Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 5 นวัตกรรมจากพระอัจฉริยภาพของในหลวง.

5 นวัตกรรมจากพระอัจฉริยภาพของในหลวง.

Published by Thaninda Rnuta, 2019-06-13 23:01:18

Description: 5 นวัตกรรมจากพระอัจฉริยภาพของในหลวง.

Search

Read the Text Version

5 นวตั กรรมจากพระอจั ฉริยภาพของ ในหลวงรัชกาลที่ 9

จดั ทำโดย ด.ญ.ธนิลดำ รุนทำ ม.2/2 เลขท่2ี 7 เสนอ นำงบุปผำ มหำศรำนนท์

5 นวตั กรรมจากพระอจั ฉริยภาพของใน หลวงรัชกาลที่ 9 – จำกกำรจดสิทธิบตั รส่ิงประดษิ ฐ์ “เคร่ืองกลเตมิ อำกำศท่ผี วิ น้ำหมุน ชำ้ แบบทุน่ ลอย” หรือ “กงั หนั น้ำชยั พฒั นำ” เม่ือปี 2536 นัน้ สง่ ผล ให้ “พระบำทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหำภูมิพลอดุลยเดช” ทรงเป็น กษตั ริยพ์ ระองคแ์ รกของโลกท่มี สี ิทธิบตั รส่ิงประดษิ ฐ์ – ดว้ ยกำรปฏิบตั พิ ระรำชกรณียกจิ อยำ่ งไมร่ ูจ้ กั เหน็ดเหน่ือยของ “พระบำทสมเดจ็ พระปรมินทรมหำภูมิพลอดุลยเดช” สง่ ผลใหอ้ งคก์ ร ระหวำ่ งประเทศตำ่ งๆไดท้ ูลเกลำ้ ฯถวำยรำงวลั เกยี รตยิ ศมำกถึง 32 รำงวลั และสถำบนั กำรศึกษำตำ่ งๆทว่ั โลกยงั ทูลเกลำ้ ฯถวำยปริญญำ ดุษฎบี ณั ฑติ กติ ตมิ ศกั ด์ิ รวมกวำ่ 21 ปริญญำบตั ร – ปัจจุบนั มโี ครงกำรอนั เน่ืองมำจำกพระรำชดำริของ “พระบำทสมเดจ็ พระปรมินทรมหำภูมพิ ลอดุลยเดช” กวำ่ 4,350 โครงกำรทว่ั ประเทศไทย – ดว้ ยพระอจั ฉริยภำพของพระองคจ์ ึงทำให้ “องคก์ ำรทรพั ยส์ ินทำง ปัญญำโลก” ไดท้ ูลเกลำ้ ฯถวำยรำงวลั “WIPO Global Leaders Award” หรือ “รำงวลั ผูน้ ำทรัพยส์ ินทำงปัญญำ โลก” ใหแ้ ดพ่ ระองค์

1.โครงการแกล้งดนิ โครงกำรแกลง้ ดนิ ” หรือ “โครงกำรปรับปรุงสภำพดนิ เปร้ียวเพ่ือให้ กลบั มำมสี ภำพเหมำะสมสำหรบั เพำะปลูก” เกดิ ข้ึนเม่ือครงั้ ท่ี พระองคเ์ สดจ็ ฯเย่ยี มรำษฎรในเขตจงั หวดั นรำธิวำสในปี พ.ศ. 2524 กอ่ นท่จี ะทรงพบปัญหำวำ่ ดินในพ้ืนท่พี รุท่มี กี ำรชกั น้ำออก เพ่ือเตรียมพรอ้ มในกำรเกษตรน้นั แปรสภำพกลำยเป็นดนิ เปร้ียวจดั จนไมส่ ำมำรถเพำะปลูกได้ พระองคจ์ ึงมพี ระรำชดำริใหส้ ว่ น รำชกำรเร่งหำแนวทำงในกำรปรบั ปรุงพ้ืนท่พี รุท่มี นี ้ำแชข่ งั ตลอดทง้ั ปีใหส้ ำมำรถเพำะปลูกได้ ดว้ ยกำรใชท้ ฤษฎี “แกลง้ ดิน” คือกำร แกลง้ ดนิ ใหเ้ ปร้ียวถึงขดี สุดดว้ ยวธิ กี ำรเลยี นแบบธรรมชำตทิ ่ที ำให้ ดนิ แหง้ และเปียกสลบั กนั ไปเพ่ือเร่งปฏิกริ ิยำทำงเคมขี องดนิ จำกนั้นจึงชำระลำ้ งบริเวณท่เี ปร้ียวออกเพ่ือปรบั ปรุงสภำพดนิ ให้ เหมำะสมแกก่ ำรปลูกพืชตอ่ ไป โดยโครงกำรน้ีไดร้ บั สิทธิบตั รกำร ประดษิ ฐใ์ นพระปรมำภไิ ธยเลขท่ี 22637

2.กงั หนั นา้ ชยั พฒั นา “กงั หนั น้ำชยั พฒั นำ” หรือ “เคร่ืองกลเตมิ อำกำศท่ผี วิ น้ำหมุนชำ้ แบบทุน่ ลอย” นัน้ เป็นนวตั กรรมท่ชี ว่ ยเตมิ อำกำศลงในระดบั ผวิ น้ำ เพ่ือบำบดั น้ำเสยี ใหก้ ลำยเป็นน้ำดี มหี ลกั กำรทำงำนดว้ ยกำรวิดน้ำ ข้ึนไปสำดกระจำยในอำกำศเพ่ือใหอ้ อกซเิ จนสำมำรถเขำ้ ไปผสม กบั น้ำไดอ้ ยำ่ งรวดเร็ว ทง้ั น้ีหำกน้ำมปี ริมำณออกซเิ จนท่มี ำกจะเป็น กำรชว่ ยทำใหจ้ ุลนิ ทรียส์ ำมำรถยอ่ ยสลำยส่ิงสกปรกในน้ำไดอ้ ยำ่ ง รวดเร็ว ถือเป็นกำรบำบดั น้ำเสยี ท่มี ตี น้ ทุนในกำรผลติ ต่ำ โดย “กงั หนั น้ำชยั พฒั นำ” ถือเป็นส่ิงประดษิ ฐเ์ คร่ืองกลเตมิ อำกำศ เคร่ืองท่ี 9 ของโลกท่ไี ดร้ บั กำรจดสิทธิบตั รเม่ือวนั ท่ี 2 ก.พ. 2536 สง่ ผลใหใ้ นหลวง รชั กำลท่ี 9 กลำยเป็นกษตั ริยพ์ ระองคแ์ รกในโลก ท่เี ป็นเจำ้ ของสิทธิบตั รส่ิงประดษิ ฐ์

3.นา้ มนั ปาล์มดีเซล  “น้ำมนั ปำลม์ ดเี ซล” หรือ “กำรใชน้ ้ำมนั กลน่ั บริสุทธ์ิเป็นน้ำมนั เช้ือเพลงิ สำหรบั เคร่ืองยนตด์ เี ซล” เป็นโครงกำรตำมแนวพระรำชดำริท่รี ิเร่ิมจำก กำรท่พี ระองคท์ รงหว่ งใยปัญหำกำรผลติ ปำลม์ ลน้ ตลำดของเกษตรกร อกี ทง้ั ขณะนั้นรำคำน้ำมนั ยงั คงพุง่ สูงข้ึนอยำ่ งไมห่ ยุดหยอ่ น จึงทรงพระ กรุณำโปรดเกลำ้ ฯใหส้ รำ้ งโรงงำนสกดั น้ำมนั ปำลม์ บริสุทธ์ิข้ึนท่จี งั หวดั นรำธิวำส รวมไปถึงมกี ำรวจิ ยั และพฒั นำกำรทดลองนำน้ำมนั ปำลม์ กลน่ั บริสุทธ์ิมำใชก้ บั เคร่ืองยนตด์ เี ซลท่กี องงำนสว่ นพระองค์ จนกำเนิดเป็น “ไบโอดเี ซลจำกน้ำมนั ปำลม์ ” หรือ “น้ำมนั ปำลม์ ดเี ซล” ท่เี ป็นกำรผสม น้ำมนั ดเี ซลและน้ำมนั ปำลม์ บริสุทธ์ิในสดั สว่ นไมเ่ กนิ รอ้ ยละ 10 ตอ่ ปริมำตร ซ่ึงยงั คงไวถ้ ึงคุณภำพเชน่ เดยี วกบั น้ำมนั ดเี ซลหมุนเร็วปกติ

4.ฝนหลวง “ฝนหลวง” หรือ “กำรดดั แปรสภำพอำกำศเพ่ือใหเ้ กดิ ฝน” มจี ุดริเร่ิม มำจำกปัญหำภยั แลง้ ของประเทศไทยในภำคตะวนั ออกเฉียงเหนือ ดว้ ยลกั ษณะของภูมอิ ำกำศและภูมปิ ระเทศท่ที ำใหฝ้ นไมต่ กแมจ้ ะมี เมฆมำกและเป็นฤดูฝน พระองคจ์ ึงทรงคดิ คน้ กำรทำ “ฝนเทยี ม” ดว้ ยกำรนำเทคโนโลยสี มยั ใหมม่ ำประยุกตใ์ หเ้ ขำ้ กบั ทรัพยำกรทำง ธรรมชำติ ดว้ ยกำรใชเ้ คร่ืองบนิ บรรจุสำรเคมขี ้ึนไปกอ่ กวนเมฆให้ รวมตวั กนั เป็นกลุม่ กอ้ นท่มี คี วำมหนำแน่นสูงจนตกลงมำเป็นฝนยงั เขตพ้ืนท่ที ่ตี อ้ งกำร ทงั้ น้ีทำงกำรไดก้ ำหนดใหว้ นั ท่ี 14 พฤศจกิ ำยนของทุกปีเป็นวนั “พระบดิ ำแหง่ ฝนหลวง” เพ่ือเฉลมิ พระเกยี รตขิ องพระองคท์ ่ที รง คดิ คน้ ฝนหลวงเพ่ือบรรเทำควำมทุกขย์ ำกของรำษฎร

5.ว้นุ ช่มุ ปาก “วุน้ ชุม่ ปำก” หรือ “น้ำลำยเทยี มชนิดเจลสำหรบั ผูท้ ่มี ภี ำวะปำกแหง้ น้ำลำยนอ้ ย” เป็นโครงกำรของ “มูลนิธิทนั ตนวตั กรรม ในพระบรม รำชูปถมั ภ์ หน่วยทนั ตกรรมพระรำชทำนในพระบำทสมเดจ็ พระ ปรมินทรมหำภูมิพลอดุลยเดช” ท่ไี ดว้ จิ ยั และพฒั นำผลติ ภณั ฑ์ นวตั กรรมน้ำลำยเทยี มชนิดเจล (Oral Moisturizing Jelly) ท่มี คี ุณสมบตั ใิ กลเ้ คยี งกบั น้ำลำยตำมธรรมชำตแิ ละปรับ สมดุลของส่ิงแวดลอ้ มในชอ่ งปำกโดยไมท่ ำลำยผวิ ฟนั




Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook