“รอมฎอน” เดือนแห่ง การขาดทุน ของใครบางคน Daodeundome19 Page 2
ทา่ นเราะสลู ลุ ลอฮ์ ﷺกลา่ ววา่ : “การถือศีลอดมิใช่เป็นแค่งดอาหารงดเคร่ืองด่ืมแต่เพียงเท่านั้น หากแต่การถือศีลอดท่ีแทจ้ ริงนนั้ เล่า จำ� ตอ้ งงดจากส่ิงบดั ซบไรส้ าระกอปรกับ อารมณใ์ ฝ่ ต่ำ� ดว้ ย...”1 ทา่ นเราะสลู ลุ ลอฮ์ ﷺกลา่ ววา่ : “ลางทีผูท้ ่ีถือศีลอดนัน้ ส่วนไดข้ องเขาจากการถือศีลอด ของเขาก็ แต่เพียงความหิวโหยและความกระหาย (มิไดร้ บั กุศลใดๆ เลย) ...” 2 “สมควรสงวนถอ้ ยคำ� ดว้ ยการละทิง้ คำ� พูดประเภทโกหก ด่าทอ นินทาว่ารา้ ย ยุแหย่ และตอ้ งควบคุมจิตใจมิใหเ้ กิดกำ� หนัดต่างๆ เช่น การ มองดูเพศตรงขา้ ม และการฟังเพลง ฯลฯ”3 1. สายรายงานเศาะหหี้ ;์ มหุ มั มดั อบิ นอิ สิ หาก อบิ นคิ ซุ ยั มะฮ,์ “เศาะหหี้ ์ อบิ นิคุซยั มะฮ,์ ” 6 เลม่ , มาฮริ ยาสนี อลั ฟะหลฺ ์ (บรรณาธิการ), (รยิ าด: ดาร อลั มยั มาน, ฮ.ศ. 1430 / ค.ศ. 2009), เลม่ 3: หนา้ 420, เลข ท่ี 1996; มหุ มั มดั อบิ นอิ สิ หาก อบิ นคิ ซุ ยั มะฮ,์ “เศาะหหี้ ์ อบิ นิคุซยั มะฮ,์ ” พมิ พค์ รงั้ ท่ี 3, 2 เลม่ , มหุ มั มดั มศุ เฏาะฟา อลั อะอเ์ ศาะมี (บรรณาธิการ), (เบรุต: อลั มกั ตบั อลั อสิ ลาม,ี ฮ.ศ. 1424 / ค.ศ. 2003), เลม่ 2: หนา้ 958, เลขท่ี 1996. 2. สายรายงานดี (ญัยยดิ ); อะหม์ ดั อิบนิหมั บลั , “มุสนัด,” 52 เลม่ , ชอุ ยั บ์ อลั อรั นะอฏู และคณะ (บรรณาธิการ), (เบรุต: มอุ สั สะสะฮ์ อรั รสิ าละฮ,์ ฮ.ศ. 1417 / ค.ศ. 1997), เลม่ 14: หนา้ 445, เลขท่ี 8856. 3. มศุ เฏาะฟา อลั คนิ , มศุ เฏาะฟา อลั บฆุ อ และอะลี อชั ชรั บะญี, “อัลฟิ กฮ์ อัลมันฮะญี อะลา มัซฮับ อัลอมิ าม อัชชาฟิ อ,ี ” พิมพค์ รงั้ ท่ี 13, 3 เลม่ , (ดามสั กสั : ดาร อลั เกาะลมั , ฮ.ศ. 1433 / ค.ศ. 2012), เลม่ 1: หนา้ 347. Daodeundome19 Page 3
ทา่ นเราะสลู ลุ ลอฮ์ ﷺกลา่ ววา่ : “ผใู้ ดไม่ละทิง้ คำ� พดู อนั เป็นเท็จ รวมทงั้ ไม่เลิกกระทำ� การอนั บดั ซบไร้ สาระและโง่เง่าเบาปัญญา พระองคอ์ ลั ลอฮย์ ่อมไม่ปรารถนาอะไรกบั การท่ีเขา อดอาหาร และเคร่ืองด่ืม” 1 “อนั ท่ีจริงแลว้ การด่าทอ การโกหก การนินทา และการยแุ หย่นนั้ ล้วนเป็ นท่ีต้องห้าม (หะรอม) ในตัวของมันเองอยู่แล้ว แต่ทว่าได้น�ำมา เก่ียวขอ้ งกับผูท้ ่ีถือศีลอด ก็เพราะนอกจากจะเป็นบาปแลว้ มนั ยังลา้ งผลาญ ผลบญุ แห่งการถือศีลอดอีกดว้ ย ถึงแมน้ ว่าการถือศีลอดจะใชไ้ ด้ (เศาะห)์ และ พน้ การบงั คบั ของศาสนาก็ตาม ทงั้ นี้ เน่ืองจากส่ิงท่ีกล่าวมาขา้ งตน้ จัดอยู่ใน ธรรมจรรยาแห่งการถือศีลอด ซ่งึ ผถู้ ือศีลอดจำ� ตอ้ งดำ� เนินตาม” 2 ทา่ นเราะสลู ลุ ลอฮ์ ﷺกลา่ ววา่ : “...ผใู้ ดท่ีพลาดจาก ‘ลยั ละตลุ ก็อดร’์ แนน่ อนผนู้ นั้ ไดถ้ กู หา้ มจากความ ดีงามทงั้ หมด ทงั้ นี้ ไมม่ ีผใู้ ดท่ีพลาดจากความดีงามของ ‘ลยั ละตลุ ก็อดร’์ เวน้ แต่ ผทู้ ่ีถกู หา้ มเทา่ นนั้ ” 3 1. หะดษี เศาะหหี้ ;์ มหุ มั มดั อิบนิอิสมาอีล อลั บคุ อร,ี “เศาะหหี้ ์ อัลบุคอรี,” 10 เลม่ , (ไคโร: ดาร อตั ตะอศ์ ีล, ฮ.ศ. 1433 / ค.ศ. 2012), เลม่ 8: หนา้ 49, เลขท่ี 6062. 2. มศุ เฏาะฟา อลั คนิ , มศุ เฏาะฟา อลั บฆุ อ และอะลี อชั ชรั บะญี, “อัลฟิ กฮ์ อัลมันฮะญี อะลา มัซฮับ อัลอมิ าม อัชชาฟิ อ,ี ” พิมพค์ รงั้ ท่ี 13, 3 เลม่ , (ดามสั กสั : ดาร อลั เกาะลมั , ฮ.ศ. 1433 / ค.ศ. 2012), เลม่ 1: หนา้ 347. 3. หะสัน; มหุ มั มดั อิบนิมาญะฮ์ อลั ก็อซวีนี, “สุนัน อบิ นิมาญะฮ,์ ” 5 เลม่ , ชอุ ยั บ์ อลั อรั นะอฏู และคณะ (บรรณาธิการ), (ดามสั กสั : ดาร อรั รสิ าละฮ์ อลั อาละมียะฮ,์ ฮ.ศ. 1430 / ค.ศ. 2009), เลม่ 2: หนา้ 560, เลขท่ี 1644; มหุ มั มดั อิบนิมาญะฮ์ อลั ก็อซวีนี, “สุนัน อบิ นิมาญะฮ,์ ” 4 เลม่ , อะลี อิบนิหะสนั อลั หะละบี (บรรณาธิการ), (รยิ าด: มกั ตะบะฮ์ อลั มะอารฟิ , ฮ.ศ. 1419 / ค.ศ. 1998), เลม่ 2: หนา้ 198, เลขท่ี 1667. Daodeundome19 Page 4
ทา่ นเราะสลู ลุ ลอฮ์ ﷺกลา่ ววา่ : “...ความฉิบหายวายวอดจงมีแก่ผูใ้ ดผูห้ น่ึง ทงั้ ท่ีเดือนเราะมะฎอนได้ ประสบแก่ผนู้ นั้ แต่แลว้ มนั กลบั ผ่านพน้ ไปก่อนท่ีเขาจะไดร้ บั การอภยั โทษ (กล่าว คือ ดำ� รงอย่ใู นสภาพท่ีขาดทนุ ) ...”1 ทา่ นเราะสลู ลุ ลอฮ์ ﷺกลา่ ววา่ : “แทจ้ ริงญิบรีลไดม้ าหาฉันแลว้ บอกว่า: ‘ผใู้ ดอย่ทู นั เดือนเรามะฎอน แต่ ผนู้ นั้ มิไดร้ บั การอภยั โทษ เชน่ นี้ เขาก็ไดเ้ ขา้ สขู่ มุ นรกแลว้ พระองคอ์ ลั ลอฮท์ รงทำ� ให้ เขาอย่หู ่างไกลจากพระองคอ์ อกไป ทา่ นจงกลา่ วอามีน’ แลว้ ฉนั ก็กลา่ ววา่ : ‘อามีน’ . . .” 2 1. หะดษี เศาะหหี้ ;์ มหุ มั มดั อิบนิอีสา อตั ตริ มิซี, “สุนัน อัตตริ มซิ ,ี ” 6 เลม่ , ชอุ ยั บ์ อลั อรั นะอฏู และคณะ (บรรณาธิการ), (ดามสั กสั : ดาร อรั รสิ าละฮ์ อลั อาละมียะฮ,์ ฮ.ศ. 1430 / ค.ศ. 2009), เลม่ 6: หนา้ 146, เลข ท่ี 3857; มหุ มั มดั อิบนิอีสา อตั ตริ มิซี, “สุนัน อัตตริ มซิ ,ี ” 6 เลม่ , ซบุ ยั ร์ อะลี ซะอี (บรรณาธิการ), (รยิ าด: ดาร อสั สะลาม, ค.ศ. 2007), เลม่ 6: หนา้ 253, เลขท่ี 3545. 2. สายรายงานหะสัน; อะลาอดุ ดีน อิบนิบลั บาน อลั ฟารสิ ,ี “เศาะหหี้ ์ อบิ นิหบิ บาน,” 18 เลม่ , ชอุ ยั บ์ อลั อรั นะอฏู (บรรณาธิการ), (เบรุต: มอุ สั สะสะฮ์ อรั รสิ าละฮ,์ ฮ.ศ. 1408 / ค.ศ. 1987), เลม่ 3: หนา้ 188, เลข ท่ี 907; อะลาอดุ ดีน อิบนิบลั บาน อลั ฟารสิ ,ี “เศาะหหี้ ์ อบิ นิหบิ บาน,” 12 เลม่ , มหุ มั มดั นาศริ ุดดีน อลั อลั บานี (บรรณาธิการ), (เจดดาห:์ ดาร บาวะซีร, ฮ.ศ. 1424 / ค.ศ. 2003), เลม่ 2: หนา้ 256-257, เลขท่ี 904. Daodeundome19 Page 5
ทา่ นเราะสลู ลุ ลอฮ์ ﷺกลา่ ววา่ : “ในระหว่างท่ีฉันนอนหลบั มีชาย (มะลาอิกะฮ)์ สองคนมาหาแลว้ จบั แขนฉนั ไว้ ทงั้ สองพาฉันไปยงั ภเู ขาอนั น่าสะพรงึ กลวั และพวกเขาไดพ้ ดู กบั ฉนั วา่ : ‘จงขนึ้ ไป’ ฉนั กลา่ วตอบไปวา่ : ‘ฉนั ไมส่ ามารถขนึ้ ไปได’้ พวกเขาจึงกล่าวว่า: ‘เราจะทำ� ใหม้ นั เป็นเร่ืองท่ีง่ายดายสำ� หรบั ท่าน’ และแลว้ ฉนั ก็ไดข้ ึน้ ไปยงั ภเู ขา ครนั้ เม่ือถึงใจกลางภเู ขา ทนั ใดนนั้ ก็ไดย้ ินเสียงท่ี ดงั ล่นั ฉนั จึงถามว่า: ‘น่ีมนั เสียงอะไรกนั ?’ เขาตอบวา่ : ‘น่ีคือเสียงคร่ำ� ครวญโหยหวนของชาวนรก’ จากนนั้ ไดพ้ าฉนั ไปอีก ทนั ใดนนั้ ก็สงั เกตเหน็ คนพวกหนง่ึ ถกู แขวนดว้ ย การเก่ียวท่ีขอ้ เทา้ ของพวกเขาเอาไว้ กระพงุ้ แกม้ ทงั้ สองขา้ งของพวกเขามีแผลปริ ออกแตกออก เลอื ดไหลนอง ฉนั จงึ ถามวา่ : ‘คนพวกนีเ้ ป็นใคร ?’ เขาตอบวา่ : ‘คนพวกนีค้ ือผทู้ ่ีละศีลอดก่อนถงึ เวลา’...” 1 1. เศาะหหี้ ;์ มหุ มั มดั อิบนิอิสหาก อิบนิคซุ ยั มะฮ,์ “เศาะหหี้ ์ อบิ นิคุซัยมะฮ,์ ” 6 เลม่ , มาฮิร ยาสนี อลั ฟะหฺล์ (บรรณาธิการ), (รยิ าด: ดาร อลั มยั มาน, ฮ.ศ. 1430 / ค.ศ. 2009), เลม่ 3: หนา้ 411-412, เลข ท่ี 1986; มหุ มั มดั อิบนิอิสหาก อิบนิคซุ ยั มะฮ,์ “เศาะหหี้ ์ อบิ นิคุซัยมะฮ,์ ” พิมพค์ รงั้ ท่ี 3, 2 เลม่ , มหุ มั มดั มศุ เฏาะฟา อลั อะอเ์ ศาะมี (บรรณาธิการ), (เบรุต: อลั มกั ตบั อลั อิสลามี, ฮ.ศ. 1424 / ค.ศ. 2003), เลม่ 2: หนา้ 953-954, เลขท่ี 1986. Daodeundome19 Page 6
“...อะหม์ ดั (อิบนิหมั บลั ) ไดก้ ล่าวว่า: ผใู้ ดจงใจละทิง้ ละหมาดวิตร์ นบั ว่าเขาเป็นคนไม่ดี และการเป็นพยานของเขาไม่สมควรท่ีจะถูกรบั ไว้ ทงั้ นี้ ท่าน ประสงคท์ ่ีจะเนน้ ยำ้� ถึงความสำ� คญั ของละหมาดวิตร์ เน่ืองจากมีบรรดารายงาน หะดีษต่างๆ บ่งถึงคำ� ส่งั ใชแ้ ละการเขม้ งวดกวดขนั ใหล้ ะหมาดวิตร.์ ..”1 มีผคู้ นมากมายท่ีถือศีลอด แต่การถือศีลอดกลบั มิไดม้ ีอะไรมากไปกว่า ความหิวโหย กระหาย อดอยากปากแหง้ และความยากลำ� บาก คณุ อาจพบว่า บางคนดำ� เนินชีวิตในเดือนเราะมะฎอนอนั ประเสริฐอย่างบดั ซบไรส้ าระ เม่ือถึง หว้ งเวลาละศีลอด ก็จะสำ� เริงสำ� ราญดว้ ยการนำ� เอาสรรพอาหารอนั เอร็ดอร่อย แสนโอชารสชนั้ เลิศมาแลว้ เติมมนั ลงไปจนอ่ิมแปลเ้ ต็มกระเพาะอาหาร ไม่ว่าจะ เป็นอาหารชนิดใดประเภทใด เขาตอ้ งการแต่เพียงเพ่ือ “แกแ้ คน้ -เอาคืน” ส่ิงท่ี ขาดหายไปประหน่ึงว่าถูกปลดปล่อยออกจากการกดข่ีบีบบังคับใหจ้ ำ� ตอ้ งอด สวาปามในหว้ งเวลากลางวนั ! บางคนผลาญเวลาตลอดทงั้ กลางวนั และกลางคืนของเดือนเราะมะฎอน อนั ประเสริฐใหห้ มดไปกับการเล่มเกมและดูภาพยนตร์ ตลอดจนการใชเ้ ฟซบุ๊ก แอปพลิเคชนั “ไลน”์ รวมถึงการใชโ้ ซเชียลมีเดียต่างๆ นานา ซ่งึ อาจจะมากมาย ย่ิงกว่าเดือนอ่ืนๆ ในรอบปีเสียด้วยซำ้� เช่นนี้ เดือนเราะมะฎอนอันประเสริฐ สำ� หรบั พวกเขาจงึ เป็นเดือนท่ีอดุ มไปดว้ ยละคร เกม ภาพยนตรน์ านปั การ และการ สนทนาในเรอ่ื งท่ีบดั ซบไรส้ าระ อนั วา่ มนษุ ยน์ นั้ ประกอบดว้ ยสว่ นท่ีเป็นวิญญาณอนั สงู สง่ และสว่ นท่ีเป็น รา่ งกายอนั ต่ำ� ตอ้ ย โดยท่ีรา่ งกายมีความตอ้ งการส่ิงท่ีต่ำ� ชา้ ในขณะท่ีวิญญาณมี ความตอ้ งการสง่ิ ทส่ี งู สง่ ฉะนนั้ หากมนษุ ยไ์ ดท้ ำ� ใหส้ ว่ นทเ่ี ป็นวญิ ญาณอยเู่ หนอื กวา่ ส่วนท่ีเป็นร่างกาย ความปรารถนาแห่งจิตวิญญาณก็จะมีพลานุภาพในการคุม อารมณใ์ ฝ่ต่ำ� ของรา่ งกายได้ เชน่ นี้ เขาก็จะคลา้ ยกบั มะลาอิกะฮห์ รอื ประเสรฐิ กวา่ มะลาอิกะฮด์ ว้ ยซำ้� ไป 1. มวุ ฟั ฟะกดุ ดีน อิบนิกดุ ามะฮ์ อลั มกั ดสิ ,ี “อัลมุฆนี,” พิมพค์ รงั้ ท่ี 3, 15 เลม่ , อบั ดลุ ลอฮ์ อิบนิอบั ดลิ มหุ ส์ นิ อตั ตรุ กี และคณะ (บรรณาธิการ), (รยิ าด: ดาร อาลมั อลั กตุ บุ , ฮ.ศ. 1417 / ค.ศ. 1997), เลม่ 2: หนา้ 594-595. Daodeundome19 Page 7
“... (หนง่ึ ในเจตนารมณแ์ หง่ การถือศีลอด คือ) การไดป้ ฏิบตั เิ ย่ียง มะลาอิกะฮ์ ในแง่การยบั ยงั้ จากอารมณใ์ ฝ่ ต่ำ� เท่าท่ีมีความสามารถ เน่ืองจากมะลาอิกะฮบ์ ริสทุ ธิ์ จากบรรดาความใครค่ วามกำ� หนดั ต่างๆ อน่ึง มนุษยน์ ัน้ มีสถานะเหนือกว่าสตั วเ์ ดรจั ฉาน เน่ืองจากความสามารถ ดา้ นการใชร้ ศั มีแห่งปัญญาในการยับยั้งความใคร่ความกำ� หนัด แต่ขณะเดียวกัน สถานะของมนุษยก์ ็ยังไม่ถึงระดับมะลาอิกะฮ์ เน่ืองจากมนุษยย์ ังมีอารมณ์ใฝ่ ต่ำ� คอยปรนเปรอ โดยท่ีมนุษยเ์ ป็นผูถ้ ูกทดสอบใหจ้ ำ� ตอ้ งต่อสูก้ ับมัน ดว้ ยเหตุนี้ เม่ือใด ท่ีพ่ายแพต้ ่ออารมณใ์ ฝ่ ต่ำ� มนุษยก์ ็จะถูกลดระดบั ไปอยู่ในตำ� แหน่ง อยู่ในตำ� แหน่ง ท่ีต่ำ� ทรามปะปนกับสัตว์เดรัจฉาน แต่เม่ือใดท่ีสามารถเอาชัยเหนืออารมณ์ใฝ่ ต่ำ� มนุษย์ก็จะถูกยกระดับไปอยู่ในตำ� แหน่งท่ีสูงส่งจนถึงระดับมะลาอิกะฮ์...”1 นอกจากนี้ ตามท่ีชยั ฏอนถกู พนั ธนาการ จำ� โซ่ จำ� ตรวน ในเดือนเราะมะฎอน นนั้ แลว้ เหตไุ ฉนเรายงั เหน็ ผคู้ นไดก้ ระทำ� การฝ่าฝืนตอ่ พระองคอ์ ลั ลอฮอ์ ีกเลา่ ? ก็เน่ืองจากบรรดาความช่วั ชา้ ต่ำ� ทรามทงั้ หลายทงั้ ปวงมิไดม้ าจาก ชยั ฏอน เพียงลำ� พงั ถ่ายเดียว ลางทีอาจเกิดจากมนุษยผ์ ูเ้ ป็นมิตรสหายท่ีไม่ดี หรือเกิดจาก อารมณใ์ ฝ่ ต่ำ� ของตวั มนษุ ยเ์ องไดเ้ ช่นกนั แต่ถึงกระนนั้ ก็มิอาจปฏิเสธไดว้ ่า ชยั ฏอนยงั สามารถส่งเสริมสนบั สนนุ ให้ มนษุ ยก์ ระทำ� ความเลวในเดือนเราะมะฎอนอนั จำ� เริญได้ เน่ืองจากบรรดาผฝู้ ่ าฝืนซ่งึ มีความสนิทสนมรกั ใคร่ชอบพอกับชัยฏอนเป็นอย่างมาก ไดม้ ีความวิริยอุตสาหะ เพียรพยายามโดยยุรยาตรไปยังชัยฏอนผู้เป็ นมิตรสหายอันแน่นแฟ้นของตน แมน้ ว่ามันจะถูกจองจำ� ไวก้ ็ตามที ประดจุ ดงั สนุ ขั ดทุ ่ีเจา้ ของไดล้ ่ามไว้ ต่อใหม้ นั จะถกู ตีตรวนจำ� ข่ือคา แต่ปาก มันยังสามารถส่งเสียงเห่าหอน ตัวมันยังสามารถเคล่ือนไหวเพ่ือให้มีเหตุอัน อาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้คนท่ีเข้าไปหามันได้ 1. อะบหู ามิด มหุ มั มดั อลั เฆาะซาลี อชั ชาฟิอี, “อหิ ย์ าอ์ อุลูมดิ ดนี ,” 10 เลม่ , (เจดดาห:์ ดาร อลั มินฮาจญ,์ ฮ.ศ. 1432 / ค.ศ. 2011), เลม่ 2: หนา้ 117. Daodeundome19 Page 8
อนง่ึ ชยั ฏอนไมอ่ าจมีอิทธิพลเหนือมนษุ ยผ์ ใู้ ดได้ เวน้ แตม่ นษุ ยผ์ นู้ นั้ มี จิตใจพรอ้ มท่ีจะกม้ หวั ลดตวั ลงไปนอ้ มรบั อิทธิพลจากชยั ฏอนโดยดษุ ณี แต่อีก โสดหน่ึง มนุษยผ์ ูถ้ ือศีลอดอย่างบริสุทธิ์ใจย่อมมีจิตวิญญาณพรอ้ มท่ีจะนอ้ ม รบั ความดีความประเสรฐิ กอปรกบั ปฏิเสธความช่วั ชา้ ต่ำ� ทราม ฉะนนั้ ชยั ฏอนจงึ ไมอ่ าจมีอิทธิพลเหนือมนษุ ยใ์ นทำ� นองหลงั ได้ “มสุ ลมิ จำ� ตอ้ งเป็นผทู้ ่ีหกั หา้ มอารมณค์ วามปรารถนาของตนอยตู่ ลอด เวลา แมบ้ างครงั้ เป็นความปรารถนาท่ีศาสนาอนมุ ตั กิ ็ตาม ทงั้ นี้ เพ่ือทำ� ตวั ใหว้ า่ ง เพ่ือกระทำ� การอิบาดะฮต์ ่อพระองคอ์ ลั ลอฮ์ และเพ่ือท่ีอารมณค์ วามปรารถนา ของตนไดโ้ นม้ เอียงมาสู่ความรกั ต่อพระองคอ์ ลั ลอฮ์ และเพ่ือเป็นการกระตุน้ ให้ตนเองเกิดความปรีดาปราโมทย์ท่ีจะสลัดความเลวทรามทิ้งไปจาก อารมณค์ วามปรารถนาของเขา แทท้ ่ีจริงอารมณค์ วามปรารถนานัน้ มกั รงั แต่ จะยยุ งบงการไปส่คู วามช่วั ชา้ สามานย์ และเรง่ เรา้ ไปส่คู วามเลวทรามต่ำ� ชา้ ”1 พระองคอ์ ลั ลอฮต์ รสั วา่ : “...แทจ้ รงิ อารมณน์ นั้ รงั แตจ่ ะบงการไปสคู่ วามช่วั ชา้ สามานย์ เวน้ แตผ่ ู้ ท่ีพระองคอ์ ลั ลอฮท์ รงเมตตาเขา...”2 1. มศุ เฏาะฟา อลั คนิ , มศุ เฏาะฟา อลั บฆุ อ และอะลี อชั ชรั บะญี, “อัลฟิ กฮ์ อัลมันฮะญี อะลา มัซฮับ อัลอมิ าม อัชชาฟิ อ,ี ” พิมพค์ รงั้ ท่ี 13, 3 เลม่ , (ดามสั กสั : ดาร อลั เกาะลมั , ฮ.ศ. 1433 / ค.ศ. 2012), เลม่ 1: หนา้ 363-364. 2. สเู ราะฮ์ ยสู ฟุ : อายะฮท์ ่ี 53. Daodeundome19 Page 9
“การดิน้ รนเพ่ือแสวงหาความสุขท่ีน่าอภิรมยใ์ นโลกดุนยานี้ รงั แต่จะเพ่ิมบทบาท ของอารมณใ์ หร้ อ้ นแรงย่ิงขึน้ มนษุ ยจ์ ะไม่สนใจว่าปัจจยั ท่ีตน ไดม้ าเพ่ือปรนเปรอความสขุ นนั้ หะลาลหรือหะรอม? และมนษุ ยก์ ็ย่ิงเตลิดไปตามอารมณค์ วามปรารถนาของตน อย่างยากท่ี จะสยบมนั ลงไดโ้ ดยละม่อม เวน้ แต่จะไดร้ บั การบ่มเพาะและขัดเกลาอยู่ภายในบรรยากาศ ท่ีตลบอบอวลไปดว้ ยกล่ินอายแห่งฏออะฮ์ และจงรกั ภกั ดีต่อพระองคอ์ ลั ลอฮ”์ 1 เขา้ สมู่ หตั ถสญั ญาอนั เป็นปัจฉิมภาค ทงั้ นี้ ปรากฏใจความสว่ นหนง่ึ ในตอนตน้ ของ หะดีษท่ีวา่ เมอื่ เดอื นเราะมะฎอนมาถงึ ประตูแหง่ สวนสวรรคถ์ ูกเบกิ ออก ทวา่ ประตูแหง่ ขมุ นรก ถูกผนึกลง... อย่างไรก็ดี มุสลิมท่วั ไปอาจจะเพ่งพินิจแต่เพียงความตอนตน้ นีเ้ ท่านัน้ ทงั้ ท่ี สารตั ถะแหง่ ประโยคไดก้ ระจายไปท่วั ตวั บท โดยสว่ นหนง่ึ ในตอนทา้ ยของหะดีษขา้ งตน้ ปรากฏ ความ ดงั ตอ่ ไปนี้ ทา่ นเราะสลู ลุ ลอฮ์ ﷺกลา่ ววา่ : “...โอผ้ แู้ สวงหาความเลว จงยตุ เิ ถิด !...”2 وكتب عمر ال خمتار ب ن� عمر ب ن� عث�ن ب ن� آدم النام كلية القانون ب ج�امعة ت�ماسات التايلاندية هـ١٤٤٠ من رمضان١٢ :ف ي� لي ةل ا جلمعة م٢٠١٩ من مايو١٦ :الموافق 1. มศุ เฏาะฟา อลั คนิ , มศุ เฏาะฟา อลั บฆุ อ และอะลี อชั ชรั บะญี, “อลั ฟิกฮ์ อลั มนั ฮะญี อะลา มซั ฮบั อลั อิมาม อชั ชาฟิอี,” พิมพค์ รงั้ ท่ี 13, 3 เลม่ , (ดามสั กสั : ดาร อลั เกาะลมั , ฮ.ศ. 1433 / ค.ศ. 2012), เลม่ 1: หนา้ 364. 2. หะดีษเศาะหีห้ ์ ลฆิ อ็ ยรฮิ ;์ มหุ มั มดั อิบนิอีสา อตั ตริ มิซี, “สนุ นั อตั ตริ มิซี,” 6 เลม่ , ชอุ ยั บ์ อลั อรั นะอฏู และคณะ (บรรณาธิการ), (ดามสั กสั : ดาร อรั รสิ าละฮ์ อลั อาละมียะฮ,์ ฮ.ศ. 1430 / ค.ศ. 2009), เลม่ 2: หนา้ 219, เลขท่ี 689; มหุ มั มดั อิบนิอีสา อตั ตริ มิซี, “สนุ นั อตั ตริ มิซี,” 6 เลม่ , ซบุ ยั ร์ อะลี ซะอี (บรรณาธิการ), (รยิ าด: ดาร อสั สะลาม, ค.ศ. 2007), เลม่ 2: หนา้ 133, เลขท่ี 682. Daodeundome19 Page 10
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: