Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ม.3

แผนการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ม.3

Published by NITTIKA NUANHOM, 2021-05-05 10:16:11

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ม.3

Search

Read the Text Version

ขั้นสรุป 6. ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั สรปุ ความรู้จากการแขง่ ขันตอบปัญหา 7. ครูมอบหมายให้นักเรียนอ่านเนื้อหาเก่ียวกับพัฒนาการดา้ นเศรษฐกิจของไทยสมัยรัตนโกสินทร์ เป็นการบา้ นเพอ่ื เตรยี มจัดการเรียนรใู้ นคร้งั ต่อไป ช่ัวโมงท่ี 2 ข้นั นำเขา้ สูบ่ ทเรียน 1. ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรียน จากนน้ั นักเรยี นภาพการเพาะปลูกและการค้า แล้วซกั ถามนกั เรยี นวา่ มี ความเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจในสมัยอดีตอย่างไร โดยให้นักเรียนใช้ความรู้ที่ได้รับมอบหมายให้ไปอ่านมา เพื่อเชอ่ื มโยงไปสู่เนอ้ื หาทีจ่ ะเรียน ขั้นสอน 2. นักเรียนศึกษาเร่ือง พฒั นาการด้านเศรษฐกิจของไทยในสมัยรัตนโกสนิ ทร์ จากหนังสือเพิ่มเติม และแหลง่ การเรียนรตู้ า่ งๆ เช่น หอ้ งสมดุ อนิ เทอรเ์ น็ต 3. นกั เรยี นแบ่งกล่มุ ออกเปน็ 3 กล่มุ คละความสามารถและเพศ แตล่ ะกลมุ่ สง่ ตัวแทนออกมาเพ่อื จับสลากศกึ ษาเร่อื ง พฒั นาการด้านเศรษฐกิจของไทยสมัยรัตนโกสนิ ทร์ กลุ่มละ 1 หัวข้อ ดงั นี้ กลุม่ ที่ 1 สภาพเศรษฐกิจไทยสมยั รตั นโกสินทรต์ อนตน้ พ.ศ. 2325–2398 กลมุ่ ที่ 2 สภาพเศรษฐกจิ ไทยหลังเปดิ ความสมั พนั ธ์กบั ชาติตะวนั ตก พ.ศ. 2398–2475 กลุ่มท่ี 3 สภาพเศรษฐกิจไทยหลงั การเปล่ยี นแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475–ปัจจุบัน จากน้ันใหแ้ ต่ละกลุ่มศึกษาและสืบคน้ ข้อมูลจากห้องสมุด หรืออินเทอร์เน็ต ตามหัวข้อที่กำหนด เม่ือศึกษา ค้นคว้าและสืบค้นข้อมูลเสร็จแล้ว ให้แต่ละกลุ่มดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลตามหัวข้อที่กำหนด ในขณะท่ี กลุม่ ดำเนนิ การอภิปราย ครูคอยสงั เกตและกระตุ้นใหท้ ุกคนแสดงความคิดเห็นกันอย่างเต็มที่ 4. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มสรุปบนั ทึกผลการวเิ คราะหล์ งในแบบบนั ทกึ ผลการวิเคราะห์เร่อื ง พฒั นาการ ด้านเศรษฐกิจของไทยสมัยรัตนโกสินทร์ จากนั้นส่งตัวแทนกลุ่มนำเสนอผลการวิเคราะห์ต่อที่ประชุมหรือ หนา้ ชั้นเรยี น พร้อมทัง้ เปดิ โอกาสใหผ้ ฟู้ งั ซกั ถาม ผู้วเิ คราะห์ตอบคำถาม ครคู อยช่วยเหลอื ให้คำแนะนำ 5. นักเรียนทำกิจกรรมเกี่ยวกับพัฒนาการด้านเศรษฐกิจของไทยสมัยรัตนโกสินทร์ แล้วช่วยกัน เฉลยคำตอบทถ่ี กู ตอ้ ง 6. นกั เรียนทำใบงานท่ี 2.5 เร่ือง พฒั นาการด้านเศรษฐกิจของไทยสมัยรัตนโกสินทร์ แล้วช่วยกัน เฉลยคำตอบท่ีถูกต้อง ขน้ั สรปุ 7. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง พัฒนาการด้านสังคมและเศรษฐกิจของไทยสมัย รตั นโกสนิ ทร์ โดยให้นักเรยี นสรุปเป็นแผนที่ความคดิ หรอื ผังมโนทศั นล์ งสมดุ พรอ้ มระบายสีให้สวยงาม 8. ครูมอบหมายให้นักเรยี นอา่ นเนื้อหาเกี่ยวกับพัฒนาการด้านความสัมพันธร์ ะหว่างประเทศเปน็ การบ้านเพือ่ เตรียมจดั การเรียนรใู้ นคร้งั ตอ่ ไป

๘. สอื่ การเรยี นการสอน / แหลง่ เรยี นรู้ ๘.๑ ส่อื การเรยี นการสอน ๑) ภาพวัดพระศรีรัตนศาสดาราม 2) ภาพการเพาะปลกู การค้า 3) แบบบันทึกคำถาม–คำตอบ เรื่อง พฒั นาการดา้ นสงั คมของไทยสมยั รตั นโกสินทร์ 4) แบบบันทกึ ผลการวิเคราะห์ เร่อื ง พัฒนาการดา้ นเศรษฐกจิ ของไทยสมัยรัตนโกสนิ ทร์ 5) ใบงานท่ี 2.5 เร่อื ง พัฒนาการด้านเศรษฐกจิ ของไทยในสมัยรตั นโกสนิ ทร์ 6) หนงั สือเรียน ประวัตศิ าสตร์ ม.3 7) คมู่ ือการสอน ประวัติศาสตร์ ม. 3 8) สือ่ การเรยี นรู้ PowerPoint รายวิชาพืน้ ฐาน ประวตั ิศาสตร์ ม. 3 8.2 แหล่งเรยี นรู้ 1) หอ้ งสมดุ 2) อินเทอรเ์ นต็ ๙. การวดั ผลและประเมินผล เครื่องมอื เกณฑ์ วธิ กี าร แบบบันทกึ คำถาม–คำตอบ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจแบบบันทึกคำถาม–คำตอบ ตรวจแบบบนั ทกึ ผลการวเิ คราะห์ แบบบันทกึ ผลการวิเคราะห์ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 2.5 สงั เกตความสามารถในการคิด ใบงานท่ี 2.5 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ วิเคราะห์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม แบบประเมนิ สมรรถนะสำคัญของ ระดบั คุณภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ สังเกตความสามารถในการใช้ นกั เรยี น เทคโนโลยี แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ระดบั คุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ระดับคุณภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ ประสงค์

๑๐. จุดเน้นของโรงเรียน การบูรณาการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและกิจกรรมสวนพฤกษศาสตร์ โรงเรยี นปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง ปรัชญาเศรษฐกิจ ครู ผู้เรียน พอเพยี ง ความพอประมาณ พอดีด้านเทคโนโลยี พอดีด้านจิตใจ รูจ้ กั ใชเ้ ทคโนโลยมี าผลิตสอ่ื ท่ี มจี ิตสำนกึ ที่ดี เออื้ อาทร เหมาะสมและสอดคลอ้ งเนอ้ื หาเปน็ ประนีประนอม นกึ ถึงประโยชน์ ประโยชน์ต่อผู้เรียนและพัฒนาจากภูมิ ส่วนรวม/กลุม่ ปญั ญาของผเู้ รยี น ความมเี หตผุ ล ยดึ ถือการประกอบอาชีพด้วยความ ไม่หยุดนิ่งทีห่ าหนทางในชีวิต หลุด ถกู ต้อง สุจรติ แม้จะตกอย่ใู นภาวะขาด พ้นจากความทุกข์ยาก (การค้นหา แคลน ในการดำรงชวี ิต ปฏบิ ตั ิตนใน คำตอบเพ่ือใหห้ ลุดพ้นจากความไมร่ ู้) แนวทางทด่ี ี ลด เลิก สง่ิ ย่ัวกิเลสใหห้ มดส้ิน ไป ไม่ก่อความช่ัวให้เป็นเคร่อื งทำลาย ตวั เอง ทำลายผอู้ น่ื พยายามเพ่ิมพูนรกั ษา ความดี ท่มี ีอยู่ให้งอกงามสมบรู ณย์ ่งิ ขึน้ มภี ูมคิ ุ้มกนั ในตวั ท่ีดี ภมู ิปญั ญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ ภูมิปัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ระมดั ระวงั ระมัดระวัง สร้างสรรค์ ภูมธิ รรม : ซอื่ สตั ย์ สุจรติ ขยนั อดทน ภูมิธรรม : ซื่อสัตย์ สุจริต ขยันอดทน ตรงตอ่ เวลาและแบง่ ปัน ตรงต่อเวลา เสียสละและแบ่งปัน เงอ่ื นไขความรู้ ความรอบรู้ เรือ่ งวธิ ีการทาง ความรอบรู้ เรื่องวิธีการทาง ประวัตศิ าสตร์ท่ีเกย่ี วขอ้ งรอบดา้ น ความ ประวัติศาสตร์ กรณีท่เี กดิ งาน ปริมาณ รอบคอบท่ีจะนำความรเู้ หล่านั้นมา ที่เกี่ยวข้อง การคำนวณสูตรที่ต้องใช้ พจิ ารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการ สามารถนำความรู้เหล่านน้ั มาพิจารณา วางแผน การดำเนินการจัดกิจกรรมการ ให้เชื่อมโยงกัน สามารถประยุกต์ใช้ใน เรยี นรู้ใหก้ บั ผเู้ รยี น ชวี ิตประจำวัน เงือ่ นไขคณุ ธรรม มีความตระหนกั ใน คุณธรรม มีความ มีความตระหนกั ในคณุ ธรรม ซื่อสัตย์สุจริตและมคี วามอดทน มีความ มคี วามซือ่ สตั ย์สุจริตและมคี วามอดทน เพียร ใชส้ ติปญั ญาในการดำเนินชีวติ มคี วามเพียร ใช้สติปัญญาในการ ดำเนินชีวติ

กจิ กรรม ครู ผ้เู รียน สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น ประวัติของต้นไมแ้ ต่ละตน้ ประวตั ขิ องต้นไม้แต่ละต้น ประวัติของตน้ ไมแ้ ต่ละตน้ อธบิ ายชนิดของตน้ ไม้และ ระบชุ นดิ ของต้นไม้และประวัติ ประวัตแิ ละความเปน็ มาของ ประวตั คิ วามเปน็ มาของตน้ ไม้ ความเปน็ มาของตน้ ไม้ ต้นไม้ ๑1. บันทกึ หลงั การจดั การเรยี นรู้

๑1.๑) ผลการจัดการเรียนการสอน ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ๑1.๒) ปัญหาและอุปสรรค ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ๑1.๓) แนวทางการแกป้ ัญหา ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. (ลงช่อื )……………………………….…………….......... (นางสาวณฐั ธกิ า นวลหอม) ผสู้ อน

ใบงานที่ 2.5 เรื่อง พฒั นาการดา้ นสงั คมและเศรษฐกิจ ตวั ชี้วัดช้ันปี 1. วิเคราะห์พัฒนาการของไทยสมยั รัตนโกสนิ ทรใ์ นดา้ นต่าง ๆ (ส 4.3 ม. 3/1) 2. วเิ คราะหป์ ัจจัยทีส่ ง่ ผลต่อความมั่นคงและความเจรญิ รุ่งเรืองของไทยในสมัยรตั นโกสนิ ทร์ (ส 4.3 ม. 3/2) คำช้แี จง เตมิ คำหรอื ขอ้ ความลงในทีว่ า่ ง 1. เงินตราทีใ่ ชใ้ นสมยั รัตนโกสินทรต์ อนตน้ คือ............เ.ง..ิน...พ...ด..ด..้ว..ง......................................................................... 2. เงินรายได้รายปีท่พี ระมหากษัตริยจ์ า่ ยใหเ้ จ้านายและขุนนาง เรยี กว่า.................เ.บ...ี้ย..ห...ว..ัด................................. 3. ในสมัยรตั นโกสินทร์ตอนตน้ สินค้าออก ไดแ้ ก่ ............ด..บี...ุก.....ง..า..ช..้า..ง.....ไ.ม...้ ..น...ำ้..ต..า..ล.....พ...ร..ิก..ไ..ท...ย.....ร..งั .น...ก................... ...ก...ร..ะ..ด..กู...ส..ัต..ว..์...ก...ร..ะ..ว..า..น.....แ..ล...ะ..ค..ร..ั่ง........................................................................................................................... 4. การเรยี กเกบ็ สนิ คา้ ของราษฎรโดยชกั สนิ ค้าในอัตรา 10 หยิบ 1 คอื .................จ..ัง..ก..อ...บ.................................. 5. เงนิ ที่รฐั เรียกเก็บจากผลประโยชนข์ องราษฎรทีไ่ ดจ้ ากการประกอบอาชีพค้าขาย เรียกวา่ ......อ...า..ก..ร............... .............................................................................................................................................................................. 6. ภาษเี บกิ รอ่ งหรอื ภาษีปากเรือ คือ ............ภ..า..ษ...ที ..เี่..ก..บ็...จ..า..ก..เ.ร..อื...ส..นิ...ค..า้..ต..่า..ง..ป...ร..ะ..เ.ท...ศ....โ.ด...ย..ค..ดิ...จ..า..ก..ข...น..า..ด.................... ...ค...ว..า..ม..ก...ว..้า..ง.ข...อ..ง..ป...า.ก...เ.ร..อื...ท..่บี...ร..ร..ท..ุก...ส..ิน...ค..้า..เ.ข...้า..ม..า....................................................................................................... 7. สนิ คา้ หรือเงนิ ทองท่ีเมืองประเทศราชส่งไปให้เมอื งหลวงปีละครงั้ เรียกวา่ ...........เ.ค...ร..อ่ื ..ง..ร..า..ช..บ...ร..ร..ณ...า..ก...า.ร......... 8. ผลทีเ่ กิดจากการทำสนธสิ ัญญาเบาวร์ งิ คอื ......ท...ำ..ใ.ห...ก้..า..ร..ค...้า..ข..ย..า..ย...ต..ัว..อ..ย...า่ ..ง..ร..ว..ด..เ.ร..็ว....เ.ก..ิด...ร..ะ..บ...บ..ก...า..ร..ค..้า..เ.ส...ร..ี ........ ...ย...ก..เ.ล...กิ ..ก..า..ร..ค...้า..แ..บ...บ..ผ..ูก...ข..า..ด..................................................................................................................................... 9. ในสมยั รชั กาลท่ี 5 พชื เศรษฐกิจทีส่ ำคญั ที่สดุ คือ ........ข..้า..ว.............................................................................. 10. หน่วยงานที่รัชกาลที่ 5 ทรงตั้งขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ตรวจตราการเก็บภาษีอากรของหน่วยงานต่างๆ เรยี กวา่ ..................ห..อ...ร..ษั ..ฎ...า..ก..ร..พ...ิพ...ฒั ...น...์ ................................................................................................................ ช่ือ นามสกุล เลขท่ี ชนั้ โรงเรียน .

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 พัฒนาการของไทยในสมัยรัตนโกสนิ ทร์ เรื่อง ความสัมพันธร์ ะหวา่ งประเทศ ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖4 เวลาเรียน 1 ชัว่ โมง/สัปดาห์ หนว่ ยกติ 0.5 (นน./นก.) ผสู้ อน นางสาวณฐั ธกิ า นวลหอม โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ เวลา 2 ชั่วโมง ๑. สาระสำคญั สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นไทยทำสงครามกับพม่าและเวียดนาม ส่วนล้านนา ลาว หัวเมือง มลายู และเขมรเป็นประเทศราชของไทย จนกระทั่งมหาอำนาจจักรวรรดินิยมขยายอิทธิพลเข้ามา ในชว่ งรชั กาลท่ี 4 และรัชกาลท่ี 5 ไทยจงึ เสียดินแดนเหล่านี้ให้แกอ่ ังกฤษและฝร่งั เศส ยกเว้นล้านนา และปัตตานีที่ยังอยู่ในความปกครองของไทย การเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1 มีผลดีต่อไทยทำให้ สามารถแก้ไขสนธิสัญญาที่เสยี เปรยี บต่าง ๆ ไดเ้ รือ่ ยมาจนหลงั พ.ศ. 2475 จึงสมบูรณ์ ปัจจุบันไทย ดำเนินนโยบายตา่ งประเทศยึดหลักความเป็นกลางและมงุ่ สร้างความชว่ ยเหลอื กันเปน็ หลกั ๒. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้วี ดั ชน้ั ปี/ผลการเรียนรู้/เป้าหมายการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ ส 4.3 เข้าใจความเป็นมาของชนชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรัก ความภูมิใจ และธำรงความเปน็ ไทย ตวั ชีว้ ัดช้ันปี/ผลการเรียนรู้ ส 4.3 ม. 3/1 วเิ คราะห์พฒั นาการของไทยสมัยรตั นโกสินทรใ์ นด้านต่าง ๆ ส 4.3 ม. 3/2 วิเคราะห์ปัจจัยทีส่ ่งผลต่อความมั่นคงและความเจริญรุง่ เรอื งของไทยในสมยั รตั นโกสินทร์ ๓. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๓.๑ ดา้ นความรู้ : Knowledge นกั เรยี นอธบิ ายพฒั นาการด้านความสัมพันธร์ ะหวา่ งประเทศของไทยสมัยรตั นโกสนิ ทร์ได้ ๓.๒ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ : Process นกั เรียนมที กั ษะการคิดวเิ คราะห์ ๓.๓ ด้านคุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ : Attitude นกั เรยี นมีวินยั ใฝเ่ รียนรู้และมที ศั นคตทิ ่ดี ตี ่อการศึกษารายวชิ าประวตั ศิ าสตร์ ๔. สมรรถนะสำคญั ของนักเรยี น ความสามารถในการคดิ วิเคราะห์

๕. คณุ ลักษณะของวิชา - ความรับผิดชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลุม่ ๖. ชิ้นงาน/ภาระงาน 6.1 ช้ินงาน 1) แบบทดสอบหลังเรียน 2) ใบงานที่ 2.6 เรอ่ื ง สรุปความสมั พนั ธ์กับชาติตะวันตก 6.2 ภาระงาน ๑) นักเรยี นทำกจิ กรรมกลุ่ม ๗. กิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 ขน้ั นำเข้าสบู่ ทเรียน 1. ครูกล่าวทักทายนักเรียน และให้นักเรียนดูแผนที่โลก แล้วถามนักเรียนว่า รู้จักประเทศ อะไรบ้าง มีความเกีย่ วข้องกับประเทศไทย อย่างไร ให้นักเรียนช่วยกันตอบ โดยใช้ความรู้จากเรื่องที่ ไดร้ บั มอบหมายให้ไปอ่านมา จากนน้ั ครูสรปุ เพ่อื เชื่อมโยงไปสู่เน้อื หาทจ่ี ะเรียน ขัน้ สอน 2. นักเรียนศึกษาเกี่ยวกับพัฒนาการด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของไทยสมัย รัตนโกสินทร์ เรื่อง ปัจจัยด้านความมั่นคงและรักษาเอกราชอธิปไตย จากหนังสือเพิ่มเตมิ และแหล่ง การเรียนร้ตู ่างๆ เชน่ ห้องสมดุ อนิ เทอรเ์ น็ต 3. นักเรียนดูวีดิทัศน์เกี่ยวกับการทูตและการค้ากับต่างประเทศ จากนั้นอธิบายให้นักเรียน เข้าใจว่า การมคี วามสัมพันธท์ ี่ดกี บั ต่างประเทศทำให้ไทยไดร้ บั ประโยชนห์ ลายอยา่ ง 4. นักเรียนแบง่ ออกเปน็ 6 กลุม่ ตามความสมัครใจ และใหแ้ ตล่ ะกลุ่มสง่ ตัวแทนออกมาจับ สลากเลือกหวั ขอ้ เพอ่ื ศึกษาและอภปิ รายดังนี้ 4.1) ปัจจยั ด้านความมนั่ คงและรกั ษาเอกราชอธปิ ไตย 4.2) ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งประเทศสมยั สมัยรตั นโกสินทรต์ อนตน้ 4.3) ความสัมพันธ์กบั ชาตติ ะวันตกในสมัยจักรวรรดนิ ิยม 4.4) การเสียดินแดนของไทย 4.5) การแก้ไขสนธิสญั ญาเสียเปรียบ 4.6) นโยบายต่างประเทศของไทยสมยั ปจั จุบนั 5. นักเรียนแต่ละกลุ่มเตรียมนำเสนอผลงานในรูปแบบทีห่ ลากหลาย เช่น การแสดงบทบาท สมมุติ การแสดงละคร การโต้วาที จากนั้นให้แต่ละกลุ่มนำเสนอผลงานตามเวลาที่กำหนด โดยเปิด โอกาสใหเ้ พ่อื นกลุ่มอน่ื ซักถามขอ้ สงสยั ตัวแทนกลุ่มตอบข้อสงสัย โดยครคู อยให้คำแนะนำเพิ่มเติมใน สาระสำคัญและให้กำลังใจแก่กลมุ่ ทน่ี ำเสนอผลงาน

ข้นั สรปุ 7. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรุปความรู้เรอ่ื ง ปจั จยั ด้านความม่นั คงและรักษาเอกราชอธิปไตย โดยให้นักเรียนสรุปเป็นแผนท่ีความคดิ หรอื ผงั มโนทศั น์ลงสมดุ พร้อมระบายสใี ห้สวยงาม ช่ัวโมงท่ี 2 ขน้ั นำเข้าสบู่ ทเรียน 1. ครูกล่าวทักทายนักเรียน จากนั้นครูทบทวนเนื้อหาจากคาบเรียนที่ผ่านมา เพื่อเชื่อมโยง ไปสเู่ นื้อหาที่จะเรยี น ขัน้ สอน 2. นักเรียนศึกษาความรู้เกี่ยวกับพัฒนาการดา้ นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของไทยสมยั รัตนโกสนิ ทร์ จากหนังสือเพ่ิมเติม และแหลง่ การเรยี นรู้ตา่ งๆ เช่น ห้องสมดุ อนิ เทอรเ์ น็ต 3. นักเรียนตอบคำถามเกี่ยวกับพัฒนาการด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของไทยสมัย รัตนโกสินทร์ แล้วชว่ ยกนั เฉลยคำตอบทถี่ กู ตอ้ ง 4. นักเรียนทำใบงานที่ 2.6 เรื่อง สรุปความสัมพันธ์กับชาติตะวันตก แล้วช่วยกันเฉลย คำตอบท่ถี ูกตอ้ ง 5. นักเรียนออกแบบและตกแต่งแผนที่ความคิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้ สวยงาม พร้อมกับทำแบบทดสอบหลังเรียนประจำหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 พัฒนาการของไทยในสมยั รตั นโกสินทร์ แล้วชว่ ยกันเฉลย ขน้ั สรปุ 7. ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรุปความรู้เรือ่ ง พัฒนาการดา้ นความสมั พนั ธ์ระหวา่ งประเทศของ ไทยสมยั รตั นโกสนิ ทร์ โดยใหน้ ักเรยี นสรปุ ลงในแบบบนั ทกึ ความรู้ 8. ครูมอบหมายให้นักเรยี นอ่านเนอ้ื หาในหน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 บทบาทของไทยในสังคมโลก เรื่อง การเข้าร่วมสงครามโลกครั้งท่ี 1 และบทบาทของไทยในสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นการบา้ นเพอ่ื เตรยี มจดั การเรยี นรู้ในคร้งั ต่อไป ๘. สอ่ื การเรียนการสอน / แหลง่ เรยี นรู้ ๘.๑ ส่อื การเรียนการสอน ๑) แผนที่โลก 2) วีดิทัศนเ์ ก่ยี วกบั การทูตและการคา้ กับตา่ งประเทศ 3) ใบงานท่ี 2.6 เร่ือง สรปุ ความสัมพนั ธก์ บั ชาตติ ะวนั ตก 4) แบบบนั ทกึ ความรู้ 5) แบบทดสอบหลงั เรียน 6) แบบประเมนิ พฤติกรรมในการทำงานเปน็ รายบุคคลหรอื เป็นกลมุ่ 7) หนงั สอื เรียน ประวัติศาสตร์ ม.3 8) คู่มอื การสอน ประวตั ิศาสตร์ ม. 3 9) สอ่ื การเรยี นรู้ PowerPoint รายวิชาพ้นื ฐาน ประวตั ิศาสตร์ ม. 3

๙. การวัดผลและประเมินผล เครอ่ื งมือ เกณฑ์ วธิ กี าร แบบทดสอบหลังเรยี น รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน ตรวจใบงานที่ 2.6 ใบงานท่ี 2.6 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ สังเกตความสามารถในการคิด วิเคราะห์ แบบประเมินสมรรถนะสำคญั ของ ระดบั คณุ ภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ สังเกตความมวี ินยั ใฝ่เรียนรู้ นกั เรยี น แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ ระดับคณุ ภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึง ระดับคณุ ภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ ประสงค์ ๑๐. จุดเนน้ ของโรงเรยี น การบูรณาการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและกิจกรรมสวนพฤกษศาสตร์ โรงเรียนปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ปรชั ญาเศรษฐกิจ ครู ผู้เรียน พอเพียง ความพอประมาณ พอดดี า้ นเทคโนโลยี พอดีดา้ นจิตใจ รู้จักใช้เทคโนโลยมี าผลิตสือ่ ท่ี มจี ติ สำนึกท่ีดี เอ้อื อาทร เหมาะสมและสอดคล้องเนื้อหาเปน็ ประนปี ระนอม นกึ ถงึ ประโยชน์ ประโยชน์ตอ่ ผเู้ รียนและพัฒนาจากภูมิ ส่วนรวม/กลมุ่ ปญั ญาของผู้เรียน ความมีเหตผุ ล ยดึ ถือการประกอบอาชพี ด้วยความ ไม่หยุดนิ่งที่หาหนทางในชีวิต หลุด ถกู ตอ้ ง สจุ ริต แม้จะตกอยู่ในภาวะขาด พ้นจากความทุกข์ยาก (การค้นหา แคลน ในการดำรงชวี ิต ปฏบิ ตั ิตนใน คำตอบเพ่อื ให้หลดุ พน้ จากความไม่รู้) แนวทางที่ดี ลด เลิก สิง่ ยั่วกิเลสให้หมดสิ้น ไป ไม่ก่อความชวั่ ให้เปน็ เครอ่ื งทำลาย ตวั เอง ทำลายผู้อ่นื พยายามเพ่มิ พูนรักษา ความดี ที่มีอยู่ให้งอกงามสมบูรณ์ยิ่งข้นึ มีภมู คิ ุ้มกนั ในตวั ท่ีดี ภมู ิปญั ญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ ภูมิปัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ระมดั ระวงั ระมัดระวัง สร้างสรรค์ ภมู ิธรรม : ซือ่ สตั ย์ สุจริต ขยนั อดทน ภูมิธรรม : ซื่อสัตย์ สุจริต ขยันอดทน ตรงตอ่ เวลาและแบง่ ปัน ตรงต่อเวลา เสียสละและแบ่งปัน เง่อื นไขความรู้ ความรอบรู้ เรอื่ งวิธีการทาง ความรอบรู้ เรื่องวิธีการทาง ประวตั ิศาสตร์ท่ีเกยี่ วข้องรอบดา้ น ความ ประวตั ศิ าสตร์ กรณีทเ่ี กดิ งาน ปริมาณ รอบคอบทจ่ี ะนำความรเู้ หลา่ นั้นมา ที่เกี่ยวข้อง การคำนวณสูตรที่ต้องใช้ พจิ ารณาให้เชื่อมโยงกนั เพ่อื ประกอบการ สามารถนำความรู้เหล่านั้นมาพิจารณา วางแผน การดำเนนิ การจดั กิจกรรมการ ให้เชื่อมโยงกัน สามารถประยุกต์ใช้ใน เรียนรู้ใหก้ ับผ้เู รียน ชวี ิตประจำวัน

ปรัชญาเศรษฐกจิ ครู ผเู้ รยี น พอเพยี ง มคี วามตระหนักใน คุณธรรม มคี วาม มคี วามตระหนักในคุณธรรม เงอ่ื นไขคุณธรรม ซ่อื สัตยส์ จุ รติ และมคี วามอดทน มีความ มคี วามซอื่ สัตยส์ ุจริตและมีความอดทน เพยี ร ใช้สติปัญญาในการดำเนินชวี ิต มคี วามเพียร ใช้สตปิ ัญญาในการ ดำเนินชีวิต กจิ กรรม ครู ผู้เรยี น สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น ประวัตขิ องตน้ ไมแ้ ตล่ ะตน้ ประวัติของตน้ ไมแ้ ต่ละตน้ ประวัติของต้นไม้แต่ละตน้ อธบิ ายชนดิ ของต้นไมแ้ ละ ระบชุ นิดของต้นไมแ้ ละประวัติ ประวตั แิ ละความเป็นมาของ ประวตั คิ วามเป็นมาของตน้ ไม้ ความเป็นมาของตน้ ไม้ ต้นไม้

๑1. บนั ทึกหลังการจดั การเรียนรู้ ๑1.๑) ผลการจดั การเรยี นการสอน ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ๑1.๒) ปัญหาและอปุ สรรค ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ๑1.๓) แนวทางการแก้ปัญหา ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ (ลงชื่อ)……………………………….…………….......... (นางสาวณฐั ธกิ า นวลหอม) ผู้สอน

ใบงานที่ 1.2 เรอื่ ง สรปุ ความสัมพนั ธก์ ับชาติตะวนั ตก ตวั ชี้วัดชั้นปี 1. วเิ คราะหพ์ ฒั นาการของไทยสมยั รัตนโกสนิ ทร์ในดา้ นตา่ ง ๆ (ส 4.3 ม. 3/1) 2. วเิ คราะห์ปัจจัยที่สง่ ผลต่อความม่ันคงและความเจริญรุง่ เรืองของไทยในสมัยรตั นโกสินทร์ (ส 4.3 ม. 3/2) คำชแ้ี จง สรปุ ความสัมพันธร์ ะหว่างไทยกับชาตติ ะวันตกพอสงั เขป ความสัมพนั ธก์ บั ชาติตะวันตก ความสัมพันธ์กบั ชาติตะวันตก สมยั รัตนโกสินทร์ตอนตน้ สมัยจักรวรรดินิยม ความสมั พันธเ์ ป็นในลักษณะการคา้ โดยมี พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกล้าเจ้าอย่หู วั ทรง ประเทศที่เขา้ มาติดต่อ เช่น โปรตุเกส องั กฤษ สหรฐั อเมริกา แตย่ ังไม่ประสบ ตระหนักถงึ ภยั คุกคามจากจกั รวรรดินิยม ผลสำเรจ็ เทา่ ที่ควรเนือ่ งจากต่างฝา่ ยต่างยงั ตะวันตก จึงทรงปรบั ปรุงขนบธรรมเนยี มไทย ไมเ่ ข้าใจในภาษาและวัฒนธรรมของกนั ใหม้ คี วามทนั สมยั และเน้นการเจรญิ และกนั สัมพนั ธไมตรกี บั ชาติตะวันตก ทรงใช้ นโยบายผอ่ นหนกั เปน็ เบา ยอมทำ สนธสิ ัญญาท่ีไทยเสียเปรยี บ และ ยอมเสยี ดินแดนบางส่วนเพอื่ ความสมั พนั ธ์กับ รักษาเอกราชของไทยไว้ ชาตติ ะวนั ตกไทยเสียดนิ แดนท้ังหมด 6คร้ัง สนธสิ ัญญาเสยี เปรยี บทไี่ ทยเรา ครง้ั ท่ี 1 เสียเขมรแกฝ่ รง่ั เศสใน ทำกบั นานาประเทศไวใ้ นสมยั ปลายสมยั รชั กาลที่ 4 ครัง้ ที่ 2 เสยี แคว้น รชั กาลท่ี 4 เปน็ อุปสรรคสำคัญในการ สบิ สองจไุ ทยให้แก่ฝรง่ั เศสในสมัยรัชกาลที่ 5 สร้างและพัฒนาชาติ พระบาทสมเดจ็ ใน พ.ศ. 2431 ครง้ั ที่ 3 เสียดนิ แดนฝงั่ ซา้ ยแม่นำ้พระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยู่หัวไดท้ รงถอื โอกาสทไ่ี ทยเป็น โขงให้แกฝ่ รงั่ เศส ร.ศ. 112 คร้ังท่ี 4 เสียดินแดน ฝ่ายชนะสงครามโลกคร้ังท่ี 1 รว่ มกับฝ่าย ฝง่ั ขวาแม่น้ำโขงใหแ้ กฝ่ ร่งั เศส ใน พ.ศ.2446 สัมพนั ธมติ ร ใน พ.ศ. 2461 แกไ้ ขสนธสิ ัญญา โดย คร้งั ที่ 5 เสยี มณฑลบูรพาให้แกฝ่ รัง่ เศส ใน พ.ศ. ประเทศสหรฐั อเมริกาเปน็ ผูส้ นับสนนุ ในท่สี ดุ ทง้ั 2449 ครงั้ ท่ี 6 เสียไทรบุรี กลนั ตัน ตรังกานู สองประเทศก็ไดล้ งนามในสนธสิ ญั ญากนั ใหม่ และปะลิสใหแ้ ก่ อังกฤษ ใน พ.ศ. 2452 เมอื่ พ.ศ. 2463 การเสียดนิ แดนของไทย การแก้ไขสนธสิ ญั ญาเสยี เปรยี บ ชื่อ นามสกลุ เลขที่ ชน้ั โรงเรยี น .

แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 2 พฒั นาการของไทยในสมัยรตั นโกสนิ ทร์ คำชแ้ี จง เลือกคำตอบทถ่ี ูกตอ้ งที่สุดเพยี งคำตอบเดียว 1. เหตุการณใ์ ดเกดิ ข้ึนเมอื่ วนั ท่ี 6 เมษายน พ.ศ. 2325 ก. รัชกาลท่ี 1 เสด็จขึ้นครองราชย์ ข. รชั กาลท่ี 1 ทรงสรา้ งกรงุ เทพมหานคร ค. รชั กาลท่ี 1 ประกอบพระราชพธิ บี รมราชาภิเษก ง. รชั กาลที่ 1 ทรงอัญเชญิ พระแก้วมรกตมายังวดั พระแก้ว 2. วังหน้าพระองคแ์ รกในสมยั รตั นโกสินทรเ์ กย่ี วขอ้ งกับรัชกาลที่ 1 อยา่ งไร ก. เป็นพระอนุชา ข. เป็นพระเชษฐา ค. เป็นพระมาตจุ ฉา ง. เป็นพระราชโอรส 3. ในสมัยรตั นโกสินทรต์ อนต้นสมหุ นายกทำหน้าทีอ่ ะไร ก. ดแู ลหวั เมอื งฝา่ ยใต้ ข. ดูแลหัวเมืองชายทะเลตะวนั ออก ค. ดูแลหัวเมอื งฝ่ายเหนือและจตสุ ดมภ์ ง. ดูแลราชการฝา่ ยพลเรือนท่วั ราชอาณาจกั ร 4. การชำระกฎหมายตราสามดวงทำในสมัยรชั กาลใด ก. รัชกาลท่ี 1 ข. รชั กาลท่ี 2 ค. รชั กาลที่ 3 ง. รัชกาลที่ 4 5. การปฏริ ูปการปกครองครง้ั ใหญเ่ กดิ ข้นึ ในสมยั รัชกาลใด ก. รัชกาลที่ 3 ข. รัชกาลที่ 4 ค. รชั กาลที่ 5 ง. รัชกาลที่ 6 6. การกระทำใดท่ีแสดงถึงความพยายามใชน้ โยบายผ่อนปรนของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยหู่ วั ก. เปดิ การคา้ เสรีกบั ทกุ หัวเมอื ง ข. ยอมทำสนธิสัญญาเสียเปรยี บ ค. ยกเลิกกฎระเบียบทางการศาล ง. อนุญาตใหเ้ ผยแผศ่ าสนาได้เปน็ ครั้งแรก

7. ไพร่หลวง หมายถึงขอ้ ใด ก. ไพรท่ ่เี จ้านายใหอ้ อกรบแทนตนเอง ข. ไพรท่ ข่ี นึ้ กับพระมหากษตั รยิ ์โดยตรง ค. ไพร่ทีพ่ ระมหากษตั รยิ พ์ ระราชทานแก่เจ้านาย ง. ไพร่ท่ีได้รับการยกเว้นไมต่ อ้ งถูกเกณฑ์แรงงาน 8. ในสมยั รตั นโกสินทรต์ อนต้นหนว่ ยงานใดมหี นา้ ที่ติดตอ่ กบั ตา่ งประเทศ ก. วงั หนา้ ข. วังหลงั ค. เจา้ ภาษนี ายอากร ง. กรมพระคลงั สินคา้ 9. สงครามระหว่างไทยกับรัฐเพอื่ นบ้านส้นิ สดุ ลงเนอ่ื งมาจากสาเหตุใด ก. รฐั เพ่ือนบา้ นปิดประเทศ ข. รัฐเพ่อื นบ้านตกเปน็ เมอื งข้ึนของจีน ค. รฐั เพอ่ื นบ้านประสบปญั หาทางการเมอื ง ง. รฐั เพือ่ นบ้านถูกชาติตะวันตกยดึ เป็นอาณานคิ ม 10. เพราะเหตุใดไทยจึงเข้าร่วมสงครามโลกคร้งั ท่ี 2 โดยเป็นฝ่ายเดียวกับญี่ปุ่น ก. ถกู ญ่ปี ุน่ บงั คบั ข. คนไทยเกลียดชาติตะวนั ตก ค. การโฆษณาชวนเช่ือของญป่ี ุ่น ง. ต้องการแก้ไขสนธิสัญญากบั ญป่ี ุ่น

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 บทบาทของไทย ในสังคมโลก

แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 3 บทบาทของไทยในสังคมโลก ระดับชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 รายวชิ าประวตั ศิ าสตร์ รหสั วชิ า ส2310๓ กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม จัดทำโดย นางสาวณัฐธิกา นวลหอม ตำแหนง่ พนักงานราชการ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ ตำบลชา่ งเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ สำนักบริหารงานการศกึ ษาพเิ ศษ สำนักงานการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1 กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 บทบาทของไทยในสงั คมโลก เรื่อง การเข้าร่วมและบทบาทของไทย ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖4 เวลาเรยี น 1 ช่วั โมง/สัปดาห์ หน่วยกติ 0.5 (นน./นก.) ผสู้ อน นางสาวณัฐธิกา นวลหอม โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ เวลา 2 ช่วั โมง ๑. สาระสำคญั ในสงครามโลกครัง้ ที่ 1 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยูห่ ัวได้ทรงประกาศพระบรมรา โชบายรักษาความเป็นกลางอย่างมั่นคง แต่ภายหลังพระองค์ทรงเล็งเห็นผลประโยชน์ที่ไทยจะไดร้ บั หากประกาศตัวเข้าร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตร จึงได้ทรงประกาศสงครามและส่งทหารไปร่วมรบ นอกจากนห้ี ลงั สงครามโลกครัง้ ท่ี 1 กไ็ ด้เขา้ รว่ มสนั นิบาตชาติดว้ ย ในช่วงกอ่ นการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ไทยกับฝรั่งเศสได้เกิดกรณีพอพาทเรือ่ งเขตแดนอนิ โดจนี จนกระทัง่ ญี่ป่นุ เข้ามาเจรจาไกล่เกลยี่ และเม่ือเกดิ สงครามโลกคร้ังที่ 2 ไทยจำเป็นต้องเข้าร่วม ฝ่ายอักษะกับญี่ปุ่นและประกาศสงครามกับองั กฤษ สหรัฐอเมริกา จนกระทั่งตกเป็นฝ่ายแพ้สงคราม แต่ขบวนการเสรีไทยได้แก้ไขสถานการณ์โดยมีสหรัฐอเมริกาช่วยสนับสนุน ทำให้ไทยรอดพ้นจาก สถานะผู้แพส้ งคราม และไดร้ บั การรบั รองจากมหาอำนาจให้เข้าเป็นสมาชกิ องค์การสหประชาชาติ ๒. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้วี ดั ช้ันป/ี ผลการเรียนรู้/เป้าหมายการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ ส 4.3 เข้าใจความเป็นมาของชนชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรัก ความภูมิใจ และธำรงความเป็นไทย ตัวชีว้ ัดชน้ั ป/ี ผลการเรยี นรู้ ส 4.3 ม. 3/4 วิเคราะห์บทบาทของไทยในสมยั ประชาธปิ ไตย ๓. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๓.๑ ดา้ นความรู้ : Knowledge นักเรียนอธิบายเหตุผลการเข้าร่วมและบทบาทของไทยในสงครามโลกครั้งที่ 1 และ สงครามโลกครง้ั ท่ี 2 ได้ถูกตอ้ ง ๓.๒ ด้านทักษะ/กระบวนการ : Process นักเรียนมีทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ ๓.๓ ด้านคุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ : Attitude นกั เรียนมีความใฝเ่ รยี นรู้และมที ศั นคตทิ ี่ดตี อ่ การศกึ ษารายวชิ าประวตั ิศาสตร์

๔. สมรรถนะสำคัญของนกั เรียน ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ ๕. คุณลกั ษณะของวชิ า - ความรบั ผดิ ชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลุ่ม ๖. ช้ินงาน/ภาระงาน 6.1 ชิ้นงาน 1) แบบทดสอบก่อนเรียน 2) ใบงานท่ี 3.1 เรือ่ ง กรณีพิพาทอนิ โดจนี 6.2 ภาระงาน ๑) นกั เรยี นทำกจิ กรรมกลุม่ ๗. กิจกรรมการเรียนรู้ ชว่ั โมงท่ี 1 ขั้นนำเขา้ สูบ่ ทเรียน 1. ครกู ล่าวทักทายนักเรียน และใหน้ ักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน 2. นกั เรียนดูขา่ ว วดี ิทศั น์ หรอื ภาพยนตร์เก่ียวกบั สงครามที่เกิดข้ึนในปัจจุบนั นกั เรียนแสดง ความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวว่านักเรียนรู้สึกอย่างไร สงครามเกิดขึ้นเพราะเหตุใด และมี ผลเสียหรอื ผลกระทบอย่างไรบ้าง จากนั้นครสู รปุ ความร้เู พ่อื เชอื่ มโยงไปสเู่ น้อื หาท่จี ะเรียน ขั้นสอน 3. นักเรียนศึกษาเนื้อหาเกี่ยวกับการเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1 ของไทย จากหนังสือ ประวัตศิ าสตร์ ม.3 หนังสอื เพมิ่ เติม และแหลง่ การเรยี นรูต้ ่างๆ เช่น ห้องสมดุ อนิ เทอร์เนต็ 4. นักเรยี นแบง่ กลุม่ กลุ่มละ 4–6 คน แต่ละกลมุ่ ร่วมกันอภปิ รายในประเด็นต่อไปนี้ 4.1) เพราะเหตใุ ดประเทศไทยจึงประกาศสงครามและสง่ ทหารไปรว่ มรบในสงครามโลก ครงั้ ที่ 1 4.2) เพราะเหตุใดไทยจึงได้เขา้ ร่วมในสันนบิ าตชาติ และเข้ารว่ มในฐานะใด แตล่ ะกลุม่ ส่งตัวแทนออกมานำเสนอผลการอภิปรายหนา้ ชนั้ เรยี น และใหก้ ลมุ่ ท่เี หลอื ตงั้ คำถามกลุ่มละ 1 คำถาม เพอื่ ถามกลมุ่ ที่นำเสนอ ข้นั สรปุ 5. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง การเข้าร่วมและบทบาทของไทยในสงครามโลก ครง้ั ท่ี 1 โดยให้นักเรียนสรุปลงในแบบบันทกึ ความรู้ 6. ครูมอบหมายให้นักเรียนอ่านเนื้อหาเรื่อง บทบาทของไทยในสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็น การบา้ นเพอ่ื เตรยี มจดั การเรยี นรู้ในคร้งั ต่อไป

ชั่วโมงที่ 2 ขนั้ นำเข้าส่บู ทเรยี น 1. ครูกล่าวทักทายนักเรียน จากนั้นครูทบทวนเนื้อหาจากคาบเรียนที่ผ่านมา เพื่อเชื่อมโยง ไปสเู่ น้ือหาทีจ่ ะเรยี น ขัน้ สอน 2. นักเรียนศึกษาความร้เู ก่ยี วกบั บทบาทของไทยในสงครามโลกคร้งั ท่ี 2 จากหนงั สอื เพิ่มเติม และแหล่งการเรียนรู้ตา่ งๆ เชน่ หอ้ งสมุด อินเทอรเ์ น็ต จากน้นั ใหน้ กั เรียนสรุปสาระสำคัญลงในแบบ บนั ทึกความรู้ 3. นักเรียนแบ่งกลุ่มเป็น 5 กลุ่ม จากนั้นร่วมกันทำใบงานที่ 3.1 เรื่อง กรณีพิพาทอนิ โดจนี แลว้ ชว่ ยกนั เฉลยคำตอบทถ่ี กู ตอ้ ง 4. นักเรียนแบ่งเป็น 5 กลมุ่ และให้นักเรียนดวู ีดิทศั นเ์ กี่ยวกบั สงครามโลกครงั้ ท่ี 2 ที่ไทยเข้า ไปมีส่วนร่วม จากนั้นสรุปผลจากที่ได้ดูวีดิทัศน์ เพื่อประเมินผลว่านักเรียนมีความเข้าใจในการเรียน เรอ่ื ง บทบาทของไทยในสงครามโลกครงั้ ที่ 2 มากนอ้ ยเพยี งใด ข้นั สรปุ 5. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เร่ือง บทบาทของไทยในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยให้ นกั เรยี นสรปุ ลงในแบบบันทกึ ความรู้ รูปแบบแผนผังความคดิ พร้อมกับระบายสีให้สวยงาม 6. ครูมอบหมายใหน้ กั เรยี นอ่านเน้ือหาเรอ่ื ง บทบาทของไทยในสงครามเยน็ เป็นการบ้านเพือ่ เตรียมจัดการเรยี นรใู้ นครงั้ ตอ่ ไป ๘. สอื่ การเรยี นการสอน / แหล่งเรยี นรู้ ๘.๑ สือ่ การเรยี นการสอน ๑) แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 2) ขา่ วหรอื วีดทิ ัศน์เกยี่ วกบั สงครามทีเ่ กิดข้นึ ในปัจจบุ นั 3) ใบงานท่ี 3.1 เรอ่ื ง กรณพี ิพาทอนิ โดจนี 4) แบบบันทึกความรู้ 5) แบบประเมินพฤตกิ รรมในการทำงานเป็นรายบุคคลหรือเป็นกล่มุ 6) หนังสอื เรียน ประวตั ิศาสตร์ ม.3 7) ค่มู ือการสอน ประวัตศิ าสตร์ ม. 3 8) สอ่ื การเรียนรู้ PowerPoint รายวิชาพ้ืนฐาน ประวัติศาสตร์ ม. 3

๙. การวัดผลและประเมินผล เคร่อื งมือ เกณฑ์ วิธกี าร แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น ตรวจใบงานท่ี 3.1 ใบงานท่ี 3.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ สังเกตความสามารถในการใช้ ทกั ษะชวี ติ แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของ ระดบั คณุ ภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ สงั เกตความใฝเ่ รยี นรู้ นักเรยี น แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม ระดับคณุ ภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ระดับคณุ ภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ ประสงค์ ๑๐. จุดเนน้ ของโรงเรียน การบรู ณาการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งและกิจกรรมสวนพฤกษศาสตร์ โรงเรยี นปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง ปรชั ญาเศรษฐกจิ ครู ผเู้ รียน พอเพียง ความพอประมาณ พอดดี ้านเทคโนโลยี พอดดี ้านจติ ใจ รูจ้ กั ใช้เทคโนโลยมี าผลติ สือ่ ท่ี มจี ติ สำนกึ ที่ดี เออ้ื อาทร เหมาะสมและสอดคลอ้ งเนื้อหาเป็น ประนีประนอม นกึ ถงึ ประโยชน์ ประโยชน์ตอ่ ผเู้ รียนและพฒั นาจากภูมิ ส่วนรวม/กลุ่ม ปัญญาของผเู้ รยี น ความมเี หตผุ ล ยึดถือการประกอบอาชพี ด้วยความ ไม่หยุดนิ่งทีห่ าหนทางในชีวิต หลุด ถกู ตอ้ ง สจุ ริต แม้จะตกอยใู่ นภาวะขาด พ้นจากความทุกข์ยาก (การค้นหา แคลน ในการดำรงชีวิต ปฏบิ ัติตนใน คำตอบเพือ่ ให้หลุดพ้นจากความไมร่ ู้) แนวทางทด่ี ี ลด เลกิ ส่งิ ยั่วกเิ ลสใหห้ มดส้ิน ไป ไม่กอ่ ความช่วั ให้เปน็ เครื่องทำลาย ตัวเอง ทำลายผอู้ น่ื พยายามเพ่ิมพนู รกั ษา ความดี ทม่ี อี ยู่ใหง้ อกงามสมบูรณย์ ่งิ ข้นึ มภี ูมคิ ุ้มกันในตัวที่ดี ภมู ปิ ญั ญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ ภูมิปัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ระมัดระวัง ระมดั ระวัง สรา้ งสรรค์ ภูมิธรรม : ซือ่ สตั ย์ สุจรติ ขยันอดทน ภูมิธรรม : ซื่อสัตย์ สุจริต ขยันอดทน ตรงต่อเวลาและแบ่งปนั ตรงตอ่ เวลา เสียสละและแบ่งปัน เงื่อนไขความรู้ ความรอบรู้ เร่อื งวิธกี ารทาง ความรอบรู้ เรื่องวิธีการทาง ประวตั ิศาสตร์ท่ีเกีย่ วข้องรอบดา้ น ความ ประวตั ิศาสตร์ กรณีทีเ่ กิดงาน ปริมาณ รอบคอบทจ่ี ะนำความรเู้ หลา่ น้ันมา ที่เกี่ยวข้อง การคำนวณสูตรที่ต้องใช้ พจิ ารณาให้เชื่อมโยงกัน เพ่ือประกอบการ สามารถนำความรู้เหล่านน้ั มาพิจารณา วางแผน การดำเนนิ การจัดกิจกรรมการ ให้เชื่อมโยงกัน สามารถประยุกต์ใช้ใน เรยี นรใู้ หก้ ับผู้เรียน ชวี ิตประจำวัน

ปรัชญาเศรษฐกจิ ครู ผเู้ รยี น พอเพยี ง มคี วามตระหนักใน คุณธรรม มคี วาม มคี วามตระหนักในคุณธรรม เงอ่ื นไขคุณธรรม ซ่อื สัตยส์ จุ รติ และมคี วามอดทน มีความ มคี วามซอื่ สัตยส์ ุจริตและมีความอดทน เพยี ร ใช้สติปัญญาในการดำเนินชวี ิต มคี วามเพียร ใช้สตปิ ัญญาในการ ดำเนินชีวิต กจิ กรรม ครู ผู้เรยี น สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น ประวัตขิ องตน้ ไมแ้ ตล่ ะตน้ ประวัติของตน้ ไมแ้ ต่ละตน้ ประวัติของต้นไม้แต่ละตน้ อธบิ ายชนดิ ของต้นไมแ้ ละ ระบชุ นิดของต้นไมแ้ ละประวัติ ประวตั แิ ละความเป็นมาของ ประวตั คิ วามเป็นมาของตน้ ไม้ ความเป็นมาของตน้ ไม้ ต้นไม้

๑1. บนั ทึกหลังการจดั การเรียนรู้ ๑1.๑) ผลการจดั การเรยี นการสอน ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ๑1.๒) ปัญหาและอปุ สรรค ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ๑1.๓) แนวทางการแก้ปัญหา ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ (ลงชื่อ)……………………………….…………….......... (นางสาวณฐั ธกิ า นวลหอม) ผู้สอน

แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 3 บทบาทของไทยในสังคมโลก คำช้ีแจง เลอื กคำตอบท่ีถกู ต้องท่ีสุดเพียงคำตอบเดยี ว 1. ข้อใดกล่าวถงึ บทบาทของไทยในสงครามโลกคร้งั ท่ี 1 ไม่ถกู ต้อง ก. เกิดข้ึนตรงกบั สมัยรัชกาลที่ 7 ข. ไทยเขา้ ร่วมกบั ฝ่ายสัมพันธมติ ร ค. ไทยประกาศสงครามกบั เยอรมนี ง. ไทยเปน็ หนึง่ ในประเทศผู้ก่อตัง้ สันนบิ าตชาติ 2. กรณพี ิพาทอินโดจนี เป็นเหตกุ ารณ์ที่ไทยตอ้ งไกล่เกล่ียกับประเทศใด ก. ญี่ปุ่น ข. อังกฤษ ค. ฝรงั่ เศส ง. สหรัฐอเมริกา 3. หลังสงครามโลกคร้ังที่ 1 ไทยเจรจาขอแก้ไขสนธสิ ญั ญากบั ประเทศใดเปน็ ประเทศแรก ก. จีน ข. องั กฤษ ค. ฝร่ังเศส ง. สหรฐั อเมริกา 4. สงครามโลกครงั้ ท่ี 2 ประเทศทร่ี ่วมรบแบ่งออกเปน็ 2 ฝา่ ย คือฝ่ายใดบ้าง ก. ฝา่ ยซ้ายกับฝ่ายขวา ข. ฝา่ ยอักษะกับฝ่ายพันธมติ ร ค. ฝ่ายเสรกี บั ฝา่ ยคอมมวิ นสิ ต์ ง. ฝ่ายประชาธิปไตยกบั ฝ่ายเสรีนยิ ม 5. ขบวนการเสรไี ทยมจี ดุ มงุ่ หมายสำคัญในเรอ่ื งอะไร ก. ป้องกนั ประเทศโดยไมเ่ ข้าข้างฝา่ ยใด ข. รว่ มมอื กับญี่ป่นุ ตอ่ ต้านสหรฐั อเมริกา ค. ร่วมมอื อยา่ งลบั ๆ กบั ฝา่ ยพันธมิตรตอ่ ตา้ นญีป่ ุ่น ง. ร่วมมือกบั ฝรั่งเศสและองั กฤษช่วยเหลอื ญ่ีปุ่นทางอ้อม 6. ใครเปน็ ผู้ลงนามกตกิ าสมั พันธไมตรีกับญีป่ นุ่ ก. ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ข. ม.ร.ว.คกึ ฤทธ์ิ ปราโมช ค. หลวงประดิษฐ์มนธู รรม ง. จอมพล ป. พิบูลสงคราม

7. ประเทศใดไมเ่ กี่ยวข้องกบั ขบวนการเสรไี ทย ก. จนี ข. ญ่ปี นุ่ ค. องั กฤษ ง. สหรฐั อเมรกิ า 8. ขอ้ ใดกล่าวถงึ บทบาทของไทยในสงครามเย็นไมถ่ กู ต้อง ก. ไทยสง่ ทหารไปช่วยเกาหลีใต้ ข. ไทยเข้าฝ่ายเสรปี ระชาธปิ ไตย ค. ไทยสนับสนนุ โซเวียตและสาธารณรฐั จนี ง. ไทยไดเ้ ขา้ ร่วมองคก์ ารสนธิสัญญาป้องกันรว่ มกันแหง่ เอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ 9. ประเทศใดตอ่ ไปน้ีไมใ่ ช่หนง่ึ ในประเทศก่อต้งั อาเซยี น ก. ไทย ข. สงิ คโปร์ ค. เวียดนาม ง. อนิ โดนเี ซีย 10. ปจั จบุ ันไทยดำเนนิ นโยบายการต่างประเทศอย่างไร ก. ติดต่อสัมพนั ธ์กับทุกชาติ ข. ก้าวขึน้ มาเป็นมหาอำนาจ ค. สนับสนนุ ฝ่ายเสรปี ระชาธปิ ไตย ง. ปดิ ประเทศเพอ่ื พัฒนาภายในประเทศ

ใบงานที่ 3.1 เร่อื ง กรณพี ิพาทอนิ โดจีน ตวั ชี้วัดช้ันปี วเิ คราะหบ์ ทบาทของไทยในสมยั ประชาธปิ ไตย (ส 4.3 ม. 3/4) คำช้ีแจง แบ่งนกั เรยี นออกเปน็ 5 กลุ่ม สมาชิกภายในกลุ่มจับคูก่ นั คดิ หาคำตอบเกี่ยวกับกรณีพิพาทอินโด จนี ไทยมีบทบาทอย่างไรบ้าง แตล่ ะค่นู ำคำตอบที่ไดม้ าอภปิ รายในกลมุ่ เพอ่ื สรปุ เปน็ ความคิดของกลุ่ม ตัวแทน กล่มุ นำเสนอความคิด และสรปุ สาระสำคญั ทไี่ ด้จาก การอภปิ รายลงในแบบบนั ทกึ ............................................................................................................................. ...................................................... แ...น..ว...ค..ำ..ต...อ..บ.................................................................................................................................................................. ................ใ..น....พ.....ศ......2...4...7...9.....ร..ัฐ..บ...า..ล...ไ.ท...ย...ไ.ด...้เ..จ..ร..จ...า..ก..ับ...ร..ั.ฐ..บ...า..ล..อ...ัง..ก...ฤ..ษ...แ..ล...ะ..ฝ...ร..ั่ง..เ..ศ..ส..เ..พ...ื่อ..ป...ร..ั.บ..ป...ร..ุง..เ..ส..้น...เ..ข..ต...แ..ด...น..พ...ม...่า. ด...นิ ..แ...ด..น...ใ.น...ป..ก...ค..ร..อ..ง..อ...งั ..ก..ฤ..ษ.....แ..ล..ะ...ป..ร..บั...ป...ร..ุง..เ.ข..ต...แ..ด..น...ด..า้..น...อ..ิน...โ.ด...จ..ีน....ด...นิ ..แ...ด..น..ใ..น...ป..ก...ค..ร..อ..ง..ฝ..ร..ง่ั..เ.ศ...ส....ก..า..ร..เ..จ..ร..จ..า..ป...ร..ับ...ป..ร..ุง..เ..ข..ต. แ...ด..น...ร..ะ..ห..ว..่า..ง..ไ..ท..ย...ก..บั...อ..งั..ก...ฤ..ษ...ด..ำ..เ.น...ิน..ไ..ป...ด..้ว..ย..ค...ว..า..ม..เ..ร..ีย..บ...ร..อ้ ..ย..เ..ป..น็...ท...พ่ี ..ึง..พ...อ...ใ.จ..ข...อ..ง..ท...งั้ ...2....ฝ...่า..ย....แ..ต..่ก...า..ร..เ.จ..ร..จ..า..ก...บั ..ฝ...ร..่ัง..เ.ศ...ส..ไ.ม..่ ป...ร..ะ..ส...บ...ผ..ล...ส..ำ..เ.ร..็.จ...แ..ม...้ว..่า..ไ..ท...ย..จ..ะ...เ.ส...น..อ...ใ.ห...้ร..่อ...ง..ล..ึก...ข..อ...ง.แ...ม..่น...้ำ..โ..ข..ง..เ.ป...็น...แ..น...ว..ใ.น...ก...า..ร..ป..ร. .ับ...ป...ร..ุง..เ.ข..ต...แ..ด...น....แ..ต..่.ร..ัฐ..บ...า..ล..ฝ...ร..ั่ง..เ.ศ...ส. ต...อ..บ...ป...ฏ..ิ.เ.ส..ธ....ก..า..ร..เ..จ..ร..จ...า..ร..ะ..ห...ว..่า..ง..ไ.ท...ย..ก...ับ...ฝ..ร..ัง่..เ..ศ..ส..จ...ึง..ห...ย..ุด...ช..ะ..ง..กั...ล..ง...ใ..น..ช...่ว..ง..เ.ด...ือ..น...ส..ิ.ง.ห...า..ค..ม....พ....ศ.....2...4..8...3.....ฝ..ร..ั่ง..เ..ศ..ส...ไ.ด...้ท..ำ. ค...ว..า..ม..ต...ก..ล..ง..ก...บั ..ร..ฐั..บ...า..ล..ญ...ี่ป...ุ่น...ย..อ..ม...ร..ับ...ส..ถ..า..น...ะ..ข..อ...ง..ญ...ีป่ ..นุ่...ใ.น...อ..นิ...โ.ด...จ..ีน....ย...ิน..ย..อ...ม..ใ..ห..ญ้....่ปี ..ุ่น...ข..ย..า..ย...อ..ิท...ธ..พิ ...ล..เ.ค...ล..่อื ..น..ก...ำ..ล..งั..ท...ห..า..ร..เ..ข..้า. ม...า..ต..ั้ง..ฐ...า..น..ท...พั...ใ.น...เ.ว..ีย...ด..น...า..ม..แ...ล..ะ..ก...ัม..พ...ูช...า...ซ..ึ่ง..ส...ง่ ..ผ..ล...ก..ร..ะ..ท...บ...ต..อ่...ค..ว..า..ม...ม..ั่น...ค..ง..ข..อ...ง..ไ.ท...ย...ต...่อ..ม...า..เ.ม...ื่อ..ไ..ท...ย..แ..ล...ะ..ฝ..ร..่ั.ง.เ..ศ..ส...ไ.ด...้เ.ก..ดิ...ส. ู้ ร..ับ...ก...ัน..ท...า..ง..ท...ะ..เ.ล...โ..ด..ย..เ..ฉ..า..พ...อ..ย...่า..ง..ย..ิ่ง..ก...า..ร..ย..ุท...ธ..น...า..ว..ีท...ี่เ.ก...า..ะ..ช...้า..ง...จ...ัง..ห..ว...ัด..ต...ร..า..ด....ท..ำ..ใ..ห..้ไ..ท...ย..ไ..ด..้ร..ับ...ค...ว..า..ม..เ..ส..ีย...ห..า..ย...อ..ย...่า..ง..ม..า..ก.. ต...่อ..ม...า..ป..ร..ะ..เ..ท..ศ...ญ...่ปี...ุน่ ..ซ...ึ่ง.เ..ป..น็...ป...ร..ะ..เ.ท...ศ..ม...ห..า..อ...ำ..น..า..จ..ไ..ด..เ้..ข..า้ ..ม..า..ม...ีบ..ท...บ...า..ท..ใ..น..อ...นิ ..โ..ด..จ...นี ..ไ..ด..เ้..ข.้า..ม...า..ไ.ก...ล..่เ.ก...ล..่ีย....แ...ล..ะ..ไ..ท..ย...ไ.ด...้ด..ิน...แ..ด...น. ค...ืน..จ...า..ก..ฝ..ร..ัง่..เ.ศ...ส............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ...................................................... ............................................................................................................................. ...................................................... กลุ่มที่.................... สมาชกิ กลมุ่ 1........................................................................ 2...................................................................... 3....................................................................... 4...................................................................... 5....................................................................... 6......................................................................

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 3 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 บทบาทของไทยในสังคมโลก เรอ่ื ง การเขา้ ร่วมและบทบาทของไทย ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา ๒๕๖4 เวลาเรียน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ หนว่ ยกิต 0.5 (นน./นก.) ผู้สอน นางสาวณัฐธกิ า นวลหอม โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ เวลา 1 ช่วั โมง ๑. สาระสำคัญ หลังสงครามโลกครัง้ ที่ 2 มหาอำนาจแบ่งเป็น 2 กลมุ่ คอื กลุ่มคอมมิวนสิ ต์ มสี หภาพโซเวียต เป็นผู้นำ และกลุ่มเสรีประชาธิปไตย มีสหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำ โดยไทยได้ให้ความร่วมมือกับ สหรฐั อเมรกิ าในการตอ่ ต้านคอมมวิ นิสต์ เชน่ ส่งทหารไปช่วยสหประชาชาติในการปกปอ้ งเกาหลีใต้ที่ ถูกคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือรุกราน ส่งทหารเขา้ ไปช่วยรัฐบาลเวยี ดนามใตส้ ู้รบกับคอมมวิ นิสต์ ๒. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวช้ีวัดชน้ั ป/ี ผลการเรยี นรู้/เปา้ หมายการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ ส 4.3 เข้าใจความเป็นมาของชนชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรัก ความภูมิใจ และธำรงความเปน็ ไทย ตัวชี้วดั ช้นั ปี/ผลการเรยี นรู้ ส 4.3 ม. 3/4 วเิ คราะหบ์ ทบาทของไทยในสมยั ประชาธิปไตย ๓. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๓.๑ ด้านความรู้ : Knowledge นักเรยี นอธิบายเหตุผลการเขา้ รว่ มและบทบาทของไทยในสงครามเย็นได้ถูกตอ้ ง ๓.๒ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ : Process นกั เรยี นมที กั ษะการคดิ วเิ คราะห์ ๓.๓ ดา้ นคุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ : Attitude นักเรยี นมคี วามใฝเ่ รียนรู้ และมีทศั นคติทีด่ ีตอ่ การศกึ ษารายวชิ าประวัติศาสตร์ ๔. สมรรถนะสำคญั ของนกั เรยี น ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต ๕. คุณลักษณะของวชิ า - ความรับผิดชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลุม่

๖. ช้ินงาน/ภาระงาน 6.1 ช้ินงาน 1) ใบงานท่ี 2 เรือ่ ง บทบาทของไทยในสงครามเย็น 6.2 ภาระงาน ๑) นกั เรียนทำกจิ กรรมกลุ่ม ๗. กิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงท่ี 1 ขั้นนำเขา้ สบู่ ทเรยี น 1. ครูกล่าวทักทายนักเรียน และทบทวนเกี่ยวกับบทบาทของไทยในสงครามโลกครั้งที่ 1 และครง้ั ที่ 2 เพ่อื เชื่อโยงสู่เนื้อหาทจ่ี ะเรียน ขน้ั สอน 2. นักเรียนศึกษาความรู้ เรื่อง บทบาทของไทยในสงครามเย็น จากหนังสือเพิ่มเติม และ แหล่งการเรียนรู้ต่างๆ เช่น ห้องสมุด อินเทอร์เน็ต จากนั้นให้นักเรียนสรุปสาระสำคัญลงในแบบ บันทึกความรู้ 3. นักเรียนแบ่งกลุม่ กลุ่มละ 4–6 คน ให้แต่ละกลุ่มร่วมกันแสดงความคิดเห็นตามหัวขอ้ ที่ กำหนดให้ 3.1) บทบาทของไทยในสงครามเย็นเปน็ อยา่ งไร 3.2) เพราะเหตใุ ดกลุ่มเสรไี ทยจงึ กลา่ วหาวา่ ฝา่ ยคอมมิวนสิ ตย์ ดึ ครองโลก 3.3) สนธิสัญญาป้องกันร่วมกันแห่งเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้ (ส.ป.อ.) จดั ตัง้ ขนึ้ มาเพื่อ อะไร 3.4) หลังจากท่ีสหรฐั อเมรกิ าประนปี ระนอมกบั ประเทศคอมมิวนสิ ต์ ประเทศไทยมีท่าที อยา่ งไร 4. นักเรียนแต่ละกลุม่ สง่ ตัวแทนออกมานำเสนอผลงาน ในขณะที่แต่ละกลุม่ นำเสนอผลงาน ครทู ำหน้าท่ีต้งั คำถามเร้าความสนใจใหน้ ักเรยี นคดิ และเพ่มิ เตมิ เสรมิ เน้อื หา 5. นักเรียนทำใบงานท่ี 3.2 เรอ่ื ง บทบาทของไทยในสงครามเยน็ แลว้ ช่วยกันเฉลยคำตอบท่ี ถกู ต้อง จากนัน้ นกั เรียนทำกิจกรรมทเ่ี กยี่ วกบั บทบาทของไทยในสงครามเย็น แลว้ ช่วยกนั เฉลยคำตอบ ที่ถกู ต้อง

ขัน้ สรุป 6. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรุปความร้เู ร่ือง การเข้าร่วมสงครามโลกคร้ังท่ี 1 บทบาทของไทย ในสงครามโลกครั้งที่ 2 และบทบาทของไทยในสงครามเย็น โดยให้นักเรียนสรุปในรูปแบบแผนที่ ความคดิ พร้อมตกแต่งให้สวยงาม 7. ครูมอบหมายให้นักเรียนอ่านเนื้อหาเกี่ยวกับความร่วมมือของไทยกับประเทศในเอเชีย ตะวันออกเฉยี งใต้ เป็นการบา้ นเพ่อื เตรียมจดั การเรียนร้ใู นคร้งั ต่อไป ๘. สอ่ื การเรยี นการสอน / แหลง่ เรยี นรู้ ๘.๑ สื่อการเรยี นการสอน ๑) ใบงานที่ 3.2 เรอื่ ง บทบาทของไทยในสงครามเยน็ 2) หนงั สอื เรยี น ประวตั ิศาสตร์ ม.3 3) คูม่ ือการสอน ประวตั ิศาสตร์ ม. 3 4) สอ่ื การเรียนรู้ PowerPoint รายวิชาพน้ื ฐาน ประวตั ศิ าสตร์ ม. 3 8.2 แหล่งเรียนรู้ 1) ห้องสมดุ 2) อนิ เทอร์เนต็ ๙. การวัดผลและประเมินผล เครอื่ งมือ เกณฑ์ วิธกี าร ใบงานที่ 3.2 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 3.2 สังเกตความสามารถในการใช้ แบบประเมินสมรรถนะสำคญั ของ ระดบั คณุ ภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ ทักษะชีวติ สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ นักเรยี น สังเกตความใฝ่เรียนรู้ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดับคณุ ภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึง ระดบั คณุ ภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ ประสงค์ ๑๐. จดุ เน้นของโรงเรยี น การบูรณาการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและกิจกรรมสวนพฤกษศาสตร์ โรงเรยี นปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ปรัชญาเศรษฐกจิ ครู ผเู้ รียน พอเพียง ความพอประมาณ พอดีด้านเทคโนโลยี พอดดี ้านจติ ใจ รู้จกั ใชเ้ ทคโนโลยมี าผลิตสื่อท่ี มีจติ สำนกึ ท่ีดี เออ้ื อาทร เหมาะสมและสอดคล้องเน้ือหาเปน็ ประนปี ระนอม นึกถงึ ประโยชน์ ประโยชน์ต่อผเู้ รียนและพฒั นาจากภมู ิ สว่ นรวม/กลมุ่ ปญั ญาของผ้เู รยี น

ปรชั ญาเศรษฐกิจ ครู ผเู้ รียน พอเพยี ง ยดึ ถอื การประกอบอาชีพด้วยความ ไม่หยุดนิ่งที่หาหนทางในชีวิต หลุด ความมีเหตุผล ถูกตอ้ ง สุจรติ แม้จะตกอยู่ในภาวะขาด พ้นจากความทุกข์ยาก (การค้นหา มีภมู คิ ุ้มกนั ในตัวที่ดี เงอ่ื นไขความรู้ แคลน ในการดำรงชวี ิต ปฏบิ ัติตนใน คำตอบเพอื่ ใหห้ ลดุ พน้ จากความไมร่ ู)้ เงื่อนไขคณุ ธรรม แนวทางทีด่ ี ลด เลิก ส่ิงยั่วกิเลสใหห้ มดสิ้น ไป ไม่กอ่ ความช่ัวให้เปน็ เคร่อื งทำลาย ตัวเอง ทำลายผู้อ่นื พยายามเพ่ิมพนู รกั ษา ความดี ท่ีมอี ยู่ให้งอกงามสมบรู ณ์ย่ิงข้ึน ภูมิปญั ญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ ภูมิปัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ระมัดระวงั ระมดั ระวัง สรา้ งสรรค์ ภมู ิธรรม : ซ่ือสตั ย์ สุจริต ขยันอดทน ภูมิธรรม : ซื่อสัตย์ สุจริต ขยันอดทน ตรงตอ่ เวลาและแบ่งปัน ตรงตอ่ เวลา เสียสละและแบง่ ปนั ความรอบรู้ เร่อื งวิธีการทาง ความรอบรู้ เรื่องวิธีการทาง ประวัตศิ าสตร์ท่ีเกี่ยวขอ้ งรอบดา้ น ความ ประวัติศาสตร์ กรณที ่ีเกดิ งาน ปริมาณ รอบคอบทจี่ ะนำความร้เู หล่านน้ั มา ที่เกี่ยวข้อง การคำนวณสูตรที่ต้องใช้ พิจารณาให้เชอื่ มโยงกัน เพอ่ื ประกอบการ สามารถนำความรู้เหล่านน้ั มาพิจารณา วางแผน การดำเนนิ การจัดกิจกรรมการ ให้เชื่อมโยงกัน สามารถประยุกต์ใช้ใน เรียนรู้ให้กับผเู้ รียน ชีวติ ประจำวนั มีความตระหนกั ใน คุณธรรม มีความ มคี วามตระหนกั ในคณุ ธรรม ซ่อื สัตยส์ จุ ริตและมีความอดทน มคี วาม มคี วามซือ่ สัตยส์ ุจริตและมีความอดทน เพียร ใชส้ ติปัญญาในการดำเนินชวี ติ มีความเพยี ร ใช้สตปิ ญั ญาในการ ดำเนนิ ชีวติ กจิ กรรม ครู ผู้เรยี น สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ประวตั ิของตน้ ไมแ้ ตล่ ะต้น ประวตั ิของต้นไมแ้ ต่ละต้น ประวัติของต้นไมแ้ ต่ละตน้ อธิบายชนิดของต้นไมแ้ ละ ระบุชนดิ ของตน้ ไม้และประวัติ ประวัตแิ ละความเปน็ มาของ ประวตั คิ วามเป็นมาของตน้ ไม้ ความเปน็ มาของตน้ ไม้ ตน้ ไม้

๑1. บนั ทึกหลงั การจดั การเรียนรู้ ๑1.๑) ผลการจัดการเรยี นการสอน ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ๑1.๒) ปญั หาและอปุ สรรค ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ๑1.๓) แนวทางการแกป้ ญั หา ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ (ลงชอื่ )……………………………….…………….......... (นางสาวณฐั ธิกา นวลหอม) ผู้สอน

ใบงานที่ 3.2 เรื่อง บทบาทของไทยในสงครามเยน็ ตัวชี้วัดช้ันปี วเิ คราะห์บทบาทของไทยในสมยั ประชาธิปไตย (ส 4.3 ม. 3/4) คำชแี้ จง ตอบคำถามตอ่ ไปนใ้ี หถ้ กู ตอ้ ง 1. ประเทศใดเปน็ ผนู้ ำกลมุ่ ประเทศเสรีประชาธปิ ไตย .............................................................................................................................................................................. ............ส..ห...ร..ฐั ..อ..เ..ม..ร..กิ ...า.............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. เพราะเหตใุ ดไทยจงึ เข้าร่วมฝา่ ยเสรปี ระชาธปิ ไตยในสงครามเย็น ..เ..พ..ร..า..ะ..ไ..ท...ย..เ.ป...น็ ..ป...ร..ะ..เ.ท...ศ..ท...่มี...ีร..ะ..บ..บ...เ.ศ...ร..ษ..ฐ..ก...ิจ..แ..บ...บ...ท..ุน...น...ิย..ม..แ...ล..ะ..ป...ก..ค...ร..อ..ง..ร..ะ..บ...อ..บ...ป..ร..ะ...ช..า..ธ..ปิ...ไ.ต...ย..ท..มี่...ี.......................... ..พ...ร..ะ..ม...ห..า..ก...ษ..ตั...ร..ยิ ..ท์...ร..ง.เ..ป..น็...ป...ร..ะ..ม..ขุ....จ..ึง..ไ..ม..อ่..า..จ...ย..อ..ม...ร..บั ..ค...อ..ม...ม..ิว..น...ิส..ต..์ไ..ด..้....................................................................... .............................................................................................................................................................................. 3. สงครามเย็นใช้วิธดี ำเนินการอยา่ งไร ..โ..ฆ..ษ...ณ...า..ช...ว..น..เ..ช..อ่ื ....ก..า..ร..ข..ม่...ข..ู่.ก...า..ร..ก..ด..ด...ัน..ท...า..ง..เ.ศ...ร..ษ..ฐ..ก...จิ ...ก...า..ร..แ..ข..ง่..ข...นั ..ท...า..ง..ก..า..ร..ท...ห..า..ร...................................................... .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 4. ไทยมีบทบาทในการร่วมมือกับสหรฐั อเมรกิ าอยา่ งไรบา้ ง ..เ.ช...น่ ...ร..่ว..ม...ม..ือ...ใ.น...ก..า..ร..ต...่อ..ต..า้..น...ค..อ...ม..ม...วิ ..น..สิ...ต..์.ส...่ง..ท..ห...า..ร..ไ.ป...ช..ว่..ย...ส..ห...ป..ร..ะ..ช...า..ช..า..ต..ิป...ก..ป...้อ..ง..เ..ก..า..ห..ล...ีใ.ต...้ .ส..่ง..ท...ห...า.ร..ไ..ป...ร..่ว..ม..ร..บ.......... ..ใ.น...ล..า..ว..แ...ล..ะ..เ.ว..ยี...ด..น...า..ม..เ.ม...่ือ..ค...ร..ั้ง..ส..ง..ค..ร..า..ม...อ..นิ ...โ.ด..จ...ีน....................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. 5. เพราะเหตุใดจึงมกี ารจัดตงั้ องค์การสนธสิ ัญญาปอ้ งกันร่วมกนั แห่งเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้ .............................................................................................................................................................................. .เ.พ...อ่ื..ร..่ว..ม...ก..ัน...ต..่อ...ต..้า..น...ภ..ยั...จ..า..ก..ค...อ..ม..ม...วิ ..น...สิ ..ต..์................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 6. หลังจากที่สหรฐั อเมรกิ ามนี โยบายประนีประนอมกบั ฝ่ายคอมมวิ นสิ ต์ ประเทศไทยดำเนินนโยบายอย่างไร .............................................................................................................................................................................. ..เ.ป..ิด...ค..ว..า..ม...ส..มั ..พ...ัน...ธ..์ท...า.ง..ก...า..ร..ท..ตู...ก..บั ...ส..า..ธ..า..ร..ณ...ร..ัฐ..ป...ร..ะ..ช...า..ช..น...จ..ีน....แ..ล..ะ...ร..ับ..ร..อ...ง.ร..ฐั..บ...า..ล..เ..ว..ีย..ด..น...า..ม....ล..า..ว...แ...ล..ะ..ก...ัม..พ...ูช..า............. .............................................................................................................................................................................. ชอ่ื นามสกุล เลขท่ี ชั้น โรงเรยี น .

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 3 กล่มุ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 3 หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 3 บทบาทของไทยในสงั คมโลก เร่อื ง ความร่วมมือของไทย ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖4 เวลาเรียน 1 ช่วั โมง/สปั ดาห์ หน่วยกติ 0.5 (นน./นก.) ผูส้ อน นางสาวณัฐธิกา นวลหอม โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ เวลา 2 ชั่วโมง ๑. สาระสำคญั ไทยร่วมมือกับประเทศในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ที่ไม่ใช่คอมมิวนิสต์ในช่วงสงครามเย็นโดย การจัดตั้งสมาคมแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือสมาคมอาสา เพื่อส่งเสริมความร่วมมือกันทาง เศรษฐกจิ และวฒั นธรรมระหว่างประเทศ แตเ่ มอ่ื เกิดกรณพี พิ าทระหว่างมาเลเซียกับฟิลิปปินส์ ทำให้ สมาคมอาสาต้องล้มเลิกไป ต่อมาประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ร่วมกันจัดตั้งสมาคม ประชาชาติแหง่ เอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้เพอื่ รว่ มมือกันเสริมสรา้ งให้ภมู ิภาคมีสันติภาพ อนั จะนำมาซึ่ง ความม่นั คงทางการเมืองและความเจริญกา้ วหนา้ ทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ๒. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชีว้ ัดช้นั ปี/ผลการเรียนร/ู้ เปา้ หมายการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ ส 4.3 เข้าใจความเป็นมาของชนชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรัก ความภูมิใจ และธำรงความเปน็ ไทย ตัวชีว้ ัดชัน้ ป/ี ผลการเรยี นรู้ ส 4.3 ม. 3/4 วิเคราะห์บทบาทของไทยในสมัยประชาธปิ ไตย ๓. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๓.๑ ด้านความรู้ : Knowledge นักเรียนอธิบายความร่วมมือของไทยกับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไดถ้ ูกตอ้ ง ๓.๒ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ : Process นักเรียนมที ักษะการส่ือสาร ๓.๓ ดา้ นคุณลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ : Attitude นกั เรียนมคี วามใฝ่เรียนรู้ และมที ัศนคตทิ ่ดี ตี ่อการศึกษารายวิชาประวัตศิ าสตร์ ๔. สมรรถนะสำคญั ของนักเรียน ความสามารถในการสอื่ สาร ๕. คุณลกั ษณะของวิชา - ความรบั ผิดชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกล่มุ

๖. ชิ้นงาน/ภาระงาน 6.1 ชน้ิ งาน 1) ใบงานท่ี 3.3 เร่ือง ความรว่ มมือของไทยกบั ประเทศในเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ 6.2 ภาระงาน ๑) นักเรียนทำกจิ กรรมกลุม่ ๗. กิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 ขน้ั นำเข้าสบู่ ทเรยี น 1. ครกู ล่าวทกั ทายนกั เรียน และใหน้ ักเรียนดูขา่ วเกีย่ วกับการประชมุ สุดยอดอาเซียน แล้วให้ นกั เรยี นแสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกับเหตกุ ารณด์ ังกล่าววา่ นักเรียนรู้สึกอยา่ งไร และเกิดขึน้ เพราะเหตุใด ให้นักเรียนช่วยกันแสดงความคิดเห็นโดยใช้ข้อมูลจากที่ได้ไปอ่านมา ครูสรุปสรุปความคิดเห็นของ นักเรยี น จากนัน้ อธบิ ายเพ่มิ เตมิ เพื่อเช่อื มไปสูเ่ นอื้ หาทจี่ ะเรยี น ขน้ั สอน 2. นักเรียนศกึ ษาความรู้ เร่อื ง สมาคมแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากหนังสือเพม่ิ เติม และ แหลง่ การเรียนรู้ต่างๆ เช่น หอ้ งสมดุ อนิ เทอรเ์ นต็ จากนน้ั ใหน้ กั เรียนสรปุ สาระสำคัญลงในแบบบันทึก ความรู้ 3. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน ให้แต่ละกลุ่มร่วมกันตอบคำถามตามหัวข้อที่กำหนดให้ ดงั ต่อไปนี้ 3.1) สมาคมแหง่ เอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้จดั ต้ังข้นึ มาเพ่อื อะไร 3.2) สมาคมประชาชาติแหง่ เอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้จัดต้ังขึ้นมาเพือ่ อะไร 3.3) ความร่วมมอื ในอาเซยี นที่สำคญั มอี ะไรบา้ ง 4. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน ในขณะที่แต่ละกลุ่มนำเสนอ ครทู ำหน้าท่ีตง้ั คำถามเรา้ ความสนใจให้นกั เรียนคดิ และเพิม่ เติมเสริมเนือ้ หา ขนั้ สรุป 5. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง สมาคมแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมเปิด โอกาสให้นักเรยี นซักถามข้อสงสัยต่างๆ ทไี่ มเ่ ขา้ ใจ ชว่ั โมงที่ 2 ขนั้ นำเข้าสบู่ ทเรยี น 1. ครูกล่าวทักทายนักเรียน และทบทวนความรู้ที่ได้เรียนจากคาบที่แล้ว จากนั้นอธิบาย เพ่ิมเติมเพอื่ เชื่อมไปสเู่ นอื้ หาท่ีจะเรยี น

ขั้นสอน 2. นักเรียนศึกษาความรู้ เรื่อง ความร่วมมือของไทยกับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากหนังสือเพิ่มเติม และแหล่งการเรยี นรู้ต่างๆ เช่น ห้องสมุด อินเทอร์เน็ต จากนั้นให้นักเรยี นสรปุ สาระสำคัญลงในแบบบันทกึ ความรู้ 3. นักเรียนทำใบงานท่ี 3.3 เรื่อง ความร่วมมือของไทยกับประเทศในเอเชียตะวนั ออกเฉยี ง ใต้ แล้วชว่ ยกันเฉลยคำตอบทถี่ ูกต้อง 4. นักเรียนศึกษาเพิ่มเติมในเรื่องของ การรวมกลุ่มของประเทศสมาชิกอาเซียนเป็นการ เตรียมความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดข้นึ ซ่ึงเป็นการมีภูมคิ มุ้ กันท่ดี ีในตัว กล่าวคอื มีการเตรียม ตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากประเทศนอกกลุ่มอาเซียนโดยไม่ประมาท โดยเฉพาะการ เปลี่ยนแปลงที่จะนำผลเสียมาสู่กลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน จึงมีการเตรยี มตัวป้องกันไวก้ ่อน ตั้งแต่ การกระจายความเสี่ยงในการผลิตต่าง ๆ มีการออมหรือการประกันภัย มีการจัดตั้งสวัสดิการสังคม ต่างๆ เพื่อพร้อมช่วยเหลือกันและกันในยามวิกฤติ ตลอดจนมีการรักษาความสมดุลของฐาน ทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมให้คงไว้ ข้ันสรปุ 5. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง ความร่วมมือของไทยกับประเทศในเอเชีย ตะวันออกเฉยี งใต้ พรอ้ มเปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนซักถามขอ้ สงสัยตา่ งๆ ท่ีไม่เขา้ ใจ 6. ครูมอบหมายให้นักเรียนไปอ่านเนอื้ หาและสบื ค้นข้อมูลเรอื่ ง บทบาทของไทยในสังคมโลก ปจั จุบัน จากแหล่งเรียนรู้อ่ืน ๆ เช่น หนงั สอื พมิ พ์ อินเทอร์เน็ต เป็นการบา้ นเพื่อเตรียมจัดการเรียนรู้ ในคร้ังต่อไป ๘. สือ่ การเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้ ๘.๑ สื่อการเรียนการสอน ๑) ข่าวเก่ียวกบั การประชมุ อาเซียน 2) ใบงานที่ 3.3 เรอื่ ง ความร่วมมอื ของไทยกบั ประเทศในเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ 3) แบบบันทึกความรู้ 4) หนังสือเรียน ประวัติศาสตร์ ม.3 5) คูม่ อื การสอน ประวัติศาสตร์ ม. 3 6) ส่อื การเรียนรู้ PowerPoint รายวิชาพื้นฐาน ประวัตศิ าสตร์ ม. 3 8.2 แหล่งเรยี นรู้ 1) ห้องสมดุ 2) อนิ เทอร์เนต็

๙. การวดั ผลและประเมินผล เครอื่ งมือ เกณฑ์ วิธกี าร ใบงานที่ 3.3 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 3.3 ตรวจแบบบนั ทึกความรู้ แบบบนั ทกึ ความรู้ ระดับคณุ ภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ สงั เกตความสามารถในการสื่อสาร แบบประเมินสมรรถนะสำคญั ของ ระดับคุณภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม สังเกตความใฝ่เรยี นรู้ นักเรียน แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดับคณุ ภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ แบบประเมินคุณลักษณะอันพงึ ระดบั คณุ ภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ ประสงค์ ๑๐. จดุ เนน้ ของโรงเรียน การบรู ณาการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและกิจกรรมสวนพฤกษศาสตร์ โรงเรียนปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ปรชั ญาเศรษฐกิจ ครู ผูเ้ รยี น พอเพียง ความพอประมาณ พอดดี า้ นเทคโนโลยี พอดีด้านจิตใจ รจู้ กั ใช้เทคโนโลยมี าผลติ สอื่ ท่ี มีจิตสำนึกท่ีดี เอ้ืออาทร เหมาะสมและสอดคลอ้ งเน้อื หาเปน็ ประนปี ระนอม นึกถงึ ประโยชน์ ประโยชน์ตอ่ ผเู้ รยี นและพัฒนาจากภมู ิ ส่วนรวม/กลุม่ ปญั ญาของผู้เรียน ความมเี หตุผล ยึดถือการประกอบอาชพี ด้วยความ ไม่หยุดนิ่งที่หาหนทางในชีวิต หลุด ถกู ตอ้ ง สุจรติ แม้จะตกอย่ใู นภาวะขาด พ้นจากความทุกข์ยาก (การค้นหา แคลน ในการดำรงชวี ิต ปฏบิ ตั ิตนใน คำตอบเพ่ือให้หลดุ พน้ จากความไม่ร)ู้ แนวทางทด่ี ี ลด เลิก สิ่งยั่วกิเลสใหห้ มดสิน้ ไป ไมก่ อ่ ความชั่วให้เป็นเครื่องทำลาย ตัวเอง ทำลายผู้อน่ื พยายามเพ่ิมพูนรกั ษา ความดี ท่มี ีอยู่ให้งอกงามสมบูรณย์ ่ิงขึ้น มีภูมิคุ้มกนั ในตวั ท่ีดี ภมู ปิ ญั ญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ ภูมิปัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ระมดั ระวงั ระมัดระวงั สร้างสรรค์ ภมู ิธรรม : ซือ่ สัตย์ สุจรติ ขยันอดทน ภูมิธรรม : ซื่อสัตย์ สุจริต ขยันอดทน ตรงตอ่ เวลาและแบ่งปนั ตรงต่อเวลา เสยี สละและแบ่งปนั เงอ่ื นไขความรู้ ความรอบรู้ เรื่องวิธีการทาง ความรอบรู้ เรื่องวิธีการทาง ประวตั ิศาสตร์ที่เก่ยี วขอ้ งรอบดา้ น ความ ประวตั ิศาสตร์ กรณที ่ีเกิดงาน ปริมาณ รอบคอบท่ีจะนำความร้เู หล่านน้ั มา ที่เกี่ยวข้อง การคำนวณสูตรที่ต้องใช้ พิจารณาให้เช่อื มโยงกัน เพ่อื ประกอบการ สามารถนำความรู้เหล่านั้นมาพิจารณา วางแผน การดำเนินการจัดกจิ กรรมการ ให้เชื่อมโยงกัน สามารถประยุกต์ใช้ใน เรยี นรู้ใหก้ บั ผูเ้ รยี น ชีวติ ประจำวนั

ปรัชญาเศรษฐกจิ ครู ผเู้ รยี น พอเพยี ง มคี วามตระหนักใน คุณธรรม มคี วาม มคี วามตระหนักในคุณธรรม เงอ่ื นไขคุณธรรม ซ่อื สัตยส์ จุ รติ และมคี วามอดทน มีความ มคี วามซอื่ สัตยส์ ุจริตและมีความอดทน เพยี ร ใช้สติปัญญาในการดำเนินชวี ิต มคี วามเพียร ใช้สตปิ ัญญาในการ ดำเนินชีวิต กจิ กรรม ครู ผู้เรยี น สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น ประวัตขิ องตน้ ไมแ้ ตล่ ะตน้ ประวัติของตน้ ไมแ้ ต่ละตน้ ประวัติของต้นไม้แต่ละตน้ อธบิ ายชนดิ ของต้นไมแ้ ละ ระบชุ นิดของต้นไมแ้ ละประวัติ ประวตั แิ ละความเป็นมาของ ประวตั คิ วามเป็นมาของตน้ ไม้ ความเป็นมาของตน้ ไม้ ต้นไม้

๑1. บนั ทึกหลังการจดั การเรียนรู้ ๑1.๑) ผลการจดั การเรยี นการสอน ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ๑1.๒) ปัญหาและอปุ สรรค ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ๑1.๓) แนวทางการแก้ปัญหา ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ (ลงชื่อ)……………………………….…………….......... (นางสาวณฐั ธกิ า นวลหอม) ผู้สอน

ใบงานท่ี 3.3 เรอ่ื ง ความร่วมมอื ของไทยกับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตวั ช้วี ัดช้ันปี วิเคราะห์บทบาทของไทยในสมยั ประชาธิปไตย (ส 4.3 ม. 3/4) คำช้แี จง ให้นักเรียนหาขา่ วเกย่ี วกับความร่วมมือของประเทศไทยกับประเทศในเอเชยี ตะวันออก- เฉียงใต้ จากน้นั นำมาอภิปรายแสดงความคิดเห็นร่วมกนั และสรุป - ภาพข่าว - สรุป ....................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ................. ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ............................................. ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ................ ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ช่อื นามสกุล เลขท่ี ชน้ั โรงเรียน .

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 4 กลุม่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 บทบาทของไทยในสังคมโลก เรื่อง บทบาทของไทยในสังคมโลกปัจจุบัน ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖4 เวลาเรียน 1 ช่วั โมง/สปั ดาห์ หน่วยกิต 0.5 (นน./นก.) ผู้สอน นางสาวณฐั ธกิ า นวลหอม โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ เวลา 1 ช่วั โมง ๑. สาระสำคัญ นโยบายตา่ งประเทศของไทยในปจั จบุ นั คือการตดิ ตอ่ สมั พันธก์ ับทกุ ชาติ เน้นความรว่ มมอื ทาง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และความกา้ วหนา้ ทางดา้ นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไทยได้ใชน้ โยบาย เป็นกลางและสนับสนุนสหประชาชาติในการแกไ้ ขปัญหาความขัดแย้งในโลกด้วนสันตวิ ิธี เน้นการทูต เชงิ รกุ เพื่อฟน้ื ฟูความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งประเทศ ๒. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชี้วัดชัน้ ปี/ผลการเรียนร/ู้ เปา้ หมายการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ ส 4.3 เข้าใจความเป็นมาของชนชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรัก ความภูมิใจ และธำรงความเป็นไทย ตัวชว้ี ดั ชน้ั ปี/ผลการเรยี นรู้ ส 4.3 ม. 3/4 วเิ คราะหบ์ ทบาทของไทยในสมัยประชาธิปไตย ๓. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๓.๑ ด้านความรู้ : Knowledge นักเรียนอธบิ ายบทบาทของไทยในสงั คมโลกปจั จุบนั ไดถ้ ูกตอ้ ง ๓.๒ ด้านทักษะ/กระบวนการ : Process นกั เรียนมที กั ษะการสื่อสาร ๓.๓ ด้านคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ : Attitude นกั เรียนมคี วามใฝเ่ รียนรู้ และมที ัศนคติที่ดีต่อการศกึ ษารายวิชาประวตั ศิ าสตร์ ๔. สมรรถนะสำคญั ของนักเรยี น ความสามารถในการสือ่ สาร ๕. คุณลักษณะของวิชา - ความรับผิดชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกล่มุ

๖. ช้ินงาน/ภาระงาน 6.1 ชิน้ งาน 1) แบบทดสอบหลงั เรียน ๗. กิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรยี น 1. ครูกล่าวทักทายนักเรียน และทบทวนความรู้ที่ได้เรียนจากคาบที่แล้ว จากนั้นอธิบาย เพิ่มเตมิ เพื่อเช่อื มไปสู่เนอื้ หาท่จี ะเรียน ขัน้ สอน 2. นักเรียนร่วมกันรวบรวมขอ้ มูลที่ได้รับมอบหมายให้ไปสืบค้นมาแล้วแสดงความคิดเห็นใน เรือ่ งดงั กลา่ ว จากน้ันสรุปสาระสำคญั ของเรอ่ื ง บทบาทของไทยในสงั คมโลกปัจจุบนั ลงในแบบบันทึก ความรู้ 3. นักเรียนศึกษาความรู้เกี่ยวกับบทบาทของไทยในสังคมโลกปัจจุบันจากหนังสือเพิ่มเติม และแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ เช่น ห้องสมุด อินเทอร์เน็ต จากนั้นให้นักเรียนสรุปสาระสำคัญลงในแบบ บันทกึ ความรู้ 4. นักเรยี นร่วมกันสรุปความร้เู รอ่ื ง ความร่วมมือของไทยกับประเทศในเอเชียตะวนั ออกเฉียง ใตแ้ ละบทบาทของไทยในสังคมโลกปัจจุบนั โดยสรปุ เปน็ แผนทคี่ วามคดิ พรอ้ มกับระบายสใี ห้สวยงาม 5. ครใู ห้นักเรียนทำแบบทดสอบหลงั เรยี น แลว้ ช่วยกนั เฉลยคำตอบทถี่ กู ต้อง ขั้นสรุป 5. ครูและนักเรียนร่วมกันสรปุ ความรู้เรื่อง บทบาทของไทยในสังคมโลกปัจจุบนั พร้อมเปดิ โอกาสให้นกั เรยี นซกั ถามข้อสงสัยตา่ งๆ ทไ่ี มเ่ ขา้ ใจ ๘. สอ่ื การเรยี นการสอน / แหล่งเรยี นรู้ ๘.๑ สื่อการเรยี นการสอน ๑) แบบทดสอบหลงั เรยี น 2) หนังสือเรยี น ประวัติศาสตร์ ม.3 3) คมู่ ือการสอน ประวัตศิ าสตร์ ม. 3 4) สอื่ การเรียนรู้ PowerPoint รายวิชาพื้นฐาน ประวัตศิ าสตร์ ม. 3 8.2 แหล่งเรยี นรู้ 1) หอ้ งสมดุ 2) อนิ เทอร์เนต็

๙. การวดั ผลและประเมนิ ผล เคร่ืองมอื เกณฑ์ วิธกี าร แบบทดสอบหลงั เรยี น ระดบั คุณภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น สงั เกตความสามารถในการส่อื สาร แบบประเมินสมรรถนะสำคญั ของ ระดบั คุณภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่ นกั เรยี น สงั เกตความใฝเ่ รียนรู้ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึง ระดับคณุ ภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ ประสงค์ ๑๐. จุดเน้นของโรงเรยี น การบูรณาการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งและกิจกรรมสวนพฤกษศาสตร์ โรงเรยี นปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ปรัชญาเศรษฐกิจ ครู ผู้เรยี น พอเพียง ความพอประมาณ พอดีด้านเทคโนโลยี พอดดี า้ นจติ ใจ รูจ้ กั ใชเ้ ทคโนโลยีมาผลติ สอื่ ท่ี มจี ิตสำนึกที่ดี เอื้ออาทร เหมาะสมและสอดคล้องเนือ้ หาเป็น ประนปี ระนอม นกึ ถงึ ประโยชน์ ประโยชนต์ อ่ ผเู้ รียนและพฒั นาจากภูมิ ส่วนรวม/กลุม่ ปญั ญาของผู้เรยี น ความมเี หตุผล ยึดถือการประกอบอาชีพดว้ ยความ ไม่หยุดนิ่งทีห่ าหนทางในชีวิต หลุด ถูกต้อง สจุ ริต แม้จะตกอยใู่ นภาวะขาด พ้นจากความทุกข์ยาก (การค้นหา แคลน ในการดำรงชีวิต ปฏิบตั ิตนใน คำตอบเพอ่ื ให้หลดุ พน้ จากความไมร่ ู)้ แนวทางที่ดี ลด เลิก สง่ิ ยว่ั กิเลสใหห้ มดส้ิน ไป ไม่กอ่ ความชวั่ ใหเ้ ป็นเคร่ืองทำลาย ตวั เอง ทำลายผูอ้ ืน่ พยายามเพิม่ พนู รกั ษา ความดี ที่มอี ยู่ใหง้ อกงามสมบูรณ์ย่งิ ขน้ึ มีภมู ิคมุ้ กนั ในตวั ที่ดี ภูมปิ ัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ภูมิปัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ระมดั ระวงั ระมัดระวัง สรา้ งสรรค์ ภมู ิธรรม : ซ่อื สตั ย์ สุจรติ ขยันอดทน ภูมิธรรม : ซื่อสัตย์ สุจริต ขยันอดทน ตรงตอ่ เวลาและแบง่ ปัน ตรงต่อเวลา เสียสละและแบง่ ปัน เง่อื นไขความรู้ ความรอบรู้ เรอื่ งวธิ ีการทาง ความรอบรู้ เรื่องวิธีการทาง ประวตั ศิ าสตร์ท่ีเกีย่ วข้องรอบด้าน ความ ประวัตศิ าสตร์ กรณที ีเ่ กดิ งาน ปริมาณ รอบคอบท่ีจะนำความรู้เหลา่ นั้นมา ที่เกี่ยวข้อง การคำนวณสูตรที่ต้องใช้ พิจารณาให้เชอ่ื มโยงกนั เพื่อประกอบการ สามารถนำความรู้เหล่านนั้ มาพิจารณา วางแผน การดำเนนิ การจัดกิจกรรมการ ให้เชื่อมโยงกัน สามารถประยุกต์ใช้ใน เรียนรู้ให้กับผู้เรียน ชีวิตประจำวนั

ปรัชญาเศรษฐกจิ ครู ผเู้ รยี น พอเพยี ง มคี วามตระหนักใน คุณธรรม มคี วาม มคี วามตระหนักในคุณธรรม เงอ่ื นไขคุณธรรม ซ่อื สัตยส์ จุ รติ และมคี วามอดทน มีความ มคี วามซอื่ สัตยส์ ุจริตและมีความอดทน เพยี ร ใช้สติปัญญาในการดำเนินชวี ิต มคี วามเพียร ใช้สตปิ ัญญาในการ ดำเนินชีวิต กจิ กรรม ครู ผู้เรยี น สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น ประวัตขิ องตน้ ไมแ้ ตล่ ะตน้ ประวัติของตน้ ไมแ้ ต่ละตน้ ประวัติของต้นไม้แต่ละตน้ อธบิ ายชนดิ ของต้นไมแ้ ละ ระบชุ นิดของต้นไมแ้ ละประวัติ ประวตั แิ ละความเป็นมาของ ประวตั คิ วามเป็นมาของตน้ ไม้ ความเป็นมาของตน้ ไม้ ต้นไม้

๑1. บนั ทึกหลงั การจดั การเรียนรู้ ๑1.๑) ผลการจัดการเรยี นการสอน ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ๑1.๒) ปญั หาและอปุ สรรค ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ๑1.๓) แนวทางการแกป้ ญั หา ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ (ลงชอื่ )……………………………….…………….......... (นางสาวณฐั ธิกา นวลหอม) ผู้สอน

แบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 3 บทบาทของไทยในสังคมโลก คำช้ีแจง เลอื กคำตอบทถี่ กู ตอ้ งที่สดุ เพียงคำตอบเดยี ว 1. สงครามโลกครั้งท่ี 1 เกดิ ขนึ้ ในสมัยรัชกาลใด ก. รชั กาลท่ี 4 ข. รัชกาลท่ี 5 ค. รัชกาลที่ 6 ง. รัชกาลที่ 7 2. ทหารไทยได้รับตราครัวซ์เดอร์แกรป์ ระดบั ธงชยั เฉลิมพล เพ่ือเปน็ เกยี รติแก่กองทัพไทยในสงครามคร้งั ใด ก. สงครามเยน็ ข. สงครามโลกคร้งั ท่ี 1 ค. สงครามโลกครง้ั ท่ี 2 ง. สงครามมหาเอเชยี บูรพา 3. ประเทศใดที่เข้ามาไกล่เกล่ียข้อพพิ าทอินโดจนี ระหว่างไทยและฝรั่งเศส ก. จีน ข. ญี่ปนุ่ ค. องั กฤษ ง. เยอรมนี 4. จุดมุ่งหมายสำคญั ของขบวนการเสรีไทยคืออะไร ก. ช่วยเหลอื ญป่ี นุ่ แบบลบั ๆ ข. รกั ษาเอกราชของชาตไิ ทย ค. ต่อตา้ นฝา่ ยสมั พันธมิตรทุกรูปแบบ ง. รักษาศักด์ศิ รีของคนไทยในต่างแดน 5. ในชว่ งสงครามเย็นประเทศไทยดำเนินนโยบายตา่ งประเทศในลักษณะใด ก. เป็นกลาง ข. เปน็ มิตรกับจนี ค. เปน็ มิตรกบั สหรัฐอเมริกา ง. เปน็ มติ รกบั สหภาพโซเวียต 6. ข้อใดกล่าวไมถ่ กู ต้องเก่ยี วกับสงครามเยน็ ก. สหรฐั อเมรกิ าได้รับชัยชนะในสงครามเวียดนาม ข. รสั เซียและจนี ใหก้ ารสนับสนนุ คอมมวิ นสิ ตใ์ นเวียดนาม ค. ไทยส่งทหารเข้าไปช่วยรัฐบาลเวยี ดนามใตส้ รู้ บกับฝา่ คอมมวิ นสิ ต์ ง. ไทยไดส้ ง่ ทหารไปชว่ ยสหประชาชาติในการปกป้องเกาหลใี ต้ซง่ึ ถูกเกาหลเี หนอื รกุ ราน

7. ประเทศใดได้เข้าเป็นสมาชกิ ของอาเซยี นประเทศล่าสุด ก. ลาว ข. บรไู น ค. กัมพชู า ง. เมยี นมา 8.“สนธิสญั ญาเขตปลอดอาวุธนิวเคลยี ร์ในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออก เฉียงใต”้ เปน็ ความรว่ มมือทางด้านใด ก. ความรว่ มมอื เฉพาะดา้ น ข. ความรว่ มมือทางเศรษฐกจิ ค. ความรว่ มมอื ทางการศึกษา ง. ความร่วมมือทางการเมอื งและความมั่นคง 9. วัตถปุ ระสงค์ของอาเซียนเรอ่ื งการส่งเสริมสันตภิ าพในภมู ิภาคมปี ระโยชน์อยา่ งไร ก. ทำใหภ้ ูมภิ าคมคี วามเป็นกลาง ข. ทำให้เศรษฐกจิ ของภูมภิ าคดขี ้นึ ค. ทำให้เกิดความกา้ วหน้าทางด้านสงั คม ง. ทำให้ภมู ภิ าคอืน่ ของโลกเหน็ ความสำคญั 10. ข้อใดไมใ่ ช่จดุ มงุ่ หมายของเขตการค้าเสรีอาเซียน ก. ส่งเสรมิ การคา้ ระหวา่ งกัน ข. ดึงดดู การลงทุนภายนอกภูมภิ าค ค. แลกเปลีย่ นแรงงานระหวา่ งกันและกนั ง. ลดภาษศี ุลกากรใหแ้ ก่สนิ ค้าส่งออกของกันและกัน

ภาคผนวก

แบบบันทกึ ผลการวิเคราะห์ เร่อื ง พฒั นาการดา้ นเศรษฐกจิ ของไทยสมัยรตั นโกสินทร์ ตัวช้วี ดั ช้ันปี 1. วเิ คราะหพ์ ัฒนาการของไทยสมยั รตั นโกสินทรใ์ นดา้ นตา่ ง ๆ (ส 4.3 ม. 3/1) 2. วิเคราะห์ปจั จยั ท่สี ่งผลต่อความมน่ั คงและความเจรญิ รงุ่ เรืองของไทยในสมัยรัตนโกสินทร์ (ส 4.3 ม. 3/2) คำช้ีแจง ให้นักเรียนบันทึกผลการวิเคราะห์เรื่อง พัฒนาการด้านเศรษฐกิจของไทยสมัยรัตนโกสินทร์ ตามหวั ขอ้ ทีก่ ลมุ่ ตนเองศึกษา .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. กลุ่มท่ี.................... สมาชิกกลุ่ม 1........................................................................ 2...................................................................... 3....................................................................... 4...................................................................... 5....................................................................... 6......................................................................

แบบบันทึกคำถาม – คำตอบ ตวั ชวี้ ดั ชั้นปี เรื่อง พัฒนาการด้านสังคม คำชแ้ี จง วิเคราะหพ์ ฒั นาการของไทยสมัยรตั นโกสนิ ทร์ในด้านต่าง ๆ (ส 4.3 ม. 3/1) ตอบคำถาม 1. ในสมยั รัตนโกสินทร์ตอนตน้ มีการแบ่งชนชน้ั ทางสังคมอย่างไร .............................................................................................................................................................................. ................แ..บ...ง่..ช..น...ช..น้ั...โ.ด..ย...ใ.ช...้ร..ะ..บ..บ...ศ..กั...ด..ิน...า...ซ..ง่ึ..ใ..ช..้จ..ำ..น...ว..น...ท..นี่...า..เ.ป...น็ ..เ.ค...ร..่ือ..ง..ว..ดั....(.ไ..ม..ไ่..ด..ถ้..ือ...ค..ร..อ..ง..ท...ี่น...า..จ..ร..ิง..)..ผ..ู้ท...่มี..หี...น...า้ ..ท..่ี..... ..ร..ับ...ผ..ิด..ช...อ..บ...ม..า..ก...ก..็จ..ะ..ม...ศี..ัก...ด..นิ...า..ม..า..ก..ต...า..ม..ไ..ป..ด...ว้ ..ย...โ..ด..ย...แ..บ...่ง.ช...น..ช...้ัน..ต...่า..ง...ๆ....5....ช..น...ช..้ัน....ด..งั..น...ี้ ............................................. ..1...)..พ...ร..ะ..ม...ห..า..ก...ษ..ัต...ร..ยิ ..์........2...)..เ..จ..า้..น..า..ย...............3...)...ข..ุน...น..า..ง.............4...)..ไ..พ...ร..่ ................5...)..ท...า..ส..................................... .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. เพราะเหตใุ ดรัชกาลที่ 5 จงึ ทรงยกเลกิ ระบบไพร่และระบบทาส .............................................................................................................................................................................. ...............เ.พ...ร..า..ะ..พ...ร..ะ...อ..ง..ค...์ต..้อ...ง..ก..า..ร..เ.ป...ล..ี.่ย..น...ส..ถ...า..น..ะ...ข..อ...ง.ไ..พ...ร..่แ...ล..ะ..ท...า..ส..ใ..ห...้เ.ป...็น...พ...ล..เ.ม...ือ...ง...เ.พ...ื่อ...ป...ร..ับ...ป..ร..ุง..ป...ร..ะ..เ..ท..ศ...ใ..ห..้.ม..ี. .ค...ว..า..ม..ท...ัน..ส..ม...ยั....แ..ล..ะ...เ.พ...่อื ..แ..ก...้ไ.ข...ป..ัญ...ห...า..ข..อ...ง.ร..ะ...บ..บ...ไ.พ...ร..่แ...ล..ะ..ท...า..ส....เ.ช..น่....ป...ญั ...ห...า..ไ.พ...ร..่ห..น...ีเ.ก...ณ...ฑ...์แ..ร..ง..ง..า..น....ท..า..ส...ห..ล...บ..ห...น...ีน..า..ย... .ป...ัญ...ห...า..ก..า..ร..ท..จุ...ร..ิต..ข..อ...ง..ม..ูล..น...า..ย................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 3. หลังการเปลย่ี นแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 สังคมไทยเปน็ อยา่ งไร .............................................................................................................................................................................. ................เ.ก...ิด..ก..า..ร..ใ..ช..้ล..ทั...ธ..ิผ..นู้...ำ..แ..ล...ะ..ก..า..ร..ส..ร..้.า.ง..ช...า..ต..ิใ.น...ส..ม...ัย..จ..อ...ม..พ...ล....ป.....ท...ีต่ ..้อ...ง.ก...า..ร..ส..ร..า้..ง..ป..ร..ะ...เ.ท...ศ..ไ.ท...ย..ใ..ห...้ย..ง่ิ ..ใ.ห...ญ...่แ...ล..ะ..ใ..ห..้ ..ค...น..ไ..ท...ย..ม...ีว..ัฒ...น...ธ..ร..ร..ม...ศ...ีล..ธ..ร...ร..ม...อ...น..า..ม...ัย....ก..า..ร..แ..ต...่ง..ก..า..ย....ท..ี.่พ..ั.ก..อ..า..ศ...ยั ....แ..ล..ะ...ท..ี.่ท..ำ..ม...า..ห..า..ก...ิน...โ..ด...ย..ม..ี.ร..ัฐ..น..ิ.ย..ม..เ..ป..น็...เ.ค...ร..่อื ..ง..ม...อื . ......หโต......ด...่ลอ...ย...งัม...ด...จ...า...ำา...เ...เกก...น...น...ิดนิ......้ัน...กน......ไา...โด...ยร......เ้ ขบ...ก......ยาิด......ยา...ก...ผย...า......ูกตร......ฟพั...ว......นื้ขัน......อฟก.........งบัสู......รถส......ะ...าห...บ...บร......อนัฐั......บอ...พ......เค...รม......ะอ...ร...มม...กิ ...ห...มา......าิ...วแ...ก...น...ลษ...ิ...สะ...ตั...เต...กร......์ทยิ...ิด......ำ์ช...ก...ใน...หา......ชร...้ไ...ข้นั...ท......ยก.ย.....าล...ต...ย...า.้..อต.ง.....งใ.ัว.....นเ.ท...ข..ไ...า...้ทา...ง...ร...ยก...่.ว..า......มร......กศ.........กึับ......ษ...โ...ล...า......ก......เเ......สศ......รร......ีเ..ษ....พ....ฐ.....ื่อ...ก...ต...ิ...จ...่อ...แ......ต...ล...้า...ะ...น......อ...ค...ุ.ต.....อ...ส...ม......า...ม...ห...ิ.ว...ก.....น...ร...ิ.ส..ร......ตม......์ ชอื่ นามสกลุ เลขที่ ช้ัน โรงเรยี น .

แบบบนั ทึกความรู้ เรอื่ ง...................................................................... วันท่.ี ...........เดือน...........................................พ.ศ. ..................... 1. สรปุ ความรู้ทไี่ ด้ ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... 2. สรปุ แนวคิดใหมท่ ไี่ ด้ ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... 3. การนำไปใชป้ ระโยชน์ ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ช่อื นามสกุล เลขท่ี ชน้ั โรงเรียน .


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook