

Description: 1. อธิบายเกี่ยวกับการแก้ปัญหา (K)
2. เขียนลำดับขั้นตอนการทำงานในรูปแบบผังงานตามกิจกรรมที่กำหนด (P)
3. มีความกระตือรือร้นในการปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ (A)

Keywords: รหัสลำลอง

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรยี นรู้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 1 คาบ/สปั ดาห์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) เวลา 1 ช่ัวโมง ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เร่ืองตุ๊กตาแม่ลกู ดก 1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชีว้ ดั ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคดิ เชิงคำนวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชวี ิตจริงอย่างเปน็ ข้ันตอน และเปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแกป้ ญั หาได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รเู้ ทา่ ทัน และมีจรยิ ธรรม ป.5/1 ขอ้ 1. ใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะในการแก้ปัญหา การอธิบายการทำงานการคาดการณผ์ ลลัพธ์ จาก ปัญหาอย่างง่าย 2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธบิ ายเกี่ยวกับการแก้ปญั หา (K) 2. เขียนลำดบั ข้นั ตอนการทำงานในรูปแบบผังงานตามกจิ กรรมท่ีกำหนด (P) 3. มีความกระตอื รือรน้ ในการปฏิบตั กิ จิ กรรมการเรยี นรู้ (A) 3. สาระสำคัญ การใช้เหตุผลเชิงตรรกะเปน็ การนำเอากฎเกณฑ์ หรอื เง่ือนไขทค่ี รอบคลมุ ทุกกรณีมาใช้ในการ พิจารณาปญั หา โดยสามารถอธิบายการทำงานหรือการคาดการณ์ผลลัพธ์ได้อยา่ งเปน็ ข้ันตอน มีเหตผุ ลรองรับ ในการแก้ปัญหาและการตัดสินใจ 4. สาระการเรยี นรู้ การเขียนรหัสลำลอง เพ่อื แสดงข้ันตอนแก้ปัญหาหรอื การทำงาน 5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์  มวี นิ ยั  ใฝเ่ รยี นรู้  รักชาติศาสน์ กษัตรยิ ์  ซื่อสัตยส์ ุจริต  อยอู่ ย่างพอเพยี ง  มุ่งมน่ั ในการทำงาน รกั ความเปน็ ไทย  มจี ติ สาธารณะ 6. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน  ความสามารถในการส่อื สาร  ความสามารถในการคิด  ความสามารถในการแกป้ ญั หา ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

7. แนวคิด รหสั ลำลอง เปน็ การเขยี นขอ้ ความเปน็ ขน้ั ตอนเพอ่ื แสดงอัลกอรทิ ึมในการทำงานหรือการแกป้ ัญหา รหัสลำลองทีด่ ีควรมคี วามชดั เจน ทุกคนสามารถเขา้ ใจไดต้ รงกนั เราสามารถนำความรู้เก่ียวกับการเขียนรหัส ลำลองไปประยุกต์ใช้ในการแสดงข้ันตอนการทำงานตา่ ง ๆ เช่น การประดิษฐ์ดอกไม้กระดาษ การทำอาหาร การยมื คนื หนงั สือในห้องสมุด อลั กอริทึมสามารถแสดงได้ในรูปแบบของรหัสลำลองหรือผังงาน 8. การจดั กระบวนการเรยี นรู้ 8.1 ข้นั การจัดเตรียม 8.1.1 แบบฝกึ ทกั ษะรายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ช้ันประถมศึกษา ปีที่ 5 สสวท. 8.2 ขัน้ ตอนการสอน 8.2.1 ครูใช้คำถามนำเขา้ สบู่ ทเรียน เพื่อใหน้ ักเรยี นบอกลำดับขน้ั ตอน ในการทำกจิ กรรมต่าง ๆ (พจิ ารณาเลอื กกิจกรรมตามบริบทของพื้นท่หี รือประสบการณ์ของนักเรียน) เช่น  การทำไขเ่ จยี วมีวธิ ีการอย่างไร  การว่ายน้ำมีวิธีการอยา่ งไร  การปั่นจกั รยานมวี ธิ ีการอย่างไร ครูนำอภิปรายว่าขนั้ ตอนหรือวิธีการท่เี พื่อนบอกมาน้นั นักเรียนจำไดท้ ้งั หมดหรือไม่ มีความชัดเจน หรือไม่ สามารถปฏิบตั ิตามได้ทกุ ขน้ั ตอนหรือไม่ และหากต้องการให้เกิดความชัดเจนและปฏิบตั ติ ามได้ควร แก้ไขหรือทำอยา่ งไร (เขยี นลงในกระดาษ/บอกเปน็ ขั้นตอนท่ชี ดั เจน) จากนน้ั ให้นักเรยี นระดมความคดิ เพอื่ ทำ ใหว้ ิธกี ารที่บอกมานน้ั เขา้ ใจได้ง่ายและชดั เจนขน้ึ 8.2.2 ครนู ำนกั เรียนศึกษาเน้ือหาในบทที่ 1 เรือ่ ง ตุ๊กตาแม่ลูกดก และอาจให้นักเรียนนำเสนอ แนวคิดว่าหากนักเรยี นเปน็ โป้ง นักเรียนจะเขยี นวธิ ีการจดั เรยี งตุก๊ ตาอย่างไร จากนัน้ ร่วมกันอภิปรายและทำ ความเขา้ ใจในประเดน็ ต่าง ๆ ในบทเรียน ตัวอย่างคำถามในการอภปิ ราย เชน่  การเขยี นอลั กอริทมึ แสดงวธิ กี ารจัดเรยี งต๊กุ ตาของโป้งในครั้งท่ี 1 (หนา้ 7) ยังไมช่ ัดเจนเพราะอะไร  การเขียนอัลกอริทึมแสดงวิธกี ารจดั เรียงตกุ๊ ตาในครั้งท่ี 2 (หนา้ 9) ยงั ไม่ชัดเจนเพราะอะไร  การเขยี นอัลกอริทมึ แสดงวิธกี ารจัดเรียงตุก๊ ตาในคร้ังที่ 3 (หน้า 11) ยงั ไม่ชดั เจนเพราะอะไร  การเขยี นอลั กอริทึมแสดงวิธกี ารจดั เรยี งตุ๊กตาในครง้ั ที่ 4 (หน้า 12) ได้มีการแก้ไขให้ดีขึ้นอยา่ งไร นอกจากข้ันตอนการทำงานที่แมย่ กตัวอย่างให้ฟงั แล้ว นกั เรียนคิดว่ามขี นั้ ตอนในการทำงานอะไรอีก บา้ งทพี่ บในชวี ติ ประจำวัน

8.2.3 ครูช้แี จงและใหน้ ักเรยี นทำใบกิจกรรมที่ 1.1 ศลิ ปะตามคำบอกโดยใหน้ ักเรยี นทำทลี ะข้อ แล้วสมุ่ นกั เรยี นออกมานำเสนอคำตอบและอภปิ รายร่วมกันว่าคำตอบท่ีได้ถกู ต้อง ชดั จน เป็นไปตามเงือ่ นไข ของโจทยห์ รือไม่ เพราะอะไร 8.2.4 ครูนำอภิปรายโดยตั้งคำถามวา่ \"การยืนเข้าแถวอย่างเปน็ ระเบียบตามลำดับความสูงมีวิธกี าร ยืนแบบใด\" (สูงมากท่ีสดุ ไปสงู น้อยทสี่ ดุ หรือสงู น้อยที่สุดไปมากทีส่ ุด) ครูอาจใหน้ ักเรียนชว่ ยกันแสดงความ คิดเหน็ เกย่ี วกับการยืนเป็นระเบียบโดยขออาสาสมคั รนักเรียน 5 คนออกมาที่หน้าชน้ั เรียน และใหเ้ พื่อนท่ีน่ัง อยู่ช่วยกันบอกใหเ้ พ่ือน 5 คน เข้าแถวให้เปน็ ระเบียบตามลำดับความสงู เม่ือเขา้ แถวได้เรียบรอ้ ยแลว้ ครูขอ อาสาสมัครนักเรยี นอีก 2 คนออกมาแลว้ ถามนักเรียนวา่ เพอื่ นท้ังสองคนทีม่ าใหม่ควรยืนในตำแหนง่ ใด จากนั้นให้นกั เรยี นท้ังสองคนไปยืนในแถวตามตำแหน่งทเี่ พ่ือน ๆ บอกแลว้ ทุกคนสงั เกตว่าเพื่อนทย่ี นื ในแถว เรียงตามลำดับความสูงได้ถูกต้องหรือไม่ หากไม่ถูกต้องให้หาวธิ ีจดั เรียงใหม่ 8.2.5 ครูช้ีแจงและใหน้ ักเรียนทำใบกจิ กรรมที่ 1.2 ทั้งหมดแถวตรง! แลว้ สุ่มนกั เรยี นออกมา นำเสนอคำตอบ โดยเนน้ กระบวนการคิดหาคำตอบทลี ะข้นั ตอน 8.2.6 ครชู ้แี จงและใหน้ ักเรียนทำใบกิจกรรมที่ 1.3 เกบ็ สีลงกล่องโดยให้นักเรียนพจิ ารณาสีท่ี เหลืออยู่วา่ สีใดถูกใชไ้ ปมากที่สุดและสีใดถูกใชไ้ ปน้อยทีส่ ดุ เมื่อนักเรยี นทำใบกจิ กรรมเสร็จแล้วครสู มุ่ นกั เรียน ออกมานำเสนอคำตอบ และอภปิ รายรว่ มกนั ว่าคำตอบของแต่ละคนถกู ต้องหรือไม่ ใชจ้ ำนวนคร้งั ในการหยบิ สี เทา่ กนั หรอื ไม่ เพราะอะไร (จำนวนครั้งในการหยิบสีของแต่ละคนอาจไม่เท่ากนั ) 8.3 ข้นั ตอนการสรุป 8.3.1 ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ ในประเดน็ ต่อไปน้ี - เราสามารถบอกรายละเอยี ดของขนั้ ตอนในการแก้ปัญหาหรือการทำงานต่าง ๆ ในรปู แบบ ใดบ้าง (เขียนเปน็ ความเรยี งเขยี นเป็นข้อ เขียนเปน็ ผังงาน วาดภาพ) - ควรเขียนขั้นตอนหรือวิธกี ารแกป้ ัญหาอย่างไร เพอื่ ใหเ้ ขา้ ใจงา่ ย และผอู้ ่ืนปฏบิ ัตติ ามได้อย่าง ถกู ต้อง (เขียนใหช้ ัดเจนไม่กำกวม) - การแกป้ ัญหาเร่อื งใดเรอื่ งหน่ึง มีวิธกี ารเดยี วใช่หรือไม่ อย่างไร (ไม่ใช่ ปัญหาหนงึ่ อาจมี วธิ ีการแกไ้ ด้แตกตา่ งกนั แต่ใหผ้ ลลพั ธ์ตามท่ีตอ้ งการเชน่ เดียวกนั ) - นกั เรยี นจะนำความรทู้ ี่ได้จากบทเรียนน้ีไปใช้ในการแกป้ ญั หาหรือการทำกจิ กรรมต่าง ๆ ใน ชวี ิตประจำวันอยา่ งไร(การบอกขนั้ ตอนในการทำงานต่าง ๆ ทช่ี ดั เจน วิธกี ารแก้ปัญหาอาจทำ ไดห้ ลายวธิ )ี

9. สือ่ และอุปกรณ์ 9.1 หนังสอื วชิ าพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 5 สสวท. 9.2 ใบกิจกรรม ใบกิจกรรมที่ เร่ือง เวลา (นาท)ี 1.1 ศลิ ปะตามคำบอก 30 1.2 ทั้งหมดแถวตรง! 15 1.3 เกบ็ สีลงกล่อง 15 10. การวัดผลและประเมินผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ วิธกี ารวัด เคร่อื งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ - แบบประเมนิ คะแนน 20 – 30 ผ่านเกณฑ์ 1. อธบิ ายเก่ยี วกบั การแกป้ ัญหา (K) - แบบประเมิน กระบวนการทำงานกลุ่ม คะแนน 10 – 20 ผ่านเกณฑ์ 2. เขยี นลำดบั ขน้ั ตอนการทำงานใน - ประเมนิ จากใบงาน - ใบกจิ กรรมท่ี 1.1 รูปแบบผงั งานตามกจิ กรรมที่กำหนด (P) - ใบกจิ กรรมที่ 1.2 คะแนน 16 – 20 ดี - ใบกจิ กรรมที่ 1.3 คะแนน 11 - 15 ปานกลาง 3. มีความกระตอื รือรน้ ในการปฏบิ ตั ิ - แบบประเมิน - แบบประเมินการ คะแนน 1 –10 ควรปรบั ปรงุ กิจกรรมการเรียนรู้ (A) ปฏบิ ัติกจิ กรรม คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ วิธกี ารวดั เครื่องมอื เกณฑก์ ารประเมิน 1. มวี นิ ัย สังเกตคณุ ลักษณะ 2. ใฝ่เรียนรู้ อนั พึงประสงค์ แบบประเมินคุณลักษณะ ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ 3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน ระหว่างเรยี น 4. มจี ติ สาธารณะ อนั พึงประสงค์ 5. ซอื่ สตั ย์สุจริต สมรรถนะ วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมนิ 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร รอ้ ยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ 2. ความสามารถในการคิด สงั เกตสมรรถนะผเู้ รียน แบบประเมินสมรรถนะ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต ในระหวา่ งเรียน สำคญั ของผเู้ รยี น การทำงานกลมุ่ และการนำเสนอ