Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้หน่วยที่ 3

แผนการจัดการเรียนรู้หน่วยที่ 3

Published by NITTIKA NUANHOM, 2019-09-05 22:44:54

Description: แผนการจัดการเรียนรู้หน่วยที่ 3

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๓ สิทธิมนษุ ยชน ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ ๕ รายวชิ าสงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รหสั วิชา ส ๓๒๑๐๑ กลุม่ สาระการเรียนรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม จดั ทาโดย นางสาวณฐั ธิกา นวลหอม นกั ศึกษาฝกึ ประสบการณ์วชิ าชีพครู โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ ตาบลชา่ งเคงิ่ อาเภอแมแ่ จม่ จังหวดั เชียงใหม่ สานกั บรหิ ารงานการศกึ ษาพิเศษ สานกั งานการศึกษาขน้ั พื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี ๑ กลมุ่ สาระการเรียนร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๕ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๓ สทิ ธมิ นุษยชน เร่อื ง ความสาคญั ของสิทธิมนษุ ยชน ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๒ เวลาเรียน ๒ ชั่วโมง/สปั ดาห์ หนว่ ยกิต ๑ (นน./นก.) ผู้สอน นางสาวณฐั ธกิ า นวลหอม โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ เวลา ๒ ชั่วโมง ๑. สาระสาคัญ สิทธิมนุษยชนเป็นสิทธิพ้ืนฐานท่ีทุกคนมีอยู่ในฐานะที่เกิดมาเป็นมนุษย์ ซึ่งเป็นไปตาม หลกั การของสทิ ธิมนษุ ยชนตามปฏิญญาสากลวา่ ดว้ ยสิทธมิ นษุ ยชนแห่งสหประชาชาติ ๒. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัดชนั้ ป/ี ผลการเรียนร้/ู เป้าหมายการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ ส ๒.๑ เขา้ ใจและปฏิบัตติ นตามหนา้ ท่ขี องการเปน็ พลเมืองดี มีค่านิยมทด่ี งี าม และธารงรักษา ประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดารงชวี ิตอยรู่ ว่ มกันในสงั คมไทยและสงั คมโลกอย่างสันตสิ ุข ตัวชีว้ ัดชน้ั ปี/ผลการเรยี นรู้ ส ๒.๑ ม.๔-๖/๔ ประเมนิ สถานการณส์ ทิ ธิมนษุ ยชนในประเทศไทยและเสนอแนวทางพัฒนา ๓. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๓.๑ ด้านความรู้ : Knowledge - อธิบายความหมาย ความสาคัญ แนวคิด และหลกั การของสทิ ธิมนุษยชนได้ - วเิ คราะห์บทบาทขององคก์ รระหวา่ งประเทศ ในเวทโี ลกทม่ี ีผลต่อประเทศไทย ๓.๒ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ : Process มที ักษะกระบวนการทางานกลมุ่ ๓.๓ ดา้ นคุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ : Attitude มีความม่งุ ม่ันในการทางาน และมีทัศนคติที่ดีต่อการศึกษารายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและ วฒั นธรรม ๔. สมรรถนะสาคัญของนกั เรียน ๔.๑ ความสามารถในการในการคดิ - ทักษะการวเิ คราะห์

๕. คุณลกั ษณะของวิชา - ความรับผิดชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลุ่ม ๖. ชิน้ งาน/ภาระงาน ๖.๑ ชิ้นงาน ๑) ใบงานท่ี ๓.๑ เร่ือง แนวคดิ และหลักการของสทิ ธมิ นษุ ยชน ๖.๒ ภาระงาน ๑) นักเรยี นทากจิ กรรมกลุ่ม ๒) นักเรยี นนาเสนอ ๗. กิจกรรมการเรียนรู้ นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๓ เรื่อง สิทธิมนุษยชน จานวน ๑๐ ข้อ ๑๐ คะแนน ขัน้ นาเขา้ สบู่ ทเรยี น ๑. ครสู นทนาซกั ถามนกั เรียนวา่ ในความคิดของนักเรียนสทิ ธิมนุษยชนคอื อะไร แล้วนักเรียนคิดว่า สทิ ธิมนุษยชนมีความสาคัญไหม ๒. ครอู ธิบายคาตอบนกั เรยี นเพื่อเชอื่ มโยงเข้าสูเ่ นอื้ หา ข้นั สอน ๓. นักเรียนศึกษาความหมาย ความสาคัญ แนวคิดและหลักการของสิทธิมนุษยชน จากหนังสือ เรยี น หนังสือเพมิ่ เตมิ และหอ้ งสมุด ๔. นักเรยี นจับค่ชู ว่ ยกนั ทาใบงานที่ ๓.๑ เรื่อง แนวคิดและหลักการของสิทธิมนุษยชน จากน้ันครู สุม่ ๒-๓ คู่ ใหอ้ อกมานาเสนอคาตอบของค่ตู วั เองหน้าช้นั เรยี น ๕. นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น ๓ กลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มศึกษาบทบาทขององค์กรระหว่างประเทศ ในเวทีโลกที่มีผลต่อประเทศไทย จากนั้นครูแจกกรณีตัวอย่างกลุ่มละ ๑ ตัวอย่างแล้วให้นักเรียน วเิ คราะห์ว่าการรบั มือของประเทศไทยนน้ั เป็นอยา่ งไร แลว้ ได้รับผลกระทบอะไรบ้าง ๖. นักเรียนส่งตัวแทนออกมานาเสนองานของกลุ่มตัวเองหน้าช้ันเรียน แล้วให้กลุ่มที่เหลือถาม คาถามกลุม่ ละ ๒ คาถาม ข้ันสรปุ ๗. ครแู ละนกั เรยี นชว่ ยกนั สรปุ ความสาคัญของสิทธิมนุษยชน พร้อมเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถาม ในประเด็นทนี่ กั เรียนสงสยั หรือไมเ่ ข้าใจ

๘. สอื่ การเรยี นการสอน / แหลง่ เรียนรู้ ๘.๑ ส่ือการเรียนการสอน ๑) แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๓ เรอื่ ง ความสาคญั ของสิทธมิ นษุ ยชน ๒) หนังสอื เรียนหน้าที่พลเมอื ง ม.๕ ๓) หนงั สือเพิม่ เตมิ ๘.๒ แหล่งเรียนรู้ ๑) หอ้ งสมุด ๙. การวัดผลและประเมินผล วธิ กี าร เครอ่ื งมอื เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ย แบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยการ ประเมนิ ตามสภาพจริง การเรยี นรทู้ ่ี ๓ เรยี นรูท้ ี่ ๓ ตรวจใบงานท่ี ๓.๑ ใบงานที่ ๓.๑ รอ้ ยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ ประเมินการนาเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ ระดับคุณภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตความสามารถในการคิด แบบประเมินสมรรถนะสาคญั ของ ระดับคุณภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ วเิ คราะห์ นักเรยี น สังเกตความมีวนิ ัย ใฝุเรยี นรู้ และ แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ระดบั คุณภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ ม่งุ มั่นในการทางาน ประสงค์ ๑๐. จุดเน้นของโรงเรยี น การบูรณาการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและกิจกรรมสวนพฤกษศาสตร์ โรงเรยี นปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ปรชั ญาเศรษฐกิจ ครู ผูเ้ รยี น พอเพยี ง พอดีดา้ นเทคโนโลยี พอดดี า้ นจติ ใจ ความพอประมาณ รู้ จั ก ใช้เทคโ น โ ลยีมาผลิตส่ือ ท่ี มี จิ ต ส า นึ ก ท่ี ดี เ อ้ื อ อ า ท ร เหมาะสมและสอดคล้องเน้ือหาเป็น ประนีประ นอม นึกถึงประโยชน์ ประโยชน์ต่อผู้เรียนและพัฒนาจากภูมิ ส่วนรวม/กลมุ่ ปัญญาของผู้เรยี น

ความมเี หตุผล - ยึดถือการประกอบอาชีพด้วย ไม่หยุดน่ิงท่ีหาหนทางในชีวิต หลุด มภี ูมคิ มุ้ กันในตวั ทีด่ ี ความถกู ตอ้ ง สุจรติ แม้จะตกอยู่ในภาวะ พ้นจากความทุกข์ยาก (การค้นหา เงื่อนไขความรู้ เงื่อนไขคณุ ธรรม ขาดแคลน ในการดารงชวี ิต คาตอบเพอื่ ใหห้ ลุดพ้นจากความไมร่ ู้) - ปฏิบัติตนในแนวทางที่ดี ลด เลิก ส่ิงยั่วกิเลสให้หมดส้ินไป ไม่ก่อความช่ัว ให้เป็นเครื่องทาลายตัวเอง ทาลายผู้อื่น พยายามเพิ่มพูนรักษาความดี ที่มีอยู่ให้ งอกงามสมบรู ณย์ งิ่ ข้ึน ภูมิปญั ญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ ภูมิปัญญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ ระมัดระวัง ระมดั ระวงั สรา้ งสรรค์ ภมู ธิ รรม : ซื่อสัตย์ สุจริต ขยนั อดทน ภูมิธรรม : ซื่อสัตย์ สุจริต ขยันอดทน ตรงต่อเวลาและแบ่งปนั ตรงตอ่ เวลา เสยี สละและแบง่ ปนั ความรอบรู้ เรื่องพระรัตนตรัยท่ี ความรอบรู้ เรอ่ื งพระรตั นตรัยกรณี เก่ียวข้องรอบด้าน ความรอบคอบท่ีจะ ที่เกิดงาน ปริมาณท่ีเกี่ยวข้อง การ นาคว ามรู้เหล่านั้นมาพิ จารณาให้ คานวณสูตรท่ีต้องใช้ สามารถนา เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผน ความร้เู หลา่ นน้ั มาพจิ ารณาให้เชื่อมโยง การดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กั น ส า ม า ร ถ ป ร ะ ยุ ก ต์ ใ ช้ ใ น ให้กบั ผู้เรียน ชวี ิตประจาวัน มีความตระหนกั ใน คุณธรรม มี มีความตระหนักในคุณธรรม มี ความซ่อื สตั ย์สุจรติ และมีความอดทน มี ความซ่ือสัตย์สุจริตและมีความอดทน ความเพียร ใช้สตปิ ญั ญาในการดาเนนิ มีความเพียร ใช้สติปัญญาในการ ชวี ิต ดาเนินชีวติ กิจกรรม ครู ผเู้ รยี น สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน โครงสร้างและหน้าที่ของต้นไม้ ต้นไม้ท่พี ระพุทธเจ้าประสตู ิ ตรัสรู้ โครงสร้างและหนา้ ที่ของต้นไม้ - ส่วนต่างๆของต้นไมม้ ี - อธิบายโครงสร้างและ ปรินิพพาน โครงสรา้ งและหนา้ ทแ่ี ตกต่าง หนา้ ทข่ี องตน้ ไม้ - ระบุชนิดของต้นไม้พร้อมกับ กัน โ ค ร ง ส ร้ า ง แ ล ะ ห น้ า ท่ี ข อ ง ตน้ ไม้

๑๑. ข้อเสนอแนะ □ ใชส้ อนได้ □ ควรปรับปรุง......................................................................................................................... .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ความคดิ เหน็ อ่นื ๆ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................. ลงช่ือ………..………….......………….……… (นายนิกร ไชยบุตร) ครูพีเ่ ลย้ี ง วันท.ี่ .......เดอื น....................พ.ศ. ๒๕๖๒

๑๒. บนั ทกึ หลังการจัดการเรียนรู้ ๑๒.๑) ผลท่เี กดิ ขนึ้ กับนกั เรียน ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี ๕ ด้านความรู้ จานวนนักเรยี นที่ผา่ นเกณฑ.์ .....................คน คิดเป็นร้อยละ................... จานวนนักเรยี นที่ไมผ่ า่ นเกณฑ.์ .................คน คิดเป็นรอ้ ยละ................... ด้านทกั ษะกระบวนการ จานวนนักเรยี นที่ผ่านเกณฑ.์ .....................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ................... จานวนนักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ.์ .................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ................... ดา้ นคุณลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ จานวนนักเรยี นที่ผา่ นเกณฑ.์ .....................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ................... จานวนนกั เรียนที่ไม่ผา่ นเกณฑ.์ .................คน คิดเป็นร้อยละ................... ด้านสมรรถนะผู้เรยี น จานวนนกั เรยี นทีผ่ ่านเกณฑ.์ .....................คน คดิ เป็นร้อยละ................... จานวนนกั เรียนทไ่ี ม่ผ่านเกณฑ์..................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ................... ๑๒.๒) ปญั หาและอปุ สรรค ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ๑๒.๓) แนวทางการแก้ปญั หา ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ (ลงช่อื )……………………………….…………… (นางสาวณฐั ธกิ า นวลหอม) ผูส้ อน วนั ท.ี่ .......เดือน....................พ.ศ. ๒๕๖๒

๑๓. ความเห็นของหัวหน้ากลมุ่ สาระ/สายชั้น ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ (ลงชื่อ)……………………………….…………… (นายนิกร ไชยบตุ ร) หัวหน้ากล่มุ สาระ/สายชนั้ วนั ท่ี........เดือน....................พ.ศ. ๒๕๖๒ ๑๔. ความเห็นของฝา่ ยวิชาการ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ (ลงช่ือ)……………………………….…………… (นางสาวรตั ติกาล ยศสุข) หัวหน้าฝาุ ยวชิ าการ วนั ท.่ี .......เดอื น....................พ.ศ. ๒๕๖๒ ๑๕. ความเห็นของผู้อานวยการโรงเรยี น ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ (ลงชอ่ื )……………………………….…………… (นางวลิ าวลั ย์ ปาลี) ผู้อานวยการโรงเรยี น วนั ที่........เดือน....................พ.ศ. ๒๕๖๒

ใบงานที่ 3.1 เรอ่ื ง แนวคดิ และหลกั การของสิทธมิ นษุ ยชน คาช้แี จง ให้นกั เรียนศึกษากรณตี วั อย่าง และตอบคาถามตามประเดน็ ทก่ี าหนดให้ กรณตี ัวอย่างที่ 1 เรื่อง น้องบอล...เด็กเรร่ อ่ น ตารวจไดร้ บั แจง้ จากปาู สายใจวา่ พบเดก็ ชายบอล อายุประมาณ 6 ปี เร่ร่อนขอทานอยู่ในซอยของตน ตอนกลางคืนอาศัยแผงในตลาดใชเ้ ปน็ ทนี่ อน ปาู สายใจเกรงวา่ จะไม่ปลอดภยั จงึ ใหก้ ารชว่ ยเหลือหาอาหารและ พาไปอาบน้าเปล่ยี นเสือ้ ผา้ และใหอ้ าศัยอยดู่ ว้ ย ปูาสายใจพยายามสอบถามเด็กชายบอล ได้ความว่า เร่ร่อนมา 3 เดอื นแลว้ โดยพ่อแม่เสียชีวิต ปูาสายใจสงสารจึงแจ้งความกับตารวจเพื่อขออุปการะเด็กให้ถูกต้องและส่ง เสยี ให้เรยี นหนังสอื ในโรงเรียนใกลบ้ า้ น เดก็ ชายบอลเรียนไมเ่ ก่งนกั แตม่ คี วามสามารถในการเลน่ ฟตุ บอล ต่อมาเป็นนักกีฬาของโรงเรียนและได้สร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนอย่างมาก หลังจากเรียนจบช้ัน มัธยมศึกษาปีที่ 6 บอลได้รับการคัดเลือกให้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนาของประเทศในโควตานักกีฬา สมาคมกีฬาแห่งหนึ่งสนใจในความสามารถของบอลจึงให้การสนับสนุนส่งบอลไปฝึกฝนกับสโมสรฟุตบอลใน ยโุ รป และได้ลงแขง่ ขนั ฟุตบอลนานาชาตหิ ลายครั้ง จนไดร้ บั การยกย่องเปน็ นักฟตุ บอลดเี ดน่ คาถาม ขอ้ ความใดที่แสดงวา่ บอล มีสทิ ธิในเร่ืองต่อไปนี้ สิทธิในชีวิต สทิ ธใิ นการยอมรบั นบั ถอื สิทธิในการดาเนินชีวติ และพฒั นาตนเอง .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ...............................................................................................................................................................................

กรณีตวั อย่างท่ี 2 เร่ือง กรกับแก้ว...ลกู ชาวนา ทห่ี มูบ่ ้านแหง่ หน่งึ ในจงั หวดั รอ้ ยเอ็ด มีครอบครัวหนึง่ เป็นชาวนา ฐานะไม่ดีนัก แต่มีความขยันท้ังสามี และภรรยา พอหมดหนา้ นาก็เข้ามาหางานทาในกรงุ เทพเกบ็ หอมรอมริบหาเงินส่งลูก 2 คน เรียนหนังสือและ จะส่งให้เรียนถงึ มหาวิทยาลัย ลูกท้ัง 2 คน ชื่อ กรกับแก้ว แม้จะหัวไม่ดีมาก แต่ก็ขยันหม่ันเพียรเอาใจใส่การ เรียน และได้รับทุนจากจังหวัดเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย โดยก รเลือกเรียนแพทย์และแก้วเลือกเรียน เศรษฐศาสตร์ พอปิดเทอมทั้ง 2 คน ก็หางานพเิ ศษทาจนเรยี นจบ กรได้เป็นแพทย์ในโรงพยาบาลของรัฐตามที่ วาดฝนั ไว้ มรี ายไดท้ ่ีม่นั คง สว่ นแก้วรวมตัวกับเพ่ือนเปิดบริษัทเก่ียวกับเสือ้ ผ้าสาเรจ็ รปู ทง้ั กรและแก้วขอร้องให้ พอ่ แม่เลกิ ทางานแตพ่ อ่ แมบ่ อกว่าไม่อยากอย่เู ฉยๆ จงึ เปิดรา้ นขายของชาเล็กๆ ในหมบู่ ้าน คาถาม จากกรณีตัวอย่าง กร แก้ว และพ่อแม่ได้ดาเนินชีวิตในสังคมตามหลักสิทธิมนุษยชนในเรื่องใด จง อธบิ ายพร้อมยกตวั อย่างประกอบ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. ...............................................................................................................................................................................

เฉลยใบงานท่ี 3.1 เรื่อง แนวคิดและหลักการของสิทธมิ นษุ ยชน คาชีแ้ จง ให้นักเรยี นศึกษากรณีตัวอยา่ ง และตอบคาถามตามประเด็นทก่ี าหนดให้ กรณีตวั อย่างท่ี 1 เร่อื ง น้องบอล...เดก็ เรร่ ่อน ตารวจได้รับแจง้ จากปูาสายใจวา่ พบเดก็ ชายบอล อายปุ ระมาณ 6 ปี เร่ร่อนขอทานอยู่ในซอยของตน ตอนกลางคนื อาศยั แผงในตลาดใชเ้ ปน็ ทีน่ อน ปูาสายใจเกรงวา่ จะไม่ปลอดภัยจงึ ให้การช่วยเหลือหาอาหารและ พาไปอาบน้าเปลี่ยนเสอื้ ผา้ และให้อาศยั อยดู่ ้วย ปูาสายใจพยายามสอบถามเด็กชายบอล ได้ความว่า เร่ร่อนมา 3 เดือนแล้ว โดยพ่อแม่เสียชีวิต ปูาสายใจสงสารจึงแจ้งความกับตารวจเพ่ือขออุปการะเด็กให้ถูกต้องและส่ง เสยี ใหเ้ รียนหนงั สอื ในโรงเรียนใกลบ้ า้ น เดก็ ชายบอลเรยี นไม่เกง่ นกั แต่มีความสามารถในการเลน่ ฟตุ บอล ต่อมาเป็นนักกีฬาของโรงเรียนและได้สร้างช่ือเสียงให้กับโรงเรียนอย่างมาก หลังจากเรียนจบชั้น มัธยมศึกษาปีท่ี 6 บอลได้รับการคัดเลือกให้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยช้ันนาของประเทศในโควตานักกีฬา สมาคมกีฬาแห่งหนึ่งสนใจในความสามารถของบอลจึงให้การสนับสนุนส่งบอลไปฝึกฝนกับสโมสรฟุตบอลใน ยโุ รป และได้ลงแข่งขนั ฟตุ บอลนานาชาติหลายครงั้ จนได้รบั การยกยอ่ งเปน็ นกั ฟุตบอลดีเด่น คาถาม ขอ้ ความใดที่แสดงวา่ บอล มสี ิทธิในเร่ืองต่อไปนี้ สิทธิในชวี ติ สิทธใิ นการยอมรับนบั ถอื สทิ ธิในการดาเนนิ ชีวติ และพัฒนาตนเอง .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. (หมายเหตุ พิจารณาตามคาตอบของนกั เรียน โดยใหอ้ ย่ใู นดลุ ยพินิจของครูผู้สอน)

กรณีตวั อย่างที่ 2 เร่อื ง กรกบั แก้ว...ลูกชาวนา ทีห่ มบู่ ้านแห่งหนงึ่ ในจงั หวัดร้อยเอด็ มีครอบครัวหนง่ึ เป็นชาวนา ฐานะไม่ดีนัก แต่มีความขยันท้ังสามี และภรรยา พอหมดหนา้ นาก็เขา้ มาหางานทาในกรงุ เทพเก็บหอมรอมริบหาเงินส่งลูก 2 คน เรียนหนังสือและ จะสง่ ให้เรียนถงึ มหาวิทยาลัย ลูกท้ัง 2 คน ชื่อ กรกับแก้ว แม้จะหัวไม่ดีมาก แต่ก็ขยันหม่ันเพียรเอาใจใส่การ เรียน และได้รับทุนจากจังหวัดเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย โดยก รเลือกเรียนแพทย์และแก้วเลือกเรียน เศรษฐศาสตร์ พอปดิ เทอมทั้ง 2 คน กห็ างานพเิ ศษทาจนเรียนจบ กรได้เป็นแพทย์ในโรงพยาบาลของรัฐตามท่ี วาดฝันไว้ มรี ายได้ท่มี นั่ คง ส่วนแกว้ รวมตวั กับเพื่อนเปิดบริษัทเกีย่ วกับเสอ้ื ผ้าสาเรจ็ รูป ท้ังกรและแกว้ ขอร้องให้ พ่อแม่เลิกทางานแต่พอ่ แมบ่ อกว่าไม่อยากอยูเ่ ฉยๆ จึงเปดิ ร้านขายของชาเลก็ ๆ ในหมบู่ า้ น คาถาม จากกรณีตัวอย่าง กร แก้ว และพ่อแม่ได้ดาเนินชีวิตในสังคมตามหลักสิทธิมนุษยชนในเร่ืองใด จง อธบิ ายพรอ้ มยกตวั อยา่ งประกอบ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. (หมายเหตุ พิจารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยให้อยู่ในดลุ ยพนิ ิจของครผู ู้สอน)

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๒ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๕ หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๓ สทิ ธิมนษุ ยชน เรือ่ ง สาระสาคญั ของปฏิญญาสากล ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ เวลาเรยี น ๒ ชวั่ โมง/สปั ดาห์ หนว่ ยกิต ๑ (นน./นก.) ผู้สอน นางสาวณฐั ธกิ า นวลหอม โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ เวลา ๒ ชัว่ โมง ๑. สาระสาคัญ สิทธิมนุษยชนเป็นสิทธิพ้ืนฐานที่ทุกคนมีอยู่ในฐานะที่เกิดมาเป็นมนุษย์ ซ่ึงเป็นไปตาม หลักการของสทิ ธิมนุษยชนตามปฏญิ ญาสากลว่าด้วยสทิ ธมิ นุษยชนแหง่ สหประชาชาติ ๒. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชี้วัดชนั้ ป/ี ผลการเรียนร้/ู เป้าหมายการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ ส ๒.๑ เข้าใจและปฏบิ ัติตนตามหนา้ ท่ขี องการเป็นพลเมอื งดี มีค่านยิ มท่ีดีงาม และธารงรักษา ประเพณแี ละวฒั นธรรมไทย ดารงชีวติ อยรู่ ว่ มกันในสงั คมไทยและสังคมโลกอยา่ งสนั ตสิ ขุ ตัวชีว้ ดั ชนั้ ปี/ผลการเรียนรู้ ส ๒.๑ ม.๔-๖/๔ ประเมินสถานการณส์ ิทธมิ นษุ ยชนในประเทศไทยและเสนอแนวทางพฒั นา ๓. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๓.๑ ดา้ นความรู้ : Knowledge - วเิ คราะห์ความสาคญั ของปฏญิ ญาสากลวา่ ด้วยสทิ ธมิ นษุ ยชนแห่งสหประชาชาตไิ ด้ ๓.๒ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ : Process มที กั ษะกระบวนการคดิ วิเคราะห์ ๓.๓ ด้านคณุ ลักษณะทีพ่ งึ ประสงค์ : Attitude มีความใฝุเรยี นรู้ และมีทัศนคติทดี่ ีต่อการศึกษารายวชิ าสังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๔. สมรรถนะสาคัญของนกั เรียน ๔.๑ ความสามารถในการในการคิด - ทักษะการวิเคราะห์ ๕. คณุ ลักษณะของวชิ า - ความรับผิดชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลุ่ม

๖. ช้ินงาน/ภาระงาน ๖.๑ ชน้ิ งาน ๑) ใบงานที่ ๓.๒ เร่อื ง ปฏิญญาสากลวา่ ดว้ ยสทิ ธิมนษุ ยชน ๖.๒ ภาระงาน ๑) นักเรยี นนาเสนอ ๗. กิจกรรมการเรียนรู้ ขัน้ นาเข้าสู่บทเรียน ๑. ครูสนทนาซักถามนักเรียนว่า นักเรียนเคยได้ยินคาว่าปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่ง สหประชาชาติไหม นกั เรียนคดิ วา่ มนั คืออะไร แล้วมันเกีย่ วข้องกับเราไหม ๒. ครูอธบิ ายคาตอบนักเรียนเพ่ือเชื่อมโยงเข้าสเู่ นือ้ หา ข้ันสอน ๓. นักเรียนจับคู่ช่วยกันทาใบงานที่ 3.2 เรื่อง ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน โดยศึกษา คน้ ควา้ จากหนงั สอื เรียน หนงั สอื เพิ่มเติม ใบความรู้และห้องสมดุ ๔. นกั เรยี นแตล่ ะคู่สง่ ตัวแทนออกมาจบั ฉลากเพือ่ นาเสนอคาตอบในใบงานหนา้ ชั้นเรยี น ขน้ั สรุป ๕. ครูและนกั เรียนชว่ ยกันสรุปสาระสาคัญของปฏิญญาสากล พร้อมเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถาม ในประเด็นทนี่ ักเรียนสงสัยหรอื ไม่เขา้ ใจ ๘. ส่อื การเรยี นการสอน / แหล่งเรียนรู้ ๘.๑ สื่อการเรยี นการสอน ๑) หนังสือเรยี นพระพุทธศาสนา ม.๕ ๒) หนงั สือเพ่มิ เตมิ ๓) ใบความรเู้ รอ่ื ง ปฏญิ ญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ๘.๒ แหลง่ เรยี นรู้ ๑) ห้องสมดุ

๙. การวัดผลและประเมินผล เครื่องมอื เกณฑ์ วธิ ีการ ใบงานที่ ๓.๒ ร้อยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์ ตรวจใบงานที่ ๓.๒ ประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบประเมินการนาเสนอผลงาน ระดับคณุ ภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทางานกลุม่ สงั เกตความสามารถในการคิด แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ ระดับคณุ ภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ วเิ คราะห์ สงั เกตความใฝเุ รียนรู้ แบบประเมินสมรรถนะสาคัญของ ระดบั คณุ ภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ นกั เรียน แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ระดบั คุณภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ ประสงค์ ๑๐. จดุ เน้นของโรงเรยี น การบรู ณาการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและกิจกรรมสวนพฤกษศาสตร์ โรงเรยี นปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง ปรัชญาเศรษฐกิจ ครู ผู้เรียน พอเพียง พอดีด้านเทคโนโลยี พอดีดา้ นจิตใจ ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล รู้จักใช้เทคโนโลยีมาผลิตส่ือที่เหมาะสม มี จิ ต ส า นึ ก ท่ี ดี เ อื้ อ อ า ท ร มีภูมคิ มุ้ กันในตัวทด่ี ี และสอดคล้องเนื้อหาเป็นประโยชน์ต่อ ประนีประนอม นึกถึงประโยชน์ ผู้เรยี นและพัฒนาจากภูมิปัญญาของผเู้ รยี น สว่ นรวม/กล่มุ - ยึดถือการประกอบอาชีพด้วยความ ไม่หยุดน่ิงที่หาหนทางในชีวิต ถูกต้อง สุจริต แม้จะตกอยู่ในภาวะขาด หลุดพ้นจากความทุกข์ยาก (การ แคลน ในการดารงชวี ิต ค้นหาคาตอบเพ่ือให้หลุดพ้นจาก - ปฏิบัติตนในแนวทางท่ีดี ลด เลิก สิ่ง ความไมร่ ู้) ยั่วกิเลสให้หมดสิ้นไป ไม่ก่อความชั่วให้เป็น เคร่ืองทาลายตัวเอง ทาลายผู้อื่น พยายาม เพิ่มพูนรักษาความดี ท่ีมีอยู่ให้งอกงาม สมบรู ณย์ ่ิงข้นึ ภมู ปิ ญั ญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ ภูมิปัญญา : มีความรู้ รอบคอบ ระมดั ระวงั และ ภูมธิ รรม : ซื่อสตั ย์ สุจริต ขยันอดทน ระมดั ระวัง สรา้ งสรรค์ ตรงต่อเวลาและแบง่ ปนั ภูมิธรรม : ซื่อสัตย์ สุจริต ขยัน อดทน ตรงต่อเวลา เสียสละและ แบ่งปัน

เง่ือนไขความรู้ ความรอบรู้ เร่ืองพระรัตนตรัยท่ี ความรอบรู้ เร่อื งพระรตั นตรัยกรณี เงอ่ื นไขคุณธรรม เก่ียวข้องรอบด้าน ความรอบคอบที่จะ ท่ีเกิดงาน ปริมาณที่เก่ียวข้อง การ นาคว ามรู้เหล่านั้นมาพิ จารณาให้ คานวณสูตรที่ต้องใช้ สามารถนา เช่ือมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผน ความรเู้ หลา่ น้นั มาพจิ ารณาให้เชื่อมโยง การดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กั น ส า ม า ร ถ ป ร ะ ยุ ก ต์ ใ ช้ ใ น ให้กับผูเ้ รียน ชีวิตประจาวนั มคี วามตระหนกั ใน คุณธรรม มี มีความตระหนักในคุณธรรม มี ความซอื่ สตั ยส์ ุจรติ และมีความอดทน มี ความซ่ือสัตย์สุจริตและมีความอดทน ความเพยี ร ใช้สตปิ ญั ญาในการดาเนิน มีความเพียร ใช้สติปัญญาในการ ชีวติ ดาเนนิ ชีวติ กิจกรรม ครู ผู้เรยี น สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน โครงสร้างและหนา้ ทข่ี องตน้ ไม้ ตน้ ไมท้ พ่ี ระพุทธเจา้ ประสตู ิ ตรัสรู้ โครงสรา้ งและหนา้ ท่ีของตน้ ไม้ - ส่วนตา่ งๆของต้นไม้มี - อธิบายโครงสร้างและ ปรนิ พิ พาน โครงสร้างและหนา้ ท่แี ตกตา่ ง หน้าที่ของต้นไม้ - ระบุชนิดของต้นไม้พร้อมกับ กัน โ ค ร ง ส ร้ า ง แ ล ะ ห น้ า ท่ี ข อ ง ตน้ ไม้

๑๑. ขอ้ เสนอแนะ □ ใชส้ อนได้ □ ควรปรับปรุง......................................................................................................................... .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ความคดิ เหน็ อ่นื ๆ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................. ลงชอื่ ………..………….......………….……… (นายนกิ ร ไชยบุตร) ครพู ี่เล้ียง วันท.่ี .......เดอื น....................พ.ศ. ๒๕๖๒

๑๒. บันทกึ หลงั การจดั การเรยี นรู้ ๑๒.๑) ผลทเ่ี กิดข้ึนกบั นกั เรยี น ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๕ ดา้ นความรู้ จานวนนกั เรียนทีผ่ า่ นเกณฑ์......................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ................... จานวนนกั เรยี นทไ่ี ม่ผ่านเกณฑ.์ .................คน คดิ เปน็ ร้อยละ................... ด้านทกั ษะกระบวนการ จานวนนกั เรียนท่ีผา่ นเกณฑ.์ .....................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ................... จานวนนกั เรยี นทีไ่ ม่ผา่ นเกณฑ.์ .................คน คิดเปน็ ร้อยละ................... ด้านคุณลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ จานวนนกั เรยี นทผี่ ่านเกณฑ์......................คน คดิ เป็นร้อยละ................... จานวนนกั เรียนทีไ่ มผ่ ่านเกณฑ.์ .................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ................... ด้านสมรรถนะผูเ้ รียน จานวนนักเรียนท่ีผา่ นเกณฑ.์ .....................คน คดิ เปน็ ร้อยละ................... จานวนนกั เรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์..................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ................... ๑๒.๒) ปัญหาและอปุ สรรค ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ๑๒.๓) แนวทางการแก้ปัญหา ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ (ลงชอื่ )……………………………….…………… (นางสาวณัฐธิกา นวลหอม) ผสู้ อน วนั ที.่ .......เดือน....................พ.ศ. ๒๕๖๒

๑๓. ความเหน็ ของหัวหน้ากลุ่มสาระ/สายชนั้ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ (ลงชื่อ)……………………………….…………… (นายนกิ ร ไชยบตุ ร) หวั หน้ากลุม่ สาระ/สายชัน้ วันท.่ี .......เดอื น....................พ.ศ. ๒๕๖๒ ๑๔. ความเหน็ ของฝา่ ยวชิ าการ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ (ลงชอ่ื )……………………………….…………… (นางสาวรตั ติกาล ยศสุข) หัวหน้าฝุายวชิ าการ วันท.่ี .......เดอื น....................พ.ศ. ๒๕๖๒ ๑๕. ความเห็นของผู้อานวยการโรงเรยี น ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ (ลงชือ่ )……………………………….…………… (นางวลิ าวลั ย์ ปาลี) ผู้อานวยการโรงเรยี น วนั ที.่ .......เดือน....................พ.ศ. ๒๕๖๒

ใบความรู้ เรอื่ ง ปฏญิ ญาสากลวา่ ดว้ ยสทิ ธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ องค์การสหประชาชาติได้ริเริ่มจัดทาปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน โดยท่ีประชุมสมัชชาแห่ง สหประชาชาตไิ ดใ้ หก้ ารรบั รองเม่ือวันที่ 10 ธนั วาคม พ.ศ. 2491 และไดก้ าหนดให้วันท่ี 10 ธันวาคม ของทุกปี เป็น “วนั สิทธิมนษุ ยชนแห่งโลก” ปฏญิ ญาฉบับนี้ไดว้ างมาตรฐานสากลของการดาเนินงานเร่ืองสิทธิมนุษยชน เพอ่ื ให้เป็นแนวทางใหป้ ระเทศตา่ งๆ นาไปปฏิบัติให้เกิดผลและมีประสิทธิภาพ สาหรับสิทธิตามปฏิญญาสากล แห่งสหประชาชาติ จาแนกออกเปน็ ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้ 1. สิทธิของพลเมือง และสทิ ธทิ างการเมอื ง (Civil and Political Rights) 2. สิทธิทางเศรษฐกจิ สังคม และวัฒนธรรม (Economic Social and Cultural Rights) ประเทศไทยเป็นประเทศหน่ึงท่ีได้ร่วมรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ และเพ่อื ให้ความคุ้มครองสิทธมิ นษุ ยชนได้ผลตามเจตนารมณข์ องปฏญิ ญา จงึ ไดบ้ ัญญัติเรอื่ งสิทธมิ นุษยชนไว้ใน รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 และจัดตั้งองค์กรที่เก่ียวข้องทาหน้าท่ีติดตาม และ คมุ้ ครองสทิ ธิมนษุ ยชนไวอ้ ย่างชัดเจน หลักปฏญิ ญาสากลวา่ ดว้ ยสทิ ธิมนุษยชน มีดงั น้ี (1) มนุษย์ทุกๆ คนเกิดมามีอิสระและเสมอภาคกันในศักด์ิศรีและสิทธิ ต่างก็มีเหตุผลและมโนธรรม และควรปฏิบัตติ ่อกันดว้ ยเจตนารมณ์แห่งภราดรภาพ (2) ทุกๆ คนมีสิทธแิ ละเสรภี าพ ไมม่ กี ารบง่ แยก เชอื้ ชาติ ผวิ เพศ ภาษา ศาสนา ความคิดเห็นทางการ เมอื งหรอื ทางอื่น เผา่ พันธุ์แหง่ ชาตหิ รอื สังคม ทรัพยส์ ิน ชาตกิ าเนดิ หรอื สถานะอื่นใด (3) บคุ คลมีสทิ ธิในการดารงชีวิตในเสรธี รรม และในความมั่นคงแหง่ รา่ งกาย (4) เสรภี าพทีจ่ ะไม่ตกเปน็ ทาส และการค้าทาสจะมไี ม่ได้ในทกุ รปู แบบ (5) บคุ คลจะถกู ทรมานหรือลงโทษด้วยวธิ ีการโหดรา้ ยผิดมนุษยธรรมหรือต่าชา้ มิได้ (6) สิทธิบคุ คลตามกฎหมาย (7) ทุกคนเสมอกันในกฎหมายและมีสิทธทิ ่จี ะไดร้ บั ความคมุ้ ครองตามกฎหมายเท่าเทียมกนั (8) สทิ ธทิ จ่ี ะได้รับการดูแล ในกรณที ีถ่ ูกละเมิดสิทธิขั้นพืน้ ฐาน (9) บคุ คลจะถูกจบั กุม กกั ขัง หรือถูกเนรเทศไปตา่ งถิน่ โดยพลการมไิ ด้ (10) สทิ ธโิ ดยเสมอภาคเต็มที่ในอนั ที่จะได้รบั การพิจารณาท่เี ป็นธรรมจากศาลทอ่ี ิสระและเทยี่ งธรรม (11) ทกุ คนท่ีถูกกล่าวหาว่ากระทาผิดทางอาญามีสทิ ธิจะไดร้ บั การสันนิษฐานไว้ก่อนว่าบริสุทธ์ิจนกว่า จะพิสูจน์ไดว้ า่ มคี วามผิดตามกฎหมายในการพิจารณาเปิดเผย (12) เสรีภาพในความเป็นอยสู่ ่วนตวั ในครอบครัว เคหสถาน และในการส่อื สาร (13) สทิ ธใิ นการเคลอ่ื นยา้ ยและการเลือกสถานท่ีอยู่ภายในของเขตของรฐั มสี ิทธจิ ะออกจากประเทศ ใดๆ และกลบั คนื ส่บู ้านเกิดเมืองนอน (14) สิทธทิ ี่จะแสวงหาและอาศยั พานักในประเทศอ่ืน เพ่ือลี้ภัยจากการประหัตประหาร (แต่ต้องเป็น กรณีการดาเนนิ คดีท่ีเกย่ี วกบั การเมือง) (15) สิทธใิ นการถือสญั ชาติ

(16) สิทธิในการจัดต้ังครอบครัว โดยปราศจากข้อจากดั เกีย่ วกับเชือ้ ชาติ สญั ชาติ ศาสนา โดยมีสทิ ธิ เทา่ เทียมกนั ในการสมรส การสมรสจะกระทากนั ด้วยความยนิ ยอมโดยอสิ ระตามเจตนาของคสู่ มรส (17) สิทธใิ นการเปน็ เจา้ ของทรัพยส์ นิ (18) สทิ ธใิ นการนับถอื ศาสนา (19) สิทธิในการแสดงความคดิ เห็นและแสดงออก (20) สิทธิในการชุมนุมโดยสงบ (21) สิทธิในการมสี ่วนรว่ มในรฐั บาลของตน จะเป็นทางตรงหรือผา่ นทางผ้แู ทน ซึง่ เลือกตง้ั โดยอิสระ (22) สทิ ธิเทา่ เทียมกนั ทางสงั คม เศรษฐกจิ และวัฒนธรรม (23) สิทธิในการประกอบอาชพี โดยอิสระและมีสิทธิทจ่ี ะได้รับคา่ จ้างท่ียตุ ิธรรม และมีสทิ ธิในการจัดต้ัง และเข้ารว่ มสหภาพแรงงานเพ่ือความคุ้มครองแห่งผลประโยชนข์ องตน (24) สทิ ธิในการพักผอ่ นและเวลาว่าง (25) สิทธิในมาตรฐานการครองชีพอันเพียงพอสาหรับสุขภาพและความเป็นอยู่ท่ีดีของตนและ ครอบครวั รวมทั้งอาหาร เครื่องนงุ่ ห่ม ที่อยอู่ าศยั การดแู ลรกั ษาทางการแพทย์ บริการทางสังคมท่ีจาเป็น และ มีสิทธิในความมั่นคงยามว่างงาน เจ็บปุวย พิการ เป็นม่าย วัยชรา หรือขาดอาชีพ มารดาและเด็กจะมีสิทธิ ได้รบั การดูแลรกั ษาและการช่วยเหลอื เป็นพเิ ศษ (26) สิทธิในการรับการศึกษาข้ันพื้นฐานท่ีรัฐจะต้องจัดให้อย่างท่ัวถึงและมีคุณภาพโดยไม่เก็บ คา่ ใชจ้ า่ ย (27) สิทธทิ างวฒั นธรรมและทรัพย์สินทางปญั ญา (28) สิทธิทางสังคมทัง้ ในประเทศและระหวา่ งประเทศ (29) สทิ ธแิ ละอสิ รภาพแหง่ ตนตามกฎหมาย (30) รฐั หมคู่ น หรอื บคุ คลไม่มสี ทิ ธิดาเนนิ การใด ๆ อนั มุง่ ตอ่ การทาลายสทิ ธแิ ละเสรีภาพ ความรเู้ ก่ียวกับปฏิญญาสากลของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ มีความสาคัญต่อสิทธิมนุษยชนข้ัน พื้นฐาน จึงมีความจาเป็นที่จะต้องส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจ เห็นความสาคัญของหลักสิทธิ มนุษยชน และได้มีสว่ นรว่ มในการคมุ้ ครองสิทธิมนษุ ยชนและปอู งกนั การกระทาทเี่ ป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ซ่งึ จะมีผลกระทบต่อการดาเนนิ ชีวิตในสังคมไทย และสงั คมโลก บทบัญญตั ิรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 เกี่ยวกบั สทิ ธมิ นษุ ยชน รัฐธรรมนูญฉบับนี้นับว่ามีบทบัญญัติที่ส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนอย่างดีย่ิง มีขอบเขต กว้างขวางทันสมัยกว่าทุกฉบับท่ีผ่านมา มีเนื้อหาสาระสอดคล้องกับมาตรฐานสากลของสหประชาชาติที่ กาหนดไวใ้ นปฏิญญาสากลวา่ ดว้ ยสทิ ธิมนุษยชน บทบัญญตั ขิ องรัฐธรรมนูญฯ ได้คุ้มครองสทิ ธใิ หมๆ่ หลายประการ ไดแ้ ก่  การคุม้ ครองศักด์ศิ รีความเป็นมนษุ ย์  การหา้ มเลือกปฏบิ ตั ิต่อคนทุกรูปแบบ  การหา้ มเซ็นเซอรห์ รอื ปดิ โรงพิมพ์ สถานวี ทิ ยุและสถานีโทรทัศน์  การรับรองเสรภี าพทางวชิ าการ การศกึ ษา อบรม การเรยี น การสอน การวิจัย ฯลฯ

 สิทธิเสมอกันในการรับการศึกษาข้ันพื้นฐานไม่น้อยกว่า 12 ปี ที่รัฐจะต้องจัดให้อย่าง ทั่วถึง และมีคุณภาพโดยไมเ่ ก็บคา่ ใชจ้ า่ ย  สทิ ธขิ องชมุ ชนท้องถิ่นดั้งเดมิ ยอ่ มมีการอนรุ กั ษห์ รอื ฟืน้ ฟจู ารตี ประเพณี ฯลฯ  สิทธิของเด็ก เยาวชนและบุคคลในครอบครัว มีสิทธิท่ีจะได้รับการคุ้มครองโดยรัฐจาก การใชค้ วามรุนแรง สิทธคิ นชราและคนพกิ ารมสี ทิ ธิไดร้ บั ความช่วยเหลือจากรฐั  สทิ ธิของบุคคลที่จะมสี ว่ นรว่ มกบั รฐั และชมุ ชนในการบารุงรกั ษาและการไดป้ ระโยชน์จาก ทรัพยากรธรรมชาติ ฯลฯ  สิทธใิ นการได้รับความคุ้มครองผู้บริโภค  สิทธิในการรบั ข้อมลู ขา่ วสารทางราชการ  สิทธิในการทาประชาพิจารณ์  สิทธิในการต่อต้านโดยสันติวิธีซึ่งการกระทาใดๆ ที่เป็นไปเพื่อให้ได้มาซ่ึงอานาจในการ ปกครองประเทศ โดยวธิ กี ารซึง่ มไิ ดเ้ ป็นไปตามวิถที างท่บี ัญญตั ไิ วใ้ นรฐั ธรรมนญู  การค้มุ ครองสิทธิผตู้ ้องหาหรือจาเลยในเรื่องการประกันตัวและสิทธิท่ีจะพบหรือปรึกษา ทนายความเป็นการเฉพาะตวั  สิทธิที่ผู้ต้องหาหรือจาเลยในคดีอาญาจะได้รับการสอบสวนหรือพิจารณาคดีด้วยความ รวดเร็ว ต่อเน่ืองและเปน็ ธรรม  สิทธทิ ีผ่ ตู้ อ้ งหาหรือจาเลยในคดอี าญามีสิทธิให้ทนายความหรือผู้ซึ่งตนไว้วางใจเข้ารับฟัง การสอบปากคาตนในชั้นสอบสวนได้  สทิ ธขิ องพยานในคดอี าญามสี ิทธไิ ด้รับการค้มุ ครองจากรฐั  สิทธิของผู้เสียหายในคดีอาญา มีสิทธิได้รับความคุ้มครอง การปฏิบัติที่เหมาะสมและ ค่าตอบแทนท่จี าเป็นและสมควรจากรัฐ  สิทธิของจาเลยในคดีอาญาและถูกคุมขังระหวา่ งการพิจารณาคดีท่ีจะได้รับค่าชดเชยจาก รฐั หากต่อมาศาลมีคาพิพากษาถงึ ท่สี ดุ ว่ามิได้กระทาความผิดหรือการกระทาของจาเลย ไมเ่ ป็นความผดิ องคก์ รทเ่ี กีย่ วขอ้ งกับสทิ ธิมนษุ ยชน รฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย พทุ ธศักราช 2550 ได้มีบทบัญญัติจัดต้ังองค์กรท่ีมีความเก่ียวข้อง กับการตดิ ตาม ตรวจสอบ ส่งเสรมิ และคมุ้ ครองสิทธมิ นษุ ยชนท้งั ทางตรงและทางอ้อมดงั นี้ 1. องคก์ รที่มีอานาจหน้าที่ส่งเสริมและความคุ้มครองสิทธิมนุษยชนโดยตรง ได้แก่ “คณะกรรมการ สทิ ธิมนุษยชนแห่งชาติ” ซงึ่ มีองคป์ ระกอบขององค์กรและอานาจหนา้ ที่ ดังนี้ 1.1 องคป์ ระกอบของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหง่ ชาติ (1) ใหม้ ีคณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชนแห่งชาติ ประกอบดว้ ย ประธานกรรมการคนหนึ่ง และกรรมการอ่ืนอีกสิบคน ซ่ึงมีพระมหากษัตริย์ทรงแต่งต้ังตามคาแนะนาของวุฒิสภา จากผู้ซ่ึงมีความรู้หรือ ประสบการณ์ด้านการค้มุ ครองสิทธเิ สรภี าพของประชาชนเป็นทปี่ ระจกั ษ์ ท้ังนี้ โดยต้องคานึงถึงการมีส่วนร่วม ของผแู้ ทนจากองคก์ รเอกชนดา้ นสิทธิมนุษยชนดว้ ย (2) ใหป้ ระธานวุฒิสภาลงนามรับรองสนองพระบรมราช โองการแตง่ ตั้งประธานกรรมการและกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชนแห่งชาติ

ใบงานท่ี ๓.๒ เร่อื ง ปฏญิ ญาสากลว่าดว้ ยสิทธิมนุษยชน คาช้ีแจง ให้นักเรียนอา่ นกรณีศกึ ษาแล้ววเิ คราะหป์ ระเภทของสิทธเิ สรภี าพ และความสอดคล้องกับกฎหมาย กรณศี ึกษา ประเภทของสทิ ธิเสรภี าพ สอดคล้องกบั กฎหมาย ๑. การฆา่ ลา้ งเผา่ พนั ธุ์ชาวเขมรของ พวกเขมรแดง ๒. บรษิ ทั แห่งหน่ึงไมร่ ับพนกั งานทเ่ี ป็น โปลิโอ โดยอา้ งวา่ เปน็ คนพกิ าร ประสิทธิภาพในการทางานไม่เท่าคน ปกติ ๓. สานกั งานตารวจแห่งชาติเตือน นกั ข่าวห้ามเสนอข่าวทางลบของ รฐั บาล ๔. เจ้าหนา้ ท่ีปาุ ไม้บงั คบั ให้ชาวเขา ย้ายออกไปอย่ทู ีพ่ ้นื ราบ เพราะจะ ประกาศเป็นเขตปุาสงวน ๕. หนงั สอื พิมพล์ งภาพข่าวผูห้ ญงิ ถกู ขม่ ขืนและนาเสนอข่าวการถกู ขม่ ขืน อยา่ งละเอยี ด ๖. รฐั บาลออกกฎหมายใหม้ พี รรค การเมอื งของรัฐบาลเพยี งพรรคเดียว ๗. รฐั บาลสร้างเขือ่ นโดยไมใ่ หส้ ิทธิ ประชาชนในการรับรู้ข่าวสาร ๘. ตารวจซอ้ มผตู้ ้องหาให้รบั สารภาพ ๙. นายสชุ าติ ชาวบรุ ีรัมย์ มาทางาน เปน็ กรรมกรกอ่ สรา้ งในกรงุ เทพฯ ได้ ค่าจ้างวันละ ๑๕๐ บาท ๑๐. ชาวกะเหรยี่ งถอื ผี จัดพิธีเคารพ เจดีย์ เจา้ ปุาเจ้าเขา แต่ถกู เจา้ หน้าท่ี ปาุ ไม้สงั่ ห้าม

เฉลยใบงานที่ 3.2 เรอ่ื ง ปฏญิ ญาสากลว่าด้วยสิทธมิ นุษยชน คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนอา่ นกรณีศกึ ษาแล้ววเิ คราะหป์ ระเภทของสิทธิเสรีภาพ และความสอดคล้องกบั กฎหมาย กรณีศกึ ษา ประเภทของสทิ ธิเสรภี าพ สอดคลอ้ งกับกฎหมาย ๑. การฆ่าล้างเผ่าพนั ธ์ุชาวเขมรของ ละเมดิ ศกั ด์ิศรีของความเป็น ปฏญิ ญาสากลว่าดว้ ยสิทธิ พวกเขมรแดง มนุษยแ์ ละสทิ ธิในชวี ิต มนุษยชน ข้อ ๑ และขอ้ ๓ ๒. บรษิ ัทแหง่ หนงึ่ ไมร่ บั พนกั งานที่ ละเมดิ หลกั ความเสมอภาคและ ปฏญิ ญา ฯ ขอ้ ๒ เปน็ โปลิโอ โดยอา้ งวา่ เป็นคนพิการ การเลอื กปฏิบตั ิ รฐั ธรรมนูญ ม.๓๐ ประสทิ ธภิ าพในการทางานไมเ่ ท่าคน ปกติ ๓. สานักงานตารวจแหง่ ชาติเตือน เสรีภาพในการแสดงความ ปฏญิ ญา ฯ ข้อ ๑๙ นกั ข่าวห้ามเสนอข่าวทางลบของ คิดเหน็ และเสรีภาพของ รฐั ธรรมนูญ ม.๓๙ รัฐบาล สอ่ื มวลชน ๔. เจา้ หนา้ ที่ปาุ ไมบ้ ังคับให้ชาวเขา เสรีภาพในการเดนิ ทางและเลอื ก ปฏิญญา ฯ ข้อ ๑๓ ย้ายออกไปอยทู่ ่ีพื้นราบ เพราะจะ ถ่ินทอ่ี ยู่ รฐั ธรรมนญู ม.๓๖ ประกาศเป็นเขตปุาสงวน ๕. หนงั สือพมิ พ์ลงภาพขา่ วผู้หญงิ ถกู เสรภี าพในเกียรติยศ ชือ่ เสยี ง ปฏิญญา ฯ ขอ้ ๑๒ ขม่ ขืนและนาเสนอขา่ วการถูกข่มขืน และความเปน็ สว่ นตัว รฐั ธรรมนญู ม.๓๔ อย่างละเอียด ๖. รฐั บาลออกกฎหมายให้มีพรรค สิทธิเสรภี าพทางการเมอื ง ปฏญิ ญา ฯ ขอ้ ๒๐ การเมืองของรฐั บาลเพียงพรรคเดียว รัฐธรรมนญู ม.๔๗ ๗. รัฐบาลสร้างเขือ่ นโดยไมใ่ หส้ ิทธิ สิทธิที่จะรูข้ อ้ มูลข่าวสาร รฐั ธรรมนูญ ม.๕๗ ประชาชนในการรบั รู้ข่าวสาร ๘. ตารวจซ้อมผ้ตู อ้ งหาให้รับ สิทธใิ นชวี ติ และรา่ งกาย หา้ ม ปฏิญญา ฯ ข้อ ๕ สารภาพ ทรมาน รัฐธรรมนญู ม.๓๑ 9. นายสุชาติ ชาวบรุ รี ัมย์ มาทางาน สทิ ธใิ นการมีงานทาและได้คา่ จ้าง ปฏญิ ญา ฯ ข้อ 23 เปน็ กรรมกรกอ่ สร้างในกรงุ เทพฯ ได้ ท่ียุติธรรม คา่ จา้ งวนั ละ 150 บาท ๑๐. ชาวกะเหร่ียงถือผี จดั พิธเี คารพ สิทธิในการนับถือศาสนา และ ปฏิญญา ฯ ข้อ ๑๘ , ๒๗ เจดยี ์ เจ้าปุาเจ้าเขา แต่ถกู เจา้ หนา้ ที่ สทิ ธใิ นการดาเนนิ กิจกรรมทาง ปาุ ไม้สง่ั หา้ ม วฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๓ กล่มุ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๕ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๓ สทิ ธิมนุษยชน เรอ่ื ง บทบัญญตั แิ ละปญั หาสทิ ธิมนษุ ยชนในประเทศ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๒ เวลาเรียน ๒ ชั่วโมง/สัปดาห์ หน่วยกิต ๑ (นน./นก.) ผู้สอน นางสาวณฐั ธิกา นวลหอม โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ เวลา ๒ ช่วั โมง ๑. สาระสาคัญ รฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย มบี ทบญั ญตั ิเก่ยี วกบั สทิ ธิมนษุ ยชนซึ่งเป็นไปตามความ รว่ มมือระหวา่ งองค์กรระหว่างประเทศ ส่วนปัญหาสทิ ธิมนุษยชนที่เกดิ ขึน้ ในประเทศไทยน้นั เปน็ สิ่งท่ี ชาวไทยทกุ คนต้องร่วมมือกนั ปอู งกนั แก้ไขและช่วยกันหาแนวทางพฒั นา ๒. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวช้ีวัดชนั้ ป/ี ผลการเรียนรู/้ เป้าหมายการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ ส ๒.๑ เข้าใจและปฏบิ ตั ติ นตามหนา้ ทข่ี องการเป็นพลเมืองดี มีค่านยิ มที่ดงี าม และธารงรักษา ประเพณแี ละวฒั นธรรมไทย ดารงชวี ิตอยูร่ ่วมกันในสงั คมไทยและสงั คมโลกอย่างสนั ติสุข ตัวชี้วัดช้นั ปี/ผลการเรยี นรู้ ส ๒.๑ ม.๔-๖/๔ ประเมินสถานการณ์สิทธิมนษุ ยชนในประเทศไทยและเสนอแนวทางพฒั นา ๓. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๓.๑ ด้านความรู้ : Knowledge - วิเคราะห์บทบัญญตั ขิ องรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทยเกย่ี วกับสทิ ธิมนษุ ยชนได้ - วิเคราะห์ปัญหา เสนอแนวทางแก้ไขและพฒั นาสิทธิมนุษยชนในประเทศได้ ๓.๒ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ : Process มีทักษะกระบวนการทางานกลุ่ม ๓.๓ ด้านคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ : Attitude มีความมุ่งม่ันในการทางาน และมีทัศนคติที่ดีต่อการศึกษารายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและ วฒั นธรรม ๔. สมรรถนะสาคัญของนกั เรียน ความสามารถในการแกไ้ ขปญั หา

๕. คุณลกั ษณะของวิชา - ความรบั ผิดชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลุ่ม ๖. ชิน้ งาน/ภาระงาน ๖.๑ ชนิ้ งาน ๑) ใบงานท่ี ๓.๓ เร่อื ง บทบญั ญัติของรฐั ธรรมนญู 2550 ทีเ่ กี่ยวกบั สิทธมิ นษุ ยชน ๒) ใบงานท่ี ๓.๔ เรอื่ ง เปลอื ยชวี ติ ชาวโรฮงิ ญากบั ชีวติ ท่มี ากกว่าคาว่า โหดรา้ ย ๖.๒ ภาระงาน ๑) นกั เรยี นทากิจกรรมกลุ่ม ๒) นกั เรียนนาเสนอ ๗. กิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นนาเขา้ สูบ่ ทเรยี น ช่ัวโมงที่ ๑ เรอื่ ง บทบัญญัติเกีย่ วกบั สทิ ธิมนษุ ยชน ขัน้ นาเข้าสบู่ ทเรยี น ๑. ครถู ามนักเรียนว่าสิทธิ เสรีภาพทมี่ นุษย์ควรไดร้ บั ต้ังแตเ่ กดิ จนตาย มีอะไรบ้าง นักเรียนอธิบาย พร้อมบอกเหตผุ ลประกอบ ๒. ครูอธิบายคาตอบนักเรยี นเพอื่ เช่อื มโยงเขา้ สู่เนอ้ื หา ขน้ั สอน ๓. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๕ – ๗ คน ค้นคว้าความรู้เร่ือง สิทธิมนุษยชนชาวไทย จากหนังสือ เรียน หนังสือค้นคว้าเพ่ิมเติม หรือจากแหล่งข้อมูลสารสนเทศ และช่วยกันทาใบงานที่ ๓.๓ เร่ือง บทบญั ญัติของรฐั ธรรมนูญ ๒๕๕๐ ที่เกยี่ วกับสิทธมิ นษุ ยชน ๔. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ออกมานาเสนอผลงานท่ีหน้าชั้นเรียน และให้นักเรียนกลุ่มอ่ืนช่วยกันแสดง ความคิดเห็นเพม่ิ เตมิ ขั้นสรปุ ๕. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเก่ียวกับ ประโยชน์ของการได้รับสิทธิในทุกๆ ด้านและให้นักเรียน รว่ มกนั พจิ ารณาแนวทางในการรณรงคใ์ ห้ความร้เู กี่ยวกบั สิทธมิ นษุ ยชน ช่ัวโมงท่ี ๒ เร่อื ง ปัญหาสทิ ธมิ นุษยชนในประเทศ และแนวทางแก้ไขและพฒั นา ขนั้ นาเข้าสบู่ ทเรียน ๑. ครูนาภาพข่าวต่อไปนี้ให้นักเรียนวิเคราะห์แล้วตอบคาถามครูว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการ ละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่ เพราะเหตใุ ด ๒. ครูเช่ือมโยงให้นักเรียนเข้าใจถึงวิกฤติการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศต่างๆ ในโลก ยังคงมีอยู่ แม้ว่าคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ซ่ึงมีหน้าที่ติดตาม ตรวจสอบ

ให้คาแนะนาแกป่ ระเทศตา่ งๆ แต่ไมส่ ามารถทาไดเ้ ตม็ ที่ เพราะขาดความร่วมมือจากบางประเทศหรือ บุคคลบางกลุ่ม ข้ันสอน ๓. นักเรยี นรวมกลุ่มเดมิ ศกึ ษาข้อมูลความรู้เก่ียวกับปัญหาสิทธิมนุษยชนในประเทศ และแนวทาง แก้ไขและพัฒนา จากหนังสอื เรยี น หนงั สอื ค้นควา้ เพิ่มเตมิ หรอื จากแหล่งข้อมูลสารสนเทศ ตามความ เหมาะสม ๔. นักเรยี นแต่ละกลุ่มนาข้อมลู ท่ีไดศ้ ึกษาคน้ ควา้ มาเปน็ พ้ืนฐานการวเิ คราะห์สถานการณ์ ตามหัวข้อ ในกรณีตวั อยา่ ง ในใบงานท่ี ๓.๔ เร่ือง เปลอื ยชีวติ ชาวโรฮิงญากับชวี ติ ท่มี ากกวา่ คาวา่ โหดร้าย ๕. นักเรียนส่งตวั แทนกล่มุ ออกมานาเสนอผลงานตอ่ ชัน้ เรียน และให้กลมุ่ อื่นเสนอแนะเพม่ิ เติมใน ประเด็นทแ่ี ตกตา่ งกันออกไป ข้นั สรปุ ๖. ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปข้อคิดท่ีได้จากการวิเคราะห์กรณีตัวอย่าง และแนวทางการนาไป ปฏบิ ตั ิตนต่อชาวต่างชาติทเ่ี ขา้ มาท่องเทีย่ วหรือประกอบอาชพี โดยไม่มีการเลอื กปฏิบัติจึงทาให้ประเทศ ไทยของเราไมม่ คี วามขัดแย้งกบั ประเทศต่างๆ ๘. ส่อื การเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้ ๘.๑ สอ่ื การเรยี นการสอน ๑) หนงั สือเรียน พระพทุ ธศาสนา ม.๕ ๒) หนงั สือเพิ่มเตมิ ๘.๒ แหลง่ เรยี นรู้ ๑) แหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ - http://hilight.kappok.com/view/33433 ๙. การวัดผลและประเมนิ ผล วธิ กี าร เครอ่ื งมอื เกณฑ์ ตรวจใบงานที่ ๓.๓ ตรวจใบงานท่ี ๓.๔ ใบงานที่ ๓.๓ รอ้ ยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ ประเมินการนาเสนอผลงาน สงั เกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ใบงานที่ ๓.๔ ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ สงั เกตความสามารถในการแกไ้ ข ปญั หา แบบประเมินการนาเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ สงั เกตความมุ่งมั่นในการทางาน แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลุม่ ระดบั คณุ ภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ แบบประเมนิ สมรรถนะสาคัญของ ระดับคณุ ภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ นักเรยี น แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ระดับคณุ ภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ ประสงค์

๑๐. จุดเนน้ ของโรงเรียน การบูรณาการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและกิจกรรมสวนพฤกษศาสตร์ โรงเรียนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ปรัชญาเศรษฐกจิ ครู ผูเ้ รียน พอเพยี ง พอดดี า้ นเทคโนโลยี พอดดี า้ นจิตใจ ความพอประมาณ ความมเี หตุผล รู้จักใช้เทคโนโลยีมาผลิตสื่อท่ีเหมาะสม มี จิ ต ส า นึ ก ท่ี ดี เ อ้ื อ อ า ท ร มีภมู คิ มุ้ กันในตัวทด่ี ี และสอดคล้องเนื้อหาเป็นประโยชน์ต่อ ประนีประนอม นึกถึงประโยชน์ เง่ือนไขความรู้ ผู้เรียนและพัฒนาจากภูมปิ ญั ญาของผเู้ รียน สว่ นรวม/กลมุ่ เงอ่ื นไขคุณธรรม - ยึดถือการประกอบอาชีพด้วยความ ไม่หยุดน่ิงที่หาหนทางในชีวิต ถูกต้อง สุจริต แม้จะตกอยู่ในภาวะขาด หลุดพ้นจากความทุกข์ยาก (การ แคลน ในการดารงชีวิต ค้นหาคาตอบเพ่ือให้หลุดพ้นจาก - ปฏิบัติตนในแนวทางที่ดี ลด เลิก สิ่ง ความไมร่ ู)้ ย่ัวกิเลสให้หมดส้ินไป ไม่ก่อความช่ัวให้เป็น เคร่ืองทาลายตัวเอง ทาลายผู้อ่ืน พยายาม เพิ่มพูนรักษาความดี ที่มีอยู่ให้งอกงาม สมบรู ณ์ยงิ่ ขนึ้ ภูมปิ ัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ภูมิปัญญา : มีความรู้ รอบคอบ ระมดั ระวัง และ ภูมธิ รรม : ซื่อสัตย์ สุจริต ขยนั อดทน ระมดั ระวงั สรา้ งสรรค์ ตรงต่อเวลาและแบง่ ปัน ภูมิธรรม : ซ่ือสัตย์ สุจริต ขยัน อดทน ตรงต่อเวลา เสียสละและ แบง่ ปนั ความร อบรู้ เรื่ อง พ ระ รัตนตรัย ท่ี ความรอบรู้ เรื่องพระรัตนตรัย เกี่ยวข้องรอบด้าน ความรอบคอบท่ีจะนา กรณีท่ีเกิดงาน ปริมาณที่เกี่ยวข้อง ความรู้เหล่าน้ันมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน การคานวณสูตรที่ต้องใช้ สามารถ เพ่อื ประกอบการวางแผน การดาเนินการจัด นาความรู้เหล่าน้ันมาพิจารณาให้ กิจกรรมการเรียนรใู้ หก้ บั ผ้เู รียน เชื่อมโยงกัน สามารถประยุกต์ใช้ใน ชีวติ ประจาวัน มคี วามตระหนกั ใน คุณธรรม มคี วาม มีความตระหนักในคุณธรรม มี ซือ่ สัตย์สุจริตและมีความอดทน มีความ ความซื่อสัตย์สุจริตและมีความ เพยี ร ใชส้ ตปิ ัญญาในการดาเนนิ ชีวติ อดทน มีความเพียร ใช้สติปัญญา ในการดาเนนิ ชีวิต

กิจกรรม ครู ผเู้ รยี น สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น โครงสร้างและหนา้ ทีข่ องต้นไม้ ต้นไม้ทีพ่ ระพุทธเจา้ ประสตู ิ ตรัสรู้ โครงสร้างและหน้าที่ของตน้ ไม้ - สว่ นตา่ งๆของต้นไม้มี - อธิบายโครงสร้างและ ปรนิ พิ พาน โครงสร้างและหน้าที่แตกตา่ ง หนา้ ท่ีของต้นไม้ - ระบุชนิดของต้นไม้พร้อมกับ กนั โ ค ร ง ส ร้ า ง แ ล ะ ห น้ า ที่ ข อ ง ต้นไม้

๑๑. ข้อเสนอแนะ □ ใช้สอนได้ □ ควรปรบั ปรุง......................................................................................................................... .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ความคิดเหน็ อืน่ ๆ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................. ลงชอื่ ………..………….......………….……… (นายนกิ ร ไชยบุตร) ครพู ี่เลยี้ ง วนั ท่.ี .......เดือน....................พ.ศ. ๒๕๖๒

๑๒. บันทึกหลังการจดั การเรยี นรู้ ๑๒.๑) ผลท่เี กิดข้นึ กับนักเรยี น ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๕ ดา้ นความรู้ จานวนนกั เรียนทผ่ี ่านเกณฑ.์ .....................คน คิดเป็นรอ้ ยละ................... จานวนนกั เรียนทไ่ี ม่ผา่ นเกณฑ์..................คน คิดเป็นรอ้ ยละ................... ดา้ นทกั ษะกระบวนการ จานวนนกั เรยี นท่ีผา่ นเกณฑ์......................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ................... จานวนนกั เรยี นทไ่ี ม่ผ่านเกณฑ์..................คน คดิ เป็นร้อยละ................... ด้านคุณลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ จานวนนกั เรียนทผ่ี ่านเกณฑ.์ .....................คน คิดเป็นรอ้ ยละ................... จานวนนักเรยี นทีไ่ มผ่ ่านเกณฑ.์ .................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ................... ดา้ นสมรรถนะผเู้ รียน จานวนนักเรียนทผ่ี ่านเกณฑ.์ .....................คน คิดเป็นร้อยละ................... จานวนนกั เรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์..................คน คดิ เป็นร้อยละ................... ๑๒.๒) ปญั หาและอปุ สรรค ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ๑๒.๓) แนวทางการแกป้ ญั หา ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ (ลงช่ือ)……………………………….…………… (นางสาวณัฐธกิ า นวลหอม) ผู้สอน วนั ท่ี........เดอื น....................พ.ศ. ๒๕๖๒

๑๓. ความเห็นของหวั หน้ากล่มุ สาระ/สายชนั้ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ (ลงช่ือ)……………………………….…………… (นายนกิ ร ไชยบุตร) หวั หนา้ กลมุ่ สาระ/สายชัน้ วนั ท.่ี .......เดือน....................พ.ศ. ๒๕๖๒ ๑๔. ความเหน็ ของฝา่ ยวิชาการ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ (ลงชอ่ื )……………………………….…………… (นางสาวรัตตกิ าล ยศสุข) หัวหน้าฝุายวิชาการ วันท.่ี .......เดือน....................พ.ศ. ๒๕๖๒ ๑๕. ความเหน็ ของผูอ้ านวยการโรงเรยี น ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ (ลงชื่อ)……………………………….…………… (นางวิลาวลั ย์ ปาลี) ผู้อานวยการโรงเรียน วนั ที่........เดือน....................พ.ศ. ๒๕๖๒

ใบงานท่ี 3.3 เรือ่ ง บทบัญญตั ิของรัฐธรรมนูญ 2550 ท่ีเกยี่ วกับสิทธิมนุษยชน คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นศกึ ษาสทิ ธิของปวงชนชาวไทยตามรฐั ธรรมนญู แลว้ พิจารณาวา่ สิทธใิ ดมีความสอดคลอ้ ง กบั สทิ ธมิ นุษยชน และเกิดผลตอ่ การพฒั นาคณุ ภาพชีวติ อย่างไร ลาดบั ท่ี สิทธิตามรฐั ธรรมนญู สทิ ธิตามปฏิญญาสากล ผลตอ่ การพัฒนาคณุ ภาพชีวติ

เฉลยใบงานที่ 3.3 เรอ่ื ง บทบญั ญตั ิของรฐั ธรรมนูญ 2550 ทีเ่ กีย่ วกับสทิ ธมิ นุษยชน คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นศึกษาสทิ ธขิ องปวงชนชาวไทยตามรัฐธรรมนูญ แลว้ พิจารณาว่า สทิ ธิใดมีความสอดคลอ้ ง กับสทิ ธมิ นษุ ยชน และเกดิ ผลต่อการพัฒนาคณุ ภาพชีวติ อย่างไร ลาดับที่ สทิ ธิตามรัฐธรรมนญู สทิ ธิตามปฏญิ ญาสากล ผลต่อการพัฒนาคุณภาพชวี ติ ตวั อยา่ ง สิทธิ สทิ ธใิ นการเดินทาง ไดร้ บั ประสบการณ์และความรู้ (ขอ้ 13) ได้แลกเปล่ียนวัฒนธรรม และพัฒนา ศกั ยภาพดา้ นตา่ งๆ (หมายเหตุ พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน)

ใบงานท่ี 3.4 เร่อื ง เปลือยชวี ติ ชาวโรฮงิ ญากับชวี ติ ทม่ี ากกวา่ คาว่า โหดรา้ ย คาชแี้ จง ให้นักเรยี นอา่ นกรณีศกึ ษา แล้วตอบคาถามตามประเด็นทก่ี าหนดให้ เปลือยชีวิตชาวโรฮิงญากบั ชวี ิตทีม่ ากกว่าคาว่า โหดรา้ ย เปลือยชีวติ ชาวโรฮิงญากับชีวิตท่มี ากกวา่ คาวา่ โหดร้าย (คมชดั ลกึ ) “อย่ทู ี่รัฐอาระกนั ก็เหมือนรอคอยความตาย สู้บากหน้ามาหาความหวังใหมด่ กี วา่ ” “โรฮิงญา” ชนกลุ่มน้อยในประเทศพม่า เชื้อสายอาระกัน เอ่ยปากเล่าถึงชีวิตท่ีสุดแสนจะโหดร้าย ของพวกเขา ในเขตพนื้ ท่ีจังหวดั หม่องดอ และจังหวัดสดิ อ ในรฐั อาระกัน ประเทศพม่า มามุต ฮดุ เซน็ อายุ 50 ปี เลา่ ถงึ ครอบครัวของเขาทีจ่ ังหวดั หม่องดอ ทางตอนเหนือของประเทศพม่า ติดกับประเทศบังกลาเทศ ว่ามีเมีย 1 คน ลูกชาย 1 คน ผู้หญิง 3 คน มีอาชีพทานา ซึ่งเป็นอาชีพหลักของ ชาวโรฮงิ ญาในย่านดงั กล่าว “ลาบากมากๆ” มามุตบ่น เน่ืองจากบางวันแทบจะไม่มีอะไรกินเลย เพราะความ ยากจน และยงั ถกู กล่นั แกลง้ จากทหารพม่า ท่ีมักจะเข้ามาในหมู่บ้าน เก็บเกี่ยวผลผลิตของชาวบ้านไปหน้าตา เฉย ใครขัดขนื กจ็ ะโดนเฆ่ยี นด้วยหวาย หรือบางรายถึงขน้ั โดนฆ่าทิ้งก็มีให้เห็นบ่อยๆ เมื่อใครไปขายของได้เงิน แลว้ หากทหารพม่ารู้ ก็จะเขา้ มาถามกอ่ นทจ่ี ะแยง่ เงินเหล่าน้ันไปทันที “ไม่มีสภาพความเป็นคน หรือเป็นมนุษย์เลย พวกเราอยู่อย่างไร้อนาคต โดนกดดันจากทหารพม่า ตลอดเวลา ไมส่ ามารถเดินทางไปไหนมาไหน โดยเฉพาะการเดนิ ทางขา้ มเขตท่ีไม่สามารถทาได้เลย จะเดินทาง ไปมาได้ก็ในเฉพาะจังหวัดที่ต้ังถ่ินฐานอยู่เท่าน้ัน เพราะหากออกนอกพื้นท่ีไม่เฉพาะทหารพม่าท่ีคอยจับจ้อง ชาวพม่าก็ไม่ชอบข้ีหน้าพวกเรา และบ่อยคร้ังที่พวกเราโดนทาร้ายร่างกายโดยชาวพม่า หรือโดนดูถูกเหยียด หยาม ถ่มนา้ ลายใส่กม็ ี” ฮามิด ดูซัน ชายหนุ่มอาระกัน วัย 19 ปี กล่าวว่า พวกเรายากจนมาก ซ้าร้ายโดนกล่ันแกล้ง ตลอดเวลา ออกไปสมัครงานท่ีไหนก็ไม่ได้ เนื่องจากเป็นชนกลุ่มน้อย ทั้งยังเป็นชนกลุ่มท่ีรัฐบาลพม่ารังเกียจ มากที่สุด ถึงขั้นไม่ยอมรับว่ามีพวกเราอยู่ในประเทศ พวกเราไม่มีสิทธิอะไรเลย ทั้งที่ดิน การศึกษา การ รกั ษาพยาบาล “นอ้ ยใจครับ ผมเกิดในจงั หวดั หม่องดอ รฐั อาระกัน ซึง่ ตัง้ อยู่ในประเทศพม่า แม้ว่าผมจะมีเชื้อสายบังกลาเทศ แต่การท่ีเกิดท่ีรัฐอาระกัน ก็มีความรักและความผูกพันต่อแผ่นดินเกิด แต่แผ่นดินที่ผมเกิดกลับไม่ต้อนรับผม ผมไม่เขา้ ใจครับ โดยเฉพาะการตงั้ ข้อรงั เกยี จตอ่ พวกเราของรฐั บาลทหารพม่า” ฮามิด เล่าอีกว่า ชาวโรฮิงญา แม้ว่าจะมีประวัติศาสตร์ท่ีไม่ดีกับชาวพม่าสมัยรัฐบาลอังกฤษเป็นเจ้า อาณานิคมในย่านน้ี แต่หลังจากอังกฤษออกไปแล้ว พวกเราถือเป็นชนกลุ่มน้อยที่ไม่เคยต่อสู้ หรือเรียกร้อง อะไรจากรฐั บาลทหารพม่าเลย นอกจากเรียกร้องขอ “สิทธิความเป็นคน” ให้ทัดเทียมกับชาวพม่าทั่วไปแค่นี้ พวกเรากพ็ อใจแลว้ เชย ลี ฮัน ดา อายุ 25 ปี จากจังหวัดมุสิดอ กล่าวว่า ตอนที่โดนจับตัวอยู่ท่ี สภ. ปากน้า จ. ระนอง และได้รับอาหารจากตารวจไทย เช่ือไหมว่า เมื่อได้กินข้าวคาแรกน้าตาไหลออกมาทันที และหลายคนก็มี ความรู้สึกเชน่ เดยี วกัน คอื นอกจากจะซาบซึง้ ในนา้ ใจของคนไทยทตี่ ่างจากชาวพมา่ ท่โี ดนจับ และโดนทาร้ายที่ เกาะแห่งหนึ่งในพมา่ “พวกเราโดนควบคมุ ตวั ไวถ้ งึ 5 วัน ไม่ได้กินอะไรเลย’

ฮัน ดา เล่าขณะน้าตาคลอเบ้าว่า อีกเหตุผลท่ีทาให้น้าตาร่วง คือ คิดถึงลูกเมียที่บ้าน บ่อยครั้งที่พวก เราอดขา้ ว ไมม่ อี ะไรจะกิน บางครัง้ กนิ แคว่ นั ละมื้อ จะกนิ ครบ 3 ม้อื เชน่ คนทัว่ ไปกน็ อ้ ยเตม็ ที โดยเฉพาะหลาย คร้งั ทีต่ อ้ งอด เนื่องจากต้องการให้ลกู เมยี อิ่มก่อน สว่ นเราผชู้ ายอดทนได้ “ทกุ คนรักบา้ นเกดิ ครับ ไม่มีใครท่ีตอ้ งการดิ้นรน หรือด้ันด้นเดินทางออกจากบ้านเกิด มีแต่ทุกคนดิ้น รนท่ีจะอาศัยอยใู่ นบา้ นเกดิ หรอื ถิ่นฐานทต่ี นถือกาเนิด แต่จากความโหดร้ายท่ีพวกเราได้รับ มันสุดจะบรรยาย ใหเ้ ห็นหรอื ใหร้ บั รู้ได้ หากไม่เจอดว้ ยตนเอง ยากท่ีจะบรรยายจริงๆ ผมถามเพ่ือนๆ ถึงความรู้สึกตอนน้ี ทราบ ว่าทุกคนห่วงเมีย ห่วงลูกท่ีอยู่ท่ีรัฐอาระกัน โดยเฉพาะอาจจะถูกทาร้ายอีกหลังจากที่ทหารพม่าทราบว่าพวก เราหายตวั ไป” มามัด จอคิด อายุ 24 ปี จากจังหวัดมุสิดอ ซ่ึงยังนอนรักษาตัวอยู่ท่ีโรงพยาบาลระนอง หลังจากท่ี โดนทหารพมา่ ทารา้ ยจนได้รบั บาดเจบ็ สาหสั ขณะเรอื ทเ่ี ดนิ ทางกาลงั ลอยลาบริเวณจังหวัดมะริด ประเทศพม่า “ทันทที ่ีทกุ คนเหน็ ทหารพม่า ซงึ่ น่ังเรือรบมาท้ังหมด 4 ลา ล้อมรอบพวกเรา กลัวมากครับ เพราะทุกคนรู้ถึง กติ ติศพั ทค์ วามโหดรา้ ยของทหารพม่าเป็นอยา่ งดี” บางคนตัวส่ันเทาไปหมด และแล้วพวกเราก็ได้รับการทาทารุณกรรมจริงๆ ตั้งแต่ทหารพม่าลงมา ควบคมุ ตัว จะเตะ ต่อย ตบหน้า ถีบ จนกระทั่งนาตัวพวกเราไปยังเกาะแห่งหน่ึง ทุกคนจึงถูกลงโทษโบยด้วย แส้ จนไดร้ บั บาดเจบ็ และใชผ้ ้าพันชุบน้ามันจดุ ไฟเผามาลน ตนเองโชครา้ ยทสี่ ดุ เพราะเป็นแผลฉกรรจ์ที่ขา “เจ็บมากครับ แต่พวกเราทุกคนทนได้ เพราะความเจ็บปวดแค่น้ี เม่ือเทียบกับ ความโหดร้ายท่ีเราไดร้ บั อยู่ทุกวนั มันเทยี บกนั ไมไ่ ด้เลย” มามัด จอคิด เล่าต่อว่า หลังจากพวกเรานอนทนทุกข์ทรมานอยู่ถึง 4 เดือน 5 วัน ทหารพม่าจึง ปล่อยลงเรือ และให้เดินทางต่อจนถูกทหารไทยจับตัว “ทุกคนดีใจ กราบพระอัลเลาะห์ทันทีเห็นทหารไทย เพราะทกุ คนรูว้ ่ารอดแลว้ จากความรสู้ ึกในตอนนั้น” พวกเราไม่เคยคดิ ทจ่ี ะมาทาให้คนไทยยุ่งยาก เพียงแต่ไม่ รูว้ า่ จะไปไหน ทกุ ประเทศลว้ นรงั เกยี จพวกเรา “แม้ผมจะถกู ควบคมุ ตวั ในเมอื งไทย โดนจองจาในหอ้ งขงั ในเรือนจา หรอื ท่ีไหนๆ พวกเราดีใจ เพราะ นัน่ เป็นชวี ติ ทส่ี ุขสบายท่ีสุดท่ีได้พบเจอ ตอนนี้ผมนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลระนอง คุณรู้ไหม ความรู้สึก ผมเหมอื นอยูใ่ นโรงแรมชั้น 1 อยู่ห้องพักดีๆ ได้กินอาหารอิสลามท่ีอร่อยที่สุดในชีวิตของผม ท้ังๆ ที่ผมน่าจะ เปน็ ทุกข์กบั สภาพบาดแผลทผ่ี มได้รับ แต่ความรู้สึกเป็นสุขมันมีมากกว่าจริงๆครับ ผมอิจฉาคนไทยจริงๆ ที่ได้ เกิดมาบนผืนดินแห่งนี้ ผืนแผ่นดินท่ีมีแต่ความสุข ไม่เป็นผืนแผ่นดินท่ีมีแต่ความทุกข์เช่นผืนแผ่นดินของพวก ผม” มามัด จอคดิ กลา่ วในทสี่ ุด

1. โรฮิงญา หมายถงึ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. กรณีใดเปน็ การละเมิดสิทธมิ นษุ ยชนชาวโรฮิงญา ให้ยกตวั อยา่ งประกอบ หลกั การสิทธมิ นษุ ยชน ตัวอยา่ งการกระทา 1. สทิ ธิ (right) เชน่ สิทธิจะมชี วี ิตอย่รู อด และอยู่อยา่ ง สมเกยี รติ 2. เสรภี าพ (freedom) เช่น การแสดงความคดิ เหน็ การเลือกคู่ครอง การสร้างครอบครวั การประกอบ อาชีพ 3. ศักด์ศิ รีความเป็นมนุษย์ (human dignity) เชน่ คณุ ค่าความเปน็ คน ความเท่าเทยี มกัน 4. ความเสมอภาคและการเลือกปฏบิ ัติ (equality and diserimination) เช่น การปฏิบัติต่อกันฉันท์พีน่ ้อง ความเป็นธรรม

3. องค์กรระหว่างประเทศเกยี่ วกบั สทิ ธมิ นษุ ยชนทม่ี บี ทบาทให้ความคุ้มครอง ปกปอู ง ตรวจสอบ ช่วยเหลอื กรณีมีการละเมิด สิทธิมนษุ ยชนในประเทศต่างๆ ได้แก่องคก์ รใดบ้าง .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................

เฉลยใบงานท่ี 3.4 เรื่อง เปลอื ยชวี ิตชาวโรฮงิ ญากับชีวิตทีม่ ากกว่าคาว่า โหดร้าย คาชีแ้ จง ให้นักเรยี นอา่ นกรณศี ึกษา แลว้ ตอบคาถามตามประเด็นทกี่ าหนดให้ 1. โรฮงิ ญา หมายถงึ ชนกลุ่มน้อย เช้ือสายอาระกัน อาศัยอยู่ในพ้ืนที่จังหวัดหม่องดอและจังหวัดมุสิดอ ประเทศพม่า เดิมอาศยั อยู่ในพ้นื ทบ่ี ังกลาเทศ และรฐั บาลองั กฤษเกณฑใ์ ห้มาสู้รบกับพมา่ เพอ่ื ยดึ พม่าเป็นอาณานิคม 2. กรณีใดเป็นการละเมดิ สิทธิมนุษยชนชาวโรฮงิ ญา ใหย้ กตวั อยา่ งประกอบ หลักการสทิ ธมิ นุษยชน ตัวอยา่ งการกระทา 1. สิทธิ (right) เชน่ สทิ ธจิ ะมชี วี ิตอยรู่ อด และอยู่อย่าง โรฮิงญาถูกละเมดิ สิทธิหลายประการ เช่น จากดั ท่อี ยอู่ าศัย ขาดการศึกษา การรกั ษา - สมเกยี รติ พยาบาล อดอยาก ฯลฯ โรฮิงญาประกอบอาชีพทานา มีความ 2. เสรภี าพ (freedom) เช่น การแสดงความคดิ เหน็ ยากลาบาก และถูกเจ้าหน้าท่ีบังคับเอา การเลือกค่คู รอง การสร้างครอบครัว การประกอบ ผลผลิตไปการเดินทางข้ามเขตไม่สามารถทา อาชีพ ได้ ไปสมัครงานท่ีไหนไม่ได้เพราะเป็นชน กลุ่มนอ้ ย 3. ศักดศิ์ รีความเปน็ มนษุ ย์ (human dignity) เชน่ โรฮิงญาถูกเฆี่ยนหรือาจโดนฆ่าท้ิงเมื่อขัดขืน คุณค่า เจ้าหน้าท่ี และโดนทาร้ายร่างกายโดยชาว พม่า โดนดูถูกเหยียดหยามถม่ น้าลายใส่ ความเปน็ คน ความเท่าเทียมกัน 4. ความเสมอภาคและการเลอื กปฏิบัติ (equality and รั ฐ บ า ล พ ม่ า จ า กั ด สิ ท ธิ เ กื อ บ ทุ ก ด้ า น แ ก่ โรฮิงญา กระทาการทารุณโหดร้ายและ diserimination) เช่น การปฏิบตั ิต่อกันฉันทพ์ ่นี ้อง ปฏิบัติต่อชาวโรฮิงญาแตกต่างจากชาวพม่า ความเปน็ ธรรม ท่วั ไป 3. องค์กรระหว่างประเทศเก่ียวกับสิทธิมนุษยชนท่ีมีบทบาทให้ความคุ้มครอง ปกปูอง ตรวจสอบ ช่วยเหลือ กรณีมีการละเมดิ สทิ ธมิ นษุ ยชนในประเทศต่างๆ ไดแ้ ก่องคก์ รใดบ้าง 1) คณะมนตรสี ิทธมิ นษุ ยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRE) 2) สานักงานข้าหลวงใหญ่ผูล้ ี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHER) 3) องค์การแรงงานระหวา่ งประเทศ (ILO) 4) องค์การแอมเนสต้ี อนิ เตอร์เนช่ันแนล (AI)

ภาคผนวก

แบบประเมนิ ใบงาน/ใบกิจกรรม ชื่อ............................................................................................. ชั้น..............................เลขท่ี............................... คาชแ้ี จง การบันทกึ ใหก้ าเครือ่ งหมาย  ลงในช่องทีต่ รงกบั พฤติกรรมท่ีเกดิ ข้ึนจรงิ ลาดั พฤตกิ รรม ระดบั คะแนน บท่ี ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรุง (4) (3) (2) (1) 1 ความถกู ตอ้ งของเน้อื หา และความครบถ้วนของเนือ้ หา 2 ความรบั ผิดชอบ สง่ งานตรงเวลา 3 ความเป็นระเบยี บเรยี บรอ้ ยของงาน 4 ตรงตามจดุ ประสงค์ทีก่ าหนด รวม ข้อเสนอแนะ ลงช่ือ ผู้ประเมิน ) ( ครูผู้สอน / วนั เดอื น ปี ที่ประเมนิ /

แบบประเมินการนาเสนอผลงาน กลมุ่ ท่ี................ สมาชกิ ของกลุม่ 1 ..................................................................................................................................... 2 ..................................................................................................................................... 3 ..................................................................................................................................... 4 ..................................................................................................................................... ลาดับ รายการประเมนิ ดีมาก ระดับคะแนน ท่ี (4) ดี พอใช้ ปรับปรงุ (3) (2) (1) 1 การวางแผนการทางานและการเตรียมความพรอ้ ม ก่อนนาเสนอ 2 การนาเสนอเน้ือหาถูกต้อง มีความครบถ้วน ชัดเจน เขา้ ใจงา่ ย 3 ความร่วมมอื ในการทางานของสมาชกิ ในกลุ่ม 4 รปู แบบการนาเสนอมีความคดิ สร้างสรรค์ 5 นา้ เสยี งในการนาเสนอ เสยี งดงั ฟังชัด รวม ข้อเสนอแนะ ลงชื่อ ผู้ประเมนิ ) ( ครผู สู้ อน / วัน เดอื น ปี ทปี่ ระเมิน /

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ ชื่อ............................................................................................. ชั้น..............................เลขที่............................... คาชแี้ จง การบันทกึ ให้กาเครือ่ งหมาย  ลงในชอ่ งท่ตี รงกับพฤติกรรมท่ีเกดิ ขึน้ จรงิ ลาดับ รายการประเมิน คุณภาพการปฏิบัติ ท่ี ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรุง (3) (3) (2) (1) 1 สนใจการเรียนรู้ ขยนั ซื่อสัตย์ มีวนิ ัยในชัน้ เรียน และมี นา้ ใจตอ่ ผ้อู ื่น 2 ทักษะการคดิ และทกั ษะการทางานอยา่ งเชี่ยวชาญ 3 รบั ผิดชอบตอ่ การทางาน มีสว่ นรว่ มในการตอบคาถาม และรับฟงั ความคิดเห็นของผู้อน่ื 4 ทางานด้วยความเพยี รพยายาม และมีความถกู ต้องของ งาน รวม ข้อเสนอแนะ ลงชื่อ ผู้ประเมิน ) ( ครูผู้สอน / วนั เดือน ปี ท่ปี ระเมิน /

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรยี น เพื่อการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ดา้ นใฝเ่ รียนรู้ ชอ่ื ............................................................................................. ชั้น..............................เลขที่............................... คาชแ้ี จง การบันทกึ ใหก้ าเคร่ืองหมาย  ลงในช่องท่ตี รงกับพฤติกรรมทเี่ กิดข้นึ จรงิ ลาดับ พฤติกรรม ดีมาก ระดบั คะแนน ท่ี (4) ดี พอใช้ ปรับปรุง (3) (2) (1) 1 ตั้งใจเรียน 2 เอาใจใสใ่ นการเรียน และมคี วามเพียรพยายามใน การเรียน ศึกษาค้นคว้า หาความรู้จากหนังสอื เอกสาร ส่ิงพมิ พ์ 3 สอ่ื เทคโนโลยีต่างๆ แหลง่ การเรียนรู้ท้งั ภายในและ ภายนอกโรงเรียน และเลอื กใช้สอ่ื ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 4 บันทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ ตรวจสอบบางสง่ิ ท่เี รียนรู้ สรปุ เปน็ องค์ความรู้ 5 แลกเปล่ยี นความรู้ ดว้ ยวธิ ีการต่างๆ และนาไปใช้ใน ชีวิตประจาวัน รวม ขอ้ เสนอแนะ ลงชอ่ื ผู้ประเมิน ) ( ครูผ้สู อน / วนั เดอื น ปี ที่ประเมนิ /

แบบสังเกตพฤตกิ รรมนักเรยี น เพอ่ื การประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี นดา้ นความสามารถในการคดิ ชือ่ ............................................................................................. ชั้น..............................เลขที่............................... คาช้ีแจง การบนั ทกึ ใหก้ าเครื่องหมาย  ลงในช่องทตี่ รงกบั พฤติกรรมทีเ่ กิดข้นึ จรงิ ลาดับ พฤตกิ รรม ระดบั คะแนน ท่ี ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง (4) (3) (2) (1) 1 มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ 2 มคี วามสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ สังเคราะห์ 3 สามารถคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณ 4 มคี วามสามารถในการคิดอย่างมีระบบ 5 ตัดสินใจแก้ปญั หาเกี่ยวกับตนเองได้ รวม ขอ้ เสนอแนะ ลงชื่อ ผู้ประเมิน ) ( ครผู สู้ อน / วนั เดอื น ปี ท่ีประเมนิ /

แบบสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรียน เพ่ือการประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ด้านมุง่ ม่นั ในการทางาน ชื่อ............................................................................................. ชั้น..............................เลขท่ี............................... คาชแ้ี จง การบนั ทกึ ใหก้ าเคร่ืองหมาย  ลงในชอ่ งทตี่ รงกับพฤติกรรมทเี่ กดิ ขึ้นจรงิ ลาดั พฤติกรรม ดีมาก ระดับคะแนน บท่ี (4) ดี พอใช้ ปรับปรุง (3) (2) (1) 1 มีความรับผดิ ชอบในหนา้ ท่กี ารงาน 2 ตง้ั ใจและเอาใจใส่ตอ่ การปฏิบัตหิ น้าที่ท่ีได้รบั มอบหมาย 3 ทางานด้วยความเพียรพยายาม 4 อดทนเพอ่ื ใหง้ านสาเร็จตามเปูาหมาย 5 ปรบั ปรงุ และพฒั นาการทางานใหด้ ขี ึ้นดว้ ยตนเอง รวม ข้อเสนอแนะ ลงชือ่ ผู้ประเมิน ) ( ครูผ้สู อน / วนั เดอื น ปี ทปี่ ระเมิน /

แบบทดสอบก่อนเรยี น กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 5 หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 3 สทิ ธิมนุษยชน จานวน 10 ขอ้ คาชี้แจง ใหน้ ักเรียนเลอื กคาตอบท่ีถกู ต้องท่สี ุดเพียงคาตอบเดยี ว 1.สิทธิมนษุ ยชนคอื อะไร 6. สังคมไทยต้องประสบปัญหาด้านการละเมิดสิทธิเด็ก เยาวชน ก. สิทธิของบคุ คล ข. เสรภี าพของบคุ คล และครอบครวั เพราะเหตใุ ด ค. ศักดิ์ศรีของความเป็นมนษุ ย์ ก. สภาพครอบครวั อ่อนแอลง ง. ถกู ทกุ ขอ้ ข. การพฒั นาประเทศทมี่ งุ่ เน้นดา้ นเศรษฐกิจ 2.ข้อ ใด เป็ น เ อก สา ร ที่ ปร ะ เ ทศ สม าชิ ก อ ง ค์ ก า ร ค. การเปลยี่ นแปลงทางดา้ นเศรษฐกจิ และสังคม สหประชาชาตริ ่วมกันจัดทาขึ้นเพื่อใช้เป็นกรอบปฏิบัติใน ง. ถูกทุกข้อ เรื่องทเี่ ก่ียวกับสทิ ธิมนษุ ยชน 7. ข้อใดเป็นปัญหาสิทธิมนุษยชนด้านกฎหมายและกระบวนการ ก. สนธิสญั ญาเบาวร์ ิง ยุตธิ รรม ข. เอกสารแมกนาคารต์ า ค.ปฏญิ ญาสากลวา่ ดว้ ยสทิ ธิมนษุ ยชนแห่ง ก. ศาลเยาวชนและครอบครัวมีไมท่ ั่วถงึ สหประชาชาติ ง. ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิของมนุษย์และพลเมือง ข. การพิจารณาคดีทต่ี อ้ งเสียคา่ ใชจ้ ่ายสูง ค.ศ. 1789 ค. บคุ ลากรของรัฐไมม่ คี วามรู้เกย่ี วกบั กฎหมายสิทธิมนษุ ยชน 3. ข้อใดไม่ใชส่ ิทธิมนุษยชนทกี่ าหนดไวใ้ น ปฏิญญาสากล วา่ ด้วยสิทธิมนุษยชน ง. องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนขาดงบประมาณท่ีใช้ในการ ก. บคุ คลจะไม่ถกู บงั คบั ให้เป็นทาส ดาเนินการดา้ นประโยชนท์ างสงั คม ข. มนุษย์ทกุ คนตอ้ งไดร้ ับการปฏิบตั ติ อ่ กันฉันพี่นอ้ ง 8. ขอ้ ใดเป็นปัญหาสทิ ธิมนษุ ยชนของไทยใน ด้านนโยบายสงั คม ค. บุคคลสามารถถูกเนรเทศออกจากประเทศได้ ตลอดเวลา ก. คนไทยถกู เอาเปรยี บแรงงาน ง. บุคคลท่ีถูกกล่าวหาทางอาญามีสิทธิได้รับการ ข. การพจิ ารณาคดใี นศาลแรงงานท่ลี ่าช้า สันนิษฐานไวก้ อ่ นว่าบรสิ ทุ ธิ์ 4. องคก์ รใดทาหนา้ ที่คมุ้ ครองและตรวจสอบการ ละเมิด ค. การปฏิบตั ติ ่อผูอ้ ยูใ่ นสถานพินิจและเรอื นจา สิทธิมนษุ ยชน ง. ผู้ใช้แรงงานต่างชาติไม่ได้รับการส่งเสริมให้รวมกลุ่มเป็น ก. องค์กรนิรโทษกรรมสากล สหภาพแรงงาน ข. คณะกรรมการสิทธมิ นษุ ยชนแห่งชาติ ค. คณะกรรมธิการยุติธรรมและสทิ ธมิ นุษยชน 9. การแก้ไขปัญหาและพัฒนาสิทธิมนุษยชนในสังคมไทยทาได้ ง. คณะกรรมการประสานงานองค์กรสทิ ธิมนษุ ยชน อย่างไร 5. ข้อใดเปน็ การละเมิดสิทธมิ นุษยชน ก. พัฒนากฎหมายให้เอื้อต่อการส่งเสริมและคุ้มครอง ก. รฐั ส่งั ปิดหนังสือพิมพ์ สทิ ธมิ นุษยชน ข. รฐั เรยี กเก็บภาษีอากร ข. ผสมผสานเรอ่ื งสิทธมิ นุษยชนไวใ้ นแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และ ค. ตารวจตรวจค้นบ้านประชาชนโดยมีหมายศาล ง. รัฐออกพระราชกาหนดการบริการราชการแผ่นดิน สงั คมแห่งชาติ ในสถานการณ์ฉุกเฉนิ ค. ปรับปรุงการสร้างองค์กรและกลไกของรัฐให้ใช้ อานาจใน การปกครองอยา่ งมีศีลธรรม ง. ถูกทกุ ข้อ 10. รฐั บาลใชส้ งิ่ ใดเป็นกรอบในการดาเนนิ การดา้ น สิทธิมนษุ ยชน ของสงั คมไทย ก. แผนสิทธิมนษุ ยชนแหง่ ชาติ ข. คาประกาศอสิ รภาพ ค.ศ. 1776 ค. ปฏญิ ญาว่าด้วยสิทธขิ องพลเมือง ง. แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ

แบบทดสอบหลังเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 สิทธิมนษุ ยชน จานวน 10 ขอ้ คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นเลอื กคาตอบที่ถกู ตอ้ งที่สุดเพยี งคาตอบเดยี ว 1.สิทธมิ นุษยชนคอื อะไร 6. สังคมไทยต้องประสบปัญหาด้านการละเมิดสิทธิเด็ก เยาวชน ก. สทิ ธขิ องบุคคล ข. เสรีภาพของบุคคล และครอบครวั เพราะเหตุใด ค. ศักด์ิศรีของความเป็นมนุษย์ ก. สภาพครอบครัวอ่อนแอลง ง. ถกู ทุกขอ้ ข. การพัฒนาประเทศทม่ี งุ่ เน้นด้านเศรษฐกิจ 2.ข้อ ใด เป็ น เ อก สา ร ที่ ปร ะ เ ทศ สม าชิ ก อ ง ค์ ก า ร ค. การเปลย่ี นแปลงทางดา้ นเศรษฐกจิ และสงั คม สหประชาชาตริ ่วมกันจดั ทาข้ึนเพื่อใช้เป็นกรอบปฏิบัติใน ง. ถูกทุกขอ้ เร่อื งทเ่ี กย่ี วกบั สทิ ธิมนุษยชน 7. ข้อใดเป็นปัญหาสิทธิมนุษยชนด้านกฎหมายและกระบวนการ ก. สนธิสัญญาเบาวร์ งิ ยุตธิ รรม ข. เอกสารแมกนาคาร์ตา ค. ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิของมนุษย์และพลเมือง ก. บุคลากรของรัฐไม่มีความรูเ้ ก่ยี วกบั กฎหมายสิทธมิ นุษยชน ค.ศ. 1789 ง. ปฏิญญาสากลวา่ ด้วยสทิ ธิมนุษยชนแหง่ ข. การพิจารณาคดที ่ีตอ้ งเสยี คา่ ใชจ้ ่ายสูง สหประชาชาติ ค. ศาลเยาวชนและครอบครัวมีไม่ท่ัวถงึ 3. ข้อใดไม่ใช่สิทธิมนุษยชนที่กาหนดไว้ใน ปฏิญญา สากลว่าดว้ ยสิทธมิ นษุ ยชน ง. องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนขาดงบประมาณท่ีใช้ในการ ก. บุคคลจะไม่ถกู บงั คับให้เปน็ ทาส ดาเนินการด้านประโยชนท์ างสังคม ข. มนุษย์ทกุ คนตอ้ งไดร้ บั การปฏบิ ัติต่อกนั ฉันพ่ีน้อง 8. ข้อใดเปน็ ปญั หาสิทธมิ นษุ ยชนของไทยใน ด้านนโยบายสังคม ค. บุคคลสามารถถูกเนรเทศออกจากประเทศได้ ตลอดเวลา ก. คนไทยถกู เอาเปรียบแรงงาน ง. บุคคลที่ถูกกล่าวหาทางอาญามีสิทธิได้รับการ ข. ผู้ใช้แรงงานต่างชาติไม่ได้รับการส่งเสริมให้รวมกลุ่มเป็น สนั นษิ ฐานไว้ก่อนว่าบริสุทธิ์ 4. องคก์ รใดทาหน้าที่ค้มุ ครองและตรวจสอบการ ละเมิด สหภาพแรงงาน สทิ ธิมนษุ ยชน ค. การปฏิบัติต่อผอู้ ยู่ในสถานพนิ จิ และเรือนจา ก. คณะกรรมการสทิ ธิมนุษยชนแหง่ ชาติ ง. การพจิ ารณาคดีในศาลแรงงานทล่ี ่าช้า ข. องคก์ รนิรโทษกรรมสากล ค. คณะกรรมธกิ ารยตุ ธิ รรมและสทิ ธิมนุษยชน 9. การแก้ไขปัญหาและพัฒนาสิทธิมนุษยชนในสังคมไทยทาได้ ง. คณะกรรมการประสานงานองค์กรสทิ ธมิ นษุ ยชน อย่างไร 5. ข้อใดเป็นการละเมิดสิทธมิ นุษยชน ก. พัฒนากฎหมายให้เอื้อต่อการส่งเสริมและคุ้มครอง ก. ตารวจตรวจค้นบ้านประชาชนโดยมหี มายศาล สิทธมิ นษุ ยชน ข. รัฐเรียกเก็บภาษีอากร ข. ผสมผสานเรอ่ื งสทิ ธมิ นษุ ยชนไว้ในแผนพฒั นาเศรษฐกิจและ ค. รฐั ส่งั ปดิ หนงั สอื พิมพ์ ง. รฐั ออกพระราชกาหนดการบริการราชการแผ่นดิน สงั คมแหง่ ชาติ ในสถานการณฉ์ กุ เฉนิ ค. ปรับปรุงการสร้างองค์กรและกลไกของรัฐให้ใช้ อานาจใน การปกครองอย่างมศี ีลธรรม ง. ถูกทุกขอ้ 10. รัฐบาลใช้สิง่ ใดเป็นกรอบในการดาเนนิ การดา้ น สทิ ธมิ นษุ ยชน ของสงั คมไทย ก. ปฏิญญาว่าด้วยสทิ ธขิ องพลเมอื ง ข. คาประกาศอสิ รภาพ ค.ศ. 1776 ค. แผนสิทธมิ นุษยชนแหง่ ชาติ ง. แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook