Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยการเรียนรู้ที่ 1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1

Published by NITTIKA NUANHOM, 2019-09-03 02:04:52

Description: หน่วยการเรียนรู้ที่ 1

Search

Read the Text Version

ขั้นสอน ๓. นกั เรียนกลุม่ เดมิ เล่นเกม โดยกตกิ ามอี ยูว่ ่าใหน้ ักเรียนแต่ละกลุ่มแบ่งหน้าที่กันภายในกลุ่ม ซงึ่ จะประกอบด้วยคนยกมือ คนตอบคาถาม และคนหาคาตอบ ๔. นักเรียนร่วมกันศกึ ษาความรู้เร่ืองประวัติพทุ ธสาวก พทุ ธสาวิกา ชาดก ศาสนิกชนตัวอย่าง จากหนังสือเรียน หนังสือค้นคว้าเพ่ิมเติม จากนั้นให้นักเรียนยกมือตอบคาถาม โดยครูจะให้ สัญญาณในการยกมือตอบคาถามเพ่ือแลกกับคะแนน ขัน้ สรุป ๕. นักเรียนช่วยกันสรุปเรื่องพระพุทธศาสนาเน้นการฝึกหัดอบรมตนและประวัติพุทธสาวก พทุ ธสาวิกา ชาดก ศาสนิกชนตวั อย่าง ลงในแบบบันทึกการอ่าน ๖. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามในประเด็นที่นักเรียนสงสยั หรือไม่เขา้ ใจ ๘. สอื่ การเรียนการสอน / แหล่งเรยี นรู้ ๘.๑ สือ่ การเรียนการสอน ๑) หนังสือเรยี น พระพุทธศาสนา ม.๕ ๒) หนังสอื ค้นคว้าเพมิ่ เติม ๓) กรณศี ึกษา ๙. การวดั ผลและประเมินผล วธิ ีการ เครอ่ื งมอื เกณฑ์ ตรวจแบบบันทึกการอ่าน การตอบคาถามของแตล่ ะกล่มุ แบบบันทึกการอ่าน ระดับคุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม คะแนนการตอบคาถามของแต่ละ ประเมินตามสภาพจริง สังเกตความสามารถในการใช้ กลุม่ ทักษะชวี ติ สังเกตความมวี ินยั ใฝุเรยี นรู้ และ แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม ระดับคุณภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ มุง่ ม่ันในการทางาน แบบประเมินสมรรถนะสาคัญของ ระดบั คุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ นักเรียน แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึง ระดบั คณุ ภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ ประสงค์

๑๐. จดุ เนน้ ของโรงเรยี น การบูรณาการปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงและกิจกรรมสวนพฤกษศาสตร์ โรงเรยี นปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ปรชั ญาเศรษฐกจิ ครู ผ้เู รยี น พอเพียง พอดดี ้านเทคโนโลยี พอดีดา้ นจิตใจ ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล รู้จกั ใชเ้ ทคโนโลยีมาผลติ ส่ือที่ มี จิ ต ส า นึ ก ท่ี ดี เ อื้ อ อ า ท ร มภี ูมคิ มุ้ กันในตวั ทดี่ ี เหมาะสมและสอดคล้องเน้อื หาเปน็ ประนีประนอม นึกถึงประโยชน์ เงอื่ นไขความรู้ ประโยชน์ต่อผเู้ รยี นและพฒั นาจากภมู ิ ส่วนรวม/กล่มุ เง่อื นไขคณุ ธรรม ปญั ญาของผูเ้ รียน - ยดึ ถอื การประกอบอาชีพด้วยความ ไม่หยุดน่ิงที่หาหนทางในชีวิต ถูกต้อง สุจริต แม้จะตกอยู่ในภาวะขาด หลุดพ้นจากความทุกข์ยาก (การ แคลน ในการดารงชวี ติ ค้นหาคาตอบเพื่อให้หลุดพ้นจาก - ปฏิบัติตนในแนวทางที่ดี ลด เลิก ความไม่ร)ู้ สิง่ ยัว่ กเิ ลสให้หมดสิ้นไป ไม่ก่อความช่ัวให้ เป็นเครื่องทาลายตัวเอง ทาลายผู้อื่น พยายามเพิ่มพูนรักษาความดี ท่ีมีอยู่ให้ งอกงามสมบูรณย์ ่ิงขึ้น ภมู ปิ ัญญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ ภมู ิปัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ระมัดระวัง ระมัดระวงั สรา้ งสรรค์ ภูมิธรรม : ซอ่ื สตั ย์ สุจรติ ขยันอดทน ภูมิธรรม : ซ่ือสัตย์ สุจริต ขยัน ตรงตอ่ เวลาและแบ่งปนั อดทน ตรงต่อเวลา เสียสละและ แบ่งปัน ความรอบรู้ เร่ืองพระรัตนตรัยท่ี ความรอบรู้ เร่ืองพระรัตนตรัย เกี่ยวข้องรอบด้าน ความรอบคอบที่จะนา กรณีที่เกิดงาน ปริมาณท่ีเกี่ยวข้อง ความร้เู หลา่ นนั้ มาพจิ ารณาให้เชื่อมโยงกัน การคานวณสูตรที่ต้องใช้ สามารถนา เพอื่ ประกอบการวางแผน การดาเนินการ คว ามรู้ เหล่านั้น มาพิ จาร ณาให้ จัดกจิ กรรมการเรยี นร้ใู หก้ บั ผเู้ รยี น เช่ือมโยงกัน สามารถประยุกต์ใช้ใน ชวี ิตประจาวัน มีความตระหนักใน คุณธรรม มคี วาม มีความตระหนักในคุณธรรม มี ซือ่ สัตยส์ จุ ริตและมีความอดทน มคี วาม ความซ่อื สัตยส์ ุจรติ และมีความอดทน เพียร ใช้สตปิ ัญญาในการดาเนนิ ชวี ติ มีความเพียร ใช้สติปัญญาในการ ดาเนินชีวิต

กจิ กรรม ครู ผู้เรียน สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น ตน้ ไม้ท่ีพระพทุ ธเจา้ ประสตู ิ ต้นไม้ท่ีพระพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ ต้นไมท้ ่ีพระพุทธเจา้ ประสูติ ตรัสรู้ ปรนิ ิพพาน ตรสั รู้ ปรินพิ พาน ปรินพิ พาน - ประวัตแิ ละความเป็นมาของ - อธิบายชนิดของต้นไม้ - ร ะ บุ ช นิ ด ข อ ง ต้ น ไ ม้ แ ล ะ ตน้ ไมท้ ่ีพระพทุ ธเจ้าทรง ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพาน และประวัติความเป็นมา ประวตั ิความเปน็ มาของต้นไม้ ของต้นไม้ที่พระพุทธเจ้า ท่ีพระพุทธเจ้าทรงประสูติ ทรงประสูติ ตรัสรู้ และ ตรสั รู้ และปรินิพาน ปรินิพาน

๑๑. ขอ้ เสนอแนะ □ ใช้สอนได้ □ ควรปรบั ปรงุ ......................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ความคดิ เหน็ อืน่ ๆ ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ลงช่ือ………..………….......………….……… (นายนกิ ร ไชยบตุ ร) ครพู ี่เล้ยี ง วันท.ี่ .......เดอื น....................พ.ศ. ๒๕๖๒

๑๒. บนั ทกึ หลังการจัดการเรียนรู้ ๑๒.๑) ผลท่เี กิดขนึ้ กบั นกั เรยี น ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๕ ด้านความรู้ จานวนนกั เรียนที่ผา่ นเกณฑ์......................คน คิดเป็นรอ้ ยละ................... จานวนนักเรยี นที่ไมผ่ ่านเกณฑ.์ .................คน คิดเป็นร้อยละ................... ด้านทกั ษะกระบวนการ จานวนนกั เรียนทผี่ า่ นเกณฑ.์ .....................คน คดิ เป็นร้อยละ................... จานวนนกั เรยี นที่ไมผ่ ่านเกณฑ์..................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ................... ดา้ นคุณลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ จานวนนักเรียนทผี่ ่านเกณฑ.์ .....................คน คดิ เปน็ ร้อยละ................... จานวนนักเรียนทไ่ี ม่ผา่ นเกณฑ์..................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ................... ดา้ นสมรรถนะผู้เรยี น จานวนนกั เรยี นที่ผา่ นเกณฑ.์ .....................คน คดิ เปน็ ร้อยละ................... จานวนนกั เรียนที่ไม่ผา่ นเกณฑ.์ .................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ................... ๑๒.๒) ปญั หาและอปุ สรรค ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ๑๒.๓) แนวทางการแก้ปญั หา ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ (ลงช่ือ)……………………………….…………… (นางสาวณฐั ธกิ า นวลหอม) ผสู้ อน วนั ที.่ .......เดอื น....................พ.ศ. ๒๕๖๒

๑๓. ความเห็นของหัวหน้ากลุม่ สาระ/สายชั้น ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ (ลงชื่อ)……………………………….…………… (นายนิกร ไชยบุตร) หัวหน้ากลุ่มสาระ/สายชั้น วันที่........เดอื น....................พ.ศ. ๒๕๖๒ ๑๔. ความเห็นของฝาุ ยวชิ าการ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ (ลงชื่อ)……………………………….…………… (นางสาวรตั ตกิ าล ยศสุข) หัวหนา้ ฝุายวชิ าการ วันที.่ .......เดือน....................พ.ศ. ๒๕๖๒ ๑๕. ความเหน็ ของผู้อานวยการโรงเรียน ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ (ลงชอ่ื )……………………………….…………… (นางวิลาวลั ย์ ปาลี) ผอู้ านวยการโรงเรยี น วนั ท.่ี .......เดือน....................พ.ศ. ๒๕๖๒

กรณตี ัวอย่าง คาชีแ้ จง ให้นักเรยี นอ่านกรณศี ึกษา แล้วตอบคาถาม กรณีศึกษาท่ี ๑ กบเป็นลูกคนโตของพ่อแม่ในจานวนลกู 3 คน พอ่ แมข่ องกบมอี าชีพรบั จา้ งจงึ มฐี านะคอ่ นขา้ งยากจน กบต้องช่วยพ่อแมท่ างานบา้ น เมือ่ กลับจากโรงเรยี น วนั หยุดก็ชว่ ยแมซ่ กั ผ้า รีดผ้า แมบ่ อกกับกบว่า กบเป็นพี่ คนโตควรจะช่วยแบง่ เบาภาระงานบ้านของแม่บ้างเพราะแม่กลับจากทางานนอกบ้านก็เหนื่อยแล้ว เม่ือว่าง จากงานบ้านกบจะรีบทาการบ้านตามท่ีครูส่ังและอ่านหนังสือทบทวนความรู้ที่ได้เรียนไป โดยไม่ต้องมีใคร เตอื น กบเปน็ เด็กที่มีความมุ่งมั่นในการเรียน เม่ือสงสัยวิชาที่เรียนในเร่ืองใดก็จะขอคาแนะนาจากครูและ เพื่อนท่ีเรยี นเก่ง ถึงแมว้ า่ พ่อและแมจ่ ะทางานหนัก แตก่ ห็ า เวลาพากบไปทาบญุ และฟังธรรมะที่วัด ซึ่งกบ จะนาข้อคิดท่ีได้มาใช้ในการปฏิบัติตนเสมอ กบสามารถปฏิบัติตามหลัก เบญจศีล-เบญจธรรม ส่งผลให้กบ เปน็ ผทู้ ่ีเพอื่ นให้ความไวว้ างใจในความเปน็ คนซ่ือสัตย์ พูดแต่ความจริง และเมื่อทางโรงเรียนมีการตรวจสอบ หานักเรียนทีเ่ สพยาเสพตดิ คุณครูประจาช้ันกใ็ ห้คารบั รองในความประพฤตขิ องกบ กรณีศึกษาที่ ๒ ศรันย์เรียนจบการศกึ ษาระดบั ปรญิ ญาตรีตามท่ีเขาตงั้ ใจ และเป็นไปตามความมุ่งหวังของพ่อแม่ เขา เป็นพี่คนโตจึงเป็นแบบอย่างที่ดี ท่ีทาให้น้องทุกคนเอาอย่าง ศรันย์ทางานมีรายได้พอเล้ียงตนเองและ ชว่ ยเหลอื ทางบา้ นตามสมควร เขาเปน็ คนที่มคี วามเพยี รพยายามทางาน มผี ลงานออกมาเป็นท่ีประจักษ์จึงได้ เล่อื นตาแหนง่ สูงข้นึ จนกระท่ังได้เปน็ หวั หน้าแผนก การทศ่ี รันย์เป็นหัวหน้าที่มีลูกน้องจานวนมาก ทาให้เขา ต้องวางตนอย่างเหมาะสมกบั ทกุ คนเพื่อไม่ให้เกิดความลาเอียง ถึงแม้ว่าลูกน้องบางคนจะชอบพูดจายกย่อง เขา แต่เขาไม่ไดห้ ลงไปกบั คาเยินยอ บางคร้ังจะมบี างคนที่ไมช่ อบเขาท่ีเด่นกวา่ แล้วแกล้งพูดจาใส่ร้ายเขา เขา ก็ไม่ถือโกรธ ให้ผลการทางานเป็นเคร่ืองพิสูจน์ความจริง มีบริษัทหลายแห่งมาชวนเขาไปทางานโดยให้ เงินเดือนสูงกว่า เขาก็ปฏิเสธ เพราะเขาคิดว่าการที่เขาประสบความสาเร็จ ความก้าวหน้าในการงานและมี ฐานะม่ันคงนั้น ก็เพราะเขามีความพอเพียงต่อการดารงชีวิต เขาไม่หวังในทรัพย์สินเงินทางจานวนมากที่ บริษัทอื่นมายื่นข้อเสนอให้ เพราะเขามีความสุขกับการทางาน ท้ังน้ีเน่ืองจากเขาศึกษาหลักธรรมทาง

คาถามชว่ั โมงที่ ๑ เร่ือง พระพุทธศาสนาเนน้ การฝึกหัดอบรมตน คาชี้แจง ให้นักเรียนยกมือตอบคาถาม โดยครูจะใหส้ ญั ญาณในการยกมอื ตอบคาถามเพือ่ แลกกบั คะแนน ๑. พระพทุ ธศาสนามีความสาคญั ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตอยา่ งไร ๑. มหี ลักในการพัฒนาตนใหก้ ้าวหนา้ ดว้ ยคุณความดี ๒. มหี ลกั ในการฝึกพัฒนาจิตใจ ฯลฯ ๒. นักเรียนสามารถนาหลักของพระพุทธศาสนาท่ีเน้นการฝึกหัดอบรมตนและการพึ่งพาตนเองไปปฏิบัติ อย่างไร พิจารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยูใ่ นดุลยพนิ ิจของครูผูส้ อน ๓. กบมกี ารกระทาทแี่ สดงว่าไดฝ้ ึกหดั อบรมตน และพงึ่ พาตนอยา่ งไรบา้ ง จงยกตัวอยา่ ง กบช่วยพ่อแม่ทางานบา้ น รบี ทาการบ้าน ม่งุ มน่ั ในการเรียน ถา้ สงสัยวชิ าท่ีเรียนก็ขอคาแนะนาจากครู และเพอื่ นท่ีเก่ง ๔. การกระทาของกบจดั ว่า เปน็ การฝึกฝนตนเองหรอื พฒั นาตนเองในระดับใด จงอธิบาย ระดับกัลยาณปถุ ุชน คอื มีศีล ๕ ธรรม ๕ เกอื บถงึ ขน้ั สมบรู ณ์ ๕. นักเรยี นสามารถประพฤติตนในการฝึกตนหรือพัฒนาตนเองตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนาในระดับ ใด จงยกตัวอย่างประกอบ พิจารณาตามคาตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพินจิ ของครูผ้สู อน ๖. การปฏิบตั ิตนของศรันย์สอดคลอ้ งกบั การมุ่งสอู่ ิสรภาพตามหลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนาอยา่ งไร ศรนั ย์มีเป้าหมายของชีวิตอย่างเหมาะสม คือ การเล่าเรียนจนจบปริญญา ทางานมาเพื่อเล้ียงตนเอง และครอบครวั มชี ีวติ อยา่ งพอเพียง มกี ารฝึกอบรมตนเองให้พ้นจากความโลภ เช่น ถึงแม้จะมีบริษัทอ่ืน มาเสนอใหเ้ งนิ เดือนสูงกว่าที่เดิมก็ไม่ไป เพราะสานกึ ในบญุ คณุ ของทที่ างานแหง่ แรก ซงึ่ เป็นสถาบันท่ีทา ให้เขามีการงานท่ีมั่นคง เขาสามารถฝึกฝนตนเอง ไม่ให้มีความหลงในคาสรรเสริญเยินยอจากลูกน้อง เขาไม่มคี วามโกรธคนท่ชี อบพดู จาใสร่ า้ ยเขา 7. นักเรยี นสามารถปฏิบัติตนตามหลกั ธรรมของพระพุทธศาสนา ซึ่งเปน็ เส้นทางอันจะนาไปสู่อิสรภาพอย่างไร จงยกตวั อยา่ งประกอบ พิจารณาตามคาตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ย่ใู นดลุ ยพนิ จิ ของครูผู้สอน

คาถามช่วั โมงที่ 2 เรื่อง ประวตั ิพุทธสาวก พุทธสาวิกา ชาดก ศาสนิกชนตวั อย่าง คาชี้แจง ให้นกั เรยี นยกมอื ตอบคาถาม โดยครจู ะให้สัญญาณในการยกมอื ตอบคาถามเพื่อแลกกบั คะแนน 1. เพราะเหตใุ ด เจ้าชายอนรุ ุทธะจึงตัดสินใจบวช ได้ข้อคิดจากพระเชษฐา จึงนามาเปรียบเทียบระหว่างชีวิตการครองเรือนซึ่งมีกิจที่ต้องทามากกว่า การบวช 2. เพราะเหตุใด พระอนรุ ทุ ธะสามารถปฏิบตั มิ หาปรสิ วิตกขอ้ ที่ 8 ได้ ได้รบั คาแนะนาจากพระพทุ ธองค์จึงเข้าใจ 3. เพราะเหตุใด พระอนรุ ทุ ธะจึงมีความเชี่ยวชาญเรือ่ ง ทิพพจกั ขุ เพราะท่านชอบเจริญอาโลกกสิณ เพ่งแสงสว่างเป็นประจา 4. พระอนรุ ทุ ธะมีสว่ นสาคัญในการทาปฐมสังคายนาอย่างไร ได้เข้าร่วมเป็นพระสงั คีติกาจารย์องค์หนึง่ 5. คุณธรรมที่ควรถอื เป็นแบบอย่างของพระอนรุ ุทธะ คืออะไร 1) มีความพากเพียร 2) เปน็ ผสู้ ารวมระวงั ย่งิ 3) เปน็ หลักแห่งพระธรรมวินยั 6. เพราะเหตุใด องคุลิมาลจึงเปน็ ที่รกั ของอาจารย์ทิศาปาโมกข์ เพราะเป็นผทู้ ีต่ ้ังใจเรียน ว่านอนสอนง่าย ประพฤติดีเรยี นเก่ง 7. เพราะเหตุใด องคุลิมาลจึงฆ่าคนแล้วเอานวิ้ มือมารอ้ ยเป็นพวงแขวนคอไว้ เพราะเชื่อฟังอาจารย์ทีไ่ ม่หวงั ดี เนือ่ งจากอาจารย์ถูกยุยงจากศิษย์อืน่ ทีอ่ ิจฉาองคลุ มิ าล 8. พระพุทธองค์ตรัสตอบองคลุ ิมาลว่า “เราหยดุ แล้ว แตเ่ ธอยังไมห่ ยุด” หมายความว่าอย่างไร พระพทุ ธเจ้าหยดุ ทาบาป แตอ่ งคลุ ิมาลยงั ไมห่ ยดุ 9. เพราะเหตใุ ด ประชาชนจึงไม่ใสบ่ าตรและทาร้ายพระองคลุ ิมาลในระยะแรกของการบวช เพราะประชาชนเกลียดและไม่ชอบพฤติกรรมอันโหดร้ายของพระองคุลิมาล เมื่อคร้ังยังไม่บวช และ ฆ่าคนเปน็ จานวนมากเพอ่ื เอานิว้ 10. พระองคุลิมาลได้รับการสรรเสริญว่า ต้นคดปลายตรง หมายความว่าอย่างไร ประพฤติตนพลาดพลงั้ ไปในระยะต้น แตต่ ่อมากลบั ตัวเป็นพระสาวกทีด่ ี 11. คณุ ธรรมอันเป็นแบบอย่างของพระองคลุ ิมาล ได้แก่อะไรบ้าง 1) มีขนั ติธรรมอย่างยิ่ง 2) มีสัมมาคารวะอย่างยิง่ 3) เปน็ บุคคลประเภทตน้ คดปลายตรง 4) เปน็ ผมู้ ีเมตตากรณุ ามาก

12. พระธมั มทินนาเถรีมวี ิธีการปฏิบตั อิ ย่างไร จึงสามารถบรรลุเปน็ พระอรหนั ต์ พระภิกษณุ ีธัมมทินนาได้ติดตามพวกภิกษณุ ีไปยงั ชนบทต่างๆ บาเพ็ญเพียรทางจิตจนบรรลุเป็นพระ อรหนั ต์ 13. พระภิกษุณีธัมมทินนาเถรีได้รับการยกย่องจากพระพุทธองค์ว่าเป็นเอตทัคคะในด้านใด ยกตัวอย่างประกอบ ดา้ นแสดงธรรม (เปน็ พระธรรมกถกึ ) ตัวอย่างเช่น การตอบปัญหาธรรมของวิสาขะเศรษฐีได้อย่าง ถูกต้อง ชัดเจนทกุ เรือ่ งทุกประเดน็ 14. พระภิกษณุ ีธัมมทินนาเถรีมคี ณุ ธรรมอนั เปน็ แบบอย่าง อย่างไรบ้าง 1) มีปัญญาและใช้ปัญญาแก้ปญั หาชีวิต 2) ใฝคุ วามรแู้ ละความก้าวหน้าในความดี 15. จิตตคหบดมี ีการกระทาอย่างไรทีแ่ สดงว่าเปน็ ผมู้ ีใจบญุ 1) นิมนต์ท่านมหานามะไปฉันภตั ตาหารที่คฤหาสน์เป็นประจา และสร้างทีพ่ านกั ชื่อ อัมพาฏการาม ให้ท่านอยู่ เป็นประจา 2) ถวายทานอยา่ งประณีตมโหฬารติดต่อกันจานวนมาก 16. เพราะเหตุใด จิตตคหบดจี ึงไดร้ ับการยกย่องเป็นเอตทคั คะเปน็ เลศิ กว่าผู้อืน่ ในทางธรรมกถกึ เพราะท่านมีปฏิภาณเฉียบแหลมและมีความสามารถในการแสดงธรรมมาก 17. คณุ ธรรมที่ควรถอื เป็นแบบอย่างของจิตตคหบดี คืออะไร 1) เป็นคนใจบญุ สนุ ทาน 2) เคารพพระสงฆ์มาก 3) เปน็ คนเก่งและคนดี 18. สมเดจ็ พระนารายณ์มหาราชมีผลงานสาคัญทางดา้ นพระพทุ ธศาสนาคืออะไรบ้าง 1) ทรงสนับสนุนพระเถรานุเถระให้รอบรู้แตกฉานในพระไตรปิฎกและพระคัมภีร์ทาง พระพทุ ธศาสนา 2) ทรงศึกษาพระธรรมวินยั และหารือข้อธรรมะเกี่ยวกบั ข้อปฏิบัติทางพระพุทธศาสนาอยู่เสมอ 3) ทรงสนบั สนุนกวีให้แต่งหนังสือเกี่ยวกบั พระพทุ ธศาสนา 19. สมเดจ็ พระนารายณ์มหาราชมีคณุ ธรรมอันเปน็ แบบอย่างไดแ้ ก่อะไรบ้าง 1) ทรงมนั่ คงในพระรัตนตรยั และพระพทุ ธศาสนา 2) ทรงมปี ฏิภาณเปน็ เลศิ ในการแก้ปัญหา 3) ทรงมพี ระปรชี าและเมตตากรณุ าอย่างยิ่ง 4) ทรงสนบั สนนุ แก่พระเถระให้ศึกษารอบรแู้ ตกฉานในพระไตรปิฎก 20. พระธรรมโกศาจารย์ (พทุ ธทาสภิกข)ุ มีผลงานสาคญั ทางดา้ นพระพทุ ธศาสนาคืออะไรบ้าง 1) สร้างสวนโมกขพลารามเปน็ แดนธรรมของโลก 2) เผยแผ่พระพุทธศาสนาแก่ชาวต่างชาติ

3) เผยแผ่ธรรมะในสวนโมกข์ 4) จัดตั้งธรรมทานมลู นิธแิ ละโรงเรียนพุทธนคิ ม 5) จัดทาหนังสือธรรมะทั้งร้อยแก้วร้อยกรองจานวนมาก 21. พระธรรมโกศาจารย์ (พทุ ธทาสภกิ ขุ) มีคุณธรรมอันเปน็ แบบอย่างไดแ้ ก่อะไรบ้าง 1) มีนิสยั ในการฝึกฝนอบรมด้วยตนเองตลอดมา 2) เป็นนกั คิดผู้ยิ่งใหญ่ ท่านมีวีธคี ิดเพือ่ สอนธรรมะได้อยา่ งวิเศษ 3) เปน็ นักปฏิรปู และปฏิบัติพระศาสนา 22. พระพรหมมงั คลาจารย์ (ปญั ญานันทภิกข)ุ มีผลงานสาคญั ทางดา้ นพระพทุ ธศาสนาคืออะไรบ้าง 1) ได้รบั การคัดเลอื กให้เป็นบคุ คลผู้ทาประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาจากศาสนา 2) ประกาศคาสอนที่แท้จริงของพระพทุ ธศาสนา 3) เปลย่ี นแปลงรปู แบบการเทศน์จากการนง่ั บนธรรมาสน์มาเป็นการแสดงปาฐกถา โดยยืน เทศน์และใช้ถอ้ ยคาง่าย เพือ่ สร้างความเข้าใจแก่ประชาชน 4) เขียนบทความธรรมะลงหนังสือพิมพ์เป็นประจา และมีหนังสือธรรมะจากการแสดงธรรมเป็น จานวนมาก 5) เผยแผพ่ ระธรรมคาสอนในต่างประเทศ และเป็นเจ้าอาวาสวดั พุทธธรรม 23. พระพรหมมังคลาจารย์ (ปัญญานันทภิกข)ุ มีคุณธรรมอันเปน็ แบบอย่างไดแ้ ก่อะไรบ้าง 1) เป็นธรรมกถึกเอก พูดจูงใจคนได้อย่างยอดเยี่ยมอธิบายธรรมะด้วยภาษาง่ายๆ ทาให้คนชั่ว เข้าใจ 2) เป็นพุทธสาวกที่ดี เป็นพระที่เรียบง่าย ไม่ติดยศศักด์ิ มีศีลาจารวัตรงดงาม ไม่ด่างพร้อย อุทิศ ชีวิตเพือ่ สั่งสอนประชาชนตั้งแต่วยั หนุ่มถงึ วยั ชรา 3) เป็นนักปฏิรูปการพระศาสนา ปรับเปล่ียนวิธีการเทศน์มาเป็นแบบยืนปาฐกถาหรือยืนบรรยาย ปฏิรปู พิธกี รรมทางศาสนา เช่น พิธเี ผาศพให้มีการสวด พระอภิธรรมเพียงจบเดียว มีการฟังเทศน์ในพิธี ก่อนเผาศพ 24. ดร.เอ็มเบดการ์ มีผลงานสาคญั ทางดา้ นพระพทุ ธศาสนาคืออะไรบ้าง 1) ฟื้นฟูพระพทุ ธศาสนาในประเทศอินเดยี โดยเฉพาะในหมู่ชนช้ันต่า ทาให้ มี ศู ท ร แ ล ะ ค น จัณฑาลจานวนมากทิง้ ศาสนาฮินดูมานบั ถือพระพุทธศาสนา 2) สนบั สนุนให้เกิดวิทยาลัยสิทธัตถะรับนักศึกษาทุกช้ันวรรณะอย่างเสมอภาคกัน เป็นวิทยาลัยใน เครอื ของมหาวิทยาลัยบอมเบย์ 3) แต่งหนังสือหลายเล่ม เช่น พุทธธรรม ลักษณะพิเศษของพระพุทธศาสนา การยอมรับนับถือ พระพุทธศาสนา พระพทุ ธเจ้าและศาสนาของพระองค์ในอนาคต

25. ดร.เอม็ เบดการ์ มีคณุ ธรรมอนั เป็นแบบอย่างไดแ้ ก่อะไรบ้าง 1) เป็นผู้มีความอดทนอย่างยิ่ง เขาเกิดในวรรณะศูทร เป็นวรรณะต่าต้อย ถูกคนวรรณะสูงดูถูก ต้องอดทนต่อความเจบ็ ใจ ทุกขเวทนา เพื่ออนาคตอันสดใสในวันขา้ งหน้า 2) เป็นผู้ใฝุการศึกษาอย่างยิ่งต้ังแต่ยังเด็ก เป็นผู้ใฝุรู้ชอบอ่านหนังสือและตาราทุกชนิด แสวงหา ความรจู้ ากบคุ คลที่จะสั่งสอนเขาไดแ้ ละเปน็ แบบอย่างแก่เขา จนกระทั่งมีความรู้หลายสาขา และได้รับ การยอมรับดา้ นกฎหมาย และไดเ้ ป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยตุ ิธรรม 3) เป็นผู้มีปณิธานแน่วแน่ ปณิธานของเขาคือต้องต่อสู้เพื่อความเสมอภาคแห่งความเป็นมนุษย์ จนกระทัง่ เขาดาเนนิ ตามปณิธานจนสาเรจ็ 4) เปน็ ชาวพทุ ธตัวอย่าง เป็นชาวพุทธที่มีความม่ันคงในพระพุทธศาสนา และนาหลักธรรมมาปฏิบัติ จนเกิดผลเปน็ รูปธรรมทีย่ ึดถอื เปน็ แบบอย่าง

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๔ กล่มุ สาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๕ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๑ พระรัตนตรัย เรอ่ื ง คุณคา่ และความสาคัญของหลักธรรม ภาคเรียนท่ี ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๒ เวลาเรยี น ๒ ช่วั โมง/สปั ดาห์ หนว่ ยกิต ๑ (นน./นก.) ผู้สอน นางสาวณัฐธิกา นวลหอม โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ เวลา ๒ ชวั่ โมง ๑. สาระสาคญั คุณคา่ และความสาคัญของหลักธรรมทางพระพทุ ธศาสนาในกรอบอรยิ สัจ 4 เปน็ หลักสาคัญท่ี ผ้ปู ฏบิ ัติตามย่อมดาเนินชีวิตไปในทางทถี่ กู ต้อง สง่ ผลต่อการอยู่ร่วมกนั อย่างสนั ตสิ ุขและการอยู่ร่วมกัน เปน็ ชาติอยา่ งสมานฉนั ท์ รวมไปถงึ คา่ นิยมและจรยิ ธรรมทมี่ อี ิทธพิ ลตอ่ ความเจริญหรือความเส่ือมของ สงั คม ๒. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ัดชั้นป/ี ผลการเรียนร/ู้ เปูาหมายการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ ส ๑.๑ ร้แู ละเข้าใจประวัติ ความสาคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ ตนนับถือและศาสนาอนื่ มีศรัทธาที่ถูกต้อง ยึดมั่นและปฏิบัติตามหลักธรรม เพื่อการอยู่รวมกันอย่าง สนั ตสิ ุข ตวั ชว้ี ดั ช้นั ปี/ผลการเรียนรู้ ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๓ วิเคราะห์หลักธรรมในกรอบอริยสัจ 4 หรือหลักคาสอนของศาสนาที่ตน นับถอื ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๘ ตระหนกั ในคณุ คา่ และความสาคญั ของคา่ นยิ ม จรยิ ธรรมท่ีเป็นตัวกาหนด ความเชื่อและพฤติกรรมทแ่ี ตกตา่ งกนั ของศาสนกิ ชนศาสนาตา่ งๆ เพอ่ื ขจดั ความขดั แย้งและอยู่ร่วมกัน ในสงั คมอย่างสนั ติ ๓. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๓.๑ ดา้ นความรู้ : Knowledge - อธิบายความหมาย และความสาคญั ของหลักธรรมอริยสจั ๔ ได้ - บอกคุณคา่ และความสาคญั ของค่านิยมและจริยธรรมได้ ๓.๒ ด้านทักษะ/กระบวนการ : Process มที กั ษะกระบวนการแกไ้ ขปัญหา

๓.๓ ด้านคณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ : Attitude มคี วามสนใจใฝเุ รียนรู้ และมีทัศนคติทีด่ ตี ่อการศึกษารายวชิ าสังคมศกึ ษา ศาสนาและ วฒั นธรรม ๔. สมรรถนะสาคญั ของนกั เรยี น - กระบวนการกลมุ่ - ความสามารถในการแกป้ ัญหา ๕. คุณลักษณะของวิชา - ความรบั ผิดชอบ - ความรอบคอบ ๖. ชน้ิ งาน/ภาระงาน ๖.๑ ชนิ้ งาน ๑) แบบบนั ทึกความรู้ ๖.๒ ภาระงาน ๑) นักเรียนทากจิ กรรมกลุ่ม ๒) นกั เรยี นสมั มนาร่วมกัน ๗. กิจกรรมการเรียนรู้ ข้ันนาเข้าสู่บทเรยี น ๑. ครสู นทนากับนกั เรยี นเพือ่ เป็นการทบทวนความรู้เดิม โดยถามนักเรียนว่าอริยสัจ ๔ มีอะไรบ้าง แลว้ นักเรียนนาหลกั ธรรมอรยิ สัจ ๔ มาใชใ้ นการดาเนนิ ชีวติ ประจาวันอย่างไร แล้วนักเรียนในห้องนับ ถือศาสนาอะไรกันบ้าง นกั เรียนเขา้ ร่วมกิจกรรมทางศาสนาอย่างไร ๒. ครูอธบิ ายคาตอบของนักเรียนให้เช่อื มโยงเข้ากบั เนอ้ื หาท่เี รยี น ขนั้ สอน ๓. นกั เรยี นแบง่ กลุ่มออกเป็น ๔ กลุ่ม ตามความสมคั รใจ แล้วสง่ ตัวแทนออกมาจับฉลากเลือกหัวข้อ จากน้ันให้นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาค้นคว้าเรื่องของกลุ่มตัวเองจากหนังสือเรียน หนังสือค้นคว้า เพิ่มเติม แล้วเขยี นสรปุ ลงในกระดาษชารท์ ทค่ี รแู จกให้ พรอ้ มยกตัวอยา่ ง โดย กลุม่ ท่ี ๑ จะศกึ ษาเรอื่ ง ทุกข์ (ธรรมที่ควรรู้) กลมุ่ ท่ี ๒ จะศกึ ษาเรื่อง สมทุ ัย (ธรรมทค่ี วรละ) กลุม่ ท่ี ๓ จะศกึ ษาเรอ่ื ง นโิ รธ (ธรรมที่ควรบรรลุ) กล่มุ ที่ ๔ จะศึกษาเรื่อง มรรค (ธรรมท่คี วรเจรญิ ) ๔. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนกลุ่มออกมานาเสนอหน้าช้ันเรียน จากน้ันให้กลุ่มที่เหลือถาม คาถาม กลุ่มละ ๑ คาถาม ๕. นักเรียนศึกษาความรู้เร่ืองการปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมเพ่ือขจัดความขัดแย้งและเพ่ือการอยู่ รว่ มกันอย่างสนั ติสุข จากหนงั สอื เรียน หนงั สือเพ่ิมเตมิ

๖. นักเรียนจัดโต๊ะเป็นรูปตัว U เพ่ือร่วมกันจัดสัมมนา เร่ือง ศาสนากับสังคมไทย ให้ครอบคลุม ประเดน็ ทกี่ าหนดดังนี้ - คุณค่าและความสาคัญของค่านิยม จริยธรรมท่ีเป็นตัวกาหนดความเชื่อและพฤติกรรมท่ี แตกต่างกันของศาสนิกชนศาสนาตา่ งๆ - หลักธรรมสาคัญในการอย่รู ่วมกนั ในสังคมอย่างสนั ติ - แนวทางการจดั กิจกรรมความร่วมมือของทกุ ศาสนาในการแก้ปญั หาและพฒั นาสงั คม ขน้ั สรุป ๗. นักเรียนแบง่ กลุ่มออกเปน็ ๔ กลมุ่ รว่ มกันสรปุ ผลและคุณค่าท่ีได้รับจากการสัมมนาเรื่องศาสนา กับสังคมไทย และครูเปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนซกั ถามในประเด็นท่ีนักเรียนสงสัยหรอื ไมเ่ ขา้ ใจ ๘. สอื่ การเรียนการสอน / แหลง่ เรียนรู้ ๘.๑ สื่อการเรียนการสอน ๑) หนงั สอื เรยี น พระพุทธศาสนา ม.๕ ๒) หนังสือคน้ ควา้ เพ่ิมเติม ๙. การวดั ผลและประเมนิ ผล วธิ ีการ เคร่ืองมือ เกณฑ์ ประเมนิ การนาเสนอผลงาน สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดบั คณุ ภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ สังเกตความสามารถในการแกไ้ ข ปัญหา แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม ระดับคุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ สังเกตความใฝุเรยี นรู้ แบบประเมินสมรรถนะสาคญั ของ ระดบั คุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ นกั เรยี น แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ระดับคุณภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ ประสงค์ ๑๐. จุดเน้นของโรงเรียน การบรู ณาการปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงและกิจกรรมสวนพฤกษศาสตร์ โรงเรยี นปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ปรชั ญาเศรษฐกจิ ครู ผู้เรียน พอเพยี ง พอดีดา้ นเทคโนโลยี พอดีดา้ นจิตใจ ความพอประมาณ รู้ จั ก ใ ช้ เ ท ค โ น โ ล ยี ม า ผ ลิ ต สื่ อ ท่ี มี จิ ต ส า นึ ก ที่ ดี เ อ้ื อ อ า ท ร เหมาะสมและสอดคล้องเน้ือหาเป็น ประนีประนอม นึกถึงประโยชน์ ประโยชน์ต่อผู้เรียนและพัฒนาจากภูมิ ส่วนรวม/กลมุ่ ปญั ญาของผ้เู รยี น

ความมเี หตุผล - ยดึ ถอื การประกอบอาชีพด้วยความ ไม่หยุดน่ิงท่ีหาหนทางในชีวิต มภี มู ิคมุ้ กันในตัวท่ีดี ถูกต้อง สุจริต แม้จะตกอยู่ในภาวะขาด หลุดพ้นจากความทุกข์ยาก (การ เงื่อนไขความรู้ เง่อื นไขคุณธรรม แคลน ในการดารงชีวิต ค้นหาคาตอบเพื่อให้หลุดพ้นจาก - ปฏิบัติตนในแนวทางท่ีดี ลด เลิก ความไมร่ ู)้ สิง่ ยว่ั กิเลสให้หมดส้ินไป ไม่ก่อความชั่วให้ เป็นเคร่ืองทาลายตัวเอง ทาลายผู้อ่ืน พยายามเพ่ิมพูนรักษาความดี ท่ีมีอยู่ให้ งอกงามสมบูรณย์ งิ่ ข้ึน ภูมิปัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ภูมิปญั ญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ ระมดั ระวัง ระมัดระวัง สร้างสรรค์ ภมู ธิ รรม : ซอื่ สัตย์ สุจริต ขยนั อดทน ภูมิธรรม : ซื่อสัตย์ สุจริต ขยัน ตรงตอ่ เวลาและแบง่ ปนั อดทน ตรงต่อเวลา เสียสละและ แบ่งปัน ความรอบรู้ เร่ืองพระรัตนตรัยที่ ความรอบรู้ เร่ืองพระรัตนตรัย เก่ียวข้องรอบด้าน ความรอบคอบที่จะนา กรณีที่เกิดงาน ปริมาณท่ีเก่ียวข้อง ความร้เู หลา่ นนั้ มาพิจารณาให้เช่ือมโยงกัน การคานวณสูตรท่ีต้องใช้ สามารถนา เพ่ือประกอบการวางแผน การดาเนินการ คว ามรู้ เหล่าน้ัน มาพิ จาร ณาให้ จัดกจิ กรรมการเรียนรู้ใหก้ ับผู้เรยี น เช่ือมโยงกัน สามารถประยุกต์ใช้ใน ชีวติ ประจาวัน มคี วามตระหนกั ใน คุณธรรม มคี วาม มีความตระหนักในคุณธรรม มี ซื่อสตั ย์สุจรติ และมคี วามอดทน มีความ ความซอื่ สัตยส์ ุจริตและมีความอดทน เพยี ร ใช้สติปัญญาในการดาเนนิ ชวี ติ มีความเพียร ใช้สติปัญญาในการ ดาเนนิ ชวี ิต กจิ กรรม ครู ผ้เู รยี น สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น ตน้ ไมท้ ีพ่ ระพุทธเจ้าประสูติ ตน้ ไมท้ ี่พระพทุ ธเจา้ ประสูติ ตรัสรู้ ต้นไม้ท่ีพระพทุ ธเจา้ ประสูติ ตรสั รู้ ปรินิพพาน ตรัสรู้ ปรนิ พิ พาน ปรนิ ิพพาน - ประวตั ิและความเปน็ มาของ - อธิบายชนิดของต้นไม้ - ร ะ บุ ช นิ ด ข อ ง ต้ น ไ ม้ แ ล ะ ตน้ ไม้ท่ีพระพุทธเจ้าทรง ประสตู ิ ตรสั รู้ และปรนิ พิ าน และประวัติความเป็นมา ประวัตคิ วามเปน็ มาของต้นไม้ ของต้นไม้ที่พระพุทธเจ้า ที่พระพุทธเจ้าทรงประสูติ ทรงประสูติ ตรัสรู้ และ ตรสั รู้ และปรินิพาน ปรินพิ าน

๑๑. ข้อเสนอแนะ □ ใช้สอนได้ □ ควรปรบั ปรุง......................................................................................................................... .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ความคดิ เหน็ อน่ื ๆ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ………..………….......………….……… (นายนิกร ไชยบุตร) ครพู ่เี ลย้ี ง วนั ท.่ี .......เดือน....................พ.ศ. ๒๕๖๒

๑๒. บนั ทกึ หลงั การจัดการเรยี นรู้ ๑๒.๑) ผลที่เกิดขนึ้ กับนักเรยี น ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๕ ด้านความรู้ จานวนนักเรียนทผี่ า่ นเกณฑ์......................คน คิดเป็นร้อยละ................... จานวนนกั เรียนที่ไมผ่ ่านเกณฑ.์ .................คน คิดเปน็ ร้อยละ................... ด้านทักษะกระบวนการ จานวนนกั เรยี นทีผ่ า่ นเกณฑ์......................คน คิดเป็นร้อยละ................... จานวนนกั เรียนทไี่ มผ่ ่านเกณฑ.์ .................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ................... ดา้ นคุณลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ จานวนนกั เรียนทผ่ี า่ นเกณฑ.์ .....................คน คิดเป็นร้อยละ................... จานวนนักเรียนท่ีไมผ่ า่ นเกณฑ์..................คน คิดเป็นรอ้ ยละ................... ดา้ นสมรรถนะผเู้ รยี น จานวนนกั เรียนที่ผา่ นเกณฑ.์ .....................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ................... จานวนนักเรยี นท่ไี มผ่ ่านเกณฑ.์ .................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ................... ๑๒.๒) ปญั หาและอปุ สรรค ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ๑๒.๓) แนวทางการแกป้ ญั หา ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ (ลงช่ือ)……………………………….…………… (นางสาวณฐั ธกิ า นวลหอม) ผู้สอน วันท.่ี .......เดอื น....................พ.ศ. ๒๕๖๒

๑๓. ความเหน็ ของหวั หนา้ กล่มุ สาระ/สายชนั้ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ (ลงชอ่ื )……………………………….…………… (นายนิกร ไชยบตุ ร) หัวหน้ากลุม่ สาระ/สายช้นั วนั ท.ี่ .......เดอื น....................พ.ศ. ๒๕๖๒ ๑๔. ความเห็นของฝาุ ยวิชาการ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ (ลงชอ่ื )……………………………….…………… (นางสาวรตั ติกาล ยศสขุ ) หวั หนา้ ฝุายวิชาการ วันท.่ี .......เดือน....................พ.ศ. ๒๕๖๒ ๑๕. ความเห็นของผู้อานวยการโรงเรยี น ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ (ลงช่อื )……………………………….…………… (นางวลิ าวลั ย์ ปาลี) ผู้อานวยการโรงเรยี น วันท.่ี .......เดือน....................พ.ศ. ๒๕๖๒

แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ ๕ กลุม่ สาระการเรียนรูส้ ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๕ หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ๑ พระรัตนตรัย เร่อื ง หลกั ธรรม ศาสนพธิ ี และพธิ ีกรรม ภาคเรยี นที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๒ เวลาเรยี น ๒ ชวั่ โมง/สปั ดาห์ หน่วยกิต ๑ (นน./นก.) ผ้สู อน นางสาวณัฐธิกา นวลหอม โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ เวลา ๒ ช่ัวโมง ๑. สาระสาคญั วันสาคญั ทางพระพุทธศาสนามีหลักธรรม คติธรรมที่เก่ียวเน่ือง ซ่ึงพุทธศาสนิกชนทุกคนพึง นาไปเป็นแนวทางการปฏิบัตติ นในศาสนพธิ ี พธิ กี รรม และสวดมนต์ได้อยา่ งถูกตอ้ ง ๒. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดชน้ั ปี/ผลการเรียนรู้/เปูาหมายการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ ส ๑.๒ เขา้ ใจ ตระหนกั และปฏิบัตติ นเปน็ ศาสนิกชนที่ดี และธารงรักษาพระพุทธศาสนาหรือ ศาสนาทตี่ นนับถอื ตวั ช้ีวดั ชั้นป/ี ผลการเรยี นรู้ ส ๑.๒ ม.๔-๖/๔ วิเคราะห์หลักธรรม คติธรรมท่ีเกี่ยวเน่ืองกับวันสาคัญทางศาสนาและ เทศกาลทส่ี าคญั ของศาสนาที่ตนนบั ถอื และปฏบิ ตั ิตนได้ถูกต้อง ส ๑.๒ ม.๔-๖/๒ ปฏิบัติตนถกู ตอ้ งตามศาสนพิธี พิธกี รรมตามหลักศาสนาทต่ี นนับถอื ๓. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๓.๑ ดา้ นความรู้ : Knowledge - วิเคราะหห์ ลกั ธรรม คตธิ รรมท่เี กยี่ วเนอ่ื งกับวนั สาคัญทางศาสนา - อธบิ ายการปฏิบัตติ นในศาสนพธิ ี และพิธกี รรมในพระพทุ ธศาสนาได้ ๓.๒ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ : Process มที กั ษะกระบวนการทางานกลุ่ม ๓.๓ ด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ : Attitude มีความสนใจใฝุเรียนรู้ และมีทัศนคติที่ดีต่อการศึกษารายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและ วฒั นธรรม ๔. สมรรถนะสาคัญของนกั เรียน - ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

๕. คุณลักษณะของวิชา - ความรบั ผิดชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลมุ่ ๖. ชน้ิ งาน/ภาระงาน ๖.๑ ชิน้ งาน ๑) ใบงานที่ ๑.๔ เร่ือง วนั สาคัญทางพระพุทธศาสนา ๖.๒ ภาระงาน ๑) นักเรยี นทากจิ กรรมกลุ่ม ๒) นักเรียนนาเสนอ ๓) นกั เรยี นตอบคาถาม ๗. กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั นาเข้าสู่บทเรยี น ๑. ครูสนทนากับนักเรียนเพื่อเป็นการทบทวนความรู้เดิม โดยถามนักเรียนว่านักเรียนเคยเข้าร่วม พิธีกรรมในวันสาคัญทางพระพุทธศาสนาวันใดบ้าง แล้วนักเรียนได้รับอะไรบ้างจากการเข้าร่วม พธิ กี รรม และศาสนาอ่ืนๆ นอกจากศาสนาพุทธมีพธิ ีกรรมอะไรบา้ ง มกี ารปฏิบตั อิ ย่างไร ๒. ครอู ธบิ ายคาตอบของนกั เรียนใหเ้ ช่ือมโยงเข้ากับเนื้อหาท่ีเรยี น ขั้นสอน ๓. นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น ๔ กลุ่ม ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง วันสาคัญ ทางพระพทุ ธศาสนา จากหนังสือเรียน หนงั สือคน้ คว้าเพ่มิ เติม หอ้ งสมดุ และแหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ ๔. นกั เรียนนาความรู้ทไี่ ดจ้ ากการศึกษามาตอบคาถามลงในกระดาษชารท์ โดยคาถามมอี ยู่ ๓ ขอ้ คอื ๑. นักเรยี นสามารถนาข้อคิดทไี่ ด้จากหลักการใน วันมาฆบชู าไปประยุกต์ปฏบิ ตั ไิ ด้อย่างไรบา้ ง ๒. ถ้านกั เรยี นปฏบิ ตั ติ นตามหลักธรรมในวันวิสาขบชู า จะส่งผลดอี ย่างไรบา้ ง ๓. นกั เรยี นได้ข้อคดิ สาคัญจากหลกั ธรรมในวนั สาคัญทางพระพทุ ธศาสนาอยา่ งไรบา้ ง ๕. นักเรยี นแต่ละกลุ่มสง่ ตัวแทนกลุ่มออกมานาเสนอหนา้ ชั้นเรยี น จากนน้ั ให้กลมุ่ ที่เหลือถามคาถาม กล่มุ ละ 1 คาถาม ๖. นกั เรยี นทาใบงานท่ี ๑.๔ เร่อื ง วนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา ๗. นักเรียนกลุ่มเดิมเล่นเกมแข่งขันทายภาพปริศนาว่าเป็นภาพพิธีกรรมหรือกิจกรรมในศาสนพิธี อะไร โดยกลมุ่ ทตี่ อบได้คะแนนมากท่ีสดุ คอื ผชู้ นะ โดยมีกตกิ ามีอยู่วา่ ให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มแบ่งหน้าท่ี กันภายในกล่มุ ซึ่งจะประกอบดว้ ยคนยกมือ คนตอบคาถาม และคนหาคาตอบ จากน้ันให้นักเรียนยก มือตอบคาถาม โดยครูจะใหส้ ญั ญาณในการยกมอื ตอบคาถามเพ่ือแลกกับคะแนน

ขั้นสรปุ ๘. ครแู ละนกั เรยี นช่วยกนั สรปุ เรอ่ื งหลกั ธรรมทเ่ี กีย่ วเนอื่ งกบั วนั สาคญั และเทศกาลทส่ี าคญั และศา สนพิธี พรอ้ มเปดิ โอกาสให้นักเรียนซักถามในประเด็นที่นกั เรยี นสงสัยหรอื ไม่เข้าใจ ๙. นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ ๑ เรอื่ งพระรตั นตรัย จานวน ๑๐ ข้อ ๘. สื่อการเรยี นการสอน / แหล่งเรียนรู้ ๘.๑ สือ่ การเรยี นการสอน ๑) หนงั สอื เรยี น พระพทุ ธศาสนา ม.๕ ๒) หนังสอื ค้นคว้าเพ่ิมเติม ๓) ใบงานท่ี ๑.๔ เรือ่ ง วันสาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา ๔) บัตรภาพ ๕) แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๑ เร่ือง พระรัตนตรยั ๘.๒ แหลง่ เรยี นรู้ ๑) ห้องสมดุ ๒) แหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ - http://th.wikipedia.org/wiki/รายชอื่ วันสาคัญทางพระพทุ ธศาสนา/ - http://phrabuddhasasana.com/index.php?option...id... - http://www.heritage.thaigovnet/religion/daytime/index1.htm - http://www.fungdham.com/importan-day/important-day.html ๙. การวดั ผลและประเมินผล วธิ กี าร เคร่ืองมอื เกณฑ์ การตอบคาถาม ตรวจใบงานที่ ๑.๔ แบบประเมินการตอบคาถาม ประเมินตามสภาพจรงิ ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี นหนว่ ย การเรยี นรูท้ ่ี ๑ ใบงานท่ี ๑.๔ รอ้ ยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์ ประเมนิ การนาเสนอผลงาน สังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบทดสอบหลงั เรียนหนว่ ยการ ประเมินตามสภาพจริง สงั เกตความสามารถในการใช้ เรยี นรู้ที่ ๑ เทคโนโลยี สังเกตความมีวินัย ใฝุเรียนรู้ แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดบั คณุ ภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุม่ ระดบั คณุ ภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ แบบประเมนิ สมรรถนะสาคญั ของ ระดับคุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ นักเรียน แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ระดบั คุณภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ ประสงค์

๑๐. จุดเนน้ ของโรงเรยี น การบรู ณาการปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงและกิจกรรมสวนพฤกษศาสตร์ โรงเรยี นปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ปรัชญาเศรษฐกจิ ครู ผเู้ รยี น พอเพียง พอดีดา้ นเทคโนโลยี พอดีด้านจิตใจ ความพอประมาณ ความมเี หตุผล รู้ จั ก ใ ช้ เ ท ค โ น โ ล ยี ม า ผ ลิ ต สื่ อ ที่ มี จิ ต ส า นึ ก ท่ี ดี เ อื้ อ อ า ท ร มภี มู คิ มุ้ กันในตวั ทดี่ ี เหมาะสมและสอดคล้องเนื้อหาเป็น ประนีประนอม นึกถึงประโยชน์ เง่อื นไขความรู้ ประโยชน์ต่อผู้เรียนและพัฒนาจากภูมิ สว่ นรวม/กลมุ่ เงอื่ นไขคณุ ธรรม ปญั ญาของผูเ้ รียน - ยึดถือการประกอบอาชีพด้วยความ ไม่หยุดน่ิงท่ีหาหนทางในชีวิต ถูกต้อง สุจริต แม้จะตกอยู่ในภาวะขาด หลุดพ้นจากความทุกข์ยาก (การ แคลน ในการดารงชีวติ ค้นหาคาตอบเพื่อให้หลุดพ้นจาก - ปฏิบัติตนในแนวทางท่ีดี ลด เลิก ความไม่รู้) สิง่ ยว่ั กิเลสให้หมดส้ินไป ไม่ก่อความชั่วให้ เป็นเคร่ืองทาลายตัวเอง ทาลายผู้อื่น พยายามเพ่ิมพูนรักษาความดี ท่ีมีอยู่ให้ งอกงามสมบูรณย์ ่ิงขนึ้ ภมู ปิ ญั ญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ ภูมิปัญญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ ระมดั ระวงั ระมัดระวงั สรา้ งสรรค์ ภมู ิธรรม : ซ่อื สัตย์ สุจริต ขยนั อดทน ภูมิธรรม : ซื่อสัตย์ สุจริต ขยัน ตรงตอ่ เวลาและแบ่งปนั อดทน ตรงต่อเวลา เสียสละและ แบง่ ปัน ความรอบรู้ เร่ืองพระรัตนตรัยที่ ความรอบรู้ เร่ืองพระรัตนตรัย เกย่ี วข้องรอบด้าน ความรอบคอบที่จะนา กรณีที่เกิดงาน ปริมาณที่เกี่ยวข้อง ความรู้เหลา่ น้นั มาพิจารณาให้เช่ือมโยงกัน การคานวณสูตรท่ีต้องใช้ สามารถนา เพื่อประกอบการวางแผน การดาเนินการ คว ามรู้ เหล่านั้น มาพิ จาร ณาให้ จดั กิจกรรมการเรียนรใู้ ห้กบั ผู้เรียน เช่ือมโยงกัน สามารถประยุกต์ใช้ใน ชวี ติ ประจาวนั มีความตระหนกั ใน คุณธรรม มคี วาม มีความตระหนักในคุณธรรม มี ซ่อื สตั ย์สจุ ริตและมคี วามอดทน มคี วาม ความซือ่ สตั ย์สุจรติ และมีความอดทน เพียร ใช้สตปิ ญั ญาในการดาเนินชวี ติ มีความเพียร ใช้สติปัญญาในการ ดาเนนิ ชีวิต

กจิ กรรม ครู ผู้เรียน สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น ตน้ ไม้ท่ีพระพทุ ธเจา้ ประสตู ิ ต้นไม้ท่ีพระพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ ต้นไมท้ ่ีพระพุทธเจา้ ประสูติ ตรัสรู้ ปรนิ ิพพาน ตรสั รู้ ปรินพิ พาน ปรินพิ พาน - ประวัตแิ ละความเป็นมาของ - อธิบายชนิดของต้นไม้ - ร ะ บุ ช นิ ด ข อ ง ต้ น ไ ม้ แ ล ะ ตน้ ไมท้ ่ีพระพทุ ธเจ้าทรง ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพาน และประวัติความเป็นมา ประวตั ิความเปน็ มาของต้นไม้ ของต้นไม้ที่พระพุทธเจ้า ท่ีพระพุทธเจ้าทรงประสูติ ทรงประสูติ ตรัสรู้ และ ตรสั รู้ และปรินิพาน ปรินิพาน

๑๑. ขอ้ เสนอแนะ □ ใชส้ อนได้ □ ควรปรบั ปรุง......................................................................................................................... .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ความคดิ เหน็ อนื่ ๆ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................. ลงช่ือ………..………….......………….……… (นายนกิ ร ไชยบุตร) ครพู ่เี ล้ียง วนั ที.่ .......เดือน....................พ.ศ. ๒๕๖๒

๑๒. บนั ทึกหลังการจัดการเรยี นรู้ ๑๒.๑) ผลทีเ่ กิดข้ึนกับนกั เรยี น ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๕ ดา้ นความรู้ จานวนนกั เรยี นที่ผ่านเกณฑ์......................คน คิดเป็นร้อยละ................... จานวนนักเรียนทไี่ ม่ผ่านเกณฑ.์ .................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ................... ดา้ นทกั ษะกระบวนการ จานวนนักเรยี นทผ่ี า่ นเกณฑ์......................คน คิดเปน็ ร้อยละ................... จานวนนกั เรยี นที่ไมผ่ ่านเกณฑ.์ .................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ................... ด้านคณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ จานวนนักเรยี นท่ีผ่านเกณฑ์......................คน คิดเป็นรอ้ ยละ................... จานวนนักเรียนทไ่ี มผ่ ่านเกณฑ์..................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ................... ดา้ นสมรรถนะผูเ้ รียน จานวนนกั เรยี นทผี่ า่ นเกณฑ.์ .....................คน คิดเป็นร้อยละ................... จานวนนักเรียนที่ไมผ่ า่ นเกณฑ.์ .................คน คดิ เป็นร้อยละ................... ๑๒.๒) ปัญหาและอุปสรรค ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ๑๒.๓) แนวทางการแกป้ ัญหา ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ (ลงชอื่ )……………………………….…………… (นางสาวณัฐธิกา นวลหอม) ผสู้ อน วนั ท่ี........เดอื น....................พ.ศ. ๒๕๖๒

๑๓. ความเหน็ ของหวั หน้ากล่มุ สาระ/สายชั้น ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ (ลงช่อื )……………………………….…………… (นายนกิ ร ไชยบุตร) หวั หน้ากลุม่ สาระ/สายชัน้ วันที่........เดือน....................พ.ศ. ๒๕๖๒ ๑๔. ความเหน็ ของฝาุ ยวชิ าการ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ (ลงชื่อ)……………………………….…………… (นางสาวรตั ติกาล ยศสุข) หวั หนา้ ฝุายวิชาการ วนั ที่........เดอื น....................พ.ศ. ๒๕๖๒ ๑๕. ความเห็นของผูอ้ านวยการโรงเรยี น ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ (ลงชื่อ)……………………………….…………… (นางวลิ าวัลย์ ปาลี) ผูอ้ านวยการโรงเรียน วนั ท่.ี .......เดือน....................พ.ศ. ๒๕๖๒

ใบงานที่ ๑.๔ เร่อื ง วันสาคญั ทางพระพุทธศาสนา คาช้แี จง ใหน้ กั เรียนวิเคราะห์วนั สาคัญทางพระพทุ ธศาสนา ตามประเด็นทก่ี าหนดลงในตาราง ช่อื วันสาคัญ ตรงกับวนั หลกั ธรรม คติธรรม แนวทางการปฏิบตั ติ นตาม ๑. วนั มาฆบูชา ทีเ่ กย่ี วเนอ่ื ง หลกั ธรรม ๒. วันวิสาขบูชา ๓. วนั อัฏฐมีบูชา ๔. วนั อาสาฬหบูชา

ชื่อวันสาคญั ตรงกบั วัน หลักธรรม คติธรรม แนวทางการปฏิบตั ติ นตาม ๕. วันธรรมสวนะ ที่เกยี่ วเนอ่ื ง หลกั ธรรม ๖. วนั เข้าพรรษา ๗. วนั ออกพรรษา และวันตักบาตร เทโว

เฉลยใบงานท่ี ๑.๔ เรอื่ ง วนั สาคัญทางพระพุทธศาสนา คาช้แี จง ใหน้ ักเรยี นวเิ คราะห์วันสาคัญทางพระพุทธศาสนา ตามประเด็นทก่ี าหนดลงในตาราง ช่อื วนั สาคัญ ตรงกับวนั หลักธรรม คติธรรม แนวทางการปฏิบัติตนตาม ๑. วันมาฆบชู า ทเ่ี กย่ี วเนอ่ื ง หลักธรรม วันเพญ็ เดือน ๓ ถ้าปีใดมีเดือน ๘ โอวาทปาฏิโมกขม์ ใี จความ ๑. ทาบุญตกั บาตรทว่ี ัด สองหนก็เลอ่ื น สาคัญ คอื การทาความดี ๒. บาเพญ็ สาธารณประโยชน์ ไปกลางเดอื น ๔ ละเวน้ ความชว่ั การทาจติ ใจให้ ๓. ฝึกจิตใหส้ งบ ผ่องใส ๒. วนั วสิ าขบูชา วนั เพญ็ เดอื น ๖ อริยสจั ๔ หรือ ความจริงอัน ๑. ฟงั เทศน์ ถ้าปใี ดมีเดอื น ๘ ประเสริฐ ๔ ประการ ๒. สนทนาธรรม สองหนกเ็ ลื่อน ประกอบด้วย ทุกข์ สมุทยั ๓. รกั ษาศีล ๕ ศลี ๘ ไปกลางเดือน ๗ นโิ รธ มรรค ๓. วนั อฏั ฐมีบชู า วนั แรม ๘ ค่า อปั ปมาทะ หรือความไม่ประมาท ๑. ตัง้ ใจศึกษาเลา่ เรยี น เดอื น ๖ ถา้ ปีใด ท้งั ทางโลกกบั ความไมป่ ระมาท ๒. ทางานสจุ รติ มีเดือน ๘ สองหน ในทางธรรม ๓. ระวังตนในการทาความชัว่ หรือความไม่ดี กเ็ ลอ่ื นไปกลาง เดือน ๗ ๔. วนั อาสาฬหบูชา ธัมมจกั กปั ปวัตนสูตร ๑. บาเพ็ญสาธารณประโยชนต์ า่ งๆ วนั เพ็ญเดือน ๘ มชั ฌมิ าปฏิปทา มรรคมอี งค์ ๘ ๒. เวยี นเทียน เหน็ ชอบ ดาริชอบ เจรจาชอบ ๓. ฟังธรรม สนทนาธรรม กระทาชอบ อาชีพชอบ เพียรชอบ ระลกึ ชอบ ต้ังใจชอบ

ชื่อวนั สาคญั ตรงกบั วัน หลกั ธรรม คตธิ รรม แนวทางการปฏิบตั ิตนตาม ๕. วันธรรมสวนะ ที่เก่ยี วเนอื่ ง หลักธรรม วนั ขนึ้ ๘ คา่ กาเลน ธมมฺ สสวน การฟังธรรม ๑. ฟังธรรมในโอกาสทีส่ มควรด้วย ข้นึ ๑๕ คา่ ตามกาล ความสารวม วนั แรม ๘ คา่ วนั แรม ๑๕ ค่า ๒. สนทนาธรรม ๓. ปฏบิ ัตติ นตามหลักธรรมทรี่ บั ฟงั ๖. วนั เข้าพรรษา ๔. ฝกึ อบรมจติ ให้เปน็ สมาธิ แรม ๑ ค่า อธษิ ฐานธรรม ๔ ประการ ขณะฟังธรรม เดอื น ๘ หรือวนั ถัดจากวัน - ปัญญา - สัจจะ ๑. รักษาอุโบสถศีล หรอื ศีล ๕ อาสาฬหบูชา ตลอด ๓ เดือน - จาคา - อปุ สมะ ๒. อธษิ ฐานใจ เวน้ ส่งิ ทค่ี วรเวน้ ๗. วนั ออกพรรษา อรยิ วงศ์ ๔ ได้แก่ พอใจในจีวร บาเพญ็ สิง่ ทคี่ วรบาเพ็ญ และวันตักบาตร วันข้นึ ๑๕ คา่ ท่มี อี ยู่ ยินดใี นการทาบญุ และ เทโว เดอื น ๑๑ อกศุ ลปวารณาการวา่ กล่าว ๓. ฟงั ธรรมในโอกาสที่เหมาะสม ตักเตือน ความเป็นผู้ว่าง่าย ๑. พอใจในส่ิงของทมี่ อี ยู่ ไมโ่ ลภ ๒. เม่อื ไมไ่ ดใ้ นส่งิ ทตี่ อ้ งการกไ็ ม่ เร่าร้อน ทุรนทรุ าย ๓. ไมแ่ สวงหาในสงิ่ ของตา่ งๆ ในทางทผ่ี ิด

บตั รภาพ ภาพพิธีโกนผมบวชนาค ภาพนาคเดินถอื ผา้ ไตรไปในโบสถ์ ภาพนาคนั่งตอ่ หนา้ พระอปุ ัชฌาย์ ภาพชาวพุทธนาเครอื่ งกฐนิ ไปวางทศ่ี าลาวัด การละหมาด (ศาสนาอสิ ลาม) การถือศีลอด (ศาสนาอิสลาม)

พธิ บี พั ตศิ มาหรอื ศลี ลา้ งบาป (ศาสนาคริสต์) พธิ ีมหาสนิทศกั ดิส์ ทิ ธ์หิ รอื ศีลมหาสนทิ (ศาสนา คริสต์) ศลี อภัยบาป (ศาสนาครสิ ต์) ศลี กาลงั (ศาสนาคริสต์)

ศลี อนุกรม (ศาสนาครสิ ต์) การถวายสงั ฆทาน การฟังเทศน์ การตักบาตร การสวดมนต์ไหวพ้ ระ บรรพชา

ภาพชาวพทุ ธถวายผา้ กฐนิ แด่เจา้ อาวาส ภาพชาวพุทธฟงั พระสงฆ์สวดมนตใ์ ห้พรในการถวายกฐนิ ภาพชาวพุทธเดินเวยี นเทียน ภาพพระสงฆเ์ ดนิ นาหน้าชาวพทุ ธเวยี นเทียน

ที่มา : ภาพท่ี 1 http://www.learners.in.th/blogs/posts/437954?locale=en ภาพท่ี 2 http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=45056 1 2 ภาพท่ี 3 http://xn--k3chbgks4ae1jybbf4lnc8bc.blogspot.com/2012/11/20-3-7-15-30-2-3-2-3-1.html 3 4 5 6 ภาพท่ี 4 http://www.kunkroo.com/catalog.php?idp=63 7 8 ภาพท่ี 5 https://sites.google.com/site/sasnaxislam/phithikrrm 9 10 ภาพท่ี 6 https://sites.google.com/site/sasnaxislam/phithikrrm 11 12 ภาพท่ี 7 https://sites.google.com/site/irajew09/sasn-sthan/phithikrrm-sakhay-ni-sasna-khrist 13 14 15 16 ภาพท่ี 8 https://sites.google.com/site/irajew09/sasn-sthan/phithikrrm-sakhay-ni-sasna-khrist 17 18 ภาพท่ี 9 https://sites.google.com/site/irajew09/sasn-sthan/phithikrrm-sakhay-ni-sasna-khrist 19 20 ภาพท่ี 10 https://sites.google.com/site/irajew09/sasn-sthan/phithikrrm-sakhay-ni-sasna-khrist ภาพท่ี 11 https://sites.google.com/site/irajew09/sasn-sthan/phithikrrm-sakhay-ni-sasna-khrist ภาพท่ี 12 https://sites.google.com/site/buddhist11land/home/phithikrrm-thang-sasna-phuthth ภาพท่ี 13 https://sites.google.com/site/buddhist11land/home/phithikrrm-thang-sasna-phuthth ภาพท่ี 14 https://sites.google.com/site/buddhist11land/home/phithikrrm-thang-sasna-phuthth ภาพท่ี 15 https://sites.google.com/site/buddhist11land/home/phithikrrm-thang-sasna-phuthth ภาพท่ี 16 https://sites.google.com/site/buddhist11land/home/phithikrrm-thang-sasna-phuthth ภาพท่ี 17 http://www.watwangkhanai.com/default.asp?content=wboarddetail?wbid=1511&qid=61821 ภาพท่ี 18 http://www.thaitangdaen-news.eu/index.php?option=com_content&task=view&id=2455&Itemid=453 ภาพท่ี 19 http://www.thaiphoto.com/forums/showthread.php?t=19252 ภาพท่ี 20 http://watphrapathomchedi.com/2600%20years%20visaka55/visa2600.htm

ภาคผนวก

แบบประเมนิ ใบงาน/ใบกจิ กรรม ชื่อ............................................................................................. ชั้น..............................เลขท่ี............................... คาชแ้ี จง การบันทกึ ใหก้ าเครือ่ งหมาย  ลงในชอ่ งทตี่ รงกับพฤติกรรมท่ีเกดิ ข้ึนจรงิ ลาดั พฤตกิ รรม ระดบั คะแนน บท่ี ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรุง (4) (3) (2) (1) 1 ความถกู ตอ้ งของเน้อื หา และความครบถ้วนของเนอ้ื หา 2 ความรบั ผิดชอบ สง่ งานตรงเวลา 3 ความเป็นระเบยี บเรยี บรอ้ ยของงาน 4 ตรงตามจดุ ประสงค์ทีก่ าหนด รวม ข้อเสนอแนะ ลงชอ่ื ผู้ประเมิน ) ( ครูผู้สอน / วัน เดอื น ปี ท่ปี ระเมนิ /

แบบประเมินการนาเสนอผลงาน กลมุ่ ท่ี................ สมาชกิ ของกลุม่ 1 ..................................................................................................................................... 2 ..................................................................................................................................... 3 ..................................................................................................................................... 4 ..................................................................................................................................... ลาดับ รายการประเมนิ ดีมาก ระดับคะแนน ท่ี (4) ดี พอใช้ ปรบั ปรุง (3) (2) (1) 1 การวางแผนการทางานและการเตรียมความพรอ้ ม ก่อนนาเสนอ 2 การนาเสนอเน้ือหาถูกต้อง มีความครบถ้วน ชัดเจน เขา้ ใจงา่ ย 3 ความร่วมมอื ในการทางานของสมาชกิ ในกลุ่ม 4 รปู แบบการนาเสนอมีความคดิ สร้างสรรค์ 5 นา้ เสยี งในการนาเสนอ เสยี งดงั ฟังชัด รวม ข้อเสนอแนะ ลงชื่อ ผู้ประเมนิ ) ( ครผู สู้ อน / วัน เดอื น ปี ทปี่ ระเมิน /

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ ชื่อ............................................................................................. ชั้น..............................เลขที่............................... คาชแี้ จง การบันทกึ ให้กาเครือ่ งหมาย  ลงในชอ่ งท่ตี รงกับพฤติกรรมท่ีเกดิ ขึน้ จรงิ ลาดับ รายการประเมิน คุณภาพการปฏิบัติ ท่ี ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรุง (3) (3) (2) (1) 1 สนใจการเรียนรู้ ขยนั ซื่อสัตย์ มีวนิ ัยในชัน้ เรียน และมี นา้ ใจตอ่ ผ้อู ื่น 2 ทักษะการคดิ และทกั ษะการทางานอยา่ งเชี่ยวชาญ 3 รบั ผิดชอบตอ่ การทางาน มีส่วนรว่ มในการตอบคาถาม และรับฟงั ความคิดเห็นของผู้อน่ื 4 ทางานด้วยความเพยี รพยายาม และมีความถกู ต้องของ งาน รวม ข้อเสนอแนะ ลงชื่อ ผู้ประเมิน ) ( ครูผู้สอน / วนั เดือน ปี ท่ปี ระเมิน /

แบบสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรยี น เพือ่ การประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ดา้ นมีวินัย ชื่อ............................................................................................. ชั้น..............................เลขท่ี............................... คาชี้แจง การบนั ทึกใหก้ าเครอ่ื งหมาย  ลงในช่องท่ีตรงกับพฤตกิ รรมท่ีเกดิ ขน้ึ จรงิ ลาดั พฤติกรรม ระดบั คะแนน บท่ี ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง (4) (3) (2) (1) 1 แตง่ กายถกู ต้องตามระเบียบของโรงเรียน 2 เม่อื ถึงชว่ั โมงเรยี นเข้าเรียนตามเวลา 3 ทางานเสร็จตามเวลาที่กาหนด 4 เขา้ รว่ มกิจกรรมตามเวลาทีน่ ัดหมาย 5 จดั เกบ็ สงิ่ ของเปน็ ท่เี ปน็ ทาง รวม ข้อเสนอแนะ ลงชื่อ ผู้ประเมิน ) ( ครูผสู้ อน / วนั เดือน ปี ที่ประเมนิ /

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรยี น เพื่อการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ดา้ นใฝเุ รียนรู้ ชอ่ื ............................................................................................. ชั้น..............................เลขที่............................... คาชแ้ี จง การบันทกึ ใหก้ าเคร่ืองหมาย  ลงในช่องท่ตี รงกับพฤติกรรมทเี่ กิดข้นึ จรงิ ลาดับ พฤติกรรม ดีมาก ระดบั คะแนน ท่ี (4) ดี พอใช้ ปรับปรุง (3) (2) (1) 1 ตั้งใจเรียน 2 เอาใจใสใ่ นการเรียน และมคี วามเพียรพยายามใน การเรียน ศึกษาค้นคว้า หาความรู้จากหนังสอื เอกสาร ส่ิงพมิ พ์ 3 สอ่ื เทคโนโลยีต่างๆ แหลง่ การเรียนรู้ท้งั ภายในและ ภายนอกโรงเรยี น และเลอื กใช้สอ่ื ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 4 บันทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ ตรวจสอบบางสง่ิ ท่เี รียนรู้ สรปุ เปน็ องค์ความรู้ 5 แลกเปล่ยี นความรู้ ดว้ ยวธิ ีการต่างๆ และนาไปใช้ใน ชีวิตประจาวัน รวม ขอ้ เสนอแนะ ลงชอ่ื ผู้ประเมิน ) ( ครูผ้สู อน / วนั เดอื น ปี ที่ประเมนิ /

แบบสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรียน เพ่ือการประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ด้านมุง่ ม่นั ในการทางาน ชื่อ............................................................................................. ชั้น..............................เลขท่ี............................... คาชแ้ี จง การบนั ทกึ ใหก้ าเคร่ืองหมาย  ลงในชอ่ งทตี่ รงกับพฤติกรรมทเี่ กดิ ขึ้นจรงิ ลาดั พฤติกรรม ดีมาก ระดับคะแนน บท่ี (4) ดี พอใช้ ปรับปรุง (3) (2) (1) 1 มีความรับผดิ ชอบในหนา้ ท่กี ารงาน 2 ต้ังใจและเอาใจใส่ตอ่ การปฏิบัตหิ น้าที่ท่ีได้รบั มอบหมาย 3 ทางานด้วยความเพียรพยายาม 4 อดทนเพอ่ื ใหง้ านสาเร็จตามเปูาหมาย 5 ปรบั ปรงุ และพฒั นาการทางานใหด้ ขี ึ้นดว้ ยตนเอง รวม ข้อเสนอแนะ ลงชือ่ ผู้ประเมิน ) ( ครูผ้สู อน / วนั เดอื น ปี ทปี่ ระเมิน /

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรียน เพอื่ การประเมนิ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียนดา้ นความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต ช่อื ............................................................................................. ชั้น..............................เลขที่............................... คาชแี้ จง การบันทึกใหก้ าเครอ่ื งหมาย  ลงในชอ่ งทีต่ รงกบั พฤติกรรมทเ่ี กิดขนึ้ จริง ลาดบั พฤตกิ รรม ระดับคะแนน ท่ี ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรงุ (4) (3) (2) (1) 1 เรยี นรู้ดว้ ยตนเองไดเ้ หมาะสมตามวัย 2 สามารถทางานกลุ่มร่วมกบั ผอู้ นื่ ได้ 3 นาความรู้ท่ไี ดไ้ ปใชป้ ระโยชน์ในชีวิตประจาวัน 4 จัดการปัญหาและความขดั แย้งไดเ้ หมาะสม 5 หลกี เลีย่ งพฤติกรรมไม่พงึ ประสงค์ทส่ี ง่ ผลกระทบต่อ ตนเอง รวม ข้อเสนอแนะ ลงชอื่ ผู้ประเมนิ ) ( ครูผู้สอน / วนั เดอื น ปี ท่ีประเมนิ /

แบบสังเกตพฤตกิ รรมนักเรยี น เพอ่ื การประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี นดา้ นความสามารถในการคดิ ชือ่ ............................................................................................. ชั้น..............................เลขที่............................... คาช้ีแจง การบนั ทกึ ใหก้ าเครื่องหมาย  ลงในช่องทตี่ รงกบั พฤติกรรมทีเ่ กิดข้นึ จรงิ ลาดับ พฤตกิ รรม ระดบั คะแนน ท่ี ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง (4) (3) (2) (1) 1 มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ 2 มคี วามสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ สังเคราะห์ 3 สามารถคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณ 4 มคี วามสามารถในการคิดอย่างมีระบบ 5 ตัดสินใจแก้ปญั หาเกี่ยวกับตนเองได้ รวม ขอ้ เสนอแนะ ลงชื่อ ผู้ประเมิน ) ( ครผู สู้ อน / วนั เดอื น ปี ท่ีประเมนิ /

แบบสงั เกตพฤติกรรมนกั เรยี น เพื่อการประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียนดา้ นความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ชือ่ ............................................................................................. ชั้น..............................เลขท่ี............................... คาช้ีแจง การบันทกึ ใหก้ าเครื่องหมาย  ลงในช่องท่ีตรงกบั พฤติกรรมทเี่ กิดขึ้นจรงิ ลาดบั พฤติกรรม ระดับคะแนน ท่ี ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ (4) (3) (2) (1) 1 เลือกและใชเ้ ทคโนโลยไี ดเ้ หมาะสมตามวยั 2 มีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี 3 สามารถนาเทคโนโลยีไปใชพ้ ัฒนาตนเอง 4 ใช้เทคโนโลยีในการแก้ปัญหาอย่างสรา้ งสรรค์ 5 มคี ุณธรรม จรยิ ธรรมในการใช้เทคโนโลยี รวม ขอ้ เสนอแนะ ลงชื่อ ผู้ประเมิน ) ( ครูผู้สอน / วนั เดอื น ปี ท่ปี ระเมิน /

แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน เพ่อื การประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียนดา้ นความสามารถในการแกป้ ัญหา ชอื่ ............................................................................................. ชั้น..............................เลขท่ี............................... คาชี้แจง การบนั ทกึ ใหก้ าเคร่ืองหมาย  ลงในช่องทต่ี รงกบั พฤติกรรมที่เกดิ ข้ึนจริง ลาดับ พฤตกิ รรม ระดบั คะแนน ท่ี ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง (4) (3) (2) (1) 1 แกป้ ญั หาโดยใช้เหตผุ ล 2 แสวงหาความรู้มาใชใ้ นการแก้ปญั หา 3 ตัดสนิ ใจโดยคานงึ ถงึ ผลกระทบต่อตนเองและผูอ้ ่ืน 4 มีความคิดหลากหลายและคดิ ยดื หยนุ่ 5 เปดิ ใจรบั ความคิดใหม่ รวม ข้อเสนอแนะ ลงช่อื ผู้ประเมนิ ) ( ครูผสู้ อน / วนั เดือน ปี ทป่ี ระเมิน /

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรยี น เพื่อการประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี นดา้ นความสามารถในการสอ่ื สาร ชอ่ื ............................................................................................. ชั้น..............................เลขที่............................... คาช้แี จง การบันทกึ ใหก้ าเครื่องหมาย  ลงในชอ่ งท่ตี รงกบั พฤติกรรมทเ่ี กดิ ขึ้นจรงิ ลาดับ พฤติกรรม ระดับคะแนน ท่ี ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรงุ (4) (3) (2) (1) 1 มีความสามารถในการรบั – ส่งสาร 2 มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความคิด ความ เขา้ ใจของตนเอง โดยใช้ภาษาอยา่ งเหมาะสม 3 ใช้วธิ กี ารส่อื สารทีเ่ หมาะสม 4 เจรจาตอ่ รอง เพ่อื ขจัดและลดปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ ได้ 5 เลือกรบั และไมร่ บั ข้อมูลขา่ วสารดว้ ยเหตผุ ลและถูกตอ้ ง รวม ขอ้ เสนอแนะ ลงช่ือ ผู้ประเมิน ) ( ครผู ู้สอน / วัน เดอื น ปี ท่ปี ระเมิน /

แบบทดสอบก่อนเรยี น กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 พระรตั นตรยั จานวน 10 ข้อ คาชี้แจง ให้นักเรยี นเลือกคาตอบที่ถูกตอ้ งท่สี ุดเพียงคาตอบเดียว 1. การกระทาใด จัดวา่ เป็นลกั ษณะประชาธปิ ไตยใน 6. เพราะเหตุใด จึงกล่าวว่า “ความเป็นหนี้เป็นทุกข์ใน พระพุทธศาสนา โลก” ก. พระสงฆ์ในแตล่ ะวัดน้ันจะทาวัตรเชา้ เย็นทุกวัน ก. เกิดความวติ กกงั วล กลัวถกู ยึดทรัพยแ์ ละถูก ข. การทาพิธใี นวันสาคญั ทางพระพทุ ธศาสนานัน้ ฟอู งร้อง เรยี กเงินคนื มพี ระสงฆเ์ ป็นผู้นา ข. ขาดอสิ ระในการใช้เงนิ เพราะต้องนาเงนิ ไปใช้หนี้ ค. การทาพธิ กี รรมในทางพระพทุ ธศาสนา ค. ต้องประหยดั มัธยัสถ์ ปวุ ยไข้ไม่มีเงนิ รกั ษา ง. ไมม่ ใี ครอยากเปน็ เพอื่ นเพราะกลวั ถูกยมื เงนิ พระสงฆจ์ ะตอ้ งมีจานวนครบ 9 รูป ง. การตรวจสอบคุณสมบัติของผู้มาอุปสมบทนัน้ 7. หลักธรรมสาคัญท่ีพระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมในวัน มาฆบชู า คอื ข้อใด พระสงฆท์ ง้ั ปวงต้องลงมติเหน็ ดว้ ยเปน็ เอกฉันท์ 2. การท่ีพระพุทธเจ้าเสด็จไปศึกษาวิชาความรู้จาก ก. อรยิ สจั 4 สานักต่างๆ นั้น สอดคล้องกับวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ข. พระสยมภวู ญาณ ในขนั้ ใด ค. โอวาทปาฏิโมกข์ ง. สามุกกงั สิกาธรรม ก. เหน็ ปญั หา ข. รวบรวมขอ้ มลู 8. การประกอบศาสนพธิ ี มปี ระโยชน์ต่อสังคมในด้านใด ค. ต้งั คาตอบชั่วคราว มากทีส่ ุด ง. อธิบายคาตอบเป็นทฤษฎี 3. พระพุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์ มีความสอดคล้อง ก. ทาใหร้ จู้ ักเสียสละ กบั ด้านความเชอื่ อยา่ งไร ข. ทาใหเ้ กิดความสามคั คี ก. ไมค่ วรเชื่อส่ิงใดจากเอกสาร ค. ทาให้จติ ใจบริสุทธิ์ ไมฟ่ ูุงซา่ น ข. ควรเชือ่ ในสง่ิ ทปี่ รากฏชัดเจน ง. ทาใหส้ ามารถแก้ปัญหารว่ มกันได้ ค. กาลเวลาเปน็ เครื่องพิสจู นค์ วามจรงิ 9. พิธีกรรมทางศาสนา เปรียบเสมือนส่วนใดของตน้ ไม้ ง. ก่อนจะเชื่ออะไรจะตอ้ งมีการพสิ ูจน์ ก. ราก 4. พระองคลุ ิมาลเถระเปน็ ผูม้ ีคุณธรรมสาคญั ในขอ้ ใด ข. แก่น ก. มีความพากเพยี รยิ่ง ค. ลาต้น ข. มขี ันตธิ รรมอยา่ งยง่ิ ง. เปลือก ค. มคี วามสารวมระวังยง่ิ 10. ในวันเข้าพรรษา พุทธศาสนิกชนนิยมทากิจกรรม ง. มปี ฏภิ าณเปน็ เลิศในการแกป้ ญั หา หลายอย่าง ยกเว้นขอ้ ใด ก. ตักบาตรเทโวโรหณะ 5. ข้อความใดมีความหมายตรงกันข้ามตามหลักโลก ข. ฟงั เทศนท์ ุกวนั ตลอด 3 เดอื น ธรรม 8 ค. ถวายผ้าอาบน้าฝนแดพ่ ระสงฆ์ ง. อธิษฐานรักษาอโุ บสถศลี ตลอด 3 เดอื น ก. ไดล้ าภ - ได้ยศ ข. ติเตียน - สรรเสรญิ ค. เส่อื มลาภ - เสือ่ มยศ ง. ความทุกข์ - เสื่อมลาภ

แบบทดสอบหลงั เรยี น กล่มุ สาระการเรยี นรูส้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1 พระรตั นตรยั จานวน 10 ข้อ คาชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นเลือกคาตอบที่ถูกตอ้ งท่สี ุดเพียงคาตอบเดยี ว 1. การที่พระพทุ ธเจ้าเสด็จไปศึกษาวชิ าความรู้จาก 5. พระองคลุ ิมาลเถระเปน็ ผูม้ ีคณุ ธรรมสาคัญในข้อใด สานกั ตา่ งๆ น้นั สอดคลอ้ งกับวธิ กี ารทางวทิ ยาศาสตร์ ก. มปี ฏภิ าณเป็นเลศิ ในการแก้ปัญหา ในขน้ั ใด ข. มคี วามสารวมระวังย่ิง ก. อธิบายคาตอบเปน็ ทฤษฎี ค. มขี ันตธิ รรมอย่างย่ิง ข. ตัง้ คาตอบช่วั คราว ง. มคี วามพากเพยี รยิ่ง ค. รวบรวมขอ้ มลู ง. เหน็ ปญั หา 6. การท่ีพระพุทธเจ้าทรงต้ังตาแหน่ง“เอตทัคคะ”ให้แก่ 2. พระพุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์ มีความสอดคล้อง พระสาวกทม่ี ีความสามารถพิเศษเฉพาะด้าน สอดคล้อง กบั ดา้ นความเชื่ออยา่ งไร กบั วิธีสอนในข้อใด ก. ก่อนจะเช่ืออะไรจะต้องมกี ารพสิ จู น์ ข. กาลเวลาเปน็ เครือ่ งพิสูจนค์ วามจริง ก. เสริมแรง ค. ควรเชอื่ ในสง่ิ ท่ีปรากฏชัดเจน ข. รจู้ งั หวะและโอกาส ง. ไมค่ วรเชือ่ สิง่ ใดจากเอกสาร 3. ข้อความที่กล่าวว่า “ภิกษุทุกรูปมีสิทธิในการเข้า ค. ทาตนให้เป็นแบบอย่าง ประชุม ภิกษุทุกรูปมีสิทธิในการแสดงความคิดเห็น ทั้ง ง. ทานามธรรมใหเ้ ป็นรูปธรรม ในทางคัดค้านและในทางเห็นด้วย” สอดคล้องกับ 7. โลกธรรม 8 เปน็ ธรรมะเตือนใจในเรอ่ื งใด หลกั การประชาธิปไตยในขอ้ ใด ก. สทิ ธิเสรภี าพในการแสดงความคดิ เหน็ ก. ความสาเรจ็ ในสิง่ ท่ตี นปรารถนา ข. สทิ ธขิ องพระสงฆเ์ ทา่ เทยี มกัน ข. เตอื นสตไิ ม่ใหป้ ระมาท ค. สทิ ธิเสรภี าพในการประชุม ง. สิทธิในการคัดค้าน ค. ความสขุ ท่ีแท้จรงิ 4. ข้อใดจัดเป็นความแตกต่างกันระหว่างหลักการของ ง. ความพอดี พระพุทธศาสนากับวทิ ยาศาสตร์ 8. ข้อความใดมีความหมายตรงกันข้ามตามหลักโลก ก. วทิ ยาศาสตร์มุง่ การทดลองหาความจริงจากวตั ถุ ธรรม 8 พระพุทธศาสนาไม่เน้นการทดลองหรอื การสบื ค้น ก. ความทกุ ข์ - เสือ่ มลาภ ข. วิทยาศาสตรย์ อมรับโลกแหง่ สสารทีร่ ับรู้ดว้ ย ข. เสื่อมลาภ - เส่อื มยศ ประสาทสัมผัสทัง้ 5 ว่ามีจรงิ พระพุทธศาสนา ค. ติเตยี น - สรรเสรญิ ยอมรบั เฉพาะเรื่องจิตใจ ง. ได้ลาภ - ไดย้ ศ ค. วทิ ยาศาสตร์เนน้ การพฒั นาความเจริญก้าวหนา้ ของโลก พระพุทธศาสนาเน้นการควบคมุ 9. การประกอบศาสนพิธี มปี ระโยชน์ต่อสังคมในด้านใด ธรรมชาติของมนุษย์ มากทีส่ ดุ ง. วิทยาศาสตร์มุ่งเขา้ ใจปรากฏการณท์ างธรรมชาติ ก. ทาใหจ้ ติ ใจบรสิ ุทธิ์ ไมฟ่ ูงุ ซ่าน พระพทุ ธศาสนาเนน้ พิเศษเกยี่ วกับวิถีชวี ติ ของ ข. ทาใหส้ ามารถแก้ปญั หาร่วมกันได้ ค. ทาให้เกิดความสามคั คี มนุษยม์ ากกวา่ กฎเกยี่ วกบั สงิ่ ที่ไรช้ ีวติ ง. ทาใหร้ ูจ้ กั เสียสละ 10. พิธกี รรมทางศาสนา เปรียบเสมอื นสว่ นใดของต้นไม้ ก. ราก ข. ลาตน้ ค. เปลือก ง. แกน่


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook