Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Brands27th_วิชาสังคมศึกษา-240-หน้า

Brands27th_วิชาสังคมศึกษา-240-หน้า

Published by pim, 2020-01-27 22:30:17

Description: Brands27th_วิชาสังคมศึกษา-240-หน้า

Search

Read the Text Version

2. สมัยโบราณ (กอ นคริสตศ ตวรรษ 500 ป – ครสิ ตศ ตวรรษท่ี 5) 1. เมโสโปเตเมีย (น.ไทกริส-ยเู ฟรตสิ = อิรัก = ดินแดนอุดมสมบรู ณ์พระจนั ทร์เส้ียว) สเุ มเรยี น อารยธรรม รายละเอยี ด การเมืองการปกครอง มกี ารปกครองแบบเทวราชา สมมตเิ ทพ การปกครองแบบกระจายอํานาจ (นครรัฐ) (City State) สงั คม มีการแบ่งชนชน้ั ในสงั คม เศรษฐกจิ สรา้ งระบบชลประทานครง้ั แรกของโลก ประดิษฐ์คนั ไถดว้ ยสํารดิ การนําววั มา เทยี มคนั ไถ นบั เป็นการนําแรงงานสตั วม์ าช่วยเหลอื การเกษตรเปน็ ครัง้ แรก ศาสนา สรา้ งสถานที่บชู าเทพเจา้ เรยี กวา่ ซกิ กูแรต (Ziggurat) ภมู ปิ ัญญาความคดิ และ ดา้ นอกั ษรศาสตร์ มกี ารประดิษฐล์ ่มิ หรือ อกั ษรคูนฟิ อร์ม (Cuneiform) วิทยาการ นบั เป็นอักษรแรกของโลก เป็นจดุ เรม่ิ ตน้ ของสมัยประวตั ิศาสตรจ์ นมคี าํ กลา่ ว ท่วี า่ “ประวัตศิ าสตร์เริม่ ตน้ ที่ซูเมอร์ (History begins at Sumer) ด้านวรรณกรรม วรรณกรรมสว่ นใหญ่มุ่งเน้นดา้ นศาสนา แต่งมหากาพย์กลิ กาเมซ (The epic of Gilgamesh) ด้านวทิ ยาศาสตร์ มกี ารทาํ ปฏิทนิ การนับปีตามจันทรคติ เริ่มตน้ การนับช่วั โมง กําหนด 1 ชั่วโมงมี 60 นาที กําหนดมาตราชั่งตวงวัดโดยยึดหลัก 60 คิดค้น วธิ ีการบวกลบคูณ การคาํ นวณพนื้ ที่วงกลม การคํานวณระยะทาง ศึกษาวงโจร ของดาวเคราะห์ท่ีเป็นท่ีมาของโหราศาสตร์ ประดิษฐ์วงล้อของรถศึกสําหรับ นกั รบ บาบิโลเนียน อารยธรรม รายละเอยี ด การเมอื งการปกครอง เกิดประมวลกฏหมายพระเจ้าฮมั มรู าบี เป็นกฏหมายฉบบั แรกของโลก (ตาตอ่ ตา ฟนั ต่อฟัน) เป็นแบบอยา่ งให้กับกฎหมายโรมันในเวลาตอ่ มา สังคม รฐั สวสั ดกิ าร เน้นการสรา้ งความยุติธรรมในสงั คม ศาสนา มคี วามเชื่อเกยี่ วกับเทพเจ้าตามธรรมชาติ โครงการแบรนด์ซมั เมอร์แคมป์ ปที ่ี 27 ___________________ สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (149)

อัสซีเรยี น อารยธรรม รายละเอยี ด การเมอื งการปกครอง มีระบบกษัตริย์เป็นเทวราชา เป็นชนเผ่าท่ีมีความสามารถในการสงคราม มีความเป็นระเบียบ ได้ฉายาว่าเป็น “นับรบยิ่งใหญ่แห่งเมโสโปเตเมีย” และ “โรมันแหง่ เมโสโปเตเมยี ” ภูมปิ ัญญาความคิด และ ดา้ นศลิ ปกรรม ภาพแกะสลักนนู ตา่ํ รปู ทหาร และการสู้รบปราบชนชาติตา่ งๆ วทิ ยาการ ด้านวรรณกรรม มกี ารจัดต้งั ห้องสมดุ แห่งแรกของโลกทเี่ มืองนิเนเวห์ แคลเดียน อารยธรรม รายละเอียด ภมู ิปญั ญาความคดิ และ ดา้ นสถาปัตยกรรม มกี ารสร้างสวนลอยฟา้ บาบิโลน (The Hanging Garden วิทยาการ of Babylon) ด้านดาราศาสตร์ เป็นการตอ่ ยอดวทิ ยาการของชาวสเุ มเรียน ผลงานสําคัญคือ การคํานวณนับเวลาในรอบปีได้ใกล้เคียงกับปัจจุบันมากท่ีสุด การแบ่งสัปดาห์ ออกเป็น 7 วัน 1 ปีมี 365 วัน มีการคํานวณเวลาการโคจรของดวงดาว ประกอบการพยากรณ์โชคชะตา จนเป็นรากฐานของโหราศาสตร์ ชนบางกลมุ่ สรา้ งอารยธรรมในดินแดนเอเชยี ไมเนอร์ หรอื ประเทศตรุ กีในปัจจบุ ัน กล่มุ ชน มรดกทางอารยธรรม ลิเดยี น ฟินเิ ซียน | เป็นชาตแิ รกทม่ี กี ารผลติ เหรียญกษาปณม์ าใช้ ฮิบรู หรือ ยิว สร้างเรอื ใบขนาดใหญ่ ทําให้เปน็ ชาตแิ รกเดินเรือการค้าทางทะเล สร้างเรือ ฮติ ไตท์ เดินสมทุ รและจัดตง้ั อาณานคิ ม นําอักษรอิยิปต์และอักษรลิ่มมาดัดแปลงเป็นอักษรอัลฟาเบต เป็นต้นตระกูลของ ภาษาตะวันตก นับถือศาสนายิว ที่บูชาพระเจ้าองค์เดียว คือ พระยะโฮวา และพระคัมภีร์ พันธสัญญาเดมิ | เป็นชนเผ่าท่รี ูจ้ ักใช้ถลุงเหลก็ เปน็ พวกแรก สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (150) ____________________โครงการแบรนดซ์ มั เมอรแ์ คมป์ ปีที่ 27

2. อารยธรรมอยี ิปต์ บรเิ วณลมุ่ แม่น้าํ ไนล์ (Nile) อารยธรรม รายละเอยี ด การเมอื งการปกครอง สงั คม ปกครองแบบเทวราชา มฟี าโรห์เป็นกษตั ริย์ ศาสนา มคี วามเชอื่ เร่ืองเทพเจา้ หลายองค์ เทพเจ้าสงู สุดคือ สุรยิ เทพ (ราห์) ภมู ปิ ัญญาความคิด และ วิทยาการ เชอื่ เรือ่ งภพหน้า ชวี ติ หลังความตาย และความเปน็ อมตะของวิญญาณรักษาศพ ไมใ่ ห้เนา่ เป่อื ยด้วยการทาํ เปน็ มัมม่ี (Mummification) ด้านสถาปัตยกรรม สร้างพริ ะมดิ (Pyramid) ซึง่ ก่อสรา้ งจากหนิ เป็นสสุ านเกบ็ ศพ ด้านอกั ษรศาสตร์ มกี ารประดิษฐอ์ ักษรภาพเฮยี โรกลฟิ ฟคิ เขยี นบนกระดาษ ปาปริ ุส ด้านวรรณกรรม แต่งคมั ภรี ์แห่งความตาย (Book of dead) ดา้ นวิทยาศาสตร์ มีทาํ ปฏิทินทางสรุ ยิ คติและจนั ทรคติ โดยกาํ หนดให้ 1 ปี มี 12 เดอื น 365 วนั การสร้างพิระมิด ซึ่งตอ้ งอาศัยความรทู้ างด้านคณติ ศาสตร์ ในการคาํ นวณ ทํามมั มีตอ้ งอาศัยความรู้ทางการแพทยแ์ ละความรูด้ า้ นสรีรวทิ ยา 3. อารยธรรมกรกี อารยธรรม รายละเอยี ด การเมอื งการปกครอง เอเธนสเ์ ป็นนครรฐั ทเ่ี ป็นต้นแบบการปกครองระบอบประชาธิปไตย เนน้ ความสาํ คัญ ในเร่อื งเสรภี าพและการใช้เหตผุ ลของมนษุ ย์ เป็นประชาธิปไตยทางตรง สงั คม มคี วามเชอ่ื เร่อื งเทพเจ้าหลายองค์ เทพเจ้าสูงสดุ คอื ซสุ ภมู ปิ ัญญาความคดิ และ ด้านปรัชญา เน้นปรัชญาด้านมนุษย์นิยม ธรรมชาตินิยม และปัจเจกชนนิยม วิทยาการ นักปรัชญาท่ีสําคัญของกรีก ได้แก่ โซเครติส (Socrates) เพลโต (Plato) อริสโตเติล (Aristotle) ด้านสถาปตั ยกรรม การสร้างวิหารบูชาเทพเจ้า กําเนิดรูปแบบหัวเสาของกรีก คอื แบบดอริก (Doric) แบบไอโอนกิ (Ionic) และแบบโครินเธยี น (Corinthian) ด้านปะติมากรรม สะทอ้ นถึงลักษณะธรรมชาติอย่างแท้จริง มีรูปร่าง อารมณ์ ความร้สู กึ ท่าทางการเคลอื่ นไหวทีเ่ หมอื นจริง ด้านนาฎยกรรม มีการแสดงเพ่ือบวงสรวงหรือเฉลิมฉลองแด่เทพเจ้า บทละคร ของกรีกจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ โศกนาฏกรรม (Tragedy) และ หสั นาฏกรรม (Comedy) ด้านวรรณกรรม มหากาพย์ของโฮเมอร์ (Homer) อันได้แก่ อีเลียด (Iliad) และโอดสิ ซี (Odyssey) โครงการแบรนด์ซมั เมอร์แคมป์ ปีท่ี 27 ___________________ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (151)

4. อารยธรรมโรมัน อารยธรรม รายละเอยี ด การเมืองการปกครอง ประมวลกฎหมายสิบสองโต๊ะ กฎหมายพระเจ้าจัสติเนียน (ท้ิงกฎหมายเป็น มรดกโลก) สังคม มคี วามเชอ่ื เรอื่ งเทพเจา้ หลายองค์ เทพเจา้ สงู สดุ คอื ซสุ ภูมิปญั ญาความคดิ และ ดา้ นปรัชญา เนน้ ดา้ นความยง่ิ ใหญ่และความเป็นระเบียบเรียบร้อย รับแนวคิด วิทยาการ ปรัชญาจากกรีก ด้านสถาปัตยกรรม มีการสร้างวิหารแพทรีออน นิยมสร้างอาคารเพื่อ ประโยชน์สาธารณชน : สนามกีฬาโคลอสเซียม สถานท่ีอาบน้ําสาธารณะ สะพาน ท่อลําเลียงนํ้าขนาดใหญ่ นิยมการสร้างวงโค้ง (Arch) และโดม (Dome) (แบบกอ่ สร้างทีช่ าวโรมนั ชอบมากท่ีสุดคอื ประตชู ัย และหลังคารปู โดม) ด้านวรรณกรรม กวีคนสําคัญได้แก่ ซิเซโร เวอร์จิล วรรณกรรมท่ีสําคัญ คือ มหากาพย์อีเนียด 3. สมยั กลาง (ครสิ ตศตวรรษท่ี 5-15) การเมืองการปกครอง สังคมวฒั นธรรม เศรษฐกิจ - ปกครองแบบกระจายอํานาจ ที่ - มีการแบ่งชนชั้นในสังคมออกเป็น - มี ร ะ บ บ เ ศ ร ษ ฐ กิ จ ท่ี เรียกว่า ระบบศักดินาสวามิภักด์ิ หรือ กษัตริย์ ขุนนาง อัศวิน ชาวนา และ เรยี กว่า “ระบบแมนเนอร์” ร ะ บ บ ฟิ ว ดั ล ( Feudalism) คํ า ว่ า ทาสติดทดี่ นิ (Manorial System) ท่ี Feudalism มาจากภาษาละตินที่ว่า - คริสต์ศาสนาได้เข้ามามีบทบาท สามารถพึ่งพาตนเองได้ Feudum ที่ตรงกับภาษาอังกฤษคือ ม า ก เรี ยกว่ า “ยุ คแห่ งศรั ทธา ” อย่างครบวงจร ไม่อาศัย Field แปลว่า ท่ีดิน ที่เกิดจากการรับ ตัวอย่างบทบาทศาสนาไดแ้ ก่ ผลผลติ จากภายนอก ที่ดินจากเจ้านาย (Lord) ระบบฟิวดัล 1. ด้านการเมืองการปกครอง - มีการปลูกพืชหมนุ เวยี น ในสมัยกลาง มีที่มาดงั นี้ ศ า ส น จั ก ร เ ข้ า ม า มี อํ า น า จ ท า ง ท่ีดิน เรยี กวา่ “ระบบนา 3 1. ความวุ่นวายของบ้านเมือง การเมืองเหนืออาณาจักร มีอํานาจใน แปลง” (Three field system) ในช่วงสงคราม ต้ังแต่คริสต์ศตวรรษ การแต่งต้ังผู้ปกครอง การได้รับเขต เพือ่ พกั ดนิ ให้ฟื้นตัวโดย ท่ี 5 ที่ชนเผ่าเยอรมันต่างๆ ก็ได้เข้ามา ธรณีสงฆ์ การไดร้ บั ภาษีบาํ รุงศาสนา ธรรมชาติ มอี ํานาจในยโุ รปแทนทีจ่ ักรวรรดิโรมนั 2. ด้านการศึกษา เน้นด้านเทว 2. ประเพณเี ดิมทางการเมืองการ วิทยาและหลักศาสนา การศึกษา ปกครองของชนเผ่าเยอรมัน (ติวตัน) วิทยาศาสตร์จะแฝงในปรัชญา ไม่ได้ และโรมัน เกิดจากการทดลอง แต่เกิดจากการ อนุมานและตรรกะ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (152) ____________________โครงการแบรนด์ซมั เมอรแ์ คมป์ ปีที่ 27

การเมอื งการปกครอง สังคมวัฒนธรรม เศรษฐกจิ - กษัตริย์จะถือเป็น Lord สูงสุดใน 3. ด้านความคิดและวิถชี วี ิต ระบบฟิวดัล ท่ีดินทั้งหมดเป็นของ 3.1 เกิดแนวความคิดท่ีว่า กษัตริย์ และพระราชทานแก่เหล่าขุนนาง มนุษย์ไม่สามารถติดต่อกับพระเจ้าได้ ขุนนางช้ันสูงก็จะแบ่งท่ีดินให้ขุนนาง ศาสนจักรเท่านั้นท่ีจะเป็นคนกลาง ระดับถัดไปเป็นลําดับ ที่ดินท่ีได้รับจะ ติดต่อระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า เปน็ ลกั ษณะการเช่าท่ีดินท่ีสามารถสืบ ดงั น้ันมนษุ ย์จะขาดศาสนจกั รไม่ได้ ทอดเป็นมรดกได้ และต้องเป็นไปตาม 3.2 การ ห้ า ม มี ควา ม คิด ท่ี ข้อตกลงและหน้าท่ีท่ีมีพันธะผูกพัน ขัดแย้งกับศาสนจักร เมื่อบุคคลหรือ ต่อกนั อาณาจักรใดท่ีมีความคิดขัดแย้งกับ - มีท่ีดินเป็นส่ือสัมพันธ์ของคนใน ศาสนจักร จะได้รับบทลงโทษถึงขั้น สังคมยคุ กลาง ประหารชีวิต รองลงมาคือ อํานาจ บัพพชนียกรรม (Excommunication) หรือ การตดั ออกจากศาสนจักร 4. ด้านเศรษฐกิจ ได้รับภาษีบํารุง ศาสนาจากประชาชนและอาณาจักร ตา่ งๆ 5. ด้านศิลปวัฒนธรรม ศาสนา ครอบงําความคิดและวิถีชีวิตของคน ศิ ล ป ะ ส ะ ท้ อ น เ ร่ื อ ง ร า ว ข อ ง ค ริ ส ต์ ศาสนาและขุนนางในระบบฟิวดลั โครงการแบรนด์ซมั เมอร์แคมป์ ปีท่ี 27 ___________________ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (153)

เหตกุ ารณสาํ คัญในชวงสมยั กลาง ผลกระทบ 1. สงครามครเู สด (Crusade War) 1. ดา้ นการเมือง - เกิดความเส่ือมของระบบฟิวดัลในยุโรป สาเหตุ เพราะสงครามทาํ ใหอ้ ัศวนิ และขุนนางเสียชีวิต จํานวนมาก 1. สาเหตุดา้ นการเมือง - นํามาสู่สถาปนารัฐชาติและตั้งระบอบ เน่ืองจากคริสตจักรได้ชักชวนให้กษัตริย์และ การปกครองแบบสมบรู ณาญาสิทธ-ิ ราชย์ ประมุขส่งกองทัพไปรบในนามของพระเจา้ 2. ดา้ นเศรษฐกิจ 2. สาเหตุดา้ นศาสนา - การค้าขยายตัว เกิดการแพร่กระจายของ เน่ืองจากชาวยุโรปสมัยกลางมีความศรัทธา สินค้าจากโลกตะวันออกในโลกตะวันตก เช่น ต่อศาสนามาก จึงยอมไปร่วมรบเพราะ ผา้ ไหม เคร่อื งเทศ พระสันตะปาปาทรงประกาศยกบาปให้แก่คน - เกิดการเติบโตของเมืองการคา้ และกําเนดิ ท่ไี ปร่วมรบ ระบบเศรษฐกจิ แบบเงินตรา 3. สาเหตุดา้ นเศรษฐกจิ - ยโุ รปต้องพยายามหาเส้นทางการค้าใหม่ เ ป็ น ค ว า ม พ ย า ย า ม แ ย่ ง ชิ ง อิ ท ธิ พ ล ท า ง 3. ด้านสงั คมและวัฒนธรรม เศรษฐกิจระหว่างชาวมุสลิมและชาวยุโรปใน เกดิ การแลกเปลี่ยนวฒั นธรรมระหวา่ งโลก ทะเลเมดเิ ตอรเ์ รเนียน ตะวันตกและโลกตะวันออก สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (154) ____________________โครงการแบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ ปีท่ี 27

2. การปฏริ ูปศาสนา (Reformation) ผลกระทบ สาเหตุ เกิดการปฏิรูปภายนอก คือ การเกิดนิกาย โปรแตสแตนท์ โดยมาร์ติน ลูเธอร์ ซ่ึงเป็น ความเสื่อมของศาสนจักร ไม่พอใจการเข้ามา ฝ่ายท่ีประท้วงข้อปฏิบัตขิ องคาทอลิค โดยเกิด มีอํานาจของศาสนจักรในทางโลกมากเกินไป ก า ร ป ฏิ รู ป ภ า ย ใ น คื อ ศ า ส น า ใ น ฝ่ า ย บาทหลวงปฏิบัติตนไม่เหมาะสม และมีการ คาทอลิค โดยกลุ่มคณะเยซูฮิต (Jesuit) ท่ี ซอื้ ขายตาํ แหน่งราชาคณะ เน้นปรับปรุงวนิ ยั ของนักบวชใหด้ ขี ึน้ ม นุ ษ ย์ ปัจจัยด้านการเมือง บรรดากษัตริย์และขุนนาง เหน็ ความสําคญั ในคณุ คา่ ความเป็นมนุษย์และ ไม่พอใจพระสันตะปาปาและศาสนจักรที่เข้ามามี ความสามารถของมนษุ ย์มากขน้ึ มวี ิจารณญาณ บทบาทการเมืองในรัฐต่างๆ ในการนบั ถอื ศาสนา และเชอื่ มั่นในตนเองมากข้นึ ปจั จัยด้านเศรษฐกจิ เกดิ ความไม่พอใจที่ต้อง ส่งภาษแี ละเงินจาํ นวนมากแก่ ศาสนจกั ร ปัจจัยด้านภูมิปัญญาความคิด จากแนวคิด มนุษยนิยมมีอิทธิพลต่อความคิดและวิถีชีวิต มาก ทําให้ประชาชนเชื่อม่ันในตนเองมากข้ึน และลดการให้ความสาํ คัญศาสนจกั ร โครงการแบรนดซ์ ัมเมอร์แคมป์ ปีท่ี 27 ___________________ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (155)

4. สมัยใหม พฒั นาการทางประวตั ิศาสตรต ะวันตกดา นสงั คมและเศรษฐกิจ C 15 การฟืน้ ฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance) -- Transitional Period (ยคุ เปลีย่ นผ่าน) สาเหตุ ผลกระทบ 1. การขยายตัวทางการค้าในยโุ รป 1. เป็นพื้นฐานสําคัญในการเปล่ียนแปลง - เกิดแนวคิดใหม่เกี่ยวกับบุคคล ของยุโรปสมัยใหม่ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม วฒั นธรรมและการเมอื งการปกครอง ในอุดมคติว่าต้องเป็นคนที่มีความรู้ 2. หลุดพ้นจากกรอบความคิดของศาสนาคริสต์ รอบรู้ในศาสตร์ต่างๆ มีความสามารถ ก้าวเข้าสู่การใช้เหตุผลและการเปิดโลกทัศน์ ทางวชิ าการและศลิ ปวัฒนธรรม เกิดความกะตือรือร้นในการแสวงหาความรู้ท่ี จะนําไปสกู่ ารยกระดบั คุณภาพชีวิตท่ีดีขน้ึ - บรรดาเจ้านครต่างๆ และพ่อค้า 3. เกิดการสร้างสรรค์งานศิลปะท่ีสะท้อน จึงพากันสนับสนุน ส่งเสริมงานด้าน มนุษยนิยม ธรรมชาตินิยม และปัจเจกชน ศิลปวิทยาการ มีการแข่งขันกันสะสม นยิ ม และสร้างงานศิลปะท่ีเลียนแบบกรีก • ประตมิ ากรรม เนน้ ธรรมชาติ สนใจความ และโรมัน การฟ้ืนฟูศิลปวิทยาการ งามของสรีระมนษุ ย์ตามหลักกายวิภาคศาสตร์ เร่ิมต้นท่ีอิตาลี โดยเฉพาะเมืองฟลอ ผลงานของไมเคิล แองเจลโล (Michel Angelo) เรนซ์ โรม และเวนิส เพราะเคยเป็น - รูปสลักเดวิด (David) รูปปั้นชายหนุ่ม แหล่งอารยธรรมโรมนั เปลอื ยกายท่พี รอ้ มจะตอ่ สกู้ ับศัตรู 2. การปฏิรปู ศาสนา - ปิเอตา ( Piata) รูป สลักพระมารดา ประคองพระเยซูหลังถูกประหารชีวิตบนไม้ - ต้องการแสวงหาความรู้ที่ กางเขน นอกเหนือจากศาสนจกั ร • จติ รกรรม เริ่มมกี ารเขยี นภาพแบบ 3 มติ ิ (Perspective) - เน้นการกลบั สู่ทางโลก ผลงานของลีโอนาโด ดาวินชี (Leonardo - เกิดแนวคิดแบบมนุษย์นิยมท่ี Davinci) ใ ห้ ค ว า ม สํ า คั ญ กั บ คุ ณ ค่ า แ ล ะ - ภาพอาหารมอ้ื สุดทา้ ย (The last supper) ความสามารถของมนุษย์ท่ีจะพัฒนา - ภาพพระเยซูนั่งเสวยพระกระยาหารกบั ตนเองและเปลยี่ นแปลงสงั คมได้ เหลา่ สาวกกอ่ นจะถกู ตรึงดว้ ยไมก้ างเขน - ภาพโมนาลิซา (Monalisa) 3. ความสําเร็จในการประดิษฐ์แท่น พมิ พข์ องโยฮนั กูเทนเบิร์ก (Johann Gutenberg) ทําให้เกิดการเผยแพร่ ศลิ ปวิทยาการมากขึ้น สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (156) ____________________โครงการแบรนดซ์ ัมเมอร์แคมป์ ปที ่ี 27

สาเหตุ ผลกระทบ ผลงานของราฟาเอล ซานติโอ (RaphaelSanzio) - ภาพพระแม่ พระบุตร และจอห์น (Madonna and child with St John) ภาพทแ่ี สดงความรกั ของมารดาทีม่ ีต่อบุตร ผลงานของไมเคลิ แองเจลโล (Michel Angelo) - ภาพกาํ เนิดมนษุ ย์ (The Original) - ภาพคําพิพากษาครั้งสุดท้าย (The last judement) • วรรณกรรม ได้รับอิทธิพลจากแนวคิด มนุษยนิยม และใชภ้ าษาทอ้ งถิ่นแทนภาษาละตนิ - The Prince โดย Nicolo Machiavelli - Utopia โดย Sir Thomas More - Romeo and Juliet, The merchant of Vanice โดย William Shakespeare Concept • การฟืน้ ฟูศลิ ปวทิ ยาการ คือ การเกดิ ใหม่ หรือการกลับมาของศิลปวทิ ยาการกรีกและโรมัน เปน็ ช่วงเวลาท่โี ลกตะวนั ตกหลุดพน้ จากอิทธิพลของศาสนจักรและระบบฟวิ ดัล นับไดว้ า่ เปน็ จุดเชอื่ ม ตอ่ ระหวา่ งสมยั กลางกับสมยั ใหม่ (Transitional Period) • สะท้อนแนวคดิ มนุษยน์ ยิ ม และธรรมชาตินิยม เป็นสมัยท่ีมีการนําศิลปกรรมของกรีกและโรมัน มาเป็นแบบอย่างในการสร้างสรรค์ผลงาน มนุษย์ยุคน้ีเร่ิมปฏิเสธศาสนจักรและไม่เช่ืออย่าง งมงายเหมือนดังสมยั ยคุ กลาง โครงการแบรนดซ์ ัมเมอร์แคมป์ ปีท่ี 27 ___________________ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (157)

การสาํ รวจเส้นทางเดนิ เรือ ผลกระทบ สาเหตุ 1. ผลด้านการเมือง มีการจับจองดินแดน ต่างๆ → การแข่งขันการมีอิทธิพลทาง 1. อุปสรรคการขยายตัวทางการค้า การค้าและการแสวงหาดินแดนใหม่ → ความ จากการขยายอิทธิพลของโลกมุสลิม ขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศในทวีป ที่เข้ามาแย่งเส้นทางการค้าในทะเล ยุโรป เ ม ดิ เ ต อ ร์ เ ร เ นี ย น ป ร ะ ก อ บ กั บ 2. ผลดา้ นเศรษฐกจิ การเพ่ิมขึ้นของความต้องการสินค้า จากโลกตะวันออก เช่น เครอ่ื งเทศ ผา้ ไหม - เกิดลัทธิพาณิชย์ (การสร้างความ ของปา่ ม่ันคงและม่ังคั่งให้กับชาติของตนเองโดยการ 2. การฟ้ืนฟูศิลปวิทยาการ ทําให้ ผูกขาดการค้ากับดินแดนท่ีไปติดต่อ → ชาวยุโรปมีความกล้าท่ีจะเส่ียงภัยเพ่ือ กลายเป็นลัทธิล่าอาณานิคม (ยึดครอง ค้นพบเส้นทางเดินเรือใหม่ และ ดินแดนดังกล่าวและผูกขาดการค้าด้วย แต่ ความก้าวหน้าทางวิทยาการในการใช้ ไม่ไดเ้ ข้าไปเปล่ยี นแปลงวิถดี ัง้ เดิมของดินแดน เข็มทศิ การปรับรูปทรงเรือและใบเรือ ทีถ่ ูกยึด) การประดิษฐ์อาวุธดินปืน ทําให้ยุโรป มคี วามสามารถในการเดินเรอื มากขน้ึ - ตลาดการคา้ ยโุ รปขยายตวั 3. ควา มต้ อ ง ก า ร เ ผ ยแ ผ่ค ริส ต์ - ค้นพบทรัพยากรและการแพร่กระจาย ศาสนาของพวกมิชช่นั นารีในดนิ แดน สนิ คา้ จากดนิ แดนต่างๆ โลกใหม่ - แพร่กระจายพนั ธ์ุพชื และสตั วต์ า่ งถนิ่ ไปยงั ดินแดนโลกใหม่ 3. ผลด้านสงั คมและวัฒนธรรม - แลกเปล่ียนวัฒนธรรมระหว่างโลก ตะวนั ตกและโลกตะวนั ออก - พ่อค้าท่ีเป็นชนช้ันกลางและมีบทบาท ทางการเมอื งมากขึ้น 4. ผ ล ด้ า น ภู มิ ปั ญ ญ า ค ว า ม คิ ด แ ล ะ วิ ท ย า ก า ร เ กิ ด ก า ร พั ฒ น า เ ท ค โ น โ ล ยี การเดนิ เรือและแผนท่ี เขียนแผนทีโ่ ลกข้ึนใหม่ และสนับสนนุ แนวความคิดว่าโลกกลมมากข้ึน สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (158) ____________________โครงการแบรนด์ซมั เมอรแ์ คมป์ ปีท่ี 27

การสํารวจเสน้ ทางเดินเรอื ประเทศ การคน้ พบ โปรตเุ กส สเปน บารโ์ ธโลมวิ ไดแอซ (Bartholomew Dias) สามารถออ้ มแหลม “กู๊ดโฮป” วาสโก ดา กามา (Vasco da gama) ได้แลน่ เรอื ออ้ มแหลม Good hope ไป ฮอลันดา อนิ เดีย คริสโตเฟอร์ โคลมั บสั (Christopher Columbus) ค้นพบหมูเ่ กาะอนิ ดีสตะวันตก ในทวีปอเมรกิ าเหนอื แต่เข้าใจผิดวา่ เปน็ ชายฝั่งของอนิ เดยี ในทวีปเอเชีย และเรียก ชาวพ้นื เมืองว่า “อินเดยี น” (Indian) อเมรโิ ก เวสปุชชี (Amerigo Vespucci) ต้งั ดินแดนโลกใหม่แหง่ น้จี งึ ถูกเรยี กว่า “อเมรกิ า” เฟอรด์ นิ าน แมกเจลแลน (Ferdinand Magellan) คน้ พบ “ช่องแคบแมกเจลแลน” และฟลิ ิปปินส์ ได้รบั การยกยอ่ งวา่ เป็นคนแรกทเี่ ดนิ ทางรอบโลกสาํ เรจ็ วลิ เลี่ยม แจนซ์ (Williem Jansz) ค้นพบทวปี ออสเตรเลีย C 17 การปฏิวัตวิ ทิ ยาศาสตร์ ผลกระทบ สาเหตุ 1. เกดิ ความกา้ วหนา้ ทางวทิ ยาศาสตร์และ เทคโนโลยี → พฒั นาคุณภาพชวี ติ + เกิด 1. แนวคิดมนุษย์นิยม ธรรมชาตินิยม การคน้ พบวิทยาการแขนงตา่ งๆ เช่น ฟิสกิ ส์ และปัจเจกชนนิยมจากการสํารวจ เคมี ชีววิทยา นําไปส่กู ารคดิ คน้ เทคโนโลยี เส้นทางเดินเรือ การค้นพบดินแดน เคร่อื งทุ่นแรงและส่ิงประดษิ ฐ์ โลกใหม่ การฟ้ืนฟูศิลปวทิ ยาการ 2. เกิดการปฏิวัติทางภูมิปัญญา มนุษย์จะ 2. การปฏิรูปศาสนา ท่ีลดอุปสรรคใน ย อ ม รั บ ใ น เ ห ตุ ผ ล แ ล ะ ข้ อ มู ล ท่ี พิ สู จ น์ ไ ด้ การแสวงหาความรู้ กระตุ้นให้มนุษย์ เชิงประจักษ์ มีวิจารณญาณในการคิดและ มีแรงบันดาลใจที่อยากจะเรียนรู้ส่ิงใหม่ ตัดสินใจมากข้ึน เรียกยุคนี้ว่า “สมัยภูมิธรรม” และมีความเชื่อมั่นในความสามารถ (Age of Enlightenment) หรือยุคแห่ง ของตนเอง เหตุผล โครงการแบรนด์ซมั เมอร์แคมป์ ปีท่ี 27 ___________________ สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (159)

C 18 การปฏิวัติเกษตรกรรม ผลกระทบ สาเหตุ 1. เกิดการเปล่ียนแปลงรูปแบบการทํา การปฏวิ ตั ิวทิ ยาศาสตร์ ทาํ ใหเ้ กิด เกษตรกรรม เช่น เกิดระบบนาปิด เพ่ือควบคุม - ความกา้ วหน้าทางการแพทย์ → กาํ ลังการผลติ การเพม่ิ ขึน้ ของประชากร → การขาด 2. การเพิม่ ขึ้นของผลผลติ ทางการเกษตร แคลนสินคา้ เกษตรกรรม 3. การเพม่ิ ขน้ึ ของประชากร - ความก้าวหนา้ ด้านเคร่ืองจักร ช่วย เพิ่มผลผลติ ทางการเกษตร เช่น การ สร้างเครื่องท่นุ แรง - ความกา้ วหนา้ ทางเคมีและชีววิทยา เช่น การคัดเลือกพันธ์ุสัตว์ การใช้ ป๋ยุ เคมี การปลกู พืชหมุนเวยี น C 19 การปฏิวัติอตุ สาหกรรม input Process output ทรพั ยากร วตั ถุดบิ (เหลก็ + ถา่ นหนิ ) + เครอ่ื งจกั ร (ทุน) ตลาด นําไปสู่ลทั ธิจกั รวรรดนิ ยิ ม จาก ประเภทลกู นาํ ไปสกู่ ารแพรว่ ฒั นธรรมตะวนั ตกโดยไมต่ ง้ั ใจและตั้งใจ ประเดน็ ระยะท่ี 1 ระยะท่ี 2 เหล็กกล้า วัตถุดบิ เหลก็ นํ้ามนั และก๊าซธรรมชาติ เยอรมัน พลงั งานทีใ่ ช้ในกระบวนการผลติ พลงั งานไอนํ้า อุตสาหกรรมคมนาคมและการขนสง่ ชาติทเี่ ริม่ ต้น อังกฤษ วงการสินค้าอตุ สาหกรรมท่ีสําคัญ อตุ สาหกรรมทอผ้า สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (160) ____________________โครงการแบรนดซ์ มั เมอรแ์ คมป์ ปีท่ี 27

สาเหตกุ ารปฏิวตั ิอุตสาหกรรม 1. ความกา้ วหนา้ ทางวทิ ยาศาสตร์ - ความกา้ วหนา้ ทางการแพทย์และสาธารณสุข → การเพมิ่ ประชากร → ความต้องการบรโิ ภค สนิ ค้ามากขน้ึ - การสําเร็จในการสร้างส่งิ ประดษิ ฐ์และเครือ่ งจักรทนุ่ แรงในการผลิต เปน็ การนําเทคโนโลยีมาใชใ้ น การผลติ 2. การสํารวจเส้นทางเดินเรอื และการแสวงหาอาณานคิ ม ทําให้ชาวยโุ รปได้แหลง่ วตั ถุดิบและตลาด ระบายสนิ ค้า เป็นการกระตุ้นใหก้ ารคา้ ขยายตวั ผลจากการปฏวิ ตั ิอตุ สาหกรรม 1. ผลดา้ นเศรษฐกิจ 1.1 ทาํ ใหเ้ กดิ การผลติ ทลี ะมากๆ (Mass production) ทําใหต้ ้นทนุ การผลิตตา่ํ ลง 1.2 เกดิ การแขง่ ขนั เพอื่ แสวงหาอาํ นาจทางเศรษฐกจิ การปฏิวตั ิอุตสาหกรรมทําให้มีความจําเป็นต้องหา แหล่งวัตถุดิบเพื่อป้อนโรงงานและตลาดเพื่อการระบายสินค้า ทําให้บรรดาประเทศที่ประสบ ความสําเร็จในการปฏิวัติอุตสาหกรรมพากันแข่งขันกันมีอิทธิพลในภูมิภาคอ่ืนๆ เช่น ภูมิภาค เอเชยี แอฟรกิ าและอเมรกิ าใต้ 2. ผลดา้ นสงั คม 2.1 ประชากรมีจํานวนมากข้ึน ทง้ั นเี้ พราะความเจรญิ ก้าวหนา้ ทางการแพทย์และสาธารณสขุ และ การผลติ 2.2 เกิดการเพมิ่ ขนึ้ ของเมอื ง และปญั หาเมอื งตามมา เชน่ ปัญหาแหล่งเสื่อมโทรมและสลัม ปัญหาชมุ ชนแออดั ปัญหาคนจนเมือง ปัญหาสิง่ แวดลอ้ มและมลพษิ 2.3 เกิดชนชัน้ ใหม่ในสงั คมท่มี คี วามเหลอ่ื มลาํ้ ทางสังคมอย่างชัดเจน คอื - นายทนุ เป็นผทู้ เ่ี ปน็ เจา้ ของปัจจยั การผลิต และไดร้ ับประโยชนจ์ ากการผลติ เปน็ ผูท้ มี่ ฐี านะ และความเป็นอยทู่ ด่ี ี มีอํานาจและบทบาทในการเมอื งในฐานะผู้ปกครอง - กรรมกร เป็นผู้ถูกใช้แรงงาน ไดร้ บั ค่าจ้างทีไ่ มส่ มดุลกบั ค่าครองชพี มีฐานะยากจนและมัก ถกู เอารัดเอาเปรยี บ 3. ผลดา้ นการเมือง 3.1 การก้าวมามีบทบาทและอํานาจทางการเมอื งของนายทนุ และกรรมกร เมอื่ นายทนุ ดาํ รงตาํ แหนง่ ผปู้ กครอง ในขณะที่กรรมกรรวมกลุ่มสหภาพแรงงาน (Trade Union) เพ่อื ต่อส้แู ละเรยี กร้อง จากนายทนุ ภายหลังมกี ารประกาศกฎหมายคมุ้ ครองแรงงานข้นึ เป็นฉบับแรกของโลก 3.2 ทําให้เกิดลัทธิจักรวรรดินิยม เพ่ือให้มีตลาดระบายสินค้าและแหล่งวัตถุดิบมาป้อนโรงงาน อุตสาหกรรม เพ่ือรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจของชาติตน ประกอบกับแนวคิดภาระคนผิวขาว (White man’s burden) ท่ีเช่ือว่า คนผิวขาวมีหน้าท่ีต้องพัฒนาชาติท่ีด้อยกว่า ซ่ึงนําไปสู่การ แย่งเมืองข้ึน จนในเวลาต่อมาเป็นสาเหตุหนึ่งของความขัดแย้งในทวีปยุโรปที่บานปลาย กลายเป็นสงครามโลกครัง้ ท่ี 1 ในทีส่ ดุ โครงการแบรนดซ์ ัมเมอรแ์ คมป์ ปีท่ี 27 ___________________ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (161)

4. ผลดา้ นภมู ปิ ญั ญาความคิด การปฏวิ ตั ิอตุ สาหกรรมนํามาสกู่ ารเกดิ แนวคิดลัทธิทสี่ ําคญั 2 ประการ คือ 4.1 ลทั ธิเสรนี ยิ ม (Liberalism) คิดโดยอดัม สมิธ (Adam Smith) งานเขยี นทสี่ าํ คญั คือ The wealth of Nations เปน็ แนวคิดทสี่ นับสนนุ การค้าเสรที ีร่ ัฐห้ามเขา้ มาแทรกแซงการประกอบ กิจการของเอกชน ปล่อยใหม้ ีการดําเนนิ กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยเสรี ตอ่ มากลายเป็นระบบ เศรษฐกิจแบบทนุ นยิ ม 4.2 ลัทธิสังคมนิยม (Socialism) เป็นผลมาจากการปฏวิ ตั อิ ุตสาหกรรมท่ที ําให้เกดิ การเอารัดเอาเปรียบ กรรมกรโดยนายทุน เป็นความพยายามท่ีจะสร้างให้สังคมเกิดความเท่าเทียมกัน ไม่มีชนช้ัน แนวความคิดดังกล่าวจึงได้รับการสนับสนุนจากพวกกรรมกร นักคิดคนสําคัญ ได้แก่ คาร์ลมาร์กซ์ (Karl Marx) ฟรดี ริช แองเกิลส์ (Friedrich Engels) โรเบิรต์ โอเวน (Robert Owen) 5. ผลดา้ นศิลปวฒั นธรรม 5.1 กาํ เนดิ ศลิ ปะแบบสัจนิยม (Realism) เป็นศิลปะทีศ่ ลิ ปนิ พยายามถา่ ยทอดสภาพความเป็นจรงิ ในสังคม ความขดั แย้งระหวา่ งนายทุนกบั กรรมกร ตวั อยา่ งการสร้างสรรคง์ านศิลปะแบบ สจั นิยม ได้แก่ ¾ Oliver Twist แสดงถึงความโหดรา้ ยของสงั คมในยคุ การปฏิวตั ิอุตสาหกรรม แต่งโดย ชาร์ลส์ดิกเกนส์ ¾ War and Peace แสดงถงึ ความขัดแยง้ และการพยายามสรา้ งสันตสิ ุขในสังคม แต่งโดย ลีโอตอลสตอย พฒั นาการทางประวัตศิ าสตรด านการเมอื งการปกครองตะวันตกสมัยใหม C 15 การสรา้ งรัฐชาติ (รวมประเทศ) รวมคนท่ีมเี ช้อื ชาติ ภาษา ศาสนาเดยี วกันภายใตก้ ารปกครองเดยี วกัน C 16 การสรา้ งรัฐสมบูรณาญาสทิ ธริ าชย์ ผลมาจากการรวมอาํ นาจสู่สถาบนั กษตั รยิ จ์ ึงสถาปนารูปแบบ การปกครอง C 17 ยคุ แหง่ ภมู ิธรรม ยคุ แหง่ เหตุผลและการเกิดแนวคิดประชาธิปไตย (อิทธิพลจากการปฏวิ ตั วิ ิทยาศาสตร์) เกดิ ขบวนการภูมธิ รรม (เจตนาร่วมคือ การปกครองท่ีปกป้องสทิ ธเิ สรภี าพประชาชน) HOBB (E) การปกครองดว้ ยกษตั รยิ ด์ สี ุด แตต่ อ้ งมาจากประชาชน ไม่ใช่เทวสิทธ์ิ LOKED (E) นาํ เสนอ SOCIAL CONTACT และเสนอแนวคดิ Natural Rights NO King VOLTARE (FR) สิทธเิ สรภี าพในการแสดงความคิดเห็น MONG (FR) เสนอทฤษฎีการแบง่ อาํ นาจ / แต่งหนงั สือ Spirit of Law RUSSO (FR) แต่งหนังสือ SOCIAL CONTACT และเน้นอาํ นาจอธิปไตยเป็นของ ประชาชน จนไดร้ บั การยกย่องใหเ้ ป็นบิดาแห่งประชาธปิ ไตย 1688 การปฏวิ ัตอิ นั รงุ่ โรจน์ขององั กฤษ 1776 การปฏวิ ัตเิ ป็นประชาธิปไตยในสหรัฐอเมรกิ า 1789 การปฏวิ ัตฝิ ร่งั เศส สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (162) ____________________โครงการแบรนด์ซมั เมอร์แคมป์ ปที ่ี 27

C19 สงครามโลกครงั้ ท่ี 1 สงครามโลกคร้งั ที่ 2 ประเดน็ 1. พันธมิตรไตรภาคี (Tripple Entente) 1. ฝ่ายสัมพันธมิตร (Alliance) คสู่ งคราม หรือเรียกว่า ฝ่ายสัมพันธมิตร ได้แก่ ไ ด้ แ ก่ อั ง ก ฤ ษ ฝ ร่ั ง เ ศ ส สาเหตุ อังกฤษ ฝร่ังเศส สหรัฐอเมริกา รัสเซีย สหรัฐอเมรกิ า รสั เซยี เปน็ ต้น อิตาลี เป็นต้น 2. ฝ่ า ย อั ก ษ ะ ( Axis) ไ ด้ แ ก่ 2. ข้อตกลงไตรภาคี (Tripple Alliance) เยอรมัน ญ่ีป่นุ อิตาลี เป็นต้น หรือเรียกว่า ฝ่ายมหาอํานาจกลาง ได้แก่ เยอรมนั ออสเตรีย-ฮงั การี เปน็ ต้น 1. ลัทธิจักรวรรดินิยม แนวความคิดใน 1. ค ว า ม ไ ม่ เ ป็ น ธ ร ร ม ข อ ง การขยายอิทธิพลทางการเมืองระหว่าง สนธิสัญญาแวร์ซาย์ ท่ีสร้างความ ประเทศโดยการยึดครองดินแดนใน กดดันใหแ้ ก่เยอรมนั กระตุ้นให้เกิด ภูมิภาคต่างๆ นาํ มาสูค่ วามขัดแย้งระหว่าง กระแสชาตินยิ มในเยอรมนั ประเทศอาณานคิ ม 2. ความล้มเหลวขององค์การ 2. ความ ไม่มั่นคงทางการเมืองบ น สันนิบาตชาติ ท่ีไม่สามารถจัดการ คาบสมทุ รบอลขา่ น ปั ญ ห า ค ว า ม ขั ด แ ย้ ง ร ะ ห ว่ า ง 3. ลัทธิทหารนิยม แนวความคิดท่ีเช่ือว่า ประเทศได้ การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งสามารถ 3. ความขัดแย้งของระบอบทาง แก้ไขได้ด้วยการใชก้ าํ ลงั ทหาร การเมืองของเผด็จการที่ต่อต้าน 4. ลัทธิกระหายสงคราม ความต้องการที่ ประชาธิปไตยและคอมมวิ นิสต์ จะพสิ จู น์ความสามารถทางการทหารของ 4. นโยบายแข็งกร้าวของฮิตเลอร์ ประเทศตนเอง จากการแข่งขันกันมี ได้ปลุกกระแสชาตินิยม ซ่ึงนํามาสู่ อทิ ธิพลในทวปี ยุโรป เ ห ตุ ก า ร ณ์ ก า ร ฆ่ า ล้ า ง เ ผ่ า พั น ธ์ุ 5. ความต้องการเป็นมหาอํานาจของ ชาวยิวในเยอรมัน (Genocide) เยอรมัน 5. น โ ย บ า ย อ อ ม ช อ ม 6. การต่อต้านของการขยายอิทธิพลของ (Appeasement Policy) ของ จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี โดยเฉพาะ อังกฤษและฝร่ังเศส ต่อการขยาย ชาวเซริ บ์ (เซอร์เบีย) อิ ท ธิ พ ล ข อ ง เ ย อ ร มั น ใ น เ ช ค และสโลวัก เพราะอังกฤษและ ฝร่ังเศสยังได้รับความเสียหาย อย่างหนักจากสงครามโลกครง้ั ที่ 1 โครงการแบรนดซ์ มั เมอรแ์ คมป์ ปีที่ 27 ___________________ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (163)

ประเดน็ สงครามโลกครง้ั ท่ี 1 สงครามโลกครง้ั ท่ี 2 6. เศรษฐกิจตกต่ําท่ัวโลก รัฐบาล ในระบอบการปกครองแบบ ประชาธิปไตยในช่วงเวลาน้ันไม่ สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจตกตํ่า ได้ ประชาชนจึงเสื่อมศรัทธาใน ระบอบการปกครองดังกล่าว ส่งผล ใ ห้ ก า ร ป ก ค ร อ ง แ บ บ เ ผ ด็ จ ก า ร ไดร้ ับความนิยมมากขนึ้ 7. นโยบายสร้างวงศ์ไพบูลย์แห่ง มหาเอเชยี บรู พา เป็นนโยบายของ ญ่ี ปุ่ น ท่ี จ ะ ส ร้ า ง ค ว า ม เ ป็ น มหาอํานาจของญี่ปุ่นในดินแดน ภมู ิภาคเอเชีย ชนวน มกฏุ ราชกุมารออสเตรีย-ฮังการถี ูกลอบฆา่ เยอรมันบุกโปแลนด์ การเข้ารว่ มของ เรอื โดยสารอเมริกาถกู เยอรมันโจมตี ญปี่ นุ่ โจมตีท่าเรอื เพริ ล์ ฮาวเ์ บอร์ อเมรกิ า อาวธุ ทีใ่ ช้ อาวธุ เคมี (ไดนาไมท์) อาวุธฟิสิกส์ (นิวเคลียร)์ สมรภูมิรบ ยโุ รป ทัว่ โลก การสิ้นสุด เยอรมันถกู โจมตี ยกพลข้ึนบกท่ีหาดนอร์มังดี + ญ่ีปุน่ ถูกนวิ เคลียร์ ฝา่ ยที่ชนะ พนั ธมิตร สัมพันธมิตร การเจรจาสันตภิ าพ หลังสิ้นสุดสงคราม อเมริกาประกาศ ระหว่างสงครามโลกไดต้ งั้ กฎบตั ร แถลงการณ์ 14 ประการ ทําสัญญาแวร์ซาย แอตแลนตกิ ต่อมาเป็นองคก์ าร และตั้งสันนิบาตชาติเพื่อป้องกันการเกิด สหประชาชาติ สงคราม ผลของสงคราม ยุโรปเสยี หาย เศรษฐกจิ โลกตกต่ํา เศรษฐกิจตกต่ํา อเมรกิ าเป็นผนู้ าํ โลก ไทยกบั สงครามโลก ตอนแรกประกาศตัวเป็นกลาง แล้วเข้า ตอนแรกประกาศตัวเปน็ เปน็ กลาง ฝ่ายพนั ธมิตร หวงั แก้สัญญา ญ่ีปุ่นบงั คบั ฝา่ ยอักษะ เทยี บเวลากบั ไทย รชั กาลที่ 6 รชั กาลท่ี 8 สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (164) ____________________โครงการแบรนดซ์ มั เมอร์แคมป์ ปที ี่ 27

1945 สน้ิ สดุ สงครามโลก ------------------------------------------- > สมัยปัจจบุ ัน (รว่ มสมยั ) สงครามเย็น เปน็ สงครามท่ีประเทศแม่ไม่ไดท้ ําสงครามกันโดยตรง แตใ่ ชส้ งครามตวั แทน (สงคราม ทใ่ี ชใ้ ห้ประเทศบริวารของตนรบแทนตวั เอง) ประเทศบรวิ าร ฝ่ายโลกเสรี ฝา่ ยโลกคอมมวิ นสิ ต์ ยุโรปตะวันตก ยุโรปตะวันออก เยอรมันตะวันตก เยอรมนั ตะวนั ออก เกาหลีใต้ เกาหลีเหนอื เวยี ดนามใต้ เวยี ดนามเหนอื ทวีปอเมริกาท้งั หมด ยกเว้นคิวบา อนิ โดจนี (เวยี ดนาม กัมพชู าและลาว) คิวบา นโยบายตา่ งๆ ในสงครามเย็น ฝา่ ยโลกเสรี ฝ่ายโลกคอมมวิ นสิ ต์ การตอ่ สทู้ างการเมือง การตอ่ สทู้ างการเมือง • ประกาศวาทะทรูแมน (Truman Doctrine) • ประกาศสนธิสัญญาวอร์ซอ (Warsaw) ช่วยเหลอื ประเทศตา่ งๆ ทถ่ี กู ลัทธคิ อมมิวนิสต์คุกคาม เพ่ือป้องกันการรุกรานจากฝ่ายสหรัฐ- ทั้งดา้ นอาวุธและการเงิน นับเป็นการเร่ิมต้นสงครามเย็น อเมริกา อย่างชดั เจน • นโยบาย COMECON เพื่อตอบโต้และ • จัดตั้งองค์กรทางการทหารต่อสู้คอมมิวนิสต์ ให้ความช่วยเหลือเศรษฐกิจแก่กลุ่ม ได้แก่ NATO SEATO CENTO ANZUS OAS เพื่อ ประเทศท่ปี กครองระบอบคอมมิวนิสต์ ป้องกันการรกุ รานจากฝ่ายคอมมวิ นสิ ต์ • นโยบายล้มล้างสตาลิน (De – การต่อส้ทู างเศรษฐกิจ Stalinization) นโยบายแข่งขันและอยู่ • ประกาศแผนการมาร์แชลล์ (Marshall Plan) ร่ว ม กัน อ ย่า ง สัน ติ สุข ข อง ค รุส ช อ ฟ เป็นการให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจแก่ประเทศ ป ร ะ ก า ศ โ ด ย ป ร ะ ธ า น า ธิ บ ดี นิ กิ ต า ต่างๆ ในยุโรปเพอ่ื ใหฟ้ ืน้ ตวั หลังสงครามโลกคร้งั ที่ 2 ครุสชอฟ (Nikita Khrushchev) นับเป็น • ประกาศหลักการนิกสัน (The Nixon Doctrine) การปรับนโยบายท่ีเป็นปรปักษ์ต่อกันและ ประกาศโดยประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน (Richard หันมาสร้างความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ Milhous Nixon) เพื่อลดกําลังทหาร และสร้าง สังคม การค้าและวฒั นธรรม ความสัมพันธ์กับจีน โดยการส่งทูตปิงปอง และจัด • นโยบายกลาสนอสต์ – เปเรสทรอยกา แถลงการณ์รว่ มเซ้ียงไฮ้ หรอื นโยบายเปิด-ปรบั โดยประธานาธิบดี มคิ าอิล กอบารช์ อฟ (Mikhail Gorbarchev) 1. Glasnost เป็นการเปิดประเทศให้เป็น ประชาธปิ ไตยมากขน้ึ 2. Perestroika เปน็ การปรบั ประเทศให้มี ลกั ษณะเศรษฐกจิ แบบทุนนิยมมากขนึ้ โครงการแบรนดซ์ มั เมอรแ์ คมป์ ปที ่ี 27 ___________________ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (165)

1950 กาํ เนิดสงครามตวั แทน สงคราม สงครามเกาหลี (Korean war) สงครามเวยี ดนาม (Veitnam war) รูปแบบ ค.ศ. 1950 ค.ศ. 1960-1975 ไม่ใชว้ ธิ รี บแบบกองโจร ใช้วธิ รี บแบบกองโจร ผลของสงคราม ผลการรบเสมอกัน ผลการรบ เวียดนามใต้ที่สหรัฐ- อเมริกาให้การหนุนหลังเป็นฝ่าย แพ้ เพราะสรัฐอเมริกาถอนทหาร ออกจากสงครามเนื่องจากชาว อเมรกิ นั ไมให้การสนบั สนนุ ภาวะหลงั สงคราม สหประชาชาติเข้าไปไกล่เกล่ยี สหประชาชาติไมไ่ ด้เขา้ ไปยงุ่ ไม่ยดื เย้ือหลังสงคราม ยืดเย้ือหลังสงคราม ลุกลามไปยัง ประเทศกมั พชู าและลาว ผลกระทบ แยกประเทศออกมาจนถงึ ปจั จุบัน รวมประเทศจนมาถึงปจั จุบัน แล้ว (เกาหลีเหนอื -คอมมวิ นสิ ต์ / เกาหลใี ต้ – ปกครองเปน็ คอมมิวนสิ ต์ ประชาธิปไตย) 1961 วิกฤตการณ์กรงุ เบอรล์ นิ 1962 วิกฤตการณ์ควิ บา การเปลยี่ นแปลงทีน่ าํ ไปสกู่ ารสนิ้ สดุ สงครามเยน็ นโยบายกลาสนอสต์ กับเปเรสทรอยกา ยุโรปตะวนั ออกปฏิวัตมิ าเปน็ ประชาธิปไตย 1989 ทาํ ลายกาํ แพงเบอรล์ นิ (9 พ.ย. 1989) รวมเยอรมนั (1990) 3 รัฐโซเวียตประกาศแยกตนเป็นอสิ ระ 1991 1991 โซเวียตลม่ สลาย 25 ธ.ค. 1991 ------------------- > ส้นิ สดุ สงครามเย็น สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (166) ____________________โครงการแบรนดซ์ มั เมอรแ์ คมป์ ปีท่ี 27

C 20 การจัดระเบยี บโลกใหม่ จากการลม่ สลายของสหภาพโซเวียตกอ่ ให้เกิดการเปล่ยี นแปลงทางสงั คม การเมอื งและเศรษฐกจิ โลก และมีการจดั ระเบยี บโลกใหม่ (New World Order) โดยประธานาธิบดจี อรจ์ บุช (George H.W. Bush) ประธานาธบิ ดีคนที่ 41 ของสหรัฐอเมรกิ าไดป้ ระกาศการจัดระเบียบโลกที่เนน้ หลักการ 4 ประการ คือ 1. การปกครองระบอบประชาธิปไตย (Democracy) 2. การคา้ เสรี (Free Trade) 3. การเคารพสิทธมิ นษุ ยชน (Human Rights) 4. การอนรุ กั ษส์ ่งิ แวดลอ้ ม (Environment) โครงการแบรนด์ซมั เมอรแ์ คมป์ ปีท่ี 27 ___________________ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (167)

ตะลยุ ขอ สอบเกา O-NET 2549 1. ในยุคคลาสสกิ จกั รพรรดโิ รมนั สามารถสรา้ งสังคมนานาชาติภายใตก้ ฎหมายเดยี วกนั โดยใช้ภาษาใดรว่ มกัน 1) ภาษากรกี 2) ภาษาละติน 3) ภาษาฮีบรู 4) ภาษาเฮลเลนกิ 2. เพราะเหตุใด จงึ กลา่ วว่า แมกนา คารต์ า เป็นรฐั ธรรมนญู ฉบบั แรกของโลก 1) เพราะระบถุ ึงสทิ ธิข้นั พนื้ ฐานของมนษุ ย์ 2) เพราะระบุถึงสิทธแิ ละเสรภี าพของประชาชน 3) เพราะระบถุ ึงกลไกในการปกครองประเทศ 4) เพราะระบถุ งึ อาํ นาจอธิปไตยทม่ี าจากมวลชน 3. ข้อใดไม่ใชล่ ักษณะความโดดเด่นของสมัยกลาง 1) การก่อตงั้ มหาวทิ ยาลัยในยุโรปตะวนั ตก 2) การจดั การศึกษาดา้ นศิลปศาสตร์อยา่ งมีระบบ 3) การมรี ะบบฝึกงานเพอื่ พฒั นาฝมี ือแรงงาน 4) การให้สทิ ธิเสมอภาคแกป่ ระชาชน 4. เหตกุ ารณ์ในประวตั ิศาสตรต์ ่อไปนี้ ก. การปฏวิ ัติวทิ ยาศาสตร์ ข. การฟ้นื ฟูศลิ ปะวทิ ยาการ ค. การปฏิรปู สมัยเมจิ ง. สงครามฝ่ิน ข้อใดจัดเรยี งลําดับเหตกุ ารณก์ ่อนหลงั ไดถ้ ูกต้อง 1) ก. ค. ง. ข. 2) ข. ก. ง. ค. 3) ง. ก. ค. ข. 4) ก. ข. ค. ง. 5. ข้อใดไมใ่ ช่สาเหตขุ องการลา่ อาณานิคม 1) ความตอ้ งการแหลง่ วัตถุดิบ และตลาด 2) ความต้องการสร้างความยงิ่ ใหญข่ องชาติจกั รวรรดินยิ ม 3) ความขัดแยง้ ในอุดมการณท์ างเศรษฐกิจและการเมอื ง 4) ความเช่อื ของพวกจักรวรรดนิ ิยมในเรื่อง “ภาระของคนผวิ ขาว” สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (168) ____________________โครงการแบรนดซ์ มั เมอร์แคมป์ ปีท่ี 27

6. การถ่ายทอดผลงานด้านจติ รกรรมแนวสัจนยิ มในครสิ ตศ์ ตวรรษท่ี 19 จติ รกรมีวตั ถปุ ระสงค์สําคญั ในขอ้ ใด 1) เพ่อื สะทอ้ นชวี ิตในสงั คมอตุ สาหกรรม 2) เพอ่ื ส่งเสริมการเมืองการปกครองแบบประชาธิปไตย 3) เพื่อสะท้อนความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 4) เพือ่ สะทอ้ นบทบาทของศาสนจักรทีม่ ีอทิ ธิพลต่อสงั คม 7. เกณฑใ์ ดที่ถอื วา่ เปน็ ช่วงเวลาแหง่ การส้ินสดุ ของประวตั ิศาสตรส์ ากลสมยั ใหม่ 1) การสิน้ สุดของสมยั จักรวรรดินยิ ม 2) การสนิ้ สุดของสงครามโลกคร้ังที่ 1 3) การส้ินสดุ ของสงครามโลกครงั้ ท่ี 2 4) การสิน้ สดุ ของสงครามเย็น O-NET 2550 8. การเรยี กสมยั แห่งการคน้ พบ (Age of Discovery) ท่ีเริม่ ปลายศรสิ ตศ์ ตวรรษท่ี 15 นั้นเกดิ จากเหตุผลใด 1) การพบแหลง่ แร่เงิน และทองคําจากกนิ ี แอฟรกิ า 2) การพบอารยธรรมแอซเตค (Aztec) และอินคา (Inca) ในทวีปอเมรกิ าใต้ 3) การพบเส้นทางเดนิ เรอื ไปยงั ทวปี อเมรกิ า และทวปี เอเชียโดยไมผ่ า่ นทะเลเมดิเตอร์เรเนียน 4) การพบหลกั ฐานความร่งุ โรจนข์ องอารยธรรมกรกี -โรมนั ท่คี นในยคุ กลางปิดบงั 9. ขอ้ ใดไม่ใชล่ ักษณะเดน่ ของสงั คมยโุ รปในสมยั ฟืน้ ฟูศิลปวทิ ยาการ 1) การเผยแพร่ความคดิ ของนักมนุษยนิยมคริสเตยี น 2) การศึกษาผลงานและความคิดของสมยั กรีก-โรมนั 3) ชนชนั้ กลางมีบทบาทในทางสังคมและเศรษฐกิจ 4) ครสิ ต์ศาสนามีบทบาทสงู ตอ่ ความคดิ และการดําเนนิ ชีวิตของชาวตะวันตก 10. ข้อใดทแ่ี สดงให้เห็นถงึ ลกั ษณะเด่นของศลิ ปะในสมยั ฟน้ื ฟศู ิลปวิทยาการ 1) ศิลปนิ ยงั ตกอยู่ใตอ้ ํานาจและอิทธพิ ลของคริสตศ์ าสนา 2) กลิ ดย์ ังมีอทิ ธพิ ลในการควบคุมงานของศลิ ปนิ ในแขนงต่างๆ 3) งานศลิ ปะมีลักษณะทเี่ ป็นธรรมชาติ เน้นความสวยงามละเอียดอ่อน 4) ความสามารถของศิลปินในการลอกเลยี นงานศิลปะของกรีก-โรมัน 11. ข้อใดไม่เกี่ยวข้องกับการล่มสลายของสหภาพโซเวยี ต และการยุติของสงครามเย็น 1) การพงั ทลายกําแพงเบอรล์ ิน 2) การใชน้ โยบายเปดิ -ปรับของมฮี าอลิ กอรบ์ าชอฟ 3) การหันส่รู ะบอบประชาธิปไตยของประเทศยโุ รปตะวันออก 4) การใช้หลักการอยูร่ ่วมกันโดยสนั ติของนกี ตี า ครชุ ชอฟ โครงการแบรนด์ซมั เมอรแ์ คมป์ ปที ่ี 27 ___________________ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (169)

12. ข้อใดคอื ปัญหาและอุปสรรคขององคก์ ารสหประชาชาตใิ นการรักษาสนั ตภิ าพโลกในปัจจุบนั 1) สหรัฐอเมรกิ ามบี ทบาทมากขนึ้ ในการดาํ เนินงานเพ่ือรกั ษาสนั ติภาพของโลก 2) ความร่วมมือและความชว่ ยเหลอื จากประเทศสมาชกิ ที่มีฐานะมัน่ คงลดน้อยลง 3) องค์การระหว่างประเทศในภูมิภาคตา่ งๆ มีบทบาทมากข้นึ ในการประสานความรว่ มมอื ระหวา่ งประเทศ เพือ่ รกั ษาสันตภิ าพ 4) ขอบข่ายการดาํ เนินงานรักษาสันติภาพขององคก์ ารสหประชาชาติกวา้ งขวางและมปี รมิ าณงานเพิ่มมากข้ึน 13. ขอ้ ใดเป็นมรดกทางอารยธรรมของโรมัน ทีถ่ ่ายทอดสู่ชาตๆิ ในโลกยคุ ปัจจุบนั 1) ระบอบประชาธิปไตย 2) ระบบรฐั ธรรมนญู 3) ระบบกฎหมาย 4) ระบบศกั ดินาสวามภิ กั ดิ์ 14. สงครามครูเสด กอ่ ใหเ้ กดิ ผลดีตอ่ สงั คมโลกในดา้ นใด 1) ศาสนาคริสตเ์ ผยแผ่เขา้ มาในทวปี เอเชีย 2) ศาสนาอิสลามมีโอกาสเผยแผ่เข้าไปในทวีปยโุ รป 3) ทาํ ให้เกิดการผสมกลมกลืนระหวา่ งเช้ือชาตมิ ากขนึ้ 4) ทาํ ให้เกดิ การขยายตวั ทางการค้าระหว่างโลกตะวันตกกับโลกตะวันออก 15. ข้อใดเปน็ ปจั จัยสําคญั ทก่ี อ่ ใหเ้ กดิ การปฏิวตั ิทางวิทยาศาสตร์ 1) การฟ้ืนฟูศิลปะวทิ ยาการ 2) การขยายตัวทางการค้า 3) ความตอ้ งการสนิ คา้ อุตสาหกรรม 4) การเพ่มิ ข้ึนของจาํ นวนประชากร O-NET 2551 16. สถาปตั ยกรรมกรกี ทไี่ ด้รับการยกยอ่ งมากท่สี ดุ เปน็ สถาปัตยกรรมประเภทใด 1) วหิ ารหินออ่ น 2) โรงมหรสพขนาดใหญ่ 3) โบสถร์ ูปแปดเหลี่ยม 4) พระราชวังท่ีมีขนาดใหญ่ 17. โครงสร้างการแบ่งอํานาจในรฐั ธรรมนูญของสหรฐั อเมรกิ า ค.ศ. 1787 ไดร้ ับอทิ ธพิ ลจากแนวคดิ ของ นกั ปรัชญาคนใด 1) รุสโซ 2) วอลแตร์ 3) จอหน์ ล็อก 4) มองเตสกิเออ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (170) ____________________โครงการแบรนดซ์ มั เมอรแ์ คมป์ ปีท่ี 27

18. สงครามโลกคร้ังท่ี 2 แตกตา่ งจากสงครามโลกครงั้ ที่ 1 อย่างชัดเจนในประเดน็ ใด 1) การเข้ารว่ มสงครามของสหรฐั อเมริกา 2) การที่สหภาพโซเวียตไมไ่ ด้เขา้ ร่วมสงคราม 3) การขยายพนื้ ทข่ี องสมรภูมิและความรา้ ยแรงของอาวุธ 4) การยตุ ิความขัดแย้งและจดั ต้ังองคก์ ารระหวา่ งประเทศ 19. ขอ้ ใดคือความหมายท่ีแท้จริงของสงครามเย็น 1) การแบ่งกลมุ่ ประเทศพันธมติ ร และกลุ่มประเทศอกั ษะ 2) การตอ่ ส้รู ะหวา่ งอดุ มการณป์ ระชาธิปไตยกับอุดมการณ์คอมมิวนิสต์ 3) การตอ่ สแู้ ละแขง่ ขันในการสรา้ งอาวธุ นิวเคลียร์ระหว่างสหรฐั อเมรกิ ากับสหภาพโซเวยี ต 4) การแบ่งกลมุ่ ประเทศผู้ฝกั ใฝส่ หรัฐอเมริกา และกลมุ่ ประเทศผู้ฝักใฝส่ หภาพโซเวียต O-NET 2552 20. ชนชาติใดทเี่ ข้าสสู่ มัยประวัติศาสตรใ์ นโลกตะวนั ตกเปน็ กลุม่ แรก 1) ชาวอยี ปิ ต์ 2) ชาวสุเมเรียน 3) ชาวเปอร์เซียน 4) ชาวบาบโิ ลเนียน 21. นักมนุษยนยิ มเปน็ ผลผลติ ของโลกตะวันตกในยุคใด 1) Romantic 2) Realistic 3) Reformation 4) Renaissance 22. ขอ้ ใดไมใ่ ช่คุณสมบตั ิของชนชัน้ กลางในสงั คมยโุ รปชว่ งคริสตศ์ ตวรรษที่ 16-17 1) เป็นผ้รู ักความอสิ ระเสรี 2) เป็นผูท้ ี่มคี วามเชอ่ื ม่นั ในตวั เอง 3) เป็นผู้บุกเบกิ ความรทู้ างวิทยาศาสตร์ 4) เปน็ ผูท้ ต่ี ้องการความเสมอภาค 23. การประกาศหลกั การมอนโรของสหรัฐอเมรกิ าใน ค.ศ. 1823 เพอื่ วัตถปุ ระสงคใ์ ด 1) ต่อตา้ นการใช้แรงงานทาส 2) สนับสนนุ การขยายดนิ แดนไปทางฝ่งั ตะวันตก 3) ห้ามประเทศในยุโรปเขา้ มาแสวงหาผลประโยชน์ 4) ส่งเสริมใหช้ าวอเมริกนั ออกไปทาํ ธรุ กจิ ในต่างแดน โครงการแบรนด์ซมั เมอรแ์ คมป์ ปีที่ 27 ___________________ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (171)

24. กจิ กรรมใดนําไปสู่การปฏวิ ตั ิอตุ สาหกรรมระยะท่ีสอง 1) การผลิตเหล็กกลา้ 2) การใชเ้ คร่ืองจกั รไอนา้ํ 3) การประดิษฐเ์ คร่ืองปั่นด้าย 4) การวางสายโทรเลขข้ามทวปี O-NET 2553 25. การสร้างงานศลิ ปกรรมของโรมนั มีจุดมุ่งหมายใดเป็นหลัก (ถูกแบบ 1 คาํ ตอบ) 1) เพอื่ ประโยชน์ใช้สอย 2) เพือ่ ใชใ้ นการประกอบพธิ ีกรรม 3) เพื่อแสดงความศรทั ธาตอ่ ศาสนา 4) เพอ่ื แสดงความยงิ่ ใหญข่ องจักรวรรดิ 26. ข้อใดแสดงถึงอารยธรรมของเมโสโปเตเมีย (ถูกมากกว่า 1 คาํ ตอบ) 1) อักษรลมิ่ 2) ซกิ กูแรต 3) กฎหมายสิบสองโตะ๊ 4) ระบบการชลประทาน 27. ลโี อนารโ์ ด ดา วนิ ชี เปน็ ผสู้ ร้างผลงานใด (ถกู มากกว่า 1 คําตอบ) 1) ภาพวาดโมนา ลิซา 2) ภาพบนเพดานวหิ ารซสิ ทีน 3) ประตมิ ากรรมหินอ่อนเดวดิ 4) ภาพวาดพระกระยาหารมอ้ื สุดทา้ ย 28. การปฏวิ ัตใิ นฝรง่ั เศส ค.ศ. 1789 เชิดชหู ลักการใด (ถูกมากกวา่ 1 คําตอบ) 1) เสรีภาพ 2) สนั ติภาพ 3) เสมอภาค 4) ภราดรภาพ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (172) ____________________โครงการแบรนดซ์ มั เมอรแ์ คมป์ ปที ่ี 27

เฉลย 1. 2) 2. 3) 3. 4) 4. 2) 5. 3) 6. 1) 7. 3) 8. 3) 9. 4) 10. 3) 11. 4) 12. 1) 13. 3) 14. 4) 15. 1) 16. 1) 17. 4) 18. 3) 19. 2) 20. 2) 21. 4) 22. 4) 23. 3) 24. 1) 25. 1) 26. 1), 2) 27. 1), 4) 28. 1), 3), 4) โครงการแบรนด์ซัมเมอรแ์ คมป์ ปที ี่ 27 ___________________ สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (173)

ภูมิศาสตร โลกและส่งิ แวดลอ มทางกายภาพ 1. ธรณีภาค เปน็ สว่ นของโลกทเี่ ปน็ ของแขง็ หอ่ หุ้มอยู่รอบนอกสดุ ของโลกท่ปี ระกอบดว้ ยหนิ ดิน และแร่ตา่ งๆ 1.1 กาํ เนดิ ธรณีภาค การเคล่ือนท่ีของแมกมาใต้เปลอื กโลก ทําให้แผ่นเปลือกโลก เกิดการเคลอื่ นท่ี นาํ ไปสูก่ ารยกตวั ทรดุ ตวั และการคดโค้ง ของเปลือกโลก 1 แผ่นดิน 1 มหาสมทุ ร 1 ทะเล ทวปี เลือ่ น → โลกปจั จุบัน พนั เจยี → - แยกจากกนั พนั ทาลสั ซา - มุดเขา้ หากัน ทะเลเททสิ - เขา้ ชนกนั นอกจากนี้แผ่นเปลือกโลกทุกแผ่นจะมีหินฐานธรณีรองรับที่มีอายุเก่าแก่ที่ผ่านการสึกกร่อนมานาน เรยี กวา่ “เขตหินเก่า” ซงึ่ เราจะไม่พบปรากฏการณ์แผ่นดินไหว ภเู ขาไฟ ในขณะทีต่ ามแนวรอยต่อของเปลือกโลก จะเป็นบริเวณทีไ่ มม่ นั่ คง 1.2 ปรากฏการณ์ท่ีเกิดจากธรณีภาค • แผน่ ดินไหว - กระบวนการท่แี ผน่ ดนิ เกิดการสน่ั สะเทือน ณ จุดหน่งึ ท่เี รียกว่า จดุ กาํ เนิดแผน่ ดนิ ไหว - บนผิวโลก บริเวณท่ีจะได้รับความเสียหายมากที่สุด คือ ส่วนตําแหน่งผิวโลกที่ตรงกับศูนย์กําเนิดแผ่นดินไหว แผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นในรูปของพลังงานจลน์ที่ถ่ายโอน ไปตามชั้นหินที่ประกอบเป็นเปลือกโลก เหมือนโยน ก้อนหนิ ลงไปในนํ้า - บริเวณท่ีเกิดแผ่นดินไหวบ่อยคร้ัง ได้แก่ บริเวณรอบมหาสมุทรแปซิฟิก เรียกว่า Ring of Fire ซึ่งเป็นแนวภูเขาไฟ ที่สําคัญของโลก ได้แก่ ด้านซ้ายของทวีปอเมริกาเหนือจรดอเมริกาใต้ เอเชยี ตะวนั ออก, เอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต,้ หมู่เกาะแปซิฟิกและนิวซีแลนด์ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (174) ____________________โครงการแบรนด์ซมั เมอร์แคมป์ ปีที่ 27

- สาเหตุของการเกิดแผ่นดินไหว • สาเหตุจากมนษุ ย์ • สาเหตุจากธรรมชาติ - การเลื่อนตัวของเปลอื กโลก โดยเฉพาะบรเิ วณรอยต่อของเปลือกโลก ซ่ึงเป็นขอบของ ธรณภี าคทว่ี างอย่บู นชน้ั หินหนดื ท่ีเคลื่อนไหวแทรกดันอยู่ตลอดเวลา - เกิดจากชั้นหินแมกมาดันเปลือกโลกข้ึนมาจนเกิดการเคลื่อนท่ีของรอยเล่ือนของ เปลือกโลก ตรงบริเวณรอยตอ่ แผน่ เปลอื กโลก - ความรุนแรงของแผน่ ดนิ ไหว ขน้ึ อยกู่ บั ส่งิ แวดล้อม เช่น ระยะทางท่ีห่างจากจุดกําเนิด สภาพ โครงสร้างทางธรณีวิทยา มาตรฐานสิ่งก่อสร้าง ความหนาแน่นของประชากรในบริเวณน้ัน เวลาที่เกิด แผ่นดินไหว ประเทศไทยใช้มาตรา เมอร์แคลลี่ เป็นตัววัดระดับความรุนแรง โดยพิจารณาจากความรู้สึกคน การสั่นไหวของวัตถุและสิง่ กอ่ สร้าง ลาํ ดับที่ ลกั ษณะความรนุ แรงโดยการเปรยี บเทยี บ เมอื่ เปรียบเทยี บกบั 1 (I) มาตราริคเตอร์ 2 (II) เป็นอันดบั ที่ออ่ นมาก ตอ้ งอาศัยการตรวจด้วยเครอื่ งมือจงึ จะทราบ น้อยกวา่ 3.4 3 (III) พอรู้สกึ ไดส้ าํ หรับผ้ทู อ่ี ยู่นง่ิ ๆ บนอาคารสูง 3.5 พอรู้สึกได้สําหรบั ผ้ทู อ่ี ยใู่ นบ้าน แตค่ นส่วนใหญท่ อ่ี ย่นู อกบา้ นยังไม่ 4 (IV) รูส้ กึ 4.2 5 (V) ผทู้ ี่อย่ใู นบา้ นรู้สึกวา่ ของในบ้านส่นั ไหว 4.3 6 (VI) รสู้ กึ เกอื บทกุ คน ของในบ้านเร่ิมแกวง่ ไกว 4.8 7 (VII) ของในบา้ นจะเคลือ่ นท่ี หนงั สอื หลน่ จากหง้ิ รูปภาพหล่นจากฝาผนงั 4.9-5.4 8 (VIII) ฝาห้องแตกรา้ ว ผ้ขู ับรถยนตจ์ ะรสู้ กึ 5.5-6.1 9 (IX) ตกึ ร้าว เฟอร์นเิ จอรห์ นักจะพลิกคว่าํ 6.2 ตึกเลื่อนจากฐานราก พ้ืนดินแตก อ่างเก็บน้ําและท่อน้ําใต้ดิน 10 (X) เสยี หายรุนแรง 6.9 ตึกแข็งแรงพัง พนื้ ดินแตกร้าว รางรถไฟคด แผ่นดนิ ถล่มในบริเวณ 11 (XI) ความลาดชนั และรมิ ฝงั่ แม่นํ้า 7.0-7.3 ตกึ ถลม่ เหลือแค่ตกึ ทแี่ ข็งแรง สะพานขาด พ้ืนดนิ แตกกวา้ ง ท่อน้ํา 12 (XII) ใตด้ ินถูกทาํ ลาย แผ่นดินถล่ม 7.4-7.9 ทกุ สง่ิ ถกู ทําลายสิน้ พ้นื ดินเคลอ่ื นตวั เปน็ ลกู คล่นื มากกว่า 8.1 โครงการแบรนด์ซัมเมอรแ์ คมป์ ปที ่ี 27 ___________________ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (175)

- ขนาดของแผ่นดนิ ไหว เป็นคา่ ที่วัด ณ บรเิ วณศนู ย์กลางของแผ่นดนิ ไหว ใชเ้ ครื่องมือสาํ คัญ คือ ไซโมมิเตอร์ หรอื ไซโมกราฟ มหี นว่ ยเปน็ ริกเตอร์ ขนาดของแผน่ ดนิ ไหว (รกิ เตอร)์ สิ่งท่ีสังเกตได้ 1 2-3 ต้องใช้เครื่องมือตรวจจับเท่าน้นั 4-5 รบั รู้ไดจ้ ากการแกว่งของวัตถทุ แ่ี ขวนไว้ 6 เกิดรอยร้าวตามอาคาร มีความเสยี หายเล็กน้อย 7 8-9 อาคารพังทลายบางส่วน อาคารพังทลาย เกิดแผน่ ดนิ ถล่มและน้าํ ทว่ ม อาคารพังวนิ าศ สงิ่ กอ่ สรา้ งและวัสดุปลวิ สูท่ อ้ งฟา้ แผ่นดนิ ทรุด และเกดิ คลนื่ ในทะเลรนุ แรงมาก • ภเู ขาไฟ - เขตภูเขาไฟโดยรอบมหาสมุทรแปซิฟิก เรียกว่า วงแหวนแห่งไฟ ได้แก่บริเวณหมู่เกาะมลายู (อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์) ประเทศญี่ปุ่น คาบสมุทรคามซัตกา แนวเทือกเขารอกกี้ในทวีปอเมริกาเหนือ และ เทอื กเขาแอนดีสในทวีปอเมริกาใต้ - ถงึ แมว้ ่าจะพบตามแนวเปลือกโลกท่ีไม่ม่ันคง แต่ก็มีพ้ืนที่หลายแห่งที่เป็นเขตประชากรหนาแน่น เพราะ พ้ืนท่ีดังกล่าวมดี นิ ภเู ขาไฟที่อดุ มสมบรู ณเ์ หมาะแก่การเกษตรกรรม - ภูเขาไฟ (volcano) แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ 1. ภเู ขาไฟมีพลัง (active volcano) เชน่ Etna , St. Helen 2. ภเู ขาไฟสงบชวั่ คราว (dormant / sleeping volcano) เช่น Fuji , Vesuvius 3. ภเู ขาไฟส้นิ พลงั (extinct volcano) เช่น Kilimanjaro, ภูอังคาร, ภูกระโดง, เขาพนมรุ้ง จังหวัดบุรรี ัมย์ และผาคอกจาํ ปาแดด กับผาคอกหินฟู จงั หวดั ลําปาง เขาหลวง จงั หวัดสโุ ขทัย • สนึ ามิ (Tsunami) - คลื่นขนาดใหญ่ที่เกิดจากหลายสาเหตุได้แก่ การเกิดแผ่นดินไหว การระเบิดของภูเขาไฟใต้ทะเล การมีอุกกาบาตขนาดใหญต่ กในทะเลหรือมวลหินถล่มลงในทะเล หรือภูเขานํ้าแข็งถล่มทําให้เกิดการแทนท่ีของ มวลนํ้าอย่างรวดเร็ว การเล่ือนตัวของเปลือกโลกและกิจกรรมมนุษย์ เช่น การทดลองหรือทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ ซดั เข้าทาํ ลายชายฝัง่ จนทําใหเ้ กดิ ความเสยี หายแก่ชีวิตและทรัพย์สนิ • พุนา้ํ ร้อน (hot spring) กีเซอร์ (geyser) และ ภูเขาไฟโคลน (mud volcano) เกิดจากเปลือกโลกมีรอยแตกแยก พลังความร้อนจากใต้พื้นผิวโลกก็เคลื่อนขึ้นมาคล้ายการระเบิด ภูเขาไฟ แต่สิ่งที่พุ่งขึ้นมาเหนือพื้นผิวโลกเป็นนํ้าใต้ดินที่มีอุณหภูมิสูง ถ้ากําลังแรงของนํ้าที่พุ่งข้ึนมามีไม่มาก เรียกว่า พุนํา้ ร้อน ถา้ มกี าํ ลงั แรงมาก เรยี กว่า กเี ซอร์ ถา้ นาํ้ ท่ีพุ่งข้ึนมาเปน็ โคลน และมีโคลนจับตัวกัน ท่ีพื้นเป็น รูปคล้ายกะลามะพร้าวที่วางคว่ํา มีรูให้น้ําโคลนพุ่งข้ึนมา เรียกว่า ภูเขาไฟโคลน บ่อโคลนเดือดหรือ พุโคลน (mud pot) สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (176) ____________________โครงการแบรนด์ซมั เมอร์แคมป์ ปที ่ี 27

ในประเทศไทยเราจะพบไดต้ ามภูมภิ าคทใ่ี กลต้ ามแนวรอยต่อในประเทศพมา่ ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันตก และภาคใต้ ตัวอยา่ งพุน้ํารอ้ นทม่ี ชี อ่ื เสียง ได้แก่ จงั หวดั เชยี งใหม่ ระนอง สว่ นกีเซอร์ไมพ่ บในประเทศไทย ซง่ึ ในหลาย ประเทศมกี ารนาํ พลังงานความร้อนใตพ้ ภิ พไปใช้ในการผลติ กระแสไฟฟ้าอีกด้วย เชน่ อติ าลี นวิ ซแี ลนด์ 1.3 การผันแปรเปลอื กโลก การผนั แปรของเปลอื กโลก แบ่งเป็น 2 ลกั ษณะ ดังน้ี 1.3.1 การผันแปรท่เี กิดจากพลังงานภายในโลก เปน็ การผนั แปรอันเนอื่ งมาจากกระบวนการแปร โครงสร้าง (tectonic process) โดยหินหนืดร้อน (magma) มี 3 ลักษณะ คือ - การคดโค้งของเปลอื กโลก มกั เปน็ เทอื กเขาแนวยาวต่อเนอ่ื งสลบั ซับซ้อน มหี ุบเขาตามยาว และหุบเขาตามขวาง แมน่ า้ํ จะไหลในหุบเขา ตามยาว ส่วนลําธารหรือ แควตน้ นาํ้ จะไหลในหบุ เขาตามขวาง ไดแ้ ก่ Alps, Rockies, Andes, Himalayas, เทือกเขาสว่ นใหญข่ องประเทศไทยและของโลก - การยกตัวของเปลือกโลก ลาดเขาดา้ นทีเ่ กดิ จาก การเลือ่ นตัวของหนิ จะชนั อกี ดา้ นจะไมช่ ัน มักมหี น้าผา - การทรุดตัวของเปลอื กโลก ทําใหเ้ กิด หบุ เขาจมนาํ้ (drowned valley) หรอื ชะวากทะเล (estuary) เชน่ ปากแมน่ ํ้า Rio de la Plata ปากแมน่ ้าํ กระบรุ ี หรอื แม่น้ําปากจ่ัน หุบเขาทรุด (rift valley) หรือ แอง่ กราเบน (graben) แนวหุบเขาทรดุ ที่ยาวทีส่ ุดในโลก ประมาณ 4,800 กิโลเมตร คอื แนวจากทะเลสาบเดดซี (Dead Sea) ผา่ นทะเลแดง (Red Sea) ถึงแอฟริกา ตะวันออก นอกจากนแ้ี ม่น้ําไรน์ (Rhine River) กไ็ หลในแนวหบุ เขาทรุดระหว่างรอยเลอื่ นทีเ่ ปน็ แนวเทอื กเขา แบล็คฟลอเรสต์ (Black Forest Mts.) และเทอื กเขาวอสก์ (Vosges Mts.) ภาคกลางของประเทศไทยก็เคยเปน็ แนวหบุ เขาทรุดมากอ่ น แอง่ แผ่นดนิ (basin) คอื เปลอื กโลกท่ีโค้งตวั เป็นรูปแอง่ กระทะลาดตํา่ ลงสูจ่ ดุ ศูนยก์ ลาง ของแอ่ง เช่น ล่มุ แมน่ ้ําแอมะซอน (Amazon basin) ลุ่มแม่นํ้าคองโก (Congo basin) แนวหบุ เขาทรดุ ทย่ี าวท่ีสุดในโลก (rift valley) แอ่งแผ่นดนิ (basin) หุบเขาจมนา้ํ (drowned valley) หรอื ชะวากทะเล (estuary) โครงการแบรนด์ซมั เมอรแ์ คมป์ ปีที่ 27 ___________________ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (177)

1.3.2 การผันแปรเปลือกโลกภายนอก เป็นการผันแปรอันเนื่องมาจากกระบวนการจัดระดับ (gradational process) ตัวกระทําภายนอกหรือพลังภายนอก ที่ทําให้เปลือกโลกเปลี่ยนแปลงมีมากมาย เช่น แม่นํ้า นํ้าใต้ดิน ลม คล่ืน ธารนํ้าแข็ง ตัวกระทํา เหล่าน้ี ทําให้เกิดการปรับระดับพ้ืนผิวโลก 3 ทาง คือ การ กดั เซาะ หรอื กัดกรอ่ น (erosion) การนําพาหรอื เคลอ่ื นยา้ ย (transportation) และการทบั ถม (deposition) • เกิดจากธารนาํ้ ไหล บรเิ วณ บริเวณท่ีพบ ลักษณะ ต้นนํ้า รอ่ งน้ํา - เรียก แมน่ ํ้าวยั ออ่ น หุบเขารปู ตวั วี / โตรกเขา - ไหลจากภูเขาสทู่ รี่ าบ เกดิ จากนํา้ กดั เซาะจนเกดิ เป็นร่องนํา้ ลึกลงไปเปน็ รูปตวั วี - ไหลตรง นํา้ ตก แกง่ กมุ ภลักษณ์ (เพราะนํ้าไหลจากทสี่ ูงสู่ที่ต่ํา) - ไหลแรงและเชีย่ ว การเปลย่ี นระดับทางน้าํ กาํ ลังแรงของนาํ้ ทพ่ี า - ทาํ ใหก้ ดั กร่อนด้านลกึ จากทีส่ ูงมาสูท่ ีต่ าํ่ กว่า เศษหนิ กรวด ทราย เกดิ การกัดเซาะ มาขดั ถทู อ้ งนา้ํ จนเป็น มากกวา่ ดา้ นข้าง รทู ีม่ ขี นาดใหญข่ ึ้น เนนิ ตะกอนรปู พัด เกดิ จากการทบั ถมของตะกอนทีไ่ หลจากภูเขาสู่ทรี่ าบ ทิ้งตะกอนแม่นํา้ ไว้เป็นรูปพดั กลางนา้ํ ทรี่ าบลุม่ แม่นาํ้ ทีร่ าบนาํ้ ท่วมถงึ ที่ราบขัน้ บนั ได บรเิ วณที่ราบริมลําน้ํา เมื่อเข้าสู่ ลานตะพกั ลํานํา้ ฤดูฝนทําให้เกิดน้ําท่วมและ บริเวณทรี่ าบทีห่ า่ ง ก า ร ทั บ ถ ม ข อ ง ดิ น ต ะ ก อ น จากลาํ นา้ํ นํา้ ไม่ทว่ มขัง เหมาะแกก่ ารปลูกพืชไร่ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (178) ____________________โครงการแบรนดซ์ มั เมอรแ์ คมป์ ปีท่ี 27

บรเิ วณ บริเวณทีพ่ บ ลกั ษณะ ปลายนาํ้ ธารน้าํ โค้งตวดั - เรยี ก แม่น้าํ วัยแก่ แม่น้ําทไ่ี หลคดเคย้ี วเมื่อผ่านที่ - ไหลจากทร่ี าบสทู่ ะเล ราบ - ไหลคดเคี้ยว (เพราะเป็นไปตาม ทะเลสาบรปู แอก แรงเสดี ทานโลก) - ไหลชา้ เอ่ือยๆ แมน่ ้ําทีเ่ ปลยี่ นเส้นทาง ดว้ ยการกัดเซาะและทับถมจน - ทาํ ใหก้ ดั กร่อนด้านข้าง ทําให้เกิดทะเลสาบคล้ายบึงโค้ง ซึ่งพบมากในภาค มากกว่าดา้ นลกึ ตะวันออกเฉียงเหนือ เรียกอีกชื่อว่า กุด ไม่ควรตั้ง ถน่ิ ฐานเพราะเกดิ อุทกภยั ได้งา่ ย ดินตะกอนสามเหลย่ี มปากแมน่ ้าํ เกดิ จากการทับถมของดินตะกอนบริเวณปากแม่นํ้า ทําให้ แม่นํ้าแยกเป็นสายเหมือนตีนกา หากไหลออกสู่ทะเล ทีม่ คี ลน่ื ทะเลมาก ก็จะไม่เกิดการทับถมดังกล่าว ดังนั้น เราจึงไม่พบดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่นํ้าท่ีปากแม่น้ําเสมอ ไป เหมาะแก่การทํานาข้าว นาเกลือ เพาะเลี้ยงสัตว์นํ้า ชายฝง่ั และเป็นแนวปา่ ชายเลนทส่ี ําคญั นอกจากนย้ี งั มี แทง่ เสา (pillar) และ หินทรงตวั (balanced rocks) ซ่งึ เกดิ จากการกัดเซาะของ ธารนํ้าไหล ฝน ลมและอุณหภูมิ เช่น เสาเฉลยี ง (อุบลราชธาน)ี หอนางอษุ า (อดุ รธาน)ี ฮ่อมจอ้ ม (น่าน) แพะเมืองผี (แพร)่ ภูผาเทบิ (มกุ ดาหาร) อทุ ยานแหง่ ชาติ ปา่ หนิ งาม (ชัยภูมิ) แผ่นดินถล่ม (landslide) ดินคืบ (soil creep) โคลนไหล (mudflow) มักเกิดในเขตพืน้ ที่มีความลาดชนั ทไ่ี มม่ ปี ่าไมห้ รือไม่มีพชื ปกคลุม จะถกู แม่นาํ้ ลาํ ธารและฝนกัดเซาะไดง้ ่าย ซึง่ มักพบในภาคเหนือ ภาคตะวันตก และภาคใตข้ องประเทศไทย โครงการแบรนด์ซมั เมอร์แคมป์ ปีท่ี 27 ___________________ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (179)

• เกิดจากนํา้ ใตด้ นิ นํา้ ใต้ดินมพี ลังกัดกร่อนและทําให้เกิดการทับถม เพราะมีกรดคาร์บอนิค ทส่ี ามารถละลายหินปนู ได้ จึงทําให้เกิดลักษณะภูมิประเทศแบบคาร์สต์ (karst) คือภูมิประเทศ ท่ีอยู่ในเขตภูเขาหินปูนมี ถ้ํา (cave) หินงอก (stalagmite) หินย้อย (stalactite) บางครงั้ ถ้ําใต้ดินอาจยุบตวั ลงมาเพราะน้ําใต้ดินกัดเซาะ เกิดเป็นหลุมยุบ (sinkhole) ซ่ึงพบ บอ่ ยในภาคใต้และภาคตะวนั ตกของไทย • เกิดจากลม เป็นตวั การท่ีสาํ คญั ในเขตแห้งแล้ง แอง่ ในทะเลทราย (blowout) ทะเลสาบแหง้ (playa) สันทราย (sand dune) ที่ราบดนิ เลอส (loess) โขดหนิ รปู เหด็ (Mushroom rock) • เกิดจากคลน่ื ทะเล ได้แก่ หน้าผาทะเล (sea cliff) สะพานหนิ ธรรมชาติ ถ้ําทะเล (sea cave) เกาะหนิ โดง่ หรอื เขาหินชะลูด (Stack) สันดอนจงอย สันดอนเช่ือมเกาะ • เกดิ จากธารนํ้าแขง็ เป็นตวั การท่สี ําคญั ในเขตหนาว ได้แก่ ท่ีราบเศษธารนาํ้ แขง็ เขารูป พีระมดิ (Horn) หบุ เขาตัวยู (U Shape velley) • เกดิ จากปะการัง ซ่ึงเป็นสัตว์ทะเลขนาดเล็กอยูก่ นั เปน็ กลมุ่ ขนาดใหญ่ ตวั ปะการงั สามารถ ผลิตหนิ ปนู ห่อหมุ้ ตวั เม่ือมนั ตายไปกก็ ลายเปน็ หินปูนเกาะติดต่อกันแน่นเป็นพืด ตัวเกิดใหม่ จะเกาะทับซากเดิมนนู สูงข้ึนเรอื่ ยๆ ปะการังจะอาศัยในท้องทะเลน้ําตื้นลึกไม่เกิน 60 เมตร มแี สงสว่างส่องถึง ฟ้าใส อุณหภูมิของน้ําไม่ต่ํากว่า 20°C จึงพบแนวปะการังตามชายฝ่ัง ทะเลช่วงละติจูด 30° เหนือ ถึง 30° ใต้ และมักพบชายฝ่ังด้านตะวันออกของทวีปที่มี กระแสน้ําอุ่นผ่านซากปะการังที่เกาะติดกันเป็นรูปร่างต่างๆ คือ ซากชีวิตของปะการัง จํานวนมากมายมหาศาลท่ตี ้องใชเ้ วลาทับถมต่อกนั นานมาก ภมู ิประเทศท่ีเกดิ จากปะการัง เช่น หาดปะการัง เทือกปะการัง เกาะปะการัง ได้แก่ หมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก ประเทศมัลดีฟส์ ซ่ึงในอนาคตจะมีปัญหาความมั่นคงในการต้ังถิ่นฐาน เพราะระดับน้ําทะเล ทสี่ ูงขน้ึ จากภาวะโลกร้อน และเส่ียงต่อผลกระทบจากสนึ ามิ การผนั แปรของเปลอื กโลก กากราผรนั ผแันปแปรทรทีเ่ กี่เกิดดิ จจาากกกกาารรพพลลังงั งงาานนภภาายยในในโลโลกก กากรผารนั ผแนั ปแรปทร่เีทกเี่ ิดกจดิ าจกากกกาารรกกรระะททําาํ จจาากกภภาายยนนออกก (Edo(gEdeongeetniecticPrPorocceessss)) (Exog(eExnoegteicnePticroPcreoscess)s) กกรระะบบววนนกกาารรแแปปรรสสัณัณฐฐานาขนอขงอเปงลเปอื ลกโือลกกโลก ปปรารกาฏกกฏากรณารภณูเข์ภาไูเฟขาไฟ กกรระบะบวนวกนากราจรดั จรัดะดระบั ดับ (D(iaDsiatsrtoropphhiissmmPProrcoecsse)ss) ((VVoolclcaaninsmismProPcersosc)ess) (G(GrraaddaattiioonnPrPorcoecsse)ss) ๐ การบีบตวั คดโคง ๐ ภเู ขาไฟ กกาารรลลดดรระะดดับับ กกาารรเเพพม่ิ ม่ิ รระะดดบั ับ ๐ การยกตวั ๐ พุน้าํ รอน กเี ซอร (D(eDgergaraddaattiioonnPProrcoecses)ss) (A(gAggrgardadaattiioonn PProocrecsess)sX ๐ การทรุดตวั ๐ บอ โคลนเดอื ด ๐ แผน ดินไหว การกัดเซาะ (Erosion) การทับถม (Deposition) ๐ สึนามิ การพดั พา (Transportation) สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (180) ____________________โครงการแบรนด์ซมั เมอร์แคมป์ ปที ่ี 27

1.4 ภมู ิประเทศ ลักษณะภมู ิประเทศของโลก ประกอบด้วย 1.4.1 ภเู ขา ภมู ิประเทศทีม่ ีความสงู กว่าบรเิ วณโดยรอบเกนิ 600 เมตร สว่ นยอดจะมีพื้นทเ่ี ล็กกวา่ สว่ นฐานประเภทของภเู ขา - แบ่งตามโครงสร้างของภูเขา ภเู ขาหินแกรนิต ภเู ขาหนิ ปูน ภเู ขาหนิ ทราย มี ค ว า ม ค ง ท น สึ ก ก ร่ อ น ย า ก มีความคงทนน้อย สึกกร่อนยาก มีความคงทนสึกกร่อนยาก มียอดมน อุดมด้วยแร่ธาตุ มียอดขรุขระ เป็นแหล่งหินอ่อน มียอดป้าน บนภูเขามีท่ีราบ ได้แก่ภาคเหนือ ภาคตะวันตก และดินขาว มักพบมากในภาค ขอบผาชัน พบมากในภาค และภาคใต้ ตะวนั ตกและภาคใต้ ตะวันออกเฉยี งเหนือ ี่ - แบง่ ตามลักษณะการเกดิ ภูเขา ภเู ขา ลักษณะสําคญั การส่งผล พืน้ ท่พี บ ภเู ขาโก่งตัว - เป็นภูเขาทีพ่ บมากที่สดุ ในโลก - เกดิ จากการบีบอดั ของ - แรงบีบอัดทาํ ให้เกดิ คดโค้ง • เทือกเขารอกก้ี ภูเขาบลอ็ ก เปลือกโลก จนเกดิ หุบเขา • เทือกเขาแอนดิส (ยาวท่ีสุด - ขณะทเ่ี ปลือกโลกบบี ตวั - จะพบแร่ธาตุเพราะส่วน ใ น โ ล ก ป ร ะ ม า ณ 7,200 จ ะ เ กิ ด หุ บ เ ข า ต า ม ย า ว ใหญเ่ ปน็ หินแกรนิต กิโลเมตร) ขนานไปกับเทือกเขา (เป็น - ประโยชน์ของหุบเขา ใช้ใน • เทอื กเขาแอลป์ ท า ง ไ ห ล ข อ ง แ ม่ น้ํ า ส า ย การสร้างเขื่อน และเป็น • เทือกเขาหิมาลยั สําคัญ) แหล่งสะสมตะกอน ทําใหเ้ ป็น - ต่อมาแม่นาํ้ กัดเซาะภูเขา เขตเกษตรกรรม และตั้ง • เทือกเขาแบล็กฟอร์เรสต์ ดา้ นข้างจนเกดิ หุบเขาตาม ถน่ิ ฐาน (เยอรมนั ) ขวาง • เทือกเขาโวสก์ (ฝรั่งเศส) - ไมม่ หี บุ เขา ทาํ ให้ สรา้ ง สว่ นท่ยี บุ ลงเปน็ ลุม่ - เกิดจากการยกตัวของ เขื่อนไมไ่ ด้ • เทือกเขาบล็อกอาหรับกับ เปลือกโลก - เปน็ แหล่งท่องเที่ยว แอฟริกา ตรงกลางเป็นแอ่ง - บนภูเขามีท่ีราบและมี กลายเป็นทะเลแดง ขอบเป็นหน้าผาสูงชนั โครงการแบรนด์ซัมเมอรแ์ คมป์ ปที ี่ 27 ___________________ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (181)

ภูเขา ลกั ษณะสําคัญ การสง่ ผล พนื้ ทีพ่ บ ภูเขาไฟ - เกิดจากแมกม่าดันตวั - เ ม่ื อ ล า ว า เ ย็ น ตั ว จ ะ • ภเู ขาฟูจยิ ามา (ญี่ปุ่น) ขน้ึ มาแลว้ ยงั ไม่เย็นตัวจึง พ่งุ ทะลุออกมา กลายเป็นหินภูเขาไฟ จึงพบ • ภเู ขามายอน (ฟลิ ปิ ปนิ ส์) แร่กํามะถัน และดินภูเขาไฟ • ภูเขาอากุง (อนิ โดนเี ซีย) เหมาะแกก่ ารเพาะปลูก • ภูเขาเอตนา (อติ าล)ี - ปากปลอ่ งภูเขาไฟท่สี งบ แลว้ จะเป็นแหล่งท่องเทย่ี ว 1.4.2 เนนิ เขา คอื พื้นทีท่ ี่มคี วามสงู เฉล่ียจากโดยรอบ 150-600 เมตร มีความลาดชนั น้อย 1.4.3 ทรี่ าบสูง คือ พ้ืนทท่ี ม่ี ีความสงู กวา่ บริเวณโดยรอบ 150 เมตร (บางตําราถอื วา่ ทร่ี าบสูงตอ้ ง อยูส่ งู จากพนื้ ผิวโดยรอบ 300 เมตรข้นึ ไป จึงถือว่าประเทศไทยไม่มที ีร่ าบสูง เพราะมีความสงู เพยี ง 150-180 เมตร เทา่ น้นั ) ประเภทของทีร่ าบสงู ประเภท ลกั ษณะสําคญั บริเวณที่พบ รูปภาพ ท่ีราบสงู ระหวา่ งภเู ขา เป็นท่รี าบสูงระหว่างภเู ขา มภี ูเขาลอ้ ม อาจเกดิ จาก ท่ีราบสงู ทเิ บต มองโกเลยี ที่ราบสงู เชงิ เขา การบบี อดั ของเปลือกโลก ท่ีราบสูงอนาโตเลยี ท่รี าบสูง เม็กซโิ ก ทีร่ าบสูงทีอ่ ยูร่ ะหว่างภูเขา ทร่ี าบสงู เกรตเบซนิ กบั ทะเล ที่ราบสูงโบลเิ วยี ทีร่ าบสงู อหิ ร่าน อัลปาติโน บนเทือกเขา แอนดสี ทีร่ าบสงู โคโลราโด ท่ีราบสงู ปาตาโกเนีย ที่ราบสูงในทวีป ท่ีราบสูงที่เกิดภายในทวีป ท่ีราบสงู เมเซตา ย ก ร ะ ดั บ สู ง ข้ึ น ม า จ า ก ที่ราบสูงโคราช บริเวณโดยรอบ และล้อมรอบ ท่ีราบสูงอาหรับ ดว้ ยทรี่ าบต่ํา เรยี กอีกชื่อวา่ ท่รี าบสูงบราซลิ ที่ ราบสู ง รู ปโต๊ ะ( Table ทร่ี าบสงู กิอานา land) ท่ีราบสงู เดคคาน สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (182) ____________________โครงการแบรนดซ์ มั เมอรแ์ คมป์ ปีท่ี 27

1.4.4 ท่รี าบ คือ บรเิ วณท่ีสูงจากระดับน้ําทะเลไมเ่ กนิ 100 เมตร อาจตดิ ทะเล และมลี กั ษณะลกู คลืน่ • ท่รี าบทเ่ี กิดการเปล่ยี นแปลงโครงสร้าง (ทีร่ าบโครงสร้างเปลือกโลกต่ํา) เกิดเพราะเปลือกโลก ในบริเวณน้ันลดระดับตํ่าลงโดยธรรมชาติ เป็นท่ีราบที่มีอยู่มากท่ีสุด ได้แก่ ท่ีราบต่ําไซบีเรียในประเทศรัสเซีย ที่ราบตํา่ ตอนกลางของออสเตรเลยี • ทร่ี าบทเ่ี กิดจากการทับถม ทรี่ าบ ลกั ษณะสําคัญ ท่รี าบดนิ ดอนสามเหลี่ยมปากแมน่ ้าํ เป็นท่ีราบลุ่มแม่นํ้าบริเวณ ใกล้ปากนํ้า ซึ่งแม่นํ้าจะแยก สาขาลงทะเล มีโคลนตะกอน ทับถม เป็นที่ราบรูปพัดแผ่ กว้างออกไปเหมาะในการปลูก ป่าชายเลนและเล้ียงสัตว์นํ้า ตามชายฝั่ง ทร่ี าบชายฝ่ังทะเล เปน็ ที่ราบทเ่ี กิดจากการทับถมของดนิ ตะกอนจากคลน่ื ทะเล ทร่ี าบนา้ํ ทว่ มถึง เป็นที่ราบลุ่มตะกอนน้ําพัดพา ท่ีอยูใ่ กลก้ บั ลาํ น้ํามาก หนา้ ฝน มักน้ําท่วม พาตะกอนมาท้ิง เกิดเปน็ ทร่ี าบดินตะกอนน้ําพา เหมาะในการทาํ นา ที่ราบตะกอนธารนา้ํ แขง็ พดั พา เกิดจากธารนํ้าแข็งพากรวด ทราย ทําให้เกิดท่ีราบเศษ ธาร น้ําแข็ง ทรี่ าบเลิลส์ (ทร่ี าบดนิ ลมหอบ) มักเป็นพื้นที่แห้งแล้งว่างเปล่า เช่น เนเธอแลนด์ และตอนเหนือของ เยอรมัน บางที่มีประโยชน์ในการเกษตร เช่น ตอนกลางทางตะวันตก ในสหรฐั อเมริกา และบรเิ วณตะวันออกขององั กฤษ พบบริเวณแห้งแล้งหรือกึ่งแห้งแล้ง ลมพาเอาวัตถุชิ้นเล็กๆ ละเอียด มาก เรียกว่า ดินเลิลส์ มาจากทะเลทราย นํามาทับถมตามยอดเนินและ หุบเขาจนกลายเป็นท่ีราบ ช่วยถมให้เปลือกโลกเรียบและให้ความ อุดมสมบูรณ์ ได้แก่ ที่ราบในเขตทุ่งหญ้าปามปัส อาร์เจนตินา ที่ราบ เลสิ ส์ในจีน โครงการแบรนด์ซมั เมอร์แคมป์ ปที ี่ 27 ___________________ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (183)

1.4.5 ทะเลสาบ (LAKE) คอื แหลง่ นาํ้ ทล่ี ้อมรอบดว้ ยแผ่นดิน อาจจะมีทางออกสู่ทะเล มหาสมทุ ร โดยแม่นา้ํ มี 2 ประเภท คอื ทะเลสาบนํ้าเคม็ และทะเลสาบนาํ้ จืด - ปัจจัยในการเกดิ ทะเลสาบน้ําจดื และน้าํ เคม็ • เขตอากาศ ทะเลสาบท่ีอยู่ในอากาศเขตร้อนมักจะเป็นนํ้าจืดเพราะได้รับน้ําฝนอยู่ตลอดเวลา ทะเลสาบในเขตหนาวจะได้รับนํ้าจืดจากการละลายของธารนํ้าแข็งในฤดูร้อน ส่วนทะเลสาบในเขตแห้งแล้งจะมี การระเหยของนาํ้ ในทะเลสาบสูง ทําใหแ้ รธ่ าตใุ นทะเลสาบมีความเข้มข้น จึงมกั เป็นทะเลสาบนา้ํ เค็ม • การระบายนํ้า ทะเลสาบที่เป็นนํ้าเค็มมักไม่มีทางออกสู่ทะเล ทําให้ทะเลสาบได้รับการสะสมของ แร่ธาตุมากขึ้นแตไ่ ม่มกี ารระบายออก - สาเหตุการเกดิ ทะเลสาบ • เกดิ จากการเคลอ่ื นไหวของเปลอื กโลก ทาํ ให้พ้นื ดนิ บางส่วนยุบตาํ่ ลง เชน่ ทะเลสาบแคสเปยี น ทะเลสาบวิกตอเรยี หรือเกิดจากหบุ เขาทรุด และเวลาต่อมามนี ้าํ ขงั จนกลายเป็นแหลง่ นํ้า เช่น ทะเลสาบแทนยิกา ทะเลสาบไนอสั ซา ทะเลสาบเดดซี ทะเลสาบไบคาล • เกิดจากการกัดเซาะของธารน้าํ แขง็ เช่น ทะเลสาบในประเทศฟนิ แลนด์ • เกิดจากปากปลอ่ งภูเขาไฟยบุ ตวั • เกดิ จากแมน่ ํา้ เปลย่ี นทศิ ทาง เราเรยี กวา่ ทะเลสาบรูปแอกวัว (Oxbow lake) • เกิดจากแม่น้ําถกู ขวางก้นั ทางเดิน เชน่ การสรา้ งเขือ่ น 1.4.6 คาบสมทุ ร (Peninsula) คอื สว่ นของแผ่นดินใหญ่ที่ยน่ื ออกไปในทะเล อา่ ว หรอื มหาสมุทร 1.4.7 แหลม (Cape) คอื ส่วนของแผน่ ดินที่ยืน่ ตอ่ มาจากคาบสมทุ ร 1.4.8 เกาะ (Island) คอื ส่วนของแผ่นดินท่มี นี าํ้ ลอ้ มรอบ • เกาะริมชายฝ่ัง มักมีขนาดใหญ่และอยู่ใกล้ชายฝั่งเพราะเดิมเคยเป็นส่วนหน่ึงของทวีปมาก่อน ต่อมาเกดิ การทรดุ ตวั ของแผน่ ดินบางสว่ น เกาะริมทวีปมกั อยใู่ นแนวนาํ้ ตืน้ • เกาะกลางมหาสมุทร มักมีขนาดเล็กอยู่ห่างชายฝ่ังท่ีเป็นแผ่นดินใหญ่มากๆ มักตั้งในเขต น้าํ ลกึ เกาะกลางสมุทรอาจเกดิ จากภูเขาไฟและปะการงั 1.4.9 ชายฝั่ง • ชายฝ่งั ที่เกิดจากการยบุ ตัว (ฝ่งั ทะเลจม) เปน็ ชายฝ่ังเว้าแหว่ง ไม่ค่อยมีที่ราบ นํ้าลึก มีเกาะ มากมายตามชายฝ่ัง ไม่เหมาะในการตั้งถิ่นฐาน แต่เหมาะในการสร้างท่าเรือเพราะระดับนํ้าที่ลึกท่ีให้เรือขนาดใหญ่ มาเทียบท่าได้ การมีเกาะและอ่าวจะช่วยคอยกําบังลมและคล่ืนทะเลไม่ให้รุนแรง แต่อย่างไรก็ตามการสร้าง ทา่ เรอื จะต้องพจิ ารณาพื้นทชี่ ายฝง่ั ทีจ่ ะสร้างท่าเรือดว้ ย ควรจะเปน็ เขตตงั้ ถนิ่ ฐาน หรือมกี ารคมนาคมทส่ี ะดวก • ชายฝ่งั ฟยอรด์ เกิดจากการกัดเซาะของธารนา้ํ แข็งในเขตชายฝั่งทม่ี ภี ูเขาชดิ ชายฝั่ง ทําใหเ้ กิด อ่าวแคบๆ มีประโยชน์ในการเพาะพนั ธุ์สตั วน์ ํ้าตามธรรมชาติ เปน็ ที่กําบังลมและเปน็ แหลง่ ทอ่ งเทีย่ ว เชน่ ชายฝง่ั นอร์เวย์ ชายฝัง่ อลาสกา ชายฝัง่ ชิลตี อนใต้ ชายฝัง่ เกาะใตข้ องนิวซีแลนด์ • ชายฝ่งั แบบชะวากทะเล เกิดจากการยบุ จมของทรี่ าบชายฝง่ั มกั พบบริเวณปากแม่นาํ้ บางแห่ง ทาํ ให้ปากแม่น้ํามลี กั ษณะกว้างคล้ายอา่ ว เรอื ใหญ่สามารถจอดเทียบทา่ ได้ เช่น ปากแมน่ ํา้ เทมส์ แมน่ า้ํ เอลเบ แม่น้ําริโอ เดอลาปลาตา แมน่ ํา้ ปากจนั่ หรือกระบรุ ี สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (184) ____________________โครงการแบรนดซ์ ัมเมอร์แคมป์ ปที ่ี 27

• ชายฝั่งท่ีเกิดจากการยกตัว ชายฝ่ังยกตัว (ฝ่ังทะเลโผล่) เป็นชายฝั่งที่มีท่ีราบกว้าง หาดทรายนํ้าต้ืน และมักพบสันทราย สันดอนจะงอย เช่น แหลมตะลุมพุก, ลากูน เช่น ทะเลสาบสงขลา, พรุหรือมาบ เช่น พรบุ าเจาะ พรโุ ต๊ะแดง เกาะมาก ชะวากทะเล สันดอน พรุ หาดกวา ง น้ําตนื้ เวา แหวง นํ้าลึก ความสาํ คัญของภมู ปิ ระเทศ 1. ลกั ษณะภูมอิ ากาศในท้องถน่ิ - อณุ หภูมิท่ยี อดเขาจะตา่ํ กว่าเชงิ เขา - พน้ื ท่ีที่อยใู่ กลม้ หาสมุทร อณุ หภมู ิกลางวันและกลางคนื และระหว่างฤดรู อ้ นและฤดูหนาว จะไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ หลักการ คุณสมบัติในการดดู และคายความร้อนระหวา่ งพ้นื ดินกบั พน้ื นํา้ ตา่ งกัน - พน้ื ท่ีท่อี ยูใ่ กลท้ ะเลและเกาะจะมีโอกาสฝนตกมากกวา่ - บริเวณที่เขาด้านที่หันหน้าเข้าหาลมประจําท่ีพัดมาจากทะเลและมหาสมุทรจะมีปริมาณฝน มากกวา่ ท่ลี าดเขาดา้ นตรงข้าม 2. ความอดุ มของทรัพยากรธรรมชาติ บรเิ วณที่ราบลุ่มแมน่ ํา้ มักมีดนิ ตะกอนอดุ มกวา่ พน้ื ทล่ี าดชนั ภเู ขาสงู มักมีทรพั ยากรปา่ ไมแ้ ละ แรธ่ าตุอดุ มกว่าที่ราบ นอกจากน้ีเขตเทอื กเขายงั เป็นเขตตน้ นาํ้ ลําธารท่ี สาํ คญั อีกด้วย 3. การกระจายตวั ของประชากร - การต้ังบ้านเรอื นนิยมบรเิ วณที่ราบ 4. ความเป็นอยู่ของมนุษย์ ทร่ี าบมีประโยชน์ตอ่ การเกษตรและคมนาคมมากกว่าเทอื กเขาสงู โครงการแบรนดซ์ มั เมอร์แคมป์ ปที ่ี 27 ___________________ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (185)

1.5 สว่ นประกอบของเปลอื กโลก 1.5.1 หนิ (Rocks) หนิ บนพน้ื ผวิ โลกแบ่งเป็น 3 ประเภท ดังน้ี ชื่อหิน การเกิด ลักษณะสาํ คัญ ความสาํ คญั ประโยชน์ และตัวอยา่ งหนิ หินอัคนี 1. เ กิ ด จ า ก หิ น ห นื ด 1. มกี ารตกผลึกในเนือ้ หนิ 1. เทือกเขาหินอัคนีมัก (igneous rock) (magma) แ ข็ งตั ว เม่ื อ 2. ไม่มีซากดึกดาํ บรรพ์ มีความสงู สึกกร่อนชา้ เคลื่อนตัวแทรกข้ึนมาบน (fossil) ปรากฏในเนื้อหิน 2. อดุ มดว้ ยแร่ธาตุ โดยเฉพาะ ช้นั ผวิ เปลือกโลก 3. ไมม่ กี ารวางตัวเปน็ ช้นั ๆ แรโ่ ลหะ 2. การระเบิดของภเู ขาไฟ 4. ส่วนประกอบของเน้ือหิน 3. ทํ า ส่ิ ง ก่ อ ส ร้ า ง หิ น บางชนิดเป็นกรด (acid ประดับอาคารบ้านเรือน rock) เ ช่ น หิ น แ ก ร นิ ต * หินอัคนีในประเทศไทย (granite) บางชนิดเปน็ ด่าง พ บ ม า ก ใ น เ ข ต ภู เ ข า (basic rock) เช่น หินบะ ภาคเหนือ ซอลต์ (basalt) 5. เนื้อหนิ แขง็ แกร่ง ทนทาน หนิ ชนั้ หรอื เกิดจากการทับถมของโคลน 1. เนอื้ หนิ เรียงตวั เปน็ ชั้นๆ 1. เทอื กเขาหินช้ันมีการสึก หินตะกอน ตะกอน วัตถุหรือสารต่างๆ อย่างชดั เจน กรอ่ นง่ายและเรว็ (sedimentary แ ล ะ ก า ร ผุ พั ง ข อ ง หิ น 2. มักมซี ากดึกดําบรรพ์ 2. เทือกเขาหินปูนมีภูมิ เปลือกโลก อันเกิดจากตัว ประเทศที่เป็นถํ้า หินงอก rock) กระทําต่างๆ เช่น ลม ฟ้า หนิ ยอ้ ย ธารนํ้าแข็ง คล่ืน หรือเกิด 3. เป็นแ หล่งแร่อโลหะ จากสง่ิ มีชวี ติ หรือเกดิ และแรเ่ ชอื้ เพลงิ จากการเปล่ียน แปลงทาง 4. เปน็ วสั ดุก่อสร้าง เคมี * หินชั้นในประเทศไทย พบมาก ภาคตะวันตกและ ภาคใต้ (หินปูน) และภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ (หิน ทรายและหนิ เกลอื ) หนิ แปร เกดิ จากพลงั งานความร้อน มีลักษณะแตกตา่ งจากหนิ 1. เป็นวัสดกุ ่อสร้าง (metamorphic และแรงกด ทําให้หินอัคนี ชนิดเดมิ 2. ทําเครือ่ งใช้ หรือหินชั้น หรือหินแปร rock) เปลี่ยนแปลงรูปร่างและ คุ ณ ส ม บั ติ ก ล า ย เ ป็ น หิ น ชนดิ ใหม่ สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (186) ____________________โครงการแบรนด์ซัมเมอรแ์ คมป์ ปีท่ี 27

1.5.2 ดิน • ส่วนประกอบของดิน ไดแ้ ก่ - อนนิ ทรยี ว์ ตั ถุ ไดแ้ ก่ หิน และแร่ธาตุ เป็นแหลง่ กําเนิดของธาตุอาหารพชื - อนิ ทรีย์วัตถุ ไดแ้ ก่ ซากพชื ซากสัตว์ ทีย่ ่อยสลายแล้ว ชว่ ยควบคุมโครงสรา้ งพน้ื ดนิ ไม่ใหท้ บึ - นาํ้ ช่วยละลายธาตอุ าหาร - อากาศ โดยเฉพาะกา๊ ซออกซเิ จน ไนโตรเจน คาร์บอนไดออกไซต์ เปน็ ตวั ให้อาหารแกพ่ ชื สดั สว่ นดินทีเ่ หมาะสมกบั การเจรญิ เติบโตของพชื อนนิ ทรียว์ ัตถุ : อินทรยี วตั ถุ : นํา้ : อากาศ (45 : 5 : 25 : 25) • ปจั จยั สาํ คัญให้เกดิ ดนิ ปจั จัยท่มี ีผลต่อดิน สง่ ผล ลกั ษณะภูมปิ ระเทศ - ความลาดชันมีผลต่อการสรา้ งดนิ และการสึกกรอ่ นพงั ทลายของดิน ลกั ษณะภูมอิ ากาศ - บริเวณท่ลี าดชนั มาก จะสร้างดินได้ยากแต่ดนิ จะสกึ กรอ่ นไดง้ า่ ย วตั ถตุ น้ กําเนิดดนิ อากาศร้อนชื้น ฝนตกหนัก ดินจะถูกชะล้างได้ง่าย ความร้อนทําให้ฮิวมัส สลายตัวไดง้ า่ ย ปัจจัยทมี่ ผี ลต่อดิน ลักษณะภูมปิ ระเทศ ดนิ ทเ่ี หมาะตอ่ การเจริญเติบโตของพชื คอื ดนิ ที่เกิดจาก หินปนู และบะซอลต์ มคี วามเปน็ ดา่ ง จลุ ินทรีย์ชว่ ยยอ่ ยสลายซากพชื และสตั ว์ ฮิวมสั เพิม่ ขนึ้ ดนิ ที่มีอายมุ าก จะมีความอดุ มสมบรู ณ์นอ้ ย เพราะ ผา่ นการสึกกรอ่ นมามากแล้ว 2. อทุ กภาค เป็นสว่ นของโลกทเี่ ปน็ นํา้ ทอ่ี ยู่บน พ้นื โลกทง้ั หมด ปรากฏการณ์ทีเ่ กิดจากอุทกภาค 2.1 อทุ กวฏั จักร (Hydrologic cycle) ในเขตร้อน วฏั จักรนา้ํ จะหมุนเวยี น เร็วกวา่ ในเขตอบอุน่ และหนาว 2.2 คล่ืน (wave) มี 2 ประเภท คือ • คลนื่ ผิวน้ํา เกิดจากลม กระแสนาํ้ การปะทะของคล่ืนกับชายฝงั่ คลน่ื ผวิ นา้ํ มอี ทิ ธพิ ลต่อ การเดินเรอื และการเปลีย่ นแปลงของชายฝง่ั • คลนื่ ใตน้ ํ้า เกดิ จากแผ่นดนิ ไหวใตม้ หาสมุทรหรอื ภเู ขาไฟใตน้ ้ําระเบิด คลนื่ ชนดิ น้ีมีขนาดใหญ่ เคลือ่ นที่ไดไ้ กลทาํ ใหเ้ กดิ อันตรายต่อชีวติ และทรพั ยส์ ินได้ มักเกิดในท้องทะเล มหาสมุทรท่ีอยใู่ นแนวเปลอื กโลก ไมม่ น่ั คง ไดแ้ ก่ คล่นื สนึ ามิ (tsunami) 2.3 นํ้าข้ึนน้ําลง (tides) คือ ปรากฏการณ์เพ่ิมระดับและลดระดับของนํ้าในทะเลและมหาสมุทร เกิดจากแรงดึงดูดของดวงจันทร์ (moon gravitational force) และแรงหนีศูนย์กลาง นอกจากน้ี น้ําในแม่นํ้า ลาํ คลองกม็ ีนํ้าขนึ้ นํา้ ลงแตจ่ ะชา้ กว่าน้าํ ในทะเลและมหาสมทุ ร โครงการแบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ ปที ี่ 27 ___________________ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (187)

พ้ืนผิวนํา้ ของโลก จะมีน้ําขึ้น 2 แหง่ นํา้ ลง 2 แห่ง และเนอื่ งจากโลกหมุนรอบตวั เอง 1 รอบ ใชเ้ วลา 24 ชัว่ โมง ขณะเดียวกันดวงจนั ทรห์ มุนรอบโลก 1 รอบ ใชเ้ วลา 29 ½ วัน จึงทําใหพ้ ืน้ นาํ้ บนผิวโลก ในแนวเสน้ เมริเดียนเดยี วกัน จะหันเข้าหาดวงจันทร์ครบรอบต้องใช้เวลา 24 ช่วั โมง 52 นาที ดังนน้ั แต่ละวนั จะมี นาํ้ ขน้ึ น้ําลง ช้ากวา่ วนั ก่อน 52 นาที 2.4 นาํ้ เกดิ และน้าํ ตาย (spring tide and neap tide) คอื ปรากฏการณน์ าํ้ ขึ้นมากกว่าปกติ และ นํา้ ลงมากกวา่ ปกติ เกดิ เน่อื งจากดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์และโลก อยู่ในแนวตรงกนั ทาํ ใหม้ ีแรงดึงดูดท้ังจาก ดวงอาทติ ยแ์ ละดวงจนั ทรเ์ พ่ิมขึ้น ระยะเวลาทด่ี วงอาทติ ย์ ดวงจนั ทรแ์ ละโลก อยใู่ นแนวตรงกัน คอื วนั ข้นึ 15 คาํ่ และวนั แรม 15 ค่ํา นํา้ จะขน้ึ มากกวา่ ปกติ เรยี กวา่ น้ําเกดิ วันขนึ้ 7-8 คํา่ และวนั แรม 7-8 คํ่า ดวงอาทิตย์และดวง จันทรอ์ ยใู่ นแนวตง้ั ฉากกับโลก นํา้ จะข้นึ น้อยกวา่ ปกติ เรยี กวา่ น้าํ ตาย 2.5 กระแสนํ้าในมหาสมทุ ร ( Ocean current ) - สาเหตทุ ที่ ําใหเ้ กิดกระแสน้าํ ในมหาสมทุ ร • ความแนน่ ของนํา้ ทะเลท่ตี ่างกัน (density differences) เน่อื งจากอณุ หภูมขิ องนํ้าตา่ งกัน นํ้าท่มี อี ุณหภมู ติ ํ่า จะมคี วามแนน่ สูง จะจมลงสเู่ บ้ืองลา่ ง น้ําทมี่ อี ุณหภูมิสูง จะมคี วามแน่นตํ่า จะลอยตัวท่ผี วิ นํา้ • ลมเหนือพน้ื นา้ํ (prevailing surface winds) ลมประจําที่พดั อยเู่ หนอื พน้ื นา้ํ มีกําลงั ที่จะ ทําใหน้ ้าํ ไหลเคล่อื นทไี่ ปตามทิศทางลมได้ ลมทมี่ บี ทบาทสาํ คญั คอื ลมประจําปี ได้แก่ ลมค้า (trade winds) ลมตะวนั ตก (westerly winds) และลมข้ัวโลก (polar winds) รวมทัง้ ลมมรสุม (monsoon winds) ใน มหาสมทุ รอินเดยี • แรงเหวีย่ งหรอื แรงเฉของโลก (coriolis force) เพราะโลกหมุนรอบตัวเอง ทาํ ใหเ้ กิด แรงเหวี่ยงหรือแรงเฉของกระแสนํา้ • ชายฝง่ั ของทวปี (coast of continents) เม่ือกระแสนา้ํ ไหลมาชนกบั ชายฝง่ั ของทวีปทข่ี วางอยู่ กระแสน้าํ จะเปลี่ยนทิศทางการไหล โดยแยกเส้นทางไหลไปตามแนวชายฝัง่ - ชนิดของกระแสนํ้า • กระแสนาํ้ อนุ่ มาจากเขตละติจูดตํา่ ไปเขตละติจูดสงู (อนุ่ กวา่ นํา้ โดยรอบ) • กระแสนํา้ เยน็ มาจากเขตละตจิ ูดสงู ไปยงั เขตละตจิ ูดตาํ่ (เยน็ กวา่ นา้ํ โดยรอบ) - อิทธิพลของกระแสน้าํ • สง่ ผลต่ออากาศ กระแสนาํ้ อ่นุ ไหลผ่าน อากาศจะชุ่มชืน้ และมีฝนตก (แมจ้ ะผ่านในฤดูหนาว) กระแสนาํ้ เย็นไหลผา่ น อากาศจะแห้งแลง้ อาจกลายเปน็ ทะเลทราย • ส่งผลต่อส่ิงมีชีวิต บริเวณทกี่ ระแสนํ้าอนุ่ และกระแสน้ําเย็นมาเจอกันจะเกิดหมอกทะเล และเป็นแหล่ง แพลงตอน ซึ่งเป็นอาหารของปลา ทําให้เกิดเขตปลาชุม โดยปกติกระแสนํ้าเย็นจะมีปลาชุกชุมมากกว่ากระแสนํ้าอุ่น ได้แก่ ครู ิลแบงก์ (กระแสนํา้ อุ่นกโุ รชโิ วเจอ กระแสนา้ํ เย็นโอยาชิโว) แกรนดแ์ บงค์ (กระแสนํ้าอุ่นกัลฟ์ตรีม เจอกระแสนํ้าเย็น แลบราดอร)์ ดอกเกอรแ์ บงค์ (กระแสนํ้าอุน่ กลั ฟ์ตรีม มาปะทะชายฝัง่ นอรเ์ วย)์ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (188) ____________________โครงการแบรนดซ์ มั เมอรแ์ คมป์ ปที ่ี 27

• ส่งผลต่ออุณหภูมินํ้าทะเล การแลกเปลี่ยนน้ําระหว่างเขตร้อนและเขตหนาว ทําให้ ทุ่งนํ้าแข็งไม่สามารถขยายตัวเข้ามาในเขตอบอุ่น และช่วยทําให้นํ้าแถบศูนย์สูตรไม่ร้อน จนเกินไป • ส่งผลต่อการคมนาคม การแลน่ ทวนกระแสนา้ํ และภเู ขาน้ําแข็งที่ไหลมาอาจเปน็ สงิ่ กดี ขวาง การเดินเรือ นอกจากน้ีกระแสน้ําอุ่นยังช่วยทําให้สามารถจอดเรือในน่านนํ้าในเขตหนาว เพราะกระแสน้ําอุ่นจะทําให้นํ้าทะเลไม่เป็นนํ้าแข็ง เช่น ชายฝั่งตะวันตกของยุโรป ชายฝั่ง นอรเ์ วย์ 3. บรรยากาศภาค เป็นส่วนของโลกทีเ่ ป็นนา้ํ ท่อี ยู่บนพื้นโลกท้งั หมด ลมฟ้าอากาศ (weather) หมายถึง สภาพอากาศหรือสภาพบรรยากาศในช่วงเวลาสั้นๆ เช่น วันนี้ อณุ หภูมิสงู ทอ้ งฟ้ามีเมฆมาก อาจเกดิ พายุฤดูรอ้ น ภูมิอากาศ (climate) หมายถึง สภาพอากาศหรือสภาพบรรยากาศท่ีมีอยู่เป็นประจําในระยะ เวลานาน เช่น ประเทศไทยมภี มู อิ ากาศแบบร้อนชื้น องค์ประกอบของลมฟ้าอากาศ และภูมิอากาศ คือ อุณหภูมิของอากาศ ความกดของอากาศ และ ความชืน้ ของอากาศ 3.1 ความสาํ คญั ของบรรยากาศ - มีกา๊ ซออกซเิ จน (oxygen) ชว่ ยในการหายใจ - ช่วยลดความเขม้ ของแสงอลุ ตราไวโอเลต (ultra violet) - ช่วยให้สภาพอากาศเหมาะสมต่อการดํารงชีวิตของมนุษย์ ถ้าโลกไม่มีบรรยากาศกลางวัน จะร้อนจัด กลางคนื จะหนาวจดั คลา้ ยดวงจนั ทร์ - ทําใหเ้ กดิ เมฆ หมอก ลม ฝน หมิ ะ ลกู เห็บ น้ําค้าง - ชว่ ยลดอันตรายจากอุกกาบาต (meteorite) เมอื่ อกุ กาบาตผ่านเข้าช้ันบรรยากาศโลกจะลุกไหม้ เปน็ ดาวตก หรอื ผีพงุ่ ไต้ และลดขนาดลงจนเป็นผง 3.2 มนษุ ย์กบั ชัน้ โทรโพสเฟยี ร์ องคป์ ระกอบท่ีสาํ คัญของชั้นโทรโพสเฟียร์ คอื ฝนุ่ ละออง และไอน้ํา องคป์ ระกอบ ปรากฎการณเ์ กย่ี วกับบรรยากาศภาค ฝนุ่ ละออง ทําให้เกิดการสะท้อนแสงของดวงอาทิตย์ เกิดสีแดงเร่ือบนท้องฟ้าช่วงรุ่งอรุณและช่วง (dust) พลบค่ํา ทําให้แสงอาทิตย์มืดมัวเพราะบรรยากาศมีฝุ่นละอองกระจายแสงอาทิตย์ผ่านไม่เต็มที่ ซึง่ เรียกว่า ฟ้าหลัว (haze) ไอนาํ้ ทาํ ให้เกิดหยาดนํ้าฟา้ (precipitation) คือ นาํ้ ในบรรยากาศ แล้วตกลงมาบนพื้นโลก ไดแ้ ก่ (water vapor) • นํ้าค้าง เกิดจากอุณหภมู ิเยน็ จัด ไอน้ําเลยควบแนน่ เกาะตามใบไม้ • ฝน เกิดจากการควบแนน่ ของไอนํ้าในอากาศ จนเม่ืออากาศรับไมไ่ หวจะตกลงมา • ฝนนาํ้ แข็ง เป็นฝนท่ีตกผ่านบรรยากาศที่มอี ุณหภูมติ ํ่ากวา่ 0°C • หมิ ะ ผลึกนาํ้ แขง็ เกิดจากไอนํา้ ในอากาศที่มอี ุณหภมู ติ ํา่ กวา่ 0°C • นาํ้ ค้างแขง็ เกิดจากอากาศเยน็ ลง พอไอน้ําลอยผ่านกลายเป็นน้าํ คา้ งแข็ง ภาคเหนือ เรียกวา่ “เหมยขาบ” ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ เรียกว่า “แมค่ ะน้ิง” โครงการแบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ ปที ี่ 27 ___________________ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (189)

องคป์ ระกอบ ปรากฎการณเ์ กีย่ วกับบรรยากาศภาค • ลูกเห็บ เกิดพร้อมกับพายุฝนฟ้าคะนอง มักเกิดเมฆคิวมูโลนิมบัสลอยตัวขึ้นสู่ท่ีสูงอย่าง รวดเร็ว จะดึงหยดน้ําลอยไปด้วย พอถึงชั้นบรรยากาศท่ีมีอุณหภูมิตํ่ากว่าจุดเยือกแข็ง เม็ดฝนจะกลายเป็นฝนน้ําแข็ง หากฝนนํ้าแข็งถูกพายุดึงให้ลอยตัวกลับข้ึนไปอีกคร้ัง จะมขี นาดใหญข่ ้ึน เม่อื ตกส่เู บื้องลา่ งจะเป็นลูกเหบ็ - ทาํ ให้แสงอาทิตยท์ ่สี ่องผา่ นไอนํา้ เกดิ สสี ันตา่ งๆ เช่น รุง้ กนิ นา้ํ (rainbow) วงแสง (halo) ดวงอาทติ ย์ และดวงจันทรท์ รงกลด (corona) - ทําให้อุณหภูมิของอากาศสูงขึ้นเมื่อไอน้ํากลั่นตัวเป็นกลุ่มเมฆเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง (Thunderstorm) ได้ 3.3 ปจั จยั ท่สี ง่ ผลตอ่ ภูมิอากาศ ปจั จยั การส่งผลต่อลกั ษณะอากาศ ละติจูดของ พื้นที่ที่ไกลเส้นศูนย์สูตรจะได้รับปริมาณความร้อนจากดวงอาทิตย์น้อยกว่าบริเวณที่ใกล้ พืน้ ท่ี เสน้ ศนู ยส์ ตู ร ระยะห่างจาก บริเวณที่ใกล้ทะเลจะมีฝนตกมากและความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิในฤดูร้อนและฤดู ทะเล หนาวน้อยกวา่ บรเิ วณทไ่ี กลทะเล กระแสน้าํ เขตท่ีไดร้ ับอิทธิพลจากกระแสนํ้าอุ่น จะมอี ุณหภมู สิ ูงและฝนตกมาก ความสงู ของ ทกุ ๆ ความสงู 1,000 เมตร อณุ หภูมิจะลงลด 6.4 องศาเซลเซยี ส เพราะย่งิ สงู ข้ึนไปจะไดร้ ับ พ้นื ท่ี อิทธิพลจากการคายความร้อนจากเปลอื กโลกน้อยลง เมอื่ ความร้อนไปไม่ถงึ อากาศกจ็ ะเย็นลง ทาํ ให้ยอดเขามีอากาศเยน็ กวา่ บริเวณเชงิ เขา ฤดูกาล - ตาํ แหนง่ ที่สาํ คญั ในการโคจรของโลกรอบดวงอาทติ ย์มีผลตอ่ ฤดกู าล - เขตอากาศในซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้มีลักษณะเหมือนกัน แต่ฤดูกาลจะตรงกันข้าม กนั เพราะแกนโลกท่เี อียง ทศิ ทางลม - ลมท่พี ดั จากทะเล > แผ่นดิน จะนาํ ความชุม่ ช้นื และฝนมาให้ - ลมท่ีพัดจากแผ่นดนิ > ทะเล จะนําความชุม่ ชื้นออกจากแผ่นดนิ ทาํ ใหอ้ ากาศแห้งแล้ง ประเภทของลม ลมข้วั โลก H 1. ลมประจําปี คอื L ลมทพ่ี ัดมาตลอดท้งั ปี ลมตะวนั ตก H 60-65 N ไดแ้ ก่ ลมคา้ ลมคา L 30-35 N ลมตะวนั ตก 5 N -5 S และลมขวั้ โลก ลมตะวนั ตก H 30-35 N L 60-65 S ลมขวั้ โลก H สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (190) ____________________โครงการแบรนดซ์ ัมเมอรแ์ คมป์ ปีที่ 27

ปจั จยั การสง่ ผลตอ่ ลกั ษณะอากาศ 2. ลมประจาํ เวลา ได้แก่ ลมบก-ลมทะเล, ลมภูเขา-ลมหุบเขา 3. ลมประจําถิ่น ได้แก่ ลมวา่ ว ลมตะเภา 4. ลมประจาํ ฤดู เรียกวา่ ลมมรสุม 5. ลมแปรปรวน ได้แก่ พายฝุ นฟา้ คะนอง พายุหมุน เกิดจากการปะทะกนั ของมวลอากาศ เกิดเปน็ รอ่ งมรสมุ 1) มักเกิดบริเวณทะเลหรือมหาสมุทรท่ีได้รับความร้อนจากดวงอาทิตย์ ทําให้ อณุ หภมู ิสูง ความกดอากาศต่าํ เกดิ เปน็ ตาพายุ (ศูนย์กลางพายุ) 2) ระหว่างนนั้ จะเกิดเมฆคิวมโู ลนมิ บัส ทาํ ใหท้ อ้ งฟ้าปดิ เป็นพายุฝนฟ้าคะนองและ มีอากาศแปรปรวน • ชนดิ ของพายุหมุน ไดแ้ ก่ ดเี ปรสชัน่ โซนร้อน ไต้ฝุ่น (เรยี งตามลาํ ดบั ความเรว็ ลมใกลจ้ ดุ ศนู ย์กลางจากน้อยไปมาก) ทําให้เราทราบกาํ ลังแรงของพายุและระดบั การปอ้ งกนั ภัย • ประโยชนท์ ี่เกิดจากพายุ คอื ทาํ ให้ฝนตก ดีต่อการเกษตรกรรม • โทษทเ่ี กดิ จากพายุ คอื การเกิดวาตภัย และโรคระบาด • พายุแต่ละทีม่ ชี อื่ เรยี กท่แี ตกตา่ งกันตามทีเ่ กดิ ไต้ฝนุ่ มหาสมุทรแปซฟิ กิ และทะเลจนี ใต้ เฮอรเิ คน ทะเลแคริบเบียนและอ่าวแม็กซิโก มหาสมุทรแอตแลนติก ไซโคลน อ่าวเบงกอลและทะเลอาหรบั มหาสมุทรอนิ เดยี วลิ ล่ี วิลล่ี ทวปี ออสเตรเลยี โครงการแบรนดซ์ ัมเมอรแ์ คมป์ ปที ี่ 27 ___________________ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (191)

3.4 การกระจายเขตภมู อิ ากาศโลกตามระบบเคปิ เปนิ - เกณฑท์ ีใ่ ช้ คือ อุณหภมู เิ ฉลี่ยและปรมิ าณฝนประจําเดือนและประจําปี 3.4.1 เขตภมู ิอากาศแบบรอ้ น (A) เขต ลกั ษณะอากาศ พืชพรรณ เศรษฐกิจ ประชากร แบบร้อนชน้ื ธรรมชาติ (มรสุม เขตร้อน) - อากาศรอ้ น ป่าดงดิบ(ป่าทึบ) ยางพาร า ของป่า ส่ ว น ใ ห ญ่ อ า ศั ย แบบรอ้ นชน้ื - ฝนตกชกุ มากตลอดปี หรือเรียกว่าป่าฝน ฝ้าย ยาสูบ ปาล์ม เบาบางยกเว้นเขต สลับแลง้ (ท่งุ หญ้า - อุณหภมู ติ ลอดปี เมืองรอ้ น นํ้ามัน โกโก้ มะพร้าว ห มู่ เ ก า ะ ม ล า ยู มี สะวันนา) - ค่อนข้างสมํ่าเสมอ กาแฟ ประชากรหนาแน่น เ พ ร า ะ เ ป็ น เขตดิ น ภูเขาไฟ - มีฝนตกในฤดูร้อน ป่าโปร่งสลับทุ่ง ข้าว ข้าวโพด อ้อย หนาแน่น - ฤดูหนาวแห้งแล้ง ห ญ้ า เ ข ต ร้ อ น มันสําปะหลงั ปานกลาง (ท่งุ หญ้าสะวันนา) - มีฤดูแ ล้งสลับฤดู รอ้ นชัดเจน - ปริมาณฝนรวมท้ัง ปีปานกลาง - อุ ณ ห ภู มิ ต ล อ ด ปี แตกตา่ งกนั มาก 3.4.2 เขตภมู อิ ากาศแหง้ แล้ง (B) เขต ลักษณะอากาศ พืชพรรณ เศรษฐกิจ ประชากร ธรรมชาติ เบาบาง แบบทงุ่ หญา้ - มฝี นตกบ้าง พืชพรรณ ไม่มี ยกเว้นโอเอซิส กง่ึ ทะเลทราย อากาศอบอุ่นร้อน ทะเลทราย อนิ ทผลาลมั - ปรมิ าณฝนน้อยมาก แบบ (แต่มากกวา่ เขต ทุ่งหญ้ากึง่ ข้าวสาลี ฝา้ ย ทานตะวนั เบาบางมาก ทะเลทราย ทะเลทราย ทะเลทราย เลยี้ งแกะ โคเนื้อ มกั อาศยั ตาม (สเตปป์) เขตโอเอซิส - ฝนไม่ตกเลยหรือ น้ อ ย ม า ก อุ ณ ห ภู มิ แตกตา่ งมากระหว่างฤดู ร้อนกับฤดูหนาว และ กลางคนื กลางวนั สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (192) ____________________โครงการแบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ ปที ี่ 27

3.4.3 เขตภมู อิ ากาศชน้ื อณุ หภมู ปิ านกลาง (อบอุ่น) (C) เขต ลักษณะอากาศ พชื พรรณ เศรษฐกิจ ประชากร ธรรมชาติ หนาแน่น หนาแน่น แบบเมดเิ ตอร์ มฝี นตกในฤดูหนาว ไมพ้ ุ่มเตี้ย ปา่ แคระ มะกอก ส้ม องุน่ มะนาว หนาแนน่ เรเนียน ฤดูรอ้ นแห้งแล้ง ข้าวสาลี มนั ฝร่ัง ข้าวโอต๊ แบบอบอนุ่ ชื้น ผัก ผลไม้ อากาศอบอนุ่ ฝนตก ป่าผลัดใบเขตอบอนุ่ แบบภาค พนื้ สมุทร ตลอดปี ท่งุ หญ้าแพรรี่ อากาศอบอุ่น ฝนตก ปา่ ผลดั ใบเขตอบอุ่น ชกุ มากตลอดปี 3.4.4 เขตภมู อิ ากาศชน้ื อณุ หภูมิตํา่ (เขตหมิ ะ) (D) เขต ลกั ษณะอากาศ พืชพรรณ เศรษฐกจิ ประชากร ธรรมชาติ หนาแน่น แบบชืน้ ฝนปานกลาง ปา่ ผสมเขตอบอุน่ ข้าวสาลี ขา้ วบาเลย์ ป่าน เบาบาง ภาคพืน้ ทวีป ฤดูรอ้ นอบอุ่น (ปา่ สน ปา่ ไมผ้ ลัดใบ ลนิ ิน ฤดูหนาวค่อนขา้ ง ทงุ่ หญ้าแพร่)ี หนาว แบบก่ึง หนาวจัดในฤดูหนาว ปา่ สน สนไทก้า (ไม้เน้ืออ่อน อาร์กตกิ มี ฤ ดู ร้ อ น ส้ั น ๆ กระดาษ น้ํามันสน) (ไทก้า) อุ ณ ห ภู มิ จ ะ สู ง ก ว่ า 10 องศาเซลเซียส (1-3 เดือน) 3.4.5 เขตภูมอิ ากาศแบบขั้วโลก (เขตน้าํ แขง็ ) (E) เขต ลกั ษณะอากาศ พชื พรรณ เศรษฐกิจ ประชากร ธรรมชาติ เลี้ยงกวางเรนเดียร์ เบาบางมาก แบบทุนดรา้ อ า ก า ศ ห น า ว จั ด มอส ไลเคนส์ แบบทงุ่ น้ําแขง็ ตลอดปี ในฤดูร้อน ตระไคร่นํา้ มีหญา้ ไมม่ ี ไมม่ ี อุณหภูมิ 5-10 องศา เล็กข้นึ ในฤดรู ้อน (2-4 เดือน) ไมม่ ี มีอณุ หภูมเิ ฉลีย่ ต่าํ กวา่ จดุ เยือกแขง็ มีนาํ้ แขง็ ปกคลมุ ตลอดทงั้ ปี โครงการแบรนด์ซัมเมอรแ์ คมป์ ปีที่ 27 ___________________ สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (193)

3.4.6 เขตภูมิอากาศแบบภูเขาสูง (H) อุณหภูมิและพืชพรรณธรรมชาติแตกต่างไปตามความสูง โดยปกตเิ ทอื กเขาท่ีสงู ต้งั แต่ 5,000 เมตรข้ึนไป จะเร่ิมมีหิมะบนยอดเขา ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับว่าเทือกเขาดังกล่าว อยู่ในอากาศเขตใด หากอยู่ในเขตร้อนแนวหิมะยอดเขาจะอยู่สูงกว่าแนวหิมะในเทือกเขาเขตอบอุ่นและหนาว ตามลําดบั เคร่อื งมอื และเทคโนโลยที างภมู ิศาสตร แผนท่ี 1. ชนิดของแผนท่ี แบ่งไดห้ ลายชนิดทีส่ าํ คญั ไดแ้ ก่ 1. แผนท่ีกายภาพ (physical map) หมายถึง แผนทซี่ ่งึ แสดงลักษณะสงิ่ ทีธ่ รรมชาติสร้างขนึ้ แบ่งเป็น 3 ชนิด ได้แก่ 1.1 แผนทภ่ี ูมิประเทศ (topographic map) แผนที่ชนิดนม้ี ปี ระโยชนม์ ากทสี่ ดุ เปน็ แผนทม่ี ูลฐาน (base map) สําหรบั ศึกษาเรอ่ื งต่างๆ ได้เป็นอยา่ งดี 1.2 แผนที่อทุ กศาสตร์ (hydrological map) เป็นแผนทที่ ใ่ี ชส้ ําหรับเดินเรือ ใชแ้ สดงขอ้ มูล เก่ยี วกบั พ้ืนนํา้ ได้แก่ ความลกึ กระแสน้ํา ลักษณะทอ้ งนา้ํ เกาะหินโสโครก ฯลฯ 1.3 แผนที่ลมฟา้ อากาศ (weather map) เป็นแผนทีส่ าํ หรับการพยากรณอ์ ากาศ จะแสดง ข้อมูลเกยี่ วกบั อุณหภมู ิ ความกดอากาศ ลม เมฆ ฝน หมอก ฯลฯ 2. แผนทร่ี ัฐกจิ (political map) หมายถงึ แผนทีแ่ สดงลกั ษณะทางการเมอื ง การปกครองของ รัฐต่างๆ เช่น ประเทศ เมอื ง 3. แผนทเ่ี ฉพาะเรือ่ ง (thematic map) หมายถึง แผนทที่ ี่แสดงรายละเอียดเฉพาะเรอ่ื ง โดยมงุ่ แสดงคณุ ลกั ษณะและปรมิ าณ เช่น แผนท่ลี กั ษณะทางธรณีวทิ ยา แผนที่ชนิดของป่าไม้ แผนท่ชี นดิ ของดนิ แผนทแ่ี สดงปรมิ าณฝน แผนทแ่ี สดงการกระจายประชากร ฯลฯ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (194) ____________________โครงการแบรนดซ์ ัมเมอรแ์ คมป์ ปีที่ 27

2. องคป์ ระกอบแผนที่ 2.1 ทศิ โดยจะแสดงเปน็ ลูกศรและเป็นท่ีเข้าใจว่าดา้ นบน คอื ทิศเหนือ 2.2 พิกัดภมู ิศาสตร์ คือ การแสดงตาํ แหน่งทต่ี ั้งของจดุ ต่างๆ บนผวิ โลก เป็นค่าละติจูดและลองจจิ ูด ละติจูด (latitude) ระยะทางเชิงมมุ บนพ้ืนผิวโลกในแนวทิศเหนอื -ใต้ โดยถือเอาเสน้ ศนู ย์สตู รเปน็ จดุ เรม่ิ ต้น เสน้ ศนู ย์สูตรจะมีคา่ ละตจิ ูดเปน็ 0 องศา ไปทางเหนือ 90 องศา ไปทางใต้ 90 องศา ลองจิจดู (longitude) ระยะทางเชิงมุมบนพ้ืนผิวโลกในแนวทิศตะวันออก-ตะวันตก โดยถือเอาเส้น เมอริเดียนปฐมเป็นจุดเริ่มต้น เส้นเมอริเดียนปฐมจะมีค่าลองจิจูดเป็น 0 องศา ไปทางตะวนั ออก 180 องศา ไปทางตะวนั ตก 180 องศา 2.3 เส้นโครงแผนที่ คอื ระบบการเขยี นเส้นขนานและเสน้ เมรเิ ดียนลงในแผนท่ี ดงั นี้ เส้น ความหมาย เสน้ แรก การอ้างองิ เสน้ ขนาน เสน้ ศนู ย์สูตร ในแผนท่ี เส้นสมมุติท่ีลากขนานกับเส้นศูนย์สูตร ไปทางเหนือ 90 องศา และทางใต้ 90 ใชใ้ นการ องศา โดยลากผ่านค่าของมุมละติจูด วิเคราะห์เขต เดียวกันไปรอบโลก โดยทุกเส้นยาว อากาศของ ไมเ่ ท่ากนั โลก เส้นเมรเิ ดยี น เส้นสมมติท่ีลากเชื่อมข้ัวโลกเหนือและ เส้นเมอริเดียนปฐม ใช้ในการ ข้ัวโลกใต้เป็นคร่ึงวงกลม โดยผ่านค่า คาํ นวณเวลา ของมุมลองจิจูดเดียวกัน โดยทุกเส้น ยาวเท่ากัน โครงการแบรนดซ์ มั เมอรแ์ คมป์ ปที ่ี 27 ___________________ สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (195)

2.4 มาตราสว่ นในแผนท่ี คือ การย่อส่วนระยะทางจริงๆ บนพ้นื ผิวโลกลงเป็นระยะทางบนแผ่นกระดาษ มาตราสว่ นมที ้ังหมด 3 แบบ ดังน้ี 1. มาตราส่วนเป็นตัวเลขหรอื มาตราส่วนเศษสว่ น คอื มาตราส่วนท่ีบอกไว้เปน็ ตัวเลข เชน่ 1 : 50,000 หรอื 1 50,000 2. มาตราส่วนเสน้ หรือมาตราส่วนกราฟิก คือ มาตราสว่ นทแ่ี สดงไวเ้ ปน็ เสน้ หรือเปน็ แทง่ 3. มาตราส่วนคําพดู คือ มาตราสว่ นท่บี อกไว้เปน็ คาํ พดู เช่น 1 ซ.ม. ตอ่ 5 ก.ม. มาตราสว นตัวเลข มาตราสวนกราฟก มาตราส่วนแผนที่ ส่วนมากใช้ระบบตวั เลขโดยใช้มาตราเมตริก ได้แก่ ระบบเซนติเมตร ตวั อย่าง เชน่ มาตราส่วน 1 : 100,000 หมายความว่า ระยะทางในแผนที่ 1 เซนติเมตร เทา่ กับระยะทางจริง 100,000 ซ.ม. หรือ 1 กโิ ลเมตร เพราะ 100,000 เซนติเมตรเท่ากบั 1 กิโลเมตร ขนาดของมาตราสว่ น หากใช้มาตราสว่ นขนาดใหญ่จะสามารถให้ข้อมูลเกยี่ วกับพืน้ ทน่ี ้ันไดช้ ดั เจนกว่ามาตราสว่ นขนาดเลก็ มาตราส่วนใหญ่ มาตราสว่ นปานกลาง มาตราส่วนเล็ก (มากกวา่ 1 : 250,000) (1 : 250,000 – 1 : 1,000,000) (นอ้ ยกว่า 1 : 1,000,000) ตัวอยา่ ง เชน่ มาตราส่วน 1 : 50,000 เปน็ มาตราส่วนขนาดใหญ่จะให้รายละเอยี ดไดม้ ากกวา่ มาตราส่วน 1 : 100,000 ซึง่ เปน็ มาตราส่วนขนาดเลก็ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (196) ____________________โครงการแบรนด์ซมั เมอร์แคมป์ ปีที่ 27

2.5 สัญลักษณ์ในแผนท่ี คือ เคร่ืองหมายต่างๆ ท่ีแสดงเนื้อหาในแผนท่ี การใช้สัญลักษณ์ มีหลาย รูปแบบ เชน่ 2.5.1 สัญลักษณ์ที่แสดงภูมปิ ระเทศ มีหลายรปู แบบ ได้แก่ การใช้สีแสดงความสงู ต่ําของพนื้ ที่ พื้นดนิ สีเขยี ว แทน พนื้ ทร่ี ะดบั ต่าํ ทีร่ าบ สเี หลอื ง แทน พ้นื ทีเ่ นินเขา สีสม้ แทน พนื้ ทท่ี ่รี าบสูง สนี าํ้ ตาล แทน พ้ืนท่ีเทือกเขา ทิวเขา ภูเขา พน้ื นํ้า จะมกี ารไล่เฉดสีจากสีขาว สีฟ้า สีนํา้ เงิน ตามลําดับความต้ืนไปลกึ การใช้เสน้ ชนั้ ความสงู แสดงความสงู ตาํ่ ของพื้นท่ี โดยเส้นชนั้ ความสูงแตล่ ะเสน้ จะลาก ผ่านบรเิ วณตา่ งๆ ทมี่ คี วามสงู เทา่ กัน และมเี ลขกํากับคา่ ของเส้นความสงู ความชันนั้น 2.5.2 สัญลักษณ์ท่ีแสดงข้อมูลเชิงปริมาณ ได้แก่ ปริมาณน้ําฝน จํานวนประชากร พ้ืนท่ีป่าไม้ ปริมาณ แรธ่ าตุ และพชื ผลต่างๆ ซึง่ สว่ นมากจะใช้จุด โครงการแบรนด์ซัมเมอรแ์ คมป์ ปีที่ 27 ___________________ สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (197)

2.5.3 สัญลักษณ์อนื่ จะแสดงด้วยรูปภาพที่แตกตา่ งกันไป เครอื่ งหมาย คําอธบิ าย เมืองใหญ .................. เมืองหลวง เมอื งเลก็ ทาอากาศยาน โรงเรียน ทางสายหลัก ทางสายรอง ทางคนเดนิ ทางลูกรัง ชองเขา สะพาน เสน กัน้ อาณาเขต ทางรถไฟ อโุ มงค ธารน้าํ แมน้าํ แองน้าํ ทะเลสาบ ทะเลทราย ท่ีชนื้ แฉะ 2.6 ชื่อแผนที่ เปน็ องค์ประกอบแผนท่สี ิ่งแรกทผี่ ูใ้ ชแ้ ผนทตี่ ้องศึกษา เพ่ือจะไดเ้ ลอื กใช้แผนท่ใี ห้ถกู ตอ้ ง กับการใชง้ าน สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (198) ____________________โครงการแบรนด์ซมั เมอร์แคมป์ ปีที่ 27


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook