บทที่ 1 แนะนำบทเรียน

รายวิชาพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์สากล ม.4-6

ยินดีต้อนรับ สู่โลกมหัศจรรย์ ของวิชา ประวัติศาสตร์สากล ม.4-6

ครูผู้สอน นายณัฐพล แสนสุรินทร์ สาขาสังคมศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ หลักสูตรคุรุศาสตร์บัณฑิต 4 ปี

หลักในการเก็บคะแนน 30 10 30 30 ก่อนวัดผลกลางภาค (บทที่ 1-3 ) 10 สอบวัดผลกลางภาค (บทที่ 1-3 ) 10 หลังกลางภาค (บทที่ 4-5 ) สอบปลายภาค (บทที่ 1-5 ) จิตพิสัย (ขาด ลา มา สาย มีส่วนร่วม) สะสมแต้ม (เล่นเกมส์ตอบคำถาม)

เนื้อหาที่เราจะเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เวลาและการแบ่งยุคสมัย การสร้างองค์ความรู้ใหม่ อารยธรรมของโลก ทางประวัติศาสตร์สากล ทางประวัติศาสตร์สากล ยุคโบราณ หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เหตุการณ์สำคัญทาง สถานการณ์สำคัญของ ประวัติศาสตร์ที่มีผล โลกในคริสต์ศตวรรษ ต่อโลกปัจจุบัน ที่ 21

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เวลาและการแบ่งยุคสมัย ทางประวัติศาสตร์สากล

ขอบเขตเนื้อหาในบทที่ 1 -ความสำคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ -การนับและการเทียบศักราชในประวัติศาสตร์สากล -การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ตะวันตก -การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ตะวันออก -ตัวอย่างเวลาและยุคสมัยที่ปรากฏในหลักฐานทาง ประวัติศาสตร์สากล

ความสำคัญของเวลาและยุคสมัย ทำให้เกิดความ ทำให้เกิดความเข้าใจ ทำให้เห็นถึง สะดวกในการศึกษา เหตุการณ์ทาง ลักษณะสำคัญของ ค้นคว้าเกี่ยวกับอดีต ประวัติศาสตร์ตรงกัน เวลาแต่ละช่วง

การนับและการเทียบศักราช ศักราช คือ ช่วงเวลา 1 ปีโดยเกณฑ์การกำหนดศักราชของแต่ละ สังคมจะมีความแตกต่างกันไปตามแนวคิดและความเชื่อของกลุ่มคน -บางสังคมใช้เหตุการณ์สำคัญทางศาสนา -บางสังคมใช้เหตุการณ์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับกษัตริย์ การสร้างเมือง หรืออาณาจักร

การนับและการเทียบศักราช ในประวัติศาสตร์สากล วรรษ หมายถึง ปี การนับช่วงเวลาที่มากกว่า 1ปี ที่เป็นสากลนิยม ได้แก่ทศวรรษ ศตวรรษ และสหัสวรรษ

การนับและการเทียบศักราช ทศวรรษ คือการนับช่วงเวลา 10 ปีส่วนใหญ่นิยมใช้ในคริสต์ศักราชเช่น **ทศวรรษ 1990 หมายถึง ค.ศ. 1990 - 1999 **ทศวรรษ 2010 หมายถึง ค.ศ. 2010 - 2019 ทศวรรษจะลงท้ายด้วย 0 เสมอ ให้นับปีที่ขึ้นต้นด้วยเลข 0 เป็นปีแรกของทศวรรษและนับไปสิ้นสุดที่ 9 นอกจากนี้อาจจะระบุย่อๆด้วยเลขสองหลักก็ได้ เช่น ทศวรรษ 1980 อาจเรียกย่อว่า ทศวรรษ 80 ปัจจุบันอยู่ในทศวรรษที่ 2020 คือ อยู่ในช่วง ค.ศ. 2020 - 2029

การนับและการเทียบศักราช ศตวรรษ คือ การนับช่วงเวลา 100 ปี นิยมใช้ทั้งพุทธศตวรรษและคริสต์ศตวรรษ เช่น พุทธศตวรรษที่ 1 หมายถึง พ.ศ. 1- พ.ศ. 100 พุทธศตวรรษที่ 2 หมายถึง พ.ศ. 101- พ.ศ. 200

การนับและการเทียบศักราช สหัสวรรษ คือ การนับช่วงเวลา 1,000ปี โดยเริ่มนับ พ.ศ. 1- 1000 เป็นสหัสวรรษที่ 1 เช่น สหัสวรรษที่ 3 ของคริสต์ศักราช หมายถึง ค.ศ. 2001- 3000 กล่าวคือ คริสต์ศักราช 2000 เป็นปีสิ้นสุดคริสต์ศตวรรษที่ 2 และคริสต์ศตวรรษ 2001 เป็นปีที่เข้าสู่สหัสวรรษที่ 3 ของคริสต์ศักราช จนไปถึงปี 3000 ถือเป็นปีสุดท้ายของสหัสวรรษที่ 3

ศักราชของโลกตะวันตก ศักราชสากลที่นิยมใช้กันแพร่หลายที่สุด คือ คริสต์ศักราช -คริสต์ศักราชที่ 1 เริ่มนับในปีที่พระเยซูถือกำเนิด -ปีก่อนพระเยซูถือกำเนิด เรียกว่า Before Christ ย่อ B.C. -ผู้เริ่มวิธีการนับ ค.ศ. คนแรก คือ ไดโอนิซิอุส เอซิกุอุส -ผู้เริ่มนับเวลาก่อนปีถือกำเนิดของพระเยซู คือ บีด -การใช้คริสต์ศักราชได้รับความนิยมในช่วงการ ขยายอำนาจของลัทธิจักรวรรดินิยมในปลาย คริสต์ศตวรรษที่ 19 เป็นต้นมา

ศักราชของโลกตะวันออก การนับศักราช การนับศักราช การนับศักราช แบบจีน แบบอินเดีย แบบศาสนา อิสลาม

การนับศักราชแบบจีน •จีนมีระบบปฏิทินย้อนหลังเกือบ 4,000 ปีมาแล้ว เป็นระบบจันทรคติ หรือยึดพระจันทร์เป็นหลัก •การนับช่วงสมัยของจีนยึดตามปีที่ครองราชสมบัติของ จักรพรรดิ ปัจจุบันการนับช่วงเวลาดังกล่าวเลิกใช้แล้ว แต่ญี่ปุ่นยังใช้อยู่

ภาพวาดชาวจีนโบราณอาศัยความรู้ทางดาราศาสตร์ เข้ามาช่ วยในการคำนวณวันเวลาในรอบปี

การนับศักราชแบบอินเดีย เป็นการนับโดยอาศัยการขึ้นครองราชสมบัติเป็น สำคัญในสมัยพระเจ้ากนิษกะ ถือเป็นการเริ่มต้น ศักราช กนิษกะ หรือศก ต่อมาเรียกว่า มหาศักราช ซึ่งเป็นที่ยอมรับและใช้กันอย่างแพร่หลาย ปัจจุบันอินเดียใช้คริสต์ศักราชตามแบบสากล

การนับศักราช ภาพเมืองเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย แบบศาสนาอิสลาม •เรียกว่า ฮิจเราะห์ศักราช •เริ่มนับเมื่อท่าน นบีมุฮัมหมัด กระทำ ฮิจเราะห์ จาก เมืองเมกกะ ไปเมือง เมดินะ •ใช้ระบบจันทรคติเป็นเกณฑ์ วันที่ 1 มุฮัรร็อม ฮ.ศ.1 ตรงกับวันที่ 16 กรกฎาคม ค.ศ.622

การเทียบศักราชอื่น ๆ ให้เป็น พ.ศ. การเทียบ พ.ศ. ให้เป็นศักราชอื่น ๆ ค.ศ. +543 = พ.ศ. ...... พ.ศ. -543 ค.ศ. ม.ศ. +621 = พ.ศ. ...... พ.ศ. -621 ม.ศ. ฮ.ศ. +1122= พ.ศ. ...... พ.ศ. -1122 ฮ.ศ.

การแบ่งยุคสมัย ทางประวัติศาสตร์ตะวันตก

สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ยุคหินเก่า ชื่อยุคมาจากการค้นพบเครื่องมือที่มนุษย์ยุคนั้นใช้ มนุษย์ยุคหินเก่าเป็นพวกเร่ร่อน ล่าสัตว์ อาศัยอยู่ตาม เพิงผา มีผู้นำชนเผ่า อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม มนุษย์ยุคหินเก่ามีพัฒนาการด้านการใช้สติปัญญา มี ภาษาพูด มีพิธีการฝังศพ จิตรกรรมฝาผนังที่ถ้ำลาโกซ์ ประเทศฝรั่งเศส  เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของ มีการสร้างสรรค์งานศิลปะ โดยการวาดภาพบนฝาผนัง มนุษย์ยุคหินเก่าที่รู้จักสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ ที่สวยงาม และรู้จักใช้ไฟ

สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ยุคหินใหม่ •ชื่อของยุคได้มาจากการค้นพบเครื่องมือที่มีการทำให้มี ความเหมาะสมในการดำรงชีวิตมากขึ้น •มนุษย์เข้าสู่สังคมเกษตรกรรม รู้จักเพาะปลูก และการ เลี้ยงสัตว์ •มีการตั้งถิ่นฐานเป็นชุมชน และมีการจัดระเบียบการ ปกครอง

สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ยุคโลหะ •มนุษย์รู้จักนำโลหะมาทำเครื่องมือเครื่องใช้ โลหะชนิด แรกๆ คือ ทองแดง ตะกั่ว ต่อมารู้จักใช้สำริด และเหล็ก •มีชุมชนใหญ่ระดับเมือง มีการจัดระเบียบการปกครอง •แหล่งอารยธรรมเริ่มแรกอยู่ที่ลุ่มแม่น้ำไนล์ ลุ่มแม่น้ำ ภาพวาดมนุษย์ในยุคโลหะ ไทกริส-ยูเฟรทีส ลุ่มแม่น้ำสินธุ และลุ่มแม่น้ำหวงเหอ ที่รู้จักนำสำริดมาหลอมใช้ ทำเครื่องมือ

สมัยประวัติศาสตร์ ............................................

สมัยโบราณ เริ่มจากการประดิษฐ์ตัวอักษรของชาวซูเมเรียน ถึงการล่มสลายของจักรวรรดิโรมันตะวันตก เป็นช่วงเวลาของการสร้างสมอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ ของโลกตะวันตก ได้แก่ อารยธรรมเมโสโปเตเมีย อารยธรรมอียิปต์ อารยธรรมกรีก จักรพรรดิโรมูลัส ออกัสตุลัสออกจากบัลลังก์ และอารยธรรมโรมัน

สมัยกลาง นับจากการสิ้นสุดของจักรวรรดิโรมันตะวันตก ถึงการค้นพบทวีปอเมริกา ของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส สมัยกลางตอนต้นมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ยุคมืด การปกครองในระบอบฟิวดัลรุ่งเรือง ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 11-13 เมืองและการค้าฟื้ นตัว ประชากรเพิ่มขึ้นอย่าง รวดเร็ว มีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยต่างๆ ปลายสมัยกลางเริ่มมีการฟื้ นฟูศิลปวิทยาการ นำไปสู่การปฏิรูปศาสนา

สมัยกลาง สภาพเมืองและการค้าในสมัยกลาง

มหาวิหารชาตร์ ในฝรั่งเศส ศิลปะกอทิก เป็นมหาวิหารที่มีชื่อเสียง และสวยงามมากแห่งหนึ่งในสมัยกลาง

สมัยใหม่ 1. สมัยการสำรวจทางทะเล -เกิดก่อนโคลัมบัสค้นพบทวีปอเมริกา -นักเดินเรือของสเปนและโปรตุเกส ออกสำรวจเส้นทางไปหมู่ เกาะอินเดียตะวันออก และกลายเป็นประเทศที่มั่งคั่ง -ทำให้หลายชาติตั้งบริษัทเดินเรือเพื่อทำการค้า เรียกว่า บริษัท อินเดียตะวันออก ทำให้เกิดการปฏิวัติการค้าตามมา

สมัยใหม่ อู่ต่อเรือของบริษัทดัชต์อินเดียตะวันออก ในกรุงอัมสเตอร์ดัม

สมัยใหม่ 2. สมัยการปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์ เกิดการแสวงหาความรู้ใหม่โดยการทดลอง การสังเกต การใช้เหตุผล ทำให้เกิดสมัยแห่ง การใช้เหตุผล หรือยุคแห่งการรู้แจ้ง นักปรัชญาคนสำคัญ เช่น วอลแตร์ มงเตสกี เยอ และชอง ชาก รูโซ เซอร์ไอแซค นิวตัน ผู้ค้นพบกฎความถ่วง

สมัยใหม่ 3. สมัยการปฏิวัติอุตสาหกรรม เป็นการนำเครื่องจักรมาใช้แทนแรงงาน มนุษย์ ทำให้ผลิตได้เป็นจำนวนมาก และ เป็นมาตรฐานเดียวกันทำให้โลกตะวันตกมี ความมั่งคั่ง มีอำนาจนำไปสู่การเกิดสมัย จักรวรรดินิยม เครื่องจักรที่ประดิษฐ์ขึ้นในสมัยการปฏิวัติ อุตสาหกรรม นำไปใช้ในโรงงานทอผ้าในยุโรป

สมัยใหม่ 4. สมัยเสรีนิยม ชาตินิยม และประชาธิปไตย เป็นยุคของการใช้เหตุผล ทำให้เกิดความคิดทางการเมือง ใหม่ๆ จนนำไปสู่การปฏิวัติฝรั่งเศส -เกิดการปกครองแบบประชาธิปไตย -ความคิดเรื่องชาตินิยมนำไปสู่การรวมประเทศ เช่น เยอรมนี และอิตาลี

สมัยใหม่ การทลายคุกบาสตีย์เป็นเหตุการณ์สำคัญที่สุด ในการปฏิวัติฝรั่งเศส ค.ศ. 1789

สมัยใหม่ 5. สมัยจักรวรรดินิยมใหม่ เป็นผลสืบเนื่องจากการปฏิวัติอุตสาหกรรม ยุโรปและอเมริกาต่างแสวงหาอาณานิคมโดย แข่งขันกันเพื่อความยิ่งใหญ่ของชาติ

สมัยใหม่ 6. สมัยสงครามโลก เป็นช่วงเวลาที่โลกอยู่ในภาวะสงคราม ครั้งใหญ่ รุนแรง และนองเลือดที่สุด การสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ถือ เป็นการสิ้นสุดประวัติศาสตร์ตะวันตก สมัยใหม่

สมัยปัจจุบัน 1. สมัยสงครามเย็น เป็นการแข่งขันทางการเมือง ของค่ายประชาธิปไตยที่มี สหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำ กับค่ายคอมมิวนิสต์ ที่มีสหภาพ โซเวียตเป็นผู้นำ ในขณะที่องค์การสหประชาชาติได้ พยายามไกล่เกลี่ยให้เกิดสันติภาพ

สมัยปัจจุบัน 2. สมัยโลกาภิวัตน์ ความเจริญทางด้านการสื่อสารคมนาคมทำให้ โลกแคบลง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในทุกส่วนของโลก สามารถรับรู้กันได้อย่างรวดเร็ว

การแบ่งยุคสมัย ทางประวัติศาสตร์ตะวันออก

การแบ่งยุคสมัยจีนตามแบบสากล สมัยก่อนประวัติศาสตร์จีน ยุคหินเก่า มนุษย์ใช้ชีวิตแบบเร่ร่อน เก็บของป่า ล่าสัตว์ ยุคหินกลาง ใช้ชีวิตกึ่งเร่ร่อนกึ่งตั้งหลักแหล่งถาวร ยุคหินใหม่ ตั้งชุมชน รู้จักเพาะปลูก เลี้ยงสัตว์ ยุคโลหะ รู้จักการใช้ทองแดง เหล็ก และสำริด

สมัยประวัติศาสตร์จีน EหP.รื0อ1สสมัมยัยคโบลราสาณสิก เ ป็ น ช่ ว ง ข อ ง ก า ร ส ร้ า ง อ า ร ย ธ ร ร ม

EP.ตั0้ง2แตส่สมัมยัยจักรารชวรวรงศดิ์ฉเิริน่ม เ ป็ น ช่ ว ง ที่ จี น ร ว ม กั น เ ป็ น จั ก ร ว ร ร ดิ ถึ ง สิ้ น สุ ด ส มั ย ร า ช ว ง ศ์ ชิ ง

EP.03 สมัยใหม่ เริ่มในสมัยราชวงศ์ชิงจนถึงสิ้นสุดการปกครองระบอบสาธารณรัฐ จีนแพ้ในสงครามฝิ่น

EP.04 ประวัติศาสตร์ ร่วมสมัย เริ่มตั้งแต่จีนเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบคอมมิวนิสต์- ปัจจุบัน

การแบ่งยุคสมัยจีนตามแบบลัทธิมากซ์ สมัยโบราณ มนุษย์ดำรงชีวิตตามธรรมชาติ เป็นสังคมยุคเริ่มแรก สังคมทาส ตั้งแต่ราชวงศ์ชางถึงราชวงศ์โจว เป็นสมัยที่มีทาสในสังคมจีน สังคมศักดินา ตั้งแต่ ราชวงศ์ฉินถึงปลายราชวงศ์ชิง จีนมีการปกครองระบอบจักรพรรดิ มีชนชั้นในสังคมแบบศักดินาหลังจาก นั้นเป็นสมัยการปฏิวัติของชนชั้นกลาง นำโดย ดร.ซุน ยัตเซ็น ภายหลังเปลี่ยนแปลงเป็นระบอบคอมมิวนิสต์ถึงปัจจุบัน

การแบ่งยุคสมัยของอินเดีย สมัยก่อนประวัติศาสตร์อินเดีย ยุคหินเก่า พบเครื่องมือหิน ผู้คนดำรงชีพด้วยการเก็บของป่า ล่าสัตว์ ยุคหินกลาง ใช้เครื่องมือหินที่เล็กลง รู้จักเขียนภาพบนผนังถ้ำ ยุคหินใหม่ เครื่องมือหินถูกขัดจนเป็นใบมีดขนาดเล็ก รู้จักทำเครื่องปั้ นดินเผาและเพาะปลูก ยุคโลหะ รู้จักใช้ทองแดงและสำริด เป็นยุคแห่งความรุ่งเรืองของ อินเดียโบราณ

สมัยประวัติศาสตร์อินเดีย สมัยโบราณ เริ่มเมื่อมีการประดิษฐ์ตัวอักษร ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และพระพุทธศาสนาถือกำเนิดขึ้น

สมัยกลาง อินเดียเกิดความแตกแยกภายใน ถูกมุสลิมรุกราน

สมัยใหม่ เริ่มเมื่อราชวงศ์โมกุลขึ้นมามีอำนาจถึงการได้รับเอกราชจากอังกฤษ