ดา้ นกฎหมายและการยตุ ธิ รรม รัฐต้องตอ้ งกากับ ดแู ล และบงั คับการให้เปน็ ไปตาม กฎหมายอย่างถูกต้อง เป็นธรรม เสมอภาค ค้มุ ครองสิทธิ และเสรภี าพของบคุ คลให้พ้นจากการละเมดิ สนับสนนุ ให้ ภาคเอกชนทีใ่ หค้ วามช่วยเหลือทางกฎหมายแกป่ ระชาชน ปรับปรงุ และพัฒนางานดา้ นกระบวนการยตุ ิธรรม
ดา้ นการตา่ งประเทศ รัฐบาลต้องสนับสนนุ และปฏิบัติตามสนธิสญั ญา ด้านสทิ ธิมนุษยชน ส่งเสริมสัมพนั ธไมตรแี ละความร่วมมือ กับนานาชาติ ส่งเสริมการคา้ และการลงทนุ
ด้านเศรษฐกจิ รัฐบาลตอ้ งสนับสนุนการค้าแบบเสรแี ละเปน็ ธรรม โดยอาศยั กลไกราคา เพื่อใหเ้ กิดการพฒั นาอยา่ งยง่ั ยนื ไม่ ประกอบธุรกจิ ที่เป็นการแข่งขนั กับเอกชน รักษา ผลประโยชนแ์ กส่ ่วนรวม จัดใหม้ ีบรกิ ารสาธารณปู โภค, ดาเนนิ การตามปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
รัฐบาลตอ้ งดาเนนิ นโยบายเพอ่ื สนบั สนนุ เสถยี รภาพ และความมัน่ คงทางเศรษฐกจิ ในการรกั ษาวนิ ยั การเงินการ คลัง ปรับปรงุ ระบบจดั เก็บภาษาให้เกิดความเป็นธรรม จดั ให้ มีการออมเพื่อการดารงชพี ในภายภาคหนา้ รัฐบาลต้องสง่ เสริมและการขยายโอกาสในการ ประกอบอาชพี ของประชาชน สนบั สนุน และพฒั นาสินคา้ จากภมู ปิ ญั ญาไทย
รัฐบาลต้องส่งเสริมสินคา้ เกษตร คมุ้ ครองและรกั ษา ผลประโยชน์ของเกษตรกรและ รักษาผลประโยชนใ์ นการ รวมกลมุ่ กันของเกษตรกรในรปู แบบของสหกรณ์ เพ่ือการ ดาเนนิ กาการด้านเศรษฐกจิ รัฐบาลต้องจัดให้มี สาธารณูปโภคขั้นพนื้ ฐาน อันเปน็ สง่ิ ท่ี จาเป็นต่อการดารงชีพของประชาชน
ด้านทรพั ยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม รัฐบาลจดั ให้มีการบริหารจดั การท่ีดนิ และทรพั ยากรนา้ อยา่ งเป็นธรรม และเพยี งพอ กากับกับและตดิ ตามการใช้ท่ดี ิน ดแู ลและจัดการทรัพยากรธรรมชาติให้เกดิ ประโยชนต์ ่อ สว่ นรวม สง่ เสรมิ รกั ษาสง่ิ แวดล้อมให้เกิดการพฒั นาอย่าง ยั่งยืน กาจัดมลพิษทมี่ ีผลตอ่ คณุ ภาพชีวิตของประชาชน
ดา้ นวทิ ยาศาสตร์ และพลังงาน รฐั บาลตอ้ งส่งเสริม สนับสนนุ การใชศ้ ึกษา คน้ ควา้ วิจยั ใหเ้ กดิ การพฒั นาดา้ นวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และ พลังงานทดแทนมกี ารถา่ ยทอดเทคโนโลยที ม่ี ีประสิทธภิ าพ รัฐบาลตอ้ งสง่ เสรมิ สนับสนนุ ในการสร้าง สิง่ ประดษิ ฐ์ รักษาและพัฒนาภูมิปญั ญาไทย ค้มุ ครอง ทรัพย์สินทางปัญญา
เปน็ กฎหมายทก่ี าหนดความสมั พนั ธ์ระหว่างรฐั หรอื หน่วยงานของรัฐกบั ประชาชน กฎหมายอาญา ตามความหมายในพจนานุกรมกฎหมาย ไทย ฉบับราชบณั ฑิตยสถาน คอื “กฎหมายท่ีกาหนดลักษณะการกระทาทีถ่ ือว่าเปน็ ความผิด และกาหนดบทลงโทษทางอาญาสาหรบั ความผิดน้นั ”
กฎหมายอาญา เปน็ กฎหมายทีใ่ ช้ควบคุมความสงบ เรยี บร้อย และศลี ธรรมอันดภี ายในสังคม ลกั ษณะการกระทาความผดิ ทางอาญา 1. การกระทาความผดิ ทางอาญา แบ่งออกเปน็ 3 ประเภท 1) การกระทาโดยเจตนา 2) การกระทาผดิ โดยประมาท 3) การกระทาความผิดโดยไม่เจตนา
2. ต้องมีบทบญั ญัตแิ ห่ง กฎหมายกาหนดโทษของการกระทา ผิดทางอาญาไว้ 3. ตอ้ งตีความกฎหมายโดย เคร่งครดั 4. ตอ้ งไมม่ ีผลยอ้ นหลงั 5. เป็นโทษเฉพาะตวั ผกู้ ระทา ความผดิ
โทษทางอาญา 1. ประหารชีวิต 2. จาคกุ 3. กักขับ 4. ปรบั 5. รบิ ทรัพย์สิน
ตวั อยา่ งท่ี 2 กลว้ ยทะเลาะกบั น้อยหน่า กลว้ ยพูด เถียงสู้น้อยหน่าไม่ได้ กล้วยจงึ ตบปากน้อยหนา่ 2 ที กลว้ ย มีความผดิ ฐานทารา้ ยร่างกายโดยเจตนา
2) กระทาโดยไมเ่ จตนา แต่ต้องเป็นกรณีท่กี ฎหมาย บญั ญตั ิไว้ โดยแจ้งชัดใหร้ บั ผดิ แม้กระทาโดยไมเ่ จตนา กระทาโดยไมเ่ จตนา คอื ผู้กระทาไมไ่ ด้ประสงค์ต่อผล หรือไม่อาจเลง็ เหน็ ผลของการกระทาน้นั ได้ เช่น เราผลัก เพื่อนเพียงจะหยอกล้อเท่าน้ัน แต่บงั เอิญเพอ่ื นล้มลงไป ศรี ษะฟาดขอบถนนถงึ แก่ความตาย เป็นตน้
3) กระทาโดยประมาท แตต่ อ้ งเป็นกรณที ่ีกฎหมาย บญั ญัติให้ต้องรับผิดเม่อื ไดก้ ระทาโดยประมาทการกระทา โดยประมาท คือ การกระทาความผดิ มใิ ชโ่ ดยเจตนา แต่ กระทาโดยปราศจากความระมดั ระวงั ซง่ึ บคุ คลในภาวะ เช่นนน้ั จะต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ และผู้กระทาอาจ ใชค้ วามระมดั ระวงั เชน่ วา่ น้ไี ด้ แต่หาไดใ้ ช้ใหเ้ พยี งพอไม่
กรณีตัวอยา่ ง นายทองใชอ้ าวุธปืนขนู่ ายเงิน เพ่อื ไมใ่ หเ้ อา ขยะมาทง้ิ หน้าบา้ นนายทอง โดยท่ีนายทองไม่รู้ว่าอาวธุ ปืน กระบอกนัน้ มลี ูกกระสนุ ปนื บรรจุอยู่ เปน็ เหตใุ ห้กระสนุ ปนื ลน่ั ไปถูกนายเงนิ ตาม นายทองมีความผิดฐานกระทาโดยประมาท เปน็ เหตุใหผ้ อู้ ืน่ ถงึ แก่ความตาย
การกระทาความผดิ อาญาท่ีผู้กระทาไมต่ อ้ งรบั โทษถ้ามเี หตอุ ัน จะอ้างได้ตามกฎหมาย เชน่ 1. การกระทาความผิดด้วยความจาเปน็ 2. การกระทาความผิดเพราะความบกพร่องทางจติ 3. การกระทาความผิดเพราะความมึนเมา 4. การกระทาตามคาสง่ั ของเจา้ พนักงาน 5. สามีภรยิ ากระทาความผดิ ตอ่ กนั ในความผดิ เก่ยี วกับทรพั ย์บางฐาน 6. เดก็ อายไุ มเ่ กนิ 14 ปีกระทาความผิด
บคุ คลจะตอ้ งรบั ผิดในทางอาญาต่อเมอ่ื 1) กระทาโดยเจตนา คอื การกระทาโดยรสู้ านึกในการที่ กระทาและในขณะเดยี วกนั ผูก้ ระทาประสงคต์ ่อผลหรือยอ่ มเล็งเห็น ผลของการกระทาน้ัน กรณตี ัวอย่างที่ 1 นายนอ้ ยรวู้ า่ นายเจน ซง่ึ เปน็ ศัตรูจะตอ้ งเดนิ ผ่าน สะพานข้ามคลองหลังวดั หงศท์ องทกุ เชา้ เวลาประมาณ 07.00 น. เขาจงึ ไปดกั ซุม่ อยใู่ กล้บริเวณนั้น เม่ือนายเจนเดนิ มาใกล้นายน้อยจึงใชป้ ืนยงิ ไปท่นี ายเจน 1 นัด กระสุนปนื ถกู บรเิ วณหนา้ อกของนายเจน เป็นเหตุใหน้ ายเจนถึงแก่ความตาย นาย น้อยมคี วามผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา
การกระทาผดิ เกี่ยวกับทรพั ย์สินท่คี วรรู้ 1) ลักทรพั ย์ คือ การลกั เอาทรัพยข์ องผู้อ่นื ไปโดยทีเ่ จ้าของไม่ ยนิ ยอม แม้ตอ่ มาเจ้าของทรพั ยจ์ ะสงสารไม่ตดิ ใจเอาความกย็ ังเปน็ ความผิดฐานลกั ทรัพย์เพราะเปน็ คดีอาญา ไมส่ ามารถยอมความกันได้ ตัวอยา่ ง นางนดิ เปน็ หญงิ หมา้ ย สามีเสียชวี ติ ดว้ ยโรคมะเรง็ ตอ้ งหารายไดม้ าเลย้ี งลกู ๆ ท้ัง 6 คน วันหนึง่ นางนิดไปตลาดเห็น กล้วยน้าวา้ สกุ งอมกองอยู่ จึงหยิบเอาไป 1 หวี โดยไม่ได้รับอนุญาต จากเจา้ ของ นางนิดจงึ มคี วามผิดฐานลักทรัพย์
2) ว่งิ ราวทรพั ย์ คอื การลัก ทรัพย์โดยฉกฉวยเอาซ่งึ หน้า เปน็ การเอาไปต่อหน้าโดยไม่มคี วามเกรง กลวั ไม่รอใหเ้ จา้ ของเผลอ ในการ วง่ิ ราวทรพั ยน์ นั้ ไมจ่ าเปน็ วา่ เมอ่ื ลกั ทรัพยแ์ ล้วจะต้องวง่ิ หนเี สมอไป อาจเปน็ เดนิ หนีข้นึ รถไปก็ จัดเปน็ วง่ิ ราวทรพั ย์ได้
ตวั อยา่ ง ณ ป้ายรถโดยสารประจาทางหนา้ ห้างสรรพสินคา้ แห่งหนง่ึ หลงั จากทซ่ี อ้ื ของเสร็จแลว้ ฟ้ากบั ต้อยยนื รอรถประจาทาง เพือ่ จะกลับบา้ น นายเก่งเห็นฟ้าสะพายกระเปา๋ สะพายไวข้ ้างหลงั จึง กระชากกระเปา๋ สะพาย แลว้ ขีจ่ ักรยานยนต์หนไี ป ท่ามกลางความ ตกใจและร้องเรียนใหค้ นช่วยของฟา้ กับตอ้ ย ในขณะน้นั มตี ารวจขับ รถผ่านมา จึงสามารถจับกมุ นายเก่งได้ การกระทาดังกลา่ วของนายเก่ง มีความผิดฐานวง่ิ ราวทรพั ย์
3) ชงิ ทรพั ย์ คอื การลกั ขโมยของผู้อ่ืนโดยการใชก้ าลงั หรืออาวุธทาร้ายเจา้ ของทรัพยห์ รอื อาจขวู่ า่ จะใช้กาลงั หรอื อาวุธ ทารา้ ยเจา้ ของทรัพย์ เพือ่ อย่างใดอย่างหน่ึงตอ่ ไปนี้คือ 1. ใหค้ วามสะดวกแกก่ ารลักทรัพย์หรือการพาทรัพย์นั้นไป 2. ใหย้ ืน่ ทรพั ย์นัน้ 3. ยดึ ถอื ทรพั ย์น้นั ไว้ 4. ปกปิดการกระทาความผิดนนั้ 5. ใหพ้ ้นจากการจบั กมุ
ตวั อยา่ ง นายชาติใชป้ นื ขนู่ ายปลาให้สง่ นาฬิกาขอ้ มอื มาใหต้ น โดยบอกว่าถา้ ไมส่ ง่ มาให้จะใชป้ นื ยงิ นายปู นายชาติ มคี วามผิดฐานชิงทรพั ย์
4) ปลน้ ทรัพย์ คือ การทคี่ นตัง้ แต่สามคนขึ้นไปรว่ มมือ กนั กระทาความผิดด้วยการชิงทรพั ยข์ องผอู้ ่ืน ตวั อย่าง นายเอ นายบี และนายเอม็ ร่วมกันชกตอ่ ยนาย เพชร เพ่ือแยง่ เอาสร้อยคอทองคาจากนายเพชรแล้วพากัน หลบหนไี ป การกระทาของนายเอ นายบี และนายเอม็ เปน็ ความผดิ ฐานปล้นทรัพย์
ข้อ 1 การกระทาใด สอดคลอ้ งกับหลักเสรภี าพตามรฐั ธรรมนูญ 1. เดก็ ทกุ คนต้องไดร้ ับการศึกษาข้ันพื้นฐาน 2. ชาวโคกสูงรว่ มใจกนั อนรุ ักษ์สบื สานวฒั นธรรมในทอ้ งถนิ่ 3. คนในชมุ ชนบ้านทุ่งต่างประกอบอาชีพตามความสามารถ ของตน 4. คนกรุงเทพฯ ไปออกเสียงเลอื กตงั้ ผ้วู ่าราชการกรงุ เทพ ฯ กันเป็นจานวนมาก
ข้อ 2 “ตารวจสงสัยวา่ ปรีดาจะมีของผดิ กฎหมายไวใ้ น บ้าน แต่ปรดี าไมย่ อมใหต้ ารวจค้นบ้านของเขาเพราะไมม่ ี หมายคน้ ” การกระทาของปรดี าสอดคล้องกับข้อใด 1. สิทธิ 2. หนา้ ที่ 3. เสรีภาพ 4. ความเสมอภาค
ข้อ 3 ขอ้ ใดเปน็ หลกั การสาคัญของการปกครอง ระบอบประชาธิปไตย 1. การเลือกตัง้ 2. การประนีประนอม 3. การรบั ฟงั เสยี งข้างมาก 4. การรับฟังความคดิ เหน็ ของประชาชน
ขอ้ 4 เพราะเหตใุ ด ในการปกครองระบอบประชาธปิ ไตย จงึ ถือ ว่าการเลือกต้งั มีความสาคัญทส่ี ุด 1. ประชาชนมสี ทิ ธิ เสรภี าพ 2. ประชาชนรู้จักใชส้ ทิ ธขิ องตนเอง 3. ประชาชนมีบทบาทตามรัฐธรรมนญู 4. ประชาชนมสี ว่ นรว่ มในการปกครองประเทศ
ข้อ 5 การเลือกตั้งเปน็ กระบวนการสาคญั ในการปกครอง ระบอบประชาธิปไตย เพราะเหตใุ ด 1. การให้โอกาสประชาชนไดบ้ ริหารประเทศ 2. สร้างแรงจูงใจใหป้ ระชาชนมสี ว่ นร่วมกบั รฐั บาล 3 .การควบคมุ การทางานของรัฐทางออ้ มโดยประชาชน 4. ประชาชนไดเ้ ลอื กตัวแทนของตนไปปกครองประเทศ
ขอ้ 6 บทบัญญัติของกฎหมายอาญา ได้กาหนดเก่ยี วกบั เรื่องใดสาคัญ 1. สทิ ธิและหนา้ ท่ี 2. อานาจและหนา้ ท่ี 3. ความผิดและโทษ 4. การดาเนินคดผี ู้ผา่ ฝนื
ข้อ 7 ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ ความผิดทางอาญา 1. นายเขียวไปเลน่ พนันมา้ ที่สนามม้านางเลง้ิ 2. นางนิภาแทงสามตี าย เพราะสามีไปติดพนั ผ้หู ญิงอื่น 3. นายดาซื้อควายจากนายอนิ ซง่ึ ขโมยมาจากหมู่บา้ นอ่นื 4. นางอรอนงค์ขบั รถชนเด็กชายสมบตั ิ ซง่ึ วิง่ ขา้ มถนน จนสลบคาท่ี
ข้อ 8 ถา้ เด็กชายอายุประมาณ 16 ปี ทาผดิ กฎหมายตอ้ ง ได้รับบทลงโทษเช่นใด 1. เดก็ ไมต่ ้องรับโทษ 2. กาหนดเงอ่ื นไขเพื่อคุมความประพฤติ 3. ถกู ลงโทษทัง้ ตวั เดก็ บิดาและมารดา 4. ลงโทษโดยลดมาตราสว่ นโทษลงกง่ึ หนึง่
ข้อ 9 ดา เขียว แดงรว่ มกนั ชกตอ่ ยนายนดิ เพอื่ แย่งเอา สร้อยเพชรจากนายนิดแลว้ พากนั หลบหนีไป การกระทา ของดา เขียว แดง ตรงกับข้อใด 1. ลักทรพั ย์ 2. ชงิ ทรัพย์ 3. วิง่ ราวทรพั ย์ 4. ปล้นทรพั ย์
ข้อ 10 นายเคนใช้มีดพกขู่นายกอ้ งใหส้ ่งสรอ้ ยข้อมอื ทองคามา ให้ตน โดยบอกวา่ ถ้าไมส่ ง่ มาใหจ้ ะใช้มีดพกแทงนายกอ้ ง การ กระทาความผิดของนายเคนอยใู่ นฐานใด 1. ลกั ทรัพย์ 2. ชิงทรัพย์ 3. วงิ่ ราวทรพั ย์ 4. ปล้นทรพั ย์
ข้อ 11 นายปงิ อายุ 21 ปี เปน็ คนไม่มีหลักแหลง่ วันหนง่ึ เกิดหวิ ขา้ วขนึ้ มา จึงหยบิ ขนมปงั มา 4 ชิ้น โดยไม่ไดร้ ับอนุญาตจาก เจา้ ของ การกระทาความผดิ ของนายปงิ อยู่ในฐานใด 1. ลกั ทรพั ย์ 2. ชงิ ทรัพย์ 3. วง่ิ ราวทรพั ย์ 4. ปลน้ ทรัพย์
Search
Read the Text Version
- 1 - 43
Pages: