Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 21839

21839

Published by pim, 2019-08-21 02:17:18

Description: 21839

Search

Read the Text Version

- ๑๐๑ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า - สาธารณะเกิดขดั ขอ้ งหรือไม่สะดวก ต้องระวางโทษปรับไมเ่ กินหา้ พันบาท สาํ นกั งานคณะกรรมการ[กอฤัตษรฎาีกโทา ษ แก้ไขเพ่ิมสเําตนิมักโงดานยคมณาตะกรราร๖มกแารหก่งฤพษรฎะกี ราาชบัญญัติแกส้ไําขนเพักงิ่มาเนตคิมณปะรกะรมรมวกลารกฤษฎกี า กฎหมายอาญา (ฉบับท่ี ๒๒) พ.ศ. ๒๕๕๘] สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๓๗๖ ผู้ใดยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้านหรือท่ีชุมนุมชน สาํ นกั ตง้อานงรคะณวะากงรโรทมษกจาํารกคฤุกษไมฎ่เกี กานิ สิบวัน หรอื สปํารนับักไงมาน่เกคนิ ณหะ้ากพรรันมบกาาทรกหฤรษือฎทกี ั้งาจําทงั้ ปรบั สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า กฎหมายอาญา (ฉส[อบาํ นัตับกัรทงา่ีาโ๒นท๒คษณ) แพะกก.ศร้ไร.ขม๒เกพ๕าิ่มร๕เกต๘ฤิม]ษโฎดกี ยามาตรา ๖ แหส่ํางนพักรงะารนาคชณบะัญกรญรมัตกิแากร้ไกขฤเษพฎ่ิมกี เาติมประมวล สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๓๗๗ ผู้ใดควบคุมสัตว์ดุหรือสัตว์ร้าย ปล่อยปละละเลยให้สัตว์นั้นเที่ยวไป โดยลาํ พัง ในประสกําานรกั ทงี่อานาจคทณําะอกัรนรตมรกาายรแกกฤษ่บฎุคีกคาลหรือทรัพย์ สตํา้อนงักรงะาวนาคงณโทะษกจรรํามคกุกาไรมก่เฤกษินฎหกี นาึ่งเดือน หรือ ปรับไม่เกนิ หน่งึ หม่นื บาท หรือทัง้ จาํ ทัง้ ปรับ สํานักงานคณะกรรมการ[กอฤัตษรฎากีโทา ษ แก้ไขเพิ่มสเําตนิมักโงดานยคมณาตะกรราร๖มกแารหก่งฤพษรฎะีกราาชบัญญัติแกส้ไาํขนเพักงิ่มาเนตคิมณปะรกะรมรมวกลารกฤษฎีกา กฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ. ๒๕๕๘] สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๓๗๘ ผู้ใดเสพย์สุราหรือของเมาอย่างอ่ืน จนเป็นเหตุให้ตนเมา ประพฤติ สาํ นักวงุ่นานวคายณหะกรรือรคมรกอารงกสฤตษิไฎมีก่ไดา้ขณะอยู่ในถสนํานนกัสงาาธนาครณณะะกรหรมรือกาสรากธฤาษรฎณีกสาถาน ต้องระสวําานงักโทงาษนปคณรับะกไมรร่เกมกินารกฤษฎกี า ห้าพนั บาท สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า [อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวล สํานักกงฎานหคมณายะกอรารญมากา(รฉกบฤับษทฎี่กี ๒า๒) พ.ศ. ๒๕๕สํา๘น]กั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สมําานตกั รงาาน๓ค๗ณ๙ะกรผรู้ใมดกชาัรกกหฤรษือฎแีกสาดงอาวุธในกาสรํานวิักวางาทนตค่อณสะู้ กตร้อรงมรกะารวกาฤงโษทฎษีกจาําคุกไม่เกิน สิบวนั หรอื ปรบั ไม่เกินห้าพนั บาท หรอื ทัง้ จําท้ังปรบั สาํ นักงานคณะกรรมการ[กอฤัตษรฎากีโทา ษ แก้ไขเพิ่มสเําตนิมกั โงดานยคมณาตะกรราร๖มกแารหก่งฤพษรฎะีกราาชบัญญัติแกส้ไําขนเพักงิ่มาเนตคิมณปะรกะรมรมวกลารกฤษฎกี า กฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ. ๒๕๕๘] สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๓๘๐ ผู้ใดทําให้เกิดปฏิกูลแก่น้ําในบ่อ สระ หรือท่ีขังนํ้าอันมีไว้สําหรับ สาํ นักปงรานะชคาณชะนกใรชรส้มอกยารตกฤอ้ ษงรฎะีกวาางโทษจําคุกไสมํา่เนกักินงหานนคึง่ เณดะือกนรรหมรกือาปรกรบัฤษไมฎ่เกีกาินหนง่ึ หม่ืนบาสทาํ นหักรงอื าทนัง้คจณําะทกั้งรปรรมับการกฤษฎกี า ส[อํานัตกัรงาาโนทคษณแะกกร้ไรขมเกพาิ่มรเกตฤิมษโฎดกี ยามาตรา ๖ แหส่ํางนพักรงะารนาคชณบะัญกรญรมัตกิแากร้ไกขฤเษพฎิ่มกี เาติมประมวล กฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ. ๒๕๕๘] สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๓๘๑ ผู้ใดกระทาํ การทารุณต่อสัตว์ หรือฆ่าสัตว์โดยให้ได้รับทุกขเวทนาอัน ไมจ่ าํ เป็น ต้องระวสาาํ งนโกัทงษานจคําคณกุ ะไกมรเ่รกมนิ กหารนกง่ึ ฤเดษอืฎนีกาหรือปรบั ไม่เกสินํานหักนงึ่งาหนมคืน่ณบะากทรรมหกราือรทก้ังฤจษําฎทกี งั้ าปรับ [อัตราโทษ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยมาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวล สาํ นักกงฎานหคมณายะกอรารญมากา(รฉกบฤับษทฎ่ีีก๒า๒) พ.ศ. ๒๕๕สํา๘น]ักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สมาํ านตกั รงาาน๓ค๘ณ๒ะกรรผมู้ใกดาใรชก้ใฤหษ้สฎัตีกวา์ทํางานจนเกสินํานสักมงคานวครณหระกือรใรชม้ใกหา้ทรกําฤงษานฎีกอาันไม่สมควร สํานักเงพารนาคะณเหะกตรุทร่ีสมัตกาวร์นกั้นฤปษฎ่วยกี เาจ็บ ชราหรือสอํา่อนนกั องาานยคุ ตณ้อะงกรระรวมากงาโรทกษฤจษําฎคกี ุกาไม่เกินหน่ึงเดสือาํ นนักหงารนือคปณรับะกไรมร่เมกกินารกฤษฎกี า

- ๑๐๒ สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า - หนงึ่ หม่ืนบาท หรือท้งั จําทง้ั ปรบั สํานกั งานคณะกรรมการ[กอฤัตษรฎาีกโทา ษ แก้ไขเพิ่มสเําตนิมกั โงดานยคมณาตะกรราร๖มกแารหก่งฤพษรฎะีกราาชบัญญัติแกส้ไาํขนเพักง่ิมาเนตคิมณปะรกะรมรมวกลารกฤษฎกี า กฎหมายอาญา (ฉบบั ท่ี ๒๒) พ.ศ. ๒๕๕๘] สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๓๘๓ ผู้ใดเมื่อเกิดเพลิงไหม้หรือสาธารณภัยอื่น และเจ้าพนักงานเรียกให้ สาํ นกั ชง่วานยคระณงะับกรถรม้าผกาู้นรั้นกฤสษามฎีการาถช่วยได้แต่ไสมํา่ชน่วักยงานตค้อณงระะกรวรามงกโทารษกจฤําษคฎุกีกไาม่เกินหนึ่งเดือสาํนนักหงราือนปคณรับะกไมรร่เมกกินารกฤษฎกี า หน่ึงหมืน่ บาท หรส[ืออําทนัต้ังกัรจงาาาํโนททค้ังษณปแระกบักร้ไรขมเกพา่ิมรเกตฤิมษโฎดีกยามาตรา ๖ แหส่ํางนพกั รงะารนาคชณบะัญกรญรมัตกิแากร้ไกขฤเษพฎ่ิมกี เาติมประมวล สาํ นักกงฎานหคมณาะยกอรารญมากา(รฉกบฤับษทฎ่ีกี ๒า๒) พ.ศ. ๒๕๕สํา๘น]กั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สมาํานตักรงาาน๓ค๘ณ๔ะกผรรใู้ ดมแกการลก้งฤบษอฎกีกเลา ่าความเท็จใหสํา้เลน่ือกั งงลานือคจณนะเปกร็นรเมหกตาุใรหก้ปฤรษะฎชกี าาชนต่ืนตกใจ ตอ้ งระวางโทษจําคกุ ไมเ่ กนิ หนงึ่ เดอื น หรอื ปรบั ไมเ่ กนิ หนง่ึ หมื่นบาท หรือทง้ั จําทง้ั ปรบั สาํ นกั งานคณะกรรมการ[กอฤัตษรฎากีโทา ษ แก้ไขเพิ่มสเําตนิมกั โงดานยคมณาตะกรราร๖มกแารหก่งฤพษรฎะีกราาชบัญญัติแกส้ไําขนเพักง่ิมาเนตคิมณปะรกะรมรมวกลารกฤษฎีกา กฎหมายอาญา (ฉบับท่ี ๒๒) พ.ศ. ๒๕๕๘] สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๓๘๕ ผู้ใดโดยไม่ได้รับอนุญาตอันชอบด้วยกฎหมายกีดขวางทางสาธารณะ สํานักจงนานอคาณจเะปก็รนรอมุปกสารรกรฤคษตฎ่อีกคาวามปลอดภสัยําหนรกั ืองาคนวคาณมะสกะรดรวมกกาใรนกกฤาษรฎจีกราาจร โดยวาง สหาํ นรือักงทาอนดคทณิ้งะสก่ิรงรขมอกงารกฤษฎีกา หรือโดยกระทําดส้วํายนปกั รงะากนาครณอะ่ืนกใรดรมถก้าากรกาฤรกษรฎะีกทาํานั้นเป็นการสกํารนะักทงาํานโดคณยไะมก่จรํรามเปก็นารกตฤ้อษงรฎะกี วาางโทษปรับ ไม่เกินห้าพนั บาท สํานกั งานคณะกรรมการ[กอฤัตษรฎาีกโทา ษ แก้ไขเพ่ิมสเําตนิมักโงดานยคมณาตะกรราร๖มกแารหก่งฤพษรฎะกี ราาชบัญญัติแกส้ไาํขนเพักง่ิมาเนตคิมณปะรกะรมรมวกลารกฤษฎกี า กฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ. ๒๕๕๘] สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๓๘๖ ผู้ใดขุดหลุมหรือราง หรือปลูกปักหรือวางสิ่งของเกะกะไว้ในทาง สาํ นักสงาานธาครณณะกะรรโดมยกาไรมก่ไฤดษ้รฎับีกอานุญาตอันชอสบําดน้วักยงากนฎคหณมะากยรรหมรกือารทกําฤไษดฎ้โกีดายชอบด้วยกฎสหํามนัากยงานแคตณ่ละะกเลรรยมไกมา่ รกฤษฎกี า แสดงสัญญาณตามสมควร เพื่อปอ้ งกันอุปทั วเหตุ ต้องระวางโทษปรบั ไม่เกินห้าพนั บาท ส[อาํ นัตกัรงาาโนทคษณแะกกร้ไรขมเกพาิ่มรเกตฤิมษโฎดีกยามาตรา ๖ แหส่ํางนพกั รงะารนาคชณบะัญกรญรมัตกิแากร้ไกขฤเษพฎิ่มีกเาติมประมวล กฎหมายอาญา (ฉบบั ท่ี ๒๒) พ.ศ. ๒๕๕๘] สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สมําานตกั รงาาน๓ค๘ณ๗ะกรผรู้ใมดกแาขรกวฤนษตฎิดกี ตา้ังหรือวางส่ิงสใดํานไวกั ้โงดานยคปณระะกกรารรมทกี่นา่ารกจฤะษตฎกีกหารือพังลง ซ่ึง จะเป็นเหตุอนั ตราย เปรอะเปื้อนหรือเดอื ดร้อนแก่ผู้สญั จรในทางสาธารณะ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน สาํ นกั หงา้านพคันณบะากทรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า [อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวล กฎหมายอาญา (ฉสบํานบั ักทงี่า๒น๒คณ) พะก.ศรร.ม๒ก๕าร๕ก๘ฤ]ษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการมกาฤตษรฎาีกา๓๘๘ ผู้ใดกสรําะนทักํางากนาครณอะันกครวรมรขกาารยกหฤนษ้ฎาตกี ่าอหน้าธารกํานสําัลนักโดงายนเคปณละือกยรหรมรกือารกฤษฎกี า เปิดเผยร่างกาย หรือกระทาํ การลามกอยา่ งอน่ื ตอ้ งระวางโทษปรับไมเ่ กนิ หา้ พนั บาท ส[อํานัตักรงาาโนทคษณแะกกร้ไรขมเกพาิ่มรเกตฤิมษโฎดีกยามาตรา ๖ แหส่ํางนพกั รงะารนาคชณบะัญกรญรมัตกิแากร้ไกขฤเษพฎิ่มีกเาติมประมวล สาํ นกั กงฎานหคมณายะกอรารญมากา(รฉกบฤับษทฎี่ีก๒า๒) พ.ศ. ๒๕๕สํา๘น]ักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

- ๑๐๓ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา - สาํ นักงานคณะกรรมการมกาฤตษรฎาีกา๓๘๙ ผใู้ ดกรสะําทนาํ กั ดง้วานยคปณระะกกรารรมใดกาๆรกใฤหษ้ขฎอีกงาแขง็ ตกลง ณ สทําี่ในดักงๆานโดคณยปะกรระรกมากรารกฤษฎีกา ท่ีน่าจะเป็นอันตรายหรือเดือดร้อนรําคาญแก่บุคคล หรือเป็นอันตรายแก่ทรัพย์ หรือกระทําด้วย ประการใด ๆ ใหข้สอํานงโักสงโาคนรคกณเะปกรรอระมเกปาื้อรกนฤหษรฎือกีนา่าจะเปรอะเปสื้อํานนกั ตงัวาบนคุคณคละกหรรรมือกทารรัพกฤยษ์ หฎรกี ือาแกล้งทําให้ ของโสโครกเปน็ ท่ีเดือดร้อนราํ คาญ ต้องระวางโทษจําคกุ ไม่เกนิ หน่งึ เดือน หรือปรับไม่เกินหน่ึงหมื่นบาท สาํ นักหงรานอื คทณง้ั จะํากทรร้ังมปกราับรกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า กฎหมายอาญา (ฉส[อบาํ นัตับกัรทงา่ีาโ๒นท๒คษณ) แพะกก.ศร้ไร.ขม๒เกพ๕า่ิมร๕เกต๘ฤิม]ษโฎดกี ยามาตรา ๖ แหส่ํางนพกั รงะารนาคชณบะัญกรญรมัตกิแากร้ไกขฤเษพฎ่ิมีกเาติมประมวล สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๓๙๐ ผู้ใดกระทําโดยประมาท และการกระทําน้ันเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับ อันตรายแก่กายหสรําือนจกั ิตงาในจคตณ้อะงกรระรมวากงาโรทกฤษษจฎาํ คีกาุกไม่เกินหนึ่งเสดําือนนกั งหานรคือณปะรกับรไรมม่เกกาินรหกฤนษึ่งฎหีกมาื่นบาท หรือ ท้ังจําท้งั ปรบั สาํ นกั งานคณะกรรมการ[กอฤัตษรฎาีกโทา ษ แก้ไขเพิ่มสเําตนิมักโงดานยคมณาตะกรราร๖มกแารหก่งฤพษรฎะีกราาชบัญญัติแกส้ไาํขนเพักงิ่มาเนตคิมณปะรกะรมรมวกลารกฤษฎกี า กฎหมายอาญา (ฉบบั ท่ี ๒๒) พ.ศ. ๒๕๕๘] สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๓๙๑ ผู้ใดใช้กําลังทําร้ายผู้อื่น โดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย สาํ นกั หงรานือคจณิตใะจกรตร้อมงกราะรวกาฤงษโทฎีกษาจาํ คุกไมเ่ กินหสนํา่งึนเกัดงอื านนคหณระอื กปรรรับมไกมาเ่รกกนิ ฤหษนฎึง่กี หาม่ืนบาท หรือสทาํ งั้นจักาํ งทานง้ั ปคณรับะกรรมการกฤษฎกี า ส[อาํ นัตกัรงาาโนทคษณแะกกร้ไรขมเกพา่ิมรเกตฤิมษโฎดกี ยามาตรา ๖ แหส่ํางนพกั รงะารนาคชณบะัญกรญรมัตกิแากร้ไกขฤเษพฎ่ิมีกเาติมประมวล กฎหมายอาญา (ฉบบั ท่ี ๒๒) พ.ศ. ๒๕๕๘] สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๓๙๒ ผู้ใดทําให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ ต้องระวาง โทษจําคกุ ไม่เกนิ หสนํานึง่ เกั ดงอื านนคหณระอื กปรรรับมกไมารเ่ กกนิฤษหฎนีกงึ่ หา มนื่ บาท หรอื สทําน้ังกัจงําาทน้งั คปณระบั กรรมการกฤษฎีกา [อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวล สํานกั กงฎานหคมณายะกอรารญมากา(รฉกบฤับษทฎี่กี ๒า๒) พ.ศ. ๒๕๕สํา๘น]กั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สมําานตกั รงาาน๓ค๙ณ๓ะก๑๔ร๒รมกผาู้ใรดกดฤูหษมฎิ่นีกผา ู้อื่นซึ่งหน้าหสรําือนดกั ้วงยานกคาณรโะฆกษรรณมากาตรก้อฤงษระฎวีกาางโทษจําคุก ไม่เกนิ หนงึ่ เดือน หรือปรับไมเ่ กนิ หนง่ึ หมน่ื บาท หรอื ทงั้ จาํ ทงั้ ปรับ สาํ นักงานคณะกรรมการ[กอฤัตษรฎากีโทา ษ แก้ไขเพ่ิมสเําตนิมกั โงดานยคมณาตะกรราร๖มกแารหก่งฤพษรฎะีกราาชบัญญัติแกส้ไําขนเพักงิ่มาเนตคิมณปะรกะรมรมวกลารกฤษฎกี า กฎหมายอาญา (ฉสบํานบั กั ทง่ีา๒น๒คณ) ะพก.ศรร.ม๒ก๕าร๕ก๘ฤ]ษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นกั งานคณะกรรมการมกาฤตษรฎากี า๓๙๔ ผู้ใดไลส่ ําตน้อักนงาหนครือณทะกําใรหรม้สกัตาวร์ใกดฤษๆฎเีกขา้าในสวน ไร่ หสรํานือักนงาาขนอคงณผะู้อก่ืนรรทม่ีไกดา้ รกฤษฎีกา แตง่ ดินไว้ เพาะพันธ์ุไว้ หรอื มพี ชื พนั ธห์ุ รือผลิตผลอยู่ ต้องระวางโทษจําคกุ ไม่เกินหนงึ่ เดือน หรือปรับไม่ เกินหนง่ึ หมน่ื บาทสหาํ นรกั อื งทาน้งั จคาํณทะง้ักปรรรมับการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา [อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวล สํานักกงฎานหคมณาะยกอรารญมากา(รฉกบฤับษทฎี่กี ๒า๒) พ.ศ. ๒๕๕สํา๘น]ักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๑๔๒ มาตรา ๓๙๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดยคําส่ังของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๔๑ ลงวันที่ สํานกั ๒ง๑านตคุลณาคะกมร๒รม๕ก๑า๙รกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

- ๑๐๔ สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา - มาตรา ๓๙๕ ผู้ใดควบคุมสัตว์ใด ๆ ปล่อยปละละเลยให้สัตว์น้ันเข้าในสวน ไร่หรือนา สาํ นกั ขงอานงผค้อูณนื่ ะทกร่ไี ดรม้แกตาง่ รดกินฤไษวฎ้ เกีพาาะพันธไ์ุ ว้ หรสือํามนพี กั ชืงาพนนั คธณ์ุหะรกือรผรมลกติ าผรลกอฤยษู่ ฎตีก้อางระวางโทษปรสับํานไมักเ่งกาินนหคณา้ พะกนั รบรามทการกฤษฎกี า [อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวล กฎหมายอาญา (ฉสบํานบั กั ทง่ีา๒น๒คณ) พะก.ศรร.ม๒ก๕าร๕ก๘ฤ]ษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการมกาฤตษรฎาีกา๓๙๖ ผู้ใดทิ้งสซํานากกั งสาัตนวค์ซณึ่งะอการจรเมนก่าาเรหกมฤ็นษฎใกีนาหรือริมทางสาสธํานารักณงาะนคตณ้อะงกรระรวมากงารกฤษฎกี า โทษปรับไมเ่ กนิ หสา้[อพํานัตนั ักรบงาาาโนททคษณแะกกร้ไรขมเกพา่ิมรเกตฤิมษโฎดีกยามาตรา ๖ แหส่ํางนพักรงะารนาคชณบะัญกรญรมัตกิแากร้ไกขฤเษพฎิ่มกี เาติมประมวล สาํ นกั กงฎานหคมณาะยกอรารญมากา(รฉกบฤับษทฎี่ีก๒า๒) พ.ศ. ๒๕๕สํา๘น]ักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สมําานตักรงาาน๓ค๙ณ๗ะก๑ร๔ร๓มกผาู้ใรดกกฤษระฎทีกาําด้วยประกาสรใําดนกั ๆงานตค่อณผู้ะอกื่นรรอมันกเาปรก็นฤกษาฎรีกราังแก ข่มเหง คกุ คาม หรอื กระทาํ ให้ได้รับความอบั อายหรือเดือดร้อนราํ คาญ ต้องระวางโทษปรบั ไมเ่ กินห้าพันบาท สํานักงานคณะกรรมการกถฤ้าษกฎารกี การะทําความผสิดําตนากั มงาวนรครณคหะกนร่ึงรเมปก็นากรกาฤรษกฎระีกทา ําในที่สาธารณสําสนถักางานนหครณือะตก่อรหรมนก้าารกฤษฎกี า ธารกาํ นลั หรือเป็นการกระทําอันมีลักษณะส่อไปในทางที่จะล่วงเกินทางเพศ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน หน่ึงเดือนหรือปรสับําไนมักเ่ งกานิ นหคนณ่งึ ะหกมรรน่ื มบกาาทรกหฤษรอืฎทีกาัง้ จําทั้งปรบั สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ถ้าการกระทาํ ความผิดตามวรรคสองเปน็ การกระทําโดยอาศัยเหตุท่ีผู้กระทํามีอํานาจ สํานกั เงหานนือคผณู้ถะกูกกรรรมะกทาาํ รอกันฤษเนฎือ่ ีกงาจากความสมั สพํานั นธัก์ใงนานฐาคนณะะทกร่ีเปรม็นกผาู้บรกังคฤัษบฎบกีัญาชา นายจ้าง หสาํรนือักผงู้มานีอคํานณาะจกเรหรมนกือารกฤษฎกี า ประการอน่ื ต้องรสะําวนาักงงโาทนษคจณําะคกุกรรไมม่เกกาินรกหฤนษ่งึ ฎเดีกือาน และปรบั ไสมําเ่ นกกัินงหานนคงึ่ หณมะก่ืนรบรามทการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการมกาฤตษรฎากี า๓๙๘๑๔๔ ผู้ใสดํากนรักะงทานําคดณ้วยะกปรรระมกกาารรกใดฤษๆฎกี อาันเป็นการทารสุณํานตัก่องาเนดค็กณอาะกยรุยรังมไกมา่ รกฤษฎีกา เกนิ สิบห้าปี คนป่วยเจบ็ หรอื คนชรา ซงึ่ ต้องพงึ่ ผู้นนั้ ในการดํารงชีพหรือการอ่ืนใด ต้องระวางโทษจําคุก ไม่เกินหนึ่งเดอื น หสํารนือกัปงราบันไคมณ่เกะกนิ รหรนมึง่กหารมกน่ื ฤบษาฎทีกาหรอื ทั้งจาํ ท้ังปสรํานบั กั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา [อัตราโทษ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยมาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวล สาํ นกั กงฎานหคมณาะยกอรารญมากา(รฉกบฤับษทฎ่ีกี ๒า๒) พ.ศ. ๒๕๕สํา๘น]ักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๑๔๓ มาตรา ๓๙๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับ ที่ ๒๒) พ.ศ. ๒๕๕๘สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๑๔๔ มาตรา ๓๙๘ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับ สํานักทงี่ า๘น)คพณ.ศะ.ก๒รร๕ม๓ก๐ารกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า

- ๑๐๕ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า - พระราชบัญญัตแิ ก้ไขเพิ่มเตมิ ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. ๒๕๐๒๑๔๕ สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๒ พระราชบัญญัติน้ีให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา นุเบกษาเป็นตน้ ไปสาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นกั หงามนาคยณเหะกตรุ ร:ม- กเาหรตกุผฤษลฎในกี าการประกาศสใําชน้พกั รงาะนรคาณชะบกัญรรญมักตาิฉรบกฤับษนฎ้ี กีคาือ โดยท่ีการกสาํรนะักทงําานคควณามะกผริดรมตก่อารกฤษฎกี า แตลําแะหปนระง่ หชนาชา้ นที่รโาทสชําษกนสากั รํางแหานลรคะับคณกวาะากรมรกรผรมดิะกตทา่อํารตคกฤําวแษามหฎผนกี ิาดง่ หเหนลา้ ่าทนี่ใ้ีนตกาามรสทยํา่ีบตุนธิัญักรงญารนมัตคิไยณว่อ้ใะนมกกสรรง่ฎมผหกลมาเรสากยยี ฤปหษัจาฎยจีกรุบา้าันยยแังรมงีอแกัตร่รฐัา สาํ นักตงํ่าานกควณ่าคะกวรรรมสกมารคกวฤรษแฎกกี ้ไาขเพ่ิมเติมใหส้สําูงนขกั ึ้นงาแนลคะณกะํากหรรนมดกโาทรกษฤขษั้นฎกีตา่ําไว้ด้วย ท้ังสนาํ ี้ นเักพง่ือานปค้อณงกะกันรแรมลกะารกฤษฎกี า ปราบปรามการกระทําความผดิ ดังกล่าวนใี้ หไ้ ดผ้ ลดีย่งิ ขึ้นต่อไป สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า พระราชบญั ญตั ิแก้ไขเพ่มิ เตมิ ประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๑๒๑๔๖ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๒ พระราชบัญญัติน้ีให้ใช้บังคับต้ังแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา นเุ บกษาเปน็ ต้นไปสาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นกั หงมานาคยณเหะตกรุ :ร-มเกหาตรกุผฤลษใฎนกีกาารประกาศใชส้พํานรกั ะงราานชคบณัญะกญรรัตมิฉกบาับรกนฤี้ ษคฎือีกเานื่องจากปราสกาํฏนวัก่างขานณคะณนะ้ีมกีผรรู้รม้ากยารกฤษฎกี า ลอบลักเอาพระสพํานุทกั ธงราูนปคอณันะลกํ้ารรคม่ากซา่ึงรกเปฤษ็นฎทีก่ีเาคารพบูชาขสอํางนพักุทงาธนศคาณสะกนริกรชมกนาแรกลฤะษมฎีคีกุณา ค่าในทาง ประวัติศาสตร์ ตามวัดวาอารามและพิพิธภัณฑสถานไปเป็นจํานวนมาก บางแห่งเป็นพระพุทธรูป สํานักคงู่บาน้าคนณคะู่เมกรือรงมขกอางรแกฤตษ่ลฎะีกจาังหวัดซึ่งทําใหส้ปํานรกัะงชาานชคนณใะนกถร่ิรนมนกั้นารเศกรฤ้าษสฎลีกดาใจในต่อการขสําานดักวงัตาถนุซคณึ่งเะปก็นรสรม่ิงกทาี่ รกฤษฎกี า เคารพบูชาในทางพุทธศาสนาไปอย่างมาก ยิ่งกว่านั้นบางแห่งการลอบลักพระพุทธรูปน้ันได้กระทํา การแสดงถึงความสโาํ หนดักงรา้านยคทณาะรกุณรไรรม้ศกีลารธกรฤรษมฎอกียา่างหนัก เช่น ตสัดํานเอักางเาศนียครณพะรกะรรพมุทกธารรูปกฤไปษคฎงกี เาหลือแต่องค์ พระ นับว่าเป็นการเสื่อมเสียแก่ชาติบ้านเมืองและเป็นผลเสียหายแก่พุทธศาสนาโดยไม่นึกถึงศาสน สาํ นกั สงมานบคตั ณิขะอกงรชรามตกิ าบรุคกคฤษลฎปีกราะเภทน้ีสมควรสจํานะกัไดงา้รนับคโณทษะกหรนรมักกกาวร่ากกฤาษรฎกีกราะทําต่อทรัพยส์สําินนธักรงรามนดคณาขะอกงรสรม่วกนารกฤษฎกี า บุคคล รวมท้ังผู้รับของโจร และผู้ส่งออกต่างประเทศด้วย จะอาศัยความผิดตามประมวลกฎหมาย อาญาเดิมโทษก็เสบาํ านมักางากนคไมณ่เะปก็นรรกมากราปร้กอฤงษกฎันีกไดา ้เพียงพอ โดสยําเนหักตงุนาน้ีจคึงณเปะก็นรกรามรกสารมกคฤวษรฎแกี กา้ไขประมวล กฎหมายอาญาเก่ียวกับเร่ืองนี้ให้เหมาะสมย่ิงข้ึน เพ่ือป้องกันและรักษาไว้ซึ่งทรัพย์อันล้ําค่าของชาตินี้ สาํ นักมงใิาหนม้คีกณาะรกลรอรมบกลาักรเกอฤาษไฎปีกตา่างประเทศเสยีสําหนมกั ดงกานอ่ คนณทะจ่ี กะรสรามยกเากรนิกฤไปษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พฤศจิกายนสํา๒นกั๕ง๑าน๔ค๑ณ๔ะ๗กรรมการกฤษฎีกา ประกาศของคณะปฏวิ ัติ ฉบบั ท่ี ๑๑ ลงวันที่ ๒๑ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ข้อ ๑๖ ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับน้ีให้ใช้บังคับต้ังแต่วันถัดจากวันประกาศใน ราชกิจจานเุ บกษาสเาํ ปน็นกั ตงา้นนไคปณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นกั โงดายนทคี่คณณะกะรปรมฏกิวาัตริมกีฤคษวฎามีกปา รารถนาจะใสหํา้ปนักระงาชนาคชณนะไกดร้รรับมคกวารากมฤสษงฎบกี สาุขและปลอดภสัยาํ นจักางกาอนาคชณญะากกรรรมรกมารกฤษฎกี า ส๑าํ๔น๕กั รงาาชนกคิจณจาะนกุเรบรกมษกาารเลก่มฤษ๗ฎ๖กี/ตาอนท่ี ๗๓/หนา้ ส๒ําน๔ัก๒ง/า๒น๑คณกระกกฎรราคมมกา๒ร๕กฤ๐ษ๒ฎีกา ๑๔๖ ราชกจิ จานเุ บกษา เล่ม ๘๖/ตอนที่ ๑๑๓/หนา้ ๑๐๑๓/๑๖ ธนั วาคม ๒๕๑๒ สาํ นกั งานคณะกรรมการก๑๔ฤ๗ษรฎาีกชากิจจานเุ บกษา เสลําม่ น๘ักง๘า/นตคอณนทะกี่ ๑ร๒รม๗ก/ฉารบกบั ฤพษเิ ศฎษีกาหนา้ ๑/๒๑ พฤสศําจนิกักางยานนค๒ณ๕๑ะก๔รรมการกฤษฎีกา

- ๑๐๖ สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา - ในการนี้คณะปฏิวัติเห็นว่า อัตราโทษท่ีกําหนดไว้สําหรับความผิดบางประเภทตามประมวลกฎหมาย สํานกั องาานญคาณยะังกไรมร่เมพกียารงกพฤอษแฎีกกา่การป้องกันแสลํานะักปงรานาคบณปะรการมรมสกามรคกฤวษรแฎกีกา้ไขให้สูงข้ึนเพสื่ําอนใักหง้เาหนคมณาะะกสรมรกมักบารกฤษฎีกา สถานการณ์ปัจจบุ ัน สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา พระราชบัญญตั ิแก้ไขเพ่มิ เติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๑๘๑๔๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า นเุ บกษาเปน็ ตน้ ไปสมําานตกั รงาาน๒คณะพกรระรมรกาชารบกัญฤษญฎัตีกินา ี้ให้ใช้บังคับตสําั้งนแกั ตง่วาันนคถณัดะจการกรวมันกปารรกะฤกษาฎศกี ใานราชกิจจา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า หมายเหตุ :- เหตผุ ลในการประกาศใช้พระราชบัญญตั ฉิ บบั น้ี คอื โดยท่เี ปน็ การสมควรปรบั ปรุงจํานวน เงินท่ีถือเป็นอัตราสใาํ นนักกงาารนกคักณขะังกแรทรมนกคา่ารปกรฤับษใฎหกี ้เาหมาะสมกับสสภํานาวักกงาานรคณณ์ใะนกปรัจรมจกุบาันรกฤจษึงฎจีกําเาป็นต้องตรา พระราชบัญญตั นิ ้ี สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า คาํ ส่ังของคณะปฏริ ูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๔๑ ลงวนั ท่ี ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙๑๔๙ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา ทัง้ น้ี ต้ังแต่บดั นีเ้ ปน็ ตน้ ไป สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยที่คณะปฏิรูปสกําานรกัปงกานคครอณงะแกผรร่นมดกินารพกิจฤษารฎณกี าาเห็นว่า อัตราสโําทนษกั งทาี่กนําคหณนะกดรไรวม้สกําาหรรกับฤคษวฎาีกมาผิดเก่ียวกับ การหมนิ่ ประมาทหรือดหู มน่ิ พระมหากษัตรยิ ์ พระราชนิ ี รชั ทายาท หรือผู้สําเร็จราชการแทนพระองค์ สํานักรงาาชนาคธณิบะดกีรรรามชกินารี กราฤชษสฎากี มาี รัชทายาท หสํารนือักปงรานะคมณุขแะกหร่งรรมัฐกตา่ารงกปฤษระฎเีกทาศ เจ้าพนักงาสนาํ ซนึ่งักปงาฏนิบคัตณิกะากรรตรมากมารกฤษฎีกา หนา้ ท่ี ศาลหรอื ผพู้ ิพากษา และประชาชนท่ัวไป ตลอดจนการกระทําอน่ื เพ่ือเหยียดหยามประเทศชาติ รัฐต่างประเทศซสึ่งํามนีสักังมาพนัคนณธไะมกรตรรมี กหารรือกฤกษาฎรีกการะทําอันเป็นสกํานารกั เงหานยคียณดะหกยรรามมกศาารกสฤนษาฎแกี าละความผิด เก่ียวกับต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ หรือขัดขวางการพิจารณา หรือ สํานักพงพิานาคกณษะากขรอรงมศกาาลรกไฤมษ่เหฎกีมาาะสมกับสถานสํากนากั รงณานป์ คัจณจะุบกันรรสมมกคารวกรฤแษกฎไ้ ขกี อาตั ราโทษเหล่าสนํานัน้ ักใหงาส้ นูงคขณ้ึนะกรรมการกฤษฎกี า พระราชบญั ญตั ิแสกําไ้ นขักเพงา่มิ นเคตณิมปะกรระรมมวกลากรกฎฤหษมฎาีกยาอาญา (ฉบับทส่ีํา๔น)ักงพา.นศค.ณ๒ะ๕ก๒รร๒ม๑ก๕า๐รกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกมฤาษตฎรีกาา๒ พระราชสบําัญนกัญงัตานินคี้ใณหะ้ใกชร้บรังมคกับารตก้ังฤแษตฎ่วกี ันาถัดจากวันปรสะํานกักางศาในนครณาะชกกรริจมจกาารกฤษฎีกา นุเบกษาเปน็ ต้นไปสาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั หงมานาคยณเหะตกุร:ร-มเหกาตรผุ กลฤใษนฎกกี าารประกาศใช้พสรํานะักรางาชนบคัญณญะกัตริฉรบมับกานร้ีกคฤือษฎโดีกยาที่ในปัจจุบันไสดํา้มนีกักงาารนขคาณยขะกอรงรโมดกยารกฤษฎกี า หลอกลวงใหผ้ ูซ้ อ้ื หลงเช่อื ในแหลง่ กําเนิด สภาพ คณุ ภาพ หรือปริมาณแห่งของนั้นอันเป็นเท็จเพิ่มมาก ข้ึน และความผิดสฐําานนักนงาี้ตนาคมณทะ่ีบกัญรรญมกัตาิไรวก้ใฤนษมฎากีตารา ๒๗๑ แห่งสปํานรักะงมาวนลคกณฎะหกรมรามยกอาารกญฤาษเปฎกี็นาความผิดอัน ยอมความได้ พนักงานเจ้าหน้าท่ีของรัฐจึงไม่อาจดําเนินการฟ้องร้องผู้กระทําความผิดโดยไม่มีคําร้อง สาํ นักทงุกานขค์ขณอะงกผรู้เรสมียกหารากยฤไษดฎ้ แีกมา ้จะปรากฏตส่อําพนักนงักางนาคนณเะจก้ารหรนมก้าาทร่ีวก่าฤมษีกฎากี ราเสนอขายขอสงําดนังักกงลาน่าควณแกะก่บรุครมคกลารกฤษฎีกา ส๑ํา๔น๘กั รงาาชนกคจิ ณจาะนกเุ รบรกมษกาารเลก่มฤษ๙ฎ๒ีก/ตาอนท่ี ๓๒/ฉบบั สพําิเนศกั ษงาหนนคา้ ณ๑ะ/ก๑ร๒รมกกุมาภรากพฤนั ษธฎ์ ๒ีก๕า ๑๘ ๑๔๙ ราชกิจจานเุ บกษา เลม่ ๙๓/ตอนที่ ๑๓๔/ฉบับพเิ ศษ หนา้ ๔๖/๒๑ ตลุ าคม ๒๕๑๙ สํานกั งานคณะกรรมการก๑๕ฤ๐ษรฎากีชากิจจานุเบกษา เสลําม่ น๙ักง๖า/นตคอณนทะกี่ ๔ร๒รม/ฉกบารับกพฤเิ ศษษฎีกหาน้า ๑/๒๕ มีนาคสมาํ น๒ัก๕งา๒น๒คณะกรรมการกฤษฎกี า

- ๑๐๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา - ทั่วไปในร้านค้าหรือที่สาธารณะ แต่พนักงานเจ้าหน้าที่ก็ไม่กล้าที่จะจับกุมผู้เสนอขายโดยไม่มีผู้หนึ่ง สํานักผงู้ใาดนรค้อณงะทกุกรรขม์เสกียารกก่อฤนษฎกีกาารปราบปรามสกําานรกั กงราะนทคํณาผะิดกรฐรามนกนาี้จรกึงไฤมษ่ไฎดีก้ผาลเท่าท่ีควร สสมาํ คนวักรงาแนกค้ไณขเะพก่ิมรรเมตกิมารกฤษฎีกา มาตรา ๒๗๑ เสียใหม่โดยให้ความผิดตามมาตราดังกล่าวไม่เป็นความผิดอันยอมความได้ เพ่ือให้ พนักงานเจ้าหน้าสทําน่ีขักองงารนัฐคมณีอะํากนรรามจกจาับรกกฤุมษผฎู้กีกราะทําความผิดสดํานังักกงลา่านวคไณดะ้โกดรยรไมมก่ตา้รอกงฤมษีคฎําีกรา้องทุกข์ของ ผู้เสียหาย และสมควรเพ่ิมโทษสําหรับความผิดฐานนี้ให้สูงข้ึนเพ่ือให้ผู้กระทําความผิดเกรงกลัว จึง สํานักจงําาเนปค็นณตะอ้ กงรตรมรากพารรกะฤรษาฎชบกี าญั ญัตินข้ี ้ึน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พระราชบัญญตั ิแสกาํไ้ นขักเพงาิ่มนเคตณมิ ปะกรระรมมวกลากรกฎฤหษมฎากี ยาอาญา (ฉบบั ทสี่ํา๕นกั) งพา.นศค.ณ๒ะ๕ก๒รร๕ม๑ก๕า๑รกฤษฎีกา สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับต้ังแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา นุเบกษาเป็นต้นไปสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั หงมานาคยณเหะตกรุ :ร-มเกหาตรกุผฤลษใฎนีกกาารประกาศใชส้พํานรักะงราานชคบณัญะกญรัตรมิฉกบาับรกนฤี้ ษคฎือกี โาดยที่ในปัจจุบสันาํ นอักางชาญนคากณระรกมรรบมากงารกฤษฎกี า ประเภทโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชญากรรมที่เป็นความผิดเกี่ยวกับเพศและความผิดต่อเสรีภาพได้ทวี ความรุนแรง แลสะาํ คนวกั างามนผคิดณฐะากนรรลมักกทารรกัพฤยษ์โฎดีกยาเฉพาะอย่างสยํา่ิงนทกั รงัพานยค์ทณี่เะปก็นรรพมรกะาพรกุทฤธษรฎูปกี าและโคหรือ กระบือของผู้มีอาชีพกสิกรรมมีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งความผิดเหล่านี้ในบางกรณีได้มีการเพิ่มอัตราโทษมา สํานักคงราน้ังหคนณึ่งะแกลรร้วมตกาามรปกฤระษกฎากี ศาของคณะปฏสิวําัตนิ ักฉงบาับนคทณี่ ๑ะ๑กรรลมงกวาันรทกี่ฤ๒ษ๑ฎกี พาฤศจิกายน พส.ศาํ น. ัก๒ง๕าน๑ค๔ณใะนกกรรามรกนาี้ รกฤษฎกี า สมควรเพมิ่ อัตราโสทาํ นษกัสงําาหนรคบั ณผะูก้กรระรมทกาํ าครวกาฤมษผฎิดีกใาหส้ งู ขึ้นเพ่อื ปส้อํางนกกั ันงแานลคะปณระากบรรปมรกาามรกกาฤรษกฎรกี ะาทําความผิด ดังกล่าว จึงจาํ เปน็ ต้องตราพระราชบญั ญัตนิ ้ี สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พระราชบญั ญตั ิแกไ้ ขเพม่ิ เติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบบั ที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๒๖๑๕๒ สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับต้ังแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา สาํ นักนงเุาบนกคษณาะเกปรน็รมตกน้ าไรปกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมายเหตุ :- เหตสุผํานลักในงากนาครณปะรกะรกรามศกใาชรก้พฤรษะฎรีกาาชบัญญัติฉบับสนํานี้ คกั ืองานเนคื่อณงะจการกรมปกราะรมกวฤลษกฎฎีกาหมายอาญา มาตรา ๔๑ และมาตรา ๙๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี ๑๑ ลงวันที่ ๒๑ สาํ นกั พงฤานศคจณิกะากยรนรมพก.าศร.ก๒ฤษ๕ฎ๑กี ๔า มิได้กําหนดสโทํานษกั จงําานคคุกณขั้นะกสรูงรใมนกการรณกฤีทษ่ีมฎีกกี าารเพ่ิมโทษและสเํารนียักงงกานรคะทณงะลกรงรโทมกษารกฤษฎีกา ไว้ ท้ังในกรณีควาสมําผนิดักงทาี่มนีโคทณษะจกํารครมุกกตาลรอกฤดษชฎีวิตีกายังกําหนดให้เสปําลน่ียกั นงาโนทคษณจะํากครุกรตมกลาอรดกชฤีวษิตฎเกีปา็นโทษจําคุก ห้าสิบปีเพื่อประโยชน์ในการเพิ่มโทษหรือเรียงกระทงลงโทษ แล้วแต่กรณี อีกด้วย ในบางคดีโทษ สาํ นกั จงําาคนุกคณท่ีมะกีกรารรมเกพา่ิมรโกทฤษษหฎกีรือา โทษจําคุกรวสมํานขักองงากนาครณเระียกงรกรรมะกทารงกลฤงษโทฎษกี าจึงสูงเกินสมคสวาํ รนหักรงือานไมค่ไณดะ้สกัดรสรม่วกนารกฤษฎกี า กับความผิดท่ีมีลักษณะและผลร้ายแรงต่างกัน ทําให้การลงโทษเป็นไปโดยไม่เป็นธรรมและไม่ได้ผล เท่าที่ควร สมควรสแาํ นกกั ้ไงขาเนพค่ิมณเตะกิมรบรทมกบาัญรกญฤัตษิทฎกีั้งสา องมาตราดังสกําลน่าักวงาโนดคยณกําะกหรนรดมขกา้ันรสกูงฤขษอฎงกี โาทษจําคุกใน กรณที มี่ ีการเพมิ่ โทษ และโทษจําคกุ รวมในกรณเี รียงกระทงลงโทษ เพอื่ ใหก้ ารลงโทษเป็นไปด้วยความ สาํ นกั เงปาน็นธครณระมกแรลรมะไกดารผ้ กลฤดษยี ฎ่ิงีกขาน้ึ จงึ จาํ เปน็ ตสอ้ํานงตักรงาานพครณะระกาชรรบมญั กญารัตกนิฤษ้ี ฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๑๕๑ ราชกจิ จานุเบกษา เล่ม ๙๙/ตอนท่ี ๑๐๘/ฉบบั พิเศษ หน้า ๕/๖ สงิ หาคม ๒๕๒๕ สาํ นักงานคณะกรรมการก๑๕ฤ๒ษรฎาีกชากิจจานุเบกษา เสลํา่มน๑กั ง๐า๐น/คตณอนะกทรี่ ๕รม๓ก/ฉารบกบั ฤพษเิ ศฎษกี าหน้า ๑/๕ เมษาสยํานนัก๒ง๕า๒น๖คณะกรรมการกฤษฎกี า

- ๑๐๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า - พระราชบญั ญตั ิแก้ไขเพมิ่ เตมิ ประมวลกฎหมายอาญา (ฉบบั ที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๓๐๑๕๓ สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา นเุ บกษาเป็นต้นไปสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นกั หงามนาคยณเหะกตรุ ร:-มกเหารตกุผฤลษใฎนกี กา ารประกาศสใชําน้พักรงะานราคชณบะกัญรญรมัตกิฉารบกับฤนษ้ีฎคกี ือา เน่ืองจากปสรําานกักฏงาวน่าคในณปะกัจรจรุบมกันารกฤษฎีกา อการชะบญือากหรรรือมเบคารงสื่อปาํ งนรมกัะืองเาเภนคทครโื่ณอดงะยใกชเรฉ้รพหมการืะาอรอเกคยฤร่าษ่ืองฎงยีกจิ่งาักอรากชญลขาอกงรเรกมสษทําตน่ีเรปกั กง็นารคนไวคดาณ้เพมะผิ่มกิรดขรฐึ้นมาเกนปาล็รนกักจฤทําษนรฎัพวกี นยา์มเกา่ียกวกทับําใโหค้ สาํ นักเงกาษนตครณกะรกโรดรยมเกฉาพรกาฤะษชฎาวีกนา า ชาวไร่ ชาสวําสนวักนงาเนดคือณดะรก้อรนรทมก่ีสาุดรกเพฤษราฎะีกเาม่ือถึงฤดูกาลทสําํานนักางหานรือคเณพะากะรปรมลกูการกฤษฎีกา เกษตรกรไม่สามารถหาโค กระบือ หรือจักรกลต่าง ๆ มาทําการเพาะปลูกได้ทันตามฤดูกาล แม้ว่า เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดสชาํ อนบกั จงาะนไคดณ้คอะกยรสรอมดกสาร่อกงฤดษูแฎลกี อายู่ตลอดเวลาแสลํานะกัจงับากนุมคผณู้กะกระรรทมํากคาวรากมฤผษิดฎมกี าาลงโทษเป็น จํานวนมากรายแล้วก็ตาม แต่ไม่ทําให้ผู้กระทําความผิดหลาบจําหรือเกรงกลัวอาญาแผ่นดิน ท้ังนี้ สํานักเงพารนาคะณกะฎกรหรมมากยารกกําฤหษนฎดีกโาทษท่ีจะลงแสกํา่ผนู้กักรงาะนทคําณคะวการมรมผกิดาไรวก้ตฤํ่าษฎสกี มาควรเพิ่มโทษสทาํ ี่จนะักลงางนแคกณ่ผะู้กกรระรมทกําารกฤษฎกี า ความผิดให้สูงขึ้น เพ่ือให้เป็นที่หลาบจําและเกรงกลัวต่ออาญาแผ่นดิน จึงจําเป็นต้องตรา พระราชบญั ญตั ินส้ขี าํ ึน้ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักพงรานะคราณชะบกญัรรญมกตั าแิ รกก้ไฤขษเฎพกีมิ่ าเติมประมวลกสฎํานหกั มงาายนอคาณญะการ(รฉมบกบั ารทก่ี ฤ๘ษ)ฎพีก.าศ. ๒๕๓๐๑๕๔สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับต้ังแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา สํานกั นงุเาบนกคษณาะเกปร็นรมตก้นาไรปกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า หมายเหตุ :- เหตสําุผนลกั ใงนานกคาณรปะกรระรกมากศารใกชฤ้พษรฎะีกราาชบัญญัติฉบสัําบนนกั ี้ งคานือคโณดะยกทรรี่ปมรกะารมกวฤลษกฎฎกี หา มายอาญา มาตรา ๒๗๗ มาตรา ๒๗๘ มาตรา ๒๗๙ มาตรา ๒๘๒ มาตรา ๒๘๓ มาตรา ๓๑๓ มาตรา ๓๑๗ สํานกั มงาานตคราณะ๓ก๑รร๘มกมาารตกรฤาษฎ๓ีก๑า๙ และมาตรสาํา๓นกั๙ง๘านกคําณหะนกดรรอมากยาุเรดก็กฤทษ่ีจฎะีกไาด้รับความคุ้มสคาํ รนอักงงเาปน็นคพณิเะศกษรรตมากมารกฤษฎกี า กฎหมาย จากการกระทําความผิดเกี่ยวกับเพศ การกระทําความผิดเก่ียวกับเสรีภาพ และการกระทํา ทารุณต่อเด็กไว้เพสําียนงักองาายนุคไมณ่เะกกินรสรมิบกสาารมกปฤษีเทฎ่าีกนา ั้น ผู้กระทําผสิดํานตักางมาบนคทณมะากตรรรามดกังากรกลฤ่าษวฎจึีกงสา ามารถอ้าง ความยินยอมของเด็กอายุกว่าสิบสามปีข้ึนเป็นเหตุยกเว้นความผิดหรือบรรเทาโทษตามกฎหมายได้ สํานักนงับานเปคณ็นะกการรรเมปกิดาโรอกกฤาษสฎใกี หา้มีการแสวงปสรําะนโักยงชานนค์ในณทะกางรรมมิชกอาบรกจฤาษกฎเดีก็กาอายุระหว่างสสาํิบนสักางมานปคีถณึงะสกิบรหรม้ากปาี รกฤษฎกี า ซ่ึงส่วนใหญ่ยังมสีคาํ วนาักมงเาจนรคิญณะเตกิรบรโมตกแาลรกะฤพษัฒฎกีนาาการทางด้าสนําตน่าักงงาๆนคเณช่ะนกรรร่ามงกกาารยกฤจษิตฎใีกจา สติปัญญา การศึกษาอบรมและประสบการณ์ไม่เพียงพอได้ นอกจากนี้บทบัญญัติเกี่ยวกับการเป็นธุระจัดหา สาํ นักลง่อานไปคณหะรกือรชรมักกพาารไกปฤซษึ่งฎหกี ญา ิงเพ่ือสําเร็จคสําวนากัมงใาคนรค่ขณอะงกผรู้อร่ืนมใกนารกกฎฤหษมฎากี ยาปัจจุบันนั้น มสาาํ ตนรักางา๒น๘คณ๒ะจกะรรเปมก็นารกฤษฎกี า ความผดิ ตอ่ เม่อื ได้กระทําต่อหญิงอายุไม่เกินสิบแปดปี ทําให้หญิงได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีกฎหมาย คุ้มครอง สมควรสแาํ กน้ไกั ขงาเพนคิ่มณเตะิกมรใรหม้กกาารรกกฤรษะฎทีกําาดังกล่าวเป็นสคําวนาักมงผานิดคไมณ่วะก่าหรรญมกิงจาระกมฤีอษาฎยกี ุเาท่าใดก็ตาม จึงจาํ เป็นตอ้ งตราพระราชบญั ญตั นิ ้ี สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พระราชบญั ญัตแิ กไ้ ขเพม่ิ เตมิ ประมวลกฎหมายอาญา (ฉบบั ท่ี ๙) พ.ศ. ๒๕๓๐๑๕๕ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า ๑๕๓ ราชกิจจานุเบกษา เลม่ ๑๐๔/ตอนท่ี ๑๗๓/ฉบบั พิเศษ หนา้ ๑/๑ กนั ยายน ๒๕๓๐ สํานกั งานคณะกรรมการก๑๕ฤ๔ษรฎาีกชากิจจานุเบกษา เสลําม่ น๑กั ง๐า๔น/คตณอนะกทร่ี ๑รม๗ก๓า/รฉกบฤบั ษพฎเิ ศีกษา หน้า ๔/๑ กันสยาํานยักนง๒าน๕ค๓ณ๐ะกรรมการกฤษฎีกา

- ๑๐๙ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า - สาํ นักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎรกีาา๒ พระราชสบําัญนักญงัตานินค้ีใณหะ้ใกชร้บรังมคกับารตกั้งฤแษตฎ่วีกันาถัดจากวันปรสะาํ นกักางศาในนครณาะชกกรริจมจกาารกฤษฎกี า นเุ บกษาเปน็ ตน้ ไป สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชพ้ ระราชบัญญตั ฉิ บบั นี้ คอื เนอื่ งจากอัตราการกักขังแทนค่าปรับ สาํ นกั ตง่อานวคันณตะากมรรปมรกะามรวกลฤกษฎฎหกี ามายอาญาท่ีใชสํา้บนังกั คงับานอคยณู่ในะปกรัจรจมุบกันารยกังฤไษมฎ่เหกี มาาะสมกับสภาสพํานกักางราณน์คบณ้านะกเมรรือมงกทาี่ รกฤษฎีกา เเปจ้าลหย่ี นน้าแทป่ีใลนงกไปารทคส้งั วทาํ นบากังคงดุมา้านนตคเลณศอระดกษจรฐรนกมเจิ ปกแา็นลรกกะาฤสรษงั สฎคิ้นีกมเาปทลาํ ือใหง้เงกบิดปปรญั ะสมหําาานณผักตู้งขา้ออนงงคขรณังัฐแะเปกอรอ็นรดัจมหํากน้อารวงกขนฤังมษาอฎกันีกใเานปก็นาภราเลระี้ยแงกดู่ สาํ นกั ผงู้ตานอ้ คงขณงั ะกสรมรคมวกราปรกรบัฤษปฎรุงีกอาัตราการกกั ขังสแํานทกันงคา่านปครณบั ะตกอ่รรวมันกเสารียกใฤหษมฎ่ ีกจาึงจาํ เปน็ ต้องตรสาําพนักระงารนาคชณบัญะกญรรัตมนิ ก้ี ารกฤษฎีกา พระราชบญั ญตั แิ สกํา้ไนขกัเพงามิ่ นเคตณมิ ปะกรระรมมวกลากรกฎฤหษมฎากี ยาอาญา (ฉบับทสี่ํา๑น๐กั ง)าพนค.ศณ. ะ๒ก๕รร๓ม๒กา๑ร๕ก๖ฤษฎีกา สาํ นกั งานคณะกรรมการกมฤาษตฎรกีาา๒ พระราชสบําัญนกัญงัตานินค้ีใณหะ้ใกชร้บรังมคกับารตกั้งฤแษตฎ่วกี ันาถัดจากวันปรสะาํ นกักางศาในนครณาะชกกรริจมจกาารกฤษฎกี า นเุ บกษาเปน็ ต้นไป สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับน้ี คือ โดยที่การกําหนดเงื่อนไขเพ่ือคุม สํานกั คงวานามคปณระะกรพรฤมตกิขารอกงฤผษู้กฎรีกะาทําความผิดทสี่ศําานลกั พงาิพนาคกณษะากใรหร้รมอกการากรฤกษําฎหีกนาดโทษไว้หรือรสอาํ กนัการงาลนงคโทณษะกไวรร้ตมากมารกฤษฎกี า ประมวลกฎหมายสอาํ นาักญงาานในคปณัจะจกรุบรันมนก้ันารกยฤังษไมฎ่เีกหามาะสมแก่กาสรําแนกัก้ไงขานใหคณ้ผู้กะกรระรทมํากคาวรกาฤมษผฎิดกีนาั้นกลับตัวได้ อย่างได้ผลดี สมควรปรับปรุงเง่ือนไขเพ่ือคุมความประพฤติของผู้กระทําความผิดในกรณีดังกล่าวให้มี สํานกั ขงอานบคเขณตะกกรวร้ามงกขาวรากงฤขษึ้นฎกี เาพื่อที่ศาลจะสสาํานมกัางราถนใคชณ้ดะุลกพรินรมิจกไาดร้โกดฤยษเฎหกี มาาะสมแก่กรณสีํานนักองกาจนาคกณนะี้เกพรรื่อมใกหา้ รกฤษฎกี า บทบัญญัติของประมวลกฎหมายอาญาท่ีกําหนดให้นําโทษของผู้กระทําความผิดท่ีถูกคุมความ ประพฤตใิ นคดที ่รี สอํากนากั รงกานําคหณนะดกโรทรษมไกวา้ รหกรฤอื ษรฎอกี กาารลงโทษไว้ในสําคนดักกี ง่อานนคมณาบะกวรกรเมขกา้ ากรบั กโฤทษษฎใกี นาคดีหลังของ ผ้กู ระทาํ ความผดิ ผนู้ ัน้ ดว้ ย บงั เกิดผลในการใช้บังคับตามความประสงค์อย่างแท้จริง สมควรกําหนดให้ สาํ นักศงาานลคนณําโะทกษรรทมี่รกอารไกวฤ้ดษังกฎลกี า่าวมาบวกกับสโทํานษักใงนานคคดณีหะลกังรรโมดกยาใรหก้ศฤาษลฎกกี ราะทําได้ไม่ว่าเสมําื่อนคักวงาานมคปณระากกรฏรมแกกา่ รกฤษฎกี า ศาลเอง หรือความปรากฏตามคําแถลงของพนักงานอัยการหรือพนักงานควบคุมความประพฤติ จึงจําเป็นต้องตราสพํานรักะงราานชคบณญั ะญกรัตรินมี้การกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นกั พงรานะคราณชะบกัญรรญมกตั าิแรกก้ไฤขษเฎพกีม่ิ าเติมประมวลกสฎํานหักมงาายนอคาณญะการ(รฉมบกับารทก่ี ฤ๑ษ๑ฎ)ีกพา.ศ. ๒๕๓๕๑๕ส๗ํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับต้ังแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา สํานกั นงเุาบนกคษณาะเกปรน็รมตกน้ าไรปกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมายเหตุ :- เหตสุผําลนใกั นงกานาครปณระะกกรรามศกใาชร้พกรฤะษรฎาีกชาบัญญัติฉบับนสําี้ คนืักองดาน้วคยณปะรการกรฏมวก่าาใรนกฤปษัจฎจกีุบาันมีผู้กระทํา ความผิดฐานหมิ่นประมาทมากข้ึน ขณะเดียวกันบทบัญญัติเกี่ยวกับอัตราโทษที่ใช้บังคับกับผู้กระทํา สํานกั คงวานาคมณผิะดกไรมร่เมหกมารากะฤสษมฎกีกับาสภาวการณส์จําึงนทักํางใาหนค้ผณู้กะรกะรทรํมาคกาวรากมฤผษิดฎดกี ังากล่าวไม่เกรงสกาํ นลักัวงาสนมคคณวะรกแรรกม้ไกขารกฤษฎีกา ส๑ํา๕น๕กั รงาาชนกคจิ ณจาะนกเุ รบรกมษกาารเลก่มฤษ๑ฎ๐ีก๔า/ตอนท่ี ๑๗๓/ฉสบํานบั ักพงเิ ศานษคหณนะา้ ก๑รร๓ม/๑กากรันกยฤาษยฎนีก๒า ๕๓๐ ๑๕๖ ราชกจิ จานุเบกษา เล่ม ๑๐๖/ตอนท่ี ๑๒๗/ฉบับพเิ ศษ หนา้ ๑/๑๑ สิงหาคม ๒๕๓๒ สํานกั งานคณะกรรมการก๑๕ฤ๗ษรฎากีชากจิ จานุเบกษา เสลําม่ น๑กั ง๐า๙น/คตณอนะกทร่ี ๑รม๓ก/หารนกา้ ฤ๑ษ/ฎ๒ีก๕า กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕ส๓าํ ๕นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า

- ๑๑๐ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า - เพมิ่ เติมอัตราโทษให้สงู ข้นึ จึงจําเปน็ ตอ้ งตราพระราชบัญญตั ิน้ี สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า พระราชบัญญตั แิ ก้ไขเพิ่มเตมิ ประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๑๒) พ.ศ. ๒๕๓๕๑๕๘ สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับต้ังแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา สาํ นกั นงเุาบนกคษณาะเกปร็นรมตกน้ าไรปกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมายเหตุ :- เหตสุผําลนใกั นงกานาครปณระะกกรรามศกใาชร้พกรฤะษรฎากี ชาบัญญัติฉบับนส้ีําคนือกั งโาดนยคทณี่ใะนกปรรัจมจกุบารันกไฤดษ้มฎีกกี าารรับฝากเงิน สํานกั โงดายนวคิธณีอะอกกรรบมัตกราเรงกินฤฝษาฎกีกโาดยธนาคารพสาําณนักิชงยา์ตนาคมณกะฎกรหรมมากยารวก่าฤดษ้วฎยกีกาารธนาคารพาสณํานิชักยง์ารนวคมณตะลกอรรดมถกึงารกฤษฎกี า บริษัทเงินทุนตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจ เครดิตฟองซิเอรส์ แํานลักะงบานัตครณเงะินกฝรรามกกดาังรกกฤลษ่าฎวกีเปา็นตราสารซ่ึสงเําปนักลง่ียานนมคณือไะดกร้ สรมมกคาวรกรฤกษําฎหีกนาดมาตรการ ป้องกันการปลอมตราสารดังกล่าวเพื่อคุ้มครองประโยชน์ส่วนรวมซ่ึงอาจเกิดความเสียหายจากการใช้ สาํ นักบงัตานรคเงณนิ ะฝการกรปมกลาอรมกฤจษึงฎจกี าํ าเป็นต้องตราพสํรานะักรางาชนบคญั ณญะกัตรนิ รีไ้มดก้ ารกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า พระราชบญั ญตั แิ สกาํ้ไนขักเพงา่มิ นเคตณิมปะกรระรมมวกลากรกฎฤหษมฎาีกยาอาญา (ฉบบั ทส่ีํา๑นกั๓ง)าพนค.ศณ. ะ๒ก๕รร๓ม๗ก๑า๕ร๙กฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎรีกาา๒ พระราชสบําัญนกัญงัตานินค้ีใณหะ้ใกชร้บรังมคกับารตกั้งฤแษตฎ่วกี ันาถัดจากวันปรสะํานกักางศาในนครณาะชกกรริจมจกาารกฤษฎกี า นเุ บกษาเปน็ ตน้ ไปสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักหงมานาคยณเหะตกุร:ร-มเกหาตรุผกลฤษในฎกีกาารประกาศใชส้พํารนะักรงาาชนบคัญณะญกัตรริฉมบกับานรก้ี คฤษือฎดีก้วายปรากฏว่าไดส้มาํ นีกักางราลน่อคลณวะงกเดรร็กมไกปารกฤษฎีกา ทํางานในโรงงานและเจ้าของโรงงานได้หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังเด็กเหล่านั้นโดยให้ทํางานอย่างไร้ มนุษยธรรม และสฝาํ ่านฝักืนงมานาคตณรฐะากนรรขมั้นกตา่ํารกในฤกษาฎรกี ใาช้แรงงานตามสกํานฎักหงมานายควณ่าะดก้วรยรมกกาารรคกุ้มฤคษรฎอีกงาแรงงาน อีก ทั้งเป็นการกระทําท่ีกระทบกระเทือนความสงบสุขในสังคม สมควรกําหนดให้การกระทําดังกล่าวเป็น สํานกั คงวานามคผณิดะฐการนรมใหกามร่ขกึ้นฤเษปฎ็นีกพาเิ ศษ จึงจาํ เปสํา็นนตักอ้ งงาตนรคาณพะรกะรรรามชกบารญั กญฤษตั ฎนิ กี ้ี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พระราชบัญญัติแสกาํไ้ นขักเพงาิม่ นเคตณิมปะกรระรมมวกลากรกฎฤหษมฎาีกยาอาญา (ฉบับทสี่ํา๑นกั๔ง)าพนค.ศณ. ะ๒ก๕รร๔ม๐ก๑า๖ร๐กฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎรีกาา๒ พระราชสบําัญนกัญงัตานินคี้ใณหะ้ใกชร้บรังมคกับารตกั้งฤแษตฎ่วกี ันาถัดจากวันปรสะาํ นกักางศาในนครณาะชกกรริจมจกาารกฤษฎีกา นุเบกษาเป็นต้นไปสาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักหงมานาคยณเหะตกรุ :ร-มเกหาตรกุผฤลษในฎกีกาารประกาศใชส้พํานระกั รงาานชคบณัญะญกรัตริฉมบกัาบรนก้ีฤคษือฎกีเนา่ืองจากได้ปรสาาํกนฏักวง่าามนคีกณาระกกรรระมทกําารกฤษฎีกา ความผิดต่อหญิงและเด็กโดยการซ้ือ ขาย จําหน่าย พา หรือจัดหาหญิงหรือเด็กนั้นไปด้วยวิธีการต่าง ๆ เพื่อสําเร็จความใสคาํ รน่ทกั ้ังงาแนกค่ตณนะแกลระรมผกู้อา่ืนรกเฤพษื่อฎกกี าารอนาจาร หรสือํานเพักงื่อาปนรคะณโะยกชรนรม์อกยา่ารงกอฤื่นษอฎันีกมา ิชอบ ไม่ว่า โดยการขายเด็กให้เดก็ เป็นขอทาน หรือทาํ งานในสภาพที่ใช้แรงงานโดยทารุณโหดร้าย สมควรกําหนด สาํ นกั บงทานกคําณหะนกดรครมวกาามรผกิดฤใษหฎมกี ่ใาห้ครอบคลุมกสาํานรกักงราะนทคําณดะังกกรลร่ามวกานรกอฤกษจฎากีกาน้ันในปัจจุบันสกําานรักกงรานะทคณําดะกังกรรลม่ากวารกฤษฎีกา ส๑ํา๕น๘ักรงาาชนกคิจณจาะนกุเรบรกมษกาารเลกม่ ฤษ๑ฎ๐กี๙า/ตอนท่ี ๔๔/หนส้าําน๑กั ๔ง/า๙นคเมณษะากยรนรม๒ก๕า๓ร๕กฤษฎีกา ๑๕๙ ราชกิจจานเุ บกษา เล่ม ๑๑๑/ตอนท่ี ๒๒ ก/หน้า ๑/๑๐ มิถนุ ายน ๒๕๓๗ สาํ นักงานคณะกรรมการก๑๖ฤ๐ษรฎากีชากิจจานุเบกษา เสลําม่ น๑กั ง๑า๔น/คตณอนะกทร่ี ๗รม๒กกา/รหกนฤา้ษฎ๔กี๒า/๑๖ พฤศจกิ ายสนาํ น๒ัก๕ง๔า๐นคณะกรรมการกฤษฎกี า

- ๑๑๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า - ไม่จํากัดเฉพาะการกระทําต่อหญิงหรือเด็กหญิงเท่าน้ัน แต่ได้ขยายไปยังเด็กชาย และมีแนวโน้มเป็น สาํ นกั กงาารนกครณะะทกํารตรม่อกบาุครกคฤลษโดฎยีกไาม่จํากัดเพศ สสํมานคกั วงราแนกค้ไณขะฐการนรคมวกาารมกผฤิดษใฎนีกบาทบัญญัติที่เกส่ียําวนขัก้องงาในหค้กณวะ้ากงรขรวมากงารกฤษฎีกา ขึ้น และสมควรแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๒๘๒ และมาตรา ๒๘๓ แห่งประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งบัญญัติ ให้ศาลไทยมีอํานสาําจนลักงงโาทนษคกณาะรกกรรรมะกทาํารคกวฤาษมฎผีกิดาดังกล่าว แมส้จําะนกักรงะานทคําณในะตกร่ารงมปกราะรเกทฤศษฎโดีกยา แยกไว้เป็น เอกเทศให้เห็นเด่นชัดในมาตรา ๗ ซ่ึงเป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับอํานาจของศาลไทยในการลงโทษการ สํานักกงราะนทคณําคะวการมรมผกดิ าอรันกฤมษลี ฎกั กีษาณะเป็นความสผําดิ นอกั างญานาครณะหะกวร่ารงมปกราะรเกทฤศษฎจกีงึ จาําเปน็ ต้องตราสพํานรักะงราานชคบณัญะญกรัตรนิมี้การกฤษฎกี า พระราชบญั ญัติแสกําไ้ นขักเพงาิม่ นเคตณิมปะกรระรมมวกลากรกฎฤหษมฎาีกยาอาญา (ฉบับทส่ีํา๑น๕ักง)าพนค.ศณ. ะ๒ก๕รร๔ม๕ก๑า๖ร๑กฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับต้ังแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา นุเบกษาเป็นต้นไสปํานเวกั ้นงาแนตค่มณาะตกรรารม๓กาใรหก้ใฤชษ้บฎังีกคาับเมื่อพ้นกําหสนํานดักสงาามนปคณีนับะกแรตร่วมันกาถรัดกจฤาษกฎวีกันาประกาศใน ราชกิจจานุเบกษาเป็นตน้ ไป สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๓ ให้ยกเลิกความในวรรคแรกของมาตรา ๒๔ แห่งประมวลกฎหมายอาญา และใหใ้ ชค้ วามตอ่ สไาํ ปนนกั ง้แี าทนนคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา “มาตรา ๒๔ ผู้ใดต้องโทษกักขัง ให้กักตัวไว้ในสถานท่ีกักขังซึ่งกําหนดไว้อันมิใช่ สํานกั เงราอื นนคจณาํ ะสกรถรามนกีตาาํรรกวฤจษฎหีกราือสถานทค่ี วบสคําุมนผักตู้งา้อนงคหณาะขกอรงรพมนกกัารงกาฤนษสฎอีกบาสวน” สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับน้ี คือ เนื่องจากในการลงโทษผู้กระทํา สํานักคงวานามคณผิดะกทรารงมอกาาญรกาฤมษีหฎลีกักาการสําคัญปรสะํานกกัางราหนนค่ึงณคะือกรเรพมื่อกแารกก้ไฤขษใหฎ้ผกี ู้นา ้ันสามารถกลสับํานตักัวงเาปน็นคพณละเกมรือรมงดกาี รกฤษฎกี า ดังน้ัน โทษท่ีผู้กระทําความผิดควรจะได้รับจึงต้องมีความเหมาะสมกับสภาพความผิด อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่าในปัจจสุบาํ ันนมกั ีผงาู้ไนดค้รณับะโทกรษรปมรกับารตก้อฤงษถฎูกีกกาักขังแทนค่าปสรําับนกัเปงา็นนจคําณนะวกนรมรมากกาขรึ้นกฤซษึ่งฎผีกู้ราับโทษนั้น ๆ ต้องสูญเสียอิสรภาพโดยไม่สมควรทําให้บุคคลในครอบครัวต้องเดือดร้อนและรัฐต้องรับภาระในการ สํานักดงูแานลคเพณ่ิมะมกรารกมขกึ้นารสกมฤษคฎวรีกปา รับเปล่ียนมาสตํานรกักงาารนลคงณโทะษกรเรสมียกใหารมก่ฤโษดฎยีกกาําหนดมาตรกาสรํานใหัก้ผงาู้ตน้อคงณโทะกษรปรรมับการกฤษฎีกา ทํางานบริการสังคมหรือทํางานสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับได้อีกทางหนึ่ง และในกรณีท่ีอาจต้อง ถูกกักขังอยู่นั้นบุคสําคนลกั ดงังานกคลณ่าวะสกมรรคมวกราไรดก้รฤับษคฎวีกาามคุ้มครองมิใสหํา้ตน้อกั งงาถนูกคเณปละก่ียรนรโมทกษารจกาฤกษกฎักกี ขาังเป็นจําคุก อันเป็นโทษท่ีหนักยิ่งกว่า รวมทั้งมิให้ต้องถูกคุมขังรวมกับผู้ต้องหาในคดีอาญาที่มีอัตราโทษสูง สํานักปงรานะคกณอะบกกรับรมสกมาครกวฤรษปฎรัีกบาปรุงบทบัญญสัตําิเนกัก่ียงวานกคับณอะัตกรรารเมงกินาใรนกกฤษารฎกีกักา ขังแทนค่าปสรัาํบนใักหง้สานอคดณคะลก้อรงรกมับการกฤษฎกี า สภาพทางเศรษฐกสําิจนแักลงะานสคังคณมะใกนรปรมัจกจาุบรกันฤนษอฎกีกาจากนี้สมควรเสปําิดนโักองกานาคสณใหะ้ศกรารลมใกชา้ดรุลกพฤิษนฎิจกีในาการรอการ กาํ หนดโทษหรือรอการลงโทษไดม้ ากขนึ้ จึงจําเปน็ ต้องตราพระราชบญั ญัตินี้ สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า พระราชบัญญตั แิ กไ้ ขเพิม่ เตมิ ประมวลกฎหมายอาญา (ฉบบั ท่ี ๑๖) พ.ศ. ๒๕๔๖๑๖๒ สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๒ พระราชบัญญัติน้ีให้ใช้บังคับต้ังแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา สาํ นกั นงุเาบนกคณษาะกเปรร็นมตก้นารไปกฤเษวฎ้นกี แาต่มาตรา ๔ ใสหํา้ในชกั ้บงาังนคคับณเมะกื่อรพร้นมกกาํารหกนฤษดฎหกีนา่ึงร้อยย่ีสิบวันสนาํ ับนแักตงา่วนันคถณัดะจการกรมวกันารกฤษฎกี า ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเป็นต้นไป สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ๑๖๑ ราชกิจจานุเบกษา เลม่ ๑๒๐/ตอนที่ ๔ ก/หนา้ ๑/๘ มกราคม ๒๕๔๖ สํานกั งานคณะกรรมการก๑๖ฤ๒ษรฎาีกชากจิ จานุเบกษา เสลํา่มน๑กั ง๒า๐น/คตณอนะกทร่ี ๕รม๘กกา/รหกนฤ้าษฎ๑กี/๒า๐ มิถุนายน ๒๕ส๔าํ น๖ักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า

- ๑๑๒ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า - สํานกั งานคณะกรรมการกมฤาษตฎราีกา๕ ใหร้ ัฐมนตสรําวี น่าักกงาารนกครณะะทกรรวรงมยกุตารธิ กรฤรมษรฎกักี ษา าการตามพรสะาํรนาักชงบาญันคญณตั ะนิ ก้ีรรมการกฤษฎีกา หมายเหตุ :- เหตสุผําลนใกันงกาานรคปณระะกกรารศมกใชาร้พกรฤะษรฎากีชาบัญญัติฉบับนสี้ ําคนือักงเนาน่ือคงณจาะกกรปรัจมจกุบารันกบฤทษบฎัญีกาญัติเกี่ยวกับ การลงโทษประหารชีวิตและจําคุกตลอดชีวิตแก่ผู้ซึ่งกระทําความผิดในขณะท่ีมีอายุต่ํากว่าสิบแปดปี สํานักตงาามนคปณระะมกรวรลมกกฎารหกมฤาษยฎอีกาาญายังไม่สอดสคําลน้อกั งงกานับคขณ้อะ๖กรวรมรรกคารหก้าฤษแฎหกี่งากติการะหว่างสปํารนะักเงทาศนวค่าณดะ้วกยรสรมิทกธาิ รกฤษฎกี า จพะลถเมกู ือพงิพแาลกะษสาทิ ปธรสิทะําาหนงากักรงาชารวีนเิตคมมณือไิงะดกค้ รแ.รศลม.ะกข๑า้อร๙ก๖๓ฤ๖๗ษฎทกกี )ีก่ าแําหหน่งอดนวุส่าัญบญุคสาคําวลน่าอักดาง้วยายนุตสคํ่าิทณกธวะิเ่กาดสร็กริบมคแก.ปศา.รดก๑ปฤ๙ีทษ๘่ีกฎร๙ีกะาทที่กําคําหวานมดผวิด่า สาํ นกั จงะานไมค่มณีเะดก็กรครมนกใดารไกดฤ้รษับฎกกีาารทรมาน หรือสถําูกนักปงฏาิบนคัตณิหระกือรลรงมโกทาษรทกฤี่โหษฎดีกร้าาย ไร้มนุษยธรสราํ มนักหงราือนตค่ําณชะ้ากรจระมไกมา่ รกฤษฎกี า มีการลงโทษประหารชีวิต หรือจําคุกตลอดชีวิตที่ไม่มีโอกาสจะได้รับการปล่อยตัวสําหรับความผิดที่ กระทําโดยบุคคลสทําน่ีมกั ีองาายนุตคณํ่ากะกว่รารสมิบกแาปรกดฤปษีซฎ่ึงีกปาระเทศไทยเขสํา้านเปักง็นาภนาคคณี ะนกอรรกมจกาากรนกฤ้ันษบฎกีทาบัญญัติตาม ประมวลกฎหมายอาญาเกี่ยวกับวิธีการประหารชีวิตโดยการเอาไปยิงเสียให้ตายยังไม่เหมาะสมและ สํานักสงอานดคคณล้อะกงรกรบั มสกภารากวฤกษาฎรณีกา์ในปัจจุบัน เนสื่อํานงจักางากนเปคณ็นวะกิธีกรรามรกทา่ีทรการฤุณษฎโหกี าดร้ายและไร้มสนําุษนยักธงรานรมคณท่ีระกัฐรไมรม่พกึงารกฤษฎีกา ปฏิบัติต่อผู้กระทําความผิด สมควรแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาเพ่ือกําหนดมิให้นําโทษ ประหารชวี ติ และโสทาํ ษนักจงาํ าคนกุ คตณละอกดรชรีวมติกมารากใชฤ้บษฎงั คีกับา แก่ผู้ซ่ึงกระทสําําคนวักางมานผคิดณในะขกณรระมทก่ีมารีอกาฤยษุตฎ่ํากี กาว่าสิบแปดปี และในกรณีที่บุคคลดังกล่าวได้กระทําความผิดท่ีมีระวางโทษประหารชีวิตหรือจําคุกตลอดชีวิต ให้ถือ สํานักวง่าารนะควณาะงกโทรรษมดกังารกกลฤ่าษวฎไดีก้เาปล่ียนเป็นระสวําานงักโงทาษนคจณําคะกุกรหร้ามสกิบารปกีแฤลษะฎเกี พา่ือเปลี่ยนวิธีกสาํารนปักรงะาหนคารณชะีวกิตรรจมากการกฤษฎกี า การเอาไปยิงเสียใสหาํ ต้นากั ยงาเปนน็คณดาํะเกนรินรมกกาารรฉกดี ฤสษาฎรีกพาษิ ใหต้ ายแทนสํานจงึักจงาาํ นเปคน็ณตะ้อกรงรตมรกาาพรรกะฤรษาฎชกี บาัญญตั ิน้ี สํานักพงรานะคราณชะกกํารหรมนกดาแรกกฤ้ไขษเฎพีก่มิ าเตมิ ประมวลกสําฎนหักมงาานยคอณาญะการรพม.ศก.าร๒ก๕ฤ๔ษฎ๖กี ๑า๖๓ สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สมาํ านตกั รงาาน๒คณพะกรระรรมากชากรกําฤหษนฎดกี นา้ีให้ใช้บังคับตส้ังําแนตัก่วงันานปครณะกะการศรใมนกราารชกกฤิจษจฎากี นาุเบกษาเป็น ต้นไป สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกําหนดฉบับนี้ คือ เนื่องจากในสถานการณ์ปัจจุบัน ปรากฏว่ามีภัยคุกสคาํ นากัมงจาานกคกณาะรกกร่อรมกกาารรรก้าฤยษโฎดีกยามุ่งประสงค์ต่อสําชนีวกั ิตงขานอคงปณระะกชรรามชกนาผรกู้บฤรษิสฎุทีกธาิ์หรือทําลาย ทรัพย์สินให้เกิดความเสียหายเพื่อสร้างความปั่นป่วนโดยให้เกิดความหวาดกลัวในหมู่ประชาชนและ สาํ นกั ทงําานใหค้เณกะิดกครวรมามกาวรุ่นกวฤาษยฎใีกนาประเทศ หรือสเําพนื่ักองบาังนคคับณขะู่เกขร็ญรมใกหา้รรัฐกบฤาษลฎไีกทาย รัฐบาลของสรําันฐใักดงาหนครือณอะกงครร์กมากรารกฤษฎกี า ระหว่างประเทศสําจนํากั ยงอานมคตณ้อะงกกรรระมทกําารหกรฤือษลฎะีกเาว้นการกระทสําําตนากั มงาทนี่มคีกณาะรกเรรรียมกกราร้อกงฤขษอฎงกี ผาู้ก่อการร้าย ซ่ึงการกระทําเช่นนั้นได้เกิดขึ้นในประเทศใกล้เคียงและมีแนวโน้มว่าจะเกิดข้ึนภายในประเทศอันจะมี สาํ นกั ผงลานกครณะทะกบรตร่อมคกวารากมฤมษ่ันฎคกี งาของประเทศอสํายน่ากังงรา้านยคแณรงะกนรรอมกกจาารกกนฤษี้ กฎากี รากระทําดังกล่าสวาํ ยนังักเงปา็นนคกณาระกกรรระมทกําารกฤษฎกี า ในลักษณะการร่วมมอื กระทําความผดิ ระหว่างประเทศ ซง่ึ คณะมนตรคี วามม่ันคงแหง่ สหประชาชาตไิ ด้ มีมติที่ ๑๓๗๓ เมสื่อํานวันักงทาี่น๒ค๘ณะกกันรยรมากยานรกคฤ.ษศฎ. ีก๒า๐๐๑ ขอให้ทสุกํานปักรงะาเนทคศณระ่วกมรมรือมกดาํารเกนฤินษกฎากี ราป้องกันและ ปราบปรามการกระทําใดท่ีเป็นการก่อการร้าย รวมถึงการสนับสนุนทางทรัพย์สินหรือกรณีอื่นใดท่ีมี สํานักวงัตานถคปุ ณระะสกงรครม์จกะานรํากไฤปษใฎชีก้ดาาํ เนินการก่อกสาํารนรัก้างยานหครืณอเะปก็นรรสมมกาาชริกกขฤษอฎงอกี งาค์กรก่อการร้าสยํานโักดงยานเหคตณุทะ่ีกการรรมกก่อารกฤษฎกี า การร้ายเป็นการกระทําที่เป็นภัยร้ายแรงต้องแก้ไขปัญหาให้ยุติลงอย่างรวดเร็ว จึงเป็นกรณีฉุกเฉินท่ีมี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการก๑๖ฤ๓ษรฎากีชากจิ จานุเบกษา เสลํา่มน๑ักง๒า๐น/คตณอนะกทรี่ ๗รม๖กกา/รหกนฤ้าษฎ๑ีก/๑า๑ สิงหาคม ๒๕ส๔ําน๖ักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

- ๑๑๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า - ความจําเป็นรีบด่วนอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้ในอันที่จะรักษาความปลอดภัยของประเทศและความ สํานักปงลานอคดณภะยั กสรารธมากราณรกะฤษจฎงึ ีกจาาํ เป็นต้องตราสพํารนะกั รงาาชนกคณาํ หะนกรดรนม้ี การกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า พระราชบัญญัตแิ สกํา้ไนขักเพงาิ่มนเคตณมิ ปะกรระรมมวกลากรกฎฤหษมฎาีกยาอาญา (ฉบับทส่ีํา๑นัก๗ง)าพนค.ศณ. ะ๒ก๕รร๔ม๗ก๑า๖ร๔กฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎรกีาา๒ พระราชสบําัญนักญงัตานินคี้ใณหะ้ใกชร้บรังมคกับารตกั้งฤแษตฎ่วีกันาถัดจากวันปรสะํานกักางศาในนครณาะชกกรริจมจกาารกฤษฎีกา นเุ บกษาเปน็ ตน้ ไปสํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักหงมานาคยณเหะตกุร:ร-มเหกาตรุผกลฤใษนฎกีกาารประกาศใช้พสรํานะักรางาชนบคัญณญะกตั รฉิ รบมบักานร้ีกคฤือษฎเนีก่ือางจากปัจจุบันสกําานรักใงชา้เนอคกณสะากรรรวมัตกถาุ รกฤษฎีกา อ่นื ใดหรอื ข้อมลู ทีจ่ ัดทําขน้ึ ในลกั ษณะบัตรอิเล็กทรอนิกส์ เช่น บัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรสมาร์ทการ์ด หรอื บตั รอืน่ ใดในสลําักนษักณงาะนคคลณ้าะยกกรันรมโกดายรมกฤีวษตั ฎถปุีการะสงค์เพื่อใชส้ปํารนะกั โงยาชนนค์ใณนะกการรรชมํากราระกคฤ่าษสฎินกี คา้า ค่าบริการ หรือหนี้อื่น หรือเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์อย่างหนึ่งอย่างใด กําลังเพ่ิมปริมาณและ สาํ นกั ปงรานะคเภณทะกการรรมใชกง้ าารนกฤอษยฎ่างีกแาพรห่ ลาย แลสะําปนรักางกาฏนควณา่ ไะดกม้ รีกรมารกการรกะฤทษาํ ฎคีกวาามผิดเก่ียวกับสบาํ ันตักรแงาลนะคลณักะลกอรบรมนกําารกฤษฎกี า ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นมาใช้อันส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและผู้บริโภคในวงกว้าง สมควร กําหนดความผิดสอาํ านญกั งาาสนําคหณระับกกรรามรกการระกทฤษําฎคกีวาามผิดเกี่ยวกัสบําบนัตักรงาแนลคะณขะ้อกมรรูลมอกิเาลร็กกทฤษรฎอีกนาิกส์ดังกล่าว เพิ่มเติมให้ครอบคลุมการกระทําความผิดในรูปแบบต่าง ๆ และให้มีอัตราโทษเหมาะสมกับความ สาํ นกั รงา้ ายนแครณงะขกอรงรกมากรากรรกะฤทษฎาํ คกี วาามผิด จึงจาํ สเปําน็นักตง้อานงตคณราะพกรระรมรากชารบกัญฤษญฎตั กี นิ าี้ สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (ฉบับทสี่ํา๑น๘กั ง)าพนค.ศณ. ะ๒ก๕รร๕ม๐ก๑า๖ร๕กฤษฎกี า พระราชบญั ญตั แิ ก้ไขเพม่ิ เตมิ ประมวลกฎหมายอาญา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับน้ี คือ โดยที่ปัจจุบันการก่อการร้ายและ อาชญากรรมข้ามสําชนากั ตงิไาดน้ทควณีคะวการรมมรกุนาแรกรฤงษแฎลีกะามีรูปแบบที่ซับสําซน้อกั นงามนาคกณยะ่ิงกขร้ึนรมแกลาระกไฤดษ้มฎีกกี าารใช้หนังสือ เดินทางเป็นเครื่องมือในการกระทําดังกล่าวซ่ึงส่งผลกระทบต่อความมั่นคงภายในประเทศและต่อ สํานกั คงวานามคสณัมะกพรันรธม์รกะารหกวฤ่าษงฎปกีราะเทศ สมควรสขํายนาักยงขานอคบณเขะตกรขรอมงกกาารรกกฤรษะฎทกี ําาความผิดเก่ียวสกาํ นับักหงนานังคสณือเะดกินรรทมากงารกฤษฎกี า ให้กว้างข้นึ และสมควรกาํ หนดอัตราโทษให้เหมาะสมกับความผิด จงึ จาํ เปน็ ตอ้ งตราพระราชบญั ญัตินี้ สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า พระราชบญั ญัติแก้ไขเพมิ่ เติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบบั ที่ ๑๙) พ.ศ. ๒๕๕๐๑๖๖ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สมําานตกั รงาาน๒คณะพกรระรมรกาชารบกัญฤษญฎัตีกินา ้ีให้ใช้บังคับตสํา้ังนแักตง่วาันนคถณัดะจการกรวมันกปารรกะฤกษาฎศีกใานราชกิจจา นุเบกษาเปน็ ต้นไป สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับน้ี คือ โดยท่ีมาตรา ๓ ของรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจกั รไทยสาํ (นฉักบงับานชค่วั ณคระกาวรร)มพกุทารธกศฤักษรฎาีกชา๒๕๔๙ ให้ควสาํานมักคงุ้มาคนรคอณงะศกักรดรม์ิศกราีครวกาฤมษเฎปีก็นามนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค บรรดาที่ชนชาวไทยเคยได้รับความคุ้มครองตามประเพณีการปกครอง สาํ นักปงรานะคเทณศะไกทรยรมในกราระกบฤอษบฎปีกราะชาธิปไตยอสันํามนีพักรงาะนมคหณาะกกษรัตรมริยกา์ทรรกงฤเษปฎ็นกีปาระมุข แต่บทบสําัญนญักงัตาิมนาคตณระากร๒ร๗ม๖การกฤษฎกี า ส๑าํ๖น๔ักรงาาชนกคจิ ณจาะนกุเรบรกมษกาารเลกม่ ฤษ๑ฎ๒กี๑า/ตอนพเิ ศษ ๖๕สํากน/หกั นงาา้ น๒ค๒ณ/ะ๒ก๒รรตมลุ กาาครมกฤ๒ษ๕ฎ๔ีก๗า ๑๖๕ ราชกิจจานเุ บกษา เลม่ ๑๒๔/ตอนพเิ ศษ ๔๒ ก/หนา้ ๑/๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๐ สาํ นกั งานคณะกรรมการก๑๖ฤ๖ษรฎากีชากจิ จานุเบกษา เสลํา่มน๑ักง๒า๔น/ค๕ณ๖ะกก/รหรนม้ากา๑ร/ก๑ฤ๙ษฎกนัีกยาายน ๒๕๕๐ สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า

- ๑๑๔ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา - มาตรา ๒๗๗ และมาตรา ๒๘๖ แห่งประมวลกฎหมายอาญา เป็นบทบัญญัติท่ีเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็น สาํ นกั ธงรารนมคตณ่อะบกรุครคมลกเาพรรกาฤะษเฎหีกตาุแห่งความแตสกําตน่าักงงใานนเครณื่อะงกเพรรศมสกามรคกวฤรษแฎกกี ้ไาขบทบัญญัติดสังํากนลัก่างวาในหค้สณอะดกครรลม้อกงารกฤษฎีกา กับหลักการมีสิทธิเท่าเทียมกันระหว่างชายและหญิง และหลักการห้ามมิให้เลือกปฏิบัติโดยไม่เป็น ธรรมต่อบุคคลเพสรําานะักเงหานตคุแณหะ่งกครวรามมกแารตกกฤตษ่าฎงกี ใานเร่ืองเพศที่เสคํายนไักดง้ราับนคคณวาะมกรครุ้มมคกรารอกงฤตษาฎมีกปาระเพณีการ ปกครองประเทศไทยในระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงจําเป็นต้องตรา สาํ นกั พงรานะคราณชะบกัญรรญมกัตานิ ร้ีกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พระราชบญั ญตั ิแสกํา้ไนขกัเพงาิม่ นเคตณิมปะกรระรมมวกลากรกฎฤหษมฎากี ยาอาญา (ฉบับทส่ีํา๒น๐ักง)าพนค.ศณ. ะ๒ก๕รร๕ม๐ก๑า๖ร๗กฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา นเุ บกษาเปน็ ตน้ ไปสาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นกั หงมานาคยณเหะกตรุ ร:-มเกหารตกุผฤลษใฎนกี กาารประกาศใสชํา้พนรักะงารนาคชณบะัญกญรรัตมิฉกบารับกนฤษี้ คฎือกี าโดยท่ีมีการแสกาํ ้ไนขักเงพา่ิมนคเตณิมะมกรารตมรกาารกฤษฎกี า ๒๗๖ และมาตรา ๒๗๗ แห่งประมวลกฎหมายอาญา ทําให้การอ้างถึงบทบัญญัติดังกล่าวในมาตรา ๒๗๗ ทวิ และมสาาํตนรักางา๒นค๗ณ๗ะกตรรรีมเกปาลร่ีกยฤนษแฎปกี ลางไป กรณีจึงสมํานีคักวงาามนคจณําเะปก็นรรตม้อกงารปกรฤับษปฎรกี ุงาการอ้างถึง บทบัญญัติดังกล่าวในมาตรา ๒๗๗ ทวิ และมาตรา ๒๗๗ ตรี ให้สอดคล้องกัน จึงมีความจําเป็นต้อง สํานักตงราานพครณะะรการชรบมกญั าญรกัตฤนิ ษ้ี ฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า (ฉบบั ทส่ีํา๒น๑ักง)าพนค.ศณ. ะ๒ก๕รร๕ม๑ก๑า๖ร๘กฤษฎีกา พระราชบัญญตั ิแกไ้ ขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๒ พระราชบัญญัติน้ีให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา นุเบกษาเป็นตน้ ไปสํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักหงมานาคยณเหะตกุร:ร-มเกหาตรุผกฤลษในฎกีกาารประกาศใชส้พํารนะักรงาานชคบณัญะญกรัตริฉมบกับารนก้ี ฤคษือฎเีกนา่ืองจากปัจจุบสันํากนาักรงกานําคหณนะดกเรกรณมฑกา์ รกฤษฎกี า อายุของเด็กในกรณีท่ีเด็กกระทําความผิดทางอาญายังไม่เหมาะสม และยังไม่สอดคล้องกับเกณฑ์อายุ ของเด็กท่ีกําหนดสใาํ นนกกั งฎาหนคมณายะกหรลรามยกฉารบกับฤขษอฎงีกไาทย และอนุสสัญํานญกั างาวน่าคดณ้วะยกสริทรมธิเกดา็รกกฤคษ.ศฎ.กี ๑า ๙๘๙ และ กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิของพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ค.ศ. ๑๙๖๖ ของสหประชาชาติ สํานักทงี่ปานรคะณเทะศกรไรทมยกเาขร้ากเฤปษ็นฎภกี าาคี โดยการศึกสษํานาักทงาางนกคาณระแกพรทรมยก์แาสรดกฤงใษหฎ้เีกหา็นว่า เด็กท่ีมีอสาํายนุรักะงาหนวค่าณงเะจก็ดรรปมีถกึงารกฤษฎีกา สิบสองปี มีพัฒนสาาํกนากั รงดา้านนคคณวะากมรครมิดกสาตริกปฤัญษญฎากี แาละจริยธรรมสยําังนไักมง่สานมคบณูรณะก์ รขรามดกคารวกาฤมษรฎู้สกีึกาผิดชอบช่ัวดี และไม่สามารถคาดการณ์ผลท่ีจะเกิดข้ึนจากการกระทําของตนได้ ประกอบกับได้มีการศึกษาสถิติใน สาํ นกั กงาานรกครณะะทกํารรคมวกาามรผกิดฤขษอฎงกี เาด็กช่วงวัยต่างสําๆนกัปงราานกคฏณวะ่ากรเรดม็กกทาี่มรกีอฤาษยฎุรกีะาหว่างเจ็ดปีถึงสสาํิบนสักองงานปคี มณีสะถกิตรริกมากรารกฤษฎีกา กระทําความผิดน้อยหรือไม่มีเลย นอกจากน้ี กฎหมายของไทยหลายฉบับกําหนดเกณฑ์อายุเด็กไว้ท่ี อายุสิบห้าปี เช่นสมาํ นาตกั งราาน๕คณแะหก่งรพรมรกะารรากชฤบษัญฎีกญาัติบัตรประจําสตําัวนปกั รงาะนชคาณชนะกรพร.มศก. า๒รก๕ฤ๒ษ๖ฎกี กาําหนดให้ผู้มี สัญชาติไทยต้องทําบัตรประจําตัวประชาชนเมื่อมีอายุครบสิบห้าปีบริบูรณ์ มาตรา ๔๔ แห่ง สํานักพงรานะคราณชะบกัญรรญมกตั าคิ รมุ้กคฤษรอฎงีกแารงงาน พ.ศ. ส๒ํา๕น๔กั ง๑านกคําณหะนกดรหรม้ากมามรใิกหฤน้ ษาฎยกี จาา้ งจ้างเด็กอายสาํุตน่ําักกงวา่านสคิบณหะ้ากปรรีเปมก็นารกฤษฎกี า ลูกจ้าง และมาตรา ๑๗ แห่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ กําหนดให้มีการศึกษา สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ๑๖๗ ราชกิจจานเุ บกษา เล่ม ๑๒๔/๕๖ ก/หนา้ ๕/๑๙ กันยายน ๒๕๕๐ สํานกั งานคณะกรรมการก๑๖ฤ๘ษรฎากีชากิจจานุเบกษา เสลําม่ น๑ักง๒า๕น/ค๓ณ๐ะกก/รหรนม้ากา๑ร๙ก/ฤ๗ษฎกุมกี ภาาพนั ธ์ ๒๕๕๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

- ๑๑๕ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา - ภาคบังคับจํานวนเก้าปี โดยให้เด็กซึ่งอายุย่างเข้าปีที่เจ็ดเข้าเรียนในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานจนอายุ สาํ นักยง่าานงเคขณ้าะปกีทรรี่สมิบกหารกกฤแษสฎดกี งาให้เห็นว่าเดส็กําอนาักยงาุสนิบคหณ้าะปกรีกรฎมหกามรากยฤษยฎอีกมารับว่าเริ่มก้าวสสํานู่คักวงาานมคเปณ็นะกผรู้ใรหมญกา่ รกฤษฎกี า มีความสามารถรับผิดชอบได้ ประกอบกับเด็กช่วงอายุดังกล่าวยังอยู่ในวัยเรียน สมควรได้รับโอกาส เพอื่ บาํ บัดและปรสบั าํ เนปักลง่ยีานนคพณฤะตกิกรรรรมมกมารากกฤกษวฎา่ จกี าะมารับโทษทาสงําอนากั ญงาานคในณขะณกระรเมดกียาวรกกันฤษอฎนกีุสาัญญาว่าด้วย สิทธิเด็ก ค.ศ. ๑๙๘๙ และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิของพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ค.ศ. สาํ นัก๑งา๙น๖ค๖ณะขกอรงรสมหกาปรรกะฤชษาฎชกี าาติ และพระรสาําชนบกั ัญงาญนคัตณิจัดะกตรั้งรศมากลาเรยกาฤวษชฎนีกแาละครอบครัวสแําลนะักวงาิธนีพคิจณาะรกณรรามคกดาี รกฤษฎกี า เเยพา่ิมวเชตนิมแปลระะคมรวอลบสกาํคฎนรหกั ัวมงาพานย.คศอณ.า๒ญะก๕ารเ๓รพม๔่ือกกากรํา็ไกดหฤ้กนษําดฎหเีกกนาณดเฑก์อณาฑย์อุขาอยงุเเสดดํา็ก็กนไใักวนง้ทกาน่ีอรคาณยณีทุตะ่ีเํ่ากดกร็กรวกม่ารกสะาิบรทแกําปฤคษดวฎปากีีมสาผมิดคอวารญแกาใ้ไหข้ สาํ นกั เงหามนาคะณสะมกแรรลมะกสาอรกดฤคษลฎ้อกี งากับกฎหมายขสอํานงไกั ทงยานแคลณะะอกนรุสรมัญกญารากรฤะษหฎวกี่าางประเทศดังกสลาํ ่านวักงาจนึงคจณําเะปก็นรรตม้อกงารกฤษฎกี า ตราพระราชบญั ญตั นิ ี้ สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า พระราชบญั ญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับท่ี ๒๒) พ.ศ. ๒๕๕๘๑๖๙ สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๒ พระราชบัญญัติน้ีให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา นุเบกษาเป็นตน้ ไปสาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักหงมานาคยณเหะตกุร:ร-มเกหาตรกุผฤลษในฎกีกาารประกาศใชส้พํารนะกั รงาานชคบณัญะญกรัตริฉมบกับารนกี้ ฤคษือฎโกี ดายท่ีในการพิจสาาํรนณักางาคนดคีใณนปะกัจรจรุบมกันารกฤษฎกี า มีข้อโต้แย้งเกี่ยวสกาํ นับักคงวานาคมณหะมการยรมขกอางรคกําฤวษ่าฎกี “าเจ้าพนักงานส”ํานสกั มงาคนวครณกะํากหรรนมดกบารทกนฤษิยฎาีกมาคําว่า “เจ้า พนกั งาน” ไวใ้ ห้ชัดเจน นอกจากนนั้ ประมวลกฎหมายอาญายังมไิ ด้กําหนดความผิดเก่ยี วกับศพ ได้แก่ สํานักกงาารนกครณะะทกาํรชรมําเกราารศกพฤษกฎากี รากระทาํ อนาจาสรํานแักกงศ่ าพนคกณาะรกกรรระมทกําาใรหก้ศฤษพฎเสกี ยี าหาย และการสดาํ นูหักมง่ินาเนหคยณียะดกหรรยมากมารกฤษฎีกา ศพอันเป็นการละเมิดต่อสิทธิของบุคคลในครอบครัว เกียรติยศ และชื่อเสียง สมควรให้มีบทบัญญัติ ความผิดดังกลา่ วปสํารนะกักงอาบนคกณับมะการตรรมาก๓าร๙ก๗ฤษแฎหีก่งาประมวลกฎหสมํานาักยงอาานญคณาบะัญกรญรมัตกิเฉารพกาฤะษกฎรีกณาีกระทําการ อันเป็นการรังแก ข่มเหง หรือกระทําให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรําคาญในที่สาธารณสถาน สาํ นกั หงรานือคตณ่อหะกนรา้ รธมากรากรํากนฤลัษฎซีก่ึงายังไมค่ รอบคลสมุํานกักางรากนรคะณทะํากใรนรทมร่ีกโาหรฐกาฤนษฎกกี าารคกุ คาม การสกํารนะักทงาําอนนัคณมีละกกั รษรณมกะารกฤษฎีกา ส่อไปในทางท่ีจะล่วงเกินทางเพศ และการกระทําโดยอาศัยเหตุที่ผู้กระทํามีอํานาจเหนือผู้ถูกกระทํา สมควรกาํ หนดให้กสาํานรกกั งราะนทคาํ ณดะงั กกรลรา่ มวกเปารน็ กคฤวษาฎมกีผาิดเพ่อื คมุ้ ครองสสําทินักธิขงาอนงคบณุคะคกลรใรนมคกวาารมกเฤปษ็นฎอกี ยาู่ส่วนตัวด้วย อีกท้ังอัตราโทษปรับสําหรับความผิดลหุโทษยังไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ สาํ นกั สงมานคควณระปกรรรับมปการรุงกอฤัตษรฎากี โาทษปรับให้สสําอนดักคงาลน้อคณงกะักบรสรมภกาาวรกกฤาษรฎณกี ์ใานปัจจุบัน สจําึงนจักํางเาปน็คนณตะ้อกงรตรมรกาารกฤษฎีกา พระราชบัญญัตินสี้ ํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นกั พงรานะคราณชะบกญัรรญมกตั าแิ รกกไ้ฤขษเฎพกีมิ่ าเติมประมวลกสฎํานหักมงาายนอคาณญะการ(รฉมบกับารทก่ี ฤ๒ษ๓ฎ)กี พา.ศ. ๒๕๕๘๑๗ส๐ํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สมาํ านตกั รงาาน๒คณะพกรระรมรกาชารบกัญฤษญฎัตกี ินา ้ีให้ใช้บังคับตสํา้ังนแักตง่วาันนคถณัดะจการกรวมันกปารรกะฤกษาฎศกี ใานราชกิจจา นเุ บกษาเป็นต้นไป สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๑๖๙ ราชกจิ จานุเบกษา เลม่ ๑๓๒/ตอนที่ ๑๐ ก/หนา้ ๔๓/๑๓ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๕๘ สาํ นักงานคณะกรรมการก๑๗ฤ๐ษรฎากีชากิจจานเุ บกษา เสลํา่มน๑กั ง๓า๒น/คตณอนะกทร่ี ๑รม๐กกา/รหกนฤ้าษฎ๔ีก๘า/๑๓ กุมภาพันธส์ ๒าํ น๕ัก๕ง๘านคณะกรรมการกฤษฎีกา

- ๑๑๖ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า - หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ ตามท่ีมีกฎหมายกําหนดให้ผู้กระทํา สาํ นักคงวานามคณผิดะกฐรารนมกกราะรกทฤําษชฎําีกเราาเด็กอายุกว่าสสํานิบกั สงาามนปคณีแตะก่ไมรร่เมกกินาสริบกฤหษ้าฎปกีีไมา ่ต้องรับโทษ สหําานกักศงาานลคอณนะุญกรารตมใกหา้ รกฤษฎกี า ผู้กระทําความผิดสมรสกับผู้เสียหายที่เป็นเด็กน้ัน ทําให้เกิดปัญหากรณีเด็กถูกบังคับให้ยินยอมสมรส กับผู้กระทาํ ความสผําิดนโกั ดงยาศนคาลณไะมก่อรารจมตกรารวกจฤสษอฎบีกไาด้ สมควรกําหสนํานดักใหงา้ศนาคลณทะ่ีมกีอรรํามนกาาจรพกิจฤาษรฎณีกาาคดีเยาวชน และครอบครัวเป็นศาลท่ีมีอํานาจพิจารณาคดีในลักษณะน้ี นํามาตรการคุ้มครองสวัสดิภาพตาม สาํ นักกงฎานหคมณาะยกวรร่ามดก้วายรกกฤาษรฎคกีุ้มาครองเด็กมาสใําชน้ กั หงรานือคพณิจะากรรณรมากอารนกุญฤษาฎตีกใหา ้สมรสโดยกสําําหนนักงดาเนงคื่อณนะไกขรทรมี่จกะารกฤษฎีกา ลดะําเเอนียินดกราอรบภคาอยบหสยลํา่ิงังนขกักึ้นางรแาสนลมคะเณรปสะ็นดกไร้วปรยมเพกเพ่ือารปื่อกรใฤหะษโ้มยฎีกชีกานาร์ขตอรงวเจดส็กออบยค่าสงวําแานทมัก้จยงรินาิงนยคแอณลมะะขกใอนรงรกเมรดกณ็การใีทนกี่ศฤกาษาลฎรมสีกีคมาํารสส่ังไอดย้อ่ายง่ใาดง สาํ นกั แงลาน้วคศณาะลกจรระมลกงาโรทกษฤผษู้กฎกีระา ทําความผิดสนํา้อนยักกงาวน่าคทณี่กะฎกหรรมมากยากรกําฤหษนฎดีกไาว้สําหรับความสาํผนิดักนงั้นานเคพณียะงกใดรรกม็ไกดา้ รกฤษฎีกา เพื่อป้องกันมิให้ผู้กระทําความผิดใช้การสมรสเป็นเหตุให้ไม่ต้องรับโทษ และโดยท่ีบทบัญญัติความผิด เก่ียวกับเพศและสคําวนากั มงผานิดคตณ่อเะสกรรีภรมากพาทรก่ีกฤรษะฎทกีําาต่อเด็กได้กําหสนํานดกัใหงา้อนาคยณุเดะก็กรเรปม็นกอารงกคฤ์ปษรฎะกีกาอบความผิด ทําให้ผู้กระทําความผิดอ้างความสําคัญผิดหรือความไม่รู้ในข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบความผิด สาํ นักเงพา่ือนไคมณ่ตะ้อกงรรรัมบกผาิดรหกฤรษือฎไดกี ้ราับยกเว้นโทษสําหนรกั ืองาไนดค้รับณโะทกรษรนม้อกยารลกงฤไษดฎ้ สีกมาควรกําหนดใสหาํ ้นผักู้กงราะนทคําณคะวการมรมผกิดารกฤษฎีกา เก่ียวกับเพศหรือความผิดต่อเสรีภาพซึ่งได้กระทําต่อเด็กที่มีอายุไม่เกินสิบสามปี ไม่อาจอ้างความไม่รู้ อายุของเด็กเพ่ือใสหํา้นพัก้นงจาานกคคณวะากมรรรมับกผาิดรกทฤาษงอฎากี ญา า ทั้งนี้ เพื่อสใําหน้เักดง็กานไดคณ้รับะกครวรามมกคาุ้มรกคฤรษอฎงีกตาามกฎหมาย มากย่งิ ขึ้น อกี ทั้งสมควรปรับปรุงอัตราโทษปรับให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน จึงจําเป็นต้อง สํานักตงราานพครณะะรการชรบมกญั าญรกัตฤินษ้ี ฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา (ฉบับทส่ีํา๒น๔ักง)าพนค.ศณ. ะ๒ก๕รร๕ม๘ก๑า๗ร๑กฤษฎีกา พระราชบญั ญัติแกไ้ ขเพม่ิ เติมประมวลกฎหมายอาญา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๒ พระราชบัญญัติน้ีให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกําหนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศ ในราชกจิ จานุเบกสษํานาเักปงน็านตค้นณไปะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักหงมานาคยณเหะกตรุ ร:-มกเหารตกุผฤลษใฎนกี กาารประกาศใสชําน้พักรงะารนาคชณบะักญรญรมัตกิฉาบรกับฤนษ้ีฎคกี ือา โดยท่ีการคสราํอนบักคงารนอคงณสะื่อกลรารมมกการกฤษฎกี า อนาจารเด็กเป็นการละเมิดสิทธิข้ันพ้ืนฐานของเด็กตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก และเป็นปัจจัยท่ี ก่อให้เกิดการล่วงสลาํ ะนเักมงิดานทคาณงเะพกศรรตม่อกเดาร็กกแฤลษะฎสีก่งาผลกระทบต่อสสํานวัสกั งดาิภนาคพณขะอกงรเรดม็กกาปรกรฤะษกฎอีกบากับความผิด เก่ียวกับการค้าหรือทําให้แพร่หลายซ่ึงวัตถุหรือสิ่งลามกไม่ได้แยกประเภทระหว่างส่ือลามกอนาจาร สํานกั ผงู้ใาหนญคณ่กะับกสรื่อรมลกาามรกกอฤนษาฎจกี าารเด็กไว้ทั้งท่ีลสักํานษกั ณงาะนคควณามะกผริดรมมีคกาวรากมฤรษ้าฎยกีแารงแตกต่างกันสาํ นดักังงนาั้นนคเณพื่อะกใหรร้เมดก็การกฤษฎีกา ได้รับการคุ้มครอสงํานแกัลงะาปน้คอณงกะักนรจรามกกการากรฤถษูกฎลีก่วางละเมิดทางสเําพนศักมงาานกคขณ้ึนะกสรมรมคกวารรกกําฤหษนฎีกดาให้ความผิด เก่ียวกับการค้าหรือทําให้แพร่หลายซ่ึงวัตถุหรือสิ่งลามกท่ีเป็นส่ือลามกอนาจารเด็กเป็นความผิดที่ สํานักผงู้กานรคะณทําะกตร้อรงมไกดา้รรับกฤโทษษฎกีหานักขึ้น รวมทส้ังํากนําักหงนานดคใณหะ้กการรรคมรกอารบกคฤรษอฎงีกแาละส่งต่อซ่ึงสื่สอาํลนาักมงกานอคนณาะจการรรเมดก็การกฤษฎีกา เปน็ ความผิด จงึ จาํ เปน็ ต้องตราพระราชบัญญัตนิ ี้ สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า พระราชบญั ญตั แิ กไ้ ขเพม่ิ เตมิ ประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๕) พ.ศ. ๒๕๕๙๑๗๒ สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๑๗๑ ราชกิจจานเุ บกษา เล่ม ๑๓๒/ตอนท่ี ๘๖ ก/หนา้ ๘๔/๘ กนั ยายน ๒๕๕๘ สํานักงานคณะกรรมการก๑๗ฤ๒ษรฎากีชากิจจานเุ บกษา เสลําม่ น๑กั ง๓า๓น/คตณอนะกทรี่ ๓รม๑กกา/รหกนฤา้ษฎ๑กี/๗า เมษายน ๒๕๕ส๙าํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

- ๑๑๗ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา - มาตรา ๒ พระราชบัญญัติน้ีให้ใช้บังคับต้ังแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา สาํ นกั นงเุาบนกคษณาะเกปร็นรมตกน้ าไรปกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สมาํ านตักรงาาน๑ค๐ณะกบรทรบมกญั าญรกัตฤิมษาฎตกี ราา ๓๐ แหง่ ปรสะํามนวกั ลงากนฎคหณมะากยรอรมาญกาารซก่ึงฤแษกฎ้ไกีขาเพ่ิมเติมโดย พระราชบญั ญตั ินี้ ใหใ้ ช้บงั คับแก่ผทู้ ่ีถูกกักขังแทนค่าปรับอยู่ในวันที่พระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับด้วยและ สํานักเงมาอ่ื นคคําณนะวกณรรรมะกยาะรเกวฤลษาฎกกีาารกักขงั แทนคา่สปํานรักับงตาานมคอณัตะรการใรหมมกแ่ารลก้วฤษหฎากกี าปรากฏว่าผู้น้ันสถํานูกักกงักาขนังคมณาะจกนรครมรกบารกฤษฎีกา ผหู้นรือั้นเถกูกินกรกั ะขยงั ะมเาวเลสกาาํนิ นทกักี่คํางหําานนนควดณณหะนไกดงึ่ ร้ดปรังแีมกลกลาว้ ร่ากใวหฤป้หษลฎรือ่อกี ายในตกวั ไรปณทีทนั ี่ศทาี ลสพํานิพกั างกาษนคาใณหะ้ปกรรรับมไกมา่ถรึกงสฤษอฎงแีกสา นบาทและ สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๑๑ ให้ประธานศาลฎีกาและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมรักษาการ ตามพระราชบญั ญสําัตนนิ กั ้ี งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักหงมานาคยณเหะตกรุ :ร-มเกหาตรกุผฤลษใฎนีกกาารประกาศใชส้พํานรักะงราานชคบณัญะกญรัตรมิฉกบาับรกนฤี้ คษือฎกี โาดยที่หลักเกณสฑําน์แักลงะาวนิธคีกณาะรกบรังรคมกับารกฤษฎีกา โทษปรับในเรื่องการยึดทรัพย์สินหรืออายัดสิทธิเรียกร้องในทรัพย์สินเพ่ือใช้ค่าปรับยังไม่ได้กําหนดไว้ และการกําหนดอสัตํานราักเงงาินนใคนณกะากรรกรมักกขาังรแกทฤนษคฎ่กีาปา รับที่ใช้อยู่ในสปํานัจักจงุบานันคไมณ่สะกอรดรคมลก้อารงกกฤับษสฎภีกาาพเศรษฐกิจ และสังคมที่เปล่ียนแปลงไป สมควรกําหนดหลักเกณฑ์และวิธีการดังกล่าวให้ชัดเจนเพ่ือให้ผู้มีหน้าท่ี สํานักปงฏานิบคัตณิงะากนรสรามมกาารรกถฤปษฏฎิบีกัตาิได้ รวมทั้งกําสหํานนกั ดงอานัตครณาเะงกินรใรนมกกาารรกกฤักษขฎังแีกทา นค่าปรับให้สสอาํ นดักคงลาน้อคงกณับะกคร่ารแมรกงารกฤษฎีกา ข้ันต่ําและภาวะเสศาํ รนษกั งฐากนิจคณสะ่วกนรบรมทกบาัรญกญฤษัตฎิวีก่าาด้วยการรอกสาํารนกกั ํางหานนคดณโทะกษรหรมรือการรอกกฤาษรฎลีกงาโทษซ่ึงเป็น วิธีการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทําความผิดท่ีไม่ควรถูกส่งเข้าสู่ระบบเรือนจํา ยังไม่มีการนํามาใช้กับผู้ท่ีจะถูก สาํ นกั ลงงาโนทคษณปะรกับรรรมวกมาทรกั้งไฤมษ่เฎปีกิดาโอกาสให้ผู้ที่เสคํายนตักง้อางนโคทณษะจกํารครุกมแกมาร้เกพฤียษงฎเลีก็กาน้อยหรือมิใชส่ผําู้กนรักะงาทนําคผณิดะตกิดรนรมิสกัยารกฤษฎกี า ได้รับโอกาสในการรอการกําหนดโทษหรือรอการลงโทษ ทําให้มีผู้ต้องถูกจําคุกระยะสั้นอยู่ในเรือนจํา เป็นจํานวนมาก สสาํมนคักวงราแนกค้ไณขะหกลรรักมเกกาณรกฑฤ์ใษนฎเรีกื่อางดังกล่าวให้เสหํามนกัาะงาสนมคยณิ่งะขกึ้นรรนมอกการจกาฤกษนฎ้ี กีปาัจจุบันมีการ ใช้ผ้ทู มี่ คี วามอ่อนแอทางร่างกายหรือจติ ใจ หรือผู้ท่ีอยู่ในภาวะจํายอมให้กระทําความผิดมากข้ึน ซ่ึงไม่ สาํ นกั เงพาียนงคแณตะ่สกรร้ารมงคกวารากมฤเสษียฎหกี าายให้แก่ผู้ท่ีเปส็นํานเหักงยา่ือนขคอณงะอการชรญมกาากรรกรฤมษฎยีกังาทําให้ผู้ท่ีถูกใชส้ซาํ น่ึงไักมง่มานีมคูลณเหะกตรุจรูงมใกจารกฤษฎกี า ในการกระทําความผิดมาก่อนต้องกระทําความผิดและได้รับโทษ ท้ังอาจต้องตกอยู่ในภยันตรายและ ได้รับความเดือดรส้อํานนตัก่องาตนนคเณองะแกลรระมคกราอรบกฤคษรัวฎกี สามควรกําหนดสใหําน้ผกั ู้ใงชา้ในนคกณรณะกีดรัรงกมลกา่ารวกตฤ้อษงฎรกีับาโทษหนักขึ้น และใหม้ มี าตรการลดโทษแก่ผู้ถูกใช้หรือผู้กระทําตามคําโฆษณาหรือประกาศแก่บุคคลทั่วไปให้กระทํา สาํ นักคงวานามคผณิดะทกร่ีไรดม้เปกาิดรเกผฤยษขฎ้อกี มาูลสําคัญจนสาสมํานารกั ถงาดนําคเนณินะกครดรีกมับกผารู้ใกชฤ้หษรฎือีกผาู้โฆษณาหรือปสราํ ะนกักางศานดคังกณละ่กาวรรดม้วกยารกฤษฎกี า จึงจําเปน็ ต้องตราสพํารนะกั รงาานชคบณัญะญกตัรรนิ มี้ การกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นกั พงรานะคราณชะบกญัรรญมกตั าิแรกก้ไฤขษเฎพกีิม่ าเตมิ ประมวลกสฎํานหักมงาายนอคาณญะการ(รฉมบกบั ารทก่ี ฤ๒ษ๖ฎ)ีกพา.ศ. ๒๕๖๐๑๗ส๓ํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สมาํ านตกั รงาาน๒คณะพกรระรมรกาชารบกัญฤษญฎัตกี ินา ี้ให้ใช้บังคับตสําั้งนแกั ตง่วาันนคถณัดะจการกรวมันกปารรกะฤกษาฎศกี ใานราชกิจจา นุเบกษาเป็นตน้ ไป สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นกั งานคณะกรรมการก๑๗ฤ๓ษรฎากีชากจิ จานุเบกษา เสลํา่มน๑กั ง๓า๔น/คตณอนะกทร่ี ๓รม๒กกา/รหกนฤ้าษฎ๕ีก๑า/๒๐ มนี าคม ๒ส๕ํา๖น๐ักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า

- ๑๑๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า - หมายเหตุ :- เหตผุ ลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับน้ี คือ โดยท่ีสมควรกําหนดกรอบระยะเวลา สํานักกงาานรบคณังคะักบรโรทมษกปารรกับฤใษหฎ้รกี วามถึงเร่ืองการสอํานาักยงัดาสนิทคณธิเะรกียรกรมรก้อางรใกนฤทษรฎัพกี ยา์สินเพ่ือใช้ค่าสปํานรับักงดา้วนยคเณพะื่อกครรวมากมารกฤษฎกี า ชัดเจนและเน่ืองจากบทบัญญัติเกี่ยวกับอัตราโทษปรับในประมวลกฎหมายอาญายังไม่สอดคล้องกับ สภาพเศรษฐกิจแสลาํ ะนสักังงคานมคขณองะกปรรระมเกทาศรใกนฤปษัจฎจกี ุบาัน สมควรปรสับํานปักรงุงาบนทคบณัญะกญรัตรมิดกังากรลก่าฤวษใฎหกี้สาอดคล้องกับ สภาวการณ์ในปัจจุบัน รวมทั้งสมควรปรับปรุงความผิดที่มีโทษทางอาญาซึ่งไม่มีโทษปรับ ให้มีโทษ สาํ นกั ปงรานบั คดณว้ ยะกรจรึงมจกาํ าเรปก็นฤตษอ้ฎงีกตาราพระราชบสัญําญนักตั งินาี้นคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

- ๑๑๙ สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า - สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงวารนญิ คาณ/ะเพกรมิ่ รเมตกิมารกฤษฎกี า ๘ เมษายน ๒๕๕๙ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า นสุ รา/ตรวจ ๑สาํ๑นักเมงาษนาคยณนะ๒กร๕ร๕มก๙ารกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎวีกราญิ า/เพ่มิ เตมิ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ส๒ํา๓นักมงาีนนาคคณมะ๒กร๕ร๖มก๐ารกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษปฎรกี ิญาสินีย/์ ตรวจ ๒๔ มนี าคม ๒๕๖๐ สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook