Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การพัฒนาการกิจกรรมแบบมุ่งปฏิบัติงาน (Task-based activities) (1)

การพัฒนาการกิจกรรมแบบมุ่งปฏิบัติงาน (Task-based activities) (1)

Published by sanattakan8963, 2020-12-20 05:43:58

Description: การพัฒนาการกิจกรรมแบบมุ่งปฏิบัติงาน (Task-based activities) (1)

Search

Read the Text Version

การพฒั นาการกิจกรรมแบบมุง่ ปฏิบตั ิงาน (Task-based activities) เพอื สง่ เสรมิ การเขยี น ภาษาองั กฤษเชงิ สรา้ งสรรคส์ าหรบั นกั เรยี น ชนั มธั ยมศึกษาปที 3

บทคัดยอ่ งานวิจยั เรือง การพัฒนากิจกรรมแบบมุ่งปฏิบตั ิงาน (Task-based activities) เพือส่งเสริมการ เขียนภาษาอังกฤษเชิงสร้างสรรคส์ ําหรับนักเรียนชันมัธยมศึกษาปที 3 เครองมือทีใช้ได้แก่ มวี ตั ถุประสงค์เพ่ือ 1.พัฒนากจิ กรรมแบบมงุ่ ปฏบิ ัตงิ าน (Task-based activities) เพือส่งเสรมิ การเขียนภาษาอังกฤษ เชิงสร้างสรรคส์ ําหรบั นกั เรยี นชันมัธยมศึกษาปที 3 2.พัฒนาการเขยี นภาษาองั กฤษเชงิ สรา้ งสรรค์ 3.ศึกษาผลสัมฤทธิ ทางการเรียนภาษาองั กฤษ 4.ศึกษาความพึงพอใจตอ่ กจิ กรรมแบบมุ่งปฏบิ ัติงาน กลุ่มเปาหมายในการวจิ ัย คอื นักเรยี นชัน มธั ยมศึกษาปที 3 เคร่อื งมือท่ี ใชใ นการวิจยั ไดแ ก 1) แผนการจัดการเรียนรโู ดยใชกิจกรรมแบบมงุ ปฏิบตั งิ าน (Task-based activities) เพ่ือสง เสริมการเขยี น ภาษาอังกฤษเชิงสรางสรรค 2) แบบทดสอบการเขียนภาษาองั กฤษเชงิ สรา งสรรค 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ ทางการเรยี นภาษาอังกฤษ 4) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ัติงาน 5) แบบสอบถามความพึงพอใจ การวิเคราะหข อมลู ใชค าสถิติ รอยละ คาเฉล่ีย สว นเบี่ยงเบนมาตรฐานและคา สถติ ิ t-test

ความเปนมา และความสาํ คัญ

ภาษาถอื เป็นเคร่ืองมอื หลักทเี่ ราทุกคนใชในการส่ือสาร มันคือเคร่อื งมือท่เี ราใช ในการแบง ปันแนวความคดิ การแสดงความคิดเห็น การส่ือความหมายในเร่ือง ตา งๆกับคนอ่นื ในสงั คม ภาษาในโลกใบนี้มมี ากมายหลายพันภาษา ในบางประเทศ นอกจากจะมภี าษาราชการท่ใี ชก ันี้เป็นภาษาหลักแลว ยงั มีภาษาถ่ินแตกยอยออกไป อีกมากมาย บางภาษาก็มคี นพดู ไดน อย บางภาษากม็ ีคนพดู และเขา ใจกันอยา ง แพรห ลายแตท ัง้ นี้ทัง้ นัน้ วัตถุประสงคของการมีภาษาก็คอื เพ่ือเป็นเคร่ืองมือที่ชว ย ใหค นในสังคมสามารถส่อื สารไดอ ยางเขาใจและมปี ระสทิ ธิภาพ ซ่ึงจะเป็นตวั ขับ เคล่ือนใหสังคมกาวเดินตอไปขา งหน าไดภาษาถอื เป็นส่งิ ทจ่ี ําเป็นอยางมากตอ การ ดํารงชวี ิตของมนุษยโดยเฉพาะอยา งยง่ิ การดําเนินชวี ิตในศตวรรษท่ี 21 ทีก่ าร ทาํ งานในสงั คมขา มวฒั นธรรมเป็นส่งิ ท่จี ําเป็น

วัตถปุ ระสงคของการวิจยั 1. เพ่อื พฒั นากจิ กรรมแบบมงุ ปฏบิ ัตงิ าน (Task-based activities) เพ่ือสงเสรมิ การเขียน ภาษาองั กฤษเชงิ สรา งสรรคส าํ หรับนักเรียนชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 2.เพ่อื พัฒนาการเขยี นภาษาอังกฤษเชงิ สรางสรรคข องนักเรยี นชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 3 ท่เี รยี นดว ยกจิ กรรมแบบมงุ ปฏิบัตงิ าน (Task-based activities) เพ่อื สง เสรมิ การเขียนภาษาอังกฤษเชิง สรางสรรค 3.เพ่อื ศกึ ษาผลสมั ฤทธิทางการเรยี นภาษาองั กฤษของนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ท่เี รยี นดว ยกิจกรรมแบบมงุ ปฏบิ ัตงิ าน (Task-based activities) เพ่อื สง เสริมการเขยี นภาษาอังกฤษ เชงิ สรางสรรค 4.เพ่ือศกึ ษาความพึงพอใจของนักเรียนชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 ทมี่ ตี อกจิ กรรมแบบมงุ ปฏบิ ัตงิ าน(Task-based activities) เพ่ือสง เสรมิ การเขยี นภาษาอังกฤษเชงิ สรางสรรค

สมมตฐิ านของการวจิ ยั 1. กิจกรรมแบบมงุ ปฏบิ ตั งิ าน (Task-based activities) เพ่ือสง เสรมิ การ เขียนภาษาองั กฤษ เชิงสรางสรรค 2. นักเรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 ที่เรียนดว ยกจิ กรรมแบบมงุ ปฏบิ ัตงิ าน (Task-based activities) เพ่อื สง เสรมิ การเขยี นภาษาองั กฤษเชิงสรางสรรคม คี ะแนนการเขียนภาษา องั กฤษเชงิ สรางสรรคห ลังเรยี นสงู กวากอนเรียนอยา งมีนัยสําคัญ 3. นักเรยี นชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ที่เรียนดว ยกจิ กรรมแบบมุงปฏบิ ตั ิงาน (Task-based activities) เพ่อื สงเสริมการเขยี นภาษาอังกฤษเชงิ สรางสรรคม ผี ลสัมฤทธทิ างการเรยี น ภาษาอังกฤษไมต ่ํากวา รอ ยละ 70 ของคะแนนเตม็ 4. นักเรยี นชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ มีความพงึ พอใจตอ กิจกรรมแบบมงุ ปฏิบัติ งาน (Task-based activities) เพ่ือสง เสรมิ การเขียนภาษาองั กฤษเชงิ สรา งสรรคอ ยูในระดับ ดีมาก

เครอื งมอื ทใี ชใ้ น 1.แผนการจัดการเรียนรูโดยใชกจิ กรรม การวจิ ยั แบบมงุ ปฏิบัตงิ าน (Task-based activities) เพ่อื สง เสริมการเขียนภาษา อังกฤษเชงิ สรา งสรรค 2. แบบทดสอบการเขียนภาษาองั กฤษ เชิงสรา งสรรค 3. แบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธิทางการ เรียนภาษาองั กฤษ 4. แบบสังเกตพฤติกรรมการปฏบิ ัติงาน 5. แบบสอบถามความพงึ พอใจตอ กจิ กรรมแบบมงุ ปฏบิ ตั งิ าน (Task- based activities)เพ่อื สง เสริมการเขยี น ภาษาอังกฤษเชิงสรางสรรค R|R

1. ชแี้ จงใหนักเรยี นกลมุ ตัวอยางทราบเกย่ี วกบั การวจิ ัย การ 2. วัดความสามารถในการเขยี นภาษาอังกฤษเชิงสรางสรรคก อนเรยี น รวบ ของนักเรยี นชัน้ มธั ยมศกึ ษาปี ท่ี 3 แลว บันทกึ ผลการทดสอบเพ่ือใชใ น รวม การวิเคราะหข อ มลู ขอ้ 3. ดําเนินการสอนตามแผนการจดั การเรยี นรูโ ดยใชก ิจกรรมแบบมงุ มลู ปฏบิ ัติงาน (Task-based activities) เพ่ือสงเสริมการเขียนภาษาองั กฤษ เชิงสรางสรรค และสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏิบัตงิ านของนักเรียนใน แตละกจิ กรรม 4. วัดความสามารถในการเขียนภาษาองั กฤษเชิงสรางสรรคหลังเรียน ของนักเรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาปี ท่ี 3แลว บันทกึ ผลการทดสอบเพ่อื ใชใ น การวเิ คราะหขอ มลู 5. วดั ผลสัมฤทธทิ างการเรียนภาษาองั กฤษของนักเรยี นชัน้ มัธยมศึกษา ปีที่ 3 หลงั เรยี นแลว บนั ทึกผลการทดสอบเพ่ือใชใ นการวิเคราะหขอ มูล 6. นักเรียนทําแบบสอบถามความพงึ พอใจท่ีมีตอ กจิ กรรมแบบมงุ ปฏบิ ตั ิ งาน (Task-based activities) เพ่ือสง เสรมิ การเขยี นภาษาอังกฤษเชิง สรา งสรรค 7. เกบ็ รวบรวมขอมลู ทงั้ หมดเพ่ือนําผลที่ไดม าวเิ คราะหโดยวธิ ที ํางสถิติ

การ 1.วิเคราะหป ระสิทธภิ าพของกจิ กรรมแบบมุงปฏบิ ตั ิงาน วเิ คราะห์ (Task-based activities) เพ่อื สงเสรมิ การเขยี นภาษาองั กฤษ เชิงสรา งสรรคโดยใชค า เฉล่ยี รอยละ (Percentage) ขอ้ มลู 2. วิเคราะหการเขยี นภาษาองั กฤษเชิงสรา งสรรคกอนเรยี น และหลังเรียนโดยใชค ่าํ เฉล่ีย (Mean) คา รอ ยละ (Percentage) และการหาคาทางสถติ ิ (Paired t-test) 3.วิเคราะหผลสมั ฤทธิทางการเรยี นภาษาอังกฤษหลังการ ทดลองโดยวเิ คราะหคาเฉล่ยี (Mean) 4.วิเคราะหพฤตกิ รรมการปฏบิ ัติงานของนักเรยี นโดยวเิ คราะห คา เฉลยี (Mean) 5. วิเคราะหความพึงพอใจโดยวเิ คราะหค าเฉลี่ย (Mean) และ สว นเบยี งเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) 6. อภปิ รายผลโดยใชต ารางและการพรรณนา

สรปุ ผลการวิจัย 1. ผลการศกึ ษาประสทิ ธภิ าพของกจิ กรรมแบบมงุ ปฏิบัตงิ าน (Task- based activities) เพ่อื สง เสริมการเขยี นภาษาองั กฤษเชิงสรา งสรรค สําหรับนักเรียนชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 พบวา กิจกรรมมปี ระสทิ ธิภาพ เทากับ 80.37/84.38 2. ผลการพฒั นาการเขยี นภาษาองั กฤษเชงิ สรา งสรรคข องนักเรยี นชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 ทเ่ี รยี นดวยกิจกรรมแบบมุงปฏิบัติงาน (Task- based activities) พบวา

1) กอนเรยี น นักเรยี นมีคะแนนไมต่ํากวา รอ ยละ 70 ผานเกณฑจาํ นวน 29 คน คดิ เป็นรอยละ 28.12 .และมีนักเรยี นไมผา นเกณฑจํานวน 23 คน คิดเป็นรอยละ 71.87 หลังเรียนนักเรยี นมคี ะแนนไมต ่ํากวา รอยละ 70 ผา นเกณฑจ ํานวน 23 คน คดิ เป็นรอยละ 71.87และมีนักเรียนไมผ านเกณฑจ ํานวน 9 คน คิดเป็นรอยละ 28.12 และเม่ือทดสอบทางสถิติ Paired t-test พบวาความสามารถการเขยี นภาษาองั กฤษเชิงสรา งสรรคสูงกวา กอ นเรียน 2) นักเรยี นมพี ฤติกรรมการปฏิบตั ิงานภาพรวมอยูใ่ นระดบั ดี โดยมนี ักเรยี นทีมพี ฤติกรรมการปฏิบตั ิงานในระดบั ดีมาก จาํ นวน 3 คน คิดเปนรอ้ ยละ 9.37 ระดับดี จาํ นวน 19 คน คิดเปนรอ้ ยละ 59.38 และระดับพอใช จาํ นวน 10 คน คิดเป็นรอ ยละ 31.25 3. ผลการศกึ ษาผลสัมฤทธทิ างการเรยี นภาษาอังกฤษของนักเรียนชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที 3 ทีเรยี น ดวยกิจกรรมแบบมงุ ปฏบิ ัตงิ าน (Task-based activities) พบวา่ หลงั การเรียนดว ยกิจกรรมแบบมงุ ปฏบิ ัติงาน (Task-based activities) นักเรยี นมีคะแนนไมต ่ํากวา รอ ยละ 70 ผานเกณฑจ าํ นวน 20 คน คดิ เป็นรอยละ 67.5 และมนี ักเรียนไมผ านเกณฑจํานวน 12 คน คดิ เป็นรอยละ 37.5 4. ผลการศกึ ษาความพงึ พอใจของนักเรียนชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 ทมี่ ีตอ กจิ กรรมแบบมุง ปฏิบตั งิ าน (Task-based activities) เพ่ือสง เสรมิ การเขยี นภาษาองั กฤษเชงิ สรา งสรรคพ บวา ภาพรวมของ ความพึงพอใจอยใู นระดับดีมาก เม่อื พิจารณารายดานเรยี งลําดบั จากมากไปหาน อย คอื ดานครผู สู อน ดา นการจัดการเรียนรดู วยกจิ กรรมแบบมงุ ปฏบิ ตั ิงาน (Task-based activities) ดา นเน้ือหาดานประโยชนทไี่ ดรบั จากการเรียนรแู ละดานสือการเรยี นรู ตามลาํ ดบั

ขอคน พบในงานวิจยั 50 การจัดการเรยี นรแู บบมงุ ปฏิบัตงิ าน (Task-based learning) 40 เป็นวธิ กี ารจดั การเรยี นรทู ่ีเน นผูเรียนี้เป็นศนู ยก ลาง เปิดโอกาส 30 นักเรียนไดเ รียนรูผา นการปฏิบัตงิ าน โดยนักเรยี นจะไดท าํ กจิ กรรม 20 ตา ง ๆดว ยตนเองมากกวา การนัง่ ฟังครผู ูสอน ทําใหน ักเรียนไมเบ่ือ 10 หนายกับการเรยี นและกระตือรอื รนอยตู ลอดเวลาและในขนั้ Report หรือขัน้ นําเสนอนักเรยี นจะไดแสดงความคิดเห็นและใหข อ มลู ยอ น กลบั แกเ พ่อื นกลุมอ่นื ๆ ชว ยใหน ักเรียนสามารถมองเหน็ ขอ ดีขอ ดอ ย ของตนเอง และนําไปปรับปรุงใหด ีข้นึ ในครงั้ ตอ ไป R|R 0

Thank You.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook