คาแผ่เมตตาหลงั จากทาสมาธิ “ สพั เพ สตั ตา สะทา โหนต,ุ อะเวราสุขะชวี โิ น ขอใหส้ ตั วท์ งั้ หลาย จงเป็ นผูไ้ ม่มเี วร ตอ่ กนั และกนั จงเป็ นผูด้ ารงชพี อยู่เป็ นสุขทุกเมอื่ เถดิ ”
คาอทุ ศิ ส่วนกศุ ลหลงั จากทาสมาธิ “กะตงั ปุญญงั ผะลงั มยั หงั , สพั เพภาคี ภะวนั ตุ เต ขอใหส้ ตั วท์ งั้ สนิ ้ นนั้ จงเป็ นผูไ้ ด้ เสวยผลบญุ อนั ทขี่ า้ พเจา้ ไดบ้ าเพ็ญ แลว้ นนั้ เทอญ”
การอบรมจติ 1. สมาธภิ าวนา 2. วปิ ัสสนาภาวนา
องคป์ ระกอบการบรหิ ารชวี ติ บรหิ ารงาน บรหิ ารกาย คสวขุาม บรหิ ารจติ พลงั กาย พลงั จติ
สมถภาวนา เสน้ ทางการฝึ กจติ 1. ฌาน 1 - 9 = สมาธิ สตเิ ขม้ แข็ง (ศลี + สติ + สมั ปชญั ญะ) 2 วปิ ัสสนาภาวนา = ปัญญา มหาสติ + ปัญญา (ใชก้ ฎ ญาณ 1 - 16 ของพระไตรลกั ษณ)์ . แนวทางมหาสตปิ ัฏฐาน 4 (กาย-เวทนา-จติ -ธรรม) ทางสายเอก คอื
กระบวนการการบรหิ าร ชวี ติ ตามแนวทางพุทธศาสนา วธิ กี าร มรรค ๘ ๑.ศลี ๒.สมาธิ ๓.ปัญญา
กระบวนการการบรหิ ารชวี ติ ตามแนวทางพทุ ธศาสนา ขมุ พลงั อนิ ทรยี ์ ๕ หรอื พละ ๕ ๑.ศรทั ธา ๒.วิรยิ ะ ๓.สติ ๔.สมาธิ ๕.ปัญญา
พุทธวธิ ใี นการการบรหิ ารจติ ใจสงบ ใจสูงขนึ้ พลงั จติ เขม้ แขง็ ๑. การรักษาศีล ๒. การไหว้พระสวดมนต์ ๓. การนัง่ สมาธิ 8. การเจริญสติ ๔. การเดินจงกรม 9. การพิจารณาธรรม ๕. การนอนทาสมาธิ 10. การบาเพ็ญบญุ ๖. การนบั ลกู ประคา 11. การแผเ่ มตตา ๗. การใชเ้ สียงเพลง-ดนตรี 12.อุทิศสว่ นกศุ ล การปฏิบัติตามหลักธรรม ฯลฯ
จงเตอื นตน ดว้ ยตนเอง “ตนเตือนตนของตน ให้พ้นผิด ตนเตือนจิตตนได้ ใครจะเหมือน ตนเตือนตนไมไ่ ด้ ใครจะเตือน ตนแชเชือนใครจะเตือน ใหพ้ ้นภยั
ประเดน็ อภปิ ราย การแผเ่ มตตาและการอทุ ิศสว่ นกุศล แตกตา่ งกนั อยา่ งไร
โลกธรรม 8 มลี าภ………เสอื่ มยี ศ………เสอื่ ม มสี ขุ ………มที สรรเสรญิ ………
ขอเดอุทชิศะตสัง้ว่ จนิตกอศุ ทุลิศผล บญุ กุศลแผ่ไปใหไั พศาล ถึงบิดามารดาครูอาจารย์ ทั้งวงศว์ านญาติมิตรสนิทกนั ทั้งคนรักคนชงั แต่ครั้งไหน ทขั้งอเจจา้ กงไรดรมส้ นว่ ายนเวกรศุ ปวลงผเทลวญัของฉนั ขอได้รบั สว่ นกศุ ลของฉันนเน้ั ทดอว้ ยญ.
Search