Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สุภาษิตพระร่วง

สุภาษิตพระร่วง

Published by Natthaphum, 2023-07-13 03:01:14

Description: สุภาษิตพระร่วง

Search

Read the Text Version

รายวชิ าภาษาไทย ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 สภุ าษติ พระรว่ ง

ความเป็นมา สุภาษติ พระรว่ ง หรอื ที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า บัญญัติ พระร่วง เป็นสุภาษิตเก่าแก่ เชื่อกันมาแต่เดิมว่าแต่งขึ้น ในสมัยสุโขทัย แต่ทั้งนี้มีปรากฏเป็นหลักฐานว่าใน พ.ศ. 2379 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรง พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จารึกเรื่อง สุภาษิตพระร่วง ลงบนแผน่ ศลิ าประดับไว้บนฝาผนังด้านในศาลาหลังเหนือ หน้าพระมหาเจดีย์ วดั พระเชตพุ นวมิ ลมังคลาราม

ความเป็นมา แผ่นจารึกเรื่อง สุภาษิต พระร่วง ประดับไว้ที่ผนังด้านใน ศาลารายของพระมหาเจดีย์ ภายใน วดั พระเชตพุ นวมิ ลมังคลาราม

ความเป็นมา น อ ก จ า ก จ า รึ ก เ รื ่ อ ง สุ ภ า ษิ ต พ ร ะ ร ่ ว ง ท่ี วัดพระเชตพุ นฯ แล้วยังพบสุภาษิตพระร่วงในสมุด ไทยอีกหลายฉบับ รวมถึงสมุดไทยดาเรื่อง บัณฑิต พระร่วง พระนิพนธ์สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานชุ ิตชิโนรส รวมอยู่กับเรื่อง กฤษณา สอนน้องคาฉันท์ และ แม่สอนลูก เรื่องบัณฑิต พระร่วงนี้มีข้อความคล้ายคลึงสุภาษิตพระร่วงมาก และมีเนื้อเรื่องครบถ้วน กรมศิลปากรจึงใช้เป็น เอกสารในการตรวจสอบชาระสุภาษิตพระร่วงจน เปน็ ฉบบั สมบรู ณ์

ความเปน็ มา สาหรับสุภาษิตพระร่วงฉบับที่กรมวิชาการ กาหนดใหเ้ ป็นวรรณคดีที่เสนอให้เลือกเรียนในชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 นี้ พิมพ์รวมอยู่ในหนังสือประชุม สุภาษิตพระร่วงของสถาบันภาษาไทย กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 6 สานวน สาหรับฉบับที่นามาเป็นแบบเรียนนี้เป็นสุภาษิต พระรว่ งสานวนที่ 1

ลักษณะคาประพันธ์ สุภาษติ พระรว่ งแต่งด้วยคาประพันธ์ประเภทร่ายสุภาพ วรรคละ 5-8 คา ร่ายแต่ละวรรคมีการรับส่งสัมผัส อยา่ งสม่าเสมอ โดยคาสุดท้ายของวรรคหน้าจะสัมผัสสระกับ คาในวรรคต่อไป แต่ไม่มีกาหนดตาแหน่งคารับสัมผัสท่ี ตายตัวและจบด้วยโคลงสองสุภาพ ดงั ตัวอยา่ งตอ่ ไปน้ี

ลกั ษณะคาประพันธ์ รา่ ยสุภาพ ป่างสมเด็จพระร่วงเจ้า เผ้าแผ่นภพสุโขทัย มลักเห็นในอนาคต จึงผายพจนประภาษ เป็นอนุสาสนกถา สอนคณานรชน โคลงสองสภุ าพ แถลงเลศเหตเุ ลอื กล้วน โดยอรรถอนั ถอ่ งถว้ น เลศิ อา้ งทางธรรม แลนาฯ

คาสอนในสุภาษิตพระรว่ ง 1. ใหเ้ ห็นความสาคญั ของความรู้ 2. ให้ปฏิบตั ิตามประเพณี 3. ให้เห็นความสาคญั ของญาติพน่ี ้อง 4. ใหท้ าสงิ่ ทเ่ี หมาะแก่กาลเทศะ 5. ใหม้ องการณไ์ กล 6. ใหร้ ะมัดระวังตน 7. ใหม้ ใี จหนกั แน่น ไมเ่ ชือ่ ขา่ วลือ

เนื้อเร่อื งและถอดความ เริ่มต้นเนือ้ เร่อื ง ปา่ งสมเดจ็ พระร่วงเจ้า เผา้ แผน่ ภพสุโขทยั มลักเหน็ ในอนาคต จงึ ผายพจนประภาษ เปน็ อนุสาสนกถา สอนคณานรชน ถอดความ ครั้งที่สมเด็จพระร่วงเจ้าแผ่นดินสุโขทัย ได้มองเห็น อนาคต จึงมีโอวาทในการสั่งสอนเป็นข้อความที่เป็น กลอนสอนใจประชาชนในการดาเนินชวี ิต

เนือ้ เรอื่ งและถอดความ เนอ้ื หา ทั่วธราดลพึงเพยี ร เรยี นอารงุ ผดุงอาตม์ อย่าเคลื่อนคลาดคลาถอ้ ย ถอดความ ทั่วแผ่นดินจึงต้องเรียนรู้เอาไว้เพื่อให้ประโยชน์แก่ ตนเอง

เนอื้ เรือ่ งและถอดความ เน้ือหา ถอดความ เม่ือน้อยให้เรียนวิชา ใหห้ าสินเม่ือใหญ่ เมื่อเป็นเด็กให้เรียนให้ทางาน อยา่ ใฝ่เอาทรพั ย์ทา่ น เมือ่ ใหญ่ อยา่ ริระร่านแกค่ วาม อยา่ เอาเงนิ ของคนอ่ืน ประพฤตติ ามบูรพระบอบ อยา่ เอาเร่อื งท่ีไมด่ เี ขา้ ใส่ตัว ควรทาทุกอย่างตามประเพณีที่เคย ถือปฎิบตั ิ

เนอ้ื เรือ่ งและถอดความ เนอ้ื หา ถอดความ เอาแตช่ อบเสียผดิ อยา่ ประกอบกจิ เป็นพาล เอาแต่ทาผดิ อย่าทางานในส่ิงที่ผดิ อย่าอวดเก่งกับเพื่อน อยา่ อวดหาญแกเ่ พ่ือน เข้าเถื่อนอย่าลืมพร้า เวลามีศึกอย่านิ่ง เข้าเถือ่ นอยา่ ลมื พรา้ หน้าศกึ อยา่ นอนใจ นอนใจ ไปบ้านท่านอย่าอยนู่ าน การเรอื นตนรีบทา ไปเรอื นทา่ นอย่าน่ังนาน การเรือนตนเรง่ คดิ อย่านั่งใกลผ้ ู้ใหญ่ อย่าอวดมอี านาจใหพ้ ้นตนเอง อยา่ น่งั ชดิ ผ้ใู หญ่ อย่าดถู กู คนรัก ปลกุ ไมตรอี ยา่ งสมา่ เสมอ อยา่ ใฝส่ ูงให้พน้ ศกั ด์ิ สร้างกศุ ลอยา่ งสม่าเสมอ ท่ีรกั อยา่ ดูถูก ปลูกไมตรอี ยา่ รูร้ ้าง สร้างกุศลอยา่ รู้โรย

เน้ือเรือ่ งและถอดความ เนือ้ หา ถอดความ อย่าโดยคาคนพลอด เข็นเรอื ทอดข้างถนน อย่าฟังคนที่พูดประจบสอพลอ เข็นเรือ วางทางถนน เปน็ คนอย่าทาใหญ่ ขา้ คนไพร่อย่าไฟฟนุ เปน็ คนอยา่ อวดอานาจ อย่าใจร้อนกบั คนใช้ คบขนุ นางอย่าโหด โทษตนผดิ ราพึง อยา่ คนงึ ถงึ โทษท่าน ถ้าจะไปหาขุนนาง ไม่ควรไปมอื เปลา่ หว่านพืชจักเอาผล เลี้ยงคนจักกนิ แรง เราทาผดิ อย่าโทษคนอนื่ อยา่ ขดั แย้งผใู้ หญ่ หว่านพืชจะเอาผล เลย้ี งคนหวังแรงงาน อยา่ ใฝต่ นให้เกิน อยา่ ขัดแขง้ ขดั ขา ผู้ใหญ่ อยา่ อวดตน

เน้ือเรือ่ งและถอดความ เนือ้ หา ถอดความ เดินทางอยา่ เดินเปลีย่ ว นา้ เช่ียวอยา่ ขวางเรือ เดินทางอย่าไปคนเดียว น้าเชี่ยวอย่า ขวางเรือ ท่ีซุ่มเสอื จงประหยดั จงเร่งระมัดฟืนไฟ ทเี่ สอื สมุ้ จงหนี จงเร่งระวงั ฟนื ไฟ ตนเปน็ ไทอยา่ คบทาส อยา่ คบคนท่ีไม่ดี อยา่ ประมาททา่ นผู้ดี อย่าประมาท มีสินอย่าอวดมง่ั มสี ินอยา่ อวดรวย ผูเ้ ฒ่าส่งั จงจาความ ผูเ้ ฒา่ สอนจงจา ทีข่ วากหนามอย่าเสยี เกอื ก ที่มีหนามอย่าเสียรองเท้า ทารั้วไว้ ป้องกนั ตน ทารวั้ เรือกไวก้ ับตน คนรกั อยา่ วางใจ อยา่ ประมาท

เนอ้ื เร่ืองและถอดความ เน้อื หา ถอดความ ทีม่ ภี ยั พงึ หลีก ปลกี ตนไปโดยด่วน ทมี่ ีภยั ควรหลกี หนหี ่างไปโดยด่วน ได้สว่ นอย่ามักมาก อย่าโลภมาก อย่ามปี ากวา่ คน อย่ามปี ากไว้ด่าคน รักตนกว่ารกั ทรัพย์ รักตวั เองมากกว่าทรพั ย์ อย่าได้รับของที่ความทุกข์มาให้ ของ อย่าได้รบั ของเขญ็ เหน็ งามตาอย่าปอง สวย ๆ อยา่ เอา ไม่ควรรบั ของท่ผี ้นู ามาฝาก ของฝากท่านอย่ารบั ที่บ้านจงมีไฟ ไปท่ไี หนจงมีเพอื่ น ทที่ ับจงมีไฟ ที่ไปจงมีเพอ่ื น แถวทเ่ี ปลี่ยวๆ ทางแถวเถ่ือนไคลคลา

เนอ้ื เรือ่ งและถอดความ เนือ้ หา ถอดความ ครูบาสอนอยา่ โกรธ อย่าโกรธคนท่ีสอนเรา โทษตนผิดพึงรู้ เราทาผิด เรารู้ สเู้ สยี สินอยา่ เสยี ศกั ดิ์ ส้เู สยี ของนอกกายอยา่ เสยี เกยี รติ ภกั ดีอยา่ ด่วนเคยี ด อย่ารบี รอ้ นโกรธคนที่ภักดตี อ่ เรา อย่าเบยี ดเสียดแกม่ ติ ร อย่าเบยี ดเบยี นมติ ร ทาผิดควรห้าม ทาถกู ควรส่งเสรมิ ท่ผี ดิ ชว่ ยเตอื นตอบ ทีช่ อบช่วยยกยอ อ ย ่ า เ อ า ข อ ง รั ก ข อ ง ห ว ง ข อ ง เ พื ่ อ น ของรักของเรามักหาย ที่อยา่ ขอของรักมิตร ชอบชิดมกั จางจาก ความลบั ของเราอย่าบอกใคร พบศัตรปู ากปราศรัย ความในอย่าไขเขา

เนื้อเรื่องและถอดความ เนอื้ หา ถอดความ อยา่ มัวเมาเนืองนจิ คิดตรองตรกึ ทกุ เม่ือ ความลับของเราอย่าบอกใคร อย่ามวั เมาเยอะคดิ ตรติ รองทกุ คร้ัง พึงผันเผ่อื ตอ่ ญาติ แบ่งปนั ญาติ รูท้ ่ีขลาดทห่ี าญ รทู้ ีด่ ีและไม่ดี เมอ่ื มเี วลาควรตอบ คบพาลอย่าพาลผดิ อยา่ ผูกมิตรไมตรี เคารพผูใ้ หญ่ เหน็ คนมีอานาจควรหลบ เมอื่ พาทีพึงตอบ สนุ ขั กัดอย่ากดั ตอบ จงนบนอบผู้ใหญ่ ชา้ งไล่แล่นเลยี่ งหลบ สุวานขบอย่าขบตอบ

เนอ้ื เรื่องและถอดความ เน้อื หา ถอดความ อยา่ กอปรจิตริษยา อยา่ คดิ ปองร้าย เจรจาตามคดี พดู ตามความจรงิ อย่าปลกุ ผกี ลางคลอง อยา่ งปองเรียนอาถรรพณ์ ไม่ควรรื้อฟื้นเรื่องที่ผ่านมา อย่าเรียน พลนั ฉบิ หายวายมว้ ย วชิ าทไ่ี ม่ดี เดียวซวยกันหมด อย่ายลเย่ยี งถว้ ยแตกมิติด จงยลเยยี่ งสมั ฤทธ์ิแตกมิเสีย ลูกเมียก็อยา่ ได้ไวว้ างใจ ลกู เมียอย่าวางใจ ความลับอย่านาออก ความลับข้างนอก ภายในอย่านาออก ภายนอกอย่านาเข้า อย่านาเข้า อาสาทาอะไรทาอยา่ งเต็มแรว สดุ ชวี ิต อาสาเจ้าจนตวั ตาย อาสานายจงพอแรง อย่ากินของแพง ของแพงอย่ามักกิน

เนอื้ เรอ่ื งและถอดความ เน้อื หา ถอดความ อย่ายนิ คาคนโลภ อย่าเช่อื ฟงั คนโลภ โอบออ้ มเอาใจคน โอบออ้ มเอาใจคน อยา่ ยลเหตุแตใ่ กล้ อย่าหนเี หตแุ ต่ใกล้ อย่าหมายโทษกษัตริย์ คนไม่ดใี ห้เอ็นดู ท่านไทอ้ ย่าหมายโทษ คนโหดให้เอ็นดู ชืน่ ชมครูต่อหน้า ชื่นชมทาสเมื่อทางาน ยอครยู อตอ่ หนา้ ยอขา้ เมอ่ื แลว้ กิจ ยอมิตรเม่อื ลับหลงั เสร็จชมเพื่อนเมื่อลับหลังเยียวสะเทิน ลูกเมียยงั อยา่ สรรเสรญิ จะอดสู อยา่ เกลียดครูและเพอ่ื น อย่าชังครชู งั มติ ร ผดิ ไม่เอาเอาแตด่ ี ผิดอย่าเอาเอาแตช่ อบ เคารพผ้ใู หญ่ นอบตนต่อผู้เฒ่า

เนือ้ เร่อื งและถอดความ เนอื้ หา ถอดความ เข้าออกอย่าวางใจ ระวังระไวหน้าหลัง อย่าไวว้ างใจ ระวงั ตวั ไว้ ถา้ ผู้ชังจะคอย เยย่ี งผู้ชังจะคอยโทษ โทษ อยา่ กร้ิวโกรธเนอื งนจิ ผวิ ผดิ ปลิดไปร่ า้ ง อย่าโกรธโดยไร้สติ ผิดแล้วลบไม่ได้ ข้างตนไว้อาวธุ เคร่ืองสรรพยทุ ธอยา่ วางจิต ข้างกายมอี าวุธ อยา่ วางใจ คดิ ทุกขใ์ นสงสาร รู้เท่าทนั ความทกุ ข์ อยา่ ทาผิด คดิ แต่สิ่งที่ดี อยา่ ทาการที่ผดิ คดิ ขวนขวายทช่ี อบ โตต้ อบอยา่ งเรยี บร้อย อย่าคบคนทมี่ ีลับลมคมใน โต้ตอบอย่าเสยี คา คนขาอยา่ ร่วมรกั

เนือ้ เร่ืองและถอดความ เนอ้ื หา ถอดความ พรรคพวกพึงทานุก ปลูกเอาแรงทัว่ ตน ทาใหพ้ รรคพวกมกี าลงั ใจมแี รงทางาน ยลเย่ยี งไก่นกกระทา พาลูกหลานหากนิ เหมอื นไก่นกกระทา พาลกู หลานหากิน ระบอื ระบลิ อย่าฟงั คา อย่าเช่อื ฟงั ขา่ วลอื การจะทาอย่าด่วนได้ อย่าทาเร็ว อย่าใชค้ นบังบด ทดแทนคุณทา่ นเมอ่ื ยาก ฝากของรกั จงพอใจ ไม่ควรใชค้ นบัง ๆ ปิด ๆ ทดแทน บุญคณุ ฝากของรกั เฝ้าท้าวไทอยา่ ทะนง อย่าโกรธกษัตริย์ ภกั ดจี งอยา่ เกยี จ อยา่ เกยี จคนท่ภี กั ดี

เนอื้ เร่อื งและถอดความ เน้อื หา ถอดความ เจ้าเคยี ดอยา่ เคียดตอบ นอบนบใจใสสทุ ธ์ิ อยา่ โกรธมจี ิตใจสะอาด อย่าขดุ คนดว้ ยปาก อยา่ ถากคนดว้ ยตา อย่าเชื่อเรื่องที่ไม่ดี อย่าใช้สายตา อย่าพาผิดด้วยหู เหยยี ดหยามผอู้ ่ืน อยา่ เลยี นครูเตือนดา่ อย่าเลียนแบบคาพดู ของผ้ใู หญ่ อยา่ ริกล่าวคาคด อยา่ พดู คาไมด่ ี คนทรยศอย่าเชือ่ อย่าเช่อื คนทีไ่ มซ่ ือ่ อยา่ แผเ่ ผอ่ื ความผิด อยา่ แบ่งปันความผิด

เนอื้ เร่ืองและถอดความ เนอ้ื หา ถอดความ อย่าผูกมิตรคนจร อย่าคบคนทโี่ หดเห้ยี ม อยา่ เถียงท่าน ท่านสอนอย่าสอนตอบ ความดจี าใส่ใจ ความชอบจาใสใ่ จ ระวังเนอ้ื ระวงั ตัว เมตตาต่อมติ ร ระวงั ระวังทีไ่ ปมา อยา่ ตืน้ เต้นต่อคนที่พดู ยอตน เมตตาตอบตอ่ มติ ร คดิ แลว้ จึงเจรจา อยา่ นินทาผูอ้ ่นื อยา่ ตื่นยกยอตน

เน้ือเรื่องและถอดความ เนือ้ หา ถอดความ คนจนอยา่ ดูถูก ปลูกไมตรีทัว่ ชน อยา่ ดถู ูกคนจน ปลูกไมตรที ุกคน ตระกูลตนจงคานับ เคารพตระกลู ของเรา อย่าจบั ลนิ้ แกค่ น อย่าจับผิดคนอ่ืน ทา่ นรักตนจงรกั ตอบ ท่านนอบตนจงนอบแทน รักคนทรี่ กั เรา เคารพคนทีเ่ คารพตน ระวังของรกั ของหวงของเราใหด้ ี ความแหนให้ประหยดั อย่าดูถูกคนที่ทาอันตรายแก่ผู้อื่นได้ เผ่ากษตั รยิ ์เพลิงงู อย่าดถู ูกวา่ น้อย ทุกเม่ือ อย่าแขง่ กับคนท่ีเหนือกว่า หงิ่ หอ้ ยอยา่ แขง่ ไฟ อยา่ ปองภัยต่อทา้ ว อยา่ มกั ห้าวพลันแตก อย่าปองร้ายกษัตริย์ จงป้องกัน อย่าเข้าแบกงาชา้ ง อย่าออกกา้ งขนุ นาง ไมค่ วรทาสง่ิ ทีเ่ ป็นอันตรายแก่ตนเอง

เนื้อเรอ่ื งและถอดความ เนือ้ หา ถอดความ ปางมีชอบท่านชว่ ย ปางปว่ ยทา่ นชิงชงั ทาดีทา่ นชว่ ย ทาไม่ดที า่ นไมช่ ว่ ย ปกปิดความลับ จับอะไรจับให้มั่น ผิจะบงั บังจงลบั ผิจะจบั จบั จงม่นั ผิจะคน้ั ค้ันจนตาย เอาให้จงได้ ทาอย่างแท้จริง ทาผิด ผจิ ะหมายหมายจงแท้ ผิจะแก้แก้จงกระจ่าง แล้วแก้ใหส้ ะอาด อย่ารักคนไกลกว่าคนใกล้ อยา่ รักหา่ งกว่าชดิ คิดข้างหนา้ อย่าเบา คิดรับมอื ทกุ เหตุการณ์ อยา่ ประมาท อยา่ ถอื เอาต้ืนกว่าลกึ เม่ือเข้าศึกระวงั ตน อยา่ มองแคผ่ วิ เผน่ ควรระวงั เป็นคนเรียนความรู้ จงย่งิ ผผู้ ูม้ ีศักด์ิ คนมีความรู้ เหมอื นผมู้ ีศักดิ์

เน้อื เร่อื งและถอดความ เนอ้ื หา ถอดความ อยา่ มักงา่ ยมดิ ี อยา่ มักง่าย อย่าทาสง่ิ ไร้ประโยชน์อาจเกิดโทษแก่ตนได้ อยา่ ตีงูให้แก่กา อยา่ ขดั ขวางผลประโยชนข์ องผูอ้ น่ื อย่าใจลอย อยา่ ตีปลาหนา้ ไซ อยา่ ตสี ุนัขหา้ มทาเหมือนสุนขั ใจอย่าเบาจงหนกั อยา่ เอาผดิ กบั คนท่อี ยกู่ ับเรามานาน อยา่ ตสี ุนัขห้ามเหา่ ข้าเก่าร้ายอดเอา

เนื้อเรอ่ื งและถอดความ อยา่ รกั เหากวา่ ผม อย่ารกั ลมกวา่ น้า อย่ารกั ถา้ กวา่ เรอื น อยา่ รักเดอื นกวา่ ตะวัน สบสงิ่ สรรพโอวาท ผู้เปน็ ปราชญ์พงึ สดบั ตรบั ตริตรองปฏิบัติ โดยอรรถอนั ถอ่ งถว้ น แถลงเลศเหตุเลือกลว้ น เลศิ อ้างทางธรรม แลนาฯ ถอดความ อยา่ รักเหากวา่ ผม อย่ารักลมกว่าน้า อย่ารักที่อื่นมากกว่าที่ที่เรา อยู่ สรรพสิ่งโอวาท ผู้เป็นปราชญ์ควรฟัง ตรับตริตรองปฏิบัติ โดยอรรถอันถอ่ งถว้ น แถลงเหตุเลือกลว้ นเลิศอา้ งทางธรรม

บทวิเคราะห์ เนื่องจากเนื้อความของสุภาษิตพระร่วง มีที่มาจาก การรวบรวมคาสอนหรอื สภุ าษติ เก่าแก่ต้ังแตส่ มัยโบราณเข้า ไว้ด้วยกัน จึงไม่มีการเรียงลาดับเนื้อความที่แน่นอน แต่ สามารถสรุปได้ว่า เนื้อความหรือคาสอนในสุภาษิตพระร่วง แบง่ ออกเป็น 2 ลักษณะด้วยกัน ได้แก่ คาสอนที่เป็นข้อ ห้ามและคาสอนทีเ่ ป็นคาแนะนา ดังตัวอยา่ งตอ่ ไปนี้

บทวิเคราะห์ ค าสอนที ่เป็นข ้อห้าม อย่าใฝ่เอาท รัพย์ท ่า น อย่าประกอบกิจเป็นพาล อย่าอวดหาญแก่เพื่อน อย่าชังครู ชังมติ ร อย่ามีปากว่าคน อย่าขุดคนด้วยปาก อย่าถากคนด้วยตา อย่านงั่ ชดิ ผูใ้ หญ่ อยา่ ใฝ่ตนให้เกนิ คาสอนที่เป็นคาแนะนา ผิจะบังบังจงลับ ผิจะจับจง มั่น ผิจะคั้นคั้นจงตายที่มีภัยพึงหลีก โอบอ้อมเอาใจคน คนโหดให้เอ็นดู เมื่อน้อยให้เรียนวิชา ประพฤติตาม บรู พระบอบ

คุณค่าดา้ นเนอ้ื หา 1. คุณค่าด้านเนื้อหา คาสอนในสุภาษิตพระร่วง เป็นการสอนอย่าง กว้าง ๆ ครอบคลุมทั้งคติทางโลกและทางธรรม สามารถนาไปปฏิบัติได้จริง ในชีวิต จึงทาใหส้ ภุ าษิตพระรว่ งมคี ุณค่าในดา้ นเน้อื หา ดังนี้ 1) ข้อคิดและคติทางโลก สุภาษิตพระร่วงมีเนื้อหามุ่งสอนให้รู้วิธี ดาเนินชีวิตและการปฏบิ ตั ใิ นดา้ นต่าง ๆ ทงั้ ตอ่ ตนเองและผอู้ ่นื อย่างเหมาะสม เพ่อื ความสงบสุขในสงั คม เชน่ 1.1) ความสาคัญของการศึกษาหาความรู้ สุภาษิตพระร่วงมีคาสอนท่ี สื่อให้เห็นคุณค่าของการศึกษาเล่าเรียน เช่น เมื่อน้อยให้เรียนวิซา เป็นคน เรยี นความรู้ 1.2) ข้อคดิ ในการทางาน สุภาษติ พระร่วงมีคาสอนให้ประกอบอาชีพ หรอื การทางานทสี่ จุ ริตและไม่เกิดโทษ เชน่ อย่ากอปรกิจเป็นพาล ให้หาสิน เมอื่ ใหญ่ อยา่ ทาการทผี่ ิด คดิ ขวนขวายทชี่ อบ

คณุ ค่าด้านเนอ้ื หา 1.3) ความสาคญั ของการพูด สุภาษิตพระร่วงมีคาสอนให้รู้กาลเทศะ หรือจังหวะเวลาที่จะพูด รู้จักรับผิดชอบในสิ่งที่พูด รู้จักคิดก่อนพูด และ ไม่พูดเทจ็ เชน่ รู้จังหวะเวลาที่พูด ยอครูยอต่อหน้า ยอข้าเมื่อแล้วกิจ ยอมิตรเมื่อ ลับหลัง ลกู เมยี ยงั อยา่ สรรเสรญิ รบั ผิดชอบในส่ิงท่พี ดู โตต้ อบอย่าเสียคา คดิ ก่อนพดู คิดแล้วจึงเจรจา ไม่จบั ผิดคาพดู คนอน่ื อย่าจับล้นิ แกค่ น ไมพ่ ูดเทจ็ อย่าริกล่าวคาคด เอรอาตามคดี 1.4) มารยาทในการเข้าสังคม การใช้ชีวิตอยู่ในสังคม ย่อมต้อง พบปะกับบุคคลอื่น ๆ อยู่เสมอ จึงต้องปฏิบัติตนให้เหมาะสมกับโอกาสและ บุคคล เชน่ ไปเรือนท่านอย่านั่งนาน อยา่ นงั่ ชดิ ผใู้ หญ่ จงนบนอบผู้ใหญ่

คุณค่าดา้ นเน้ือหา 1.5) การรู้จักปรับตัวในสังคม เช่น น้าเชี่ยวอย่าขวางเรือ เข็นเรือ ทอดทางถนน 1.6) การประหยัด เชน่ ของแพงอยา่ มกั กิน 1.7) การดาเนนิ ชีวติ ครอบครัวใหม้ คี วามสขุ เชน่ การเรือนตนเร่งคิด จงเรง่ ระมัดฟนื ไฟ ความในอย่าไขเขา ภายในอยา่ นาออก ภายนอกอย่านาเข้า 1.8) การให้ความสาคัญของญาติพี่น้องที่มีสายเลือดเดียวกัน ให้ มากกว่าคนนอกครอบครัว เช่น อย่ารกั ห่างกวา่ ชดิ 1.9) การรับราชการ มุ่งเน้นสอนผู้ที่ทางานใกล้ชิดเจ้านาย ต้องเป็น ผูร้ ้จู ักระมัดระวงั ตน รูจ้ ักการเคารพนบั ถือกันตามลาดับชั้น ดังที่เคยปฏิบัติกัน มาแต่อดีต เช่น อย่าออกก้างขุนนาง คบขุนนางอย่าโหด อาสาเจ้าจนตัวตาย อาสานายจนพอแรง เฝ้าทา้ วไทอยา่ ทะนง เจ้าเคยี ดอย่าเคียดตอบ

คุณคา่ ดา้ นเน้ือหา 2) ข้อคิดและคติทางธรรม เป็นคาสอนที่เชื่อมโยงกับหลักศาสนา จรยิ ธรรม และคณุ ธรรมมหี ลายด้าน เช่น 2.1) สอนให้มศี ลี มีธรรม และมีความเมตตา เช่น อย่าใฝ่เอาทรัพย์ ท่าน เมตตาตอบต่อมิตร สร้างกุศลอย่ารู้โรย อย่ามัวเมาเนืองนิตย์ อย่ากริ้ว โกรธเนอื งนติ ย์ 2.2) สอนให้มีความโอบอ้อมอารี เช่น ปลูกไมตรีอย่ารู้ร้าง พึงผัน เผือ่ ต่อญาตโิ อบอ้อมเอาใจคน 2.3) สอนให้มีความกตัญญูรู้คุณ เช่น อย่าชังครูชังมิตร ครูบาสอน อยา่ โกรธ ทดแทนคุณท่านเมือ่ ยาก อยา่ เลียนครเู ตอื นด่า 2.4) สอนให้ตัง้ ตนอยใู่ นความไม่ประมาท เช่น เข้าเถอ่ื นอยา่ ลืมพร้า เดนิ ทางอยา่ เดนิ เปลีย่ ว ที่สมุ้ เสือจงประหยัด จงเร่งระมดั ฟืนไฟ

คณุ ค่าด้านเนื้อหา 2) ข้อคิดและคติทางธรรม เป็นคาสอนที่เชื่อมโยงกับหลักศาสนา จริยธรรม และคณุ ธรรมมีหลายด้าน เชน่ 2.1) สอนให้มีศีล มีธรรม และมีความเมตตา เช่น อย่าใฝ่เอาทรัพย์ ท่าน เมตตาตอบต่อมิตร สร้างกุศลอย่ารู้โรย อย่ามัวเมาเนืองนิตย์ อย่ากริ้ว โกรธเนืองนิตย์ 2.2) สอนให้มีความโอบอ้อมอารี เช่น ปลูกไมตรีอย่ารู้ร้าง พึงผัน เผ่อื ต่อญาติโอบออ้ มเอาใจคน 2.3) สอนให้มีความกตัญญูรู้คุณ เช่น อย่าชังครูชังมิตร ครูบาสอน อยา่ โกรธ ทดแทนคุณท่านเม่ือยาก อยา่ เลยี นครเู ตอื นด่า 2.4) สอนให้ตัง้ ตนอยใู่ นความไม่ประมาท เช่น เขา้ เถ่อื นอยา่ ลืมพร้า เดนิ ทางอยา่ เดนิ เปลยี่ ว ที่สุ้มเสือจงประหยัด จงเรง่ ระมัดฟนื ไฟ 2.5 สอนให้เป็นผู้รู้ประมาณ เช่น อย่าใฝ่ตนให้เกิน มีสินอย่าอวด มงั่ รักตนกวา่ รกั ทรัพย์ อย่าใฝส่ ูงใหพ้ น้ ศกั ดิ์

คณุ ค่าดา้ นวรรณศิลป์ 2. คุณค่าด้านวรรณศิลป์ สุภาษิตพระร่วงแต่งด้วยร่ายสุภาพที่มี สัมผัสคล้องจอง จดจาง่าย มีความไพเราะและยังมีประโยชน์ต่อการศึกษา ภาษาไทยด้วย ทาใหม้ ีความรู้เรือ่ งคาศัพทแ์ ละสานวนเก่าที่ใชก้ ันมาต้ังแต่ครั้ง อดีต ทาให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของภาษาที่เป็นไปตามกาลเวลา คุณค่า ดา้ นวรรณศลิ ป์ของสภุ าษติ พระร่วงมดี งั ตอ่ ไปนี้ 1) การใชค้ านอ้ ยแตก่ ินความมาก เนื่องจากสุภาษิตพระร่วงแต่งด้วย ร่ายสุภาพ ซึ่งมีข้อจากัดเรื่องจานวนคา ทาให้ในแต่ละวรรคจาเป็นต้องใช้ คาน้อยแต่ให้ได้ใจความมาก ผู้อ่านต้องตีความให้ถูกต้องจึงจะเข้าใจ ความหมายท่ีแท้จรงิ เช่น

คุณค่าด้านวรรณศลิ ป์ อยา่ ปลุกผีกลางคลอง มีความหมายวา่ ไม่ควรรอ้ื ฟืน้ เรือ่ งราวที่ได้ยุติ หรือสิ้นสุดลงไปแล้วขึ้นมาใหม่ ในขณะที่การงานกาลังดาเนินไปได้ด้วยดี หรือในระหว่างที่อยู่ในภาวะคับขัน เป็นคาสอนที่เป็นความเปรียบและแสดง ให้เห็นถึงความเชื่อของคนในอดีตที่ถือกันว่าเมื่อนาวิญญาณไปถ่วงน้า (คลอง) แล้ว ไม่ควรปลุกหรือเรียกวิญญาณนั้นให้ฟื้นขึ้นมาอีก อันเป็น การกระทาที่ไมม่ ีเหตผุ ลและไมก่ ่อใหเ้ กิดประโยชน์แตอ่ ยา่ งใด เผ่ากษัตริย์เพลิงงู อย่าดูถูกว่าน้อย มีความหมายว่า อย่าได้ประมาท หรือดูหมิ่นใน 3 สิ่ง คือ พระเจ้าแผ่นดิน ไม่ควรหมิ่นว่าทรงพระเยาว์ ไฟ ไม่ควรดูหมิ่นว่าเล็กน้อย งู ไม่ควรดูหมิ่นว่าตัวเล็ก เพราะ 3 สิ่งน้ี สามารถบันดาลความหายนะและความทุกข์มาให้ได้

คุณค่าด้านวรรณศลิ ป์ 2) การใชค้ าศพั ท์คาเดียว เป็นการนาศัพทม์ าใชเ้ พียงคาเดยี วโดด ๆ และแตกต่างจากคาท่ีใช้ในปัจจบุ ันมาก ผ้อู ่านต้องพนิ จิ พจิ ารณา จงึ จะเข้าใจ ความหมายของคาและเนอ้ื ความ จงเรง่ ระมดั ฟนื ไฟ ปจั จบุ นั ใช้ ระมดั ระวงั นอบตนตอ่ ผู้เฒ่า ปจั จุบนั ใช้ นบนอบ หรือ นอบนอ้ ม พรรคพวกพึงทานกุ ปจั จุบันใช้ ทานบุ ารงุ หรือ ทะนุบารุง มสี ินอย่าอวดมง่ั ปจั จุบนั ใช้ ม่ังมี

คณุ ค่าด้านวรรณศิลป์ 3) การสรรคา สุภาษิตพระร่วง เป็นร่ายที่ใช้ภาษาได้อย่างกระชับ ตรงไปตรงมาแต่มีสัมผัสคล้องจอง จึงจดจาได้ง่ายและมีความไพเราะ โดยเฉพาะจากการเล่นเสยี งและการเล่นคา ดังน้ี 3.1) การเล่นเสียง เป็นการเล่นเสียงสัมผัส ทั้งสัมผัสสระและสัมผัส อกั ษรในวรรคเดียวกนั เชน่ สัมผัสอักษร อย่าเคลื่อนคลาดคลาถอย เลน่ เสียงสมั ผสั อักษร คือ เคลื่อน-คลาด-คลา อย่ากริว้ โกรธเนอื งนิตย์ เลน่ เสยี งสัมผัสอักษร คือ กร้ิว-โกรธ, เนือง-นิตย์ ข้างไล่แลน่ เลยี่ งหลบ เลน่ เสียงสมั ผัสอกั ษร คอื ไล่-แลน่ -เล่ยี ง-หลบ สู้เสยี สนิ อย่าเสียศกั ดิ์ เล่นเสียงสมั ผัสอกั ษร คอื สู้-เสยี -สิน-เสีย-ศกั ดิ์

คุณคา่ ดา้ นวรรณศิลป์ สมั ผสั สระ อย่าตปี ลาหนา้ ไซ เล่นเสยี งสัมผัสสระ คือ ปลา-หน้า อยา่ กอปรจติ รษิ ยา เลน่ เสยี งสมั ผัสสระ คือ จติ -ริษ (ยา) อยา่ เบยี ดเสียดแก่มติ ร เล่นเสียงสมั ผสั สระ คอื เบียด-เสยี ด พลันฉิบหายวายมว้ ย เลน่ เสยี งสมั ผัสสระ คอื หาย-วาย

คุณค่าดา้ นวรรณศลิ ป์ 3.2) การเล่นคา การเล่นคาโดยเฉพาะการซ้าคาที่ต้นวรรค ภายใน วรรค และระหวา่ งวรรค ช่วยเน้นยา้ ความหมายและยังได้ความไพเราะจากเสียง สมั ผสั ที่คล้องจอง เช่น ยอครูยอต่อหนา้ ยอขา้ เมอ่ื แลว้ กิจ ยอมิตรเมอ่ื ลบั หลัง อยา่ ถากคนดว้ ยตา อยา่ พาผิดดว้ ยหู อยา่ เลียนครูเตือนด่า อย่าริกลา่ วคาคด

สภุ าษิตพระร่วง สุภาษิตพระร่วง แม้จะเป็น วรร ณ ค ดีที ่ มี ข นา ดสั ้ น แ ต่ คุณค่านั้นมีมากมายด้วยได้ให้ แนวทางในการปฏิบัติตนที่เป็น ประโยชน์อย่างยิ่งต่อการดาเนิน ชวี ิต


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook