Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทเรียนออนไลน์

บทเรียนออนไลน์

Published by pim, 2020-04-06 02:45:50

Description: บทเรียนออนไลน์

Search

Read the Text Version

การฝึกฝนและพฒั นาตนเอง การพง่ึ ตนเองและการม่งุ อสิ รภาพ กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู งั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม โรงเรียนดารงราษฎรส์ งเคราะห์ สานักงานเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศึกษา เขต 36







การฝึกอบรมตน หมายถึง การฝกึ ตนเองให้กระทาความดที ้ังทาง กาย วาจา และใจ ซึง่ ถือวา่ เปน็ ผพู้ ัฒนาตนเอง ไม่ก่อใหเ้ กิดความเดือดร้อนตอ่ ตนเอง ครอบครวั และสังคมโดยรวม โดยอาศยั หลักของไตรสิกขา

การฝึกอบรมตน 1. ศลี เป็นการฝึกการควบคมุ พฤตกิ รรมทาง กาย และวาจา เคร่อื งมอื ท่ใี ชฝ้ ึกศีลคือ วนิ ัย เพราะวนิ ัยเปน็ ตัวการจดั เตรยี มชวี ติ ใหอ้ ยูใ่ น สภาพที่เอื้อตอ่ การพฒั นา โดยการจัด ระเบยี บความเป็นอยู่ การดาเนินชีวติ และการอยู่รว่ มกนั ในสังคม

2. สมาธิ เปน็ การฝึกในดา้ นจติ ไดแ้ ก่การพฒั นา จิตท้ังในด้านคุณธรรม เช่น มีความเมตตากรุณา ความเออื้ เฟอื้ เผอื่ แผ่ มจี ติ ใจทเ่ี ขม้ แข็งมัน่ คง มี ความเพียรพยายาม มีความรบั ผดิ ชอบ มีความ อดทนอดกลน้ั มีความขม่ ใจ เปน็ ต้น และ มี สุขภาพจติ ทีด่ ีมีความสขุ เช่น มีความอิ่มเอมใจมี ความร่าเริงเบกิ บานใจ มคี วามสดชืน่ ผอ่ งใส มี ความรูส้ กึ พึงพอใจ

3. ปญั ญา เปน็ การฝกึ พัฒนาด้าน ความร้คู วามเข้าใจ ความรู้ทม่ี ี เหตผุ ล รู้จกั การคิดวิเคราะห์ การ สงั เคราะห์ ตลอดจนรเู้ ท่าทนั การ เปล่ยี นแปลงของสงั คมโลก เป็นตน้

การพึ่งตนเอง หมายถงึ การทาตนใหเ้ ปน็ ทพ่ี ึ่งของ ตนได้ พร้อมท่จี ะรบั ผิดชอบตนเอง ไมท่ าตัวใหเ้ ป็น ปัญหาหรอื เป็นภาระให้กบั บคุ คลอนื่ การพงึ่ ตนเองโดย ไม่คอยแตพ่ ่ึงบคุ คลอน่ื หรอื การคอยออ้ นวอนจากสง่ิ ศกั ด์ิสทิ ธิต์ า่ ง ๆ ให้ช่วยเหลือตนเอง เวลาที่เกดิ ความ ลาบาก หรอื ความทกุ ขใ์ จ เปน็ ตน้

การประพฤติธรรมสาหรับสร้างที่พ่งึ แก่ตนเอง มี 10 ประการ 1. ประพฤติดีมีวนิ ัย คือ ดาเนนิ ชีวติ โดยสุจริต ทงั้ ทางกาย ทางวาจา มวี นิ ยั และประกอบ อาชพี สจุ รติ (สัมมาชีพ)

2. ไดศ้ กึ ษาสดบั ตรับฟังมาก คอื ศกึ ษาเลา่ เรยี นสดับรับฟงั มาก โดยศกึ ษาวชิ าการให้มี ความรคู้ วาม ชานาญอย่างแท้จรงิ มีความรูแ้ จ้ง ชัดเจน และสามารถนา ความรู้ไปประยกุ ต์ใช้ในดาเนนิ ชวี ิตได้

3. รู้จักคบคนดี คอื มกี ลั ยาณมิตร รูจ้ กั เลอื กคบหาสมาคมกบั คนทด่ี ี เป็นท่ีปรกึ ษาหรอื เป็นผแู้ นะนา สัง่ สอนเราไปในทางทดี่ ี เลอื กสร้าง ความสมั พันธ์หรือเก่ยี วขอ้ งใน สิ่งแวดลอ้ มทางสังคมทด่ี ี ซ่งึ จะทาให้มชี ีวติ ทเ่ี จริญงอกงาม

4. เปน็ คนทพ่ี ูดกนั งา่ ย คอื ไมด่ ้ือร้นั เป็นคนกระด้างกระเดอ่ื ง รู้จักรับฟงั เหตุผล ยอมรับความคดิ เหน็ ของคนอื่น และยอมรบั ข้อเสนอแนะพรอ้ มท่ีจะ ปรบั ปรุงตนเอง

5. ขวนขวายกจิ ของหมู่ คือเอาใจใส่ ช่วยเหลอื ธุระหรือกิจการงานของ หมู่คณะ ญาติ เพือ่ นฝงู และภายใน ชมุ ชนของตนเอง รู้ใจใชป้ ัญญา ไตรต่ รองหาวิธดี าเนนิ งานทเ่ี หมาะสม สามารถดาเนนิ งานให้สาเรจ็ ลุล่วง ไปดว้ ยดี

6. เป็นผู้ใฝ่ในธรรม คือ ศึกษา ธรรม หรอื ชอบศกึ ษาหาความรู้ ร้จู ัก พูด รู้จักฟงั สรา้ งความรูส้ กึ สนทิ สนม ทาตวั เป็นท่รี กั ใคร่ของบุคคล อ่ืน และชวนใหผ้ ูอ้ ื่นอยากเขา้ มา ปรึกษาและร่วมสนทนาด้วย

7. มีความขยันหมนั่ เพยี ร คือ มคี วาม มุมานะบากบัน่ ขยนั เรยี นขยนั ทา กจิ การงาน ไม่ย่อท้อ รักความกา้ วหน้า พยายามหลกี เลย่ี งจากความชั่ว ประกอบแตค่ วามดงี าม เป็นต้น

8. มคี วามพอดี คือ มี ความยินดี มคี วามพึงพอใจ ในสงิ่ ทีค่ วรไดแ้ ละไม่ควรได้ รู้จกั ความพอดีไมล่ ะโมบโลภ มาก

9. มสี ติม่นั คง คือ รู้สึกตนเอง อยู่ตลอดเวลา ระลกึ อยูเ่ สมอใน สงิ่ ทีก่ ระทา ส่งิ ท่คี ิด มีความสขุ ุม รอบคอบ ไมป่ ระมาทเลินเล่อ ไม่ เล่อื นลอย เปน็ ต้น

10. มปี ญั ญาอยเู่ หนอื อารมณ์ คอื มปี ญั ญาหยงั่ รเู้ หตผุ ล รดู้ รี ชู้ ว่ั รคู้ ณุ รูโ้ ทษ รู้สิ่งทเี่ ปน็ ประโยชนแ์ ละ ไมเ่ ปน็ ประโยชนม์ องสิ่งทั้งหลายตาม ความเปน็ จรงิ และมคี วามคิดวิจารณญาณ

การพงึ่ ตนเอง การพง่ึ ตนเองตามหลกั พทุ ธศาสนสุภาษติ คือ “อตฺตาหิ อตฺตโน นาโถ” แปลว่า ตนแลเป็ นทพ่ี ง่ึ ของตน หมายความว่า คนเราในระยะแรก ๆ มคี วามจาเป็ น จะต้องพง่ึ พาอาศัยผู้อื่น แต่เมื่อเรา เตบิ โตมวี ชิ าหาเลยี้ งชีพได้แล้ว เราจะต้องพง่ึ ตนเองในการทามาหากนิ ในการสร้างฐานะ และในการเกบ็ รักษาทรัพย์ที่หามาได้เพ่ือจับจ่าย ใช้สอยในยามแก่เฒ่า นอกจากจะต้องทา ตนให้เป็ นทพี่ ง่ึ แก่ตนแล้วเรากจ็ ะต้องให้ผู้มี พระคุณมบี ิดามารดาเป็ นต้น เหล่าน้ันพงึ่ เราได้ใน ส่ิงทท่ี ่านต้องการจะพงึ่

การมงุ่ อสิ ระ อิสรภาพ แปลวา่ ความเป็นใหญ่ในตวั เองรอด พน้ ต่อส่ิงบีบค้นั ไม่ตอ้ งข้ึนต่อส่ิงอ่น อิสรภาพในทางพระพทุ ธศาสนา หมายถึง ความหลุดพน้ จากกิเลส คาที่ใชใ้ นทางธรรม ไดแ้ ก่คาวา่ วมิ ุตติ หรอวโิ มกขห์ รอโมกษะ ท้งั 3 คาน้ีแปลวา่ ความหลุดพน้ จากกิเลส หมายถึง นิพพาน คอการดบั กิเลส และ กองทุกข์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook