นางสาววนิดา สกลุ เตียว ค.บ2 หม2ู่ รหสั 634110061 วถิ ที ่องเที่ยว วถิ พี อเพยี ง จงั หวดั เชยี งรายในโครงการววิจยั เสรมิ สร้างศกั ยภาพการท่องเที่ยวเชงิ วัฒนธรรมอาข่า ณ บา้ นหว้ ย ขเ้ี หล็ก ต.วาวี อ.แม่สลวย มีประเพณีหนึ่งท่ีทำให้คนทั่วโลกรู้จักชาวเขาเผา่ อาขา่ คือประเพณีโลช้ งิ ชา้ ซึ่งเป็น ประเพณีทบี่ ง่ บอกถงึ การให้เกียรติสตรี และเป็นการเฉลิมฉลองพืชพรรณธญั ญาหาร จัดข้ึนเพือ่ การอยูร่ ว่ มกัน ของคนจนและคนรวยทอี่ ยูใ่ นหมู่บา้ นเช่นเดยี วกับการทำงานของคนและป่าทพี่ ึ่งพาอาศยั กนั และเปน็ การบ่ง บอกถึงรากเหง้าของชุมชนเผา่ อาขา่ ชนเผา่ นกี้ ็ยังคงรักษาพิธีกรรมและความเช่ือมาจนถึงปัจจบุ ัน แตก่ ย็ ังมี ขอ้ จำกัดในเรื่องของภาษาท่ตี ่างกันทำใหเ้ รือ่ งราวของชนเผ่านี้ถกู พูดถึงโดยคนนอก โดยมีนายไกรสิทธิ์ สทิ ธิ โชดก (อาท)ู่ หัวหนา้ โครงการวจิ ัยทท่ี ำการวิจัยโดยใช้การท่องเท่ียวเปน็ เครื่องมือทดี่ ูแลวฒั นธรรมประเพณี ของชาติพันธุซ์ ่งึ ต้องการบนั ทึกเป็นลายลักษณอ์ ักษรวา่ ประเพณขี องชนเผา่ มีความหมายมีวธิ ีการอยา่ งไรไมใ่ ห้ สูญหายและชาวบ้านเองก็มีความภมู ใิ จของชนกลมุ่ น้อยท่ีมีความร้ขู องตนและยังไดเ้ ผยแพร่ใหค้ นอ่ืนไดร้ บั รู้ จังหวดั เชียงใหม่ ณ บา้ นแม่กำปอง ต.หว้ ยแก้วก่ิง อ.แมอ่ อน ทรพั ยากรนำ้ และป่าของท่นี ้เี ปน็ ตน้ ทุน สำคญั ในการผลติ ไฟฟา้ พลังน้ำและประปาภูเขา ในเรื่องของจุดเด่นของวัฒนธรรมแบบด้ังเดิมของแม่กำปอง เปน็ จดุ หมายของนักท่องเทีย่ วเพื่อให้คนในหมู่บ้านและนักท่องเทีย่ วได้ตระหนักถึงการอนุรกั ษ์ ทรัพยากรธรรมชาติต่อไปพร้อมๆกบั การอนุรักษ์วฒั นธรรมของคนในชมุ ชนจากน้นั มีการประชมุ แลกเปลย่ี น ความคดิ เหน็ ประชาสมั พนั ธ์ให้ข้อมลู ความร้เู รอื่ งการวิจยั โดยชมุ ชนมีส่วนรว่ ม ชี้แจงวัตถุประสงค์และ วิธีการดำเนนิ งานวิจัยต่อทปี่ ระชมุ โดยแบง่ หนา้ ที่ความรบั ผดิ ชอบใหค้ ณะผูว้ ิจยั ชว่ ยกันรบั ผดิ ชอบ ชาวบ้าน ได้ร่วมกันพัฒนาระบบสาธารณปู โภคพ้ืนฐานในหมูบ่ ้านเพื่อรองรบั นักทอ่ งเท่ยี ว และรว่ มกันออก กฎระเบียบ ขอ้ กำหนด สำหรบั ใหช้ าวบ้านและนกั ท่องเทีย่ วยึดเป็นแนวปฏบิ ัติ อีกทงั้ ยังได้ช่วยกันคดิ หา แนวทางเผยแพรป่ ระชาสัมพันธ์ ใหช้ าวบา้ นและนกั ทอ่ งเทย่ี วเขา้ ใจการทอ่ งเทยี่ วเชิงอนุรักษ์ และเกดิ จติ สำนึกในการอนุรักษ์ โดยใช้สือ่ สาธารณะตา่ ง ๆ ท้งั แผน่ พบั แผ่นปา้ ย วารสาร และเสียงตามสายซ่ึงทำ ใหค้ ล่ีคลายปัญหาที่เคยควบคุมกลายเปน็ ชุมชนทมี่ รี ะบบการจัดการทอ่ งเที่ยวทดี่ ีทุกองค์ประกอบ จงั หวัดพะเยา โครงการวิจัยการศกึ ษาและพฒั นการท่องเท่ียวเชิงนเิ วศโดยชุมชนแมก่ า มพี ิพิธภัณฑ์ เตาเผาโบราณเวียงบัว เป็นแหล่งโบราณคดี มีการคน้ พบเตาเผาโบราณ ซึ่งมีอายุกว่า ๗๐๐ ปี ซึ่งเป็น เตาเผาโบราณทีเ่ ก่าแก่ท่สี ุดในล้านนา ค้นพบเตาเผาและเศษเครือ่ งจานชามอยู่ตามทีล่ าดเนนิ ตามรมิ ลำนำ้ หว้ ยแม่ตำ๋ ตามไรน่ า และสวนของชาวบา้ น ซึ่งอาชพี หลกั ของชาวบ้านคอื การเกษตรจะให้ทำการท่องเทีย่ ว แบบเต็มตัวอาจจะไม่พร้อม แตท่ ี่ทุกคนในชมุ ชนทำไดด้ คี ือการให้ขอ้ มลู กบั ผทู้ ่เี ข้ามาเยย่ี มชมซึ่งนา่ จะเหมาะ กับการเป็นแหลง่ เรยี นรู้มากกวา่ ซ่งึ ชาวบ้านได้รบั การฝึกฝนป้ันถ้วยชามดนิ เผาแบบดงั้ เดิมและอนุรักษ์ วัฒนธรรมผา่ นการละเล่นพ้ืนบา้ นและทุกคนร่วมกนั คงรักษาไว้ก่อนจะเข้าสแู่ หล่งท่องเท่ียวโดยชุมชนใน อนาคต
นางสาววนิดา สกลุ เตยี ว ค.บ2 หม่2ู รหสั 634110061 จังหวดั เพชรบรู ณ์ ว่าดว้ ยอตั ลกั ษณ์ของชุมชนทม่ี ีความหลากหลาย อันเกิดจากราษฎรอาสาท่ีข้ึนมารว่ ม รบ และทหารที่ข้ึนมาปฏิบัตหิ น้าท่ใี นบริเวณนี้ จึงทำให้มกี ารปรับเปลยี่ นการดำรงชีวิต ประเพณี วฒั นธรรม ให้ สามารถอยรู่ ่วมกนั อย่างมคี วามสงบสุข โครงการการจดั การทอ่ งเทยี่ วเชิงนเิ วศโดยการมีส่วนรว่ มของชุมชน หนองแม่นาทต่ี ระหนกั ในการดูแล ดิน น้ำ ปา่ ท่ีอยู่ท่ีอยเู่ คียงข้างหมู่บา้ นเช่นเดยี วกับการดแู ลพชื พันธส์ ตั ว์ปา่ ของเจา้ หนา้ ที่อุทยานแหง่ ชาติทุ่งแสลงหลวงรวมทงั้ เปน็ ผู้ถ่ายทอดองค์ความรดู้ า้ นการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติให้นกั ท่องเทย่ี วทีเ่ ข้ามาในพน้ื ที่ รวมทง้ั ตั้งชอื่ วา่ “ชมุ ชนคนรักปา่ หนองแม่นา” โดยมี เป้าหมายสำคัญคือการอนุรักษท์ รพั ยากรธรรมชาติของท้องถ่นิ ให้ยัง่ ยนื สบื ไป การบรหิ ารและจัดการการ ทอ่ งเทยี่ วในท้องถนิ่ อยา่ งเป็นระบบและมีประสทิ ธิภาพ และเป็นการสรา้ งเสริมรายได้ให้แก่ชุมชนและทำให้ ชุมชนเกิดความสามัคคีและได้ทำกจิ กรรมร่วมกัน มีการค้นพบแมงกะพรนุ น้ำจดื ท่ีลมุ่ นำ้ เขก็ ที่เดยี วในประเทศ ซง่ึ เป็นจดุ ขายท่ีดึงดูดนักท่องเทยี่ วโดยการพึง่ พาอาศยั กนั ในกจิ กรรมและสร้างรายได้ใหก้ ับชุมชน จังหวดั สตลู ณ บ้านบอ่ เจ็ดลกู ต.ปากนำ้ อ.ละงู กล่มุ คนทีอ่ าศัยเกือบสุดของประเทศได้ฟนื้ ฟูทรพั ยากร ชายฝั่งใหป้ ลอดภัยจากเครื่องมอื ทำลายลา้ งโดยใช้กิจกรรมการทอ่ งเที่ยวเป็นเครื่องมือในการจดั การทรัพยากร ชายฝง่ั เพราะเปน็ หนทางในการอธบิ ายความสมดุลและยงั่ ยืนตามวถิ ปี ระมงแบบดั้งเดมิ ปัจจุบันเปิดเปน็ โบราณสถานบ่อเจด็ ลูกใหผ้ มู้ าเยี่ยมชมไดเ้ รียนร้คู วามเป็นมาของชมุ ชนแห่งนี้ กอ่ นไปเรียนรวู้ ถิ ีชวี ิตของชาว ชุมชนผ่านกจิ กรรมต่างๆ เชน่ ชมการจับสตั ว์ทะเลด้วยอุปกรณ์ประมงทอ้ งถน่ิ ตา่ งๆท่เี ปลี่ยนแปลงไปตาม ฤดูกาลของสตั ว์น้ำซง่ึ รายไดท้ ่ีได้จากการท่องเทีย่ วไม่ไดก้ ระจายไปสชู่ ุมชนแตจ่ ะได้จากคนทเ่ี ปน็ เจา้ ของรีสอร์ท เอง แต่ผลกระทบท่ีเกิดขนึ้ ก็ส่งผลกับชมุ ชนเช่น เศษขยะ และจึงไดจ้ ดั ต้ังรีสอรท์ ชมุ ชนเพื่อสรา้ งรายได้ให้กับ ชาวบ้านในชมุ ชน และผลพลอยได้ของชมุ ชนกับการท่องเที่ยวท่ีดเี กนิ คาดของชาวมสุ ลมิ นนั้ ทำให้ชาวมุสลมิ มี เกราะที่สามารถป้องกนั วฒั นธรรมจากภายนอกที่สง่ ผลกระทบกับวิถขี องชาวมสุ ลมิ หรือการกระทำตา่ งๆที่ผิด ตามหลักของศาสนาอสิ ลาม
Search
Read the Text Version
- 1 - 2
Pages: