แผนการจัดกิจกรรมลูกเสือสามญั ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 4 แผนการจัดท่ี 12 เรื่อง คำปฏญิ าณและกฎของลกู เสือสามัญ จำนวน 1 ชว่ั โมง จดุ ประสงค์ 1. บอกความหมายและปฏิบัติตามกฎของลูกเสอื ได้ 2. ท่องกฎของลูกเสอื สามัญได้ เนอ้ื หา กฎของลกู เสือสามัญ กจิ กรรมการเรียนการสอน 1. พิธีเปดิ ( ธงขนึ้ สวดมนต์ สงบนงิ่ ตรวจ แยก ) 10 นาที 2. เกม “ ผวู้ ิเศษ ” 5 นาที 3. สอนตามเนื้อหา 30 นาที 3.1 ผกู้ ำกับอธบิ ายความหมายของกฎของลูกเสือ 3.2 ใหล้ ูกเสือแตล่ ะหมู่อภิปรายรายการปฏิบัติตามกฎโดยผู้กำกับกำหนดหวั ข้อใหแ้ ล้วนำมา รายงานหรือแสดงบทบาทสมมติ 3.3 ใหล้ กู เสือท่องจำกฎของลกู เสือสามัญ 3.4 ผูก้ ำกบั ติดตามการปฏิบัตติ นตามคำปฏญิ าณและกฎของลกู เสือ แลว้ ใหล้ ูกเสือบันทึก รายงาน 3.5 ร้องเพลงกฎลกู เสือ 4. เลา่ เรือ่ งสนั้ ที่เป็นคติ 5 นาที 5. พิธปี ิด ( นดั หมาย ตรวจเครื่องแตง่ กาย ธงลง เลกิ ) 10 นาที สอื่ การเรียนการสอน 1. แผนภูมเิ พลงกฎลกู เสือ 2. แผนภมู ิกฎลกู เสือ การวดั ผลและประเมินผล 1. สังเกตความสนใจและการเข้ารว่ มกิจกรรม 2. สงั เกตการปฏบิ ตั ติ ามคำปฏิญาณและกฎของลูกเสือหลังจากที่ได้ เรียนไปแล้ว 3. ทดสอบการท่องกฎของลกู เสือสามัญ บันทกึ หลังกาสอน…………………………………………………………………………………..………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ขอ้ เสนอแนะของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา………………………………………………………………………………………….……… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
กฎของลูกเสือ กฎของลูกเสอื มี 10 ข้อ ลูกเสอื จะตอ้ งจำใหไ้ ด้ รู้ความหมายและปฏิบตั เิ ปน็ กิจวัตรจนเกดิ เปน็ นสิ ยั ประจำตัวมีดงั นี้ ขอ้ 1 ลกู เสือมีเกยี รตเิ ช่ือถือได้ ข้อ 2 ลกู เสอื มคี วามจงรักภกั ดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ และซ่ือตรงต่อผ้มู ีพระคณุ ขอ้ 3 ลกู เสือมีหน้าที่กระทำตนใหเ้ ปน็ ประโยชนแ์ ละชว่ ยเหลอื ผอู้ ่นื ขอ้ 4 ลูกเสือเป็นมติ รของคนทุกคน และเปน็ พีน่ ้องกบั ลูกเสืออน่ื ทัว่ โลก ขอ้ 5 ลกู เสอื เป็นผู้สุภาพเรยี บรอ้ ย ข้อ 6 ลกู เสือมีความเมตตากรณุ าต่อสตั ว์ ข้อ 7 ลูกเสอื เชื่อฟังคำสงั่ สอนของบิดามารดาและผบู้ ังคับบญั ชาด้วยความเคารพ ขอ้ 8 ลูกเสือมีใจรา่ เรงิ และไมย่ ่อท้อต่อความยากลำบาก ข้อ 9 ลูกเสอื เป็นผู้มัธยัสถ์ ข้อ 10 ลกู เสือประพฤติชอบดว้ ยกาย วาจา ใจ กฎของลูกเสอื 10 ข้อนี้ ได้ดัดแปลงมาจากกฎของลกู เสือขอ้ 10 ตามธรรมนญู ของสมัชชา ลกู เสือโลกทวี่ ่า “ลกู เสือเปน็ ผู้สะอาดในทางความคดิ วาจา และการกระทำ” ข้อ 1 ลกู เสือมเี กียรตเิ ช่ือถือได้ ลูกเสือทแี่ ท้จรงิ ถือว่า เกยี รติของเขาสำคญั กว่าส่ิงใด เกียรตขิ งิ เขาเป็นส่ิงศกั ดิ์สิทธ์ิ คน ที่รจู้ ักรกั ษาเกียรติเปน็ ผู้ทเ่ี ช่ือถือไดเ้ สมอ เขาจะไมก่ ระทำส่ิงใด ๆ ทเ่ี สียเกยี รติ เชน่ พูดเทจ็ กบั ผบู้ ังคบั บัญชาหรอื ผู้อย่ใู ต้บงั คับบญั ชาของเขา และเขาจะทำตัวเปน็ ท่นี ับถือของคนท่ัวไป ในฐานะท่ีเป็น ลูกเสอื ท่านต้องไม่ยอมใหส้ ่ิงย่ัวยวนใจ ไม่ว่าจะลึกลบั หรือรุนแรงเพียงใด มาชกั จูงให้ทา่ นกระทำการใดๆ ที่ ไมส่ จุ รติ หรือเป็นสิ่งทนี่ า่ สงสัย ทา่ นจะไม่ละเมดิ คำมน่ั สญั ญาเป็นอนั ขาด ข้อ 2 ลกู เสือมีความจงรักภกั ดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และซื่อตรงต่อผมู้ ีพระคณุ ในฐานะทีเ่ ปน็ พลเมืองดี ท่านจะตอ้ งระลึกไวเ้ สมอว่า ท่านเปน็ คนหนงึ่ ในคณะ หรอื เป็นอฐิ ก้อนหนึ่งในกำแพงทา่ นตอ้ งทำหนา้ ท่ีของท่านใหด้ ีที่สุด และซือ่ ตรงกับผูท้ ่เี ก่ยี วข้องกบั ท่าน เช่น พอ่ แม่ พ่ี น้อง ทา่ นจะต้องไมท่ ำลายเกยี รติของท่านดว้ ยการเล่นไมซ่ ื่อ นอกจากน้ันทา่ นตอ้ งไม่ทำให้ผ้ทู ี่ ไว้วางใจท่านไมว่ ่าชายหรอื หญงิ ต้องผดิ หวัง บรรพบุรุษของทา่ น ไดท้ ำงานด้วยความแข็งแรง ด้วยความ ทรหด และตายด้วยความองอาจเพ่ือรกั ษาบ้านเมืองไว้ใหท้ ่าน ขออยา่ ให้บรรพบรุ ุษของท่านมองมาจาก สวรรค์ แลเห็นท่านเทีย่ วเตรเ่ อามือใสก่ ระเป๋าโดยไมไ่ ด้ทำประโยชนอ์ ะไรเพื่อบ้านเมืองเลย ขอ้ 3 ลูกเสอื มีหน้าทก่ี ระทำตนให้เป็นประโยชนแ์ ละช่วยเหลอื ผู้อื่น ลูกเสือจะพยายามให้ความเมตตากรุณา เพอ่ื บำเพ็ญประโยชน์ต่อประชาชนอยเู่ สมอ ความคิดของเขามวี า่ ทุกคนต้องตาย แต่ทา่ นควรจะทำใจของท่านก่อนเวลาจากโลกนีไ้ ปตามวิถีทางของ ธรรมชาติ ทา่ นควรจะทำความดีบ้าง ฉะน้ันจงทำทนั ที เพราะท่านไม่รู้เลยว่าเมือ่ ใดทา่ นจะต้องลว่ งลับไป
ข้อ 4 ลกู เสือเปน็ มิตรของคนทุกคน และเป็นพ่ีน้องกับลูกเสืออืน่ ทวั่ โลก ในฐานะทเี่ ป็นลูกเสอื ทา่ นตอ้ งยอมรับรวู้ า่ คนอน่ื เป็นเพ่ือมนษุ ย์ และทา่ นต้องไม่รงั เกียรติความแตกตา่ ง ในเร่ืองของความคดิ วรรณะ ศาสนา หรอื ชาตบิ า้ นเมือง ท่านต้องขจดั อคติของทา่ น และมองหาจุดดีของคนอืน่ ส่วนจุดช่ัวน้นั คนโงย่ ่อมวิจารณ์ได้ ถ้าท่านแสดงไมตรจี ติ ต่อคนชาตอิ ื่นไดเ้ ช่นนี้ ก็ นบั วา่ ทา่ นไดก้ ่อใหเ้ กิดสนั ตภิ าพ และไมตรจี ติ ระหว่างประเทศ และมวลมนุษยชาตไิ ด้ ขอ้ 5 ลูกเสอื เป็นผูส้ ุภาพเรยี บรอ้ ย ในฐานะที่ท่านเป็นลกู เสือ ท่าจะตอ้ งสภุ าพและคำนงึ ถึงผู้หญิง คนแก่ เดก็ และบุคคล ทัว่ ไป แตย่ งิ่ กวา่ นน้ั ทา่ นจะตอ้ งสุภาพต่อฝา่ ยตรงขา้ มกับทา่ นดว้ ย รวมความวา่ ท่านจะตอ้ งเป็นสภุ าพบรุ ษุ สุภาพบุรุษ คือ ผู้ปฏิบตั ิตามกฎแหง่ การบำเพญ็ ประโยชน์ของลูกเสอื ขอ้ 6 ลูกเสือมีความเมตตากรุณาตอ่ สตั ว์ สตั ว์ทง้ั หลายมคี วามรกั และความหวงแหนชวี ติ ของตนยิ่งกวา่ ส่งิ ใด ต่างก็ ดิ้นรนตอ่ สู้ เพ่ือใหม้ ชี ีวิตอยรู่ อดปลอดภัยจากอันตราย ทกุ ชีวิตปรารถนาความสขุ ความรัก ความอบอุน่ และการ ชว่ ยเหลอื เกอื้ กลู แต่เกลยี ดกลัวและหวาดระแวงตอ่ การลว่ งเกนิ เบียดเบยี น และการทำรา้ ย ภารกจิ อันสำคัญของลกู เสือ คือ การช่วยเหลือผู้อน่ื ใหพ้ น้ จากความทุกข์และการบรกิ าร แก่ผอู้ ่ืนให้ได้รับความสุข ดังนั้น ลกู เสือทกุ คนควรจะเป็นผ้มู คี วามรักและความเมตตากรุณาต่อสตั วด์ ว้ ย ขอ้ 7 ลูกเสือเช่ือฟงั คำส่งั สอนของบดิ ามารดาและผบู้ งั คบั บัญชาดว้ ยความเคารพ ในฐานะที่เป็นลูกเสอื ท่านย่อมบงั คบั ตนเองและเต็มใจเชอื่ ฟังคำสง่ั ของพอ่ แม่ ครู อาจารย์ นายหมู่ และผูก้ ำกบั ลูกเสอื โดยชอบดว้ ยเหตุผลไมม่ กี ารโตแ้ ย้ง ชุมชนทมี่ วี นิ ัยเปน็ ชุมชนทมี่ ี ความสุข แตว่ นิ ัยต้องเกิดมาจากภายใน มใิ ชถ่ ูกบงั คับจากภายนอก ดังนน้ั ควรปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างทดี่ ี แก่ผู้อนื่ จงึ เป็นสิง่ ท่ีมีคุณค่ามาก ขอ้ 8 ลูกเสอื มใี จร่าเรงิ และไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก ในฐานะที่เป็นลูกเสอื คนดน่ื ๆ จะคอยมองดูท่านและคดิ อย่เู สมอวา่ ทา่ นคงไม่หวั เสยี และจะยนื หยัดต่อสดู้ ้วยความเขม้ แข็ง และรา่ เริงอดทนในเมือ่ มีเหตุการณ์ฉุกเฉนิ เกดิ ขน้ึ ขอ้ 9 ลูกเสอื เปน็ ผู้มธั ยสั ถ์ ในฐานะท่ีท่านเปน็ ลกู เสอื ท่านจะมองไปข้างหนา้ และจะไมย่ อมเสยี เวลา หรอื เสียเงิน สำหรบั ความสขุ คำสำราญในปจั จบุ ัน แตจ่ ะใช้โอกาสน้ันเพื่อให้ไดบ้ รรลุความสำเร็จในหนา้ ทที่ ที่ า่ นกระทำ ทง้ั นีเ้ พื่อว่าจะได้ไม่ตอ้ งเปน็ ภาระแก่ผู้อื่น แต่กลับจะเป็นการชว่ ยเหลอื ผู้อ่ืนได้อีกด้วย ขอ้ 10 ลูกเสือประพฤติชอบดว้ ยกาย วาจา ใจ ในฐานะทีท่ ่านเป็นลูกเสอื ท่านตอ้ งมีใจสะอาด คดิ แต่เรื่องเปน็ มงคล สามารถควบคุม สติและจิตใจของตนเอง ไม่ใหฟ้ ุ้งซ่านในรูป รส กลนิ่ เสียง สมั ผสั และของมึนเมาจนเกนิ กวา่ เหตุ ท่าน ตอ้ งเปน็ ตวั ของตวั เอง และเปน็ ตวั อยา่ งท่ดี ีแก่ผ้อู ่ืนในทุกส่ิงทุกอย่างท่ีทา่ นคดิ พดู และกระทำ โดยเฉพาะ ทา่ นควรมีสัมมาอาชีวะ คือ มีอาชีพสุจรติ เพื่อเป็นความสขุ ของตนเองและสังคม
คตพิ จน์ ลกู เสือท่วั ไป “เสียชพี อย่าเสยี สตั ย์” ลกู เสอื สำรอง “ทำดที ส่ี ดุ ” ลูกเสือสามัญ “จงเตรียมพร้อม” ลูกเสือสามญั รนุ่ ใหญ่ “มองไกล” ลกู เสอื วิสามญั “บริการ”
แผนการจดั กจิ กรรมลูกเสือสามญั ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 4 แผนการจดั ที่ 13 เร่ือง คำปฏิญาณและกฎของลูกเสือสามัญ (ต่อ) จำนวน 1 ช่ัวโมง จุดประสงค์ บอกและปฏบิ ตั ิตามคำปฏญิ าณและกฎของลูกเสอื สามัญได้ เนอ้ื หา 1. คำปฏิญาณของลูกเสอื สามญั 2. กฎของลูกเสอื สามัญ 3. การวางแผนปฏบิ ตั งิ านเพือ่ ความเจริญก้าวหน้า กิจกรรมการเรยี นการสอน 1. พิธีเปิด ( ธงขึ้น สวดมนต์ สงบนิง่ ตรวจ แยก ) 10 นาที 2. เกม “ ขี่ม้าวงกลม ” 5 นาที 3. สอนตามเนื้อหา 30 นาที 3.1 ผกู้ ำกับทบทวนคำปฏิญาณและกฎของลกู เสือสามัญ 3.2 ผ้กู ำกบั นัดหมายนายหมลู่ กู เสือและนำวิธีวางแผนการปฏิบัตติ ามคำปฏญิ าณและกฎนอก เวลาเรยี น 3.3 ใหน้ ายหมู่ลกู เสอื ปฏิบตั ิการเป็นผูน้ ำในการสนทนากับลูกเสือในหมเู่ ปน็ รายบุคคล 3.6 ให้นายหมู่ลกู เสอื เสนอรายงานผลการสนทนาตอ่ ผ้กู ำกับ 4. เล่าเรือ่ งสั้นที่เปน็ คติ 5 นาที 5. พธิ ปี ิด ( นดั หมาย ตรวจเคร่ืองแต่งกาย ธงลง เลิก ) 10 นาที สอ่ื การเรยี นการสอน 1. แบบแผนงาน 2. แผนภมู ิเพลง การวดั ผลและประเมินผล 1. สงั เกตความสนใจและการเข้ารว่ มกิจกรรม 2. ดกู ารปฏิบัติตนประจำวันในกองลกู เสือ 3. ซักถาม บันทึกหลังกาสอน…………………………………………………………………………………..…………………..……………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …….…………………………………………………………………………………………………………………………………………… ขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารสถานศึกษา…………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ตวั อยา่ งบนั ทึกการสนทนาระหวา่ งนายหมู่กบั สมาชิกในหมู่ 1. ช่อื ลกู เสอื ……………………………………………………หม…ู่ ………………………………………………..……………………… 2. ประวตั สิ ว่ นตัว อายุ………..ปี อยู่บ้านเลขท…ี่ …………ถนน……......................................……………………….. หมู่ท่ี……………….ตำบล……………...............….อำเภอ……...............……จังหวดั ………................………………… 3. ความเจริญก้าวหน้าทางลกู เสือของตน (ให้ใส่เครื่องหมาย / ลงใน 0 เฉพาะข้อท่ีเขา้ ใจเป็นความจริง ปฏิบัติได้หรอื เคยปฏบิ ัตมิ าแล้ว เท่าน้ัน) กอ่ นมาเปน็ ลุกเสือสามญั เคยเป็นลกู เสอื สำรองมาแล้ว ประวัตขิ องผใู้ ห้กำเนิดลูกเสอื โลก พระราชประวัติของพระราชทานกำเนิดลกู เสอื ไทย การทำความเคารพ การแสดงรหสั การจับมอื ซ้ายของลกู เสอื คติพจนข์ องลูกเสือ คำปฏญิ าณและกฎของลกู เสือ การบำเพ็ญประโยชนต์ อ่ ชมุ ชนอย่างน้อย 2 ครง้ั ระเบยี บแถมมือเปล่า ทา่ ถือพลอง สญั ญาณมอื และสญั ญาณนกหวดี เตรยี มอุปกรณ์ตา่ ง ๆ ไปอย่คู ่ายพักแรมไดโ้ ดยไม่ต้องมผี ชู้ ว่ ยเหลอื บอกสถานท่ีสำคญั ในท้องถ่นิ ใหผ้ ้อู ่นื เข้าใจได้ ทศิ ท้ัง 8 และการใชเ้ ขม็ ทิศ เดนิ ทางไกลพร้อมกบั เพื่อนลูกเสอื ระยะทางไป – กลบั 10 กิโลเมตร เครื่องหมายจราจร และปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจรได้ วธิ ใี ช้เก็บรกั ษามีด และขวาน ผกู เงื่อนประมง ผูกร่น คนลาก อยา่ งหนง่ึ อยา่ งใดได้ 1 เง่อื น ผกู เง่ือนขัดสมาธิ ขดั สมาธิ 2 ช้นั อย่างหน่ึงอยา่ งใดได้ 1 เงื่อน ผูกเงอื่ นผูกซุง ตะกรดุ เบด็ ผู้รง้ั กบั วัสดุอย่างหนงึ่ อย่างใดได้ 1 เงื่อน ผูกแนน่ เช่น ผกู ประกบ ผูกทแยง ผกู กากบาทได้ ลักษณะและสัญญาณเกี่ยวกบั กาลอากาศในทอ้ งถิ่น ใช้เวลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์ดว้ ยการทำงานอดเิ รก คอื 1…………………………................................................................................................... ……….. 2…………………………………….………………………………………………………………………………..…….. 3………………………………………………………………………………………………..……………………..
4. การปฏบิ ตั ิตามคำปฏญิ าณและกฎของลกุ เสือ เมื่อไดร้ บั มอบหมายงานได้กระทำจนสำเร็จไมเ่ หลวไหล ไดป้ ฏิบตั ติ นแสดงความจงรกั ภกั ดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ อ์ ยูเ่ สมอ ไดบ้ ำเพ็ญตนใหเ้ ป็นประโยชนต์ ่อส่วนรวมอยา่ งนอ้ ยวนั ละ 1 คร้งั นอกจากเพ่ือนในกองแลว้ ลกู เสอื ตา่ งกองตา่ งอำเภออีกอยา่ งน้อย 2 คน ไม่เคยถกู ผูบ้ ังคับบญั ชาลงโทษเกี่ยวกับการประพฤตติ นไม่เรียบรอ้ ย เคยชว่ ยเหลือสัตวท์ ไี่ ด้รับอนั ตรายอยา่ งน้อย 1 คร้ัง ไมเ่ คยถกู ลงโทษจากบิดามารดา หรือผบู้ งั คบั บัญชาเนอื่ งจากไม่ทำตามคำส่ัง ไม่เคยหลีกงานที่ได้รับมอบหมายหรือให้ทำงานรว่ มกบั ผูอ้ ่ืน ได้สะสมเงินจากนำ้ พักน้ำแรงของตนเองฝากออมสนิ ไว้แล้ว เคยกระทำความผิดมาแล้วแตข่ ณะนี้กลับประพฤตเิ ปน็ คนดีและจะไม่ปฏบิ ตั ิในทางเสื่อมเสีย โดยเด็ดขาด 5. ควรวางแผนเพื่อความเจรญิ ก้าวหน้าในอนาคตของตนเอง เมื่อจบลกู เสอื โตรีแล้วจะเรยี นวิชาลูกเสือโทให้ได้หมดทกุ วิชา เมือ่ สำเร็จการศึกษาระดบั ประถมศกึ ษาแล้วจะสมคั รช้ันมัธยมศึกษาและเลอื กเรียนวชิ า ลกู เสอื สามัญรุ่นใหญ่ และวิสามัญต่อไป เมอื่ สำเร็จการศกึ ษาแล้วต้องการประกอบอาชพี ลงช่ือ………...............……………..ผู้บันทกึ นายหมู่
แผนการจัดกิจกรรมลูกเสือสามัญ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 แผนการจดั ที่ 14 เรื่อง กิจกรรมกลางแจง้ จำนวน 1 ชว่ั โมง จดุ ประสงค์ ปฏบิ ตั กิ ิจกรรมร่วมกับหมู่ลูกเสือหรือกองลกู เสือนอกสถานทไ่ี ด้ เน้ือหา การบริการ กิจกรรมการเรียนการสอน 1. พิธเี ปดิ ( ธงขึน้ สวดมนต์ สงบนง่ิ ตรวจ แยก ) 10 นาที 2. เพลง “ บรกิ าร ” 5 นาที 3. สอนตามเนอ้ื หา 30 นาที 3.1 ผกู้ ำกบั อธิบายหลักการบริการและการประชุมวางแผน 3.2 ให้ลูกเสอื วางแผนการปฏบิ ตั ิกิจกรรมบริการ 4. เล่าเรอื่ งสนั้ ท่เี ปน็ คติ 5 นาที 5. พธิ ปี ิด ( นัดหมาย ตรวจเคร่ืองแต่งกาย ธงลง เลิก ) 10 นาที ส่ือการเรียนการสอน 1. ภาพการบริการดา้ นตา่ ง ๆ 2. แผนภูมิสถานทที่ ี่ไปบริการ 3. แผนภมู เิ พลง การวดั ผลและประเมินผล 1. การสังเกต ความสนใจ 2. ดูจากแผนการปฏิบตั ิงาน บันทึกหลังกาสอน…………………………………………………………………………………..………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ขอ้ เสนอแนะของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา………………………………………………………………………………………….……… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
การบรกิ าร ลกู เสือตรีทุกคนจะต้องมีสว่ นร่วมในกจิ กรรมของหมู่หรอื กองลกู เสือนอกสถานที่อยา่ งน้อย 1 คร้งั หลักบรกิ าร 1. ผู้ใหบ้ รกิ ารตอ้ งมีความพร้อมในดา้ นกำลงั เวลา และอนื่ ๆ 2. ผใู้ ห้บริการต้องมกี ารเตรยี มตัวเป็นอย่างดี 3. ผใู้ หบ้ รกิ ารต้องมนี ำ้ ใจ กิริยามารยาทของผู้ใหบ้ รกิ าร 1. ตอ้ งสุภาพออ่ นน้อมทง้ั กายและจติ ใจ 2. มใี จเปน็ ธรรม ไมเ่ ลือกท่ีรักมักที่ชังในการใหบ้ รกิ าร 3. เปน็ ผู้ทร่ี จู้ กั กาล เวลา สถานท่ี และบุคคล เพ่อื จะบรกิ ารได้ถูกต้อง 4. เปน็ ผู้ยิ้มแยม้ อยเู่ สมอ ใจเย็น และเหน็ ใจผอู้ ื่น 5. เป็นผู้ยอมรบั และปรับตัวเข้ากับสงิ่ แวดลอ้ มได้
แผนการจดั กิจกรรมลูกเสือสามัญ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 4 แผนการจัดท่ี 15 เร่อื ง กจิ กรรมกลางแจง้ (ต่อ) จำนวน 1 ชว่ั โมง จุดประสงค์ ปฏิบัติกิจกรรมรว่ มกับหมูล่ กู เสือหรือกองลูกเสือนอกสถานทไ่ี ด้ เนอื้ หา การบรกิ าร กิจกรรมการเรียนการสอน 1. พธิ เี ปิด ( ธงขึ้น สวดมนต์ สงบน่ิง ตรวจ แยก ) 10 นาที 2. เกม “ แขง่ ห่นุ ” 5 นาที 3. สอนตามเนอื้ หา 30 นาที 3.1 ลกู เสอื วางแผนการปฏิบตั ิกจิ กรรมบรกิ าร 3.2 ผกู้ ำกบั นำลูกเสือออกไปปฏบิ ัตนิ อกโรงเรยี นอย่างน้อย 1 คร้ัง 3.3 ให้ลกู เสือบนั ทึกผลการปฏบิ ตั ิกิจกรรมบริการของหมู่เพอื่ รายงานการบริการ 4. เล่าเร่ืองส้นั ทีเ่ ปน็ คติ 5 นาที 5. พธิ ปี ิด ( นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแตง่ กาย ธงลง เลกิ ) 10 นาที สือ่ การเรียนการสอน 1. แผนผังสถานท่ีท่ีไปบริการ 2. แบบบันทกึ การบริการหรือการบำเพญ็ ประโยชน์ การวดั ผลและประเมนิ ผล 1. การสังเกต ความสนใจ 2. ดจู ากแผนการปฏบิ ัติงาน 3. ตรวจผลงาน บันทกึ รายงานหลงั จากให้บรกิ ารแลว้ บนั ทกึ หลังกาสอน…………………………………………………………………………………..………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะของผู้บริหารสถานศกึ ษา………………………………………………………………………………………….……… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
แบบบนั ทกึ การบำเพ็ญประโยชน์ ผ้รู ับรอง หมายเหตุ ลำดบั ท่ี วนั เดอื น ปี การบำเพ็ญประโยชนแ์ ละการช่วยเหลือผ้อู ื่น
แผนการจดั กิจกรรมลกู เสอื สามญั ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 4 แผนการจดั ท่ี 16 เรื่อง ระเบยี บแถว ( ทบทวน ) จำนวน 1 ชั่วโมง จดุ ประสงค์ ปฏบิ ัติตนตามระเบียบแถวได้ เนอ้ื หา 1. ระเบียบแถว ( การทบทวน ) 1.1 ทา่ มอื เปลา่ 1.2 ท่ามอี าวุธ กจิ กรรมการเรียนการสอน 1. พิธเี ปิด ( ธงขึ้น สวดมนต์ สงบนิ่ง ตรวจ แยก ) 10 นาที 2. เกม “ ไหวพริบ ” 5 นาที 3. สอนตามเน้อื หา 30 นาที 3.1 ผ้กู ำกับใหล้ กู เสือทบทวนระเบียบแถว ท่ามือเปล่า ทา่ มีอาวุธ 3.2 ให้นายหมูล่ กู เสือฝึกทบทวนลกู เสือในหมู่ของตน 4. เล่าเรอ่ื งสน้ั ทีเ่ ปน็ คติ 5 นาที 5. พิธีปิด ( นดั หมาย ตรวจเครื่องแต่งกาย ธงลง เลกิ ) 10 นาที ส่อื การเรยี นการสอน 1. ไมพ้ ลอง 2. นกหวดี การวัดผลและประเมนิ ผล 1. การสงั เกต และการปฏิบัติถูกตอ้ งตามคำสั่ง 2. การทดสอบ ปฏบิ ตั ิตามระเบียบแถวเปน็ หมู่ บันทึกหลังกาสอน…………………………………………………………………………………..………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ขอ้ เสนอแนะของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา………………………………………………………………………………………….……… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ระเบยี บแถว ท่าตรง คำบอก “แถว – ตรง” การปฏิบัติ ยืนให้ส้นเท้าชิด และอยู่ในแนวเดียวกัน ปลายเท้าแบะออกข้างละเท่า ๆ กัน ห่างกัน ประมาณ 1 คบื (ทำมุม 45 องศา) เข่าเหยียดตึงและบีบเข้าหากัน ลำตวั ยืดตรงอกผาย ไหล่เสมอ กัน แขนทั้งสองข้างห้อยอยู่ข้างลำตัวและเหยียดตรงพลิกศอกไปข้างหน้าเล็กน้อย จนไหล่ตึงนิ้วมือเหยียด และชิดกัน น้ิวกลางติดขาตรงก่ึงกลาง ประมาณแนวตะเข็บกางเกง เปิดฝา่ มือเล็กน้อย ลำคอยืดตรงไม่ย่ืน คาง ตาแลตรงไปขา้ งหน้าได้ระดบั น้ำหนกั ตวั อยู่บนเทา้ ทัง้ สองเทา่ ๆ กัน และน่งิ หมายเหตุ 1. ท่าตรงเปน็ ท่าเบ้ืองต้น และเปน็ รากฐานของการปฏิบัติทา่ อื่น ๆ 2. ใชเ้ ปน็ ทา่ สำหรับแสดงการเคารพได้ท่าหน่งึ ท่าเคารพ 1. วนั ทยหตั ถ์ การฝึกขั้นตน้ คำบอก “วันทยหัตถ์ และ มอื ลง” การปฏิบัติ ยกมือขวาขึ้นโดยเร็วและแข็งแรง จัดนวิ้ มืออยา่ งเดยี วกับทา่ รหัสของลูกเสือ โดยให้ปลายนวิ้ ชแ้ี ตะขอบลา่ งของหมวกค่อนไปข้างหน้าเล็กน้อยในแนวทางตาขวามือเหยียดตามแนว แขนขวาท่อนลา่ ง น้ิวเหยยี ดตรงและเรยี งชดิ ติดกนั ข้อมือไม่หัก เปิดฝา่ มอื ขนึ้ ประมาณ 30 องศา แขนขวาท่อนบนยื่นไปทางขา้ ง อยู่ประมาณแนวไหล่เม่ืออยู่ในท่แี คบ ใหล้ ดศอกลงได้ตามความเหมาะสม รา่ งกายส่วนอืน่ ต้องไม่เสยี ลกั ษณะทา่ ตรง เม่ือได้ยนิ คำบอก “มือลง” ใหล้ ดมือลงอยู่ในท่าตรงโดยเรว็ และแข็งแรง (ท่าวันทยหตั ถ์โดยปกตติ ่อจากท่าตรงเป็นท่าเคารพเม่ืออยู่ตามลำพงั นอกแถว) ผบู้ งั คบั บญั ชาลกู เสือเขา้ แถวแสดงการเคารพด้วยท่าวันทยหตั ถ์ (สวมหมวก) ลกู เสือจะสวมหมวกหรือไม่สวมหมวก ใหท้ ำวนั ทยหตั ถ์ได้ ถา้ ไมส่ วมหมวกใหป้ ลายนวิ้ ช้ีแตะที่ หางควิ้ ขวา เมือ่ มีผูร้ ับการเคารพ คำบอก “ทางขวา (ทางซา้ ย ตรงหนา้ ) วนั ทยหัตถ์ การปฏบิ ตั ิ สะบัดหนา้ ไปยังผรู้ ับการเคารพ พร้อมกับยกมือทำวนั ทยหัตถ์ ก่อนถงึ ผรู้ บั การ เคารพ 3 กา้ ว ตามองจับผรู้ ับการเคารพและหันหน้าตามจนผรู้ ับการเคารพผา่ นหน้าตนไปแลว้ 2 ก้าว ให้สะบดั หนา้ กลับพรอ้ มกบั ลดมอื ลงเอง ถา้ ผู้รับการเคารพอยูต่ รงหน้าก็ปฏิบตั โิ ดยไม่ตอ้ งสะบัดหนา้ ในการฝึก เม่ือผ้รู ับการเคารพเคลือ่ นทผ่ี ่านก็ให้สะบดั หนา้ กลับพรอ้ มกับลดมอื ตาม คำ บอก “มือลง” “แลขวา แลซา้ ย – ทำ” คำบอก “แลขวา (ซ้าย) – ทำ” การปฏิบัติ สะบดั หน้าไปทางขวา(ซา้ ย) ประมาณกง่ึ ขวา(ซา้ ย) ก่อนถึงผ้รู ับการเคารพ 3 ก้าว ตามองจบั ผรู้ บั การเคารพและหันหน้าตามจนผู้รับการเคารพผา่ นพน้ ไปแล้ว 2 ก้าว แลว้ สะบัดหนา้ กลับท่ีเดิม
ในการฝกึ เม่ือผ้รู ับการเคารพเคล่ือนทีผ่ ่าน กส็ ะบดั หน้ากลบั ทเ่ี ดมิ ตามคำบอกวา “แล – ตรง” ทา่ พกั พกั ตามปกติ คำบอก “พกั ” การปฏิบตั ิ หย่อนเข่าขวากอ่ น ตอ่ ไปจงึ หย่อนและเคลอื่ นไหวส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และเปลี่ยนเข่า พักไดต้ ามสมควร แตเ่ ท้าทงั้ สองคงอยู่กบั ที่ ห้ามพูดคุย เมื่อได้ยินคำบอกว่า “แถว” ให้ยืดตวั ขน้ึ และจดั ทกุ สว่ นของร่างกายอยู่ในท่าตรง นอกจากเข่าขวา คร้นั เม่อื ไดย้ นิ คำบอกวา่ “ตรง” ให้กระตกุ เข่าขวา โดยเร็ว และแข็งแรง กลบั ไปอยู่ในลกั ษณะของทา่ ตรง พกั ตามระเบยี บ คำบอก “ตามระเบยี บ - พัก” การปฏบิ ตั ิ แยกเทา้ ซ้ายออกไปทางซา้ ยประมาณ 30 ซม. (หรือประมาณเกือบครง่ึ กาวปกติ)อย่างแข็ง แรงและองอาจ พร้อมกับจับมือไขว้หลัง ให้หลงั มอื เข้าหาตวั มอื ขวาทับมอื ซา้ ย หลงั มือ ซา้ ย แนบตดิ กบั ลำตัวในแนวก่งึ กลางหลัง และอยใู่ ต้เขม็ ขดั เล็กน้อย ขาทั้งสองตงึ น้ำหนกั ตวั อยู่ บนเท้าทงั้ สองเท่า ๆ ก น และนิ่ง เม่อื ได้ยนิ คำว่า“แถว - ตรง” ให้ชักเท้าซา้ ยชดิ เทา้ ขวาอยา่ งแข็งแรง พร้อมกบั มือทงั้ สองกลบั ไปอยู่ในลกั ษณะท่าตรงตามเดิม คำบอก พกั ตามสบาย การปฏิบัติ “ตามสบาย – พัก” กัน หย่อยเขา่ ขวากอ่ น เชน่ เดียวกบั “พกั ” ตอ่ ไปจึงเคลอ่ื นไหวรา่ งกายอย่างสบาย และพดู จา ได้ แต่เท้าข้างหน่งึ ต้องอยู่กบั ท่ี ถ้ามิได้รบั อนุญาตใหน้ ่ังจะนงั่ ไม่ได้ เมื่อไดย้ ินคำวา่ “แถว – ตรง” ให้ปฏบิ ัติอยา่ งเดยี วกบั ทา่ พักปกติ พกั นอกแถว คำบอก “พักแถว” การปฏบิ ัติ ตา่ งคนตา่ งแยกออกจากแถวทนั ที แตต่ ้องอยู่บริเวณใกล้เคยี งนัน้ และไมท่ ำเสียงอึกทึก เมอ่ื ไดย้ นิ คำบอกว่า “แถว” ให้รบี กลับมาเขา้ แถวตรงที่เดิมโดยเรว็ ในรปู แถวเดมิ และ เม่ือจัด แถวเรยี บรอ้ ยแลว้ ให้อยใู่ นทา่ ตรงจนกวา่ จะมีคำสัง่ ต่อไป หมายเหตุ สำหรับท่าพัก ท่าพกั เปน็ ทา่ เปล่ียนอริ ิยาบถจากทา่ ตรง เพอื่ ผ่อยคลายความเครง่ เครยี ดตามโอกาสตา่ ง ๆ คือ
1. พกั ตามปกติ ใช้พักในโอกาสระหว่างการฝึก – สอน เพอ่ื อธบิ าย หรือแสดงตัวอย่างแก่ ลูกเสอื 2. พักตามระเบยี บ ใชพ้ กั ในโอกาสเก่ียวกบั พธิ กี ารต่าง ๆ เช่นการตรวจพลสวนสนาม หรืออย่ใู นแถวกองเกยี รตยิ ศ ฯลฯ 3. พกั ตามสบาย ใชพ้ กั ในโอกาสที่ต้องรอรบั คำสัง่ เพื่อปฏบิ ตั ติ อ่ ไปเปน็ ระยะเวลาสั้น ๆ เชน่ เมอื่ ผคู้ วบคุมแถวตอ้ งไปรับคำส่ังจากผู้บงั คบั บญั ชา เป็นตน้ 4. พกั นอกแถว ใช้พักในโอกาสที่ต้องรอรับคำส่ัง เพ่อื ปฏิบตั ติ ่อไปเปน็ ระยะเวลานาน ๆ ขวาหนั คำบอก “ขวา – หนั ” การปฏบิ ัติ ทำเปน็ 2 จังหวะ คอื จงั หวะที่ 1 เปดิ ปลายเทา้ ขวา และยกส้นเท้าซา้ ย ทนั ใดนัน้ ให้หันตวั ไปทางขวาจนได้ 90 องศา หมนุ เทา้ ทง้ั สองไปโดยใหส้ น้ เทา้ และปลายเทา้ ซ่ึงเป็นหลักนั้นติดอยู่กบั พน้ื นำ้ หนักตัวอยูท่ เี่ ทา้ ขวา ขา ซ้ายเหยียดตึง บิดส้นเทา้ ซา้ ยออกข้างนอกพอตึง จังหวะที่ 2 ชกั เทา้ ซา้ ยมาชิดเทา้ ขวาในลักษณะทา่ ตรงโดยเร็วและแข็งแรง ซ้ายหัน คำบอก “ซ้าย – หัน” การปฏบิ ัติ ทำเป็น 2 จงั หวะ อยา่ งเดียวกับทา่ ขวาหันโดยเปลย่ี นคำว่า “ขวา” เปน็ ”ซา้ ย” กลบั หลังหนั คำบอก “กลับหลงั – หนั ” การปฏิบัติ ทำเปน็ 2 จงั หวะ คือ 59 จังหวะท่ี 1 ทำเช่นเดยี วกับท่าขวาหันจงั หวะที่ 1 แตห่ ันเลยไปจนกลับหน้าเป็นหลัง ครบ 180 องศา และใหป้ ลายเท้าซ้ายไปหยุดอยู่ข้างหลงั เฉยี งซา้ ยประมาณครง่ึ ก้าว และในแนวส้นเทา้ ขวา จังหวะท่ี 2 ทำเชน่ เดียวกับท่าขวาหันจังหวะท่ี 2 ทา่ หนั ในเวลาเดิน ขวาหนั คำบอก “ขวา – หนั ” การปฏิบตั ิ ให้บอกคำว่า “ขวา” และ “หัน” เม่ือเทา้ ขวาจรดถงึ พื้นในลำดับตอ่ กนั ปฏบิ ัตเิ ป็น 2 จงั หวะ ดงั น้ี จังหวะที่ 1 กา้ วเท้าซ้ายยกไปข้างหนา้ ในแนวปลายเท้าขวาประมาณครง่ึ ก้าว พรอ้ มกับบิดปลายเทา้ ให้ไปทางก่งึ ขวาด้วย ขณะเดยี วกันยกเทา้ ขวาและหมุนตัวดว้ ยสะโพก โดยใช้ปลาย เทา้ ทงั้ สองเป็นหลักไปทางขวาจนได้ 90 องศา
จงั หวะท่ี 2 กา้ วเท้าขวาอกเดนิ ตอ่ ไปตามจังหวะการเดินเดนิ ในทศิ ทางใหม่โดย ตอ่ เน่ือง ซ้ายหนั คำบอก “ซ้าย – หัน” การปฏบิ ตั ิ ใชค้ ำบอกวา่ “ซ้าย - หัน” เม่ือเท้าซ้ายจรดถึงพนื้ ในระดบั ติดต่อกันปฏบิ ตั เิ ปน็ 2 จงั หวะ เช่นเดยี วกับขวาหัน โดยเปลีย่ นคำวา่ “ขวา” เป็น “ซา้ ย” เทา่ นน้ั หมายเหตุ สำหรับทา่ ขวาและซา้ ยหนั 1. ท่าขวาและซ้ายหัน เมอื่ ปฏิบตั ิเปน็ จงั หวะต้องไม่หยดุ ชะงกั และมือแกวง่ ตามจังหวะ ติดตอ่ เร่ือยไป 2. ท่าท้ังสองนี้ใช้ในโอกาสท่ตี ้องการเปล่ยี นทิศหรือหน้าแถวระหวา่ งการเดิน กลับหลังหัน คำบอก “กลับหลัง – หนั ” การปฏบิ ัติ ให้บอกคำว่า “กลบั หลงั ” และ “หนั ” เมอื่ เทา้ ซา้ ยจรดถึงพืน้ ในลำดับตดิ ตอ่ กนั ปฏิบัติเปน็ 3 จังหวะ ดังน้ี จงั หวะที่ 1 ก้าวเท้าขวาไปข้างหนา้ 1 กา้ ว จงั หวะท่ี 2 ก้าวเท้าซา้ ยไปข้างหนา้ เลย้ี วขวา และตบลงกับพน้ื ดว้ ยปลายเท้าในแนวทางขวาของ ปลายเท้าขวาเลก็ น้อย พอเท้าซา้ ยตึง ทนั ใดนัน้ ยกสน้ เท้าขวาและหมุนตัวด้วยตะโพกโดยใชป้ ลายเทา้ ทั้งสอง เปน็ หลกั ไปขา้ งหลงั จนได้ 180 องศา ขณะหมุนตัวนิว้ มือท้งั 2 ติดกับขา้ งขา จังหวะที่ 3 กา้ วเท้าขวาออกเดินพร้อมกบั ยกมือและแกวง่ แขน ซอยเท้า คำบอก “ซอยเท้า – ทำ” การปฏิบตั ิ เมอื่ หยดุ อยู่กบั ท่ี ถ้าไดย้ ินคำบอกวา่ “ซอยเท้า - ทำ” ให้ยกเทา้ ขึ้นลงสลบั กนั อยู่ กบั ท่ี ตามจงั หวะการเดินในครงั้ นั้น โดยยกเทา้ ซ้ายข้ึนกอ่ น เทา้ ที่ยกข้นึ นน้ั ให้พ้ืนรองเทา้ สูงจากพ้ืน ประมาณ 1 คืบ ลักษณะมือและการแกวง่ แขนคงเปน็ ไปตามท่าเดนิ ในครงั้ นั้น ท่าถอดหมวกและสวมหมวก ท่าถอดหมวกใช้คำบอก “ถอดหมวก” ทำเป็นจงั หวะเดยี วให้ลกู เสือนำพลองในมือขวามาไว้ ตรงหน้า ให้ตน้ ไมพ้ ลองอยู่ตรงกลางระหว่างเทา้ ทง้ั 2 ไมพ้ ลองส่วนบนพิงแขนซา้ ยดา้ นในซง่ึ งอตรงศอก แขนซ้ายท่อนบนชิดลำตวั หน้าแขนตง้ั ได้ฉากฝา่ มือแบหงาย ขณะเดยี วกนั ใช้มือขวาถอดหมวกจากศรี ษะเอา มาวางไวบ้ นฝ่ามือซา้ ยหนา้ หมวกอยู่ทางขวา ให้หัวแม่มอื ซ้ายอยู่ชดิ ขอบในหมวก น้วิ ทั้งส่ตี ดิ ขอบหมวกดา้ น นอกหนา้ หมวกหนั ไปขา้ งขวา แลว้ ลดแขนขวาให้อยู่ในท่าตรงตามเดิม สวมหมวกใหใ้ ช้คำบอก “สวมหมวก” ให้ลูกเสอื ใชม้ ือขวานำหมวกในมือซา้ ยขึน้ สวม โดยใช้ มอื ซา้ ยช่วยดว้ ย โดยให้สายรดั ท้ายทอยใหเ้ รยี บรอ้ ย แล้วใชม้ ือขวาจับไม้พลองที่พงิ ไว้กับแขนซ้ายมาถือไว้ใน ทา่ เรยี บอาวธุ ตามเดิม
ข้อควรจำ ทา่ ถอดหมวด - สวมหมวก ลูกเสือต้องทำด้วยความฉบั ไว เรยี บร้อย ผลท่ีได้ จากท่าน้ีอยู่ท่ีการฝึกบ่อย ๆ ท่าหันและการเคล่อื นที่ในเวลาถือไม้พลอง ทา่ หันในเวลาถอื ไม้พลองใชค้ ำบอกและวธิ ปี ฏิบัติ เหมือนอยู่กบั ท่ีมือเปล่า ถา้ หนั ในขณะที่ไม้พลองอยูใ่ นท่าเรียบอาวธุ เพื่อให้การหันสะดวกขณะหนั ยกไม้ พลองในมือขวาใหพ้ ้นพน้ื เล็กน้อย เม่อื หนั เสร็จแลว้ ลดมือขวาลงใหไ้ ม้พลองจรดพนื้ การเคล่ือนทใี่ นเวลาถือไม้พลองเหมือนกบั การเคลือ่ นที่มอื เปล่าท้ังในการใช้คำบอกและวิธปี ฏิบัติ ตามปกตเิ มอ่ื จะเคลื่อนทผ่ี คู้ วบคุมแถวต้องบอกใหแ้ บกอาวุธเสียก่อน แลว้ จงึ ส่ังให้เดนิ ในท่าเดนิ แบกอาวธุ อยู่ ในแถวควบคุม เม่อื จะทำความเคารพผคู้ วบคุมแถวบอก “แลขวา(ซ้าย) ทำ” ใหล้ กู เสอื หนั หนา้ ไปยงั ผู้รบั การเคารพ แขนแกว่งตามปกตแิ ละรักษาทา่ แบกอาวุธไว้คงเดิม เมื่อพน้ ผ้รู บั การเคารพแลว้ หนั หน้าแลตรง เอง ถา้ ลกู เสืออยู่ในทา่ แบกอาวุธ เคล่อื นที่ไปตามลำพงั เมื่อจะทำความเคารพใหล้ ดไมพ้ ลองลงจาก ทา่ แบกอาวธุ มาเป็นทา่ เรียบอาวุธ จงั หวะที่ 1 เพียงมือขวาที่ยกขนึ้ มาจบั ไม้พลองในร่องไหลซ่ า้ ยนนั้ ใหจ้ ดั น้วิ เหมอื นทา่ หสั ของลูกเสือ ฝ่ามอื แบควำ่ ใหข้ า้ งปลายนิว้ ช้ีแตะ ไม้พลอง ศอกงอไปข้างหนา้ ในแนว เดียวกบั ไหล่ หนั หนา้ ไปยังผรู้ ับการเคารพที่ยืนหรือเดินอยู่ (ส่วนมาหรอื เดนิ ไป) เม่ือผา่ นผู้รับการเคารพไปแล้ว เลิกทำความเคารพโดยใชม้ ือซา้ ยดันไมพ้ ลอง ขน้ึ ไปอยใู่ นท่าแบกอาวุธดังเดิม พรอ้ มกับหันหน้าแลตรงลดแขนขวาลง แขนแกว่งต่อไปในท่าเดินตามปกติ ทา่ แบกอาวธุ - เรยี บอาวุธ ท่าแบกอาวุธ ใชค้ ำบอก “แบก - อาวุธ” ใหล้ ูกเสือทำเปน็ 2 จงั หวะ จังหวะท่ี 1 ยกไม้ พลองด้วยมือขวาผ่านหน้าเฉยี ดลำตัวไปข้างซ้าย ใหต้ ้นไม้พลองอยใู่ นองุ้ มือซา้ ย ลำไมพ้ ลองตงั้ อยู่ตรงร่อง ไหลซ่ ้าย มอื ขวาคงจบั ไม้พลองอยู่ท่เี ดมิ ศองอไปขา้ งหน้าแนวเดยี วกบั ไหล่ จังหวะท่ี 2 ดนั ไมพ้ ลองดว้ ย มอื ซา้ ย พรอ้ มกับสง่ ไม้พลองด้วยมือขวา ใหไ้ ม้พลองพาดข้ึนไปบนบ่าซ้ายแขนซ้ายท่อนบนชิดลำตัว ศอก ซา้ ยงอหนา้ แขนตั้งไดฉ้ ากกบั ลำตัว ขณะเดียวกนั ลดมือขวาลงในท่าตรงโดยเร็ว ขอ้ ควรระวัง ขณะทีล่ ูกเสือทำท่าแบกอาวธุ จังหวะที่ 2 ระวังอย่าให้ศรี ษะเคลอ่ื นหลบไม้พลอง ทรงศรี ษะให้คงท่ีเหมือนอยูใ่ นท่าตรงเสมอ ให้แขนซ้ายอย่ใู นลักษณะที่ถูกต้องและไมเ่ คลอื่ นไหว ปลายไม้ พลองจึงจะไดร้ ะดับและไมเ่ อียงไปมา เรยี บอาวธุ ใชค้ ำบอก “เรียบ – อาวธุ ” ใหล้ กู เสือทำเปน็ 3 จังหวะ จังหวะท่ี 1 ยกมอื ขวา ขน้ึ จบั ไม้พลอง ศอกงอไปข้างหนา้ ในแนวเดยี วกับไหล่ พร้อมกับเหยยี ดแขนซ้ายโดยลดไมพ้ ลองลงชดิ กบั ลำตวั จงั หวะท่ี 2 นำไม้พลองดว้ ยมือขวามาไว้ข้างลำตวั ในร่องไหล่ขวา (แขนซ้ายเหยียดเกือบสดุ ระยะที่ มือขวาจบั ไม้พลองในท่าเรยี บอาวุธ) ขณะเดียวกนั ยกมือซ้ายขน้ึ กนั ไม้พลองท่ีร่องไหลข่ วา ศอกงอไป ข้างหน้าในแนวเดียวกบั ไหล่ จังหวะที่ 3 ลดแขนซา้ ยลงอยูใ่ นทา่ เรยี บอาวธุ ตามเดิม (ในจังหวะนเ้ี หยียด แขนขวาลงสดุ ระยะที่มอื ขวาจับไม้พลองอยู่ในท่าเรียบอาวธุ ตน้ ไม้พลองอยู่ในท่าเรยี บอาวุธ ต้นไมพ้ ลองจรด พื้น) ขอ้ สังเกต ตอนเหยียดแขนขวาจากจงั หวะที่ 2 ลงสดุ ระยะที่มอื ขวาจบั ไม้พลองในท่าเรยี บ อาวธุ ในจังหวะท่ี 3 จะรู้สึกว่าตน้ ไม้พลองจรดพนื้
รวมและขยายอาวุธ ในแถวหน้ากระดาน ลูกเสือรวมอาวุธเม่ืออยู่ในรูปแถวหน้ากระดาน โดยแต่ละหมู่รวมอาวุธไว้ ข้างหน้ากองของตน เม่ือมีคำสั่งว่า “รวมอาวุธ” ให้ลูกเสือคนท่ี 2 กับคนที่ 3 ก้าวออกมาข้างหน้า 1 ก้าว แล้ว ร้อยหไู ม้พลองเข้าด้วยกนั หน้าหมู่ของตน ลกู เสอื คนที่ 4 เอาไม้พลองสอดลูกเสืออ่ืน ๆ นายหมู่พิงไม้พลอง ฝาก นายหมู่ลูกเสือหรือรองนายหมู่ท่ีปฏิบัติหน้าท่ีแทน พิงไม้พลองฝากเป็นคนสุดท้ายกับกระโจมของ หมู่ตน หมายเหตุ ในกรณีที่กองจัดแถวหน้ากระดานต้ังแต่ 2 แถวข้ึนไป เมื่อจะส่ังรวมอาวธุ ขอให้อยู่ในดุลพินิจ ของผู้บังคับบัญชา ถ้าเห็นว่าท่ีตั้งกระโจมอาวุธแคบเกินไปอาจสั่งให้ขยายแถวท่ี 2 ,3 ไปทางหลังเสียก่อนก็ ได้ เม่ือรวมอาวุธแล้วก็เข้าประจำที่เดิม เมื่อมีคำบอก “ขยายอาวุธ” ลูกเสือแต่ละหมู่ต่างนำไม้พลองออก จากกระโจมมาประจำท่ี อยูใ่ นท่าเรียบอาวธุ ต่อไป
แผนการจัดกิจกรรมลูกเสือสามัญ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 แผนการจดั ท่ี 17 เรื่อง กิจกรรมกลางแจ้ง จำนวน 1 ชวั่ โมง จดุ ประสงค์ 1. บอกวิธใี ช้มีดและขวานอย่างเหมาะสมกับงานได้ 2. บอกวธิ เี ก็บรกั ษามีดและขวานได้ เน้อื หา การใช้และเก็บรกั ษามดี และขวาน - ชนิดของมีดและขวาน - วธิ ีใช้และเก็บรกั ษามีดและขวาน - ใชม้ ดี เหลาสมอบก และขวานตัด - ผ่าไม้เพื่อก่อไฟ กิจกรรมการเรยี นการสอน 1. พธิ เี ปิด ( ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบน่ิง ตรวจ แยก ) 10 นาที 2. เกม “ ขน้ึ เขาลงหว้ ย ” 5 นาที 3. สอนตามเนื้อหา 30 นาที กลมุ่ ลกู เสือเรยี นตามฐานโดยผู้กำกับอธิบายและสาธิต แล้วให้ลกู เสอื ฝกึ ปฏบิ ัตดิ ังนี้ ฐานท่ี 1 วธิ ีใช้เก็บรักษามีดและขวาน ฐานท่ี 2 การพก นำพา และสง่ ให้ผูอ้ นื่ ฐานท่ี 3 การใชม้ ีดเหลาสมอบก ฐานท่ี 4 การใชข้ วานตัดและผ่าไมเ้ พื่อก่อไฟ 4. เล่าเร่ืองสั้นทเี่ ปน็ คติ 5 นาที 5. พิธปี ิด ( นัดหมาย ตรวจเคร่อื งแตง่ กาย ธงลง เลิก ) 10 นาที สื่อการเรียนการสอน 1. มีดและขวานชนดิ ตา่ ง ๆ 2. หนิ ลบั มดี และขวาน 3. ไม้สำหรบั ทำสมอบกและฟืน การวัดผลและประเมนิ ผล 1. การสงั เกต ความสนใจ 2. ดูการเขา้ รว่ มกิจกรรม บันทกึ หลังกาสอน…………………………………………………………………………………..………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารสถานศึกษา………………………………………………………………………………………….……… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
การใชแ้ ละเก็บรักษามดี และขวาน มีดและขวานเป็นสง่ิ จำเปน็ ยงิ่ สำหรับลูกเสือมาก ซงึ่ ลกู เสอื ต้องนำติดตัวไปในระหว่างเดนิ ทางไกล และพักแรม มดี ที่นำไปมดั เปน็ มีดพับ มีดพก มดี พกท่ีมีฝักสวมแขวนติดกับเข็มขัดข้างขวามอื ก่อนแขวน หรือตดิ เข็มตัด ตอ้ งพบั และเอามดี ใสฝ่ ักใหเ้ รยี บร้อย การส่งมีด ควรพับหรือใสฝ่ กั ก่อนแลว้ จึงสง่ ใหเ้ พอื่ น ถา้ มีดไม่ไดส้ วมฝกั ให้จับสันมดี แลว้ ยื่นสง่ ทาง ดา้ มมดี ให้เพ่ือน เม่อื เพ่ือนจับดา้ มมีดแน่นแลว้ จงึ ปลอ่ ยมือ ทงั้ นเี้ พอื่ ป้องกันมิใหม้ ีดบาดมอื ผู้ส่ง (เมื่อผู้รบั จบั ด้ามมีดหรือขวานหมน่ั คงแลว้ กล่าว “ขอบคุณ” ผสู้ ่งปลอ่ ยมอื ) มดี จำแนกได้ 2 ประเภท คือ 1. มีดเล็ก ไดแ้ ก่มดี พกประจำตัว มีดท่ีใช้ในการทำครัว มีดพกประจำตวั เป็นมีดใชพ้ กพาติดตัวอยเู่ สมอในขณะอยู่ค่ายพักแรม หรอื เดินทางไกล ตัวมดี ประกอบด้วยส่วนใบมีดและด้าม มีดพกประจำกายมีไว้เพื่อตดั เชอื ก ลดิ ก่ิงไมข้ นาดเลก็ หรืออาจใชใ้ นการ ประกอบอาหาร การเก็บรักษาและซ่อมแซม ต้องหมั่นลับให้คมอยู่เสมอและชโลมนำ้ มนั เพ่ือปอ้ งกันสนมิ หมัน่ ตรวจตราดอู ย่าให้ใบมีดโยกคลอนหรือด้ามมดี แตกหัก มดี ทใ่ี ช้ในการทำครัว เป็นมดี บางขนาดเลก็ สำหรับการประกอบอา หาร อาจไม่จำเปน็ ในการอยู่ค่าย พักแรม เพราะอาจใชม้ ดี พกประจำกายแทนก็ได้ วิธกี ารบำรุงรกั ษาเชน่ เดยี วกับมีดพกประจำกาย 2. มีดใหญ่ ได้แก่ มีดโต้ มดี ดายหญ้า มดี พร้าถาง เปน็ มดี ทีม่ ีความจำเป็นในการอยคู่ า่ ยพักแรมเปน็ อยา่ งมาก มีส่วนประกอบ 2 สว่ น คอื ส่วนใบมดี และสว่ นดา้ ม ประโยชนใ์ ช้สอยคอื ใช้ตดั ก่ิงไม้ใหญ่ ผา่ ฟนื ดาย หญา้ ตัดกิ่งไม้ทีเ่ ปน็ อุปสรรคในการเดินทาง การเก็บรกั ษาจะต้องลับให้คม เชด็ ให้แห้ง ทาน้ำมันทุกครง้ั ท่ี ใชง้ านเสรจ็ แลว้ การบำรงุ รักษาและซ่อมแซม ต้องหม่นั ตรวจดูวา่ ดา้ มมดี อยู่ในสภาพทส่ี มบูรณ์ดีหรอื ไม่ ใบมดี โยกคลอนหรือไม่ และถา้ ใบมีดโยกคลอนไม่ควรใช้เศษไม้ตอกลงไปในด้ามมีด จะทำใหด้ ้ามแตก ใบมีด หลดุ จาดด้ามมดี ได้ ควรเปลี่ยนด้ามมีดเสยี ใหมเ่ พื่อความแขง็ แรง วธิ ีใชค้ วรให้ห่างจากผอู้ น่ื และใช้งานด้วย ความระมัดระวัง ไม่ประมาทหรอื คกึ คะนอง ขวาน แบง่ ออกเป็น 2 ชนิด คือ 1. ขวานไทย มีทั้งขวานใหญ่และของเล็ก 2. ขวานฝรั่ง มีท้ังขวานใหญ่และของเลก็ ขวานเลก็ และขวานใหญ่ ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ สว่ นขวานและสว่ นดา้ ม ส่วนตา่ ง ๆ ของขวาน
วธิ ใี ช้มดี และขวาน 1. ไมว่ างมีดหรือขวานให้ทางคมหงายขนึ้ 2. ไม่ใชห้ ่นั ถาก ฟนั วัตถทุ ่แี ข็งเกนิ ไปจนคมท่ือ ปน่ิ 3. ไม่ใชก้ รดี ทำลายทรัพยส์ นิ ให้เสยี หาย 4. ไมน่ ำไปลนไฟหรอื วางใกล้ไฟเกนิ ควร 5. การสง่ มีด ให้จับสนั มีดหันคมออก ส่งทางด้ามให้ผูร้ บั 6. การแบกหรือถือมดี ขวานขนาดใหญ่ ให้หันดา้ นคมออกนอตัว 7. การสง่ ขวานใหญ่ จบั ด้ามขวานให้ตวั ขวานหอ้ ยลงคมขวานหนั ออกขา้ ง ๆ 8. ส่งขวานขนาดเลก็ ใหจ้ ับทต่ี ัวขวาน หนั คมไปทางด้านหลงั ปล่อยดา้ มขวานชล้ี ง การเกบ็ รกั ษาขวาน 1. ด้ามขวานหลวมเอาลิ่มขนาดตอ้ งการแชน่ ้ำอุน่ ตอกสลักเขา้ ไปทำใหแ้ น่น 2. ลบั มีด ขวาน ให้คมเสมอ 3. มดี ใช้แล้วเช็ดให้แห้ง หลอดน้ำมันเก็บเขา้ ท่ี 4. ขวานใชแ้ ล้วเชด็ ให้แห้ง ทามันมนั กนั สนิม ขวานใหญ่ควรลับเก็บไวก้ บั ขอนไม้ ใบการใช้มีดเหลาไมใ้ หเ้ ป็นสมอบก หรือทำเคร่ืองใช้อยา่ งอืน่ หรอื การใชล้ ิดก่ิงไม้ ผา่ ไม้ เพ่ือ เตรียมการก่อกองไฟ ลูกเสือตอ้ งมีความระมดั ระวังและเรียนรูก้ ารจับไม้ วางไม้ การจับถอื ขวานให้ถูกต้อง วิธกี ารใชม้ ีดหรือขวานให้ถกู วิธี
แผนการจดั กิจกรรมลกู เสอื สามัญ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 แผนการจดั ที่ 18 เรื่อง กจิ กรรมกลางแจ้ง (ต่อ) จำนวน 1 ชว่ั โมง จดุ ประสงค์ 1. ผูกเงือ่ นจากเชือกทม่ี ีขนาดเดียวกันและบอกประโยชนไ์ ดอ้ ยา่ งนอ้ ย 1 เง่อื น 2. ผกู เงอื่ นจากเชอื กทม่ี ีขนาดต่างกันและบอกประโยชน์ไดอ้ ย่างน้อย 1 เงอื่ น 3. ผูกเง่ือนด้วยเชอื กกบั วสั ดุอย่างใดอย่างหนง่ึ และบอกประโยชน์ได้อย่างนอ้ ย 1 เงอ่ื น เน้ือหา 1. การผูกเงื่อนโดยใช้เชือกท่ีมขี นาดเดียวกนั 2. การผกู เง่ือนโดยใชเ้ ชือกทม่ี ขี นาดต่างกัน 3. การผกู เงื่อนโดยใช้เชอื กกบั วัสดุอยา่ งใดอยา่ งหนึ่ง กจิ กรรมการเรยี นการสอน 1. พิธเี ปดิ ( ธงขนึ้ สวดมนต์ สงบนง่ิ ตรวจ แยก ) 10 นาที 2. เกม “ รถไฟดว่ น ” 5 นาที 3. สอนตามเนอ้ื หา 30 นาที 3.1 ลูกเสอื ชว่ ยกันอภิปรายถึงประโยชนข์ องเชือกในชีวิตประจำวัน 3.2 ผู้กำกับสรปุ การใชเ้ งอ่ื นดงั น้ี - การใช้เชอื กทีม่ ขี นาดเดยี วกนั - การใชเ้ ชอื กทีม่ ขี นาดตา่ งกนั 3.3 แบง่ หมู่ลูกเสือเรียนตามฐานต่าง ๆ ดังน้ี ฐานที่ 1 เงอ่ื นประมง เงอ่ื นผกู ร่น และเงื่อนผูกคนลาก ฐานที่ 2 เงอื่ นขัดสมาธิ และเง่ือนขัดสมาธิ 2 ชน้ั ฐานท่ี 3 เง่อื นผกู ซุง เงื่อนตะกรดุ เบ็ด และเงื่อนผกู รงั้ 3.4 ผกู้ ำกบั สรปุ การเรยี นจากฐานโดยใชเ้ กมทดสอบปดิ ตาผกู เง่อื น 4. เล่าเร่อื งสนั้ ทเ่ี ป็นคติ 5 นาที 5. พธิ ปี ดิ ( นัดหมาย ตรวจเครอ่ื งแต่งกาย ธงลง เลกิ ) 10 นาที สอ่ื การเรียนการสอน 1. เชอื ก การวดั ผลและประเมินผล 1. การสังเกต ความสนใจ 2. ทดสอบ บนั ทึกหลังกาสอน…………………………………………………………………………………..………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารสถานศกึ ษา………………………………………………………………………………………….……… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
การผูกเงอ่ื นโดยใชเ้ ชือกขนาดเดยี วกัน 1. เง่ือนประมง เปน็ เง่อื นท่ใี ช้สำหรบั ตอ่ เช่อื ทมี่ ีขนาดเดยี วกัน ซ่งึ เป็นท่ีรจู้ กั กนั อีกช่ือหน่ึงวา่ “เง่อื นหัวล้านชนกัน” นน่ั เอง ประโยชนข์ องเง่ือนประมง 1. ใชต้ อ่ เชื่อท่ีมขี นาดเดยี วกัน 2. ใช้ต่อเชอ่ื ที่มขี นาดเล็ก หรือใชต้ อ่ สายเอ็นตกปลาซึ่งชาวประมงนิยมใช้ทว่ั ไป 3. ใช้ตอ่ เชอื่ ท่ีมขี นาดใหญ่ เพ่ือใชล้ ากจงู เพราะสามารถรบั กำลงั ลากได้ดี 4. ใช้ผูกคอขวดเพ่ือเปน็ การถือห้ิว 5. ใชผ้ ูกสายไฟเพ่ือทำกบั ระเบดิ วธิ ผี ูกเง่อื นประมง ขนั้ ที่ 1 ให้ปลายเชอื กซ้อนกันดงั รูป ข้นั ที่ 2 ผูกปลายเชือก ก รอบตวั เชอื ก A ด้วยผกู ขัดช้นั เดยี วธรรมดา ขั้นท่ี 3 ผกู ปลายเชอื ก ข รอบตัวเชอื ก B ขั้นท่ี 4 ดงึ เสน้ เชือก A , B ให้ปมเงือ่ นเชอื กเขา้ ไปชนกัน 2. เงื่อนผกู รน่ เป็นเงือ่ นผกู เพ่ือทบเชอื กสว่ นทช่ี ำรดุ ประโยชน์
1. ใช้ผกู รน่ ทบเชอื กท่ชี ำรุดเล็กน้อย ซึ่งถา้ ใช้กำลังมาก ๆ อาจขาด เมือ่ ทบแล้วจะให้กำลังเทา่ เดิม 2. ใช้ทบเชือกทย่ี าวมาก ๆ ให้สน้ั ลงตามต้องการ วธิ ีการผกู เง่ือนผกู ร่น ขนั้ ท่ี 1 ทบเชือกดังรูป ขนั้ ท่ี 2 ทำส่วนปลายเชือกให้เป็นบ่วง ขั้นท่ี 3 ดงึ บ่วง ก และ ข เข้าไปในห่วง ดงึ A , B ให้ตงึ ขัน้ ที่ 4 ใช้ไมข้ ดั เสน้ เชือก A กบั บว่ ง ข , B กบั บว่ ง ก
3. เงอ่ื นผูกคนลาก ประโยชน์ 1. ทำบวงคล้องไหลเ่ มื่อต้องการลากของหนกั ๆ 2. ใชผ้ กู ลกู บันได วธิ กี ารผกู ขั้นท่ี 1 ใชส้ องมือจับตรงกลางเชอื กแลว้ พลิกมือขวาจนเกดิ บ่วง โดยเชือกมือซ้าย A อย่ดู า้ นบน ขั้นท่ี 2 จับเชอื กดา้ นซ้าย A ออ้ มดา้ นใต้ (ด้านหลัง) ของบ่วง ข้นั ท่ี 3 ดงึ ขอบบว่ งล่างลอดใต้เสน้ เชอื ก A
ขัน้ ท่ี 4 ดงึ บ่วงลา่ ง (จากข้ันท่ี 3) ขา้ มขอบบ่วงบน ดงึ และจัดเง่ือนให้เรยี บร้อย การผกู เง่ือนโดยใช้เชอื กตา่ งขนาดกัน 1. เงื่อนขดั สมาธิ เปน็ เงอ่ื นต่อเชอื กที่มีขนาดตา่ งกัน ประโยชน์ ใชต้ ่อเชื่อท่ีมีขนาดต่างกนั วธิ ีการผกู เงอื่ นขดั สมาธิ ขั้นท่ี 1 งอเชอื กเสน้ ใหญ่ให้เปน็ บ่วง สอดปลายเชือกเส้นเลก็ เข้าในบว่ งโดยสอดจากข้างล่าง ขน้ั ท่ี 2 ม้วนเชือกเส้นเลก็ ลงออ้ มด้านหลังเชอื กเส้นใหญ่ทั้งคู่ ข้ันท่ี 3 จบั ปลายเชือกเส้นเลก็ ข้นึ ไปลอดเส้นตัวเองเป็นการขดั ไว้ จัดเงอ่ื นใหแ้ นน่ และเรยี บรอ้ ย
2. เง่ือนขัดสมาธิ 2 ช้นั ใช้คลอ้ งผกู กบั สมอ ขอ หรือบ่วง ใชต้ ่อเชอื กท่มี ขี นาดต่างกันมาก หรอื ต่อเชือกเปียกนำ้ เชือกไนล่อน วธิ กี ารผกู การผูกเง่อื นโดยใชเ้ ชือกผกู วัสดุอ่นื 1. เงอ่ื นผูกซุง เงอื่ นผกู ซงุ เปน็ เงื่อนท่ใี ช้สำหรับผูกสงิ่ ของต่าง ๆ ให้แน่น เปน็ เงอื่ นทมี่ ีลักษณะพิเศษคือ ผกู ง่าย แกง้ า่ ย แตเ่ ปน็ เงื่อนที่ยิง่ ดงึ ย่ิงแน่น ยิ่งดึงแรงมากเทา่ ไรก็จะยง่ิ แนน่ มากเท่านนั้ ประโยชน์ของเง่ือนผกู ซุง 1. ใช้ผกู กับวตั ถทุ เ่ี ปน็ ท่อนยาว ๆ เช่น ทอ่ นซุง เสา เป็นตน้ 2. ใชผ้ กู สัตว์ เรอื หรอื แพ ไว้กบั หลัก 3. ใชผ้ ูกหินแทนสมอเรอื หรือผูกหินแทนสมอบกกไ็ ด้ 4. ใชเ้ ปน็ เงอ่ื นเรม่ิ ต้นในการผูกทแยง ขนั้ ตอนการผูกเงือนผกู ซุง ข้นั ท่ี 1 สอดเชอื กให้คล้องรอบตน้ ซุงหรือเสา ขน้ั ท่ี 2 งอปลายเชอื กคล้องตัวเชือก ขน้ั ท่ี 3 พนั ปลายเชือกรอบเส้นตัวเอง 3 - 5 รอบ ดงึ ตัวเชอื กใหเ้ งื่อนแน่น
2. เงื่อนตะกรุดเบ็ด เงอ่ื นตะกรดุ เบด็ นบั เป็นเงื่อนทส่ี ำคัญของวิชาลูกเสอื เพราะใชผ้ ูกเงื่อนอน่ื ๆ อีกหลาย เง่ือน เช่น เงอ่ื นผูกแนน่ เงื่อนประกบ เงอ่ื นกากบาท ประโยชนข์ องเง่ือนตะกรุดเบ็ด เปน็ เง่อื นทใี่ ชใ้ นงานต่าง ๆ มากมาย เชน่ ผูกสิ่งของตา่ ง ๆ ผูกเหล็ก ผกู ร้ัว ผูกตอม่อใน การสร้างสะพาน ผกู รอกแขวน ผูกสมอเรือ ผกู เบ็ด เปน็ ต้น วิธผี กู เงอ่ื นตะกรดุ เบด็ ข้ันท่ี 1 พนั เชือกให้เป็นบว่ งสลบั กัน ดงั รูป ขน้ั ที่ 2 เล่อื นบ่วงให้เข้าไปซ้อนจนทบั กนั เปน็ บ่วงเดียว ขน้ั ที่ 3 นำบ่วงจากข้นั ที่ 2 สวมลงในเสาแลว้ ดงึ ปลายเชอื กจดั เง่ือนใหแ้ น่น
3. เง่อื นผูกร้ัง ประโยชนข์ องเงื่อนผกู รั้ง ใชผ้ ูกเสาเต็นท์ ผูกสตั ว์ ผูกบ่วงต่าง ๆ สามารถเล่อื นเชือกให้ หย่อนและตึงได้ ผกู ห่วงต่าง ๆ เพราะเลอื่ นเชือกให้หยอ่ นหรอื ตงึ ได้ วิธกี ารผูกเงอ่ื นผกู รั้ง
แผนการจัดกิจกรรมลูกเสือสามญั ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 แผนการจัดที่ 19 เรื่อง กจิ กรรมกลางแจ้ง (ต่อ) จำนวน 1 ช่ัวโมง จดุ ประสงค์ 1. ผกู แน่นแบบตา่ ง ๆ ได้ถูกต้องและมั่นคง 2. บอกประโยชน์ของการผูกแนน่ แบบต่าง ๆ ได้ เน้ือหา - การผูกแน่น ผูกประกบ ผกู ทแยง ผูกกากบาท กิจกรรมการเรยี นการสอน 1. พิธีเปิด ( ธงขนึ้ สวดมนต์ สงบนิ่ง ตรวจ แยก ) 10 นาที 2. เกม “ ขน้ึ เขาลงหว้ ย ” 5 นาที 3. สอนตามเน้ือหา 30 นาที 3.1 ผู้กำกบั อภปิ รายถงึ ประโยชน์ของการใชเ้ ชือกในชีวิตประจำวัน 3.2 แบง่ หมู่ลกู เสือเรียนตามฐาน โดยผกู้ ำกบั อธิบายและสาธิต แล้วใหล้ กู เสอื ปฏบิ ัติ ดงั นี้ ฐานท่ี 1 การผกู ประกบและประโยชน์ ฐานท่ี 2 การผูกทแยงและประโยชน์ ฐานท่ี 3 การผูกกากบาทและประโยชน์ 3.3 เกมทดสอบ “การแขง่ ม้าโรมัน” 4. เล่าเรอื่ งสั้นท่ีเปน็ คติ 5 นาที 5. พธิ ีปิด ( นัดหมาย ตรวจเครื่องแต่งกาย ธงลง เลกิ ) 10 นาที สอื่ การเรียนการสอน 1. ไมพ้ ลอง เชอื ก 2. แผนภมู ิการผกู แนน่ แบบต่าง ๆ 3. แผนภูมิเพลง การวดั ผลและประเมินผล 1. การสงั เกต ความสนใจ 2. ซักถามและทดสอบ บนั ทึกหลังกาสอน…………………………………………………………………………………..………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารสถานศึกษา………………………………………………………………………………………….……… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
การผูกแนน่ การผูกแน่น เป็นการผกู วตั ถุใหต้ ิดแน่นเข้าดว้ ยกนั โดยใชเ้ ชอื กหรือวสั ดุอ่ืนหรอื วัสดุคลา้ ยเชือก ซง่ึ มี ประโยชนต์ อ่ ลูกเสอื เป็นอย่างมาก ในการเข้าคา่ ยพักแรมหรือการเดนิ ทางไกล เปน็ ตน้ การผูกแนน่ มี 3 คอื 1. ผกู ประกบ 2. ผูกทแยง 3. ผูกกากบาท 1. ผูกประกบ ประโยชน์ 1. ใช้ตอ่ ไม้หลาย ๆ ทอ่ นเขา้ ดว้ ยกันให้ยาว 2. ใชผ้ ูกตอ่ ไมใ้ นการก่อสร้าง 3. ใช้ผูกต่อพลองทำเสาธงลอย วิธกี ารผกู วิธที ่ี 1 ผกู ประกบ 2 ทอ่ น ขั้นที่ 1 เอาไมท้ จ่ี ะต่อมาวางซ้อนขนานกนั โดยให้ปลายทจ่ี ะต่อซ้อนกันราว 1 ใน 4 หรอื 1 ใน 5 ของความยาวของไม้ จากนนั้ เอาเชือกผกู เง่อื นตะกรดุ เบ็ดท่เี สาต้นใดต้นหน่ึง แลว้ บิดปลายเชือกเข้า กับตัวเชอื ก (แต่งงาน) ใชล้ ม่ิ ขนาดเท่าเส้นเชอื กยัดระหว่างเสา “ตามรูป” ใช้เชอื ก 2 เสน้ เวลาผกู จรงิ ผกู ทีละเสน้ ข้ันท่ี 2 พันเชอื กรอบไม้ทั้งสองอนั ใหเ้ ชอื กเรยี งกนั พันจำนวนรอบจนกวา้ งเทา่ กับความ กว้างของไมท้ ้ังสองอัน สอดเชือกเข้ากลางระหวา่ งไม้ทง้ั สอง ซงึ่ ยังหา่ งกันอย่เู พราะมีลิ่มยดั ไว้เพ่ือเตรยี มพัน หักคอไก่
ขั้นท่ี 3 หักคอไกโ่ ดยสอดเชือกในระหว่างไม้พนั รอบเชือกที่พันอยเู่ ดิม ดงึ ลิ่มออก รัด หกั คอไก่ให้แนน่ ข้ันที่ 4 ผูกปลายเชือกดว้ ยเงื่อนตะกรดุ เบ็ดทไี ม้คนละอนั กบั ทขี่ ึ้นตน้ วิธีท่ี 2 ผูกประกบ 3 ท่อน วธิ ีการผูก เร่ิมดว้ ยผูกตะกรุดเบ็ดทเ่ี สาต้นกลาง แตง่ งานเชอื กแลว้ พันรอบเสาทง้ั สามให้เชือกเรียงกนั จน กว้างเทา่ ความกวา้ งของเสาทั้งสามต้น หกั คอไกร่ ัดจนแน่น ลงทา้ ยด้วยผูกตะกรดุ เบด็ ท่เี สาต้นรมิ เปน็ อัน สำเรจ็
2. ผกู ทแยง ประโยชน์ 1. ใชผ้ ูกนั่งรา้ นในการกอ่ สรา้ ง 2. ผูกไม้ค้ำยนั เสาปอ้ งกนั เสาลม้ 3. ใชผ้ ูกตอม่อเสาสะพาน วธิ ีผกู ขน้ั ท่ี 1 ใช้ปลายเชือกด้านหนงึ่ คลอ้ งรอบไมเ้ สาท้ังสองต้น และผูกดว้ ยเงอื่ นผูกซงุ ขั้นท่ี 2 ดึงปลายเชือกลงทางขวา เพ่ือให้ เงือ่ นแน่น แลว้ พนั รอบเสาทั้งสอง 3 - 4 รอบ ขนั้ ที่ 3 พันทแยงรอบเสาทั้งคู่ 3 รอบ ขั้นที่ 4 หกั คอไก่ 2 - 3 รอบ ข้ันที่ 5 ลงดว้ ยเงอ่ื นตะกรุดเบ็ด
3. ผกู กากบาท แลว้ แตง่ งานปลายเชือกส่วนทเ่ี หลอื ให้เขา้ กนั ให้ ประโยชน์ 1. ใชผ้ กู นง่ั ร้านในการกอ่ สรา้ ง 2. ใชผ้ ูกตอม่อเสาสะพาน วิธกี ารผกู ขนั้ ที่ 1 ผกู เงื่อนตะกรุดเบ็ดทีห่ ลกั อันต้ัง (อันนอนกไ็ ด้) เรยี บร้อย ขน้ั ที่ 2 อ้อมเชอื กลอดใตไ้ ม้อันนอนทางดา้ นขวา ดงึ ใหต้ งึ มือพาดขา้ มอนั ตั้งดา้ นบน ลอดอันนอน ดา้ นซา้ ยข้นึ มาพาดขา้ มอันตง้ั ด้านล่าง ลอดอนั นอนดา้ นขวาเป็นอันครบรอบ พนั อยา่ งน้สี กั 3 – 4 รอบ ดึงให้ตงึ ทุก ๆ รอบ ขน้ั ท่ี 3 หักคอไก่ หักคอไก่ คือการพันรอบอ้อมเง่ือนในขน้ั ท่ี 2 เพอื่ รัดเชอื กใหต้ ึง จะได้ไม่รดู ลง
ขนั้ ท่ี 4 เม่ือหักคอไก่ได้ 2 - 3 รอบ และดงึ เชือกให้ตึงแลว้ ใหจ้ บลงด้วยเงื่อนตะกรดุ เบด็ ที่ไม้อันนอน ซ่ึงเป็นคนละอันกับอันข้ึน หมายเหตุ การผูกกากบาทมีลำดับข้ันการผกู ดงั น้ี 1. ขน้ึ ตน้ ดว้ ยเงอื่ นตะกรุดเบ็ดท่ีหลักต้นหน่งึ 2. แตง่ งานเชอื กกับปลายเชือก 3. พันเชือกอ้อมหลกั ทั้งสอง 4. คกั คอไก่เพ่ือรดั เชือกให้แน่น 5. ลงทา้ ยดว้ ยเงอ่ื นตะกรุดเบ็ดที่หลักคนละต้นกับข้อ 1
Search